Origami โอริกามิ ศาสตร์แห่งการพับกระดาษของญี่ปุ่น ปุ่ กับตำ นานนกกระเรียนพันตัว
วัฒนธรรมการพับกระดาษ โอริกามิ มาจากคำ ว่า โอริ ที่แปลว่าการพับ และ กามิ แปลว่ากระดาษ เป็นศิลปะอย่าง หนึ่งของญี่ปุ่น ปุ่ ที่แพร่หลายไปทั่วโลก เพราะเกิดจากความ คิดสร้างสรรค์เพียงแค่ใช้กระดาษแผ่นเดียวก็พับออกมา เป็นรูปร่างต่างๆ ได้อย่างสวยงาม โดยส่วนใหญ่จะเริ่มจาก กระดาษสี่เหลี่ยมแผ่นเดียวในการพับเท่านั้น และไม่มีการ ตัดกระดาษใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนโอริกามิที่มีรูปแบบการตัด กระดาษก็มีเช่นกัน ซึ่งจะเรียกว่า คิริกามิ มาจากคำ ว่า คิริ ที่ แปลว่าตัด โดยปัจจุบันการพับโอริกามินั้นมีกว่า 1,000 รูป แบบ ไม่ว่าจะเป็นสัตว์ ดอกไม้ เครื่องบิน แต่ที่พบเห็นมาก สุดคือ นกกระเรียน Origami
ศิลปะการพับกระดาษเดิมทีเริ่มต้นทางฝั่งยุโรปของชาวมัวร์ ชน เผ่าแอฟริกาที่เป็นมรดกตกทอดทิ้งไว้ให้ประเทศสเปน ครั้นเมื่อ มาบุกเยือนสเปนในช่วงศตวรรษที่ 8 ในสมัยนั้นเรียกการพับ กระดาษว่า ปาคาริต้า นับตั้งแต่นั้นทางฝั่งยุโรปเลยโด่งดังมาก ในเรื่องของศิลปะการพับกระดาษ จนวัฒนธรรมการพับกระดาษนี้ได้มาเยือนที่ประเทศญี่ปุ่น ปุ่ ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ซึ่งคนญี่ปุ่น ปุ่ จะเรียกกันว่า โอริกามิ แต่อย่างที่ได้ทราบกันว่าพวกวัฒนธรรมอันปราณีตส่วนใหญ่ ของญี่ปุ่น ปุ่ จะเป็นเหล่าคนชนชั้นสูงที่จะได้ทำ เท่านั้น โอริกามิก็ เช่นเดียวกันที่มีแต่ผู้คนสูงศักดิ์และซามูไรถึงจะพับกันได้ เพราะเนื่องจากในสมัยนั้นกระดาษเป็นของที่มีราคาแพง โดย เป็นกิจกรรมยามว่างและเป็นศิลปะมรดกตกทอดทางวัฒนธรรม ญี่ปุ่น ปุ่ ในสมัยก่อนนิยมพับกระดาษเพื่อนำ ไปประดับตกแต่งใน พิธีกรรมทางศาสนา ชาวบ้านจะทำ ของถวายเทพเจ้าแล้วจัดเรียง บนกระดาษที่พับตามแบบแผนในช่วงเทศกาลต่างๆ ประวัติความเป็นมา
กำ เนิดหนังสือโอริงามิ เล่มแรกของโลกในสมัยเอโดะ ในสมัยเอโดะซึ่งเป็นยุคทองของญี่ปุ่น ปุ่ กระดาษเริ่มมีราคา ถูกลงทำ ให้การพับกระดาษเป็นที่แพร่หลายในหมู่ชนชั้น กลางมากขึ้น จนเกิดหนังสือเกี่ยวกับการพับกระดาษเล่ม แรกของโลกในปี ค.ศ. 1764 ชื่อ “สึสึมิ-โนะ คิ” (Tsutsumi-no Ki) หรือ “วิธีการห่อ” โดย อิเซะ ซาดาทา เกะ (Ise Sadatake) ซึ่งสอนวิธีพับสิ่งของที่ใช้ในงานพิธี ต่างๆ เช่น ของประดับบนกล่องของขวัญ
อย่างไรก็ตามหนังสือเล่มนี้ยังมีกฎเกณฑ์ทางประเพณี โบราณเป็นกรอบกำ หนดอยู่มาก ทำ ให้หนังสือสอนวิธีการ พับกระดาษเล่มที่ 2 ในปี ค.ศ. 1797 ชื่อ “เซ็มบาซุรุ โอริกา ตะ” (Sembazuru Orikata) หรือ “วิธีพับนกกระเรียนพัน ตัว” ได้รับความนิยมมากกว่า หนังสือเล่มนี้เขียนโดยพระชื่อ กิโดะ โระโกะอัน (Gido Rokoan) ซึ่งไม่ได้สอนเพียงการพับ นกกระเรียนธรรมดาๆ เท่านั้น แต่ยังสอนเทคนิคพลิกแพลง การพับนกกระเรียนได้ถึง 49 แบบ เช่น นกกระเรียน 2-3 ตัวติดกัน นกกระเรียนซ้อนกัน 5 ชั้น นกกระเรียน 9 ตัว บิน เป็นฝูง ไปจนถึงนกกระเรียน 45 ตัวติดกัน ซึ่งทั้งหมดนี้พับ จากกระดาษแผ่นเดียวโดยไม่ใช้กาว แต่อาศัยการตัด กระดาษช่วยเพียงเล็กน้อ น้ ย
เดิมทีการพับกระดาษของชาวญี่ปุ่น ปุ่ จะใช้ในการประกอบ พิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น เนื่องจากระดาษมีราคาแพง จน กระทั่งสมัยเอโดะ (ปี 1603-1868) กระดาษเริ่มมีราคาถูกลง โอริกามิจึงเริ่มแพร่หลายในหมู่คนทั่วไป และกลายมาเป็นการ ละเล่นของชาวญี่ปุ่น ปุ่ ในที่สุด จากยุคแรกเริ่ม เมื่อการพับ กระดาษมีความซับซ้อนมากขึ้น จึงมีการจัดทำ คู่มือการพับขึ้น โดยเล่มแรกที่กลายมาเป็นแบบแผนในการพับโอริกามิของ ญี่ปุ่น ปุ่ ในทุกวันนี้ เขียนโดย อากิระ โยชิซาว่า (Akira Yoshisawa) บุคคลสำ คัญในวงการโอริกามิที่นอกจาก จะเป็นคนคิดวิธีการพับรูปร่างแปลกตาแล้ว หนังสือของเขายังโด่งดังไปทั่วโลก โอริกามิเริ่มแพร่หลาย
การพับเปียก โยชิซาวะ (ค.ศ. 1911-2005) เป็นผู้พัฒนาเทคนิคแบบใหม่ที่ เรียกว่า การพับแบบเปียก (wet folding) เพื่อช่วยให้โมเดล เสมือนมีชีวิต เคล็ดลับอยู่ที่การทำ ให้กระดาษชื้นเล็กน้อ น้ ยโดย การพรมน้ำ ลงไป หรือใช้ผ้าชุบน้ำ หมาดๆ เช็ดไปด้วยในขณะ พับ ทำ ให้สามารถจัดรูปทรงกระดาษได้ง่าย หรือแม้กระทั่ง “ปั้น” กระดาษให้อยู่ตัวได้อีกด้วย นอกจากนี้เขายังได้ประดิษฐ์สัญลักษณ์แ ณ์ สดงวิธีการพับเพื่อ ให้คนส่วนใหญ่เข้าใจได้โดยไม่ต้องรู้ภาษาญี่ปุ่น ปุ่ ปัจจุบัน สัญลักษณ์ โอริงามิ ของโยชิซาวะได้รับการยอมรับอย่างกว้าง ขวาง โดยมีการดัดแปลงเพิ่มเติมเล็กน้อ น้ ย เรียกว่า ระบบ สัญลักษณ์โณ์ ยชิซาวะ-แรนด์เล็ตต์ (Yoshizawa-Randlett system of notation) ซึ่งหนังสือพับกระดาษทั่วโลกต่างก็ใช้ มาตรฐานดังกล่าวนี้
เทคนิคการพับกระดาษ ภาพสัญลักษณ์พื้ ณ์พื้นฐานในการพับ มีหนังสือ Origami จำ นวนมากเริ่มต้นการพับด้วยการแนะนำ ภาพ สัญลักษณ์แ ณ์ ละวิธีพับขั้นพื้นฐานเพื่อที่จะพับเป็นรูปร่าง ต่าง ๆ ในหนังสือ Origami บางจำ พวกในจำ นวนมาก จะเริ่มต้นด้วยขั้นพื้นฐานเฉพาะจะมีชื่อเรียกกัน อย่าง เช่น พื้นฐานนก พื้นฐานกบ พื้นฐานปลา ก่อนที่จะพับ ไปสู่รูปร่างขั้นสุดท้ายแบบต่าง ๆ กัน อุปกรณ์เ ณ์ สริมช่วยในการพับ การทำ รอยพับที่สวยงามสามารถใช้อุปกรณ์เ ณ์ สริมได้ เช่น ที่ หนีบกระดาษ แหนบ หรืออุปกรณ์เ ณ์ ฉพาะ เพื่อช่วยในการพับ
Origami ต้องมีความคงตัวของขั้นตอนตามรอยพับ เพราะกระดาษที่พับแล้วยังคงมีรอยการพับอยู่ซึ่ง สามารถนำ มาพับโอริงามิได้ทั้งหมด สำ หรับกระดาษ เฉพาะซึ่งในการพับ Origami จะมีลักษณะพิเศษก็คือ มีความบางและไม่ขาดง่าย ซึ่งส่วนมากจะเป็นกระดาษ สี่เหลี่ยมจัตุรัสที่มีขนาดตั้งแต่ 2.5 เซนติเมตร จนถึง 25 เซนติเมตร มีหลากสีบรรจุในซอง เป็นกระดาษที่ ด้านหนึ่งเป็นสีอีกด้านนึงไม่มีสี แต่ก็มีกระดาษที่มีสีทั้ง สองด้านด้วยเช่นกัน นอกจากนั้นก็ยังมีแบลวดลาย สวยงาม กระดาษธนบัตรก็สามารถนำ มาพับโอริงามิได้ กระดาษ Origami
ประเภทของ Origami 1. ฟุเ ฟุ ซสซึเซโฮเค อิจิไมโอริ – เป็นการพับกระดาษที่ใช้แค่ กระดาษแผ่นเดียวโดยไม่มีการ ตัดกระดาษใด ๆ
ประเภทของ Origami 2. ฟุคุ ฟุ คุ โก โอริกามิ – การพับ กระดาษทีละชิ้นส่วนแล้วนำ มา ประกอบกันในตอนสุดท้าย ซึ่งรูป ทรงที่ได้จะดูมีความสลับซับซ้อน
ประเภทของ Origami 3. คิริโคมิ โอริกามิ – การพับไปตัดไป เพื่อทำ ให้เกิดมุมในการพบกระดาษ มากขึ้น ลดความซับซ้อนและพับง่าย กว่าการพับกระดาษแผ่นเดียวโดย ไม่มีการตัด
ประเภทของ Origami 4. ยูนิตโตะ โอริกามิ – การพับชิ้น ส่วนเล็ก ๆที่มีรูปร่างและขนาด เหมือนกัน แล้วนำ มาประกอบเข้า ด้วยกันเป็นรูปทรงและมีความ สมมาตร
ประเภทของ Origami 5. กิเร โอริกามิ – เป็นศิลปะการพับ กระดาษใช้ในโอกาสพิเศษ เช่น การเฉลิมฉลอง งานแต่งงาน เป็นต้น
ประเภทของ Origami 6. ชิคาเค โอริกามิ – กระดาษพับ ที่มีลูกเล่นสามารถขยับได้ ส่วน ใหญ่จะออกเป็นรูปแบบหนังสือ สามมิติ
การพับกระดาษในยุโรปกับ การพัฒนาเด็กในโรงเรียนอนุบ นุ าล ทางฝั่งตะวันตก การพับกระดาษรุ่งเรืองมากในประเทศ สเปน เชื่อกันว่าเป็นมรดกจากพวกมัวร์ (Moore) ซึ่งเป็นก ลุ่มชนมุสลิมแถบแอฟริกาตอนเหนือที่เข้ามารุกรานสเปน ในคริสต์ศตวรรษที่ 8 และเนื่องจากศาสนาอิสลามบัญญัติ ห้ามสร้างศิลปะรูปสัตว์ การพับกระดาษในระยะแรกๆ จึงมี ลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิต แบบพับกระดาษชื่อ “ปาคารี ตา” (คำ ว่า pajarita ในภาษาสเปนหมายถึงนกตัวเล็กๆ) เป็นแบบพับรูปร่างคล้ายนกที่รู้จักกันดีในหมู่ชาวยุโรป ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 มีการบรรจุการพับกระดาษไว้เพื่อ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาจิตใจและความคิดสร้างสรรค์ ของเด็ก ๆ แนวคิดนี้ เป็นของ ฟรีดริช เฟรอเบิล (Friedrich Froebel) ครูชาวเยอรมัน ผู้ริเริ่มโรงเรียน อนุบ นุ าลแห่งแรกของโลก
เทคนิคอันมีชื่อเสียงคือ ‘มิระโอริ’ หรือการที่สามารถพับ ให้เหลือขนาดเล็กมากๆ ได้ และคลี่ออกให้คืนรูปได้อย่าง ง่ายดาย กระดาษแผ่นใหญ่สามารถกลายเป็นรูปทรงชิ้น เล็กๆ ได้ และรูปทรงเหล่านั้นก็สามารถขยายออกมาก ลายเป็นแผ่นใหญ่เหมือนเดิมได้ เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติที่ ถูกนำ ไปประยุกต์กับสิ่งประดิษฐ์ เช่น ‘โอรุคายัก’ หรือเรือ คายักที่พับเก็บได้ เตนท์ที่เรากางตอนไปท่องเที่ยวหรือ แม้กระทั่งดาวเทียมในอวกาศ ก็มีการใช้เทคนิคการพับ ให้เล็กลงได้เช่นกัน ในประเทศญี่ปุ่น ปุ่ มีเครื่องมือทางการแพทย์ชนิดหนึ่งชื่อ ‘เซ็นโตะ’ ซึ่งใช้เทคนิคการพับให้เป็นแคปซูลเล็กๆ ขนาด 1 เซ็นติเมตร วิธีใช้งานคือเมื่อใส่เข้าไปในหลอด เลือดแล้ว ตัวแคปซูลจะคลี่ออก เพื่อช่วยในการขยาย หลอดเลือด โอริกามิไม่ใช่แค่เพียงงานพับกระดาษเพื่อความสวยงามเท่านั้น แต่ยังเป็น หัวใจหลักของสิ่งประดิษฐ์หลายอย่าง โดยมีลักษณะเด่นๆ ดังนี้ ความลับใน ‘โอริกามิ’ คลี่ออกและขยายได้ โอรุคายัก เรือคายักพับได้
ความลับใน ‘โอริกามิ’ รอยหยักทำ ให้แข็งแรง นอกจากการย่อขยายกระดาษแล้ว เทคนิคการพับ แบบพื้นผิวหยักก็ทำ ให้กระดาษมีความแข็งแรงขึ้น เห็นได้จากพื้นผิวของตู้คอนเทนเนอร์ที่มีความ หยักเป็นคลื่น ช่วยให้ผิวของตู้แข็งแรงขึ้นไม่ทำ ให้ ของด้านในเสียหาย นั่นเป็นอีกลักษณะของการ ประยุกต์ใช้ลักษณะการพับโอริกามิ
นกกระเรียนพันตัว 千⽻鶴 (Senba-zuru) สันติภาพแห่งฮิโรชิม่า ความหมายของนกกระเรียนนอกจากสัญลักษณ์แ ณ์ ห่งการ มีอายุยืนยาวแล้ว นกกระเรียนยังกล่าวกันว่าเป็น "สัญลักษณ์ แห่งความสมานฉันท์ของคู่สามีภรรยา" เพราะมิตรภาพอันดี ของทั้งคู่ และเสียงของนกกระเรียนที่ว่ากันว่าหมายถึงการ ดำ รงอยู่และการไปสู่โลกสวรรค์ เป็นที่เชื่อกันว่าจะทำ ให้ความ ปรารถนาที่จะหายจากอาการป่วป่ยจะเป็นจริง อีกสิ่งหนึ่ง นก กระเรียนพันตัว ยังหมายถึง "สัญลักษณ์แ ณ์ ห่งสันติภาพ" เรื่อง นี้มาจากเรื่องราวของซาดาโกะ ซาซากิ ต้นแบบของ "อนุส นุ าวรีย์สันติภาพของเด็ก" ที่สร้างขึ้นในสวนอนุส นุ รณ์ สันติภาพของฮิโรชิม่า
ราวปี 610 ญี่ปุ่น ปุ่ ได้เรียนรู้เทคโนโลยีการทำ กระดาษจาก ประเทศจีน และหลังจากนั้น ชาวญี่ปุ่น ปุ่ ก็ผลิตกระดาษของ ตนเองที่เรียกว่า "Washi" วาชิถูกใช้โดยชนชั้นสูงในการ ห่อของขวัญและถวายแด่พระเจ้า แต่ในที่สุดก็สามารถ คิดค้นหาวิธีต่างๆ ในการพับให้เป็นรูปทรงที่สวยงามได้ ในช่วงสมัยเอโดะหลังปี 1700 การผลิตกระดาษญี่ปุ่น ปุ่ เพิ่ม ขึ้นและการพับกระดาษก็เป็นที่นิยมในหมู่คนทั่วไป ต่อมา ในเด็กๆก็เริ่มเรียนรู้การพับกระดาษ และเริ่มพับนก กระเรียนกันโดยมีความเชื่อว่าถ้าพับได้พันตัวจะสมหวัง ในสิ่งที่ปรารถนา ความเป็นมา ของนกกระเรียนพันตัว
ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว ซาดาโกะ ซาซากิ (Sadako Sasaki) เด็กผู้หญิงชาวญี่ปุ่นปุ่ผู้ต่อสู้กับโรคร้ายผลจาก ภัยสงครามโลก ตำ นานคำ อธิษฐานด้วยการพับนกกระเรียนกระดาษ 1,000 ตัว ซาดาโกะ เกิดเมื่อ 7 มกราคม ค.ศ. 1943 ที่เมืองฮิโรชิมา ประเทศญี่ปุ่น ปุ่ ในครอบครัวช่างตัดผม เธอเป็นลูกคนที่สอง มีพี่ชายหนึ่งคน น้อ น้ งสาวหนึ่งคน และน้อ น้ งชายหนึ่งคน ใน ช่วงปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่ซาดาโกะอายุราวสอง ขวบ สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดปรมาณูที่เมืองฮิโรชิมา เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม ค.ศ. 1945 บ้านของเธออยู่ห่างจากจุดระเบิดไม่ ถึงสองกิโลเมตรเท่านั้น ซาดาโกะไม่ได้รับบาดเจ็บเลย แม้แต่น้อ น้ ย แต่หารู้ไม่ว่าผลกระทบจากกัมมันตรังสีจะส่ง ผลกระทบอย่างให้หลวงในภายภาคหน้า น้
ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว วันหนึ่งเพื่อนสนิทของซาดาโกะมาเยี่ยมที่โรงพยาบาล โดยนำ นกกระเรียนกระดาษ ซึ่งเป็นศิลปะการพับกระดาษแบบญี่ปุ่น ปุ่ (Origami) มาให้ เธอบอกกับซาดาโกะว่า ในตำ นานโบราณ ของชาวญี่ปุ่น ปุ่ มีนกกระเรียนนกศักดิ์สิทธิ์อายุยืนยาวหลายร้อย หลายพันปี เชื่อว่าหากพับนกกระเรียนกระดาษ 1,000 ตัว จะ สามารถอธิษฐานขอพรได้ตามที่ปรารถนา หลังจากได้ยิน ตำ นานนี้ซาดาโกะจึงตัดสินใจพับนกกระเรียนกระดาษให้ครบ 1,000 ตัวด้วยความหวังว่าเธอจะหายป่วป่ยและกลับมาใช้ชีวิต ตามปกติได้อีกครั้ง
มีการบันทึกไว้ว่า ช่วงสิ้นเดือนสิงหาคมปีนั้น ซาดาโกะแทบ ไม่มีแรงลุกนั่งพับกระดาษด้วยซ้ำ แถมมือก็บวมเป่งป่จนพับ ได้ลำ บาก แต่ซาดาโกะก็ใช้ช่วงเวลาที่เหลืออันน้อ น้ ยนิดของ ชีวิตพับนกกระเรียนจนครบ 1,000 ตัว กลางเดือนตุลาคม 1955 อาการของซาดาโกะเข้าขั้นวิกฤต ครอบครัวพยายามขอร้องให้เธอกินข้าว ซึ่งเธอก็ขอข้าวต้ม ชามากินก่อนจะกล่าวประโยคสุดท้ายในชีวิตว่า “อร่อยจัง” และแล้ววันที่ 25 ตุลาคม 1955 ซาดาโกะ ซาซากิ ก็จากไป อย่างสงบ พร้อมครอบครัวที่อยู่เคียงข้างในวินาทีสุดท้าย ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว
ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว ความเข้าใจผิดอย่างหนึ่งคือ คนมักคิดว่าซาดาโกะ พับนกกระเรียนได้เพียง 644 ตัวแล้วเสียชีวิต ก่อนที่เพื่อน ๆ ของเธอจะช่วยกันพับให้ครบแล้วฝัง ไปพร้อมกับร่างของเธอ แต่นั่นเป็นเรื่องราว เวอร์ชันนิยาย Sadako and the Thousand Paper Cranes ของนักเขียน เอเลนอร์ คอร์ (Eleanor Coerr)
ซาดาโกะ กับนกกระเรียนพันตัว ขณะที่ความจริงตามข้อมูลในพิพิธภัณฑ์ Hiroshima Peace Memorial Museum ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเธอพับครบ 1,000 ตัว แถมยังพับเกินมาอีก 300 ตัวด้วย เช่นเดียวกันพี่ชายคนโต มาซาฮิโระ ซาซากิ (Masahiro Sasaki) ก็เขียนในหนังสือ ประวัติซาดาโกะว่า เธอทำ ตามเป้า ป้ หมายได้สำ เร็จ หลังจากซาดาโกะเสียชีวิต ความลับอย่างหนึ่งก็เปิดเผยออก มา เมื่อใต้เตียงของเธอมีรายงานผลตรวจเลือดวางซ่อนอยู่ ถึง แม้จะไม่มีใครบอกซาดาโกะว่าเป็นโรคอะไร แต่การที่เธอได้ อ่านผลตรวจเลือดตัวเองก็พอคาดการณ์ไณ์ ด้ว่า ซาดาโกะรู้ตัว อยู่แล้วว่าตัวเองป่วป่ยหนักขนาดไหน แต่นั่นก็ไม่พ้น “ความ หวัง” ที่เธอพยายามพับนกกระเรียนเพื่อขอพรให้ตัวเองหายดี
อนุส นุ รณ์สั ณ์ สั นติภาพเยาวชน ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 1958 เกือบ 3 ปีหลังจากที่ซาดาโกะ เสียชีวิต ได้มีพิธีเปิดอนุส นุ าวรีย์แห่งสันติภาพขึ้น หรือเรียกว่า “อนุส นุ รณ์สั ณ์ สันติภาพเยาวชน” (Children’s Peace Monument) ณ สวนสันติภาพฮิโรชิม่า (Hiroshima Peace Park) ซึ่งตรง กับวันเด็กของประเทศญี่ปุ่น ปุ่ อนุส นุ าวรีย์นี้อุทิศเพื่อระลึกถึงภัย ร้ายของสงครามที่สร้างความเจ็บปวดให้กับชีวิตของเด็กทุกๆ คนที่ต้องเสียชีวิตเนื่องด้วยภัยของสงคราม อนุส นุ รณ์สั ณ์ สันติภาพจึงเป็นเครื่องย้ำ เตือนความเลวร้ายจากสิ่งที่ มนุษ นุ ย์สร้างขึ้น และเรียกร้องให้เกิดสันติภาพบนโลกนี้ เหมือนดั่งประโยคที่สลักไว้ใต้อนุส นุ รณ์ว่ ณ์ ว่า “This is our cry. This is our prayer. Peace in the world”
เทคนิคการพับ เรือ
เทคนิคการพับ ดอกซากุระ
เทคนิคการพับ ใบเมเปิ้ล
เทคนิคการพับ ผีเสื้อ
เทคนิคการพับ นกกระเรียน
ใน ช่วงปี 2000 นักวิจัยของมหาวิทยาลัย Oxford ประเทศ อังกฤษ ได้ทำ การพัฒนาแนวคิด ของการพับกระดาษแบบโอ ริงามิ มาประยุกต์เข้ากับ อุปกรณ์ข ณ์ ยายหลอดเลือด เพื่อช่วย เหลือผู้ป่วป่ยโรคหลอดเลือดตีบ โดยการพับท่อด้วยแนวคิด แบบโอริงามิให้เล็กลง และสอดเข้าไปยังบริเวณเส้นเลือดที่ อุดตันแล้วคลี่ท่อที่พับไว้ออกมา เพื่อขยายหลอดเลือด บริเวณดังกล่าว ซึ่งคาดว่าจะสามารถนำ เทคโนโลยีนี้มา ทดสอบในมนุษ นุ ย์ได้ในปี 2012 โอริกามิกับการประยุกต์ใช้ ทางวิทยาศาสตร์ Heart Stent อุปกรณ์ข ณ์ ยายหลอดเลือด ซ้าย ท่อขยายหลอดเลือดเมื่อพับอยู่จะมีขนาดเล็กพอ ที่จะ ทำ การผ่าตัดเล็กแล้วใช้อุปกรณ์ส ณ์ อดท่อ ดังกล่าวเข้าไปใน หลอดเลือดได้โดย ไม่จำ เป็นต้องทำ การผ่าตัดเปิดช่องอก ขวา เมื่อสอดท่อขยายหลอดเลือดเข้าถึงบริเวณที่อุดตัน ก็ จะทำ การคลี่ท่อออกเพื่อ ขยายเส้นเลือดบริเวณที่อุดตัน
โอริกามิกับการประยุกต์ใช้ ทางวิทยาศาสตร์ Origami Space Shuttles โอริงามิกระสวยอวกาศ มหาวิทยาลัย โตเกียว(University of Tokyo) ร่วมกับ Japanese Aerospace Exploration Agency (JAXA) และ บริษัทผลิตเหล็ก Castem สร้างพับกระดาษ เป็นกระสวย อวกาศ เคลือบด้วยสารกันความร้อนชนิดพิเศษ จำ นวน 9 ลำ เพื่อที่จะทำ การร่อนลงจากสถานีอวกาศนานาชาติ หากสำ เร็จ จะเป็นการเปิดแนวคิดการออกแบบกระสวยอวกาศรูปแบบ ใหม่ กระสวยอวกาศต้นแบบ ได้ผ่านการทดสอบผ่านที่ ความเร็วลม 7 มัค คือเร็วกว่าเสียง 7 เท่า ( 8,600 กิโลเมตร/ชั่วโมง ) สามารถทนความร้อนได้ถึง 200 องศาเซลเซียส กระสวยอวกาศ ที่จะนำ ไปร่อนลงมาจากสถานีอวกาศ นานาชาติ ลำ นี้เป็นหมาเลข 00
โอริกามิกับการประยุกต์ ใช้ทางวิทยาศาสตร์ Origami Len Telescope เลนกล้องทรรศน์อ น์ วกาศ จากแนวคิดการพับกระดาษ Lawrence Livemore National Laboratory ได้ทำ การ ออกแบบเลนกล้องทรรศน์อ น์ วกาศ โดยใช้แนวคิดจากการ พับกระดาษ เพื่อพับเลนกล้องขนาดเท่าสนามฟุต ฟุ บอล ให้ เล็กลงเพียงพอที่จะสามารถบรรจุลงในยานอวกาศ การจำ ลองเลนกล้องโทรทรรศน์อน์วกาศ ซึ่งประกอบไปด้วยชิ้นส่วน 72 ชิ้น ลักษณะการพับ และคลี่ตัวของเลนกล้องโทรทรรศน์อน์วกาศ
ประโยชน์จ น์ ากการพับ กระดาษโอริงามิ 1. เป็นกิจกรรมยามว่าง ฝึกให้เกิดสมาธิ การ จดจ่ออยู่กับสิ่งที่ทำ อยู่ ฝึกการคิดเป็นขั้นเป็น ตอน สายตาต้องจ้องตลอดการพับกระดาษ และ มือทั้งสองข้างต้องทำ งานประสานกันเพื่อ ให้ สามารถพับกระดาษออกมาเป็นรูปร่างให้ สําเร็จ 2. ช่วยคลายเครียด คลายเหงา สงบสติ อารมณ์ ได้ เนื่องจากการพับกระดาษจะ ทำ ให้รู้สึก เพลิดเพลิน ทำ จนไม่รู้ว่าเวลา ล่วงเลยไปแค่ ไหน เพราะจิตใจจดจ่ออยู่ กับงานพับตรงหน้า น้ 3. ฝึกการคิดเป็นขั้นเป็นตอน บริหาร สมองและ ระบบความคิด หากพับไม่ถูก ต้องตามขั้นตอน ก็จะไม่สามารถออกมา เป็นรูปร่างที่ต้องการ ได้
ประโยชน์จ น์ ากการพับ กระดาษโอริงามิ 4. ช่วยในการสานสัมพันธ์กับผู้อื่น เหมาะกับทุก เพศทุกวัย สามารถ จัดกิจกรรมกลุ่มให้เด็กๆ ผู้ สูงอายุ หรือสมาชิกในควรครัวให้สามารถ ทำ กิจกรรมร่วมกันได้ 5. ช่วยใช้เวลาว่างให้เกิด ประโยชน์ เมื่อพับกระ ดาษเสร็จ เรียบร้อยแล้วสามารถนำ มามอบ เป็นของขวัญแทนใจหรือนำ ไป ขายเพื่อหาราย ได้ต่อไป
แบบทดสอบ
แบบทดสอบ 1. โอริกามิ มีกี่ประเภท 1. 2 ประเภท 2. 4 ประเภท 3. 6 ประเภท 4. 8 ประเภท 2. หนังสือโอริกามิหรือโอริงามิเล่มแรกของโลก มีชื่อว่าอะไร 1. หนังสือสึสึมิ - โนะคิ หรือ วิธีการห่อ 2. หนังสือ จินดามณี 3. หนังสือ โอริงามิ 4. หนังสือ เมบุสึเรียวริ 3. หนังสือเล่มใด สอนวิธีพับนกกระเรียนพันตัว 1. หนังสือ นันเดสซึกะ 2. หนังสือ โอะมิยาเกะ 3. หนังสือ เซ็มบงซากุระ 4. หนังสือ เซ็มบาซุรุ โอริกาตะ 4. เทคนิคใดที่ทำ ให้จัดรูปทรงกระดาษได้ง่าย ปั้นกระดาษให้อยู่ตัวได้ 1. เทคนิคการตัด 2. เทคนิคการปั้น 3. เทคนิคการพับแบบเปียก 4. เทคนิคการพับแบบแห้ง 5. ความลับของโอริกามิคืออะไร 1. กระดาษบาง รูปทรงสี่เหลี่ยม 2. การคลี่ออกและขยายได้ รอยหยัก 3. มีหลายสีสัน พับโดยไม่ต้องตัด 4. วิธีพับง่าย สนุกนุ
6. ตำ นานนกกระเรียนพันตัว มีที่มาจากใคร แบบทดสอบ 1. ซาดาโกะ ซากุระ 2. ซาดาโกะ ซาชิมิ 3. ซาดาโกะ ซาซากิ 4. ซาดาโกะ ซาซาเกะ 7. ซาดาโกะ พับนกกระเรียนได้ทั้งหมดกี่ตัว 1. 644 ตัว 2. 1000 ตัว 3. 999 ตัว 4. 446 ตัว 8. ซาดาโกะกับความเชื่อที่บิดเบือนว่า พับนกกระเรียนได้ 644 ตัว เป็นผลมาจากหนังสือของใคร 1. วิลเลียม เชกสเปียร์ 2. เอเลนอร์ คอร์ 3. เลโอนาโดร์ ดา วินชี 4. เจ.เค. โรว์ริง 9. อนุสนุรณ์สัณ์ สันติภาพเยาชน สร้างขึ้นที่ไหน และสร้างเพื่ออะไร 1. สร้างที่สวนสันติภาพ ฮิโรชิม่า เพื่อระลึกภัยร้ายของสงครามและ เรียกร้องสันติภาพแก่โลก 2. สร้างที่เมือง ไซตามะ เพื่อระลึกถึงซาดาโกะ 3. สร้างที่ โตเกียว เพื่อนเป็นสถานที่ท่องเที่ยวประวัติศาสตร์ 4. สร้างที่ฮิโรชิม่า เพื่อสรรเสริญสงคราม 10. โอริกามิเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์อย่างไร 1. เป็นต้นแบบของการทำ กระสวยอวกาศ 2. นำ มาประยุกต์กับอุปกรณ์ขณ์ยายหลอดเลือด 3. ใช้ในการออกแบบเลนกล้องโทรทัศน์อน์วกาศ 4. ถูกทุกข้อ
1. ข้อ 3 2. ข้อ 1 3. ข้อ 4 4. ข้อ 3 5. ข้อ 2 6. ข้อ 3 7. ข้อ 2 8. ข้อ 2 9. ข้อ 1 10. ข้อ 4 เฉลยทดสอบ
ผู้จัดทำ นางสาว ชนกนันท์ มหาศาล เลขที่ 17 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7