The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

นิทรรศการงานวันลองกอง ครั้งที่ 45 ปี 2565
สำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Chi MaRu, 2022-09-02 03:20:24

การใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และระบบเกษตรแม่นยำฟาร์มอัจฉริยะ [HandySense]

นิทรรศการงานวันลองกอง ครั้งที่ 45 ปี 2565
สำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส

Keywords: การใช้น้ำ,ระบบเกษตรแม่นยำ,ฟาร์มอัจฉริยะ

การนิใทชร้รนศ้กำาอรงยา
่นาวันงลรอู้งคกุอณง ค่า
ระบบน้ำอัจฉริยะ

จัดทำโดย

สำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส
กรมส่งเสริมการเกษตร

1

เร่ือง การใชน้ ำ้ อย่างรคู้ ุณคา่ และ ระบบเกษตรแม่นยำฟาร์มอัจฉริยะ [HandySense]
การใชน้ ้ำอย่างรู้คุณคา่

สภาพอากาศที่ไม่แน่นอน ทั้งปัญหาฝนตกไม่แน่นอน ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อ
การเพาะปลูก รวมถงึ ยงั พบว่าวธิ กี ารใช้นำ้ ของเกษตรกรยังขาดประสิทธภิ าพ ทำใหเ้ กดิ การสูญเสียน้ำ
ไปในบางส่วน รวมทั้งมีการออกแบบติดตั้งและใช้งานระบบน้ำอย่างไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ
กล่าวคือ มีการติดตั้งและใช้อุปกรณ์ไม่ถูกต้อง หัวจ่ายน้ำอุดตัน แรงดันน้ำไม่เหมาะสม ทำให้มี
คา่ ใชจ้ ่ายสูงกว่าที่ควรจะเปน็ และขาดความเข้าใจในการใชแ้ ละดูแลรกั ษา

ดงั น้ัน เพอื่ ให้เกษตรกรสามารถใชน้ ำ้ ไดอ้ ย่างเหมาะสมตามความต้องการของพชื อยา่ งรู้
คณุ คา่ และมปี ระสทิ ธิภาพ เพอื่ รบั มือกับสภาพฟ้าฝนทีไ่ มแ่ นน่ อน เกษตรกรควรมีการปฏบิ ตั ิ ดงั นี้

1. ใช้น้ำอย่างประหยัด โดยหลีกเลี่ยงวิธีการให้น้ำแบบท่วมขังหรือเกินความต้องการ
ของพืช จะช่วยลดการสูญเสียนำ้ โดยเปล่าประโยชน์ได้

2. รักษาความชื้นให้กับพืชและลดการคายน้ำของพืชด้วยวิธีเขตกรรม เช่น การใช้
วัสดุคลุมดินที่โคนต้นพชื หรือแปลงเพาะปลกู การปรับปรุงบำรุงดินให้มีโครงสร้างดนิ ทีเ่ หมาะสมกบั
การอุ้มน้ำและความชื้น ด้วยพรวนดินและใส่ปุ๋ยอินทรีย์และปุ๋ยเคมีให้เหมาะสมกับความต้องการ
ของพืช การระวังป้องกนั สภาพแวดล้อมของแปลงปลูก เพอื่ ไม่ให้เกดิ การสญู เสียความช้ืนได้ง่าย เช่น
การลดความเข้มของแสงแดดด้วยการพรางแสง หรือการปลูกไม้บังลม รวมทั้งการตัดแต่งกิ่ง
เพ่ือลดการคายนำ้ ของพชื

3. ควบคุมความช้ืนในแปลงเพาะปลูกพืชชว่ งฤดูฝน โดยเฉพาะในพืน้ ที่ทีม่ ีฝนตกชุก
หรอื ช่วงท่ีมีฝนตกต่อเนอ่ื ง เพื่อเป็นการป้องกันไมใ่ ห้มีน้ำขังในบริเวณตน้ พชื จะช่วยลดความเส่ียงจาก
ปัญหาโรคพชื ทม่ี สี าเหตุมาจากเชือ้ รา หรอื รากพชื ขาดอากาศเนา่ ตาย และตน้ พชื หรือผลผลิตเสียหาย
โดยในกรณีสภาพพ้นื ท่ีเปน็ ดินเหนียวจัด ให้ปรบั ปรงุ โครงสร้างดินให้ระบายน้ำได้ดีขึ้นด้วยปุ๋ยอินทรีย์
สำหรบั ไม้ผลควรให้ดนิ โคนต้น (หลุมปลกู ) ยกสูงขน้ึ เป็นเนนิ เตา่ โดยเฉพาะอย่างยงิ่ ในพ้ืนท่ีดินเหนียว
เพื่อป้องกันน้ำขัง ส่วนในแปลงพืชไร่-พืชผัก ควรให้หน้าดินบนแปลงมีลักษณะราบเรียบไม่เป็นแอ่ง
เพื่อไม่ให้น้ำขังได้ง่าย มีการใช้วัสดุคลุมดินบริเวณโคนต้นพืช แต่ต้องให้มีแสงแดดส่องถึงโคนต้น

2
เพื่อป้องกันไม่ให้มีความชื้นสูงเกินไป และตัดแต่งกิ่งเพื่อให้ทรงพุ่มโปร่ง เพื่อลดการเกิดเชื้อราและ
ศัตรูพืช รวมทั้งเกษตรกรควรหมั่นกำจัดวัชพืช และดูแลรักษาสวนหรือแปลงเพาะปลูกพืชไม่ให้รก
เพื่อใหพ้ ื้นทีเ่ พาะปลูกมีอากาศถ่ายเทสะดวกด้วย

4. ให้น้ำพชื ด้วยระบบน้ำที่เหมาะสมกับชนิดพืช ซึ่งควรมีการออกแบบติดตัง้ รวมท้ัง
การใช้และดูแลรกั ษาอย่างถูกตอ้ ง เพ่ือใหน้ ำ้ ได้ตามความต้องการของพชื และมีประสทิ ธิภาพ

ระบบการใหน้ ้ำพชื

ระบบการให้น้ำพืช เป็นวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีวิศวกรรมเกษตรประเภทหน่ึง
ที่มีการพัฒนาขึ้นเพื่ออานวยความสะดวกให้แกเ่ กษตรกร ช่วยให้ใช้น้ำได้อย่างมปี ระสิทธิภาพโดยให้
นำ้ เทา่ ท่ีพชื ตอ้ งการ ลดภาระดา้ นแรงงาน และช่วยลดความเสียหายของพืชอนั เน่อื งมาจากการขาดน้ำ
ปัจจุบันนิยมใช้ระบบการใหน้ ้ำพืชเพื่อลดภาระงานและลดความเสี่ยงจากภัยแลง้ กันอยา่ งกว้างขวาง
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสวนผลไม้ สวนผัก และพืชไร่ พืชทุกชนิดมีความต้องการน้ำ โดยน้ำเป็นปัจจัย
อยา่ งหนง่ึ ของกระบวนการสังเคราะห์แสงของพืช เปน็ ตวั ละลายธาตุอาหารในดนิ เพื่อให้รากดูดข้ึนไป
สร้างการเจริญเติบโต และคายน้ำเพื่อระบายความร้อน นอกจากนีย้ ังเป็นปัจจัยสำคัญในการกำหนด
ปริมาณผลผลิตของพืชด้วย ซึ่งพืชแต่ละชนิดมีความต้องการปริมาณน้ำแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับชนิด
พันธ์ุ และอายุของพืช ดงั นน้ั จึงจำเป็นตอ้ งใหน้ ้ำอยา่ งเหมาะสมกบั ความต้องการน้ำของพืช

ระบบการให้น้ำที่ดีจะต้องสนองความต้องการน้ำของพืชได้อย่างเพียงพอ อีกทั้งยงั ต้อง
เป็นระบบที่เหมาะสมกับปัจจัยอื่นๆ ที่เป็นความสะดวกของผู้ใช้ระบบด้วย เช่น ชนิดของแหล่งน้ำ
ข้อจำกัดของเครื่องสูบน้ำ และเวลาในการให้น้ำ เป็นต้น ระบบการให้น้าที่ใช้ปัจจุบันแบ่งได้เป็น
ประเภท ได้แก่

3

1. การให้น้ำแบบฉีดฝอย (Sprinkler Irrigation) เปน็ การให้น้ำแบบวงกว้างโดยฉีด
น้ำขึ้นไปบนอากาศเหนือต้นพืชกระจายเป็นฝอยแล้วให้เม็ดน้ำตกลงมาบนพื้นท่ี
เพาะปลูก โดยเครื่องสูบน้ำเป็นอุปกรณ์ส่งน้ำผ่านระบบท่อด้วยแรงดันที่สูงเพื่อให้
น้ำฉดี เป็นฝอยออกทางหวั ปลอ่ ยน้ำ ไดแ้ ก่ สปริงเกลอร์ (Sprinkler)

2. การให้น้ำแบบเฉพาะจุด (Localize Irrigation) เป็นการให้น้ำบริเวณรากพืช
โดยตรง น้ำจะถูกปล่อยจากหัวปล่อยน้ำสู่ดินให้น้ำชุ่มไปในดินบริเวณเขตรากพืช
ระบบนี้เป็นระบบที่ประหยัดได้อย่างแท้จริงเนื่องจากจะเกิดการสูญเสียน้ำจาก
ปัจจัยอื่นน้อยมากและแรงดัน ที่ใช้กับระบบต่ำประมาณ 5 - 20 เมตร
ทำใหป้ ระหยัดค่าใชจ้ า่ ยในด้านต้นกำลังสูบน้า ไดแ้ ก่ มินสิ ปริงเกลอร์ (Mini Sprinkler)
ไมโครสเปรย์และเจ็ท (Micro Spray & Jet) และน้ำหยด (Drip)

ระบบการให้น้ำพืชเป็นกลไกที่สามารถจัดการควบคุมปริมาณการให้น้าพืชได้อย่าง
ถูกต้องเหมาะสมและสะดวก อันจะเกดิ ผลดังนี้

• พืชเจรญิ เตบิ โตอยา่ งเต็มท่ี

• พืชไม่ชะงกั การเจริญเตบิ โต

• เพม่ิ ปริมาณและคณุ ภาพของผลผลติ

• กำหนดเวลาการเกบ็ ผลผลติ ได้

• การใช้ปยุ๋ มปี ระสทิ ธิภาพสูงขน้ึ

• สะดวกและประหยัดเวลาการใหน้ ้ำ

• ลดความเสีย่ งในอาชพี เกษตรกรรม

ระบบ ข้อดี ข้อเสีย

สปรงิ เกลอร์ - ใชเ้ วลาน้อยในการให้น้ำ - เสียน้ำจากการระเหยและกระจาย

- ใช้แรงดันตั้งแต่ 20 เมตร - เหมาะสาหรับการให้น้ำพืชไร่และ ไปตามลม

ขน้ึ ไป พืชผกั - มีค่าการลงทุนสูงและใช้พลังงาน

- อัตราการไหลของ หัว - เหมาะกับสภาพแหล่งน้ำที่มีปริมาณ มาก

ปล่อยน้ำต้งั แต่ 250 ลติ รต่อ มากเพียงพอ คุณภาพน้ำปานกลาง

ชัว่ โมงข้ึนไป

มินิสปริงเกลอร์ - มใี บหมุนชว่ ยน้ำกระจายเป็นวงกวา้ ง - ถ้าใบหมุนชำรดุ จะใช้งานไม่ได้

- ใช้แรงดนั 10 - 20 เมตร - เหมาะสาหรับพืชผักท่ีปลูกเปน็ แปลง - ต้องใชเ้ ครอ่ื งกรองละเอียดปานกลาง

- อัตร าก าร ไ หลของหัว แบบหว่าน หรือแบบต้นกล้าและไม้ผล และลา้ งไสก้ รองทุกวนั

ปล่อยน้ำ 20 - 300 ลิตรต่อ ทีมรี ะยะปลกู ตงั แต่ 5 เมตร ข้ึนไป

ช่วั โมง - เหมาะกับสภาพแหล่งน้ำที่มีปริมาณ

จำกดั คุณภาพน้ำดี

ไมโครสเปรย์และเจท็ - เหมาะสาหรับพืชทีป่ ลูกระยะชิดและ - สูญเสียน้ำจากการกระจายไปตาม

- ใชแ้ รงดัน 10 - 20 เมตร ไมผ้ ลระยะไมเ่ กิน 5 เมตร ลม

- อัตราการไหลของ หัว - เหมาะกับสภาพแหล่งน้ำที่มีปริมาณ - ต้องใช้เครื่องกรองน้ำละเอียด

ปล่อยน้ำ 10 - 200 ลิตรต่อ จำกดั คุณภาพน้ำดี คอ่ นข้างมาก และล้างไสก้ รองทุกวัน

ชั่วโมง

4

ระบบ ข้อดี ข้อเสยี

น้ำหยด - ประหยัดน้ำและใช้พลังงานน้อยท่สี ุด - อุดตันง่ายต้องใช้เครื่องกรอง

- ใช้แรงดนั 5 - 10 เมตร - เหมาะสำหรับการให้น้ำพืชไร่ พืชผัก ละเอียดมาก ตรวจสอบและล้างไส้

- อัตราการไหลของ หัว ทีป่ ลกู เปน็ แถวชดิ หรอื ไม้ผลบางชนิด กรองทุกวนั

ปล่อยน้ำ 1 - 8 ลิตรต่อ - เหมาะกับสภาพแหล่งน้ำทีมีปริมาณ - การวางบนพื้นดินทำให้ตรวจสอบ

ชัว่ โมง จำกัด คุณภาพน้ำดี การอุดตันได้ค่อนข้างยาก ซึ่งอาจพบ

การอุดตันเมื่อพืชเกิดความเสียหาย

แล้ว

แผนผงั และองค์ประกอบของระบบการใหน้ ้ำพชื

องคป์ ระกอบของระบบการใหน้ ้ำ
1. เคร่ืองสูบน้ำ : ทำหน้าทสี่ บู น้ำจากแหล่งน้ำและเพ่ิมแรงดนั ให้กับหวั ปลอ่ ยน้ำ
2. เครอื่ งกรองน้ำ : กรองสิ่งสกปรกท่ีปนมากับน้ำป้องกนั ไม่ให้เกดิ การอุดตันท่ีหัวปล่อยน้ำ

3. ท่อเมน : ท่อทส่ี ง่ น้ำออกจากเคร่อื งสบู น้ำไปยังท่อยอ่ ย ควรใชท้ ่อพีวิซี (PVC)
4. ท่อเมนย่อย : ท่อแยกออกมาจากท่อเมนและส่งน้ำไปยังท่อย่อย ควรใช้ท่อพีวิซี

(PVC) หรือ พีอี (PE)
5. ทอ่ ย่อย : ท่อท่ตี ดิ ตง้ั หวั ปล่อยน้ำและจ่ายน้ำให้กับหวั ปล่อยน้ำโดยตรง ควรใช้ท่อพีอี (PE)
6. หัวปล่อยน้ำ : อุปกรณ์ที่ทำหน้าที่รับน้ำมาจากท่อย่อยและจ่ายน้ำใหก้ ับต้นพืชตาม

ปรมิ าณที่ต้องการ

5

ตารางเปรยี บเทียบระบบการใหน้ ้ำ

ระบบ แรงดนั อัตราการไหล เวลาใหน้ ้ำ
มาก นอ้ ย
สปริงเกลอร์ สงู
(250 ลิตรต่อชวั่ โมงขนึ้ ไป) ปานกลาง
(20 เมตร ข้นึ ไป) ปานกลาง
ปานกลาง
มนิ ิสปริงเกลอร์ ปานกลาง (20-300 ลิตรต่อช่ัวโมง)
มาก
(10 -20 เมตร ขนึ้ ไป) ปานกลาง
(10-200 ลติ รตอ่ ช่ัวโมง)
ไมโครสเปรย์และเจท็ ปานกลาง
ต่ำ
(10 -20 เมตร ขึน้ ไป) (1-8 ลิตรตอ่ ช่วั โมง)

น้ำหยด ต่ำ

(5 -15 เมตร ขนึ้ ไป)

ท่มี า: https://esc.doae.go.th/ระบบให้น้ำพชื

ระบบเกษตรแมน่ ยำฟารม์ อัจฉริยะ [HandySense]

ระบบเกษตรแม่นยำ ฟาร์มอัจฉริยะที่ผนวกเทคโนโลยีเซนเซอร์ (sensor) และอุปกรณ์
ไอโอท(ี Internet of Things) ในการตรวจวัดสภาพแวดลอ้ มทางการเกษตรทีเ่ ป็นปจั จัยพ้ืนฐานของพืช
เช่น อุณหภูมิความชืน้ สัมพัทธใ์ นอากาศ แสง ความชื้นในดนิ และระบบควบคมุ การทำงานอัตโนมตั ิที่

ได้รับการออกแบบให้ใช้งานง่าย ทนทานต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งเป็นผลงานวิจัยของศูนย์เทคโนโลยี
อเิ ล็กทรอนกิ ส์และคอมพิวเตอรแ์ ห่งชาติ(เนคเทค) ที่กรมสง่ เสริมการเกษตรรับนำมาสง่ เสริมและขยาย

ผลสเู่ กษตรกรเพ่ือยกระดับการพฒั นาดา้ นการเกษตรด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่

ประโยชนแ์ ละข้อดีของ HandySense
• ลดการใช้แรงงาน เหมาะกบั อนาคตทแ่ี รงงานขาดแคลน
• ประหยัดเวลา และลดการใชท้ รัพยากรน้ำ
• สามารถปลูกพืชไดต้ ลอดทง้ั ปี
• ควบคุมการทำงานได้สะดวกโดยใชเ้ ทคโนโลยี
• Internet of Things (IOT) ด้วยการสงั่ การผา่ น Smart Phone

ขอ้ จำกัดของ HandySense
ใช้คนในการตัดสินใจในการดำเนินกระบวนการการควบคุมซึ่งต้องอาศัยทักษะความรู้และ

ประสบการณข์ องเกษตรกร

ฟังก์ชันการทำงานของ HandySense ประกอบด้วย
1. การสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟน ผู้ใช้งานสามารถสั่งงานเปิด/ปิด ระบบควบคุมต่างๆ

ผ่านสมาร์ทโฟนได้ เช่น หากพบการแจ้งเตอื นค่าความชื้นในดินต่ำกวา่ ทีก่ ำหนด ผู้ใช้งานสามารถกด

ส่งั การรดนำ้ ผ่านสมารท์ โฟนไดท้ ันที
2. การตั้งเวลา ผู้ใช้งานสามารถตั้งเวลาให้ระบบทำงานโดยอัตโนมัติตามเวลาที่

กำหนดไว้เช่น ตั้งเวลาการให้น้ำ/ปุ๋ยที่สม่ำเสมอ มีความจำเป็นต่อการเจริญเติบโตของพืช
ผูใ้ ช้งานสามารถตั้งเวลาใหร้ ะบบทำ งานตามรอบเวลาไวไ้ ด้

6
3. การทำงานของระบบเซนเซอร์ เมื่อเซนเซอร์ตรวจวัดค่าสภาวะที่ไม่เหมาะสม
จะสั่งงานระบบอื่น ๆ ให้ทำ งานโดยอัตโนมัติ เช่น หากเซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์
ในอากาศ วัดค่าของอุณหภูมิสูงกว่าที่กำหนด จะสั่งงานให้สเปรย์หมอกทำงานโดยอัตโนมัติ
เพ่อื ลดอุณหภูมิ
โดย HandySense จะตรวจวัดค่าสภาพแวดล้อมที่สำคัญต่อการเจริญเติบโตของพืช
แบบเรียลไทมผ์ ่านเซนเซอร์ (sensor) ไม่วา่ จะเป็นอุณหภมู คิ วามชื้นในดินความช้ืนสมั พัทธ์ในอากาศ
แสง และส่งต่อข้อมูลจากเซนเซอร์ผ่าน Cloud server แล้วนำมาเปรียบเทียบกับค่าที่เหมาะสม
ของการเพาะปลูกพชื เพื่อแจ้งเตือนและสั่งการระบบตา่ งๆใหท้ ำงานต่อไป
การทำงานของระบบ HandySense มี 2 สว่ น คอื
1. อุปกรณ์ตรวจวดั และควบคมุ ประกอบดว้ ย
(1) บอร์ด HandySense เป็นวงจรที่ใช้ระบบไมโครคอนโทรลเลอร์ ESP 8266
เป็นอุปกรณ์ IOTเพื่อรับขอ้ มูลจากเซนเซอร์ไปยัง Cloud Server และเป็นอปุ กรณ์ทีใ่ ช้ส่ังการทำงาน
ของ Relay สำหรบั ควบคุมการให้น้ำ และปยุ๋

(2) เซนเซอร์วัดอุณหภมู แิ ละความชนื้ ในดิน ใช้สำหรบั วัดอุณหภมู แิ ละความชื้นในดิน
เพื่อควบคุมการให้น้ำพืช ตามความต้องการของพืชนั้น ๆ ป้องกันพืชขาดน้ำ เนื่องจากอากาศร้อน
และป้องกันรากพืชเน่าเนื่องจากให้น้ำ มากเกินความต้องการ ช่วงอุณหภูมิที่ใช้งานอยู่ระหว่าง
20 – 50 องศาเซลเซียส ชว่ งความช้นื ดินทวี่ ดั ไดอ้ ยูร่ ะหว่าง 0 - 90%

(3) เซนเซอร์วัดความเข้มแสง ใช้สำหรับวัดความเข้มแสงเพื่อให้ทราบปริมาณแสงท่ี
พืชต้องการสำหรับในโรงเรือน สามารถนำค่าเซนเซอร์มาวเิ คราะหอ์ ายุของฟิล์มหลังคาโรงเรือนและ
ใชค้ วบคุมการเปดิ ปิดของม่านบงั แสงโดยมชี ่วงความ เข้มแสงอย่รู ะหวา่ ง 0–100,000 LUX

7

(4) เซนเซอร์วัดอุณหภูมิและความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ใช้สำหรับวัดอุณหภูมิและ
ความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศเพื่อควบคุมสภาพอากาศตามความต้องการของพืชนั้น ๆ โดยสามารถ
นำคา่ อุณหภมู ทิ ี่เซนเซอรว์ ดั ไดไ้ ปส่งั การระบบควบคุมอุณหภูมิ เช่น สเปรยห์ มอก ระบบ Evap พัดลม
ระบายความร้อน พัดลมระบายความชื้น เป็นต้น ช่วงอุณหภูมิที่วัดอยู่ระหว่าง 0 – 100
องศาเซลเซยี ส ชว่ งความช้ืนทวี่ ัดไดอ้ ยู่ระหวา่ ง0 – 100%RH

2. Web application ประกอบดว้ ย
(1) การลงทะเบียนเข้าระบบ ด้วยการสมัครขอรับ Username และ Password
ผ่าน https://dashboard.handysense.io โดยคลิกที่ Register with NETPIE และกรอกข้อมูล
จากนน้ั ทางระบบจะส่ง Password ผา่ นทาง E-mail ทีผ่ ู้ใชง้ านลงทะเบยี น

8
(2) เข้าระบบโดยใช้ Username E-mail ของผู้ใช้งานและ Password ที่ได้รับ
ผา่ น https://dashboard.handysense.io จากนัน้ Sign In เขา้ ใชง้ าน
3) เข้าสู่หน้าการใช้งาน web application : HandySense จะพบค่าเซนเซอร์
ของอุปกรณ์ ไดแ้ ก่ คา่ อุณหภูมิ ค่าความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ ค่าความชื้นดนิ และค่าปรมิ าณแสง

(4) ค่าการทำงานสวิตช์ต่าง ๆ ในระบบ HandySense นี้จะประกอบด้วย
สวิตช์ที่ 1 – 4 ขึ้นอยู่กับผู้ใช้ทำการตั้งค่าให้สวิตช์แต่ละตัวควบคุมการทำงานของเซนเซอร์ตัวใด
ซึ่งการตั้งค่าการทำงานของสวิตช์ สามารถกด เปิด/ปิด การทำงานของสวิตช์ได้ โดยการเลือกต้ัง
ช่วงเวลาให้สวิตช์ทำงานตามเวลาที่กำหนด นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาการทำงานอัตโนมัติ
ของสวิตชไ์ ดด้ ้วย

(5) ตัวอย่างการตั้งค่าสวิตช์ตัวที่ 2 ควบคุมการให้น้ำแบบน้ำหยดต้นมะเขือเทศ
โดยระบบจะให้น้ำ 2 เวลา คือ เวลา 8.30 – 8.40 น. และ เวลา 15.00 – 15.10 น.

9

(6) ตัวอย่างการตั้งค่า สวิตช์ตัวที่ 3 ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ในอากาศ
(พ่นหมอกในโรงเรือน) ระบบจะทำงานเม่อื อณุ หภูมิ 40 องศาเซลเซียส และหยุดทำงานเม่ืออุณหภูมิ
37 องศาเซลเซยี ส

(7) ตัวอย่างการตั้งค่า สวิตช์ตัวที่ 4 ควบคุมความชื้นในดินผักที่ปลูกบนแคร่
ระบบจะสามารถต้ังค่าอุณหภูมิและความชน้ื ดิน (ต่ำสุด ถึง สงู สดุ ) โดยตวั อย่างการต้งั คา่ ช่วงความชื้น
ของดิน เริ่มทำงานเมื่อความชื้นต่ำกว่า 50% และหยุดทำงานเมื่อความชื้นมากกว่า 55%
และมีการตั้งค่าเวลาทำงานทเี่ วลา 05.00 - 05.05 น. ของทุกวนั ควบคู่ไปด้วย

จัดทำโดย จงั หวัดนราธวิ าส
1. สำนกั งานเกษตรอำเภอสุไหงโก-ลก สำนักงานเกษตรจงั หวัดนราธิวาส
2. กลุ่มส่งเสริมและพัฒนาการผลติ สำนักงานเกษตรจังหวัดนราธิวาส
2. คณะทำงานฝ่ายนทิ รรศการงานวันลองกอง’65


Click to View FlipBook Version