ภาคกลาง วัฒนธรรมของ
สมาชิกในกลุ่ม 1. ด.ช. ชัชพงศ์ พราหมหนู เลขที่2 ม.1/11 2. ด.ช. ธนกฤติิ ดวงแป้น เลขที่5 ม.1/11 3. ด.ช. ปฎิภาณ ชูวงศ์ เลขที่9 ม.1/11 4. ด.ช. ปวริศ ริ รัตนฉวี เลขที่11 ม.1/11 5. ด.ญ. นภัสสรณ์ กองจำ ปา เลขที่21 ม.1/11
สารบัญ หน้า ลักษณะภูมิประเทศ -------------------- 3 การแต่งกาย --------------------------- 5 ประเพณีและวัฒ วั นธรรม ---------------- 6 อาหาร -------------------------------- 10 การพูด/ ภาษาพูด -------------------- 13 บ้านเรือ รื น ----------------------------- 14
ลักษณะภูมิประเทศภาคกลาง ภาคกลางมีภูเขาอยู่ทางตอนเหนือและบริเ ริ วณขอบของภาค ส่วนใหญ่เป็นภูเขาที่ต่อเนื่องมาจาก ภาคเหนือและภาคตะวัน วั ตก ได้แก่ เทือกเขาถนนธงชัย ผีปันน้ำ และเพชรบูรณ์ 1.เทือกเขาเพชรบูรณ์ ประกอบด้วยแนวเทือกเขา 2 แนว คือ เทือกเขาเพชรบูรณ์ 1 และ เทือกเขาเพชรบูรณ์ 2 เทือกเขาเพชรบูรณ์ 1 อยู่ทางด้านตะวัน วั ออกของแม่น้ำ ป่าสัก กั้นเขตแดนระหว่า ว่ งภาคกลางกับภาค ตะวัน วั ออกเฉียงเหนือ รวมความยาวประมาณ 236 กิโลเมตร มียอดเขาสำ คัญ คือ ภูเขาพังเหย สูงประมาณ 900 เมตร ในพื้นที่จังหวัด วั เพชรบูรณ์ แม่น้ำ ที่ถือกำ เนิดจากเทือกเขาเพชรบูร 1 คือ แม่น้ำ เชิญ แม่น้ำ พรม แม่น้ำ ชี ในภาคตะวัน วั ออกเฉียงเหนือ เทือกเขาเพชรบูรณ์ 2 อยู่ทางด้านตะวัน วั ตกของแม่น้ำ ป่าสัก เริ่ม ริ่ ตั้งแต่บริเ ริ วณตอนบนของภาคในเขต จังหวัด วั เพชรบูรณ์ ทอดตัวลงมาทางตอนล่างของภาค จนถึงอำ เภอโคกสำ โรง จังหวัด วั ลพบุรี รวม ความยาวประมาณ 350 กิโลเมตร ยอดเขาที่มีความสูง คือ ภูเขาโลมโล สูงประมาณ 1,650 เมตร ใน เขตจังหวัด วั เพชรบูรณ์ 2.เทือกเขาดงพญาเย็น เป็นแนวเทือกเขาที่เป็นขอบทางด้านตะวัน วั ออกของภาคกลาง ในพื้นที่จังหวัด วั ลพบุรี สระบุรีแ รี ละนครนายก ต่อเนื่องมาจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ 1 กั้นเขตแดนระหว่า ว่ งภาคกลางกับ ภาคตะวัน วั ออกเฉียงเหนือ เริ่ม ริ่ ตั้งแต่อำ เภอชัยบาดาล จังหวัด วั ลพบุรีท รี อดตัวลงมาจนถึงเขาเขียว จังหวัด วั นครนายก รวมความยาว 129กิโลเมตร ยอดเขาที่มีความสูงที่สุด คือ เขาเขียว ในพื้นที่อำ เภอปากพลี จังหวัด วั นครนายก มีความสูง 1,292 เมตร เทือกเขาดงพญาเย็น แบ่งน้ำ ไปลงห้วยมวกเหล็ก จังหวัด วั สระบุรี ซึ่ง เป็นแควของแม่น้ำ ป่าสัก และยังให้กำ เนิดแม่น้ำ ในภาคตะวัน วั ออก เฉียงเหนืออีกหลายสาย เช่น แม่น้ำ ลำ คันฉู ลำ เชิงไกร ฯลฯ
ลักษณะภูมิประเทศภาคกลาง 1. แม่น้ำ เจ้าพระยา เกิดจากการบรรจบกันของแม่น้ำ ปิง แม่น้ำ วัง วั แม่น้ำ ยม และแม่น้ำ น่าน ที่ปากน้ำ โพ จังหวัด วั นครสวรรค์ ไหลผ่านอุทัยธานี ชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง อยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และไหลลงสู่อ่าวไทยที่จังหวัด วั สมุทรปราการ มีความยาวประมาณ 370 กิโลเมตร เปรีย รี บเสมือน “เส้นโลหิตใหญ่ของไทย” 2. แม่น้ำ ท่าจีน เกิดจากการแยกตัวของแม่น้ำ เจ้าพระยาที่ตำ บลท่าซุง จังหวัด วั อุทัยธานี ไหลผ่าน จังหวัด วั อุทัยธานี ชัยนาท เรีย รี กว่า ว่ แม่น้ำ มะขามเฒ่า ผ่านจังหวัด วั สุพรรณบุรี เรีย รี กว่า ว่ แม่น้ำ สุพรรณบุรี ผ่านนครปฐม เรีย รี กว่า ว่ แม่น้ำ ท่าจีน ไหลลงสู่อ่าวไทยระหว่า ว่ งตำ บลหญ้าแพรก กับตำ บลโกรกกราก อำ เภอเมือง จังหวัด วั สมุทรสาคร มีความยาวประมาณ 315 กิโลเมตร 3. แม่น้ำ บางปะกง เกิดจากเทือกเขาสันกำ แพง ไหลผ่านจังหวัด วั ปราจีนบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ไหลลง สู่อ่าวไทยที่อำ เภอบางปะกง จังหวัด วั ฉะเชิงเทรา มีความยาวประมาณ 230 กิโลเมตร 4. แม่น้ำ ป่าสัก เกิดจากเทือกเขาเพชรบูรณ์ ไหลผ่านจังหวัด วั เพชรบูรณ์ ลพบุรี สระบุรี พระนครศรีอ รี ยุธยา ไหลมาบรรจบแม่น้ำ เจ้าพระยาที่ป้อมเพชร อำ เภอพระนครศรีอ รี ยุธยา มีความยาว ประมาณ 570 กิโลเมตร ลักษณะภูมิอากาศของภาคกลาง ภาคกลางมีลักษณะภูมิอากาศเป็นแบบทุ่งหญ้าเมืองร้อน (Aw) คือมีฝนตกปานกลาง และสลับกับ ฤดูแล้ง บริเ ริ วณภาคกลางตอนล่างจะมีอากาศชุ่มชื้นมากว่า ว่ เนื่องจากอยู่ใกล้ทะเลมากกว่า ว่ ภาคกลาง ตอนบน ปัจจัยที่ควบคุมอุณหภูมิของภาคกลาง 1. ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวัน วั ตกเฉียงใต้ที่นำ ความชุ่มชื้นมาสู่ภาคกลาง 2. มีการวางตัวของแนวภูเขาตะนาวศรี และภูเขาถนนธงชัยในลักษณะเหนือ-ใต้ ทำ ให้ส่วนที่เป็นหลัง เขามีฝนตกน้อย 3. ความใกล้ไกลทะเลทำ ให้อุณหภูมิของอากาศแตกต่างกันมากระหว่า ว่ งฤดูร้อนกับฤดูหนาว -ภาคกลางมีอุณหภูมิเฉลี่ยประมาณ 27-28 องศาเซลเซียส ซึ่งอากาศค่อนข้างร้อน -ปริม ริ าณน้ำ ฝนของภาคเฉลี่ยประมาณ 1,375 มิลลิเมตร พื้นที่ส่วนใหญ่จะอยู่ในเขตอับฝน -ฝนตกมากสุดในเดือนกันยายน จังหวัด วั ที่มีปริม ริ าณฝนมากที่สุดคือ กรุงเทพฯ และจังหวัด วั ที่มีปริม ริ าณ ฝนน้อยที่สุดคือ นครสวรรค์
การแต่งกาย การแต่งกายในชีวิต วิประจำ วัน วั ทั่วไป ชายนุ่งกางเกงครึ่ง รึ่ น่อง สวมเสื้อแขนสั้น สั้ คาดผ้าขาวม้า ส่วนหญิง จะนุ่งซิ่นยาว สวม เสื้อแขนสั้น สั้ หรือ รื ยาว การแต่งกายผ้าขาวม้า ภาคกลาง จะมี ลวดลายเป็นตารางสก๊อต เรีย รี กว่า ว่ “ผ้าขาวม้า”
ประเพณีและวัฒนธรรม ภาคกลาง ดินแดนแห่งความหลากหลายทางประเพณีและวัฒ วั นธรรมที่มีความน่า สนใจไม่น้อยไปกว่า ว่ ภาคอื่นของไทย เพราะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์มนต์ขลัง ชวน ให้น่าขึ้นไปสัมผัสความงดงามเหล่านี้ยิ่งนักภาคกลางมีทั้งสิ้น 22 จังหวัด วั ได้แก่ กรุงเทพมหานคร กำ แพงเพชร ชัยนาท นครนายก นครปฐม นครสวรรค์ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอ รี ยุธยา พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สระบุรี สิงห์บุรี สุโขทัย สุพรรณบุรี อ่างทอง และ อุทัยธานี ประเพณีรับบัว ประเพณีรับบัว เป็นประเพณีเก่าแก่ที่เกิดและจัดขึ้นในอำ เภอบางพลี จังหวัด วั สมุทรปราการ มาช้านานแต่เพิ่งปรากฏหลักฐานในราว พ.ศ. ๒๔๖๗ ว่า ว่ เดิมจัดในวัน วั ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๑๑ ของทุกปี และจากคำ บอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ชาวอำ เภอบางพลีดังเป็นที่ทราบกันโดย ทั่วไปแล้วนั่นเอง และชาวอำ เภอบางพลี จังหวัด วั สมุทรปราการมีสิ่ง หนึ่งที่ช่วยยืนยันถึงความเป็นผู้มีน้ำ ใจไมตรีข รี อง คนไทยเช่นกัน สิ่ง นั้นคือมรดกทางวัฒ วั นธรรมที่บรรพบุรุษของชาวบางพลีได้มอบไว้ใว้ ห้ ลูกหลานของ ตน นั่นคือ “ประเพณีรับบัว”
ประเพณีและวัฒนธรรม ประเพณีอุ้มพระดำ น้ำ เป็นประเพณีที่ ได้ร่วมมือกันจัดขึ้นในวัน วั แรมสิบห้าค่ำ เดือนสิบ ซึ่งประวัติ วั ติความเป็น มาของประเพณีอุ้มพระดำ น้ำ ก็คือ เมื่อประมาณ 400 ปีที่ผ่านมามีชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง มีอาชีพหาปลาขาย และได้ไปหาปลาที่แม่น้ำ ป่าสักเป็นประจำ ทุกวัน วั อยู่มาวัน วั หนึ่ง ก็ได้เกิดเรื่อ รื่ งที่ไม่มีใครให้คำ ตอบได้ว่าว่เกิดอะไรขึ้นเพราะวัน วั นั้น ไม่มีใครจับปลาได้สัก ตัว จากนั้นก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นตรงบริเริวณ วัง วั มะขามแฟบ (ไม้ระกำ ) ซึ่ง ปกติบริเริวณนี้น้ำ จะไหลเชี่ยวมาก จู่ ๆ น้ำ ก็หยุดไหล และมีพลายน้ำ ผุดขึ้นมา แล้ว พระพุทธรูปก็ผลุดขึ้นมาด้วย ชาวบ้านจึงได้อัญเชิญพระพุทธรูปองค์ดังกล่าว ขึ้น จากน้ำ และนำ ไปประดิษฐานไว้ที่ ว้ ที่ วัด วั ไตรภูมิ เป็นพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืองของจังหวัด วั เพชรบูรณ์ จนกระทั่งถึงวัน วั สารทไทยหรือ รื วัน วั แรม 15 ค่ำ เดือนสิบ พระพุทธรูปองค์ ดังกล่าว (พระพุทธมหาธรรมราชา) ก็ได้หายไปจากวัด วั ชาวบ้านจึงช่วยกันตามหา และเจอพระพุทธรูป อยู่บริเริวณวัง วั มะขามแฟบ จากนั้นเป็นต้นมา พอถึงวัน วั แรม 15 ค่ำ เดือน 10 ชาวจังหวัด วั เพชรบูรณ์ ก็จะจัดงานซึ่งเรีย รี กว่าว่ “อุ้มพระดำ น้ำ ” ประเพณีวิ่งควาย เป็นหนึ่งในประเพณีอันเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัด วั ชลบุรีที่ รีที่ มีการจัด มากว่า ว่ 100 ปีแล้ว ประเพณีวิ่งวิ่ควาย เป็นประเพณีที่จัดขึ้นเป็น ประจำ ทุกปี ในวัน วั ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 หรือ รื ก่อนออกพรรษา 1 วัน วั เพื่อเป็นการทำ ขวัญ วั ควายและให้ควายได้พักผ่อนหลังจากตรากตรำ กับการงานในท้องนามายาวนาน นอกจากนี้ประเพณีวิ่งวิ่ควายยัง เป็นการแสดงความกตัญญูรู้คุณต่อควายที่เป็นสัตว์มี ว์ มี บุญคุณต่อ ชาวนาและคนไทยอีกทั้งยังเพื่อให้ชาวบ้านได้มีโอกาสพักผ่อนมา พบปะสังสรรค์กันในงานวิ่งวิ่ควาย
ประเพณีและวัฒนธรรม ประเพณีกวนข้าวทิพย์ เป็นพระราชพิธีที่กระทำ กันในเดือน ๑๐ ซึ่งมีมาตั้งแต่สมัย สุโขทัยและกรุงศรีอ รี ยุธยา เป็นราชธานี และได้รับการฟื้นฟู ครั้งใหญ่ ในสมัยรัชกาลที่ ๑ และมาละเว้น ว้ เลิกรา ไปในสมัย รัชกาล ที่ ๒ และรัชกาลที่ ๓ แล้วมาได้รับการฟื้นฟู อีกครั้ง หนึ่งในสมัยรัชกาลที่ ๔ เป็นต้นมา แต่ในปัจจุบันนี้ส่วนใหญ่จะ จัดกันในเดือน ๑๒ บางแห่งก็เดือนหนึ่ง ซึ่งคงจะถือเอาระยะ ที่ข้าวกล้า ในท้องนามีรวงขาวเป็นน้ำ นม ของแต่ละปี และชาว บ้านก็มีความพร้อมเพรีย รี ง ประเพณีบายศรีสู่ขวัญข้าว ช่วงเวลาประเพณีไทยสู่ขวัญ วั ข้าว (ทั่วไป) บุญสู่ขวัญ วั ข้าว(หมู่บ้าน เนินใหม่ ตำ บลโคกกรวด) เรีย รี กขวัญ วั ข้าว (หมู่บ้านท่าด่าน) กระทำ ในวัน วั ขึ้น ๓ ค่ำ เดือน ๓ เพื่อเรีย รี กขวัญ วั พระแม่โพสพที่ ตกหล่นตามท้องนาขึ้นสู่ยุ้งฉาง บูชาพระแม่โพสพ ป้องกันศัตรูพืช และสัตว์ทำ ว์ ทำลาย เพื่อให้ได้ผลผลิตมากในปีต่อไป เพื่อเป็นการบำ รุง ขวัญ วั และความเชื่อของชาวนา รวมถึงการแสดงความกตัญญูต่อ พระแม่โพสพ เพื่อบันดาลให้ข้าวในปีหน้าได้ผลผลิตดียิ่งขึ้น ประเพณีวิ่งวิ่ควาย
ประเพณีและวัฒนธรรม ประเพณีการทำ บุญโคนต้นไม้ ระยะเวลา ช่วงเดือนเมษายน และหลังจากวัน วั เพ็ญเดือนสิบสองการทำ บุญ โคนไม้ เป็นประเพณีไทยพื้นบ้านอย่างหนึ่งของจังหวัด วั ตราดที่ทำ เป็น ประจำ ทุกปี สะท้อนให้เห็นถึงความสามัคคี ช่วยเหลือเกื้อกูลซึ่งกันและกัน ของคนในหมู่บ้านในชุมชน การทำ บุญโคนไม้และการทำ บุญตามสถานที่ สำ คัญในหมู่บ้าน นอกจากจะให้ผลในการดำ เนินชีวิต วิโดยตรงแก่ผู้ใหญ่แล้ว ยังเป็นการปลูกฝังให้ลูกหลานของตนรู้จักรักป่า แผ่นดิน และพื้นน้ำ ไม่คิด ทำ ลายธรรมชาติ ที่ตนต้องพึ่งพาอาศัย ในขณะเดียวกันยังสอดแทรก คุณธรรมเรื่อ รื่ งความกตัญญูรู้คุณสืบทอดให้แก่ลูกหลานในหมู่บ้าน ให้รู้จัก การทำ บุญให้ทาน มีความเมตตาเอื้อเฟื้อ รู้จักรักผู้อื่น อันเป็นคุณธรรม หลักของการอยู่ร่วมกัน ประเพณีตักบาตรเทโว ขึ้นแรม ๑ ค่ำ เดือน ๑๑ ถึงกำ หนดเวีย วี นมาบรรจบ ณ วัด วั สังกัตรัตนคีรี ประเพณีตักบาตร เทโว พระสงฆ์หลายร้อยรูปเดินลงจากยอดเขา ผ่านบันได ๔๔๙ ขั้นสู่เบื้องล่าง ที่ยังเนือง แน่นไปด้วยพุทธศาสนิกชนเรือ รื นหมื่น ที่ยังคงยึดมั่นในวิถีวิถีปฏิบัติดั้งเดิม อันสะท้อนภาพแรง ศรัทธาที่สุกสว่าว่ง ภายในจิตใจขอทุกคน” อุทัยธานี ชุมชนลุ่มแม่น้ำ สะแกกรัง เมืองเล็กๆ ที่อบอุ่น และมากด้วยไมตรีจิ รีจิต ที่พร้อมมอบ ให้แก่คนต่างถิ่น และรอให้เข้ามาสัมผัส วัฒ วั นธรรม ประเพณีไทยที่ยังคงเอกลักษณ์ และ ห่างไกลสิ่งเจือปนจากภายนอก บางคนมักจะละเลยผ่านไป แต่ลองหยุดแวะพัก ค่อยๆ ปล่อยชีวิตวิให้เดินช้าลง คุณจะหลงรักเมืองแห่งนี้ได้ไม่ยาก ณ บริเริวณศูนย์กลางของเมือง ยอดเขาสะแกกรังยังคงเป็นสถานที่ศักสิทธิ์ ที่มีความเชื่อมา แต่โบราณกาลว่าว่เป็นที่ตั้งของซากโบราณสถาน ซึ่งเมื่อปี พ.ศ.๒๔๔๐ พระปลัดใจ เจ้า อาวาสวัด วั ทุ่งแก้ว และชาวอุทัยธานีได้ลงแรงช่วยกันสร้างมณฑปสิริมริหามายากุฎาคาร พร้อมก่อสร้างวัด วั สังกัตรัตนคีรีม รี งคลประไพอุทัยเขตร์ขึ้น จนกลายเป็นศูนย์รวมศรัทธาของ พุทธศาสนิกชน ชาวอุทัยธานีและชาวไทยเรื่อ รื่ ยมา
อาหาร น้ำ พริก ริ กะปิ เมนูเครื่อ รื่ งจิ้มที่รสชาติจัดจ้าน ด้วยตัวกลิ่นของกะปิที่มี ความหอม เมื่อนำ มาทำ เป็นเครื่อ รื่ งจิ้ม ทานคู่กับปลาทูทอด ผักสด หรือ รื ผักลวก ไข่ชะอมทอด มะเขื่อยาวชุบแป้งทอด ยิ่งอร่อยมากขึ้น ส่วนใหญ่ร้านค้าจะปรุงให้ไม่จัดเกินไปเพื่อให้ทั้งคนไทยและต่างชาติ สามารถทานได้ แกงเขียวหวาน หนึ่งในเมนูแกงที่ขึ้นชื่อติดอันดับต้น ๆ ของ ประเทศไทย ด้วยความเผ็ดร้อนของตัวเครื่อ รื่ งพริก ริ แกงเขียวหวาน เมื่อ มาผนวกรวมเข้ากับความหอมของหัวกะทิ และสมุนไพรไทยที่ใส่ลงไป อย่างกระชาย มะเขือพวง ใบโหระพา ทำ ให้เพิ่มความอร่อยของ รสชาติให้ตัวแกงเขียวหวานยิ่งขึ้น ต้มยำ หนึ่งในเมนูยอดนิยมตลอดกาลที่อยู่คู่กับคนไทยมาเนิ่นนาน มี ให้เลือกทั้งน้ำ ข้น(จะใส่กะทิลงไป) และน้ำ ใส(ไม่ใส่กะทิลงไป) เรีย รี ก ได้ว่าแทบจะไม่มีใครไม่รู้จักเมนูนี้ ด้วยความหอมของตัวเครื่อ รื่ ง สมุนไพรที่นำ มาปรุงอย่างข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด รวมกับรสชาติที่จัด จ้าน กลมกล่อมลงตัว ทานคู่กับเนื้อสัตว์ไว์ ด้หลากหลายตั้งแต่ เนื้อ หมู เนื้อไก่ ไปจนสารพัดเนื้อสัตว์จ ว์ ากทะเล
อาหาร ขนมจ่ามงกุฎ ในโบราณเป็นขนมที่ทำ ขึ้นเพื่อประกอบเครื่อ รื่ งคาวหวานใน งานมงคล ไม่ว่า ว่ จะเป็นงานบุญหรือ รื งานประเพณีต่างๆ ของไทย การ เลือกชนิดขนมมาใช้ใน งานมงคลโดยมากจะเลือกจากชื่อขนมที่มีคำ ความ หมายดีๆ ขนมจ่ามงกุฎ มีส่วนผสม ประกอบด้วย 3 ส่วน ส่วนตัวขนม ส่วนแป้งรองขนม และส่วนการแต่งขนม (ลูกกวาดแตงกวา) สาลี่ เป็นขนมที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักของบุคคลทั่วไป ซึ่งมีรสชาติ หอม หวาน อร่อย และอ่อนนุ่ม และมีคุณค่าต่อร่างกายมากมายอีกด้วย เพราะมีส่วนประกอบการผลิต ขนมสาลี่นมสดกระชายดำ หรือ รื สาลี่รสอื่น ไม่มีการใส่สี และสารกันบูดแต่อย่างใด จนปัจจุบันขนมสาลี่เป็นที่นิยม มาก จนเป็นของฝากของจังหวัด วั สุพรรณบุรี กระหรี่พั รี่พัฟ เป็นขนมของว่า ว่ งส่วนผสมของแป้งมีส่วนคือ แป้งนอก ใช้แป้งสาลี น้ำ น้ำ มัน พืช น้ำ ตาลทรายนำ มาผสมกัน ส่วนแป้งใน มีแป้งสาลีกับน้ำ มันพืช ส่วนไส้ที่นิยม ทำ มี 2 ชนิดคือไส้ไก่กับไส้ถั่ว กระหรี่พั รี่พัฟเป็นขนมที่มีคุณค่าทางอาหารครบ 5 หมู่
ภาษาพูด ภาษากลางเป็นภาษาที่คนไทยใช้เป็นภาษาทางการ - กิน -นอน -วิ่ง วิ่ -พิมพ์ -เขียน -เรีย รี น -พักผ่อน -อ่าน -ดื่ม -เล่น -โคมไฟ -มือถือ -กรอบรูป -ภาพยนตร์ -รถยนต์ -หนังสือ -เที่ยว -สมุด -ดินสอ -แหวน
ลักษณะบ้านเรือน เรือ รื นไทยภาคกลาง เป็นเรือ รื นไทยประเภทที่นิยมที่สุด มีลักษณะเป็นเรือ รื นยกพื้น ใต้ถุนสูง สูงจากพื้นดิน เสมอศีรษะคนยืน รูปทรงล้มสอบ หลังคา ทรงสูง ชายคายื่นยาว เพื่อกันฝนสาด แดดส่อง นิยมวาง เรือ รื นไปตามสภาพแวดล้อมทิศทางลมตามความ เหมาะสม