The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by J M, 2024-05-14 02:53:27

แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570

แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570

สารบัญ หน้า สารบัญตาราง......................................................................................................................... ค สารบัญภาพ............................................................................................................................ ง บทที่ 1. บทน า.................................................................................................................................... 1 1.1 หลักการและเหตุผล..................................................................................................... 1 1.2 นโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และความเชื่อมโยงสู่การพัฒนาบุคลากร................. 2 1.3 วัตถุประสงค์................................................................................................................ 2 1.4 กระบวนการในการจัดท าแผนพัฒนาบุคลากร............................................................. 2 1.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ...................................................................................................... 3 2. ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์.................................................................. 4 2.1 อ านาจหน้าที่ โครงสร้าง และอัตราก าลัง..................................................................... 4 2.2 วิสัยทัศน์พันธกิจ โครงการส าคัญ................................................................................ 12 2.3 ประเด็นส าคัญตามแผนปฏิบัติราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2566 – 2570 12 2.4 จุดเน้นการพัฒนาบุคลากร........................................................................................... 13 2.5 ทิศทาง แนวโน้มการพัฒนาบุคลากร............................................................................ 14 2.6 การวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการจัดท าแผนพัฒนาบุคลากร......................................... 14 3. แผนพัฒนาบุคลากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570................................... 32 3.1 การเชื่อมโยงประเด็นส าคัญสู่แผนพัฒนาบุคลากร....................................................... 32 3.2 รายละเอียดแผนพัฒนาบุคลากร.................................................................................. 32 3.3 การขับเคลื่อนการด าเนินการ และการติดตามและประเมินผล.................................... 42


ค สารบัญตาราง ตารางที่ หน้า 1. แสดงอัตราก าลังบุคลากรในปัจจุบัน……………………………………………………………………………. 8 2. แสดงสายงานและระดับต าแหน่งของข้าราชการที่มีอยู่ในปัจจุบัน………………………………….. 9 3. แสดงช่วงอายุข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า…………………………………………………………… 10 4. แสดงระดับการศึกษาของข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า…………………………………………. 11 5. แสดงระดับการศึกษาและสาขาของข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า…………………………… 11


ง สารบัญภาพ ภาพที่ หน้า 1. โครงสร้างภายในและอัตราก าลังบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า………………………………….. 8 2. กราฟแสดงโครงสร้างอายุข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า...............………...........…………. 11


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 1 แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 บทที่ 1 บทน า 1.1 หลักการและเหตุผล ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579) มีกรอบแนวคิดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศด้าน การปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ โดยมุ่งเน้นการพัฒนาภาครัฐให้เหมาะสมกับบทบาท ภารกิจ มีขีดสมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ ส่วนรวมมีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง อันจะท าให้ภาครัฐสามารถ ตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) ซึ่งมีหมุดหมายที่ ๑๓ ที่มีเป้าหมายให้ประเทศไทยมีภาครัฐ ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน นอกจากนี้แนวทางการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ พ.ศ.2566 – 2570 ของส านักงาน ก.พ. มุ่งหวังที่จะน าบุคลากรและหน่วยงานภาครัฐขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี สร้างผลผลิตและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาประเทศ และยกระดับชีวิตของประชาชน ผ่านแนวทางการพัฒนา ได้แก่ 1.ระบบนิเวศในการท างาน (Ecosystem) ที่ส่งเสริมและสนับสนุนการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากรอย่าง ต่อเนื่อง 2.พัฒนากรอบทักษะ (Skillsets) การท างานในยุคดิจิทัลและศตวรรษที่ 21 และการสร้างนวัตกรรม ที่ตอบสนองต่อการขับเคลื่อนภารกิจตามแผนปฏิรูปประเทศ แผนยุทธศาสตร์ชาติ ตลอดจนการพัฒนาระบบ ราชการในอนาคต และ 3.ปลูกฝังบุคลากรภาครัฐให้มีกรอบความคิด (Mindset) ในการเรียนรู้และพัฒนา ตนเอง การมุ้งเน้นประโยชน์ส่วนรวมและการการท างานบนหลักคุณธรรม ประยุกต์หลักสากลอย่างเหมาะสม และท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพในบริบทที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ในระดับกรม กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ก าหนดประเด็น “สร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม – Innovative organization” ภายใต้แผนปฏิบัติราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2566 - 2570 รวมถึงวิสัยทัศน์ใน การเป็นองค์กรภาครัฐชั้นน าด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายในปี 2570 และสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจ ไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรมด้วย โดยกรมได้ก าหนดค่านิยมองค์กร SUPER เพื่อปลูกฝังให้บุคลากรมีค่านิยมที่ สอดรับกับวิสัยทัศน์และพันธกิจดังกล่าว ซึ่งประกอบด้วย การบริการด้วยใจ การเป็นน้ าหนึ่งใจเดียว การมุ่ง ประชาชนเป็นศูนย์กลาง การตื่นตัวน าการเปลี่ยนแปลง และการเป็นที่ไว้วางใจเชื่อถือได้ ซึ่งกรมต้องมีการ ปรับตัวให้ทันต่อความก้าวหน้าของภาคเอกชนและความต้องการของประชาชนผู้รับบริการ ที่มีความคาดหวังที่ สูงขึ้นต่อการบริการของภาครัฐ กรมจึงจ าเป็นต้องมีการพัฒนา ปรับตัว และมีนวัตกรรมในการท างานอย่าง หลีกเลี่ยงไม่ได้ ทั้งนี้ ปัจจัยหนึ่งที่ส าคัญอย่างยิ่งในการขับเคลื่อนกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้เป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovative organization) ซึ่งสามารถด าเนินการพัฒนาได้มากกว่าความคาดหวังของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องและ ผู้รับบริการ (Beyond development) รวมถึงน าค่านิยม SUPER ไปปฏิบัติภายในองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ อันจะสะท้อนไปที่บริการที่ดีและการพัฒนาธุรกิจด้วยนวัตกรรมเชิงกลยุทธ์ คือการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ภายในองค์กรให้มีสมรรถนะตามที่คาดหวัง ตั้งแต่สมรรถนะหลัก สมรรถนะเฉพาะในการปฏิบัติงาน สมรรถนะ ทางการบริหารที่ก าหนดโดยส านักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ส านักงาน ก.พ.) รวมถึงสร้างองค์


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 2 ความรู้และทักษะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติงาน นอกจากนี้ ยังต้องมีการพัฒนาทักษะดิจิทัล การปลูกฝัง คุณธรรมจริยธรรม และการสร้างวัฒนธรรมที่ขับเคลื่อนองค์กรด้วยนวัตกรรม (Innovation-driven culture) อีกด้วย ซึ่งความส าเร็จในการพัฒนาบุคลากร จะน าไปสู่การพัฒนางานบริการในรูปแบบดิจิทัล พัฒนาระบบ ข้อมูลสารสนเทศ ให้เกิดบริการที่สะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว ตลอดจนพัฒนาผู้ประกอบการให้มีขีดความสามารถ ในการแข่งขัน ซึ่งจะท าให้ภาคธุรกิจไทยสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศได้อย่างยั่งยืน ที่ผ่านมา กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้มีการพัฒนาศักยภาพบุคลากรอย่างต่อเนื่อง และท าให้เจ้าหน้าที่ ของกรมสามารถยกระดับการให้บริการประชาชนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น มีความรักความผูกพันกับองค์กร เห็นความส าคัญของการเป็นองค์กรแห่งนวัตกรรม และมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ดีใน ด้านทักษะต่างๆ ที่จ าเป็นต่อการท างานในปัจจุบันและอนาคต เช่น ทักษะการคิด ทักษะเชิงดิจิทัล ภาวะผู้น า ทักษะที่เกี่ยวกับการบริหารคนรวมถึงทักษะเฉพาะด้านตามเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ รวมถึงองค์ความรู้ ในเชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงาน และเครือข่ายที่เข้มแข็งในกลุ่มเจ้าหน้าที่ ยังเป็นเรื่องที่จ าเป็น ในการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าสามารถปรับเปลี่ยนตัวเองสู่วัฒนธรรมองค์กร นวัตกรรม มีเจ้าหน้าที่ที่มีสมรรถนะในการให้บริการประชาชน ที่จะช่วยขับเคลื่อนพัฒนาและส่งเสริม ผู้ประกอบการให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืนต่อไป 1.2 นโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และความเชื่อมโยงสู่การพัฒนาบุคลากรของส่วนราชการ - ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) – ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหาร จัดการภาครัฐ - แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) - หมุดหมายที่ ๑๓ ที่มีเป้าหมาย ให้ประเทศไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน - แนวทางการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ พ.ศ.2566 – 2570 ของส านักงาน ก.พ. - แผนปฏิบัติราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2566 – 2570 ประเด็น “สร้างองค์กรแห่ง นวัตกรรม – Innovative organization” - แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของกระทรวงพาณิชย์ 1.3 วัตถุประสงค์ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพบุคลากรในการปฏิบัติงานโดยใช้ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ สอดคล้องกับการเป็น องค์กรนวัตกรรม รวมถึงสามารถพัฒนาระบบการให้บริการ และความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจไทย ได้อย่างยั่งยืน 1.4 กระบวนการในการจัดท าแผนพัฒนาบุคลากร (แสดงให้เห็นถึงกระบวนการ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง) 1.4.1 ประชุมหารือวางแผนร่วมกันระหว่างกลุ่มการเจ้าหน้าที่ กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล และ หน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อวิเคราะห์ภาพรวมบุคลากรของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า วิเคราะห์ความต้องการ ขององค์กรและบุคลากร เพื่อก าหนดเป้าหมายและแผนกลยุทธ์ร่วมกัน 1.4.2 การวิเคราะห์ทักษะและความรู้ที่จ าเป็นส าหรับงาน โดยด าเนินการส ารวจความต้องการการฝึกอบรม (Training needs survey) โดยพิจารณาจากปัจจัยภายนอก ได้แก่ เทรนด์ในระดับโลก ความต้องการของ


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 3 ประชาชนที่มาใช้บริการ และปัจจัยภายใน ทิศทางและยุทธศาสตร์ของกรม แผนการบริหารบุคคล รวมถึง ความต้องการการฝึกอบรมของบุคลากรแต่ละกลุ่มงาน ซึ่งส ารวจเจ้าหน้าที่ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกระดับ 1.4.3 การจัดท าแผนการพัฒนาบุคลากร ที่มีรูปแบบพัฒนาบุคลากรที่หลากหลาย มุ่งเน้นการน าไปใช้จริง และปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่ การจัดท าแผนพัฒนาบุคลากรรายบุคคล (IDP) กิจกรรม Team Building การสร้างทูตองค์กร การฝึกอบรมในรูปแบบ Micro Learning การส่งบุคลากรอบรมความรู้เฉพาะด้านกับ หน่วยงานภายนอก และการเรียนรู้ด้วยตนเองผ่านระบบออนไลน์ 1.4.4 สรุปแผนพัฒนาบุคลากร และน าเสนอต่อผู้บริหารเพื่อด าเนินการต่อไป โดยสามารถสรุปเป็นแผนภูมิได้ ดังนี้ ล าดับ กิจกรรม ผู้รับผิดชอบ 1 กลุ่มการเจ้าหน้าที่ กลุ่มพัฒนา ทรัพยากรบุคคล และกลุ่มงาน จริยธรรม 2 กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล 3 กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล 4 กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล 1.5 ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1.5.1 กรมมีแผนแม่บทในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ชัดเจนและสามารถน าไปใช้ในการยกระดับ ศักยภาพของทรัพยากรบุคคลในภาพรวมได้ 1.5.2 บุคลากรของกรมสามารถพัฒนาตนเองให้สามารถปฏิบัติงานโดยใช้ดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ สอดคล้องกับเป้าหมายของกรมในการเป็นองค์กรนวัตกรรม รวมถึงสามารถพัฒนาระบบการให้บริการ และ ความสามารถทางการแข่งขันของภาคธุรกิจไทยได้อย่างยั่งยืน ด ำเนินกำรส ำรวจควำมต้องกำรกำรฝึกอบรม (Training needs survey) ประชุมหำรือร่วมกัน จัดท ำแผนกำรพัฒนำบุคลำกรและจัดหำเครื่องมือกำร พัฒนำบุคลำกรที่เกี่ยวข้อง สรุปแผนพัฒนำบุคลำกร และน ำเสนอต่อผู้บริหำร


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 4 บทที่ 2 ข้อมูลกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ 2.1 อ านาจหน้าที่ โครงสร้าง และอัตราก าลัง อ านาจหน้าที่ 1) พัฒนาผู้ประกอบการและสถาบันการค้า 2) ส่งเสริมธุรกิจค้าส่งและค้าปลีก ธุรกิจบริการ และพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 3) ด าเนินการตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ว่าด้วยหุ้นส่วนและบริษัท กฎหมายว่าด้วย บริษัทมหาชนจ ากัด กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการก าหนดความผิด เกี่ยวกับ ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจ ากัด บริษัทจ ากัด สมาคม และมูลนิธิ กฎหมายว่าด้วย การประกอบธุรกิจ ของคนต่างด้าว กฎหมายว่าด้วยการบัญชี กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี กฎหมาย ว่าด้วยสมาคมการค้า กฎหมายว่าด้วยหอการค้า และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง 4) ให้บริการข้อมูล เอกสารทะเบียนธุรกิจ ข้อมูลธุรกิจอื่น และรับรองรายการ ทางทะเบียนธุรกิจ 5) ปฏิบัติการอื่นใดตามที่กฎหมายก าหนดให้เป็นอ านาจหน้าที่ของกรม หรือตามที่รัฐมนตรี หรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย โครงสร้างกรมพัฒนาธุรกิจการค้า


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 5 อัตราก าลัง กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีภารกิจหลัก 3 ด้าน ประกอบด้วย งานด้านบริการจดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจ งานด้านส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ และงานสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ โดยหน่วยงานที่ด าเนินการตามภารกิจหลัก มีจ านวน 11 กอง นอกจากนี้ ยังมีหน่วยงานสนับสนุนที่ช่วยขับเคลื่อนภารกิจของกรม จ านวน 6 ส านัก/กอง/ ศูนย์/กลุ่ม ซึ่งแต่ละหน่วยงานมีอ านาจหน้าที่และความรับผิดชอบจ าแนกตามภารกิจ ดังต่อไปนี้ 1) งานด้านบริการจดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจ 1.1) กองทะเบียนธุรกิจ : ให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลประเภทห้างหุ้นส่วน และบริษัทจ ากัด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ก าหนดระเบียบ หลักเกณฑ์ และพัฒนากฎหมาย ระเบียบ และวิธีการ ปฏิบัติงานทะเบียนหุ้นส่วนบริษัท พิจารณา วิเคราะห์ปัญหา และให้ความเห็นการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วน บริษัทที่มีข้อพิพาท ข้อโต้แย้ง ค าคัดค้าน ค าอุทธรณ์ และประเด็นปัญหากฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ค าแนะน า ค าปรึกษา ตอบข้อหารือเกี่ยวกับการจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนบริษัท รวมทั้งท าหน้าที่เลขานุการคณะกรรมการ วินิจฉัย ข้อพิพาทด้านทะเบียนธุรกิจในส่วนภูมิภาค 1.2) กองข้อมูลธุรกิจ : ให้บริการหนังสือรับรองและส าเนาเอกสารทางทะเบียน การตรวจค้น เอกสารธุรกิจแก่ภาคเอกชนและหน่วยงานราชการ วิเคราะห์และพัฒนาฐานข้อมูลธุรกิจให้เป็นข้อมูล สารสนเทศ ประมวลผลและรายงานผลข้อมูลทางทะเบียนธุรกิจ งบการเงินและข้อมูลธุรกิจอื่น พัฒนาและ วิเคราะห์ข้อมูลเพื่อเป็นคลังข้อมูลธุรกิจ บริหารจัดการและสร้างความร่วมมือการเชื่อมโยงและถ่ายโอนข้อมูล ให้หน่วยราชการและภาคเอกชน รวมทั้งพัฒนาการให้บริการหนังสือรับรองและรับรองส าเนาเอกสารทะเบียน ทางอิเล็กทรอนิกส์ 1.3) กองทะเบียนบริษัทมหาชนและธุรกิจพิเศษ : ให้บริการจดทะเบียนนิติบุคคลประเภทบริษัท มหาชนจ ากัด ธุรกิจที่มีกฎหมายควบคุมพิเศษ สมาคมการค้าและหอการค้า การจดทะเบียนพาณิชย์ และจด ทะเบียนวิสาหกิจเพื่อสังคม (Social enterprise) วิเคราะห์ ตอบข้อหารือ และให้ค าแนะน าเกี่ยวกับปัญหา การจดทะเบียนที่มีข้อพิพาท ข้อโต้แย้ง ค าคัดค้าน ค าอุทธรณ์ และประเด็นปัญหาข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก าหนดระเบียบ หลักเกณฑ์ และพัฒนากฎหมาย ระเบียบ และวิธีการปฏิบัติงานทะเบียนของนิติบุคคล ดังกล่าว รับขึ้นทะเบียนเป็นผู้รับรองลายมือชื่อ รวมทั้งก ากับดูแลงานด้านการถอนทะเบียนหุ้นส่วนบริษัทร้าง 1.4) กองทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ : ตรวจพิจารณารับจดทะเบียน แก้ไข ยกเลิก และ เพิกถอนทะเบียนสัญญาหลักประกัน ออกหลักฐานการจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ ก ากับดูแลให้ปฏิบัติ ตามกฎหมายหลักประกันทางธุรกิจ จัดท าและส่งหลักฐานเพื่อแจ้งให้นายทะเบียนและเจ้าหนี้อื่นซึ่งมีบุริมสิทธิ เหนือทรัพย์สินที่เป็นหลักประกันเท่าที่มีรายชื่อปรากฏในหลักฐานทางทะเบียนทราบถึงการจดทะเบียน ตามพระราชบัญญัติหลักประกันทางธุรกิจ ออกใบอนุญาต ออกใบแทนใบอนุญาต ต่อใบอนุญาต และเพิกถอน ใบอนุญาตเป็นผู้บังคับหลักประกัน จัดอบรมและทดสอบความรู้แก่ผู้บังคับหลักประกัน ศึกษา วิเคราะห์ พัฒนา และปรับปรุงแก้ไขกฎระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีปฏิบัติงานจดทะเบียนหลักประกันทางธุรกิจ รวมทั้งให้ ข้อเสนอแนะในการก าหนดนโยบายและยุทธศาสตร์เกี่ยวกับหลักประกันทางธุรกิจ 1.5) กองบริหารการประกอบธุรกิจของชาวต่างชาติ : การอนุญาตและออกหนังสือรับรอง การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ศึกษาวิเคราะห์แนวโน้มการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวและผลดีผลเสีย จากการอนุญาต วิเคราะห์ จัดท ายุทธศาสตร์ความร่วมมือกับหน่วยงานต่างประเทศด้านพัฒนาการบริการ จดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจ การสร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ และการส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ วิเคราะห์ นโยบายและ มาตรการทางเศรษฐกิจการค้า กฎ ระเบียบข้อบังคับทางการค้าของประเทศคู่ค้าเพื่อสร้างโอกาสทางการตลาด


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 6 แก่ผู้ประกอบธุรกิจ รวมทั้งด าเนินการเกี่ยวกับงานเลขานุการของคณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่าง ด้าวตามพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 2) งานด้านส่งเสริมพัฒนาธุรกิจ 2.1) กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ : ส่งเสริมพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจแฟรนไชส์ ธุรกิจค้าส่งค้าปลีก ธุรกิจโลจิสติกส์ ธุรกิจบริการเป้าหมาย เพื่อให้เข้มแข็งแข่งขันได้ในระดับสากล ส่งเสริม และสนับสนุนการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทางธุรกิจและเครือข่ายพันธมิตรร่วมกับหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและ เอกชน ศึกษา วิเคราะห์ และวิจัยข้อมูลธุรกิจเป้าหมาย สร้างความเข้มแข็งและส่งเสริมบทบาทของสถาบัน การค้า พร้อมทั้งให้ค าปรึกษาแนะน าและแก้ไขปัญหาสถาบันการค้า ให้เป็นตัวแทนภาคธุรกิจที่มีศักยภาพ 2.2) กองพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ : ส่งเสริมพัฒนาการใช้พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ในการประกอบธุรกิจ ศึกษา วิเคราะห์ วิจัย วางแผนการพัฒนาพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ พัฒนาศักยภาพธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ และสร้างความเชื่อมั่นในการประกอบธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ รวมทั้ง พัฒนาเทคโนโลยีและระบบการ บริหารจัดการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 2.3) กองธุรกิจบริการ : พัฒนาศักยภาพธุรกิจบริการเป้าหมายให้เติบโตและด าเนินธุรกิจได้อย่าง เข้มแข็งและแข่งขันได้ ศึกษา วิเคราะห์กลยุทธ์ และก าหนดแนวทางการพัฒนาธุรกิจบริการเป้าหมายที่มี ศักยภาพ รวมทั้งเป็นศูนย์กลางองค์ความรู้ บริหารจัดการธุรกิจบริการสมัยใหม่ ผลักดันยุทธศาสตร์ธุรกิจ บริการให้เป็นรูปธรรมโดยเชื่อมโยงกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง สร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการประกอบ ธุรกิจบริการ รวมทั้ง ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเครือข่ายตลอดห่วงโซ่คุณค่า (Value Chain) ในธุรกิจ บริการ 2.4) กองธุรกิจภูมิภาคและชุมชน : ส่งเสริม สนับสนุน ก ากับติดตามประเมินผลการปฏิบัติงานตาม ภารกิจของกรมพัฒนาธุรกิจการค้าในส่วนภูมิภาค วินิจฉัยข้อพิพาท ข้ออุทธรณ์ คัดค้าน โต้แย้ง การจด ทะเบียนธุรกิจของภูมิภาค ส่งเสริมพัฒนาเพิ่มขีดความสามารถ และการขยายช่องทางการตลาดของ SMEs ธุรกิจชุมชน และธุรกิจเพื่อสังคม ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างเครือข่ายเชื่อมโยงทางธุรกิจและเครือข่าย พันธมิตรร่วมกับหน่วยงานอื่นทั้งภาครัฐและเอกชน อ านวยการและประสานการปฏิบัติงานระหว่างส่วนกลาง กับส่วนภูมิภาค 3) งานด้านธรรมาภิบาลธุรกิจ 3.1) กองก ากับบัญชีธุรกิจ : พัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพบัญชีและส านักงานบัญชี ส่งเสริมการจัดท า บัญชีธุรกิจให้ถูกต้อง ก ากับดูแลการจัดท าบัญชีตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ. 2543 ท าหน้าที่ฝ่าย เลขานุการของคณะกรรมการก ากับดูแลการประกอบวิชาชีพตามพระราชบัญญัติวิชาชีพบัญชี พ.ศ. 2547 และวิเคราะห์ข้อมูลเกี่ยวกับการจัดท างบการเงินของนิติบุคคล 3.2) กองธรรมาภิบาลธุรกิจ : สร้างธรรมาภิบาลภาคธุรกิจและพัฒนาหลักเกณฑ์มาตรฐานด้านธรร มาภิบาลธุรกิจ ก ากับดูแลและตรวจสอบนิติบุคคลให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรม พัฒนาธุรกิจการค้า ตรวจสอบข้อร้องเรียน รวมทั้งแสวงหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎหมายของ บุคคลและนิติบุคคลที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรม ติดตาม วิเคราะห์และประมวลผลการตรวจสอบ ตรวจ การงานตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์และการตรวจสอบกิจการตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชน จ ากัด พ.ศ. 2535 ให้ค าปรึกษาแนะน าธุรกิจให้ปฏิบัติตามกฎหมายที่กรมรับผิดชอบ รวมทั้งแลกเปลี่ยน ข้อคิดเห็นแก่องค์กรหรือหน่วยงานอื่นๆ ทั้งภาคธุรกิจและเอกชนเกี่ยวกับการสร้างธรรมาภิบาล


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 7 4) งานสนับสนุน 4.1) ส านักงานเลขานุการกรม : บริหารงานด้านสารบรรณ ด้านบุคคลและการพัฒนาบุคลากร และ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 4.2) ส านักกฎหมาย : งานด้านกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้แก่ กฎหมายตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยหุ้นส่วนบริษัท กฎหมายว่าด้วยบริษัทมหาชนจ ากัด กฎหมายว่าด้วยทะเบียนพาณิชย์ กฎหมายว่าด้วยการก าหนดความผิด เกี่ยวกับห้างหุ้นส่วน จดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจ ากัด บริษัทจ ากัด สมาคม และมูลนิธิ กฎหมายว่าด้วยการประกอบ ธุรกิจของคนต่างด้าว กฎหมายว่าด้วยการบัญชี กฎหมายว่าด้วยวิชาชีพบัญชี กฎหมายว่าด้วยสมาคมการค้า หอการค้า กฎหมาย ว่าด้วยหลักประกันทางธุรกิจและกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง งานนิติกรรมสัญญา งานด้านคดี รวมทั้งงานศึกษา วิเคราะห์ ยกร่าง และพัฒนากฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ ค าสั่ง และหลักเกณฑ์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับ กฎหมายของกรม 4.3) ศูนย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร : ก ากับ ควบคุม ดูแลและบริหารจัดการระบบ คอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายสื่อสาร บริหารจัดการระบบรักษาความปลอดภัยด้านสารสนเทศ (Security) ตามมาตรฐานสากล วางแผนยุทธศาสตร์ ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของกรม ศึกษา วิเคราะห์ ออกแบบ พัฒนา ระบบงานดิจิทัล นวัตกรรมการให้บริการ และการบริหารงานภายในองค์กร บริหารจัดการและตรวจสอบ ฐานข้อมูลให้ถูกต้องมีประสิทธิภาพและเป็นมาตรฐานเดียวกัน บริหารจัดการความเสี่ยง และบริหารความ ต่อเนื่องทางธุรกิจ รวมทั้งบริหารจัดการระบบการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลธุรกิจให้แก่หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน 4.4) กองคลัง : จัดเก็บเงินรายได้ทุกประเภทตามที่กฎหมายก าหนดและน าเงินส่งคลังเป็นรายได้ แผ่นดินให้ครบถ้วน จัดท างบประมาณรายจ่ายและประมาณการรายได้ประจ าปี บริหารและก ากับดูแล การใช้จ่ายเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ ควบคุมดูแลการเบิกจ่าย จัดท าบัญชีและรายงานตาม ระเบียบ จัดหาพัสดุ เก็บรักษา และบ ารุงรักษาพัสดุครุภัณฑ์ อาคาร สถานที่ และยานพาหนะ 4.5) กลุ่มตรวจสอบภายใน : ตรวจสอบการปฏิบัติงานให้เป็นไปตามนโยบายกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องและค าสั่งที่ทางราชการก าหนด ตรวจสอบความถูกต้องและเชื่อถือได้ ของข้อมูลการเงิน การบัญชีและการด าเนินงาน ตรวจสอบและประเมินความมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ของการด าเนินงานตามแผนงานหรือโครงการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์และบรรลุตามเป้าหมายที่ก าหนด ประเมินระบบการควบคุมภายใน ความมีประสิทธิภาพ ประหยัดและคุ้มค่าในการใช้ทรัพยากร รายงานผล การตรวจสอบ รวมทั้งข้อเสนอแนะหรือแนวทางในการปรับปรุงแก้ไข ให้ค าปรึกษาและให้ความเห็นเกี่ยวกับ กฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบภายใน ติดตามผล การตรวจสอบ เพื่อให้การปรับปรุงแก้ไขของหน่วยรับตรวจเป็นไปตามข้อเสนอแนะในรายงานผลการตรวจสอบ 4.6) กลุ่มพัฒนาระบบบริหาร : วิเคราะห์ เสนอแนะ และให้ค าปรึกษาด้านยุทธศาสตร์การพัฒนา ระบบราชการ การปรับปรุงบทบาท ภารกิจ โครงสร้าง และอ านาจหน้าที่ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผลักดัน ก ากับดูแล และติดตามผลการด าเนินงาน ตามหลักการบริหารจัดการภาครัฐแนวใหม่และหลักการบริหาร กิจการบ้านเมืองที่ดี เจรจา ก ากับ ติดตาม และประเมินผลการด าเนินงานตามค ารับรองปฏิบัติราชการ วิเคราะห์ จัดท ายุทธศาสตร์ แผนปฏิบัติราชการ และแผนปฏิบัติการของกรม พร้อมถ่ายทอดและผลักดัน กลยุทธ์สู่การปฏิบัติ


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 8 3.3.2 อัตราก าลังบุคลากรในปัจจุบัน กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีอัตราก าลังคนในปัจจุบัน ณ วันที่ 1 มีนาคม 2567 จ านวน 540 อัตรา ประกอบด้วย ข้าราชการ 399 อัตรา พนักงานราชการ 92 อัตรา และลูกจ้างประจ า 49 อัตรา โดยมี รายละเอียด ดังนี้ ตาราง 1 แสดงอัตราก าลังบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้าที่มีอยู่ในปัจจุบัน (ณ 1 มี.ค. 2567) ภาพที่ 1 โครงสร้างภายในและอัตราก าลังบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ล าดับ ประเภทบุคลากร จ านวน (คน) คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 1 ข้าราชการ 399 73.98 2 พนักงานราชการ 92 17.04 3 ลูกจ้างประจ า 49 9.07 รวม 540 100.00


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 9 ตาราง 2 แสดงสายงานและระดับต าแหน่งของข้าราชการที่มีอยู่ในปัจจุบัน จากตาราง 2 กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีอัตราก าลังข้าราชการในสายงานนักวิชาการพาณิชย์มากที่สุด 251 ต าแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 62.91 รองลงมาสายงานเจ้าพนักงานการพาณิชย์ 27 ต าแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 6.77 โดยมีข้าราชการในระดับช านาญการมากที่สุด 170 ต าแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 42.61 รองลงมาระดับ ปฏิบัติการ 84 ต าแหน่ง คิดเป็นร้อยละ 21.05 ประเภท/ระดับต าแหนง่ บริหาร อา นวยการ วิชาการ สูง ต้น สูง ต้น ชช ชพ ชก ปก ชง ปง ต าแหนง่ ร้อยละ 1.นักบริหาร 1 3 - - - - - - 4 1.00 2.ผู้อ านวยการ 5 3 - - - - - - 8 2.01 3.ผู้อ านวยการเฉพาะดา้น (นิตกิาร) - - 1 - - - - - - - 1 0.25 4.ผู้อ านวยการเฉพาะดา้น (วชิาการเงินและบัญช)ี - - - 1 - - - - - - 1 0.25 5.นิตกิร - - - - 1 5 7 7 - - 20 5.01 6.นักวเิคราะห์นโยบายและแผน - - - - 1 3 2 2 - - 8 2.01 7.นักวชิาการคอมพวิเตอร์ - - - - 1 3 9 1 - - 14 3.51 8.นักวชิาการเงินและบัญชี - - - - - 1 5 3 - - 9 2.26 9.นักวชิาการตรวจสอบภายใน - - - - 1 - 2 - - - 3 0.75 1 0.นักวชิาการพสัดุ - - - - - - 2 - - - 2 0.50 1 1.นักวชิาการพาณชิย์ - - - - 3 4 8 133 6 7 - - 251 62.91 1 2.นักจัดการงานทั่วไป - - - - - - 1 1 - - 2 0.50 1 3.นักทรัพยากรบุคคล - - - - 1 3 6 3 - - 13 3.26 1 4.นักวชิาการเผยแพร่ - - - - - 1 1 - - - 2 0.50 1 5.นักประชาสมัพนัธ์ - - - - - - 2 - - - 2 0.50 1 6.เจ้าพนักงานการเงินและบัญชี - - - - - - - - 5 1 6 1.50 1 7.เจ้าพนักงานการพาณชิย์ - - - - - - - - 2 1 6 27 6.77 1 8.เจ้าพนักงานธรุการ - - - - - - - - 1 7 3 20 5.01 1 9.เจ้าพนักงานพสัดุ - - - - - - - - 4 1 5 1.25 2 0.นายชา่งศลิป์ - - - - - - - - 1 - 1 0.25 รวม (ต าแหนง่ ) 1 3 6 4 8 64 170 84 48 11 399 100.00 ร้อยละ 0.25 0.75 1.50 1.00 2.01 16.04 42.61 21.05 12.03 2.76 100.00 ทั่วไป รวม ชื่อต าแหนง่ ในสายงาน


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 10 ตาราง 3 แสดงช่วงอายุข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ภาพที่ 2 กราฟแสดงโครงสร้างอายุข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากตาราง 3 และภาพที่ 3 พบว่าโครงสร้างอายุข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าอยู่ในช่วงอายุ 45- 49 ปี มากที่สุด จ านวน 82 คน คิดเป็นร้อยละ 20.55 รองลงมาอยู่ในช่วงอายุ 35-39 ปี จ านวน 69 คน คิดเป็นร้อยละ 17.29 ช่วงอายขุ้าราชการ รวม <=24 25-29 30-34 35-39 40-44 45-49 50-54 >=55 คน ร้อยละ สว่นกลาง - - - - - 1 - 7 8 2.01 56.25 ส านักงานเลขานุการกรม - 3 5 3 3 7 3 2 26 6.52 42.27 กองก ากบับัญชธีรุกจิ - 4 1 9 5 4 1 5 29 7.27 42.69 กองข้อมูลธรุกจิ - 7 6 1 2 4 8 6 9 52 13.03 42.60 กองคลงั - 2 2 4 3 5 3 5 24 6.02 45.29 กองทะเบียนธรุกจิ 2 1 0 1 1 9 1 0 1 6 4 1 2 74 18.55 42.57 กองบริหารการประกอบธรุกจิของชาวตา่งชาติ 1 2 - 2 3 4 3 2 17 4.26 44.41 กองพาณชิย์อเิลก็ทรอนิกส์ - 3 3 3 5 1 1 - 16 4.01 38.50 กองสง่เสริมและพฒันาธรุกจิ - 1 5 6 6 7 1 2 28 7.02 42.82 ศนูย์เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร - 1 1 5 1 5 2 - 15 3.76 42.94 ส านักกฎหมาย - 5 6 1 3 3 1 1 20 5.01 39.05 กลุ่มตรวจสอบภายใน - 1 - - 1 - 1 3 6 1.50 49.83 กลุ่มพฒันาระบบบริหาร - 1 - 1 2 5 2 - 11 2.76 44.64 กองทะเบียนบริษทัมหาชนและธรุกจิพเิศษ - 3 1 1 4 3 2 - 14 3.51 40.20 กองธรุกจิบริการ - 1 1 6 2 3 2 1 16 4.01 41.94 กองธรุกจิภูมิภาคและชมุชน - 1 3 2 4 4 - 1 15 3.76 41.21 กองทะเบียนหลกัประกนัทางธรุกจิ - - - 2 1 3 - 4 10 2.51 48.60 กองธรรมาภิบาลธรุกจิ 1 1 - 3 1 3 5 4 18 4.51 47.42 รวม (คน) 4 46 45 69 58 82 37 58 399 100.00 ร้อยละ 1.00 11.53 11.28 17.29 14.54 20.55 9.27 14.54 100.00 ส านกั/กอง/ศูนย/์กลุ่ม 43.01 อายเุฉลี่ย 39 58 40 55 66 81 4 46


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 11 ตาราง 4 แสดงระดับการศึกษาของข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระดับการศึกษา จ านวน (คน) ร้อยละ ต่ ากว่า ป.ตรี 32 8.02 ป.ตรี 191 47.87 ป.โท 173 43.36 ป.เอก 3 0.75 รวม 399 100.00 จากตาราง 4 ข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้าจบการศึกษาสูงสุดในระดับปริญญาตรีมากที่สุด จ านวน 191 คน คิดเป็นร้อยละ 47.87 รองลงมาในระดับปริญญาโท จ านวน 173 คน คิดเป็นร้อยละ 43.36 ตาราง 5 แสดงระดับการศึกษาและสาขาของข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า จากตาราง 5 ข้อมูลคุณวุฒิของข้าราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า สรุปได้ดังนี้ (1) ข้าราชการกลุ่มผู้บริหาร จ านวน 22 คน ประกอบด้วย อธิบดี จ านวน 1 คน รองอธิบดี จ านวน 3 คน ผู้อ านวยการระดับสูง 6 คน ผู้อ านวยการระดับต้น จ านวน 4 คน และนักวิชาการระดับ ผู้เชี่ยวชาญ 8 คน พบว่า กลุ่มผู้บริหารจบการศึกษาในระดับปริญญาโทมากที่สุด จ านวน 16 คน คิดเป็น ร้อยละ 72.73 รองลงมาในระดับปริญญาตรี จ านวน 5 คน คิดเป็นร้อยละ 22.73 โดยจบการศึกษา ในด้านบริหารธุรกิจและด้านนิติศาสตร์มากที่สุด จ านวน 5 ราย คิดเป็นร้อยละ 22.73 (2) ข้าราชการกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน จ านวน 377 คน ประกอบด้วย 1) ประเภทวิชาการ ในระดับช านาญการพิเศษ ระดับช านาญการ และระดับปฏิบัติการ และ 2) ประเภททั่วไป ในระดับอาวุโส ระดับช านาญงาน และระดับปฏิบัติงาน พบว่า กลุ่มผู้ปฏิบัติงานจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีมากที่สุด จ านวน 186 คน คิดเป็นร้อยละ 49.34 รองลงมาในระดับปริญญาโท จ านวน 157 คน คิดเป็นร้อยละ 41.64 โดยจบการศึกษาในด้านบริหารธุรกิจมากที่สุด จ านวน 123 คน คิดเป็นร้อยละ 32.63 รองลงมาใน ด้านนิติศาสตร์ จ านวน 63 คน คิดเป็นร้อยละ 16.71 กลุ่มผู้บริหาร กลุ่มผู้ปฏิบตัิงาน ตรี โท เอก รวม ร้อยละ <ตรีตรี โท เอก รวม ร้อยละ 1. นิตศิาสตร์ 3 2 - 5 22.73 - 3 9 2 4 - 6 3 16.71 68 2. บริหารธรุกจิ 1 4 - 5 22.73 - 5 9 6 4 - 123 32.63 128 3. บัญชี 1 2 - 3 13.64 1 3 2 0 5 - 3 8 10.08 41 4. ศลิปศาสตร์ - - - - - - 3 3 1 1 - 4 4 11.67 44 5. เศรษฐศาสตร์ - - - - - - 1 1 1 1 - 2 2 5.84 22 6. อนื่ๆ - 8 1 9 40.91 1 9 2 4 4 2 2 8 7 23.08 96 รวม 5 16 1 22 100.00 32 186 157 2 377 100.00 ร้อยละ 22.73 72.73 4.55 100.00 8.49 49.34 41.64 0.53 100.00 รวมทงั้สิ้น (คน) 399 วุฒกิารศึกษา


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 12 2.2 วิสัยทัศน์ พันธกิจ โครงการส าคัญ 2.2.1 วิสัยทัศน์ เป็นองค์กรภาครัฐชั้นน าด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายในปี 2570 และสร้างพลัง ขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม 2.2.2 พันธกิจ 1) พัฒนาระบบทะเบียนธุรกิจโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัลให้มีความสะดวก ถูกต้อง รวดเร็ว และทันสมัย 2) สร้างคุณค่าและนวัตกรรมให้บริการข้อมูลธุรกิจ 3) พัฒนาผู้ประกอบการทุกระดับให้เข้มแข็ง แข่งขันได้ 4) ก ากับดูแลและส่งเสริมธุรกิจให้มีการพัฒนาอย่างยั่งยืน 2.3 ประเด็นส าคัญตามแผนปฏิบัติราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2566 – 2570 ประเด็นหลักในการขับเคลื่อนองค์กร ประกอบด้วย 4 ประเด็น ประเด็นที่ 1 ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (Go Digital) เช่น โครงการพัฒนาระบบให้บริการเชื่อมโยงข้อมูลธุรกิจเพื่อสนับสนุนรัฐบาลดิจิทัล ประเด็นที่ 2 พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง (Nurture & Growth) เช่น โครงการสร้างโอกาสและเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันส าหรับผู้ประกอบการโชวห่วยไทย โครงการสร้างโอกาสทางการตลาด พัฒนาธุรกิจฐานรากด้วย e-Commerce โครงการพัฒนาส่งเสริมธุรกิจ บริการสู่การค้ายุคใหม่ ประเด็นที่ 3 ส่งเสริมการด าเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable in Business) เช่น โครงการสร้างความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจ SME ด้วยหลักธรรมาภิบาลธุรกิจ ประเด็นที่ 4 สร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovative Organization) เช่น โครงการพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลการตรวจสอบภายใน


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 13 2.4 จุดเน้นการพัฒนาบุคลากร (ทิศทางฝ่ายบริหาร ความต้องการของบุคลากร ฯลฯ) จากการส ารวจความต้องการของการพัฒนาบุคลากร พบว่าผู้บริหารและบุคลากร มีความต้องการและ มุ่งเน้นการพัฒนาของบุคลากรในมิติต่อไปนี้ 1) ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบหรือกฎหมาย – กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (เช่น พรก. ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พรบ.ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์) พรบ. ข้อมูลส่วนบุคคล และระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ) 2) ความรู้ความสามารถด้านดิจิทัล (Digital literacy) – ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และ การน ามาใช้ในการท างาน (เช่น AI Chatbot metaverse ความปลอดภัยทางไซเบอร์) การวิเคราะห์และ ใช้ประโยชน์จากข้อมูล การออกแบบกระบวนงานและแอปพลิเคชันเบื้องต้น 3) ความรู้ที่จ าเป็นต่อการปฏิบัติงาน – ภารกิจ ทิศทางของกระทรวงพาณิชย์และกรมพัฒนา ธุรกิจการค้า การจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล การบริหารภาครัฐสมัยใหม่และนโยบายสาธารณะ 4) ทักษะ soft skill – ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ การคิดเชิงออกแบบ การน าเสนอและการสื่อสาร รวมทั้งการรักษาสุขภาพกายและสุขภาพจิต


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 14 2.5 ทิศทาง แนวโน้มการพัฒนาบุคลากร (ภาคส่วนอื่นที่โดดเด่น หรือต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง) 1) แนวโน้มที่เป็น Megatrend และส่งผลกระทบต่อประเทศ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล โลกาภิวัตน์ เทคโนโลยีใหม่ๆ โมเดลธุรกิจที่เน้นความร่วมมือ สังคมผู้สูงอายุ และเศรษฐกิจฐานชีวภาพ เศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG Economy) 2) ทักษะที่จ าเป็นในโลกอนาคต ตามการวิจัยของ World Economic Forum ได้แก่ ทักษะการคิด วิเคราะห์ ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ ทักษะความรู้ทางเทคโนโลยี ทักษะความขี้สงสัยและใฝ่เรียนรู้ ทักษะความ ยืดหยุ่นและความคล่องตัว ทักษะการคิดเชิงระบบ ทักษะความรู้ด้าน AI และ Big data ทักษะการสร้างแรงจูงใจ และเข้าใจตัวเอง ทักษะการบริหารจัดการคนเก่ง และทักษะการบริการและเอาใจใส่ลูกค้า 2.6 การวิเคราะห์ข้อมูลประกอบการจัดท าแผนพัฒนาบุคลากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้ด าเนินการส ารวจความต้องการการฝึกอบรม (Training needs survey) โดยพิจารณาจากปัจจัยภายนอก ความคาดหวังของหน่วยงานพันธมิตรและประชาชน ทิศทางและยุทธศาสตร์ ของกรม แผนการบริหารทรัพยากรบุคคล รวมถึงความต้องการการฝึกอบรมของบุคลากรแต่ละกลุ่มงาน โดยมีผู้ตอบแบบสอบถาม เป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจ า และพนักงานราชการจากทุกส านัก/กอง/ศูนย์/กลุ่ม จ านวน 436 ราย คิดเป็นร้อยละ 84.66 ของกลุ่มเป้าหมายทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีข้อมูลมิติอื่นๆ ได้แก่ การจ าแนกกลุ่มเป้าหมายและประเด็นพัฒนา ตลอดจนรูปแบบในการพัฒนาตามแนวทางของส านักงาน ก.พ. ที่สามารถน าไปใช้ในการพัฒนาแผนพัฒนาบุคลากรเพิ่มเติม สรุปได้ดังนี้ กิจกรรมที่ 1 เสริมสร้างความเป็น ผู้น าเชิงนวัตกรรม (Innovative Leadership) กิจกรรมที่ 2 พัฒนาสมรรถนะ ความรู้ และทักษะที่จ าเป็นใน อนาคต (Future Skill) กิจกรรมที่ 3 สร้างการมีส่วนร่วม และความผูกพันของบุคลากร (Employee Engagement) • พัฒนาข้าราชการระดับ บริหาร และต าแหน่งหัวหน้างาน เพื่อเตรียมความพร้อมบุคลากร ใน ระดับหัวหน้างานขึ้นไป ให้มีทักษะ ส าหรับศตวรรษที่ 21 ทักษะด้าน ดิจิทัล เชื่อมโยงถ่ายทอดยุทธศาสตร์ จากระดับนโยบายสู่การปฏิบัติให้ เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ควบคู่กับ การท างานที่ยืดหยุ่นและปรับตัวตาม สถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลง • พัฒน าภ า ว ะผู้น าให้ แก่ บุคลากรทุกระดับ พั ฒ น า บุ ค ล า ก ร ทุ ก ร ะ ดั บ ต าแหน่งให้มีความรู้ทักษะ และ ส ม ร ร ถน ะที่ จ า เป็ นใน ก า ร ป ฏิ บั ติง า น ยุ ค ดิ จิ ทั ล ผ่ า น กิ จ ก ร ร ม ก า ร พั ฒ น า ที่ หลากหลาย โดยประกอบด้วย (1) การพัฒนาทักษะเฉพาะด้าน ตามเส้นทางความก้าวหน้าใน สายอาชีพ (Career path) (2) ก า รพัฒ น า Mindset Skillset และสร้างเครือข่ายใน การบูรณาการท างาน พัฒนาองค์กรสู่องค์กรแห่งการ เรียนรู้และพัฒนา การจัดกิจกรรม Team building เพื่อสร้างความ สามัคคีและการมีส่วนร่วมของ บุคลากรต่อองค์กร การส่งเสริม ด้านคุณธรรมจริยธรรม เพื่อน า ศักยภาพของบุคลากรมาใช้อย่าง เต็มที่ให้สอดคล้องไปในท าง เดียวกันกับพันธกิจ กลยุทธ์ และ แผนปฏิบัติการขององค์กร


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 15 กลุ่มเป้าหมายการพัฒนา 1. บุคลากรแรกบรรจุ (New Entry) 2. บุคลากรที่มีประสบการณ์ (Professional Personnel) 3. บุคลากรที่มีบทบาทหัวหน้างาน (Frontline Manager) 4. บุคลากรที่ท าหน้าที่ผู้อ านวยการส านัก/กอง (Functional Manager) 5. บุคลากรที่ด ารงต าแหน่งประเภทบริหาร (Organization & Business Leader) : ทิศทางการพัฒนา หรือจุดเน้นการพัฒนาของส่วนราชการ ประเด็นหลักในการขับเคลื่อนองค์กร ประกอบด้วย 4 ประเด็น ประเด็นที่ 1 ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (Go Digital) ประเด็นที่ 2 พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง (Nurture & Growth) ประเด็นที่ 3 ส่งเสริมการด าเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable in Business) ประเด็นที่ 4 สร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovative Organization) : ทิศทาง นโยบายของรัฐบาล ประเด็นส าคัญ เร่งด่วน 1) ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2560 – 2579) – ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหาร จัดการภาครัฐ 2) แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ. 2566 - 2570) - หมุดหมายที่ ๑๓ ที่มี เป้าหมายให้ประเทศไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน 3) ป ระเด็นก า รพัฒน าต ามแนวท างก า รพัฒน าบุคล ากรภ าครัฐ พ.ศ. 2566 – 2570 ของส านักงาน ก.พ. 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ 3.1) การพัฒนาองค์กรเพื่อเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้และพัฒนา 3.2) การพัฒนากรอบความคิดและทักษะ ให้มีความพร้อมในการปฏิบัติงาน เพื่อขับเคลื่อนภารกิจ ภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ 3.3) การพัฒนากรอบความคิดและทักษะด้านดิจิทัล เพื่อขับเคลื่อนการเป็นรัฐบาลดิจิทัล 4) แผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566 – 2570) ของกระทรวงพาณิชย์ 5) แผนปฏิบัติราชการกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2566 – 2570 ประเด็น “สร้างองค์กรแห่ง นวัตกรรม – Innovative organization”


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 16 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประกอบด้วยยุทธศาสตร์ส าคัญต่อการพัฒนาประเทศทั้งหมด 6 ยุทธศาสตร์ ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ประกอบด้วย ยุทธศาสตร์ส าคัญต่อการพัฒนาประเทศ 6 ยุทธศาสตร์ โดยยุทธศาสตร์ที่มีความเกี่ยวข้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 2 ยุทธศาสตร์ ได้แก่ ยุทธศาสตร์ที่ 1 ด้านความมั่นคง และยุทธศาสตร์ที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจในการพัฒนาองค์กรและการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาที่ส าคัญ คือ ประเทศชาติมั่นคง ประชาชน มีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชาติ สังคม ชุมชน มุ่งเน้นการพัฒนาคน เครื่องมือ เทคโนโลยี และระบบฐานข้อมูลขนาดใหญ่ให้มีความพร้อมสามารถรับมือกับภัยคุกคามและภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ และทุก ระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคงที่มีอยู่ในปัจจุบัน และที่อาจจะ เกิดขึ้นในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการทั้งกับส่วนราชการ ภาคเอกชน ประชาสังคม และองค์กรที่ไม่ใช่รัฐรวมถึงประเทศเพื่อนบ้านและมิตรประเทศทั่วโลกบนพื้นฐานของหลักธรรมาภิบาล ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ประกอบด้วย ๕ ประเด็น ได้แก่ (1) การรักษาความสงบภายในประเทศ เพื่อสร้างเสริมความสงบเรียบร้อยและสันติสุขให้เกิด ขึ้นกับประเทศชาติบ้านเมือง (2) การป้องกันและแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคง เพื่อแก้ไขปัญหาเดิม และป้องกันไม่ให้ปัญหาใหม่เกิดขึ้น (3) การพัฒนาศักยภาพของประเทศให้พร้อมเผชิญภัยคุกคามที่กระทบต่อความมั่นคงของชาติ เพื่อยกระดับขีดความสามารถของกองทัพและหน่วยงานด้านความมั่นคง


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 17 (4) การบูรณาการความร่วมมือด้านความมั่นคงกับอาเซียนและนานาชาติรวมถึงองค์กร ภาครัฐและ ที่มิใช่ภาครัฐ เพื่อสร้างเสริมความสงบสุข สันติสุข ความมั่นคง และความเจริญ ก้าวหน้า ให้กับ ประเทศชาติ ภูมิภาค และโลก อย่างยั่งยืน (5) การพัฒนากลไกการบริหารจัดการความมั่นคงแบบองค์รวม เพื่อให้กลไกส าคัญต่าง ๆ ท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้หลักธรรมาภิบาล และการบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมาย การพัฒนาที่ส าคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐที่ยึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาทหน่วยงานของรัฐที่ท าหน้าที่ ในการก ากับหรือในการให้บริการยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการท างานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และ ผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งการน านวัตกรรม เทคโนโลยีข้อมูลขนาดใหญ่ ระบบการท างานที่เป็นดิจิทัลเข้ามาประยุกต์ ใช้อย่างคุ้มค่า และปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เชื่อมโยงถึงกันและ เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และโปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริตความมัธยัสถ์ และสร้าง จิตส านึกในการปฏิเสธไม่ยอมรับการทุจริตประพฤติมิชอบอย่างสิ้นเชิง นอกจากนั้น กฎหมายต้องมีความ ชัดเจน มีเพียงเท่าที่จ าเป็น มีความทันสมัยมีความเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และน าไปสู่การลดความเหลื่อมล้ า และเอื้อต่อการพัฒนา โดยกระบวนการยุติธรรมมีการบริหารที่มีประสิทธิภาพ เป็นธรรม ไม่เลือกปฏิบัติและ การอ านวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม ประกอบด้วย ๘ ประเด็น ได้แก่ (1) ภาครัฐที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง ตอบสนองความต้องการ และให้บริการอย่างสะดวก รวดเร็ว โปร่งใส (2) ภาครัฐบริหารงานแบบบูรณาการโดยมียุทธศาสตร์ชาติเป็นเป้าหมายและเชื่อมโยง การพัฒนาในทุกระดับ ทุกประเด็น ทุกภารกิจ และทุกพื้นที่ (3) ภาครัฐมีขนาดเล็กลง เหมาะสมกับภารกิจ ส่งเสริมให้ประชาชนและทุกภาคส่วนมีส่วนร่วม ในการพัฒนาประเทศ (4) ภาครัฐมีความทันสมัย (5) บุคลากรภาครัฐเป็นคนดีและเก่ง ยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม มีจิตส านึกมีความสามารถสูง มุ่งมั่น และเป็นมืออาชีพ (6) ภาครัฐมีความโปร่งใส ปลอดการทุจริตและประพฤติมิชอบ (7) กฎหมายมีความสอดคล้องเหมาะสมกับบริบทต่าง ๆ และมีเท่าที่จ าเป็น (8) กระบวนการยุติธรรมเคารพสิทธิมนุษยชนและปฏิบัติต่อประชาชนโดยเสมอภาค


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 18 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ปี 2564 แผนการปฏิรูปประเทศ (ฉบับปรับปรุง) ปี 2564 ประกอบด้วยแผนการปฏิรูปในด้านต่างๆ ของประเทศ จ านวน 13 ด้าน โดยยุทธศาสตร์ของกรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีความเชื่อมโยงกับแผน การปฏิรูป ประเทศ รวมทั้งสิ้น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านการบริหารราชการแผ่นดิน ด้านเศรษฐกิจ และด้านการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ แผนการปฏิรูปประเทศด้านการบริหารราชการแผ่นดิน มีเป้าประสงค์เพื่อให้ความส าคัญในการ เตรียมความพร้อมเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงในทุกมิติและรองรับผลกระทบของสถานการณ์ชีวิตวิถีใหม่และ ทิศทาง ที่ก าหนดไว้ตามยุทธศาสตร์ชาติ โดยก าหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ต่อประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ จ านวน ๕ กิจกรรม ประกอบด้วย ๑) ปรับเปลี่ยนรูปแบบการบริหารงานและ การบริการภาครัฐไปสู่ระบบดิจิทัล ๒) จัดโครงสร้างองค์กร และระบบงานภาครัฐให้มีความยืดหยุ่น คล่องตัว และเปลี่ยนแปลงได้ตามสถานการณ์ ๓) ปรับเปลี่ยนการบริหารทรัพยากรบุคคลภาครัฐสู่ระบบเปิด เพื่อให้ได้มาและรักษาไว้ซึ่งคนเก่ง ดีและมีความสามารถอย่างคล่องตัว ตามหลักคุณธรรม ๔) สร้างความ เข้มแข็งในการบริหารราชการในระดับพื้นที่ โดยการมีส่วนร่วมของประชาชน และ ๕) ขจัดอุปสรรคใน การจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ และการเบิกจ่ายเงินเพื่อให้เกิดความรวดเร็ว คุ้มค่าโปร่งใส ปราศจากการทุจริต ทั้งนี้ ในการด าเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ภาครัฐมีความโปร่งใส เป็นที่เชื่อถือไว้วางใจของประชาชนในความ ซื่อตรง และมาตรฐานการท างานที่มีคุณภาพสูงในระดับสากล มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องและมุ่งเน้นให้เกิดผล


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 19 สัมฤทธิ์ที่ชัดเจน ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมุ่งเน้นการสร้างเอกภาพแห่งพลังในการขับเคลื่อนกระบวนการ ปฏิรูประบบบริหารราชการแผ่นดิน ให้การจัดท าบริการสาธารณะ การอ านวยความสะดวกแก่ประชาชนมี ประสิทธิภาพและประสิทธิผล เป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างมีนัยสาคัญ แผนการปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ มีเป้าประสงค์เพื่อยกระดับศักยภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ กระจายความเจริญและความเข้มแข็งของภาคสังคม และปรับบทบาท โครงสร้าง และกลไกสถาบันบริหาร จัดการเศรษฐกิจของประเทศตามหลักแนวคิดการบริหารงานคุณภาพที่มีบทบาทส าคัญต่อการขับเคลื่อน ประเด็นปฏิรูป เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ และลดความเหลื่อมล้ าให้เกิดผลสัมฤทธิ์ โดยก าหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ จ านวน ๕ กิจกรรม ประกอบด้วย ๑) การสร้างเกษตรมูลค่าสูง ๒) การส่งเสริมและพัฒนาการท่องเที่ยวคุณภาพสูง ๓) การเพิ่มโอกาสของผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กในอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมาย ๔) การเป็นศูนย์กลางด้านการค้าและการลงทุนของไทยในภูมิภาคและ ๕) การพัฒนาศักยภาพคนเพื่อเป็นพลัง ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ทั้งนี้ ในการด าเนินการดังกล่าวจะท าให้ก าลังคนในระบบมีทักษะสอดคล้อง ตามความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและบริการเป้าหมาย และได้รับการจ้างงานเพิ่มมากขึ้น บุคลากรใน ภาคเกษตรกรรม ภาคการท่องเที่ยว และผู้ประกอบการรายย่อยมีรายได้เพิ่มขึ้น สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจของ ประเทศได้ดียิ่งขึ้น แผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ มีเป้าประสงค์ เพื่อแก้ปัญหาการทุจริตและประพฤติมิชอบ ให้มีการส่งเสริมสนับสนุน และให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับ การทุจริตประพฤติมิชอบ และให้มีมาตรการควบคุม ก ากับ ติดตาม การบริหารจัดการของหน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน โดยเฉพาะการปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริตของบุคลากรใช้ดุลยพินิจโดยสุจริต ภายใต้กรอบธรรมาภิบาลและการก ากับกิจการที่ดีอย่างแท้จริง รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารภาครัฐให้ ประชาชนสามารถเข้าถึงและตรวจสอบได้และสนับสนุนแนวร่วมปฏิบัติของภาคเอกชนในการต่อต้านการทุจริต เพื่อขจัดปัญหาการทุจริตที่เกี่ยวข้องกับการติดต่อกับหน่วยงานภาครัฐ โดยก าหนดกิจกรรมปฏิรูปประเทศที่จะ ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงต่อประชาชนอย่างมีนัยส าคัญ จ านวน ๕ กิจกรรม ประกอบด้วย ๑) ส่งเสริม การมีส่วนร่วมของภาคประชาชนในการต่อต้านการทุจริต ๒) พัฒนาระบบคุ้มครองผู้แจ้งเบาะแสการทุจริต ที่มีประสิทธิภาพ ๓) พัฒนากระบวนการยุติธรรมที่รวดเร็ว โปร่งใส ไม่เลือกปฏิบัติ ในการด าเนินคดีทุจริต ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ๔) พัฒนาระบบราชการไทยให้โปร่งใส ไร้ผลประโยชน์ และ ๕) พัฒนามาตรการ สกัดกั้นการทุจริตเชิงนโยบายในการด าเนินโครงการขนาดใหญ่ ทั้งนี้ ในการด าเนินการดังกล่าวจะส่งผลให้ ประชาชนได้รับการบริการภาครัฐอย่างมีประสิทธิภาพ และได้รับการส่งเสริม สนับสนุน และให้ความรู้แก่ ประชาชนถึงภัยที่เกิดจากการทุจริต ตลอดจนจัดให้มีกลไกที่มีประสิทธิภาพและกลไกในการส่งเสริมการรวมตัว และมีส่วนร่วมของประชาชนเพื่อสอดส่องและป้องกันการทุจริตเป็นก าลังส าคัญในการขับเคลื่อนประเทศให้ บรรลุเป้าหมายแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติและยุทธศาสตร์ชาติต่อไป


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 20 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 สิ้นสุดลงในเดือนกันยายน 2565 และจะได้มี การประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ซึ่งจะเป็นแผนปฏิบัติการระยะ 5 ปี ระยะ ที่สองของยุทธศาสตร์ชาติ ตั้งแต่ตุลาคม 2565-กันยายน 2570 ซึ่งการที่จะวางแผนเพื่อก้าวไปสู่อนาคต ร่วมกันได้อย่างมั่นคงนั้น จ าเป็นต้องรู้เท่าทันการเปลี่ยนแปลงต่าง ๆ ในโลกอย่างรอบด้าน โดยแนวโน้มการ เปลี่ยนแปลงที่สาคัญของโลกที่ก าลังกระทบกับหลายประเทศในโลก แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับ 13 เน้นถ่ายถอด 5 เป้าหมายหลัก พลิกโฉมประเทศไทย (ร่าง) แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ 13 ได้ก าหนดทิศทางการพัฒนาบนพื้นฐานของหลักการแนวคิดที่ส าคัญ 4 ประการ ได้แก่ ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง แนวคิด Resilience เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนของ สหประชาชาติ (SDGs) และโมเดลเศรษฐกิจ BCG (Bio-Circular-Green Economy) เพื่อมุ่งสู่วัตถุประสงค์ หลักของแผนพัฒนา คือการ “พลิกโฉม” ประเทศไทยสู่ “สังคมก้าวหน้า เศรษฐกิจสร้างมูลค่าอย่างยั่งยืน” โดยมีเป้าหมายหลัก 5 ประการ ดังนี้ (1) การปรับโครงสร้างภาคการผลิตและบริการสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม โดยยกระดับ ขีดความสามารถในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการสาคัญให้สามารถตอบโจทย์พัฒนาการของ เทคโนโลยีและสังคมยุคใหม่ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมทั้งเชื่อมโยงเศรษฐกิจท้องถิ่นกับห่วงโซ่มูลค่าของ ภาคการผลิตและบริการเป้าหมาย (2) การพัฒนาคนส าหรับโลกยุคใหม่ โดยพัฒนาให้คนไทยมีทักษะและคุณลักษณะที่เหมาะสม กับโลกยุคใหม่ ทั้งทักษะในด้านความรู้ ทักษะทางพฤติกรรม และคุณลักษณะตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม เตรียมพร้อมก าลังคนที่มีคุณภาพสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน รวมทั้งพัฒนาหลักประกันและ ความคุ้มครองทางสังคมเพื่อส่งเสริมความมั่นคงในชีวิต (3) การมุ่งสู่สังคมแห่งโอกาสและความเป็นธรรม โดยลดความเหลื่อมล้ าทั้งในเชิงพื้นที่และ โอกาสในการแข่งขันของภาคธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางและผู้ด้อยโอกาสให้มีโอกาสใน การเลื่อนชั้นทางเศรษฐกิจและสังคม


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 21 (4) การเปลี่ยนผ่านไปสู่ความยั่งยืน โดยปรับปรุงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติในการผลิตและ บริโภคให้มีประสิทธิภาพ แก้ไขปัญหามลพิษสาคัญด้วยวิธีการที่ยั่งยืน และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก เพื่อมุ่งสู่การปล่อยคาร์บอนเป็นศูนย์ในระยะยาว (5) การเสริมสร้างความสามารถของประเทศไทยในการรับมือการเปลี่ยนแปลงและความเสี่ยง ภายใต้บริบทโลกใหม่ โดยการสร้างความพร้อมในการรับมือกับการเป็นสังคมสูงวัย การเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศ และภัยโรคระบาด รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและกลไกทางสถาบันให้เอื้อต่อสังคมและ เศรษฐกิจดิจิทัล รวมทั้งปรับปรุงโครงสร้างและระบบการบริหารงานของภาครัฐให้สามารถตอบสนองต่อ การเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วได้อย่างทันการณ โดยหมุดหมายที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาบุคลากรของกรมคือ หมุดหมายที่ 13 ไทยมีภาครัฐที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพ และตอบโจทย์ประชาชน แผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะเป็นแผนแม่บทหลัก ในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลของประเทศ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑ –๒๕๘๐) ที่ก าหนดทิศทาง การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศที่ยั่งยืนโดยใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ และ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 22 วิสัยทัศน์ “ปฏิรูปประเทศไทยสู่ดิจิทัลไทยแลนด์” ดิจิทัลไทยแลนด์ (Digital Thailand) หมายถึง ประเทศไทยที่สามารถสร้างสรรค์ และใช้ประโยชน์ จากเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มศักยภาพในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน นวัตกรรม ข้อมูล ทุนมนุษย์ และ ทรัพยากรอื่นใดเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไปสู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน โดยแผนพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม จะมีเป้าหมายในภาพรวม 4 ประการ ดังต่อไปนี้ (1) เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศด้วยการใช้นวัตกรรม และ เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือหลักในการสร้างสรรค์นวัตกรรมการผลิต การบริการ (2) สร้างโอกาสทางสังคมอย่างเท่าเทียมด้วยข้อมูลข่าวสารและบริการต่างๆผ่านสื่อดิจิทัล เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน (3) เตรียมความพร้อมให้บุคลากรทุกกลุ่มมีความรู้และทักษะที่เหมาะสมต่อการด าเนินชีวิตและ การประกอบอาชีพในยุคดิจิทัล (4) ปฏิรูปกระบวนทัศน์การท างานและการให้บริการของภาครัฐ ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลและ การ ใช้ประโยชน์จากข้อมูล เพื่อให้การปฏิบัติงานเกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล แนวทางการปรับเปลี่ยนภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัลนั้น แผนพัฒนาดิจิทัลฉบับดังกล่าว ได้กล่าวถึง การด าเนินงานทั้งในส่วนของการปรับเปลี่ยนองค์กรและการพัฒนา “ก าลังคน” ให้มีความพร้อมไว้ใน ๒ ยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องและเชื่อมโยงกัน ดังนี้ 4.1 ยุทธศาสตร์ที่ ๔ การปรับเปลี่ยนภาครัฐเป็นรัฐบาลดิจิทัล ก าหนดแผนงานหลักไว้ ๔ เรื่อง ได้แก่ (๑) จัดให้มีการบริการอัจฉริยะ (Smart Service) ที่ขับเคลื่อนโดยความต้องการของประชาชน หรือผู้ใช้บริการ (citizen driven) (๒) ปรับเปลี่ยนการทางานภาครัฐด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ให้มีประสิทธิภาพ และธรรมาภิบาล (๓) สนับสนุนให้มีการเปิดเผยข้อมูลที่เป็นประโยชน์ (Open data) และให้ประชาชนมีส่วน ร่วมกับกระบวนการท างานของรัฐ เพื่อน าไปสู่การเป็นดิจิทัลไทยแลนด์ และ (๔) พัฒนาแพลตฟอร์มบริการ พื้นฐานภาครัฐ เพื่อรองรับการพัฒนาแอปพลิเคชันหรือบริการรูปแบบใหม่ที่เป็นบริการพื้นฐานของทุก หน่วยงานภาครัฐ 4.2 ยุทธศาสตร์ที่ ๕ การพัฒนาก าลังคนให้พร้อมเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล ก าหนดแผนงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาก าลังคน ๓ กลุ่ม ได้แก่ (๑) การพัฒนาทักษะด้านดิจิทัลให้แก่บุคลากรในตลาดแรงงานรวมถึงบุคลากรภาครัฐ ให้มีความสามารถ สร้างสรรค์และใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างชาญฉลาดในการประกอบอาชีพ ซึ่งจะน าไปสู่การสร้างคุณค่าสินค้า และบริการ ได้เท่าทันความต้องการของผู้รับประโยชน์ (๒) การพัฒนาทักษะ ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน ที่รองรับเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต ให้กับบุคลากรในสายวิชาชีพด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และ (๓) การพัฒนา ผู้บริหารระดับสูงของรัฐ ให้มีความเข้าใจและสามารถวางแผนยุทธศาสตร์ การน าเทคโนโลยีดิจิทัลไปพัฒนา ภารกิจขององค์กรที่สอดคล้องกับสถาปัตยกรรมองค์กรของหน่วยงาน ตลอดจนสามารถสร้างคุณค่าจากข้อมูล ขององค์กรและเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างหน่วยงานของรัฐ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อสาธารณะ


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 23 ประเด็นการพัฒนาตามแนวทางการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ พ.ศ. 2566 – 2570 ของส านักงาน ก.พ.


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 24 แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงพาณิชย์ พ.ศ. 2566-2570 กระทรวงพาณิชย์ได้จัดท าแผนปฏิบัติราชการระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2566-2570) เพื่อให้มีความเชื่อมโยง ของนโยบายและน าไปสู่กรอบแนวทางในการขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติของกระทรวงพาณิชย์ ให้บรรลุวิสัยทัศน์ที่ มุ่งเน้น “เป็นองค์กรหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าด้วยการตลาด 5.0 ภายในปี 2570” ภายใต้บริบท ที่ตอบสนองและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้ประกอบการ เกษตรกร ประชาชน รวมทั้งผลักดันเศรษฐกิจการค้า ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน โดยมีประเด็นที่เกี่ยวข้องกับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดังนี้ ประเด็นที่ 1 พัฒนาศักยภาพทางการค้าของเกษตรกรและผู้ประกอบการ โดยมีเป้าหมาย ดังนี้ 1) เกษตรกรและผู้ประกอบการในชุมชนมีรายได้เพิ่มขึ้น/มูลค่าการค้า : การพัฒนาทักษะและ องค์ความรู้แก่ผู้ประกอบการชุมชนในการปรับตัวสู่ธุรกิจรูปแบบใหม่ๆ เช่น การส่งเสริมการพัฒนากลไกและ โครงสร้างดูดซับมูลค่าทางเศรษฐกิจและการกระจายรายได้กลับสู่ท้องถิ่น 2) ผู้ประกอบการได้รับการพัฒนาและส่งเสริมเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ที่มีบทบาทต่อระบบ เศรษฐกิจมากขึ้น : การสร้างโอกาสและขยายช่องทางการตลาดสินค้าอุตสาหกรรมและบริการแห่ง ส่งเสริม ผู้ประกอบการให้ขับเคลื่อนธุรกิจด้วยเทคโนโลยี นวัตกรรมใหม่ๆ และส่งเสริมผู้ประกอบการทุกระดับให้ สามารถขยายช่องทางการตลาดในการท าธุรกิจพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ประเด็นที่ 2 พัฒนาระบบนิเวศทางการค้า โดยมีเป้าหมาย เพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันทาง การค้าไทยเพิ่มขึ้น : การพัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบ ข้อจ ากัด มาตรฐาน สิทธิประโยชน์ต่างๆ และอ านวย ความสะดวกภาคธุรกิจตามกรอบ Doing Business ส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SMEs ให้สามารถแข่งขัน ได้โดยการเข้าถึงแหล่งเงินทุนในการประกอบธุรกิจ และส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัย นวัตกรรม รวมทั้งพัฒนาและเชื่อมโยงระบบข้อมูล/การเตือนภัย/การเปลี่ยนแปลงของปัจจัยเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อการค้า และการลงทุน ประเด็นที่ 4 ยกระดับองค์กรให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมธรรมาภิบาล โดยมีเป้าหมาย พัฒนา องค์กรมีประสิทธิภาพและโปร่งใส : การพัฒนาระบบและรูปแบบและช่องทางการบริการประชาชนให้มีความ สะดวก รวดเร็ว พัฒนาและขับเคลื่อนภารกิจเชิงยุทธศาสตร์ บริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์รวมทั้งพัฒนา บุคลากรทุกระดับให้มีศักยภาพสูงและมีความพร้อมส าหรับการตลาด 5.0 และส่งเสริมการปฏิบัติหน้าที่ของ ข้าราชการและเจ้าหน้าที่ให้มีความใสสะอาด ปราศจากพฤติกรรมที่ส่อไปในทางทุจริต ยุทธศาสตร์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระยะ 5 ปี(พ.ศ. 2566 – 2570) ประเด็นที่ 1 ยกระดับการให้บริการด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ (Go Digital) แนวทางการพัฒนา พัฒนาระบบให้บริการเป็นดิจิทัลตลอดกระบวนการให้บริการตั้งแต่ต้นจนจบ (End to End Process) พัฒนาคลังข้อมูลธุรกิจให้มีประสิทธภาพ น าไปใช้ประโยชน์ได้ในเชิงธุรกิจ สร้างนวัตกรรมการ ให้บริการ ส่งเสริมการเข้าถึงบริการได้สะดวก ทุกที่ ทุกเวลา เป้าหมาย 1) กระบวนงานตามคู่มือประชาชนปรับเปลี่ยนเป็นบริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น 2) ผู้รับบริการมีการใช้บริการดิจิทัลเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับการใช้ช่องทางปกติ 3) บริการดิจิทัลมีประสิทธิภาพและมีคุณภาพ เป็นที่ยอมรับของผู้รับบริการ


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 25 ประเด็นที่ 2 พัฒนาธุรกิจไทยให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง (Nurture & Growth) แนวทางพัฒนา ส่งเสริม บ่มเพาะ ให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนสู่การด าเนินธุรกิจที่มุ่งเน้นเทคโนโลยี นวัตกรรม และการเข้าถึงตลาด โดยการสร้างภาคีความร่วมมือเพื่อให้เกิดการเกื้อหนุนเชื่อมโยงตามห่วงโช่ คุณค่าของธุรกิจ รวมทั้งการส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้วยหลักประกันทางธุรกิจ เป้าหมาย 1) ผู้ประกอบการมีการปรับรูปแบบธุรกิจที่มีการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการ ด าเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น 2) ผู้ประกอบการที่ได้รับการพัฒนามีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง 3) เปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมส่งเสริมพัฒนาผู้ประกอบการในลักษณะ ภาคีความร่วมมือ ประเด็นที่ 3 ส่งเสริมการด าเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน (Sustainable in Business) แนวทางการพัฒนา สร้างธุรกิจโปร่งใสด้วยหลักธรรมาภิบาลธุรกิจ มีระบบตรวจสอบธุรกิจที่มีความ น่าเชื่อถือโดยการเชื่อมโยงระบบงานและข้อมูลภายในเข้าด้วยกัน ส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่ดีในการด าเนิน ธุรกิจ ที่เน้นการใช้ข้อมูลสารสนเทศเพื่อติดตามการปฏิบัติตามกฎหมาย เป้าหมาย 1) ธุรกิจน าหลักธรรมาภิบาลธุรกิจไปใช้ในจการด าเนินธุรกิจเพื่อความยั่งยืน 2) มีระบบการตรวจสอบติดตามธุรกิจที่ทันสมัย น่าเชื่อถือ 3) ติดตามและจัดการข้อร้องเรียนธุรกิจเกี่ยวกับการกระท าผิดกฎหมายได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ประเด็นที่ 4 สร้างองค์กรแห่งนวัตกรรม (Innovative Organization) แนวทางการพัฒนา สร้างนวัตกรรมธุรกิจ (Business Innovation) ที่มีสมรรถนะสูงในการสร้างนวัตกรรม และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัล ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการท างาน พร้อมยกระดับ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพสูง มั่นคงปลอดภัย รวมทั้งพัฒนาปรับปรุงกฎระเบียบ ให้เอื้อต่อ การท างานในยุคดิจิทัล เป้าหมาย 1) พัฒนาศักยภาพทักษะดิจิทัลของบุคลากรเพื่อสนับสนุนการคิดค้นนวัตกรรมบริการภาครัฐ 2) สร้างชุมชนนวัตกรธุรกิจเข้ามามีส่วนร่วมในการเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ ท างานอย่างเป็นรูปธรรม 3) เสริมสร้างสภาพแวดล้อมองค์กรดิจิทัลและนวัตกรรม


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 26 : วิเคราะห์องค์กร และข้อมูลก าลังคนมิติ Gap Analysis (สามารถใช้เครื่องมือได้หลากหลาย) การวิเคราะห์องค์กร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีจุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยง ดังแสดงในตารางที่ 1 ตารางที่ 1 จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และความเสี่ยงของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (HR SWOT analysis) จุดแข็ง (Strengths) จุดอ่อน (Weaknesses) (1) ผู้บริหารมีวิสัยทัศน์ ในการพัฒนาองค์กรและให้ ความส าคัญในการบริหารทรัพยากรบุคคลและการพัฒนา ทรัพยากรบุคคล (2) องค์กรมีความพร้อมในด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และ บุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมีความเชี่ยวชาญการ ประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อสนับสนุนการท างาน (3) บุคลากรมีองค์ความรู้ที่หลากหลายสามารถบูรณาการ ในการท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (4) บุคลากรมีความเชี่ยวชาญเชิงลึกในสายงานที่ปฏิบัติ (5) บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจถึงภารกิจในภาพรวมของ กรม (6 กระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคลด าเนินการตาม ระเบียบกฎหมายอย่างเคร่งครัด (7) การเสริมสร้าง competency ของบุคลากรในหน่วยงาน อย่างต่อเนื่องทั้ง soft skill และ hard skill (8) สร้างความก้าวหน้าในสายงานให้แก่บุคลากรใน หลากหลายรูปแบบ เช่น การปรับปรุง โครงสร้างองค์กร การสับเปลี่ยนโยกย้ายต าแหน่งงาน เป็นต้น(9) บุคลากรยึด มั่นในค่านิยมการท างานเพื่อประชาชนและส่วนรวม (1) การน าเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหาร ทรัพยากรบุคคลยังไม่ครอบคลุมทุกกระบวนการ เช่น การ บันทึกเวลาการปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการ (2) อุปกรณ์อ านวยความสะดวกในการท างานไม่เพียงพอ (3) อัตราก าลังคนด้านเทคโนโลยีไม่สอดคล้องกับปริมาณ งานตามนโยบายและข้อสั่งการของรัฐบาล รวมทั้งงานตาม ภารกิจของกรมที่เพิ่มมากขึ้น (4) บุคลากรคุณภาพลาออกเมื่อชดใช้ทุนครบถ้วน (5) บุคลากรไม่เห็นความส าคัญในการพัฒนาตนเอง เท่าที่ควร (6) ยึดติดกับการปฏิบัติงานในรูปแบบเดิม ขาดการยอมรับ และเปลี่ยนแปลงตามสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไป (7) ขาดระบบการท างานเพื่อช่วยให้บุคลากรมีบรรยากาศ ในการท างานที่ดีขึ้น สร้างความรัก ความผูกพัน และความมี ส่วนร่วมให้กับบุคลากรในองค์กร โอกาส (Opportunities) อุปสรรค (Threats) (1) นโยบายของรัฐบาลที่เน้นการพัฒนาคุณภาพชีวิต สังคม ให้มีความเสมอภาคและเป็นธรรม การพัฒนาและเสริมสร้าง ศักยภาพคนให้มีประสิทธิภาพ (2) นโยบายของรัฐบาลที่ส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมและ จริยธรรมให้แก่ข้าราชการทุกระดับอย่างจริงจังท าให้ บุคลากรมีคุณธรรมและเกิดความโปร่งใสในการ ให้บริการ ประชาชน (3) มีเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพด้านการบริหาร และพัฒนาทรัพยากรบุคคล เช่น วิเคราะห์ข้อมูล คาดการณ์ แนวโน้ม และสนับสนุนการตัดสินใจของ HR (4) มีเทคโนโลยี e-Learning มาใช้เพื่อพัฒนาทักษะและ ความรู้ของบุคลากร และใช้ AI ในการสรรหาและคัดเลือก บุคลากร (1) มาตรการบริหารและพัฒนาก าลังคนภาครัฐก าหนดให้มี การควบคุมอัตราก าลังและค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรให้ เหมาะสมกับภารกิจ (2) การแข่งขันทางเศรษฐกิจที่สูงมาก ท าให้เกิดการแข่งขัน ในการสรรหาบุคลากรที่มีศักยภาพ (3) เสถียรภาพทางการเมืองส่งผลต่อนโยบายการบริหาร บุคคล ท าให้การปฏิบัติงานขาดความต่อเนื่อง (4) งบประมาณในการพัฒนาทรัพยากรบุคคลที่ได้รับ ไม่ เพียงพอ (5) ความไม่ยืดหยุ่นของระบบราชการ กฎระเบียบขั้นตอน มีความล่าช้า


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 27 ความท้าทายของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า และ Gap Analysis • สถานการณ์ของโลกปัจจุบันที่เต็มไปด้วยความผันผวน (Volatility) ความไม่แน่นอน (Uncertainty) ความสลับซับซ้อน (Complexity) และความคลุมเครือ (Ambiguity) หรือที่เรียกโดยย่อว่า “VUCA World” นั้น ส่งผลให้เกิดความเปลี่ยนแปลงพลิกผันอย่างรวดเร็ว ปัญหาที่เกิดขึ้นจากภูมิภาคหนึ่ง ของโลกอาจเชื่อมโยงส่งผลกระทบต่อภูมิภาคอื่นหรือขยายวงกว้างเป็นผลกระทบในระดับสากลอย่างรวดเร็ว โดยมีปัจจัยกระตุ้นคือ (1) พัฒนาการของเทคโนโลยีที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว (2) ความพยายามของ คนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองที่หลากหลายและแตกต่างจากมุมมองเดิมอย่างสิ้นเชิง (3) กลุ่มธุรกิจที่มีขนาดเล็กที่มี รูปแบบการท างานและแนวคิดที่แตกต่างในการตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และ (4) ความรวดเร็ว และความสะดวกในการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร • นอกจากนั้น บริบทภายในประเทศก็มีส่วนผลักดันให้มีการพัฒนาบุคลากรภาครัฐในทุกมิติ เพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงของโลก ซึ่งต้องตอบโจทย์ยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-2579) (ยุทธศาสตร์ที่ 6 ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบบริหารจัดการภาครัฐ) และแนวทางการพัฒนาบุคลากร ภาครัฐ พ.ศ.2563-2566 ของส านักงาน ก.พ. ที่มีความมุ่งหวังให้หน่วยงานและบุคลากรภาครัฐได้รับ ความไว้วางใจจากประชาชน ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี มีขนาดเล็กและโปร่งใส และสร้างผลผลิตและนวัตกรรม เพื่อการพัฒนาประเทศและยกระดับชีวิตของประชาชน • กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นหน่วยงานที่มีบทบาทเกี่ยวข้องกับการประกอบธุรกิจโดยตรง โดยมีภารกิจหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ด้านบริการจดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจ ด้านส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ และด้าน สร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ ซึ่งกรมมีวิสัยทัศน์ “เป็นองค์กรภาครัฐชั้นน าด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบภายใน ปี 2570 และสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม” โดยกรมได้มอบทิศทางการด าเนินงาน ภายใต้แคมเปญ “DBD Beyond Development” ในการเสริมพลังสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ประกอบการและ SME ไทย ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศให้มีความมั่นคง • ที่ผ่านมากรมได้สร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อให้บริการแก่ภาคธุรกิจและประชาชนด้วยเทคโนโลยี ที่ทันสมัย มีความสามารถในการวางแผนบริหารการพัฒนารายงานและบริการข้อมูลผลประกอบการของธุรกิจ ในประเทศไทย รวมทั้งมี Application ที่มีความครอบคลุม รวดเร็ว ใช้ประโยชน์ได้จริง สามารถบูรณาการ ระหว่างหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อให้บริการและอ านวยความสะดวกแก่ภาคธุรกิจ ซึ่งสอดคล้องกับ โอกาสทั้งนโยบาย Digital Economy ของรัฐบาล กระแสการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจและสถานการณ์ Covid-19 ที่เป็นตัวเร่ง บังคับให้ทุกธุรกิจต้องเข้าสู่โลกออนไลน์เต็มตัว ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการจึงมีความ คาดหวังและพฤติกรรมใหม่ในการใช้บริการในทุกช่องทางที่ต้องการความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง โปร่งใส อย่างครบวงจรมากยิ่งขึ้น • อย่างไรก็ตาม บุคลากรกรมทุกคนในฐานะผู้ส่งมอบบริการ เปรียบเสมือนตัวแทนของกรมที่ สร้าง First Impression จึงต้องเตรียมความพร้อม ปรับตัวรับการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจ และองค์กร การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้ใช้บริการไปใช้ระบบออนไลน์ รวมทั้งผลกระทบที่จะเกิดต่อ การด าเนินงานในวิถี Next Normal ซึ่งเมื่อมองถึงความท้าทาย (Challenge) ในการบริหารและพัฒนาคน ในยุค Disruption ที่องค์กรต้องเผชิญ (Facing) ส าหรับกรม มี 3 เรื่องใหญ่ๆ ที่กรมสามารถพัฒนาต่อยอดได้ ได้แก่


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 28 (1) การที่องค์กรเปลี่ยน และถูก disrupt ซึ่งถือว่าต้องเปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ดังนั้น เป็นเรื่องของ Change Management ทั้งการพัฒนาองค์กรให้มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทันสมัย ทั้งหน้าบ้านและหลังบ้าน รวมทั้งการสร้างวัฒนธรรมการท างานที่เอื้อต่อความคิดสร้างสรรค์ ให้สอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ และเป้าหมายขององค์กรการ ซึ่งสิ่งที่จะต้องตามมาคือ People transformation ท าอย่างไรที่จะ สร้างความเข้าใจและท าให้ผู้คนในองค์กรมีทัศนคติและกระบวนการคิดที่ตอบรับกับการเปลี่ยนแปลง ท าอย่างไรให้คนพร้อมที่จะก้าวข้ามสิ่งเดิมๆ ไปสู่สิ่งใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ซึ่งเป็นเรื่องของการปรับ mindset พัฒนา skill set ต่างๆ โดยผสานการท างานและการใช้ชีวิตอย่างสมดุล ดังนั้นในอีกด้านหนึ่ง จึงเป็นบทบาทที่ ส าคัญของงาน HR ในการช่วยให้คนก้าวข้ามข้อจ ากัดต่างๆ ของ mindset และ skill set ของตัวเอง โดย HR จะต้องเตรียมพร้อมพัฒนาเพื่อให้สอดคล้องกับกระแสใหม่ๆ ของโลก (2) การบริหารความหลากหลายของ Generation ปัจจุบันเราแบ่งกลุ่มคนอยู่ 5 กลุ่ม หลัก คือ Baby Boomer, Gen-X, Gen-Y, Gen-Z (Millennials) หรือ Gen-Alpha (Digital Natives) ซึ่งถูก แบ่งตามลักษณะที่เป็น พฤติกรรม ความคิด ทัศนคติ ไลฟ์สไตล์ ความรู้ความสามารถ ค่านิยม ที่แตกต่างกันไป ตามแต่ละยุคแต่ละสมัย ส าหรับยุคนี้คือยุคของ New Generation คนกลุ่มนี้จะมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในองค์กร เพราะในอนาคตพวกเขาจะเข้ามาแทนที่คนรุ่นเก่าและจะเปลี่ยนมุมมองการท างานให้มีความหลากหลายมาก ขึ้น ซึ่งปัจจุบันกรมก็มีการปรับ Strategic Direction ในเรื่องของการรับ Talent เข้ามาท างานมากขึ้น ตลอดจนจัดโปรแกรมในการพัฒนาและดูแล Talent ที่เชื่อมโยงกับ Career Path ในขณะเดียวกันกรม เชื่อมโยงองค์ความรู้ของคนรุ่นเก่าให้สามารถถ่ายทอดส่งต่อประสบการณ์ แก่คนรุ่นใหม่ ตลอดจนสนับสนุนให้ คนแต่ละกลุ่มเข้าใจความเห็นต่างทางความคิดกันได้ ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งกระบวนการสร้างความหลากหลายให้ เกิดขึ้นในองค์กร (3) การสร้างระบบนิเวศในการท างาน (Ecosystem) ที่ส่งเสริมให้องค์กรมี สภาพแวดล้อมและระบบการท างานที่เอื้อต่อการเรียนรู้ (Learning Ecosystem) พัฒนากรอบความคิดและ กรอบทักษะส าหรับการท างานและการด าเนินชีวิต พัฒนาเครื่องมือหรือเทคโนโลยีที่ตอบสนองความต้องการ ในการเรียนรู้ที่แตกต่างกัน ทั้งในมิติระดับการปฏิบัติงาน (Job Level) และสายอาชีพ (Job Family) สร้าง บรรยากาศและสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมให้บุคลากรมีคุณภาพชีวิตที่ดีทั้งร่างกายและจิตใจ ตลอดจนสร้าง วัฒนธรรมองค์กรที่ส่งเสริมให้บุคลากรเรียนรู้ พัฒนาตนเอง และมีแนวคิดเชิงนวัตกรรม ซึ่งเป็นเรื่องที่มีผลต่อ การพัฒนาบุคลากรอย่างยิ่ง


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 29 : การพัฒนาบุคลากรของหน่วยงานต้นแบบภายนอก (เอกชนหรือต่างประเทศ) ที่สอดคล้องกับ บริบทของส่วนราชการ 1) แนวโน้มที่เป็น Megatrend และส่งผลกระทบต่อประเทศ ได้แก่ เศรษฐกิจดิจิทัล โลกาภิวัตน์ เทคโนโลยีใหม่ๆ โมเดลธุรกิจที่เน้นความร่วมมือ สังคมผู้สูงอายุ และเศรษฐกิจฐานชีวภาพ เศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงเศรษฐกิจหมุนเวียน (BCG Economy) 2) ทักษะที่จ าเป็นในโลกอนาคต ตามการวิจัยของ World Economic Forum ได้แก่ ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการคิดเชิงสร้างสรรค์ ทักษะความรู้ทางเทคโนโลยี ทักษะความขี้สงสัยและใฝ่เรียนรู้ ทักษะความยืดหยุ่นและความคล่องตัว ทักษะการคิดเชิงระบบ ทักษะความรู้ด้าน AI และ Big data ทักษะการ สร้างแรงจูงใจและเข้าใจตัวเอง ทักษะการบริหารจัดการคนเก่ง และทักษะการบริการและเอาใจใส่ลูกค้า การวิเคราะห์ด้านทักษะและองค์ความรุ้ (Training needs) จากการส ารวจความคิดเห็นเกี่ยวกับความจ าเป็นในการพัฒนาความรู้ ทักษะ และคุณภาพชีวิต ของบุคลากรในปีพ.ศ. 2567 บุคลากรมีความเห็นว่าต้องพัฒนาในด้านเหล่านี้มากที่สุด ได้แก่ 1) ความรู้ เกี่ยวกับระเบียบหรือกฎหมาย 2) ความรู้เกี่ยวกับความรู้ความสามารถเกี่ยวกับดิจิทัล 3) ทักษะ Soft skill และ4) ความรู้ที่จ าเป็นต่อการปฏิบัติงาน รายละเอียดดังนี้ 1) ความรู้เกี่ยวกับกฎระเบียบหรือกฎหมาย 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับ ธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ เช่น พรก. ว่าด้วยการประชุมผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ พรบ.ธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์ (2) พรบ.ข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) (3) ระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ (4) ขั้นตอน/วิธีการที่เกี่ยวกับการจดทะเบียนธุรกิจและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และ(5) ความรับผิดและการละเมิด ของเจ้าหน้าที่


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 30 2) ความรู้เกี่ยวกับความรู้ความสามารถเกี่ยวกับดิจิทัล (Digital Literacy) 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีสมัยใหม่และการน ามาใช้ในการท างาน เช่น AI Chatbot metaverse (2) การวิเคราะห์และใช้ประโยชน์จากข้อมูล (3) การออกแบบกระบวนงานและแอปพลิเคชั่นเบื้องต้น (4) Data Visualization และ(5) การรู้เท่าทันสื่อ (Media Literacy) 3) ความรู้เกี่ยวกับทักษะ Soft Skill 5 อันดับแรก ได้แก่ การรักษาสุขภาพกายและจิต (2) ความคิดสร้างสรรค์ (3) ทักษะการคิดเชิงวิเคราะห์ (4) การคิดเชิงออกแบบ และ(5) การน าเสนอและการ สื่อสาร 4) ความรู้ที่จ าเป็นต่อการปฏิบัติงาน 5 อันดับแรก ได้แก่ (1) ภารกิจ ทิศทางของกระทรวง พาณิชย์และกรมพัฒนาธุรกิจการค้า (2) การจัดการและการวิเคราะห์ข้อมูล (3) การบริหารภาครัฐสมัยใหม่ และนโยบายสาธารณะ (4) คุณธรรม ธรรมภิบาล และความรับผิดชอบต่อสังคม และ(5) สถานการณ์เศรษฐกิจ การค้าไทยและระหว่างประเทศเบื้องต้น


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 31 การวิเคราะห์องค์กรและข้อมูลก าลังคนมิติ Gap Analysis • Digital Skill จากการวิเคราะห์ข้อมูลทั้งในเชิงมหภาค ข้อมูลความต้องการการฝึกอบรมของ เจ้าหน้าที่ และข้อมูลที่เกี่ยวข้องอื่นๆ พบว่าแม้ว่ากรมพัฒนาธุรกิจการค้าจะมีบุคลากรที่มีความรู้หลากหลาย และมีความรู้ในเชิงลึกในสายงานของตน อีกทั้งมีการสั่งสมประสบการณ์ในการท างาน แต่พบว่าบุคลากรส่วน ใหญ่ยังมีทักษะด้านดิจิทัลอยู่ในระยะก่อนเริ่มแรก (Pre-early) รวมถึงยังมีบุคลากรด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ และการวิเคราะห์ข้อมูลไม่เพียงพอต่อการพัฒนาบริการดิจิทัล ซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงอย่างมากส าหรับกรมใน การพัฒนาสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลตามวิสัยทัศน์ที่ตั้งไว้ นอกจากนี้ จุดอ่อนดังกล่าวยังไม่สอดคล้องต่อแนวโน้ม ระดับโลกที่มุ่งเน้นสู่เศรษฐกิจดิจทัล เทคโนโลยีใหม่ๆ รวมไปถึงทักษะความรู้ด้าน AI และ Big data และทักษะ ด้านเทคโนโลยี ดังนั้นการพัฒนาด้านเทคโนโลยีและทักษะดิจิทัลจึงมีความส าคัญเป็นอย่างยิ่งส าหรับบุคลากรกรม พัฒนาธุรกิจการค้า โดยไม่เพียงเป็นการพัฒนาองค์ความรู้และทักษะด้านดิจิทัลเท่านั้น แต่จะต้องด าเนินการ เปลี่ยนทัศนคติของเจ้าหน้าที่ ให้มี Digital Mindset และมองเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นผู้ช่วยในการท างาน ไม่ใช่ภาระ หรือความเสี่ยงที่จะมาแย่งงานของเจ้าหน้าที่ไป • Business Skill Gap อีกอย่างหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ของกรมสามารถพัฒนาได้อีกในอนาคตคือ การท าความเข้าใจการท าธุรกิจของภาคเอกชน ซึ่งประกอบไปด้วยข้อมูลการท าธุรกิจ การท าการตลาด การท า แบรนด์ซึ่งเป็นภารกิจอย่างหนึ่งของกรมในการสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจ รวมถึงให้ค าปรึกษาธุรกิจ นอกจากนี้ การท าแบรนด์หรือธุรกิจให้กับโครงการหรือภารกิจที่ตนเองรับผิดชอบก็จะเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถท าให้ เจ้าหน้าที่ของกรมให้บริการได้อย่างมีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น • Agiltibility ความเสี่ยงอีกประเด็นหนึ่งและกลายเป็น Gap ที่องค์กรต้องเผชิญคือองค์ความรู้ และกฎระเบียบที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ซึ่งแม้ว่าเจ้าหน้าที่ของกรมจะมีประสบการณ์ในการท างานสูง แต่หากไม่สามารถตามกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลงได้ทัน ตั้งแต่กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลดิจิทัล ข้อมูลส่วน บุคคล หรือข้อมูลเฉพาะอย่างมาตรฐานการบัญชีที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ก็จะส่งผลต่อการปฏิบัติงานอย่าง มีประสิทธิภาพของกรมอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ • Generation Gap นอกจากนี้ กรมยังมีความเสี่ยงอีกอย่างหนึ่งที่ส าคัญคือความแตกต่าง ระหว่างบุคลากรของแต่ละรุ่น ซึ่งท าให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า Generation gap และอาจท าให้เกิดความไม่เข้าใจกัน ความขัดแย้ง อันจะท าให้ประสิทธิภาพของการท างานของกรมในภาพรวมน้อยลงได้ในอนาคต หากปัญหานี้ไม่ได้ รับการป้องกันหรือแก้ไข ปัญหาหนึ่งของเจ้าหน้าที่รุ่นใหม่คือทัศนคติและแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงให้ ความส าคัญกับความผูกพันกับองค์กรน้อยลง และการให้ความส าคัญกับ work-life balance มากยิ่งขึ้น ท าให้กรมอาจต้องปรับวัฒนธรรมและวิธีการท างานขององค์กรให้เข้ากับคุณลักษณะของบุคลากรกลุ่มใหม่ที่ ก าลังจะเข้าสู่องค์กรในอนาคตอีกด้วย


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 32 บทที่ 3 แผนพัฒนาบุคลากร กรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 - 2570 3.1 การเชื่อมโยงประเด็นส าคัญสู่แผนพัฒนาบุคลากร 3.2 รายละเอียด วิสัยทัศน์ / วิสัยทัศน์การพัฒนาบุคลากร วิสัยทัศน์ HR DBD บุคลากรมีศักยภาพสูงในการขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นหน่วยงานภาครัฐชั้นน าด้านบริการดิจิทัลด้วย นวัตกรรม พันธกิจ 1) บริหารอัตราก าลังให้เพียงพอและสอดคล้องกับยุทธศาสตร์องค์กร 2) เสริมสร้างองค์ความรู้บุคลากรสู่การสร้างนวัตกรรมให้สามารถตอบสนองต่อทิศทางการ เปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล 3) ส่งเสริมบุคลากรให้มีคุณธรรม จริยธรรมและหลักธรรมาภิบาลในการปฏิบัติตน เสริมสร้างขวัญ และก าลังใจสู่คุณภาพชีวิตที่มีความสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการท างาน 4) พัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์องค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพ 5) พัฒนาสภาพแวดล้อมให้บุคลากรมีคุณภาพที่ดีเพื่อเอื้อต่อการเรียนรู้และพัฒนา เป้าประสงค์ บริหารและพัฒนาบุคลากรให้มีศักยภาพสูงเพื่อขับเคลื่อนองค์กรสู่การเป็นหน่วยงานภาครัฐชั้นน าด้าน บริการดิจิทัลด้วยนวัตกรรม


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 33 - ประเด็นพัฒนา (สอดคล้องกับประเด็นวิเคราะห์ข้อ 2.6 และแนวทางการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ พ.ศ. 2566 – 2570) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้จัดท าและด าเนินงานตามแผนกลยุทธ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากร บุคคลตามแนวทาง HR Scorecard ทั้ง 5 มิติ จึงได้ผลการด าเนินงานตามมิติและประเมินผลการด าเนินการ ตามแผนกลยุทธ์ สรุปได้ดังนี้ มิติที่ 1 : ความสอดคล้องเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Alignment) กลยุทธ์ : การวางแผนและบริหารด้านทรัพยากรบุคคลรองรับการขับเคลื่อนภารกิจตาม ยุทธศาสตร์ 1.1 ปรับปรุงแผนกลยุทธ์การบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยการทบทวนแผน กล ยุทธ์เดิม ทบทวนผลการด าเนินงานที่ผ่านมา วิเคราะห์สถานกาณ์ในปัจจุบัน รวมถึงนโยบายและภารกิจของ กรม เพื่อผลักดันการด าเนินการด้านบริหารและพัฒนาทรัพยากรบุคคลให้มีประสิทธิภาพเกิดประสิทธิผล น าไปสู่การพัฒนาและเพิ่มขีดความสามารถและสมรรถนะของบุคลากร 1.2 วางแผนก าลังคนทดแทนการเกษียณ เป็นการบริหารอัตราก าลังบุคลากรเพื่อให้เกิด ความต่อเนื่องในการปฏิบัติงาน สามารถสรรหา จัดสรรบุคลากรเข้ามาปฏิบัติงานแทนต าแหน่งที่ว่างลงได้อย่าง เหมาะสมและทันต่อความต้องการ 1.3 การสร้างความก้าวหน้าในสายอาชีพ โดยการจัดการบรรยายเพื่อสร้างความเข้าใจการ จัดท าเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ เพื่อเป็นการให้ความรู้และสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้แก่บุคลากร ในเรื่องของการจัดท าเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ทราบถึงความส าคัญ ขั้นตอน กระบวนการในการจัดท าเส้นทางความก้าวหน้าในสายอาชีพ 1.4 พัฒนาก าลังคนเพื่อดึงดูดให้ได้มาและรักษาไว้ของกลุ่มข้าราชการและผู้ปฏิบัติงานที่มี ทักษะหรือสมรรถนะสูง ประกอบด้วย แผนพัฒนาข้าราชการผู้มีผลสัมฤทธิ์สูง (Hipps) เข้าร่วมโครงการ คัดเลือกบุคลากรเพื่อเข้ารับการศึกษา/ฝึกอบรมทุนรัฐบาล (ส านักงาน ก.พ.) มิติที่ 2 : ประสิทธิภาพของการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Operational Efficiency) กลยุทธ์ : พัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล และเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการบริหาร ทรัพยากรบุคคลอย่างมีประสิทธิภาพ 2.1 ปรับปรุงข้อมูลบุคลากรในระบบสารสนเทศ (HR Self Service /DPIS /SEIS) ให้ถูกต้อง ครบถ้วนและเป็นปัจจุบัน สามารถน ามาใช้ในการวางแผนและสนับสนุนการบริหารงานบุคคลและพัฒนา บุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2.2 ด าเนินการสรรหาบุคลากรให้ได้จ านวนตรงตามกรอบต าแหน่งที่ได้รับจัดสรร 2.3 การเลื่อนระดับในต าแหน่งที่สูงขึ้น เพื่อให้ข้าราชการมีความก้าวหน้าในหน้าที่ เพิ่มโอกาสในการแข่งขันด ารงต าแหน่งในระดับที่สูงขึ้น มิติที่ 3 ประสิทธิผลของการบริหารทรัพยากรบุคคล (HRM Program Effectiveness) กลยุทธ์ : พัฒนาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะ สมรรถนะสูง และมีการบริหารจัดการองค์ความรู้ อย่างเป็นระบบ


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 34 3.1 ส่งเสริมให้บุคลากรได้รับการอบรมแผนพัฒนาบุคลากรประจ าปี เพื่อเป็นการพัฒนา ความรู้ ทักษะ สมรรถนะ ความเชี่ยวชาญในสายงาน รวมถึงองค์ความรู้และทักษะที่จ าเป็นต่อการปฏิบัติงานใน อนาคต 3.2 จัดกิจกรรม Knowledge Management แลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างหน่วยงาน เพื่อให้ บุคลากรมีความรู้ ความเข้าใจในทุกมิติของกรม 3.3 จัดท าคู่มือการปฏิบัติงานของหน่วยงาน เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติงานร่วมกัน มีมาตรฐานและแบบแผนเหมือนกัน รวมถึงช่วยลดระยะเวลาในการเรียนรู้งานของผู้มาปฏิบัติงานใหม่ มิติที่ 4 ความพร้อมรับผิดชอบด้านการบริหารทรัพยากรบุคคล (HR Accountability) กลยุทธ์ : ส่งเสริมระบบบริหารทรัพยากรบุคคลโดยยึดหลักคุณธรรม จริยธรรม และหลักธรรมาภิบาล 4.1 บริหารทรัพยากรบุคคลอย่างเป็นธรรม มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพื่อป้องกันไม่ให้ เกิดข้อร้องเรียนในกระบวนการบริหารทรัพยากรบุคคล ทั้งจากบุคคลภายในและบุคคลภายนอกองค์กร โดยมี ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายและสร้างความเข้าใจด้านการบริหารทรัพยากรบุคคลเพื่อให้เกิดความเข้าใจ และเกิดความตระหนักร่วมกัน 4.2 ส่งเสริมและพัฒนาทรัพยากรบุคคล ตามหลักคุณธรรม จริยธรรม และต่อต้านการ คอร์รัปชั่น ให้แก่บุคลากร มิติที่ 5 คุณภาพชีวิตและความสมดุลระหว่างชีวิตกับการท างาน (Quality of Work Life) กลยุทธ์ : ส่งเสริมพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตกับการท างาน 5.1 ส่งเสริม และยกย่องข้าราชการที่ประพฤติ ปฏิบัติงานเป็นแบบอย่างให้ข้าราชการอื่นได้ ประพฤติปฏิบัติตาม และพัฒนาให้ดียิ่งขึ้น ทั้งในด้านการด ารงตน การปฏิบัติตนให้เป็นที่ยอมรับกับบุคคล ผู้เกี่ยวข้องทั้งในหน้าที่ราชการและสังคม เช่น การคัดเลือกข้าราชการดีเด่นประจ าปี เพื่อเป็นขวัญก าลังใจใน การปฏิบัติงาน เป็นต้น 5.2 จัดกิจกรรมเพื่อเสริมสร้างความสมดุลระหว่างชีวิตและการท างาน ซึ่งการแบ่งเวลาใน การท างานและการใช้ชีวิตให้สมดุลกัน มีส่วนสร้างวินัยในการท างานที่ดี และมีระบบระเบียบในการท างานที่มี ประสิทธิภาพ สร้างประโยชน์ให้องค์กรในระยะยาว สุขภาพร่างกายที่แข็งแรง และสุขภาพจิตใจที่ดี ท าให้เรา ท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สร้างศักยภาพให้กับองค์กรได้ในระยะยาว 5.3 จัดกิจกรรมเสริมสร้างบุคลากรให้เกิดความผูกพันกับองค์กร รวมถึงมีการส ารวจความ ผูกพันของบุคลากรต่อองค์กร เพื่อปรับปรุงและพัฒนาให้เกิดความผูกพันรักษาไว้ซึ่งบุคลากรที่มีศักยภาพ 5.4 มีแนวทางการปฏิบัติราชการที่รองรับชีวิตและการท างานวิถีใหม่ (New Normal) ด้วยสภาพสังคมในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและเกิดสภาพการณ์ต่างๆที่มีผลกระทบต่อ การด าเนินชีวิตและการปฏิบัติงาน เช่น การเกิดโรคอุบัติใหม่ ฝุ่น PM 2.5 เป็นต้น จึงควรก าหนดแนวทาง รองรับการปฏิบัติงาน เพื่อให้บุคลากรได้ปรับตัวและปรับเปลี่ยนวิธีการปฏิบัติงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ ที่อาจเกิดขึ้น


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 35 โดยได้แบ่งประเด็นหลักและหัวข้อหลักในการพัฒนาบุคลากร ดังนี้ (1) Strategic Marketing and Brand Mastery สร้างผู้เชี่ยวชาญการตลาด และแบรนด์เชิงกลยุทธ์ โดยสร้างองค์ความรู้และทักษะที่เกี่ยวข้องกับการตลาดส าหรับภาครัฐ เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการตลาดและการประชาสัมพันธ์ หลักการสื่อสารและการสร้างแบรนด์ และ การสร้างสื่อประชาสัมพันธ์ (2) Leadership, People, and Organizational Excellence พัฒนาความ เป็นเลิศด้านภาวะผู้น า การบริหารทรัพยากรมนุษย์ และองค์การ โดยพัฒนาทักษะภาวะผู้น า การสอนงาน การบริหารและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การบริหารจัดการคนเก่ง (Talent management) การสร้างและปรับแนวคิด (Mindset) ในการเป็นผู้น า โดยเฉพาะในกลุ่มผู้บริหาร ข้าราชการระดับช านาญการพิเศษและกลุ่ม Talent เพื่อให้คนกลุ่มนี้เป็นแรงส าคัญในการผลักดัน องค์กรสู่การเป็นองค์กรดิจิทัลที่มีสมรรถนะสูง (3) In-depth Specialized Knowledge สร้างผู้เชี่ยวชาญที่มีองค์ความรู้เชิงลึก โดยพัฒนาองค์ความรู้เชิงลึกที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติงานของบุคลากร เช่น ความรู้ด้านกฎหมายการ จดทะเบียนธุรกิจและธรรมาภิบาลธุรกิจ ข้อมูลธุรกิจ มาตรฐานการบัญชี เป็นต้น (4) Cutting-Edge Innovation and Data Analysis นวัตกรรมและการ วิเคราะห์ข้อมูล สร้างองค์ความรู้และทักษะด้านการสร้างและบริหารนวัตกรรม การวิเคราะห์ข้อมูล เพื่อการพัฒนางาน รวมถึง Innovative และ Agile mindset โดยเรียนรู้ผ่านการอบรมและ การจัดท า Project (5) Work-Life Balance and Solidarity การสร้างคุณภาพชีวิตและความเป็น หนึ่งในองค์กร – ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการดูแลสุขภาพกายและสุขภาพจิต ความเป็นหนึ่งเดียวกัน ในองค์กร ค่านิยมที่เกี่ยวกับชาติและสถาบัน รวมถึงคุณธรรมและจริยธรรมของบุคลากร


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 36 - เป้าหมาย/กลยุทธ์ เป้าหมาย เพื่อด าเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายระดับมหภาค ลดช่องว่างการพัฒนาทักษะ และ บรรลุเป้าหมายวิสัยทัศน์ด้านบุคลากรของกรม (Shaped Skill) โดยพัฒนาบุคลากรให้มีทักษะที่หลากหลายจน เกิดเป็น “X Shaped” ที่จะสามารถท างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ อย่างรวดเร็วถูกต้อง โดยมีกลยุทธ์ในการพัฒนาบุคลากรตั้งแต่ระดับบุคคลและระดับทีม ดังนี้ กลยุทธ์ที่ 1 พัฒนาบุคลากรรายบุคคล (IDP) การประเมินสมรรถนะหลัก Functional Competency (FC) สมรรถนะการบริหาร เพื่อจัดท า IDP โดยบุคลากร น าสรุปผลการพัฒนาตนเอง ของการจัดท า IDP ในรอบก่อน มาวิเคราะห์ช่องว่างในการพัฒนา (Gap Analysis) และสร้างแผนพัฒนาตนเองในรูปแบบโมเดลการเรียนรู้ 70 : 20 : 10 ให้สอดคล้องกับ ความเห็นของผู้อ านวยการส่วน/หัวหน้างาน กลยุทธ์ที่ 2 พัฒนาภาวะผู้น าที่ส่งเสริมความร่วมมือ และสร้างความรักความผูกพันภายในองค์กร จัดท าหลักสูตรและโปรแกรมพี่เลี้ยง การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ กิจกรรม Team Building การสร้างทูต องค์กร เป็นต้น เพื่อขับเคลื่อนภารกิจและสร้างความรักความผูกพันต่อองค์กร กลยุทธ์ที่ 3 ผลักดันการน าระบบบริหารจัดการการเรียนรู้ มาใช้ในองค์กรอย่างเต็มรูปแบบ ส่งเสริมให้บุคลากรเข้าใช้งานและเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาทรัพยากรบุคคลผ่านระบบ HRIS ขององค์กร ได้แก่ การจัดท า IDP การประเมินสมรรถนะ ผ่านระบบ รวมถึงอัพโหลดหลักสูตรวิดีโอการอบรมและองคื ความรู้จากกิจกรรม KM ภายในกรม เพื่อให้บุคลากรสามารถเรียนรู้ได้ตามอัธยาศัย กลยุทธ์ที่ 4 พัฒนาทักษะและองค์ความรู้ของบุคลากร พัฒนาทักษะให้รู้ลึกและรู้รอบ สร้างวัฒนธรรมนวัตกรรม ยกระดับ Mindset พร้อมจัดอบรมใน รูปแบบต่างๆ ที่สอดคล้องกับพฤติกรรมการเรียนรู้ และสนับสนุนการหาองค์ความรู้จากภายนอกองค์กร


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 37 - ตัวชี้วัดและค่าเป้าหมาย (ค่าเป้าหมายตามตัวชี้วัดแต่ละช่วงปีงบประมาณ) ตัวชี้วัดเชิงปริมาณ ปี 2566 จ านวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกิจกรรม ปี 2567 จ านวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกิจกรรม ปี 2568 จ านวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกิจกรรม ปี 2569 จ านวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกิจกรรม ปี 2570 จ านวนผู้เข้าอบรมไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ของกลุ่มเป้าหมายในแต่ละกิจกรรม ตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ ปี 2566 ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในระดับมากหรือมากที่สุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ปี 2567 ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในระดับมากหรือมากที่สุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ปี 2568 ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในระดับมากหรือมากที่สุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ปี 2569 ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในระดับมากหรือมากที่สุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 85 ปี 2570 ผู้เข้าอบรมมีความพึงพอใจในระดับมากหรือมากที่สุด ไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 การติดตามผลการพัฒนาบุคลากร กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคลจะด าเนินการเก็บข้อมูลผลการพัฒนาบุคลากร ผ่านการส ารวจ ความพึงพอใจในกิจกรรม การติดตามผลการน าไปใช้ในการปฏิบัติงานและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม การส ารวจ ความต้องการการฝึกอบรมในปีถัดไป รวมถึงการสัมภาษณ์ พูดคุยกับบุคลากรเกี่ยวกับความพึงพอใจและการน า องค์ความรู้หรือทักษะที่ได้รับจากการอบรมไปใช้ในการพัฒนางาน


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 38 - ภาพสรุปแผนพัฒนาบุคลากร


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 - แผนปฏิบัติงาน (Action Plan) จ าแนกค่าเป้าหมายแต่ละปี กลยุทธ์ ที่ โครงการ/กิจกรรม 1.พัฒนำบุคลำกรรำยบุคคล (IDP) 1 จัดท ำ IDP ผ่ำนระบบ HRIS https://hrm.dbd.go.th/ ร้อยละของบุคล2.พัฒนำภำวะผู้น ำที่ส่งเสริม ควำมร่วมมือ และสร้ำงควำม รักควำมผูกพันภำยในองค์กร 1 C-Suite Leadership Program ร้อยละของกลุ่ม2 Coaching for Leaders : ติดอำวุธ หัวหน้ำงำน สู่กำรเป็นโค้ชมืออำชีพ ร้อยละของกลุ่ม3 กำรสร้ำงนวัตกรพัฒนำกระบวนงำน ทะเบียนและงำนบริกำร (DBD Hackathon) จ ำนวนโครงกำรน ำไปใช้ในกำรบ3. ผลักดันกำรน ำระบบ บริหำรจัดกำรกำรเรียนรู้ มำ ใช้ในองค์กรอย่ำงเต็ม รูปแบบ 1 กำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ถ่ำยทอดคลัง ประสบกำรณ์ (Knowledge Management) และกำรส่งเสริมกำรใช้ ระบบ HRIS ผ่ำน https://hrm.dbd.go.th/ ร้อยละของผู้ที่ใกำรพัฒนำบุคล4. พัฒนำทักษะและองค์ ควำมรู้ของบุคลำกร 1 กำรจัดกิจกรรมพัฒนำทักษะและองค์ ควำมรู้ของบุคลำกร ร้อยละของกลุ่ม2 กำรอบรมควำมรู้กำรอ ำนวยควำมสะดวก ทำงกำรค้ำและภำคธุรกิจ ภำยใต้ภำรกิจ กรม (DBD Onboarding) ร้อยละของกลุ่ม3 กำรสื่อสำรประชำสัมพันธ์เพื่อส่งเสริม กำรตลำดภำครัฐในยุคดิจิทัล ร้อยละของกลุ่ม


39 ตัวชี้วัด กลุ่มเป้าหมาย ค่าเป้าหมาย 2567 2568 2569 2570 ลำกรที่จัดท ำ IDP ปก.,ชก. 85 90 95 100 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม ผู้บริหำร 80 85 90 95 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม ชพ. 80 85 90 95 รนวัตกรรมที่สำมำรถต่อยอด บริกำรประชำชน Talent 2 3 4 5 ใช้ระบบ HRIS ของกรม ใน ำกร เจ้ำหน้ำที่กรม 85 90 95 100 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่กรม 80 85 90 95 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม บุคลำกรใหม่ 80 85 90 95 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม ปก. , ชก. 80 85 90 95


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 กลยุทธ์ ที่ โครงการ/กิจกรรม 4 กำรพัฒนำนักกำรตลำดภำครัฐขับเคลื่อน SME ร้อยละของกลุ่ม5 กำรอบรมควำมรู้ด้ำนตรวจสอบภำยใน ร้อยละของผู้เข้ำเกี่ยวกับกำรตรวสำมำรถน ำไปใช6 กำรอบรมหลักสูตรประกำศนียบัตร กฎหมำยมหำชน ร้อยละของผู้เข้ำเกี่ยวกับกฎหมำน ำไปใช้ในกำรป7 กำรอบรมหลักสูตรกำรบังคับคดี ร้อยละของผู้เข้ำเกี่ยวกับกำรบังคน ำไปใช้ในกำรป8 กำรอบรมด้ำนกำรบัญชีและมำตรฐำน รำยงำนทำงกำรเงินที่เปลี่ยนแปลง ร้อยละของผู้เข้ำเกี่ยวกับมำตรฐสำมำรถน ำไปใช9 กำรอบรมควำมรู้เฉพำะด้ำน (คลัง/ปชส./ HR/ยุทธศำสตร์/พัฒนำSMEs/กฎหมำย) ร้อยละของผู้เข้ำเฉพำะด้ำนในก10 กำรพัฒนำทักษะคอมพิวเตอร์และดิจิทัล ส ำหรับกำรปฏิบัติงำน ระดับทักษะดิจิทระดับปำนกลำง11 กำรพัฒนำบุคลิกภำพและกำรสื่อสำร ในงำนบริกำรประชำชน ร้อยละของกลุ่ม12 กำรสร้ำงทูตองค์กร (DBD Brand Ambassador) จ ำนวนผู้ที่เข้ำร่กำรเป็นทูตองค์


40 ตัวชี้วัด กลุ่มเป้าหมาย ค่าเป้าหมาย 2567 2568 2569 2570 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม ปก. , ชก. 80 85 90 95 ำร่วมกิจกรรมที่มีองค์ควำมรู้ วจสอบภำยในในระดับที่ ช้ในกำรปฏิบัติงำนได้ กลุ่มตรวจสอบ ภำยใน 80 85 90 95 ำร่วมกิจกรรมที่มีองค์ควำมรู้ ำยมหำชนในระดับที่สำมำรถ ปฏิบัติงำนได้ นิติกร 80 85 90 95 ำร่วมกิจกรรมที่มีองค์ควำมรู้ คับคดีในระดับที่สำมำรถ ปฏิบัติงำนได้ นิติกร 80 85 90 95 ำร่วมกิจกรรมที่มีองค์ควำมรู้ ำนกำรบัญชีในระดับที่ ช้ในกำรปฏิบัติงำนได้ กธ. 80 85 90 95 ำร่วมกิจกรรมมีองค์ควำมรู้ ำรปฏิบัติงำน ผู้ปฏิบัติงำนที่ เกี่ยวข้อง 80 85 90 95 ทัลของเจ้ำหน้ำที่กรมอยู่ใน ง-สูง เจ้ำหน้ำที่กรม 60 65 70 75 มเป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่กรม 80 85 90 95 วมอบรมและผ่ำนคุณสมบัติ ค์กร เจ้ำหน้ำที่กรม 10 20 30 40


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 กลยุทธ์ ที่ โครงการ/กิจกรรม 13 กำรอบรมภำษำอังกฤษ และภำษำ อำเซียนเพื่อกำรปฏิบัติงำน ร้อยละของกลุ่มเ14 กำรส่งเสริมคุณธรรมและจริยธรรม ร้อยละของกลุ่มเ15 กำรอบรมให้ควำมรู้ด้ำนป้องกันและ ต่อต้ำนกำรทุจริตให้แก่ข้ำรำชกำรและ เจ้ำหน้ำที่กรมพัฒนำธุรกิจกำรค้ำ ร้อยละของกลุ่มเ16 ควำมรู้ควำมเข้ำใจเกี่ยวกับ พระรำชบัญญัติ ข้อมูลข่ำวสำรของทำงรำชกำร พ.ศ. 2540 ร้อยละของผู้เข้ำเกี่ยวกับ พรบ. ใกำรปฏิบัติงำนได17 Well Being สุขภำพกำยใจ ร้อยละของกลุ่มเ18 กำรอบรมข้ำรำชกำรเกษียณอำยุ ร้อยละของกลุ่มเ


41 ตัวชี้วัด กลุ่มเป้าหมาย ค่าเป้าหมาย 2567 2568 2569 2570 เป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่กรม 80 85 90 95 เป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่กรม 80 85 90 95 เป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่กรม 80 85 90 95 ร่วมกิจกรรมที่มีองค์ควำมรู้ ในระดับที่สำมำรถน ำไปใช้ใน ด้ เจ้ำหน้ำที่กรม 60 65 70 75 เป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม เจ้ำหน้ำที่กรม 80 85 90 95 เป้ำหมำยที่เข้ำร่วมกิจกรรม ข้ำรำชกำรที่ ใกล้ เกษียณอำยุ 80 85 90 95


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 42 3.3 การขับเคลื่อนการด าเนินการ และการติดตามและประเมินผล - การขับเคลื่อนการด าเนินการ (ผู้รับผิดชอบ ผู้ขับเคลื่อน ผู้ประเมินผล) บุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกราย หัวหน้างานและผู้บังคับบัญชา และกลุ่มพัฒนาทรัพยากร บุคคล ส านักงานเลขานุการกรม กรมพัฒนาธุรกิจการค้า - การประชาสัมพันธ์ และสื่อสารในส่วนราชการอย่างทั่วถึง มีการประชาสัมพันธ์เชิญชวนและสื่อสารโครงการการพัฒนาบุคลากรอย่างทั่วถึง ผ่านทั้งช่องทาง ออนไลน์และออฟไลน์ เช่น การสื่อสารผ่านกลุ่มไลน์ การสื่อสารผ่านบันทึกข้อความ และการประกาศตามป้าย ประกาศในลิฟต์โดยสารของกรม - การรายงานผล ติดตาม และประเมินผล 1. กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล ส านักงานเลขานุการกรมประชุมหลังการจัดกิจกรรม 2. กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล ส านักงานเลขานุการกรมมีการรายงานผลหลังการจัดกิจกรรมต่อ ผู้บริหารประเมินผลอย่างต่อเนื่องทั้งระหว่างและหลังการด าเนินกิจกรรม รวมถึงมีการรายงานกับกลุ่มพัฒนา ระบบบริหารทุกไตรมาส 3. วิธีการติดตามผลการพัฒนาอื่นๆ เช่น หัวหน้างานติดตามประเมินผล ประเมินการน าองค์ความรู้ ไปใช้ในงานจริงและการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจริงภายในองค์กร - การเผยแพร่ความก้าวหน้าในการด าเนินการ กลุ่มพัฒนาทรัพยากรบุคคล ส านักงานเลขานุการกรมมีการเผยแพร่ความก้าวหน้าในการด าเนินการ ผ่านเว็บไซต์กรมพัฒนาธุรกิจการค้า - ผลที่คาดว่าจะได้รับ 1. มีกระบวนงานและระบบสารสนเทศใช้ในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ที่มีมาตรฐานทางวิชาการ มีประสิทธิภาพ ถูกต้อง ทันสมัย สามารถขับเคลื่อนยุทธศาสตร์กรมไปสู่เป้าหมายที่ก าหนดได้ 2. บุคลากรมีศักยภาพสอดคล้องกับวิสัยทัศน์และภารกิจขององค์กร และมีการด ารงต าแหน่งที่ตรง ตามความรู้ความสามารถ มีคุณภาพและประสิทธิภาพ ทั้งทางด้านวิชาการและการประสานงาน มี ความสามารถทั้ง Hard Skill และ Soft Skill รวมถึงทักษะที่จ าเป็นในศตวรรษที่ 21 มีความสามารถในการ ปรับตัวและยืดหยุ่น และมีจ านวนที่เพียงพอสอดคล้องกับภารกิจ 3. มีบุคลากรผู้มีคุณภาพและศักยภาพสูงปฏิบัติงานภายในกรม


แผนพัฒนาบุคลากรกรมพัฒนาธุรกิจการค้า พ.ศ. 2567 – 2570 43


Click to View FlipBook Version