The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บันทึกข้อความ รายวิชาสังคมศึกษา ม5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sirinankt2008, 2022-05-18 04:47:22

บันทึกข้อความ รายวิชาสังคมศึกษา ม5

บันทึกข้อความ รายวิชาสังคมศึกษา ม5

บันทึกข้อความ

สว่ นราชการ โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 47 อำเภอชะอำ จังหวดั เพชรบรุ ี

ท่ี…………………………………………… วันที่ 17 พฤษภาคม 2565

เรอื่ ง ขออนมุ ตั ิใช้โครงสร้างรายวชิ า

เรียน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 47 จังหวัดเพชรบรุ ี

...................................................................................................................................................................................................

ดว้ ยขา้ พเจ้า นางศิรนิ ันท์ คล้ายทอง ตำแหนง่ คร/ู ชำนาญการพิเศษ ไดร้ ับมอบหมายให้สอนรายวิชาสงั คมศกึ ษา

ศาสนาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ส 3๒101 จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง / สัปดาห์ จำนวน 20 ชั่วโมง

/ ภาคเรียน จึงได้จดั ทำโครงสร้างรายวิชาท่ีสอน เพือ่ ใช้ในการประกอบการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนในระดับชั้น

มัธยมศึกษาปีที่ ๕ ประจำภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2565

จงึ เรียนมาเพ่ือโปรดอนุมัติ

ลงชอื่ ........................................

( นางศิรินันท์ คลา้ ยทอง )

...................................................................................................................................................................................................

ความเห็นของรองผอู้ ำนวยการกลุ่มบริหารงานวิชาการ / ผทู้ ไี่ ด้รับมอบหมาย

ได้ตรวจสอบโครงสร้างรายวชิ าดงั กลา่ วแลว้ พบวา่

ครบถ้วน ครอบคลุม และสอดคล้องตามหวั ขอ้ เนอื้ หา สาระมาตรฐานตวั ชีว้ ดั / ผลการเรียนรู้

ควรปรับปรุง เพิ่มเตมิ หรอื แก้ไข ดงั นี้ ………………………………………………………………………….…………………………….

………………………………………………………………..………………………………………

ลงชอ่ื ..............................................

( นายชาญยทุ ธ สทุ ธิธรานนท์ )

รองผอู้ ำนวยการกล่มุ บริหารงานวิชาการ

............../................./................

...................................................................................................................................................................................................

เรียนเสนอเพ่ือโปรดพิจารณา

อนุมัตติ ามเสนอ ไมอ่ นมุ ัติ เนื่องจาก ....................................................................................................

ลงชือ่ .....................................................

( นายวรี ะ แก้วกัลยา )

ผอู้ ำนวยการโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จงั หวัดเพชรบรุ ี

โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 47 จงั หวัดเพชรบุรี

ประมวลรายวชิ า ( Course Syllabus )

**************************************************

1. ชื่อวิชา สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม

2. สถานภาพวิชา วชิ าพืน้ ฐาน

3. รหสั วชิ า ส ๓๒๑๐๑

4. จำนวนหนว่ ยกติ ๐.๕

5. จำนวนชั่วโมง / สัปดาห์ ๑ ชัว่ โมง / สัปดาห์

6. เวลาเรยี น ๒๐ ชว่ั โมง / ภาคเรยี น

7. ภาคเรยี นที่ ๑

8. ปกี ารศึกษา ๒๕๖5

9. ระดบั ชัน้ มัธยมศกึ ษาปีที่ ๕

10. ชอ่ื สกุล ครูผสู้ อน นางศิรินันท์ คล้ายทอง

11. ขอบข่ายเนอ้ื หาท่ีสอน ตามคำอธบิ ายรายวชิ า สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม

จริยธรรม สอนเรื่อง ความเป็นมาของพระพทุ ธศาสนาและ

พุทธประวัติ, พทุ ธสาวก พุทธสาวิกา พทุ ธศาสนกิ ชน

ตัวอยา่ งและชาดกในพระพุทธศาสนา, ศาสนพิธแี ละ

พิธีกรรมทางศาสนา และเร่ืองหลกั ธรรม คติธรรมท่ี

เก่ยี วเน่ืองกบั วันสำคญั ทางศาสนา

คำอธบิ ายรายวิชา
ชื่อวิชา สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม รหัสวิชา ส ๓๒๑๐๑
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ขัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี ๕

เวลาเรียน ๑ ช่วั โมง / สัปดาห์ จำนวน ๐.๕ หน่วยกติ
**************************************************
คำอธิบายรายวิชา

ศึกษา วิเคราะห์ ลักษณะของสังคมชมพูทวีปและคติความเชื่อทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า
พระพุทธศาสนามที ฤษฎแี ละวธิ ีการท่เี ป็นสากลและมขี อ้ ปฏิบัตทิ ย่ี ึดสายกลาง การพฒั นาศรัทธาและปญั ญาที่ถูกต้องใน
พระพุทธศาสนา พระพุทธเจา้ ในฐานะเป็นมนุษย์ผู้ฝึกตนได้อย่างสูงสดุ ในการตรัสรู้ การก่อตัง้ วิธีการสอนและการเผย
แผ่พระพุทธศาสนา พุทธประวัติดา้ นการบริหารและการธำรงรักษาศาสนา ข้อปฏิบตั ิทางสายกลางในพระพุทธศาสนา
หรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนับถือ การพัฒนาศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้องลักษณะประชาธิปไตยในพระพุทธศาสนา
หลักการของพระพุทธศาสนากับหลักวทิ ยาศาสตร์ การคิดตามนัยและการคิดแบบวิทยาศาสตร์ การฝึกฝนและพัฒนา
ตนเอง การพ่ึงตนเอง และการมงุ่ อสิ รภาพ พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสตร์แห่งการศกึ ษาซงึ่ เน้นความสมั พนั ธ์ของเหตุปจั จัย
กับวิธีการแก้ปัญหา การฝึกตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์สุขและสันติภาพแก่บุคคล สังคมและโลก ปรัชญาของ
เศรษฐกจิ พอเพยี งและการพัฒนาประเทศแบบยงั่ ยืน การศกึ ษาท่ีสมบรู ณ์ การเมอื ง และสันติภาพ ขอ้ คิดและแบบอย่าง
การดำเนนิ ชวี ิตจากประวัติพุทธสาวก พุทธสาวกิ า (พระอสั สชิ พระกีสาโคตมีเถรี พระนางมลั ลิกา หมอชวี กโกมารภัจจ์
พระอนรุ ทุ ธะ พระองคุลิมาล พระธัมมทินนาเถรี จติ ตคหบดี พระอานนท์ พระปฏาจาราเถรี จฬู สภุ ัททา สมุ น-มาลาการ)
พุทธศาสนิกชนตัวอย่าง (พระนาคเสน-พระยามิลินท์ สมเด็จพระวันรัต (เฮง เขมจารี)พระอาจารย์มั่น ภูริทัตโต สุชพี
ปุญญานุภาพ สมเด็จพระนารายณม์ หาราช พระธรรมโกศาจารย์(พทุ ธทาสภกิ ข)ุ พระหรหมมังคลาจารย์(ปัญญานันท
ภกิ ข)ุ ดร.เอ็มเบดการ์ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ ัว พระโพธญิ าณเถร(ชา สภุ ทฺโท) พระพรหมคุณาภรณ์
(ป.อ.ปยุตฺโต) อนาคาริก ธรรมปาละ) ชาดก (เวสสันดรชาดก มโหสถชาดก มหาชนกชาดก) หลักธรรม คติธรรมที่
เกี่ยวเนื่องกบั วันสำคัญและเทศกาลสำคัญในพระพทุ ธศาสนา ศาสนพิธเี กยี่ วกับพิธแี สดงตนเป็นพุทธมามกะ พิธีเวียน
เทียน พิธีถวายสังฆทาน พิธีถวายผ้าอาบน้ำฝน พิธีทอดกฐิน พิธีปวารณา การทำบุญเลี้ยงพระในโอกาสต่าง ๆ การ
ปฏิบัติตนเป็นชาวพุทธทีด่ ีต่อพระภิกษุ การปฏิบัติตนเปน็ สมาชิกที่ดีของครอบครัวและสงั คม การเป็นชาวพทุ ธท่ดี ีตอ่
พระภิกษุ การเป็นสมาชกิ ที่ดีของครอบครวั และสังคม

โดยใชก้ ระบวนการคิด กระบวนการสืบค้นขอ้ มูล กระบวนการทางสังปฏบิ ตั ิ กระบวนการปฏบิ ตั ิ
กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแกป้ ัญหา กระบวนการกลมุ่

เพอ่ื ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ สามารถนำไปปฏิบตั ิในการดำเนนิ ชวี ิต นำไปแกป้ ญั หาของตนเองและ
ครอบครัว มีคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ในดา้ นรกั ชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ ซ่ือสัตย์ สจุ ริต มีวินยั ใฝ่เรยี นรู้ อยอู่ ยา่ งพอเพียง
มุ่งมนั่ ในการทำงาน รักความเปน็ ไทย มีจติ สาธารณะ สามารถอยรู่ ว่ มกันได้อยา่ งสนั ติสขุ

สาระ / มาตรฐาน / ตัวช้วี ัด สาระที่ ๑ ศาสนา ศลี ธรรม จริยธรรม
มาตรฐาน ส ๑.1 รแู้ ละเขา้ ใจประวัติ ความสำคญั ศาสดา หลักธรรมของพระพุทธศาสนาหรือศาสนาท่ีตนนบั
ถือและศาสนาอน่ื มีศรัทธาทถ่ี กู ตอ้ ง ยดึ ม่ัน และปฏบิ ตั ิตามหลกั ธรรมเพอ่ื อยู่รว่ มกนั อย่างสันติสขุ
ตวั ชว้ี ัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๑ วิเคราะหส์ ังคมชมพทู วีปและคตคิ วามเชอื่ ทางศาสนาสมัยก่อนพระพุทธเจ้า หรือสังคม
สมัยของศาสดาที่ตนนบั ถือ

ตวั ชี้วัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๒ วเิ คราะหพ์ ระพทุ ธเจา้ ในฐานะเปน็ มนษุ ย์ผู้ฝกึ ตนไดอ้ ย่างสงู สดุ ในการตรัสรู้ การกอ่ ตั้ง
วธิ ีการสอน และการเผยแผ่พระพทุ ธศาสนาหรอื วเิ คราะห์ประวัติศาสดาทตี่ นนับถอื ตามท่ีกำหนด

ตัวชี้วดั ส ๑.1 ม.๔-๖/๓ วิเคราะหพ์ ุทธประวัติด้านการบรหิ าร และการธำรงรักษาศาสนา หรือวเิ คราะห์ประวตั ิ
ศาสดาทต่ี นนบั ถอื ตามทกี่ ำหนด

ตัวชี้วดั ส ๑.1 ม.๔-๖/๔ วิเคราะห์ข้อปฏบิ ตั ทิ างสายกลางในพระพทุ ธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาท่ีตนนับ
ถอื ตามทก่ี ำหนด

ตวั ชี้วัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๕ วิเคราะห์การพัฒนาศรทั ธาและปัญญาทถ่ี ูกตอ้ งในพระพุทธศาสนา
ตัวชว้ี ัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๖ วเิ คราะห์ลักษณะประชาธปิ ไตยในพระพุทธศาสนา หรือแนวคิดของศาสนาที่ตนนบั ถือ
ตามท่กี ำหนด
ตัวชว้ี ัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๗ วเิ คราะห์หลักการของพระพุทธศาสนากับหลักวทิ ยาศาสตร์ หรือแนวคิดของศาสนาท่ี
ตนนบั ถือตามทีก่ ำหนด
ตัวชี้วดั ส ๑.1 ม.๔-๖/๘ วเิ คราะห์การฝึกฝนและพัฒนาตนเอง การพง่ึ ตนเอง และการมุง่ อิสรภาพใน
พระพทุ ธศาสนา หรอื แนวคิดของศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามทก่ี ำหนด
ตวั ช้ีวัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๙ วเิ คราะห์พระพุทธศาสนาว่าเปน็ ศาสตร์แห่งการศึกษาซ่งึ เนน้ ความสัมพนั ธข์ องเหตุ
ปจั จยั กับวิธกี ารแกป้ ญั หาหรือแนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนับถอื ตามทกี่ ำหนด
ตัวชี้วดั ส ๑.1 ม.๔-๖/๑๐ วเิ คราะหพ์ ระพุทธศาสนาในการฝกึ ตนไม่ใหป้ ระมาท มุ่งประโยชน์และสันติภาพ
บคุ คล สงั คมและโลก หรอื แนวคิดของศาสนาที่ตนนับถอื ตามที่กำหนด
ตัวช้ีวัด ส ๑.1 ม.๔-๖/๑๑ วเิ คราะห์พระพุทธศาสนากับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งและการพัฒนาประเทศ
แบบยง่ั ยืน หรอื แนวคดิ ของศาสนาที่ตนนับถอื ตามที่กำหนด
ตวั ชี้วดั ส ๑.1 ม.๔-๖/๑๒ วิเคราะห์ความสำคัญของพระพทุ ธศาสนาเกยี่ วกบั การศึกษาทีส่ มบรู ณ์ การเมืองและ
สันตภิ าพหรอื แนวคดิ ของศาสนาทีต่ นนับถอื ตามทีก่ ำหนด
ตวั ชว้ี ดั ส ๑.1 ม.๔-๖/๑๔ วเิ คราะหข์ อ้ คดิ และแบบอยา่ งการดำเนนิ ชวี ติ จากประวัติสาวก ชาดก เร่อื งเลา่
และศาสนิกชนตวั อย่างตามท่ีกำหนด

มาตรฐาน ส ๑.๒ เข้าใจ ตระหนักและปฏบิ ัติตนเปน็ ศาสนิกชนท่ีดี และธำรงรักษาพระพทุ ธศาสนา หรือ
ศาสนาท่ีตนนับถอื

ตวั ชว้ี ัด ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ปฏิบตั ิตนถูกต้องตามศาสนพิธี พธิ ีกรรมตามหลกั ศาสนาทตี่ นนับถือ
ตวั ชี้วัด ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓ แสดงตนเป็นพทุ ธมามกะหรือแสดงตนเปน็ ศาสนกิ ชนของศาสนาทต่ี น
นับถือ
ตัวชว้ี ัด ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔ วเิ คราะหห์ ลักธรรม คตธิ รรม ทีเ่ กี่ยวเน่ืองกับวันสำคัญทางศาสนาและเทศกาลที่สำคัญ
ของศาสนาท่ตี นนบั ถือและปฏบิ ตั ิตนไดถ้ ูกตอ้ ง

โครงสร้างรายวชิ า สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ( พ้นื ฐาน )

รหัสวชิ า ส ๓๒๑๐๑ รายวิชา สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2565

กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ระดับชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี ๕

เวลาเรยี น ๑ ชั่วโมง / สัปดาห์ จำนวน ๒๐ ช่วั โมง / ภาคเรียน จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกิต

หนว่ ยท่ี ช่อื หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคัญ เวลา น้ำหนกั คะแนน
ตัวช้ีวัด / ผลการเรยี นรู้ (ชม.) K A P รวม
๑ ความเป็นมาของ ๑-23
พระพุทธศาสนาและพุทธ แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๑ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑ ชมพูทวปี สมัยพุทธกาลคือ ๒
ประวตั ิ ๑-๑๒
เรอื่ ง สังคมชมพูทวปี และคตคิ วามเชอื่ ทาง วเิ คราะหส์ ังคมชมพทู วปี และคติ ดินแดนของอินเดียและเนปาล

ศาสนาสมัยกอ่ นพระพทุ ธเจ้า ความเชอ่ื ทางศาสนาสมัย ในปจั จบุ นั สังคมชมพทู วีปมี

ก่อนพระพุทธเจ้า หรอื สังคมสมยั การแบ่งชนชั้นเปน็ ๔ วรรณะ

ของศาสดาทตี่ นนบั ถอื และมีคตคิ วามเช่ือทางศาสนา

แบง่ ออกเป็น ๓ กลุ่มใหญ่

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๒ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๒ พระพุทธเจา้ ทรงสำเรจ็ ในการ ๑

เรอ่ื ง พระพทุ ธเจ้าในฐานะเปน็ มนษุ ย์ วิเคราะห์พระพุทธเจ้าในฐานะ บำเพญ็ ฝึกฝนตนเองจนตรสั รู้

ผู้ฝึกตนได้อยา่ งสงู สดุ การกอ่ ตั้ง เปน็ มนษุ ยผ์ ู้ฝกึ ตนได้อย่างสงู สุด เปน็ พระสมั มาสมั โพธญิ าณ

พระพุทธศาสนา วิธีการสอน และการเผย ในการตรสั รู้ การก่อต้ัง วิธกี าร ปญั จวคั คีย์คือสาวกกลมุ่ แรกท่ี

แผพ่ ระพทุ ธศาสนา ตามแนวพทุ ธจริยา สอน และการเผยแผ่ ไดฟ้ งั ธรรมจากพระพทุ ธเจา้

พระพุทธศาสนาหรือวิเคราะห์ อันเปน็ กำลังสำคญั ในการเผย

ประวัตศิ าสดาท่ีตนนบั ถอื ตามท่ี แผ่พทุ ธศาสนาทั่วชมพูทวีป

กำหนด

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคัญ เวลา นำ้ หนักคะแนน
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๓ ตวั ชว้ี ัด / ผลการเรียนรู้ (ชม.) K A P รวม
เรือ่ ง พทุ ธประวัตดิ ้านการบรหิ าร และการ ๑-12
ธำรงรักษาพระพุทธศาสนา ส ๑.๑ ม.๔-๖/๓ พระพทุ ธเจ้าทรงมหี ลักธรรม ๑
วเิ คราะห์พุทธประวัติดา้ นการ 2-๑3
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ ๔ บริหาร และการธำรงรักษา ของนกั บริหาร และทรงมี
เรื่อง หลักการของพระพทุ ธศาสนา ศาสนา หรือวเิ คราะห์ประวตั ิ
ศาสดาทตี่ นนบั ถือตามทีก่ ำหนด แนวทางในการธำรงรักษา

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๔ พระพุทธศาสนา เชน่ การ
วิเคราะหข์ อ้ ปฏบิ ัติทางสายกลาง
ในพระพุทธศาสนา หรอื แนวคิด มอบพระธรรมวนิ ัยเปน็ ศาสดา
ของศาสนาท่ีตนนับถือตามที่
กำหนด แทนพระองค์
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๕
วเิ คราะห์การพฒั นาศรัทธาและ พระพทุ ธศาสนามีหลักทนี่ อ้ ม ๑
ปัญญาท่ถี กู ตอ้ งใน
พระพุทธศาสนา นำให้พุทธศาสนิกชนยดึ ใน
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๖
วเิ คราะห์ลกั ษณะประชาธิปไตย การประพฤตปิ ฏิบตั ติ นตาม
ในพระพุทธศาสนาหรือแนวคิด
ทางสายกลางมที ัง้ ทฤษฎแี ละ

วิธีการทเ่ี ป็นสากล ความ

ศรัทธาในพระพุทธศาสนาเป็น

ความเช่อื มั่นในคุณงามความดี

ทป่ี ระกอบดว้ ยเหตผุ ล

พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนา

ประชาธปิ ไตยมาตงั้ แต่

เร่มิ แรก โดยมพี ระธรรม

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั คะแนน
ตวั ชวี้ ัด / ผลการเรียนรู้ (ชม.) K A P รวม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๕
เร่ือง ความสำคญั ของพระพทุ ธศาสนาตอ่ ของศาสนาทีต่ นนบั ถือตามที่ วนิ ยั เป็นธรรมนญู หรือกฎ- 1-23
สังคมไทย
กำหนด หมายสูงสุด วิทยาศาสตรแ์ ละ

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๗ พระพุทธศาสนามหี ลักการ

วิเคราะหห์ ลกั การของ เหมือนกนั คือ มุ่งแสวงหา

พระพุทธศาสนากบั หลกั ความจริง แต่พระพุทธศาสนา

วทิ ยาศาสตร์ หรือแนวคดิ ของ น้ันพูดเรือ่ งความจรงิ ใน

ศาสนาที่ตนนบั ถอื ตามทกี่ ำหนด ขอบเขตท่ีกว้างกว่า

วิทยาศาสตร์

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๘ พระพุทธเจ้าทรงเป็น ๑

วิเคราะหก์ ารฝึกฝนและพฒั นา แบบอยา่ งในการฝึกฝน

ตนเอง การพงึ่ ตนเอง และการมงุ่ พฒั นา และพ่ึงตนเอง เพอ่ื มงุ่

อสิ รภาพในพระพุทธศาสนา หรอื ไปส่อู ิสรภาพของมนษุ ย์ ความ

แนวคดิ ของศาสนาที่ตนนับถือ ไม่ประมาท คอื ความมีสติ วิธี

ตามท่ีกำหนด ฝกึ ความไมป่ ระมาทตาม

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๙ แนวทางพระพุทธศาสนาคือ

วิเคราะห์พระพุทธศาสนาว่าเป็น การปฏบิ ัติตามหลกั สตปิ ฏั ฐาน

ศาสตรแ์ ห่งการศึกษาซง่ึ เนน้ ๔

ความสัมพันธข์ องเหตุ

หนว่ ยท่ี ชื่อหนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั คะแนน
ตวั ช้วี ัด / ผลการเรยี นรู้ (ชม.) K A P รวม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๖
เรื่อง พระพทุ ธศาสนากบั ปรัชญาของ ปัจจยั กบั วธิ กี ารแกป้ ญั หาหรือ พระพุทธศาสนาเปน็ ศาสนาที่ 2๑2 ๕
เศรษฐกิจพอเพียงและการพฒั นาประเทศ
แบบยงั่ ยืน แนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนบั ถือ มุ่งความสุขและสนั ติภาพแก่

ตามท่กี ำหนด บุคคล สังคมและโลกอย่าง

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐ แท้จรงิ

วิเคราะหพ์ ระพุทธศาสนาในการ

ฝึกตนไม่ให้ประมาท มุ่งประโยชน์

และสนั ติภาพแก่บุคคล สงั คม

และโลกหรือแนวคิดของศาสนาท่ี

ตนนบั ถือตามท่กี ำหนด หรอื

แนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนบั ถอื

ตามท่กี ำหนด

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๑ เศรษฐกิจพอเพียง หมายถึง ๑

วิเคราะห์พระพทุ ธศาสนากับ ความสามารถของชุมชน เมอื ง

ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง รฐั ประเทศ หรือภมู ภิ าคหนึง่

และการพฒั นาประเทศแบบ ๆ ในการผลิตสนิ คา้ และ

ยงั่ ยืน หรอื แนวคิดของศาสนาท่ี บริการทกุ ชนิดเพือ่ เลี้ยงสังคม

ตนนบั ถอื ตามที่กำหนด น้นั ๆ ไดโ้ ดย

หนว่ ยที่ ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรียนรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคัญ เวลา น้ำหนักคะแนน
ตวั ช้วี ัด / ผลการเรียนรู้ (ชม.) K A P รวม

ปัจจัยกบั วิธีการแกป้ ัญหาหรือ ไมต่ ้องพ่ึงพาปจั จัยตา่ ง ๆ ท่ี 1-๑2
แนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนบั ถือ
ตามท่กี ำหนด เราไม่ได้เป็นเจ้าของ การดำรง
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๐
วเิ คราะหพ์ ระพุทธศาสนาในการ ชีพแบบพอเพยี งคอื การรู้จัก
ฝกึ ตนไม่ใหป้ ระมาท
มุง่ ประโยชนแ์ ละสันตภิ าพแก่ คำวา่ “พอ” สว่ นการพฒั นา
บุคคล สังคมและโลกหรอื
แนวคดิ ของศาสนาท่ีตนนบั ถอื แบบย่งั ยืน คือการพฒั นาท่มี ุ่ง
ตามที่กำหนด หรือแนวคิดของ
ศาสนาท่ีตนนับถอื ตามที่กำหนด ให้เกดิ ความสมดุลในด้าน
ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๒
วิเคราะหค์ วามสำคัญของ เศรษฐกจิ สงั คม สิง่ แวดล้อม
พระพทุ ธศาสนาเกี่ยวกบั
การศกึ ษาท่ีสมบูรณ์ การเมือง หรอื โดยสรปุ การพัฒนาแบบ
และสนั ติภาพหรอื แนวคดิ ของ
ย่ังยนื กค็ อื การพฒั นาทีไ่ ม่

กอ่ ให้เกดิ ปญั หาตามมาอกี ใน

อนาคต

แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๗ การศกึ ษาเปน็ การฝึกฝน ๑
เร่ือง พระพทุ ธศาสนากบั การศึกษาที่
สมบรู ณ์ การเมืองและสนั ติภาพ พฒั นาคนให้ดำเนนิ ไปใน

วถิ ีชวี ิตทถี่ ูกต้องดีงาม ในทาง

พระพุทธศาสนา กระบวนการ

ทางการศึกษา

ควรดำเนินไปตามหลกั

หน่วยท่ี ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระ / มาตรฐานการเรยี นรู้ / สาระสำคญั เวลา นำ้ หนักคะแนน
ตัวช้วี ัด / ผลการเรยี นรู้ (ชม.) K A P รวม

ศาสนาท่ีตนนับถอื ตามที่กำหนด อรยิ สจั ๔ และปฏิจจสมุป- ๓-47

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๔ บาท และควรมคี ุณธรรมเสริม 313 7
วเิ คราะห์ขอ้ คดิ และแบบอยา่ ง
การดำเนินชวี ิตจากประวตั สิ าวก ในกระบวนการเรยี นการสอน
ชาดก เร่อื งเล่า และ
ศาสนกิ ชนตวั อย่างตามทก่ี ำหนด ดว้ ย ส่วนเร่อื งการเมอื ง การ

ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๔ ปกครองน้นั พระพุทธศาสนา
วเิ คราะห์ข้อคิดและแบบอยา่ ง
การดำเนนิ ชีวติ จากประวตั ิสาวก มงุ่ เน้น
ชาดก เรอื่ งเล่า และ
การอยู่ร่วมกนั อยา่ งสนั ตสิ ขุ

๒ พุทธสาวก พุทธสาวกิ า แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๘ ประวตั ิของสาวก สาวกิ า เปน็ ๒
พุทธศาสนกิ ชนตวั อย่าง เรื่อง พทุ ธสาวก พทุ ธสาวิกา
และชาดกใน เรื่องราวการปฏบิ ัติตน ต้ังแต่
พระพุทธศาสนา
สมยั พทุ ธกาล
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ ๙
เรือ่ ง พทุ ธศาสนิกชนตวั อยา่ ง หากนำมาวเิ คราะห์จะได้

ข้อคดิ เพอื่ นำมาเปน็ แบบอย่าง

การดำเนินชีวติ ได้

ประวตั ขิ องพทุ ธศาสนกิ ชน ๑

ตัวอยา่ ง เป็นเรอ่ื งราวการ

ปฏิบตั ิตนของพุทธศาสนกิ ชน

ต้ังแต่สมยั พุทธกาลจนถงึ

ปัจจุบัน

หนว่ ยท่ี ช่ือหนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรียนรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคญั เวลา น้ำหนกั คะแนน
ตวั ชี้วัด / ผลการเรียนรู้ (ชม.) K A P รวม
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๐ หากนำมาวิเคราะหจ์ ะได้
เรอื่ ง ชาดก ศาสนิกชนตวั อย่างตามท่กี ำหนด ขอ้ คดิ เพอ่ื นำมาเปน็ แบบอยา่ ง ๑ 3-36
การดำเนินชีวติ ได้
๓ ศาสนพิธแี ละพิธกี รรมทาง แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี ๑๑ ส ๑.๑ ม.๔-๖/๑๔ ชาดกเปน็ เรือ่ งราวสมัย 1 ๒-46
ศาสนา เรื่อง ศาสนพิธี วเิ คราะห์ขอ้ คิดและแบบอยา่ ง พทุ ธกาล หากนำมาวิเคราะห์
การดำเนนิ ชวี ติ จากประวตั ิสาวก จะได้ข้อคดิ เพือ่ นำมาเปน็
ชาดก เร่อื งเล่า และ แบบอย่างการดำเนนิ ชีวิตได้
ศาสนกิ ชนตัวอยา่ งตามท่ีกำหนด
ส ๑.๒ ม.๔-๖/๒ ศาสนพธิ ี เป็นระเบียบแบบ
ปฏบิ ตั ิตนถกู ตอ้ งตามศาสนพธิ ิ แผนที่ควรปฏิบัติในทาง
พิธีกรรมตามหลกั ศาสนาทีต่ นนับ ศาสนา เปน็ การแสดงให้เห็น
ถอื ถงึ ความเจริญทางด้านจติ ใจ
ของผู้นับถือศาสนา การเขา้
ร่วมในศาสนพิธนี อกจากจะ
เปน็ การธำรงรกั ษาเอกลกั ษณ์
ของชาติ

หนว่ ยท่ี ช่อื หนว่ ยการเรยี นรู้ แผนการจัดการเรยี นรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคญั เวลา นำ้ หนกั คะแนน
ตวั ชวี้ ดั / ผลการเรียนรู้ (ชม.) K A P รวม
3๑5 9
ส ๑.๒ ม.๔-๖/๓ แล้ว ยังเป็นการสืบต่ออายุ
แสดงตนเป็นพุทธมามกะหรอื 5 ๑ 9 ๑5
แสดงตนเปน็ ศาสนกิ ชนของ พระพทุ ธศาสนาอีกดว้ ย
ศาสนาที่ตนนับถือ
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี ๑๒ การแสดงตนเป็นพทุ ธมามกะ 2
เร่ือง การแสดงตนเปน็ พุทธมามกะ ส ๑.๒ ม.๔-๖/๔
วเิ คราะหห์ ลกั ธรรม คตธิ รรมที่ เป็นการแสดงตนว่ายอมรับนับ
เก่ียวเนือ่ งกับวนั สำคญั ทาง
ถือพระพุทธเจ้าเปน็ ของตน

หรือยอมรบั นับถอื

พระพทุ ธศาสนาเปน็ ศาสนา

ประจำชีวติ ของตน มีการ

ปฏิบตั สิ ืบต่อกนั มาแต่คร้ัง

พทุ ธกาลเพอื่ ให้

พุทธศาสนกิ ชนไดแ้ สดงตน

และเห็นความสำคัญของชาว

พทุ ธ สามารถอยู่ร่วมกันกับ

ชาวพุทธทง้ั หลายได้

๔ หลกั ธรรม คตธิ รรมที่ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๑๓ ประเทศไทยมี ๓
เกยี่ วเนื่องกับวนั สำคัญทาง เรอื่ ง หลักธรรม คตธิ รรมที่เกี่ยวเน่อื งกบั วัน
ศาสนา สำคัญทางศาสนา พระพทุ ธศาสนาเป็นศาสนา

ประจำชาติ มีเทศกาล

หนว่ ยที่ ช่อื หน่วยการเรียนรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ สาระ / มาตรฐานการเรียนรู้ / สาระสำคญั เวลา นำ้ หนักคะแนน
ตวั ชว้ี ดั / ผลการเรียนรู้ (ชม.) K A P รวม

ศาสนา และเทศกาลที่สำคัญของ ประเพณีท่เี กีย่ วเน่ืองกบั วัน

ศาสนาท่ีตนนบั ถอื และปฏบิ ัติตน สำคัญตา่ ง ๆ มากมาย วนั

ได้ถกู ตอ้ ง สำคญั ทางพระพทุ ธศาสนา

ของไทยมอี ยหู่ ลายวัน และใน

แตล่ ะวันก็มหี ลักธรรม คติ

ธรรม ทีเ่ อือ้ ใหพ้ ุทธศาสนกิ ชน

สามารถนำไปปรับใชใ้ นชีวิตได้

เป็นอยา่ งดี

รวม เวลา / คะแนน หน่วยการเรียน ๑๘ 28 4 38 7๐
สอบวัดผลกลางภาคเรียน
สอบวดั ผลปลายภาคเรยี น ๑ 5 1 4 1๐
รวมเวลาเรยี น / คะแนน ตลอดภาคเรยี น
๑ 9 1 10 2๐

๒๐ 4๒ 6 52 ๑๐๐

เกณฑก์ ารวัดและประเมนิ ผล

1. อตั ราสว่ นคะแนน หน่วยการเรยี น : กลางภาคเรียน : ปลายภาคเรยี น = 7๐ : 1๐ : 2๐

1.1. รายละเอียดของการให้คะแนน

- ชน้ิ งาน 4๐ คะแนน

- แบบฝึกหัดท้ายหน่วย 1๐ คะแนน

- สอบเกบ็ คะแนน 2๐ คะแนน

1.2. สอบกลางภาค 1๐ คะแนน

1.3. สอบปลายภาค 2๐ คะแนน

รวม ๑๐๐ คะแนน

๒. การคิดระดับผลการเรียน ๐ – ๔๙ คะแนน
ระดับผลการเรียน ๐ ได้คะแนน ๕๐ – ๕๔ คะแนน
ระดับผลการเรียน ๑ ได้คะแนน ๕๕ – ๕๙ คะแนน
ระดับผลการเรียน ๑.๕ ได้คะแนน ๖๐ – ๖๔ คะแนน
ระดับผลการเรยี น ๒ ได้คะแนน ๖๕ – ๖๙ คะแนน
ระดบั ผลการเรียน ๒.๕ ได้คะแนน ๗๐ – ๗๔ คะแนน
ระดับผลการเรียน ๓ ได้คะแนน ๗๕ – ๗๙ คะแนน
ระดับผลการเรยี น ๓.๕ ได้คะแนน ๘๐ – ๑๐๐ คะแนน
ระดบั ผลการเรยี น ๔ ได้คะแนน


Click to View FlipBook Version