3 การเรยี งลาดบั ทศนยิ ม
พิจารณาการเรยี งลาดบั ความสงู ตอ่ ไปนี้
เบญสงู 1.41 เมตร
หยกสงู 1.34 เมตร
ชายสูง 1.4 เมตร
เบญสูง 1.41 ม. จานวนหน้าจดุ ทศนยิ ม เลขโดดในหลกั สว่ นสิบ เลขโดดในหลกั ส่วนรอ้ ย
หยกสงู 1.34 ม. 1 4 1
ชายสูง 1.4 ม. 1 3 4
1 4 0
เนอ่ื งจาก 1.41 > 1.34 แสดงว่า เบญสูงกว่าหยก
1.41 > 1.4 แสดงวา่ เบญสงู กว่าชาย
จะได้ เบญสูงกวา่ หยกและชาย แสดงวา่ เบญสูงทีส่ ดุ
เน่ืองจาก 1.34 < 1.4 แสดงวา่ หยกเตีย้ กว่าชาย จะได้ หยกเตย้ี ทสี่ ุด
เมื่อเรยี งลาดบั ความสูงจากมากไปนอ้ ย จะได้ 1.41 1.4 1.34
ดงั นน้ั เรียงลาดบั ช่ือตามความสูงจากมากไปนอ้ ยได้ ดงั น้ี เบญ ชาย หยก
แบบฝกึ หัดหนา้ 77 ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
1 เรียงลาดับทศนยิ มจากน้อยไปมาก
1) 0.46 0.64 0.5 0.46 0.5 0.64
8.596 8.9 8.96
2) 8.596 8.96 8.9
2 เรียงลาดบั ทศนยิ มจากมากไปนอ้ ย
1) 100.902 100.029 100.9 100.902 100.9 100.029
2) 0.46 0.64 0.66 0.66 0.64 0.46
3) 210.7 210.701 210.017 210.71
210.71 210.701 210.7 210.017
3 เติมทศนยิ มใน เพ่อื เรยี งลาดบั ทศนยิ มจากน้อยไปมาก
1) 14.567 14.607 14.802
2) 0.56 0.85 0.95
3) 3.2 3.3
มีหลายคาตอบ
ตรวจสอบความเข้าใจ เติมคาตอบโดยใช้ขอ้ มลู จากตาราง
ยอดเขาที่สงู ท่สี ุดของแต่ละประเทศ 1) ยอดเขาทสี่ งู ท่ีสดุ คอื ขา่ กาโบราซี
ความสงู อยูใ่ นประเทศ พมา่
(กโิ ลเมตร)
ประเทศ ยอดเขา 2) ยอดเขาทเี่ ตย้ี ทสี่ ดุ คือ ดอยอนิ ทนนท์
ไทย ดอยอินทนนท์ 2.6 อยใู่ นประเทศ ไทย
3) ยอดเขาที่สูงกว่ายอดเขาฟานสิปนั ไดแ้ ก่ คินาบาลู
อินโดนเี ซีย ปุนจกั จายา 5.03 ปนุ จกั จายา และขา่ กาโบราซี
ลาว ภูเบีย้ 2.82 4) ยอดเขาที่สูงกวา่ ยอดเขาคินาบาลู แตเ่ ตยี้ กว่ายอดเขา
พมา่ ข่ากาโบราซี 5.881 ข่ากาโบราซี คือ ปนุ จกั จายา
มาเลเซีย คนิ าบาลู 4.095 5) ยอดเขาท่สี ูงเปน็ อนั ดบั 1 คอื ขา่ กาโบราซี
เวยี ดนาม ฟานสิปัน 3.143 อนั ดบั 2 คือ ปุนจักจายา
อนั ดับ 3 คือ คินาบาลู
ส่งิ ทไี่ ดเ้ รยี นรู้
การเรียงลาดบั 1.1 1.01 1.001 1.101 จากนอ้ ยไปมาก มีวิธพี จิ ารณาอยา่ งไร
เขียนทศนิยมในแนวตั้งโดยให้จานวนที่อยู่ในหลักเดียวกันอยู่ตรงกัน แล้วเปรียบเทียบโดย
ใช้วิธีการเดียวกันกับการเปรียบเทียบจานวนนับ โดยเปรียบเทียบจานวนท่ีอยู่หน้าจุด
ทศนิยมก่อน ถ้าพบว่าเท่ากัน จึงเปรียบเทียบจานวนในหลักส่วนสิบ หลักส่วนร้อย และ
หลักส่วนพัน ตามลาดับ จากนั้นเรียงลาดับทศนิยมจากน้อยไปมาก ซ่ึงจะได้ดังนี้ 1.001
1.01 1.1 1.101
7.3 การบวกและการลบทศนยิ ม
ไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่
1 การบวกทศนยิ มท่ไี มม่ กี ารทด 4 การลบทศนิยมทม่ี ีการกระจาย
2 การบวกทศนยิ มท่มี กี ารทด 5 การบวก การลบทศนยิ ม
3 การลบทศนิยมท่ไี ม่มกี ารกระจาย 2 ข้นั ตอน
1 การบวกทศนยิ มทไ่ี มม่ ีการทด 1.1 = 1 + 0.1
พจิ ารณาการหาผลบวกของ 1.1 + 2.7
2.7 = 2 + 0.7
จากรปู จะได้ 1.1 + 2.7 = 3.8
สงั เกตได้วา่ 0.8 หรือ 8 สว่ นสบิ ได้จาก
1 ส่วนสิบ รวมกับ 7 ส่วนสบิ
และ 3 ได้จาก 1 รวมกับ 2
3 0.8
พจิ ารณาการหาผลบวกของ 0.24 + 0.35 0.24 = 0.2 + 0.04
จากรปู จะได้ 0.24 + 0.35 = 0.59 0.35 = 0.3 + 0.05
สังเกตได้ว่า 0.09 หรือ 9 ส่วนรอ้ ย ไดจ้ าก 4
ส่วนร้อย รวมกบั 5 ส่วนร้อย
และ 0.5 หรือ 5 สว่ นสิบ ไดจ้ าก 2 ส่วนสิบ
รวมกับ 3 ส่วนสิบ
การบวกทศนิยมทีไ่ ม่มกี ารทด ใช้หลักการเดยี วกนั กบั การบวก
จานวนนับ โดยนาจานวนที่อยู่ในหลกั เดยี วกนั มาบวกกัน และควร
บอกจานวนในหลกั ขวาสุดกอ่ น
0.5 0.09
หาผลบวก
1 84.32 + 13.51 2 74.61 + 2.259
วิธที า วิธที า
8 4 3 2 + 7 4 6 1 0 +
1 3 5 1 2 2 5 9
76869
9783
ตอบ ๙๗.๘๓ ตอบ ๗๖.๘๖๙
แบบฝึกหัดหนา้ 81 ปฏิบตั ิกิจกรรม
1 หาผลบวก 2) 10 + 8.546
1) 0.307 + 0.29
วธิ ีทา วธิ ที า
0 3 0 7 + 1 0 0 0 0 +
0 2 9 0 8 5 4 6
18546
0597
ตอบ ๐.๕๙๗ ตอบ ๑๘.๕๔๖
2 เติมคาตอบ 0.8 2) 5.091 + 0.8 = 5.891
3.67 4) 0.228 + 0.571 = 0.799
1) 0.6 + 0.2 = 49.96 6) 6.145 + 31.44 =
3) 2.17 + 1.5 = 37.585
5) 18.34 + 31.62 =
2 การบวกทศนยิ มทม่ี กี ารทด
พจิ ารณาการหาผลบวกของ 0.36 + 0.48
จากรูปจะได้ 0.36 + 0.48 = 0.84
สังเกตได้ว่า 0.04 หรอื 4 ส่วนรอ้ ย ได้จาก 6 ส่วนร้อย รวม
กบั 8 ส่วนร้อย ได้ 14 สว่ นรอ้ ย หรือ 1 ส่วนสิบ กบั 4 ส่วนรอ้ ย
ทด 1 ในหลักสว่ นสบิ เหลอื 4 ส่วนรอ้ ย
และ 0.8 หรือ 8 ส่วนสิบ ไดจ้ าก 3 ส่วนสิบ รวมกบั 4 ส่วนสบิ
ได้ 7 สว่ นสบิ รวมกับตัวทดอกี 1 สว่ นสบิ ได้ 8 ส่วนสิบ
การบวกทศนิยมท่มี ีการทด ใชห้ ลกั การเดยี วกันกับการบวกจานวนนบั โดย
นาจานวนท่ีอยใู่ นหลกั เดยี วกนั มาบวกกนั และควรบวกจานวนในหลกั ขวา
สดุ ก่อน ถา้ ผลบวกครบสิบหรือมากกว่าสบิ ใหท้ ดในหลกั ถัดไปทางซา้ ย
หาผลบวก
1 5.9 + 0.6 บวกในหลักส่วนสิบ
9 ส่วนสิบ รวมกบั 6 สว่ นสิบ ได้ 15 สว่ นสิบ
วิธีทา 51 หรือ 1 หน่วย กับ 5 ส่วนสบิ ทด 1 ในหลักหน่วย
0
9 + บวกในหลักหน่วย
6 5 หนว่ ย รวมกบั 0 หนว่ ย ได้ 5 หนว่ ย
65 รวมกับตัวทดอีก 1 หน่วย ได้ 6 หนว่ ย
ตอบ ๖.๕
2 61.64 + 17.58 บวกในหลกั ส่วนร้อย
4 สว่ นรอ้ ย รวมกับ 8 ส่วนรอ้ ย ได้ 12 สว่ นรอ้ ย
วิธที า 11 61 หรือ 1 สว่ นสบิ กับ 2 ส่วนร้อย ทด 1 ในหลกั ส่วนสิบ
7 5 เหลอื 2 สว่ นร้อย
6 4 +
1 8 บวกในหลกั สว่ นสบิ
7922 6 สว่ นสิบ รวมกบั 5 ส่วนสิบ ได้ 11 สว่ นสบิ
รวมกบั ตวั ทดอีก 1 ส่วนสบิ ได้ 12 ส่วนสิบ
ตอบ ๗๙.๒๒ ทด 1 ในหลักหน่วย เหลอื 2 สว่ นสิบ
บวกในหลกั หน่วย
1 หน่วย รวมกบั 7 หนว่ ย ได้ 8 หน่วย
รวมกับตัวทดอกี 1 หน่วย ได้ 9 หน่วย
บวกในหลกั สิบ
6 สบิ รวมกับ 1 สิบ ได้ 7 สิบ
แบบฝกึ หดั หน้า 84 ปฏบิ ัติกจิ กรรม
1 หาผลบวก
1) 68.2 + 14.9 2) 4.72 + 3.8
วธิ ที า
วธิ ีทา
ตอบ ๘๓.๑
6 8 2 + 4 7 2 +
1 4 9 3 8 0
852
831
ตอบ ๘.๕๒
3) 70.46 + 54.39 4) 2.955 + 97.486
วธิ ีทา วธิ ที า
7 0 4 6 + 9 2 9 5 5 +
5 4 3 9 7 4 8 6
100441
12485
ตอบ ๑๒๔.๘๕ ตอบ ๑๐๐.๔๔๑
5) 25.91 + 0.724 6) 7.965 + 8.3
วธิ ที า วธิ ีทา
2 5 9 1 0 + 7 9 6 5 +
0 7 2 4 8 3 0 0
26634 16265
ตอบ ๒๖.๖๓๔ ตอบ ๑๖.๒๖๕
2 เตมิ คาตอบ 1.4 2) 12.497 + 9.604 = 22.101
6.062 4) 45.8 + 7.572 = 53.372
1) 0.9 + 0.5 =
3) 5.382 + 0.68 =
ตรวจสอบความเข้าใจ หาผลบวก
1) 3.534 + 8.637 2) 27.9 + 0.65
วธิ ีทา 3 5 3 4 + วธิ ีทา 2 7 9 0 +
8 6 3 7 0 6 5
12171 2855
ตอบ ๑๒.๑๗๑ ตอบ ๒๘.๕๕
3) 19.36 + 5.087 4) 30.85 + 269.15
วิธีทา 1 9 3 6 0 + วธิ ีทา 3 0 8 5 +
5 0 8 7 6 9 1 5
2
24447 30000
ตอบ ๒๔.๔๔๗ ตอบ ๓๐๐.๐๐ หรอื ๓๐๐
ส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้
มีวิธีหาผลบวกของ 45.12 + 9.089 อย่างไร
ทา 45.12 ให้เป็นทศนิยม 3 ตาแหน่ง โดยเติม 0 ในหลักส่วนพัน แล้วนาจานวนท่ีอยู่ใน
หลักเดียวกันมาบวกกัน โดยเริ่มจากหลักส่วนพันได้ 9 ส่วนพัน ผลบวกในหลักส่วนร้อยได้
10 ส่วนร้อย ซ่ึงเท่ากับ 1 ส่วนสิบ จึงทด 1 ในหลักส่วนสิบ ผลบวกในหลักส่วนสิบรวมกับ
ตัวทดได้ 2 ส่วนสิบ ผลบวกในหลกั หนว่ ยได้ 14 หน่วย ซ่งึ เทา่ กับ 1 สิบ กับ 4 หน่วย จึงทด
1 ในหลกั สบิ และผลบวกในหลกั สบิ รวมกับตัวทดได้ 5 สบิ
3 การลบทศนยิ มทไี่ มม่ กี ารกระจาย
พิจารณาการหาผลลบของ 0.6 – 0.4
0.6 – 0.4 แสดงไดด้ งั น้ี
จากรูปจะได้ 0.6 – 0.4 = 0.2
สังเกตไดว้ ่า 0.2 หรอื 2 ส่วนสบิ ไดจ้ าก 6 สว่ นสบิ เอาออก 4 สว่ นสิบ เหลือ 2 สว่ นสบิ
พจิ ารณาการหาผลลบของ 0.78 – 0.32
จากรูปจะได้ 0.78 – 0.32 = 0.46
สงั เกตไดว้ ่า 0.06 หรอื 6 ส่วนร้อย ได้จาก 8 สว่ นร้อย เอาออก 2 ส่วนร้อย เหลอื 6 สว่ นร้อย
และ 0.4 หรือ 4 ส่วนสิบ ได้จาก 7 สว่ นสิบ เอาออก 3 ส่วนสิบ เหลือ 4 สว่ นสิบ
การลบทศนยิ มที่ไม่มกี ารกระจาย ใชห้ ลักการเดยี วกนั กบั การลบ
จานวนนบั โดยนาจานวนทีอ่ ยู่ในหลกั เดยี วกนั มาลบกนั และควรลบ
จานวนในหลกั ขวาสดุ กอ่ น
หาผลบวก
1 5.368 – 1.245 2 3.75 – 0.6
วิธีทา วิธที า
5 3 6 8 + 3 7 5 -
1 2 4 5 0 6 0
315
4123
ตอบ ๔.๑๒๓ ตอบ ๓.๑๕
แบบฝกึ หดั หนา้ 87 ปฏิบัติกิจกรรม
1 หาผลลบ 2) 10 + 8.546
1) 15.472 – 3.051 วิธที า
วธิ ีทา 1 5 4 7 2 0 9 2 7
3 0 5 1 0 8 0 0
- +
12421 0117
ตอบ ๑๒.๔๒๑ ตอบ ๐.๑๒๗
2 เติมคาตอบ 0.2 2) 5.4 – 2.1 = 3.3
4.32 4) 8.965 – 3.3 = 5.665
1) 0.7 – 0.5 = 10.043 6) 15.894 – 2.722 =
3) 6.38 – 2.06 = 13.172
5) 12.753 – 2.71 =
4 การลบทศนยิ มทมี่ ีการกระจาย พิจารณาการหาผลลบของ 0.53 – 0.18
จากรปู จะได้ 0.53 – 0.18 = 0.35
สงั เกตไดว้ ่า 0.05 หรือ 5 สว่ นรอ้ ย ไดจ้ าก 3 สว่ นรอ้ ย เอาออก 8
ส่วนรอ้ ย ซ่ึงไม่พอจึงกระจาย 5 ส่วนสิบ มา 1 ส่วนสบิ
ซง่ึ 1 สว่ นสบิ เทา่ กบั 10 ส่วนร้อย 10 สว่ นร้อย รวมกับ
3 สว่ นรอ้ ย ได้ 13 สว่ นรอ้ ย แล้วเอาออก 8 สว่ นร้อย
เหลอื 5 สว่ นรอ้ ย
และ 0.3 หรือ 3 สว่ นสบิ ไดจ้ าก 5 สว่ นสิบ กระจายไป 1
ส่วนสบิ เหลอื 4 สว่ นสิบ แล้วเอาออก 1 สว่ นสบิ เหลือ
3 สว่ นสิบ
การลบทศนยิ มท่มี ีการกระจาย ใชห้ ลกั การเดยี วกันกับการลบจานวนนับ โดยนา
จานวนที่อยูใ่ นหลักเดยี วกันมาลบกัน ถ้าในหลักใด ตัวต้งั น้อยกว่าตวั ลบให้กระจาย
ตัวตง้ั ในหลักถดั ไปทางซา้ ยมารวมกบั ตวั ต้ังสในหลกั นน้ั ก่อน แล้วจึงหาผลลบ
หาผลลบของ 4.83 – 1.751 ลบในหลกั ส่วนพัน
0 สว่ นพนั เอาออก 1 สว่ นพัน ซ่งึ ไม่พอ จึงกระจาย 3 สว่ น
วิธีทา 4.83 = 4.830 ร้อย มา 1 ส่วนรอ้ ย ซง่ึ 1 สว่ นร้อย เทา่ กับ 10 ส่วนพันแล้ว
เอาออก 1 ส่วนพนั เหลอื 9 สว่ นพนั
4 87 12 10 -
1 7 ลบในหลกั ส่วนรอ้ ย
3 0 3 ส่วนร้อย กระจายไป 1 ส่วนร้อย เหลือ 2 ส่วนร้อย เอาออก
5 1 5 ส่วนร้อย ซ่งึ ไมพ่ อ จงึ กระจายจาก 8 ส่วนสบิ มา 1 สว่ นสบิ
3079 ซึ่ง 1 ส่วนสิบเท่ากับ 10 สว่ นร้อย รวมกบั 2 ส่วนรอ้ ย ได้ 12
ส่วนร้อย แลว้ เอาออก 5 สว่ นรอ้ ย เหลือ 7 สว่ นร้อย
ตอบ ๓๐.๗๙
ลบในหลักสิบ
8 สว่ นสบิ กระจายไป 1 ส่วนสบิ เหลอื 7 สว่ นสิบ เอาออก 7
สว่ นสิบ เหลือ 0 สว่ นสิบ
ลบในหลกั หนว่ ย
4 หน่วย เอาออก 1 หนว่ ย เหลือ 3 หน่วย
แบบฝกึ หัดหน้า 89 ปฏิบัติกิจกรรม
1 หาผลบวก
1) 34.51 – 9.92 2) 8.246 – 5.35
วธิ ีทา วธิ ที า
3 4 5 1 - 8 2 4 6 -
9 9 2 5 3 5 0
2896
2459
ตอบ ๒๔.๕๙ ตอบ ๒.๘๙๖
3) 96.7 – 20.584 4) 21.853 – 12.946
วธิ ที า วธิ ที า
9 6 7 0 0 - 2 1 8 5 3 -
2 0 5 8 4 1 2 9 4 6
8907
76116
ตอบ ๗๖.๑๑๖ ตอบ ๘.๙๐๗
ตรวจสอบความเข้าใจ หาผลลบ
1) 15.59 – 3.07 2) 81.723 – 19.804
วธิ ีทา 1 5 5 9 - วิธที า 8 1 7 2 3 +
3 0 7 1 9 8 0 4
1252 61919
ตอบ ๑๒.๕๒ ตอบ ๖๑.๙๑๙
3) 7.2 – 2.168 4) 4.01 – 4.009
วิธีทา 7 2 0 0 - วิธีทา 4 0 1 0 -
2 1 6 8 4 0 0 9
5032 0001
ตอบ ๕.๐๓๒ ตอบ ๐.๐๐๑
สิ่งท่ีได้เรยี นรู้
มีวิธหี าผลลบของ 45.12 - 9.089 อยา่ งไร
ทา 45.12 ให้เป็นทศนิยม 3 ตาแหน่ง โดยเติม 0 ในหลักส่วนพัน แล้วนาจานวนท่ีอยู่ใน
หลักเดยี วกันมาลบกัน โดยเริม่ จากหลกั ส่วนพัน พบว่า ตัวตั้งในหลักส่วนพัน หลักส่วนร้อย
และหลักหน่วย น้อยกว่าตัวลบ จึงต้องกระจายตัวต้ังในหลักที่อยู่ติดกันทางซ้ายมารวมกับ
ตวั ตง้ั ในหลกั นน้ั ๆ แลว้ ลบกนั กบั ตวั ลบ
5 การบวก การลบทศนยิ ม 2 ข้นั ตอน
การบวก การลบทศนิยม 2 ขัน้ ตอน ถ้ามีวงเล็บให้คานวณ
ในวงเล็บก่อน ถา้ ไมม่ ีวงเลบ็ ให้คานวณจากซา้ ยไปขวา
หาผลลพั ธ์ของ 5.2 – (1.63 – 0.8) หาผลลพั ธข์ อง 5.2 – 0.83
วธิ ีทา หาผลลพั ธข์ อง 1.63 – 0.8
1 6 3 - 0.8 = 0.80 5 2 0 - 5.2 = 5.20
0 8 0 0 8 3
083 437
ตอบ ๔.๓๗
หาผลลัพธข์ อง 2.5 – 1.63 + 0.849
วิธที า
2 5 0 - 2.5 = 2.50
1 6 3
08 70
08 49 + 0.87 = 0.870
1719
ตอบ ๑.๗๑๙
แบบฝกึ หดั หน้า 91 หาผลลัพธ์
1 25 – (3.56 + 14.7)
วธิ ีทา หาผลลพั ธ์ของ 3.56 + 14.7 หาผลลัพธข์ อง 25 – 18.26
1 3 5 6 + 2 5 0 0 -
4 7 0 1 8 2 6
1826 674
ตอบ ๖.๗๔
2 0.9 + 0.24 – 0.783 3 34.2 + 8.89 + 11.056
วิธีทา 0 9 0 + วธิ ีทา 3 4 2 0 +
0 2 4 8 8 9
1 1 4 0 - 4 3 0 9 0 +
0 7 8 3 1 1 0 5 6
0357 54146
ตอบ ๐.๓๕๗ ตอบ ๕๔.๑๔๖
4 12.36 – (5 – 0.813)
วธิ ีทา หาผลลัพธ์ของ 5 – 0.813 หาผลลัพธข์ อง 12.36 – 4.187
5 0 0 0 - 1 2 3 6 0 -
0 8 1 3 4 1 8 7
4187 8173
ตอบ ๘.๑๗๓
7.4 โจทยป์ ัญหา
วนั ที่ 1 ฝนว่ิงได้ 5.2 กโิ ลเมตร วันท่ี 2 ว่ิงได้ 3.7 กโิ ลเมตร ฝนวงิ่ ไดร้ ะยะทางทั้งหมดกกี่ โิ ลเมตร
สิง่ ทีโ่ จทยถ์ าม ระยะทางท้งั หมดที่ฝนวิง่ ได้
ส่งิ ที่โจทยบ์ อก วิ่งที่ 1 ฝนวง่ิ ได้ 5.2 กิโลเมตร วนั ที่ 2 วง่ิ ได้ 3.7 กโิ ลเมตร
จากสง่ิ ทีโ่ จทยถ์ าม และส่งิ ท่โี จทย์บอก เขยี นเปน็ แผนภาพไดอ้ ยา่ งไร
จากภาพ จะหาคาตอบได้อย่างไร และได้คาตอบเท่าใด 5.2 + 3.7 = 8.9 กโิ ลเมตร
สรุปคาตอบอย่างไร ฝนวิง่ ไดร้ ะยะทางทง้ั หมด 8.9 กโิ ลเมตร
แจค๊ สงู 1.41 เมตร แบงคส์ งู 1.25 เมตร แจค๊ สงู กวา่ แบงคเ์ ทา่ ใด
วิธคี ดิ ลองคิดดู
ดงั นัน้ แจค๊ สูงกว่าแบงค์ 1.41 – 1.25 = 0.16 เมตร 1 เมตร เทา่ กับ 100 เซนตเิ มตร
ตอบ ๐.๑๖ เมตร
0.16 เมตรเท่ากบั กี่เซนตเิ มตร
16 เซนตเิ มตร
ออมซื้อมังคุด 1.5 กิโลกรัม ซื้อเงาะมากกวา่ มงั คดุ 2 กโิ ลกรมั ออมซ้อื เงาะก่กี ิโลกรมั
วธิ ีคดิ
ดังน้ัน ออมซอื้ เงาะ 1.5 + 2 = 3.5 กิโลกรัม
ตอบ ๓.๕ กิโลกรัม
แบบฝกึ หดั หนา้ 94 แสดงวธิ คี ิดและหาคาตอบ
1 กระดาษขนาด A5 ยาว 21 เซนติเมตร กระดาษขนาด A5 สัน้ กว่า A4 อยู่ 8.7 เซนตเิ มตร กระดาษ
ขนาด A4 ยาวเทา่ ใด
วธิ ีคดิ
ดงั นัน้ กระดาษขนาด A4 ยาว 21 + 8.7 = 29.7 เซนตเิ มตร
ตอบ ๒๙.๗ เซนติเมตร
2 ตกึ ใบหยก 1 สูง 151 เมตร ตึกใบหยก 2 สงู 328.4 เมตร ตกึ ใดสูงกวา่ กัน และสูงกว่ากนั เทา่ ใด
วิธีคดิ ดังน้นั ตึกใบหยก 2 สงู กว่า ตกึ ใบหยก 1
และสงู กว่า 328.4 – 151 = 177.4 เมตร
ตอบ ตึกใบหยก ๒ สงู กว่า ตกึ ใบหยก ๑ และสูงกว่า ๑๗๗.๔ เมตร
3 พอ่ ตอ้ งการทีด่ นิ ปลกู สม้ 8 ไร่ แตม่ ที ีด่ ินอยแู่ ล้ว 6.25 ไร่ พ่อต้องซื้อเพิ่มกี่ไร่
วธิ คี ิด
ดังนัน้ พอ่ ต้องซ้อื ท่ดี นิ เพ่ิม 8 – 6.25 = 1.75 ไร่
ตอบ ๑.๗๕ ไร่
จูนซอื้ ขนม 5.75 บาท และนม 11.50 บาท จนู จา่ ยเงนิ ดว้ ยธนบตั รย่ีสบิ บาท 1 ฉบับ จูนได้รบั เงิน
ทอนก่บี าท
สงิ่ ทโี่ จทยถ์ าม เงินทอนที่จนู ไดร้ บั
สงิ่ ทโ่ี จทย์บอก จนู ซ้ือขนม 5.75 บาท และนม 11.50 บาท จูนจา่ ยเงนิ ดว้ ยธนบัตรย่ีสบิ บาท 1 ฉบบั
จากส่งิ ทโี่ จทยถ์ าม และส่ิงทโี่ จทยบ์ อก เขียนเป็นแผนภาพไดอ้ ย่างไร
จะหาเงนิ ทอน จะตอ้ งรู้อะไรก่อน จานวนเงนิ ทีซ่ ื้อของทงั้ หมด
หาจานวนเงินท่ซี ื้อของทั้งหมดไดอ้ ยา่ งไร และเปน็ เงนิ เทา่ ใด 5.75 + 11.50 = 17.25 บาท
หาเงินทอนได้อยา่ งไร และเป็นเงินเทา่ ใด 20 – 17.25 = 2.75 บาท
สรปุ คาตอบอยา่ งไร จนู ได้รบั เงนิ ทอน 2.75 บาท
ถนนยาว 5 กโิ ลเมตร ใช้เวลาสรา้ ง 3 เดือน เดอื นท่ี 1 สรา้ งได้ 1.25 กโิ ลเมตร
เดอื นที่ 2 สร้างได้ 1.756 กโิ ลเมตร เดือนท่ี 3 สร้างถนนได้เทา่ ใด
วธิ คี ดิ
เดอื นที่ 1 และเดือนที่ 2 สร้างถนนได้ 1.25 + 1.756 = 3.006 กิโลเมตร
ดังนั้น เดอื นที่ 3 สรา้ งถนนได้ 5 – 3.006 = 1.994 กโิ ลเมตร
ตอบ ๑.๙๙๔ กิโลเมตร
ออมซื้อมังคุด 1.5 กิโลกรัม ซื้อเงาะมากกวา่ มงั คดุ 2 กโิ ลกรมั ออมซ้อื เงาะก่กี ิโลกรมั
วธิ ีคดิ
ดังน้ัน ออมซอื้ เงาะ 1.5 + 2 = 3.5 กิโลกรัม
ตอบ ๓.๕ กิโลกรัม
แบบฝกึ หดั หน้า 96 แสดงวิธีคดิ และหาคาตอบ
1 ร้านคา้ มเี ชือกไนลอนยาว 50 เมตร ครง้ั ที่ 1 ตัดขายไป 5.25 เมตร ครง้ั ท่ี 2 ตัดขาย
ไป 3.5 เมตร ร้านคา้ เหลือเชือกไนลอนกเี่ มตร
วธิ คี ดิ
ครง้ั ที่ 1 และครงั้ ที่ 2 ตัดขายไป 5.25 + 3.5 = 8.75 เมตร
ดังน้นั รา้ นคา้ เหลือเชอื กไนลอน 50 – 8.75 = 41.25 เมตร
ตอบ ๔๑.๒๕ เมตร
2 เบญขับรถจากกรงุ เทพฯ ไปจังหวัดตรงั ช่วงท่ี 1 ขบั ได้ 347.5 กิโลเมตร ช่วงที่ 2 ขับได้ 408.7
กโิ ลเมตร และชว่ งท่ี 3 ขับอกี 93.8 กิโลเมตร ถงึ จงั หวดั ตรังพอดี เบญขบั รถจากกรุงเทพฯ ถึง
จังหวดั ตรังเป็นระยะทางเท่าใด
วธิ คี ดิ
ดงั นัน้ เบญขบั รถจากกรงุ เทพฯ ถึงจงั หวัดตรังเปน็ ระยะทาง
347.5 + 408.7 + 93.8 = 850 กโิ ลเมตร
ตอบ ๔๑.๒๕ เมตร
ตรวจสอบความเขา้ ใจ แสดงวธิ คี ดิ และหาคาตอบ เขอื่ นรชั ชประภา ชื่อเดิม เข่อื นเชี่ยวหลาน อยู่
ในจังหวัดสุราษฎรธ์ านี มคี วามจุ 5,638.8 ลา้ น
1 ลกู บาศกเ์ มตร ถ้าเดอื นมกราคมระบายน้าออก
152.73 ล้านลกู บาศกเ์ มตร เดอื นกมุ ภาพนั ธ์
วธิ ีคิด ระบายนา้ ออกมากกวา่ เดอื นมกราคม 6.4 ลา้ น
ลกู บาศกเ์ มตร 2 เดอื นน้ี เขอ่ื นรชั ชประภาระ
บายนา้ ออกกลี่ ้านลกู บาศก์เมตร
เดือนกมุ ภาพันธร์ ะบายน้าออก 152.73 + 6.4 = 159.13 ล้านลกู บาศกเ์ มตร
ดงั นั้น 2 เดอื นนี้ เข่อื นรชั ชประภาระบายน้าออก 152.73 +159.13 = 311.86 ล้านลกู บาศกเ์ มตร
ตอบ ๓๑๑.๘๖ ล้านลูกบาศกเ์ มตร
2 นักเรียนกลมุ่ หน่ึงรวบรวมเงินเพอ่ื ทางานประดษิ ฐ์ได้ 60 บาท ซ้อื กรรไกร 17.50 บาท ซ้อื เทปใส
12.75 บาท เงินทีเ่ หลือทงั้ หมดนาไปซอื้ กระดาษสี ซ้ือกระดาษสเี ปน็ เงินเทา่ ใด
วิธีคดิ
ดงั นน้ั ซอ้ื กระดาษสี 60 – (17.50 + 12.75) = 65 – 30.25 = 29.75 บาท
ตอบ ๒๙.๗๕ บาท
3 เชือกเส้นที่ 1 ยาว 2.75 เมตร เชือกเสน้ ท่ี 2 ยาว 1.5 เมตร เมอื่ นาเชอื กทั้งสองเสน้ มาผกู กนั แลว้ วัด
ความยาวใหม่ได้ 3.185 เมตร ส่วนที่ผกู เป็นปมมีความยาวกเ่ี มตร
วธิ ีคิด
ดังนั้น ส่วนทีผ่ กู เปน็ ปมมคี วามยาว (2.75 + 1.5) – 3.185 = 4.25 – 3.185 = 1.065 เมตร
ตอบ ๑.๐๖๕ เมตร
ส่งิ ท่ีไดเ้ รยี นรู้
“ทอ่ นา้ ทอ่ หนึง่ นามาตดั เป็น 2 ทอ่ น ทอ่ นแรกยาว 2.25 เมตร ท่อนที่ 2 ส้นั กว่าทอ่ น
แรก 0.5 เมตร เดิมท่อนา้ น้ียาวเท่าใด”
ขั้นที่ 1 หาความยาวของท่อนา้ ทอ่ นที่ 2
ได้ 2.25 – 0.5 = 1.75 เมตร
ขน้ั ที่ 2 หาความยาวของท่อน้า โดยนาความยาวของทอ่ นแรก รวมกบั ความยาวทอ่ นที่ 2
ได้ 2.25 + 1.75 = 4 เมตร