The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Weerasak.4848, 2021-09-14 06:48:18

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

วิชา งานเช่ือมและโลหะแผน่ เบ้ืองต้น
รหสั 20100-1004

ครผู ู้สอน นายวรี ะศกั ด์ิ สุนทร
วทิ ยาลัยเทคนคิ เดชอุดม จังหวดั อบุ ลราชธานี

หนว่ ยท่ี 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชอื่ มและงานโลหะแผน่

1.1 ประวัตแิ ละวิวัฒนาการของงานเช่ือม
การเช่อื มเริม่ ขน้ึ เมื่อประมาณ 3,000 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อมนุษย์นําทองแดง บรอนซ์ และเหล็ก

มาทํา เป็นอาวุธและเครื่องใช้โดยการเผาและตีขึ้นรูปและตีเชื่อม ต่อมาในศตวรรษที่ 18 เริ่มมีการ
ปฏิวัติอุตสาหกรรม ซ่ึงการวิวัฒนาการของการเช่ือมเริ่มชัดเจนข้ึนโดยในต้นศตวรรษท่ี 19 เอ็ดมูนด์
ดาวี (Edmund Davy) ได้ค้นพบแก๊สอะเซทิลีน ต่อมานํามาผลิตใช้กับการเช่ือมตัดโลหะที่เรียกว่า
การเชอ่ื มออกซิอะเซทิลนี

ปี ค.ศ. 1801 เซอร์ฮัมฟรี เดวี (Sir. Humphry Davy) ได้ค้นพบการอาร์กด้วยกระแสไฟฟ้าใน
ห้องทดลอง ซงึ่ ต่อมา

ในชว่ งปี ค.ศ. 1809 เขาสามารถค้นพบวิธีท่ีจะสร้างการอาร์กและรักษาให้คงสภาพการอาร์กอยู่
ไดใ้ นช่วงระยะ เวลาหน่ึง ซง่ึ ถือวา่ เปน็ ววิ ัฒนาการแรกของกระบวนการเชอ่ื มอาร์กด้วยลวดเชอื่ ม

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชือ่ มและงานโลหะแผน่

กระบวนการอารก์ ด้วยลวดเชอ่ื มหมุ้ ฟลก๊ั ซ์

หน่วยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผน่

การเช่ือมแบบหลอมละลายเริ่มเกิดครั้งแรกเมื่อ ออกุสต์ เดอ เมอริเทน ส์ (Auguste de
Heritens) ใช้แท่งคาร์บอนอาร์กให้ความร้อนเช่ือมแผ่นตะกั่วหม้อแบตเตอรี่โดยใช้ไฟฟ้าจาก
แบตเตอร่ี

หลังจากนั้นประมาณ 4 ปี ได้มี นิโคไล เบนนาร์โดส (N. Benados) และ (S. Olszewski) สตา
นสิ โลว์ โอซิวสก พฒั นาเครอ่ื งเช่อื มข้นึ ใช้แทนการใช้แบตเตอร่ี แต่ยังคงใช้แท่งคาร์บอนอาร์กให้ความ
ร้อน

การเช่ือมด้วยแท่งลวดเช่ือม นิโคไล แกวรีโลวิช สลาเวียนอฟฟ์ (N.G. Slavianoff) เป็นผู้ค้นพบ
ซึ่งกรรมวิธีการเช่ือมนี้ยังมีอุปสรรค เนื่องจากค่าของความแข็งแรงรอยเช่ือมต่ํากว่าโลหะชิ้นงานและ
การอารก์ ไมส่ ม่าํ เสมอ จึงได้มกี ารพัฒนากันอย่างตอ่ เน่อื ง

หนว่ ยที่ 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชอื่ มและงานโลหะแผ่น

จนช่วงปี ค.ศ. 1907 เชลล์แบรย์ (Kjellberg) วิศวกร ชาวสวีเดนทําการจดทะเบียนลวดเช่ือม
ไฟฟ้าหุ้มฟลักซ์เพื่อให้การอาร์กสมํ่าเสมอ และได้เนื้อโลหะเช่ือมท่ีมี ความบริสุทธ์ิดีข้ึนกว่าการใช้
ลวดเปลือย ภายหลังจากปี ค.ศ. 1919 ได้มีการยอมรับกระบวนการเชื่อมโลหะ และใช้กันอย่าง
แพรห่ ลาย จึงได้มกี ารพัฒนาวธิ กี ารเชือ่ มอารก์ โลหะแบบอืน่ ข้ึนมาอยา่ งตอ่ เนื่อง

ภายหลังสงครามโลกคร้ังท่ี 2 ปี ค.ศ. 1930 โกบารต์ (Gobart) และดีเวอร์ส (Devers) ได้นํา
กรรมวิธี การเช่ือมอาร์กโลหะแก๊สคลุมหรือการเช่ือมอาร์กโลหะแก๊สคลุมออกมาเผยแพร่ ซ่ึงเป็น
กระบวนการเชื่อมท่ีมี ประสิทธิภาพสูง การหลอมละลายลึกสูงแนวแคบ และสามารถทําการเช่ือม
ด้วยความเรว็ สงู

หน่วยท่ี 1 หลักการและความปลอดภยั งานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

ในปี ค.ศ. 1942 บริษัทอินเด้ (The Linde Company) ได้พัฒนากระบวนการเชื่อมอาร์ก
ทั้งสเตน แก๊สคลุมขึ้นมาใช้ซึ่งสามารถเช่ือมโลหะได้เกือบทุกชนิด กระทําการเช่ือมได้ดี และมี
คุณภาพงานเชื่อมสูง หลังจากน้ันกระบวนการเชื่อมชนิดนี้ให้ประสิทธิภาพสูง จึงได้เกิดการพัฒนา
กระบวนการเช่ือมด้วยการอาร์ก ชนิดอ่ืนขึ้นมา เช่น กระบวนการเชื่อมพลาสมา กระบวนการเช่ือม
ใต้ฟลกั ซ์ กระบวนการเชือ่ มอิเล็กโทรสแลก เป็นต้น

ลกั ษณะกระบวนการเช่อื มอารก์ ทังสเตนแกส๊ คลุม

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

1.2 หลกั การเชอื่ มโลหะเบือ้ งตน้
การเชื่อมโลหะ หมายถึง การต่อโลหะ 2 ชิ้น ให้ติดกันโดยการให้ความร้อนแก่โลหะจนหลอม
ละลาย จากน้ันใช้ลวดเชื่อมเติมรอยต่อประสานให้ติดเป็นเนื้อเดียวกัน หรือให้ความร้อนกับ
ช้ินงานจนใกล้ถงึ จุดหลอมละลาย ขณะเดียวกนั ใชแ้ รงอดั ชิ้นงานประสานติดเปน็ เนื้อเดยี วกนั

กระบวนการเชื่อมมีหลายชนิด โดยนิยามใช้กันอยู่ท่ัวไปเป็นพ้ืนฐานน่ันคือ กระบวนการเชื่อม
ดว้ ยลวดเชื่อมหุ้มฟลั๊กซ์ และกระบวนการเชอื่ มแก๊สออกซอิ ะเซทิลีน และกระบวนการเช่ือมชนิด
อ่ืน ซึ่งในหน่วย การเรีนยน้ีเสนอสาระการเรียนรู้เฉพาะกระบวนการเชื่อมด้วยลวดเช่ือม
หมุ้ ฟลัก๊ ซแ์ ละกระบวนการเช่อื มแกส๊ ออกซิอะเซทลิ ีน

หนว่ ยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

1.3 หลกั การเชอ่ื มดว้ ยลวดเชอื่ มหุ้มฟล๊กั ซ์
การเช่ือมด้วยลวดเช่ือมหุ้มฟลั๊กซ์หรือการเชื่อมไฟฟ้า (Shield Metal Are Welding ; SMAW)
หมายถึง กระบวนการเช่ือมท่ีได้รับความร้อนจากการอาร์กระหว่างลวดเชื่อมกับช้ินงาน ความ
ร้อนทเ่ี กดิ จากการอาร์กสูงประมาณ 6,000 องศาฟาเรนไฮต์ (3,316 องศาเซลเซียส) เพื่อหลอม
ละลายโลหะให้ติดกัน ทาํ ให้ช้ินงานกับลวดเช่ือมที่บริเวณการอาร์กรวมเป็นเน้ือเดียวกัน เรียกว่า
แนวเชื่อม ส่วนสารพอกหุ้ม (Flux) เม่ือได้รับความร้อนจากการอาร์กจะหลอมละลายปกคลุม
แนวเชื่อมเมือ่ เยน็ ตวั ลง เรยี กว่า สแลก (Slag) ซึ้งทาํ หน้าที่ปกคลุมแนวเช่อื ม ไมใ่ หอ้ ากาศเข้ารวม
กบั น้าํ โลหะและดึงสารมลทนิ (Impurities) ออกจากนาํ้ โลหะ

หนว่ ยที่ 1 หลักการและความปลอดภยั งานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

ลกั ษณะการเชอื่ มดว้ ยลวดเชอื่ มหมุ้ ฟลัก๊ ซ์

อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ เครื่องเชื่อมเป็นอุปกรณ์ผลิตกระแสไฟท่ีเหมาะสมต่อการเชื่อม ซ่ึงมีทั้ง
แบบ กระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC) กระแสไฟจะถูกส่งมาตามสายหัวเชื่อมและสายเช่ือม
ในระหว่างการ เช่ือมจะควบคุมการเชื่อมด้วยหัวจับลวดเช่ือม ส่วนลวดเช่ือมจะใช้ตามชนิดของ
โลหะชน้ิ งานเชอ่ื ม

การนําไปใช้งาน เป็นกระบวนการเชื่อมที่นิยมใช้แพร่หลายในปัจจุบัน สามารถเช่ือมโลหะท้ัง
ใน เหล็กและนอกกลุ่มเหล็กเกือบทุกชนิดท่ีมีในโรงงานอุตสาหกรรม สามารถเช่ือมโลหะได้ต้ังแต่
1.2 มลิ ลิเมตรข้นึ ไป โดยไม่จํากัดความหนา ในกรณีช้ินงานมคี วามหนาเกนิ 6 มิลลเิ มตร

หน่วยที่ 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเชอื่ มและงานโลหะแผ่น

1.4 หลักการเชอื่ มแกส๊ ออกซิอะเซทิลนี
กระบวนการเช่ือมแก๊สออกซอะเซทิลีน เป็นการเช่ือมท่ีใช้พลังงานความร้อนจาก

เปลวไฟ ซ่ึงเป็นส่วนผสมระหว่างแก๊สออกซิเจนกับแก๊สเชื้อเพลิงจุดเป็นเปลวไฟทําการ
หลอมละลายชิ้นงานบริเวณการเชื่อมจะเติมลวดเช่ือมหรือไม่เติมลวดเช่ือมก็ได้ สําหรับ
แก๊สเช้ือเพลิงมีหลายชนิด เช่น อะเซทิลีน ไฮโดรเจน มีเทน โพรเพน ส่วนที่นิยมใช้มาก
คอื อะเซทิลีน ท่เี รยี กกวา่ การเชอ่ื มแกส๊ ออกซิอะเซทิลีน

ลกั ษณะองค์ประกอบกระบวนการเชือ่ มแก๊สออกซิอะเซทลิ นี

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

อุปกรณ์ที่ใช้ ได้แก่ ท่อบรรจุแก๊สออกซิเจน ท่อบรรจุแก๊สเช้ือเพลิง อุปกรณ์ปรับความดัน
ของแก๊ส ทั้ง 2 ชนิด หัวเชื่อมเป็นอุปกรณ์สําหรับผสมแก๊สและสร้างเปลวไฟการเชื่อม ส่วนหัว
ทิพทีต่ ดิ อยูป่ ลายหวั เชือ่ ม สามารถเปล่ียนขนาดได้ ซ่ึงเป็นตัวกําหนดปริมาณความร้อนของการ
เชือ่ ม สายยางสง่ แกส๊ อุปกรณจ์ ดุ เปลวไฟ และอุปกรณ์ทาํ ความสะอาดหัวทพิ

การนําไปใช้งานของการเชื่อมแก๊สออกซิอะเซทิลีน คือ สะดวกในการใช้งานในพ้ืนที่ที่ไม่มี
ไฟฟ้ากําลัง ใช้ทําการเช่ือมโลหะได้เกือบทุกชนิด โดยต้องใช้ช่างเชื่อมแก๊สที่มีฝีมือและความ
ชํานาญสูง นิยมนํามาใช้กับ งานโครงสร้างที่เป็นโลหะบาง งานท่อผนังบาง และงานเชื่อมซ่อม
บาํ รงุ

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภยั งานเชือ่ มและงานโลหะแผน่

1.5 หลักการงานโลหะแผ่น
โลหะแผ่น หมายถึง โลหะผ่านกระบวนข้ึนรูปจนกระทั่งเป็นโลหะแผ่นบางมีความหนาไม่เกิน
3/16 นิ้ว หรือ 4.5 มิลลิเมตร โลหะแผ่นมีหลายชนิด เป็นแผ่นเคลือบผิวด้วยโลหะชนิดหน่ึง
บางชนิดรีดข้ึนรูปออกมาเป็นแผ่นก็สามารถใช้งานได้ทันที โลหะแผ่นท่ัวไปแบ่งออกได้ 2 ชนิด
ดังตอ่ ไปน้ี

1.5.1 โลหะแผ่นเปลือย (Uncoated Metal or Bare Metal) โลหะแผ่นเปลือย เป็นโลหะ
กลุ่มท่ีไม่ใช่เหล็ก (Non-Ferrous Metal) หรือโลหะผสมท่ีไม่ทําปฏิกิริยากับออกซิเจนใน
บรรยากาศ ไม่เกิดการกัดกร่อน เช่น ทองเหลือง (Brass) ทองแดง (Copper) ดีบุก (Tin)
สังกะสี (Zinc) อะลมู เิ นยี ม (Aluminum) เหลก็ กล้าไร้สนมิ (Stainless Steel) เป็นต้น

หน่วยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเชอื่ มและงานโลหะแผ่น

1.5.2 โลหะแผ่นเคลือบ (Coated Metal) โลหะแผ่นเคลือบ เป็นโลหะกลุ่มเหล็ก (Ferrous
Matal) เนื่องจากตวั ของโลหะทําปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศทําให้เกิดสนิม (Oxide) และผุ
กร่อนได้ ซ่งึ จาํ เปน็ ต้องเคลือบด้วยโลหะท่ีไม่ใช่เหล็กเพื่อป้องกันการกัดกร่อนตามธรรมชาติ ทํา
ให้ชิ้นงานมีราคาถกู และมอี ายุการใช้งานนาน

หน่วยท่ี 1 หลักการและความปลอดภยั งานเชือ่ มและงานโลหะแผ่น

การทํางานเกี่ยวกับโลหะแผ่นเคลือบต้องระมัดระวังไม่ให้โลหะท่ีเคลือบผิวหลุดออกหรือ
เสียหาย โดยเฉพาะการนําไปเชื่อม ขัดผิว และตกแต่งผิว ควรหลีกเลี่ยงเพราะทําให้โลหะท่ี
เคลือบผิวหลดุ ออก ทําให้เกิดการกัดกร่อน เปน็ สาเหตุใหม้ ีอายุการใชง้ านน้อยลง

สําหรับโลหะแผ่นเคลือบในหน่วยการเรียนน้ีจะกล่าวเฉพาะโลหะแผ่นเหล็กกล้าเคลือบ
สงั กะสี ซง่ึ ปัจจบุ ันนยิ มใช้กันมาก โดยสังกะสี (Zn) เปน็ โลหะที่มีคณุ สมบตั ิ ดังตอ่ ไปน้ี

1. มีสีเทา-ขาว
2. ขัดผวิ ใหเ้ งาได้
3. มคี วามเปราะ
4. ทนทานตอ่ การเกิดสนมิ
5. ละลายได้งา่ ยในกรดเจือจางและในนํา้ ด่าง

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเช่อื มและงานโลหะแผน่

ในงานอุตสาหกรรมการชุบโลหะ การชุบสังกะสีได้มีบทบาทอย่างมาก ซ่ึงส่วนใหญ่นิยมชุบบน
ชิ้นงานทเ่ี ป็นโลหะกลมุ่ เหลก็ เพราะสงั กะสจี ะเกาะตดิ แผ่นเหลก็ ไดด้ ี ทําให้แผ่นเหล็กกล้าทนต่อ
การกัดกรอ่ น ได้ดี แผน่ เหล็กกล้าเคลือบสงั กะสี สามารถกระทาํ ได้ 2 วธิ ี ดังตอ่ ไปน้ี

1. การเคลือบผิวโดยวิธีการจุ่ม เป็นการเคลือบสังกะสีลงบนโลหะแผ่นเหล็กโดยตรงเพ่ือ
กันสนิมซ่ึงเรียกวิธีนี้ว่า กัลวาไนซ์ (Galvanize) เป็นการหลอมสังกะสีให้หลอมละลายแล้วจุ่ม
เหล็กแผน่ ซง่ึ ทาํ ความสะอาดแลว้ ลงไปสังกะสีเหลวจะเกาะติดบนผิวเหล็ก ตัวอย่างการชุบด้วย
วิธีนี้หาดูได้ง่ายที่สุด เช่น ท่อน้ําโลหะ เหล็กรูปพรรณ ช้ินส่วนโลหะประกอบเสาไฟฟ้าแรงสูง
เป็นต้น

หนว่ ยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชอ่ื มและงานโลหะแผน่

2. การเคลือบผิวด้วยวิธีเคมีไฟฟ้า การเคลือบสังกะสีบนแผ่นเหล็กกล้า สารเคมีท่ีต้องใช้ คือ ซิ
งค์ออกไซด์ (Zinc Oxide) หรือ ซิงค์ไซยาไนด์ (Zinc Cyanide) ชนิดใดชนิดหน่ึง ซ่ึงน้ํายาชุบ
สังกะสี ชนิดไซยาไนด์เป็นน้ํายาที่นิยมใช้กันในงานอุตสาหกรรมชุบสังกะสี เพราะสามารถ
ควบคมุ นาํ้ ยาไดง้ า่ ยและ ข้ันตอนการชุบง่าย แต่มีข้อเสีย คือ ไซยาไนด์เป็นสารเคมีชนิดมีพิษซึ่ง
เปน็ อันตรายตอ่ สขุ ภาพรา่ งกาย

ในการเคลือบผิวด้วยวิธีเคมีไฟฟ้านี้ สังกะสีที่เคลือบอยู่จะเกาะติดแน่น มีความเรียบ
สมํ่าเสมอตลอด ทั้งแผ่น สังกะสีที่เคลือบผิวโลหะเม่ือเย็นลงจะเกิดลวดลายและเงางามบน
พ้ืนผิวแผ่น เหล็กกล้า ในปัจจุบัน โลหะแผ่นท่ีผลิตเป็นขนาดมาตรฐานที่ใช้กันแพร่หลายมี 2
ขนาด คอื ขนาดกว้างคูณ ยาว 36x96 น้ิว (3x8 ฟุต) และขนาดกว้างคูณยาว 48x96 นิ้ว (4x8
ฟตุ )

หนว่ ยท่ี 1 หลักการและความปลอดภยั งานเชื่อมและงานโลหะแผน่

ลักษณหลกั การเคลอื บผิวสังกะสีด้วยวิธเี คมไี ฟฟ้า

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

1.6 ความปลอดภยั การเชอ่ื มด้วยลวดเช่อื มหุ้มฟลั๊กซแ์ ละการเช่อื มแกส๊ ออกซิอะเซทิลนี

การปฏิบตั ิงานเช่อื มด้วยลวดเช่อื มห้มฟลักซแ์ ละงานเชอ่ื มแกส๊ ออกซอิ ะเซทิลีน ผปู้ ฏบิ ตั ิงานควร
คํานงึ ถงึ ความปลอดภยั ท้ังด้านการใช้เคร่ืองมือ อุปกรณ์ที่เก่ียวข้องในแต่ละกระบวนการเช่ือม สิ่งที่
สําคัญที่สุด ผ้ปู ฏิบัตงิ านตอ้ งมคี วามคิดและทัศนคติในการปฏบิ ัติงานดัง่ คาํ ว่า ปลอดภยั ไวก้ ่อน

ความปลอดภัยในการปฏิบัติงานเชื่อม หมายถึง พฤติกรรมหรือสภาพการทํางานเช่ือมท่ีไม่มี
การเกิด อุบัติเหตุต่าง ๆ ที่อาจทําให้ส่วนหนึ่งของร่างกาย ชีวิต และทรัพย์สิน ได้รับอันตรายหรือ
สญู เสียจากอุบัตเิ หตุ

ปา้ ยส่ือความหมายคาวา่ ปลอดภยั ไว้ก่อน

หน่วยที่ 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเช่ือมและงานโลหะแผ่น

ความสาคญั ของความปลอดภัย ผูป้ ฏบิ ตั ิงานควรใหค้ วามสําคญั ดังตอ่ ไปน้ี

1. เพ่ือรกั ษาสว่ นใดส่วนหน่งึ ของรา่ งกาย ชีวิต และทรัพยส์ ินไวใ้ ห้ยาวนานท่สี ุด
2. เพอ่ื ไมใ่ ห้เปน็ การเสียเวลาปฏบิ ตั ิงานเชอื่ มและเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาร่างกายเน่ืองมาจาก
อบุ ตั เิ หตุ จนทาํ ให้ร่างกายพิการส่วนใดส่วนหนงึ่ หรอื อาจรา้ ยแรงถงึ กบั เสียชวี ติ ได้
3. เพื่อให้การปฏิบัติงานเชื่อมเป็นไปด้วยความสม่ําเสมอไม่ติดขัดจนไม่มีผลผลิตอย่างต่อเนื่อง
เพราะถ้ารา่ งกายไดร้ ับอบุ ตั เิ หตจุ ะเป็นผลทาํ ให้เกิดงานสะดุดได้
4. ทําให้ผู้ปฏิบัติงานเช่ือมมีกําลังใจในการทํางาน และสร้างผลงานที่ทําจนเป็นท่ีประทับใจของ
นายจา้ ง และเพอื่ นร่วมงานอยา่ งสมํ่าเสมอ

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเชอื่ มและงานโลหะแผน่

1.6.1 ความปลอดภยั ในงานเชื่อมด้วยลวดเชอ่ื มหุม้ ฟลักซ์
การปฏิบัติงานเช่ือมด้วยลวดเช่ือมหุ้มฟลักซ์มีสาเหตุที่ทําให้เกิดความไม่ปลอดภัยท้ังผู้

ปฏิบัตงิ านและผูท้ ีอ่ ยู่ใกล้เคียง สาเหตุสาํ คญั ทท่ี าํ ให้เกิดความไมป่ ลอดภยั มดี งั ตอ่ ไปน้ี
1. ควันเชื่อม ขณะเชื่อมจะเกิดความร้อนกลายเป็นประกายไฟฟ้า (Arc Welding) จนทํา

ให้ ลวดเชื่อมหลอมละลายเผาไหม้น้ํายาประสาน (Flux) ทําให้เกิดควันเช่ือม ด้วยสาเหตุที่
ส่วนผสมของนํ้ายา ประสาน ประกอบด้วย สารไทเทเนียม แคลเซียมฟลูออไรด์ ผงไม้ ผงโลหะ
ดนิ เหนยี ว และกาว ซึ่งเป็น สารพษิ เปน็ อันตรายต่อร่างกายและทําให้บริเวณที่ปฏิบัติงานเชื่อมมี
ออกซเิ จนนอ้ ยลง

หนว่ ยที่ 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชอื่ มและงานโลหะแผ่น

2. กระแสไฟฟ้า ในกรณีเครื่องเชื่อมชํารุด บริเวณพ้ืนท่ีปฏิบัติงานเช่ือมหรือตัวของผู้ปฏิบัติ
งานมคี วามเปยี กชน้ื ขณะปฏิบตั ิงานเชอ่ื มมีโอกาสทจี่ ะถกู กระแสไฟฟ้าไหลผา่ นร่างกายได้ง่าย
3. รังสีเชื่อม ขณะช่างเชื่อมโลหะปฏิบัติงานเช่ือมด้วยลวดเชื่อมหุ้มฟลักซ์ จะเกิดรังสีท่ีเป็น
อันตรายแบ่งได้ 3 ชนดิ มดี ังตอ่ ไปน้ี

(1) รังสีอัลตราไวโอเลต (Ultraviolet Rays) รังสีชนิดนี้มีความเข้มข้นสูงจะทําให้
เนื้อเยื่อ ของร่างกาย และดวงตาไหม้อย่างรวดเร็วและทําให้เกิดมะเร็งผิวหนังดังน้ันช่างเชื่อม
ต้องสวมอุปกรณ์ปอ้ งกนั ใบหนา้ และรา่ งกาย

(2) รังสีอินฟราเรด (Infrared Rays) รังสีชนิดน้ีจะทําให้ตาเป็นต้อกระจกหรือเป็น
อันตราย ต่อเย่ือตาได้ สําหรับรังสีอินฟราเรดนี้มีอันตรายร้ายแรงท่ีสุดเม่ือเปรียบเทียบกับรังสี
ชนดิ อื่นที่เกิดจากการ เชือ่ มและการตดั โลหะ

(3) แสงรังสีท่ีมองเห็นด้วยตา (Visible Light Rays) แสงรังสีชนิดน้ีขณะเช่ือมด้วย
ลวดเช่ือม หุ้มฟลักซ์ เมื่อเกิดการอาร์ก ไม่ได้ป้องกันดวงตาจะทําให้ตาพร่ามัวและมองไม่เห็น
ชั่วขณะหนง่ึ ทําให้เกิด อนั ตรายต่อสุขภาพตาได้

หนว่ ยท่ี 1 หลักการและความปลอดภยั งานเช่ือมและงานโลหะแผน่

ขอควรปฏิบัติในงานเชื่อมด้วยลวดเชื่อมห้มฟลักซ์ (Safety in Electric Welding) เป็นข้อ
ปฏบิ ัตทิ ่จี ะกอ่ ให้เกิดความปลอดภัยตอ่ ผู้ปฏิบตั ิงานเช่อื ม มีขอ้ ปฏบิ ตั ดิ ังตอน

1. การปฏิบัตกิ อ่ นทาการเชอ่ื ม
(1) ตรวจสอบเคร่ืองเชื่อม ฉนวนไฟฟ้า และอุปกรณ์การเชื่อมต่าง ๆ ให้ม่ันใจว่าไม่มี

สิ่ง ผิดปกติแต่อย่างใดในการตรวจสอบฉนวนห้มสายไฟฟ้า ควรตรวจสอบการชํารุดของเครื่อง
เชื่อมและอุปกรณ์ งานเช่ือม หากมีสิ่งผิดปกติควรจัดการเปล่ียนหรือซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพท
พร้อม ปลอดภยั

(2) จัดทําห้องปฏิบัติงานเชื่อมไว้โดยเฉพาะ เพื่อไม่ให้เป็นการรบกวนการปฏิบัติงาน
ของ บุคคลรอบด้าน โดยไม่ควรทําห้องให้ปิดมิดชิดทุกด้าน เพราะทําให้การระบายอากาศไม่
สะดวกและแต่ละห้อง ควรทาํ ท่ีดดู ควนั เชือ่ มใหเ้ หมาะสม

หน่วยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเช่อื มและงานโลหะแผ่น

(3) สวมหน้ากากป้องกันแสงหรือแว่นตากรองแสง (Filter Lens) ให้เหมาะสมกับความ
เขม้ ของแสง รวมทั้งสวมถงุ มือ ปลอกแขน หรือเสื้อหนังใหร้ ดั กุม

สวมอุปกรณ์ป้องกนั ความเข้มของแสง

หน่วยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเช่ือมและงานโลหะแผน่

(4) บรเิ วณทจ่ี ะทาํ การเชือ่ ม ไมค่ วรปฏบิ ตั ิงานเชือ่ มในทีเ่ ปียกช้นื หรอื ทาํ การเช่ือมบนพนื้ ที่
เปยี กนองไปดว้ ยน้ํา เพราะกระแสไฟฟา้ อาจลดั วงจร และไม่ควรปฏิบตั ิงานเชือ่ มใกล้กบั วัสดุ
ไวไฟ เชน่ กระดาษ นํา้ มันเช้ือเพลิง เปน็ ตน้

พ้นื ที่ปฏบิ ัตงิ านเชอ่ื มโลหะที่เหมาะสม

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเช่ือมและงานโลหะแผ่น

2. การปฏิบัติขณะทาการเช่ือม
(1) ขณะปฏิบัติงานอย่ามองแสงท่ีเกิดข้ึนจากการเชื่อมด้วยตาเปล่า เพราะแสงท่ีมีความ

สวา่ งมากเกนิ จะสง่ ผลใหเ้ กดิ อันตรายตอ่ ดวงตาได้
(2) ขณะปฏิบตั ิงานเชอื่ มไม่ควรใสเ่ ครอื่ งประดบั เช่น นาฬกิ า แหวน หรอื อปุ กรณ์งานเชื่อม

ไว้ตามรา่ งกาย และควรนาํ ขากางเกงคลมุ รองเทา้ เพราะสะเก็ดไฟเชื่อมกระเดน็ เขา้ รองเทา้ ได้
(3) ต้องจับยึดสายดิน (Clamp) ที่เครื่องเชื่อมให้แน่น เพ่ือป้องกันการหลุดหรือขยับขณะ

ทที่ าํ การเชือ่ ม ซึ่งจะทําให้กระแสไฟเชื่อมติดขัดส่งผลใหช้ ้นิ งานเกิดขอ้ บกพรอ่ งได้
(4) ถ้าต้องเช่ือมในท่าเหนือศีรษะ (Overhead) ควรสวมหมวกนิรภัย เพ่ือป้องกัน ความ

รอ้ น ซง่ึ อาจมสี ะเกด็ ไฟเชอ่ื มกระเดน็ ใส่ศรี ษะได้ หรือเป็นอันตรายต่อส่งิ อื่นรอบดา้ น
(5) พยายามอย่าทําการซ่อมเครื่องเชื่อมขณะปฏิบัติงานเชื่อม เพราะอาจถูกไฟฟ้าลัดวงจร

ทําให้ได้รับอันตรายต่อร่างกาย และอาจถงึ กับเสยี ชวี ิตได้
(6) ช่วงการปฏิบัติงานเช่ือมด้วยลวดเช่ือมหุ้มฟลักซ์ในสถานที่สูงบนโครงหลังคาโรงงาน

หรือหลังคาอาคารสูงตอ้ งคาดเข็มขัดนริ ภยั (Safety Belt) ด้วยทุกครัง้

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

(7) เม่ือลวดเชื่อมหมด และต้องการเปลี่ยนลวดเช่ือมอันใหม่ ไม่ควรใช้มือเปล่าจับ ลวด
เชือ่ ม ต้องสวมถงุ มือจบั ลวดเช่ือม เพือ่ ปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ กิดกระแสไฟเช่อื มลัดวงจร

(8) การปฏิบัติงานเชื่อมในพ้ืนที่จํากัด เช่น ในบ่อ ถึง ท่อขนาดใหญ่ เป็นต้น ต้องทําให้
อากาศถา่ ยเทไดต้ ลอดเวลา และควรเป็นอากาศจากบรรยากาศปกติ ห้ามใช้ออกซเิ จนบรสิ ุทธิ์

(9) เครื่องเชื่อมท่ีต่อสายไฟฟ้าเส้นเมนหลัก (Main) เข้าเครื่องมือต้องต่อสายดิน (Earth
Lead) เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้าลดั วงจร เม่ือร่างกายกระทบกบั เคร่อื งเชื่อมไฟฟ้า

(10) ขณะที่ทําการเช่ือมไม่ควรพักหัวเช่ือมไว้ท่ีร่างกาย เช่น รักแร้หรือขา เพราะบริเวณ
ดงั กลา่ วเปน็ จดุ อับชนื้ มีโอกาสที่กระแสไฟเชอื่ มจะทําให้เกดิ อนั ตรายตอ่ รา่ งกาย

(11) ขณะปฏิบัติงานภายในทอ่ ที่เป็นโลหะ ควรมชี ่างเชอื่ มคนอ่นื (Partner) รวมปฏิบัติงาน
ดว้ ย เมือ่ มปี ัญหาเก่ยี วกับการเช่ือมจะไดช้ ่วยเหลือได้ทนั ที

หน่วยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเช่ือมและงานโลหะแผ่น

3. การปฏิบตั ิหลังทาการเชอ่ื ม
(1) ปิดเครื่องเชื่อมทุกคร้ังเมื่อปฏิบัติงานเช่ือมเสร็จส้ินหรือขณะทําการเคลื่อนย้าย เคร่ือง

เชอื่ มไปยังบริเวณอ่นื
(2) นําลวดเชื่อมออกจากหัวเช่ือมที่จับลวดเชื่อม (Electrode Holder) โดยนําไปวางไว้ให้

หา่ งจากสายดิน เพราะชว่ งเปิดเครื่องเช่ือมครัง้ ต่อไปจะทาํ ให้เกดิ การอารก์ กอ่ นได้
(3) หลังจากปฏิบัติงานเช่ือมด้วยลวดเช่ือมหุ้มฟลักซ์เสร็จสิ้น ช้ินงานท่ีทําการเชื่อมยังมี

ความร้อน กอ่ นทาํ การหยิบชิ้นงานหรือเคล่ือนยา้ ยจากที่เดมิ ควรปฏิบัติด้วยความระมดั ระวัง

หนว่ ยที่ 1 หลักการและความปลอดภยั งานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

1.6.2 ความปลอดภัยในงานเช่อื มแก๊สออกซิอะเซทลิ นี
อันตรายที่เกิดจากสาเหตุการใช้แก๊สส่วนมาก จะเกิดจากการใช้อุปกรณ์การเช่ือมแก๊ส ออกซิ
อะเซทิลีนที่ชํารุด หรือการประกอบติดตั้งชุดอุปกรณ์งานเช่ือมแก๊สไม่ถูกวิธี ตลอดจนวิธีการใช้
แก๊ส ไม่ถกู ตอ้ งกจ็ ะกอ่ ใหเ้ กดิ อนั ตรายตอ่ ผู้ใช้และบคุ คลอนื่ ท่อี ยู่บริเวณใกลเ้ คยี งได้
การปฏิบัติงานเช่ือมแก๊สออกซิอะเซทิลีนเป็นการหลอมละลาย (Fusion Welding) ได้ดี อีกชนิด
หน่ึง แก๊สท่ีนิยมใช้มี 2 ชนิด คือ แก๊สออกซิเจน (Oxygen) เป็นแก๊สธรรมชาติ (Natural Gas)
และ แก๊สอะเซทิลีน (Acetylene) การเชื่อมแก๊สให้ความร้อนเกิดจากปฏิกิริยาเคมีสันดาป
(Combustion) จนเกิด เปลวไฟท่ีมี ความร้อนโดยเฉล่ียประมาณ 3,250 องศาเซลเซียส จาก
ปฏกิ ริ ยิ าดงั กล่าวทจ่ี ะกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตราย มดี ังตอ่ ไปนี้

หนว่ ยท่ี 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผ่น

1. การปฏิบัติงานเช่ือมแก๊สออกซิอะเซทิลีนจะเกิดความร้อนขึ้นในช้ินงาน และมีประกาย
ไฟ ปะทุขนึ้ รวมท้ังแสงสว่างจากการหลอมละลาย (Fusion Welding)

2. เมื่อมีปฏิกริ ิยาการเผาไหม้ จะเกิดแกส๊ คารบ์ อนไดออกไซด์ออกมา และถ้ามีปริมาณมาก
เกินไปอาจทําให้ผทู้ ี่กําลังปฏิบัติงานเชอ่ื มขาดอากาศบริสุทธ์ิหายใจ เปน็ อันตรายต่อสุขภาพได้

3. เมื่อมีการชํารุดของชุดอุปกรณ์เชื่อมแก๊สทําให้แก๊สรั่ว เช่น สายนําแก๊ส ข้อต่อ ถังบรรจุ
แกส๊ หรอื อปุ กรณก์ ารเช่อื มเกดิ ประกายไฟในบรเิ วณทแ่ี กส๊ ร่วั จะทําให้เกิดการระเบดิ ของแก๊สได้

ข้อควรปฏิบัติการเชอ่ื มแก๊สออกซิอะเซทลิ ีน (Safety in Gas Welding) ข้อปฏิบัติต่าง ๆ
ใน การเชือ่ มเพือ่ ให้เกิดความปลอดภยั ท่ีควรปฏบิ ัติ มดี งั ตอ่ ไปนี้

1. การปฏบิ ตั ิกอ่ นทาการเชือ่ มแก๊สออกซอิ ะเซทลิ ีน
(1) ก่อนลงมอื ปฏบิ ตั งิ านเชื่อมแกส๊ ออกซอิ ะเซทลิ ีน ตอ้ งสงั เกตพื้นทีบ่ รเิ วณโดยรอบกอ่ น

ทุกคร้งั วา่ มอี ปุ กรณ์อ่นื เช่น กระปอ๋ งสี ถังบรรจนุ ํา้ มนั เชื้อเพลิงทาํ ให้ติดไฟได้ง่าย หรอื ไม่ หากมี
ให้ยา้ ยอปุ กรณ์ ดังกล่าวออกจากพื้นที่ปฏบิ ตั งิ าน

หน่วยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภยั งานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

(2) ภายในพื้นท่ีปฏิบัติการเช่ือมต้องมีอุปกรณ์และวัตถุดิบต่อไปนี้ ห้องเก็บถังบรรจุแก๊ส พร้อม
อปุ กรณ์ดบั เพลงิ ซึง่ ควรตดิ ตั้งไวใ้ นระดับที่พร้อมหยบิ ใช้ได้ตลอดเวลา

(3) ผนังด้านที่ติดต้ังอุปกรณ์ดับเพลิง ต้องทําท่ีสังเกตให้มองเห็นชัดเจน เช่น ทาด้วยสีแดง หรือทํา
กลอ่ งเกบ็ อปุ กรณด์ ับเพลิงไวใ้ หส้ งั เกตได้ง่าย และควรมปี า้ ยอธิบายวิธกี ารใช้อุปกรณ์ดับเพลิงไว้พร้อม ท่ีจะ
ใช้งานได้ทันที

(4) ก่อนนําชุดอุปกรณ์เช่ือมแก๊สมาใช้ ต้องตรวจและทดสอบว่าอยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน ได้หรือไม่
หากชํารดุ หรือไม่พร้อมใชง้ านควรซอ่ มแซมให้มีสภาพสมบูรณ์ก่อนการใช้งาน

(5) ก่อนลงมือปฏิบัติการเชื่อม ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมต้องตรวจสอบสายแก๊สให้อ ที่ใช้งานได้ดี และถ้า
สภาพของสายแก๊สมีแกส๊ รัว่ อาจทําให้เกิดการลกุ ไหม้ได้

(6) ผู้ปฏิบัติงานเชื่อมไม่ควรนําประแจเลื่อนหรือคืมเปิดวาล์วท่อแก๊สอะเชิง ประแจเฉพาะถังแก๊ส
เพราะถ้าใช้ผิดประเภทถงั บรรจแุ กส๊ อาจเกิดการชาํ รดุ ได้

หนว่ ยท่ี 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

(7) อย่าใชไ้ มข้ ดี ไฟจุดเปลวไฟเพราะเมือ่ เกิดเปลวไฟขน้ึ อาจไหมม้ ือได้
(8) อย่าจดุ เปลวไฟจากโลหะทร่ี อ้ น หรอื ใช้ความรอ้ นจากชิน้ งานเชือ่ มจดุ ไฟเชอ่ื ม
(9) อยา่ วางหวั เช่ือมแกส๊ ทกี่ าํ ลังติดเปลวไฟ ในขณะท่ีผูป้ ฏิบัติงานไปทํางานพืน้ ทอ่ี ื่น
(10) อย่าปฏิบัติงานเช่ือมภาชนะโลหะที่ปิดฝาหรือไม่มีช่องระบายอากาศ เพราะอากาศ
หรือแกส๊ ภายในจะขยายตัว ทาํ ให้เกดิ การระเบิดได้
(11) ไม่เข้าไปปฏบิ ตั ิงานเชอ่ื มแกส๊ ออกซิอะเซทลิ นี ในทอ่ พ้นื ทค่ี ับแคบ เพราะอาจทําให้เกิด
อบุ ตั เิ หตุไฟลุกไหม้ ไม่สามารถออกจากพน้ื ทีไ่ ด้ทนั และเกิดอันตรายตอ่ ร่างกาย
(12) ใส่แว่นตากรองแสง (Filter Lens) ขณะปฏิบัติงานเชื่อมแก๊ส และไม่ควรนําสายแก๊ส
พาดบริเวณหวั ไหล่ เพราะถา้ แก๊สรั่วซมึ หากเกดิ ประกายไฟอาจถูกไฟไหม้ได้
(13) เปิดลนิ้ วาล์วทอ่ บรรจุแกส๊ อะเซทลิ นี ไว้ประมาณ 1-2 รอบ เพือ่ ทําการปิดล้ินวาล์ว ท่อ
บรรจุแก๊สอะเซทลิ ีนในช่วงเวลาเกดิ อุบัตเิ หตุได้ทนั เวลา

หน่วยที่ 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชอ่ื มและงานโลหะแผ่น

3. การปฏบิ ัติหลงั ทาการเชอ่ื มแก๊สออกซอิ ะเซทลิ ีน
(1) อยา่ นาํ ท่อบรรจแุ กส๊ อะเซทิลนี ไปใช้โดยไม่มีมาตรวัดความดัน และต้องตรวจสอบ ความดัน

ภายในทอ่ บรรจแุ กส๊ ก่อนนาํ มาใช้งาน
(2) การเก็บรักษาท่อบรรจุแก๊สและการใช้งานต้องมีระยะห่างจากสารที่ติดไฟง่ายไม่น้อย กว่า

25 ฟตุ หรอื 7.5 เมตร หรอื มากกว่าเพือ่ ความปลอดภัยในการปฏิบตั ิงาน
(3) การเก็บรักษาท่อแก๊สอะเซทิลีน และท่อบรรจุแก๊สออกซิเจน ต้องแยกชนิดของท่อบรรจุ

แก๊สออกจากกนั โดยมผี นงั กนั้ กลางและมีความสูงอยา่ งน้อย 5 ฟุต หรอื 1.5 เมตร
(4) การเคลือ่ นยา้ ยทอ่ บรรจุแกส๊ ตอ้ งสวมฝาครอบป้องกันวาล์วไวต้ ลอดเวลา เพื่อป้องกัน ไม่ให้

วาล์วถูกกระแทกชํารดุ เสยี หาย เมอ่ื ตอ้ งเคลื่อนย้ายไปในระยะทางไกล
(5) การเก็บรักษาท่อบรรจุแก๊สหรือก่อนการปฏิบัติงานเช่ือมแก๊ส ต้องใช้โซ่คล้องยึดติดไว้ กับ

ผนังหรือชุดบรรทุกเคลื่อนที่ เพ่อื ไมใ่ หท้ ่อล้มลงกอ่ ใหเ้ กิดอบุ ตั เิ หตุขน้ึ ได้
(6) ทราบและศึกษาสารดับเพลิงที่ใช้ เพ่ือนํามาประยุกต์การใช้งานให้ตรงกับการป้องกัน ไฟ

เชน่ นา้ํ แกส๊ ไนโตรเจน แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ สารประกอบฮาโลจเิ นตเตตกับไฮโดรคาร์บอน โฟม
และการใช้ของแข็งในการดับเพลงิ

หนว่ ยที่ 1 หลักการและความปลอดภัยงานเชื่อมและงานโลหะแผน่

1.7 ความปลอดภยั ในงานโลหะแผน่
งานโลหะแผ่นเปน็ ลักษณะงานอกี ชนดิ หนง่ึ ที่ขณะปฏบิ ัติงานมโี อกาสเกดิ อบุ ตั เิ หตุมาก เน่ืองจาก
ต้อง ปฏิบตั ิงานกบั วัตถมุ คี มตลอดเวลา เช่น แผ่นโลหะบาง กรรไกร เหล็กขีด วงเวียน เคร่ืองตัด
โลหะแผ่น เปน็ ตน้

1.7.1 ชนดิ ของอุบตั ิเหตทุ เ่ี กดิ ในงานโลหะแผ่น
1. อันตรายจากการถูกสงั กะสบี าดมือ เนื่องจากผู้ปฏิบัติงานไม่ได้สวมถุงมือในการจับแผ่นโลหะ
งานหรือทํางานอยา่ งเรง่ รีบ และไมร่ ะมดั ระวงั ชว่ งขณะปฏบิ ตั งิ าน
2. อนั ตรายจากการถูกกรรไกร เคร่ืองมว้ น หรอื เคร่อื งข้นึ รปู งานโลหะแผ่นหนบี มือ
3. อันตรายจากการโดนนาํ้ กรดบดั กรีกระเดน็ เขา้ ตา
4. อนั ตรายจากการได้รับควันพษิ ของตะกั่วบดั กรี
5. อันตรายจากความร้อนของหวั แร้งบดั กรี

หนว่ ยท่ี 1 หลักการและความปลอดภัยงานเช่ือมและงานโลหะแผน่

1.7.2 ข้อปฏิบตั ิความปลอดภยั งานโลหะแผ่น
ผู้ปฏิบัติงานโลหะแผ่นควรศึกษาข้ันตอนการปฏิบัติงานด้านงานโลหะแผ่นอย่างรอบคอบ โดย
การปฏบิ ัตงิ านเพือ่ ความปลอดภยั งานโลหะแผน่ มดี งั ต่อไปน้ี
1. การเคล่ือนย้ายโลหะแผ่นที่มีลักษณะบางต้องสวมถุงมือทุกครั้ง เพราะขอบของโลหะแผ่น มี
ความคมอาจบาดมอื ได้
2. การเคลอ่ื นย้ายโลหะแผ่นต้องยกในแนวต้ัง เพราะถ้ายกในแนวนอนแผน่ โลหะจะอ่อนตัว โค้ง
ตกบริเวณส่วนกลางของแผ่น และต้องใช้พื้นที่ในการเคลื่อนย้ายกว้าง ทําให้การจับและการ
เคลื่อนยา้ ย ทําได้ยาก
3. ในการใช้เครือ่ งพับ ตอ้ งแน่ใจวา่ ไมม่ ีผอู้ ยู่ในรศั มีการเคลือ่ นไหวของเครอ่ื งจักร

หนว่ ยที่ 1 หลกั การและความปลอดภัยงานเชอ่ื มและงานโลหะแผน่

4. ไม่ใชก้ รรไกรมอื ตดั งานโลหะแผ่นทีม่ ีความหนามาก เพราะการใชแ้ รงกดอัดจากมือมาก
จะ ทาํ ให้กรรไกรชาํ รดุ และผู้ปฏิบตั ิงานเกิดอุบัติเหตุบรเิ วณมอื ได้

5. ไมน่ ําบรรทดั เหล็กใช้งัดอปุ กรณ์หรือวัสดอุ ืน่ เชน่ กระปอ๋ งสี เปน็ ต้น
6. ไม่ใช้เหลก็ ถา่ ยแบบแทนเหลก็ นําศนู ย์ เน่ืองจากอปุ กรณท์ ั้งสองชนดิ ออกแบบมาเพ่ือการ
ใช้ งานใหต้ รงกับวตั ถุประสงค์การใช้งาน
7. ไมใ่ ช้กรรไกรตดั โลหะแผน่ นาํ ไปตดั เสน้ ลวดหรอื แผ่นโลหะทีม่ ีความแขง็ และหนาเกินไป
เพราะคมของกรรไกรเกดิ การชํารุดได้ง่าย
8. อย่าใช้กรรไกรตัดโลหะแผน่ เคาะหรอื ตีแผ่นโลหะขณะตดั จนเกิดรอยเยนิ ใหใ้ ช้คอ้ น ตรง
ตามชนดิ ของการใชง้ าน เพื่อลดการชาํ รุดของเคร่ืองมือ
9. เหล็กขดี ไม่ควรนาํ มาเจยี ระไนเพราะความแขง็ ท่ีชบุ ไวจ้ ะเสือ่ มสภาพความแข็ง ควรลับ
ให้ได้ มมุ เดิมดว้ ยแทง่ หนิ ลบั คมมดี

แบบฝกึ หัดหน่วยท่ี 1

1. งานเชอ่ื มมีประวตั แิ ละววิ ัฒนาการอยา่ งไร อธบิ ายมาพอเข้าใจ
2. การเชื่อมโลหะเบอ้ื งต้นมหี ลกั การอยา่ งไร
3. กระบวนการเช่อื มด้วยลวดเช่ือมหมุ้ ฟลก๊ั ซ์มหี ลักการทาํ งานอย่างไร
4. กระบวนการเช่อื มแก๊สออกซอิ ะเซทิลนี มหี ลกั การทาํ งานอย่างไร
5. ขอ้ ดกี ารนําไปใชง้ านของการเชอ่ื มแกส๊ ออกซิอะเซทลิ นี มีอะไร
6. ความปลอดภัยในงงานเช่อื มด้วยลวดเชอื่ มหุ้มฟลัก๊ ซม์ อี ะไรบ้าง ยกตวั อย่างมาอยา่ งน้อย 5 ข้อ
7. ความปลอดภัยในงานเช่อื มแก๊สออกซอะเซทิลนี มีอะไรบา้ ง ยกตวั อยา่ งมาอยา่ งน้อย 5 ขอ้
8. งานโลหะแผ่นมีหลักการอย่างไร
9. ความปลิดภยั ในโลหะแผน่ มีอะไรบา้ ง ยกตัวอย่างมาอย่างน้อย 5 ขอ้
10. โลหะแผน่ ท่วั ไปแบง่ ออกไดก้ ่ชี นดิ มอี ะไรบา้ ง

ทังสเตนอิเล็กโทรด สลิปนอก
หัวฉดี แก๊สปกคลมุ

ลวดเชื่อมเติม
บ่อหลอมละลาย
ชน้ิ งานเชื่อม

อปุ กรณ์ปรบั ความดัน หวั เชื่อมแก๊ส
แก๊สอะเซทลิ นี หวั ทิพ

อุปกรณ์ปรบั ความดัน สายเช่อื มแกส๊
แก๊สออกซเิ จน อะเซทลิ นี

ทอ่ อะเซทลิ ีน สายเช่อื มแก๊ส
ท่อออกซเิ จน ออกซิเจน



กระแสไฟข้วั บวก (+) กระแสไฟขวั้ ลบ (-) กระแสไฟขว้ั บวก (+)

แทง่ สังกะสี น้ายา ชิน้ งานท่ีเคลอื บผิว
สารเคมี แทง่ สงั กะสี
ภาชนะใส่
น้ายาสารเคมี


Click to View FlipBook Version