ตำตำตำตำนานที่ที่ ที่ คิ ที่ คิคิดคิถึถึ ถึ ง ถึ ง ณ บึบึ บึ ง บึ งราชนก หนังสืออ่านเสริมประวัติศาสตร์ในท้องถิ่นเมืองพิษณุโลก เอกสารลำ ดับที่ ๐๔/๒๕๖๖ สำ นักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต ๑ สำ นักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ตำตำตำตำนานที่ที่ ที่ คิ ที่ คิ คิ ด คิ ดถึถึ ถึ ง ถึ ง ณ บึบึ บึ ง บึ งราชนก
คำ นำ การเรียนรู้ประวัติศาสตร์เป็นสิ่งที่น่าสนใจน่าค้นหา และเป็นสิ่งที่ บอกเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีตให้เยาวชนได้เรียนรู้หนังสืออ่านเสริม ประวัติศาสตร์เล่มนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อการศึกษาประวัติศาสตร์ของ ตำ นานบึงราชนก ซึ่งคณะผู้จัดทำ ได้ศึกษา และรวบรวมข้อมูล เพื่อนำ มาเผยแพร่ผ่านตัวการ์ตูนที่มีสีสันสวยงามเกิดความเพลิดเพลิน และ ปลูกฝังนิสัยรักการอ่าน เหมาะสำ หรับเด็กๆตลอดจนผู้สนใจทั่วไป คณะผู้จัดทำ หวังว่า หนังสืออ่านเสริมประวัติศาสตร์เล่มนี้ จะมี ประโยชน์ต่อผู้สนใจไม่มากก็น้อย หากมีเหตุผิดพลาดประการใดคณะ ผู้จัดทำ ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย คณะผู้จัดทำ
ก่อนที่เราจะไปอ่านเรื่องตำ นานที่คิดถึง ณ บึงราชนก น้องปีบขอพา เพื่อน ๆ ไปรู้จักคำ ประพันธ์ที่ใช้ในการแต่งนิทานเรื่องนี้กันก่อนค่ะ เรื่องตำ นานที่คิดถึง ณ บึงราชนก แต่งด้วยกาพย์ยานี ๑๑ โดย ๑ บท มี ๒ บาท บาทละ ๒ วรรค รวมทั้งหมด ๔ วรรค วรรคหน้า ๕ คำ วรรคหลัง ๖ คำ ซึ่งมีสัมผัสระหว่างวรรค คือ คำ สุดท้ายของวรรคที่ ๑ สัมผัสกับคำ ที่ ๓ ของวรรคที่ ๒ คำ สุดท้ายของวรรคที่ ๒ สัมผัสกับคำ สุดท้ายของวรรคที่ ๓ และคำ สุดท้ายของวรรคที่ ๔ จะสัมผัสกับคำ สุดท้ายของวรรคที่ ๒ ในบท ถัดไป เรียกว่า “สัมผัสระหว่างบท” ส่วนวิธีการอ่าน จะใช้การอ่านแบบ แบ่งวรรค วรรคหน้า ๕ คำ แบ่งอ่านเป็น ๒ คำ / ๓ คำ และวรรคหลัง ๖ คำ แบ่งอ่านเป็น ๓ คำ / ๓ คำ ดังแผนผังฉันทลักษณ์ต่อไปนี้ เกร็ร็ ร็ ด ร็ ดความรู้รู้รู้รู้ แบบทดสอบก่อก่นเรียน
น้น้ น้ อน้ องปีปีบ ปี บ ปี ขอเล่ล่า ล่ า ล่ ขาน ตามตำตำตำตำนานบึบึง บึ ง บึราชนก เก่ก่า ก่ า ก่ ก่ก่อ ก่ อ ก่ นสมัมัย มั ย มัศก ราชนกเป็ป็น ป็ป็ธานีนี นีนี ๑ บึบึงบึบึราชนก เป็ป็นป็ป็บึบึงบึบึน้ำน้ำ น้ำน้ำจืจืจืดจืขนาดใหญ่ญ่ญ่ญ่ตั้ตั้ตั้งตั้ตั้ตั้อยู่ยู่ที่ ยู่ที่ ยู่ ตำที่ตำที่ตำตำบลวัวังวัวัทอง อำอำอำอำเภอวัวังวัวัทอง จัจัจังจัหวัวัดวัวัพิพิษพิพิณุณุณุโณุลก ๑ ๑
อดีดีต ดี ต ดีเคยรุ่รุ่รุ่รุ่ รุ่ งรุ่ งเรืรื รื อรื อง ชนชาวเมืมือ มื อ มืงร่ร่ ร่ มร่ มเย็ย็น ย็ น ย็ ดีดี ดีดี มีมีธิ มี ธิ มีธิ ดธิ ดามารศรีรี รีรี เป็ป็น ป็ป็คู่คู่หคู่คู่ มายหนุนุนุ ม นุ มาน ๒ ๒
มอบม้ม้า ม้ า ม้หมั้มั้ มั้ น มั้มั้ น มั้หมายไว้ว้ ว้ว้ แทนดวงใจเมื่มื่อ มื่ อ มื่ห่ห่า ห่ า ห่ งกานต์ต์ ต์ต์ เป็ป็น ป็ป็ม้ม้า ม้ า ม้อาชาชาญ วลาหกนามเลื่ลื่อ ลื่ อ ลื่งลืลือ ลื อ ลืไกล ๓ วลาหกหรืรืรือรืพลาหก เป็นป็สัสัตสัสัว์ว์หิว์หิว์ มหิหิพานต์ต์ตต์ต์ ระกูกูลกูกูม้า ลัลักลัลัษณะภายนอก จะเป็ป็นป็ป็ม้ ม้ามีมีหางสีสีดำสีดำสีดำดำ ตัตัวตัตัสีสีขสีสีาวนวล ช่ช่วช่ช่ งหัหัวหัหัสีสีดำสีดำสีดำดำ ปากและเท้ ท้าทั้ทั้ทั้งทั้สี่สี่มี สี่มี สี่สีสีแสีสีดง อาศัศัศัยศัอยู่ยู่ใยู่ยู่ นบนท้ ท้องฟ้ฟ้าฟ้ฟ้ ๓ ๓
วัวัน วั น วัหนึ่นึ่นึ่งนึ่มีมีพ มี พ มี ายุยุยุยุ ลอยทะลุลุเ ลุเ ลุ กิกิด กิ ด กิเภทภัภัย ภั ย ภั ชาวบ้บ้า บ้ า บ้นวิวิง วิ ง วิวอนให้ห้ ห้ห้ ขอลมร้ร้ ร้ าร้ ายให้ห้ผ่ ห้ผ่ ห้ านพ้ พ้น ๔
ฝนซาเจอปลาหมอ ไม่ม่รี ม่ รี ม่ รี รรี รอกระเสืสือ สื อ สืกกระสน ตัตัว ตั ว ตัใหญ่ญ่อั ญ่ อั ญ่ น อั น อั ล้ล้น ล้ น ล้ พ้ พ้น ขนาดคนกิกิน กิ น กิทั้ทั้ ทั้ ง ทั้ทั้ ง ทั้บุบุรี บุรี บุ รีรี ๕
ขุขุน ขุน ขุ นางเหล่ล่า ล่ า ล่ อำอำอำอำมาตย์ย์ ย์ย์ เป็ป็น ป็ป็ เพราะขาดสามัมัค มั ค มัคีคี คีคี ทุทุก ทุก ทุ คนต่ต่า ต่ า ต่ งชิชิง ชิ ง ชิดีดี ดีดี นำนำนำนำ กราบทูทูล ทูล ทู พระราชา ๖
กษัษัต ษั ต ษัริริ ริ ย์ริ ย์สั่ย์ สั่ย์ สั่ง สั่สั่ง สั่ลงมา ให้ห้แ ห้ แ ห้ ล่ล่ปล่ล่ ลาเลี้ลี้ย ลี้ ย ลี้งประชา แจกจ่จ่ จ่ าจ่ ายทั่ทั่ทั่ว ทั่ทั่ว ทั่พารา เว้ว้น ว้ น ว้ แต่ต่ว่ ต่ ว่ ต่ า ว่ า ว่ หญิญิง ญิ ง ญิชรา ๗
ฆ่ ฆ่าปลาเป็ป็น ป็ป็บาปใหญ่ญ่ ญ่ ทัทัก ทั ก ทัท้ท้ว ท้ ว ท้งไว้ว้ใว้ว้ห้ห้เ ห้ เ ห้ลิลิก ลิ ก ลิรา แต่ต่ไต่ต่ ร้ร้ ร้ คร้ ความเมตตา ไล่ล่ย ล่ ย ล่ ายเฒ่ฒ่า ฒ่ า ฒ่ ให้ห้ก ห้ ก ห้ ลัลับ ลั บ ลั ไป ๘
กลางดึดึก ดึ ก ดึเงีงีย งี ย งีบสงังัด งั ด งั เกิกิด กิ ด กิวิวิบั วิ บั วิติ บั ติ บัสติ สตินั่นั่นั่นั่ ไหว แผ่ ผ่นดิดิน ดิ น ดิแยกแตกไป ราชนกหายใต้ต้ว ต้ ว ต้ารีรี รีรี ๙
ผู้ ผู้คนนั้นั้ นั้ น นั้ นล้ล้ม ล้ ม ล้ ตาย บ้บ้า บ้ า บ้นเมืมือ มื อ มืงกลายเป็ป็น ป็ป็นทีที ทีที เหลืลือ ลื อ ลืเกาะอีอีก อี ก อีหนึ่นึ่ นึ่นึ่งที่นึ่ที่ เนินิ นิ นนิ นยายแก่ก่เ ก่ เ ก่ รีรี รี ยรี ยกสืสืบ สื บ สืมา ๑๐
ธิธิ ธิ ดธิ ดาควบม้ม้า ม้ า ม้หนีนี นีนี ปลดเปลื้ลื้อ ลื้ อ ลื้งที่ที่แ ที่ แ ที่ต่ต่ง ต่ ง ต่ กายา ถอดแหวนอัอัน อั น อั ล้ำล้ำล้ำล้ำค่ค่า ค่า ค่ เป็ป็น ป็ป็ที่ที่ม ที่ ม ที่าชื่ชื่อ ชื่ อ ชื่หนองแหวน ๑๑
หนุนุนุ ม นุ มานเมื่มื่อ มื่ อ มื่รู้รู้รู้รู้ รู้ ข่รู้ ข่า ข่ า ข่ ว จึจึ จึ งจึ งหัหัก หั ก หัเขายอดสูสูง สูง สู แสน เทีทีย ที ย ทีมสวรรค์ค์ชั้ ค์ ชั้ ค์ ชั้ น ชั้ชั้ น ชั้ เมืมือ มื อ มืงแมน เหาะเหิหิน หิ น หิมาบนนภา ๑๒
เหลืลือ ลื อ ลืบเห็ห็น ห็ น ห็ พระธิธิ ธิ ดธิ ดา นางโสภาเร่ร่ ร่ งร่ งหนีนี นี มนี มา ทิ้ทิ้ง ทิ้ ง ทิ้เขาลงมาหา ช่ช่ว ช่ ว ช่ ยนงคราญให้ห้พ้ ห้พ้ ห้ นภัภัย ภั ย ภั ๑๓
ยอดเขาร่ร่ ร่ วร่ วงสู่สู่พื้ สู่พื้ สู่ น พื้ น พื้ เป็ป็น ป็ป็แผ่ ผ่นผืผืนตะแคงไป คนเรีรี รี ยรี ยกแปรเปลี่ลี่ย ลี่ ย ลี่นไป เขาสมอแคลงเรีรี รี ยรี ยกต่ต่อ ต่ อ ต่ มา ๔ เขาสมอแคลง เป็ป็นป็ป็สถานที่ที่ที่สำที่สำสำสำคัคัคัญคั ในจัจัจังจัหวัวัดวัวัพิพิพิษพิณุณุณุโณุลก ทั้ทั้ทั้งทั้ด้ด้ด้าด้นการท่ท่ท่อท่ งเที่ที่ที่ยที่ว และด้ด้ด้าด้นประวัวัติวัติวัติศติาสตร์ร์ร์ร์ เนื่นื่นื่อนื่งจากพบรอยพระพุพุพุทพุธบาทเครื่รื่รื่อรื่งถ้ถ้ถ้วถ้ย พระพุพุพุทพุธรูรูรูรูป และชุชุมชุชุชนโบราณ ๔ ๑๔
ปัปัจ ปัปัจุจุจุ บั จุ บัน บั น บัชนนั้นั้ นั้ น นั้ นเชื่ชื่ ชื่ อ ชื่อชื่พบกระโดงเรืรื รื อรื อในธารา แต่ต่ไต่ต่ ม่ม่นำ ม่ นำ ม่ นำนำ ขึ้ขึ้ ขึ้ น ขึ้ขึ้ น ขึ้มา ปล่ล่อ ล่ อ ล่ ยฝัฝัง ฝัฝัไว้ว้ใว้ว้ต้ต้โต้ต้คลนตม ๑๕
เห็ห็น ห็ น ห็ ช่ช่อ ช่ อ ช่ งล่ล่อ ล่ อ ล่ งน้ำน้ำ น้ำน้ำผ่ ผ่าน เป็ป็น ป็ป็สายธารนึนึ นึ กนึ กระทม ครั้รั้ รั้ ง รั้ งหนึ่นึ่นึ่งนึ่เคยอุอุด อุด อุ ม ก่ก่อ ก่ อ ก่ นจมลงสูสูญสูสู สิ้สิ้น สิ้ น สิ้ไป ๑๖
นี่นี่ นี่ แนี่ แหละเป็ป็น ป็ป็ตำตำตำตำนาน คำคำคำคำเล่ล่า ล่ า ล่ ขานมานานไกล น้น้ น้ อน้ องปีปีปปีปี จึจึ จึ งจึ งเล่ล่า ล่ า ล่ ไว้ว้ ว้ว้ บึบึง บึ ง บึราชนกมีมีที่ มี ที่ มีม ที่ ม ที่า ๑๗
๑๘
ตำ นานบึงราชนก พิษณุโลก ราชก เป็นนครที่เคยรุ่งเรืองมากในอดีต แต่มีอันต้องล่มสลายกลายเป็นบึงกว้างใหญ่ เกิดเป็น ตำ นานเล่าขานต่อกันมาว่า ครั้งหนึ่ง เจ้าราชนกปกครองราชนกนครด้วยความร่มเย็นเป็นสุขตลอดมา พระองค์มีราชธิดา องค์หนึ่งรูปโฉมงดงามมาก หนุมาน ทหารเอกของพระรามยอมหมั้นองค์หญิงไว้พร้อมทั้งมอบม้า ตัวหนึ่งชื่อ “วลาหก” ให้เป็นพาหนะ วันหนึ่ง เกิดพายุฝนใหญ่โหมกระหน่ำ หนักทั้งราชนกนคร ครั้นฝนตกซา ก็พบปลาหมอยักษ์ ตัวหนึ่งนอนดิ้นกระเสือกระสนอยู่หน้าพระนคร ตัวโตขนาดคนทั้งเมืองกินไม่หมด ชาวเมืองพากัน แตกตื่นไปดูปลาหมอประหลาดกันเนืองแน่น ราชนกนครในขณะนั้น เหล่าขุนนางและอำ มาตย์ขาดความสามัคคีกัน ต่างแก่งแย่งชิงดีพยายาม และแสวงหาอำ นาจ ลาบยศ ให้ตัวเอง เมื่อเห็นปลาหมอยักษ์ ก็คิดว่าเป็นปลาวิเศษ หากได้กินจะมี อำ นาจยิ่งใหญ่เหมือนผู้อื่น อำ มาตย์ผู้หนึ่ง นำ เรื่องปลาหมอยักษ์กราบทูลเจ้าราชนกเพราะอยากได้ ความดีความชอบ เจ้าราชนกจึงรับสั่งให้นำ ปลาหมอยักษ์มาให้ทอดพระเนตร อำ มาตย์เกณฑ์ผู้คนนับร้อยมาช่วยกันลากปลาหมอยักเข้าวัง เมื่อเจ้าราชนกเห็นปลาหมอยักษ์ ก็เชื่อว่าเป็นปลาวิเศษจริงดังคำ กบ่าวของอำ มาตย์ พระองค์จึงสั่งให้ทหารช่วยกันแล่ปลาหมอ แล้วนำ เนื้อปลาแจกจ่ายให้ชาวเมืองกินกันถ้วนหน้า เว้นแต่หญิงชราคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ยอมกิน หญิงชราใจบุญคนหนึ่งเข้ามาทักท้วงพร้อมทั้งขอร้องไม่ให้ฆ่าปลาหมอยักษ์ เพราะจะเป็นบาปใหญ่ หลวง แต่ไม่มีใครเชื่อและขับไล่ยายแก่ให้กลับไป กลางดึกคืนนั้น เกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหวไปทั้งเมือง แผ่นดินสะท้านสะเทือนแยกออกจากกัน สูบราชนกนครหายไปใต้บาดาล ผู้คนจมน้ำ ตายกันทั้งเมืองกลายเป็นเวิ้งน้ำ กว้างใหญ่ ชื่อว่า “บึงราชนก” ส่วนหญิงชราที่ไม่ได้กินเนื้อปลาหมอยักษ์นั้นรอดชีวิต บ้านที่อยู่อาศัยอยู่กลายเป็น เกาะกลางน้ำ ชื่อว่า “เนินยายแก่” พระธิดาซึ่งกินเนื้อปลาหมอไปเพียงเล็กน้อย ควบม้า “วลาหก” หนีออกจากเมืองไปได้ แต่แผ่นดินก็ทรุดถล่มไล่หลังตามไปติดๆ เมื่อมาถึงหนองน้ำ แห่งหนึ่ง พระธิดาทรงเหน็ดเหนื่อยมาก คิดว่าเพื่อให้หนีไปได้เร็วที่สุด จึงเปลื้องเครื่องประดับกายต่าง ๆ ออก และได้ถอดแหวนทิ้งไปใน หนองน้ำ นั้น จึงมีชื่อว่า “หนองแหวน” เมื่อหนุมานรู้ข่าวว่าราชนกนครล่มสลาย จึงหักยอดเขาสูงเทียมฟ้ามาลูกหนึ่งเพื่อถมราชนกนคร ช่วยผู้รอดชีวิต ขณะที่หนุมานเหาะเหินมาบนอากาศ พลันเหลือบเห็นพระธิดากำ ลังหนีแผ่นดินถล่ม อยู่เบื้องล่าง จึงทิ้งยอดเขาไปช่วย ยอดเขานั้นร่วงลงสู่พื้นดินในลักษณะเอียงตะแคงอยู่ จึงได้ชื่อว่า “เขาตะแคง” ต่อมาเรียกเพี้ยนเป็น “เขาสมอแคลง” ชาวบ้านเชื่อว่า “ราชนกนคร” อาจเป็นเมืองที่เคยมีอยู่จริงตามตำ นาน เพราะเคยมีคนไปหาปลา ในบึง บังเอญพบ ฆ้อง และเสากระโดงเรือขนาดใหญ่ฝังอยู่ใต้โคลนตมก้นบึงราชนก แต่ไม่สามารถ นำ ขึ้นมาได้ และมีแนวช่องน้ำ ปรากฎให้เห็น เชื่อว่า เป็นแม่น้ำ ที่ไหลผ่านกลาง “ราชนกนคร” ซึ่งบางแห่งก็ตื้นเขินกลายเป็นทุ่งนาไปแล้ว ๑๙
แบบทดสอบ หลังเรียน ๑. เนื้อเรื่องนี้กล่าวถึงประวัติความเป็นมา ของสถานที่ใด ก. วังทอง ข. บึงราชนก ค. บึงตะแคง ง. คลองหนองแหวน ๒. เรื่องตำ นานที่คิดถึง ณ บึงราชนกแต่ง ด้วยคำ ประพันธ์ชนิดใด ก. กาพย์ยานี ๑๑ ข. กลอนสี่ภาพ ค. โคลงสี่สุภาพ ง. กลอนสุภาพ ๓. หลังจากเกิดพายุชาวบ้านพบสัตว์ชนิดใด ก. ม้าวลาหก ข. ปลาช่อนยักษ์ ค. พญานาค ง. ปลาหมอยักษ์ ๔. ของสิ่งใดที่หนุมานมอบไว้ให้เป็นของหมั้น หมายพระราชธิดาเมืองราชนกนคร ก. แหวนเพชร ข.ทอง ค. ม้าวลาหก ง.ปลาหมอยักษ์ ๕. เหตุใดบ้านของยายแก่จึงไม่จมลงใต้น้ำ ก.เพราะยายแก่นทำ บุญไว้มาก ข.เพราะยายแก่ไม่ได้กินปลา ค.เพราะยายแก่หนีทันจึงไม่เกิดอันตราย ง.เพราะยายแก่มีเทวดาคอยปกป้อง ๖. ในตำ นานบึงราชนกหมู่บ้านใดที่ยังคงอยู่รอด จากภัยพิบัติครั้งนั้นจากการกินปลาหมอ ก. เนินยายแก่ ข. เนินยายบาง ค. เขาสมอแครง ง. บ้านบึงราชน ๗. คำ ว่า “วารี” มีความหมายตรงกับข้อใด ก. ท้องฟ้า ข. แผ่นดิน ค. น้ำ ง. เมือง ๘. บุคคลใดมาช่วยพระธิดาเมืองราชนกนครให้ ปลอดภัยจากเภทภัย ก. พระราม ข. พาลี ค. พระลักษณ์ ง. หนุมาน ๙. สาเหตุใดที่ทำ ให้คนเชื่อกันว่าตำ นาน บึงราชนกมีอยู่จริง ก. พบซากบ้านเรือนในบึงราชนก ข. พบกระดูกคนตายในบึงราชนก ค. พบเสากระโดงเรือในบึงราชนก ง. พบของใช้ต่าง ๆ ของคนโบราณ ๑๐. เขาสมอแคลงเมื่อก่อนมีชื่อเรียกว่าอย่างไร ก. เขาตะแคง ข. เขาตะเกียบ ค. เขาฟ้า ง. เขาวังทอง เอกสารแบบทดสอบ เฉลยแบบทดสอบ
กำ ชัย ทองหล่อ. ๒๕๔๕. หลักภาษาไทย. กรุงเทพฯ : รวมสาส์น พระสารประเสริฐ. ๒๕๑๐. สมญาภิธานรามเกียรติ์. กรุงเทพฯ : เจริญธรรม ราชบัณฑิตยสถาน. ๒๕๕๔. พจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๕๔. กรุงเทพฯ : นานมีบุ๊คส์พับลิเคชั่นส์ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา. (ออนไลน์). บึงราชนก. สืบค้นเมื่อ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๕๖. จาก. https://thailandtourismdirectory.go.th/th/ attraction/5295 อ้างอิง
ที่ปรึกษา ๑. นายเจนภพ ชัยวรรณ ผอ.สพป.พิษณุโลก เขต ๑ ประธานและกรรมการ ๒. นายนิเวช อินสุวอ รอง ผอ.สพป.พิษณุโลก เขต ๑ กรรมการ ๓. นายวิทยา เอี้ยงหมี รอง ผอ.สพป.พิษณุโลก เขต ๑ กรรมการ ๔. นายสนิท ประหา รอง ผอ.สพป.พิษณุโลก เขต ๑ กรรมการ ๕. นางปิยนาถ สุขม่วง ผอ.กลุ่มนิเทศ ติดตามฯ กรรมการ ๖. นางสาวรวีภัสร์ เนียมนก ศึกษานิเทศก์ กรรมการ ๗. นายกฤษฎา พรหมอินทร์ ศึกษานิเทศก์ กรรมการ ๘. นางปรียาภรณ์ กฤตพลวิวัฒน์ ศึกษานิเทศก์ กรรมการ ๙. นางสาวพิชาภรณ์ อิ่มกระจ่าง ศึกษานิเทศก์ กรรมการ ๑๐. นางวิลันดา วรรณาดิเรก ศึกษานิเทศก์ กรรมการ ๑๑.นางกชวิมล ไชยะโสดา ศึกษานิเทศก์ กรรมการและเลขานุการ คณะทำ งาน ๑. นายเชิดชาย ผิวเงิน ผอ.โรงเรียนบ้านหินลาด ๒. นายเฉลียง เม่งมั่งมี ผอ.โรงเรียนวัดบึงพระ (เหรียญ จั่น อนุสรณ์) ๓. นางบุญทิ น่วมบาง ผอ.โรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ ๔. นางณัฐธยาน์ ชมภูน้อย ผอ.โรงเรียนบ้านป่า (บิลอาสาประชาสรรค์) ๕. นางสาวภัทรียา ติระศรี รอง ผอ.โรงเรียนวัดบึงพระ (เหรียญ จั่น อนุสรณ์) ๖. นางหทัย แงวกุดเรือ ครูโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ ๗. นายสุรเชษฐ์ จันทร์ปาน ครูโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ ๘. นางสาวมณีวรรณ อินเกิด ครูโรงเรียนชุมชนที่ ๑๑ วัดสุวรรณประดิษฐ์ ๙. นางสาวสุกานดา วัฒนสมบัติคีรี ครูโรงเรียนวัดธรรมเกษตร(เกษตรานุเคราะห์) ๑๐. นางสาวกฤษณี ธานินทร์วิวัฒน์ ครูโรงเรียนบ้านปลักแรด ๑๑. นางสาวศศธร รอดเงิน ครูธุรการวัดบึงพระ (เหรียญ จั่น อนุสรณ์) คณะผู้จัดทำ