The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

สูจิบัตรโครงการสัมมนา

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 6240119107, 2022-04-29 00:22:30

สูจิบัตรโครงการสัมมนา

สูจิบัตรโครงการสัมมนา

โครงการสั มมนา

สาขาวิชานาฏศิ ลป์ไทย
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสี มา



วันศุกร์ศุกร์ ที่ 29 เมษายน พ.ศ .2565

ตั้งแต่เวลา 08:30-17:00 น.
ณ ชั้น 5 อาคารสำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสี มา

สารคณบดีครุศาสตร์

ความสำคัญของโครงการ และการวิจัยนี้เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยพัฒนาทักษะทางด้านกระบวนการทางความคิด
การออกแบบสร้างสรรค์ผลงานทางด้านนาฏศิลป์ และเป็นการนำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นจากพื้นที่ต่างๆในจังหวัด
นครราชสีมา นำมาเผยแพร่เป็นการแสดงและนำเสนอในรูปแบบบทความประกอบการสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์
เพื่อให้สอดคล้องกับการศึกษารายวิชาการวิจัยทางด้านนาฏศิลป์และรายวิชาสัมมนาทางด้านนาฏศิลป์ ซึ่งการจัด
โครงการนี้ เป็นโอกาสอันดี ที่นักศึกษาจะมีความรู้เกี่ยวกับการสัมมนางานวิจัยและการแสดงต่างๆในการจัด
โครงการครั้งนี้ สามารถนำความรู้ที่ไปต่อยอดหรือเผยแพร่ให้กับเยาวชนรุ่นหลังได้รู้ต่อไป

ในการจัดสัมมนาครั้งนี้ผมรู้สึกได้ถึงความตั้งใจของผู้จัดที่จะนำเสนอความรู้ที่สำคัญให้กับผู้เข้าร่วม
สัมมนาทุกท่านหวังเป็นอย่างยิ่งว่าทุกท่านคงจะได้รับความรู้เพื่อนำกลับไปใช้ในการศึกษาและชีวิตประจำวัน
ของทุกท่าน ขอขอบคุณคณะผู้จัดการสัมมนา และผู้เกี่ยวข้องในการจัดสัมมนาทุกท่าน ขอให้การจัดสัมมนาครั้ง
นี้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของการจัดสัมมนา

(ดร.พงศ์เกษม สิงห์รุ่งเรือง)
รองคณบดีคณะครุศาสตร์มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

สารจากประธานโปรแกรม

การสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์เป็นภาระกิจสำคัญที่ผู้เรียนทางด้านนาฏศิลป์จำเป็นต้องคิดและสร้างสรรค์ผลงาน
อยู่ตลอดเวลาเพื่อพัฒนาองค์ความรู้และหาองค์ความรู้ใหม่มาเพิ่มพูนประสบการณ์เดิม อีกทั้งยังสามารถ
แสดงออกถึงศักยภาพในการบูรณาการศาสตร์แขนงต่างๆมาเสริมสร้างให้งานสร้างสรรค์มีความสมบูรณ์
สวยงาม ตามหลักสุนทรียะ เพื่อถ่ายทอดงานนาฏศิลป์สร้างสรรค์สู่สาธารณชน นอกจากนี้ยังเป็นการอนุรักษ์
และพัฒนาศาสตร์ทางด้านนาฏศิลป์อันเป็นมรดกอันล้ำค่าของชาติสืบไป

( ผู้ช่วยศาสตราจารย์นัยน์ปพร ชุติภาดา)
ประธานหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิตสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย

มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

สารจากอาจารย์ประจำรายวิชา



รายวิชาสัมมนาทางนาฏศิลป์เป็นรายวิชาที่นักศึกษาต้องประมวลองค์ความรู้จากหลายวิชา ที่เรียนมาตลอด
หลักสูตรนำมาบริหารจัดการให้เกิดเป็นรูปแบบงานวิชาการเป็นรายวิชาที่แสดงศักยภาพ ในด้านนาฏศิลป์ ด้านงานวิจัย
ด้านการจัดการ ทั้งในรูปแบบปกติ และรูปแบบพิเศษ

นักศึกษาชั้นปีที่สามปีการศึกษา 2564 นับว่าเป็นนักศึกษารุ่นแรกของการจัดการเรียนการสอนในหลักสูตรสี่ปี ดังนั้น
จึงถือได้ว่าเป็นรุ่นบุกเบิกในการจัดการเรียนรายวิชา สัมมนาทางด้านนาฏศิลป์ซึ่งจะไม่มีตัวอย่างจากรุ่นพี่นับว่าเป็นรุ่น
ต้นแบบในการจัดสัมมนาทางนาฏศิลป์โดยนำงานวิจัยมานำเสนอต่อสาธารณะชน

ขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จในการจัดงานของนักศึกษา สามารถนำงานวิจัย งานสร้างสรรค์ทางด้าน
นาฏศิลป์ มาสู่การจัดงานสัมมนานับได้ว่าเป็นการฝึกการทำงานที่ต้องมีความอดทน ความรัก ความสามัคคีร่วมกัน ได้
เรียนรู้การจัดการในทุกรูปแบบนับว่าเป็นประสบการณ์ตรง นับว่าเป็นโอกาสอันดี ขอให้กำลังใจนักศึกษาทุกคนร่วมมือ
ร่วมงานจนสำเร็จรุร่วงด้วยดี

(อาจารย์วิลาวัลย์ วัชระเกียรติศักดิ์ )
อาจารย์ประจำรายวิชา

อาจารย์พิเศษสาขาวิชานาฏศิลป์ไทยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

สารจากอาจารย์ประจำรายวิชา

หลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชา นาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้น
ในการพัฒนาศักยภาพนักศึกษาทั้งด้านวิชาการและการปฏิบัติการเรียนรู้ที่สนับสนุนให้นักศึกษาเกิดทักษะที่หลากหลาย
ผ่านการศึกษาทั้งภาคทฤษฏี การแสวงหาความรู้ การลงมือปฏิบัติ การดำเนินงานวิจัย เพื่อนำไปสู่กระบวนการจัดการ
ความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ พัฒนาองค์ความรู้และนำไปสู่การสร้างสรรค์ผลงานทางวิชาชีพด้านนาฏศิลป์รวมถึงบูรณา
การสู่การประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันที่สอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรมของตนต่อไปในอนาคต

โครงการ “สัมมนาทางนาฏศิลป์ในรูปแบบออนไลน์ ครั้งที่ 1” ที่ได้จัดขึ้นในครั้งนี้ เป็นกิจกรรมบูรณาการ
ระหว่างรายวิชานาฏศิลป์นิพนธ์ รายวิชาการวิจัยทางนาฏศิลป์ไทย และรายวิชาการสัมมนาทางนาฏศิลป์ เพื่อเป็นการ
นำเสนอผลงานวิจัยสร้างสรรค์ด้านนาฏศิลป์ในรูปแบบผลงานวิชาการ ที่ผ่านการประเมินจากผู้ทรงคุณวุฒิด้าน
นาฏศิลป์ โดยการจัดทำบทความและการนำเสนอภาคบรรยายด้วยผ่านระบบออนไลน์ ซึ่งผลการดำเนินงานนี้เป็นการ
แสดงถึงองค์รวมทางผลสัมฤทธิ์ ศักยภาพ สมรรถนะทางวิชาชีพด้านนาฏศิลป์ และบูรณาการสู่บริบททางวัฒนธรรม
ท้องถิ่นได้อย่างชัดเจน รวมถึงสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับหน่วยงาน องค์กร และสถาบันการศึกษา เพื่อนำไปสู่การ
พัฒนาความเข้มแข็งทางวิชาการ การเผยแพร่ได้อย่างกว้างขวางเกิดการยอมรับในระดับสากล

ในฐานะอาจารย์ประจำรายวิชา ขอขอบพระคุณผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่าน ที่ได้เสียสละ ทุ่มเท ร่วมแรงร่วมใจ
ในการขับเคลื่อนงานจนสำเร็จลุล่วงตามวัตถุประสงค์ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ผลการดำเนินงานในครั้งนี้จะก่อเกิด
เป็นประโยชน์ทางวิชาการ เป็นแนวทางในการศึกษา การพัฒนาผลงานทางวิชาชีพด้านนาฏศิลป์ และการนำไปใช้
ประโยชน์ในเชิงสาธารณะต่อไปในอนาคต

(ผู้ช่วยศาสตราจารย์ เรขา อินทรกำแหง)
อาจารย์ประจำรายวิชา

อาจารย์ประจำสาขาวิชานาฏศิลป์ไทยมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

สารจากอาจารย์ประจำรายวิชา



บัณฑิตครุศาสตร์ทางนาฏศิลป์นั้น พึงมีความถึงพร้อมในความรู้ ความสามารถ ทั้งภาคทฤษฎี ภาค
ปฏิบัติการ การบริหารจัดการ จึงจะเป็นบัณฑิตนาฎศิลป์ที่พร้อมออกไปทำหน้าที่ต่อสังคมในระดับต่าง ๆ ได้อย่าง
เป็นผู้สร้างสรรค์และจรรโลงสังคม
แนวทางการเรียน การสอน ของสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย มุ่งเน้นพัฒนาองค์ความรู้ของผู้เรียนให้รอบด้านและทันสมัย
อยู่เสมอ โดยการพัฒนาองค์ความรู้นั้น นอกจากจะศึกษาจากตำราวิชาการและการเรียนในห้องเรียนแล้ว การแสดง
ผลงานสร้างสรรค์ทางนาฏศิลป์ทั้งในรูปแบบบทความวิชาการ และในรูปแบบของการแสดงนาฏศิลป์ นำเสนอต่อผู้
เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิเฉพาะทางจากองค์กร สถานศึกษาภายนอก ก็เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ช่วยให้นักศึกษาสาขาวิชา
นาฏศิลป์ได้พัฒนาองค์ความรู้ของตนด้วยกระบวนการวิจัย ผ่านการสร้างสรรค์ผลงานทางนาฏศิลป์ที่ตนได้วิเคราะห์
สังเคราะห์ สรุปเป็นผลงานทางนาฏศิลป์ขึ้น และสามารถเขียนเป็นบทความทางวิชาการได้
โครงการ “สัมมนาทางนาฏศิลป์ในรูปแบบออนไลน์ ครั้งที่ 1” ครั้งนี้ นับเป็นโครงการหนึ่งที่นักศึกษาจะได้แสดง
ศักยภาพทางวิชาการ และทางการบริหารจัดการผ่านการนำเสนอผลงานนาฏศิลป์ที่พัฒนาต่อยอดจากองค์ความรู้ที่
นักศึกษาได้รับจากการศึกษาในรายวิชานาฏศิลป์นิพนธ์ และรายวิชาการวิจัยทางนาฏศิลป์ไทย มาพัฒนาควบคู่ไปกับ
กระบวนการฝึกการจัดการสัมมนาทางวิชาการ จากการเรียนในรายวิชา การสัมมนาทางนาฏศิลป์
ในฐานะอาจารย์ประจำรายวิชา และที่ปรึกษาโครงการฯ ได้มองเห็นกระบวนการทำงานร่วมกันของนักศึกษา บุคคล
ภายนอก และองค์กรต่าง ๆ ในการบริหารจัดการงานสัมมนาให้ออกมาสมบูรณ์แบบที่สุดภายใต้สถานการณ์ปกติใหม่
(New normal) ด้วยความทุ่มเท วิริยะ อุตสาหะ ทั้งแรงกายแรงใจของคณะทำงาน จึงขอเป็นกำลังใจให้การ
ดำเนินโครงการฯ นี้ สำเร็จ บรรลุตามวัตถุประสงค์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าผลงานที่ปรากฏสู่สายตาสาธารณชนจะเป็นที่
ประทับใจ สร้างความรู้ ส่งผลให้เกิดความเคลื่อนไหวทางความคิด อันจะนำไปสู่การพัฒนาท้องถิ่นและวงการ
นาฏศิลป์ต่อไป

(อาจารย์ ดร.ชุมพล ชะนะมา)
อาจารย์ประจำรายวิชา / ที่ปรึกษาโครงการฯ
อาจารย์ประจำสาขาวิชานาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ความเป็นมาของโครงการ

งานวิจัยทางด้านนาฏศิลป์ไทยนั้น เป็นสิ่งหนึ่งที่ช่วยพัฒนาทักษะ
ทางด้านกระบวนการทางความคิด การออกแบบสร้างสรรค์ผลงานทางด้าน
นาฏศิลป์ และเป็นการนำเอาวัฒนธรรมท้องถิ่นจากพื้นที่ต่างๆในจังหวัด
นครราชสีมานำมาเผยแพร่เป็นการแสดง เพื่อให้สอดคล้องกับรายวิชาการวิจัยทาง
ด้านนาฏศิลป์และรายวิชาสัมมนาการเผยแพร่สู่สาธารณะชนนั้นจะต้องใช้ทักษะ
การถ่ายทอดผ่านในรูปแบบของการแสดงนาฏศิลป์ที่ได้เรียนมาทั้งหมด สื่อให้เห็น
ถึงวัฒนธรรมต่างๆที่ได้นำมาเสนอ และเพื่อเป็นการสรุปองค์ความรู้และถอดบท
เรียนจากการแสดงนาฏศิลป์สร้างสรรค์โดยผ่านกระกวนการวิจัย จึงได้ตั้งโครงการ
สัมมนางานวิจัยทางด้านนาฏศิลป์ เพื่อเป็นการพัฒนาเพิ่มพูนทักษะทางความคิดใน
การออกแบบงานทางด้านนาฏศิลป์และต่อยอดประสบการณ์ในการนำเอาไปใช้ใน
การฝึกประสบการณ์ และอนาคตสืบต่อไปเพื่อเพิ่มพูนความรู้หลักทฤษฎีการ
สร้างสรรค์งานนาฏศิลป์นำเสนอในรูปแบบงานสัมมนาทางวิชาการและ
นำเสนองานนาฏศิลป์สร้างสรรค์ ในรายวิจัยทางนาฏศิลป์ไทย ในรูปแบบการ
สัมมนาทางวิชาการจากการศึกษารายวิชาสัมมนาทางนาฏศิลป์

กำ ห น ด ก า ร

โครงการสัมมนาทางด้านนาฏศิลป์ ในรูปแบบออนไลน์ ครั้งที่ 1

วันที่ 28 – 29 เมษายน 2565 เวลา 08.30-17.00 น.

จัดโดย สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

08.30-09.00 น. ลงทะเบียนเข้าร่วม
การอบรมสัมมนา
09.00-09.20 น. ประธานโครงการก
ล่าวรายงานวัตถุประสงค์ ประธานกล่าวเปิดโครงการสัมมนา

แนะนำคณะผู้เชี่ยวชาญประเมินบทความ และผลงานสร้างสรรค์

คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

09..20-09.40 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 1 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

09.40-10.00 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 2 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

10.00-10.20 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 3 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

10.20-10.40 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 4 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

10.40-11.00 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 5 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

11.00-11.20 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 6 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

11.20-11.40 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 7 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

11.40-12.00 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 8 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

13.00-13.20 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.20-13.40 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 9 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

13.40-14.00 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 10 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

14.00-14.15 น. คณะผู้วิจัยสร้างสรรค์กลุ่มที่ 11 นำเสนอผลงานทางนาฏศิลป์

14.15-16.45 น. พักการนำเสนอ

16.45-17.00 น. สัมมนาทางวิชาการ สรุปองค์ความรู้จากการถอดบทเรียนและเรียนรู้สร้างสร้างทักษะ

กระบวนการทางความคิดในด้านการออกแบบสร้างสรรค์ผลงานการแสดงนาฏศิลป์โดย

คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้เชี่ยวชาญประเมินบทความ และผลงานสร้างสรรค์

ประธานโครงการกล่าวขอบคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ

ร่วมบันทึกภาพกับทางคณะกรรมการ คณาจารย์ประจำรายวิชา

และตัวแทนคณะผู้วิจัยสร้างสรรค์ผลงานทางด้านนาฏศิลป์ ผ่านระบบออนไลน์

โครงการสัมมนา ปีการศึกษา 2564

การแสดงชุด “ หัสดีลิงค์ ”

1. การแสดงชุด “ หัสดีลิงค์ ”




ผู้สร้างสรรค์ : นางสาววิลาสินี ศิลา นายพิทยา ผิวงาม นายสุรไกร ไพรสณฑ์ นางสาวชลดา ประเสริฐวงษา
นางสาวศศิธร เชื้อชัย นางสาวสุพาธร อาพัดนอก นายสยาม อาบจะบก

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ จากการศึกษาจิตรกรรมบนบานประตูทางเข้าหอไตรกลางน้ำ ลายรดน้ำปิดทอง ภาพนกหัสดีลิงค์ ตำบลตะ
คุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา พบว่านกหัสดีลิงค์นี้ ได้มีเรื่องราวที่ปรากฏจากนิทานธรรมบท เรื่อง พระนางสามาวดี ตอน กำเนิด
พระเจ้าอุเทน นกหัสดีลิงค์หรือนกหัสดินเป็นสัตว์ที่อาศัยอยู่ในป่าหิมพานต์ ตามคติความเชื่อของล้านนาและล้านช้างรวมไปถึงภาคอีสานของ
ประเทศไทย โดยกล่าวกันว่า เป็นสัตว์ที่มีรูปร่างทางกายภาพส่วนหัวเป็นคชสีห์ ประกอบไปด้วยสิงห์และคชสาร มีเอกลักษณ์ที่เห็นได้ชัด คือ
มีงา 4 งา ซึ่งปรากฏอยู่บนใบหน้า ส่วนตัวตลอดจนหัวและหางเป็นนก เป็นสัตว์ที่มีความงดงามแต่แฝงไปด้วยพละกำลังอันมหาศาลผู้วิจัยจึง
เกิดแรงบัลดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานจากจิตกรรมภาพนกหัสดีลิงค์ ลายรดน้ำปิดทอง ผ่านการสร้างสรรค์ในรูปแบบนาฏศิลป์พื้นบ้าน
ประยุกต์ ถ่ายทอดผ่านนักแสดงหญิงจำนวนทั้งหมด 9 คน โดยการแสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 นำเสนอถึงประวัติความเป็นมาของนกหัสดีลิงค์
ช่วงที่ 2 เป็นการแสดงกิริยาท่าทางของสัตว์ทั้ง 3 โดยเริ่มจากคชสีห์ ที่มีความรวดเร็ว คชสารที่มีความสง่างามและปักษีที่มีพลิ้ว
ไหวเปรียบเสมือนสตรี
ช่วงที่ 3 เป็นการรวมตัวกันของสัตว์ทั้ง 3 สู่การเป็น “หัสดีลิงค์”

โครงการสัมมนา ปีการศึกษา 2564

2. การแสดงชุด “ ไท่กั๋วหัวมังกร ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาวสิตา พลจันทึก นางสาวอัจฉรา แก่นกระโทก นางสาวธนาพร สิทธิเดช
นางสาวพรรณิภา แสงสว่าง นางสาวพิมพ์บิดา นาคบรรค์ นายสุรศักดิ์ หึกขุนทด

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ จากการศึกษากลุ่มชาติพันธุ์ไทยจีน ในเขตถนนจอมพลหรือถนนหัวมังกร อำเภอเมือง
จังหวัดนครราชสีมา ผู้วิจัยจึงเล็งเห็นบทบาท และความสําคัญของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มีต่อถนนหัวมังกร ซึ่งแสดงถึงวิถีชีวิต
วัฒนธรรม และสัมพันธไมตรีที่ดีที่ชาวไทยเชื้อสายจีนและชาวไทยโคราชมีต่อกันมาเป็นเวลานาน ถ่ายทอดผ่านนักแสดงจำนวน
ทั้งหมด 12 คน โดยเป็นนักแสดงหญิง 8 คน นักแสดงชาย 4 คน เพื่อกล่าวถึงความรุ่งเรืองของชาวไทยเชื้อสายจีนที่มา
อาศัยอยู่ในย่านถนนหัวมังกรซึ่งถือเป็นศูนย์กลางของความเจริญ ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจังหวัดนครราชสีมาให้เจริญรุ่งเรือง
โดยรูปแบบการแสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 เป็นการกล่าวถึงย่านการค้าของกลุ่มชาติพันธุ์หลายเชื้อชาติในย่านถนนหัวมังกร
ช่วงที่ 2 เป็นการกล่าวถึงกลุ่มชาติพันธุ์ไทยจีนที่อาศัยอยู่ในย่านถนนหัวมังกรทั้ง 3 กลุ่ม คือ เเต้จิ๋ว ฮากกา เเละ
ไหหลำ
ช่วงที่ 3 เป็นการกล่าวถึงความเจริญรุ่งเรืองเเละสัมพันธ์อันดีของชาวไทยโคราชและชาวไทยเชื้อสายจีน ในย่านถนนหัว
มังกร

โครงการสัมมนา ปีการศึกษา 2564

3. การแสดงชุด “ โยคินี ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาวณัฐพร ตรีสงวนจันทร์ นายสธิปัส บอมขุนทด นายเอกรัตน์ ทองประเทือง นางสาวสุจิตรา สุทธิสน
นายจิระพงศ์ ตู้คำ นายธนาวุฒิ ตั้งใจ

แนวคิดในการแสดง
แนวคิดในการสร้างสรรค์ จากการศึกษาประติมากรรมสำริดรูปนางโยคินี ณ ปราสาทหินพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัด

นครราชสีมา พบว่า นางโยคินี หรือนางฑากิณี นั้น ได้ปรากฏอยู่ในความเชื่อของศาสนาพุทธนิกายตันตระมหายาน โดยมีความ
เชื่อว่าเทพนารีโยคินี มีหน้าที่ช่วยเหลือนักบวชให้บรรลุอิทธินางยังมีฤทธิ์สามารถบังคับภูตผีปีศาจได้ และยังมีสีประจำตน
พร้อมอาวุธคู่กาย ผู้วิจัยจึงเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ผลงานจากประติมากรรมสำริดรูปโยคินี ผ่านการแสดง
สร้างสรรค์ในรูปแบบโบราณคดี สมัยลพบุรีกล่าวถึงตัวตนของรูปปั่นสำริดนางโยคินี นาง“เวตาลี” และนางโยคินีทั้ง 8 ที่
ปรากฏอยู่ในทับหลังสลักที่ปราสาทพิมาย อำเภอพิมาย จังหวัดนครราชสีมา ผ่านนักแสดงหญิง จำนวน 8 คน โดยรูปแบบ
แสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 กล่าวถึงการกำเนิดเทพนารีโยคินีทั้ง 8 องค์
ช่วงที่ 2 แสดงถึงพลังอำนาจของนางโยคินี ความแข็งแกร่งของอาวุธคู่กาย
ช่วงที่ 3 กล่าวถึงประติมากรรมสำริดรูปสตรีนางโยคินี นาง“เวตาลี”ณ พิฑิธภัณฑสถานแห่งชาติพิมาย

โครงการสัมมนา ปีการศึกษา 2564

การแสดงชุด “ สอดฝ้ายลายหมอน ”

4. การแสดงชุด “ สอดฝ้ายลายหมอน ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาวธริตา สีหล้า นางสาวพัชรา เฉยกลาง นางสาวนฤสรณ์ ลาภสันเทียะ นางสาวนุชรินทร์ โพธิ์ศรี
นายวิศาล คงสูงเนิน

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ จากการศึกษาภูมิปัญญาทางด้านงานหัตถกรรม การทำหมอนหน้าจก ของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง ใน
บ้านสุขัง ตำบลตคุ อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา โดยมีความเชื่อที่ว่า หากบ้านใดมีลูกสาวผู้เป็นแม่จะคอยพร่ำสอนความเป็นสตรี
งานบ้านงานเรือนให้กับลูกสาวตนเอกลักษณ์ลักษณ์ที่โดดเด่น คือ การใช้นิ้วก้อยในการจกเส้นฝ้าย เพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ และใช้สีแดง
เป็นสีหลักในการทำหมอนหน้าจก จากแนวคิดข้างต้นผู้วิจัยจึงเกิดแนวคิดสร้างสรรค์ผลงานในรูปแบบนาฏศิลป์พื้นบ้านอีสานผ่านนักแสดง
หญิงทั้งหมด 8 คน โดยรูปแบบการแสดง แบ่งออกเป็น 3 ช่วง กล่าวคือ

ช่วงที่ 1 กล่าวถึงประวัติที่มา หมอนหน้าจก ของกลุ่มชาติพันธุ์ลาวเวียง บ้านสุขัง ตำบลตะคุ อำเภอปักรงชัย จังหวัดนครราชสีมา
ช่วงที่ 2 กรรมวิธีการทำหมอนหน้าจก และโชว์ลายหมอนทั้ง 5 ลาย ดังนี้ ลายดอกไม้ ลายตะขอ ลายกาบ ลายบายศรี และลาย
นาค
ช่วงที่ 3 การนำหมอนหน้าจกไปร่วมงานอุปสมบทของชาวลาวเวียง

โครงการสัมมนา ปีการศึกษา 2564

5. การแสดงชุด “ มีดบ้านเอ๋ง ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาวณฐพร สวัสดิผล นางสาวปิยฉัตร ผลชู นางสาวภานุชนาฎ ยงกระสัน
นางสาวณัฐธิกา บาลโสง นางสาวศศิธร พุ่งเรียง นางสาวปิยธิดา วิทยานนทกานต์

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ จากการศึกษางานช่างหัตถกรรมพื้นบ้านตีมีดของบ้านลองตอง ตำบลบ้านโพธิ์ อำเภอเมืองนครราชสีมา
จังหวัดนครราชสีมา พบว่า ทำกันมานานหลายชั่วอายุคน เป็นงานช่างหัตถกรรมฝีมือดี ซึ่งสะท้อนถึงภูมิปัญญาชาวบ้าน ที่มีความเป็น
เอกลักษณ์เฉพาะถิ่นผ่านการสืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ผนวกเข้ากับวิถีชีวิตของคนในชุมชน และการใช้เวลาว่างหลังจากการทำการเกษตร
เป็นหัตถกรรมพื้นบ้านที่มีชื่อเสียงมานาน มีคุณภาพดี มีความคงทนต่อการใช้งานผู้วิจัยจึงเกิดแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์นาฏศิลป์ ใน
รูปแบบนาฏศิลป์พื้นบ้าน ถ่ายทอดผ่านนักแสดงชายจำนวนทั้งหมด 6 คน และนักแสดงหญิงจำนวนทั้งหมด 6 คน เพื่อเสนอวิถีชีวิตช่างตี
มีด การผลิตแบบดั้งเดิมและกระบวนท่าการตีมีด โดยการแสดงแบ่งออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 เป็นกางแสดงที่เกี่ยวกับการสื่อถึงวิถีชีวิตชุมชนของกลุ่มชาวบ้านที่จะมารวมตัวช่วยกันตีมีด โดยจะมีหญิงสาวชาวบ้านมารวม
ตัวกันก่อไฟ

ช่วงที่ 2 เป็นกรรมวิธีการตีมีดแบบดั้งเดิมด้วยกระบวนการท่าทางการตีมีด การตีเหล็กให้แบน ตีแต่งสองมีดทรงมีดและฝนมีด
ช่วงที่3 เป็นการสื่อถึงความสนุกสนานการเกี้ยวพาราสีระหว่างหนุ่มสาวในการละเล่นรำโทนโคราช และจบด้วยการใช้ประโยชน์ของ
มีด

4. การแสดงชุด “ เชิงดีทวงทีมวยโคราช ”

6. การแสดงชุด “ เชิงดีทวงทีมวยโคราช ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาวกรรณ์ทิมา พร่องครบุรี นางสาวมนัสวี นิลบัวลา นางสาวแก้วมณี คือพันดุง
นางสาวกิตติยา ศรีนอก นางสาวธิดามาศ ศรีนอก นางสาวสุพัตรา บุญรอด นายรชตภูมิ ปัตตังเว

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ จากประวัติศาสตร์ตั้งแต่สมัยโบราณ ชาวไทยมีการฝึกการต่อสู้ด้วยอาวุธสั้นประกอบกับศิลปะมวยไทย
โดยมีเป้าหมายในการปกป้องประเทศชาติ อีกทั้งโคราชเป็นเมืองหน้าด่านชั้นเอกที่ต้องทำการรบกับผู้รุกรานอยู่เสมอ จึงทำให้ชาวโคราชมี
ความเป็นนักสู้โดยสายเลือดมาหลายชั่วอายุคน เมื่อบ้านเมืองสงบมวยโคราชจึงได้มีการพัฒนาเป็นศิลปะและวัฒนธรรมคู่บ้านคู่เมือง ผู้วิจัย
จึงมีแนวคิดในการสร้างสรรค์การแสดงชุด มวยโคราชขึ้นมา โดยการแสดงจะเป็นการถ่ายทอดท่าต่อสู่ผ่านทางผลงานนาฏศิลป์
โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 จะเป็นการเกริ่นถึงมวยโคราช และจะกล่าวถึงท่าไม้ตายของมวยโคราช
ช่วงที่ 2 เป็นการไหว้ครูมวย เพื่อให้เป็นศิริมงคลแก่นักมวยและยังเป็นท่าวอมก่อนขึ้นชก
ช่วงที่ 3 จะเป็นการต่อสู่โดยใช้แม่ไม้มวยโคราชและเปิดตัวยักษ์สุข หรือในนามฉายายักษ์ผีขโมด ซึ่งเป็นนักมวยโคราชชื่อดังและมี
ฝีมือในการต่อสู้ของโคราชบ้านเรา ในการต่อสู้นั้นนักแสดงจะใช้แม่ไม้มวยโคราชทั้งหมดในการต่อสู้กับยักษ์สุข จบลงโดยยักษ์สุขเป็นผู้ชนะ

การแสดงชุด ขวัญข้าว

7. การแสดงชุด “ ขวัญข้าว ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาวสิริวิมล แนวกลาง นางสาวชุติมา ทีเหมาะ นางสาวนรีกานต์ มากกลาง นางสาวภาสุรี ดงทอง
นางสาวมุขนิล รังกลาง นางสาวสกาว วงษ์คำลือ นางสาวอริสรา พรมมิราช นายพงศธร เปียโคกสูง

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ มาจากการทำข้าวของโนนสูง ตำบล โนนสูง จังหวัดนครราชสีมา เพื่อสื่อถึงพิธีกรรมการเรียกขวัญข้าวและ
พิธีกรรมการเรียกขวัญตาปุ๊กมาเฝ้าข้าวตามความเชื่อของคนโนนสูง นำเสนอผ่านทางนักแสดงชายจำนวย 2 คน นักแสดงหญิง 8 คน
รวมเป็น 10 คน ด้วยลักษณะการแสดงแบบพื้นบ้าน พื้นเมือง โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 เป็นการบอกกว่าต่อสิ่งศักดิ์สิทธ์ที่ประจำอยู่ในธรรมชาติเพื่อขออนุญาตใช้ทรัพยากรต่างๆในการเพาะปลูก เช่น พระแม่
ธรณีในการของใช้พื้นดิน พระแม่คงคาในการขอใช้น้ำ และการหวานข้าวสู่พื้นดิน

ช่วงที่ 2 เป็นพิธีกรรมการเรียกขวัญข้าวเมื่อครั้งข้าวออกรวง และทำการเก็บเกี่ยวข้าว
ช่วงที่ 3 เป็นพิธีกรรมการเก็บข้าวที่ได้นำมาขึ้นยุ้งและพิธีกรรมการเรียกขวัญตาปุ๊กมาเฝ้าข้าวในยุ้งต่อไป

โครงการสัมมนา ปีการศึกษา 2564

8. การแสดงชุด “ มฤคศิลาทวารวดี ”



ผู้สร้างสรรค์ : นางสาววิชุลัดดา สำรวย นางสาวศิริพร หมอประคำ นางสาวสุพรรษา วอนเก่าน้อย นางสาวลดา อินทรวิชัย
นางสาววริศรา ลาภขุนทด นายนิธิพงษ์ ขำผา นายศตวรรษ ศรีม่วง

แนวคิดในการแสดง
แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานการวิจัยนาฎศิลป์ ที่ได้มาจากประติมากรรมคือชิ้นส่วนกวางหมอบหน้าธรรมจักรเกิดขึ้นจากการ

ศึกษาคันคว้าข้อมูลทาง ประวัติศาสตร์ของโบราณวัตถุทางพระพุทธศาสนา รูปปั้นกวางหมอบหน้าธรรมจักร และขึ้นส่วนของเสมา
ธรรมจักรที่เกิดขึ้นในยุคสมัยทวารวดี ที่วัดธรรมจักรเสมาราม อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา กวางหมอบนี้เป็นสัญลักษณ์ สำคัญ
ทางพระพุทธศาสนา เมื่อครั้งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงธรรมครั้งแรก ณ ป่าอิสิปตนมฤคทายวัน ซึ่งมีความหมาย ว่า ป่าของกวาง มี
เรื่องราวที่มาของป่าอิสิปตนมฤคทายวันปรากฎเรื่องราวอยู่ใน พุทธชาดก 500 ชาติ เรื่องนิโครธมิค ชาดก ที่พระพุทธเจ้าทรงเสวยชาติ
เป็น พญากวางที่ป่าแห่งนี้

รูปแบบการนำเสนอผลงานใช้นักแสดงทั้งหมด 11 คน ผู้ชาย 1 คน ผู้หญิง 10 คน แบบระบำโบราณคดีสมัยทวารวดี ประยุกต์
เข้ากับ กิริยา ท่าทาง ของกวาง ผ่านดนตรีแบบโบราณคดีประยุกต์ แต่งกายด้วยชุดที่สร้างสรรค์ ประยุกต์ขึ้นใหม่ เป็นการผสมผสาน
ระหว่างลักษณะของกวางและชุดระบำโบราณคดีสมัยทวารวดี แบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่

ช่วงที่ 1 กล่าวถึงพญากวาง เปรียบดั่งพระพุทธเจ้า เมื่อครั้งที่ทรงปฐมเทศนาครั้งแรก ณ ป่า อิสิปตนมฤคทายวัน
ช่วงที่ 2 กล่าวถึงอิริยาบถ อากัปกิริยาท่าทาง ลักษณะของกวาง ที่มีความกระฉับกระเฉง ขี้เล่น ซุกซน
ช่วงที่ 3 กล่าวถึงลักษณะลีลาท่ารำในยุคสมัยทวารวดี

การแสดงชุด วิถีชีวินถิ่นจันทึก

9. การแสดงชุด “ วิถีชีวินถิ่นจันทึก ”



ผู้สร้างสรรค์ นางสาวทวิพัน สร้างสวน นางสาวธิดารัตน์ เฉยเฉลียง นางสาวนภัสรพี เค้ามูล นางสาวปิยธิดา กล้ากลาง
นางสาววิสุธาทิพย์ เทพสถิตย์ นางสาวกมลรัตน์ แย้มจอหอ นางสาวปัทมาพร อุรา

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ “เมืองนครจันทึก” เป็นเมืองที่มีมาก่อนที่จังหวัดนครราชสีมาจะขึ้นเป็นจังหวัด ใน
สมัยก่อน นครจันทึก เมืองหน้าด่าน ในดินแดนแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือในอดีต ซึ่งมีความหลากหลายทาง
วัฒนธรรม ได้แก่ กลุ่มชาติพันธุ์ไทยวน ลาวเวียง ที่ได้มีการอพยพมาจากถิ่นที่อยู่เดิมและไทโคราชเดิมทีอาศัยอยู่ใน
พื้นที่นี้อยู่ก่อนแล้ว ซึ่งแต่ละชนชาติได้มาตั้งรกรากใหม่ที่นครจันทึก และในปัจจุบันได้กลายมาเป็น “อำเภอสีคิ้ว”

คณะผู้จัดทำเห็นถึงความเป็นอยู่ ขนบธรรมเนียม ประเพณี ที่แตกต่างกัน แต่สามารถอยู่ร่วมกันได้ จนกลาย
มาเป็นอำเภอสีคิ้วในปัจจุบันโดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 ความเป็นมาของเมืองนครจันทึก และความหลากหลายของกลุ่มชาติพันธุ์ ไทโคราช ไทลาว ไทยวน
ช่วงที่ 2 การก้าวสู่ความเป็นอำเภอสีคิ้ว
ช่วงที่ 3 การนำเสนอสถานที่ท่องเที่ยวที่สำคัญต่างๆในอำเภอสีคิ้ว

การแสดงชุด นวเทวา

10. การแสดงชุด “ นวเทวา ”



ผู้สร้างสรรค์ นางสาวกมลจิตร์ เกศคำขวา นางสาวชลธิชา บัวระพา นางสาวรุ่งทิพย์ ชุ่มชัย นางสาววรรณณา หมู่สะแก
นางสาวอักษรา สุทธาศิริ นายสหภาพ สีหาฤทธิ์ นางสาวอาภัสรา จิตพิมาย

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ผลงานนาฏศิลป์นิพนธ์ชุด “นวเทวา” สร้างสรรค์ขึ้นด้วยแรงบันดาลใจจากภาพทับหลังสลักเทพ 9 องค์
เป็นกลุ่มเทพประจำทิศและเทพนพเคราะห์ เป็นศิลปะลพบุรี ศิลปะเขมรในประเทศไทย พุทธศตวรรษที่ 16 พบที่สถานพระนารายณ์ อำเภอ
เมือง จังหวัดนครราชสีมา เทพนพเคราะห์กับเทพรักษาทิศ เชื่อกันว่าเป็นกลุ่มเทพในศาสนาฮินดู ภาพสลักเทพ 9 องค์ รูปเทพเหล่านี้มี
เทพนพเคราะห์ปรากฏแค่ 4 องค์ และมีเทพอีก 5 องค์ เป็นเทพผู้รักษาทิศ เชื่อกันว่าเทพเจ้าแต่ละองค์ที่มีความสามารถหรือความดีที่
แตกต่างกันออกไปนับว่าเป็นการนำความโชคดีทั้งหมดมารวมกันไว้ที่ทับหลังเทพ 9 องค์

คณะผู้วิจัยจึงได้เกิดแนวคิดและแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์งานนาฏศิลป์ในรูปแบบระบำโบราณคดี ผ่านนักแสดงชาย 9 คน
โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 การกล่าวถึงภาพทับหลังที่มีพระอินทร์เป็นประมุขของเหล่าเทพประจำทิศและเทพนพพระเคราะห์
ช่วงที่ 2 ท่วงท่าลีลาของเหล่าเทพนพเคราะห์ที่มีความสง่างาม และลีลาของเหล่าเทพรักษาทิศที่มีความเข้มแข็ง
ช่วงที่ 3 การร่ายรำอวยพรของเหล่าเทพทั้ง 9 องค์เพื่อให้เกิดความโชคดีของเหล่ามนุษย์โลก

การแสดงชุด นกเขาคารม

11. การแสดงชุด “ นกเขาคารม ”



ผู้สร้างสรรค์ นายพิชยะวัสส์ ดิษยรัชฐากรณ์ นายธวัชชัย พรมพาน นายศุภวัฒน์ แกมกระโทก
นางสาวสุธางศุ์รัตน์ ศิริวัฒน์ นางสาวธีมาพร แก้วศีนวล นางสาวชนนีวรรณ สุวรรณิกา
นางสาววิภาวดี บุญเรืองศรี

แนวคิดในการแสดง

แนวคิดในการสร้างสรรค์ " นกเขาคารม " เป็นสัตว์นำโชค ตามความความเชื่อของคนสมัยโบราณ ซึ่งจะมีลักษณะพิเศษตามตัว
ของนกไม่ว่าจะเป็น ปีก ขน เท้า และลำตัว หรือแม้แต่เสียงขันที่สามารถรู้ได้ว่านกตัวนี้มีลักษณะพิเศษ และ “นกเขาคารม” ยังเป็นสัตว์
ประจำท้องถิ่นที่มีชื่อเสียงของเมืองโคราช ประกอบกับ นกเขาคารม เคยเป็นส่วนหนึ่งของคำขวัญประจำ จังหวัดนครราชสีมา ที่กล่าวไว้ว่า
"นกเขาคารม อ้อยคันร่ม ส้มขี้ม้า ผ้าหางกระรอก แมวสีสวาด ประสาทหิน ดินด่านเกวียน”
ทางคณะผู้วิจัยจึงเห็นความสำคัญของนกเขาคารมที่มีอุปนิสัย ลักษณะพิเศษต่างๆ และเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ของนกเขาคารม ซึ่งมี
ความสำคัญอย่างยิ่งที่ควรค่าแก่การดูแล และอนุรักษ์นกเขาคารม เพื่อให้อยู่คู่กับจังหวัดนครราชสีมาของเราสืบต่อไป
โดยแบ่งการแสดงออกเป็น 3 ช่วง

ช่วงที่ 1 เป็นการเกริ่น (ภาษาโคราช) กล่าวถึงความเป็นมาของนกเขาคารม ประกอบทำนองดนตรีโคราชประยุกต์
ช่วงที่ 2 กล่าวถึงลักษณะของนกมงคล ผ่านการรำตีบท โดยมีเนื้อร้อง(ภาษาโคราช) ประกอบทำนองดนตรี
โคราชประยุกต์
ช่วงที่ 3 สื่อถึงความน่ารัก ขี้เล่น และซุกซน ของนกเขาคารม ประกอบทำนองดนตรีโคราชประยุกต์


คณะกรรมการประเมินผลงานนาฏศิลป์



ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. สุรีรัตน์ จีนพงษ์
ผู้ช่วยอธิการบดี และประธานหลักสูตรนาฏศิลป์ศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.กชกร ชิตท้วม ผู้ช่วยศาสตราจารย์นัยน์ปพร ชุติภาดา
อาจารย์ประจำหลักสูตรนาฏยศิลป์ คณะมนุษยศาสตร์และ ประธานหลักสูตรครุศาสตรบัณฑิต สาขาวิชานาฏศิลป์ไทย
สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา

ผลงานสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์นิพนธ์

ขอขอบคุณ

อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
คณบดีคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
คณบดีคณะมนุษย์ศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
สำนักวิทยบริการและเทคโนโลยีสารสนเทศ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
โครงการจัดตั้งกองอาคารสถานที่และบริการ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา
คุณณัฐพงศ์ ชนะชัย
คุณกิตติการ นุตะดี

อาจารย์ประจำสาขานาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมาทุกท่าน

อาจารย์ที่ปรึกษาโครงการและอาจารย์ประจำรายวิชา นาฏศิลป์นิพนธ์
อาจารย์ ดร. ชุมพล ชะนะมา และ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. นวลรวี กระต่ายทอง

ผลงานสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์นิพนธ์

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน

ศูนย์การค้าเทอมินอล 21 โคราช คุณไอรดา หาบุตร
ร้านอนุวัฒน์ค้าไม้โดย คุณอนุวัฒน์ นรวีร์วงค์สกุล คุณแม่วาสนา อาบจะบก
ไร่สุขสำราญ คุณแม่ทองจันทร์ ประเสริฐวงษา
ดร. สุธัญญา สทิ ธิกูลเกียรติ นายสวง ศิลา
ดร. ธีรพงศ์ คณาศักด์ิ คุณแม่สมคิด เชื้อชัย
พลตรีมานพ แฝดกลาง คุณแม่ทองสุข หาบุตร
วาที่ รต นันทวรรณ หมูส ะแก คุณสมฤดี ชาวเหนือ
ว่าที่ รต. วีระศักดิ์ บูรณะ คุณสมัย อาพัดนอก
ชางลานรับเหมากอ สรา ง นางสาวสุจิตรา ฉัตรเมืองปัก
นางสาวสุจิตรา ฉัตรเมืองปัก นางสนิท ชุมแสง
นางสนิท ชุมแสง คุณปวีนา เหมือนพันธ์
นายศิฎฒิภัต ธรรมเกสร คุณอุลัย เทพสถิตย์
นายสุทัศน์ คันทมาศ คุณสมส่วน แย้มจอหอ
นางสาวสุวิมล อภิรักษ์ คุณสมหมาย แย้มจอหอ
คุณครูนาตยา ประเสริฐวงษา คุณยุพิน เค้ามูล
คุณกนกวรรณ สระทอง คุณภูสทิธิ์ เค้ามูล
คุณย่าประคอง ภูษาจารย์ คุณอรอุมา อุรา
คุณย่าอภัยวรรณ ไพรสณฑ์ คุณสุปัด อุรา
คุณป้าบุษบา บูรณะ คุณวิรัตน์ กล้ากลาง
คุณย่าใครศรี บูรณะ คุณจิตติมา กล้ากลาง
นายภู่กัน พลเยี่ยม คุณเฉลียว ด่านกระโทก
คุณอุไรลักษณ์ หาบุตร คุณวัชรินทร์ ด่านกระโทก

ผลงานสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์นิพนธ์

ขอขอบคุณผู้สนับสนุน

คุณพรวิมล ดาเดช คุณสุพจน์ ศรีม่วง
คุณรัชนีกร สังข์สาลี คุณสมศรี ศรีม่วง
คุณน้อยบายศรีโชคชัย คุณสุรัตน์ ศรีม่วง
คุณจิรายุส ดาษสันเทียะ คุณวิชัย ลาภขุนทด
คุณอนุชา ประสบบัว คุณบุญร่วม ลาภขุนทด
คุณอรพรรณ ชัยสวรรค คุณนฤมล หมอประคำ
คุณปาริชาติ หาญเเกว คุณชัยนาท หมอประคำ
คุณนราธิป เกศคําขวา คุณสายทอง วอนเก่านอย
คุณจรูญ สีหาฤทธิ์ คุณยอด วอนเก่าน้อย
คุณแฉลม ทองขาว คุณศราวุฒิ ชูรอด
คุณนวลลัดดา โมงขุนทด นางสุภาว์ พิไลกุล (เรือนจำจังหวัดชัยภูมิ)
คุณอังกาบ สุทธาศิริ นางมลธากาญจน์ ดงทอง
คุณศรราม จูมพล นายเฉลิม เปียโคกสูง
คุณยุพิน บัวระพา
คุณดลหทัย บรรจงปรุ
คุณสุรชัย เดชชัยพิทักษ์
คุณจันสี สวนบาน
คุณวิรัตน์ ขำผา
คุณสุวรรณ อินทรวิชัย
คุณสนิท อินทรวิชัย
คุณวนิดา อินทรวิชัย
พู่กันทองฟาร์ม
คุณวินัย สำรวย

แบบสแกน QR CODE

• ลงทะเบียน • • แบบประเมิน •

ผลงานสร้างสรรค์การแสดงนาฏศิลป์นิพนธ์

ติดตามผลงานทางด้านนาฏศิลป์ได้ที่

เพจหลักสูตรนาฏศิลป์ไทย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา


Click to View FlipBook Version