ห น้ า | ๔๙
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๗
รหสั วชิ า ท๒๓๑๐๒ รายวิชา ภาษาไทยพ้ืนฐาน จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ ๑ บทพากยเ์ อราวณั เรือ่ ง การอ่านจบั ใจความ
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๓ เวลา ๓ ชัว่ โมง
มาตรฐานการเรยี นรู้ ใช้กระบวนการอา่ นสร้างความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาไปใช้
มาตรฐาน ท ๑.๑ ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดาเนินชีวติ และมนี ิสยั รกั การอา่ น
เข้าใจและแสดงความคดิ เห็นวิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
มาตรฐาน ท ๕.๑ อย่างเห็นคุณคา่ และนามาประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ จรงิ
ตวั ชี้วดั อ่านเรื่องตา่ งๆ แลว้ เขียนกรอบแนวคดิ ผังความคดิ บนั ทึก ย่อความ
ท ๑.๑ ม.๓/๔ และรายงาน
สรปุ เน้อื หาวรรณคดี วรรณกรรม และวรรณกรรมท้องถิน่ ในระดับ
ท ๕.๑ ม.๓/๑ ท่ยี ากยง่ิ ขึ้น
สาระสาคัญ
การศกึ ษาวรรณคดี เรื่อง บทพากย์เอราวัณ ซง่ึ เป็นเร่ืองในระดบั ท่ยี ากยิ่งข้นึ นักเรยี นตอ้ งอ่าน
จับใจความ สรปุ เนอื้ หา และนาความรู้มาเขียนบันทกึ
จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
ความรู้ (K)
๑. สรปุ ใจความสาคญั วรรณคดเี รื่อง บทพากย์เอราวัณได้
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๑. เขยี นบนั ทึกใจความสาคัญจากการอา่ นวรรณคดีเร่ือง บทพากยเ์ อราวณั ได้
สมรรถนะหลกั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑. รักชาติ ศาสน์ กษตั ริย์
๒. ซ่อื สัตย์สจุ รติ
๓. มวี ินัย
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยู่อยา่ งพอเพียง
ห น้ า | ๕๐
๖. มงุ่ มน่ั ในการทางาน
๗. รกั ความเป็นไทย
๘. มีจิตสาธารณะ
แนวความคิดเพือ่ การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑
๑. สาระวชิ าหลัก (Core Subjects)
๒. ทักษะด้านการเรยี นรูแ้ ละนวตั กรรม
๓. ทกั ษะด้านสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี
๔. ทักษะดา้ นชีวติ และอาชพี
สาระการเรียนรู้
การอ่านจบั ใจความจากสือ่ ตา่ งๆ
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ (ขนั้ ตอน/กระบวนการ)
(ชว่ั โมงที่ ๑)
๑. ครูนาภาพชา้ งเอราวณั มาให้นักเรยี นดู แล้วให้นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับลกั ษณะ
ของชา้ งเอราวัณทีป่ รากฏในตอน บทพากย์เอราวัณ
๒. ครอู ธบิ ายถงึ ความสาคัญของช้างในสมัยรัชกาลท่ี ๒ ในสมัยน้ันไทย เราใชธ้ งชา้ งเผือกเปน็
ธงชาตไิ ทยเปน็ ครัง้ แรก เพราะรัชกาลท่ี ๒ ได้ช้างเผือก มา ๓ เชือก คนทั่วไปถวายพระนามพระองค์วา่ พระ
เจ้าช้างเผือก ชา้ งในบทกวนี พิ นธ์ของพระองคจ์ งึ มคี วามยง่ิ ใหญ่ เช่น ชา้ งเอราวณั
๓. นกั เรียนอา่ นวรรณคดเี รอ่ื ง บทพากย์เอราวัณ ครา่ วๆ เพ่ือหาจุดสาคัญของเร่ือง
(ชว่ั โมงที่ ๒)
๔. ตั้งคาถามเกยี่ วกับวรรณคดีเร่ือง บทพากยเ์ อราวัณ และพิจารณาใจความสาคัญที่ผเู้ ขียนกาลงั พดู
ถงึ อยนู่ ัน้ คอื อะไร ทาไมจึงสาคัญ สาคญั อย่างไร และเกย่ี วขอ้ งกับอะไรหรือใครบา้ ง ตอนไหน เมอ่ื ไร และ
อยา่ งไร
๕. นักเรยี นอา่ นซ้าอยา่ งละเอียดเพือ่ คน้ หาคาตอบสาหรับคาถามทีไ่ ด้ต้ังไว้ ขณะท่ีกาลังอ่านอยู่ ถา้ นกึ
คาถามได้อีกกต็ ัง้ เพ่ิมอกี ต้งั ใจอ่านตอ่ ไปจนกว่าจะไดร้ บั คาตอบท่ีต้องการ
๖. จดบันทึกข้อมลู ต่างๆ ท่ีไดจ้ ากการอา่ นวรรณคดีเรื่อง บทพากย์เอราวัณ ในขน้ั ตอนท่ี ๕ โดย
จดบนั ทกึ ในส่วนที่สาคัญและสิ่งท่ีจาเป็น ใช้ข้อความอย่างรัดกมุ หรอื ย่อๆ ตามความเข้าใจของนักเรียน
(ชัว่ โมงที่ ๓)
๗. สรุปใจความสาคญั และเขียนบันทกึ การอ่านวรรณคดเี รือ่ ง บทพากยเ์ อราวณั โดยใช้ภาษาของ
ตนเอง ถ้ายังไม่แน่ใจในบทใดหรอื ตอนใดให้กลบั ไปอ่านซา้ ใหม่
๘. วิเคราะห์ วจิ ารณว์ รรณคดีเร่ือง บทพากยเ์ อราวัณ แล้วแสดงความคิดเหน็ ในประเด็นที่นักเรียนมี
ความคดิ เหน็ สอดคลอ้ งหรือมีความคิดเหน็ ไมส่ อดคล้อง
๙. ครตู รวจประเมนิ ผลการเขยี นบันทกึ วรรณคดีเร่ือง บทพากยเ์ อราวณั นาผลมาพัฒนาผ้เู รยี นและ
ปรบั ปรุงซอ่ มเสริมผ้ทู ีเ่ รยี นอ่อน
สอ่ื (วสั ดุ-อุปกรณ์-สิง่ พิมพ์) / นวตั กรรม / ICT ห น้ า | ๕๑
๑. บัตรภาพ
๒. หนงั สอื เรยี นภาษาไทยพืน้ ฐาน วรรณคดแี ละวรรณกรรม เกณฑ์
รอ้ ยละ ๖๐
แหลง่ การเรยี นรู้ ผ่านเกณฑ์
-
บูรณาการ
ศลิ ปะ - วิธกี ารวาดภาพ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
วิธกี าร เคร่ืองมือ
ตรวจใบงาน แบบบันทกึ คะแนนตรวจใบงาน
กิจกรรมเสนอแนะ
.............................................................................................................................................................................
..............................................................................................................................................................................
ลงชื่อ.....................................................ผู้เขยี นแผนการจดั การเรยี นรู้
................/.................../................
บนั ทึกความเห็นของผ้ตู รวจแผนการจัดการเรยี นรู้
ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรแู้ ล้ว มีความคิดเห็น ดังน้ี
เปน็ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ เนอ่ื งจาก
.................................................................................................................................................... ........................
ลงช่อื .............................................
(...........................................)
ประธานกลมุ่ สาระฯ
ห น้ า | ๕๒
บนั ทกึ หลังสอน
๑๐.ผลการสอน/ผลการเรยี นรู้
ด้านความรู้ (K)
...............................................................................................................................................................
ด้านทักษะ/กระบวนการ (P)
.................................................................................................................. .............................................
ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยม (A)
............................................................................................................................. ..................................
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน/แนวความคิดเพื่อการเรียนรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑
............................................................................................................................. ..................................
๑๑.ปัญหา/อุปสรรค และขอ้ คน้ พบ
...............................................................................................................................................................
.................................................................................................................. .............................................
๑๒.ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข และผลการแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..................................
...............................................................................................................................................................
ลงช่ือ .....................................................ผ้สู อน
(................................................)
ห น้ า | ๕๓
ใบความรู้เร่ือง การอ่านจบั ใจความ
การอ่านจับใจความ คือ การอา่ นที่มุง่ คน้ หาสาระของเรื่องหรือของหนงั สือแต่ละเล่มท่ีเป็นส่วน
ใจความสาคญั และส่วนขยายใจความสาคญั ของเร่ือง
ใจความสาคัญของเรื่อง คือ ขอ้ ความท่ีมีสาระคลุมขอ้ ความอื่นๆ ในยอ่ หนา้ น้นั หรือเรื่องน้นั ท้งั หมด
ขอ้ ความอื่นๆ เป็นเพยี งส่วนขยายใจความสาคญั เท่าน้นั ขอ้ ความหน่ึงหรือตอนหน่ึงจะมีใจความสาคญั ท่ีสุด
เพียงหน่ึงเดียว นอกน้นั เป็นใจความรอง คาวา่ ใจความสาคญั น้ี ผูร้ ู้ไดเ้ รียกไวเ้ ป็นหลายอยา่ ง เช่น ขอ้ คิดสาคญั
ของเร่ือง แก่นของเรื่อง หรือ ความคิดหลกั ของเร่ืองแต่จะเป็นอยา่ งไรกต็ าม ใจความสาคญั กค็ ือ
ส่ิงท่ีเป็นสาระที่สาคญั ที่สุดของเร่ืองนนั่ เอง
ใจความสาคญั ส่วนมากจะมีลกั ษณะเป็นประโยค ซ่ึงอาจปรากฏอยใู่ นส่วนใดส่วนหน่ึงของยอ่ หนา้ ก็
ได้
จุดท่ีพบใจความสาคญั ของเรื่องในแต่ละยอ่ หนา้ มากท่ีสุดคือ ประโยคท่ีอยตู่ อนตน้ ยอ่ หนา้
เพราะผเู้ ขียนมกั บอกประเด็นสาคญั ไวก้ ่อน แลว้ จึงขยายรายละเอียดใหช้ ดั เจน รองลงมาคือประโยคตอนทา้ ย
ยอ่ หนา้
โดยผเู้ ขียนจะบอกรายละเอียดหรือประเดน็ ยอ่ ยก่อน แลว้ จึงสรุปดว้ ยประโยคที่เป็นประเดน็ ไวภ้ ายหลงั
สาหรับจุดท่ีพบใจความสาคญั ยากข้ึนกค็ ือ ประโยคตอนกลางยอ่ หนา้ ซ่ึงผอู้ า่ นจะตอ้ งใชค้ วาม
สังเกตและพจิ ารณาใหด้ ี ส่วนจุดท่ีหาใจความสาคญั ยากท่ีสุดคือยอ่ หนา้ ที่ไม่มีประโยคใจความสาคญั ปรากฏ
ชดั เจน อาจมีประโยค หรืออาจอยรู่ วมๆกนั ในยอ่ หนา้ กไ็ ด้ ซ่ึงผอู้ ่านจะตอ้ งสรุปออกมาเอง
แนวการอ่านจับใจความ
การอา่ นจบั ใจความใหบ้ รรลุจุดประสงค์ มีแนวทางดงั น้ี
๑.ต้งั จุดมุ่งหมายในการอ่านไดช้ ดั เจน เช่น อ่านเพ่ือหาความรู้ เพ่ือความเพลิดเพลิน หรือเพอ่ื บอก
ห น้ า | ๕๔
เจตนาของผูเ้ ขียน เพราะจะเป็นแนวทางกาหนดการอ่านไดอ้ ยา่ งเหมาะสม และจบั ใจความหรือคาตอบได้
รวดเร็วยง่ิ ข้ึน
๒.สารวจส่วนประกอบของหนงั สืออยา่ งคร่าวๆ เช่น ช่ือเรื่อง คานา สารบญั คาช้ีแจงการใชห้ นงั สือ
ภาคผนวก ฯลฯ เพราะส่วนประกอบของหนงั สือจะทาให้เกิดความเขา้ ใจเก่ียวกบั เร่ืองหรือหนงั สือท่ีอ่านได้
กวา้ งขวางและรวดเร็ว
๓.ทาความเขา้ ใจลกั ษณะของหนงั สือวา่ ประเภทใด เช่น สารคดี ตารา บทความ ฯลฯ
ซ่ึงจะช่วยใหม้ ีแนวทางอา่ นจบั ใจความสาคญั ไดง้ ่าย
๔.ใชค้ วามสามารถทางภาษาในดา้ นการแปลความหมายของคา ประโยค และขอ้ ความต่างๆ
อยา่ งถูกตอ้ งรวดเร็ว
๕.ใชป้ ระสบการณ์หรือภูมิหลงั เกี่ยวกบั เรื่องท่ีอ่านมาประกอบ
จะทาความเขา้ ใจและจบั ใจความที่อา่ นไดง้ ่ายและรวดเร็วข้ึน
ข้นั ตอนการอ่านจับใจความ
๑.อ่านผา่ นๆโดยตลอด เพ่ือใหร้ ู้วา่ เร่ืองท่ีอ่านวา่ ดว้ ยเร่ืองอะไร จุดใดเป็ นจุดสาคญั ของเรื่อง
๒.อ่านใหล้ ะเอียด เพ่ือทาความเขา้ ใจอยา่ งชดั เจน ไม่ควรหยดุ อ่านระหวา่ งเร่ืองเพราะจะทา
ใหค้ วามเขา้ ใจไมต่ ิดต่อกนั
๓.อ่านซ้าตอนที่ไม่เขา้ ใจ และตรวจสอบความเขา้ ใจบางตอนใหแ้ น่นอนถูกตอ้ ง
๔.เรียบเรียงใจความสาคญั ของเร่ืองดว้ ยตนเอง
ห น้ า | ๕๕
ใบงานที่ ๗.๑ การอ่านจบั ใจความ
ชอื่ .............................................................................................................ชน้ั ม.๓/.......... เลขท่.ี ............
คาชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนีแ้ ล้วเขยี นสรุปใจความสาคญั
คา้ งคาวเป็นสัตวท์ ี่ออกหากินในเวลากลางคืน มนั สามารถบินผาดโผนฉวดั เฉวยี นไปมา โดย
ไม่ตอ้ งพ่ึงสายตา มนั อาศยั เสียงสะทอ้ นกลบั ของตวั มนั เอง โดยคา้ งคาวจะส่งคล่ืนสัญญาณพิเศษ ซ่ึง
ส้นั และรวดเร็ว เม่ือสัญญาณไปกระทบสิ่งกีดขวางดา้ นหนา้ ก็จะสะทอ้ นกลบั เขา้ มา ทาใหร้ ู้วา่ มีอะไร
อยดู่ า้ นหนา้ มนั จะบินหลบเล่ียงได้ แมแ้ ต่สายโทรศพั ทท์ ี่ระโยงระยางเป็นเส้นเล็กๆ คลื่นเสียงก็จะไป
กระทบแลว้ สะทอ้ นกลบั เขา้ หูของมนั ได้ ไม่มีสตั วช์ นิดไหนที่จะสามารถรับคลื่นสะทอ้ นกลบั ไปไดใ้ น
ระยะใกล้ แต่คา้ งคาวทาไดแ้ ละบินวนกลบั ไดท้ นั ทว่ งที
ใคร : .........................................................................................................................................................
ทาอะไร : ..................................................................................................................................................
เม่ือไหร่ : ..................................................................................................................................................
อยา่ งไร : ...................................................................................................................................................
ผลเป็นอยา่ งไร : .......................................................................................................................................
สรุปใจความสาคญั
.............................................................................................................
.............................................................................................................
.............................................................................................................
ห น้ า | ๕๖
ใบงานท่ี ๗.๒ การอ่านจับใจความ
ชื่อ.............................................................................................................ช้ัน ม.๓/.......... เลขท.ี่ ............
คาชี้แจง : นักเรียนขีดเส้นใต้ประโยคใจความสาคัญจากข้อความทกี่ าหนดให้
๑. ความสมบูรณ์ของชีวิตมาจากความเขา้ ใจชีวติ เป็นพ้ืนฐาน คือเขา้ ใจธรรมชาติเขา้ ใจความเป็น
มนุษยแ์ ละความสมั พนั ธ์ที่เก้ือกูลกนั ระหวา่ งมนุษยก์ บั มนุษยแ์ ละมนุษยก์ บั ธรรมชาติ มีความรัก
ความเมตตาต่อเพื่อนมนุษยแ์ ละธรรมชาติอยา่ งจริงใจ
๒. ความเครียดทาใหเ้ พม่ิ ฮอร์โมนอะดรีนาลีนในเลือด ทาใหห้ วั ใจเตน้ เร็ว เส้นเลือดบีบตวั
กลา้ มเน้ือเขมง็ ตึง ระบบยอ่ ยอาหารผดิ ปกติและเกิดอาการปวดหวั ปวดทอ้ ง ใจสน่ั แขง้ ขาออ่ น
แรง ความเครียดจึงเป็ นตวั การท่ีเร่งใหแ้ ก่เร็ว
๓. สารอาหารในขา้ วกลอ้ งจะช่วยใหร้ ่างกายแขง็ แรงและช่วยป้องกนั โรคอว้ น ขา้ วกลอ้ งมีสาร
เส้นใยมากกวา่ ขา้ วขาว ๘ เท่า ขา้ วกลอ้ งจะช่วยดูดซบั ไขมนั และน้าตาลในอาหาร แลว้ ขบั
ออกมาเป็ นกากอาหาร ทาใหไ้ ขมนั และน้าตาลซึมเขา้ กระแสเลือดนอ้ ยลง
๔. ปลาทูจากจงั หวดั สมุทรสงครามหรือแม่กลองกินอร่อยกวา่ ปลาทูน่านน้าอ่ืน เพราะเน้ือดิน
และระบบน้า บริเวณกน้ อา่ วไทยแถบจงั หวดั สมุทรสาคร และสมุทรสงครามโดยเฉพาะบริเวณ
ปากน้าและกน้ อา่ วแมก่ ลองจะเป็นดินเลนร่วนซุยซ่ึงมีเน้ือดินท่ีทาใหป้ ลาทูอร่อย
๕. คนโบราณทา่ นแบง่ การปกครองในบา้ นไวด้ งั น้ีคือ สามีเป็นใหญ่นอกบา้ น ซ่ึงหมายความวา่
สามี เป็นผมู้ ีภาระหนา้ ที่ทางานภายนอกบา้ นเป็นงานอาชีพหาเงินเล้ียงครอบครัว ส่วนภริยาเป็น
ใหญ่ในบา้ น ซ่ึงหมายความถึงผรู้ ับผดิ ชอบในการปกครองดูแลกิจการในบา้ นซ่ึงเป็นพวก
การบา้ นงานครัว นน่ั เองหรือ “สามีเป็นผหู้ า ภริยาเป็ นผเู้ ก็บ (เงิน)” การแบง่ หนา้ ท่ีของสามีและ
ภริยากนั เช่นน้ีทาใหค้ นแต่ก่อนอยดู่ ว้ ยกนั อยา่ งสันติสุข
ห น้ า | ๕๗
เฉลยใบงานท่ี ๗.๑การอ่านจับใจความ
ช่อื .............................................................................................................ช้นั ม.๓/.......... เลขท่.ี ............
คาชี้แจง : ให้นักเรียนอ่านบทความต่อไปนีแ้ ล้วเขียนสรุปใจความสาคญั
คา้ งคาวเป็นสตั วท์ ่ีออกหากินในเวลากลางคืน มนั สามารถบินผาดโผนฉวดั เฉวยี นไปมา โดย
ไม่ตอ้ งพ่ึงสายตา มนั อาศยั เสียงสะทอ้ นกลบั ของตวั มนั เอง โดยคา้ งคาวจะส่งคล่ืนสัญญาณพิเศษ ซ่ึง
ส้ันและรวดเร็ว เม่ือสัญญาณไปกระทบสิ่งกีดขวางดา้ นหนา้ ก็จะสะทอ้ นกลบั เขา้ มา ทาใหร้ ู้วา่ มีอะไร
อยดู่ า้ นหนา้ มนั จะบินหลบเล่ียงได้ แมแ้ ต่สายโทรศพั ทท์ ่ีระโยงระยางเป็นเส้นเลก็ ๆ คลื่นเสียงกจ็ ะไป
กระทบแลว้ สะทอ้ นกลบั เขา้ หูของมนั ได้ ไมม่ ีสัตวช์ นิดไหนที่จะสามารถรับคล่ืนสะทอ้ นกลบั ไปไดใ้ น
ระยะใกล้ แตค่ า้ งคาวทาไดแ้ ละบินวนกลบั ไดท้ นั ท่วงที
ใคร : ค้างคาว
ทาอะไร : ออกหากนิ
เม่ือไหร่ : ตอนกลางคืน
อย่างไร : โดยไม่ต้องอาศัยสายตา แต่จะอาศัยเสียงสะท้อนกลบั ของตัวมนั เอง
ผลเป็ นอย่างไร : สามารถหลบส่ิงกดี ขวาง
สรุปใจความสาคญั
ค้างคาวจะออกหากนิ ตอนกลางคืน โดยไม่อาศัยสายตาแต่จะ
อาศัยเสียงสะท้อนกลบั ของตวั มนั เอง
ห น้ า | ๕๘
เฉลยใบงานท่ี ๗.๒ การอ่านจบั ใจความ
ชื่อ.............................................................................................................ช้ัน ม.๓/.......... เลขท.ี่ ............
คาชี้แจง : นักเรียนขีดเส้นใต้ประโยคใจความสาคญั จากข้อความทก่ี าหนดให้
๑. ความสมบูรณ์ของชีวิตมาจากความเขา้ ใจชีวติ เป็นพ้ืนฐาน คือเขา้ ใจธรรมชาติเขา้ ใจความเป็น มนุษยแ์ ละ
ความสัมพนั ธ์ที่เก้ือกูลกนั ระหวา่ งมนุษยก์ บั มนุษยแ์ ละมนุษยก์ บั ธรรมชาติ มีความรักความเมตตาตอ่ เพอ่ื น
มนุษยแ์ ละธรรมชาติอยา่ งจริงใจ
๒. ความเครียดทาใหเ้ พมิ่ ฮอร์โมนอะดรีนาลีนในเลือด ทาใหห้ วั ใจเตน้ เร็ว เส้นเลือดบีบตวั กลา้ มเน้ือ
เขมง็ ตึง ระบบยอ่ ยอาหารผดิ ปกติ และเกิดอาการปวดหวั ปวดทอ้ ง ใจสนั่ แขง้ ขาอ่อนแรง ความเครียดจึงเป็น
ตวั การท่ีเร่งใหแ้ ก่เร็ว
๓. สารอาหารในขา้ วกลอ้ งจะช่วยใหร้ ่างกายแขง็ แรงและช่วยป้องกนั โรคอว้ น ขา้ วกลอ้ งมีสารเส้นใย
มากกวา่ ขา้ วขาว ๘ เทา่ ขา้ วกลอ้ งจะช่วยดูดซบั ไขมนั และน้าตาลในอาหาร แลว้ ขบั ออกมาเป็ นกากอาหาร
ทาใหไ้ ขมนั และน้าตาลซึมเขา้ กระแสเลือดนอ้ ยลง
๔. ปลาทูจากจงั หวดั สมุทรสงครามหรือแม่กลองกินอร่อยกวา่ ปลาทูน่านน้าอื่น เพราะเน้ือดินและระบบน้า
บริเวณกน้ อ่าวไทยแถบจงั หวดั สมุทรสาคร และสมุทรสงครามโดยเฉพาะบริเวณปากน้าและกน้ อา่ วแมก่ ลอง
จะเป็นดินเลนร่วนซุยซ่ึงมีเน้ือดินที่ทาใหป้ ลาทูอร่อย
๕. คนโบราณท่านแบง่ การปกครองในบา้ นไวด้ งั น้ีคือ สามีเป็นใหญ่นอกบา้ น ซ่ึงหมายความวา่ สามี เป็นผมู้ ี
ภาระหนา้ ท่ีทางานภายนอกบา้ นเป็นงานอาชีพหาเงินเล้ียงครอบครัว ส่วนภริยาเป็ นใหญ่ ในบา้ น ซ่ึง
หมายความถึงผรู้ ับผดิ ชอบในการปกครองดูแลกิจการในบา้ นซ่ึงเป็นพวกการบา้ นงานครัว นน่ั เองหรือ “สามี
เป็นผหู้ า ภริยาเป็นผเู้ ก็บ (เงิน)” การแบง่ หนา้ ที่ของสามีและภริยากนั เช่นน้ีทาใหค้ นแต่ก่อนอยดู่ ว้ ยกนั
อยา่ งสันติสุข
ห น้ า | ๕๙
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ ๘
รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ รายวชิ า ภาษาไทยพ้ืนฐาน จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บทพากยเ์ อราวัณ เรอ่ื ง ความรู้และข้อคดิ จากวรรณคดี
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๓ เวลา ๓ ช่ัวโมง
มาตรฐานการเรยี นรู้ เข้าใจและแสดงความคดิ เหน็ วิจารณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
มาตรฐาน ท ๕.๑ อยา่ งเหน็ คุณค่าและนามาประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตจรงิ
ตัวชี้วดั สรุปความร้แู ละข้อคิดจากการอ่านเพ่ือนาไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง
ท ๕.๑ ม.๓/๓
สาระสาคัญ
การวเิ คราะหว์ ถิ ีไทยและคุณค่าวรรณคดเี รือ่ ง บทพากย์เอราวณั ต้องสรุปความร้แู ละข้อคิดจากการ
อ่านเพื่อนาไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ
จุดประสงค์การเรยี นรู้
ความรู้ (K)
๑. สรุปความรแู้ ละข้อคิดจากวรรณคดีเร่ือง บทพากยเ์ อราวัณได้
ทักษะ/กระบวนการ (P)
๑. เขียนสรุปความร้แู ละข้อคดิ จากวรรณคดีเรื่อง บทพากย์เอราวณั ได้
สมรรถนะหลกั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ญั หา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
ดา้ นคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ (A)
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่ือสตั ย์สจุ รติ
๓. มวี นิ ัย
๔. ใฝเ่ รียนรู้
๕. อยู่อย่างพอเพยี ง
๖. มุ่งม่นั ในการทางาน
๗. รักความเป็นไทย
๘. มจี ิตสาธารณะ
ห น้ า | ๖๐
แนวความคิดเพ่อื การเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ ๒๑
๑. สาระวชิ าหลัก (Core Subjects)
๒. ทักษะดา้ นการเรยี นรู้และนวัตกรรม
๓. ทักษะดา้ นสารสนเทศ ส่ือ และเทคโนโลยี
๔. ทกั ษะดา้ นชีวติ และอาชพี
สาระการเรียนรู้
การวเิ คราะห์วถิ ีไทยและคุณค่าจากวรรณคดี
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ (ขั้นตอน/กระบวนการ)
(ชั่วโมงท่ี ๑)
๑. ครอู า่ นข้อความสน้ั ๆ ท่ใี ห้ข้อคิดใหน้ ักเรียนฟัง จากนน้ั สนทนากบั นกั เรียนเก่ียวกับข้อคิดทีไ่ ด้จาก
เร่อื งท่ีฟงั
๒. นักเรยี นร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ ว่าขอ้ คดิ ทไี่ ดน้ ้นั สามารถนาไปใชป้ ระโยชน์ในชวี ติ ประจาวนั ได้
อยา่ งไร
๓. นกั เรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจดั การเรยี นรู้ที่ ๑) แล้วครูและนักเรียนรว่ มกันอภปิ ราย
เกย่ี วกบั ความรแู้ ละข้อคิดจากวรรณคดี เร่ือง บทพากยเ์ อราวณั
๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ทาใบงานท่ี ๑ เรื่อง ความรู้และข้อคดิ จากบทพากย์เอราวัณ โดย
ปฏิบตั ิกิจกรรมร่วมกัน ดังนี้
- สมาชิกคนท่ี ๑ อา่ นคาถาม แยกแยะให้ชัดเจน
- สมาชกิ คนท่ี ๒ ฟงั ขัน้ ตอน รวบรวมขอ้ มูล หาแนวทางเสนอแนะในการตอบคาถาม
- สมาชิกคนท่ี ๓ ตอบคาถาม
- สมาชกิ คนท่ี ๔ ตรวจสอบคาตอบ
(ชวั่ โมงที่ ๒)
๕. สมาชิกแต่ละคนในกลุ่มหมนุ เวยี นเปลี่ยนหนา้ ทก่ี ันในการตอบคาถามข้อต่อไปจนเสรจ็ ทุกข้อ
แล้วสง่ กระดาษคาตอบ
๖. ครูตรวจคาตอบของนักเรยี น พร้อมประกาศผลกลุ่มทไ่ี ด้คะแนนสูงสดุ
๗. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันกาหนดแนวทางในการนาความรู้และข้อคดิ ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตจรงิ ให้
เกิดประโยชน์ตอ่ ตนเองและสังคม
(ชั่วโมงที่ 3)
๘. ครูมอบหมายให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ จดั ทาหนังสือเล่มเล็กสรุปความรู้ เร่อื ง บทพากย์เอราวณั โดย
ให้ครอบคลมุ ประเดน็ ตามที่กาหนด ดังนี้
๑) การสรปุ เนอื้ หา
๒) การวเิ คราะห์วถิ ีไทยและคุณค่าจากเรื่อง
๓) การสรุปความรูแ้ ละข้อคดิ จากการอ่าน เพ่ือนาไปประยกุ ต์ใชใ้ นชวี ิตจรงิ
๔) รปู แบบการทาหนังสอื เล่มเล็ก
ห น้ า | ๖๑
สอ่ื (วัสดุ-อปุ กรณ์-ส่ิงพมิ พ์) / นวตั กรรม / ICT
๑. ตัวอยา่ งข้อความท่ีใหข้ ้อคดิ
๒. ใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง ความรู้และข้อคิดจากบทพากย์เอราวัณ
๓. หนงั สอื เรยี น วรรณคดแี ละวรรณกรรม
แหล่งการเรยี นรู้
-
บูรณาการ
-
การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้
วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงาน แบบบันทกึ คะแนนตรวจใบงาน
ร้อยละ ๖๐
ผ่านเกณฑ์
กิจกรรมเสนอแนะ
.............................................................................................................................................................................
................................................................................................................................. .............................................
ลงชือ่ .....................................................ผู้เขียนแผนการจัดการเรียนรู้
................/.................../................
บันทึกความเหน็ ของผ้ตู รวจแผนการจดั การเรยี นรู้
ไดท้ าการตรวจแผนการจัดการเรียนรู้แลว้ มคี วามคิดเห็น ดังนี้
เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ดมี าก ดี พอใช้ ควรปรบั ปรงุ เนอ่ื งจาก
............................................................................................................................. ...............................................
ลงช่อื .............................................
(...........................................)
ประธานกลุม่ สาระฯ
ห น้ า | ๖๒
บนั ทึกหลังสอน
๑๓.ผลการสอน/ผลการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
.................................................................................................................. .............................................
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ (P)
...............................................................................................................................................................
ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม (A)
............................................................................................................................. ..................................
สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียน/แนวความคิดเพ่ือการเรียนรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑
............................................................................................................................. ..................................
๑๔.ปญั หา/อุปสรรค และข้อค้นพบ
............................................................................................................................. ..................................
...............................................................................................................................................................
๑๕.ขอ้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข และผลการแกไ้ ข
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................. .............................................
ลงชอ่ื .....................................................ผูส้ อน
(................................................)
ห น้ า | ๖๓
ใบความรู้เรื่อง การให้ความรู้และข้อคดิ
ตัวอย่างข้อความทใ่ี ห้ข้อคิด
วฒั นธรรมทางภาษามีคา่ ชัด อ่านเขยี นคัดคงไวใ้ หเ้ กดิ ผล
ภาษาชาตเิ ชิดชคู สู่ ากล อิทธิพลทางภาษาเสริมค่าไทย
สงั คมไทยจะดีมรี ะเบียบ มองดเู รียบร้อยสขุ ทุกถนิ่ ฐาน
ถ้าคนไมฟ่ ุ้งเฟ้อทะเยอทะยาน ถือศีลทานไปพรอ้ มออมทรัพย์เอย
สง่ิ ทเี่ รามอี ยู่แล้วในมือนั้นไม่ทาใหเ้ รามคี วามสุขได้มากกว่าส่งิ ที่ได้มาใหม่ มีเสื้อผา้ อยแู่ ล้ว
นับรอ้ ย กไ็ ม่ทาใหจ้ ิตใจเบ่งบานได้เทา่ กับเส้อื 1 ตวั ท่ีได้มาใหม่ มซี ีดีอยู่แลว้ นบั พันก็ไม่ทาให้รู้สึก
ต่ืนเตน้ ไดเ้ ท่ากบั ซีดี 1 แผ่นท่ไี ดม้ าใหม่ ในทานองเดียวกันมเี งินนับร้อยลา้ นในธนาคารก็ไม่ทาให้
รสู้ ึกปลาบปลืม้ ใจเท่ากบั เมื่อไดม้ าใหม่อกี หนงึ่ ล้าน
ในทกุ กรณีไมว่ ่าจะมีเหตุการณ์ใดเกดิ ขึน้ ให้เรามเี มตตาแก่ตัวเอง คอื ไม่ยึดมั่นถือม่ัน
ในอารมณ์ข้เี กยี จ ขกี้ ลวั ขี้ฟุ้งซ่าน ขนี้ อ้ ยใจ ข้โี กรธ ขอี้ ิจฉา ฯลฯ แม้จะมีความรู้สึกเหล่าน้ีเกดิ ข้นึ
ก็อยา่ ยดึ ม่ันถือม่นั ใหเ้ ราเอาความสบายใจ ความสขุ ใจ เป็นท่ีพึง่ ทร่ี ะลึกแกจ่ ิตใจ
ห น้ า | ๖๔
ใบงานท่ี ๘.๑ เรือ่ ง ความรูแ้ ละข้อคิดจากบทพากยเ์ อราวณั
ชอ่ื ......................................................................................................................ช้ั น ม.๓/................เลขท่.ี ..........
คาชี้แจง ใหน้ ักเรยี นอ่านวรรณคดีเร่ือง บทพากย์เอราวณั แลว้ ตอบคาถามต่อไปน้ี
๑. วรรณคดเี รื่อง บทพากย์เอราวัณ ใหข้ อ้ คดิ เรื่องการใช้ชีวติ อย่างไร
๒. วรรณคดเี ร่อื ง บทพากย์เอราวัณ ใหข้ ้อคิดเร่ืองการใชอ้ านาจของผู้ท่ีมอี านาจอย่างไร
๓. วรรณคดเี รือ่ ง บทพากย์เอราวัณ ให้ข้อคดิ เร่ืองการทาสงครามอย่างไร
๔. หากตัวละครในวรรณคดเี รื่อง บทพากย์เอราวัณ ต้องการดารงชวี ิตอยา่ งสงบและสันติ ควรปฏบิ ัติ
อย่างไร
๕. วรรณคดเี รื่อง บทพากย์เอราวัณ ให้ความรกู้ บั ผู้อา่ นอยา่ งไร
ห น้ า | ๖๕
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ ๙
รหัสวิชา ท๒๓๑๐๒ รายวชิ า ภาษาไทยพื้นฐาน จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี ๑ บทพากย์เอราวณั เร่อื ง การทอ่ งบทอาขยาน
ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๓ เวลา ๓ ชั่วโมง
มาตรฐานการเรยี นรู้ เขา้ ใจและแสดงความคิดเห็นวจิ ารณ์วรรณคดแี ละวรรณกรรมไทย
มาตรฐาน ท ๕.๑ อยา่ งเห็นคุณคา่ และนามาประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตจริง
ตวั ช้ีวดั ท่องจาและบอกคุณค่าบทอาขยานตามท่ีกาหนด และบทร้อยกรองทม่ี ี
ท ๕.๑ ม.๓/๔ คุณค่าตามความสนใจและนาไปใชอ้ า้ งอิง
สาระสาคัญ
การศกึ ษาบทอาขยานตามท่ีกาหนด จะช่วยให้สามารถท่องจาและบอกคุณค่าได้
จุดประสงค์การเรียนรู้
ความรู้ (K)
๑. อธบิ ายคณุ ค่าบทอาขยานตามทกี่ าหนดได้
ทกั ษะ/กระบวนการ (P)
๑. ท่องจาบทอาขยานจากวรรณคดีเร่ือง บทพากยเ์ อราวัณได้
สมรรถนะหลกั
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
๑. รกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์
๒. ซือ่ สัตย์สจุ ริต
๓. มวี ินัย
๔. ใฝ่เรยี นรู้
๕. อยู่อย่างพอเพียง
๖. ม่งุ ม่นั ในการทางาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มีจติ สาธารณะ
ห น้ า | ๖๖
แนวความคิดเพ่อื การเรยี นรู้ในศตวรรษท่ี ๒๑
๑. สาระวิชาหลัก (Core Subjects)
๒. ทกั ษะด้านการเรยี นรแู้ ละนวัตกรรม
๓. ทกั ษะดา้ นสารสนเทศ สื่อ และเทคโนโลยี
๔. ทักษะด้านชวี ิตและอาชีพ
สาระการเรียนรู้
บทอาขยานและบทรอ้ ยกรองทม่ี ีคุณค่า (บทอาขยานตามท่กี าหนด)
กระบวนการจดั การเรยี นรู้ (ขน้ั ตอน/กระบวนการ)
(ชว่ั โมงท่ี ๑)
๑. นักเรียนรวมกลุ่มเดิม (จากแผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑) จากนั้นครูสนทนาซักถามนักเรียนเกีย่ วกบั
การวเิ คราะห์คุณคา่ วรรณคดี
๒. นักเรียนตอบคาถาม “การวเิ คราะห์คุณคา่ ของวรรณคดี มีหลักการอย่างไร”
๓. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ศึกษาความรู้เรอื่ ง บทวเิ คราะห์ : คณุ ค่าดา้ นวรรณศิลป์ และศึกษาเน้ือหาบท
อาขยานหลกั : บทพากยเ์ อราวัณ จากหนังสอื เรยี น
(ชั่วโมงที่ ๒)
๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ฝึกทอ่ งบทอาขยานหลัก : บทพากยเ์ อราวัณ
๕. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มท่องจาบทอาขยานหลกั : บทพากยเ์ อราวัณ
๖. นกั เรียนแต่ละคนทาใบงานท่ี ๑ เรือ่ ง คณุ ค่าบทอาขยาน จากบทพากย์เอราวัณ
(ชว่ั โมงที่ ๓)
๗. นกั เรียนแตล่ ะคนนาใบงานที่ ๑ มาอภิปรายคาตอบกนั ภายในกลุ่ม แลว้ ชว่ ยกนั สรปุ คาตอบที่ได้
จากผลการอภปิ รายของกลมุ่
๘. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันสรปุ คุณค่าบทอาขยาน จาก บทพากยเ์ อราวัณ
สอ่ื (วสั ดุ-อปุ กรณ์-สงิ่ พมิ พ์) / นวัตกรรม / ICT
๑. หนงั สือเรียน วรรณคดแี ละวรรณกรรม
๒. ใบงานท่ี ๑ เร่ือง คณุ คา่ บทอาขยาน จากบทพากยเ์ อราวัณ
แหล่งการเรยี นรู้
-
บูรณาการ
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
วธิ ีการ เครอ่ื งมอื เกณฑ์
ตรวจใบงาน แบบบนั ทึกคะแนนตรวจใบงาน ร้อยละ ๖๐ ผา่ นเกณฑ์
ประเมนิ การท่องอาขยาน แบบประเมนิ การท่องอาขยาน ระดับคุณภาพ ๒ ผ่านเกณฑ์
ห น้ า | ๖๗
การประเมนิ ผล
เกณฑ์การประเมินการท่องบทอาขยาน
รายการประเมิน คาอธิบายระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน
๑. ฉนั ทลกั ษณ์
ดมี าก (๔) ดี (๓) พอใช้(๒) ปรับปรุง(๑)
๒. อกั ขรวธิ ี
๓. การรกั ษาความ อ่านถูกต้องตาม อา่ นผดิ ฉันทลักษณ์ อา่ นผิดฉันทลักษณ์ อา่ นผดิ ฉนั ทลักษณ์
ตามอารมณ์ในบท
ฉันทลกั ษณ์ ๑ บท ๒ บท มากกว่า ๓ บท ข้นึ
๔. เสียง
ไป
๕. ความราบรืน่
ในการอ่านและ อา่ นถูกตอ้ งตาม อา่ นผดิ อักขรวธิ ี อา่ นผิดอักขรวธิ ี อ่านผดิ อักขรวิธี
บุคลิกภาพ
อักขรวิธี ๑ จุด ๒ จุด ๓ จดุ ข้นึ ไป
อา่ นรกั ษาความตาม อา่ นรกั ษาความตาม อา่ นรกั ษาความตาม อา่ นรักษาความตาม
อารมณ์ในบทไดอ้ ย่าง อารมณ์ในบท อารมณ์ในบท อารมณ์ในบท
เหมาะสม บางสว่ นไม่เหมาะสม บางสว่ นไม่เหมาะสม ไมเ่ หมาะสมทุกบท
มากกว่า ๒ บท
เสียงดงั ชัดเจน ลลี า เสียงดงั ชดั เจนลีลา เสียงเบา ลลี านา้ เสยี ง เสยี งเบาไม่ชัดเจนไม่
น้าเสยี งไพเราะ น้าเสยี งบางส่วน บางสว่ นไมเ่ หมาะสม มีลลี าน้าเสยี ง เสยี ง
เหมาะสม เสมอกนั ตลอด
ไม่เหมาะสม
อ่านได้ราบรนื่ อา่ นไดร้ าบร่นื อา่ นไมร่ าบร่ืนตดิ ขัด อ่านตดิ ขัดมากกว่า ๓
บคุ ลกิ ภาพดีมีความ บุคลกิ ภาพดี อ่านติด ๒-๓ คร้ัง ไมม่ น่ั ใจใน ครัง้ บุคลกิ ภาพไม่
มั่นใจในการอ่าน ๑ ครั้ง มีความม่ันใจ การอ่าน เหมาะสม ขาดความ
ในการอ่าน ม่ันใจในการอ่าน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ
๑๗-๒๐ ดมี าก
๑๓-๑๖ ดี
๑๐-๑๒ พอใช้
ต่ากว่า ๑๐ ปรบั ปรงุ
ห น้ า | ๖๘
กิจกรรมเสนอแนะ
.............................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .................................................
ลงชอ่ื .....................................................ผู้เขยี นแผนการจัดการเรียนรู้
................/.................../................
บนั ทกึ ความเห็นของผตู้ รวจแผนการจดั การเรยี นรู้
ได้ทาการตรวจแผนการจัดการเรียนรูแ้ ลว้ มีความคิดเห็น ดังน้ี
เป็นแผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ดีมาก ดี พอใช้ ควรปรับปรุง เนอ่ื งจาก
............................................................................................................................. ...............................................
ลงชอ่ื .............................................
(...........................................)
ประธานกลุ่มสาระฯ
บันทึกหลังสอน
๑๖.ผลการสอน/ผลการเรยี นรู้
ดา้ นความรู้ (K)
.................................................................................................................. .............................................
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ (P)
...............................................................................................................................................................
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยม (A)
............................................................................................................................. ..................................
สมรรถนะสาคัญของผ้เู รียน/แนวความคิดเพ่ือการเรยี นรใู้ นศตวรรษท่ี ๒๑
............................................................................................................................. ..................................
๑๗.ปญั หา/อุปสรรค และขอ้ คน้ พบ
............................................................................................................................. ..................................
...............................................................................................................................................................
๑๘.ข้อเสนอแนะแนวทางแก้ไข และผลการแก้ไข
............................................................................................................................. ..................................
.................................................................................................................. .............................................
ลงชอ่ื .....................................................ผ้สู อน
(................................................)
ห น้ า | ๖๙
ใบความรู้เรื่อง การแสดงทรรศนะ
ประเภทและลกั ษณะของภาษาทใี่ ช้ในการแสดงทรรศนะ
ประเภทของทรรศนะ
โดยทว่ั ไป ทรรศนะแบ่งออกเป็ น ๓ ประเภท คือ
๑. ทรรศนะเชิงขอ้ เท็จจริง ทรรศนะประเภทน้ีเป็ นเพียงการสันนิษฐาน เป็นทรรศนะที่กล่าวถึง
เรื่องที่เกิดข้ึนแลว้ แตย่ งั ถกเถียงกนั อยวู่ า่ ขอ้ เทจ็ จริงเป็นอยา่ งไรแน่
๒. ทรรศนะเชิงคุณค่า ทรรศนะประเภทน้ีเป็นการประเมินวา่ สง่ั ใดดี ไมด่ ี มีประโยชน์ โทษ เหมาะสม
หรือไม่เหมาะสม การแสดงทรรศนะน้ีผแู้ สดงทรรศนะอาจมีเกณฑก์ ารประเมินสิ่งน้นั หรือใชว้ ธิ ีเปรียบเทียบ
ส่ิงประเภทเดียวกนั
๓. ทรรศนะเชิงนโยบาย ทรรศนะประเภทน้ีเป็นการช้ีแจงเสนอแนะวา่ ควรทาอะไร อยา่ งไร ปรับปรุง
ไปในทางใด การเสนอแนะจะตอ้ งช้ีไหช้ ดั เจนถึงข้นั ตอนเป้าหมาย ประโยชน์ ตลอดจนการแกไ้ ข และวธิ ีที่
ควรปฏิบตั ิ
ลกั ษณะของภาษทใี่ ช้ในการแสดงทรรศนะ
ภาษาที่ใชใ้ นการแสดงทรรศนะ นอกจากจะยดึ หลกั ท่ีดีในการใชภ้ าษาโดยทวั่ ไปแลว้ ยงั ใชภ้ าษาที่
ใชแ้ สดงเหตุผล นอกจากน้ียงั มีลกั ษณะเฉพาะท่ีน่าสงั เกตอีก คือ
๑.ใชค้ าหรือกลุ่มคาแสดงสงั่ วา่ เป็นเจา้ ของทรรศนะ เช่น
พวกเราเห็นร่วมกนั วา่ .......... ดิฉนั เห็นวา่ ..........
ผมขอสรุปวา่ ..........ท่ีประชุมมีมติวา่ ..........
๒. ใชค้ าหรือกลุ่มคากริยาช่วยในขอ้ สรุป
เพอื่ แสดงให้เห็นวา่ เป็นการแสดงทรรศนะ เช่น คง ควรจะ น่าจะ
๓. ใชค้ าหรือกลุ่มคาอ่ืน
ใชค้ าหรือกลุ่มคาอื่นที่มีความหมายบอกวา่ เป็นการแสดงทรรศนะ อาจเป็นการคาดคะเนแสดง
ความเชื่อมนั่
ห น้ า | ๗๐
ปัจจยั ทส่ึ ่งเสริมการแสดงทรรศนะ
ปัจจยั ช่วยส่งเสริมการแสดงงทรรศนะมี ๒ ประการ คือ
๑. ปัจจยั ภายนอก เช่น สถานท่ี ผรู้ ับสาร บรรยากาศ
๒. ปัจจยั ภายใน เช่น สติปัญญา ทศั นคติ ความรู้ ประสบการณ์ ความสามารถในการใชภ้ าษา
การประเมนิ ค่าทรรศนะ
แนวในการประเนินค่าทรรศนะควรพิจารณาดงั ต่อไปน้ี
๑. ประโยชน์และลกั ษณะสร้างสรรค์ ทรรศนะท่ีดีตอ้ งมีคุณคา่ ก่อใหเ้ กิดประโยชน์ ท้งั ประโยชน์ส่วนตน
และประโยชน์ส่วนรวม อาจเป็นทรรศนะในทางสร้างสรรค์ คือ เสนอแนะใหเ้ กิดสิ่งแปลกใหมท่ ี่เป็ น
ประโยชน์ และช่วยธารงสิ่งที่ดีงามไว้
๒. ความน่าเช่ือถือและความสมเหตุสมผล พจิ ารณาเหตุผลที่นามาสนบั สนุนการแสดงทรรศนะมีน้าหนกั
ทาใหข้ อ้ สรุปน่าเชื่อถือ ควรแก่การยอมรับหรือไม่ เช่น ถา้ ใชแ้ นวเทียบ กต็ อ้ งพจิ ารณาวา่ ลกั ษณะของกรณีท่ี
นามาใชเ้ ทียบ เหมาะสมสอดคลอ้ งกนั หรือไม่
๓. ความเหมาะสมกบั ผรู้ ับสารและกาลเทศะ พจิ ารณาวา่ ทรรศนะท่ีนาเสนอน้นั เหมาะสมกบั ผรู้ ับสารและ
กาลเทศะหรือไม่ เช่น เหมาะแก่เวลาเหมาะแก่สมรรถภาพการรับสารของผูร้ ับสาร
๔. การใชภ้ าษา พิจารณาวา่ ใชภ้ าษาไดช้ ดั เจน ส่ือความหมายไดต้ รงตามท่ีตอ้ งการเหมาะสมกบั ระดบั
การสื่อสารมากนอ้ ยเพยี งใด
ห น้ า | ๗๑
ใบงานที่ ๙.๑ เรื่อง คุณค่าบทอาขยานจากบทพากย์เอราวณั
ชื่อ...........................................................................................................................ช้นั ม.๓/.........เลขที่..........
คาชี้แจงใหน้ กั เรียนศึกษาบทอาขยานจาก บทพากยเ์ อราวณั แลว้ ตอบคาถามตอ่ ไปน้ี
๑. ขอ้ ความในบทอาขยานกล่าวถึงสิ่งใด มีลกั ษณะอยา่ งไร
๒. ขอ้ ความในบทอาขยานมีคุณค่าดา้ นวรรณศิลป์ อยา่ งไร
๓. ขอ้ ความในบทอาขยานสะทอ้ นใหเ้ ห็นความเชื่อในเรื่องใด
ห น้ า | ๗๒
เอกสารอ้างองิ
สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้ืนฐานกระทรวงศึกษาธิการ. ๒๕๖๑. หนังสือเรียนรายวชิ าพืน้ ฐาน
ภาษาไทย วรรณคดีวจิ ักษ์ ช้ันมธั ยมศึกษาปี ที่ ๓. พิมพค์ ร้ังท่ี ๑๐. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ สกสค.
ลาดพร้าว.