ข้อสอบ

ขอ้ สอบวิชางานไฟฟ้าและอเิ ล็กทรอนกิ ส์

ตอนที่ 1 จงเลือกคำตอบทีถ่ ูกที่สดุ ลงในกระดาษคำตอบ

1. การตอ่ อุปกรณ์ไฟฟ้าหลาย ๆ ตัวจากเต้ารับเดยี วกนั อาจทำให้เกิดเหตุการณใ์ ดลำดบั แรก
ก. โหลดเกิน
ข. ลดั วงจร
ค. ไฟดดู
ง. ไฟร่ัว

2. การปฏบิ ัติงานเก่ยี วกับไฟฟา้ และอิเล็ทรอนิกส์ขอ้ ใดถกต้อง
ก. ปฏบิ ัตงิ านเพยี งคนเดียวดีที่สุด
ข. ปฏิบตั งิ านขณะรา่ งกายอ่อนเพลียจะทำใหม้ คี วามต้านทานสูง
ค. เครอื่ งมอื ที่ชำรุดเพยี งเล็กนอ้ ยสามารถใช้งานตอ่ ไปได้
ง. กอ่ นตรวจซ่อมอปุ กรณไ์ ฟฟ้าควรปลดแหล่งจา่ ยไฟออกก่อนทกุ คร้ัง

3. ลกั ษณะใดตอ่ ไปน้มี ีอนั ตรายตอ่ ผปู้ ฏิบตั ิงานมากท่ีสุด
ก. โหลดเกิน
ข. ลัดวงจร
ค. ไฟดูด
ง. ไฟรวั่

4. ปริมาณกระแสท่ไี หลผา่ นร่างกายมนษุ ย์น้นั มากหรอื น้อยขึ้นอยกู่ บั สง่ิ ใด
ก. ขนาดของแรงดันไฟฟา้
ข. สภาพรา่ งกาย
ค. สว่ นของอวยั วะ
ง. ถกู ทกุ ข้อ

5. คนท่ีถกู ไฟฟ้าดดู ไมส่ ามารถทำให้ตัวเองหลดุ พน้ ไดเ้ พราะเหตใุ ด
ก. รา่ งกายอ่อนเพลีย
ข. เลอื ดแขง็ ตัว
ค. ตาลาย มึนงง
ง. ควบคมุ ตัวเองไม่ได้

6. การต่อแบตเตอรี่แบบขนานจะทำให้การทำงานของแบตเตอร่ีเปน็ แบบใด

ก. แรงดันเพิ่มขึ้น กระแสเท่าเดิม

ข. แรงดนั เทา่ เดิม กระแสเพิ่มข้ึน

ค. แรงดนั เพมิ่ ขนึ้ กระแสเพิม่ ข้ึน

ง. แรงดนั เพิม่ ขึ้น กระแสลดลง

7. อเิ ลก็ ตรอน (Electron) มคี ุณสมบตั ทิ างไฟฟา้ เปน็ อยา่ งไร

ก. บวก ข. ลบ

ค. กลาง ง. ถูกท้ังขอ้ ก , ข

8. แบตเตอรี่ลูกหนึ่งมีแรงดัน 24 V ด้านข้างเขียนข้อความว่ามีความจุ 120 Ah เมื่อใช้งานไป 12 ชั่วโมง

ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟา้ ได้ อยากทราบว่าแบตเตอรจ่ี า่ ยกระแสให้โหลดกี่แอมแปร์

ก. 8 A ข. 10 A

ค. 5 A ง. 12.2 A

9. เซลล์แสงอาทติ ยเ์ ปน็ อปุ กรณ์ส่งิ ประดษิ ฐ์ทางวศิ วกรรม โดยประยกุ ตใ์ ห้คุณสมบตั ิทางด้านใด

ก. ตัวนำ ข. ฉนวน

ค. สารกงึ่ ตัวนำ ง. ถกู ทง้ั ข้อ ก,ข

10. เซลล์แสงอาทติ ยใ์ นปจั จุบนั ทำมาจากธาตุใด

ก. ซลิ ิกอน ข. นิกเกิล

ค. แคดเมียม ง. โปรแตสเซียม

11. ไฟฟา้ ทไ่ี ดจ้ ากเซลล์แสงอาทติ ยเ์ กิดจากการเปล่ียนแปลงพลังงานจากพลงั งานใด

เป็นพลงั งานใด

ก. พลงั งานกลเป็นพลังงานไฟฟา้

ข. พลังงานจลเปน็ พลังงานไฟฟ้า

ค. พลังงานแสงเปน็ พลงั งานไฟฟ้า

ง. พลงั งานแมเ่ หล็กเป็นพลงั งานไฟฟา้

12. ตัวต้านทานมรี หัสแถบสีส้ม,แดง,นำ้ ตาล และทองมคี วามต้านทานกีโ่ อหม์

ก. 320 Ω ±5% ข. 20 kΩ ±10%

ค. 7.5 kΩ ±0.05% ง. 64 kΩ ±5%

13. ตวั ตา้ นทานมรี หัสแถบสเี ขียว,ดำ,ส้ม และเงนิ มีความต้านทานกี่โอหม์

ก. 380 kΩ ±2% ข. 4.9 kΩ ±5%

ค. 7.2 MΩ ±1% ง. 50 kΩ ±10%

14. ตวั ต้านทานมรี หสั แถบสเี หลอื ง,เทา,แดง,ส้ม และน้ำตาลมคี วามต้านทานกี่โอหม์

ก. 10.2 kΩ ±0.5% ข. 482 kΩ ±1%

ค. 920 Ω ±2% ง. 413 Ω ±0.1%

15. ขอ้ ใดคือความหมายของมเิ ตอร์

ก. วดั แรงดันไฟสลับ

ข. วดั แรงดันไฟตรง

ค. วดั คา่ ความตา้ นทาน

ง. ถกู ทกุ ข้อ

16. มิเตอรช์ นดิ เข้มอาศยั หลกั การหมุนตัวของอะไรให้เขม็ หมนุ เคล่ือนท่ี

ก. แม่เหลก็ ถาวร ข. ขดลวด

ค. สปริง ง. แกนเหล็ก

17. สเกลบนสุดของมลั ตมิ เิ ตอร์ คอื ย่านวดั คา่ ของอะไร

ก. ยา่ นวดั D.C. แอมป์มิเตอร์

ข. ยา่ นวดั A.C. โวลตม์ เิ ตอร์

ค. ยา่ นวัด D.C โวลต์มิเตอร์

ง. ย่านวดั โอหม์ มเิ ตอร์

18. ถา้ จะวดั แรงดันไฟฟ้า จะตง้ั ยา่ นวัดไปท่ีใด

ก. แอมปม์ ิเตอร์

ข. โอหม์ มเิ ตอร์

ค. โวลตม์ ิเตอร์

ง. โวลต์-แอมป์มิเตอร์

19. หนว่ ยวดั ของกระแสไฟฟา้ คอื อะไร

ก. แอมป์

ข. โวลต์

ค. โอหม์

ง. โวลต์-แอมป์

20. เครือ่ งวดั ประเภทที่แสดงผลการวัดเป็นรูปคล่ืน

ก. ดิจิตอลมิเตอร์

ข. โอหม์ มเิ ตอร์

ค. แอมปม์ เิ ตอร์

ง. ออสซลิ โลสโคป

21. AC 10 V เป็นหน่วยวัดของอะไร

ก. แรงดนั ไฟสลับ

ข. แรงดนั ไฟตรง

ค. ความตา้ นทาน

ง. ถูกท้ัง ก และ ข

22. การวัดกระแส จะต้องตอ่ สายวัดในลกั ษณะใด

ก. อนกุ รม

ข. ขนาน

ค. สลบั

ง. ถูกทั้ง ข และ ค

23. การวัดแรงดัน จะต้องตอ่ สายวดั ในลักษณะใด

ก. อนุกรม

ข. ขนาน

ค. สลบั

ง. ถูกทกุ ข้อ

24. วงจรไฟฟ้า คือ การนำเอาแหลง่ จา่ ยไฟฟา้ จ่ายแรงดนั และกระแสให้กบั โหลดโดยใช้อะไร

ก. ลวดตัวนำ ข. โหลด

ค. ภาระทางไฟฟา้ ง. ฟิวส์

25. ข้อใดไมใ่ ชอ่ งค์ประกอบของวงจรไฟฟ้า

ก. โหลด ข. สวิตซ์

ค. ลวดตัวนำ ง. แผงวงจร

26. ลวดตวั นำที่นำกระแสไดด้ ีท่สี ุด คอื

ก. ทองคำ ข. อลูมเิ นียม

ค. เหลก็ ง. เงนิ

27. สาเหตทุ ี่ นยิ มใชท้ องแดง เป็นตวั นำเพราะอะไร

ก. เพราะมคี า่ ความต้านทานน้อย ข. เพราะสามารถนำกระแสได้ดีที่สดุ

ค. เพราะเงนิ มรี าคาแพง ง. เพราะทองคำมีราคาแพง

28. อุปกรณ์ในข้อใดตอ่ ไปนี้สามารถใชแ้ ทนตัวนำไดด้ ที ่สี ุด

ก. สายยาง ข. ไม้

ค. นำ้ ง. เหล็ก

29. เม่อื เกดิ การผดิ ปกตฟิ วิ สจ์ ะทำหนา้ ทใ่ี นการเปดิ วงจรเรยี กวา่ อะไร

ก. ฟิวสเ์ สยี ข. ฟวิ ส์ขาด

ค. ฟิวส์หลุด ง. ฟวิ ส์ชำรดุ

30. ตวั ต้านทาน 10 กโิ ลโอห์มตอ่ อนกุ รมกัน 4 ตัว มีคา่ เทา่ กบั ข้อใด

ก. 4 โอห์ม ข. 14 โอห์ม

ค. 40 × 103 โอหม์ ง. 4,000 โอห์ม

31.วงจรอนุกรมประกอบด้วย R1 = 15 โอห์ม R2 = 30 โอห์ม R3 จะมีค่าเท่าไรถ้าต้องการค่าความต้านทาน

รวมเท่ากนั 145 โอหม์

ก. 103 โอหม์ ข. 12.041 โอห์ม

ค. 100 โอห์ม ง. 130 โอหม์

32. ถา้ ต้องการนำความตา้ นทาน 330 โอห์ม 2 ตัว มาตอ่ ขนานกนั จะมคี ่าความตา้ นทานเท่าไร

ก. 115 โอหม์ ข. 165 โอห์ม

ค. 495 โอห์ม ง. 660 โอห์ม

33. การวดั ความต้านทานโดยใช้มิเตอรแ์ บบเข็มกอ่ นทำการวดั ตอ้ งทำสิง่ ใดก่อน

ก. เปิดเคร่อื งมเิ ตอร์

ข. ต้งั ยา่ นไปที่ AC.V

ค. ปรับค่าศนู ย์

ง. ถูกทั้ง ข และ ค

34. การเชค็ วา่ มเิ ตอร์สามารถใชไ้ ด้หรือไมค่ วรทำอย่างไร

ก. ตั้งย่านโอหม์ แลว้ นำสายบวกและลบมาต่อกนั

ข. ต้งั ย่าน AC.V แลว้ นำสายบวกและลบมาตอ่ กนั

ค. ตั้งย่าน DC.V แลว้ นำสายไปเสียบกับปล๊ักไฟ

ง. ต่อแบตเตอรกี่ ับมิเตอร์ตามขว้ั บวกและลบ

35. วธิ ีการวัดค่าความตานทานรวม วัดได้อย่างไร

ก. นำสายวัดเส้นที่หนึ่งสัมผัสกับขาของความต้านทานตัวแรกและนำสายวัดเส้นที่สองสัมผัสกับขาของ

ความต้านทานตัวท่สี อง

ข. นำสายวัดเส้นที่หนึ่งสัมผัสกับขาของความต้านทานตัวแรกและนำสายวัดเส้นที่สองสัมผัสกับขาของ

ความต้านทานตัวสุดท้าย

ค. นำมิเตอรต์ ่ออนุกรมกบั ตัวต้านทาน

ง. นำมเิ ตอรต์ ่อครอ่ มกบั ตวั ต้านทาน

36. การแบง่ ชนิดของตัวเกบ็ ประจุ ใชห้ ลกั การในข้อใดในการแบง่

ก. ลกั ษณะทางโครงสรา้ ง

ข. ค่าของตัวเกบ็ ประจุ

ค. ตามสารทีน่ ำมาใชเ้ ปน็ ไดอิเลก็ ตรกิ

ง. ถูกทง้ั ก. และ ค.

37. คุณสมบตั ิของตัวเกบ็ ประจุชนดิ อเิ ลก็ โตรไลตกิ ข้อใดไมถ่ กู ตอ้ ง

ก. ผลติ ขึ้นมามีค่าความจสุ งู ๆ ได้

ข. มคี า่ กระแสร่ัวไหลไหลผ่านฉนวนได้สงู

ค. ตอ่ เข้ากบั แหล่งจา่ ยไฟตรงสามารถสลบั ข้ัวตัวเก็บประจุได้

ง. มกั จะมีขัว้ ไฟฟ้ากำกับไวท้ ีต่ ัวเก็บประจุตายตัว

38. ตัวเกบ็ ประจทุ ี่มีคา่ ไม่เกนิ 1 ไมโครฟารดั คือข้อใด

ก. ชนดิ ไมลาร์ ข. ชนดิ ไบโพล่าร์

ค. ชนิดเซรามิก ง. ชนดิ ซลิ เวอรไ์ มก้า

39. ขอ้ ใดไม่ใช่ค่าของตัวเก็บประจุ

ก. ไมโครฟารัด ข. พิโกฟารดั

ค. นาโนฟารัด ง. มิลลิฟารดั

40. μF หมายถงึ ข้อใด

ก. นาโนฟารัด ข. พโิ กฟารัด

ค. ไมโครฟารดั ง. มลิ ลิฟารดั

41. การอ่านคา่ ตัวเหน่ียวนำที่เปน็ แถบสจี ะอา่ นค่าเป็นหน่วยอะไร

ก. โอหม์ ข. ไมโครเฮนรี่

ค. แอมแปร์ ง. โวลต์

42. ในสมการหาคา่ ความเหน่ยี วนำ L คืออะไร

ก. จำนวนรอบของขดลวด

ข. พืน้ ทห่ี น้าตัดของแกน

ค. คา่ ความเหนีย่ วนำ

ง. วัสดุที่นำมาทำเป็นแกน

43. ตัวเหนยี่ วนำ 5mH , 2mH , 10mH , 1000µH ต่ออนกุ รมกนั มคี า่ ความเหน่ียวนำเท่าไร

ก. 18 mH ข. 17mH

ค. 16 mH ง. 15 mH

44. ตวั เหน่ยี วนำ 10mH , 5mH , 2mH ต่อขนานกันมีคา่ ความเหนี่ยวนำเท่าไร

ก. 1 mH ข. 1.05 mH

ค. 1.25 mH ง. 1.5 mH

45. การตรวจสอบตัวเหน่ยี วนำถา้ เข็มมิเตอรเ์ บย่ี งเบนเข้าใกล้ 0 หรอื เปน็ 0 แสดงวา่ ตัวเหนยี่ วนำเปน็ อยา่ งไร

ก. ชอ็ ต ข. ขาด

ค. ใช้งานได้ ง. รว่ั

46.ข้อใดคือความหมายของหม้อแปลงไฟฟ้า

ก. อปุ กรณส์ ำหรับแปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสสลบั

ข. อปุ กรณ์สำหรบั แปลงแรงดันไฟฟ้ากระแสตรง

ค. อุปกรณ์สำหรบั แปลงความถไ่ี ฟฟ้ากระแสสลับ

ง. อุปกรณส์ ำหรบั แปลงความถก่ี ระแสตรง

47. หมอ้ แปลงอัตราส่วน 2:1 แรงดันขาเขา้ 220 V กระแส 200 mA จงหาแรงดนั ขาออก

ก. 55 V ข. 110 V

ค. 220 V ง. 360 V

48. ข้อใดไม่ใชแ่ กนของหม้อแปลง

ก. แกนอากาศ ข. แกนอะลูมิเนยี ม

ค. แกนเหล็ก ง. แกนเฟอร์ไรท์

49. ถา้ แกนเหลก็ ของหม้อแปลงเป็นเหลก็ ตันจะมีผลอยา่ งไร
ก. การสั่นขณะทำงานมากขน้ึ
ข. ลดความรอ้ นน้อยลง
ค. สนามแม่เหล็กมากข้นึ
ง. กระแสไหลวนมากขน้ึ

50. ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง
ก. หม้อแปลงแบบแยกขด ขดลวดท้งั สองไมต่ ่อถงึ กันทางกล
ข. การปอ้ งกันแรงดนั ไฟฟา้ กระแสตรงเขา้ ที่ข้วั ของหมอ้ แปลงอาจทำให้เกดิ ความเสียหายได้
ค. หม้อแปลงแตล่ ะชนดิ มคี ุณสมบตั คิ ล้ายกันใช้งานแทนกนั ได้
ง. หมอ้ แปลงเป็นเคร่อื งกลไฟฟ้าที่มีการสูญเสยี นอ้ ยที่สุด

ตอนที่ 2 จงเขยี นวงจรระบบแสงสวา่ งของหลอดฟลูออเรสเซนต์โดยใชส้ วิตช์ 3 ทางในการตดิ ต้งั