The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sorawit, 2023-08-15 10:07:37

65020402 สรวิชญ์ สวัสดิ์มงคล

กลุ่มลุ่ ชาติพัติน พั ธุ์ “ชอง”


01 ประวัติวั ติความเป็น ป็ มา 02 การปรับรัตัว 03 เศรษฐกิจ สังสัคม และ วัฒวันธรรม 04 ปัญปัหาและ อุปสรรค 05 9 window tool


ประวัติ ชาวชอง ได้อาศัยอยู่ในภาคตะวันออกของประเทศไทย คือ บริเวณจังหวัด ระยอง จันทบุรี ตราด และอาศัยเลยเข้าไปในเขต สาธารณรัฐกัมพูชา ซึ่งมีอณาเขตติดต่อกับจังหวัดจันทบุรี ตราด มาแต่ ดั้งดั้เดิม จากสภาพความเป็นอยู่ อาชีพ สังคม และวัฒนธรรมดั้งดั้เดิม ชาว ชอง มีลักษณะเป็น "ชาวป่า" มาก ซึ่งลักษณะเช่นนี้คนี้ล้ายกับชาวบน กูย หรือส่วย ซึ่งเป็นชนกลุ่ม มอญ-เขมร นอกจากนี้รูนี้รูปร่าง ลักษณะ โครงสร้างของร่างกาย แตกต่างไปจากพวกคนไทย คนจีน ซึ่งอยู่ในเผ่า มงโกลอยด์(Mongoloids) และนักมานุษยวิทยาจัดชนกลุ่ม มอญ-เขมร ซึ่งมีลักษณะ รูปร่าง สภาพสังคมวัฒนธรรมใกล้เคียงกันนี้อนี้ยู่ในเผ่าพันธุ์ ออสโตร-เอเชียติค (Austro Asiatic) ดังนั้นนั้จึงสรุปได้ว่า ชาวชอง เป็น ชาวป่ากลุ่มหนึ่ง ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มชาติพันธุ์ออสโตร-เอเชียติค และกลุ่ม ย่อย กลุ่ม มอญ-เขมร และจากค้นคว้าของผู้วิจัยเห็นว่า ชาวชองมิได้ อพยพโยกย้ายถิ่นมาจากที่ไหน แต่ได้อาศัยอยู่ใยู่นถิ่นฐานภูมิภาคนี้มนี้าแต่ ดั้งดั้เดิม จึงเป็นชนเผ่าพื้นพื้เมืองในบริเวณนี้มนี้ายาวนาน


การปรับตัว ในสมัยก่อนชาวชองส่วนใหญ่ใช้ชีวิตทำ นา ล่า สัตว์ และเก็บของป่า ปัจจุบันส่วนใหญ่เปลี่ยน ไปทำ สวนผลไม้และประกอบอาชีพรับจ้างต่างๆ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการปรับตัวให้เข้ากับ บริบทและสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนไป แต่ก็พบว่ามีความพยายามของชาติพันธุ์ชองใน การฟื้นฟูและอนุรักษ์วัฒนธรรม การปรับตัว ทางวัฒนธรรมของชนชาติชองมีทั้ง ทั้ ภูมิปัญญา ท้องถิ่น ประเพณี พิธีกรรม และระบบความเชื่อ การปรับตัวดังกล่าวเนื่องมาจากพื้น พื้ ที่ทางสังคม ที่จำ กัดนำ ไปสู่การเปิดพื้น พื้ ที่ทางวัฒนธรรมของ ตนโดยการรับเอาวัฒนธรรมภายนอกมาผสม ผสานเพื่อลดความขัดแย้งและความแตกต่าง ทางชาติพันธุ์


อาชีพหลักของชาวชองในสมัยโบราณ คือการล่องแพ การ หาของป่ามาขายในเมือง การล่องแพคือ การนำ ไม้ที่ได้ตัดมาจากป่านำ มาทำ เป็นแพซุง เช่น ไม้กัน เกรา ไม้มะค่า ไม้ยางแดง ไม้ตะเคียน และไม้เนื้อแข็ง ชนิดอื่น ๆ ครื่องเทศ และสมุนไพรต่าง ๆ เช่น เร่ว ผลก ระวาน สมอ เครื่องยาต่าง ๆ รวมทั้ง ทั้ ยางไม้ ไม้กฤษณา น้ำ มันยาง หวายชนิดต่าง ๆ เก็บรง ขี้ผึ้ ขี้ ผึ้ ง ผึ้ ชัน หนังสัตว์ เขาสัตว์ ซึ่งจะนำ ไปขายในตัวเมืองจันทบุรี โดยทาง เกวียนและการล่องแพ แล้วซื้อ ซื้ สิ่งของที่ใช้ในการดำ รงชีพ กลับมา เช่น กะปี เกลือ หอม กระเทียม น้ำ อ้อย ด้าย ยาฉุน ตาปู ขวาน เลื่อยและพร้า กับสิ่งจำ เป็นอื่น ๆ เอา ไว้ใช้สอย การประกอบอาชชีพอีกอย่างหนึ่งของชาวชอง คือ การทำ นาปลูกข้าว ซึ่งเป็นอาชีพหลักของชาวชอง การทำ นาจะปลูกเพียงเพื่อพอกินเท่านั้น นั้ ไม่ใช่เพื่อการ ค้าขายแต่อย่างใด จะทำ กันใน 2 ลักษณะ คือ นาข้าว และนาไร่ โดยจะมีการลงแขกเอาแรงกัน ปัจจุบันชาวชอง ได้หันมายึดอาชีพการทำ เกษตรมากขึ้น ขึ้ ด้วยการปลูก พืชเศรษฐกิจ เช่น เงาะ ทุเรียน มังคุด ลำ ไย เป็นอาชีพ หลักเพราะในปัจจุบันมีการแข่งและการแลกเปลี่ยนที่ สูงขึ้น ขึ้ ลักษณะทางเศรษฐกิจ


สังคม เดิมชาวชองอาศัยอยู่ในป่า ดํารงชีวิตด้วยการทํานา นอกจากนั้น นั้ ยังมี การเก็บของป่าไปขายในเมือง เช่น ไม้กันเกรา ยางชัน เครื่องเทศ หวาย นํามาแลกกับสิ่งของเครื่องใช้เช่น เกลือ ยาฉุน หอม กระเทียม เป็นต้น นอกจากนี้มี นี้ มี การทํานา เป็นการทําเพื่อบริโภคพอกินเท่านั้น นั้ ใน การทําจะใช้วิธีเอาแรงกัน ตั้ง ตั้ แต่คราดนา เกี่ยวข้าว นวดข้าว เอาข้าว ขึ้น ขึ้ ยุ้ง แม้แต่การสร้างบ้าน ก็ใช้วิธีการเอาแรงช่วยกันสร้าง โดยมีการ เลี้ย ลี้ งอาหาร สุราสิ่งเหล่านี้จึ นี้ จึ งเกิดเป็นเรื่องราวของวิถีชาวชองที่ ความ เป็นอยู่ ชาวชองอยู่รวมกันเป็นกลุ่มละประมาณ 20 – 30 ครอบครัว บ้านเรือนปลูกด้วยลักษณะง่าย ๆเป็นแบบเรือนเครื่องผูก ใช้วัสดุที่หา ได้ในป่า เช่นไม้ไผ่ และไม้ยืนต้นบางชนิดมาทําโครงบ้าน ใช้เถาวัลย์ แทนตะปู หลังคาบ้านมุงด้วยใบไม้ที่นํามาเย็บติดกันเป็นแผง เรียกว่า “ตับ” เช่นใบระกําใบจาก ใบคันทรง


วัฒนธรรม วัฒนธรรมชองชองแม้จะเป็นเพียง ชนเผ่าเล็กแต่ได้มีพัฒนาการทางวัฒนธรรมของ ชาติพันธุ์มาตั้งตั้แต่ก่อนอาณาจักรสยาม จากหลัก ฐานทางโบราณคดีและทางภาษา แสดงให้เห็นว่า พื้นพื้ที่ของภาคตะวันออกตอนล่างชนเชื้อชื้สายชอง ได้เข้ามาตั้งตั้หลักแหล่งมีวัฒนธรรมประเพณีเป็น เอกลักษณ์ของตนเองเช่นวัฒนธรรมการเกิด การตาย การแต่งงานความเชื่อในเรื่องผี บรรพบุรุษเป็นต้น ถึงแม้ว่าปัจจุบันคน ชองมีจํา นวนลดลงอย่างมาก วัฒนธรรมประเพณีต่างๆ ของคนชองเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงไป เลือนลาง หายไปจากความทรงจำ กาลเวลาที่ผ่านไป ขนบประเพณี ประเพณีวัฒนธรรม ภูมิปัญญา และวิถีชองที่เริ่มจะเลือนลางและจางหายไปจาก ความทรงจำ


ปัญหาการเร่งรีบและดิ้น ดิ้ รนทางเศรษฐกิจของชนเผ่าพื้น พื้ เมืองชองจึงเป็นปัญหาหลักซึ่งแต่เดิมมีการทำ นาเป็นหลักแต่ไม่มี ความมั่นคงทางเศรษฐกิจ ผู้คนมีภาวะยากจนภายหลังเปลี่ยนจากทำ นามาเป็นปลูกยางพาราแต่พอราคายางตกจึงมีการโค่นทิ้ง ทิ้ แล้วปลูก ผลไม้ ทุเรียน เงาะ มังคุด ทำ ให้เศรษฐกิจดีขึ้น ขึ้ แต่ต้องต่อสู้กับราคา ปัจจัยการผลิต เช่น ปุ๋ยเคมี สารเคมีการเกษตรราคาแพง สวนทาง กับราคาผลไม้ที่ชาวสวนไม่สามารถกำ หนดราคาเองได้ปัจจุบันใน กลุ่มชาวของบางหมู่บ้านจึงได้รวมตัวกันเป็นกลุ่มซื้อ ซื้ ปัจจัยการผลิต โดยตรงจากบริษัทโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลางทำ ให้ลดภาระค่าใช้จ่าย ลงไปบ้างและมีการนำ แนวคิดนี้ม นี้ าใช้ในการจัดการชุมชนของชาว ชองเพื่อพยายามรื้อ รื้ ฟื้นวิถีชีวิตชาวชองขึ้น ขึ้ มาด้วย ปัญหาและอุปสรรค


9 windows tool past today future อาศัยอยู่ในป่า อยู่กันเป็นกลุ่ม ครอบครัวเดี่ยว ทำ นาล่าสัตว์ เผ่าพันธุ์เล็กๆ ทำ ไร่ทำ สวนผลไม้ ประชากรลดลง วัฒนธรรมสูญหาย ไปตามกาลเวลา ประกอบอาชีพต่างๆ


จัดทำ โดย นายสรวิชวิญ์ สวัส วั ดิ์มดิ์งคล 65020402 คณะมนุษ นุ ย์ศย์าสตร์แร์ละสังสัคมศาสตร์สร์าขาบริกริารสังสัคม


Click to View FlipBook Version