The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารอบรมความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kstengineeringandservice, 2022-07-02 02:33:46

เอกสารอบรมความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า

เอกสารอบรมความปลอดภัยเกี่ยวกับไฟฟ้า

มาตรฐานความปลอดภยั ทางไฟฟ้า
ในสถานทท่ี าํ งาน

Electrical Safety in The Workplace

บุญถนิ่ เอมย่านยาว

ผู้อาํ นวยการกองมาตรฐานความปลอดภยั
ฝ่ ายความปลอดภยั อาชีวอนามยั และส่ิงแวดล้อม การไฟฟ้านครหลวง

Electrical  safety...Boontin Aimyanyao 1

หัวข้อการบรรยาย

-กฎหมายความปลอดภัย/มาตรฐาน ทเ่ี กยี่ วกบั ไฟฟ้า
-อนั ตรายจากไฟฟ้าและแนวทางการป้องกนั
-การจัดทาํ ข้อกาํ หนดทางไฟฟ้า
-การวเิ คราะอนั ตรายจากไฟฟ้าและการเลือกใช้ PPE
-การจัดทาํ สภาพการทาํ งานให้มคี วามปลอดภัย
-การทาํ งานกบั ไฟฟ้าขณะทม่ี ไี ฟ
-อนั ตรายจากไฟฟ้าชั่วคราวในงานก่อสร้างและแนวทางป้องกนั
- กรณศี ึกษา

Electrical  safety...Boontin Aimyanyao 2

กระทรวงแรงงาน

• กฎกระทรวงกําหนดมาตรฐานในการ
บริหารจัดการและดาํ เนนิ การดา้ นความ
ปลอดภัยอาชีวอนามยั และสภาพแวดล้อม
ในการทํางานเด่ยี วกับไฟฟา้ พ.ศ. ๒๕๕๘

บุญถิน่ เอมย่านยาว

กฎกระทรวงฉบบั นี้ ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
บังคบั ใช้ วนั ที่ ๖ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๕๘
เม่อื พ้นกําหนด ๖๐ วันนบั แตว่ นั ที่
ประกาศในราชกจิ จานุเบกษา
(๗ เม.ย. ๒๕๕๘)

หมวด ๑ บทท่วั ไป

ขอ้ ๓ ใหน้ ายจ้างจดั ให้มีข้อบงั คับเก่ียวกบั การปฏบิ ตั ิงานด้านความ

ปลอดภัย อาชวี อนามยั และสภาพแวดล้อมในการทาํ งาน
เก่ยี วกบั ไฟฟ้า โดยใหม้ ีมาตรฐานไมต่ ํ่ากว่าทกี่ าํ หนดไวใ้ น
กฎกระทรวงน้เี พอ่ื ให้ลูกจ้างปฏบิ ัตติ าม

ข้อ ๔ ให้นายจ้างจดั ให้มีการฝกึ อบรมให้กับลกู จา้ งซง่ึ ปฏบิ ตั ิงาน

เกี่ยวกับไฟฟา้ ใหม้ คี วามรู้ความเขา้ ใจ และทักษะทจี่ ําเปน็ ใน
การทาํ งานอย่างปลอดภยั ตามหน้าทที่ ไี่ ด้รับมอบหมาย ท้ังนี้
ตามหลกั เกณฑ์ วิธีการ และเงอื่ นไขที่อธบิ ดีประกาศกาํ หนด

ขอ้ ๕ ใหน้ ายจา้ งจดั ใหม้ ีและเก็บรกั ษาแผนผงั
วงจรไฟฟ้าทตี่ ดิ ตง้ั ภายในสถานประกอบ
กิจการท้ังหมดซงึ่ ไดร้ บั การรบั รองจากวศิ วกร
หรอื การไฟฟ้าประจาํ ท้องถิน่ ไวใ้ ห้พนกั งาน
ตรวจความปลอดภยั ตรวจ สอบ หากมีการ
แก้ไขเพิ่มเติมหรือเปล่ยี นแปลงไปจากเดมิ ต้อง
ดําเนนิ การแกไ้ ขแผนผงั นัน้ ใหถ้ กู ตอ้ ง

ขอ้ ๖ ให้นายจา้ งจัดใหม้ แี ผ่นป้ายท่ีมตี ัวอักษรหรอื
สัญลกั ษณ์เตอื นใหร้ ะวังอันตรายจากไฟฟ้าท่ี
มองเหน็ ได้ชัดเจนติดต้ังไว้โดยเปิดเผยใน
บริเวณท่อี าจเกดิ อนั ตรายจากกระแสไฟฟา้
ทงั้ นใี้ ห้เป็นไปตามแบบท่ีกําหนดไว้ใน
มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหรอื
มาตรฐานอ่ืนตามทอี่ ธิบดีประกาศกาํ หนด

ขอ้ ๗ หา้ มนายจ้างใหล้ ูกจ้างซง่ึ ปฏบิ ัตงิ านเกย่ี วกับไฟฟา้ เข้า
ใกล้หรือนําสงิ่ ท่ีเปน็ ตัวนําไฟฟา้ ทไ่ี มม่ ีทถี่ อื ห้มุ ดว้ ย
ฉนวนไฟฟ้าท่ีเหมาะสมกับแรงดันไฟฟา้ เข้าใกล้ส่งิ ทม่ี ี
กระแสไฟฟา้ ในระยะทน่ี อ้ ยกวา่ ระยะห่างตาม
มาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย
หากยงั ไม่มีมาตรฐานดงั กลา่ วใหใ้ ช้มาตรฐานตามท่กี าร
ไฟฟ้าประจําทอ้ งถน่ิ กาํ หนด เวน้ แตน่ ายจ้างจะได้
ดาํ เนนิ การดังต่อไปน้ี

(๑) ใหล้ กู จา้ งสวมใส่อปุ กรณ์คมุ้ ครองความปลอดภยั สว่ น
บุคคลที่เป็นฉนวนไฟฟา้ ทีเ่ หมาะสมกับ แรงดนั ไฟฟ้า
หรือนาํ ฉนวนไฟฟ้าทส่ี ามารถป้องกันแรงดันไฟฟา้ นัน้
ได้มาห้มุ ส่ิงทีม่ ีกระแสไฟฟา้ และ

(๒) จดั ให้มีวิศวกร หรอื กรณกี ารไฟฟา้ ประจําทอ้ งถนิ่ อาจ
จดั ให้ผู้ท่ีไดร้ บั การรบั รองเปน็ ผคู้ วบคุมงานจากการ
ไฟฟา้ ประจาํ ทอ้ งถิน่ ดังกล่าว เพือ่ ควบคุมการ
ปฏิบตั ิงานของลูกจา้ ง

ขอ้ ๘ ห้ามนายจา้ งใหล้ กู จ้างซง่ึ ปฏบิ ัตงิ านอื่นหรอื
อนญุ าตใหผ้ ูซ้ ง่ึ ไมเ่ กีย่ วข้องเข้าใกล้ส่งิ ท่มี ี
กระแสไฟฟา้ ในระยะท่ีนอ้ ยกวา่ ระยะห่างตาม
มาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแหง่
ประเทศไทย หากยงั ไมม่ มี าตรฐานดงั กล่าวให้
ใช้มาตรฐานตามท่กี ารไฟฟา้ ประจําท้องถิ่น
กาํ หนด

ขอ้ ๙ ใหน้ ายจ้างดูแลมใิ ห้ลกู จ้างสวมใส่เครอ่ื งนุง่ ห่มท่ี
เปยี กหรือเป็นส่อื ไฟฟา้ ปฏบิ ตั งิ านเกีย่ วกับส่งิ ท่มี ี
กระแสไฟฟ้าทีม่ แี รงดนั ไฟฟ้าเกนิ กว่าหา้ สบิ โวลต์
โดยไม่มีฉนวนไฟฟา้ ปดิ กัน้ เวน้ แตน่ ายจา้ งจะได้จัด
ให้ลกู จ้างสวมใส่อปุ กรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วน
บคุ คลหรอื ใช้อุปกรณป์ ้องกันอนั ตรายทเ่ี หมาะสมกบั
แรงดนั ไฟฟา้ สําหรับการปฏิบตั งิ านของลูกจา้ ง

ข้อ ๑๐ ในกรณที นี่ ายจ้างให้ลูกจ้างทาํ งานโดยใชอ้ ปุ กรณ์
ในการปฏบิ ัตงิ านเกยี่ วกับกระแสไฟฟ้า หรอื อย่ใู น
บรเิ วณใกล้เคียงกับสง่ิ ที่มีกระแสไฟฟา้ ให้นายจา้ ง
จดั หาอุปกรณช์ นดิ ที่เป็นฉนวนไฟฟา้ หรอื หมุ้ ด้วย
ฉนวนไฟฟ้า หรอื อุปกรณ์ป้องกันอนั ตรายที่
เหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้าสําหรับการปฏิบัติงาน
ของลูกจา้ ง

ขอ้ ๑๑ ให้นายจ้างดแู ลบรภิ ัณฑไ์ ฟฟ้าและสายไฟฟา้ ใหใ้ ช้
งานไดโ้ ดยปลอดภยั หากพบวา่ ชาํ รดุ หรือมี
กระแสไฟฟ้าร่วั หรอื อาจก่อใหเ้ กดิ อันตรายแก่
ผู้ใชง้ าน ใหซ้ ่อมแซมหรือดาํ เนินการให้อยูใ่ น
สภาพทใ่ี ช้งานได้อยา่ งปลอดภัย และจดั ให้มี
หลกั ฐานในการดําเนนิ การเพอ่ื ใหพ้ นกั งานตรวจ
ความปลอดภัยตรวจสอบได้

ขอ้ ๑๒ นายจา้ งตอ้ งจดั ให้มกี ารตรวจสอบและจดั ให้มกี าร
บาํ รุงรักษาระบบไฟฟา้ และบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ เพ่ือให้ใชง้ านได้
อยา่ งปลอดภยั และใหบ้ คุ คลท่ขี นึ้ ทะเบยี นตามมาตรา 9
หรือ นติ บิ คุ คลทีไ่ ด้รับใบอนญุ าต ตามมาตรา 11 แห่ง
พระราชบัญญัตคิ วามปลอดภยั อาชีวอนามยั และ
สภาพแวดล้อมในการทํางาน พ.ศ. 2554 แลว้ แต่กรณี
เปน็ ผู้จัดทาํ บนั ทกึ ผลการตรวจสอบและรบั รองไว้ เพือ่ ให้
พนกั งานตรวจความปลอดภยั ตรวจสอบ ทงั้ นีต้ าม
หลักเกณฑ์ วธิ กี าร และเงือ่ นไขท่ีอธบิ ดีประกาศ กาํ หนด

ข้อ ๑๓ ให้นายจ้างจัดให้มแี ผ่นภาพพรอ้ มคาํ บรรยายตดิ ไว้
ในบริเวณทีท่ ํางานท่ีลูกจ้างสามารถมองเหน็ ได้
ชัดเจนในเรอ่ื ง ดังต่อไปน้ี

(๑) วิธปี ฏิบตั ิเมือ่ ประสบอนั ตรายจากไฟฟ้า
(๒) การปฐมพยาบาลและการชว่ ยชีวิตขน้ั พื้นฐานโดยการ

ผายปอดดว้ ยวิธีปากเป่าอากาศ เขา้ ทางปากหรือจมูก
ของผปู้ ระสบอนั ตราย และวิธีการนวดหัวใจจากภายนอก

หมวด ๒ บรภิ ณั ฑไ์ ฟฟ้าและเครอ่ื งกําเนิดไฟฟ้า

ขอ้ ๑๔ การติดตัง้ บริภณั ฑ์ไฟฟา้ ใหน้ ายจา้ งปฏิบัติตาม
มาตรฐานของสมาคมวิศวกรรมสถานแหง่
ประเทศไทย หากยังไม่มมี าตรฐานดงั กลา่ วใหใ้ ช้
มาตรฐานตามท่ีการไฟฟา้ ประจาํ ทอ้ งถ่ิน
กาํ หนด

ขอ้ ๑๕ ใหน้ ายจ้างจดั ใหม้ ีการใช้กญุ แจปอ้ งกนั การสับ
สวิตช์เชื่อมตอ่ วงจร หรือจัดให้มรี ะบบระวงั
ปอ้ งกันมใิ หเ้ กิดการสบั สวติ ชเ์ ช่อื มต่อวงจร
ตลอดเวลาที่ลูกจา้ งซงึ่ ปฏบิ ตั งิ านเกย่ี วกบั ไฟฟ้า
ทํางานติดตั้ง ตรวจสอบ ซอ่ มแซม หรอื ซ่อมบํารุง
ระบบไฟฟ้าหรอื บริภัณฑไ์ ฟฟา้ และให้ตดิ ปา้ ย
แสดงเครอ่ื งหมายหรือสัญลักษณห์ ้ามสบั สวติ ช์
เชอ่ื มต่อวงจรไว้ดว้ ย

ข้อ ๑๖ ห้ามนายจา้ งใหล้ กู จา้ งทําความสะอาดบริภัณฑ์
ไฟฟ้าทม่ี กี ระแสไฟฟา้ เว้นแต่ มมี าตรการดา้ น
ความปลอดภยั รองรับไวอ้ ยา่ งครบถ้วน

ขอ้ ๑๗ ในกรณีทสี่ ่วนของบรภิ ัณฑ์ไฟฟา้ ใชแ้ รงดนั ไฟฟา้
เกินกวา่ ห้าสบิ โวลต์ใหน้ ายจ้างจดั ให้มที ป่ี ดิ กั้น
อันตรายหรือจดั ให้มีแผน่ ฉนวนไฟฟา้ ปไู ว้ทพ่ี น้ื
เพื่อปอ้ งกนั อนั ตรายจากการสมั ผัส

ข้อ ๑๘ ใหน้ ายจ้างติดต้งั เต้ารับ สายไฟฟา้ อปุ กรณ์
และเครอื่ งปอ้ งกันกระแสไฟฟ้าเกนิ ทมี่ ขี นาด
ชนิด และประเภทที่เหมาะสมไว้ให้เพยี งพอแก่
การใชง้ าน ท้งั น้ี ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานของ
สมาคมวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทยในพระ
บรมราชูปถมั ภ์ หากยังไมม่ ีมาตรฐานดงั กลา่ ว ให้
ใชม้ าตรฐานตามทก่ี ารไฟฟ้าประจาํ ท้องถ่นิ กําหนด

ข้อ ๑๙ การใชเ้ คร่อื งกําเนดิ ไฟฟา้ ใหน้ ายจ้างปฏิบัติ ดงั ต่อไปนี้

(๑) ติดตง้ั ในบริเวณพ้ืนท่กี วา้ งพอทจ่ี ะปฏบิ ตั ิงานไดอ้ ย่างสะดวกและปลอดภัย
(๒) จัดใหม้ กี ารระบายอากาศอย่างเพยี งพอ กรณีตดิ ต้ัง เครื่องกําเนิดไฟฟ้าไวภ้ ายในห้อง

หากมไี อเสียจากเครือ่ งยนตใ์ หต้ ่อทอ่ ไอเสยี ออกสู่ภายนอก
(๓) จัดใหม้ เี ครอื่ งป้องกันกระแสไฟฟา้ เกนิ
(๔) จัดให้มอี ปุ กรณด์ บั เพลงิ ชนดิ ทีใ่ ช้ดบั เพลงิ ที่เกิดจากไฟฟ้าและนา้ํ มันในห้องเครอื่ งได้

ทงั้ น้ี ให้เปน็ ไปตามมาตรฐานของสมาคมวศิ วกรรมสถานแหง่ ประเทศไทยในพระบรม
ราชูปถัมภ์

ในกรณกี ารใช้เคร่อื งกําเนิดไฟฟา้ สาํ รอง นายจ้างตอ้ งจัดให้มเี ครอ่ื งปอ้ งกนั การใช้
ผิดหรอื สวติ ชส์ บั โยกสองทาง หรอื อปุ กรณ์อยา่ งอ่ืนทม่ี ลี กั ษณะเดียวกนั

หมวด ๓ ระบบปอ้ งกนั ฟา้ ผา่

ขอ้ ๒๐ ให้นายจา้ งจดั ให้มรี ะบบปอ้ งกนั ฟ้าผา่ ตามมาตรฐาน
การปอ้ งกันฟ้าผ่าตามมาตรฐานของสมาคมวิศวกรรม
สถานแหง่ ประเทศไทยในพระบรมราชูปถมั ภ์ หรอื
มาตรฐานสมาคมป้องกนั อัคคภี ยั แหง่ ชาติ
สหรฐั อเมริกา ไวท้ ีส่ ถานประกอบกจิ การอาคาร ปล่อง
ควัน รวมถงึ บริเวณทม่ี ีถงั เกบ็ ของเหลวไวไฟหรือก๊าซ
ไวไฟ

ข้อ ๒๑ ใหน้ ายจ้างจัดอปุ กรณ์ค้มุ ครองความปลอดภัยส่วน
บุคคลทเ่ี หมาะสมกับลกั ษณะงานเชน่ ถงุ มอื หนงั
ถุงมอื ยาง แขนเสอ้ื ยาง หมวกนิรภยั รองเทา้ พนื้
ยางหมุ้ ขอ้ ชนดิ มสี น้ หรอื รองเท้าพน้ื ยางหุ้มสน้ ให้
ลูกจ้างซึ่งปฏิบัตงิ านเกีย่ วกบั ไฟฟา้ สวมใส่
ตลอดเวลาท่ีปฏิบัติงานและจัดใหม้ ีอุปกรณ์ป้องกัน
อนั ตรายจากไฟฟา้ ทเ่ี หมาะสมกับลักษณะงาน

ในกรณีที่ลกู จ้างต้องปฏบิ ัตงิ านในที่สงู กวา่ พนื้
ตงั้ แตส่ ่ีเมตรข้ึนไป ให้นายจา้ งจดั ให้มีการใช้สาย หรอื เชอื ก
ช่วยชีวติ และเข็มขัดนิรภัยพร้อมอุปกรณ์ หรืออุปกรณท์ ่ี
ป้องกนั การตกจากที่สงู ไดอ้ ยา่ งมี ประสทิ ธิภาพ และหมวก
นิรภยั ที่เหมาะสมตามมาตรฐานที่กาํ หนดสาํ หรับใหล้ กู จ้าง
สวมใสต่ ลอดเวลา ท่ีปฏบิ ตั ิงาน

ข้อ ๒๒ อุปกรณค์ ้มุ ครองความปลอดภัยสว่ นบุคคลและ
อุปกรณป์ อ้ งกนั อนั ตรายจากไฟฟา้ ต้องเป็นไปตาม
มาตรฐานทก่ี าํ หนดไว้ ต้องมคี ุณสมบัติ ตอ่ ไปน้ี

(๑) อปุ กรณ์คุม้ ครองความปลอดภยั ส่วนบุคคล และอุปกรณป์ อ้ งกัน
อันตรายจากไฟฟา้ ตอ้ งเหมาะสมกับแรงดนั ไฟฟา้ สงู สดุ

(๒) ถงุ มอื ยางปอ้ งกันไฟฟา้ ต้องมลี กั ษณะสวมกบั นว้ิ มือไดท้ กุ นว้ิ
(๓) ถงุ มอื หนังท่ีใชส้ วมทับกับถุงมอื ยาง ต้องมคี วามยาวห้มุ ถงึ ขอ้ มอื และมี

ความคงทนตอ่ การฉีกขาดได้ดี การใช้ถงุ มือยางตอ้ งใช้ร่วมกบั ถุงมอื หนัง
ทุกครั้งท่ีปฏบิ ตั งิ าน

ขอ้ ๒๓ การปฏบิ ตั ิงานเก่ยี วกบั ไฟฟ้าทอ่ี ยู่ใกล้หรอื เหนือน้ํา
ซ่งึ อาจทําให้ลกู จ้างเกดิ อันตรายจากการจมน้าํ ให้
นายจ้างจดั ให้ลกู จ้างสวมใส่ชูชพี กนั จมน้ํา เว้นแต่
การสวมใส่ชชู พี อาจทาํ ใหล้ กู จา้ งได้รับอันตรายมาก
กวา่ เดมิ ให้นายจา้ งใช้วิธกี ารอน่ื ท่สี ามารถคมุ้ ครอง
ความปลอดภยั ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธภิ าพแทน

ขอ้ ๒๔ นายจา้ งต้องบาํ รงุ รกั ษาและจัดเกบ็ อุปกรณ์
ค้มุ ครองความปลอดภัยส่วนบคุ คลและอุปกรณ์
ปอ้ งกันอันตรายจากไฟฟา้ ให้อย่ใู นสภาพที่ใช้
งานไดอ้ ย่างปลอดภัย รวมท้งั ตอ้ งตรวจสอบ
และทดสอบตามมาตรฐานและวธิ ีที่ผ้ผู ลติ
กําหนด

Electrical  safety...Boontin Aimyanyao 28





02/07/65

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

2.1 พลงั งานไฟฟา้ (Electric Energy)คืออะไร?
2.2 ระบบไฟฟ้ากาํ ลงั (Electric Power System)
ประกอบดว้ ยอะไร?

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

พลงั งาน(Energy)

• พลงั งานหมายถึง ความสามารถของสงิ ใดสงิ หนงึ ทที าํ งาน(Work)ได้
• งานคือผลของการกระทาํ ของแรงทีใหว้ ตั ถเุ คลือนทไี ด้
• ดงั นนั สงิ ใดสงิ หนงึ ทสี ามารถทาํ ใหว้ ตั ถเุ ปลียนตาํ แหน่งหรอื เคลอื นทไี ปจากทีเดมิ ได้ สงิ นนั ย่อมมีพลงั งาน

อย่ภู ายใน
• กฎการอนรุ กั ษ์พลงั งาน “พลงั งานไมส่ ญู หายไปไหน แตส่ ามารถเปลยี นรูปได”้
• พลงั งานแบ่งตามแหลง่ ทีไดม้ าเป็น 2 ประเภท คือ

1. พลงั งานดงั เดมิ หรือพลงั งานตน้ กาํ เนดิ (Primary Energy)
หมายถงึ แหลง่ พลงั งานทีมีอยตู่ ามธรรมชาติ เชน่ พลงั งานนาํ พลงั งานลม พลงั งานแสงอาทติ ย์ พลงั งานเชือเพลงิ
ฟอสซลิ

2. พลงั งานเปลยี นรูป(Secondary Energy) หมายถึงพลงั งานทีไดจ้ ากการเปลียน
รูปจากพลงั งานดงั เดมิ เชน่ พลงั งานปิโตรเลียม(นาํ มนั ดเี ซล นาํ มนั เบนซนิ ก๊าซLPG ก๊าซNGV)
ไดม้ าจากพลงั งานเชือเพลงิ ฟอสซลิ พลงั งานไฟฟา้ เปลยี นมาจากพลงั งานนาํ (เขือน) หรือเปลียนมาจากพลงั ลม
(กงั หนั ) หรือเปลียนมาจากพลงั งานแสงอาทติ ย(์ เซลแสงอาทติ ย)์ เป็นตน้

1

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

พลงั งานไฟฟ้า

• พลงั งานไฟฟา้ คือพลงั งานทีเก็บไวท้ ีประจไุ ฟฟา้ (Electric
Charge)
-e พลงั งานรูปอืน

p พลงั งานไฟฟา้
n

โครงสรา้ งอะตอมของธาตุ
การผลติ พลงั งานไฟฟ้าคอื การนาํ พลงั งานดงั เดิมใสเ่ ขา้ ไปในสารหรอื ธาตุ ทาํ ใหอ้ เี ลก็ ตรอนทีอย่วู งโคจรนอกสดุ หลดุ ออกจากวงโคจรกลายเป็นอี
เลก็ ตรอนอสิ ระ หรือประจไุ ฟฟ้าลบทีมพี ลงั งาน เรียกวา่ พลงั งานไฟฟา้

การผลิตพลงั งานไฟฟ้าก็คอื การผลิตประจไุ ฟฟ้า

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

แหลง่ กาํ เนิดพลงั งานไฟฟ้า

• แหลง่ กาํ เนิดพลงั งานไฟฟา้ คือสถานที หรอื จดุ ทมี ีการผลติ ประจไุ ฟฟา้ โดยการเปลียนพลงั งาน
รูปอืนเป็นพลงั งานไฟฟา้ เชน่ โรงไฟฟา้ พลงั งานนาํ ไดจ้ ากการใชพ้ ลงั งานนาํ ทีเกิดจากการทาํ
เขือน ไปหมนุ เครอื งกาํ เนิดไฟฟา้ เพือผลติ ประจไุ ฟฟา้ แบตเตอรคี อื พลงั ไฟฟา้ ทีไดจ้ ากพลงั งาน
เคมี

• ประจไุ ฟฟา้ ทผี ลิตไดจ้ ะถกู ทาํ ใหเ้ คลอื นทีไปในตวั นาํ การเคลอื นทขี องประจไุ ฟฟา้ เรยี กวา่
“กระแสไฟฟา้ ”

• กระแสไฟฟา้ ทีไหลกลบั ไปกลบั มาเรยี กวา่ “ไฟฟา้ กระแสสลบั ”
• กระแสไฟฟา้ ทีไหลไปในทศิ ทางเดยี ว มีขวั แน่นอน เรยี กวา่ ”ไฟฟา้ กระแสตรง”

• แหลง่ กาํ เนิดไฟฟา้ มี 2 ประเภท คือแหลง่ กาํ เนิดไฟฟา้ กระแสสลบั เชน่ โรงไฟฟา้ แหลง่ กาํ เนิด
ไฟฟา้ กระแสตรง เชน่ แบตเตอรี

2

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

ตวั แปรคา่ ต่างๆ เกียวกบั ทีเกียวกบั การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

• แรงเคลือนไฟฟา้ (Electro Motive Force : E) คือแรงทีแหลง่ กาํ เนิดไฟฟา้ กระทาํ ให้
ประจไุ ฟฟา้ เคลือนทีไปในทศิ ทางทตี อ้ งการ มหี นว่ ยเป็นโวลท์ (Volt V)

• แรงดนั ไฟฟา้ หรอื ความตา่ งศกั ยไ์ ฟฟา้ (Potential Different; V) คอื แรงระหวา่ งจดุ สอง
จดุ ทที าํ ใหป้ ระจไุ ฟฟา้ เคลือนที มหี นว่ ยเป็นโวลท(์ Volt V)

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

ตวั แปรคา่ ต่างๆ เกียวกบั ทีเกียวกบั การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า(ต่อ)

3

02/07/65

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

ตวั แปรคา่ ต่างๆ เกียวกบั ทีเกียวกบั การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า(ต่อ)

• โหลด(Load) คอื อปุ กรณห์ รอื เครอื งใชไ้ ฟฟา้ ทาํ หนา้ ทีเปลียนพลงั งานไฟฟา้ เป็นพลงั งานรูป
อืน เชน่ หมอ้ หงุ ขา้ วไฟฟา้ ทาํ หนา้ ทเี ปลียนพลงั ไฟฟา้ เป็นพลงั งานความรอ้ น มอเตอรไ์ ฟฟา้ ทาํ
หนา้ ทีเปลยี นพลงั งานไฟฟา้ เป็นพลงั งานกล เป็นตน้ โหลดทกุ ชนิดจะมคี า่ ความตา้ นทาน(R
หรอื Z)มีหนว่ ยเป็นโอหม์ (Ω)

• ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งแรงดนั ไฟฟา้ กระแสไฟฟา้ และความตา้ นทานไฟฟา้ เป็นไปตามกฎของ
โอหม์ (Ohm’Law)

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

ตวั แปรค่าต่างๆ เกียวกบั ทีเกียวกบั การใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า(ต่อ)

• กาํ ลงั ไฟฟ้า(Electric Power) คืออตั ราการทาํ งานหรือกาํ ลงั งานที
สามารถทาํ ได้ เชน่ เตารีดใชแ้ รงดนั ไฟฟา้ 220 โวลทม์ ีกระแสไฟฟ้าไหล
ผา่ น 4.54 แอมแปร์ เตารีดนีมีกาํ ลงั ไฟฟ้า 220V x 4.54A=1000 W
หรือ 1KW

• พลงั งานไฟฟา้ (Electric Energy) คอื ความสามารถในการทาํ งาน
ไดใ้ นช่วงเวลาหนงึ เช่นรดี ผา้ ดว้ ยเตารดี ไฟฟ้าขนาด 1000 w เป็น
เวลานาน 1 ชวั โมง เทา่ กบั ใชพ้ ลงั งานไฟฟ้าไฟ 1000W x 1hour
เป็น 1000 Whr หรอื 1 KWhr หรอื 1หนว่ ย

4

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

ระบบไฟฟ้ากาํ ลงั (electric Power System)

• ระบบไฟฟา้ กาํ ลงั หมายถงึ การรวบรวมอปุ กรณต์ า่ ง ๆ เขา้ ดว้ ยกนั เป็นวงจรไฟฟา้ กระแสสลบั เพอื การผลติ และการ
ใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ ประกอบดว้ ย 3 สว่ นใหญ่ ๆ คือ

1.ระบบผลติ พลงั งานไฟฟา้ (Generation Unit) ทาํ หนา้ ผลิตประจไุ ฟฟา้ ทีมีแรงเคลอื นไฟฟา้ ทีระดบั
ไมเ่ กิน 20 KV

2. ระบบสายสง่ ไฟฟา้ (Transmission Line Unit) ทาํ หนา้ ทีแปลงแรงเคลอื นไฟฟา้ จากระบบผลติ
ใหม้ ีแรงดนั ไฟฟา้ เพิมขนึ เป็นแรงดนั ไฟฟา้ แรงสงู เพอื สง่ กระแสไฟฟา้ ไปตามสายสง่ แรงสงู ระดบั 115 KV หรือ 230 KV
หรอื 500 KV

3.ระบบจาํ หน่ายไฟฟา้ (Distribution Unit) ทาํ หนา้ ทีแปลงแรงดนั ไฟฟา้ แรงสงู ของสายสง่ ใหม้ ี
ระดบั แรงดนั ไฟฟา้ ทีเหมาะสมเพอื สง่ กระแสไฟฟา้ ไปตามสายสง่ จาํ หน่ายระดบั 22 และ 33 KV(กฟภ.) หรอื 24 KV
(กฟน.)

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

5

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

ระบบจาํ หน่ายไฟฟ้าแรงตาํ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.)

• ระบบจาํ หนา่ ยไฟฟา้ แรงตาํ ของกฟภ.เป็นระบบ3เฟส4สายและตอ่ ลงดนิ แบบTN-C-S
(3ф,4w,TN-C-S Grounded System)

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระดบั แรงดนั ไฟฟ้าของระบบจาํ หน่ายแรงตาํ ของ กฟภ.

6

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ตารางเทียบสีสายไฟฟ้าประเทศไทย

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ความรูฉ้ นวนของสายไฟ

7

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
สายไฟงานแรงตาํ 8

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
สายไฟงานแรงตาํ

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
สายไฟงานแรงตาํ 9

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
สายไฟงานแรงตาํ

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การกาํ หนดขนาดของสายไฟ

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การกาํ หนดขนาดของสายไฟ

10

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การกาํ หนดขนาดของสายไฟ

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การกาํ หนดขนาดของสายไฟ

11

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
การเดินสายไฟฟ้า 12

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การเดินสายไฟฟ้า

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ

สายดินระบบไฟฟ้า สายดินของบริภณั ฑไ์ ฟฟ้า

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ

13

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
ระบบสายดนิ 14

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
ระบบสายดนิ 15

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
ระบบสายดนิ 16

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ Generator

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ Generator

17

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
ระบบสายดนิ L/A 18

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
ระบบสายดนิ L/A

02/07/65

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า

2. ความรูพ้ นื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การต่อสายต่อหลกั ดนิ เข้ากบั แท่งหลกั ดนิ

19

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า 02/07/65
การต่อสายดนิ ทผี ดิ วธิ ี 20

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การต่อสายดนิ ทผี ดิ วธิ ี

02/07/65

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การติดตงั เครืองป้องกนั ไฟฟ้าดดู โดยใช้เครืองตดั ไฟรัว

RCCB – Residual Current RCBO – Residual current
operated Circuit Breaker operated Circuit Breakers
without overcurrent with integral Overcurrent
protection for household protection for household
and similar uses and similar uses

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การติดตงั เครืองป้องกนั ไฟฟ้าดดู โดยใช้เครืองตดั ไฟรัว

21

02/07/65

2. ความรู้พนื ฐานเกียวกบั ไฟฟ้า
การติดตงั เครืองป้องกนั ไฟฟ้าดดู โดยใช้เครืองตดั ไฟรัว

22

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั
อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

อนั ตรายจากไฟฟ้า

• อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ แบง่ เป็น 2 ชนดิ
1.อนั ตรายจากกระแสไหลเกนิ ในสายไฟฟา้ เนืองมาจากการลดั วงจร ทเี รยี กวา่ “ไฟช๊อต”หรือ “Short
Circuit”

สาเหตไุ ฟช๊อตเกิดจาก
1.1 ฉนวนของสายไฟฟา้ เสอื มหรือถกู หนกู ดั แทะจนทาํ ใหไ้ มม่ ฉี นวนหมุ้ สาย และสายไฟทีไมม่ ฉี นวนหมุ้
ตวั นาํ (ทองแดง)ของสายเฟสทตี า่ งกนั มาแตะหรอื สมั ผสั กนั เกิดการลดั วงจรระหว่างสาย(Line –to- Line
Fault) หรอื

สายไฟทีไมม่ ีฉนวนหมุ้ ตวั นาํ (ทองแดง)ของสายเฟสกบั ของสายนวิ ทรลั มาแตะกนั หรือสายไฟทีไมม่ ี
ฉนวนหมุ้ ตวั นาํ ของสายเฟสแตะกบั ดนิ โดยตรง จะเกิดการลดั วงจรลงดนิ (Single line to ground
fault)

1.2 ฉนวนภายในของอปุ กรณไ์ ฟฟา้ เสอื มจนเหลือเฉพาะตวั นาํ และไปแตะกบั โครงโลหะของอปุ กรณห์ รอื
เครืองใชไ้ ฟฟา้ จะเกิดการลดั วงจรลงดนิ หรือ “ไฟรวั ”

1.3 การปฏบิ ตั งิ านทีผิดพลาดจนทาํ ใหข้ วั ของเฟสทีตา่ งกนั มาแตะหรอื สมั ผสั กนั โดยตรง เกิดการลดั วงจร
ระหวา่ งสาย หรอื ลดั วงจรลงดนิ

1

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

การลดั วงจรแบบต่าง ๆ
รูปแสดงการลดั วงจรแบบตา่ ง ๆ

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ไฟรัว

2

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

สภาวะเมือเกิดการลดั วงจร

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ผลของการเกดิ การลดั วงจร(ไฟช๊อต)

3

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

การป้องกนั อนั ตรายจากไฟฟ้าลดั วงจร

• ติดตงั ระบบไฟฟา้ ในโรงงานใหถ้ กู ตอ้ งตามมาตรฐานติดตงั ทางไฟฟา้ สาํ หรบั ประเทศไทย พ.ศ.2556
• ใชอ้ ปุ กรณป์ ้องกนั กระแสเกินของสายไฟฟา้ เชน่ เซอรก์ ิตเบรกเกอรใ์ หไ้ ดม้ าตรฐาน และมีคณุ ภาพ
• ตรวจสอบสายไฟฟา้ ใหอ้ ยใู่ นสภาพเรยี บรอ้ ย ไมถ่ กู หนกู ดั แทะฉนวน
• หมนั ทาํ ความสะอาดทขี วั ของเบรกเกอร์
• ขนั น๊อตทยี ดึ สายหรอื หางปลาของเบรกเกอรใ์ หแ้ นน่
• ตรวจสอบอปุ กรณแ์ ละเครอื งใชไ้ ฟฟา้ ใหอ้ ยใู่ นสภาพเรยี บรอ้ ย พรอ้ มใชง้ านโดยไมเ่ กิดไฟรวั

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

อนั ตรายจากไฟฟ้า(ต่อ)

2. อนั ตรายจากไฟดดู (Electric Shock)ทาํ ให้เสียชวี ิต

ไฟดดู หมายถึงการทีรา่ งกายคนไปแตะสมั ผสั กบั จดุ ทีมีแรงดนั ไฟฟา้ ทาํ ใหร้ า่ งกายเป็นสว่ นหนึงของวงจรไฟฟา้
และครบวงจร มกี ระแสไฟฟา้ ไหลสรู่ า่ งกาย ซงึ การทีรา่ งกายแตะสมั ผสั กบั จดุ ทีมีแรงดนั ไฟฟา้ แบง่ ได้ 2 แบบ
2.1 สมั ผสั โดยตรง คือการทีสว่ นหนึงสว่ นใดของรา่ งกายสมั ผสั จดุ ทีมแี รงดนั ไฟฟา้ โดยตรง เช่นสมั ผสั กบั ตวั นาํ ทีมแี รงดนั
ระหวา่ งสาย หรอื ตวั นาํ ทีมแี รงดนั ระหวา่ งสายกบั นิวทรลั หรือสมั ผสั สายเฟสทีฉนวนชาํ รุดขณะทีอยยู่ ืนเทา้ เปลา่ บนพืน
หินหรือดิน
2.2 สมั ผสั ทางออ้ ม คือการทีสว่ นหนึงสว่ นใดของรา่ งกายไปสมั ผสั กบั เครืองใชไ้ ฟฟา้ ทีมีไฟรวั ขณะยืนเทา้ เปลา่ บนพืนหิน
หรอื ดิน สว่ นใหญ่ไฟดดู จะเป็นแบบที 2

4

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

• อนั ตรายทีเกิดจากไฟดดู ขึนอยกู่ บั ปรมิ าณกระแสทีไหลเขา้ สรู่ า่ งกาย

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ปัจจยั ทีทาํ ใหเ้ กิดความรุนแรงจากไฟดูด
เมือถกู ไฟดดู อนั ตรายจะมากหรือนอ้ ย ขึนอยกู่ บั 4 ปัจจยั คือ

• 1. อนั ตรายหรอื ความรุนแรงจากไฟดดู จะขึนอยกู่ บั ปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ทีไหลสรู่ า่ งกายตาม
ตารางที 1 จากสมการปรมิ าณกระแสไฟฟา้ ทไี หลสรู่ า่ งกาย(Iคน) เมอื ถกู ไฟดดู จะมากหรอื นอ้ ย
ขึนอยกู่ บั ตวั แปร 2 ตวั คือ
- ขนาดของแรงดนั ไฟฟา้ จดุ ทรี า่ งกายสมั ผสั V ถา้ V มคี า่ สงู จะทาํ ใหม้ กี ระแสไหลสู่

รา่ งกายสงู ตาม อนั ตรายถึงแก่ชีวิตก็มมี ากตามขนาด V
- คา่ ความตา้ นทานของรา่ งกายขณะทีถกู ไฟดดู ตามตารางที 2 ถา้ คา่ ความตา้ นทานตาํ

จะทาํ ใหม้ ีกระแสไฟฟา้ ไหลสรู่ า่ งกายมาก อนั ตรายก็มากตาม ดงั นนั เวลารา่ งกายเปียกนาํ จงึ หา้ ม
ปฏิบตั งิ านเกียวกบั ไฟฟา้ อยา่ งเดด็ ขาด

5

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ปัจจยั ทีทาํ ใหเ้ กิดความรุนแรงจากไฟดูด(ต่อ)

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ปัจจยั ทีทาํ ใหเ้ กิดความรุนแรงจากไฟดูด(ต่อ)

• 3. เสน้ ทางหรอื อวยั วะภายในรา่ งกายทีกระแสไฟฟา้ ไหลผา่ น
กระแสไฟฟา้ ทีไหลสรู่ า่ งกายผา่ นอวยั วะภายในก่อใหเ้ กิดความรุนแรงจากไฟดดู ทีแตกตา่ งกนั

เช่น
ถา้ ไหลผา่ นปอดจะทาํ ใหร้ ะบบการหายใจลม้ เหลว อนั ตรายสงู สดุ คอื หยดุ การหายใจ
ถา้ ไหลผา่ นหวั ใจจะทาํ ใหห้ วั ใจทาํ งานผดิ ปกติ อนั ตรายสงู สดุ คอื หวั ใจหยดุ เตน้

ตา่ ง ๆ ขถอาง้ รไหา่ งลกผาา่ ยนไสมมส่ อางมาจระถกทระาํ ไทดบ้ นกนรั ะคเอืทกือานรตหอ่ มรดะสบตบิประสาท ทาํ ใหก้ ารสงั งานควบคมุ อวยั วะ
ไหม้ หรถอื า้เซไหลลลขผ์ อา่ นงเเนนือือเเยยือือถตกูา่ ทงาํๆลขาอยงรา่ งกาย ถา้ กระแสไฟฟา้ มมี ากจะทาํ ใหเ้ นือเยือเกิดการ

ดงั นนั ถา้ ถกู ไฟดดู ทีศรษี ะ จะมกี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นเขา้ ศรษี ะ ผา่ นอวยั วะภายในทกุ
สว่ นของรา่ งกาย(ปอด หวั ใจ ฯลฯ)สเู่ ทา้ ทงั สองขา้ งจะเป็นอบุ ตั ิเหตไุ ฟดดู ทีเกิดอนั ตรายสงู สดุ

6

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ปัจจยั ทีทาํ ใหเ้ กิดความรุนแรงจากไฟดูด(ต่อ)

• 4. ความถีของแรงดนั ไฟฟา้ ทีจดุ ถกู ไฟดดู

จากการศกึ ษาพบวา่ แรงดนั ไฟฟา้ ทีความถี 50 และ 60 Hz (ความถีไฟฟา้
กาํ ลงั ) คา่ ความตา้ นทานของรา่ งกาย (Rคน) จะมีคา่ สงู สดุ แตถ่ า้ หากคา่ ความถีของ
แรงดนั ไฟฟา้ มีคา่ สงู ขนึ จะทาํ ใหค้ า่ ความตา้ นทานมคี า่ ลดลง ดงั นนั ถา้ ความถีของ
แรงดนั ไฟฟา้ สงู ขนึ อนั ตรายจากไฟดดู ก็จะมมี ากขนึ

เช่นกระแสไฟฟา้ ขนาด 2 มลิ ลแิ อมป์ ทคี วามถี 50หรอื 60 Hz รา่ งกายรูส้ กึ
แคจ่ กั จี แตถ่ า้ ความถีเพมิ เป็น 100 – 200 kHz รา่ งกายจะรูส้ กึ รอ้ นทีบรเิ วณจดุ
สมั ผสั

ระดบั ความถีที 50 และ 60 Hz เป็นระดบั ความถีทเี ป็นอนั ตรายตอ่ ผใู้ ชน้ อ้ ย
ทสี ดุ

7

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

ตารางที 1 ปริมาณหรือขนาดกระแสไฟฟ้ากบั การตอบสนองของร่างกาย
ปริมาณกระแสไฟฟ้า(mA)
อาการทีเกดิ ขนึ กบั รา่ งกาย

ตาํ กวา่ 0.5 ไมม่ ผี ลหรอื ไมร่ ูส้ กึ
0.5 - 2 กระตกุ เลก็ นอ้ ย หรอื อาจรูส้ กึ จกั จี
2-8 กระทบกระเทือนตอ่ ระบบประสาท กลา้ มเนือหดตวั เกิดการกระตกุ ปานกลาง ไมอ่ นั ตราย
8 - 20 กระทบกระเทือนตอ่ ระบบประสาท เจบ็ ปวด กลา้ มเนือเกรง็ หดตวั อยา่ งรุนแรง
20 – 50 กระทบกระเทือนตอ่ ระบบประสาท เจบ็ ปวด กลา้ มเนือหดตวั อย่างรุนแรง ทาํ ใหป้ อดทาํ งาน
ผดิ ปกติ ไมส่ ามารถปลอ่ ยมอื ออกจากทีจบั ได้ มผี ลทาํ ใหส้ มองเกิดการเปลียนแปลง มี
50 - 100 โอกาสเสยี ชีวติ ภายใน 2 – 3 นาที
กระทบกระเทือนตอ่ ระบบประสาท หวั ใจเตน้ ผดิ ปกติ(เตน้ ออ่ นจนถงึ หยดุ เตน้ ) ไมส่ ามารถ
มากกวา่ 100 ปลอ่ ยมอื ออกจากทีจบั ได้มีผลทาํ ใหส้ มองเกิดการเปลียนแปลง มโี อกาสเสยี ชีวติ ภายในเวลา
2 – 3 นาที
หวั ใจหยดุ เตน้ ผวิ หนงั หรือเนือเยือ เซลลต์ า่ ง ๆ ของรา่ งกายเกิดการไหมอ้ ย่างรุนแรง
กลา้ มเนือหยดุ การทาํ งาน

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

สว่ นของรา่ งกาย 100,000 – 600,000
1,000
ผิวหนงั แหง้
ผิวหนงั เปียกนาํ 400 - 600
ภายในรา่ งกายจากมือถงึ เทา้
(ไมม่ ีผิวหนงั ) 100
ระหว่างช่องหสู องขา้ ง

8

02/07/65

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

การป้องกนั อนั ตรายจากไฟดูด

• ติดตงั ระบบสายดินใหถ้ กู ตอ้ งตามมาตรฐาน
• ใชอ้ ปุ กรณป์ อ้ งกนั ไฟรวั (Ground Fault Circuit Interupter GFCI หรอื Residual Current

Device RCD หรือเบรกเกอรห์ างหนู หรอื safty cut(ชือทางการคา้ ))ในจดุ ทีคาดวา่ นา่ จะเป็นอนั ตรายตอ่
ผปู้ ฏิบตั ิงานหรอื ลกู จา้ ง เช่น บรเิ วณทีมีนาํ ในขบวนการผลิต

3. สาเหตุและการป้องกนั อนั ตรายจากการใชพ้ ลงั งานไฟฟ้า

การป้องกนั อนั ตรายจากไฟดูด(ต่อ)

• ลกู จา้ งซงึ ปฏิบตั ิงานเกียวกบั ไฟฟา้ ตอ้ ง
- พกไขควงทดสอบไฟตลอดเวลา และเมอื ซอ่ มอปุ กรณห์ รอื เครอื งใชไ้ ฟฟา้ ทีมีเปลอื กหรอื หมุ้ ดว้ ยโลหะ ตอ้ ง

ใชไ้ ขควงทดสอบแตะโลหะนนั เพอื เช็คไฟรวั กอ่ นซอ่ มทกุ ครงั
- หา้ มปฏิบตั งานเกียวกบั ไฟฟา้ อยา่ งเด็ดขาดเมอื ตวั เปียกนาํ ยกเวน้ เมอื มกี ารปอ้ งกนั เต็มรูปแบบ
-ในสถานทีบงั คบั ใหต้ อ้ งสวมใสอ่ ปุ กรณป์ อ้ งกนั ไฟฟา้ จะตอ้ งถือปฏิบตั ิตามอยา่ งเครง่ ครดั

เพือมใิ หร้ า่ งกา-ยเมคอืรบซอ่วมงจอรปุ กกบั รพณืนห์ ทรียอื ืนเคซรอ่ อื มงใเชชน่ไ้ ฟบฟนั า้ ไขดณโละหทะีมใหีแรห้ งมุ้ ดหนั รไือฟวฟาา้งบตนอ้ ฉงมนววี นสั ด(ทฉุ าํนใวหน้ Vรอ=งพ0นื ทโวียลืนทป→์ ฏิบตัIคิงนาน=เส0มอA)
- เมอื พบเจอเหตกุ ารณท์ ีเครอื งใชไ้ ฟฟา้ หยดุ ทาํ งาน หรอื ไฟดบั จดุ หนงึ จดุ ใด ใหต้ รวบสอบทีตจู้ า่ ยไฟให้

เเรคียรบอื งรใอ้ ชยไ้ กฟ่อฟนา้ ทนีสนั บั หเบรอืรกจเดุ กทอีไรฟใ์ หดท้บั าํ สงางั เนกอตีกเุ บครรกงั เกอรท์ ีจ่ายไฟให้ “ทรปิ ”หรอื ไม่ ถา้ “ทริป”จะตอ้ งหาสาเหตแุ ละแกไ้ ขให้
“ทรปิ ” คือการปลดวงจรของเซอรก์ ิตเบรกเกอรเ์ มอื มีกระแสไหลเกินพิกดั ของเบรกเกอรแ์ บบอตั โนมตั ิ
- ทาํ งานดว้ ยความรอบครอบและมีสติ ไมป่ ระมาท เพราะกระแสไฟฟา้ เป็นสิงทีมองไมเ่ ห็นดว้ ยตาเปลา่

9

02/07/65

4.การให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้า

4.การใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้า

• ผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟา้ ส่วนมากจะเป็นผถู้ กู ไฟดดู การช่วยเหลือผปุ้ ระสบเหตถุ กู ไฟ
ดดู ผชู้ ว่ ยจะตอ้ งรูว้ ธิ ีชว่ ยทีถกู ตอ้ งดงั ตอ่ ไปนี
1.กอ่ นอืนจะตอ้ งช่วยใหผ้ ถู้ กู ไฟดดู หลดุ ออกจากจดุ ทถี กู ไฟดดู ใหเ้ รว็ ทีสดุ โดยทีผชู้ ว่ ยไม่

ถกู ไฟดดู สามารถทาํ ไดโ้ ดยการสบั เบรกเกอรห์ รือสวติ ชป์ ลดวงจรจดุ ทเี กิดไฟดดู แตถ่ า้ หาก
ไมร่ ูต้ าํ แหน่งจดุ ตดิ ตงั เบรกเกอรห์ รือสวติ ชด์ งั กล่าว ใหห้ าวสั ดทุ ีเป็นฉนวน เช่น ผา้ แหง้ เชือก
แหง้ สายยาง คลอ้ งคอหรือตวั ดงึ ผถู้ กู ไฟดดู ใหห้ ลดุ จากจดุ ทีถกู ไฟดดู

2. กรณีทีมีกระแสไฟฟา้ อย่ใู นบรเิ วณนาํ ขงั ตอ้ งหาทางเขียสายไฟออกใหพ้ น้ นาํ หรอื ตดั
กระแสไฟฟา้ ก่อน จงึ คอ่ ยชว่ ยผถู้ กู ไฟดดู หา้ มลงนาํ เดด็ ขาด

3. หากเป็นสายไฟฟ้าแรงสงู ควรหลีกเลียงการชว่ ยเพราะโอกาสผชู้ ว่ ยจะไดร้ บั อนั ตราย
สงู มาก ใหร้ ีบแจง้ การไฟฟา้ ทีเกียวขอ้ งใหเ้ รว็ ทีสดุ

การชว่ ยผูถ้ กู ไฟดดู ตอ้ งทาํ อยา่ งรอบคอบ รวดเร็ว และระมดั ระวงั เป็นพเิ ศษ

1

02/07/65

4.การใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้า

4.ผถู้ กู ไฟดดู สว่ นมากสามารถหลดุ ออกจากจดุ ทีถกู ดดู ไดโ้ ดยสญั ชาตญิ าณของความเป็นคน โดยมี
กระแสไฟฟา้ ไหลผ่านรา่ งกายในเวลาไมน่ านพอทจี ะไดร้ บั อนั ตรายจากกระแสไฟฟา้ โดยเฉพาะผทู้ ี
เคยถกู ไฟดดู มากอ่ น จะเปรยี บเสมอื นไดร้ บั การฉีดวคั ซนี ป้องกนั โรค เมอื ถกู ไฟดดู ในครงั ถดั ไป
โอกาสทจี ะสะบดั หลดุ จากจดุ ทถี กู ไฟดดู มสี งู
5. สว่ นผปู้ ระสบเหตถุ กู ไฟดดู ทมี ีกระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นรา่ งกายขนาดประมาณ
20 – 30 มลิ ลิแอมป์ เป็นเวลาไมเ่ กิน 30 วินาที หลงั จากชว่ ยใหห้ ลดุ ออกจากจดุ ทถี กู ไฟดดู เรยี บรอ้ ย
แลว้ ดว้ ยความปลอดภยั สว่ นใหญ่จะมอี าการหวั ใจเตน้ ผิดปกตหิ รอื หยดุ เตน้ และระบบการหายใจ
ลม้ เหลว(หยดุ หายใจ) จะตอ้ งไดร้ บั การชว่ ยเหลอื ฟื นคนื ชพี ขนั พนื ฐาน(CPR) โดยการผายปอดและ
นวดหวั ใจ ก่อนทนี าํ สง่ โรงพยาบาล

4.การใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้า

การช่วยเหลือฟื นคืนชีพขนั พืนฐาน
(Cardiopulmonary resuscitation CPR)

• เมือไดท้ าํ การชว่ ยเหลอื ผถู้ กู ไฟดดู หลดุ ออกจากจดุ ทีถกู ไฟดดู อย่าง
ปลอดภยั เรยี บรอ้ ยแลว้ หากผถู้ กู ไฟดดู หมดสตไิ มร่ ูส้ ึกตวั ไมห่ ายใจ และ
หวั ใจหยดุ เตน้ ซงึ สงั เกตไดจ้ ากอาการทีเกิดขนึ คอื ตวั เยน็ สีหนา้ และตวั
ซดี เหลอื ง ทรวงอกเคลือนไหวนอ้ ยมากหรือไมเ่ คลือนไหว จบั ชีพจรจะ
เตน้ ชา้ หรือไมเ่ ตน้ ตอ้ งรีบชว่ ยเหลือฟื นคืนชีพขนั พืนฐาน(CPR) โดย

– การผายปอดเพอื ใหร้ ะบบการหายใจกลบั คืนสสู่ ภาวะปกติ
– การนวดหวั ใจเพอื ใหห้ วั ใจกลบั มาทาํ งานปกตทิ าํ หนา้ ทสี บู ฉีดเลอื ดไปเลยี ง

สว่ นตา่ ง ๆ ของรา่ งกายไดต้ ามปกติ

2

02/07/65

4.การให้ความช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้า
การผายปอดโดยวิธีการเป่ าลมเขา้ ปาก

• ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนราบ จดั ท่าทีเหมาะสมเพอื เปิดทางอากาศเขา้ สปู่ อด โดยผปู้ ฐมพยาบาลอยดู่ า้ นขวาหรอื ซา้ ยบริเวณ
ศรษี ะของผปู้ ่ วย ใชม้ ือขา้ งหนงึ ดึงคางผปู้ ่ วยมาดา้ นหนา้ พรอ้ มกบั ใชม้ ืออีกขา้ งดนั หนา้ ผากไปทางดา้ นหลงั ซงึ เป็น
วิธีปอ้ งกนั ไมใ่ หล้ นิ ตกไปอดุ ปิดทางเดินหายใจ แตท่ งั นีตอ้ งระวงั ไมใ่ หน้ ิวมือทีดงึ คางไปกดลกึ ลงไปในสว่ นเนือใต้
คาง(บรเิ วณคอหอย) เพราะนิวมอื จะไปอดุ กนั ทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในเด็กเลก็

• สอดนิวหวั แมม่ อื เขา้ ไปในปากจนปากอา้ ลว้ งสิงของในปากทีจะขวางทางเดินหายใจออกใหห้ มด เชน่ ฟันปลอด
เศษอาการตกคา้ ง เป็นตน้

• ผปู้ ฐมพยาบาลอา้ ปากใหก้ วา้ งหายใจเขา้ เต็มที มอื ขา้ งหนงึ บีบจมกู ผปู้ ่วยใหแ้ น่นสนิท ในขณะทีมอื อีกขา้ งหนงึ
ยงั คงดึงคางผปู้ ่วยมาดา้ นหนา้ แลว้ จึงประกบปิดปากผปู้ ่วยพรอ้ มเป่าลมเขา้ ไปในปากผปู้ ่วย ทาํ ลกั ษณะนีเป็น
จงั หวะ 12 – 15 ครงั ตอ่ นาที

• ขณะทีทาํ การเป่าปาก ตาตอ้ งชาํ เลอื งดดู ว้ ยวา่ หนา้ อกของผปู้ ่วยมกี ารขยายขนึ ลงหรือไม่ หากไมม่ กี ารกระเพอื มขนึ
ลง อาจเป็นเพราะท่านอนไมด่ ีหรอื มีสงิ กีดขวางทางเดินหายใจ ตอ้ งรีบลว้ งเอาออก

• ในรายทีผปู้ ่วยอา้ ปากไมไ่ ด้ หรอื ดว้ ยสาเหตใุ ดก็ตามทีไมส่ ามารถเป่าลมเขา้ ปากผปู้ ่ วยได้ ใหเ้ ป่ าลมเขา้ ทางรูจมกู
ของผปู้ ่ วยแทน โดยปฏิบตั ิเชน่ เดียวกนั กบั การเป่ าลมเขา้ ปาก ในรายเด็กเล็กอาจใชว้ ธิ ีเป่ าลมเขา้ ปากและรุจมกู ไป
พรอ้ มกนั ได้

4.การใหค้ วามช่วยเหลือผปู้ ระสบอนั ตรายจากไฟฟ้า

การนวดหวั ใจเพือใหเ้ ลือดไหลเวยี นไปในร่างกายตามปกติ

• เมือพบว่าหวั ใจผปู้ ่ วยหยุดเตน้ โดยทราบจากการฟังเสียงหวั ใจเตน้ และการจบั ชีพจรดกู ารเตน้ ของหลอดเลอื ดแดงทีคอ
หรอื ทขี าหนีบ หรอื ทีขอ้ มือ ตอ้ งรบี ทาํ การนวดหวั ใจผปู้ ่ วยใหก้ ลบั มาเตน้ ตามปกติใหเ้ ร็วทีสดุ ดงั วธิ ีการตอ่ ไปนี
1. ใหผ้ ปู้ ่ วยนอนราบกบั พืนแข็ง ๆ ผปู้ ฐมพยาบาลคกุ เขา้ ลงขา้ งขวาหรอื ขา้ งซา้ ยบริเวณหนา้ อกของผูป้ ่ วย คลาํ

หาส่วนลา่ งสดุ ของกระดกู อกทตี อ่ กบั กระดกู ซีโครง โดยใชน้ วิ สมั ผสั ชายโครงไลข่ ึนมา(หากคกุ เข่าขา้ งขวาใหใ้ ชม้ อื ขวาคลาํ หา
กระดกู อก หากคกุ เข่าขา้ งซา้ ยใหใ้ ชม้ ือซา้ ยคลาํ )

2. วางนิวชีและนวิ กลางตรงตาํ แหน่งทีกระดกู ซโี ครงต่อกบั กระดกู อกสว่ นลา่ งสดุ วางสน้ มืออกี ขา้ งบนตาํ แหน่ง
ถดั จากนวิ ชีและนวิ กลางนนั ซงึ ตาํ แหนง่ ของสน้ มือทีวางอยู่บนกระดกู หนา้ อกนจี ะเป็นตาํ แหน่งทถี ูกตอ้ งในการนวดหวั ใจตอ่ ไป

3. วางมืออีกขา้ งทบั ลงบนหลงั มอื ทีวางตาํ แหน่งในขอ้ 2. เหยียดนิวมือตรงแลว้ เกียวนวิ มือ 2 ขา้ งเขา้ หากนั แลว้
เหยียดแขนตรง โนม้ ตวั ตงั ฉากกบั หนา้ อกผปู้ ่วย ทงิ นาํ หนกั ลงบนแขนขณะกดกบั หนา้ อกผปู้ ่ วย ใหก้ ระดกู ลดระดบั ลง 1.5 - 2
นิว เมือกดสดุ ใหผ้ ่อนมือขนึ โดยทีตาํ แหน่งมือไมต่ อ้ งเลอื นไปจากจดุ ทกี าํ หนด ขณะกดหนา้ อกนวดหวั ใจ หา้ มใหน้ วิ มือกดลง
บนกระดกู ซโี ครงผปู้ ่ วย

4. เพือใหช้ ่วงเวลาการกดแตล่ ะครงั คงที และจงั หวะการสบู ฉีดเลอื ดออกจากหวั ใจพอเหมาะกบั ทีร่างกาย
ตอ้ งการ ใชว้ ิธีนบั จาํ นวนครงั ทกี ดดงั นี หนงึ และ สอง และ สาม และ สี และหา้ ......โดยกดทกุ ครงั ทนี บั ตวั เลขและปลอ่ ยตอน
คาํ ว่า และ สลบั กนั ไปอย่างนี

การนวดหวั ใจจะตอ้ งทาํ สลับกับการผายปอด

3


Click to View FlipBook Version