The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by alfurqan.fq22, 2019-12-12 10:18:27

หนังสืออนุสรณ์ โรงเรียนอัลฟุรกอนศึกษา รุ่นที่ 22

หนังสือรุ่น

Keywords: Best then better now

- จ า ก ส่ิ ง ท่ี ดี ไ ป สู่ ส่ิ ง ที่ ดี ก ว่ า -

‫بسم الله الرحمن الرحيم‬
มนุษย์ทุกคนย่อมอยากให้ตัวเองได้ในสิ่งที่ดีกันทั้งนั้น เม่ือได้ดีแล้ว
ก็อยากท่ีจะให้ดีขึ้นไปอีก นั่นคือ ธรรมชาติของมนุษย์ค่ะ ไม่ยอมหยุดท่ีดีแต่
ตามหาส่ิงท่ีดีกว่า ไม่ใช่ในเรื่องของความไม่พอนะคะ แต่มันเป็นเรื่องของ
ความพยายามค่ะ พยามท่ีจะเปล่ียนแปลงตัวเองในทุกๆด้าน ค่อย ๆ ปรับ
ค่อยๆเปล่ียนไปเร่ือย ๆ หากเราเป็นคนที่มีความมุ่งมั่น ทุ่มเท ท�ำส่ิงใดสิ่ง
หนึ่ง เมื่อพบปัญหา เราจะย้ิมรับ ทุ่มแรงพลังเพ่ือแก้ไข เพราะเรารู้ดีว่า เม่ือ
ผ่านไปได้ เราจะพบสิ่งที่ดีกว่าเดิม ย่ิงบทเรียนยากข้ึนเท่าไหร่ เราก็จะย่ิง
เก่งขึ้นเท่านั้น นอกจากน้ัน เราจะได้พบตัวเราเองในเวอร์ช่ันท่ีดีขึ้นอีกด้วย
พวกเราท้ัง 36 คนล้วนมาจากครอบครัวท่ีอบอุ่น ดูแลเอาใจใส่เรา
เป็นอย่างดี และพวกท่านก็ไว้วางใจส่งต่อให้โรงเรียนอัลฟุรกอนแห่งนี้ดูแล
เราแทนท่าน เพ่ือให้เราได้รับส่ิงท่ีดี ๆ ต่อไป โรงเรียนท่ีมีกฎระเบียบเอาจริง
เอาจัง การเรียนการสอนท่ีเข้มข้น และยังครอบคลุมไปถึงการอบรมจรรยา
มารยาท และการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นอีกด้วย
เราไม่ได้บอกว่าท่ีนี่ดีท่ีสุด แต่เราต้องการจะบอกว่า
ท่ีนี่ ... ให้สิ่งที่ดีแก่เราหลายๆอย่าง ที่ท่ีบ้านหรือที่อื่นให้เราไม่ได้
ที่น่ี ... อัลฟุรกอน สถานท่ี ที่ห้อมล้อมด้วยความเป็นอิสลาม อบอุ่น
ด้วยความเป็นพ่ีน้อง ซ่ึงมันค่อย ๆ ซึมซับในหัวใจ และผลักดันให้เราค่อย ๆ
เปลี่ยนแปลงไปสู่ส่ิงท่ีดีกว่า
ในไม่ช้า อินชาอัลลอฮ์ พวกเราทั้ง 36 คน ก็ต้องแยกย้ายกันไป เพ่ือ
ออกไปพบโลกแห่งความเป็นจริง และน�ำส่ิงที่พวกเราได้รับจากที่นี่ไปสาน
ต่อ และด�ำเนินชีวิตของตัวเองต่อไปบนเส้นทางของอิสลาม
ท่านผู้อ่านเคยสงสัยไหมคะว่า ท�ำไมในหนังสืออนุสรณ์ของอัลฟุรกอน

ทุกๆรุ่น ถึงมีแต่บทความท่ีค่อนข้างซ�้ำๆ ในเร่ืองเดิมๆ อย่างเช่น ความอดทน
ความส�ำเร็จ ความเปล่ียนแปลง ฯลฯ เราจะขออธิบายให้คุณผู้อ่านได้เข้าใจ
ว่า การผ่านระดับ 3 ซานาวีย์และการเรียนจบ คือ เป้าหมายสูงสุดของ
นักเรียนท่ีนี่ โดยพวกเราเองก็เคยคิดว่า ถ้าถึงวันของพวกเรา เราคงไม่เขียน
เรื่องพวกน้ีหรอก เพราะมีให้เห็นทุกปี แต่เมื่อวันน้ีมาถึง เรากลับอยากเขียน
ถ่ายทอดเรื่องราวเหล่าน้ันมากๆ ใครท่ีมาอยู่จุดเดียวกับพวกเรา จะเข้าใจ
ว่า ความรู้สึกแบบน้ีมันเกิดข้ึนจริงๆ nเหoมwือนหทรือี่เกิด‫ َن‬ก‫ั َس‬บ‫ح‬ร‫َุ่أ‬น‫ل‬พَ ِ‫่ีإ‬ท‫ٍุن‬ก‫َس‬ค‫َح‬นท‫ี่ ْن‬ผ‫่ ِم‬าในนมเลา่ม
ค�ำว่า Best then better
สื่อถึง “จากส่ิงที่ดี....สู่สิ่งที่ดีกว่า” ซึ่งก็คงไม่ต่างกับพวกเรา ที่จะต้องเดิน
ทางต่อไป ตามหาส่ิงท่ีดีและท�ำให้ดีกว่า เพื่อที่ ณ ปลายทาง เราจะได้พบ
ส่ิงที่ดีที่สุดรอเราอยู่


บรรณาธิการรุ่นท่ี 22

22/11/2562

สารบัญ

7 ส่ิงท่ีท่านร่อซูล g เป็นห่วง อ.มาลิก โยธาสมุทร

16 ชีวิตมีอะไรใหม่บ้าง

ในปีฮิจเราะฮ์ใหม่ 1441 อ.ยะห์ยา หมัดละ

18 ให้กลับ...ก็กลับ อ.นดา อีซา ฮะกีมี

21 มุสลิมกับการร�ำลึกถึงอัลลอฮ์ อ.อิหฺซาน มีพลกิจ
ً‫ ُم َق َّدما‬.. ‫َعلَي ُك املاأَلنَّخ ََجلا ُ ُقح‬ ‫ُم َبا َر ٌك‬
27 ‫َت ُمو ُت‬ َ อ.ชากิร อีซา
28 ‫ل‬ อ.นิสรีน อีซา

30 ขอ้ คดิ 4 ประการจากทา่ นรอ่ ซลู g อ.บัลยา มันตีเมาะ

32 ความประเสรฐิ ของซเู ราะฮอ์ ลั กะฮฟ์ ิ อ.อิสมาอีล สุขประเสริฐ

36 สัญญาของอัลลอฮ์ อ.อบูบักร อิสมาแอล

40 บทเรียนนอกห้องเรียน อ.ญะม้าล ไกรชิต

41 “ที่ ๆ ฉันจากมา” อ.ซอบรี นภากร

43 คนคิดบวก อ.รอบีอะฮ์ อิสมาแอล

47 แน่ใจหรือว่า...คุณท�ำไม่ได้

เปล่ียนแปลงไม่ได้

หรือคุณยังไม่อยากค้นหา

และไม่อยากท�ำ อ.ซอและห์ เยนา

51 ค�ำถามท่ีต้องการค�ำตอบ อ.รอนา ฮะกีมี

55 ‫ َأح َس ُن ا َلغيلَّ ُرح َُمظ َقا َّر ِتٍر‬ กุลวานีย์ มะลิวัลย์
58 ซัลมาน วันเอเลาะ
63 ‫ التَّغيِي ُر‬
‫ ال َم َرا ُم‬ อัสมา แสงสว่าง
67 ‫ ِإ َل الأَبَ ِد‬
69 ตัสนีม หวังมานะ

71 Love loop ชิฮาบุดดีน นรินทร
อามาน่ี เดชเลย์
75 Safe zone อัยนุน เสทะสิงห์
อินอาม พรรณพฤกษ์
79 pressure ฮาซูน่า บินมะหะหมัด
นาเดีย หะรีเมา
81 Waiting = รอ ฮนาอฺ อมะรึก
นิสรีน เพ็งโอ
84 Never try never know นัจวา โปรดปราน
อาลียา ไกรชิต
86 It’s the heart อับดุรเราะฮ์มาน มัสอูดี
ฟาตีมะฮ์ ไกรนุช
89 Autistic วีด๊าด อมะรึก
ซัลวา นิแอ
93 Refresh นาบีละฮ์ หร่ายมณี
อัสลัม ประทีปโชติ
95 The best นาบีลีน เลาะวิถี

98 Return on Investment

102 ใจความส�ำคัญ

106 ดวงจันทร์ในดวงใจ

109 บันทึก

113 กาล ละ เวลา

116 ยังไม่สายเกินไป

118 แด่นักเดินทาง

122 ไม่ว่าจะดีหรือร้าย ซอฟร่ี สืบนุช
125 ลาออก ไซนี่ ละไม
127 สาระดี อัฟด้อล สารดี
130 ข้ามผ่าน ฟุดลา หมัดรอด
134 จากคนใต้ปกครอง อันซาม ขุนทอง
137 เป็นเช่นเปลือกลูกอม นาซนีน ลักษณ์สุวิมล
141 ยุคใหม่ของกระต่ายกับเต่า กุนนัส เลาะวิถี
143 ให้หัวใจได้ทบทวน นูรีน เสมสายัณห์
146 เรือใกล้ถึงฝั่ง อาด้ิล ทะนานทอง
150 ถูกเหมาะ นัจญม่ี ถูกเหมาะ
153 ไม่ต้องรอ... ซักกีย์ ธารีสืบ
157 โรงเรียนชีวิต สุรอยยา เลาะฟอ
159 ความเหมาะสมที่เราไม่รู้ ไอรีน อุทธังชายา
162 ท้ายท่ีสุด มัรยัม ภักดีธรรม
165 คนส�ำคัญ รอเนีย ฮะกีมี
169 ส่ิงดี ๆ ท่ีปลายทาง

ส่ิงที่ท่านร่อซูล g เป็นห่วง

อ.มาลิก โยธาสมุทร

‫بسم الله الرحمن الرحيم‬

อัลลอฮ์  ทรงส่งท่านนบีมุฮัมมัด  มาเพื่อเป็นความเมตตา
กรุณาแก่โลกทั้งผอง เพื่อน�ำแนวทางอันถูกต้องเที่ยงตรง และศาสนาแห่ง
สัจธรรมมา เพ่ือปลดปล่อยผู้คนให้หลุดพ้นจากการหลงผิด สู่หนทางที่ถูก
ต้อง สว่างไสว น�ำสู่หนทางอันเท่ียงตรง ไม่มีการคดงอใดๆ ทั้งสิ้น เริ่มตั้งแต่
ให้ท่านร่อซูล  เรียกร้องเชิญชวนไปสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ (เตาว์ฮีด)
เพียงองค์เดียว ในการสร้าง การให้มีขึ้นมา การเคารพสักการะ (อิบาดะฮ์)
การให้ความส�ำคัญ ให้การเคารพยกย่อง (อัตตักด๊ีส) ต่อการตราบทบัญญัติ
ศาสนา (อัตตัชรี๊อ์) และการชี้น�ำสู่หนทางอันถูกต้องเท่ียงตรง (อัลฮิดายะฮ์)
ด้วยการเรียกร้องเชิญชวนไปสู่การศรัทธาต่อวะฮีย์ของอัลลอฮ์  และสู่
เส้นทางที่ท่านนบี  ได้น�ำมา เพื่อน�ำมวลมนุษยชาติไปสู่การศรัทธาต่อการ
ฟื้นคืนชีพ และการตอบแทนในโลกอาคิเราะฮ์ และน่ีคือองค์ประกอบที่
ส�ำคัญสามประการแรกแห่งศาสนา ณ อัลลอฮ์  ซึ่งหากคนเราศรัทธาเชื่อ
มั่น และน้อมรับ ก็จะท�ำให้เป็นผู้ท่ีมีสติปัญญาท่ีสะอาดบริสุทธ์ิ มีจิตส�ำนึก
ที่สะอาดบริสุทธ์ิ จะท�ำให้ห่างไกลจากโรคร้ายต่างๆ ท�ำให้มีชีวิตที่สุขสงบ
และปลอดภัย ดังด�ำรัสของอัลลอฮ์  ที่ว่า
‫َط ّيِ َب ٗة‬ ‫ن فَلَ ُن ۡحيِ َي َّن ُهۥ َح َي ٰو ٗة‬ٞ ‫ُم ۡؤ ِم‬ ‫أَ ۡو أُن َ ٰث َو ُه َو‬ ‫َع ِم َ َول َلَ َ ۡصٰجلِِز َيٗحَّنا ُه ّۡمِم أَن ۡجَذ َر َك ُه ٍرم‬
ۖ ﴾٩٧ ‫َكنُواْ َي ۡع َملُو َن‬ ‫بِأَ ۡح َس ِن َما‬ ‫﴿ َم ۡن‬

7

“ผู้ใดก็ตามที่กระทำ�ความดีตรงตามบทบัญญัติของศาสนา ไม่ว่า
จะเป็นชาย หรือหญิงก็ตาม โดยที่เขาเป็นผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) ต่ออัลลอฮ์
เรา (อัลลอฮ์) ก็จะให้เขามีชีวิตเป็นอยู่ที่ดี ด้วยการพึงพอใจในกฎกำ�หนด
(กอฎอ – กอดัร) ของอัลลอฮ์ ตามที่เขาได้รับ ด้วยการเชื่อฟังปฏิบัติ
ตามพระองค์ แน่นอนเรา (อัลลอฮ์) จะตอบแทนรางวัลให้แก่พวกเขา
ในโลกอาคิเราะฮ์ ให้ดียิ่งกว่าความดีที่เขาเคยทำ�ไว้ในโลกดุนยาเสียอีก”

(อันนะฮ์ลฺ 16 : 97)

ท่านร่อซูล  ได้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่อัลลอฮ์ด้วยความปรีชาญาณ
(ฮิกมะฮ์) และการแนะน�ำสั่งสอน ตักเตือนท่ีดี (เมาว์อิเซาะฮ์ ฮะซะนะฮ์) ด้วย
หลักฐาน และเหตุผลเพื่อช้ีให้เห็นเดชานุภาพของอัลลอฮ์ที่มีต่อชีวิตจิตใจ
และสภาพการณ์ต่างๆ ของมนุษย์ เพราะในทุกสิ่งนั้นมีสัญญาณท่ีบ่งช้ีว่า
แท้จริง อัลลอฮ์นั้นทรงมีองค์เดียว
ท่านร่อซูล  เป็นแบบอย่างอันสูงส่งในความสุขุมคัมภีรภาพ ใน
การให้อภัย ในความใจกว้าง เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ความนุ่มนวล อดกล้ันอดทน
ต่อภัยอันตรายต่างๆ ท่ีมาประสบกับท่าน แต่ทว่าท่านนบี  จะไม่ใจกว้าง
หรือผ่อนปรนให้ในเรื่องหลักการศาสนา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเร่ืองหลักการ
เช่ือมั่น (อะกีดะฮ์) แต่อย่างใด !
ท่านร่อซูล  เรียกร้องเชิญชวนไปสู่การเตาว์ฮีด ที่บริสุทธ์ิ ปราศจาก
มลทินแห่งการตั้งภาคี (ชิริก) การสักการะบูชาเจว็ดรูปปั้น ปราศจากสื่อกลาง
ใดๆ ระหว่างผู้เป็นบ่าวกับพระเจ้าของเขาดังด�ำรัสของ อัลลอฮ์ ตะอาลา ท่ีว่า
‫َ ِشي َك‬ َ ﴾‫ي َن‬١‫م‬٦ِ ٣َ‫َوَوَأ َنَماَ۠ماأَ َِّوتُل ِ َّٱللِۡ ُم َر ۡسِّلبِ ِمٱ ۡلي ََنعٰل‬ ‫َو َنو ُبُِسَذٰلِِكَك َوأُ َ ِمۡم َۡيرا ُتَي‬ ‫َص َل ِت‬ ‫إِ َّن‬ ‫﴿قُ ۡل‬
‫ل‬ ١٦٢ ‫َ ُلۖۥ‬

“(มุฮัมมัด) จงกล่าว(แก่บรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธา)เถิดว่า แท้จริง

8

การละหมาดของฉัน การเชือดของฉัน การมีชีวิตอยู่ของฉัน และการ
ตายของฉัน ทั้งหมดนี้เพื่ออัลลอฮ์ พระเจ้าแห่งสากลโลก และเช่นนี้
แหละ ที่อัลลอฮ์ทรงมีบัญชาใช้แก่ฉัน (มุฮัมมัด) และฉันนั้นเป็นคนแรก
จากประชาชาตินี้ ที่เป็นผู้นอบน้อมยอมจำ�นนต่อพระองค์ (มุสลิมีน)”

(อัลอันอาม 6 : 162-163)
อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า

ۖ‫﴿ِإَو َذا َس َألَ َك ِع َبادِي َع ِّن َفإِ ِّن قَ ِري ٌبۖ أُ ِجي ُب َد ۡع َو َة ٱل َّدا ِع إِ َذا َد َع ِن‬
﴾١٨٦ ‫َف ۡل َي ۡس َت ِجي ُبواْ ِل َو ۡ ُل ۡؤ ِم ُنواْ ِب َل َع َّل ُه ۡم يَ ۡر ُش ُدو َن‬

“(โอ้ ผู้เป็นนบี) เมื่อบ่าวของข้าถามเจ้าถึงข้า (อัลลอฮ์) ก็จงตอบ
เขาเถิดว่า แท้จริง ข้านั้น อยู่ใกล้ ข้าจะตอบรับคำ�วิงวอนของผู้ที่วิงวอน
ขอ เมื่อเขาวิงวอนขอต่อข้า ดังนั้น พวกเขาจงตอบรับคำ�บัญชาของข้า
เถิด และจงศรัทธา (อีมานต่อข้าอย่างแท้จริง) เพื่อว่าพวกเขาจักได้อยู่
ในหนทางที่ถูกต้องเที่ยงตรง (ทั้งในเรื่องศาสนา และโลกนี้ของพวกเขา)”

(อัลบะเกาะเราะฮ์ 2 : 186)
อัลลอฮ์  ทรงมีบัญชาให้เรียกร้องเชิญชวนไปสู่การให้เอกภาพ
ต่อพระองค์ และการเคารพสักการะอิบาดะฮ์ต่อพระองค์เพียงองค์เดียว ไม่
ต้ังส่ิงใดเป็นภาคีร่วมกับพระองค์ ดังนั้น ท่านร่อซูลุลลอฮ์  จึงเรียกร้อง
เชิญชวนไปสู่การให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ท่ีสัตย์จริงที่สุด และเหมาะสมท่ีสุด
ท่านร่อซูลได้เสียสละ และต่อสู้ทุ่มเทในการท�ำหน้าที่ดังกล่าวด้วยการให้ทุก
คนรับผิดชอบต่อตนเอง ต่อหน้าพระเจ้าของเขา ผู้ใดที่ท�ำเป็นยึกยักล่าช้า
ไม่ใส่ใจ เชื้อสาย ศักดิ์ตระกูลของเขา ก็ไม่สามารถท�ำให้ตัวเขาเร็วข้ึนมาได้
ดังด�ำรัสของอัลลอฮ์  ท่ีว่า

9

﴾٣٨ ‫﴿ ُ ُّك َن ۡفِۢس بِ َما َك َس َب ۡت َرهِي َن ٌة‬

“แต่ละชีวิตนั้นถูกประกันไว้ด้วยกับสิ่งที่แต่ละคนได้ขวนขวาย
กระทำ�กันเอาไว้” (อัลมุดดัซซิร 74 : 38)

และด�ำรัสของอัลลอฮ์  ที่ว่า

﴾ۗ‫ وِ ۡز َر أُ ۡخ َر ٰى‬ٞ‫﴿ َو َل تَزِ ُر َوازِ َرة‬

“และแต่ละชีวิตไม่ต้องแบกรับบาปโทษของผู้อื่น”
(อัลอิสรออ์ 17 : 15) (อัลอันอาม 6 : 164)

และน่ีเป็นการเน้นย�้ำให้รู้ถึงความรับผิดชอบเฉพาะแต่ละบุคคล ดัง
น้ัน แต่ละคนจะต้องรับผิดชอบต่อพระเจ้าของเขาอย่างครบถ้วน ลูกหลาน
หรือเช้ือสายของเขาไม่สามารถยังประโยชน์ใดๆ ให้กับเขาได้ และไม่สามารถ
จะท�ำให้เขาใกล้ชิดกับอัลลอฮ์ได้เลย นอกจากการงานดีๆ ท่ีเขาท�ำเพื่ออัลลอฮ์
เพียงองค์เดียวเท่านั้น ดังท่ีท่านนบี  กล่าวว่า

“โอ้ ซอฟียะฮ์ ผู้เป็นป้าของมุฮัมมัด จงทำ�งานเถิด เพราะแท้จริง
ฉัน (ท่านนบี  ) นั้น ไม่สามารถช่วยเหลือท่านในเรื่องของอัลลอฮ์ได้
แต่อย่างใดทั้งสิ้น”

“โอ้ ฟาฏิมะฮ์ ลูกสาวของมุฮัมมัด จงทำ�งานเถิด เพราะแท้จริง
พ่อนั้น ไม่สามารถช่วยเหลือลูกในเรื่องของอัลลอฮ์ได้แต่อย่างใดทั้งสิ้น”

(บันทึกโดยอิมาม อัลบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม)

สิ่งท่ีท่านร่อซูล  หว่ันเกรง และเป็นห่วงท่ีสุด ว่าจะมาประสบกับ
ประชาชาติของท่านก็คือ ความหลงผิดเกี่ยวกับหลักเช่ือมั่น (อะกีดะฮ์) การ
บิดเบือน เบ่ียงเบนออกไปจากหนทางแห่งการให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์
(เตาว์ฮีด) อันบริสุทธ์ิ ซึ่งจะท�ำลายรากแก้วพื้นฐานของศาสนาอิสลามในตัว

10

ของผู้ศรัทธาเอง และจะท�ำให้ประสบกับบั้นปลายอันเลวร้าย ขออัลลอฮ์ทรง
ปกปักรักษาคุ้มครองเราด้วยเถิด [‫] َوال ِعيَا ُذ بِالل ِه‬

ท่านนบี  ยังคงเน้นย้�ำในเรื่องของการมีอะกีดะฮ์ ที่บริสุทธ์ิ และ
ปิดทุกช่องทางท่ีจะน�ำไปสู่การต้ังภาคี (ท�ำชิริก) และการปฏิเสธศรัทธา (กุฟร)

มีรายงานจากท่านอุมัร  แจ้งว่า ฉันได้ยินท่านร่อซูลุลลอฮ์ 
กล่าวว่า

»‫«ل َا َت ْط ُر ْو ِن َك َما أَ ْط َر ِت ال َّن َصا َرى ابْ ِن َم ْر َي َم َفإِ َّن َما أَنَا َعبْ ُد الله َو َر ُس ْوله‬
]‫[رواه البخارى‬

“ท่านทั้งหลายอย่าได้ยกย่องให้เกียรติฉันจนเกินเลยขอบเขต ดัง
เช่นพวกนะซอรอ (คริสต์) ที่ได้ยกย่องให้เกียรติอีซา อิบนุ มัรยัม เพราะ
ที่จริงฉันนั้น เป็นเพียงบ่าวของอัลลอฮ์ และเป็นศาสนทูต (ร่อซูล) ของ
พระองค์เท่านั้น” (บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์)

พวกคริสต์ได้ยกย่องชมเชยท่านนบีอีซา บุตรของมัรยัมจนเกินเลย
ขอบเขต จนกระท่ังพวกเขาบางคนยกให้ท่านนบีอีซาเป็นพระเจ้า โดยกล่าว
ว่า “อีซา คือ บุตรของอัลลอฮ์” ขณะท่ีท่านนบีมุฮัมมัด  ของเราได้เตือน
ให้ระวังเรื่องดังกล่าว ดังฮะดีสที่กล่าวมาแล้วข้างต้นถึงสถานะที่แท้จริงของ
ตัวท่านนบี  เอง

ดังน้ัน จงร�ำลึกอยู่เสมอว่า แท้จริง ท่านนบีมุฮัมมัด  นั้น คือบ่าว
ของอัลลอฮ์ และเป็นร่อซูลของพระองค์ เป็นอิมามของบรรดานบีทั้งหลาย
เป็นผู้มีสิทธิ์ในการขอชะฟาอะฮ์ในวันกิยามะฮ์ ทั้งนี้ โดยได้รับอนุมัติจาก
อัลลอฮ์ผู้เป็นพระเจ้าแห่งสากลโลกเท่าน้ัน

ท่านร่อซูล  ได้กล่าวในขณะป่วยก่อนท่ีท่านจะสิ้นชีวิตเพื่อเป็นการ
เตือนอย่างชัดเจนว่า

11

»‫«ل َا َتْ َعلُ ْوا َق ْ ِب ْي َو َثنًا ُي ْع َب ُد‬

“ท่านทั้งหลาย อย่าได้ยึดเอาหลุมฝังศพของฉันเป็นเจว็ดเพื่อสัก
การะบูชา” (บันทึกโดย อิมามมาลิกในหนังสือ อัลมุวัฏเฏาะอ์)

ท่านร่อซูล  กล่าวว่า

»‫«لَ َع َن الل ُه ال َّي ُه ْو َد َوال َّن َصا َرى ِا َّ َت ُذ ْوا ُق ُب ْو َر أَنْ ِب َيائِ ِه ْم َم َسا ِج ُد‬

“อัลลอฮ์ทรงสาปแช่งพวกยิว และพวกคริสต์ที่ถือเอากุบู๊รของ
บรรดานบีของพวกเขาเป็นมัสยิด”

(บันทึกโดย อิมามอัลบุคอรีย์ และอิมามมุสลิม)
และจงร�ำลึกนึกถึงอยู่เสมอว่า การที่ผู้ศรัทธา (มุอ์มิน) รักนบีของ
พวกเขานั้น นับเป็นการเช่ือฟังปฏิบัติตาม (ฏออะฮ์) ต่ออัลลอฮ์  และ
ท่านนบี  มิใช่ด้วยการกระท�ำอุตริกรรม ข้ึนเอาเองในศาสนา
ไม่มีการอะลุ่มอล่วยผ่อนปรนในเรื่องของหลักการศรัทธาเช่ือมั่น
ท่านร่อซูล  เคยเตือนให้ระวังมิให้มีการอะลุ่มอล่วยผ่อนปรน
เป็นอันขาดในเร่ืองของหลักศรัทธาเชื่อมั่น (อะกีดะฮ์) ในการช้ีน�ำผู้คนสู่
ศาสนาอิสลาม ท่านนบี  จะไม่ยอมรับข้อแม้ หรือเง่ือนไขใดๆ ท้ังส้ินท่ี
ค้านหรือไม่ตรงกับความถูกต้องของอิสลาม และท่านนบี  จะไม่พึงพอใจ
กับการผินหลังให้กับอิสลาม นอกจากจะต้องมีการให้เอกภาพต่ออัลลอฮ์ท่ี
บริสุทธ์ิ ไม่ว่าจะเป็น ณ ที่แห่งใดก็ตาม
มีเหตุการณ์เกิดข้ึนในปีฮ.ศ.ที่ 9 มีชาวษะกีฟท่ีเคยผินหลังให้กับท่าน
ร่อซูล  ได้กลับเข้ามาที่มาดีนะฮ์เพื่อขอให้กลุ่มชนของพวกเขาได้รับการ
ผ่อนผันให้ไม่ต้องละหมาด ดังนั้น ท่านนบี  จึงไม่ยอม และท่านได้กล่าว
ว่า

12

»‫«أَ َّما ال َّصل َا َة فَ ِإنَّ ُه ل َا َخ ْ َي ِ ْف ِديْ ٍن ل َا َصل َا َة ِفيْ ِه‬

“สำ�หรับการละหมาดนั้น แน่นอน ไม่นับว่าเป็นความดีใดๆ ใน
ศาสนา สำ�หรับผู้ที่ไม่ยอมละหมาด”

ดังนั้น พวกเขาจึงยอมรับที่จะละหมาดตามท่ีได้ถูกบัญญัติเอาไว้”
ต่อมาพวกเขายังได้ขอต่อรอง ท่านร่อซูล  ให้ปล่อย “อัลล๊าต” (เจว็ด)
ทิ้งไว้กับพวกเขา โดยยังมิให้มีการท�ำลายเป็นเวลาสามปี ดังนั้น ท่านนบี 
ก็ไม่ยอมรับการต่อรองจากพวกเขา และพวกเขาก็ยังคงขอต่อรองท่านนบี
เป็นเหลือทีละปีต่อปี ท่านนบี  ก็ไม่ยอมพวกเขา จนกระทั่งพวกเขาขอ
ต่อรองลงมาถึงเพียงแค่เดือนเดียวจากท่ีเคยเสนอมาสามปี ท่านนบี  ยืน
กรานปฏิเสธ ไม่ยอมรับการร้องขอใดๆ จากพวกเขาทั้งสิ้น เม่ือพวกน้ันได้
เห็นการยืนหยัดของท่านร่อซูล  เช่นน้ัน พวกเขาจึงขอต่อท่านร่อซูลว่า
อย่าให้พวกเขาเป็นผู้ท�ำลายบรรดาเจว็ดรูปปั้นเหล่านั้นด้วยกับมือของพวก
เขาเองเลย ดังน้ัน ท่านร่อซูล  จึงกล่าวว่า

»‫«أَ َّما َك ْ ُس أَ ْوثَانِ ُك ْم بِأَيْ ِدي ُك ْم فَ َسنَ ْع ِفي ُك ْم ِمنْ ُه‬

“สำ�หรับการทำ�ลายบรรดาเจว็ดรูปปั้นของพวกท่านด้วยน้ำ�มือ
ของพวกท่านนั้น เราก็จะยอมผ่อนปรนให้กับพวกท่านจากการกระทำ�
ดังกล่าว”

ต่อมา อบูซุฟยาน อิบนุ ฮัรบ์ และอัลมุฆีเราะฮ์ บิน ชุอ์บะฮ์ ได้ลุก
ขึ้นไปท�ำลายบรรดาเจว็ดรูปปั้นเหล่านั้นด้วยมือของท่านทั้งสองเอง”

บรรดาซอฮาบะฮ์ของท่านร่อซูล  ต่างก็ด�ำเนินตามแนวทางดัง
กล่าวของท่านร่อซูล  และยังคงปกป้องอะกีดะฮ์อันบริสุทธ์ิของอิสลาม
เอาไว้ ไม่ยอมโอนอ่อนผ่อนปรน หรืออะลุ่มอล่วยให้กับการท�ำชิริกอันเป็น
พิษเป็นภัยต่อความบริสุทธ์ิผุดผ่องของศาสนาอิสลามเลยแม้แต่น้อย

13

ดังในสมัยท่านอุมัร อิบนุล คอฏฏ็อบ  ท่ีผู้คนต่างพากันไปท่ีต้นไม้
ที่ท่านร่อซูล  เคยรับสัตยาบันจากผู้คน หรือที่เรียกกันว่า “บัยอะฮ์
อัรริฎวาน” [‫ ] َبيْ َع ُة ال ِر ْض َوا ِن‬แล้วพวกเขาก็ไปละหมาดกันท่ีใต้ต้นไม้ดังกล่าวเป็น
ประจ�ำ ดังน้ัน เมื่อท่านอุมัรรู้ข่าว ท่านจึงสั่งให้ตัดต้นไม้ดังกล่าวเสีย จนกระท่ัง
ไม่มีร่องรอยของการท�ำชิริกหลงเหลืออยู่อีกต่อไปจนกระทั่งปัจจุบัน !

ท่านร่อซูล g น้ันเป็นมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา ท่านมิได้รู้ในเร่ือง
เร้นลับใดๆ นอกจากสิ่งที่อัลลอฮ์  ทรงสอนท่านโดยทางวะฮีย์เท่านั้น

และพระเจ้าที่คู่ควรแก่การเคารพสักการะอิบาดะฮ์อย่างแท้จริงน้ัน
มีเพียงองค์เดียวเท่านั้น ท่ีจะต้องกระท�ำเพ่ืออัลลอฮ์เพียงองค์เดียวเท่านั้น
ไม่ว่าจะเป็นในการละหมาด การถือศีลอด การจ่ายซะกาต ท�ำซอดะเกาะฮ์
การท�ำฮัจญ์ การฏอวาฟ การกลัว ความหวัง การมอบหมาย การขอความ
ช่วยเหลือ การวิงวอนขอดุอาอ์ การร้องขอให้ช่วยเหลือ การบนบาน ฯลฯ
เป็นต้น

ส�ำหรับการงานดีๆ ที่อัลลอฮ์จะทรงรับนั้นต้องประกอบไปด้วย
เง่ือนไขสองประการดังต่อไปน้ี

1- จะต้องเป็นการงานที่ถูกต้อง ตรงตามแบบอย่างท่ีท่านร่อซูล 
ได้กระท�ำเป็นแบบอย่างเอาไว้

2- จะต้องเป็นการงานท่ีท�ำข้ึนด้วยความบริสุทธิ์ใจเพื่ออัลลอฮ์เพียง
องค์เดียวเท่าน้ัน ไม่ให้ผู้ใดหรือสิ่งใดมามีส่วนร่วมเป็นภาคีในการกระท�ำ
น้ันๆ ด้วยเป็นอันขาด

เราจะไม่ขอความช่วยเหลือจากผู้ใดนอกจากพระองค์ ดังน้ัน เราจึง
ไม่วิงวอนขอต่อใครนอกจากอัลลอฮ์ เราจะไม่ขอให้ใครมาช่วยเหลือ เราจะ
ไม่มอบหมายต่อใครนอกจากอัลลอฮ์ เราจะไม่บนบานต่อใครนอกจากอัลลอฮ์
เราจะไม่หวังจากใครนอกจากอัลลอฮ์ เราจะไม่กลัวใครนอกจากอัลลอฮ์ และ

14

เราจะไม่เคารพสักการะอิบาดะฮ์ผู้ใดนอกจากอัลลอฮ์องค์เดียวเท่านั้น เพราะ
มิฉะนั้นจะเป็นการต้ังภาคีให้กับอัลลอฮ์ (ชิริก) และหากผู้ใดท่ีกระท�ำเช่น
นั้น เขาก็จะอยู่ในนรกตลอดกาล หากเขาตายไปโดยมิได้สารภาพผิด กลับ
เนื้อกลับตัวต่ออัลลอฮ์อย่างแท้จริง
ในท�ำนองเดียวกัน การยะโสโอหัง อวดดื้อ ถือดี ไม่ยอมท�ำอิบาด๊าต
และไม่ยอมท�ำการงานที่ดีๆ ท้ังหลายทั้งปวง นับเป็นการงานท่ีเลวร้ายของ
หัวใจ อัลลอฮ์มิต้องทรงพึ่งพาบรรดาภาคีท้ังหลาย ให้มามีหุ้นส่วนร่วมด้วย
ในการอิบาดะฮ์ต่อพระองค์ ท่านนบี  กล่าวไว้ในฮะดีส กุดซีย์ บันทึกโดย
อิมามมุสลิม จากรายงานของท่านอบูฮุรอยเราะฮ์  ว่า
‫«أَنَا أَ ْغ َن ال ُّ َش َك َء َع ِن ال ِّ ْش ِك َم ْن َع ِم َل َع َمل ًا أَ ْ َش َك ِفيْ ِه َغ ْ ِي ْي تَ َر ْكتُ ُه‬
»‫َو ِ ْش ُك ُه‬
]‫[رواه مسلم‬

“ข้า (อัลลอฮ์) นั้นไม่ต้องพึ่งพาบรรดาภาคีทั้งหลายที่จะมามี
ส่วนร่วมด้วยกับข้า ผู้ใดที่กระทำ�การงานใดๆ โดยให้ผู้อื่นหรือสิ่งอื่นมา
มีหุ้นส่วนร่วมด้วยกับข้า ข้า (อัลลอฮ์) ก็ไม่ต้องการการกระทำ�ของเขา
และของบรรดาภาคีผู้มีส่วนร่วมด้วยกับข้าในการกระทำ�นั้นๆ ของเขา”

(บันทึกโดย อิมามมุสลิม)

ขออัลลอฮ์  ทรงให้เรามีการศรัทธาท่ีสัตย์จริง ถูกต้อง แน่วแน่
มั่งคง รู้แจ้งเห็นจริง ตลอดไปด้วยเถิด

‫وصل الله على نبينا محمد وعلى آ له وأصحابه أجمعين والحمد لله رب العالمين‬

15

ชีวิตมีอะไรใหม่บ้าง
ในปีฮิจเราะฮ์ใหม่ 1441

อ.ยะห์ยา หมัดละ

เข้าสู่ปีฮิจเราะฮ์ใหม่ 1441 แล้ว หลายๆปีผ่านพ้นเราไป ปีแล้ว
ปีเล่า แต่พวกเราหลายๆคนก็ยังมีสภาพไม่เปล่ียนแปลงให้แตกต่างไปจาก
เม่ือปีก่อนๆมากนัก ท่ีเปล่ียนไป ก็คือมีผมขาวมากข้ึน ย่ิงกว่าน้ัน บางคน
ถึงวัยแก่ชราแล้ว แต่ยังมีความรู้สึกเป็นหนุ่มๆสาวๆ กิริยามารยาทเหมือน
หนุ่ม ๆ สาว ๆ การประกอบคุณงามความดียังไม่ค่อยปรากฏเด่นชัดจริงจัง
ยังไม่ค่อยระวังค�ำพูดค�ำจา มุ่งแต่ดุนยา หัวใจยังไม่หันสู่อาคิเราะฮ์สักเท่า
ไหร่

ถ้าเราอยากจะมีความสุขเพ่ิมขึ้น....เม่ือเวลาวันเดือนปีผ่านไป เรา
ต้องปรับปรุงตัวเราให้เป็นประโยชน์ท้ังดุนยาอาคิเราะฮ์ และเอาประสบการณ์
ท่ีผ่านมาเป็นบทเรียนชีวิตที่จะก้าวเดินต่อไป แสวงหาความดีงาม ป้องปราม
ความไม่ดีให้ตัวเรา แต่ถ้าหากยังเปลี่ยนไปสู่ส่ิงท่ีดีกว่าเดิม สมบูรณ์กว่าเดิม
ไม่ได้ นั่นน่าจะเป็นเคร่ืองหมายบ่งบอกถึงความขาดทุนในชีวิตแล้วละ

ปีฮิจเราะฮ์ใหม่ จะท�ำอะไรใหม่ ๆ ให้ชีวิต ...
1. แต่ละวันขอให้เราก้าวไปบนหนทางท่ีถูกต้อง หนทางที่อัลลอฮ์
และร่อซูลพอใจ
2. เราตอ้ งประกันตนดว้ ยตัวของเราว่าจะไมล่ ะเมดิ หรือจะไมบ่ กพร่อง
ต่อหน้าท่ีความเป็นบ่าว ความเป็นผู้รับผิดชอบ ถึงแม้ว่าความบกพร่องน้ัน
16

มันเป็นเร่ืองธรรมดาอย่างหน่ึงของคนเราก็ตาม เพราะไม่ว่าจะพยายามท�ำให้
ดี ท�ำให้สมบูรณ์เพียงใด ก็ไม่สามารถหลีกเล่ียงความบกพร่องได้ แต่เราจะ
ไม่ยอมจ�ำนน ปล่อยให้อารมณ์ชักน�ำเราไปสู่ความบกพร่องนั้น ๆ

3. เราต้องยึดมั่นว่าเราจะอยู่ในแนวทางอันเที่ยงตรง ทุกวัน ทุก
เดือน ทุกปี

4. เราจะน�ำค�ำสอนของอิสลามมาซักฟอกจิตใจให้สะอาด เราจะ
กระท�ำตามทุกอย่าง

5. เราจะระมัดระวังหู ตาให้อยู่ในขอบเขตท่ีอัลลอฮ์อนุมัติ เราจะ
พิจารณาสังคมรอบ ๆ ตัว แยกแยะผิดถูก สิ่งใดเป็นเร่ืองที่ศาสนาใช้ ต้อง
กระท�ำ ส่ิงใดเป็นเรื่องที่ศาสนาห้าม ต้องละทิ้ง

6. เราจะพยายามท�ำตัวให้หลุดพ้นจากอะไรๆท่ีน่าเกลียดและการ
กระท�ำท่ีไม่ดีที่เป็นข้อน่าต�ำหนิ ต้องรู้เท่าทัน

7. เราจะนึกอยู่เสมอว่า ผู้ใดที่เดินตามเส้นทางท่ีตรง ผู้นั้นก็จะไป
ถึงเส้นชัย

8. สิ่งส�ำคัญคือ สภาพของเรา ความรู้และแนวคิดของเรา ท้ังเร่ือง
ดุนยา อาคิเราะฮ์ ต้องดีขึ้นกว่าแต่ก่อน

ขอให้พวกเราท�ำได้อย่างที่กล่าวมานี้ ปีฮิจเราะฮ์ใหม่ 1441 ก็คงจะ
มีความหมายส�ำหรับเรามิใช่น้อย.

17

ให้กลับ...ก็กลับ

อ.นดา อีซา ฮะกีมี

เคยไหม ท่ีไปหาใครถึงบ้าน เคาะประตูก็แล้ว กดกร่ิงก็แล้ว ส่งเสียง
ให้สลาม (3 คร้ังตามซุนนะฮ์นบี) ก็แล้ว แต่ใครคนนั้นไม่เปิดประตูต้อนรับ
ท้ัง ๆ ที่คุณม่ันใจว่าเขาอยู่ในบ้าน

เคยเหมือนกันใช่ไหม ท่ีโทรหาใครแล้วเขาไม่รับสาย ส่งข้อความ
แล้วเขาไม่ตอบ ทักแชทไปแล้วเขาไม่อ่าน

คุณจะรู้สึกอย่างไร เมื่อเจอเหตุการณ์เช่นนี้ ?
ขุ่นเคือง และน้อยอกน้อยใจ พอบ่อยคร้ัง ก็โกรธ ตัดพ้อ ต่อว่า และ
หมางเมินใช่หรือไม่ บางคนถึงขั้นตัดขาดกันไปเลยก็มี
จะเลวร้ายขนาดไหนถ้าเขาเปิดประตูและบอกว่า “กลับไปก่อน”
อิสลามมีค�ำสอนอย่างไรเก่ียวกับเร่ืองนี้ ?
อิสลามสอนให้เราคิดดี ‫ حسن الظن‬ต่อผู้อื่น หาเหตุผลในการกระท�ำ
น้ัน ๆ และเคารพในการตัดสินใจของเขา
ใครจะไปรู้….
เขาอาจต้องการพักผ่อน ถึงแม้จะไม่ใช่เวลาพักผ่อน
เขาอาจจะถือศีลอด ในวันท่ีไม่น่าจะถือศีลอด
หรือเขาอาจมีแขกพิเศษ เขาอาจจะป่วย เขาอาจจะติดพันกับธุระ
ส�ำคัญ
หรือคุณเองก็เถอะ อาจจะมาหาเขาโดยไม่ได้นัดหมายก่อนล่วงหน้า
18

เขาจึงไม่ทันเตรียมตัว
ถึงแม้จะไม่มีเหตุผลอะไรเลยในการกระท�ำของเขา และถึงแม้เขา
จะบอกกับคุณตรง ๆ ว่า “กลับไปก่อน” หรือผมไม่สะดวกท่ีจะต้อนรับคุณ
วันน้ี ขอเป็นวันอ่ืนนะครับ คุณก็ไม่ควรจะโกรธเคืองเขา คุณควรเข้าใจและ
กลับด้วยความเต็มใจ เพราะน่ันคือสิทธิของเขา อัลลอฮ์เป็นผู้ทรงให้สิทธินี้
แก่เขา
อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า :
‫قِي َل‬ ‫فَ َل تَ ْد ُخ ُلو َها َح َّ ٰت يُ ْؤ َذ َن لَ ُك ْم ۖ ِإَو ْن‬ ‫﴿ فَإِ ْن لَ ْم َ ِت ُدوا فِي َها أَ َح ًدا‬
﴾28 ‫أَ ْز َ ٰك لَ ُك ْم ۚ َوالَّ ُل بِ َما َت ْع َم ُلو َن َعلِي ٌم‬ ‫َل ُك ُم ا ْر ِج ُعوا َفا ْر ِج ُعوا ۖ ُه َو‬

ความว่า : “เมื่อพวกเจ้าไม่พบผู้ใดใน(บ้าน)นั้น ก็อย่าเข้าไป
จนกว่าพวกเจ้าจะได้รับอนุญาต (จากเจ้าของบ้านเสียก่อน) และเมื่อมีผู้
กล่าวแก่พวกเจ้าว่า จงกลับไป ก็จงกลับไป ดังกล่าวเป็นการดียิ่งสำ�หรับ
พวกเจ้า (เป็นการยกระดับและซักฟอกจิตใจของพวกเจ้า) และอัลลอฮ์
ทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ�กัน”

(อันนู้ร : 28)

สลัฟท่านหนึ่งกล่าวว่า : ‫َك َما‬ ‫َن ْف ِس‬
‫ِل َق ْو ِ ِل‬ ‫ال ِا ْستِئْ َذا ِن‬ ﴿
‫ِعنْ َد‬ ‫َطابَ ْت لِل َر ِّد َوال ُرجو ِع‬ ‫لِ َش ٍئ‬ ‫َطابَ ْت‬ ‫َما‬
﴾ ۚ ‫ُه َو أَ ْز َ ٰك لَ ُك ْم‬

“ฉันไม่เคยรู้สึกสุขใจกับสิ่งใด เท่ากับสุขที่ได้รับจากการถูกปฏิเสธ
และถูกสั่งให้กลับ ภายหลังจากขออนุญาตเข้าพบใครแล้ว เพราะอัลลอฮ์
ตรัสว่า : เป็นการดียิ่งสำ�หรับพวกเจ้า”

19

,‫ ُُهكّا َوهْرأَِجَهْز ْعِ َذهِك‬:‫عبْو َافتيَفَُقا ُوعْر ْمِلج ِر ُِعوليا‬,ُ َ‫ ِإُكلَ َُْمقخ َْوادا ْرِ َطِنجل‬:‫تَِمأْ ِْذن﴿انلَْوإُِم َ َْهنَاع ِقِجَيب َِرْعلي َلَنض‬:‫أَ ِل َر َْقن ُجْوأَِلِلْس‬ ‫ َقا َل‬: ‫َع ْن َقتَا َدة قَا َل‬
: ‫ا ْليَة َف َما أَ ْد َر ْكت َها‬
, ‫َفأَ ْر ِجع َوأَنَا ُم ْغ َت ِبط‬
. ﴾ ‫لَ ُك ْم‬

ท่านกอตาดะฮ์ กล่าวว่า : ซอฮาบะฮ์ที่เป็นชาวมุฮาญิรีนท่านหนึ่ง
ได้กล่าวไว้ว่า : ตลอดช่วงชีวิตของฉัน ฉันเฝ้าแสวงหาเพื่อให้ได้พบเหตุการณ์
ที่ตรงกับอายะฮ์นี้ แต่ฉันกลับไม่พบ น่ันก็คือ การท่ีฉันจะได้มีโอกาสขอ
อนุญาตเข้าพบพี่น้องของฉันสักคนหนึ่ง เขาจะกล่าวกับฉันว่า : กลับไปก่อน
เถิด แล้วฉันก็จะกลับด้วยความเต็มใจ น่ันเพราะอัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสไว้ว่า :

﴾ ‫﴿ ِإَون قِي َل َل ُك ُم ٱ ۡر ِج ُعواْ فَٱ ۡر ِج ُعوۖاْ ُه َو أَ ۡز َ ٰك َل ُك ۡۚم‬

“และเมื่อมีผู้กล่าวแก่พวกเจ้าว่า จงกลับไป ก็จงกลับไป ดังกล่าว
เป็นการดียิ่งสำ�หรับพวกเจ้า”

(อันนู้ร : 28)

20

มุสลิมกับการร�ำลึกถึงอัลลอฮ์

อ.อิหฺซาน มีพลกิจ

การร�ำลึกถึงอัลลอฮ์ ตะอาลา น้ันมีความส�ำคัญอย่างยิ่งส�ำหรับผู้
ศรัทธาท้ังหลายท่ีปรารถนาความส�ำเร็จในชีวิต บรรดานักวิชาการได้กล่าว
ถึงคุณประโยชน์ของการร�ำลึกถึงอัลลอฮ์  ไว้หลายประการ เป็นถ้อยค�ำ
ร�ำลึกท่ีน�ำมาจากกิตาบุลลอฮ์และซุนนะฮ์ของท่านนบีมุฮัมมัด  มีประโยชน์
ดังน้ี

1 เป็นการกระท�ำท่ีอัลลอฮ์  ทรงพอพระทัย
2 ขับไล่ชัยฏอนให้พ้นจากตัวเรา
3 ท�ำให้หมดความวิตกกังวลต่อปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
4 ท�ำให้ร่างกายและจิตใจแข็งแกร่งสามารถต่อสู้กับอุปสรรคนานา
ประการ
5 ท�ำให้ใบหน้าอิ่มเอิบ มีรัศมี และท�ำให้ได้รับริสกีมากมาย... เป็นต้น
ผู้ท่ีร�ำลึกถึงอัลลอฮ์อยู่เสมอนั้น เขาก�ำลังแสดงความใกล้ชิดกับ
พระองค์ และเขาคือมนุษย์ที่มีเกียรติที่สุด ณ อัลลอฮ์ ตะอาลา และยังท�ำให้
หัวใจท่ีแข็งกระด้าง มีความนุ่มนวลอ่อนโยน
มีชายคนหน่ึงได้ ถามท่านฮะซัน ซึ่งเป็นตาบิอีนว่า ท่านอบูซะอ๊ีด
เอ๋ย ? (หมายถึงท่านฮะซัน) ฉันจะท�ำอย่างไรดี กับหัวใจ ของฉันที่มีแต่ความ
แข็งกระด้าง ? ท่านฮะซันได้ตอบว่า “ท่านจงละลายหัวใจที่แข็งกระด้างของ
ท่านด้วยการร�ำลึกถึงอัลลอฮ์ซิ”

21

ส�ำหรับมนุษย์ท่ีหลงลืมอัลลอฮ์  หัวใจของเขาก็จะแข็งกระด้าง
แต่เมื่อเขากลับไปร�ำลึกถึงอัลลอฮ์ความแข็งกระด้างของหัวใจก็จะถูก
หลอมละลาย เสมือนตะก่ัวที่ถูกไฟลน

อัลลอฮ์  ตรัสว่า

﴾ ٤٥ ‫﴿ َو َ ِل ۡك ُر ٱلَّلِ أَ ۡك َ ُبۗ َوٱلَّ ُل َي ۡع َل ُم َما تَ ۡص َن ُعو َن‬

ความว่า : “และการรำ�ลึกถึงอัลลอฮ์นั้น ยิ่งใหญ่มาก และพระองค์
ทรงรอบรู้ในสิ่งที่พวกเจ้ากระทำ�”

(อัลอังกะบูต : 45)

การร�ำลึกถึงอัลลอฮ์นั้นจะปฏิบัติได้หลายลักษณะด้วยกันดังน้ี
1 ร�ำลึกถึงอัลลอฮ์ด้วยการกล่าว ถ้อยค�ำสรรเสริญ ถึงพระนาม และ

คุณลักษณะของพระองค์ท่ีสูงส่งท่ีได้ถูกระบุไว้ในอัลกุรอานและซุนนะฮ์ของ
ท่านนบีอย่างมากมาย เช่น ซุบฮานัลลอฮ์ , อัลฮัมดุลิลลาฮ์ , อัลลอฮุอักบัร
ลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ์ , ลาเฮาละวะลากูวะตะ อิ้ลลาบิ้ลลาฮ์ , อัสตัฆฟิรุ้ลลอฮ์
ฯลฯ

คร้ังหน่ึงท่านนบีมูซา ได้ขอให้อัลลอฮ์ประทานถ้อยค�ำหน่ึงท่ีดีเพื่อ
ท่ีจะได้น�ำไปกล่าวเมื่อจะร�ำลึกถึงพระองค์ อัลลอฮ์จึงได้ให้ท่าน นบีมูซากล่าว
ค�ำว่า “ลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ์” แต่ท่าน นบีมูซาได้ตอบว่า : ค�ำดังกล่าวน้ี
ผู้คนท้ังหลายก็กล่าวกันอยู่แล้ว อัลลอฮ์ตรัสว่า : มูซาเอ๋ย... หากน�ำจักรวาล
และสรรพส่ิงท้ังหมด มาวางไว้ตราช่ังข้างหน่ึง และน�ำค�ำว่า “ลาอิลาฮะ
อ้ิลลัลลอฮ์” วางไว้ตราชั่งอีกข้างหน่ึง แน่นอน ค�ำว่า “ลาอิลาฮะอิ้ลลัลลอฮ์”
จะมีน�้ำหนักมากกว่า

(บันทึกโดย อิบนิ ฮิบบาน)

22

2 ร�ำลึกถึงอัลลอฮ์ ตามข้อห้ามและข้อใช้ของศาสนา ไม่ว่าจะอยู่
ในสถานะใด หรือ สถานท่ีใดก็ตาม ทุก ๆ การกระท�ำของเรานั้นจะต้องระลึก
อยู่เสมอว่าเป็นไปตามหลักการของอัลลอฮ์หรือไม่ ?

ตัวอย่างค�ำส่ังใช้

‫﴿ َ ٰٓي َأ ُّي َها ٱ َّ ِلي َن َءا َم ُنواْ ٱ َّت ُقواْ ٱلَّ َل َو َذ ُرواْ َما بَ ِ َق ِم َن ٱل ّرِ َب ٰٓواْ إِن ُكن ُتم‬
﴾ ٢٧٨ ‫ُّم ۡؤ ِمنِي َن‬

ความว่า : “บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงยำ�เกรงอัลลอฮ์ และจง
ละเว้นดอกเบี้ย ที่ยังเหลืออยู่หากพวกเจ้าเป็นผู้ศรัทธา”

(อัลบะเกาะเราะฮ์ : 278)

ตัวอย่างค�ำส่ังห้าม
‫مۖ َو‬ٞ ۡ‫﴿ َ ٰٓي َأ ُّي َها ٱ َّ ِلي َن َءا َم ُنواْ ٱ ۡج َتنِ ُبواْ َكثِي ٗرا ِّم َن ٱل َّظ ِّن إِ َّن َب ۡع َض ٱل َّظ ِّن إِث‬
ۚ‫َب ۡع ًضا‬ ‫َّب ۡع ُض ُكم‬ ‫َي ۡغ َتب‬ ‫َو َل‬ ْ‫َ َت َّس ُسوا‬ َ
﴾ ‫ل‬

ความว่า : “ผู้ศรัทธาทั้งหลาย พวกเจ้าจงออกห่างพ้นจากเรื่อง
ส่วนมากที่สงสัย เพราะ แท้จริงการสงสัยในบางเรื่องนั้นถือเป็นบาป
และพวกเจ้าจงอย่าแอบสอดแนม และบางคนในพวกเจ้าอย่าได้นินทา
กันและกัน”

(อัลหุญุรอต : 12)

แน่นอนท่ีสุดส�ำหรับมุสลิมที่ใช้ชีวิตด้วยการร�ำลึกถึง อัลลอฮ์ตามค�ำ
ส่ังใช้และค�ำส่ังห้ามของพระองค์ เขาจะไม่ออกนอกลู่นอกทาง ชีวิตจะมี
เกียรติ ณ ท่ีอัลลอฮ์ ตะอาลา เสมอ ดังท่ีพระองค์ตรัสว่า :

23

﴾١٥٢ ‫﴿ فَٱ ۡذ ُك ُرو ِ ٓن أَ ۡذ ُك ۡر ُك ۡم َوٱ ۡش ُك ُرواْ ِل َو َل تَ ۡك ُف ُرو ِن‬

ความว่า “ดังนั้น พวกเจ้าจงรำ�ลึกถึงข้าเถิด ข้าจะรำ�ลึกถึงเจ้า
เช่นกัน และจงขอบคุณข้า และอย่าเป็นผู้ที่เนรคุณต่อข้าเป็นอันขาด”

(อัลบะเกาะเราะห์ : 152)
3 การร�ำลึก ถึงอัลลอฮ์ ในความโปรดปรานที่ได้รับจากพระองค์
เช่น การได้รับริสกีต่าง ๆ หรือ การมีภรรยาท่ีดี สามีท่ีดี ได้ลูกท่ีซอและฮ์
หรือแม้กระท่ังการมีสุขภาพ พลานามัยท่ีสมบูรณ์ ร่างกาย แข็งแรง เราก็
ต้องขอบคุณพระองค์เสมอ ในสิ่งท่ีดีดังกล่าว
การร�ำลึกถึงพระองค์ในความโปรดปรานของพระองค์ต่อเราน้ัน เรา
จะแสดงออกได้ด้วย ถ้อยค�ำ พร้อมน�ำความโปรดปราน ท่ีได้รับจากอัลลอฮ์
มาท�ำให้เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนหากมีโอกาส
เช่น... เมื่ออัลลอฮ์ให้เรามี ทรัพย์สิน เราก็น�ำเอาทรัพย์สิน แบ่งปัน
ไปช่วยเหลือบุคลอื่น ๆ ท่ีมีความล�ำบาก หรือหากเรามีสุขภาพแข็งแรง เรา
ก็บ�ำเพ็ญประโยชน์ส่วนรวม หรือหากเรามีลูกที่ดี เรียนเก่ง เราก็ส่งเสริมให้
เรียนศาสนาเพื่อรักษาอิสลามสืบต่อไป

สาเหตุที่ท�ำให้มนุษย์หลงลืมการร�ำลึกถึงอัลลอฮ์
การใช้ชีวิตมุ่งมั่นแต่เร่ืองของดุนยา จนกระท่ังหลงลืมอาคิเราะฮ์
อัลลอฮ์ทรงเตือนเรื่องนี้ว่า

‫ك ۡم﴾ َعن ذِ ۡك ِر‬٩ُ ‫﴿ َ ٰٓي َأ ُّي َهاٱلٱَّ َّلِۚ ِلي َو َ َنمنَءا َيَم ۡفُن َعواْۡل َلَذٰلِتُ ۡلَكِه فَأُ ُك ْو ۡمَ ٰٓلأَئِ ۡم َ َكوٰلُ ُه ُمُك ۡٱم ۡل َوَ َخٰلٓ ِأَُس ۡووَلٰ َُند‬

ความว่า : “โอ้ บรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย จงอย่าให้ทรัพย์สิน และ

24

ลูกหลานของพวกเจ้า ทำ�ให้พวกเจ้าหันเหจากการรำ�ลึกถึงอัลลอฮ์ และ
หากผู้ใดกระทำ�เช่นนั้น พวกเขาคือผู้ที่ขาดทุน” (อัลมุนาฟิกูน : 9)

คร้ังหน่ึงขณะที่ท่านนบี  นั่งอยู่กับบรรดาซอฮาบะฮ์ ในมัสยิด มี
ชายสามคนได้เดินผ่านมา ชายคนแรก เม่ือมองเห็นช่องว่าง ก็แทรกเข้ามา
เพื่อรับฟังค�ำส่ังสอนจากท่านนบี  ส่วนชายคนท่ีสอง นั่งแอบ ๆ รับฟังอยู่
ข้าง ๆ โดยไม่เข้ามาในวงสนทนา ส่วนชายคนที่สามน้ัน ผินหลังและเดินหนี
ออกจากมัสยิดไป เม่ือท่านนบี  อบรมเสร็จ ท่านก็ได้กล่าวแก่บรรดาซอ
ฮาบะฮ์ท้ังหลายว่า”เราจะบอกท่านถึงชายสามคนนี้ว่าเป็นอย่างไร ?”

ส�ำหรับชายคนแรกน้ัน เขาพึ่งพิงอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ก็จะให้เขาได้รับ
การพ่ึงพิงจากพระองค์

ส�ำหรับชายคนที่สอง เขามีความละอาย อัลลอฮ์ก็จะทรงมีความ
ละอายต่อเขาเช่นกัน

ส�ำหรับชายคนท่ีสาม เขาหันหลังให้อัลลอฮ์ อัลลอฮ์ก็จะหันหลังให้
เขาเช่นกัน

(บันทึกโดย มุสลิม)

ผลของการไม่ร�ำลึกถึงอัลลอฮ์
1 หัวใจจะแข็งกระด้าง และอัลลอฮ์  ตรัสแก่คนเหล่านี้ว่า
‫َض َلٰ ٖل‬ ‫أُ ْو َ ٰٓلئِ َك‬ ۡ ‫ُق ُلو ُب ُهم‬ ِ‫ّلِ ۡل َقٰ ِس َية‬ ‫ل‬ٞ ‫﴿ َف َو ۡي‬
﴾‫ُّمبِي ٍن‬ ‫ِف‬ ِۚ‫ٱلَّل‬ ‫ذِك ِر‬ ‫ِّمن‬

ความว่า “ดังนั้น ความวิบัติจงประสบแด่ผู้ที่หัวใจของเขาแข็ง
กระด้างต่อการรำ�ลึกถึงอัลลอฮ์ ชนเหล่านั้นอยู่ในการหลงผิดที่ชัดเจน”

(อัซซุมัร : 22)

2 ชีวิตจะหมดไปเพ่ือดุนยาอย่างเดียว และสุดท้ายเขาจะอยู่อย่าง

25

คับแค้น อัลลอฮ์ตรัสว่า ‫﴿ َو َم ۡن أَ ۡع َر َض‬
ِ‫ٱ ۡل ِق َيٰ َمة‬ ‫َو َ ۡن ُ ُش ُهۥ‬ ‫َضن ٗك‬ ‫َمعِي َش ٗة‬ ‫َ ُلۥ‬ ‫َفإِ َّن‬ ۡ ﴾١٢٤ ‫أَ ۡع َ ٰم‬
‫يَ ۡو َم‬ ‫ذِك ِري‬ ‫َعن‬

ความว่า : “และผู้ใดผินหลังจากการรำ�ลึกถึงข้า เขาจะมีชีวิตที่
คับแค้นและเราจะให้เขาฟื้นขึ้นในวันกิยามะฮ์ในสภาพที่ตาบอด”

(ฏอฮา : 124)

3 เขาจะอยู่ในการครอบง�ำของชัยฏอน ดังที่อัลลอฮ์ตรัสว่า

‫ ِ﴾ح ۡز ُب ٱل َّش ۡي َطٰ ِۚن‬١‫ك‬٩َ ِ‫﴿ ٱ ۡس َت ۡح َو َذ َع َأ َل َ ۡيلٓ ِه إُِم َّنٱل َّ ِشح ۡيۡز َ َطٰب ُنٱلفَ َّأَشن ۡي َ َسىطٰٰ ُهِن ۡم ُهذِ ُم ۡكٱَر ۡلٱ َلَّخٰلِِۚ أُُس ْوو َ ٰٓلَنئ‬

ความว่า : “ชัยฏอนได้ครอบงำ�เขาเสียแล้ว พวกเขาจึงหลงลืม
การรำ�ลึกถึงอัลลอฮ์ และชนเหล่านี้คือพรรคพวกของชัยฏอน พึงทราบ
เถิดว่า พรรคพวกของชัยฏอนนั้นคือผู้ที่ขาดทุน”

(อัลมุญาดะละฮ์ : 19)

26

ً‫ ُم َق َّدما‬.. ‫ُم َبا َر ٌك َعلَي ُكم النَّ َجا ُح‬
อ.ชากิร อีซา

ขอแสดงความยินดีล่วงหน้ากับนักเรียนทั้ง 36 คน ที่จะส�ำเร็จ
การศึกษาในอีกไม่ก่ีเดือนข้างหน้า

นับได้ว่าเป็นความส�ำเร็จท่ีทุกคนต่างไขว่คว้ากันมาได้ด้วยความ
อดทน มุมานะ และเพียรพยายาม เป็นธรรมดาท่ีเธอจะต้องภาคภูมิใจกับ
ความส�ำเร็จนี้

อย่าลืมว่า นี่เป็นเพียงก้าวแรกจากอีกหลาย ๆ ก้าวท่ีจะเธอจะ
ก้าวเดินต่อไปในอนาคต

อย่าได้หลงใหลกับความความส�ำเร็จในดุนยาน้ี จนลืมตระหนักถึง
ความส�ำคัญและจุดมุ่งหมายของเราทุกคนในภายภาคหน้า ในโลกอาคิเราะฮ์
เพราะนั่นคือ ความส�ำเร็จท่ีแท้จริง

،‫أَد ُعو الل َه أَ ْن يُ َو ِّف َق ُك ْم َ ِجيعاً لِ َما ُ ِي ُّب ُه َو َير َضا ُه‬
‫ ال ُّدن َيا َوالآ ِخ َر ِة‬،‫َوأَن تَ ُكونُوا ِم َن ال َّنا ِج ِحي َن َوال َفائِ ِزي َن ِف ال َّدا َري ِن‬

27

‫الأخلاق لا تموت‬

อ.นิสรีน อีซา

คุณอาจเป็นคนยอดเย่ียมโดยท่ี ‫قد تكون أنت الرائع وأنت لا‬

คุณไม่รู้ตัว ..‫تدري‬

ไม่ใช่ด้วยผลงานอันมากมายของ ‫ليست ا لروعة با لإ نجا زا ت‬
คุณเท่านั้น หากแต่ด้วยจิตใจอัน ‫ بل الروعة بروحك الصافية‬،‫فحسب‬
บริสุทธ์ิของคุณและแรงบันดาลใจ ‫ أن‬..‫وإلهامك للأخرين أن ينجحوا‬
ของคุณทีท่ �ำใหพ้ วกเขาประสบความ
ส�ำเร็จท�ำให้พวกเขาเดินหน้าต่อไป ..‫يستمروا‬

มนั ยอดเยยี่ มจรงิ ๆ ทค่ี ณุ ใหค้ วาม ‫الروعة أن تعطيهم الأمل كل يوم‬
หวังพวกเขาโดยที่คุณไม่รู้ตัว และ
วาดรอยย้ิมบนริมฝีปากของพวกเขา ‫ الروعة أن تصحبهم‬،‫وأنت لا تدري‬
ถึงแม้คุณจะไม่อยู่ด้วยกับพวกเขา
ก็ตาม ‫في حياتهم وأن ترسم الابتسامة‬
ً
‫على شفاههم حتى وإن كنت غائبا‬

..‫عنهم‬

28

มันยอดเยี่ยมจริง ๆ ท่ีคุณทุ่มเท ‫الروعة أن تكون بذل ًا وعطا ًء‬
ให้และเป็นที่พักพิงที่ปลอดภัย ..‫ تلك هي الروعة بحق‬،ً‫وملاذاً أمنا‬

เพราะผีเสื้อไม่รู้หรอกว่าปีกของ ‫فالفراشات لا تعرف ألوان‬
มันมีสีสันงดงาม หากแต่สายตาของ ‫أجنحتها ولكن أعين البشر تعرف‬
มนุษย์ต่างหากท่ีรับรู้ว่ามันงดงาม ‫ أنت لا تعرف مدى‬... ‫مدى روعتها‬
คุณไม่รู้หรอกว่าคุณยอดเย่ียมเพียง ‫ ولكن هناك من البشر‬،‫روعتك‬
ใด แต่มีคนบางกลุ่มที่เห็นถึงความ !‫من يعرف مدى أهميتك وروعتك‬
ส�ำคัญและความยอดเย่ียมของคุณ

คุณอาจจะหลับอยู่ ขณะท่ีหลาย ‫ربما تنام وعشرات الدعوات‬
สิบดุอาอ์ถูกขอให้เพื่อคุณ จากผู้ท่ี ‫ من فقير أعنته أو جائع‬.... ‫ترفع لك‬
ขัดสนที่คุณเคยช่วย หรือผู้หิวโหยท่ี ‫أطعمته أو حزين أسعدته أو مكروب‬
คุณเคยให้อาหาร หรือผู้โศกเศร้าท่ี
คุณได้ท�ำให้เขาพบความสุข หรือผู้ ‫نفست عنه‬
อมทุกข์ท่ีคุณได้คลายทุกข์เขา

ดังนั้น อย่าละเลยท่ีจะท�ำความ ‫فلا تستهن بفعل الخير وتذكر‬
ดี และจงจ�ำไว้ว่า มารยาทที่ดีไม่ตาย ..‫أن الأخلاق لا تموت بعد الرحيل‬
ไปกับเรา

29

ข้อคิด 4 ประการจากท่านร่อซูล g

อ.บัลยา มันตีเมาะ

‫يْ ِه َو َس ّلَ َم‬:َ‫ا َرَك ِ َن َض ِفايلل َُهك ََعلنْ ُهيَ َم ُا ُّض َع ُكِن َماال َّنفَِا ِّتَب َ َكص َِّمل َنالاللُه ُّد ْن َعَيال‬،‫ل ِه«بْأَ ِنْر َب ٌُعع َمِإ َرَذ‬:‫َع ْن َعبْ َقِدا َالل‬
‫ َو ِع َّف ُة ُط ْع َم ٍة‬،‫ َو ُح ْس ُن َخ ِلي َق ٍة‬،‫ َو ِص ْد ُق َح ِدي ٍث‬،‫ِح ْف ُظ أَ َمانَ ٍة‬

‫رواه الحاكم والطبراني‬

จากท่านอับดุลลอฮ์ อิบนิ อุมัร ร่อฎิยัลลอฮุอันฮุมา จากท่านนบี
ศ็อลลัลลอฮุอะลัยฮิวะวัลลัม กล่าวว่า :

“เมื่อท่านรักษา 4 ประการนี้ไว้ ท่านจะไม่ขาดแคลนสิ่งใดอีก
เลยในโลกนี้ นั่นคือ รักษาอมานะฮ์ มีคำ�พูดที่สัจจริง มีอุปนิสัยที่ดี และ
ระวังสิ่งที่ฮะรอม พร้อมกับรักษาสิ่งที่ฮะล้าลในการบริโภค”

(บันทึกโดยอิมามอะฮ์หมัด ฮากิมและอัฏฏอบรอนีย์)
ท่านนบีมุฮัมมัด g ส่งเสริมให้บรรดาผู้ศรัทธามีคุณลักษณะ 4
ประการน้ี ซึ่งเป็นคุณลักษณะที่นับได้ว่า มีจริยธรรมที่ประเสริฐอย่างแท้จริง
เป็นความสวยงามของผู้ศรัทธา เมื่อได้ปฏิบัติตามแบบอย่างที่ท่านร่อซูล g
ได้แนะน�ำไว้ และเขาจะไม่มีความเศร้าสลดใจเลย เมื่อเขาได้จากโลกนี้ไป
เพราะเป็นความดีอย่างมาก
30

ประการท่ี 1 ‫ ِح ْف ُظ أَ َمانَ ٍة‬คือการรักษาของฝากท่ีผู้ที่มีความพึงพอใจ
ผู้ไว้วางใจต่อเรา ไม่ว่าจะมาจากพระเจ้าหรือมนุษย์ การท่ีเราปฏิบัติหน้าที่
ตามท่ีอัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา มอบหมายให้ปฏิบัติเป็นอมานะฮ์อัน
ย่ิงใหญ่ รับฝากจากผู้ท่ีมอบหมายให้ดูแลทรัพย์สิน ลูกหลานเขา ก็เป็นหน้าท่ี
อันประเสริฐเช่นเดียวกัน การรักษาความลับของพี่น้องที่ไว้วางใจต่อเรา ไม่
คดโกง ไม่แพร่งพรายความลับให้ใครรู้ก็เป็นอมานะฮ์

ประการที่ 2 ‫ ِص ْد ُق َح ِدي ٍث‬พูดความจริง คือบอกข่าวส่ิงท่ีตรงต่อ
ความเป็นจริง เมื่อเหตุการณ์น้ันเกิดขึ้นต่อหน้า ไม่พูดเกินเลย หรือใส่ความ
เขาหรือถูกเรียกให้เป็นพยานยืนยันในเรื่องต่าง ๆ ก็ต้องพูดความจริง ถึงแม้
จะเกิดขึ้นกับพ่ีน้องใกล้ชิด หรือเพื่อนสนิท

ประการที่ 3 ‫ ُح ْس ُن َخ ِلي َق ٍة‬มีอุปนิสัยท่ีดี มีจรรยามารยาทที่ดีงาม
มนุษย์เราต้องมีสังคม สังคมจะดีได้ ต้องให้เกียรติกัน ทักทายให้สลาม ถาม
ทุกข์สุขซ่ึงกันและกัน ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความนอบน้อม ถ่อมตน มีความอ่อน
โยนต่อกัน ไม่คุยโวโอ้อวด คุยทับพูดเสียดสีกัน มีกริยาท่าทางท่ีน่ารังเกียจ
จนท�ำให้ผู้คนไม่อยากเข้าใกล้หรือคบค้าด้วย

ประการท่ี 4 ‫ ِع َّف ُة ُط ْع َم ٍة‬คือการปกป้องตัวให้พ้นจากสิ่งที่ฮะรอม
รักษาส่ิงที่ฮะล้าล ในเร่ืองอาหารการกินหรือการมีชีวิตอยู่ ไม่โลภ อยากได้
ของเขา อยากมีทรัพย์สินเยอะ ๆ เป็นคนไม่รู้จักพอ ไม่ค�ำนึงว่าทรัพย์สินท่ี
ได้มาเป็นสิ่งท่ีฮะล้าลหรือฮะรอม อัลลอฮ์ ซุบฮานะฮูวะตะอาลา จะไม่ให้
ทรัพย์สินท่ีได้มาแบบนี้ มีบะรอกะฮ์เลย ไม่มีความจ�ำเริญ และยังเป็นเช้ือ
ไฟนรกด้วย

31

ความประเสริฐของซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิ

อ.อิสมาอีล สุขประเสริฐ

เม่ือผมยังเป็นเด็ก ผมเห็นยายของผมอ่านซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิเป็น
ประจ�ำในวันศุกร์ พอมาอยู่โรงเรียนประจ�ำคุณครูก็จะส่ังให้อ่านซูเราะฮ์นี้
พร้อมกันทุกวันศุกร์หลังละหมาดซุบฮิและหลังละหมาดอัสริ จึงมีค�ำถามอยู่
ในใจมาตลอดว่า

1. ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิมีความประเสริฐอย่างไรเม่ืออ่านวันศุกร์ ?
2. ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิมีค�ำสอนและเป้าหมายท่ีเน้นย�้ำอะไรให้แก่เรา
บ้าง ?
เม่ือได้เรียนรู้และอ่านซูเราะฮ์นี้เองจึงรู้ว่า ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิถือได้
ว่าเป็นบทที่ว่าด้วยแนวทางค�ำสอนและการด�ำเนินชีวิตของมุสลิมท่ีก่อให้เกิด
ความผาสุกและความอบอุ่นใจ บทนี้ยังช่วยให้มุสลิมรอดพ้นจากความวุ่นวาย
ของโลกนี้ที่ไม่จีรังย่ังยืน ทั้งยังช่วยตักเตือนให้ผู้ศรัทธาร�ำลึกนึกถึงวันฟื้น
คืนชีพและการสอบสวน ผู้ที่ส�ำเร็จที่แท้จริงคือ ผู้ท่ีใช้ชีวิตของเขาอยู่ใน
แนวทางการศรัทธาและมีความย�ำเกรงต่ออัลลอฮ์เท่าน้ัน
ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิเป็นล�ำดับท่ี 18 ในคัมภีร์อัลกุรอาน เป็นซูเราะฮ์
ที่ถูกประทานท่ีเมืองมักกะฮ์ ถ้าเราเปิดคัมภีร์อัลกุรอานจะพบว่า ซูเราะฮ์น้ี
อยู่กลางเล่มพอดี ค�ำว่า “อัลกะฮ์ฟิ”ภาษาอาหรับแปลว่าถ้�ำท่ีกว้างและมี
พ้ืนที่มาก บางท่ีเป็น 10 กิโลเมตรหรือมากกว่า บางคนเข้าไปแล้วอาจจะ
หลงทาง
32

ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิพูดถึง “อัศฮาบุ้ลกะฮ์ฟิ” คือ ชาวถ้�ำท่ีอัลลอฮ์
ตะอาลาทรงยืนยันถึงความม่ันคงในหลักยึดมั่นศรัทธาของพวกเขา ที่ได้หลบ
หนีจากการไล่ล่าของผู้อธรรม ท่ีไม่พอใจหลักการศรัทธาของพวกเขาคือ หลัก
เตาฮีด (หลักการเคารพภักดีต่ออัลลอฮ์เพียงองค์เดียว)และวันอาคิเราะฮ์
อัลลอฮ์ ตะอาลา จึงทรงคุ้มครองพวกเขาให้ปลอดภัยและนอนหลับอยู่ใน
ถ�้ำเป็นระยะเวลายาวนานถึง 309 ปี

• เนื้อหาของซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิโดยสรุปมีอะไรบ้าง ?
ซูเราะฮ์นี้เริ่มต้นโดยการกล่าวสรรเสริญอัลลอฮ์ ตะอาลา ด้วยค�ำ
ว่า “อัลฮัมดุล้ิลลาฮ์”และพูดถึงคุณลักษณะท่ีโดดเด่นของคัมภีร์อัลกุรอานท่ี
มีค�ำสอนอันเที่ยงธรรมและเท่ียงแท้ และบอกถึงสาเหตุท่ีอัลกุรอานถูกประทาน
ลงมาเพื่อตักเตือนมนุษย์ให้ระวังการลงโทษในนรก และเพื่อแจ้งข่าวดีให้แก่
ผู้ท่ีศรัทธาและท�ำความดีตามค�ำแนะน�ำของอัลลอฮ์และร่อซูลของพระองค์
ว่าจะได้เข้าสวนสวรรค์ของพระองค์
ต่อมาได้ย�้ำเตือนว่าชีวิตบนโลกน้ีไม่จีรังย่ังยืน และเป็นเพียงสถาน
ที่ทดสอบเท่าน้ัน ว่าใครจะมีผลงานที่ดี
ซูเราะฮ์นี้ยังเตือนคนท่ีด�ำเนินชีวิตตามแนวทางของอิบลีสและชัย
ฏอน ผู้ผ่านการทดสอบคือคนที่มีศรัทธาและท�ำการงานท่ีดีและยืนหยัดอยู่
ในแนวทางอันถูกต้องเท่าน้ัน
และยังเน้นเรื่องราวของคนและเหตุการณ์ในอดีต เช่น ชาวถ้�ำท่ียึด
มั่นในหลักศรัทธา และพูดถึงเจ้าของสวนองุ่น 2 คน คนหน่ึงลุ่มหลงในทรัพย์
อีกคนหน่ึงมั่นใจว่าทรัพย์ท่ีได้มาน้ันล้วนเป็นการทดสอบจากเอกองค์อัลลอฮ์
ตะอาลา แต่ละคนมีหลักยึดมั่นคนละแบบกัน จึงได้รับผลต่างกัน ถือว่าเป็น
บทเรียนสอนใจส�ำหรับผู้ท่ีอ่านซูเราะฮ์นี้อย่างพิจารณาใคร่ครวญ

33

นอกจากนี้ยังกล่าวถึงนบีอาดัม อะลัยฮิสสลาม กับผู้เย่อหยิ่งโอหัง
คืออิบลีส

กล่าวถึงนบีมูซา อะลัยฮิสสลาม กับบ่าวของอัลลอฮ์ท่านหน่ึงท่ีมี
ความรู้มากกว่า และเร่ืองของซุลกอรนัย ยะอ์ญูจและมะอ์ญูจ

• ซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิมีความประเสริฐอย่างไร ?
ปวงปราชญ์ต่างลงมติเป็นเอกฉันท์ว่า ศาสนาส่งเสริมและกระตุ้น
ให้มุสลิมทุกคนอ่านทุกวันศุกร์ ดังฮะดีสท่ีว่า :

‫ « َم ْن َق َرأَ ُسو َر َة الْ َك ْه ِف يَ ْو َم ا ْلُ ُم َع ِة أَ َضا َء َ ُل ِم َن‬: g ‫قال رسول الله‬
»‫ال ُّنو ِر َما َب ْ َي ا ْلُ ُم َع َت ْ ِي‬

ความว่า : ท่านร่อซูล  กล่าวว่า : “ผู้ใดที่อ่านซูเราะฮ์อัล
กะฮ์ฟิวันศุกร์เขาจะได้รับรัศมีในระหว่างสองวันศุกร์”

(ซอเฮี้ยะอัลญามิอ์)

‫ « َم ْن َح ِف َظ َع ْ َش‬: g ‫عن أبي الدرداء رضي الله عنه قال رسول الله‬
»‫آيَا ٍت ِم ْن أَ َّو ِل ُسو َر ِة الْ َك ْه ِف ُع ِص َم ِم َن ال َّد َّجا ِل‬

ความว่า : รายงานจากอบิ๊ดดัรดาอ์  ว่า ท่านร่อซูล  กล่าว
ว่า “ผู้ที่ท่องจำ� 10 อายะฮ์แรกของซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิ เขาจะได้รับความ
ปลอดภัยจากการล่อลวงของดัจญ้าล”

(บันทึกโดยอิมามมุสลิม)
ส่วนผู้ที่อ่านซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิวันศุกร์จนจบซูเราะฮ์ เขาจะได้รับรัศมี
ส่องสว่างไปจนถึงบัยตุ้ลอะตี๊ก (บ้านอันเก่าแก่คือบัยตุ้ลลอฮ์) ดังฮะดีสท่ีว่า :

34

‫ « َم ْن َق َرأَ ُسو َر َة الْ َك ْه ِف ِف يَ ْو ِم ا ْلُ ُم َع ِة أَ َضا َء َ ُل ِم َن‬: g ‫قال رسول الله‬
»‫ال ُّنو ِر َما بَيْنَ ُه َو َب ْ َي ا ْ َليْ ِت الْ َع ِتي ِق‬

ความว่า : ท่านร่อซูล  กล่าวว่า : “ผู้ที่อ่านซูเราะฮ์อัลกะฮ์ฟิ
วันศุกร์ เขาได้รับรัศมีส่องสว่างระหว่างเขาถึงบัยตุ้ลอะตี๊ก (บ้านอันเก่า
แก่ คือ บัยตุ้ลลอฮ์)”

(ซอเฮี้ยะอัลญามิอ์)
• อ่านช่วงเวลาไหนดี ?
อ่านได้ทั้งกลางวันและกลางคืน แต่ที่ดีท่ีสุดคือให้อ่านขณะท่ีร่างกาย
และจิตใจพร้อม รวมท้ังพิจารณาใคร่ครวญความหมายด้วย
มีหลักฐานยืนยันมากมายให้อ่านได้ตั้งแต่ดวงอาทิตย์ตกของวัน
พฤหัสบดีจนถึงวันศุกร์ก่อนดวงอาทิตย์ตก
ผมเขียนมาทั้งหมดน้ีเพ่ือกระตุ้นให้เกิดความพยายามในการสะสม
ความดีงามและขอให้อัลลอฮ์ทรงตอบแทนความดีแก่ผู้ที่ตั้งใจและม่ันใจใน
การสะสมความดีนะครับ

35

สัญญาของอัลลอฮ์

อ.อบูบักร อิสมาแอล

เมื่อเราอ่านอัลกุรอานเราจะพบสัญญาของอัลลอฮ์  ท่ีบอกกับเรา
ไว้พันส่ีร้อยกว่าปีมาแล้ว มันเพียงพอหรือไม่ กับสี่สัญญาท่ีอัลลอฮ์ได้บอก
ไว้กับผู้ที่ศรัทธาในการด�ำเนินชีวิตดังนี้ :-
สัญญาแรก คือ อัลลอฮ์จะทรงเพิ่มพูนให้ส�ำหรับผู้ที่ขอบคุณต่อ
พระองค์
﴾ ۖ‫﴿ َلئِن َش َك ۡر ُت ۡم َلَزِي َدنَّ ُك ۡم‬

ความว่า : “หากพวกเจ้าขอบคุณข้า (อัลลอฮ์) จะเพิ่มพูนให้”
(อิบรอฮีม : 7)

ทุกวันนี้ที่มุสลิมประสบกับความตกต�่ำไม่ประสบความส�ำเร็จ ลอง
ย้อนกลับไปถามตัวเองว่า วันน้ีเราขอบคุณอัลลอฮ์บ้างหรือไม่ ? มีมุสลิม
จ�ำนวนมากต่ืนมาขอบคุณหมอ ขอบคุณยาสมุนไพรที่เรากินแต่ลืมท่ีจะ
ขอบคุณต่ออัลลอฮ์ วันน้ีเม่ือเราตื่นมามีใครสักคนหรือไม่ ท่ีต่ืนมาจะกล่าว
ดุอาอ์ตื่นนอน สิ่งนี้คือจุดเล็ก ๆ น้อย ๆ ท่ีเรามองข้าม

อัลกุรอานบอกกับเราในการประทานปัจจัยยังชีพถึงเก้าสิบกว่าท่ี
แต่ชัยฎอนขู่เราให้กลัวความยากจนคร้ังเดียว เรากลับเชื่อมันแต่เรากลับไม่
เช่ือค�ำพูดของอัลลอฮ์เก้าสิบกว่าอายะห์ จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าท�ำไมสังคม
ทุกวันน้ีจึงพบปัญหา โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนท่ีเป็นมุสลิม แต่เขาบอกว่าชีวิต

36

ของเขาไม่มีความสุข ค�ำถามน้ีต้องถามกลับว่า วันนี้คุณขอบคุณอัลลอฮ์หรือ
ไม่ ?

สัญญาที่สอง คือ อัลลอฮ์ทรงร�ำลึกถึงผู้ที่ร�ำลึกถึงพระองค์ เราบอก
ว่าเราโดดเดี่ยวไม่มีใครอยู่กับเรา หมดแล้วซึ่งท่ีพ่ึงสุดท้าย คนท่ีไม่มีพระเจ้า
ตัดสินใจปิดตัวเอง ฆ่าตัวตาย หลายคนเป็นโรคซึมเศร้า เพราะคิดว่าโลกนี้
ไม่มีใครอีกแล้ว

แต่อัลลอฮ์  ตรัสไว้ว่า

﴾ ‫﴿ َفٱ ۡذ ُك ُرو ِ ٓن أَ ۡذ ُك ۡر ُك ۡم‬

ความว่า : “ดังนั้น พวกเจ้าจงรำ�ลึกถึงข้า (อัลลอฮ์) และข้า
(อัลลอฮ์) จะรำ�ลึกถึงพวกเจ้า”

(อัลบะกอเราะห์ : 152)
เม่ือไม่มีใครมองเรา ไม่เป็นไร แต่พี่น้องจงมั่นใจว่าอัลลอฮ์ทรงมอง
ดูเราอยู่ทุกวัน ทุกลมหายใจ อัลลอฮ์ทรงเฝ้ามองดูเราอยู่ อย่าบอกว่า “เรา
ไม่เหลือใคร” ค�ำพูดน้ีห้ามพูด ส�ำหรับคนที่เป็นมุสลิม มุอ์มิน “เราอยู่กับ
อัลลอฮ์” แต่น่าเสียดายที่วันน้ีเรามักจะโทษนั่น โทษนี่แต่กลับไม่เคยโทษตัว
เอง ณ วันนี้ท่ีเราบอกว่าเราไม่เหลือใครน้ัน คือ เราไม่เคยที่จะร�ำลึกนึกถึง
อัลลอฮ์ ใช่หรือไม่ ? และการร�ำลึกนึกถึงอัลลอฮ์ท่ีดีก็คือการกลับไปศึกษา
ส่ิงที่อัลลอฮ์ได้ตรัสไว้
“มิใช่เพราะการรำ�ลึกถึงอัลลอฮ์ดอกหรือ ที่ทำ�ให้หัวใจของเจ้า
สงบสุข” (อรั เราะอด์ ์ : 28)
จงขอบคุณอัลลอฮ์เถิด ร�ำลึกนึกถึงอัลลอฮ์เถิด ไม่ว่าท่านจะเจอ
อะไรก็ตาม สองส่ิงนี้เป็นสัญญาท่ีอัลลอฮ์ทรงให้ไว้ หากถ้านึกถึงอัลลอฮ์แล้ว
อัลลอฮ์ทรงนึกถึงเรามากกว่าท่ีเรานึกถึงอย่างมากมาย

37

สัญญาท่ีสาม คือ อัลลอฮ์จะทรงตอบรับการขอดุอาอ์

﴾ ‫﴿ ٱ ۡد ُعو ِ ٓن أَ ۡس َت ِج ۡب لَ ُك ۡۚم‬

ความว่า : “จงขอข้า (อัลลอฮ์) ข้า (อัลลอฮ์) จะตอบรับคำ�วิง
วอนขอของพวกเจ้า”

(ฆอฟิร : 60)
การขอดุอาอ์ก็เป็นอีกหน่ึงในกุญแจดอกส�ำคัญของสัญญาที่อัลลอฮ์
ได้ทรงสัญญาให้กับบ่าวของพระองค์
ดังนั้น ค�ำถามก็คือ เราเคยขอดุอาอ์หรือไม่ ? เราเคยตั้งใจในการขอ
ดุอาอ์หรือไม่ ? เราเคยเลือกเวลาที่ดุอาอ์จะถูกตอบรับหรือไม่ ? เราเคยขอ
ดุอาอ์ด้วยล้ินและหัวใจท่ีมีความคุช๊ัวะอ์ ขอในสภาพที่เรานอบน้อมยอมจ�ำนน
จริง ๆ เราขอให้อัลลอฮ์ทรงให้กับเรา แล้วเราเป็นเช่นนั้นแล้วหรือยัง ? แต่ถ้า
เราเป็นแล้ว อินชาอัลลอฮ์ พระองค์จะทรงตอบรับอย่างแน่นอน
ประการสดุ ทา้ ย สญั ญาทสี่ ี่ คอื อลั ลอฮท์ รงใหอ้ ภยั สำ� หรบั ผขู้ อการอภยั

﴾ ٣٣ ‫﴿ َو َما َك َن ٱلَّ ُل ُم َع ِّذ َب ُه ۡم َو ُه ۡم ي َ ۡس َت ۡغ ِف ُرو َن‬

ความว่า : “อัลลอฮ์จะไม่ทรงลงโทษพวกเขา ตราบที่พวกเขายัง
คงขออภัยโทษ (ต่อพระองค์)

(อัลอันฟาล: 33)
บรรพชนในอดีตเคยเปรียบให้เราได้พิจารณาในเร่ืองของการขอไว้
อย่างน่าคิด ท่านกล่าวว่า ใครใช้ให้เราขอการอภัย ? เป็นเรื่องท่ีน่าประหลาด
ใจหรือไม่ ? ผู้ให้เป็นผู้สั่งให้เราขอและเมื่อเราขอมีไหมท่ีผู้ท่ีส่ังให้ขอจะไม่
ให้อภัย
เหมือนกับใครสักคนหนึ่งสั่งให้เราขอสิ่งหน่ึง แล้วเขาจะให้ในสิ่งท่ี

38

ขอ แต่น่ีอัลลอฮ์สั่งให้เราขอ ผู้ซ่ึงเป็นพระเจ้า ให้เราขออภัยและมันเป็นไป
ไม่ได้เมื่ออัลลอฮ์ส่ังเราแล้วอัลลอฮ์จะไม่ให้อภัยเรา

สี่สัญญานี้เป็นส่ิงท่ีเรามองข้ามกัน การขอบคุณต่ออัลลอฮ์ การ
ร�ำลึกนึกถึงอัลลอฮ์ การขอดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์และการขออภัยในความผิดที่เรา
ท�ำต่ออัลลอฮ์

พี่น้องผู้ศรัทธาทั้งหลาย ไม่มีอะไรอีกแล้วที่จะเป็นสัญญาท่ีจริง
สัญญาท่ีไม่เคยโกหก สัญญาที่ไม่บิดพริ้ว หลอกลวง ไม่มีสัญญาอะไรอีกแล้ว
ในชีวิตของเราที่มันจะสมบูรณ์ ม่ันคง ถาวรกว่าสัญญาของอัลลอฮ์

ด้วยความเป็นห่วงเยาวชนและบุตรหลานของเราท่ีจะต้องเจอกับ
สภาพสังคมที่จะหนักข้ึนเรื่อย ๆ ถึงเวลาแล้วท่ีเราจะต้องหันกลับมาอย่าง
จริงจัง หันกลับมาเอาใจใส่ครอบครัวของเราและลูกๆของเรา พ่ีน้องครับ
เราต่างก�ำชับลูกให้ท�ำการบ้าน แต่มีใครสักคนไหมเคยก�ำชับลูกให้ละหมาด
หลายคนก�ำชับลูกทุกเร่ืองแต่ไม่เคยถามลูกว่า ลูกละหมาดหรือยัง? มีครั้ง
หนึ่งเคยมีแม่ของเด็กไปถามเชคว่า เชค ลูกของฉันไม่ต่ืนไปละหมาดเลย ปลุก
อย่างไรก็ไม่ตื่นไปละหมาดซุบฮิ ไม่รู้จะท�ำอย่างไร ? เชคถามกลับมาว่า : แล้ว
ถ้าไฟไหม้บ้าน คุณจะปลุกลูกให้ต่ืนหรือไม่ ? นางตอบว่ายังไงก็ต้องปลุกให้
ต่ืน แล้วเชคถามว่า : ถ้าวันนี้ลูกไม่ละหมาด แล้วอัลลอฮ์ให้ลูกเธอลงนรก
เธอจะทนได้หรือไม่ ?

สังคมเราประสบปัญหา เพราะสังคมเราไม่เอาศาสนามาเป็นแกน
หลักในการด�ำเนินชีวิต ชีวิตจึงล้มเหลววิบัติและพบกับความหายนะ แต่วัน
น้ีถ้าพี่น้องขอบคุณอัลลอฮ์ ร�ำลึกนึกถึงอัลลอฮ์ ดุอาอ์ต่ออัลลอฮ์ ผิดแล้ว
ส�ำนึกผิดและขออภัย ชีวิตพ่ีน้องมีความสุขอย่างแน่นอนด้วยกับสัญญาของ
อัลลอฮ์

39

บทเรียนนอกห้องเรียน

อ.ญะม้าล ไกรชิต
• ไม่ว่าเหตุการณ์หรือผู้คน ดีหรือร้ายท่ีผ่านเข้ามาในชีวิต ล้วนเป็น

บทเรียน จงเรียนรู้ ท�ำความเข้าใจและจดจ�ำไว้เพื่อสอนใจเราเอง
• ไม่มีใครที่เรียนไม่ได้ มีแต่ต้ังใจกับไม่ต้ังใจเรียน
• ถ้าวันนี้ตัวเรายังไม่เป็นอย่างท่ีเราหวัง ถามตัวเองซิว่า เราพยายาม

มากพอแล้วหรือยัง?
• แย่กว่าการโดนใครดูถูกคือการที่เราดูถูกความสามารถตัวเราเอง

ทุ่มเทมันให้เต็มท่ีแล้วมอบหมายต่ออัลลอฮ์เถิด
• ไม่ใช่แค่ความรู้ท่ีจ�ำเป็นส�ำหรับเราในอนาคต ทักษะที่เราต้องใช้

ก็เช่นกัน เมื่อวันนี้ยังมีโอกาสก็จงศึกษาและฝึกฝนทักษะที่เป็นประโยชน์
• การผัดวันประกันพรุ่ง ท�ำให้เสียงานและเป็นภัยแก่ตัวเอง
• เราถูกปลูกฝังความดีงามมาต้ังแต่เด็ก เมื่อโตเป็นผู้ใหญ่ อย่างทิ้งมัน
• การเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี คือ การใช้ประสบการณ์ท่ีมีให้เป็น

ประโยชน์

40

“ที่ ๆ ฉันจากมา”

อ.ซอบรี นภากร

บทร�ำพันของอบุลอะตาฮียะฮ์
ถือก�ำเนิดเพื่อลงเอยด้วยความตาย
ก่อสร้างเพ่ือลงเอยด้วยความรกร้าง
พวกท่านทุกคนต้องจากมันไป
เราสร้างให้ใครในเวลาที่เราเคลื่อนสู่ดิน
เราจะจบลงเช่นเดียวกับที่ถูกสร้างมา
ความตายเอ๋ย เจ้าน้ันช่างยืนยง
เจ้าไม่เคยละเว้นเห็นแก่หน้าใคร
เหมือนเจ้ากระโจนหาเราเม่ือยามแก่
เช่นที่ความแก่ตรงเข้าจัดการกับความหนุ่ม
ดุนยาเอ๋ยใยตัวเราเห็นแต่เพียง
บ้านท่ีสร้างให้แล้วพลันผุพัง
เวลาเอ๋ยเจ้าโยนดุนยาให้เรา
แต่เจ้ากลับเร่งรัดริบมันไป
เวลาเอ๋ยเจ้าช่างจัดแจงเจรจา
เวลาเอ๋ยเจ้าช่างเปล่ียนแปลงช่างแปรผัน
ใยเราไม่ลุกข้ึนขูดรีดเจ้าบ้าง ?

41

เราจักได้เชยชมผลของความวิริยะน้ัน
คราใดที่เรารบเร้าเจ้าถึงส่ิงใด
ครานั้นเจ้าจะเทแต่ความทุกข์ใจใส่ตัวเรา
แม้ผู้คนวาดหวังจากเจ้าสักเพียงใด
ก็เป็นแค่ภาพฝันเป็นด่ังเงาของก้อนเมฆ
เป็นประหน่ึงวันวานท่ีลาลับ
ไม่เคยย้อนกลับหรืออาจเป็นดังภาพลวงตา
ผู้คนล้วนถูกเจ้าพัดพาหอบหิ้วไป
ดั่งว่าพวกเขาอยู่บนพาหนะกันเรียบร้อย
จุดจบของทุกผู้ทุกนามผู้กระท�ำการ
จะลงเอยที่พรุ่งนี้ ณ บ้านแห่งการตอบแทน
ฉันกระท�ำเร่ืองเลวร้ายมากมายในชีวิต
ด่ังว่าตนคงพ้นผิดจากการลงทัณฑ์
ต่อให้เพียรพยายามสักปานใด
ก็ไม่อาจพานพบเส้นชัยท่ีหมายปอง
ฉันต้องถูกสอบสวนทุกส่ิงท่ีกระท�ำไป
จะอ้างอันใดจะตอบเช่นใดในวันนั้น
จะให้แก้ตัวแก้ต่างว่าอย่างไร?
เม่ือถูกลากดึงไปในวันพิพากษา
ค�ำตอบคงเด่นชัดในบันทึกของฉัน
หากไม่สถาพรในความผาสุก
ก็คงต้องทนทุกข์ระทมตลอดไป...
42

คนคิดบวก

อ.รอบีอะฮ์ อิสมาแอล

ความคิดเป็นนามธรรมหรืออาการนามท่ีมีความหมายที่กว้างขวาง
แต่ไม่น่าเชื่อว่าค�ำ ๆ น้ี จะเปล่ียนแปลงไปเม่ือข้ึนอยู่กับคนท่ีมีลักษณะแตก
ต่างกัน

ความคิด เมื่ออยู่กับคนขยัน ก็คิดที่จะท�ำมาหากิน หากิจกรรมดี ๆ
เพื่อเป็นประโยชน์

ความคิด เม่ืออยู่กับคนซ่ือสัตย์ ก็จะก่อให้เกิดความถูกต้องเท่ียงธรรม
ความคิด เมื่ออยู่กับคนอดทน ก็จะก่อให้เกิดความงดงามแก่ผู้พบเจอ
แต่ถ้าความคิดมาอยู่กับคนเหล่านี้จะเป็นอย่างไร
คนอิจฉา คนเกียจคร้าน คนเอารัดเอาเปรียบ คนดูถูกผู้อื่น คน
อ่อนแอ คนไม่รับผิดชอบ คนเห็นแก่ตัว และอีกมากมาย
ทุกท่านลองหาค�ำตอบกันเองนะคะ
แล้วถ้าเราอยากเป็นคนดี คิดบวก มองโลกในแง่ดี เราจะต้องเร่ิม
จากอะไร ?
1. เริ่มจากการคิดดีต่ออัลลอฮ์ เพราะเป็นหน่ึงในสิทธิของการศรัทธา
ท่ีเราต้องมีกับพระองค์ ไม่ว่าอะไรก็ตามท่ีเกิดขึ้นกับเราต้องเช่ือมั่นว่ามาจาก
อัลลอฮ์ ผู้ทรงสร้าง และต้องเชื่อมั่นอย่างหมดใจว่านั้นเป็นส่ิงที่ดีกับเรา
แม้ว่าขณะนั้นจะเจ็บปวดเสียใจ ทุกข์ทรมานเพียงใดเช่ือเถอะว่าน้ันคือส่ิงที่
ดีท่ีสุดกับเราเสมอ

43

‫ قال النبيﷺ‬: ‫عن أبي هريرة رضي الله عنه‬
»‫ َوأَنَا َم َع ُه ِإ َذا َذ َك َر ِن‬،‫ «أَنَا ِعنْ َد َظ ِّن َعبْ ِدي ِب‬: ‫يقول تعالى‬

มีรายงานจากท่านอบูฮุรอยเราะฮ์ h ว่า ท่านนบี g กล่าวว่า :
อัลลอฮ์ ตะอาลา ตรัสว่า : “ข้าอยู่ ณ ความนึกคิดของบ่าวของข้าที่มี
ต่อข้า และข้าจะอยู่กับเขาเมื่อเขานึกถึงข้า”

(บันทึกโดยอิมามบุคอรีและอิมามมุสลิม)
กล่าวคือ ทุกครั้งที่เรานึกถึงอัลลอฮ์ อัลลอฮ์ทรงอยู่กับเราถ้าเรา
นึกคิดดีต่ออัลลอฮ์แน่นอนอัลลอฮ์จะทรงเมตตาช่วยเหลือเรา

»‫ «إِ َّن َر ْ َح ِت َغلَ َب ْت َغ َض ِب‬: ‫قال تعالى‬

อัลลอฮ์ตรัสว่า : “แท้จริง ความเมตตาของฉันอยู่เหนือความ
โกรธของฉัน”

(บันทึกโดยอิมามบุคอรีย์)
เราต้องคิดดีกับอัลลอฮ์แม้ในขณะเวลาแห่งความตาย เวลาทุกข์ใจ
เวลาท่ีชีวิตล�ำบากยากเข็ญ เวลาหน้ีสินท่วมตัว เพราะผู้ใดมีหนี้และเขาคิด
ท่ีจะท�ำการชดใช้ อัลลอฮ์จะทรงชดใช้ให้เขา (ช่วยเหลือเขา) คิดดีกับอัลลอฮ์
ในเวลาขอดุอาอ์ และเชื่อมั่นว่าดุอาอ์น้ัน ๆ จะถูกตอบรับ และในขณะเตา
บัตตัวต่ออัลลอฮ์เพราะต่อให้เราท�ำผิดต่ออัลลอฮ์แต่เราเฝ้าขออภัยโทษ
อัลลอฮ์ก็จะทรงยกโทษให้ ถึงแม้เราจะไปท�ำความผิดซ้�ำแล้วซ้�ำอีกก็ตาม
2. คิดดีกับคนรอบข้าง
เช่นพ่อแม่ ย่ิงถ้าพ่อแม่แก่ชราอยู่กับเราย่ิงต้องคิดดีกับท่านให้มาก ๆ
เวลาท่านไม่ได้ยินอย่าตะคอก ให้พูดซ้�ำชัดๆ ด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม คิดเสมอ
ว่าอายุท�ำให้ท่านถดถอย เวลาท่านทานอาหารไม่เรียบร้อยให้เตรียมทิชชู่

44

แล้วเช็ดให้พร้อมรอยยิ้ม คิดเสมอว่าท่านอาจเห็นไม่ชัด มือสั่นเทาเพราะ
ความชรา
เวลาที่ท่านเอาแต่ใจ ใจร้อน โมโห ให้เราน่ิงแล้วเอามือลูบไหล่ท่าน
เบาๆ พร้อมรอยยิ้มแล้วบอกว่า ได้ครับ / ค่ะ จัดการให้เดี๋ยวน้ี คิดเสมอว่า
ท่านก็เหมือนเราตอนเด็ก ๆ
3.คิดดีกับคู่ชีวิต
เมื่อใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันนานเข้า ความเคยชินจะท�ำให้เขาและเรา
บกพร่องไปในบางเร่ือง ดังนั้น ให้คิดดีว่าเขาอาจจะเหนื่อย งานอาจจะมาก
รถอาจจะติด หรือมีประชุมเครียด แล้วมองหาข้อดีและเติมเต็มให้กันและกัน
แทนที่จะชวนทะเลาะมาชวนกันหัวเราะดีกว่า ท่านร่อซูล g กล่าวว่า :
‫ُخلُ ًقا‬ ‫َك ِر َه‬ ‫ِإ ْن‬ ،‫ُم ْؤ ِم َن ًة‬ ‫َي ْف َر ْك‬ َ
‫َر ِ َض‬ ‫ِمنْ َها‬ ‫ُم ْؤ ِم ٌن‬ ‫«ل‬ : g ‫الله‬ ‫رسول‬ ‫قال‬

»‫ِمنْ َها آ َخ َر‬

“ผู้ศรัทธาชายอย่าได้รังเกียจผู้ศรัทธาหญิง หากท่านไม่พอใจ
นิสัยหนึ่งใดของนาง ก็จงพึงพอใจนางในสิ่งอื่น”

(บันทึกโดยอิมามมุสลิม)

4.คิดดีกับคนและสิ่งที่เราพบเจอ
คนกวาดถนน ยามในห้าง เพื่อนขับรถร่วมทาง แม่ค้าในตลาด หรือ
แม้แต่คน หรือเร่ืองราวในส่ือออนไลน์ คิดดี คิดบวกกับพวกเขาเถอะ เพราะ
เราไม่อาจรู้ได้ว่า เขาไปเจอะเจออะไรมาบ้าง ถึงได้แสดงออกไม่ดีกับเรา
เห็นคนหัวเราะดังๆในร้านอาหาร เราไม่รู้หรอกเขาอาจจะพ่ึงให้
คีโมจากโรงพยาบาลมา แล้วญาติพามาเลี้ยงอาหารก็เป็นได้
เห็นคนข้ามถนนช้า เราอาจไม่รู้หรอก เขาอาจเข้ากรุงเทพเป็นครั้ง
แรกก็ได้

45

เห็นคนขับรถรีบเร่งฉวัดเฉวียนก็ให้คิดข�ำๆว่า เขาอาจรีบพาใครบน
รถไปหาหมอ เชื่อเถอะว่าชีวิตจะดีขึ้นเยอะ

5.และสุดท้าย คิดดี คิดบวกกับตัวเอง นั่นคือไม่ท้อแท้กับความไม่
ส�ำเร็จ ไม่จมปลักกับความโกรธเคียดแค้น ไม่ต�ำหนิติเตียนทุกคนท่ีเราไม่
ชอบ ถ้าเราท�ำได้เราจะมีความสุข

เพราะเคล็ดลับดี ๆ ที่ชีวิตมีความสุขได้นั้นคือ
-คิดดีกับอัลลอฮ์ คิดดีกับตัวเอง คิดดีกับคนอ่ืน
-ทุ่มเทให้ปัจจุบัน ไม่กังวลอนาคต ไม่เสียใจกับอดีต
-นึกถึงสิ่งท่ีเรามี ไม่ไขว่คว้าในส่ิงท่ีเราไม่อาจมีได้
-มองดูคนท่ีด้อยกว่าเรา และขอบคุณในความโปรดปราณที่อัลลอฮ์ให้
-อยา่ คาดหวงั คำ� ชม คำ� ขอบคณุ จากคนอนื่ อยา่ ใสใ่ จคำ� พดู ทท่ี ำ� รา้ ยเรา
-สุดท้ายมอบหมายต่ออัลลอฮ์ และขอดุอาอ์ให้อัลลอฮ์ปรับปรุงเร่ือง
ดุนยาและอาคิเราะฮ์ของเรา
ชีวิตบนดุนยานั้นส้ันเกินกว่าท่ีเราจะเอาเวลา 21,900 กว่าวัน (หาก
คุณอายุ 60 ปี × 365 วัน) ไปหมดกับการมองโลกในแง่ร้าย คิดร้ายๆ ท�ำ
ร้ายๆ หรือพูดร้ายๆกับคนอื่น คิดดีตั้งแต่ตอนน้ีเลยค่ะ
“อย่าท�ำร้ายตัวเองด้วยความคิด อย่าท�ำร้ายคนใกล้ชิดด้วยค�ำพูด”

46

แน่ใจหรือว่า...คุณท�ำไม่ได้ เปลี่ยนแปลงไม่ได้

หรือคุณยังไม่อยากค้นหาและไม่อยากท�ำ

อ.ซอและห์ เยนา

‫بسم الله الرحمن الرحيم‬

‫الحمدلله رب العالمين والصلاة والسلام على سيدنا محمد وعلى آله وأصحابه أجمعين‬

ขอชุโกรต่ออัลลอฮ์ ซุบฮานาฮูวะตะอาลา ท่ีให้ตัวผมเองและพวก
เราทุกคนได้มีโอกาสเข้ามาศึกษาหาวิชาความรู้และใช้ชีวิตในช่วงหน่ึงของ
เรา ณ รั้วอัลฟุรกอนแห่งน้ี นับเป็นเวลามากกว่า 20 ปี ท่ีผมได้รู้จักและรู้สึก
ผูกพันกับสถานที่แห่งน้ี ซึ่งนับเป็นห้วงเวลาท่ีส�ำคัญในชีวิตของผมต้ังแต่ได้
ก้าวเท้าเข้ามา ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงอยู่ในความทรงจ�ำ แม้เวลาจะผ่านมา
เน่ินนาน นานมากกว่าคร่ึงของชีวิตผมจนถึงทุกวันนี้

ย้อนกลับไปนึกถึงวันแรกท่ีผมได้เข้ามาสมัครเรียนท่ีน่ี ผมได้สอบ
กับอิหม่าม (เชคอาลี อีซา  ) ท่านถามว่า ท่องจ�ำกุรอานซูเราะฮ์อะไรได้
บ้าง ผมจึงท่องซูเราะฮ์อัมมา อิหม่ามก็ย้ิม และถามว่าอยากเรียนท่ีน่ีจริง ๆ
ใช่ไหม ? ผมก็พยักหน้าตกลง และอัลฮัมดุลิ้ลลาฮ์ด้วยประสงค์ของพระองค์
ผมได้เข้าเรียนที่นี่ (เป็นคร้ังแรกท่ีผมรู้สึกตื่นเต้นท้ัง ๆ ท่ีเคยไปเรียนที่อื่นมา
ก่อนหน้านี้แล้ว) มันเป็นความรู้สึกที่แปลกแบบบอกไม่ถูก

47

เดือนแรกท่ีเข้ามาเรียนผมต้องปรับตัวในการใช้ชีวิตจากท่ีเคยอยู่
แบบอิสระต้องมาอยู่ภายใต้กฎระเบียบมากมายในรั้วแห่งนี้ เวลาผ่านไป
ครบ1เดือนถึงเวลาได้กลับบ้าน เราต่างก็ดีใจที่จะได้ไปเปิดหูเปิดตา ไปหา
เพื่อนเก่า ๆ (มีเวลาแค่เพียง 2 วันเท่าน้ัน) ในตอนน้ันเองมีเหตุการณ์ที่ผม
โดนทดสอบอย่างมาก จนกระทั่งได้กลับเข้ามาในโรงเรียนอีกคร้ังเมื่อครบ
ก�ำหนด

จุดนี้เองน่าจะเป็นจุดเปล่ียนของผม หลังจากท่ีเข้าหอพักมาได้ คืน
เดียว ก็มีเพ่ือนในโรงเรียน (จริง ๆ ก็ญาตินั่นแหละ) มาคุยปรึกษากันกับผม
สองคนว่า ที่ผ่านมาเราใช้ชีวิตกันยังไง เราจะแก้ไขปรับปรุงตัวเราแบบไหน
ให้ดีข้ึน ได้ข้อสรุปส้ันๆว่าเราคงต้องเร่ิมต้นตั้งแต่ตอนน้ี ...... นับตั้งแต่น้ัน
มาชีวิตของเราก็เปลี่ยนไป มันอาจจะไม่เหมือนผ้าท่ีถูกพับไว้อย่างเรียบร้อย
ไม่มีข้อต�ำหนิ แต่หลายส่ิงหลายอย่างมีการเปล่ียนแปลงและชัดเจนมากขึ้น
ทุกวัน ๆ คนที่เคยสอบตกได้ที่สุดท้ายของห้อง คนท่ีเคยซ�้ำช้ันเพราะสอบไม่
ผ่าน กลับกลายมาเป็นคนได้อันดับแรกๆของห้อง(ด้วยการอนุมัติของพระองค์)
ถ้าให้เล่าอีกคงจะต้องหมดหลายหน้าว่าเราผ่านอะไรมาบ้าง ณ.โรงเรียน
แห่งนี้

มาถึงตอนนี้ก็ผ่านมาเป็นเวลานานมากแล้วพวกเราก็ยังคงวนเวียน
ไปมาในร้ัวของโรงเรียนนี้ในทุกครั้งท่ีมีโอกาส ส่ิงน้ีมันบ่งบอกอะไรเราบ้าง
ครับ ? ตอนเรียนเรารู้สึกเหน็ดเหนื่อย รู้สึกท้อ รู้สึกเบ่ือหน่าย รู้สึกอยาก
กลับบ้าน อยากเรียนจบไว ๆ บางครั้งบางเวลาคิดถึงข้ันว่า ไม่อยากมีกฎ
ระเบียบอะไรมากมายขนาดนี้ อยากอยู่ในที่ท่ีเราสามารถท�ำอะไรผ่อนคลาย
ได้มากกว่าท่ีเป็นอยู่

48


Click to View FlipBook Version