The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ประวัติของอิซานางิกับอิซานามิ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ประวัติของอิซานางิกับอิซานามิ

ประวัติของอิซานางิกับอิซานามิ

zanagi zanami I


ตำ นานของศาสนาที่นิยมของญี่ปุ่น เกิดขึ้นจากประเพณีปากเปล่าที่ประมวล ผลสำ หรับลูกหลานในหนังสือสองเล่ม ได้แก่ นิฮงโชกิ ซึ่งจัดพิมพ์ในปี คริสตศักราช 720 และโคจิกิ เขียนโดยเจ้าหน้าที่ของจักรพรรดินีเจมเมียวระ หว่างปีคริสตศักราช 708 ถึง 714 แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม Kogoshui เขียนเมื่อ ประมาณ ค.ส.ศ. 807 โดยอิมิเบะ-โนะ-ฮิโรนาริผู้รวบรวมประเพณีปากเปล่า ซึ่งละเลยจาก นิ ฮงโชกิ และโคจิกิ อิซานามิ ('เธอผู้เชิญชวน') และอิซานางิ ('ผู้ที่เชิญชวน') เป็นเทพเจ้าในยุค ดึกดำ บรรพ์ของศาสนาชินโต เชื่อกันว่าเป็นผู้สร้างหมู่เกาะในญี่ปุ่น และให้ กำ เนิดเทพเจ้า ชินโตหรือคามิ องค์อื่นๆ มากมาย 1


ญี่ปุ่นเชื่อมาแต่โบราณและบันทึกไว้ในคัมภีร์หรือบันทึกประวัติศาสตร์โบราณ 2 เล่มที่มีชื่อเรียกว่า “โคจิกิ (kojiki)” (บันทึกเรื่องราวโบราณ) หรือ “นิฮอน โชกิ (Nihon Shoki)” (บันทึกประวัติศาสตร์ญี่ปุ่น) ที่เกิดขึ้นภายหลัง โคจิกิ ประมาณ 8 ปี บันทึกทั้ง 2 เล่มนี้ล้วนแต่เล่าถึงการสร้างประเทศญี่ปุ่นขึ้นว่า พระเจ้า ที่ชาวญี่ปุ่นเรียกว่า “คามิ (kami)” นั้นเป็นผู้สร้างญี่ปุนและเผ่าพันธุ์ ชาวญี่ปุ่นขึ้น ตามตำ นานกล่าวว่า หลังจากจักรวาลซึ่งอยู่ในสภาพที่ไร้รูปแบบ ไร้สภาวะ มืดมิด และเงียบสบมาเป็นวลานาน ก็เกิดเสียงดังสะท้านขึ้น เกิด การเคลื่อนไหวของบางสิ่งบางอย่าง ปฐมภูมิเทพ 5 พระองค์ 2


เทพเจ้าทั้ง 5 พระองค์นี้ถือเป็นเทพสูงสุดตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นโบราณ หรือ โคโตอมัตสึคามิ (Kotoamatsukami) และถือเป็นเผ่าพงศ์เทพรุ่นแรกผู้ สร้างสรรพสิ่งขึ้น โดยเป็นเทพที่เป็นเอกเพศ หรือไม่มีการแบ่งเพศแต่อย่างใด ในรุ่นนี้ และเป็นเทพที่ไร้รูปไร้ตัวตนแฝงเร้นกายอยู่ในอากาศธาตุ จึงไม่มีผู้ใด สามารถเห็นพระองค์ได้ สถิต ณ ดินแดนสวรรค์ที่เรียกว่า “ทาคามะกา-ฮาระ (Takamagahara)” 3


คูนิโนะโตโคทาชิ (Kuninotokotachi) โตโยคุโมโนะ (Toyokumono) ส่วนอีก ลำ ดับวงศ์ซึ่งปรากฎเป็นคู่เทพและเทพีคือ อูฮิจินิ (Uhjin) กับ ซูฮิจินิ (Suhjjini) สึนูกุฮิ (Tsunuguhi) กับ ฮิคูกุฮิ (kuguhi) โอโตโนจิ (Otonoj) กับ โอโตโนเบะ (Otonobe) โอโมดารุ (Omodaru) กับ อยาคาชิโกเนะ (Ayakashikone) อิซานางิ (Izanagi) กับ อิซานามิ (Izanami) สำ หรับเทพรุ่นต่อมาภายหลังจากกำ เนิดสวรรค์กับโลกขึ้นแล้วก็คือรุ่นที่เรียก ว่า คามิโยะนานาโยะ (Kamiyonanayo) เทพรุ่นที่สองนี้ สององค์ แรกเป็น เทพเอกเพศเช่นเดียวกัน แต่นับจากลำ ดับที่ เป็นต้นมาจะเป็นเทพ ชายหญิงคู่ กันมีอีก 5 ลำ ดับวงศ์ด้วยกัน เทพเอกเพศ 2 ลำ ดับแรกนั้นคือ 4


หมู่เกาะของญี่ปุ่นเป็นเรื่องของตำ นานการกำ เนิดที่มีสีสันเป็นพิเศษ ยืนอยู่บน สะพานหรือบันไดแห่งสวรรค์ (รู้จักกันในชื่ออามะโนะฮาชิดาเตะและเชื่อมต่อ สวรรค์ - อามะ - สู่โลก) เทพเจ้าทั้งสองอิซานามิและอิซานางิใช้หอกที่หุ้มห่อ อัญมณีเพื่อปลุกปั่นมหาสมุทร เมื่อดึงหอกออก เกลือก็ตกผลึกเป็นหยดที่ ปลาย และเกลือเหล่านี้ก็ตกลงสู่มหาสมุทรเป็นเกาะ ในอีกเวอร์ชันหนึ่ง หอก หยดโคลนจากทะเลที่ยังมืดมนและวุ่นวาย การกำกำเนินินินิดของญี่ ญี่ปุ่ปุ่ ญี่ญี่ ปุ่ปุ่ น ปุ่ปุ่ 5


เกาะแรกที่ถูกสร้างขึ้นคือโอโนะโกโระชิมะ และเหล่าเทพเจ้าก็ใช้เกาะนี้ทันที เพื่อสร้างบ้านและจัดพิธีแต่งงาน พิธีกรรมเกี่ยวข้องกับการวนรอบเสา (หรือ หอกในบางแบบ) โดยให้เทพเจ้าทั้งสองเคลื่อนไปในทิศทางตรงกันข้าม อย่างไรก็ตาม ในระหว่างพิธีกรรมการแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์นี้ อิซานามิพูดผิด เป็นคนแรกเมื่อพวกเขาเดินผ่านกัน และผลที่ตามมาของความไม่ซื่อสัตย์นี้ ลูก คนแรกของพวกเขาจึงแท้งบุตรและเกิดมาเป็นคนอ่อนแอน่าเกลียดไม่มี กระดูก นี่คือเทพเจ้าฮิรุโกะ (ต่อมาคือเอบิสุ) ซึ่งต่อมาได้กลายเป็นผู้อุปถัมภ์ ชาวประมง และเป็นหนึ่งในเทพเจ้าแห่งความโชคดีทั้งเจ็ด ฮิรุโกะถูกพ่อแม่ ทอดทิ้งและใส่ตะกร้าให้ทะเลพาไปในที่ที่ต้องการ ลูกคนที่สองคือเกาะอาวะ แต่อิซานามิและอิซานางิยังไม่พอใจกับลูกหลานของพวกเขา และพวกเขาก็ ถามพ่อแม่ของพวกเขาเกี่ยวกับเทพเจ้าที่มองไม่เห็นทั้งเจ็ดถึงสาเหตุของความ โชคร้ายของพวกเขา ทั้งคู่เปิดเผยว่าเหตุผลก็คือการปฏิบัติตามพิธีกรรมการ แต่งงานที่ไม่ถูกต้อง ทั้งคู่จึงทำ พิธีซ้ำ คราวนี้ทำ ให้แน่ใจว่าอิซานางิพูดก่อน จากนั้น ทั้งคู่ยังคงสร้างลูกหลานที่เป็นมงคลต่อไป ซึ่งรวมถึงเกาะหลัก 8 เกาะ ของญี่ปุ่น 6


องค์เทพและเทพีลำ ดับที่ 7ในรุ่นที่สองคือ อิซานางิ กับ อิซานามิ นี้เอง ที่ต่อ มาได้เป็นผู้สร้างแผ่นดินญี่ปุ่นขึ้น โดยก่อนที่จะเกิดแผ่นดินขึ้นนั้น โลกยัง เต็ม ไปด้วยทะเล โคลนตม และกอสวะต่างๆลอยไปมา อิซานางิ และ อิซานามิ จึง ได้รับมอบหมายจากเหล่าเทพให้เป็นผู้สร้างแผ่นดินขึ้น โดยได้รับมอบหอก เล่มหนึ่งที่ประดับด้วยยอัญมณีมีชื่อเรียกว่า “อเมโนะนุโฮโกะ (Amenonuhoko)” หรือ “หอกอัญมณีแห่งสรวงวรรค์” ทั้งสองจึงลงมายืน อยู่กลางสะพาน อเมโนะอูกิฮาชิ (Amenoukihashi) ซึ่งเป็นสะพานเชื่อม ระหว่างสวรรค์และโลก แล้วใช้หอกเล่มนั้นทำ การกวนน้ำ ทะเลจนโคลนตมเริ่ม ข้น และกลายเป็นเกาะแห่งหนึ่ง จากนั้นทั้งสองก็ลงจากสะพานไปสร้างเวียง วังอยู่บนเกาะที่เกิดขึ้นใหม่นี้ และได้สืบทายาทขึ้น 2 คนนามว่า ฮิรูโกะ (Hiruko) กับ อวาชิมา (Awashima) ซึ่งมีรูปร่างอัปลักษณ์ไม่เหมือนกับที่สืบ เผ่าพงศ์มาจากเทพแต่มีรูปร่างอัปลักษณ์ 7 กำกำเนินินินิดเกาะทั้ ทั้ ทั้ทั้ ง 8 แห่ ห่งญี่ ญี่ปุ่ปุ่ ญี่ญี่ ปุ่ปุ่ น ปุ่ปุ่


ซานางิ กับ อิซานามิ จึงได้นำ เด็กทั้งสองไปลอยทะเลเพื่อให้เด็กทั้งสองเป็นไป ตามชะตากรรม ฮิรูโกะ นั้นในภายหลังลอยไปติดชายฝั่งเกาะฮอกไกโด และ ถูกชาว ไอนุ นำ ไปเลี้ยง ซึ่งต่อมาได้เป็นเทพ เอบิสึ (Ebitsu) เทพแห่งการหา ปลา ส่วน อวาชิมา ได้กลายไปเป็นเกาะแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในทะเลญี่ปุ่น ซานากิ และ อิซานามิ พกความผิดหวังไปหาเหล่าเทพแล้วถามว่า ทั้งสองได้ทำ อะไรผิด จึงได้มีบุตรรูปร่างอัปลักษณ์เช่นนั้น เหล่าเทพองค์อื่นๆ จึงได้เฉลยว่า เป็นเพราะทั้งสองกระทำ ผิดระหว่างที่เข้าพิธีสมรสกัน เมื่อทราบ ความดังนั้นแล้วทั้งสองจึงได้กลับไปกระทำ พิธีสมรสขึ้นใหม่อีกครั้งให้ถูกต้อง 8


อวาจิ (Awaji) อิโยะ (Iy๐) โอกิ (Oki) สึกูชิ(Tsukushi) อิกิ (Iki) สึชิมา (Tsushima) ซาโดะ (Sado) ยามาโตะ (Yamato) และนับจากนั้นมาทุกสิ่งทุกอย่าง ก็จึงเริ่มเข้ารูปเข้ารอย แล้วให้กำ เนิดเกาะ ขึ้นอีก 8 เกาะ คือ 9


อิซานางิ (ญี่ปุ่น: イザナギ; โรมาจิ: Izanagi) เทพกำ เนิด เจ้าแห่ง ท้องฟ้า,แสงสว่าง และสรวงสรรค์ มีง้าวเป็นอาวุธ มีภรรยาและน้องสาวคือ อิ ซานามิ ปฐมเทพี เจ้าแห่งโลก,ผืนแผ่นดิน และความมืด มีกระจกทองแดงห้อย คอเป็นของวิเศษประจำ ตัว ซึ่งส่องแสงระยิบระยับทำ ให้โลกอันมืดมิดสว่างขึ้น แสงสว่างจากกระจกทองแดง ได้สะท้อนกับละอองน้ำ ในอากาศท่ามกลางหมู่ เมฆที่รวมตัวกัน ก่อกำ เนิดสะพานสายรุ้ง อามา โน อูกิฮาชิ ซึ่งลอยไปถึงสรวง สรรค์ อิซานางิ 10


เมื่ออิซานามิได้เห็นสะพานสายรุ้ง ก็ได้กล่าวขึ้นว่า "อา ช่างเป็นสายรุ้งที่ สวยงามอะไรเช่นนี้ เราลองปีนขึ้นไปบนสายรุ้งกันเถิด" แล้วทั้งสองก็ปีนขึ้นไป บนสะพานสายรุ้ง และมองลงไปที่พื้นดิน อิซานามิ ก็กล่าวขึ้นว่า "พื้นดินเป็น ทะเลโคลนเช่นนี้ คงไม่มีสิ่งมีชีวิตใดสามารถอยู่ได้ และเราก็ไม่สามารถสร้างวัง ของเราขึ้นที่นี่ได้" ว่าแล้วอิซานางิก็เอาง้าวของเขาจุ่มลงในทะเลโคลนแล้วกวน ให้น้ำ แยกออกจากดิน ไปวนอยู่รอบๆบริเวณ และดินโคลนทั้งหลายก็รวมตัว อยู่ตรงกลาง เมื่อดึงง้าวขึ้นมา โคลนที่ติดอยู่กับง้าวก็หยดลงมากลายเป็นเกาะ โอโนโกโร เป็นเกาะแรกของหมู่เกาะญี่ปุ่น ที่ซึ่งเทพเจ้าและมนุษย์ได้อาศัย กำ เนิดขึ้นมา ทั้งคู่ได้สร้างเกาะญี่ปุ่น 40 เกาะและให้กำ เนิดเทพ 36 องค์ องค์ สุดท้ายคือ คากูทซึชิ เทพแห่งไฟ ที่เมื่อคลอดออกมาก็เผาผลาญ อิซานามิจน ตาย ไปอยู่นรก และกลายเป็นเทพีผู้ปกครองนรกบาดาล 11


หลังจาก อิซานามิตาย อิซานางิ ก็เอาแต่โศกเศร้า และเฝ้าคิดถึงภรรยา จึงลง ไปหาภรรยาในนรก แต่เมื่อได้พบ อิซานางิ ก็ตกใจกับรูปลักษณ์ของภรรยา ที่ เน่าเปื่อย กลายเป็นผีที่น่าเกลียด และแสดงอาการรังเกียจออกมา แต่ก็ได้ ร้องขอให้เธอกลับไปครองรักกันเหมือนเดิม แต่ อิซานามิ เห็นอาการของสามี ที่รังเกียจตน จึงปฏิเสธไม่ยอมกลับไปด้วย ทั้งสองจึงแยกจากกันชั่วนิรันดร์ หลังจาก อิซานางิ กลับมาจากนรก อิซานางิ รังเกียจภรรยาที่กลายเป็นผี จึง ปิดผนึกปากถ้ำ ที่เป็นทางลงไปสู่นรก 12


หลังจาก อิซานางิ กลับมาจากนรก อิซานางิ รังเกียจภรรยาที่กลายเป็นผี จึง ปิดผนึกปากถ้ำ ที่เป็นทางลงไปสู่นรก ด้วยความโกรธ ที่สามีของตนรังเกียจตน จึงอธิษฐานให้มนุษย์ ตายวันละ 1,000 คน แต่อิซานางิ ก็อธิษฐานให้ มนุษย์เกิดขึ้นมาวันละ 1,500 คน หลังจากนั้น อิซานางิ ได้ทำ พิธีชำ ระล้างมลทินเป็นครั้งแรก เขาล้างตาซ้ายของเขา มีน้ำ ตาหยดออกมา หลอมตัวก่อกำ เนิดเป็น เทพีแห่ง สุริยะ อามาเตราซุ เมื่อเขาล้างตาขวาของเขา น้ำ ตาร่วงหล่น หยดออกมา หลอมตัวก่อกำ เนิดเป็น เทพแห่งจันทรา สึกูโยมิ เป็นอันดับถัดมา และน้ำ มูก จากจมูกของเขา ได้ให้กำ เนิดซูซาโนโอะ เทพแห่งวายุ 13


อิซานามิ (ญี่ปุ่น: イザナミ; โรมาจิ: Izanami) เป็นหนึ่งในความเชื่อ เทพเจ้าญี่ปุ่น เป็นน้องสาว และเป็นภรรยาของอิซานางิ หลังจากที่อิซานามิ สิ้นชีวิตลงจากการให้กำ เนิดเทพอัคคีแล้ว ร่างของนางได้ ตกลงไปสู่ โยมะ (แผ่นดินแห่งความมืดมน) ตอนแรกนางยังไม่สามารถทำ ใจได้ แต่ในที่สุดนางก็ยอมรับในสถานะของตนเอง และสร้างพระราชวังขึ้น ณ ดิน แดนโยมะนั้นเอง อิซานามิ 14 14


อิซานางิ ผู้เป็นพี่ชาย และเป็นสามี รู้สึกอาลัยอาวรณ์ อิซานามิผู้เป็นภรรยา จึงได้ลงไปตามหาอิซานามิในโยมะ เขาได้พบกับอิซานามิที่อยู่ในความมืดแห่ง ดินแดนโยมะ อิซานามิขอร้องให้อิซานางิลืมตน แล้วกลับไปยังโลกเบื้องบน เสีย อิซานางิไม่ยอม จะให้อิซานามิกลับไปด้วยกันให้ได้ แต่เมื่ออิซานางิได้เห็น สภาพของอิซานามิอย่างชัดเจน ร่างกายของอิซานามิเริ่มแปรเปลี่ยนสภาพไป เป็นคนที่ตายแล้ว จึงเริ่มเกิดความหวาดกลัว อิซานางิรีบหันหลังหนีกลับทันที เมื่ออิซานามิได้เห็นดังนั้น ทำ ให้รู้ว่าสามีของตนหมดรักตนแล้ว เนื่องจาก สภาพร่างกายของอิซานามิที่แปรเปลี่ยนไปหลังจากที่ได้ล่วงสู่ดินแดนโยมะ ทำ ให้อิซานามิโกรธแค้นเป็นอันมาก ได้ติดตามอิซานางิไปอย่างรวดเร็วในทันที 15


อิซานางิเมื่อเห็นอิซานามิติดตามมาก็เกิดความหวาดกลัวเป็นอย่างมาก เขา เร่งฝีเท้าเร็วขึ้น อิซานามิได้สั่งให้กองทัพภูตซึ่งอยู่ใต้อาณัตของนางไล่ตามอิซา นางิไป อิซานางิเมื่อเห็นจวนตัวจึงได้นำ เมล็ดผลไม้โยนลงบนพื้น เมล็ดผลไม้ก็ งอกขึ้นมากลายเป็นต้นไม้ ภูตส่วนหนึ่งหยุดกินลูกไม้ที่งอกขึ้นมา อิซานามิไม่ละควมพยายาม นางให้แม่เฒ่าแห่งโยมะไล่ติดตามอิซานางิไปอีก อิซานางิได้โยนเมล็ดผลไม้ที่เหลือลงไปบนพื้น ก็งอกขึ้นมาอีก แม่เฒ่าแห่งโย มะจึงได้หยุดกิน เหลือเพียงอิซานามิที่ยังติดตามมาจนเกือบถึงทางออกโยมะ อิซานางิได้นำ เอาหินก้อนใหญ่ปิดทางเข้าออกไว้ อิซานามิไม่สามารถติดตาม ออกมาได้ จึงได้ยืนด่าทออิซานางิด้วยความเกรี้ยวกราด และขอตัดพี่ตัดน้อง ตัดความรักความอาวรณ์ต่ออิซานางิผู้เป็นพี่ชาย และสามี 16


นอกจากนี้ อิซานามิได้ประกาศกร้าวแก่สามีของนางว่า นางจะทำ ให้คนบน โลกตายลงวันละ 1,000 คนเพื่อเป็นการตอบแทนความแค้นแก่อิซานางิ อิซา นางิก็ประกาศว่า ถ้าอย่างนั้นตนก็จะให้มนุษย์ถือกำ เนิดขึ้นมาวันละ 1,500 คน เพื่อให้การเกิดตายบนโลกสมดุลกัน ด้วยเหตุนี้ อิซานามิ จึงได้ถูกยกให้มีฐานะเป็นเทพีแห่งการสร้าง และความ ตาย นอกจากนี้ นางยังนับเป็นราชินีผู้เป็นใหญ่ที่สุดของยมโลกที่มีพลังอำ นาจ สูงสุด และเป็นมารดาของเหล่าอสูรทั้งมวลของญี่ปุ่นอีกด้วย 17


เมื่อเข้าถึงโลกภายนอกได้ในที่สุด อิซานางิก็ปิดทางเข้าโยมิด้วยก้อนหินขนาด มหึมา โชคดีที่รอดพ้นจากสถานที่แห่งความมืดอันเลวร้ายเช่นนี้โดยไม่ได้รับ อันตราย เทพเจ้าจึงต้องทำ พิธีกรรมชำ ระล้างในแม่น้ำ Woto เพื่อกำ จัดสิ่ง สกปรกในยมโลก ในระหว่างพิธีกรรมเหล่านี้เองที่เทพเจ้าต่างๆ เกิดขึ้น: อามา เทราสึเทพีแห่งดวงอาทิตย์ เมื่อเขาล้างตาซ้ายของเขา ซึกิโยมิ เทพเจ้าแห่งดวง จันทร์ เมื่อเขาล้างตาขวาของเขาซูซาโนโอะ (หรือทาเคฮายะ- สุสะ - no-wo) เทพเจ้าแห่งพายุ เมื่อเขาล้างจมูกและชินะสึฮิโกะ เทพเจ้าแห่งลมก็ถือกำ เนิด จากลมหายใจของอิซานางิ นอกจากนี้ เมื่อเขาทิ้งเสื้อผ้าที่เปื้อนของเขาลงใน แม่น้ำ ก็มีเทพเจ้าอีกสิบสององค์เกิดขึ้นจากชิ้นส่วนทั้งสิบสองชิ้นนี้ จากการ อ้างอิงถึงตอนนี้ การฝึกฮาไรหรือการ ทำ ความสะอาดก่อนเข้าศาลเจ้าอันศักดิ์สิทธิ์ ( จินจะ ) ได้กลายเป็นส่วนสำ คัญของพิธีกรรมชินโต การกำกำเนินินินิดของเทพเ ดของเทพเจ้ จ้าชิชินโต 18


อามาเทราสึ โอมิคามิ (Amaterasu Omikami) ถือกำ เนิดขึ้นมาจากน้ำ ตาที่ ไหลจากตาซ้ายของ เทพอิซานากิ ระหว่างที่กำ ลังทำ พิธีชำ ระล้าง มีเทพที่ถือ กำ เนิดพร้อมๆ กันอีก 2 องค์ คือ เทพจันทรา สึคุโยมิ (Tsukuyomi) ซึ่งเกิด ขึ้นมาจากน้ำ ตาที่ไหลจากตาขวา กับเทพวายุ และสายฟ้า สุซาโนะโอ (Susanoo) ซึ่งเกิดขึ้นมาจากน้ำ ที่ไหลผ่านจมูกของเทพอิซานากิ เมื่อรวมกับ อามาเทราสึแล้วจะได้ 3 เทพที่ถือว่ามีความสำ คัญ และเป็นต้นกำ เนิดของการ ทำ พิธีหลายๆ อย่างในญี่ปุ่น โดยทั้ง 3 องค์ยังได้รับหน้าที่ที่แตกต่างกันออกไป โดยอามาเทราสึ รับหน้าที่ปกครองดวงอาทิตย์ หรือช่วงเวลากลางวัน และ สรวงสวรรค์ สึคุโยมิ รับหน้าที่ปกครองช่วงเวลากลางคืน และสุซาโนะโอ ปกครองท้องทะเล อยู่มาวันนึง อามาเทราสึก็ไปมีเรื่องกับสุซาโนะโอ และครั้งนั้นสุซาโนะโอก็ อาละวาดหนักมากจนปั่นป่วนทั่วทั้งแดนสวรรค์ และโลกมนุษย์ แถมยังฆ่าม้า ถลกหนังแล้วโยนเข้าไปในห้องทอผ้าของอามาเทราสึ เลยทำ ให้นางโกรธมาก แต่ก็ไม่รู้ว่าจะตอบโต้อย่างไร จึงเสียใจ และเข้าไปหลบอยู่ในถ้ำ แถมยังเอาหิน ก้อนยักษ์ปิดปากทางเข้าจนเสร็จสรรพ กะว่าจะไม่ออกมาจนกว่าจะหายโกรธ ปัจจุบันเชื่อกันว่าถ้ำ ที่นางเข้าไปหลบ อยู่ที่ ศาลเจ้าอามาโนะ อิวาโตะ (Amano Iwato Shrine) จังหวัดมิยาซากินั่นเอง ใครอยากเห็นเข้าไปชมได้ใน ตำ นาน 9 เทพเจ้าญี่ปุ่น และ ศาลเจ้าสิงสถิต ขลังสุดในญี่ปุ่น 19 การกำกำเนินินินิดอามาเตรา ดอามาเตราซุ ซุ


เมื่อเทพีแห่งแสงอาทิตย์หายตัวเข้าถ้ำ ไป ความวุ่นวายระดับจักรวาลย่อม บังเกิด โลกทั้งใบตกอยู่ในความมืด ลำ บากกันถ้วนหน้าทั้งเทพ และมนุษย์ ทำ ให้เทพทั้งหมด 800 องค์ต้องมารวมตัวกัน วางแผนล่อให้อามาเทราสึออก มาจากถ้ำ โดยใช้สารพัดวิธีแต่ก็ไม่เป็นผล กระทั่งมาถึงกลอุบายของเทพีแห่ง การร่ายรำ อาเมโนสุเมะ ที่ตั้งใจเต้นท่าประหลาด จนสร้างเสียงหัวเราะจาก เหล่าทวยเทพอย่างมากมาย ขณะเดียวกันก็แอบไปติดกระจกโดยหันไปทางถ้ำ ให้สะท้อนงานรื่นเริงเพื่อล่อให้เธอออกมาดู อามาเทราสึเองก็เกิดอยากรู้อยากเห็นจนเผลอแง้มก้อนหินเดิน ออกจากถ้ำ มา พอเหล่าเทพสบโอกาส ก็รีบจับตัวอามาเทราสึไว้ พร้อมกับเอา เชือกชิเมะนาวะ (เชือกมัดใหญ่ทำ จากฟางข้าว) มาผูกปิดก้อนหินยักษ์หน้า ปากถ้ำ เพื่อกันไม่ให้อามาเทราสุหนีกลับไปในถ้ำ ได้อีก 20


สึกูโยมิ (ญี่ปุ่น: ⽉読; โรมาจิ: Tsukuyomi) เป็นจันทรเทพในศาสนาชินโต และคติชนญี่ปุ่น สึกูโยมิเป็นบุตรองค์ที่สองในบรรดาพี่น้องสามคนที่กำ เนิดขึ้น มาเมื่อเทพอิซานางิ เทพผู้ให้กำ เนิดผืนแผ่นดินแห่งแรกได้แก่เกาะโอโนโงโระ ได้อาบน้ำ เพื่อชำ ระล้างตัวเองจากมลทินภายหลังเดินทางไปโลกบาดาลเพื่อ พบเทพีอิซานามิ ภริยาที่ตายแล้ว ด้วยความรังเกียจรูปลักษณ์ของภริยาจึงหนี กลับมายังโลก เมื่อกลับมายังโลกจึงอาบน้ำ ชำ ระล้างตัวเอง ระหว่างที่ชำ ระ ล้างดวงตาข้างขวานั้น ก็เกิดขึ้นมาเป็นสึกูโยมิ[1] ภายหลังสึกูโยมิได้ปีนบันไดขึ้นไปบนสวรรค์และอาศัยอยู่บนนั้น และแต่งงาน กับพี่สาวตัวเอง สุริยเทพีอามาเตราซุ จนกระทั่งวันหนึ่งสึกูโยมิได้พบว่า เบื้อง หลังการเตรียมกระยาหารที่เลิศรสนั้น อูเกโมจิ เทพีแห่งสรรพาหาร ได้ดึงออก มาจากดวงตา จมูก ปาก และทวารหนักของนาง ด้วยความรังเกียจ เขาจึงได้ บันดาลโทสะสังหารนาง[1] เมื่อเรื่องทราบถึงสุริยเทพี นางจึงโกรธสึกูโยมิมาก และไม่ขอพบกันอีก นับแต่นั้นดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ก็ไม่เคยได้พบกันอีก เลย สึกูโยมิมีศักดิ์เป็นปู่ของทวดของคามูยามาโตะ อิวาเรบิโกะ ปฐมจักรพรรดิแห่ง ญี่ปุ่น 21 การกำกำเนินินินิดสึสึกู กูโยมิ มิ


ซูซาโนะโอะ เป็นน้องชายของเทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ อะมะเตะระสุ และ เทพเจ้าแห่งดวงจันทร์ สึกูโยมิ โดยเทพเจ้าสามองค์ถือกำ เนิดจากเทพ อิซะ นะงิ เทพแห่งลมพายุ และเจ้าแห่งงู ผู้ปกครองปีศาจ เขากำ เนิดจากจมูกของอิซะ นะงิ และได้รับการมอบหมายให้ปกครองทะเล แต่ด้วยความที่เขาเป็นเทพเจ้า ที่กล้าหาญ หัวแข็ง ไม่ยอมอยู่ภายใต้กฎใดๆ และใจร้อนหุนหันพลันแล่น เขา ทำ ลายทุกสิ่งไปทั่วไม่จำ กัดอยู่แต่ในทะเล เขาได้ส่งพายุไปทำ ลายทุกสิ่งบนแผ่นดิน และปกคลุมจนท้องฟ้าดำ มืด นั่น ทำ ให้เทพเจ้าทั้ง 8 ล้านองค์พิโรธ และประชุมตัดสินลงโทษการก่อกวนเล็ก น้อยๆ ของเขา โดยเฉพาะการต่อต้าน อะมะเตะระสุพี่สาวของเขา เขาถูกตัด หนวดเครา, เล็บมือ, ยึดดินแดนที่เขาครอบครองทั้งหมด และขับไล่ไปโลก มนุษย์ การกำกำเนินินินิดสึสึกู กูโยมิ มิซู ซูซาโนโอะ ซาโนโอะ 22


เขาได้ผจญภัยไปทั่ว และได้ปราบ ยามาตะ โนะ โอโรชิ เป็นงูใหญ่ 8 หัว 8 หาง มีดวงตาแดงก่ำ ลำ ตัวมีตะไคร่น้ำ และต้นฉำ ฉางอกอยู่ และที่หางมีดาบคุ ซะนะงิ โนะ สึรุงิ ("ดาบปราบหญ้า" - ดาบวิเศษมีปลาย 7 แฉกเป็นตัวแทน ของสายฟ้า) ปักอยู่ ซึ่งได้ลักพาตัวสาวในหมู่บ้านเจ็ดคน และขณะที่มาลักพา ตัวสาวคนที่แปด ซูซาโนะโอได้หลอกมอม ยามาตะ โนะ โอโรชิ ให้ดื่มสาเก 8 ไหสำ หรับแต่ละหัว หลังจากเมาแล้วซุซะโนะโอได้ใช้ดาบกำ จัดยะมะตะ โนะ โอโรจิลงได้หลังจากยะมะตะ โนะ โอโรจิเมาและนำ ดาบคุซานางิ โนะ สึรูงิ ออกมาจากหางและถวายแด่เทพีอามเทราสึ ทำ ให้ซุซะโนะโอพ้นจากคดี สามารถกลับสวรรค์ได้แล้ว แต่ซุซาโนะโอยังคงพอใจที่จะท่องแดนมนุษย์ต่อไป ต่อมาเขาแต่งงานกับ คุชินาดะ สร้างวังที่ซึงะ ในเมืองอิซึโมะ ต่อมาได้ย้ายไปที่ เมืองเนโนะคุนิ และปราบโรคระบาด 23


อิซานามิถูกไฟไหม้อย่างหนักเมื่อเธอให้กำ เนิดคากุสึจิ และว่ากันว่าคามิ จำ นวนมาก เกิดจากน้ำ ตาของเธอขณะที่เธอได้รับบาดเจ็บจนในที่สุดเธอก็เสีย ชีวิต การแก้แค้นดำ เนินไปอย่างรวดเร็ว ขณะที่อิซานากิฟันเทพไฟเป็นชิ้น ๆ ด้วยดาบของเขา ว่ากันว่ามีเทพองค์ใหม่ๆ มากมายผุดขึ้นมาจากแต่ละชิ้นส่วน ของเทพเจ้า อิซานางิไม่สามารถอยู่ได้โดยปราศจากภรรยาที่รักของเขา เขารีบ ตามเธอลงไปในยมโลกหรือโยมิ (เรียกอีกอย่างว่าเน-โนะ-คุนิ ดินแดนแห่งราก เหง้า และโซโกะ-โนะ-คุนิ ดินแดนกลวง) น่าเสียดายที่เขาไม่สามารถช่วยเหลือ อิซานามิได้เนื่องจากเธอได้กินอาหารในยมโลกไปแล้ว จึงถูกห้ามไม่ให้กลับไป ยังอาณาจักรแห่งชีวิต อย่างไรก็ตาม อิซานามิร้องขอให้เหล่าเทพเจ้ายกเว้น และให้อิซานางิสัญญาว่าเขาจะอดทนและไม่พยายามพบเธอในสภาพปัจจุบัน ของเธอ อย่างไรก็ตาม กระบวนการปล่อยตัวนั้นใช้เวลานาน และอิซานางิผู้ ใจร้อนก็ทนรอไม่ไหวอีกต่อไป จึงพยายามจะพบคนรักของเขา แต่เขาก็ตก ตะลึงเพราะเมื่อเขาเห็นเธอ ร่างของเทพธิดาก็สลายตัวไปแล้ว อิซานามิไม่ พอใจอย่างยิ่งที่สามีของเธอผิดสัญญาและเห็นเธออยู่ในสภาพเช่นนี้ แต่ที่แย่ กว่านั้นคือ สายฟ้าทั้งแปดและสตรีน่าเกลียดไล่ล่าเทพเจ้าออกจากยมโลก ใน ระหว่างที่เขาล่าถอย อิซานางิหยุดการไล่ตามฟ้าร้องโดยขว้างไม้ของเขา ( คุ นาโดะ-โนะ-คามิ ) ไปตามทางของพวกเขา และในขณะนั้นเองที่เทพเจ้าแห่ง ถนนทั้งสอง ชิมาตะ-โนะ-คามิ และ ยาชิมาตะ-ฮิโกะ ถูกสร้างขึ้น (เรียกรวม กันว่า ซาเอะโนะคามิ หรือ โดโซจิน) 24 ความตายและการแก้แค้น ของอิซานามิ ความตายและการแก้แค้น ของอิซานามิ


Click to View FlipBook Version