The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

pphitaksettakarn,+Journal+manager,+2-prapassorn (1)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

pphitaksettakarn,+Journal+manager,+2-prapassorn (1)

pphitaksettakarn,+Journal+manager,+2-prapassorn (1)

ประชาธิปไตย: แนวคดิ และหลกั การเบือ้ งต้น
Democracy: Concept and Basic Principle

ประภสั สร ทองยนิ ดี

บทคดั ย่อ
ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองโดยประชาชน ซ่ึงถกู นาํ ไปใชอ้ ยา่ งแพร่หลายในประเทศต่างๆ ทวั่ ทุก

มุมโลก เป็นระบอบการปกครองท่ีมีววิ ฒั นาการมาอยา่ งยาวนานนกั วชิ าการส่วนใหญ่เห็นวา่ เริ่มมาจากสมยั กรีกโบราณ
และไดม้ ีพฒั นาการมาจนถึงปัจจุบนั การทาํ ความเขา้ ใจและเรียนรู้เกี่ยวกบั ประชาธิปไตยเป็นส่ิงที่มีประโยชนต์ ่อการ
ดาํ เนินชีวติ ของบุคคลในสงั คม ช่วยใหบ้ ุคคลรู้จกั สิทธิ เสรีภาพ และหนา้ ที่ท่ีตนเองพึงมี รวมไปถึงเพื่อการดาํ เนินชีวิต
ในสงั คมร่วมกนั อยา่ งมีความสุข และช่วยพฒั นาสงั คมใหม้ ีความเจริญกา้ วหนา้ มากย่งิ ข้ึน รวมถึงเพ่ือเป็นขอ้ มลู ใหก้ บั ผทู้ ี่
สนใจศึกษานาํ ไปปรับใชใ้ นชีวิตประจาํ วนั และเป็นพ้ืนฐานใหศ้ ึกษาในระดบั สูงต่อไป บทความน้ีจึงมีวตั ถปุ ระสงค์ เพื่อ
ศึกษาความหมายหรือนิยามของประชาธิปไตย รูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย ลกั ษณะของประชาธิปไตย
รูปแบบประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทนหรือประชาธิปไตยทางออ้ ม รวมถึงการแสดงออกทางอาํ นาจที่บุคคลพึงมีตาม
ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย

คาํ สําคญั : ประชาธิปไตย, ระบอบการปกครอง, สิทธิและเสรีภาพ

Abstract
Democracy, the government of the people, is widely applied across the globe. It has long history dated back

to the Ancient Greek era and has been developing to present. Understanding and learning about democracy is
beneficial to living in society and also help us truly understand rights, freedom and duties as well as living in society
in harmony which will eventually improve to prosperous society and as a reference for higher levels of study .
Therefore, objectives of this research are to propose definitions of democracy, forms of democracy, principle
democracy, representative democracy or indirect democracy and individual legitimate power exercise under
democracy regime.

Keywords: democracy, regime, rights and freedom, people

ความนํา ปัญหาทางสงั คมและความขดั แยง้ ต่างๆ ไดเ้ ริ่มปรากฏให้
สงั คมมนุษยใ์ นอดีตปัญหาทางสงั คมและความ เห็นชดั เจนมากยิ่งข้ึน โดยอาจเกิดจากความไมเ่ ขา้ ใจกนั
แนวคิดหรือทศั นคติของแต่ละบุคคลที่ไม่สอดคลอ้ งกนั
ขดั แยง้ ต่างๆ อาจไม่ปรากฏใหเ้ ห็นในสงั คมมากนกั เมื่อ มนุษยจ์ ึงไดเ้ ร่ิมสร้างระเบียบ กฎเกณฑต์ ่างๆ เพ่ือเป็น
สงั คมมนุษยม์ ีขนาดขนาดใหญ่ข้ึน ประชากรเพิ่มมากข้ึน

ปที ่ี 5 ฉบบั ท่ี 3 ประจ�ำเดือน กนั ยายน-ธันวาคม 2558 วารสารวชิ าการมหาวิทยาลยั อีสเทริ ์นเอเชยี ฉบับสังคมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร์ 11

พ้ืนฐานในการปฏิบตั ิร่วมกนั ของคนในสงั คม เพ่ือให้ ฐานชิ้นสาํ คญั ที่แสดงใหเ้ ห็นวา่ ระบอบการปกครองแบบ
สงั คมเกิดความสงบสุข หน่ึงในน้นั คือ ระบอบการ ประชาธิปไตยเป็ นรูปแบบการปกครองที่เคยเกิดข้ึน
ปกครอง ระบอบการปกครองในโลกน้ี โดยรวมแบ่งได้ มาแลว้ ต้งั แต่อดีตและมีวิวฒั นาการและการพฒั นามา
เป็น ระบอบการปกครองแบบเผดจ็ การและระบอบการ จนถึงปัจจุบนั การปกครองโดยประชาชนโดยตรงของ
ปกครองแบบประชาธิปไตย (โกวิท วงศส์ ุรวฒั น์, 2540, นครรัฐเอเธนส์สมยั กรีกโบราณสงั เกตเห็นไดจ้ าก การมี
หนา้ 66) ในบทความน้ีจะกลา่ วถึง ระบอบการปกครอง สภาประชาชนซ่ึงกค็ ือ อาํ นาจนิติบญั ตั ิ สมาชิกของสภา
แบบประชาธิปไตย ในปัจจุบนั ระบอบการปกครองแบบ ประชาชนมาจาก ราษฏรชายทุกคนที่มีสถานภาพเป็น
ประชาธิปไตยไดร้ ับความสนใจและกล่าวถึงอยา่ ง พลเมืองของนครรัฐอายุ 20 ปี ข้ึนไป มีหนา้ ท่ีในการออก
กวา้ งขวางโดยเฉพาะในสงั คมไทย การทาํ ความเขา้ ใจ กฎหมายและควบคุมการทาํ งานของฝ่ ายบริหาร ท้งั ดา้ น
และเรียนรู้เก่ียวกบั ประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่มีประโยชนต์ ่อ การปกครองและดาํ เนินนโยบายต่างประเทศ ต่อมาคือ
การดาํ เนินชีวิตของบุคคลในสงั คม ช่วยใหบ้ ุคคลรู้จกั คณะมนตรีหา้ ร้อย ซ่ึงกค็ ืออาํ นาจบริหาร คณะมนตรีหา้
สิทธิ เสรีภาพ และหนา้ ท่ีที่ตนเองพึงมี รวมไปถึงเพื่อการ ร้อยไดม้ าจากการจบั ฉลากจากราษฏรชายทุกคนที่มี
ดาํ เนินชีวิตในสังคมร่วมกนั อย่างมีความสุข และช่วย สถานภาพเป็นพลเมืองของนครรัฐอายุ 30 ปี ข้ึนไป
พฒั นาสงั คมใหม้ ีความเจริญกา้ วหนา้ มากยิ่งข้ึน เนื่องจาก เพื่อใหไ้ ดต้ วั แทน 500 คน มีหนา้ ท่ีในการบริหารนครรัฐ
ประชาธิปไตย เป็นระบอบการปกครองท่ีมีส่วนเก่ียวขอ้ ง ใหเ้ ป็นไปตามกฎหมายและนโยบายที่สภาประชาชน
โดยตรงต่อวถิ ีการดาํ รงชีวติ ประชาชนในสงั คมที่อยู่ กาํ หนด ส่วนอาํ นาจตุลาการมีศาลประชาชน เป็นองคก์ ร
ภายใตร้ ะบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย รวมถึง ที่ทาํ หนา้ ที่ตดั สินคดีความ บุคคลที่ดาํ รงตาํ แหน่งในศาล
เพื่อเป็นขอ้ มลู ใหก้ บั ผทู้ ่ีสนใจศึกษานาํ ไปปรับใชใ้ น ประชาชนไดม้ าจากการจบั ฉลากของราษฏรชายที่เป็น
ชีวิตประจาํ วนั และเป็นพ้ืนฐานใหศ้ ึกษาในระดบั สูง พลเมืองของนครรัฐอายุ 30 ปี ข้ึนไป ศาลประชาชน
ต่อไป จากเหตุผลดงั กล่าวในขา้ งตน้ บทความน้ีจึงมี ประกอบไปดว้ ยลกู ขนุ ประมาณ 201 คน หรือมากกวา่ น้นั
วตั ถุประสงคเ์ พ่ือศึกษา ความหมายหรือนิยามของ นอกจากน้ียงั มีสภานายพล ซ่ึงประกอบไปดว้ ยนายพล
ประชาธิปไตย รูปแบบการปกครองแบบประชาธิปไตย จาํ นวน 10 คน สภานายพลมาจากการเลือกต้งั โดย
ลกั ษณะของประชาธิปไตย รูปแบบประชาธิปไตยแบบมี ประชาชน และนายพลจาํ นวน 10 คนท่ีถกู เลือกมาจาก
ผแู้ ทนหรือประชาธิปไตยทางออ้ ม รวมถึงการแสดงออก ประชาชนจะเลือกผบู้ ญั ชาการทหารสูงสุดอีกคน มีหนา้ ท่ี
ทางอาํ นาจที่บุคคลพึงมีตามระบอบการปกครองแบบ ควบคุมกิจการทางทหารและทางการทูต รวมไปถึง
ประชาธิปไตย ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งประเทศ จากท่ีไดก้ ล่าวไปจะเห็น
ไดว้ า่ ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยของนคร
การปกครองแบบประชาธิปไตย มีหลกั ฐาน กรีกโบราณ โดยเฉพาะนครรัฐเอเธนส์ต้งั อยบู่ นหลกั
แสดงใหเ้ ห็นวา่ เคยเกิดข้ึนมาแลว้ ในสมยั กรีกโบราณ รัฐ พ้ืนฐาน 3 ประการ ไดแ้ ก่ การเลือกต้งั โดยกลุ่ม
ในกรีกโบราณมีลกั ษณะเป็นนครรัฐ (city-states or polis) ประชาชน และการตดั สินใจโดยมวลชน รวมไปถึงการ
ในแต่ละนครรัฐมีรูปแบบการปกครองที่แตกต่างกนั ดาํ รงตาํ แหน่งต่างๆ น้นั จะหมุนเวียนกนั ไปไมส่ ามารถ
ออกไป นครรัฐท่ีใชก้ ารปกครองโดยประชาชนโดยตรง ครองตาํ แหน่งไดต้ ลอดชีพ ระบอบการปกครองแบบ
ซ่ึงกค็ ือ นครรัฐเอเธนส์ การปกครองในนครรัฐเอเธนส์ ประชาธิปไตยของนครกรีกโบราณ โดยเฉพาะนครรัฐ
เป็ นหลกั เอเธนส์ท่ีไดก้ ล่าวไปในขา้ งตน้ เป็นประชาธิปไตยที่ให้

12 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 3 September-December 2015
Social Science and Humanity

สิทธิและเสรีภาพกบั ชาวนครรัฐเอเธนส์ที่เป็นผชู้ ายและ ส่วน Stephen (2004, pp. 169-170) นกั วชิ าการดา้ น
เป็นพลเมืองเป็นสาํ คญั ส่วนสตรี พอ่ คา้ ชาวต่างดา้ ว รวม รัฐศาสตร์สอนเก่ียวกบั การเมืองปกครองหลายมหา
ไปถึงทาสเป็นจาํ นวนมาก มิไดร้ ับสิทธิและเสรีภาพเท่า วทิ ยาลยั ในประเทศองั กฤษ เช่น มหาวทิ ยาลยั บอร์นมทั
เทียมกบั ราษฏรชายท่ีเป็นพลเมืองประชาธิปไตยแบบ (Bournemouth of University) มหาวทิ ยาลยั เอก็ ซิเตอร์
นครรัฐเอเธนส์จึงเรียกไดว้ า่ เป็นประชาธิปไตยแบบเช้ือ (University of Exeter) เป็นตน้ ไดใ้ หท้ ศั นะเพิ่มเติมวา่ ใน
ชาติเผา่ พนั ธุน์ ิยมระหวา่ งคนช้นั กลางและคนช้นั สูง ซ่ึง ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ประชาชนจะมี
จะเห็นไดว้ า่ แตกต่างจากประชาธิปไตยในปัจจุบนั เป็น โอกาสเลือกผทู้ ี่จะมาปกครองโดยอิสระ และไดก้ ล่าวถึง
อยา่ งมาก หลงั จากการล่มสลายของกรีกโบราณระบอบ ประธานาธิบดีอมั บราฮมั ลินคอลน์ จากสหรัฐอเมริกาวา่
การปกครองแบบประชาธิปไตยไมไ่ ดถ้ กู นาํ มาใชอ้ ีก ไดก้ ลา่ วสุทรพจน์ (The Gettysburg Address) ในวนั ท่ี 19
จนกระทง่ั ตน้ ศตวรรษท่ี 13 แนวคิดเร่ืองประชาธิปไตย พฤษจิกายน ค.ศ.1863 เกี่ยวกบั รัฐบาลในระบอบการ
ไดร้ ับการสนใจจากสังคมโลกอีกคร้ัง จนกระทง่ั ถกู นาํ มา ปกครองแบบประชาธิปไตย มีใจความวา่ เป็นรัฐบาลของ
ปฏิบตั ิใหเ้ ป็นรูปธรรมในประเทศต่างๆ และแพร่หลาย ประชาชน โดยประชาชน และเพ่ือประชาชน
ออกไปทวั่ ทุกมุมโลก ซ่ึงมีวิวฒั นาการและการพฒั นา (government of the people, by the people, for the
อยา่ งต่อเนื่องต้งั แต่อดีตสมยั กรีกโบราณจนถึงปัจจุบนั people)
(อมร รักษาสตั ย์ และคณะ, 2539, หนา้ 10-13 และ
จกั ษ์ พนั ธช์ ูเพชร, 2552, หนา้ 122) นกั วชิ าการชาวไทย ในขณะท่ี ณชั ชาภทั ร อุ่นตรงจิตร (2550, หนา้
และชาวต่างประเทศไดใ้ หน้ ิยามความหมายท่ีเกี่ยวกบั 105) ไดก้ ลา่ วเก่ียวกบั ประชาธิปไตยไวอ้ ยา่ งน่าสนใจวา่
ประชาธิปไตย เอาไวแ้ ตกต่างกนั ออกไปหรือคลา้ ยคลึง คาํ วา่ ประชาธิปไตยเกิดข้ึนคร้ังแรกในสมยั กรีก แต่
กนั ข้ึนอยกู่ บั มุมมอง แนวคิดและทศั นคติของนกั วิชาการ ประชาธิปไตยในสมยั กรีกมีความแตกต่างจาก
แต่ละท่าน ในท่ีน้ีผเู้ ขียนขอนาํ เสนอนิยามความหมายท่ี ประชาธิปไตยในสมยั ปัจจุบนั คาํ วา่ ประชาธิปไตย มา
เก่ียวกบั ประชาธิปไตยจากนกั วิชาการท้งั ชาวไทยและ จากภาษาองั กฤษวา่ Democracy แปลวา่ การปกครองโดย
ชาวต่างประเทศท่ีสาํ คญั ไดแ้ ก่ Campbell (2008, ประชาชน (rule by people) หรือเรียกอีกประการหน่ึงได้
pp. 4-5) ศาสตราจารยว์ ฒุ ิคุณ (Adjunct Professor) คณะ วา่ popular sovereignty คือ อาํ นาจอธิปไตยเป็นของ
รัฐศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั เวยี นนา ไดก้ ลา่ ววา่ คาํ วา่ ประชาชน จากท่ีกล่าวไปจะเห็นไดว้ า่ นกั วชิ าการท้งั ส่ี
“Democracy” (ประชาธิปไตย) มีรากศพั ทจ์ ากภาษากรีก ท่านมีแนวคิดท่ีคลา้ ยคลึงกนั เกี่ยวกบั ประชาธิปไตย คือ
โบราณ คือ “demos” แปลวา่ ประชาชน และ “kratos” ประชาชนเป็นเจา้ ของอาํ นาจหรืออาํ นาจเป็นของ
แปลวา่ อาํ นาจ เมื่อรวมกนั แลว้ ใหค้ วามหมายวา่ อาํ นาจ ประชาชน
ของประชาชน (rule by the people) และ โกวทิ วงศ์
สุรวฒั น์ (2540, หนา้ 72-73) นกั วิชาการดา้ นรัฐศาสตร์ Ranney นกั วชิ าการดา้ นรัฐศาสตร์ อดีตประธาน
ไดใ้ หท้ ศั นะเพ่ิมเติมวา่ หลกั การข้นั พ้ืนฐานของ สมาคมรัฐศาสตร์แห่งสหรัฐอเมริกา (1993 อา้ งใน บูฆอรี
ประชาธิปไตยกค็ ือ การยอมรับนบั ถือความสาํ คญั และ ยีหมะ, 2550, หนา้ 110) ไดใ้ หร้ ายละเอียดเพิ่มเติมไว้
ศกั ด์ิศรีความเป็นมนุษยข์ องบุคคล ความเสมอภาคและ อยา่ งน่าสนใจวา่ ประชาธิปไตย หมายถึง รูปแบบการ
เสรีภาพของบุคคลในการดาํ เนินชีวิต ปกครองและประกอบไปดว้ ยหลกั พ้ืนฐาน 4 ประการ
ไดแ้ ก่

ปที ่ี 5 ฉบับที่ 3 ประจ�ำเดอื น กันยายน-ธันวาคม 2558 วารสารวชิ าการมหาวทิ ยาลัยอสี เทิร์นเอเชีย ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์ 13

1. หลกั อาํ นาจอธิปไตยเป็นของปวงชน คือ ประชากรจาํ นวนมากในโลก และไดร้ ับการยอมรับวา่
อาํ นาจสูงสุดในการตดั สินใจเป็นของประชาชนทุกคนไม่ เป็นระบอบการปกครองท่ีดีที่สุด ซ่ึงมีจุดเด่น คือ
เฉพาะกล่มุ ใดกลุ่มหน่ึง สอดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของคนส่วนใหญ่ในสงั คม
การปกครองแบบประชาธิปไตย ยดึ ถือหลกั สาํ คญั ในการ
2. หลกั ความเสมอภาคทางการเมือง พลเมืองทุก ปกครอง ไดแ้ ก่ มนุษยม์ ีความเท่าเทียมกนั มนุษยม์ ีเหตุผล
คนมีโอกาสเท่าเทียมกนั ในการมีส่วนร่วมหรือตดั สินใจ สามารถที่จะปกครองตนเองได้ มนุษยม์ ีสิทธิ เสรีภาพ
ทางการเมือง และตอ้ งการมีหลกั ประกนั ในการใชโ้ ดยสมบูรณ์ ซ่ึง
สอดคลอ้ งกบั
3. หลกั การฟังความคิดเห็นของประชาชน คือ
การตดั สินใจของรัฐบาลมาจากการรับฟังหรือคาํ นึงถึง Sodaro (2004, cited in Campbell, 2008, pp. 5-6)
ความตอ้ งการของประชาชนทุกคนไมเ่ ฉพาะกลุ่มใดกล่มุ ศาสตราจารยด์ า้ นรัฐศาสตร์และความสมั พนั ธ์ระหวา่ ง
หน่ึง วา่ ตอ้ งการสิ่งใด ไม่ตอ้ งการส่ิงใด ประเทศ มหาวิทยาลยั จอร์จวอชิงตนั ไดก้ ลา่ ววา่ ใน
ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยประชาชนมีสิทธิ
4. หลกั เสียงขา้ งมาก เป็นการตดั สินใจทาง ที่จะเลือกผปู้ กครองไดด้ ว้ ยการเลือกต้งั เช่น การเลือกต้งั
การเมืองของรัฐบาล หากกรณีใดความตอ้ งการของ รัฐบาลหรือผทู้ าํ หนา้ ที่บริหารประเทศ นอกจากน้ี
ประชาชนมีความแตกต่างกนั ไมเ่ ป็นเอกฉนั ท์ รัฐบาล ประชาชนยงั สิทธิ เสรีภาพและอิสระในการดาํ เนินชีวติ
ตอ้ งตดั สินใจบนพ้ืนฐานของคนส่วนใหญ่หรือเสียงขา้ ง แต่ตอ้ งอยภู่ ายใตข้ อบเขตของกฎหมายท่ีไดก้ าํ หนดไว้
มาก โดยประชาธิปไตยน้นั มีหลกั พ้ืนฐานอยู่ 3 ประการ ไดแ้ ก่
ความเสมอภาค ความมีเสรีภาพหรืออิสระ และถกู
สาํ หรับ Smith (1968 อา้ งใน อมร รักษาสตั ย์ ควบคุมโดยรัฐบาลหรือกฎหมาย
และคณะ, 2539, หนา้ 29) ไดใ้ หน้ ิยามเกี่ยวกบั
ประชาธิปไตยเพ่ิมเติมใหม้ ีความชดั เจนมากย่ิงข้ึน โดยได้ สาํ หรับ Eremenko (2011, p. 1) นกั วิชาการ
กลา่ ววา่ ประชาธิปไตย คือ การปกครองโดยประชาชน มหาวิทยาลยั วิจยั แห่งชาติ-โรงเรียนอุดมศึกษา
ในทางปฏิบตั ิ หมายถึง อาํ นาจในการตดั สินใจประเดน็ เศรษฐศาสตร์รัสเซีย (Russia) ไดใ้ หร้ ายละเอียดเพิ่มเติม
ปัญหาสาํ คญั ของนโยบายสาธารณะตอ้ งข้ึนอยกู่ บั คน วา่ ประชาธิปไตยเป็นระบอบการปกครองท่ีอยบู่ น
จาํ นวนมากในสงั คม และในการตดั สินใจน้นั ทุกๆ คน พ้ืนฐานของ ระบบท่ีมีผแู้ ทนท่ีถกู เลือกโดยประชาชน
สามารถออกเสียงไดเ้ พียงเสียงเดียวไมม่ ีผใู้ ดสามารถออก การมีส่วนร่วมทางการเมืองของประชาชน สิทธิเสรีภาพ
เสียงไดเ้ กินหน่ึงเสียง ประชาชนใชอ้ าํ นาจโดยตรง เช่น ของประชาชน รวมถึงมีสิทธิในการแสดงออกต่างๆ เพื่อ
การลงมติยืนยนั เป็นตน้ หรือโดยออ้ มผา่ นสถาบนั เรียกร้องบางสิ่งบางอยา่ งที่ตอ้ งการจากรัฐบาลของพวก
ตวั แทนซ่ึงอาํ นาจของประชาชนจะถูกจาํ กดั อยทู่ ี่บตั ร เขา เช่น ในแถบสหภาพยโุ รปประชาชนเขา้ ร่วม
เลือกต้งั ท่ีจะบงั คบั ความรับผิดชอบใหเ้ กิดแก่ผทู้ ี่ไดร้ ับ กระบวนการทางการเมืองภายใตร้ ะบอบการปกครอง
มอบอาํ นาจ รวมถึงต้งั อยบู่ นพ้ืนฐานของความคิดเร่ือง แบบประชาธิปไตยผา่ นทางกิจกรรมต่างๆ เช่น การ
ความเสมอภาคท้งั ทางสงั คมและเศรษฐกิจ การเลือกต้งั เลือกต้งั การประทว้ ง การควา่ํ บาตร เป็นตน้ จากที่ได้
อยา่ งสม่าํ เสมอ ศกั ด์ิศรีของมนุษย์ สิทธิของเสียงส่วน กล่าวไปสามารถสรุปไดว้ า่ ประชาธิปไตย มีนิยาม
นอ้ ย รวมถึงการไดร้ ับบริการของรัฐและสงั คมอยา่ งเท่า ความหมายหรือคาํ จาํ กดั ความ ดงั ต่อไปน้ี
เทียมกนั
1. อาํ นาจอธิปไตยเป็นของประชาชนหรือ
ส่วน กระทรวงศึกษาธิการ (2542, หนา้ 13) ได้
กล่าววา่ การปกครองแบบประชาธิปไตย เป็นที่นิยมของ

14 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 3 September-December 2015
Social Science and Humanity

ประชาชนมีอาํ นาจสูงสุดในรัฐ 5. การบงั คบั ใชก้ ฎหมายยึดถือความเท่าเทียมกนั
2. ประชาชนในสงั คมมีความเสมอภาคและเท่า โดยไมม่ ีการเลือกปฏิบตั ิ

เทียมกนั 6. รัฐบาลตอ้ งมีอาํ นาจจาํ กดั อาํ นาจตอ้ งไมต่ อ้ ง
3. ประชาชนมีสิทธิและเสรีภาพในการดาํ เนิน อยใู่ นมือคนๆ เดียวเหรือกลุ่มเดียว มีการแบ่งอาํ นาจและ
กระจายอาํ นาจ โดยมีการตรวจสอบและถว่ งดุลอาํ นาจซ่ึง
ชีวิตโดยอยภู่ ายใตข้ อบเขตท่ีกฎหมายกาํ หนด กนั และกนั
4. ประชาชนแสดงอาํ นาจในการปกครองผา่ นทาง
7. การตดั สินใจหรือการปฏิบตั ิตอ้ งเป็นไปตาม
กิจกรรมต่างๆ ท่ีจดั ข้ึนและอาํ นวยความสะดวกโดย เสียงขา้ งมาก โดยตอ้ งคาํ นึงถึงสิทธิของคนส่วนนอ้ ย
รัฐบาล เช่น การเลือกต้งั การออกเสียงประชามติ การ
เสนอร่างกฎหมาย การชุมนุมตามที่กฎหมายกาํ หนดเพ่ือ 8. ประชาชนมีความเสมอภาคกนั ในดา้ นต่างๆ
เรียกร้องบางอยา่ งจากรัฐบาล เป็นตน้ โดยเฉพาะความเสมอภาคดา้ นกฎหมาย และความมี
โอกาสเท่าเทียมกนั ในดา้ นต่างๆ
ลกั กษณะสําคญั ของประชาธิปไตย
ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยมี 9. ประชาธิปไตยอยบู่ นพ้ืนฐานหลกั การของ
เสรีนิยม ประชาชนตอ้ งมีอิสระและเสรีภาพในการ
รากฐานมาอยา่ งยาวนานต้งั แต่อดีตโดยเร่ิมต้งั แต่สมยั กรีก กระทาํ ต่างๆ เช่น การแสดงความคิดเห็น การนบั ถือ
โบราณและไดพ้ ฒั นาต่อมาจนกระทงั่ ปัจจุบนั ลกั ษณะ ศาสนา การเดินทางไปไดท้ ุกๆ ท่ีในสงั คมท่ีอาศยั อยู่ เป็น
สาํ คญั ของประชาธิปไตย (อมร รักษาสตั ย์ และคณะ, ตน้ (Shively, 2008, pp. 159-160)
2539, หนา้ 33-34 และชยั อนนั ต์ สมทุ วณิช, 2519, หนา้
15) มีดงั ต่อไปน้ี 10. ประชาชนมีสิทธิเสรีภาพต่างๆ อยา่ ง
กวา้ งขวาง โดยที่รัฐบาลเป็นผใู้ หห้ ลกั ประกนั และ
1. ประชาชนเป็นเจา้ ของอาํ นาจอธิปไตย รัฐบาล คุม้ ครองการใชส้ ิทธิเสรีภาพ อยา่ งนอ้ ยสิทธิเสรีภาพข้นั
ไดอ้ าํ นาจมาจากประชาชนหรือโดยความยินยอมของ พ้ืนฐานที่สาํ คญั
ประชาชน
11. รัฐบาลใชห้ ลกั การปกครองโดยกฎหมาย
2. การเลือกผแู้ ทนในสังคมสมยั ใหมท่ ่ีเป็น หรือหลกั เนติธรรม ไม่ใชอ้ าํ นาจตามอาํ เภอใจ เช่น บุคคล
ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทนตอ้ งเป็นการเลือกท่ีบริสุทธ์ิ จะโดนจบั หรือโดนลงโทษกต็ ่อเม่ือทาํ ผดิ กฎหมายท่ีได้
ยตุ ิธรรมโดยประชาชนสามารถใชส้ ิทธิเลือกต้งั ไดอ้ ยา่ ง ระบุไว้ รวมถึงตอ้ งไดร้ ับการตดั สินคดีอยา่ งรวดเร็วและ
อิสระ เป็นธรรม เป็นตน้

3. ใหค้ วามสาํ คญั แก่แนวความคิดท่ีแตกต่าง 12. ประชาชนตอ้ งมีส่วนร่วมในการปกครอง
รวมถึงมีการแกไ้ ขปัญหาดว้ ยการร่วมกนั คิด ร่วมกนั ประเทศผา่ นกลไกต่างๆ หรือใชส้ ิทธ์ิท่ีจะแสดงบทบาท
ตดั สินใจ สถาบนั ทางการเมืองที่ทาํ หนา้ ท่ีตดั สินปัญหา ต่างๆ ไดโ้ ดยตรง
ทางการเมือง เศรษฐกิจและสงั คม เช่น คณะรัฐมนตรี
รัฐสภา โดยใชว้ ธิ ีอภิปรายแสดงความเห็นเพ่ือหาขอ้ ยตุ ิ 13. รัฐบาลตอ้ งรับผดิ ชอบต่อประชาชน
ประชาชนมีสิทธ์ิท่ีจะแสดงความคิดเห็นในดา้ นต่างๆ ต่อ
4. เชื่อในความเป็นอิสระและเสรีภาพของมนุษย์ รัฐบาลตลอดเวลา รวมถึงมีสิทธ์ิเปล่ียนแปลงรัฐบาลตาม
เช่น การนบั ถือศาสนา การชุมนุมทางการเมือง การแสดง วธิ ีการท่ีไดก้ าํ หนดไว้
ความคิดเห็น การออกเสียงเลือกต้งั เป็นตน้
ลกั ษณะสาํ คญั ของประชาธิปไตยท่ีไดก้ ล่าวไปใน
ขา้ งตน้ มีหลายประการดว้ ยกนั เช่น การแสดงความ

ปีท่ี 5 ฉบับที่ 3 ประจำ� เดือน กันยายน-ธนั วาคม 2558 วารสารวิชาการมหาวิทยาลยั อสี เทิร์นเอเชยี ฉบับสงั คมศาสตร์และมนษุ ยศาสตร์ 15

คิดเห็น การบงั คบั ใชก้ ฎหมายตอ้ งมีความเท่าเทียมกนั อภิปรายโตเ้ ถียง การตดั สินใจทางการเมือง การ
การออกเสียงเลือกต้งั เป็นตน้ ลกั ษณะสาํ คญั ของ ลงคะแนนเสียง การกาํ หนดนโยบายหรือขอ้ ปฏิบตั ิ เพ่ือ
ประชาธิปไตยเป็นสิ่งท่ีคนในสังคมจาํ เป็นตอ้ งเรียนรู้และ นาํ ไปใชใ้ นเชิงรูปธรรมรวมท้งั การตรวจสอบและ
ทาํ ความเขา้ ใจ ซ่ึงจะส่งผลใหบ้ ุคคลทราบถึงสิทธิและ ประเมินผล
เสรีภาพ รวมถึงการกระทาํ ต่างๆ ที่ตนเองสามารถกระทาํ
และพึงจะไดร้ ับ ซ่ึงจะนาํ ไปสู่การอยรู่ ่วมกนั อยา่ งมี 1.2 การยดึ ถือเสียงส่วนใหญ่ (majority rule) การ
ความสุข และช่วยพฒั นาสงั คมใหม้ ีความเจริญกา้ วหนา้ ตดั สินใจทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยทางตรง
มากย่งิ ข้ึน ลกั ษณะสาํ คญั ของประชาธิปไตยที่ไดก้ ล่าวไป น้นั จะยดึ ถือเสียงส่วนใหญ่หรือมติเสียงขา้ งมากของ
ในขา้ งตน้ จะประสบความสาํ เร็จและสามารถดาํ เนินการ ประชาชนท้งั ในกระบวนการนิติบญั ญตั ิ บริหารและตุลา
ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพยอ่ มข้ึนอยกู่ บั รัฐบาลภายใตก้ าร การ
ปกครองแบบประชาธิปไตยของประเทศน้นั วา่ สามารถ
นาํ หลกั การเก่ียวกบั ประชาธิปไตยมาดาํ เนินการปฏิบตั ิ 1.3 ความเท่าเทียมกนั ทางการเมือง (political
อยา่ งสมบรู ณ์และดว้ ยความเขา้ ใจที่ถูกตอ้ งไดม้ ากนอ้ ย equality) ในการตดั สินใจใดๆ ทางการเมืองในระบอบ
เพียงใด การปกครองแบบประชาธิปไตย ถือวา่ ประชาชนทุกคนมี
สิทธิทางการเมืองเท่าเทียมกนั คือ ทุกคนมี 1 เสียงที่จะ
รูปแบบประชาธิปไตย เลือกโดยอิสระ
ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เป็น
ประชาธิปไตยทางตรง หรือประชาธิปไตยแบบมี
ระบอบการปกครองที่นิยมใชก้ นั อยา่ งแพร่หลายใน ส่วนร่วม เป็นระบอบการปกครองท่ีเกิดข้ึนจากประสบ
ประเทศต่างๆ ทวั่ ทุกมุมโลก โดยรวมระบอบการ การณ์ของชาวเอเธนส์ในกรีกโบราณประมาณ 2500 ปี ที่
ปกครองแบบประชาธิปไตย แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 รูปแบบ ผา่ นมา เป็นรูปแบบประชาธิปไตยที่เหมาะสมกบั สงั คมที่
ใหญ่ๆ (ณชั ชาภทั ร อนุ่ ตรงจิตร, 2550, หนา้ 107-111) มีจาํ นวนประชากรไมม่ ากนกั และสภาพสงั คมไม่มีความ
ดงั น้ี สลบั ซบั ซอ้ น การตดั สินใจในเรื่องที่สาํ คญั จะกระทาํ โดย
การโหวตหรือออกเสียงโดยพลเมืองเสียงขา้ งมากเป็น
1.ประชาธิปไตยทางตรง (direct democracy) หรือ เกณฑ์ ในปัจจุบนั การปกครองประชาธิปไตยแบบมีส่วน
ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม (participatory ร่วมน้ีไม่สามารถพบไดอ้ ยา่ งเต็มรูปแบบในระดบั ชาติอีก
democracy) มีหลกั การพ้ืนฐานที่สาํ คญั อยู่ 3 การดว้ ยกนั ต่อไปแลว้ เนื่องจากสภาพสงั คมท่ีไดเ้ ปล่ียนแปลงไปจาก
ไดแ้ ก่ อดีตและสงั คมมีความสลบั ซบั ซอ้ นมากข้ึน รวมถึง
จาํ นวนประชากรไดเ้ พิ่มข้ึนมากกวา่ ในอดีตเป็นจาํ นวน
1.1 การมีส่วนร่วมจากประชาชน โดยประชาชน มาก (Stephen, 2004, pp. 170-171) แต่ยงั สามารถพบได้
ทุกๆ คนจะเขา้ มามีส่วนร่วมทางการเมืองโดยตรง ในหน่วยเลก็ ๆ ทางการเมืองในระดบั ทอ้ งถ่ิน การท่ี
ประชาชนจะมีบทบาทในการตดั สินใจในกิจการ รูปแบบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมยงั คงปรากฏอยใู่ น
บา้ นเมืองโดยไมต่ อ้ งผา่ นกระบวนการหลากหลาย ทอ้ งถิ่น อาจเป็นเพราะยงั คงมีคุณค่าในทางสญั ลกั ษณ์
ข้นั ตอน เหมือนกบั ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน และ และความคิดที่วา่ ประชาชนที่อาศยั อยใู่ นชุมชนหรือ
ประชาชนมีส่วนร่วมในการออกกฎหมาย (สุพจน์ บุญ ทอ้ งถิ่นเดียวกนั มานานควรร่วมกนั กาํ หนดสวสั ดิการ
วเิ ศษ, 2549, หนา้ 158) ซ่ึงจะเขา้ สู่ข้นั ตอนของระบอบ หรือการดาํ เนินงานดา้ นต่างๆ ร่วมกนั รวมถึงในแง่ของ
การเมืองต้งั แต่ข้นั ตอนการรับฟังประเดน็ ปัญหา การ จาํ นวนประชากรในชุมชนยงั มีจาํ นวนไมม่ ากเกินไป และ

16 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 3 September-December 2015
Social Science and Humanity

สภาพสงั คมท่ีไม่มีความซบั ซอ้ นมากนกั ที่จะดาํ เนินการ การรวมตวั กนั เพื่อเสนอขอ้ กฎหมายหรือถอดถอนผทู้ ี่
ในรูปแบบประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม ซ่ึงไมส่ ามารถ ดาํ รงตาํ แหน่งทางการเมือง
รับประกนั ไดว้ า่ จะสามารถดาํ เนินการไดต้ ลอดไป
หรือไม่ เนื่องจากสงั คมมีสภาพไม่คงที่มีการเปล่ียนแปลง 2.3 ขอ้ ยกเวน้ บางประการของเสียงส่วนใหญ่
อยเู่ สมอ (สนธิ เตชานนั ท,์ 2543, หนา้ 116) ถึงแมว้ า่ เสียงส่วนใหญ่จะเป็นตวั กาํ หนดนโยบายหรือ
กฎหมาย แต่ในบางกรณีเสียงส่วนใหญอ่ าจไมเ่ พียงพอต่อ
2.ประชาธิปไตยทางออ้ ม (indirect democracy) หรือ ประเดน็ ท่ีสาํ คญั เช่น การแกร้ ัฐธรรมนูญ อาจตอ้ งใชเ้ สียง
เรียกวา่ ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน (representative ขา้ งมากถึง 3 ใน 4 เพื่อท่ีจะใหเ้ พียงพอต่อการยกร่าง
democracy) เน่ืองจากในปัจจุบนั ขนาดของประชากรและ แกไ้ ขรัฐธรรมนูญ รวมถึงเสียงขา้ งมากของศาล
ความหลากหลายของประชากรที่เพ่ิมมากข้ึนท้งั จาํ นวน รัฐธรรมนูญ อาจสามารถลม้ กฎหมายท่ีออกโดยผแู้ ทน
ความหลากหลายทางเช้ือชาติ ศาสนา สีผิว ระดบั การ ของคนส่วนใหญใ่ นสงั คมได้ ถา้ หากกฎหมายน้นั ขดั กบั
พฒั นาเศรษฐกิจ เป็นตน้ รวมถึงสภาพสงั คมที่มีความ กฎหมายรัฐธรรมนูญท่ีใชใ้ นการปกครองประเทศ
ซบั ซอ้ นมากข้ึน ดว้ ยเหตุน้ีจึงเกิดประชาธิปไตยแบบมี
ผแู้ ทนข้ึนมา ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทนเป็นการเลือก 2.4 เป็นการปกครองภายใตห้ ลกั การท่ีกาํ หนดโดย
ตวั แทนเขา้ ไปทาํ หนา้ ที่ปกครอง จกั ษ์ พนั ธช์ ูเพชร (2552, รัฐธรรมนูญ รัฐธรรมนูญเป็นสิ่งที่สาํ คญั มากของรัฐบาล
หนา้ 128) ไดก้ ล่าววา่ ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน มีหลกั ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย เน่ืองจากเป็น
พ้ืนฐานท่ีสาํ คญั ดงั ต่อไปน้ี ส่ิงสาํ คญั ในการที่จะจาํ กดั อาํ นาจของรัฐบาลซ่ึงไดม้ าจาก
เสียงขา้ งมากในสังคม การใชอ้ าํ นาจของเสียงขา้ งมาก
2.1 ระบอบการปกครองประชาธิปไตยแบบมี โดยปราศจากขอ้ จาํ กดั อาจจะทาํ ใหเ้ กิด “ทรราชเสียงขา้ ง
ผแู้ ทนมีหลกั การท่ีสาํ คญั เหมือนกบั ประชาธิปไตย มากได”้ (tyranny of majority) ซ่ึงเป็นเหตุการณ์หรือ
แบบมีส่วนร่วม ไดแ้ ก่ การมีส่วนร่วมจากประชาชน การ สถานการณ์ทางการเมืองท่ีรัฐบาลเลือกที่จะทาํ ตามความ
ยึดและเคารพเสียงส่วนใหญ่ และมีความเท่าเทียมกนั ทาง ตอ้ งการเสียงส่วนใหญ่ โดยละทิ้งเสียงส่วนนอ้ ย โดย
การเมือง แต่สิ่งที่แตกต่างและเพิ่มเขา้ มากค็ ือ การเลือกต้งั เสียงส่วนนอ้ ยน้ีอาจจะตอ้ งสูญเสียสิทธิที่พึงมี ดงั น้นั
และรัฐธรรมนูญ โดยการมีส่วนร่วมทางการเมืองของ รัฐธรรมนูญจึงเป็นสิ่งท่ีสาํ คญั ในการจาํ กดั อาํ นาจเสียง
ประชาชนจะผา่ นทางการเลือกต้งั ตามหลกั รัฐธรรมนูญที่ ขา้ งมากในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
ไดก้ าํ หนดไวใ้ นแต่ละประเทศอาจมีความแตกต่างกนั
หรือคลา้ ยคลึงกนั กไ็ ดใ้ นแต่ละประเทศ ซ่ึงการเลือกต้งั น้ี จากท่ีไดก้ ล่าวไปในขา้ งตน้ เกี่ยวกบั หลกั การ
จะทาํ ใหไ้ ดผ้ แู้ ทนของกลุ่มบุคคล โดยการเลือกต้งั มี พ้ืนฐานที่สาํ คญั ของประชาธิปไตย ไดแ้ ก่ ประชาธิปไตย
หลกั การสาํ คญั คือ ตอ้ งมีการเลือกต้งั ที่มีอิสระและเสรี ทางตรงหรือประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม และ
รวมถึงไมผ่ ิดกฎหมายหรือระเบียบที่วางไว้ ประชาธิปไตยทางออ้ มหรือเรียกวา่ ประชาธิปไตยแบบมี
ผแู้ ทน สามารถสรุปไดว้ า่ ท้งั 2 รูปแบบมีส่วนที่
2.2 สามารถทาํ ใหค้ นเขา้ มามีส่วนร่วมไดม้ ากกวา่ คลา้ ยคลึงกนั เช่น การยึดถือเสียงส่วนใหญห่ รือเสียงขา้ ง
ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม นอกจากการมีส่วนร่วม มากของประชาชนในการดาํ เนินการหรือตดั สินใจใดๆ
ทางการเมืองผา่ นทางการเลือกต้งั แลว้ การมีส่วนร่วม ประชาชนในสงั คมมีสิทธิทางการเมืองเท่าเทียมกนั คือ
ทางการเมืองของประชาชนยงั สามารถทาํ ไดผ้ า่ นทางการ ทุกคนมี 1 เสียง ประชาชนมีส่วนร่วมในการออก
ชุมนุม การเรียกร้องโดยสนั ติ การแสดงออกทางการเมือง กฎหมาย เป็นตน้ ส่วนท่ีแตกต่างกนั คือ การตดั สินใจ
ในรูปแบบต่างๆ ผา่ นทางงานเขียน การอภิปราย รวมถึง ใดๆ ของประชาชนในแบบประชาธิป

ปีที่ 5 ฉบับที่ 3 ประจำ� เดอื น กนั ยายน-ธนั วาคม 2558 วารสารวิชาการมหาวทิ ยาลัยอสี เทิร์นเอเชีย ฉบบั สงั คมศาสตรแ์ ละมนษุ ยศาสตร์ 17

ไตยทางออ้ มหรือประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน ประชาชน ท้งั ทางดา้ นนิติบญั ญตั ิและบริหารประเทศ เน่ืองจาก
จะเลือกต้งั ตวั แทน เพื่อท่ีจะมาทาํ หนา้ ท่ีปกครองแทน รัฐสภาประกอบดว้ ย สมาชิกสภาผแู้ ทนราษฎรที่มาจาก
ตนเองผา่ นทางกิจกรรมท่ีรัฐบาลไดจ้ ดั ข้ึน เช่น การ การเลือกต้งั ของประชาชนโดยตรง (สอดคลอ้ งกบั การท่ี
เลือกต้งั เป็นตน้ โดยตอ้ งเป็นไปตามหลกั เกณฑท์ ่ีกาํ หนด ประชาชนเป็นเจา้ ของอาํ นาจอธิปไตย) รัฐสภาจึงมีอาํ นาจ
ไวใ้ นระเบียบกฎหมาย รวมถึงกฎหมายรัฐธรรมนูญ คือ ในการแต่งต้งั และถอดถอนรัฐบาล ไดแ้ ก่ นายกรัฐมนตรี
สิ่งท่ีสาํ คญั ในระบอบการปกครองแบประชาธิปไตยแบบ และคณะรัฐมนตรี ส่วนใหญม่ กั มาจากเสียงขา้ งมากใน
มีผแู้ ทน เน่ืองจากรัฐธรรมนูญ คือ สิ่งท่ีจาํ กดั เสียงขา้ ง รัฐสภา รัฐสภาไดม้ ีหนา้ ท่ีในการควบคุมการปฏิบตั ิงาน
มากของรัฐบาลที่มาจากการเลือกต้งั ใหไ้ มส่ ามารถใช้ ของคณะรัฐมนตรีและฝ่ ายบริหาร เช่น การต้งั กระทเู้ ปิ ด
อาํ นาจไดต้ ามอาํ เภอใจ ซ่ึงอาจกล่าวไดว้ า่ กฎหมาย อภิปรายไม่ไวว้ างใจเพื่อใหค้ ณะรัฐมนตรีลาออก รวมถึง
รัฐธรรมนูญน้นั ช่วยปกป้ องหรือพิทกั ษเ์ สียงส่วนนอ้ ยใน คณะรัฐมนตรีกม็ ีสิทธิยบุ สภาใหม้ ีการเลือกต้งั ใหม่ได้
สงั คมกย็ อ่ มได้ การใชอ้ าํ นาจของรัฐบาลที่มากจากการ กลา่ วคือ มีนายกรัฐมนตรีในฐานะหวั หนา้ ฝ่ ายบริหารเป็น
เลือกต้งั ไม่สามารถดาํ เนินการใดๆที่ขดั แยง้ ต่อกฎหมาย ผคู้ ดั เลือกบุคคลข้ึนมาดาํ รงตาํ แหน่งรัฐมนตรีหรือ
รัฐธรรมนูญได้ เช่น การออกกฎหมายของโดยผแู้ ทนที่ คณะรัฐมนตรีโดยการรับรองของรัฐสภา นายกรัฐมนตรี
ประชาชนเลือกมาถา้ กฎหมายท่ีออกมาน้นั ขดั ต่อ มกั มี 3 สถานภาพ ไดแ้ ก่ สถานภาพการเป็น
กฎหมายรัฐธรรมนูญ เสียงขา้ งมากของศาลรัฐธรรมนูญ นายกรัฐมนตรีหรือหวั หนา้ คณะรัฐบาล สถานภาพการ
สามารถลงมติถอดถอนกฎหมายท่ีออกโดยผแู้ ทนท่ีถูก เป็นหวั หนา้ พรรคการเมือง และสถานภาพผนู้ าํ เสียงขา้ ง
เลือกโดยประชาชนได้ เป็นตน้ มากในสภาผแู้ ทนราษฏร คณะรัฐมนตรีหรือรัฐบาลเป็นผู้
ท่ีมีอาํ นาจที่แทจ้ ริงในระบบรัฐสภาท้งั ทางบริหารและนิติ
รูปแบบประชาธิปไตยแบบผู้มแี ทนหรือ บญั ญตั ิ เนื่องจากคณะรัฐมนตรีมกั จะคุมเสียงขา้ งมากใน
ประชาธิปไตยทางอ้อม พรรคการเมือง ดว้ ยเหตุน้ี หากนกั การเมืองในพรรค
ฝ่ ายรัฐบาลมีความสามคั คีไม่แตกแยกแบ่งฝักแบ่งฝ่ าย
รูปแบบประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทนน้นั โกวทิ ย์ อาํ นาจของรัฐบาลจะมีความมนั่ คงสูงหรือมีเสถียรภาพ
วงศส์ ุรวฒั น์ (2540, หนา้ 81-84) ไดก้ ล่าววา่ สามารถแบ่ง อยา่ งมาก นอกจากน้ีเม่ือเกิดเหตุการณ์หรือสถานการณ์
ออกไดเ้ ป็น 4 รูปแบบ ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ ระบบรัฐสภาหรือ ใดข้ึนจึงเป็นความรับผิดชอบร่วมกนั ภายใตร้ ูปแบบ
แบบคณะรัฐมนตรี (parliamentary system) ระบบ รัฐสภา เป็นความรับผิดชอบแบบองคค์ ณะหรือความ
ประธานาธิบดี (presidential system) ระบบก่ึง รับผดิ ชอบร่วม ไม่ใช่ตวั ผนู้ าํ รัฐบาลเพียงคนเดียวแบบที่
ประธานาธิบดี (semi – presidential system) และระบบ เกิดข้ึนกบั รูปแบบประธานาธิบดี (บูฆอรี ยหี มะ, 2550,
เลือกต้งั นายกรัฐมนตรีโดยตรง (direct-election 0f หนา้ 118-122)
premiership of system) ดงั ต่อไปน้ี
2. ระบบประธานาธิบดี (presidential system)
1. ระบบรัฐสภาหรือแบบคณะรัฐมนตรี มีสหรัฐอเมริกาเป็นตน้ แบบ ระบบประธานาธิบดีถกู
(parliamentary system) ตามหลกั ทฤษฏีถือไดว้ า่ ประเทศ ดดั แปลงมาจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ กลา่ วคือ
องั กฤษเป็นตน้ แบบหรือเป็นแบบอยา่ ง จุดเด่นคือ การ ประธานาธิบดีเป็นท้งั ประมุขของรัฐและหวั หนา้ ฝ่ าย
ถือเอาฝ่ ายนิติบญั ญตั ิหรือรัฐสภาเป็นศนู ยก์ ลางแห่ง บริหาร การดาํ รงตาํ แหน่งของประธานาธิบดีไมไ่ ดข้ ้ึนอยู่
อาํ นาจรัฐเป็นที่รวมของเจตจาํ นวของประชาชนท้งั กบั เสียงสนบั สนุนขา้ งมากของสมาชิกสภาผแู้ ทน รา
ประเทศ เป็นศนู ยก์ ลางแห่งอาํ นาจทางการเมือง มีหนา้ ท่ี

18 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 3 September-December 2015
Social Science and Humanity

ษฏร แต่ข้ึนอยกู่ บั ตะแนนนิยมจากประชาชนท้งั ประเทศ เห็นชอบจากรัฐสภาตอ้ งลาออก แต่ประธานาธิบดีไม่ตอ้ ง
ที่มีต่อตวั ประธานาธิบดี เน่ืองจากการข้ึนดาํ รงตาํ แหน่ง ลาออกและสามารถแต่งต้งั นายกรัฐมนตรีคนเดิมกลบั มา
ของประธานาธิบดีมาจากการเลือกต้งั โดยตรงของ รับตาํ แหน่งได้ ในทางปฏิบตั ิสรุปคือ ประธานาธิบดีเป็น
ประชาชนท้งั ประเทศมีอาํ นาจและแต่งต้งั ถอดถอน ผใู้ ชอ้ าํ นาจแต่คณะรัฐมนตรีเป็นผรู้ ับผิดชอบให้
รัฐมนตรี นอกจากน้ียงั เป็นผบู้ ญั ญาการทหารสูงสุดมี นายกรัฐมนตรีจะทาํ หนา้ ที่คลา้ ยกบั รองประธานาธิบดี
อาํ นาจในการสง่ั การในการรบไดอ้ ยา่ งเดด็ ขาดระบบน้ีมี มากกวา่ ที่จะอยใู่ นตาํ แหน่งหวั หนา้ ฝ่ ายบริหาร(จกั ษ์ พนั ธ์
จุดเด่น คือ ระบบการถว่ งดุลอาํ นาจ ระหวา่ งอาํ นาจนิติ ชูเพชร, 2552, หนา้ 143-149) ส่วนความแตกต่างระหวา่ ง
บญั ญตั ิ อาํ นาจบริหารและอาํ นาจตุลาการ มีการแบ่ง ระบบประธานาธิบดีและระบบก่ึงประธานาธิบดี คือ
อาํ นาจกนั เกือบจะเดด็ ขาด รวมถึงมีการตรวจสอบซ่ึงกนั ประธานาธิบดีในระบบประธานาธิบดีมีอาํ นาจในการ
และกนั อยตู่ ลอดเวลา กลา่ วคือ รัฐสภามีหนา้ ท่ีเป็นผู้ บริหาร แต่ประธานาธิบดีในระบบก่ึงประธานาธิบดีเป็น
บญั ญตั ิกฎหมาย แต่ประธานาธิบดีสามารถยบั ย้งั ร่าง ผจู้ ดั สรรอาํ นาจการบริหารประเทศใหแ้ ก่นายกรัฐมนตรี
กฎหมายดงั กล่าวได้ และศาลสูงมีอาํ นาจพิจารณาวา่ และฝ่ ายบริหาร (ณชั ชาภทั ร อนุ่ ตรงจิตร, 2550, หนา้
กฎหมายน้นั ขดั ต่อรัฐธรรมนูญท่ีใชใ้ นการปกครอง 112-116)
ประเทศหรือไม่ นอกจากน้ีวฒุ ิสภามีอาํ นาจไมย่ อมรับ
คณะรัฐมนตรีท่ีประธานาธิบดีแต่งต้งั ได้ หลกั การสาํ คญั 4. ระบบเลือกต้งั นายกรัฐมนตรีโดยตรง (direct-
ในการแบ่งแยกอาํ นาจของ ระบบประธานาธิบดีบดี คือ election 0f premiership of system) คือ การเลือกต้งั
ประธานาธิบดีเป็นผทู้ ่ีไดร้ ับเลือกมาจากประชาชนซ่ึง หวั หนา้ ฝ่ ายบริหาร ปรัชญาในการเลือกต้งั นายกรัฐมนตรี
ประธานาธิบดีเป็นผสู้ รรหาและแต่งต้งั คณะรัฐมนตรี โดยตรง คือ การเลือกต้งั ผทู้ ่ีเป็นตวั แทนของประชาชนท้งั
โดยตอ้ งผา่ นความเห็นชอบจากรัฐสภา รัฐมนตรีจะไม่ ประเทศ ซ่ึงจะสามารถแกไ้ ขปัญญาของรัฐบาลแบบ
สามารถเป็นสมาชิกรัฐสภาได้ จากจุดน้ีจะเห็นไดว้ า่ มี รัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรีที่วา่ นายกรัฐมนตรีเป็นผแู้ ทน
ความแตกต่างกบั ระบบรัฐสภาท่ีรัฐมนตรีเป็นสมาชิก จากจงั หวดั หน่ึงจงั หวดั ใดหรือนายทุนกลุม่ ใดกลุ่มหน่ึง
รัฐสภากลุ่มเดียวกบั รัฐบาล เท่าน้นั ประเทศไทยมีการเสนอแนะใหท้ ดลองใชร้ ูปแบบ
รัฐบาลแบบน้ีมาไม่ต่าํ กวา่ 20 ปี แลว้ แมใ้ นปัจจุบนั กย็ งั มี
3. ระบบก่ึงประธานาธิบดี (semi – presidential นกั วิชาการหรือผดู้ าํ รงตาํ แหน่งทางการเมืองเสนอแนะ
system) ถือไดว้ า่ มีประเทศฝร่ังเศสเป็นตน้ แบบ และเพ่ิง ใหท้ ดลองใชร้ ูปแบบรัฐบาลแบบน้ี
เกิดข้ึนหลงั สงครามโลกคร้ังท่ีสอง มีจุดเด่น คือ การเอา
รัฐบาล 2 แบบท่ีไดก้ ล่าวไปในขา้ งตน้ มาปรับปรุงและ การแสดงออกถึงอาํ นาจทปี่ ระชาชนพงึ มตี ามระบอบการ
ดดั แปลงเขา้ ดว้ ยกนั กล่าวคือ ใหป้ ระธานาธิบดีตอ้ งไดร้ ับ ปกครองแบบประชาธิปไตย
การเลือกต้งั จากประชาชนท้งั ประเทศโดยตรง เพ่ือใหม้ ี
อาํ นาจมากถ่วงดุลแก่รัฐสภาได้ ประธานาธิบดีมีอาํ นาจ ในการปกครองแบบประชาธิปไตย ประชาชน
ในการยบุ สภาผแู้ ทนราษฎร แต่งต้งั และปลด เป็นผมู้ ีอาํ นาจสูงสุด ซ่ึงกค็ ือ ประชาชนเป็นเจา้ ของ
นายกรัฐมนตรี รวมถึงฝ่ ายบริหารไดต้ ามความเหมาะสม อาํ นาจ โกวิท วงศส์ ุรวฒั น์ (2540, หนา้ 74-76) ไดก้ ลา่ ว
คณะรัฐมนตรีมีอาํ นาจในการบริหารอยา่ งเตม็ ท่ี รัฐสภามี วา่ ประชาชนสามารถแสดงออกถึงอาํ นาจท่ีตนเองพึงมี
อาํ นาจในการแกก้ ฎหมายและควบคุมการบริหารราชการ ในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย ดงั น้ี
ของฝ่ ายบริหารเท่าน้นั หากคณะรัฐมนตรีไมไ่ ดร้ ับความ
1.การออกเสียงเลือกต้งั (election) เป็นการ
แสดงออกทางอาํ นาจของประชาชนในการเลือกรัฐบาล

ปีที่ 5 ฉบับที่ 3 ประจ�ำเดือน กันยายน-ธันวาคม 2558 วารสารวชิ าการมหาวทิ ยาลยั อสี เทิร์นเอเชยี ฉบบั สังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ 19

ซ่ึงคือ ผดู้ าํ เนินงานของรัฐ การเลือกต้งั ใชห้ ลกั ความเสมอ 3. ประชาชนมีสิทธิเสนอร่างกฎหมาย (initiative)
ภาคโดยประชาชนทุกคนมีสิทธิในการเลือกต้งั ทว่ั ไปไมม่ ี ตามหลกั ประชาธิปไตยโดยทว่ั ไป ประชาชนมกั ใช้
ขอ้ จาํ กดั ในเร่ือง เพศ ทรัพยส์ มบตั ิ หรือชาติตระกลู อาํ นาจอธิปไตยในการร่างกฎหมายโดยผา่ นทางฝ่ ายนิติ
อาชีพ สถานะทางสงั คม การเลือกต้งั เป็นส่ิงท่ีมี บญั ญตั ิ คือ รัฐสภา แต่ประชาชนกม็ ีสิทธิท่ีจะแสดง
ความสาํ คญั ต่อกาบริหารประเทศ เน่ืองจากผแู้ ทนที่ อาํ นาจอิปไตยในการเสนอร่างกฎหมายได้ สิ่งน้ีถือไดว้ า่
ประชาชนเลือกต้งั เขา้ ไปจะเป็นผทู้ ี่เขา้ ไปทาํ หนา้ ท่ีในการ เป็นพฒั นาการในทางประชาธิปไตยท่ีกา้ วหนา้ หรือยอด
จดั ต้งั รัฐบาลที่ทาํ หนา้ ท่ีบริหารประเทศใหม้ ีความ เยยี่ มในทางปฏิบตั ิ ในทางทฤษฎีการเสนอร่างกฎหมาย
เจริญกา้ วหนา้ ตามความตอ้ งการของประชาชน กบั การออกเสียงประชามติมาจากหลกั การพ้ืนฐานอนั
(กระทรวงศึกษาธิการ, 2542, หนา้ 26-27) นอกจากน้ี เดียวกนั สิทธิในการเสนอร่างกฎหมายของประชาชนมี
ปัญหาเร่ืองการนอนหลบั ทบั สิทธ์ิ ถือเป็นปัญหาที่สาํ คญั ความสาํ คญั และเหนือกวา่ สิทธิในการออกเสียงหรือลง
ในการเลือกต้งั ตามระบอบการปกครองแบบ ประชามติ กล่าวคือ ประชาชนมีสิทธิท่ีจะเสนอร่าง
ประชาธิปไตย กฎหมาย ถา้ หากฝ่ ายนิติบญั ญตั ิไมท่ าํ ตามหรือไม่สามารถ
ตอบสนองความตอ้ งการของประชาชนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม
2. การออกเสียงประชามติ (referendum) คือ ในขณะที่การออกเสียงประชามติมีสิทธิแค่เพียงการ
อาํ นาจท่ีประชาชนมีเพ่ือใชต้ ดั สินปัญาต่างๆ ของรัฐตาม ตดั สินยอมรับหรือไม่ยอมรับร่างกฎหมายที่ผา่ นสภานิติ
ความตอ้ งการหรือเจตจาํ นงของตน ส่วนใหญใ่ นทาง บญั ญตั ิแลว้ เท่าน้นั (สนธิ เตชานนั ท,์ 2543, หนา้ 117)
ปฏิบตั ิมกั เก่ียวขอ้ งกบั กฎหมายรัฐธรรมนูญที่ยกร่างข้ึน ซ่ึงในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย 2550 ในมาตรา
ใหม่ หรือแกไ้ ขเพิ่มเติมในตอนใดตอนหน่ึง การออก 163 ไดบ้ ญั ญตั ิใหผ้ มู้ ีสิทธิเลือกต้งั ไม่นอ้ ยกวา่ 10,000 คน
เสียงหรือการลงคะแนนเสียงกไ็ มไ่ ดม้ ีความซบั ซอ้ นเพียง มีสิทธิเขา้ เช่ือร้องขอต่อประธานรัฐสภา เพ่ือใหร้ ัฐสภา
แค่ โหวต Yes หรือ No ในเรื่องน้นั ๆ ตามความตอ้ งการ พิจารณากฎหมายไดเ้ วน้ แต่เฉพาะกฎหมายที่มีความ
หรือเจตจาํ นงของตน ท่ีมาของการออกเสียงประชามติน้ี เก่ียวขอ้ งกบั สิทธิเสรีภาพของประชาชนชาวไทย และ
มาจากประเทศสวติ เซอร์แลนดท์ ่ีเนน้ เกี่ยวกบั รัฐธรรมนูญ แนวนโยบายพ้ืนฐานแห่งรัฐเท่าน้นั
ดงั ตวั อยา่ ง การออกเสียงประชามติของประเทศ
สวติ เซอร์แลนด์ เมื่อเดือนกมุ ภาพนั ธ์ ค.ศ.1971 รัฐบาล 4. ประชาชนสามารถตดั สินปัญหาสาํ คญั ๆ
สวิตเซอร์แลนดไ์ ดเ้ สนอใหม้ ีการออกเสียงประชามติใน เก่ียวกบั นโยบายของรัฐบาล (plebiscite) ในทางปฏิบตั ิ
การร่างแกไ้ ขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญใหผ้ หู้ ญิงมีสิทธิออก เม่ือรัฐบาลมีปัญหาในระดบั นโยบายที่ไมส่ ามารถ
เสียงเลือกต้งั ได้ ผลปรากฏวา่ ผมู้ าใชส้ ิทธิออกเสียงหรือ ตดั สินใจเองได้ เน่ืองจากเม่ือตดั สินใจไปแลว้ อาจเกิด
ลงประชามติส่วนใหญเ่ ป็นผชู้ ายท้งั สิ้น โดยไดอ้ อกเสียง ผลกระทบท่ีรุนแรงต่อสงั คม เช่น การท่ีจะเลิกจาํ หน่าย
เห็นดว้ ย จึงส่งผลใหว้ นั ท่ี 30 และ 31 ตุลาคม ค.ศ.1971 สุรา หรือการเปิ ดบ่อนพนนั โดยเสรีถกู ตอ้ งตามกฎหมาย
ผหู้ ญิงสวติ เซอร์แลนดจ์ ึงมีสิทธิออกเสียงเลือกต้งั สมาชิก เร่ืองเหลา่ น้ีรัฐบาลตอ้ งใหป้ ระชาชนตดั สินใจกนั เอง โดย
รัฐสภาเป็นคร้ังแรก(EdouardBertran de Jpuvenel , 1961 การเปิ ดใหล้ งคะแนนเสียงกค็ ือ Yes กบั No ตามเจตจาํ นง
อา้ งใน สนธิ เตชานนั ท,์ 2543,หนา้ 117) นอกจากน้ียงั พบ หรือความตอ้ งการของประชาชนการใหป้ ระชาชน
ในรัฐธรรมนูญแห่งสหรัฐอเมริกา ฝรั่งเศส เป็นตน้ ที่ให้ สามารถตดั สินปัญหาสาํ คญั ๆ เกี่ยวกบั นโยบายของ
ประชาชนออกเสียงประชามติรับรองหรือไมร่ ับรองการ รัฐบาล (plebiscite) ส่วนการออกเสียงประชามติ
แกไ้ ขรัฐธรรมนูญ (referendum) คนส่วนใหญ่มกั เขา้ ใจผิดและใชป้ ะปนกนั

20 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 3 September-December 2015
Social Science and Humanity

ซ่ึงการออกเสียงประชามติ เป็นการใหป้ ระชาชนมา มากข้ึน ดว้ ยเหตุน้ีจึงเกิดประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน
ลงคะแนนวา่ จะรับหรือไมร่ ับร่างรัฐธรรมนูญท้งั ฉบบั ข้ึนมา ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทนสามารถแบ่งออกได้
หรือท่ีแกไ้ ขเป็นการเฉพาะในบางมาตรา แต่การให้ เป็น 4 รูปแบบ ดว้ ยกนั ไดแ้ ก่ ระบบรัฐสภาหรือแบบ
ประชาชนลงมติเพื่อตดั สินใจปัญหาสาํ คญั ท่ีเก่ียวกบั คณะรัฐมนตรี ระบบประธานาธิบดีบดี ระบบก่ึง
นโยบายรัฐบาลมกั ไม่เกี่ยวขอ้ งกบั การแกไ้ ขกฎหมายทุก ประธานาธิบดี และระบบเลือกต้งั นายก
คร้ังไป แต่เก่ียวกบั นโยบาย การดาํ เนินงานที่สาํ คญั ๆ มี รัฐมนตรีโดยตรง ปัจจุบนั รูปแบบประชาธิปไตยแบบมี
ผลกระทบต่อคนส่วนใหญใ่ นสงั คม(ไพโรจน์ ชยั นาม, ผแู้ ทนท่ีไดถ้ ูกนาํ ไปใชอ้ ยา่ งแพร่ในหลายๆ ประเทศทวั่
2524 อา้ งถึงใน สนธิ เตชานนั ท,์ 2543, หนา้ 119) ทุกมุมโลก รูปแบบประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน ไดแ้ ก่
ระบบรัฐสภาหรือคณะรัฐมนตรี และระบบ
5. ประชาชนสามารถเปลี่ยนผดู้ าํ รงตาํ แหน่ง ประธานาธิบดีบดี การที่จะบอกวา่ รูปแบบประชาธิปไตย
สาํ คญั ของรัฐบาลได้ (recall) การแสดงออกซ่ึงอาํ นาจ ใดดีท่ีสุดและมีความเหมาะสมน้นั ไมส่ ามารถกระทาํ ได้
อธิปไตยของประชาชนที่สามารถมีสิทธิออกเสียงหรือ เนื่องจากสภาพสงั คมในแต่ละประเทศมีความแตกต่างกนั
ถอดถอนบุคคลในตาํ แหน่งต่างๆ ที่มาจากการเลือกต้งั ท้งั ประวตั ิศาสตร์ความเป็นมา สภาพสงั คมท้งั ในอดีต
การดาํ เนินการเช่นน้ีอยบู่ นหลกั การพ้ืนฐานที่วา่ เม่ือ และปัจจุบนั และปัจจยั ทางสภาพแวดลอ้ มอื่นๆ อีก
ประชาชนเลือกต้งั เขา้ มาไดก้ ส็ ามารถถอดถอนออกได้ มากมาย นอกจากน้ีการเรียนรู้และทาํ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั
เช่นกนั โดยเป็นไปตามบทบญั ญตั ิแห่งรัฐธรรมนูญท่ีได้ ลกั ษณะของประชาธิปไตยและการแสดงออกทางอาํ นาจ
กาํ หนดไว้ ท่ีบุคคลพึงมีในระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย
เป็นสิ่งท่ีสาํ คญั ที่ประชาชนในสงั คมควรเรียนรู้และทาํ
สรุป ความเขา้ ใจ เนื่องจากช่วยใหบ้ ุคคลรู้จกั สิทธิ เสรีภาพ
ประชาธิปไตยเป็นการปกครองโดยประชาชน ซ่ึงกค็ ือ และหนา้ ที่ท่ีตนเองพึงมี รวมถึงการกระทาํ ต่างๆ ที่ตนเอง
อาํ นาจอธิปไตยเป็นของประชาชนหรือประชาชนเป็น สามารถกระทาํ ไดแ้ ละพึงจะไดร้ ับภายใตก้ ารดาํ เนินชีวิต
เจา้ ของอาํ นาจ โดยรวมระบอบการปกครองแบบ ในสงั คมท่ีอยภู่ ายใตร้ ะบอบการปกครองแบบ
ประชาธิปไตย แบ่งออกไดเ้ ป็น 2 รูปแบบใหญๆ่ ไดแ้ ก่ ประชาธิปไตยเพ่ือประโยชนต์ ่อวิถีการดาํ เนิน
รูปแบบท่ี 1 ประชาธิปไตยทางตรง หรือประชาธิปไตย ชีวติ ประจาํ วนั รวมไปถึงเพื่อการดาํ เนินชีวติ ในสงั คม
แบบมีส่วนร่วม เป็นรูปแบบประชาธิปไตยที่เหมาะสม ร่วมกนั อยา่ งมีความสุขและช่วยพฒั นาสงั คมใหม้ ีความ
กบั สงั คมท่ีมีจาํ นวนประชากรไมม่ ากนกั และสภาพ เจริญกา้ วหนา้ มากยิ่งข้ึน เนื่องจากประชาธิปไตยเป็น
สงั คมไม่มีความสลบั ซบั ซอ้ น รูปแบบท่ี 2 ประชาธิปไตย ระบอบการปกครองที่มีส่วนเก่ียวขอ้ งโดยตรงต่อวิถีการ
ทางออ้ ม หรือเรียกวา่ ประชาธิปไตยแบบมีผแู้ ทน มีความ ดาํ รงชีวติ ของประชาชนในสงั คมที่อยภู่ ายใตร้ ะบอบการ
เหมาะสมและสอดคลอ้ งกบั สภาพสงั คมในปัจจุบนั ปกครองแบบประชาธิปไตย
เน่ืองจากในปัจจุบนั ขนาดของประชากรและความ
หลากหลายของประชาชนท่ีเพ่ิมมากข้ึนท้งั จาํ นวน ความ
หลากหลายทางเช้ือชาติ ศาสนา สีผิว ระดบั การพฒั นา
เศรษฐกิจ เป็นตน้ รวมถึงสภาพสงั คมท่ีมีความซบั ซอ้ น

ปีท่ี 5 ฉบับที่ 3 ประจำ� เดอื น กนั ยายน-ธันวาคม 2558 วารสารวชิ าการมหาวิทยาลยั อสี เทิร์นเอเชีย ฉบับสังคมศาสตรแ์ ละมนุษยศาสตร์ 21

เอกสารอ้างองิ
กระทรวงศึกษาธิการ. (2542). ประชาธิปไตย. กรุงเทพฯ: คุรุสภาลาดพร้าว.
โกวทิ วงสุรวฒั น์. (2540). หลกั รัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: คณะสงั คมศาสตร์ มหาวิทยาลยั เกษตรศาสตร์.
จกั ษ์ พนั ธช์ ูเพชร. (2552). รัฐศาสตร์ (พิมพค์ ร้ังท่ี 6). กรุงเทพฯ: มายด์ พบั ลิชซิ่ง.
ชยั อนนั ต์ สมทุ วณิช. (2519). ประชาธิปไตย สังคมนิยม คอมมิวนิสต์ กับการเมืองไทย. กรุงเทพฯ: พิฆเนศ.
ณชั ชาภทั ร อุ่นตรงจิต. (2550). รัฐศาสตร์ (พิมพค์ ร้ังท่ี 5). กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลยั .
บฆู อรี ยหี มะ. (2550). ความรู้เบือ้ งต้นทางรัฐศาสตร์. สงขลา: สามลดา.
สนธิ เตชานนั ท.์ (2543). พืน้ ฐานรัฐศาสตร์ (พิมพค์ ร้ังที่ 2). กรุงเทพฯ: มหาวทิ ยาลยั เกษตรศาสตร์.
สุพจน์ บุญวิเศษ. (2549). หลกั รัฐศาสตร์. กรุงเทพฯ: เอม็ .ที.เพลส.
อมร รักษาสตั ยแ์ ละคณะ. (2539). ประชาธิปไตย อดุ มการณ์ หลกั การ และแบบอย่างการปกครองหลายประเทศ.

กรุงเทพฯ: จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลยั .
Campbell, D .J. (2008). The basic concept for the democracy ranking of the quality of democracy. Vienna:

Democracy Ranking.
Eremenko, M. (2001). Political participation. Retrieved from http://www.culturaldiplomacy

.org/academy/content/pdf/participant-papers/eu/Maria-Eremenko-Political-participation-Model-by-Verba-
in-the-EU-and-Russia.pdf
Shively, W .P. (2008). Power & choice: An introduction to political science (11thed.). Boston: McGraw–Hill.
Tansey, S .D. (2004). Politics: The basics (3rded.). London: Routledge.

22 EAU Heritage Journal Vol. 5 No. 3 September-December 2015
Social Science and Humanity


Click to View FlipBook Version