The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบสื่อการเรียนการสอน แบบฝึกสะกดคำภาษาอังกฤษ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by sunisakhumsukdee, 2022-07-07 06:33:13

แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบสื่อการเรียนการสอน แบบฝึกสะกดคำภาษาอังกฤษ

แผนการจัดการเรียนรู้ ประกอบสื่อการเรียนการสอน แบบฝึกสะกดคำภาษาอังกฤษ

ความนำ

กระทรวงศกึ ษาธกิ ารได้ประกาศใช้หลักสูตรการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน พุทธศักราช 2551 ใหเ้ ปน็ หลักสูตร
แกนกลางของประเทศ โดยกำหนดจุดหมาย และมาตรฐานการเรียนรู้เป็นเป้าหมาย และกรอบทิศทางในการ
พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้เป็นคนดี มีปัญญา มีคุณภาพชีวิตท่ีดีและมีขีดความสามารถ ในการแข่งขันในเวทีระดับโลก
(กระทรวงศึกษาธิการ, 2544) พร้อมกนั นไี้ ด้ปรับกระบวนการพัฒนาหลกั สูตรให้มคี วามสอดคล้องกบั เจตนารมณ์
แห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และท่ีแก้ไขเพ่ิมเติม (ฉบับท่ี 2) พ.ศ. 2545 ท่ีมุ่งเน้น
การกระจายอำนาจทางการศึกษาให้ท้องถิ่นและสถานศึกษาได้มีบทบาทและมีส่วนร่วมในการพัฒนาหลักสูตร
เพ่ือให้สอดคล้องกับสภาพ และความต้องการของท้องถ่ิน (สำนักนายกรัฐมนตรี, 2542) ท้ังน้ีกระทรวงศึกษาธิการ
โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐานได้ดำเนินการทบทวนหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
พุทธศักราช 2551 โดยนำข้อมูลจากแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 ยทุ ธศาสตรช์ าติ 20 ปี
และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560 – 2579 มาใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตร
ใหม้ คี วามเหมาะสมชัดเจนย่งิ ข้นึ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนหนองโนประชาสรรค์ จึงได้จัดทำหลักสูตรกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาต่างประเทศข้ึน เพื่อเป็นกรอบและทิศทางในการจัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้
ความเขา้ ใจในการดำรงชีวิต ท้งั ในฐานะปัจเจกบุคคลและการอยู่ร่วมกันในสงั คมการปรบั ตัวตามสภาพแวดลอ้ ม
การจัดการทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด เข้าใจถึงการพัฒนาเปล่ียนแปลงตามยุคสมัย กาลเวลา ตามเหตุปัจจัยต่างๆ
เกิดความเข้าใจในตนเองและผู้อ่ืน มีความอดทน อดกล้ัน ยอมรับในความแตกต่างและมีคุณธรรม สามารถนำ
ความร้ไู ปปรบั ใชใ้ นการดำเนินชวี ติ เปน็ พลเมืองดีของประเทศชาติและสังคมโลก สอดคลอ้ งกับประเทศไทย 4.0
และโลกในศตวรรษที่ 21 โดยแสวงหาความรเู้ พอื่ พฒั นาตนเองอยา่ งต่อเน่ืองตลอดชวี ิต

กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งหวังให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถ
ใช้ภาษาต่างประเทศ ส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้ ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อ ในระดับที่
สูงขึ้น รวมท้ังมีความรู้ความเข้าใจในเร่ืองราวและวัฒนธรรมอันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถ
ถา่ ยทอดความคิดและวฒั นธรรมไทยไปยงั สงั คมโลกได้อย่างสร้างสรรค์ ประกอบดว้ ยสาระสำคัญ ดงั น้ี

ภาษาเพื่อการสื่อสาร การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน
แลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สกึ และความคิดเห็น ตคี วาม นำเสนอขอ้ มลู ความคิดรวบยอดและความ
คิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ และสร้างความสมั พันธ์ระหว่างบคุ คลอย่างเหมาะสม

ภาษาและวัฒนธรรม การใช้ภาษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของเจ้าของภาษาความสัมพันธ์
ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของ
ภาษากบั วฒั นธรรมไทย และนำไปใช้อย่างเหมาะสม

ภาษากับความสัมพันธ์กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน การใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยง
ความร้กู บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อน่ื เปน็ พืน้ ฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั นข์ องตน

ภาษากับความสัมพันธ์กับชุมชนและโลก การใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ
ทั้งในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสังคมโลก เป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ
และแลกเปลีย่ นเรียนรู้กับสงั คมโลก

หลักสตู รกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศเล่มน้ี ประกอบด้วย วิสัยทัศนข์ องกล่มุ สาระการเรียนรู้
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ โครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา มาตรฐานการเรียนรู้
ตัวชี้วัดและสาระแกนกลาง โครงสร้างเวลาเรียน โครงสร้างหลักสูตร โครงสร้างรายวิชากลุ่มสาระการเรียนรู้
คำอธิบายรายวชิ า

วิสัยทศั น์

หลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ โรงเรียนหนองโนประชาสรรค์ มุ่งหวังให้ผู้เรียน
มีเจตคติท่ีดีต่อภาษาต่างประเทศ สามารถใช้ภาษาต่างประเทศ ส่ือสารในสถานการณ์ต่าง ๆ แสวงหาความรู้
ประกอบอาชีพ และศึกษาต่อ ในระดับท่ีสูงข้ึน รวมทั้งมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องราวและวัฒนธรรม
อันหลากหลายของประชาคมโลก และสามารถถ่ายทอดความคิดและวัฒนธรรมไทยไปยังสังคมโลกได้
อย่างสร้างสรรค์ การใช้ภาษาต่างประเทศในการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน แลกเปลี่ยนข้อมูล
ข่าวสาร แสดงความรู้สึกและความคิดเห็น ตีความ นำเสนอข้อมูล ความคิดรวบยอดและความคิดเห็นใน
เร่ืองต่างๆ และสร้างความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลอย่างเหมาะสม การใช้ภาษาต่างประเทศตามวัฒนธรรมของ
เจ้าของภาษาความสัมพันธ์ ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา
ภาษาและวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับวัฒนธรรมไทย และนำไปใชอ้ ย่างเหมาะสม การใช้ภาษาต่างประเทศ
ในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น เป็นพ้ืนฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์
ของตน และการใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ต่างๆ ท้งั ในห้องเรียนและนอกห้องเรียน ชุมชน และสงั คมโลก
เป็นเครอ่ื งมือพ้ืนฐานในการศึกษาต่อ ประกอบอาชีพ และแลกเปลย่ี นเรียนรกู้ ับสังคมโลก

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน

ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มี
คุณภาพตามมาตรฐานการเรียนรู้ ซึ่งการพัฒนาผู้เรียนให้บรรลุมาตรฐานการเรียนรู้ท่ีกำหนดน้ัน
จะชว่ ยใหผ้ เู้ รียนเกดิ สมรรถนะสำคัญ 5 ประการ ดังนี้

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพ่ือแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมท้ังการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและ
ลดปัญหาความขัดแย้งต่างๆ การเลือกรบั หรือไม่รบั ข้อมูลข่าวสารด้วยหลักเหตผุ ล และความถูกต้อง ตลอดจน
การเลอื กใชว้ ิธกี ารสอื่ สาร ทมี่ ปี ระสิทธภิ าพโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทม่ี ตี อ่ ตนเองและสังคม

2. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิด
อย่างสร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพ่ือนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือ
สารสนเทศเพ่ือการตดั สนิ ใจเก่ยี วกับตนเอง และสงั คมได้อย่างเหมาะสม

3. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ท่ีเผชิญ
ได้อย่างถูกต้อง เหมาะสม บนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่างๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปัญหา และมกี ารตัดสนิ ใจทมี่ ปี ระสทิ ธิภาพ โดยคำนึงถึงผลกระทบท่เี กดิ ขึน้ ตอ่ ตนเอง สังคมและสิ่งแวดลอ้ ม

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่างๆ ไปใช้
ในการดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ
อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคม และสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง
พฤติกรรมไมพ่ งึ ประสงคท์ ีส่ ่งผลกระทบต่อตนเองและผู้อื่น

5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่างๆ
และมีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพ่ือการพัฒนาตนเองและสังคม ในด้านการเรียนรู้การส่ือสาร
การทำงานการแกป้ ัญหาอยา่ งสร้างสรรค์ ถูกตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม

คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

ในการพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มี
คุณ ลักษณ ะอันพึงประสงค์เพ่ือให้สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมได้อย่างมีความสุข ในฐานะ
เปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังน้ี

1. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์ หมายถึง มีความภาคภูมิใจในความเป็นไทย นิยมไทย ปฏิบัติตามคำสั่ง
สอนของศาสนา เคารพเทิดทูนศาสนา แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนพระเกียรติ และพระราชกรณียกิจของ
พระมหากษตั รยิ ์

2. ซื่อสัตย์สุจริต หมายถึง การประพฤติปฏิบัติอย่างเหมาะสม และตรงต่อความเป็นจริง ประพฤติ
ปฏิบัติอย่างตรงไปตรงมา ทั้งกาย วาจา ใจ ต่อตนเองและผู้อื่น รวมตลอดท้ังต่อหน้าที่ การงานและคำมั่น
สัญญา ความประพฤติที่ตรงไปตรงมา และจริงใจในสิ่งที่ถูกท่ีควร ถูกต้องตามทำนองคลองธรรม รวมไปถึง
การไม่คิดคดทรยศ ไม่คดโกงและไม่หลอกลวง นอกจากนี้แล้วความซื่อสัตย์สุจริตยังรวมไปถึง การรักษาคำพูด
หรือคำมั่นสัญญา และการปฏิบัติหน้าที่การงานของตนเองด้วยความรับผิดชอบ และด้วยความซื่อสัตย์
ไม่แสวงหาผลประโยชน์ให้แก่ตนเองและพวกพ้องด้วยการใช้ อำนาจหน้าที่โดยมิชอบ ซ่ึงความซื่อสัตย์สุจริตน้ี
จะดำเนินไปด้วยความต้ังใจจริงเพื่อทำหน้าที่ของตนเองให้สำเร็จลุล่วง ด้วยความระมัดระวัง และเกิดผลดี
ต่อตนเองและสงั คม

3. มวี ินัย หมายถึง การควบคุมความประพฤตใิ ห้ถูกต้องและเหมาะสมกบั จรรยา มารยาท ข้อบังคับ
ข้อตกลง กฎหมาย และศีลธรรมการรู้จักควบคุมตนเองให้ประพฤติปฏิบัติตามข้อตกลง ข้อบังคับ ระเบียบ
แบบแผน และขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงาม ย่อมนำมาซึ่งความสงบสุข ในชีวิตของตน ความเป็นระเบียบ
เรียบรอ้ ยของสงั คมและประเทศชาติ

4. ใฝเ่ รยี นรู้ หมายถงึ การค้นควา้ หาความรหู้ รอื ส่ิงทีเ่ ป็นประโยชน์ เพ่อื พฒั นาตนเองอยเู่ สมอ
5. อยู่อย่างพอเพียง หมายถึง การมีความพอดีในการบริโภค ใช้ทรัพยากรและเวลาว่าง
ให้เป็นประโยชน์ คำนึงถึงฐานะและเศรษฐกิจ คิดก่อนใช้จ่ายตามความเหมาะสม รู้จักการเพ่ิมพูนทรัพย์
ดว้ ยการเก็บและนำไปใชใ้ หเ้ กิดประโยชน์ ดูแลรักษาบูรณทรพั ยข์ องตนเอง มกี ารเกบ็ ออมเงินไว้ตามสมควร
6. มุ่งมั่นในการทำงาน หมายถึง การศึกษาเรียนรู้เพ่ือหาข้อเท็จจริง ซึ่งอาจพัฒนาไปสู่ความจริง
ในส่ิงที่ต้องการเรียนรู้ หรือต้องการหาคำตอบ เพ่ือนำคำตอบท่ีได้นั้นมาใช้ประโยชน์ ในด้านต่าง ๆ
เชน่ การยกระดบั ความรู้ การนำไปประยุกตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวนั ฯลฯ หรือนำมาสรปุ เป็นความจรงิ ใหไ้ ด้
7. รักความเป็นไทย หมายถึง เข้าใจ หวงแหนความเป็นไทยซึ่งถือเป็นต้นทุนทางสังคม ทำให้
ทุกศาสนา สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติโดยต้องมีการดำเนินชีวิตโดยกายสุจริต วจีสุจริต และมโนสุจริต
เป็นคุณลักษณะที่เกี่ยวข้องกับการเข้าสังคมและการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น เช่น ความมีกิริยามารยาท
การปรับตัว ความตรงต่อเวลา ความสุภาพ การมีสัมมาคารวะ การพูดจาไพเราะ ความอ่อนน้อมถ่อมตน
มีความรัก และภาคภูมิใจในท้องถ่นิ และความเปน็ ไทย
8. มีจิตสาธารณะ หมายถึง คุณลักษณะทางจิตใจของบุคคลเก่ียวกับการมองเห็นคุณค่า
หรือการให้คุณค่าแก่การมีปฏิสัมพันธ์ทางสังคมและสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นส่ิงสาธารณะที่ไม่มีผู้ใดผู้หน่ึงเป็นเจ้าของ
หรือเป็นสิ่งที่คนในสังคมเป็นเจ้าของร่วมกัน เป็นสิ่งท่ีสามารถสังเกตได้จากความรู้สึกนึกคิด หรือการกระทำที่
แสดงออกมา ได้แก่ การหลีกเลี่ยงการใช้หรือการกระทำท่ีจะทำให้เกิดความชำรุดเสียหายต่อส่วนรวมที่ใช้
ประโยชน์รว่ มกนั ของกลุ่ม การถอื เป็นหน้าทีท่ ี่จะมสี ว่ นร่วม
9. ยิ้ม ไหว้ ทักทายเป็น หมายถึงผู้เรียนมีคุณลักษณะท่ีดีดังต่อไปนี้ ผู้เรียนมีอัธยาศัยไมตรีท่ีดี
จากการแสดงออกด้วยการยม้ิ การไหว้ และการทักทาย

โครงสรา้ งเวลาเรยี น

โรงเรยี นหนองโนประชาสรรค์ พทุ ธศกั ราช 2561

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรุงปรุง พทุ ธศักราช 2562)

กำหนดโครงสรา้ งเวลาเรียน ดังนี้

กลุ่มสาระการเรียนร้/ู เวลาเรยี น

กิจกรรม ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย

ม.1 ม.2 ม.3 ม.4-6

กลมุ่ สาระการเรียนรู้

ภาษาไทย 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 240(6.0นก.)

คณิตศาสตร์ 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 240(6.0นก.)

วิทยาศาสตร์ 160(4.0นก.) 160(4.0นก.) 160(4.0นก.) 320(8.0นก.)

สงั คมศึกษา ศาสนา และ 160(4.0นก.) 160(4.0นก.) 160(4.0นก.) 320(8.0นก.)

วฒั นธรรม 40(1.0นก.) 40(1.0นก.) 40(1.0นก.) 80(2.0นก.)

ประวตั ศิ าสตร์

ศาสนาศีลธรรม จริยธรรม 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 240(6.0นก.)
หน้าท่ีพลเมือง วัฒนธรรม และการ

ดำเนินชีวิตในสังคม

ภูมิศาสตร์

เศรษฐศาสตร์

สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา 80(2.0นก.) 80(2.0นก.) 80(2.0นก.) 120(3.0นก.)

ศลิ ป์ 80(2.0นก.) 80(2.0นก.) 80(2.0นก.) 120(3.0นก.)

การงานอาชพี และเทคโนโลยี 40(1.0นก.) 40(1.0นก.) 40(1.0นก.) 40(1.0นก.)

ภาษาต่างประเทศ 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 120(3.0นก.) 240(6.0นก.)

รวมเวลาเรียน (พน้ื ฐาน) 880(22.0นก.) 880(22.0นก.) 880(22.0นก.) 1,640(41.0นก.)

รายวิชาเพิ่มเติม ปีละไมน่ อ้ ยกว่า 200 ชั่วโมง ไม่นอ้ ยกวา่ 1,600 ชวั่ โมง

กิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน

กิจกรรมแนะแนว

กิจกรรมนักเรยี น

ลูกเสอื เนตรนารี 120 120 120 360
ชมุ นมุ

กิจกรรมเพ่ือสังคมและ

สาธารณประโยชน์

รวมเวลากิจกรรมพัฒนา 120 120 120 360
ผ้เู รียน

รวมเวลาท้งั หมด ไมน่ อ้ ยกวา่ 1,200 ชัว่ โมง/ปี รวม 3 ปี
ไมน่ ้อยกว่า 3,600 ชว่ั โมง

โครงสรา้ งหลกั สูตร ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาตอนต้น ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2

ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรยี นท่ี 2

รหสั วชิ า รายวิชาพ้นื ฐาน นก. ชม. รหัสวชิ า รายวชิ าพื้นฐาน นก. ชม.

ท22101 ภาษาไทย 3 1.5 60 ท22102 ภาษาไทย 4 1.5 60

ค22101 คณิตศาสตร์ 3 1.5 60 ค22102 คณติ ศาสตร์ 4 1.5 60

ว22101 วทิ ยาศาสตร์ 3 1.5 60 ว22103 วิทยาศาสตร์ 4 1.5 60

ว22102 การออกแบบเทคโนโลยี 2 0.5 20 ว22104 วิทยาการคำนวณ 2 0.5 20

ส22101 สงั คมศึกษาฯ 3 1.5 60 ส22102 สังคมศกึ ษาฯ 4 1.5 60

ส22161 ประวัตศิ าสตร์ 3 0.5 20 ส22162 ประวตั ิศาสตร์ 4 0.5 20

พ22101 สขุ ศึกษาและพลศกึ ษา 3 1.0 40 พ22102 สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา 4 1.0 40

ศ22101 ศลิ ปะ 3 1.0 40 ศ22102 ศิลปะ 4 1.0 40

ง22101 การงานและพื้นฐานอาชพี 3 0.5 20 ง22102 การงานและพื้นฐานอาชีพ 4 0.5 20

อ22101 ภาษาองั กฤษ 3 1.5 60 อ22102 ภาษาองั กฤษ 4 1.5 60

รวม 11.0 440 รวม 11.0 440

รหัสวชิ า รายวชิ าเพม่ิ เตมิ นก. ชม. รหสั วิชา รายวิชาเพมิ่ เติม นก. ชม.

ว22201 Microsoft power point 1 1.0 40 ว22202 Microsoft power point 2 1.0 40

ส22201 อาเซียนศึกษา 2 0.5 20 ส22234 หน้าที่พลเมอื ง 4 0.5 20

ส22233 หน้าที่พลเมอื ง 3 0.5 20 พ22205 เซปักตะกรอ้ 0.5 20

อ22201 ภาษาอังกฤษอ่านเขยี น 1 0.5 20 อ22203 ภาษาองั กฤษอ่านเขยี น 2 0.5 20

ค22201 เสรมิ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ 3 1.0 40 ค22202 เสรมิ ทกั ษะคณติ ศาสตร์ 4 1.0 40

ท22201 เสรมิ ทกั ษะการเขยี น 1 1.0 40 ท22202 เสรมิ ทกั ษะการเขยี น 2 1.0 40

ง22201 ผลติ ภณั ฑข์ นมอบ 2.0 80 ง22202 ขนมไทย 2.0 80

ศ22241 ดนตรสี ากลปฏิบัติ 3 2.0 80 ศ22242 ดนตรสี ากลปฏบิ ตั ิ 4 2.0 80

ศ22251 นาฏศิลป์พืน้ เมือง 3 2.0 80 ศ22252 นาฏศิลปพ์ น้ื เมอื ง 4 2.0 80

รวม 4.5 180 รวม 4.5 180

กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน นก. ชม. กิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น นก. ชม.

▪ กิจกรรมแนะแนว - 20 ▪ กิจกรรมแนะแนว - 20

▪ กจิ กรรมนกั เรยี น ▪ กิจกรรมนักเรยี น

ลกู เสือ / เนตรนารี - 20 ลูกเสอื / เนตรนารี - 20

กิจกรรมชุมนุม - 20 กจิ กรรมชุมนมุ - 20

▪ กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์ - - ▪ กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ --

รวม - 60 รวม - 60

รวมทัง้ หมด 15.5 680 รวมทั้งหมด 15.5 680

*หมายเหตุ ในภาคเรยี นที่ 1 และ 2 มกี ลมุ่ วชิ าเพิ่มเตมิ ใหเ้ ลือกเรยี นทง้ั หมด 4 กลุ่มวชิ า ดงั นี้

กลมุ่ ท่ี 1 รายวชิ าเสริมทกั ษะคณติ ศาสตร์ 3และเสรมิ ทักษะการเขียน 1 กล่มุ ที่ 1 รายวชิ าเสรมิ ทักษะคณิตศาสตร์ 4และเสรมิ ทักษะการเขยี น

2กลุ่มที่ 2 รายวชิ าผลติ ภณั ฑข์ นมอบ กลุ่มท่ี 2 รายวชิ าขนมไทย

กลุม่ ที่ 3 รายวิชานาฏศลิ ปพ์ ื้นเมอื ง 3 กลมุ่ ท่ี 3 รายวิชานาฏศิลป์พน้ื เมือง 4

กลุ่มท่ี 4 รายวชิ าดนตรีสากลปฏิบตั ิ 3 กลมุ่ ท่ี 4 รายวชิ าดนตรสี ากลปฏิบตั ิ 4

ตวั ชี้วดั และสาระการเรยี นรู้แกนกลาง

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการสือ่ สาร

มาตรฐาน ต 1.1 เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟงั และอ่านจากสื่อประเภทตา่ งๆ และแสดงความคดิ เห็นอยา่ งมี
เหตผุ ล

ช้นั ตวั ช้ีวดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.1 1. ปฏิบตั ิตามคำสั่ง คำขอรอ้ ง คำสัง่ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำช้แี จงในการทำอาหารและ

คำแนะนำ และคำชี้แจงงา่ ยๆ ทฟี่ ังและ เครอื่ งดืม่ การประดิษฐ์ การใชย้ า/สลากยา

อ่าน การบอกทิศทาง ปา้ ยประกาศต่างๆ หรือ การใช้อปุ กรณ์

- คำสง่ั เช่น Look at the…/here/over there. / Say it again/

Read and draw. / Put a/an…in/on/under a/an…/ Go to

the window and open it. / Take out the book, open

on page 17 and read it. / Don’t go over there. / Don’t

be late. etc.

- คำขอรอ้ ง เช่น Please look up the meaning in a

dictionary. / Look up the meaning in a dictionary,

please. / Can/Could you help me, please? / Excuse

me, could you …? etc.

- คำแนะนำ เชน่ You should read every day. / Think

before you speak. / คำศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นการเลน่ เกม Start. / My

turn. / Your turn. / Roll the dice. / Count the number.

/ Finish. etc.

- คำสันธาน conjunction เช่น and/but/or

- ตัวเชอ่ื ม connective words เชน่ First, … Second, Third, …

Next, … Then, … Finally, etc.

2. อ่านออกเสียงข้อความ นทิ าน และบท ขอ้ ความ นทิ าน และบทร้อยกรอง

ร้อยกรอง (poem) สนั้ ๆ ถกู ตอ้ งตาม การใช้พจนานกุ รม หลักการอ่านออกเสยี ง เช่น

หลักการอ่าน - การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะทา้ ยคำ

- การออกเสยี งเน้นหนกั -เบา ในคำและกลุม่ คำ

- การออกเสยี งตามระดบั เสยี งสูง-ตำ่ ในประโยค

- การแบง่ วรรคตอนในการอา่ น

- การอ่านบทรอ้ ยกรองตามจงั หวะ

3. เลือก/ระบุประโยคและขอ้ ความ แผนภูมิ ตาราง ภาพสตั ว์ ส่งิ ของ บุคคล สถานทตี่ า่ งๆ โดยใช้
ให้สมั พันธ์กับสอื่ ทไี่ มใ่ ชค่ วามเรยี ง Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but,
(non-text information) ทีอ่ า่ น although/ Quantity words เชน่ many/ much/ a lot of/
lots of/ some/ any/ a few/ few/ a little/ little etc.

ช้ัน ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.1 4. ระบุหัวข้อเรอื่ ง (topic) บทสนทนา นิทาน เร่ืองสั้น และเรือ่ งจากสือ่ ประเภทตา่ งๆ เชน่

ใจความสำคญั (main idea) และ หนงั สือพิมพ์ วารสาร วิทยุ โทรทศั น์ เว็บไซด์

ตอบคำถามจากการฟังและอ่าน การจับใจความสำคญั เช่น หวั ขอ้ เรอื่ ง ใจความสำคญั รายละเอยี ด

บทสนทนา นิทาน และเรื่องสัน้ สนับสนุน

คำถามเก่ียวกบั ใจความสำคญั ของเรื่อง เชน่ ใคร ทำอะไร ทีไ่ หน

เมือ่ ไร อย่างไร ทำไม ใช่หรือไม่

- Yes/No Question

- Wh-Question

- Or-Question etc.

- Tenses: present simple/ present continuous/ past

simple/ future simple etc.

- Simple sentence/ Compound sentence

ม.2 1. ปฏบิ ตั ิตามคำขอร้อง คำแนะนำ คำขอร้อง คำแนะนำ คำชแี้ จง และคำอธบิ าย เช่น การทำอาหาร
คำชีแ้ จง และคำอธบิ ายง่ายๆ ท่ฟี ังและ และเครื่องดม่ื การประดิษฐ์ การใชย้ า/สลากยา การบอกทศิ ทาง

อา่ น การใช้อปุ กรณ์

- Passive Voice ท่ีใช้ในโครงสรา้ งประโยคงา่ ยๆ เชน่ is/are +

Past Participle

- คำสนั ธาน conjunction เชน่ and/ but/ or/ before/ after e

- ตัวเช่อื ม connective words เชน่ First, … Second, Third,

Fourth, … Finally, etc.

2. อ่านออกเสียงข้อความ ข่าว ขอ้ ความ ข่าว ประกาศ และบทรอ้ ยกรอง

ประกาศ และบทรอ้ ยกรองสนั้ ๆ ถกู ต้อง การใช้พจนานุกรม

ตามหลกั การอา่ น หลักการอ่านออกเสยี ง เช่น

- การออกเสยี งพยญั ชนะตน้ คำและพยัญชนะทา้ ยคำ

- การออกเสียงเน้นหนกั -เบา ในคำและกลมุ่ คำ

- การออกเสยี งตามระดับเสยี งสูง-ตำ่ ในประโยค

- การออกเสยี งเชื่อมโยงในข้อความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอา่ น

- การอ่านบทร้อยกรองตามจังหวะ

3. ระบุ/เขยี นประโยค และข้อความ ให้ ประโยค หรือขอ้ ความ และความหมายเกย่ี วกับตนเอง ครอบครวั

สัมพันธ์กับส่ือท่ีไม่ใช่ความเรยี งรปู แบบ โรงเรียน ส่งิ แวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดื่ม เวลาวา่ งและนันทนาการ

ต่างๆ ท่ีอ่าน สขุ ภาพและสวสั ดิการ การซอ้ื -ขาย ลมฟ้าอากาศ การศึกษาและ

อาชีพ การเดินทางทอ่ งเทย่ี ว การบรกิ าร สถานที่ ภาษา และ

วทิ ยาศาสตร์ และเทคโนโลยี เป็นวงคำศพั ท์สะสมประมาณ 1,750-

1,900 คำ (คำศพั ท์ท่ีเป็นรปู ธรรมและนามธรรม)

การตีความ/ถ่ายโอนขอ้ มลู ใหส้ ัมพนั ธ์กบั ส่อื ที่ไมใ่ ชค่ วามเรยี ง เช่น

สัญลกั ษณ์ เครื่องหมาย กราฟ แผนภูมิ แผนผัง ตาราง ภาพสตั ว์

สงิ่ ของ บคุ คล สถานท่ตี ่างๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/

adverbs/ Contrast: but, although/ Quantity words เช่น

many/ much/ a lot of/ lots of/ some/ any/ a few/ few/ a

little/ little etc.

ชั้น ตวั ชีว้ ดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ม.2 4. เลือกหัวขอ้ เรอ่ื ง ใจความสำคญั บทสนทนา นทิ าน เร่อื งส้ัน และเร่ืองจากสอื่ ประเภทตา่ งๆ เชน่
บอกรายละเอียดสนบั สนุน หนงั สอื พิมพ์ วารสาร วทิ ยุ โทรทศั น์ เวบ็ ไซด์

(supporting detail) และแสดงความ การจบั ใจความสำคัญ เช่น หัวขอ้ เรื่อง ใจความสำคญั รายละเอยี ดสนบั สนนุ

คิดเหน็ เกย่ี วกับเร่ืองท่ฟี ังและอ่าน คำถามเกี่ยวกบั ใจความสำคญั ของเร่อื ง เช่น ใคร ทำอะไร ทไ่ี หน เม่ือไร

พร้อมทงั้ ใหเ้ หตุผลและยกตวั อยา่ ง อย่างไร ทำไม ใช่หรอื ไม่

งา่ ยๆ ประกอบ - Yes/No Question

- Wh-Question

- Or-Question etc.

ประโยคทีใ่ ชใ้ นการแสดงความคดิ เห็น การใหเ้ หตผุ ล และการยกตัวอยา่ ง

เชน่ I think…/ I feel…/ I believe…

- คำสนั ธาน (conjunctions) and/ but/ or/ because/ so/

before/after

- ตัวเช่อื ม (connective words) First,… Next,… After,… Then,…

Finally,… etc.

- Tenses: present simple/ present continuous/ present

perfect/ past simple/ future tense etc.

- Simple sentence/Compound sentence

ม.3 1. ปฏิบตั ติ ามคำขอร้อง คำแนะนำ คำขอร้อง คำแนะนำ คำชแ้ี จง และคำอธิบาย ในการประดษิ ฐ์ การบอก

คำชี้แจง และคำอธบิ ายทฟ่ี ังและอ่าน ทศิ ทาง ปา้ ยประกาศตา่ งๆ การใช้อปุ กรณ์

- Passive Voice ท่ใี ชใ้ นโครงสรา้ งประโยคงา่ ยๆ เชน่ is/are + past

participle

- คำสนั ธาน conjunction เชน่ and/ but/ or/ before/ after/

because etc.

- ตวั เชื่อม connective words เช่น First,… Second,… Third,…

Fourth,… Next,… Then,… Finally,… etc.

2. อา่ นออกเสียงข้อความ ข่าว โฆษณา ขอ้ ความ ขา่ ว โฆษณา และบทรอ้ ยกรอง

และบทรอ้ ยกรองส้ันๆ ถูกตอ้ งตาม การใชพ้ จนานกุ รม หลกั การอา่ นออกเสยี ง เช่น

หลักการอ่าน - การออกเสยี งพยัญชนะตน้ คำและพยัญชนะทา้ ยคำ สระเสยี งสัน้

สระเสยี งยาว สระประสม

- การออกเสียงเนน้ หนกั -เบา ในคำและกลุม่ คำ

- การออกเสยี งตามระดับเสยี งสูง-ตำ่ ในประโยค

- การออกเสยี งเชื่อมโยงในขอ้ ความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอา่ น

- การอา่ นบทร้อยกรองตามจงั หวะ

ชั้น ตัวชีว้ ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ม.3 3. ระบแุ ละเขียนสือ่ ทไี่ ม่ใช่ความเรยี ง ประโยค ขอ้ ความ และความหมายเกยี่ วกบั ตนเอง ครอบครวั โรงเรยี น
รูปแบบตา่ งๆให้สัมพันธ์กับประโยค และ สงิ่ แวดลอ้ ม อาหาร เครือ่ งด่มื เวลาวา่ งและนนั ทนาการ สุขภาพและ

ข้อความทฟี่ งั หรอื อา่ น สวสั ดิการ การซื้อ-ขาย ลมฟา้ อากาศ การศึกษาและอาชพี การเดนิ ทาง

ท่องเท่ยี ว การบริการ สถานท่ี ภาษา และวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เปน็

วงคำศัพทส์ ะสมประมาณ 1,400-1,550 คำ (คำศัพท์ทเ่ี ป็นรูปธรรมและ

นามธรรม) การตีความ/ถา่ ยโอนขอ้ มูลใหส้ มั พนั ธ์กบั สื่อท่ีไม่ใช่ความเรยี ง

เช่น สัญลักษณ์ เครอ่ื งหมาย กราฟ แผนภมู ิ ตาราง ภาพสตั ว์ ส่งิ ของ

บคุ คล สถานท่ตี า่ งๆ โดยใช้ Comparison of adjectives/ adverbs/

Contrast : but, although/ Quantity words เช่น many/ much/ a

lot of/ lots of/ some/ any /a few/ few/ a little/ little etc.

4. เลือก/ระบุหัวขอ้ เร่ือง ใจความ การจบั ใจความสำคญั เชน่ หัวขอ้ เรอื่ ง ใจความสำคญั รายละเอยี ด

สำคัญ รายละเอียดสนับสนุน และ สนบั สนุน จากส่อื ส่งิ พิมพแ์ ละสอื่ อเิ ล็กทรอนิกส์ เช่น หนังสือพิมพ์

แสดงความคดิ เหน็ เกยี่ วกับเร่ืองทฟี่ งั วารสาร วิทยุ โทรทศั น์ เว็บไซด์บนอนิ เทอร์เน็ต

และอา่ นจากส่ือประเภทตา่ งๆ พรอ้ ม คำถามเกีย่ วกับใจความสำคญั ของเรื่อง เชน่ ใคร ทำอะไร ที่ไหน เมอื่ ไร

ทงั้ ใหเ้ หตผุ ลและยกตัวอยา่ งประกอบ อยา่ งไร ทำไม ใช่หรือไม่

- Yes/No Question

- Wh-Question

- Or-Question etc.

ประโยคทีใ่ ช้ในการแสดงความคดิ เหน็ การใหเ้ หตผุ ลและการยกตัวอยา่ ง

เชน่ I think…/ I feel…/I believe…/

I agree/disagree…/ I don’t believe…/ I have no idea…

- if clauses

- so…that/such…that

- คำสนั ธาน conjunctions เชน่ and/ but/ or/ because/ so/

before/ after etc.

- Infinitive pronouns: some/ any/ someone/ anyone/

everyone/ one/ ones etc.

- Tenses: present simple/ present continuous/ present

perfect/ past simple/ future tense etc.

- Simple sentence/ Compound sentence/ Complex sentence

ม.4-6 1. ปฏิบตั ิตามคำแนะนำในคูม่ ือ คำแนะนำ คำช้ีแจง คำอธิบาย คำบรรยาย เชน่ ประกาศเตือนภยั ต่างๆ

การใช้งานต่างๆ คำชแี้ จง คำอธิบาย ยาและการใช้ยา การใชอ้ ปุ กรณ์และสง่ิ ของ การสบื ค้นข้อมลู ทาง

และคำบรรยายทฟ่ี งั และอ่าน อนิ เทอรเ์ นต็

- Modal verb: should/ ought to/ need/ have to/ must+ verb

ที่เป็น infinitive without to เช่น You should have it after

meal. (Active Voice)/The doses must be divided. (Passive

Voice)

- Direct/Indirect Speech

- คำสันธาน conjunction เช่น and/ but/ or/ so/ not only…but

also/ both…and/ as well as/ after/ because etc.

- ตวั เช่อื ม connective words เช่น First, … Second, Third,

Fourth, … Next, … Then, … Finally, … etc.

ชนั้ ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ม.4-6 2. อา่ นออกเสยี งขอ้ ความ ข่าว ขอ้ ความ ขา่ ว ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และบทละครสั้น

ประกาศ โฆษณา บทร้อยกรอง และ การใช้พจนานุกรม

บทละครส้นั (skit) ถูกตอ้ งตาม หลักการอ่านออกเสยี ง เชน่

หลักการอา่ น - การออกเสียงพยัญชนะต้นคำและพยัญชนะท้ายคำ สระเสยี งสน้ั สระ

เสยี งยาว สระประสม

- การออกเสยี งเนน้ หนกั -เบา ในคำและกลุ่มคำ

- การออกเสยี งตามระดับเสียงสงู -ต่ำ ในประโยค

- การออกเสียงเช่อื มโยงในข้อความ

- การแบ่งวรรคตอนในการอ่าน
- การอ่านบทรอ้ ยกรองตามจังหวะ

3. อธบิ ายและเขยี นประโยค ประโยคและข้อความ การตคี วาม/ถา่ ยโอนข้อมลู ให้สัมพันธ์กับสอื่ ทไี่ มใ่ ช่
และข้อความให้สัมพนั ธก์ ับส่ือทไี่ มใ่ ช่ ความเรยี ง เช่น ภาพ แผนผัง กราฟ แผนภมู ิ ตาราง อักษรยอ่ จากกลุ่ม
ความเรยี งรูปแบบต่างๆ ท่ีอา่ น รวมท้ัง สาระการเรยี นรูอ้ นื่ ดว้ ยการพูดและการเขยี นอธบิ าย โดยใช้
ระบแุ ละเขียนส่ือทีไ่ ม่ใชค่ วามเรียง Comparison of adjectives/ adverbs/ Contrast : but, although,
รูปแบบต่างๆ ใหส้ ัมพนั ธก์ บั ประโยค however, in spite of…/ Logical connectives เชน่ caused by/
และข้อความทฟ่ี งั หรืออา่ น

followed by/ consist of etc.

4. จับใจความสำคญั วิเคราะหค์ วาม เร่ืองที่เป็นสารคดีและบนั เทิงคดี การจบั ใจความสำคญั
สรุปความ ตคี วาม และแสดงความ การสรุปความ การวเิ คราะหค์ วามการตีความ การใชs้ kimming
คิดเหน็ จากการฟังและอา่ นเรือ่ งทเี่ ป็น /scanning/guessing/context clue ประโยคที่ใชใ้ นการแสดงความ
สารคดแี ละบันเทงิ คดี พร้อมทง้ั ให้ คิดเห็น การใหเ้ หตผุ ลและการยกตวั อย่าง เชน่ I believe…/ I agree
เหตผุ ลและยกตัวอยา่ งประกอบ with… but…

/ Well, I must say…/ What do you think of/about…? /I

think/don’t think…? / What’s your opinion about…? / In my

opinion…/

- if clauses

- so…that/such…that

- too to…/enough to…

- on the other hand, …

- other (s)/another/the other (s)

- คำสนั ธาน conjunctions เช่น because/and/so/but/however

/because of/due to/owing to etc.

- Infinitive pronouns: some, any, someone, anyone,

everyone,

one, ones etc.

- Tenses: present simple/present continuous/ present perfect

/Past simple/future tense etc.

- Simple sentence/Compound sentence/ Complex sentence

สาระท่ี 1 ภาษาเพื่อการส่ือสาร

มาตรฐาน ต 1.2 มีทกั ษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นขอ้ มลู ข่าวสาร แสดงความรูส้ ึก
และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ

ช้นั ตวั ชว้ี ัด สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ม.1 1. สนทนา แลกเปลยี่ นขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง ภาษาที่ใชใ้ นการสอ่ื สารระหว่างบคุ คล เชน่ การทกั ทาย กล่าว

กิจกรรม และสถานการณ์ตา่ งๆ ในชวี ิต ลา ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอย่างสภุ าพ การ

ประจำวนั ชักชวน ประโยค/ข้อความ ทใี่ ช้แนะนำตนเอง เพ่ือน และ

บคุ คลใกลต้ ัว และสำนวนการตอบรับ

การแลกเปลีย่ นข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง กิจกรรม สถานการณ์ตา่ งๆ

ในชวี ติ ประจำวนั

2. ใชค้ ำขอร้อง ให้คำแนะนำ และคำชแี้ จง ตาม คำขอรอ้ ง คำแนะนำ และคำช้ีแจง

สถานการณ์

3. พูดและเขยี นแสดงความตอ้ งการ ภาษาทใี่ ชใ้ นการแสดงความต้องการ ขอความชว่ ยเหลอื ตอบ

ขอความช่วยเหลือ ตอบรบั และปฏิเสธการให้ รับและปฏิเสธการใหค้ วามชว่ ยเหลอื เช่น

ความช่วยเหลือในสถานการณต์ ่างๆ อย่าง Please…/…, please. / I’d like…/ I need…/ May/Can

เหมาะสม /Could…? / Yes,../Please do. / Certainly. / Yes, of

course. /Sure./ Go right ahead./ Need some help? /

What can I do to help? / Would you like any help? /

I’m afraid…/ I’m sorry, but…/ Sorry, but… etc.

4. พูดและเขยี นเพื่อขอและให้ขอ้ มลู และแสดง คำศัพท์ สำนวน ประโยค และขอ้ ความท่ใี ช้ในการขอและให้

ความคดิ เหน็ เกยี่ วกบั เร่อื งที่ฟังหรอื อ่านอย่าง ข้อมูล และแสดงความคดิ เหน็ เก่ียวกับเรือ่ งที่ฟังหรอื อ่าน

เหมาะสม

5. พดู และเขียนแสดงความรู้สกึ และความคิดเห็น ภาษาท่ีใช้ในการแสดงความรู้สกึ ความคิดเห็น และใหเ้ หตผุ ล

ของตนเองเกย่ี วกบั เร่ืองต่างๆ ใกลต้ ัว กิจกรรม ประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดใี จ เสยี ใจ มคี วามสุข เศร้า หวิ

ต่างๆ พร้อมทง้ั ใหเ้ หตผุ ลส้นั ๆ ประกอบอยา่ ง รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี งดัง ดี ไมด่ ี จากข่าว เหตกุ ารณ์

เหมาะสม สถานการณ์ ในชีวิตประจำวัน เชน่ Nice/ Very nice. / Well

done! / Congratulations. I like… because… / I

love…because…/ I feel… because… I think…/ I

believe…/ I agree/disagree…I don’t believe… / I have

no idea…/ Oh no! etc.

ม.2 1. สนทนา แลกเปลยี่ นขอ้ มูลเกยี่ วกับตนเอง ภาษาทีใ่ ชใ้ นการสอื่ สารระหว่างบุคคล เช่น การทกั ทาย กล่าว

เรื่องต่างๆ ใกลต้ วั และสถานการณ์ต่างๆ ใน ลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอยา่ งสภุ าพ การ

ชีวติ ประจำวนั อยา่ งเหมาะสม ชกั ชวน ประโยค/ขอ้ ความ ทีใ่ ชแ้ นะนำตนเอง เพอื่ น และ

บุคคลใกลต้ วั และสำนวนการตอบรบั การแลกเปลย่ี นข้อมลู

เก่ยี วกับตนเองเรอ่ื งใกลต้ วั สถานการณต์ ่างๆ ในชวี ิตประจำวนั

2. ใชค้ ำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำชีแ้ จง และ คำขอร้อง คำแนะนำ คำชี้แจง และคำอธิบาย

คำอธิบายตามสถานการณ์

3 . พดู และเขียนแสดงความต้องการ เสนอและ ภาษาที่ใช้ในการแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ความ

ให้ความช่วยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการให้ ชว่ ยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความช่วยเหลือใน

ความช่วยเหลอื ในสถานการณต์ า่ งๆ อย่าง สถานการณต์ ่างๆ เชน่ Please…/…, please./ I’d like…/ I

เหมาะสม need… / May/Can /Could…? / Yes, /Please do.

/Certainly. / Yes, of course. / Sure./ Go right ahead./

Need some help? / What can I do to help? / Would

you like any help? / I’m afraid…/ I’m sorry, but…/

Sorry, but… etc.

ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ม.2 4. พดู และเขียนเพื่อขอและให้ข้อมูล บรรยาย คำศพั ท์ สำนวน ประโยค และข้อความที่ใช้ในการขอและให้

และแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเร่ืองทฟี่ ังหรอื ขอ้ มลู บรรยาย และแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับเรอื่ งทีฟ่ งั หรือ

อา่ นอย่างเหมาะสม อ่าน

5. พดู และเขยี นแสดงความร้สู กึ และความ ภาษาทใี่ ช้ในการแสดงความรสู้ ึก ความคิดเหน็ และใหเ้ หตผุ ล

คดิ เห็นของตนเองเก่ียวกับเร่อื งตา่ งๆ กิจกรรม ประกอบ เช่น ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสียใจ มคี วามสขุ เศร้า หิว

และประสบการณ์ พร้อมท้ังใหเ้ หตผุ ลประกอบ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสียงดงั ดี ไม่ดี จากข่าว เหตุการณ์

อย่างเหมาะสม สถานการณ์ ในชีวติ ประจำวนั เชน่ Nice. / Very nice. / Well

done! / Congratulations on… / I like…because…/ I

love…because…/ I feel… because…/ I think…/ I

believe…/ I agree/ disagree…/ I’m afraid I don’t

like…/ I don’t believe…/ I have no idea…/ Oh no!

etc.

ม.3 1. สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมูลเกยี่ วกับ ภาษาทีใ่ ชใ้ นการสือ่ สารระหว่างบุคคล เชน่ การทักทาย กล่าว

ตนเอง เร่ืองตา่ งๆใกลต้ วั สถานการณ์ ขา่ ว ลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพูดแทรกอย่างสุภาพ การ

เรอ่ื งทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสังคมและสอ่ื สาร ชกั ชวน การแลกเปลย่ี นข้อมลู เกย่ี วกับตนเอง เรื่องใกล้ตวั

อย่างต่อเน่อื งและเหมาะสม สถานการณ์ตา่ งๆ ในชีวิตประจำวนั การสนทนา/เขยี นข้อมูล

เกย่ี วกับตนเองและบคุ คลใกล้ตวั สถานการณ์ ข่าว เรอื่ งท่ีอยูใ่ น

ความสนใจในชีวิตประจำวัน

2. ใชค้ ำขอรอ้ ง ให้คำแนะนำ คำชี้แจง และ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำชี้แจง คำอธบิ าย ที่มีข้นั ตอนซับซอ้ น

คำอธบิ ายอยา่ งเหมาะสม

3. พดู และเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอและให้ ภาษาท่ใี ช้ในการแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วาม

ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการใหค้ วาม ช่วยเหลอื ตอบรับและปฏิเสธการให้ความชว่ ยเหลอื ใน

ช่วยเหลือในสถานการณต์ ่างๆ อยา่ งเหมาะสม สถานการณ์ต่างๆ เช่น Please…/…, please. / I’d like…/ I

need…/ May/Can/Could…? / Yes, /Please do. /

Certainly. / Yes, of course. / Sure./ Go right ahead./

Need some help? / What can I do to help? / Would

you like any help? / I’m afraid…/ I’m sorry, but…/

Sorry, but… etc.

4. พดู และเขยี นเพอื่ ขอและให้ขอ้ มูล อธบิ าย คำศพั ท์ สำนวน ประโยค และข้อความทีใ่ ช้ในการขอและให้

เปรียบเทยี บ และแสดงความคิดเหน็ เกี่ยวกบั ข้อมลู อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับ

เรอ่ื งท่ฟี งั หรืออา่ นอย่างเหมาะสม เรื่องทีฟ่ ังหรืออ่าน

5. พูดและเขียนบรรยายความรูส้ ึก และความ ภาษาที่ใชใ้ นการแสดงความรู้สกึ ความคดิ เห็น และใหเ้ หตผุ ล

คิดเหน็ ของตนเองเก่ียวกบั เร่อื งต่างๆ กจิ กรรม ประกอบ เชน่ ชอบ ไม่ชอบ ดีใจ เสยี ใจ มคี วามสขุ เศรา้ หวิ

ประสบการณ์ และข่าว/เหตกุ ารณ์ พร้อมทั้งให้ รสชาติ สวย น่าเกลยี ด เสยี งดงั ดี ไมด่ ี จากขา่ ว เหตุการณ์

เหตผุ ลประกอบอยา่ งเหมาะสม สถานการณใ์ นชีวิตประจำวัน เช่น Nice. / Very nice. / Well

done! / Congratulations on... / I like…because…/ I love…

because… /I feel… because…I think…/ I believe…/I

agree/disagree…/ I’m afraid …/ I don’t like…I don’t

believe…/ I have no idea…/ Oh no! etc.

ชัน้ ตัวช้ีวดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.4-6 1. สนทนาและเขยี นโตต้ อบข้อมลู เก่ยี วกบั ภาษาท่ีใช้ในการสอ่ื สารระหวา่ งบุคคล เชน่ การทักทาย กลา่ ว

ตนเองและเรื่องต่างๆ ใกลต้ วั ประสบการณ์ ลา ขอบคณุ ขอโทษ ชมเชย การพดู แทรกอย่างสภุ าพ การ

สถานการณ์ ข่าว / เหตุการณ์ ประเดน็ ท่ีอยูใ่ น ชกั ชวน การแลกเปลีย่ นข้อมลู เกย่ี วกบั ตนเอง เร่ืองใกลต้ ัว

ความสนใจของสังคม และสอื่ สาร สถานการณต์ ่างๆ ในชีวิตประจำวนั การสนทนา/เขยี นข้อมูล

อย่างต่อเนอ่ื งและเหมาะสม เกี่ยวกบั ตนเองและบคุ คลใกล้ตวั ประสบการณ์ สถานการณ์

ตา่ งๆ ขา่ วเหตุการณ์ ประเดน็ ท่ีอยูใ่ นความสนใจของสังคม

2. เลอื กและใชค้ ำขอร้อง ให้คำแนะนำ คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำชแ้ี จง คำอธิบาย ที่มขี ้ันตอนซบั ซอ้ น

คำช้แี จง คำอธบิ าย อย่าคล่องแคลว่

3.พูดและเขียนแสดงความตอ้ งการ เสนอ ตอบ ภาษาที่ใชใ้ นการแสดงความต้องการ เสนอและใหค้ วาม

รบั และปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลือใน ช่วยเหลือ ตอบรับและปฏเิ สธการให้ความชว่ ยเหลอื ใน

สถานการณ์จำลองหรือสถานการณจ์ ริงอยา่ ง สถานการณต์ า่ งๆ เช่น Please…/…, please./ I’d like…/ I

เหมาะสม need…/May /Can/Could…? /Would you please…? Yes,

/ Please do. / Certainly./ Yes, of course./ Sure./ Would

you like any help? / If you like I could…/ What can I

do to help? / Would you like any help? / Would you

like me to help you? /etc.

4. พดู และเขียนเพื่อขอและใหข้ ้อมลู บรรยาย คำศัพท์ สำนวน ประโยคและขอ้ ความทใี่ ชใ้ นการขอและให้

อธบิ าย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคิดเห็น ขอ้ มูล บรรยาย อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็

เกย่ี วกับเรื่อง/ประเดน็ /ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ท่ีฟงั และ เกย่ี วกับประเด็น/ข่าว/เหตกุ ารณท์ ฟี่ งั และอ่าน

อ่านอยา่ งเหมาะสม

5. พดู และเขยี นบรรยายความรสู้ กึ และแสดง ภาษาทใ่ี ชใ้ นการแสดงความรสู้ ึก ความคดิ เหน็ และใหเ้ หตผุ ล

ความคดิ เห็นของตนเองเกยี่ วกับ เรอื่ งตา่ งๆ ประกอบ เช่น ชอบ ไมช่ อบ ดีใจ เสยี ใจ มีความสขุ เศร้า หิว

กจิ กรรม ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตกุ ารณ์ รสชาติ สวย นา่ เกลยี ด เสยี งดัง ดี ไมด่ ี จากข่าว เหตุการณ์

อย่างมีเหตผุ ล สถานการณ์ ในชีวิตประจำวัน เชน่

Nice. /Very nice. /Well done! /Congratulations on…
I like… because…/ I love… because…/
I feel… because…/I think…/I believe…/
I agree/disagree…/ I’m afraid I don’t like…/

I don’t believe…/I have no idea…/ Oh no! etc.

สาระที่ 1 ภาษาเพื่อการสอื่ สาร

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมลู ข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคดิ เห็นในเร่อื งต่างๆ โดยการพดู และการเขยี น

ช้ัน ตวั ชวี้ ัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ม.1 1. พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง ประโยคและข้อความทใี่ ช้ในการบรรยายเก่ียวกับตนเอง

กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และ กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ ส่ิงแวดลอ้ ม ใกล้ตัว เช่น การ

สิ่งแวดล้อม ใกลต้ ัว เดนิ ทาง การรับประทานอาหาร การเรยี น การเลน่ กฬี า ฟงั

เพลง การอ่านหนังสือ การทอ่ งเทยี่ ว

2. พดู /เขยี น สรุปใจความสำคัญ/แก่นสาระ การจบั ใจความสำคญั /แกน่ สาระ การวเิ คราะหค์ วามเรอ่ื ง/

(theme) ท่ไี ดจ้ ากการวเิ คราะห์เรอ่ื ง/เหตุการณ์ เหตุการณท์ อ่ี ยู่ในความสนใจ เชน่ ประสบการณ์ ภาพยนตร์

ท่ีอยใู่ นความสนใจของสงั คม กฬี า เพลง

3. พูด/เขยี นแสดงความคดิ เห็นเกยี่ วกบั กิจกรรม การแสดงความคิดเห็นและการใหเ้ หตผุ ลประกอบเกีย่ วกบั

หรือเรอ่ื งตา่ งๆ ใกลต้ ัว พรอ้ มทงั้ ให้เหตผุ ลสน้ั ๆ กิจกรรมหรือเรอื่ งต่างๆ ใกลต้ ัว

ประกอบ

ม.2 1. พูดและเขยี นบรรยายเกี่ยวกับตนเอง การบรรยายข้อมลู เกี่ยวกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน

กจิ วตั รประจำวนั ประสบการณ์ และข่าว/ ประสบการณ์ ขา่ ว/เหตกุ ารณท์ อี่ ยู่ในความสนใจของสังคม

เหตุการณ์ ทอี่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม เช่น การเดนิ ทาง การรับประทานอาหาร การเล่นกีฬา/ดนตรี

การฟังเพลง การอา่ นหนงั สอื การท่องเทีย่ ว การศึกษา สภาพ

สังคม เศรษฐกิจ

2. พูดและเขียนสรุปใจความสำคญั / การจับใจความสำคญั /แก่นสาระ หวั ขอ้ เร่ือง การวเิ คราะห์

แกน่ สาระ หวั ข้อเร่ือง (topic) ท่ไี ด้จากการ เร่อื ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ์ท่อี ยูใ่ นความสนใจ เช่น ประสบการณ์

วิเคราะหเ์ ร่อื ง/ข่าว/เหตุการณ์ ทอ่ี ยู่ในความสนใจ ภาพยนตร์ กฬี า ดนตรี เพลง

ของสังคม

3. พดู และเขยี นแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกับ การแสดงความคดิ เห็นและการใหเ้ หตุผลประกอบเกีย่ วกบั

กจิ กรรม เร่ืองตา่ งๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์ กิจกรรม เรือ่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว และประสบการณ์

พรอ้ มทง้ั ใหเ้ หตุผลสน้ั ๆ ประกอบ

ม.3 1. พูดและเขยี นบรรยายเกย่ี วกับตนเอง การบรรยายเกย่ี วกับตนเอง ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ/์

ประสบการณ์ ข่าว/เหตุการณ์ / เรื่อง/ ประเด็น ประเดน็ ที่อยู่ในความสนใจของสงั คม เช่น การเดินทาง การ

ต่างๆ ทอี่ ยู่ในความสนใจของสังคม รับประทานอาหาร การเล่นกีฬา/ดนตรี การฟงั เพลง การอา่ น

หนังสือ การท่องเท่ียว การศึกษา สภาพสงั คม เศรษฐกิจ

2. พดู และเขียนสรปุ ใจความสำคญั /แก่นสาระ การจบั ใจความสำคญั /แก่นสาระ หัวข้อเรอ่ื ง การวิเคราะห์

หวั ขอ้ เร่ืองทีไ่ ด้จากการวิเคราะห์เรอ่ื ง/ขา่ ว/ เรือ่ ง/ขา่ ว/เหตกุ ารณ/์ สถานการณท์ อี่ ยู่ในความสนใจ เช่น

เหตกุ ารณ/์ สถานการณท์ ีอ่ ยู่ในความสนใจของ ประสบการณ์ เหตุการณ์ สถานการณ์ตา่ งๆ ภาพยนตร์ กีฬา

สงั คม ดนตรี เพลง

ช้ัน ตัวชีว้ ดั สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

ม.3 3. พูดและเขียนแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับ การแสดงความคิดเหน็ และการใหเ้ หตุผลประกอบเก่ียวกับ

กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ พรอ้ ม กิจกรรม ประสบการณ์ และเหตุการณ์

ทงั้ ให้เหตุผลประกอบ

ม.4-6 1. พูดและเขียนนำเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง การนำเสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั ตนเอง ประสบการณ์ ขา่ ว/

ประสบการณ์ ข่าว/เหตกุ ารณ์ เร่ืองและประเดน็ เหตกุ ารณ์ เรอื่ งและประเด็นทีอ่ ยใู่ นความสนใจของสงั คม เชน่

ต่างๆ ตามความสนใจของสงั คม การเดนิ ทาง การรับประทานอาหาร การเลน่ กฬี า/ดนตรี การ

ดภู าพยนตร์ การฟงั เพลง การเลยี้ งสตั ว์ การอ่านหนังสือ การ

ท่องเทย่ี ว การศกึ ษา สภาพสังคม เศรษฐกจิ

2. พดู และเขียนสรุปใจความสำคญั /แก่นสาระท่ี การจับใจความสำคญั /แกน่ สาระ การวิเคราะห์เรื่อง กจิ กรรม

ได้จากการวเิ คราะหเ์ รือ่ ง กจิ กรรม ข่าว ขา่ ว เหตุการณ์ และสถานการณต์ ามความสนใจ

เหตุการณ์ และสถานการณ์ตามความสนใจ

3. พดู และเขียนแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั การแสดงความคิดเห็น การให้เหตผุ ลประกอบและยกตวั อย่าง

กจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณ์ ทงั้ ใน เกีย่ วกับกจิ กรรม ประสบการณ์ และเหตกุ ารณใ์ นท้องถิ่น

ท้องถ่ิน สงั คม และโลก พร้อมท้งั ใหเ้ หตผุ ลและ สังคม และโลก

ยกตวั อยา่ งประกอบ

สาระที่ 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.1 เขา้ ใจความสมั พันธร์ ะหวา่ งภาษากบั วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษา และนำไปใช้ได้อย่าง
เหมาะสมกบั กาลเทศะ

ช้ัน ตัวชี้วดั สาระการเรยี นรู้แกนกลาง

ม.1 1. ใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกริ ยิ าทา่ ทางสุภาพ การใชภ้ าษา น้ำเสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการสนทนา ตาม
เหมาะสม ตามมารยาทสงั คม และ มารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี นา้ ทา่ ทางประกอบ

การพูดขณะแนะนำตนเอง การสมั ผสั มอื การโบกมือ

การแสดงความรสู้ ึกชอบ/ ไม่ชอบ การกล่าวอวยพร การแสดง

อาการตอบรบั หรอื ปฏเิ สธ

2. บรรยายเกี่ยวกบั เทศกาลวนั สำคัญ ชวี ิต ความเป็นมาและความสำคัญของเทศกาล วนั สำคญั ชวี ิตความ
ความเป็นอยู่ และประเพณขี องเจา้ ของภาษา เป็นอยู่ และประเพณขี องเจ้าของภาษา

3. เขา้ ร่วม/จดั กิจกรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเล่นเกม การรอ้ ง
วัฒนธรรมตามความสนใจ เพลง การเล่านทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วันขอบคุณพระเจ้า
วันครสิ ตม์ าส วนั ขนึ้ ปใี หม่ วันวาเลนไทน์

ม.2 1. ใชภ้ าษา น้ำเสียง และกริ ิยาทา่ ทางเหมาะ การใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกริ ยิ าทา่ ทางในการสนทนาตาม
กับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสงั คม และ มารยาทสงั คมและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษา เช่น
วฒั นธรรมของเจ้าของภาษา การขอบคณุ ขอโทษ การชมเชย การใช้สหี น้าท่าทางประกอบ
การพดู ขณะแนะนำตนเอง การสมั ผสั มือ การโบกมือ การแสดง

ความรสู้ ึกชอบ/ไมช่ อบ การกล่าวอวยพร การแสดงอาการตอบ

รับหรือปฏเิ สธ

2. อธบิ ายเกยี่ วกบั เทศกาล วันสำคัญ ชีวติ ความเปน็ มาและความสำคญั ของเทศกาล วันสำคญั ชีวิต

ความเปน็ อยู่ และประเพณีของเจ้าของภาษา ความเปน็ อยู่ และประเพณีของเจา้ ของภาษา

ชนั้ ตัวช้วี ดั สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.2 3. เขา้ รว่ ม/จดั กิจกรรมทางภาษาและ กิจกรรมทางภาษาและวัฒนธรรม เช่น การเล่นเกม การร้อง
วฒั นธรรมตามความสนใจ เพลง การเล่านิทาน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจ้า
วนั ครสิ ตม์ าส วนั ข้ึนปีใหม่ วนั วาเลนไทน์

ม.3 1. เลือกใช้ภาษา นำ้ เสยี ง และกิรยิ าท่าทาง การเลือกใชภ้ าษา นำ้ เสียง และกริ ยิ าท่าทางในการสนทนาตาม

เหมาะกับบคุ คลและโอกาส ตามมารยาทสังคม มารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา เชน่

และวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี นา้ ทา่ ทางประกอบ

การพดู ขณะแนะนำตนเอง การสมั ผัสมอื การโบกมือ การแสดง

ความ รสู้ ึกชอบ/ไมช่ อบ การกลา่ วอวยพร การแสดงอาการ

ตอบรบั หรอื ปฏิเสธ

2. อธบิ ายเกย่ี วกับชีวิตความเป็นอยู่ ชวี ิตความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียมและประเพณขี องเจ้าของ

ขนบธรรมเนียมและประเพณีของเจ้าของภาษา ภาษา

3. เขา้ ร่วม/จดั กจิ กรรมทางภาษาและ กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้อง
วฒั นธรรมตามความสนใจ เพลง การเล่านทิ าน บทบาทสมมตุ ิ วนั ขอบคุณพระเจา้
วนั คริสตม์ าส วันขึน้ ปีใหม่ วนั วาเลนไทน์

ม.4-6 1. เลือกใช้ภาษา นำ้ เสียง และกิริยาท่าทาง การเลือกใชภ้ าษา น้ำเสียง และกิรยิ าทา่ ทางในการสนทนา
เหมาะกับระดบั ของบุคคล โอกาส และ ระดบั ของภาษา มารยาทสังคมและวฒั นธรรมของเจ้าของภาษา
สถานที่ ตามมารยาทสงั คมและวัฒนธรรมของ เชน่ การขอบคุณ ขอโทษ การชมเชย การใชส้ หี นา้ ทา่ ทาง
เจา้ ของภาษา ประกอบ การพดู ขณะแนะนำตนเอง การสัมผสั มือ การโบกมือ
การแสดงความ รสู้ ึกชอบ/ไม่ชอบ การกลา่ วอวยพร การแสดง

อาการตอบรับหรือปฏเิ สธ

2. อธิบาย/อภิปรายวิถีชีวติ ความคิด วิถชี ีวติ ความคดิ ความเช่อื และทม่ี าของขนบธรรมเนยี ม

ความเชอื่ และที่มาของขนบธรรมเนียม และ และประเพณขี องเจา้ ของภาษา

ประเพณีของเจ้าของภาษา

3. เข้าร่วม แนะนำ และจดั กิจกรรมทางภาษา กจิ กรรมทางภาษาและวฒั นธรรม เช่น การเลน่ เกม การร้อง
และวัฒนธรรมอยา่ งเหมาะสม เพลง การเล่านิทาน/เรอ่ื งจากภาพยนตร์ บทบาทสมมุติ
ละครสัน้ วนั ขอบคุณพระเจา้ วนั ครสิ ต์มาส วันขึ้นปใี หม่
วันวาเลนไทน์

สาระท่ี 2 ภาษาและวัฒนธรรม

มาตรฐาน ต 2.2 เข้าใจความเหมอื นและความแตกต่างระหวา่ งภาษาและวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากบั
ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม

ช้ัน ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง

ม.1 1. บอกความเหมือนและความแตกต่าง ความเหมอื น/ความแตกต่างระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนิด

ระหวา่ งการออกเสียงประโยคชนดิ ต่างๆ ต่างๆ ของเจา้ ของภาษากบั ของไทย การใช้เครื่องหมายวรรค

การใช้เครือ่ งหมายวรรคตอน และการลำดบั ตอนและการลำดบั คำตามโครงสรา้ งประโยคของ

คำตามโครงสรา้ งประโยคของ ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. เปรยี บเทยี บความเหมือนและความ ความเหมือนและความแตกตา่ งระหวา่ งเทศกาล งานฉลอง

แตกต่างระหว่างเทศกาล งานฉลอง วนั วนั สำคญั และชวี ติ ความเปน็ อยูข่ องเจา้ ของภาษากบั ของไทย

สำคัญ และชวี ติ ความเป็นอยู่ของเจา้ ของ

ภาษากบั ของไทย

ม.2 1. เปรียบเทยี บและอธิบายความเหมือนและ การเปรียบเทยี บและการอธิบายความเหมือน/ความแตกต่าง

ความแตกตา่ งระหวา่ งการออกเสยี งประโยค ระหว่างการออกเสยี งประโยคชนิดตา่ งๆ ของเจ้าของภาษากับ

ชนดิ ต่างๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้าง ของไทย การใชเ้ ครอ่ื งหมายวรรคตอนและการลำดับคำตาม

ประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย โครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

2 เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมือนและ การเปรยี บเทยี บและการอธิบายความเหมอื นและความ

ความแตกต่างระหว่างชีวติ ความเป็นอยู่และ แตกตา่ งระหวา่ งชีวติ ความเปน็ อยแู่ ละวฒั นธรรมของเจ้าของ

วฒั นธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย ภาษากับของไทย

ม.3 1. เปรยี บเทียบและอธบิ ายความเหมอื นและ การเปรยี บเทยี บและการอธิบายความเหมอื น/ความแตกต่าง

ความแตกต่างระหว่างการออกเสยี งประโยค ระหว่างการออกเสียงประโยคชนดิ ตา่ งๆ ของเจา้ ของภาษากับ

ชนิดต่างๆ และการลำดบั คำตามโครงสร้าง ของไทย การใช้เครือ่ งหมายวรรคตอนและการลำดบั คำตาม

ประโยคของภาษาต่างประเทศและภาษาไทย โครงสร้างประโยคของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

2. เปรยี บเทียบและอธิบายความเหมอื นและ การเปรยี บเทียบและการอธิบายความเหมือนและความ

ความแตกตา่ งระหว่างชวี ิตความเปน็ อย่แู ละ แตกต่างระหวา่ งชวี ติ ความเป็นอยแู่ ละวฒั นธรรมของเจ้าของ

วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากับของไทย และ ภาษากบั ของไทยการนำวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษาไปใช้

นำไปใช้อยา่ งเหมาะสม

ม.4-6 1. อธบิ าย/เปรียบเทียบความแตกตา่ ง การอธบิ าย/การเปรียบเทยี บความแตกตา่ งระหว่างโครงสรา้ ง

ระหว่างโครงสร้างประโยค ขอ้ ความ สำนวน ประโยค ขอ้ ความ สำนวน คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอน

คำพังเพย สุภาษิต และบทกลอนของ ของภาษาตา่ งประเทศและภาษาไทย

ภาษาต่างประเทศและภาษาไทย

2. วิเคราะห/์ อภิปราย ความเหมือนและ การวเิ คราะห์/การอภิปรายความเหมือนและความแตกตา่ ง

ความแตกต่างระหว่างวถิ ีชวี ติ ความเช่อื และ ระหวา่ งวถิ ีชวี ิต ความเช่อื และวัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากบั

วัฒนธรรมของเจา้ ของภาษากบั ของไทยและ ของไทย การนำวฒั นธรรมของเจา้ ของภาษาไปใช้

นำไปใชอ้ ย่างมีเหตผุ ล

สาระที่ 3 ภาษากับความสมั พนั ธ์กบั กล่มุ สาระการเรียนร้อู ่นื

มาตรฐาน ต 3.1 ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรกู้ บั กลุ่มสาระการเรยี นรู้อื่น และเป็นพืน้ ฐาน
ในการพัฒนา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทศั น์ของตน

ชั้น ตัวช้วี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.1 1. ค้นควา้ รวบรวม และสรุปข้อมลู / การค้นควา้ การรวบรวม การสรปุ และการนำเสนอข้อมลู /

ขอ้ เทจ็ จรงิ ท่ีเกยี่ วข้องกับกลุ่มสาระการ ขอ้ เท็จจริงท่ีเกีย่ วข้องกับกลุ่มสาระการเรียนรอู้ นื่

เรยี นรอู้ น่ื จากแหลง่ เรยี นรู้ และนำเสนอดว้ ย

การพูด/การเขียน

ม.2 1. คน้ คว้า รวบรวม และสรุปขอ้ มลู / การคน้ คว้า การรวบรวม การสรปุ และการนำเสนอข้อมลู /

ข้อเทจ็ จริงที่เกย่ี วข้องกับกล่มุ สาระการ ขอ้ เท็จจริงทเ่ี กยี่ วขอ้ งกับกล่มุ สาระการเรียนรู้อื่น

เรยี นร้อู ืน่ จากแหล่งเรียนรู้ และนำเสนอด้วย

การพูด การเขยี น

ม.3 1. ค้นควา้ รวบรวม และสรปุ ขอ้ มูล/ การคน้ คว้า การรวบรวม การสรปุ และการนำเสนอข้อมลู /

ขอ้ เท็จจริงทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั กลุ่มสาระการ ข้อเทจ็ จริงที่เกย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้อ่นื

เรยี นรู้อื่นจากแหลง่ เรียนรู้ และนำเสนอด้วย

การพูดและการเขยี น

ม.4-6 1. คน้ คว้า/สืบค้น บนั ทกึ สรุป และแสดง การคน้ ควา้ /การสบื ค้น การบนั ทึก การสรปุ การแสดงความ

ความคดิ เหน็ เกย่ี วกับข้อมลู ทเี่ กยี่ วข้องกับ คดิ เหน็ และนำเสนอขอ้ มลู ทีเ่ กย่ี วขอ้ งกบั กลมุ่ สาระการเรียนรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ ื่น จากแหลง่ เรียนรู้ อืน่ จากแหลง่ เรยี นรู้ตา่ งๆ

ต่างๆ และนำเสนอดว้ ยการพูดและการเขยี น

สาระท่ี 4 ภาษากับความสัมพันธก์ บั ชมุ ชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.1 ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณต์ ่างๆ ทง้ั ในสถานศกึ ษา ชมุ ชน และสังคม

ชนั้ ตวั ชี้วดั สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.1 1. ใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณ์จรงิ / การใชภ้ าษาสื่อสารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณจ์ ำลองท่ี

สถานการณจ์ ำลองทเี่ กดิ ขึ้นในห้องเรยี นและ เกดิ ขน้ึ ในหอ้ งเรียนและสถานศึกษา

สถานศึกษา

ม.2 1. ใชภ้ าษาส่อื สารในสถานการณจ์ ริง/ การใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ ริง/สถานการณ์จำลองท่ี

สถานการณจ์ ำลองทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียน เกิดข้ึนในห้องเรียน สถานศึกษา และชมุ ชน

สถานศกึ ษา และชมุ ชน

ม.3 1. ใช้ภาษาส่อื สารในสถานการณจ์ รงิ / การใช้ภาษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณจ์ ำลองที่

สถานการณ์จำลองที่เกิดข้ึนใน หอ้ งเรยี น เกดิ ขึน้ ในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา ชมุ ชน และสงั คม

สถานศกึ ษา ชุมชน และสังคม

ม.4-6 1. ใชภ้ าษาสอ่ื สารในสถานการณจ์ รงิ / การใชภ้ าษาส่ือสารในสถานการณจ์ รงิ /สถานการณ์จำลอง

สถานการณจ์ ำลองที่เกดิ ขึ้นใน ห้องเรียน เสมอื นจรงิ ท่เี กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรียน สถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม

สถานศึกษา ชุมชน และสงั คม

สาระที่ 4 ภาษากับความสมั พันธ์กบั ชุมชนและโลก

มาตรฐาน ต 4.2 ใช้ภาษาต่างประเทศเปน็ เคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ
และการแลกเปลี่ยนเรียนรูก้ ับสงั คมโลก

ช้ัน ตวั ช้วี ัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง

ม.1 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื ค้น/ค้นคว้า การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการสืบคน้ /การค้นควา้ ความร/ู้

ความรู้/ขอ้ มูลตา่ งๆ จากส่อื และแหล่งการ ข้อมูลต่างๆ จากส่ือและแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาต่อ

เรียนรตู้ ่างๆ ในการศึกษาต่อและประกอบ และประกอบอาชีพ

อาชพี

ม.2 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบคน้ /ค้นคว้า การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื ค้น/การค้นควา้ ความร/ู้

รวบรวมและสรปุ ความรู้/ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสอ่ื ข้อมลู ตา่ งๆ จากสอ่ื และแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาต่อ

และแหลง่ การเรยี นรตู้ ่างๆ ในการศึกษาต่อ และประกอบอาชีพ

และประกอบอาชีพ

2. เผยแพร/่ ประชาสมั พันธ์ข้อมลู ข่าวสาร ของ การใช้ภาษาตา่ งประเทศในการเผยแพร่/ประชาสมั พันธ์ขอ้ มูล

โรงเรยี นเป็นภาษาต่างประเทศ ข่าวสารของโรงเรยี น เช่น การทำหนังสือเลม่ เล็กแนะนำ

โรงเรียน การทำแผน่ ปลวิ ปา้ ยคำขวัญ คำเชิญชวนแนะนำ

โรงเรียน การนำเสนอขอ้ มลู ข่าวสารในโรงเรียนเปน็

ภาษาอังกฤษ

ม.3 1. ใช้ภาษาต่างประเทศในการสบื ค้น/คน้ ควา้ การใช้ภาษาต่างประเทศในการสืบค้น/การค้นควา้ ความร/ู้
รวบรวม และสรปุ ความร/ู้ ขอ้ มลู ต่างๆ จากสือ่ ข้อมูลต่างๆ จากสื่อและแหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆ ในการศึกษาตอ่

และแหล่งการเรียนรตู้ า่ งๆในการศกึ ษาต่อ และประกอบอาชพี
และประกอบอาชพี
การใชภ้ าษาต่างประเทศในการเผยแพร/่ ประชาสมั พันธ์ข้อมลู
2. เผยแพร่ /ประชาสัมพนั ธ์ ขอ้ มลู ขา่ วสาร ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และทอ้ งถิน่ เชน่ การทำหนังสอื
ของโรงเรยี น ชุมชน และท้องถ่นิ เป็นภาษา

ต่างประเทศ เล่มเล็กแนะนำโรงเรยี น ชมุ ชน และทอ้ งถ่นิ การทำแผน่ ปลิว
ปา้ ยคำขวัญ คำเชิญชวนแนะนำ โรงเรยี นและสถานทีส่ ำคญั

ในชมุ ชนและท้องถิ่น การนำเสนอขอ้ มูลข่าวสารในโรงเรยี น
ชมุ ชน และท้องถ่ินเป็นภาษาองั กฤษ

ม.4-6 1. ใชภ้ าษาต่างประเทศในการสบื คน้ /ค้นควา้ การใชภ้ าษาตา่ งประเทศในการสบื คน้ /การคน้ ควา้ ความร/ู้
รวบรวม วิเคราะห์ และสรปุ ความรู้/ขอ้ มลู ขอ้ มูลตา่ งๆ จากสื่อและแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ ในการศกึ ษาตอ่

ตา่ งๆ จากสือ่ และแหลง่ การเรยี นรตู้ า่ งๆ และประกอบอาชพี
ในการศึกษาต่อและประกอบอาชพี

2. เผยแพร/่ ประชาสัมพันธ์ ขอ้ มลู ข่าวสาร การใชภ้ าษาอังกฤษในการเผยแพร/่ ประชาสมั พันธข์ ้อมลู
ของโรงเรยี น ชุมชน และทอ้ งถิ่น/ ข่าวสารของโรงเรียน ชุมชน และทอ้ งถิน่ /ประเทศชาติ เชน่
ประเทศชาติ เปน็ ภาษา ต่างประเทศ การทำหนงั สอื เล่มเล็กแนะนำโรงเรียน ชมุ ชน ท้องถ่นิ /
ประเทศชาติ การทำแผ่นปลวิ ป้ายคำขวญั คำเชิญชวนแนะนำ
โรงเรยี น สถานทีส่ ำคญั ในชมุ ชนและท้องถ่นิ /ประเทศชาติ
การนำเสนอข้อมลู ข่าวสารในโรงเรียน ชมุ ชน ทอ้ งถนิ่ /

ประเทศชาตเิ ป็นภาษาอังกฤษ

โครงสร้างรายวชิ ากลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
โรงเรียนหนองโนประชาสรรค์ พุทธศกั ราช 2561

ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้ันพ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พทุ ธศักราช 2564)

รายวิชาเพิม่ เติม

รายวิชา/กิจกรรม รหสั วชิ า จำนวนหนว่ ยกิต/ เวลา
ภาคเรียน (ช.ม.)/สปั ดาห์
มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 1 ภาษาอังกฤษฟัง พูด 1 อ 21201 0.5 1
English for football player 1 อ 21202 0.5 1
ภาษาองั กฤษฟงั พดู 2 อ 21203 0.5 1
English for football player 2 อ 21204 0.5 1
อ 22201 0.5 1
มัธยมศึกษาปีท่ี 2 ภาษาอังกฤษอ่าน เขียน 1 อ 22202 0.5 1
English for football player 3 อ 22203 0.5 1
ภาษาอังกฤษอา่ น เขยี น 2 อ 22204 0.5 1
English for football player 4 อ 23201 0.5 1
อ 23202 0.5 1
มธั ยมศึกษาปีที่ 3 ภาษาองั กฤษเพื่อการท่องเที่ยว 1 อ 23203 0.5 1
English for football player 5 อ 23204 0.5 1
ภาษาอังกฤษเพ่ือการท่องเท่ยี ว 2 อ 31201 1.0 2
English for football player 6 อ 31202 1.0 2

มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 การอา่ นภาษาองั กฤษเชงิ วิเคราะห์ 1 อ 31203 1.0 2
English for football player อ 31204 1.0 2
career 1
การอา่ นภาษาอังกฤษเชงิ วิเคราะห์ 2 อ 32201 1.0 2
English for football player อ32202 1.0 2
career 2
อ32203 1.0 2
มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 การอา่ นภาษาองั กฤษเชิงวิเคราะห์ 3 อ32204 1.0 2
English for football player
career 3 อ 33201 1.0 2
การอ่านภาษาองั กฤษเชิงวิเคราะห์ 4 อ 33202 1.0 2
English for football player
career 4 อ 33203 1.0 2
อ 33204 1.0 2
มัธยมศึกษาปีที่ 6 การอ่านภาษาองั กฤษเชิงวิเคราะห์ 5
English for football player
career 5
การอา่ นภาษาองั กฤษเชงิ วเิ คราะห์ 6
English for football player
career 6

คำอธบิ ายรายวิชาเพิ่มเตมิ

อ 22203 ภาษาองั กฤษอา่ น เขยี น 2 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ

ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต

การอ่านออกเสียง อา่ นในใจ อา่ นจับใจความ เกยี่ วกับคำศัพท์ ประโยค บทสนทนา ระบแุ ละเขียนส่อื ท่ี
ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ระบุหัวข้อเร่ือง ใจความสำคัญรายละเอียดสนับสนุน และแสดงความคิดเห็น
เกี่ยวกับเรื่องท่ีฟังและอ่าน ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร เคร่ืองดื่ม สัตว์ ส่ิงของ
ส่ิงแวดล้อม ความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล ข้อมูลเก่ียวกับสถานท่ีท่องเที่ยวในจังหวัดขอนแก่น ในประเทศไทย
และในกลุ่มประเทศอาเซียน ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเดินทาง ท่ีพัก อาหารพื้นเมือง ของฝากเทศกาล
วัฒนธรรม และสถานท่ีน่าสนใจ แสดงความต้องการ เสนอและให้ความช่วยเหลือ ตอบรับและปฏิเสธการให้
ความช่วยเหลือในสถานการณ์ต่างๆ ขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรียบเทียบ แสดงความรู้สึก และแสดงความ
คิดเห็น เกี่ยวกับส่ิงท่ีพบเห็นและบุคคลต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน สรุปใจความสำคัญ แก่นสาระ ท่ีได้จากการ
วิเคราะหเ์ รื่อง/ขา่ ว เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ

โดยใช้กระบวนการอ่านและการเขียน กระบวนการฝึกปฏบิ ัติ กระบวนการทำงาน กระบวนการกลุ่ม
กระบวนการแก้ปัญหา สามารถสื่อสารได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ บูรณาการภูมิปัญญาท้องถ่ิน สภาพปัญหาชมุ ชน
ท้องถิ่น เน้นวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และสามารถนำความรู้ไปใช้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น ใช้ภาษาเพื่อ
การสือ่ สารไดอ้ ยา่ งเหมาะสมตามศกั ยภาพของแต่ละบุคคล ประยกุ ตใ์ ช้ในการทำงานและในชวี ติ ประจำวัน

เพ่ือให้รักการเรียนรู้ภาษาอังกฤษ มีเหตุผล มีความคิดสร้างสรรค์ มีนิสัยรักการอ่าน การค้นคว้า
ฝีกฝนอยา่ งจรงิ จัง รจู้ ักหนา้ ทีย่ อมรบั ความคิดเห็นของผอู้ น่ื

ผลการเรยี นรู้
1. เขยี นข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง เรอ่ื งตา่ งๆ ใกล้ตัว และสถานการณ์ต่างๆ ในชีวติ ประจำวนั อยา่ งเหมาะสม
2. เขียนแสดงความตอ้ งการในสถานการณ์ตา่ ง ๆ อยา่ งเหมาะสม
3. เขยี นขอและให้ข้อมูล อธิบาย เปรยี บเทยี บ และแสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกับเรื่องที่ฟงั หรืออ่านอย่างเหมาะสม
4. เขียนบรรยายเก่ียวกบั กจิ วัตรประจำวันประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์ที่อยู่ในความสนใจของสังคม
5. เขียนแสดงความร้สู ึกและความคิดเหน็ ของตนเองเกยี่ วกับเร่ืองตา่ ง ๆ
6. เขียนแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกับกจิ กรรมในชีวติ ประจำวนั
รวมท้ังหมด 6 ผลการเรียนรู้

โครงสรา้ งรายวิชาเพมิ่ เติม

อ 22203 ภาษาอังกฤษอ่าน เขยี น 2 กล่มุ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ

ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 ภาคเรียนที่ 2 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกิต

สัดส่วนคะแนนระหวา่ งภาค : ปลายภาค 70 : 30

ลำดับที่ ช่อื หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนกั คะแนน
การเรียนรู้ (ชว่ั โมง) (100 คะแนน)
ข้อ 1 ข้อมลู เก่ยี วกบั ตนเอง ครอบครวั
1. daily life ข้อ 2 โรงเรียน อาหาร เครอ่ื งดื่ม สัตว์ 8 30
สิ่งของ สง่ิ แวดล้อม ความสัมพนั ธ์
2. Free time and ข้อ 2 ระหว่างบุคคล 2 10
Entertainment ข้อ 5 ขอ้ มูลเกี่ยวกบั เทศกาล กจิ กรรมใน 2 10
เทศกาลต่างๆ อาหาร เครื่องด่ืม การ
3. My Home Town ข้อ 4 บรรยายการเฉลมิ ฉลอง และการสงั่ 2 20
ขอ้ 6 อาหารตามวฒั นธรรมของเจ้าของ
ภาษาและของไทย 2 10
4. Interesting ข้อ 3 ข้อมูลเกี่ยวกบั เทศกาล กิจกรรมใน
Places ข้อ 5 เทศกาลต่างๆ อาหาร เคร่อื งดื่ม การ
บรรยายการเฉลิมฉลอง และการสงั่
5. Let’s Tell the ขอ้ 1 อาหารตามวัฒนธรรมของเจา้ ของ
story ขอ้ 6 ภาษาและของไทย

ขอ้ มูลเกยี่ วกับสถานประกอบการ
ร้านคา้ การเจรจาซ้ือ ขาย
ภาพยนตร์ สถานท่สี ำคัญ ในเมือง
การเดินทาง การบอกทิศทาง แผนท่ี
ปา้ ย และสญั ลกั ษณ์ ยานพาหนะใน
การเดนิ ทางเพื่อใหเ้ หน็ ภาพรวมชีวิต
ในจังหวัดขอนแกน่

ข้อมูลเกี่ยวกับสถานทท่ี ่องเท่ียวใน
จังหวัดขอนแก่น ในประเทศไทย
และในกลุ่มประเทศอาเซียน ขอ้ มูล
เพิม่ เติมเกี่ยวกับการเดินทาง ทพ่ี ัก
อาหารพ้นื เมอื ง ของฝากและ
สถานทนี่ า่ สนใจ
ขอ้ มูลเกย่ี วกับอาชีพทน่ี า่ สนใจทัว่ ไป
อาชพี ของบุคคลในทอ้ งถ่นิ ลกั ษณะ
การทำงานของแต่ละอาชพี
ความสนใจ ความใฝ่ฝนั ของนักเรียน

ลำดับที่ ชอื่ หน่วย ผลการเรียนรู้ สาระสำคญั เวลา นำ้ หนักคะแนน
6. การเรียนรู้ (ชวั่ โมง) (100 คะแนน)

Interesting ขอ้ 4 ขอ้ มลู เก่ยี วกบั สถานทีท่ ่องเท่ียวใน 2 20
Places
ข้อ 5 จังหวดั ขอนแก่น ในประเทศไทย และ

ในกลุม่ ประเทศอาเซียน ข้อมูล
เพิม่ เติมเกี่ยวกบั การเดินทาง ทพ่ี กั
อาหารพ้ืนเมอื ง ของฝากและสถานที่

น่าสนใจ

เวลาเรยี นตลอดภาคเรยี น : คะแนนระหว่างภาค 18 50

สอบกลางภาค 1 20
สอบปลายภาค 1 30

รวม 20 100



แผนการจัดการเรยี นรู้

กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ระดบั ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2

รหสั วิชา อ22203 รายวชิ าภาษาอังกฤษอ่าน เขียน 2 ภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 daily life เวลา 8 ชั่วโมง

แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 favorite fruit 1 เวลา 1 ชว่ั โมง

ผสู้ อน นางสาวสุนิสา คำสุขดี

___________________________________________________________________________

1. สาระสำคัญ

เขียนสื่อที่ไม่ใช่ความเรียงรูปแบบต่าง ๆ ระบุหัวข้อเรื่อง ใจความสำคัญรายละเอียดสนับสนุนและแสดง

ความคิดเห็นเกี่ยวกับ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์ สิ่งของ สิ่งแวดล้อม

ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งบุคคล

2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชี้วัด

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการ

พูดและการเขียน

ตัวชี้วัด ม.2/1 พูดและเขียนบรรยายเกี่ยวกับตนเอง กิจวัตรประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/

เหตุการณ์ ท่อี ยู่ในความสนใจของสงั คม

3. จุดประสงค์การเรียนรู้
เม่ือนักเรียนเรยี นเรอ่ื งนี้แลว้ นกั เรียนสามารถ
1. เขยี นคำศัพทเ์ กีย่ วกบั ผลไม้ และบอกความหมายได้ (K)
2. สนทนาแลกเปลย่ี นขอ้ มูลเก่ยี วกบั ผลไมท้ ชี่ ่ืนชอบได้ (P)
3. นักเรยี นมีปฏิสัมพันธ์ท่ีดีระหวา่ งเรียน (A)

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้
- การเขียนคำคพั ทต์ รงตามหมวด
- การแลกเปลีย่ นข้อมลู เกย่ี วกับสถานการณต์ ่าง ๆ
- Vocabulary: คำศัพทเ์ กี่ยวกบั ผลไม้นา ๆ ชนดิ
4.2 ด้านทักษะ /คุณลักษณะผเู้ รยี นของกลุ่มสาระการเรียนรู้
- การสอื่ สารดว้ ยทกั ษะการเขียนภาษาอังกฤษ
4.3 ด้านสมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน
- ความสามารถดา้ นการคดิ
- ความสามารถด้านส่ือสาร
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต

4.4 ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
4.4.1 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามหลักสตู ร
- ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
4.4.2 คุณลกั ษณะของเด็กไทยในประชาคมอาเซียน
- มสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ และแลกเปลย่ี นเรียนรู้
- มคี วามสามารถในการคิดวเิ คราะห์อย่างมเี หตผุ ล มีวิธคี ิดอยา่ งถูกต้อง
- มคี วามสามารถในการทำงานและอยรู่ ว่ มกับผู้อ่ืน

5. การบูรณาการแนวคิดตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
1. ความพอประมาณ
นักเรียนกำหนดเวลา และบรหิ ารเวลาอย่างเหมาะสมในการทำกิจกรรม
2. มเี หตผุ ล
ใชท้ ักษะการเขียน เพื่อแสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนเรียนรู้
3. เงอ่ื นไขคุณธรรม
การฝึกกระบวนการทำงานกลมุ่ รู้จักชว่ ยเหลือเอื้อเฟ้ือกัน เพื่อให้งานท่ไี ด้รับมอบหมายสำเรจ็

6. กิจกรรมการเรยี นรู้
6.1 ข้นั นำเขา้ ส่บู ทเรียน (Warm up) (5 นาที)
1. ครูทกั ทายนักเรียน แจ้งจดุ ประสงคก์ ารเรยี นรูท้ จ่ี ะเรยี นในคาบเรียนนีใ้ ห้นกั เรยี นทราบ
2. Brain gym ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบคำถาม (T): What is your favorite fruit?

(S): My favorite fruit is apples.

6.2 ข้ันนำเสนอ (Presentation) (5 นาที)
3. นักเรียนฝึกออกเสียงเละเขียนคำศัพท์ตามครูทีละคำและบอกความหมายโดยใช้ Power point
เรื่อง Favorite fruits

6.3 ข้นั ฝกึ (Practice) (20 นาที)
4. นักเรียนอ่านคำสั่งและทำใบงานที่ 1.1 (Directions: Look at the pictures and fill in the
blank completely.)
5. นักเรียนทำกิจกรรมกลุ่ม ครูพูดและเขียนประโยค what is your favorite fruits? บนกระดาน
พร้อมขีดเส้นใต้คำว่า What is your favorite fruit? สุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาตอบคำถามพร้อมทั้งเขียน
คำศพั ท์ผลไมท้ ก่ี ลมุ่ ตัวเองชื่นชอบบนหน้ากระดาน อยา่ งน้อย 8 คำ
6.4 ขน้ั การใช้ภาษา (Production) (15 นาที)
6. นักเรียนออกมาเขียนและอ่านคำศัพทเ์ กย่ี วกับผลไม้ทน่ี ักเรียนช่นื ชอบคนละ 1 คำ หนา้ ช้นั เรยี น
7. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบงานที่ 1.1 (Directions: Look at the pictures and fill in the
blank completely.) พรอ้ มแก้ไขคำตอบให้ถูกต้อง

6.5 ขั้นการใช้ภาษา (Wrap up) (5 นาที)
8. นักเรียนสรุปองค์ความรู้ในวันนโี้ ดยการเลม่ เกม Word wall เพ่อื ทบทวนความเข้าใจ จากน้ันครูและ
นกั เรียนร่วมกันสรุปบทเรยี น

7. สื่อ/อุปกรณ์/แหล่งเรยี นรู้
7.1 บตั รคำ ผลไม้ จำนวน 10 บัตร
7.2 Word wall
7.3 ใบงานท่ี 1.1
7.4 Dictionary จำนวน 14 เลม่

8. การวดั และประเมนิ ผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ น วธิ ีการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
การประเมิน ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
1. เขียนคำศัพทเ์ กี่ยวกับผลไม้ ตรวจความถกู ต้องของใบ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
และบอกความหมายได้ (K) - ใบงานที่ 1.1 งานท่ี 1.1
ร้อยละ 80 ขึ้นไป
2. สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มลู - แบบสังเกตการมสี ว่ น ประเมนิ จาการออกมาตอบ
เก่ียวกบั ผลไมต้ ่าง ๆ (P) รว่ มในการตอบคำถาม คำถามและเขยี นคำศพั ท์
หนา้ ช้นั เรียน
3. นกั เรียนมปี ฏิสมั พนั ธ์ทด่ี ี - แบบสังเกตการมสี ่วน
ระหว่างเรยี น (A) ร่วมระหวา่ งเรียน สังเกตกุ ารมีส่วนร่วมของ
นักเรยี นระหวา่ งเรยี น

Exercise 1.1
Directions: Look at the pictures and fill in the blank completely.
1.

b_____ n_____ n _____

2.

d_____r _____ a _____

3.

_____ p _____ l _____

4.

o _____ a _____ g _____

5.

g ____ a ______ ______

6.

c _____ ______ n _____ t

7.

r_____ m b _____ t _____ n

8.

l _____ n g _____ n

9.

m ____ n g ____ s t____ e ____

10.

p ____ n ____ a p ____ l ____

แบบสังเกตการมีส่วนร่วมในการตอบคำถามของนกั เรียน

คำช้ีแจง : ใสเ่ คร่อื งหมาย / ลงในชอ่ งระดับคะแนนและช่อง ผา่ น ไม่ผ่าน

ระดบั คะแนน : 5 คอื ดีมาก 4 คือ ดี 3 คือ พอใช้ 2 คือ น้อย 1 คือ นอ้ ยทสี่ ุด

พฤติกรรมการมีสว่ นร่วมของนักเรยี น ระดบั คะแนน หมายเหตุ

54321

1. นักเรยี นมีส่วนรว่ มในการตอบคำถาม
2. นกั เรียนสามารถตอบคำถามได้อยา่ งถูกต้อง

เหมาะสม
3. นกั เรยี นมคี วามคิดสรา้ งสรรค์ในการตอบคำถาม
4. นกั เรียนแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ข้อมูล คำตอบกับ

เพ่ือนๆ

รวมคะแนน........................... ผา่ น ไม่ผ่าน

เกณฑ์การประเมิน : นักเรียนจะตอ้ งผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ 80 ขึน้ ไป คือต้องไดอ้ ยา่ งนอ้ ย 16 คะแนน

ข้อเสนอแนะ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื ………………………..………..….…..ผ้ปู ระเมนิ
(นางสาวสนุ สิ า คำสุขดี)
__ / ___ / __

แบบประเมนิ การเขยี น

ท่ี ชื่อ - นามสกุล ความถูก ้ตองในการเ ีขยน หมายเหตุ
การใ ้ชภาษา
เน้ือหา
คะแนนรวม

5 5 5 15

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.

เกณฑ์การใหค้ ะแนนทกั ษะการเขยี น

สิ่งทตี่ ้องการวดั ปรับปรงุ (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดมี าก (4)
1. ความถกู ต้องใน
การเขยี น เขียนผิดพลาดบ่อย เขยี นได้แต่มีจุดผิดพลาด เขยี นได้ถูกต้องแตย่ ัง เขยี นได้ถูกต้องผูอ้ ่าน
2. การใชภ้ าษา
พอสมควร มีจุดผิดพลาเลก็ น้อย เขา้ ใจชัดเจนไม่มี
3. เน้ือหา
ขอ้ ผดิ พลาด

สะกดคำผดิ มาก สะกดคำและรูปประโยค สะกดคำศัพทผ์ ิด สะกดคำศัพทถ์ ูกต้อง

เขยี นรูปประโยคไม่ ผิดค่อนข้างมากแต่พอ เล็กนอ้ ยพอเดา เลอื กใช้คำตรงกบั

ถูกต้องไม่มี เดาความหมายได้ ความหมายไดเ้ ขียน เน้ือหารูปประโยค

เครื่องหมายวรรค เครือ่ งหมายวรรคตอนไม่ รปู ประโยคผดิ หลกั ถูกต้องใช้เคร่ืองหมาย

ตอน ครบหรอื ใชไ้ ม่ถูกต้อง ไวยากรณ์เลก็ น้อยใช้ วรรคตอนถูกตอ้ ง

เครอ่ื งหมายวรรค

ตอนผิดเล็กน้อย

รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของเนือ้ หา รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ

เนือ้ หาน้อยมาก และ น้อย ไม่ครบถว้ น เน้อื หามากสอดคล้อง เนื้อหาครบถว้ น ตรง

ไมส่ อดคล้องกับภาพ สอดคลอ้ งกบั ภาพหรือ กบั ภาพหรอื หัวข้อ กบั ภาพหรือหัวข้อที่

หรอื หัวข้อที่กำหนด หวั ข้อทกี่ ำหนดบางส่วน ที่กำหนดแต่ยังไม่ กำหนดมากทีส่ ุด

หรือมีรายละเอยี ด ครอบคลุมทั้งหมด

เนอ้ื หามากแต่ไม่

สอดคลอ้ งกบั ภาพ

หรือหัวขอ้ ที่กำหนด

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
ตำ่ กว่า 4 ปรับปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ชอ่ื -สกุลนกั เรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่.......................

คำช้แี จง : ให้ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓

ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะอันพงึ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงคด์ า้ น 4 32 1

1. ซื่อสตั ย์สุจริต 1.1 ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกงานเพอ่ื น

1.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงตอ่ ตนเอง

1.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ต่อผู้อ่ืน

2. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ

2.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ

2.3 สรุปความรู้ได้อยา่ งมเี หตุผล

3. มุง่ ม่ันในการ 3.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
ทำงาน 3.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรค เพื่อใหง้ านสำเร็จ

ลงชื่อ......................................................................ผู้ประเมนิ

(นางสาวสนุ สิ า คำสขุ ด)ี

........... /........................./....................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน สรปุ ผลการประเมนิ  ผา่ น
ระดับ  ดีเยย่ี ม  ดี  ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน  ไม่ผา่ น ระดบั  ปรับปรุง

- พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

คะแนน 16 - 20 ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม (3)
ร้อยละ 11 - 15 ระดับคุณภาพ ดี (2)
ร้อยละ 6 - 10 ระดับคุณภาพ พอใช้ (1)
รอ้ ยละ 0 - 5 ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง (0)

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1. ผลการสอน/ผลการเรยี นรู้
1.1 ดา้ นความรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 ดา้ นทักษะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.3 ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปัญหา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ข้อเสนอแนะและแนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
.

ลงชือ่ ………………………………………ผ้สู อน
(นางสาวสนุ ิสา คำสขุ ดี)

…………/…………………/………………

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมายตรวจสอบ/นิเทศ/ประเมนิ แผนการจดั การเรียนรู้
………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….……
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………….

ลงช่อื .................................................
(นายฉวี วงคช์ าลี)

หวั หนา้ กลุม่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ .................................................
(นายจนั ทกานต์ กำแซง)
หวั หน้าฝ่ายวชิ าการ

ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .....................................................
(นายบำรุง ป้องนาทราย)

รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นหนองโนประชาสรรค์

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื .................................................
(นางสภุ ลักษณ์ ดียิง่ )

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นหนองโนประชาสรรค์

แผนการจัดการเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 2

รหัสวชิ า อ22203 รายวชิ าภาษาอังกฤษอา่ น เขยี น 2 ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 1 daily life เวลา 8 ช่วั โมง

แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 2 favorite fruit 2 เวลา 1 ช่ัวโมง

ผู้สอน นางสาวสุนสิ า คำสุขดี

___________________________________________________________________________

1. สาระสำคญั

เขยี นสือ่ ท่ีไม่ใช่ความเรยี งรูปแบบต่าง ๆ ระบหุ วั ขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญรายละเอียดสนับสนุนและแสดงความ

คิดเห็นเกี่ยวกับ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์ สิ่งของ สิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์

ระหว่างบคุ คล

2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตวั ชว้ี ัด

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด

และการเขยี น

ตัวชี้วดั ม.2/1 พดู และเขียนบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง กจิ วัตรประจำวัน ประสบการณ์ และขา่ ว/เหตุการณ์

ทีอ่ ยู่ในความสนใจของสังคม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
เมื่อนักเรียนเรยี นเร่ืองน้ีแล้ว นักเรยี นสามารถ
1. เขียนคำศัพทเ์ ก่ียวกับผลไม้ และเขยี นประโยคได้ (K)
2. สนทนาแลกเปล่ยี นข้อมูลเกี่ยวกบั ผลไมท้ ่ชี ื่นชอบได้ (P)
3. นกั เรยี นมีปฏสิ ัมพนั ธท์ ีด่ ีระหว่างเรียน (A)

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ดา้ นความรู้
- การเขียนคำคพั ท์และประโยคตรงตามหมวด
- การแลกเปล่ียนข้อมูลเก่ยี วกับสถานการณต์ ่าง ๆ
- Vocabulary: คำศพั ทเ์ กยี่ วกบั ผลไมน้ า ๆ ชนิด
4.2 ด้านทกั ษะ /คุณลกั ษณะผู้เรียนของกลุ่มสาระการเรียนรู้
- การสอ่ื สารดว้ ยทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ
4.3 ด้านสมรรถนะสำคัญของผ้เู รยี น
- ความสามารถด้านการคดิ
- ความสามารถด้านส่ือสาร
- ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวติ

4.4 ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
4.4.1 คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามหลกั สูตร
- ใฝเ่ รยี นรู้
- ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
4.4.2 คณุ ลกั ษณะของเด็กไทยในประชาคมอาเซยี น
- มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เหน็ และแลกเปลีย่ นเรยี นรู้
- มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์อยา่ งมเี หตผุ ล มีวิธคี ิดอยา่ งถูกต้อง
- มคี วามสามารถในการทำงานและอยรู่ ่วมกบั ผู้อื่น

5. การบรู ณาการแนวคิดตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
1. ความพอประมาณ
นักเรียนกำหนดเวลา และบรหิ ารเวลาอยา่ งเหมาะสมในการทำกิจกรรม
2. มีเหตุผล
ใช้ทักษะการเขยี น เพอ่ื แสดงความคิดเห็นและแลกเปล่ียนเรียนรู้
3. เง่ือนไขคุณธรรม
การฝึกกระบวนการทำงานกลมุ่ รจู้ ักช่วยเหลอื เอื้อเฟ้ือกัน เพอื่ ใหง้ านที่ได้รบั มอบหมายสำเร็จ

6. กจิ กรรมการเรียนรู้
6.1 ขัน้ นำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) (5 นาท)ี
1. ครูทักทายนักเรียน แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรู้ทจ่ี ะเรยี นในคาบเรียนนี้ใหน้ กั เรียนทราบ
2. Brain gym ให้นกั เรียนชว่ ยกันตอบคำถาม

A: What would you like to bring to a school party?

B: I would you like to bring coconuts to a school party.

6.2 ขั้นนำเสนอ (Presentation) (5 นาท)ี
3. นกั เรียนฝึกออกเสียงเละเขียนประโยคตามครูทลี ะประโยคโดยใช้ Power point เรือ่ ง Favorite fruits

6.3 ขน้ั ฝกึ (Practice) (20 นาที)
4. นักเรียนอ่านคำสั่งและทำ Exercise 1.2 Directions: Look at the picture of a supermarket
make a list of the least 3 thing you would like to bring a school party.
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรม ครูพูดและเขียนประโยค What would you like to bring to a
school party? บนกระดาน สุ่มนกั เรยี นแต่ละกล่มุ ออกมาตอบคำถามพร้อมทัง้ เขียนประโยคและคำตอบกลุ่มของ
ตวั เอง บนหน้ากระดาน อย่างน้อย 3 ประโยค
6.4 ข้นั การใช้ภาษา (Production) (15 นาท)ี
6. นักเรยี นแต่กลุ่มออกมาตอบคำถาม หนา้ ช้ันเรียน คนละ 1 ประโยค ครูคอยสงั เกตและบนั ทกึ พฤติกรรม
การเรยี นรู้ของนักเรยี นและช่วยแก้ไขประโยคให้ถกู ต้อง
7. ครูและนกั เรียนรว่ มกนั เฉลยใบงานที่ 1.2 Directions: Look at the picture of a supermarket make
a list of the least 3 thing you would like to bring a school party. พร้อมแก้ไขคำตอบใหถ้ ูกต้อง

6.5 ขั้นการใชภ้ าษา (Wrap up) (5 นาท)ี
8. นกั เรียนสรุปองคค์ วามรู้ในวันน้โี ดยการเลม่ เกม Word wall เพ่อื ทบทวนความเขา้ ใจ จากนนั้ ครูและ

นักเรียนรว่ มกันสรุปบทเรยี น

7. สื่อ/อุปกรณ/์ แหล่งเรยี นรู้
7.1 บัตรคำ ผลไม้ จำนวน 10 บัตร
7.2 Word wall
7.3 ใบงานที่ 1.2
7.4 Dictionary จำนวน 14 เลม่

8. การวดั และประเมินผล

จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เคร่ืองมือทใ่ี ชใ้ น วธิ ีการประเมนิ เกณฑ์การประเมิน
การประเมิน
1. เขยี นคำศัพท์เก่ยี วกับผลไม้ ตรวจความถกู ต้องของใบ ร้อยละ 80 ขึน้ ไป
และเขียนประโยคได้ (K) - ใบงานที่ 1.2 งานท่ี 1.2

2. สนทนาแลกเปล่ยี นขอ้ มลู - แบบสังเกตการมสี ว่ น ประเมนิ จาการออกมาตอบ รอ้ ยละ 80 ขนึ้ ไป
เกย่ี วกับผลไมต้ า่ ง ๆ (P) ร่วมในการตอบคำถาม คำถามและเขยี นคำศพั ท์
หนา้ ช้นั เรียน
3. นักเรียนมีปฏิสมั พันธ์ท่ดี ี - แบบสังเกตการมสี ่วน
ระหว่างเรียน (A) ร่วมระหวา่ งเรียน สังเกตกุ ารมีส่วนร่วมของ ร้อยละ 80 ขึ้นไป
นักเรยี นระหวา่ งเรยี น

Exercise 1.2
Directions: Look at the picture of a supermarket make a list of the least 3 thing you
would like to bring a school party.

Ex. A: What would you like to bring to a school party?
B: I would you like to bring coconuts to a school party

1. A: _______________________________________________________________
B: _______________________________________________________________

2. A: _______________________________________________________________
B: _______________________________________________________________

3. A: _______________________________________________________________
B: _______________________________________________________________

Name…………………………………………………………………………………. Class……….………...No………………...

แบบสงั เกตการมสี ่วนรว่ มในการตอบคำถามของนักเรยี น

คำชี้แจง : ใสเ่ คร่ืองหมาย / ลงในช่องระดบั คะแนนและชอ่ ง ผา่ น ไม่ผา่ น

ระดับคะแนน : 5 คือ ดีมาก 4 คอื ดี 3 คอื พอใช้ 2 คอื น้อย 1 คือ น้อยทีส่ ดุ

พฤตกิ รรมการมีสว่ นรว่ มของนกั เรียน 5 ระดับคะแนน หมายเหตุ
432 1
1. นักเรียนมีสว่ นร่วมในการตอบคำถาม
2. นกั เรยี นสามารถตอบคำถามได้อยา่ งถูกต้องเหมาะสม
3. นกั เรียนมีความคิดสรา้ งสรรค์ในการตอบคำถาม
4. นักเรียนแลกเปล่ียนเรียนรู้ ข้อมูล คำตอบกบั เพ่ือนๆ

รวมคะแนน........................... ผ่าน ไม่ผา่ น

เกณฑ์การประเมนิ : นักเรยี นจะต้องผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ 80 ขน้ึ ไป คือต้องได้อย่างนอ้ ย 16 คะแนน

ขอ้ เสนอแนะ

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ………………………..………..….…..ผู้ประเมิน
(นางสาวสุนสิ า คำสขุ ดี)
__ / ___ / __

แบบประเมนิ การเขยี น

ท่ี ชื่อ - นามสกุล ความถูก ้ตองในการเ ีขยน หมายเหตุ
การใ ้ชภาษา
เน้ือหา
คะแนนรวม

5 5 5 15

1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.
11.
12.
13.
14.

เกณฑ์การใหค้ ะแนนทกั ษะการเขยี น

สิ่งทตี่ ้องการวดั ปรับปรงุ (1) พอใช้ (2) ดี (3) ดมี าก (4)
1. ความถกู ต้องใน
การเขยี น เขียนผิดพลาดบ่อย เขยี นได้แต่มีจุดผิดพลาด เขยี นได้ถูกต้องแตย่ ัง เขยี นได้ถูกต้องผู้อ่าน
2. การใชภ้ าษา
พอสมควร มีจุดผิดพลาเลก็ น้อย เขา้ ใจชัดเจน ไม่มี
3. เน้ือหา
ขอ้ ผดิ พลาด

สะกดคำผดิ มาก สะกดคำและรูปประโยค สะกดคำศัพทผ์ ิด สะกดคำศัพท์ถูกต้อง

เขยี นรูปประโยคไม่ ผิดค่อนข้างมากแต่พอ เล็กนอ้ ยพอเดา เลอื กใช้คำตรงกบั

ถูกต้องไม่มี เดาความหมายได้ ความหมายไดเ้ ขียน เน้ือหารูปประโยค

เครื่องหมายวรรค เครือ่ งหมายวรรคตอนไม่ รปู ประโยคผดิ หลกั ถูกต้องใช้เครื่องหมาย

ตอน ครบหรอื ใชไ้ ม่ถูกต้อง ไวยากรณ์เลก็ น้อยใช้ วรรคตอนถูกต้อง

เครอ่ื งหมายวรรค

ตอนผิดเล็กน้อย

รายละเอยี ดของ รายละเอยี ดของเนือ้ หา รายละเอียดของ รายละเอยี ดของ

เนือ้ หาน้อยมาก และ น้อย ไม่ครบถว้ น เน้อื หามากสอดคล้อง เนื้อหาครบถ้วน ตรง

ไมส่ อดคล้องกับภาพ สอดคลอ้ งกบั ภาพหรือ กบั ภาพหรอื หัวข้อ กบั ภาพหรือหัวข้อที่

หรอื หัวข้อที่กำหนด หวั ข้อทกี่ ำหนดบางส่วน ที่กำหนดแต่ยังไม่ กำหนดมากที่สดุ

หรือมีรายละเอยี ด ครอบคลุมทั้งหมด

เนอ้ื หามากแต่ไม่

สอดคลอ้ งกบั ภาพ

หรือหัวขอ้ ที่กำหนด

เกณฑก์ ารประเมินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
ตำ่ กว่า 4 ปรับปรุง

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์

ชอ่ื -สกุลนกั เรียน...........................................................................ห้อง..............................เลขที่.......................

คำช้แี จง : ให้ผสู้ อน สงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓

ลงในช่องท่ีตรงกบั ระดบั คะแนน

คุณลกั ษณะอันพงึ รายการประเมนิ ระดับคะแนน
ประสงคด์ า้ น 4 32 1

1. ซื่อสตั ย์สุจริต 1.1 ปฏิบตั ิตามระเบียบการสอน และไมล่ อกงานเพอ่ื น

1.2 ประพฤติ ปฏิบตั ิ ตรงต่อความเปน็ จริงตอ่ ตนเอง

1.3 ประพฤติ ปฏบิ ตั ิ ตรงต่อความเปน็ จรงิ ต่อผู้อ่ืน

2. ใฝ่เรยี นรู้ 2.1 แสวงหาขอ้ มลู จากแหล่งการเรยี นรู้ต่างๆ

2.2 มีการจดบันทึกความรู้อย่างเป็นระบบ

2.3 สรุปความรู้ได้อยา่ งมเี หตุผล

3. มุง่ ม่ันในการ 3.1 มีความต้ังใจ และพยายามในการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมาย
ทำงาน 3.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ต่ออปุ สรรค เพื่อใหง้ านสำเร็จ

ลงชื่อ......................................................................ผู้ประเมนิ

(นางสาวสนุ สิ า คำสขุ ด)ี

........... /........................./....................

เกณฑ์การใหค้ ะแนน สรปุ ผลการประเมนิ  ผา่ น
ระดับ  ดีเยย่ี ม  ดี  ผ่านเกณฑก์ ารประเมิน
- พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสมำ่ เสมอ ให้ 4 คะแนน  ไม่ผา่ น ระดบั  ปรับปรุง

- พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ิชดั เจนและบ่อยครั้ง ให้ 3 คะแนน

- พฤติกรรมทปี่ ฏิบัติชดั เจนและบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน

- พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ิบางครงั้ ให้ 1 คะแนน

คะแนน 16 - 20 ระดบั คุณภาพ ดีเย่ยี ม (3)
ร้อยละ 11 - 15 ระดับคุณภาพ ดี (2)
ร้อยละ 6 - 10 ระดับคุณภาพ พอใช้ (1)
รอ้ ยละ 0 - 5 ระดบั คุณภาพ ปรับปรุง (0)

บันทกึ ผลหลงั การจดั การเรียนรู้
1. ผลการสอน/ผลการเรยี นรู้
1.1 ดา้ นความรู้

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.2 ดา้ นทักษะ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

1.3 ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

2. ปญั หา/อุปสรรค
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

3. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางแก้ไข
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ………………………………………ผู้สอน
(นางสาวสุนิสา คำสขุ ดี)

…………/…………………/………………

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผู้ท่ไี ดร้ บั มอบหมายตรวจสอบ/นิเทศ/ประเมินแผนการจดั การเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื .................................................
(นายฉวี วงค์ชาล)ี

หวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ

ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหน้าฝา่ ยวิชาการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชือ่ .................................................
(นายจนั ทกานต์ กำแซง)
หวั หน้าฝา่ ยวชิ าการ

ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูบ้ ริหารสถานศึกษา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงชอื่ .....................................................
(นายบำรงุ ปอ้ งนาทราย)

รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นหนองโนประชาสรรค์

…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่อื .................................................
(นางสุภลักษณ์ ดียง่ิ )

ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นหนองโนประชาสรรค์

แผนการจดั การเรยี นรู้

กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ระดับชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 2

รหัสวิชา อ22203 รายวชิ าภาษาองั กฤษอา่ น เขยี น 2 ภาคเรยี นท่ี 2 ปีการศึกษา 2564

หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 daily life เวลา 8 ชวั่ โมง

แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 3 My classroom 1 เวลา 1 ชัว่ โมง

ผสู้ อน นางสาวสนุ สิ า คำสขุ ดี

___________________________________________________________________________

1. สาระสำคัญ

เขยี นสอื่ ที่ไม่ใช่ความเรยี งรูปแบบตา่ ง ๆ ระบุหัวขอ้ เร่ือง ใจความสำคัญรายละเอียดสนับสนุนและแสดงความ

คิดเห็นเกี่ยวกับ ข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง ครอบครัว โรงเรียน อาหาร เครื่องดื่ม สัตว์ สิ่งของ สิ่งแวดล้อม ความสัมพันธ์

ระหวา่ งบคุ คล

2. มาตรฐานการเรียนรู้ / ตัวชีว้ ัด

มาตรฐาน ต 1.3 นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่างๆ โดยการพูด

และการเขยี น

ตัวช้วี ัด ม.2/1 พดู และเขยี นบรรยายเก่ยี วกบั ตนเอง กจิ วตั รประจำวัน ประสบการณ์ และข่าว/เหตุการณ์

ทอ่ี ยใู่ นความสนใจของสงั คม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

เมอ่ื นักเรยี นเรยี นเรอ่ื งน้ีแล้ว นักเรียนสามารถ

1. เขยี นคำศัพทเ์ กีย่ วกบั อปุ กรณใ์ นห้องเรยี น และบอกความหมายได้ (K)

2. สนทนา แลกเปลีย่ นข้อมลู เกย่ี วกบั อุปกรณ์ในห้องเรยี นต่าง ๆ ได้ (P)

3. นักเรียนมปี ฏิสัมพันธ์ทีด่ ีระหวา่ งเรียน (A)

4. สาระการเรยี นรู้
4.1 ด้านความรู้
- การเขียนคำคัพท์ตรงตามหมวด
- การแลกเปลยี่ นข้อมูลเกี่ยวกับสถานการณต์ ่าง ๆ
- Vocabulary: คำศัพทเ์ ก่ียวกบั อปุ กรณใ์ นห้องเรียน
4.2 ด้านทกั ษะ /คุณลักษณะผเู้ รียนของกลุม่ สาระการเรียนรู้
- การสอ่ื สารด้วยทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ
4.3 ดา้ นสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
- ความสามารถด้านการคิด
- ความสามารถดา้ นสื่อสาร
- ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
4.4 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์
4.4.1 คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ตามหลักสตู ร
- ใฝ่เรียนรู้
- มงุ่ มนั่ ในการทำงาน

4.4.2 คณุ ลกั ษณะของเดก็ ไทยในประชาคมอาเซียน
- มสี ่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นและแลกเปลยี่ นเรยี นรู้
- มีความสามารถในการคิดวเิ คราะห์อยา่ งมเี หตผุ ล มวี ิธคี ิดอยา่ งถูกต้อง
- มีความสามารถในการทำงานและอย่รู ว่ มกบั ผอู้ น่ื
5. การบูรณาการแนวคดิ ตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง
1. ความพอประมาณ
นักเรยี นกำหนดเวลา และบริหารเวลาอยา่ งเหมาะสมในการทำกิจกรรม
2. มเี หตุผล
ใชท้ ักษะการสอ่ื สาร เพื่อแสดงความคิดเห็นและแลกเปลยี่ นเรยี นรู้
3. เงอ่ื นไขคณุ ธรรม
การฝึกกระบวนการทำงานกลุ่ม รู้จกั ช่วยเหลือเอื้อเฟื้อกัน เพอ่ื ให้งานทไ่ี ด้รับมอบหมายสำเรจ็
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
6.1 ขัน้ นำเข้าสู่บทเรียน (Warm up) (5 นาท)ี
1. ครูทักทายนกั เรียน แจ้งจดุ ประสงค์การเรียนรูท้ ีจ่ ะเรียนในคาบเรียนนใ้ี หน้ กั เรียนทราบ
2. Brain gym ให้นกั เรยี นช่วยกนั ตอบคำถาม (T): What is this?

(S): This is a pen.

6.2 ข้นั นำเสนอ (Presentation) (5 นาท)ี
3. นักเรียนฝึกออกเสียงเละเขียนคำศัพท์ตามครูทีละคำและบอกความหมายโดยใช้ Power point เรื่อง
My classroom.

6.3 ขน้ั ฝกึ (Practice) (20 นาท)ี
4. นักเรียนอ่านคำสั่งและทำใบงานที่ 2.1 (Directions: Look at the pictures and fill in the blank
completely.)
5. นักเรียนทำกิจกรรมกลุม่ ครูพูดและเขียนประโยค What is this? บนกระดาน ครูจะมีรูปภาพอุปกรณ์
ในห้องเรียนให้นักเรียนและตอบคำถามจากประโยค อย่างน้อย 5 ประโยค สุ่มนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมาตอบ
คำถามพรอ้ มทั้งเขียนคำศัพทอ์ ปุ กรณ์ในห้องเรยี นท่ีกลุม่ ตวั เองเลือกบนหน้ากระดาน อยา่ งน้อย 5 คำ
6.4 ขั้นการใชภ้ าษา (Production) (15 นาที)
6. นักเรียนออกมาเขียนและอ่านคำศัพท์เกี่ยวกับอุปกรณ์ในห้องเรียนที่นักเรียนมีคนละ 1 คำ หน้าชั้น
เรียน
7. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยใบงานที่ 2.1 (Directions: Look at the pictures and fill in the blank
completely.) พรอ้ มแกไ้ ขคำตอบให้ถกู ตอ้ ง

6.5 ขัน้ การใช้ภาษา (Wrap up) (5 นาท)ี
8. นักเรียนสรุปองค์ความรู้ในวันนี้โดยการเล่มเกม Word wall เพื่อทบทวนความเข้าใจจากนั้นครูและ
นกั เรยี นร่วมกนั สรุปบทเรยี น
7. ส่ือ/อปุ กรณ/์ แหล่งเรียนรู้
7.1 บตั รคำ อุปกรณใ์ นหอ้ งเรียน จำนวน 10 บัตร
7.2 Word wall
7.3 ใบงานท่ี 2.1
7.4 Dictionary จำนวน 14 เล่ม

8. การวดั และประเมินผล

จุดประสงค์การเรยี นรู้ เครอ่ื งมือทใ่ี ช้ใน วิธกี ารประเมนิ เกณฑ์การประเมนิ
การประเมิน
1. เขยี นคำศัพทเ์ ก่ยี วอปุ กรณ์ใน ตรวจความถกู ต้องของใบ ร้อยละ 80 ขึ้นไป
หอ้ งเรียน และบอกความหมายได้ (K) - ใบงานท่ี 2.1 งานที่ 2.1

2. สนทนาแลกเปล่ียนขอ้ มูลเกีย่ วกับ - แบบสังเกตการมสี ่วน ประเมินจาการออกมาตอบ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป

อุปกรณ์ในหอ้ งเรยี นต่าง ๆ (P) ร่วมในการตอบคำถาม คำถามและเขยี นคำศพั ท์

หนา้ ชน้ั เรยี น

3. นกั เรยี นมีปฏิสมั พนั ธท์ ด่ี รี ะหวา่ ง - แบบสงั เกตการมีส่วน สังเกตกุ ารมสี ่วนรว่ มของ รอ้ ยละ 80 ข้ึนไป

เรยี น (A) รว่ มระหวา่ งเรียน นกั เรยี นระหวา่ งเรียน

Exercise 2.1
Directions: Look at the pictures and fill in the blank completely.

1.

c ____ a ____ ____

2. _____ o _____ ks
3. b______ a _____ d
4. p____ n _____ _____l
d _____ _____k
5. _____ _____ k
6.

Ink


Click to View FlipBook Version