ตอร์ปิโดที่โรงเรียน H.M.S. Vernon แต่ทว่าในวิชา
ดังกล่าวนี้ราชนาวีอังกฤษไม่ยอมให้ชาวต่างชาติ
เข้าสอบไล่ เมื่อพระองค์สำเร็จการศึกษาแล้วราชนาวี
อังกฤษแต่งตั้งยศให้เป็นนายเรือตรีผู้ช่วย (Sub –
Lieutenant) จากนั้นพระองค์จึงเสด็จกลับประเทศสยาม
เสนาธิการทหารเรือพระองค์แรก
แห่งกระทรวงทหารเรือ
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ
เมื่อกลับมาถึงสยามแล้วทรงเริ่มรับราชการกรมทหารเรือ
ได้รับพระราชทานยศนายเรือโทผู้ช่วย มีตำแหน่ง
สำรองราชการกรมบัญชาการกลาง กรมทหารเรือใน
วันที่ ๕ มกราคม พ.ศ.๒๔๔๘
ในวันที่ ๒๕ เมษายน พ.ศ.๒๔๔๙ ได้รับพระกรุณา
โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับการเรือมกุฎราชกุมาร
ทรงทำการในตำแหน่งผู้บังคับการเรือมกุฎราชกุมาร
ซึ่งเป็นเรือปืนที่มีชื่อเสียงและเกียรติประวัติในการรบ
ทางเรือครั้งสำคัญของสยาม ทรงทำการในตำแหน่ง
ี
ผู้บังคับการเรือมกุฎราชกุมารเป็นเวลาเกือบ ๑ ป แล้ว อีกตำแหน่งหนึ่ง
จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการ ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๖ พระบาทสมเด็จ
กรมทหารเรือชายทะเล ในวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๔๔๙ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรมราชานุญาตให้
ทรงทำการในตำแหน่งผู้บัญชาการกรมทหารเรือ ตั้งกรมเสนาธิการทหารเรือขึ้น ทรงพระกรุณาโปรด
ชายทะเลเป็นระยะเวลาราว ๓ ปี ในช่วงเวลาที่พระองค์ เกล้าฯ แต่งตั้งให้นายพลเรือตรี พระเจ้าน้องยาเธอ
รับราชการกรมทหารเรือชายทะเลนั้น ทรงได้รับ กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร เป็นเสนาธิการทหารเรือ
พระราชทานยศเป็นนายพลเรือตรี เมื่อวันที่ ๑ สิงหาคม หลังจากทำการในหน้าที่เสนาธิการทหารเรือได้ ๙ เดือน
พ.ศ.๒๔๕๓ ต่อมาได้รับพระราชทานพระสุพรรณบัตร ทรงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เลื่อนยศเป็นนายพล
เป็นกรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร ในวันที่ ๑๑ เรือโท ในวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๕๖
พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๕๕ จนถึงวันที่ ๑๔ เมษายน กรมเสนาธิการทหารเรือ ที่ตั้งขึ้นในรัชสมัย
๑
พ.ศ.๒๔๕๔ จึงได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีที่ทำการ
ให้เป็นรั้งเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ ทรงทำการ อยู่ในบริเวณกระทรวงทหารเรือในเขตพระนิเวศน์เดิม
ในตำแหน่งนี้ มาจนถึงวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๖ ในระยะเริ่มแรกกำหนดให้จัดส่วนราชการ ๔ แผนก
จึงได้รับพระราชทานให้ตำแหน่งรั้งเสนาธิการทหารเรือ ได้แก่ แผนกที่ ๑ แผนกที่ ๒ แผนกที่ ๓ และแผนกที่ ๔
๑ กรมเสนาธิการทหารเรือ เคยตั้งขึ้นครั้งหนึ่งใน พ.ศ.๒๔๔๔ ซึ่งอยู่ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีนายนาวาโท
หม่อมไพชยนต์เทพ (หม่อมราชวงศ์ พิณ สนิทวงศ์) เป็นเสนาธิการทหารเรือ และ นายเรือเอกนายโนม (โนม โมนยะกุล) เป็นผู้ช่วยเสนาธิการ
ทหารเรือ มีที่ทำการอยู่ที่ตึกบวรวิไชยชาญในเขตพระราชวังเดิม แต่ดำเนินการมาได้ประมาณ ๑๐ เดือนเศษก็ยุบเลิกไปแล้วจัดตั้งกรมยุทธศึกษาขึ้นแทน
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 47
อย่างไรก็ตามการบรรจุกำลังพลมีเฉพาะแต่แผนกที่ ๔ สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์
(วิทยุโทรเลข) รับผิดชอบงานสื่อสารวิทยุโทรเลข วรพินิต เสนาบดีกระทรวงทหารเรือจึงกราบบังคมทูลฯ
ระหว่างสถานีวิทยุโทรเลข ๒ แห่ง ซึ่งจัดตั้งขึ้นใน ถวายหนังสือรายงานการปฏิบัติของทหารเรือและเสนอ
พ.ศ.๒๔๕๗ คือสถานีวิทยุโทรเลขกรุงเทพฯ มีที่ทำการ ความชอบแก่ผู้ร่วมปฏิบัติงานพระราชสงครามแด่
อยู่ที่ศาลาแดง กับสถานีวิทยุโทรเลขสงขลา ที่ยอดเขา พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในหนังสือ
ตังกวน จังหวัดสงขลา ความรับผิดชอบหลักของแผนก ฉบับดังกล่าวเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ทรงกล่าวถึง
ที่ ๔ จึงได้แก่การสื่อสารระหว่างเรือหลวงในทะเลกับ ความชอบของเสนาธิการทหารเรือว่า
กระทรวงทหารเรือ ต่อมาในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๙ “ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานพระบรมราช
มีการตั้งราชนาวิกสภาขึ้นในบังคับบัญชากรมเสนาธิการ วโรกาศกราบบังคมทูลเสนอความชอบของเจ้าน่าที่
ทหารเรืออีกแผนกหนึ่ง ตามที่ได้สังเกตเห็น เพื่อเปนหนทางที่จะทรงพระมหา
หลังจากก่อตั้งราชนาวิกสภาได้ประมาณ ๑ ปีเศษ กรุณาชุบเกล้า ฯ สืบไปบ้างดังต่อไปนี้คือ :-
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมีพระบรม ๑. ในการดำริจัดการในเรือนี้ทั้งสิ้นเปนน่าที่ของ
ราโชบายที่จะประกาศสงครามกับประเทศเยอรมันและ เสนาธิการทหารเรือชั้นต้นตลอดจนจัดลงเปนคำสั่งมอบ
ออสเตรีย-ฮังการี นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ น่าที่ เสนาธิการทหารเรือได้ทรงทำการนี้โดยเต็มตาม
กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร ในฐานะเสนาธิการทหารเรือ น่าที่ทุกประการมิได้บกพร่อง จึงเปนที่เบาภาระแก่
จึงมีหน้าที่โดยตรงทำการตรวจสอบ ประเมินสถานการณ์ ข้าพระพุทธเจ้าเปนอย่างยิ่ง, นับว่ากรมเสนาธิการทหาร
ร่างและจัดทำแผนสงครามเพื่อจับยึดเรือเชลยเยอรมัน เรือได้ทำการลุล่วงไปได้โดยเต็มตามควรแก่ตำแหน่ง
ตลอดจนจัดทำแผนรักษาความสงบเรียบร้อยภายใน น่าที่” ๒
ราชอาณาจักรในส่วนที่เป็นหน้าที่รับผิดชอบของ ด้วยเหตุดังกล่าวข้างต้น พระบาทสมเด็จ
กระทรวงทหารเรือ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่ ทรงพระราชทานหนังสือชมเชย
ทรงประเมินสถานการณ์ ร่างแผนและอำนวยการ ทหารเรือที่ร่วมปฏิบัติหน้าที่จับเรือเชลยในพระราช
ตามแผนสงครามขั้นตอนต่าง ๆ มาจนถึงขั้นพร้อม สงครามกับประเทศเยอมนี ออสเตรีย – ฮังการี มายัง
ปฏิบัติในระยะเวลาประมาณ ๓ สัปดาห์ แล้วจึงได้รับ เสนาบดีกระทรวงทหารเรือเป็นข้อความว่า
พระบรมราชานุญาต ให้ดำเนินการจับยึดเรือเชลย “ถึง เจ้าฟ้ากรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต
ในแม่น้ำเจ้าพระยาและที่เกาะสีชังตามพระบรม ได้รับหนังสือที่ ๑๐/ ๒๔๖๐ ลงวันที่ ๖ เดือนน ี้
๐๔๔๗๘
ราชโองการประกาศสงครามกับประเทศเยอรมันและ รายงานชี้แจงถึงการที่ได้จัดและกระทำไปในการจับเรือ
ออสเตรีย - ฮังการี ในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ ชาติศัตรู และเสนอความชอบเจ้าน่าที่ที่ได้ทำการครั้งนี้
การปฏิบัติการตามแผนงานของพระองค์สำเร็จลุล่วงไป มานั้น ได้อ่านทราบความตลอดแล้ว เปนที่พอใจมากใน
ในที่สุด กิจการที่ทหารได้กระทำไปในครั้งนี้ ซึ่งรู้สึกว่าเท่ากับ
จากผลสำเร็จในการวางแผนและอำนวยการ ทดลองความพรักพร้อมและความสามารถของทหารเรือ
ให้การจับยึดเรือเชลยและการรักษาความสงบเรียบร้อย ก็เป็นอันเห็นได้ว่า ถ้าหากมีเหตุใหญ่โตยิ่งกว่านี้ ก็คงจะ
ภายในราชอาณาจักรสำเร็จลุล่วงเรียบร้อยไปได้ด้วยดี ทำการได้ดีเหมือนกัน ผู้ที่เธอได้เสนอความชอบมา
เมื่อถึงวันที่ ๖ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๖๐ นายพลเรือเอก เปนพิเศษนั้น ขอให้ได้รับความชมเชยพิเศษ และฉันจะ
๒ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนี และออสเตรีย
ฮังการี ปึก ๓. แผ่นที่ ๑๗๘.
48 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
ได้ให้จดนามไว้สำหรับบำเหน็จพิเศษสืบไป
สยามินทร์”
๓
เสนาธิการทหารเรือ
ดังได้กล่าวแล้วว่ากรมเสนาธิการทหารเรือ ที่ตั้งขึ้น
ใหม่ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๖ นั้นกำหนดให้จัด
ส่วนราชการมี ๔ แผนก แต่บรรจุเจ้าหน้าที่เพียงแผนก
ที่ ๔ รับผิดชอบการวิทยุโทรเลขเท่านั้น จนกระทั่งมีการ
ตั้งราชนาวิกสภาขึ้นเป็นอีกแผนกหนึ่ง ในกรมเสนาธิการ
ทหารเรือ ในวันที่ ๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๕๙ ซึ่งตั้งขึ้น
หลังจากตั้งกรมเสนาธิการทหารเรือแล้วเป็นเวลาราว ๓ ปี
ราชนาวิกสภาจึงเป็นส่วนราชการลำดับที่ ๒ ที่มีการ
บรรจุเจ้าหน้าที่ประจำตำแหน่งตามอัตรา จนกระทั่ง
พระองค์ได้รับพระราชทานให้ดำรงตำแหน่งจเร
ทหารเรือ ในอีก ๑ ปีต่อมา จึงมีสิ่งที่น่าสังเกตว่าในขณะที่
พระองค์ดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือนั้น
พระกรณียกิจของพระองค์ทรงมีต่อกรมเสนาธิการ
ทหารเรือมีประการใดบ้าง
จากต้นฉบับเอกสารที่เกี่ยวด้วยพระกรณียกิจของ
พระองค์ในขณะดำรงตำแหน่งเสนาธิการทหารเรือ
โดยตรงเท่าที่สืบค้นได้ในขณะนี้มีอยู่ไม่มากนัก แต่มี “การงานในน่าที่เสนาธิการ เปนงานยาวแล
ต้นฉบับเอกสารฉบับหนึ่ง คือ หนังสือกราบบังคมทูล กว้างขวางมีทั้งการปัตยุบันแลการอนาคต ซึ่งต้องใช้
ของเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ เกี่ยวกับการจัดราชการ ความคิดอันสุขุม ที่เปนงานช้า งานประณีต ไม่สามารถ
กระทรวงทหารเรือ ทูลเกล้าฯ ถวายพระบาทสมเด็จ จะให้สำเร็จลงได้โดยเร็วก็ย่อมมีอยู่เอนกประการ,
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ส่วนที่เปนงานอันเงียบอันบุคคลภายนอกไม่สามารถ
พ.ศ.๒๔๕๙ มีข้อความส่วนหนึ่งอธิบายการดำเนินการ จะเห็นว่าได้ลุล่วงสำเร็จไปก็มีอยู่เปนอันมาก, อนึ่ง
ของกรมเสนาธิการทหารเรือ กับการทำการของเสนาธิการ กรมเสนาธิการทหารเรือก็พึ่งได้ตั้งขึ้นบรรจบครบรอบ
ทหารเรือในระยะเริ่มแรก ทำให้เห็นประวัติความเป็นมา ๓ ปี โดยมิได้มีรากเง่ามาแต่เดิมแม้แต่เล็กน้อย ผู้คน
ของกรมเสนาธิการทหารเรือ ที่ตั้งขึ้นในครั้งนั้นตลอดจน แรงงานก็ยังบกพร่องโดยยังขาดผู้ที่มีความรู้พอแก่การ
พระกรณียกิจของนายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ แม้อัตราตำแหน่งอันได้ตั้งไว้เปนโครงเล็กก่อน ก็ยัง
กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร เสนาธิการทหารเรือ ไม่สามารถหาตัวผู้ที่สมควรบรรจุลงให้เต็มได้,
ดังข้อความว่า ความขัดข้องเหล่านี้ ควรยกให้เปนประโยชน์ข้อแก้ตำหนิ
๓ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนี และออสเตรีย
ฮังการี ปึก ๑. แผ่นที่ ๒๕.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 49
ความบกพร่องในน่าที่เสนาธิการบ้าง แลการที่เสนาธิ ใหม่สำหรับการนั้นที่สมุทปราการ จะได้เปิดโรงเรียนใน
การได้จัดทำไปแล้วในระหว่างเวลานี้ ยกขึ้นกราบบังคม ต้นศก ๒๔๕๙.
ทูลแต่สิ่งสำคัญคือ:- (๙) ดำริการออกแบบเรือพระร่วงพร้อมด้วย
(๑) การวางระเบียบฝึกหัดเรือแลกองเรือ แบ่งเปน กรรมการ.
ภาคปืนใหญ่, ภาคตอร์ปิโด, ภาคกระบวนเรือแลซ้อม (๑๐) ดำริการแลอำนวยการตรวจแบบการสร้าง
รบ ต่อเนื่องกับที่นายชไนด์เลอร์ได้ริเริ่มทำไว้ แลซึ่งได้ ร.ร.ล.รัตนโกสินทร์.
เริ่มจัดตั้งแต่ต้นที่ได้ตั้งกรมเสนาธิการเปนต้นมาจนทุก (๑๑) วางอัตราตำแหน่งคนประจำเรือต่างๆ.
วันนี้ ซึ่งจะขาดตกบกพร่องอยู่บ้างก็ด้วยอุปสัคต่างๆ (๑๒) ดำริการออกแบบเตรียมศึกสำหรับการวาง
มีความขาดในเครื่องมือเครื่องใช้ แลข้อสำคัญขาดคนที่ ทุ่นระเบิดซึ่งยังค้างด้วยต้องรอการสำรวจแผนที่ลำน้ำ
สามารถไปอำนวยการได้ด้วยความสันทัดจริง. ซึ่งได้อำนวยให้ทำเสร็จแล้ว ๓ ลำน้ำ.
(๒) วางระเบียบสถานีเรือวิธีจัดคนประจำน่าที่ (๑๓) ดำริการจัดพัสดุเตรียมศึกให้พรักพร้อมที่เรือ
ต่างๆ ในเรือเฉภาะการต่างๆ. จะรับได้ทันที จะได้ลงมือจัดตามนั้นเมื่อการสร้างคลัง
(๓) การวางระเบียบน่าที่ราชการเรือสำหรับ ใหม่ได้สำเร็จลงใน พ.ศ.๒๔๕๙.
ตำแหน่งแลการงานทุกแพนกในเรือ ซึ่งเรียบเรียงเปน (๑๔) จัดการวิทยุโทรเลขตั้งแต่สร้างสำเร็จตลอด
ข้อบังคับลงพิมพ์เปนหนังสือถึง ๑๕๙ น่ากระดาด แล มา หาได้มีการเสียหายประการใดไม่.
ซึ่งเปนประโยชน์มาก. (๑๕) อำนวยการฝึกหัดอาณัติสัญญาให้สำเร็จ
(๔) ข้อบังคับน่าที่การกลจักร์ ซึ่งถึงกรมเสนาธิการ ผู้คนคล่องแคล่วดีขึ้นทุกชนิดของอาณัติสัญญา ตลอด
จะไม่ได้เปนผู้เรียบเรียงก็ได้เปนผู้อำนวยให้สารวัดกล จนวิทยุโทรเลข.
จักร์รวบรวมเรียบเรียงขึ้นรวมทั้งของเดิมที่มีอยู่แล้ว (๑๖) วางระเบียบการตั้งราชนาวิกะสภา เปนสถานท ี่
แลกรมเสนาธิการได้ตรวจแก้ไขเปนสมุดเล่มพิมพ์ ๑๒๒ ฝึกฝนแลบำรุงความรู้นายทหารให้ยิ่งขึ้นไป ได้รับ
น่ากระดาด. พระราชทานพระบรมราชานุญาตแล้ว จะได้เริ่มเปิด
(๕) ได้เรียบเรียงข้อบังคับน่าที่ราชการทหารฝ่าย ในเดือนเมษายน ๒๔๕๙.” ๔
บกเสร็จแล้ว ยังอยู่ระหว่างข้าพระพุทธเจ้าตรวจตรา. จากข้อความในหนังสือกราบบังคมทูลเกี่ยวกับการ
(๖) ได้เรียบเรียงแลจัดการพิมพ์สมุดประมวล จัดราชการกระทรวงทหารเรือดังกล่าวข้างต้น ทำให้
อาณัติสัญญาลับสำหรับราชการทหารเรือเล่ม ๑ จ่ายใช้ เข้าใจกระบวนการก่อร่างกรมเสนาธิการทหารเรือซึ่ง
ราชการแล้ว, เล่ม ๒ ใกล้จะสำเร็จ ยังจะทำเล่ม ๓ ต่อ เจริญขึ้นตามลำดับแล้ววิวัฒน์การต่อมาจนกระทั่ง
ไป ได้ตั้งเค้าไว้แล้วบ้าง. เปลี่ยนแปลงชื่อและหน้าที่กรมเป็นอย่างอื่นในปัจจุบัน
(๗) วางระเบียบการศึกษาแลฝึกหัดสำหรับพล ว่า กรมเสนาธิการทหารเรือ เป็นกรมซึ่งตั้งขึ้นใหม่ใน
ทหารเข้ารับราชการกึ่งปีภาคต้น ซึ่งจะได้เริ่มใช้ตั้งแต่ รัชสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นี้มิได้
ต้นศก ๒๔๔๙ แลวางโครงระเบียบสำหรับการฝึกหัดต่อ สืบทอดกิจการจากกรมทหารเรือใด มิได้มีกิจอันเป็น
จากภาคต้นนั้นไป จนตลอดถึงการฝึกหัดน่าที่พิเศษต่าง ๆ งานเสนาธิการที่ดำเนินการโดยบุคคลหรืออยู่ในความ
ยังจะได้จัดรายเลเอียดเข้าหาโดยลำดับไป. รับผิดชอบของกรมกองทหารเรืออื่น กิจการของกรม
(๘) งานระเบียบแลหลักสูตรสำหรับนักเรียนจ่าแล เสนาธิการที่กระทรวงทหารเรือริเริ่มตั้งขึ้นใหม่เป็นการ
พันจ่าทั้งฝ่ายเรือแลช่างกล แลดำริการสร้างโรงเรียน กำหนดเป็นการจัดโครงสร้างและกำหนดอัตราตำแหน่ง
๔ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. แฟ้มที่ ร.๖ ก.๒๐.๑/๒๗ จัดระเบียบราชการกระทรวงทหารเรือ. แผ่นที่ ๑๑ - ๑๔
50 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
๑๖ ประการ และพระกรณียกิจ ๑ ใน ๑๖ ประการนั้น
คือการดำริและดำเนินการก่อตั้ง “ราชนาวิกะสภา”
“ราชนาวิกะสภา”
ข้อความในหนังสือกราบบังคมทูลฯ ของเสนาบดี
กระทรวงทหารเรือเกี่ยวด้วยการจัดราชการกระทรวง
ทหารเรือดังกล่าวข้างต้น เมื่อนำมาวิเคราะห์ประกอบ
กับเอกสารเรื่องการเสนอขออนุญาตตั้ง “ราชนาวีสภา”
จะเห็นได้ว่า ราชนาวิกสภาก่อตั้งขึ้นจากความคิดริเริ่ม
และการดำเนินการของ นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ
กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร เสนาธิการทหารเรือ
ทรงถวายดำริ ร่างระเบียบข้อบังคับ กะประมาณสถานท ี่
อัตราเจ้าหน้าที่ สิ่งของเครื่องใช้ตลอดจนงบประมาณ
ต่อเสนาบดีกระทรวงทหารเรือมาตั้งแต่แรก เมื่อเสนาบด ี
กระทรวงทหารเรือเห็นชอบด้วยพระดำริ เสนาบดี
กระทรวงทหารเรือจึงส่งเรื่องขอพระบรมราชานุญาต
จากนั้นกระทรวงทหารเรือจึงมีคำสั่งบรรจุบุคคล
เจ้าหน้าที่ตามอัตรา
ราชนาวิกสภาที่เริ่มต้นขึ้นด้วยรากฐานพระดำริ
ของพระองค์แล้วมีพัฒนาการสืบมาจนกระทั่งครบวาระ
๑๐๐ ปีในปัจจุบัน จึงเป็นพระกรณียกิจซึ่งนายพลเรือโท
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร
ทรงมีต่อกิจการราชนาวิกสภาที่น่าสังเกต ๒ ประการ
เจ้าหน้าที่ในลักษณะที่เป็นโครงเล็กไว้ก่อน แล้วจึงหาตัว คือ ทรงเป็นผู้ริเริ่มพระดำริ วางหลักการและกำหนด
บุคคลที่มีความรู้มีวิชาเพื่อจัดบรรจุอัตราให้เต็มตาม ระเบียบข้อบังคับราชนาวิกสภาทั้งในวาระเริ่มแรก และ
โครงสร้างต่อไป และในขณะนั้นก็ยังขาดเจ้าหน้าที่ซึ่งมี ในวาระที่มีเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ และทรงเป็นองค์
คุณสมบัติเหมาะสมไม่สามารถหาตัวจัดบรรจุกับ ปาฐกพระองค์แรกของราชนาวิกสภา ทรงกล่าว
ตำแหน่งได้ ปาฐกถาเรื่อง “ยุทธศาสตร์” แสดงถึงพื้นฐาน
ทั้งนี้พึงสังเกตว่ามีพระกรณียกิจอื่น ๆ ที่เสนาธิการ แนวความคิดและการดำเนินพระดำริให้การก่อตั้ง
ทหารเรือ ทรงดำเนินการในระยะ ๓ ปีแรกของการ ราชนาวิกสภาบรรลุผลตามวัตถุประสงค์ พระกรณียกิจ
ก่อตั้งกรมเสนาธิการทหารเรือซึ่งเสนาบดีกระทรวง ซึ่งทรงมีต่อราชนาวิกสภาทั้ง ๒ ประการดังกล่าวมี
ทหารเรือ อธิบายถึงในหนังสือกราบบังคมทูลฯ มีถึง รายละเอียดดังนี้
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 51
ประการที่ ๑.พระดำริในการวางหลักการและกำหนด กระทรวงทหารเรือ ดังปรากฏเป็นข้อความว่า
ระเบียบข้อบังคับราชนาวิกสภา “ด้วยเวลานี้นายทหารชั้นสัญญาบัตร, ที่ได้ศึกษา
หลังจากนายพลเรือเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ วิชามาจากโรงเรียนนายเรือก็ดี, จากที่ใด ๆ ก็ดี, เมื่อมา
กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดีกระทรวง รับราชการในราชนาวีแล้ว โดยมากยังหาได้มีโอกาสที่
ทหารเรือ ทรงลงพระนามในคำสั่งกระทรวงทหารเรือ จะได้ศึกษาวิชาต่อไปให้มีความรู้ทันกับสมัยไม่, เพราะ
ไม่มีสถานที่จะเล่าเรียนต่อได้อย่างหนึ่ง, เพราะไม่มีแบบ
๒๔๕๘
ที่ ๕๓๒ / ๑๓๓๑๐ ลงวันที่ ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๔๕๘ ที่จะศึกษาได้เองอิกอย่างหนึ่ง, เพราะไม่ได้สนทนา
มีผลให้ตั้งราชนาวีสภาของทหารเรือขึ้นในวันที่ ๑ เมษายน
พ.ศ.๒๔๕๙ ใช้คำเรียกว่า “ราชนาวิกะสภา” โดยผล ปราไสยเปนการแลกเปลี่ยนความรู้ซึ่งกันแลกันได้
แห่งการนี้จึงมีการประกาศใช้ข้อบังคับทหารเรือว่าด้วย อิกอย่างหนึ่ง
เพื่อจะแก้ไขความบกพร่องที่กล่าวมานี้ แลเพื่อ
๒๔๕๘
การตั้งราชนาวิกะสภาบทที่ ๒๙ / ขึ้น มีเนื้อหา ประโยชน์แห่งราชนาวีต่อไป จึงได้ตั้งราชนาวิกะสภาขึ้น
๑๓๓๑๐
รวมทั้งสิ้น ๑๔ ข้อ
สาระสำคัญซึ่งเป็นวัตถุประสงค์และความมุ่งหมาย อิกแพนกหนึ่ง, ในกรมเสนาธิการทหารเรือ, โดยระเบียบ
๕
ที่ปรากฏในข้อบังคับทหารเรือดังกล่าวข้างต้นมี การดังจะกล่าวไว้ในข้อบังคับต่อไปนี้…”
รายละเอียดเพิ่มเติมวัตถุประสงค์และความมุ่งหมาย ข้อบังคับทหารเรือว่าด้วยการตั้งราชนาวิกะสภา
๒๔๕๘
ในการก่อตั้งราชนาวิกสภามากกว่าที่ปรากฏในคำสั่ง บทที่ ๒๙ / ๑๓๓๑๐ มีเนื้อหาเป็นการกำหนดลักษณะและ
วิธีการดำเนินงานราชนาวิกสภาในเรื่องใหญ่ๆ ๖ เรื่อง ได้แก่
๕ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๑.๒/๔ ขอพระบรมราชานุญาตตั้งราชนาวิกสภาของทหารเรือ. แผ่นที่ ๑๓.
52 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
๑. วัตถุประสงค์ในการใช้สถานที่ราชนาวิกาสภามี
๖ ข้อ คือ ห้องสมุด เล่นยุทธกีฬา ประชุมฟังการ
บรรยาย แสดงเรื่องที่นายทหารแต่งตามปัญหาที่กรม
เสนาธิการทหารเรือตั้งขึ้น ประชุมหารือหรือแสดงคารม
ในวิทยาการและข้อราชการทหารเรือ และเป็นที่สมาคม
ของนายทหาร
๒. ผู้มีสิทธิเข้าใช้สถานที่ราชนาวิกสภาโดยทั่วไป
ได้แก่ นายทหารเรือชั้นสัญญาบัตร แต่มีข้อยกเว้น
สำหรับข้าราชการชั้นสัญญาบัตรซึ่งไม่ใช่นายทหาร นาย
ทหารกองหนุนเบี้ยบำนาญ ข้าราชการชั้นสัญญาบัตร
นอกประจำการที่เป็นมียศเป็นอำมาตย์ในกระทรวง
ทหารเรือ นายทหารยศต่ำกว่าสัญญาบัตรที่มีตำแหน่ง
หน้าที่ในราชนาวิกสภา บุคคลภายนอกซึ่งได้รับเชิญเป็น
แขกหรือได้รับอนุญาต และคนขายอาหารเครื่องดื่มที่ได้
รับอนุญาตจากเสนาธิการทหารเรือ
๓. ข้อกำหนดการแจ้งให้เข้าประชุมฟังคำบรรยาย
และการแสดงคารม และหัวข้อเนื้อหาของเรื่องที่จะ
ประชุมและแสดงคารมจะต้องไม่เป็นการวิพากษ์
วิจารณ์นโยบายรัฐบาล
๔. อำนาจในการตั้งกรรมการอำนวยการและ
๖
กรรมการเฉพาะกิจของราชนาวิกสภา เป็นอำนาจของ หรือเรือหลายแห่ง เป็นต้น
เสนาธิการทหารเรือ เมื่อถึง พ.ศ.๒๔๗๒ จึงมีการเปลี่ยนแปลงครั้ง
หลังจากประกาศใช้ข้อบังคับทหารเรือว่าด้วยการ สำคัญขึ้นในขณะที่พระองค์ทรงเป็นนายพลเรือเอก
๒๔๕๘
ตั้งราชนาวิกะสภาบทที่ ๒๙ / ๑๓๓๑๐ แล้วน่าจะมีการตั้ง พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
แผนกต่าง ๆ ขึ้น แล้วจึงมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติม และทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ
หลายประการจนกระทั่งเกิดข้อบังคับกระทรวงทหารเรือ การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้มีลักษณะจัดโครงสร้างตาม
บทที่ ๘๕ (ข.ท.ร. บทที่ ๘๕) ขยายความใช้ควบคู่กับ สายงานแล้วจัดทำเป็นระเบียบข้อบังคับขึ้นใหม่เรียกว่า
๒๔๕๘
๗
ข้อบังคับบทที่ ๒๙ / ๑๓๓๑๐ ทำให้ราชนาวิกสภามี “บันทึกระเบียบการราชนาวิกสภา พ.ศ.๒๔๗๒”
กิจการหลายอย่าง มีฐานะและชื่อเรียกหน่วยงานย่อย ๆ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปด้วยเหตุความเจริญก้าวหน้า
แตกต่างกัน อาทิ ห้องสมุด การเงิน แผนกขายของ ในกิจการของราชนาวิกสภามากกว่าที่เคยกำหนดไว้เดิม
แผนกยุทธกีฬา แผนกนาวิกศาสตร์แผนกฌาปนะกิจ ดังจะเห็นได้จากข้อความซึ่งแสดงวัตถุประสงค์และ
แผนกกีฬาในร่ม แผนกกีฬาสนาม แผนกศุขาภิบาล ความมุ่งหมายของบันทึกระเบียบการราชนาวิกสภา
มีการจัดสโมสรสาขาของราชนาวิกสภาขึ้นตามหน่วยงาน พ.ศ.๒๔๗๒ ที่ระบุว่า
๖ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๑.๔.๑/๑๔๒ คำสั่งแบ่งมอบรับหน้าที่และการงานในราชนาวิกสภา. แผ่นที่ ๒ - ๓.
๗ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๑.๔.๒/๖๒ ข้อบังคับระเบียบการราชนาวิกสภา พ.ศ.๒๔๗๒. (เอกสารมี ๒ ปึก)
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 53
“ด้วยกิจการของราชนาวิกสภาได้ดำเนิรขึ้น ๖ ตอน ได้แก่ ตอนที่ ๑ ความมุ่งหมายและเกณฑ์ที่ตั้ง
เป็นลำดับมา สมควรที่จะวางระเบียบลงไว้เป็นหลักฐาน ตอนที่ ๒ การแบ่งแผนกภายในสาขา ตอนที่ ๓ เจ้า
แน่นอน และขยายกิจการให้กว้างขวางยิ่งขึ้น เพื่อจะได้ หน้าที่ปฏิบัติการ ตอนที่ ๔ วิธีปฏิบัติการ ตอนที่ ๕
เป็นทางผดุงฐานะของการงานอันเป็นแบบเดียวกันกับ ระเบียบการสหโภชน์เรือ ตอนที่ ๖ ระเบียบการเงินของ
ราชนาวิกสภา ที่ได้จัดตั้งขึ้นแล้วในกรมกองและเรือต่าง ๆ สาขาต่าง ๆ
ให้ไปสู่จุดที่มุ่งหมายในแนวเดียวกันได้โดยสะดวก จากเนื้อหาโดยรวมของบันทึกระเบียบการราช
ประการหนึ่ง อิกประการหนึ่งกรมกองและเรือใดที่ยัง นาวิกสภา พ.ศ.๒๔๗๒ ซึ่งเปลี่ยนแปลงไปอย่างสำคัญ ได้แก่
มิได้จัดตั้งขึ้น จะได้มีโอกาสทำขึ้นโดยทำนองเดียวกัน ๑. กำหนดให้มีการจัดตั้งสาขาขึ้นตามกรมกอง
และหวังจะให้เป็นประโยชน์ต่อไปถึงข้าราชการทหาร และเรือหลวงต่าง ๆ เพื่อเป็นการเผยแผ่ประโยชน์ให้
เรือที่ต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตรด้วย จึงให้เลิกข้อความ กว้างขวางออกไปเท่าที่สามารถจะทำได้
ในข้อบังคับว่าด้วยการตั้งราชนาวิกสภาที่ ๒๙ / ๒๔๕๘ ๒. กำหนดให้มีหน้าที่พิมพ์หนังสือที่เกี่ยวกับวิชา
๑๓๓๑๐
ข.ท.ร.บทที่ ๘๕ นั้นเสีย ใช้ข้อความในบันทึกต่อไปนี้แทน การทหารเรือออกจำหน่าย
ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน พุทธศักราช ๒๔๗๒ ส่วนการ ๓. จำหน่ายสิ่งของบางอย่าง เพื่อเป็นการอุดหนุน
สังกัดในทางการปกครองนั้น ให้คงขึ้นอยู่ในกรมเสนาธิ ข้าราชการทหารเรือ ให้ได้ซื้อสิ่งของได้สะดวก ด้วยราคา
การณ์ทหารเรือต่อไปตามเดิม” ๘ อันสมควร
บันทึกระเบียบการราชนาวิกสภา พ.ศ.๒๔๗๒ ๔. การแบ่งกิจการออกเป็นแผนก แต่ละแผนก
มีเนื้อหารวม ๔๕ มาตรา แบ่งเป็น ๒ ภาค แต่ละภาค แบ่งออกเป็นหมวด ดังต่อไปนี้
แบ่งเนื้อหาย่อยออกเป็นตอน มีรายละเอียดคือ (๑) แผนกวิชชูปกรณ์ อันเป็นแผนกสำคัญยิ่งของ
ภาคที่ ๑ ว่าด้วยราชนาวิกสภา มีเนื้อหาย่อย ๑๔ ราชนาวิกะสภานั้น มีหน้าที่เกี่ยวกับการส่งเสริมความรู้
ตอน คือ ตอนที่ ๑ ว่าด้วยความมุ่งหมายของการตั้ง ทั้งปวงที่จะเป็นประโยชน์แก่การทหารเรือ แบ่งออก
กล่าวโดยสาธารณะนัย ตอนที่ ๒ ว่าด้วยการแบ่ง เป็น ๖ หมวด คือ ๑.หมวดห้องสมุด ๒.หมวดนาวิกะ
กิจการออกเป็นแผนก ตอนที่ ๓ ว่าด้วยตำแหน่งของ ศาสตร์ ๓.หมวดปาฐะกถา ๔.หมวดบัญญัติศัพท์
เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการ ตอนที่ ๔ ว่าด้วยหน้าที่ตาม ๕.หมวดยุทธกีฬา ๖.หมวดการช่าง
ตำแหน่งต่าง ๆ ประเภทประจำ ตอนที่ ๕ ว่าด้วยหน้าที่ (๒) แผนกภัณฑุปกรณ์ มีหน้าที่จำหน่ายสิ่งของ
ตามตำแหน่งต่าง ๆ ประเภทชั่วคราว ตอนที่ ๖ ว่าด้วย บางอย่าง เพื่อเป็นการอุดหนุนคณะข้าราชการทหารเรือ
การบรรจุตำแหน่ง ตอนที่ ๗ ว่าด้วยหน้าที่ของหมวดที่ ให้ได้ซื้อสิ่งของได้สะดวกด้วยราคาอันสมควร
ไม่มีตำแหน่งเจ้าหน้าที่ประเภทประจำ ตอนที่ ๘ ว่า (๓) แผนกสหโภชน์ มีหน้าที่บำรุงการบริโภค,
ด้วยระเบียบการภัณฑุปกรณ์ ตอนที่ ๙ ว่าด้วยการเงิน หลับนอน, และชำระร่างกายในที่ซึ่งจัดไว้โดยเฉพาะ
ตอนที่ ๑๐ ว่าด้วยการประชุม ตอนที่ ๑๑ ว่าด้วยวิธี (๔) แผนกกีฬา มีหน้าที่บำรุงการกีฬาทุกประเภท
การปกครองและอำนวยการ ตอนที่ ๑๒ ว่าด้วยสมาชิก ทั้งในร่มและกลางแจ้ง แบ่งออกเป็น ๓ หมวด คือ
และสิทธิของสมาชิก ตอนที่ ๑๓ ว่าด้วยแขกและบุคคล ๑.หมวดกีฬาในร่ม ๒.หมวดกีฬากลางแจ้ง ๓.หมวด
ภายนอก และ ตอนที่ ๑๔ ว่าด้วยรางวัล บันเทิง
ภาคที่ ๒ ว่าด้วยสาขาราชนาวิกะสภา แบ่งเป็น (๕) แผนกกุศล มีหน้าที่เกี่ยวกับการบุญหรือ
๘ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๑.๔.๑/๖๒ ข้อบังคับระเบียบการราชนาวิกสภา พ.ศ.๒๔๗๒. (ปึกที่ ๒) แผ่นที่ ๙๓.
54 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
อุดหนุนทหารเรือเท่าที่สามารถจะทำได้ เช่นการฌาปนกิจ ๕ มกราคม ตำแหน่งนายกกรรมการสับเปลี่ยนในวันที่
สำหรับนายทหารเรือ ตามระเบียบที่ราชนาวิกะสภา ๕ เมษายน ของทุก ๆ ปี
จักได้กำหนดไว้ และหารายได้สำหรับบำรุงศพทหารที่ ๘. กำหนดวิธีการตั้งสาขาและวิธีดำเนินการสาขา
ไม่มีญาติเพื่อให้พ้นความสมเพศเวทนา แบ่งออกเป็น ราชนาวิกสภา โดยออกเป็นระเบียบย่อยเรียกว่า
๒ หมวด คือ ๑.หมวดฌาปนกิจ ๒.หมวดของเช่า “แจ้งความ กรม กอง และเรือซึ่งมีหน้าที่จัดตั้งสาขา
๒๔๗๐
๕. กำหนดตำแหน่งของเจ้าหน้าที่สำหรับปฏิบัติ ตามข้อบันทึกราชนาวิกสภา ที่ ๑๘ / ” กำหนด
๐๒๒๐๐
การเป็น ๒ ประเภท คือ ให้จัดตั้งสาขาราชนาวิกสภาขึ้นดังนี้
(๑) ประเภทประจำ มีอัตราเงินเดือนของ - สาขาบนบก ๘ สาขา คือ ๑.สาขาโรงเรียน
กระทรวงทหารเรือตามที่ได้กำหนดไว้ จำนวนประมาณ นายเรือ ๒.สาขากองพันพาหนะทหารเรือ ๓.สาขา
๕ นาย ได้แก่ เลขานุการ เหรัญญิก ผู้ช่วยเหรัญญิก กองเรือกลชั้น ๔.สาขากรมสรรพาวุธทหารเรือ ๕.สาขา
ปฏิคม เสมียนพนักงานตามอัตราสมควร กองโรงเรียนชุมพล ๖.สาขาป้อมผีเสื้อสมุทร ๗.สาขา
(๒) ประเภทชั่วคราว มีตำแหน่งและอัตราเงิน ป้อมพระจุลจอมเกล้า ๘.สาขาสัตตหีบ
เดือนตามสังกัด จำนวน ๑๖ นาย ได้แก่ นายก - สาขาในเรือ ๑๐ สาขา คือ ๑.สาขา ร.พ.ท.มหาจักรี
กรรมการอำนวยการ ๑ นาย กรรมการอำนวยการ ๒.สาขา ร.ล.รัตนโกสินทร์ ๓.สาขา ร.ล.พระร่วง ๔.สาขา
๑๕ นาย ร.ล.เจ้าพระยา ๕.สาขา ร.ล.พาลีรั้งทวีป ๖.สาขา
๖. การบรรจุตำแหน่งเจ้าหน้าที่ ร.ล.สุครีพครองเมือง ๗.สาขา ร.ล.มกุฎราชกุมาร
(๑) การบรรจุตำแหน่ง ประเภทประจำเป็นหน้าที่ ๘.สาขา ร.ล.เสือคำรณสินธุ์ ๙.สาขา ร.ล.เสือทยานชล
ของกรมเสนาธิการณ์ทหารเรือ คัดเลือกบุคคลบรรจุ ๑๐.สาขา ร.ล.วิเทศกิจการ
ตำแหน่งประเภทประจำตามอัตราที่ กระทรวงทหารเรือ - สำหรับ ร.ล.หาญทะเล ร.ล.ลิ่วทะเล ร.ล.เจนทะเล
กำหนดไว้ และ ร.ล.พระยม ให้จัดเป็นสาขาขึ้น เฉพาะคราวที่เรือ
(๒) การบรรจุตำแหน่ง ประเภทชั่วคราว ไปราชการทะเล
- ตำแหน่งนายกกรรมการเป็นหน้าที่โดยตรงของ - สำหรับ ร.ล.ตอร์ปิโด เป็นเรือเล็กจะจัดเป็นสาขา
คณะกรรมการอำนวยการทำความตกลงกันว่าใครบ้าง ไม่สะดวก ให้จัดหาซื้อสิ่งของเอาจากเรือหรือสาขาที่
เป็นผู้สมควรจะได้รับตำแหน่ง และคณะกรรมการ ใกล้เคียง และการกีฬานั้นให้ได้รับความเอื้อเฟื้อจาก
อำนวยการเลือกโดยการลงคะแนนลับ หากมีผู้ได้ ราชนาวิกะสภาหรือเรือกองบ้างตามสมควร ส่วนการ
คะแนนเท่ากันตั้งแต่ ๒ นายขึ้นไปให้เลือกโดยการ สหโภชน์ให้รับประทาน ณ ที่พักทหาร (Depot) หรือที่
ลงคะแนนลับใหม่ อย่างไรก็ตามจะต้องเลือกผู้ที่มี เรือกอง หรือที่เรือพัก เว้นแต่เรือไปราชการลำลอง
อาวุโสสูงกว่าบรรดากรรมการทั้งหลายเป็นนายก เป็นการค้าให้จัดตั้งสหโภชน์ขึ้นในเรือเป็นพิเศษ
กรรมการเสมอไป ทั้งนี้สิ่งซึ่งพึงสังเกตอย่างยิ่งในการเปลี่ยนแปลงที่
- ตำแหน่งกรรมการ นายกกรรมการอำนวยการ สำคัญครั้งนี้ คือการขยายกิจแห่งราชนาวิกสภาจากที่
มีหน้าที่คัดเลือกแล้วรายงานเสนอกรมเสนาธิการทหารเรือ เคยมุ่งประสงค์ต่อนายทหารชั้นสัญญาบัตรในวาระเริ่ม
เป็นผู้เลือกตั้งเสนอกระทรวงทหารเรือลงคำสั่งให้ แรกนั้นขยายไปสู่ทหารชั้นต่ำกว่าสัญญาบัตร ซึ่งหมาย
ประจำตำแหน่ง ถึงการขยายวัตถุประสงค์และความมุ่งหมายของ
๗. กำหนดวาระการดำรงตำแหน่งของคณะ ราชนาวิกสภาขยายครอบคลุมทหารเรือเกือบทั้งหมดใน
กรรมการอำนวยการ ให้สับเปลี่ยนกันภายในวันที่ ราชนาวีสยาม
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 55
ดำเนินการซึ่งอาจนำเอาไชยชะนะมาได้” ๑๐
จากข้อความดังกล่าวข้างต้นแสดงให้เห็นพระดำริ
ของพระองค์ว่าพระองค์เห็นความสำคัญและเห็น
ประโยชน์ของการมีกองทัพเรือ แต่ด้วยองค์ประกอบ
ในความเป็นประเทศสยามในขณะนั้นไม่อาจมีกองทัพเรือ
ที่มีกำลังเพียบพร้อม มีเรือรบใช้การเพียงพอตาม
ต้องการได้ แต่พระองค์ก็ยังเห็นช่องทางที่จะทำให้
กองทัพเรือขนาดเล็กที่มีข้อจำกัดเช่นกองทัพเรือสยาม
ประการที่ ๒.ทรงเป็นองค์ปาฐกพระองค์แรก นั้นอาจเอาชัยต่อศัตรูได้ ดังแนวคิดของพระองค์ที่กล่าว
ของราชนาวิกสภา ในปาฐกถาตอนหนึ่งว่า
นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิงห “จะกระทำสงครามให้เปนที่บริบูรณ์ไม่บกพร่อง
วิกรมเกรียงไกร เสนาธิการทหารเรือและเจ้ากรมยุทธ ย่อมต้องตระเตรียมไว้ให้พร้อมสรรพในเวลาสงบศึก
ศึกษาทหารเรือ ทรงบรรยายหัวข้อ “ยุทธศาสตร์” การตระเตรียมนี้ก็ต้องมีหลักฐานสำหรับที่จะดำเนินการ
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๔ มกราคม พ.ศ.๒๔๕๙ เนื้อหาซึ่ง หลักที่จะดำเนินการนี้เปนน่าที่ของผู้ที่จะดำเนินการ
ทรงกล่าวปาฐกถา แสดงถึงพื้นฐานแนวความคิดและ ค้นหาเอาเอง ที่จริงก็มีอยู่ดังนี้ คือต้องอาไศรย
การดำเนินพระดำริให้การก่อตั้งราชนาวิกสภา ความชำนาญช่ำชอง, ในน่าที่ราชการ ความสันนิฐาน
ดังข้อความระบุว่า เหตุการณ์ที่จะต้องปฏิบัติการต่าง ๆ โดยต้องคิด
“การที่จะได้กล่าวนี้ ก็เพื่อประโยชน์สำหรับ ให้รอบคอบถึงทางได้แลทางเสีย โดยโต้เถียงกัน การที่
นายทหารเรือ เพื่อจะดำเนินราชการในราชนาวีสยาม เรียกว่าโต้เถียงนี้จะนำมาซึ่งประโยชน์ได้ก็เมื่อผู้ที่
ต่อไป... แม้ข้าพเจ้าจะได้กล่าวต่อไปเปนการใหญ่โต โต้เถียงนี้ได้มีหลักมาจากพงษาวดารหรือจากหลักใด
ซึ่งดูประหนึ่งว่าสำหรับชาติที่มีทหารเรือใหญ่โตนั้นไซร้ หลักหนึ่ง...
ซึ่งในชีวิตรเราจะยังแลไม่เห็นว่าประเทศเราจะต้อง ความรู้ในพงษาวดารเปนของที่ละเลยไม่ได้
ดำริห์ใหญ่โตถึงเท่านี้ แต่ข้าพเจ้าเห็นว่าการที่รู้ไว้เช่นนี้ สำหรับผู้ที่จะเปนหัวน่าผู้นำทัพแลผู้เตรียมทัพ
มีประโยชน์ โดยที่เราสามารถเก็งใจของชาติที่มีกำลัง พงษาวดารจะชี้ให้เห็นว่าสิ่งไหนที่ควรจะกระทำ สิ่งไหน
ทหารเรือมากกว่าจะทำอย่างไร ในเมื่อชาตินั้น ๆ มาเปน ที่ไม่ควรกระทำ เพราะฉนั้นเมื่อจะเรียนแล้วต้องให้รู้จัก
ราชสัตรูประการหนึ่ง อิกประการหนึ่งนั้นสำหรับท่าน ว่าความดีแลความชั่วของอดีตภาคนั้นเปนอย่างไร สิ่งใด
จะได้ฝึกฝนนายทหารผู้น้อยต่อไป” ๙ ที่เราควรเอาอย่างแลสิ่งใดไม่ควรเอาอย่าง ผู้ที่เปน
“ถ้าจะรบแล้วก็ต้องเตรียมการไว้โดยตลอดเท่าที่ นักปราชญ์ทางพงษาวดารเรือสามารถที่จะจดเหตุการณ์
จะเตรียมได้ แต่การเตรียมนี้ ถึงแม้ว่าจะโดยรอบคอบ ได้ดีเท่านั้น ที่จะสอนยุทธศาสตร์แลยุทธวิธีไม่ได้
สักปานใด ก็จะประกันไม่ได้ว่า จะนำไปสู่ไชยชะนะ ยุทธศาสตร์แลยุทธวิธีนั้นไม่ได้ ยุทธศาสตร์แลยุทธวิธี
เสมอ เพราะว่าสัตรูอาจคิดดีกว่าเราขึ้นไปอิกก็ได้ เปนของผู้ที่จะเรียนเรียนเอาเองจากพงษาวดาร
ในการที่จะเตรียมนี้ ก็ต้องมีหลักอยู่บ้างสำหรับที่จะ นักเรียนพงษาวดารเมื่อได้ยกเหตุผลต่าง ๆ กล่าวคือ
๙ สิงหวิกรมเกรียงไกร, นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น. “ยุทธศาสตร์” นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑ มกราคม ๒๔๖๐ หน้า ๑.
๑๐ สิงหวิกรมเกรียงไกร, นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น. “ยุทธศาสตร์” หน้า ๒.
56 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
แสวงหาความรู้ความชำนาญโดยเฉพาะตัวมิใช่ความรู้
ความชำนาญซึ่งเกิดจากการสอน ทรงยกตัวอย่างผล
สำเร็จของการมีนายทหารเรือที่มีความชำนาญสามารถ
เอาชัยชนะกองทัพเรือที่มีขนาดกองเรือใหญ่กว่าได้จาก
สงครามระหว่างรัสเซียกับญี่ปุ่น การรบที่ยุตแลนด์
(The Battle of Jutland) การยุทธที่ไครเมีย
(Crimean War) การยุทธในครั้งสงครามกลางเมือง
ทวีปอเมริกา (Civil-War) การยุทธที่ตราแฟล์การ์
(Trafalgar) ทรงเสนอแนวพระดำริว่า
“ความเห็นปัตยุบันนี้มีอยู่สองพวก พวกหนึ่งถือ
ตามพงษาวดารเปนครู อีกพวกหนึ่งเห็นว่าจะเอาพง
ษาวดารมาเปนตัวอย่างนักไม่ได้ โดยสมัยได้เปลี่ยนไป
กว่าก่อนมาก เพราะฉนั้นจึงไม่สู้จะกระตื้อรื้อร้นนักที่จะ
เรียนยุทธศาสตร์แลยุทธวิธีจากพงษาวดาร ไปคิดถึงตัว
เรือแลสาตราวุธเปนใหญ่ ความเห็นชนิดนี้มีมากแต่ลด
น้อยลงไปทุกวัน ส่วนข้างที่เห็นพงษาวดารมีประโยชน์
นั้นทวีขึ้นทุกวัน...
เมื่อ ๕๐ ปีก่อน สงครามตราแฟล์การ์ ในระหว่าง
ยกยุทธศาสตร์ที่ถูกแลผิดได้โดยพละตนเอง จะได้รับ นั้นนายทหารไปเรียนยุทธศาสตร์แลยุทธวิธี เปนการ
ผลสำเร็จมากกว่าให้ผู้อื่นสอน นายทหารผู้ใดกระทำตาม ประจักษ์แก่ตาตนเองมาก คนมาสมัยนี้การเรียน
เฉภาแต่ที่ตนได้รับคำชี้แจงจากผู้สอนนั้น จะมีไหวพริบ ยุทธศาสตร์แลยุทธวิธีเช่นนั้นน้อยลง ส่วนตัวเรือแล
ดีในการบังคับบัญชาไม่ได้ กล่าวคือจะกระทำตามเช่น สาตราวุธนั้นเล่า ได้เห็นประจักษ์แก่ตาจริงอยู่เสมอ จึง
นกแก้วนกขุนทองเท่านั้น” ๑๑ นับว่าเปนของลำบากที่จะเรียนขึ้นเท่ากับยุทธศาสตร์แล
จากเนื้อหาพระดำริซึ่งทรงกล่าวในปาฐกถาดัง ยุทธวิธี ซึ่งเป็นของไม่ได้ทดลองมานาน จริงอยู่ศาสตราวุธ
ข้างต้น แสดงให้เห็นว่าพระองค์ให้ความสำคัญกับความ เปนของสำคัญมาก แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ควรลืมความ
ชำนาญของทหารเรือไม่น้อยกว่าการมีเรือและอาวุธที่ สำคัญของยุทธศาสตร์แลยุทธวิธีเสีย ถึงเครื่องมือจะดี
เพียบพร้อมทันสมัย กล่าวคือ พระองค์ชี้ให้เห็นว่า สักปานใดแต่ถ้าขาดผู้ที่จะดำเนินการยุทธศาสตร์แล
นายทหารเรือที่ชำนาญการสามารถสร้างขึ้นโดยการ ยุทธวิธีแล้ว จะเอาไชยชะนะไม่ได้เปนอันขาด
ศึกษาวิเคราะห์ให้ช่ำชองจากการยุทธที่เกิดขึ้นในอดีต เมื่อได้เกิดสงครามขึ้น ไม่ใช่ชาติที่มีเฉภาะเครื่อง
ซึ่งใช้วิธีการศึกษาจากเอกสารเช่นที่รวบรวมเตรียมไว้ใน มือดีเราต้องกลัว เราต้องกลัวชาติที่มีบุคคลดีด้วยมาก
ห้องสมุด นำการวิเคราะห์มาสนทนาโต้เถียงในทางได้ กว่า เพื่อจะได้นำไชยชะนะมา แล้วเราต้องเรียนในเวลา
ทางเสียเพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามในปัญญาของ สงบศึกจากพงษาวดาร ว่าครั้งใดเกิดศึกขึ้นอย่างไร
นายทหารซึ่งจะต้องเป็นผู้นำทัพ เป็นเรื่องจะต้อง แลเขาได้ทำกันแล้วอย่างใด” ๑๒
๑๑ สิงหวิกรมเกรียงไกร, นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น. “ยุทธศาสตร์” หน้า ๘ - ๙.
๑๒ สิงหวิกรมเกรียงไกร, นายพลเรือโท พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่น. “ยุทธศาสตร์” หน้า ๑๒.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 57
ให้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ และ
พระราชทานยศเป็นนายพลเรือเอกในวันเดียวกัน
พระองค์มีส่วนให้จัดการฝึกภาคทางเรือหลายครั้ง
๑๓
ครั้งหนึ่งในการฝึกรวม เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๓
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จ
พระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีนาถ เสด็จ
พระราชดำเนินทอดพระเนตรการฝึกภาครวม ตั้งแต่
วันที่ ๕ ถึงวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๓ นับ
เป็นการเสด็จทอดพระเนตรการฝึกภาคทางเรือ กองทัพเรือ
สยามโดยพระมหากษัตริย์เป็นครั้งแรก ในคืนวันที่
๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๓ ซึ่งเป็นวันสิ้นการฝึก
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัวและสมเด็จ
พระนางเจ้ารำไพพรรณี พระบรมราชินีนาถ เสด็จ
ประทับในที่ชุมนุมในทหารเรือ ณ ตำบลแหลมเทียน
ทรงลงลายพระราชหัตถเลขาในสมุดอัตโนลิขิต
(Autograph) ของกองทัพเรือไว้ว่า
“มีความยินดีที่ได้มาดูการฝึกหัดภาครวมของกอง
นายพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอ ทัพเรือในคราวนี้เป็นครั้งแรก มีความปลาบปลื้มที่ได้
กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร เห็นผลดีของการฝึกหัดและความสามารถของนายและ
ในวันที่ ๑ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๘ นายพลเรือโท พลทหารเรือ
พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหมื่นสิงหวิกรมเกรียงไกร (พระบรมนามาภิธัย) ประชาธิปก ป.ร.
เสนาธิการทหารเรือ (ยังคงดำรงตำแหน่งเจ้ากรม รำไพพรรณี
ยุทธศึกษาทหารเรือ) ต่อมาในวันที่ ๑๕ มกราคม สัตตหีบ วันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๗๓” ๑๔
พ.ศ.๒๔๖๐ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในการนี้คณะนายทหารเรือพร้อมใจกันจัดทำ
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งจเรทหารเรือ ทุ่นระเบิดจำลองแล้วมอบฉันทะให้ นายพลเรือเอก
็
ั
และพระราชทานพระสุพรรณบตรเปนกรมขนสงหวกรม พระเจ้าพี่ยาเธอ กรมขุนสิงหวิกรมเกรียงไกร เสนาบดี
ิ
ิ
ุ
เกรียงไกร ในวันที่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๔๖๓ กระทรวงกลาโหม นำขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาท
ในวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๔๖๗ พระบาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี นับว่า
สมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ เป็นครั้งแรกแห่งประวัติการของทหารเรือ ๑๕
๑๓ สวัสดิ์ คงสิริ, ร.ท. “ภาครวม พ.ศ.๒๔๗๓”. นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๔๗๔. หน้า ๖๕๑. อนึ่งการฝึกภาคประจำปี กองทัพเรือในเวลานั้น
แบ่งการฝึกเป็น การฝึกภาคต้น เรียกว่า ฝึกภาคการเรือ กับการฝึกภาคอาชีพ
๑๔ “แจ้งความ เรื่องพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระบรมราชินี ทรงพระมหากรุณาพระราชทานอัตโนลิขิต” นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๔
เดือนมีนาคม พ.ศ.๒๔๗๓. หน้า ข. - ค.
๑๕ “แจ้งความ” นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑๔ เดือนมีนาคม ๒๔๗๓. ไม่ระบุเลขหน้า.
58 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว
ต่อมาในวันที่ ๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๗๔ มีการ พ.ศ.๒๔๗๕ ทรงได้รับคำสั่งสำหรับนายทหารที่ ๖๒/
ลดฐานะกระทรวงทหารเรือลงเป็นกรมรวมกับ ๕๒๙๙ ลงวันที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๗๕ ว่าทรง
กระทรวงกลาโหมเพื่อการประหยัดพระราชทรัพย์ จึงมี พระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เวนคืนตำแหน่ง ให้เป็นนาย
พระบรมราชโองการให้พระองค์ดำรงตำแหน่งเสนาบดี ทหารนอกราชการสังกัดกระทรวงกลาโหมรับ
กระทรวงกลาโหม พระราชทานยศให้เป็นนายพลเอก พระราชทานบำนาญ ในวันที่ ๑ กรกฎาคม
๑๖
กับพระราชทานพระสุพรรณบัตรให้ กรมหลวงสิงห พ.ศ.๒๔๗๕
วิกรมเกรียงไกร ทรงดำรงตำแหน่งเสนาบดี กระทรวง จนถึงวันที่ ๑๘ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๙๐ จึงทรง
กลาโหมจนกระทั่งเกิดการเปลี่ยนแปลงการปกครอง สิ้นพระชนม์ด้วยประชวรโรคพระวักกะพิการ.
๑๖ กองประวัติศาสตร์ทหารเรือ. ประวัติพิสดาร [พ.ร.อ.กรมหลวงสิงห์ฯ นอกราชการบำนาญ กระทรวงกลาโหม]. หน้า ๘๗.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 59
แม่น้ำเจ้าพระยาไม่เคยขาดสาย
“ข้าพเจ้าจึงได้นัดหมายนายทหาร...ซึ่งได้คัดไว้ มีเสียงเล่าลือกันนักว่าประเทศเยอรมันนีกับประเทศ
แล้วนั้นให้มาประชุมพร้อมกันที่ราชนาวิกสภา ทร. สยามจะรบกัน ซึ่งความจริงยังไม่มีมูลเลย การที่เกิด
ในวันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๔๖๐ เวลา ๔ โมงบ่าย การเล่าลือเช่นนี้ ก็คงจะเนื่องมาจากคำพูดอันเหลวไหล
(๑๖๐๐) โดยให้แต่งเครื่องสนามมาด้วย ยกเว้นกระบี่ ของนายทหาร เพราะในเวลานี้ถ้านายทหารจะพูดถึง
และปืนพก (ถ้ามี) ไม่ต้องนำมาด้วย นายทหารที่มา เรื่องนี้ คำพูดของนายทหารย่อมมีน้ำหนักมาก เพื่อ
ประชุม... รวม ๓๗ นาย ได้ประชุมกันที่ห้องประชุมของ เป็นการตัดการเล่าลือไม่ให้พลเมืองมีความตื่นเต้นต่อไป
ราชนาวิกสภา ทำให้ข้าพเจ้ากังวลอยู่บ้าง เพราะเรื่อง จึงขอแนะนำว่าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อเลิกงานหรือ
ที่จะกล่าวออกไปนั้น ออกจะประจวบกับข่าวลืออยู่ด้วย ว่างราชการไม่ควรไปที่ไหนอีก ควรอยู่กับบ้านจะดีกว่า
คือประเทศสยามจะทำสงครามกับประเทศเยอรมันนี จงสังวรณ์กันไว้ด้วย’
และอ๊อสเตรีย – ฮังการี จึงต้องออกอุบายกลบเกลื่อน เรื่องการประชุมกันครั้งนี้ ความจริงนั้นอะไรกันแน่
โดยเสกล่าวว่า ‘ทราบว่านายทหารไม่ใคร่อ่านหนังสือ ซึ่งข้าพเจ้าอยากจะบอกนายทหารให้ทราบเพื่อเป็นการ
ในทางก้าวหน้ากันนัก เช่น โอวาทซึ่งเกี่ยวแก่กฎหมาย รู้ตัวแต่เนิ่น ๆ ก็ยังบอกไม่ได้กลัวความลับจะ
นานาประเทศทางเรือกันเสียเลย จึงได้เรียกมาและตัก แพร่พรายไป ซึ่งเมื่อแพร่งพรายไปแล้ว ย่อมต้องรู้ถึง
เตือนกันเสียที และสำหรับวันนี้ขอตักเตือนเพียงเรื่องนี้ ข้าศึกเป็นแน่แท้ จำต้องรอไปจนกว่าวันจะถึงวัน
ก่อน ในอาทิตย์หน้าจะได้ตักเตือนหรือให้โอวาทในเรื่อง ลงมือทำการจริง”
อื่นต่อไป’ และข้าพเจ้าต้องแกล้งพาลหาความว่า ‘หมู่นี้ “ประวัติการจับเรือเชลย”, นายนาวาตรี หลวงหาญสมุท
60 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
สงครามเกิดขึ้นแล้ว บังคับซึ่งประกอบอาชีพหรือมีถิ่นพำนักในต่างประเทศ
สงครามโลกครั้งที่ ๑ เกิดขึ้นเนื่องจากชาติ ทั่วโลก
มหาอำนาจในทวีปยุโรปซึ่งไม่เพียงแต่แข่งขันแย่งชิง
ผลประโยชน์ในทางการเมือง การทหาร การเศรษฐกิจ ระลอกคลื่นสงครามโถมซัด
่
ซึ่งกันและกันแล้ว ยังผลให้ต้องชิงไหวชิงพริบตอกัน ราชอาณาจักรสยามตั้งอยู่ลึกเข้ามาในอ่าวสยาม
ในทางความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งในที่สุดประเทศ ห่างจากดินแดนทวีปยุโรปหลายร้อยหลายพันไมล์ แม้
ที่มีผลประโยชน์ร่วมกันอย่างใกล้ชิดหรือเป็นประเทศ จะอยู่ใกล้เส้นทางเดินเรือข้ามทวีปในเส้นทางเดินเรือ
ที่มีทิศทางแห่งผลประโยชน์ในแนวทางเดียวกันก็ ระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปยุโรป และตั้งอยู่ใกล้เส้นทาง
รวมตัวกันเป็นกลุ่ม ทำสัญญาร่วมรบหรือช่วยประกัน เดินเรือระหว่างทวีปเอเชียกับทวีปอเมริกา แต่ผู้คนและ
และรักษาความเป็นเอกราชตลอดจนผลประโยชน์ สินค้าที่จะเข้ามายังสยามหรือไปยังทวีปยุโรปก็จะต้อง
ทางเศรษฐกิจซึ่งกันและกัน กลุ่มประเทศที่นับว่า ซื้อตั๋วโดยสารเรือสินค้าผ่านบริษัทตัวแทนจำหน่ายตั๋ว
สำคัญมากมี ๒ กลุ่ม ได้แก่ ประเทศอังกฤษ ฝรั่งเศส โดยสาร แล้วโดยสารเรือออกจากกรุงเทพฯ หรือจาก
และรัสเซีย กลุ่มหนึ่ง กับประเทศเยอรมนี ออสเตรีย – เกาะสีชัง ไปต่อเรือโดยสารข้ามสมุทรที่เมืองท่าสิงคโปร์
ฮังการี อีกกลุ่มหนึ่ง ทั้งสองกลุ่มต่างก็คุมชิงไหวชิงพริบ ของประเทศอังกฤษหรือที่เมืองท่าไซ่ง่อนของประเทศ
แย่งชิงและปกป้องผลประโยชน์ของตน ฝรั่งเศส
วันที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๕๗ เกิดกรณี สายการเดินเรือในอ่าวสยามส่วนใหญ่มีชาวยุโรป
นายกัฟรีโล ปรินซีป ชาวเซอร์เบีย ลอบใช้ปืนยิง เป็นเจ้าของ จึงมีชาวยุโรปนานาสัญชาติทำงานในสาย
ปลงพระชนม์อาร์ชดยุกฟรัน แฟร์ดีนันด์แห่งออสเตรีย การเดินเรือโดยสาร ทำงานกับบริษัทเอกชน กับห้าง
รัชทายาทแห่งจักรวรรดิออสเตรีย - ฮังการี และ ร้านต่าง ๆ ของชาวตะวันตก แม้กระทั่งรับราชการใน
พระชายา หลายหน่วยงานของรัฐบาลสยาม สงครามในดินแดน
รัฐบาลออสเตรีย - ฮังการี จึงยื่นคำขาดต่อ เมืองแม่ซึ่งห่างไกลเป็นเหตุให้ต้องเป็นคู่ขัดแย้ง แม้พวก
ราชอาณาจักรเซอร์เบีย ในวันที่ ๒๓ กรฎาคม เขาอาจเป็นคนรู้จักคุ้นเคยสนิทใกล้ชิดมาก่อน และพวก
พ.ศ.๒๔๕๗ ให้ตอบตกลงตามข้อเรียกร้องภายใน ๓ วัน เขาล้วนแต่เป็นเพื่อนของชาวสยาม ดังนั้นสยามจึง
ประเทศเซอร์เบียซึ่งมีประเทศรัสเซียเป็นพันธมิตร ประกาศตัวเป็นกลางไม่เข้าข้างมหาอำนาจฝ่ายใด
ไม่ยินยอม วันที่ ๒๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๕๗ ประเทศ สยามยินดีต้อนรับชาวยุโรปทุกชาติเข้ามาพำนัก
ออสเตรีย - ฮังการี จึงยาตราทัพรุกแดนเซอร์เบีย ประกอบอาชีพในสยาม ชาวยุโรปหลายเชื้อชาติล้วน
เป็นเหตุให้บรรดาประเทศพันธมิตรทั้งหลาย เป็นกลจักรสำคัญที่ช่วยขับเคลื่อนสยามไปสู่ความเจริญ
ประกาศสงครามต่อกัน นั่นคือ วันที่ ๑ สิงหาคม ก้าวหน้า
พ.ศ.๒๔๕๗ ประเทศรัสเซียประกาศสงครามต่อประเทศ แต่การประกาศตัวเป็นกลางของประเทศสยาม
เยอรมนี วันที่ ๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๗ ประเทศฝรั่งเศส กลับหลีกไม่พ้นลูกคลื่นสงครามซึ่งในที่สุดก็โถมซัดเข้า
ประกาศสงครามต่อประเทศเยอรมนี และวันที่ ๔ มาถึงในบ้าน ภายในสัปดาห์เดียวที่สงครามอุบัติขึ้นเรือ
สิงหาคม พ.ศ.๒๔๕๗ ประเทศอังกฤษประกาศสงคราม สินค้าและเรือเดินสมุทรข้ามทวีปตลอดจนเรือลำเลียง
ต่อประเทศเยอรมนี จากนั้นความขัดแย้งลุกลาม ของบริษัท เรือเดินสมุทรชาติเยอรมันหลายลำเริ่มหลบ
ไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วเนื่องจากประเทศมหาอำนาจ หนีการจับยึดจากชาติฝ่ายตรงข้ามเข้ามาทอดพักอาศัย
ิ
ี
ี
ยุโรปเหล่านั้นตางกมอาณานคมนอกประเทศ มคนใน อยู่ในลำน้ำเจ้าพระยา ณ ท่าเรือกรุงเทพฯ รวมทั้งสิ้น
่
็
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 61
๒๕ ลำ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดใหญ่ระวางเกิน ๑,๐๐๐ กระทรวงทหารเรือ น่าจะเป็นทหารเรือพระองค์แรก
ตัน ๑๐ ลำ เป็นเรือลำเลียง ๑๕ ลำ ชายฉกรรจ์คนชาติ ซึ่งจะต้องหาทางออกและให้คำตอบแก่ปัญหานี้
คู่สงครามที่พำนักอยู่ในต่างประเทศรวมทั้งในสยามต่าง จากต้นฉบับเอกสารซึ่งเกี่ยวด้วยการเตรียมสงคราม
๑
ฝ่ายต่างก็ถูกเกณฑ์ไปราชการสงคราม เป็นเหตุให้คน มีร่องรอยบ่งบอกว่าเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ได้รับ
ชาติเยอรมัน ออสเตรีย - ฮังการี ซึ่งพำนักอาศัยในสยาม พระราชดำริให้ประเมินกำลังทัพเรือ เพื่อเตรียมการ
ด้วยสำนึกในความรักชาติ รักศักดิ์ศรีของชนชาติตน สงครามทางเรือในอ่าวสยามมาก่อน เมื่อพระองค์
จึงมีการโฆษณาว่ากล่าวโดยข่าวสารและการแสดง ได้รับพระราชดำรินี้จึงทรงนำมาปรึกษาเสนาธิการ
ความคิดเห็นกระทบกระทั่งกับชนชาติอังกฤษและ ทหารเรือ แต่น่าจะเป็นด้วยการซึ่งเป็นความลับสุดยอด
๒
ิ
ฝรั่งเศสซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้าม เป็นเหตุให้ประเทศอังกฤษ กรมเสนาธการทหารเรอไม่อาจคาดหมายได้ว่าพระบาท
ื
และฝรั่งเศสแทรกแซงและบีบบังคับให้สยามต้อง สมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จะทรงประกาศ
เลือกข้างว่าจะเข้าสู่สงครามร่วมกับกลุ่มใด สงครามต่อชาวยุโรปชาติใด ดังข้อความในร่างเอกสาร
“ความเห็นชั้นต้น” เขียนด้วยดินสอดำโดยกรมเสนาธิการ
ความนัยพระราชดำริ ทหารเรือมีข้อความว่า
สยามจะต้องเข้าสู่สงครามแน่หรือ สยามจะเข้าสู่
สงครามอย่างไร กำลังทหารของสยามมีขีดความ
สามารถและมีกำลังเพียงพอหรือไม่ คำถามเหล่านี้คง
สร้างความอึดอัดกังวลไม่น้อย โดยเนื้อแท้แล้วทั้งนาย
ทหารผู้บังคับบัญชาชั้นสูง ล้วนเป็นเชื้อพระวงศ์ซึ่ง
สำเร็จการศึกษามาแต่โรงเรียนนายทหารของประเทศ
คู่สงครามในทวีปยุโรป แม้ในราชนาวีสยามเองก็มี
เสนาบดีทรงสำเร็จวิชาทหารจากประเทศเยอรมนี
มีเสนาธิการทหารเรือ เจ้ากรมและผู้บัญชาการกรมอีก
๒ - ๓ ท่าน สำเร็จการศึกษาวิชาทหารเรือจากประเทศ
อังกฤษ มิเพียงแต่เท่านั้นมหาอำนาจในยุโรปเริ่ม
ทาบทามสยามเข้าร่วมข้าง กล่าวคือเมื่อวันที่ ๒๗
ตุลาคม พ.ศ.๒๔๕๙ มหาประเทศในยุโรปทรงเชิญ
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถ
กรมหลวงพิษณุโลกประชานาถ เสด็จทอดพระเนตร
แผนการสงครามของยุโรป
๓
นายพลเรือเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้า
บริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดี พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว
๑ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๑๐/๑ ประวัติพาณิชย์ทางเรือของไทย (ปึก ๓). แผ่นที่ ๖๘.
๒ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. แฟ้มที่ กต.๖๕/๑๒ อังกฤษกล่าวโทษข้าราชการชาติเยอรมันไม่ถือความเป็นกลางและผู้แต่งหนังสือคำวิงวอน
ชักชวนตักเตือนพลเมือง.,
๓ สำนักหอจดหมายเหตุแห่งชาติ. แฟ้มที่ ร.๖ ก.๑/๒๙ มหาประเทศในยุโรป ทรงเชิญสมเด็จเจ้าฟ้ากรมหลวงพิษณุโลกประชานารถทอดพระเนตร
แผนการณ์สงครามยุโรป.
62 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
“ข้อที่ราชนาวีสยามควรจะต้องปฏิบัติในชั้นต้นต่อ กรุงเทพฯ นั้นไม่ยาก เพียงใช้ทหารเรือจากกรมชุมพล
การสงครามซึ่งจะพึงมีขึ้นในระหว่างประเทศสยามกับ ทหารเรือ ปฏิบัติการจับกุมก็เพียงพอ
ประเทศ.........นั้นคือ กรณีเรือสินค้าที่กำลังแล่นอยู่ในเส้นทางเดินเรือ
(๑) การจับเรือชะเลย เมื่อกรมเสนาธิการทหารเรือ ประเมินขีดความสามารถ
(๒) การจับชะเลยในเรือสินค้าที่ชักธงชาติสยามใน เรือรบของราชนาวีสยามแล้ว เห็นว่าควรใช้เรือรบที่มี
กรุงเทพ กำลังเร็วพอเพราะเรือสินค้าขนาดใหญ่ที่เดินเรือทาง
(๓) การจับชะเลยในเรือสินค้าที่ชักธงชาติสยามใน ไกลมีความเร็วตั้งแต่ ๑๒ นอตขึ้นไป เพราะถึงแม้ว่า
ระหว่างเดิ่นทาง ราชนาวีสยามจะมีเรือพิฆาตและเรือตอร์ปิโดที่มีความเร็ว
(๔) การจัดคนเฃ้าทำการแทนชเลยในบริษัท ทัดเทียมกันอยู่ก็จริง แต่เรือเหล่านั้นไม่อาจแล่น
ไฟฟ้าสยาม ๔ ลาดตระเวนติดต่อกันหลายวันได้ ราชนาวีสยามมีเพียง
ร.ร.ล.สุริยมณฑล ที่มีความเร็วเพียงพอและแล่นใน
ราชนาวีสยามในเวลานั้นเรียกชื่อเรือโดยสาร ทะเลติดต่อกันหลายวันได้ กรมเสนาธิการทหารเรือ
ซึ่งแล่นรับส่งทั้งคนโดยสารและสินค้าตามท่าเรือต่าง ๆ จึงเสนอว่าควรใช้เรือพิฆาตหรือเรือตอร์ปิโดเข้าทำการ
ในเส้นทางเดินเรือริมฝั่งในอ่าวไทยว่า “เรือสินค้า” จับกุมเชลยในเรือสินค้าในเส้นทางฝั่งตะวันออก
ข้อความจากต้นฉบับเอกสารชั้นต้นทำให้เห็นว่ากรม ของอ่าวสยาม และใช้เรือพิฆาตหรือเรือตอร์ปิโด
เสนาธิการทหารเรือ ประเมินสิ่งแรกที่ราชนาวีสยาม ลาดตระเวนภายในเขตชุมพรเข้ามา กับใช้เรือขนาดใหญ่
จะต้องปฏิบัติในการสงคราม คือ การจับเชลยบนเรือ อาทิ เรือรบหลวงสุริยมณฑล ทำการลาดตระเวนจับกุม
สินค้าหรือยึดเรือสินค้าเหล่านั้นด้วย ในห้วงเวลานั้น ทั้งนี้ให้เรือตอร์ปิโดผลัดเปลี่ยนกันลาดตระเวน
กรมเสนาธิการทหารเรือ ประเมินว่าในอ่าวสยามมีเรือ เมื่อประกาศสงครามแล้ว
สินค้าแล่นอยู่ในเส้นทางเดินเรือ ๒ บริเวณ ๆ แรกคือ ทั้งนี้เรือสินค้าที่แล่นประจำในอ่าวสยามในขณะนั้น
เรือสินค้าที่อยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อเตรียมรับคนโดยสาร มีเรือซึ่งชักธงชาติสยามจำนวน ๘ ลำ เรือซึ่งชักธงชาติ
สินค้าหรือเข้าอู่ซ่อมบำรุง มีจำนวนไม่เกิน ๕ ลำ เดนมาร์ก ๔ ลำ แล่นประจำเส้นทางเดินเรือในอ่าว
บริเวณที่ ๒ คือ เรือสินค้าที่กำลังแล่นอยู่ในอ่าวสยาม สยาม ๓ เส้นทาง สิ่งที่พึงสังเกตคือ เรือสินค้าที่แล่น
มีอยู่ในเส้นทางเดินเรือเป็นประจำ ๓ เส้นทาง ได้แก่ ประจำในอ่าวสยามเป็นเรือของบริษัท เรือไฟไทย จำกัด
๑. เส้นทางเดินเรือฝั่งตะวันออกของแหลมมลายู (The Siam Steam Navigation Co., Ltd.) มีบริษัท
มีจำนวนเรือ ๓ ลำ อิสต์เอเชียติค จำกัด เป็นผู้จัดการเดินเรือ ดังนั้นเรือ
๒. เส้นทางเดินเรือฝั่งตะวันออกของอ่าวสยาม แทบทั้งหมดมีกัปตันเรือเป็นชาวเดนมาร์ก มีกัปตันเรือ
มีจำนวนเรือ ๒ ลำ เพียงคนเดียวเป็นชาวนอรเวย์ แต่ไม่มีกัปตันเรือลำใด
๓. เส้นทางเดินเรือโดยตรงระหว่างกรุงเทพฯ – เป็นชาวเยอรมัน ๕
สิงคโปร์ ไม่ทราบจำนวนเรือที่แน่นอน ขึ้นอยู่กับบริษัท นอกจากนี้กรมเสนาธิการทหารเรือยังตั้งข้อสังเกต
เดินเรือว่าจะส่งเรือเข้ามาเมื่อใด เพื่อให้คิดเตรียมการไว้แต่แรกว่าเมื่อยึดเรือสินค้าเหล่านั้น
กรมเสนาธิการทหารเรือ ให้ความเห็นเฉพาะ ได้แล้วจะนำเรือไปดำเนินการใด ซึ่งหากจะให้ราชนาวี
ต่อกรณีการจับเชลยในเรือสินค้าซึ่งอยู่ในบริเวณ สยามรับผิดชอบเดินเรือเหล่านั้นต่อไปก็จำเป็นจะต้อง
๔ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๙ ความคิดเห็นชั้นต้นที่ควรกระทำในการประกาศสงครามระหว่างสยามกับเยอรมัน. แผ่นที่ ๑ - ๒
๕ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๙ ความคิดเห็นชั้นต้นที่ควรกระทำในการประกาศสงครามระหว่างสยามกับเยอรมัน. แผ่นที่ ๗
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 63
ข่าวศึกทราบชัด
วันพฤหัสบดีที่ ๒๘ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๐
กรมเสนาธิการทหารเรือทราบ ข่าวทางราชการจาก
กระทรวงทหารเรือ แน่ชัดว่าประเทศสยามจะประกาศ
สงครามต่อประเทศเยอรมนี และออสเตรีย - ฮังการี
วันเดียวกันนี้เสนาธิการทหารเรือจึงมอบหมายให้
นายทหารกรมเสนาธิการทหารเรือ ๒ นาย คือ
นายนาวาตรี หลวงนาวาวิจิตร์ นายเรือโท พิณ ไปสืบ
กิจการเรือสินค้าของชาวเยอรมันที่ตำบลบางคอแหลม
พบว่า มีเรือเยอรมันทอดสมอที่ตำบลบางคอแหลม
เป็นเรือลำเลียง ๗ ลำ เรือกลไฟสำหรับพ่วงข้างเรือ
ลำเลียง ๔ ลำ เรือสินค้าขนาดใหญ่ ๘ ลำ และมีเรือสินค้า
ขนาดใหญ่ทอดสมอที่หน้า “ห้างสี่ตา” (หรือห้างวินเซอร์)
ข้างวัดพระยาไกร ๑ ลำ คือเรือเดลี รวมจำนวนเรือ
๖
เยอรมันที่สืบทราบในคืนวันนั้นมีทั้งสิ้น ๒๐ ลำ
รุ่งขึ้นวันศุกร์ที่ ๒๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๖๐
กรมเสนาธิการทหารเรือ ได้เริ่มร่างเอกสาร ๒ ฉบับ
เอกสารฉบับแรก น่าจะได้แก่เอกสารซึ่งกรมเสนาธิการเรือ
รวบรวมไว้อีกครั้งหนึ่งหลังเสร็จสิ้นการยึดเรือเชลยแล้ว
เอกสารนี้ใช้ชื่อว่า “ความเห็น” ซึ่งน่าจะเป็นเอกสาร
เดียวกันกับที่เสนาบดีกระทรวงทหารเรืออ้างถึงในชื่อ
เอกสารว่า “บรรทึกความเห็นของเสนาธิการทหารเรือ”
๗
ส่วนเอกสารฉบับที่ ๒ ได้แก่เอกสารเรื่อง “ระเบียบ
การเตรียมศึกในระหว่างประเทศสยามแลประเทศ
แผนที่เดินเรือในอ่าวสยาม
๘
เยอรมัน” เอกสารทั้งสองฉบับ มีรายละเอียดและมีสิ่ง
จัดคนลงประจำเรือให้พร้อมเพรียงสามารถปฏิบัติ ซึ่งพึงสังเกตดังนี้
ได้ทันทีเพราะหากไม่ดำเนินการต่อเช่นปกติก็เท่ากับ ๑. เอกสารชื่อ “ความเห็น” เป็นเอกสารความเห็น
สยามตัดเส้นทางคมนาคมภายในตนเอง ผลเสียหาย ชั้นต้นฉบับแรก มีเนื้อหาว่าด้วยราชนาวีจะต้องคิด
ย่อมจะเกิดขึ้นต่อสยามโดยตรง วางแผนในชั้นต้น ๒ ประการ ๆ แรก คือ การจับเรือ
๖ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๔ การไปสืบดูความเคลื่อนไหวของเรือสินค้าเยอรมันที่บางคอแหลม. แผ่นที่ ๓
๗ จากเอกสาร ถวายรายงานการเฝ้าจับกุมเรือเชลย. แผ่นที่ ๒ ในแฟ้มเอกสารที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๑๗ เรียกเอกสารนี้ว่า “บรรทึกความเห็น
ของเสนาธิการทหารเรือ” มีเนื้อหาข้อความตรงตามแฟ้มเอกสารที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๑๕ แต่ต้นฉบับพิมพ์ดีดในแฟ้มเอกสารที่ ๑ กปศ.
ยก.ทร.๙๙.๑/๘ การจับเรือเชลย ปึกที่ ๓ แผ่นที่ ๗๐ พิมพ์ชื่อเอกสารนี้ว่า “ความเห็น”
๘ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๕ ระเบียบการเตรียมศึกในระหว่างประเทศสยามและประเทศเยอรมัน.
64 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
รัชกาลที่ ๖ พระยามหาโยธา หลวงหาญสมุท
เชลย กับประการที่ ๒ คือ การรักษาความสงบภายใน เหตุการณ์ทางใต้ กองเรือระวังเหตุการณ์ทางเหนือ และ
พระราชอาณาจักรทางหัวเมืองชายทะเล กองเรือตอร์ปิโด
ในเรื่องที่ว่าด้วยการจับเรือเชลย เสนาธิการทหารเรือ กองเรือระวังเหตุการณ์ทางใต้ มีหน้าที่เกี่ยวด้วย
ทรงแสดงพระดำริคาดการณ์ว่าเรือเยอรมันน่าจะ การส่งข่าวเหตุการณ์ คุมเชิงเรือสินค้าข้าศึกก่อนลงมือ
กระทำการโต้ตอบการจับยึดเรือเชลย คงจะไม่ปล่อยให้ ยึด ยิงต่อสู้เมื่อข้าศึกยิงปืนใหญ่หรือประพฤติทุจริต
ยึดเรือและยอมให้จับเป็นเชลยโดยง่าย ดังข้อความ คอยฉุดลากชักเรือข้าศึกเข้าแอบฝั่ง ช่วยดับไฟในเรือ
ระบุว่า ข้าศึกเมื่อเกิดเพลิงไหม้ เป็นกำลังที่จะให้ความสะดวก
“การจับเรือเชลยนั้น ต้องดำริห์ถึงว่าฝ่ายคน แก่การยึดเรือ กองเรือระวังเหตุการณ์ทางเหนือ มี
เยอรมันที่ประจำเรือ จะกระทำอย่างไรในการที่เราจะ หน้าที่เกี่ยวด้วยการฉุดลากเรือสินค้าข้าศึกเข้าแอบฝั่ง
ยึดเรือ คือว่าจะต่อสู้กีดขวางต่อการยึดเรือเหล่านี้หรือ เมื่อได้ทราบเหตุการณ์มาจากกองระวังเหตุการณ์ทางใต้
จะปล่อยให้เรายึดได้โดยสดวก ถ้าแม้ปล่อยให้เรายึดได้ ในส่วนที่เป็นการรักษาความสงบภายในพระราช
โดยสดวกแล้ว ก็ไม่เปนปัณหาอย่างไรที่จะต้องตระ อาณาจักรทางหัวเมืองชายทะเลนั้น เสนาธิการทหารเรือ
เตรียมการต่อสู้ต่อไป นอกจากจะคิดบรรจุนายทหารแล เสนอพระดำริว่า ควรสั่งเรือรบไปลาดตระเวนเฉพาะ
พลทหารและพาหนะ ฯลฯ ลงประจำเรือต่าง ๆ เท่านั้น เส้นทางเดินเรือฝั่งตะวันออกของแหลมมลายูก่อน ส่วน
แต่การเช่นนี้จะหวังแต่ความสดวกโดยมิได้คิดถึงข้ออุป เส้นทางเดินเรือฝั่งตะวันออกของอ่าวไทย มีระยะที่
สัคบ้างก็เปนการหยาบประมาทข้าศึกเกินไป จึงต้องคิด เรือรบแห่งราชนาวีสยามอาจทำการได้ในเวลาเพียง ๑๘
ไว้ว่า พวกเยอรมันคงจะไม่ปล่อยให้เรายึดเรือง่าย ๆ ชั่วโมง จึงเพียงเตรียมพร้อมอยู่ในกรุงเทพฯ ก่อนได้
หรือที่จะไม่แกล้งให้เราได้รับความลำบากเลยนั้นคงเปน ตามพระดำริต่าง ๆ ซึ่งเสนาธิการทหารเรือ จัดทำ
๙
ไปไม่ได้...” ขึ้นดังเอกสารนี้เป็นเพียงหลักการ ยังมิได้กำหนด
เมื่อคาดหมายว่าคนเรือเยอรมันจะทำการต่อสู้ รายละเอียดสำหรับกรมกองทหารเรือในการปฏิบัติ
ดังนั้นในการปฏิบัติการจับยึดเรือเชลย เสนาธิการ แต่อย่างใด เอกสารฉบับนี้ไม่ปรากฏว่าจัดทำเสร็จ
๑๐
ทหารเรือทรงเสนอแผนการณ์เบื้องต้นว่าจะจัดเรือ ในวันใด แต่มีร่องรอยว่าเมื่อเสนาธิการทหารเรือ จัดทำ
ออกปฏิบัติการเป็น ๓ กอง ได้แก่ กองเรือระวัง ถวายเสนาบดีกระทรวงทหารเรือแล้ว เสนาบดีกระทรวง
๙ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๘ การจับเรือเชลยแผ่นที่ (ปึกที่ ๓). แผ่นที่ ๗๐ - ๗๑., ๘๗ - ๘๙.
๑๐ กองประวัติศสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๘ การจับเรือเชลยแผ่นที่ (ปึกที่ ๓). แผ่นที่ ๗๔., ๙๐.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 65
ทหารเรือได้นำขึ้นกราบบังคมทูลพระบาทสมเด็จ ก็อาจคิดทำการจลาจลเมื่อรู้แน่ว่าประเทศสยาม
๑๑
พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งพึงสังเกตว่าเมื่อกรม จะประกาศสงครามกับประเทศเยอรมันอย่างแน่นอน
เสนาธิการทหารเรือจัดทำเอกสาร “ระเบียบการเตรียม ในวันศุกร์ที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ พระองค์จึงถวาย
ศึกในระหว่างประเทศสยามแลประเทศเยอรมัน” หนังสือกราบทูลเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ กล่าวถึง
ขึ้นเป็นฉบับที่ ๒ ซึ่งเป็นรายละเอียดขั้นตอนปฏิบัติแล้ว ช่องทางที่ชาวเยอรมันจะติดไฟเรือของตนลำใดลำหนึ่ง
มีการเปลี่ยนแปลงไปจากหลักการที่วางไว้ในเอกสาร หรือทั้งหมดแล่นชนเรือที่จอดในเขตท่าเรือในกรุงเทพฯ
ฉบับแรกหลายประการ ให้เกิดความเสียหายมากที่สุดขึ้นได้ จึงสมควรจะต้อง
อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญที่เกี่ยวเนื่องกับเอกสาร รีบแจ้งต่อกระทรวงนครบาลให้มอบหมายการตรวจตรา
ทั้งสองฉบับต่อมา ได้แก่การซึ่งแสดงให้เห็นว่า แก่กรมเจ้าท่า และเตรียมประสานงานกับกระทรวง
เสนาธิการทหารเรือ ทรงเชื่อมั่นว่าลูกเรือสินค้าเยอรมัน ทหารเรือให้สั่งเรือรบเป็นกำลังหนุนช่วยเมื่อเกิดเหตุ
จะขัดขืนต่อสู้ในเวลาจับยึดเรือเชลย หรือในระหว่างที่ ได้ทันการ ๑๒
ประเทศสยามยังคงถือตนเป็นกลางยังไม่ทันประกาศ ๒. เอกสารเรื่อง “ระเบียบการเตรียมศึกใน
สงครามกับประเทศเยอรมันนั้น ลูกเรือสินค้าเยอรมัน ระหว่างประเทศสยามแลประเทศเยอรมัน”เป็นเอกสาร
๑๑ กองประวัติศสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๑๗ ถวายรายงานการเฝ้าจับกุมเรือเชลย. แผ่นที่ ๔.
๑๒ กองประวัติศสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนีและ
ออสเตรียฮังการี (ปึกที่ ๑). แผ่นที่ ๑๔.
66 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
เรือตอร์ปิโด
ฉบับที่ ๒ ซึ่งเริ่มจัดทำขึ้นตั้งแต่วันศุกร์ที่ ๒๙ มิถุนายน “๑ น่าที่กองเรือระวังเหตุการณ์ทางไต้
พ.ศ.๒๔๖๐ เช่นเดียวกัน เอกสารนี้น่าจะร่างขึ้นด้วย ในชั้นต้นก่อนประกาศสงคราม .... วัน ควรให้
ลายมือเขียนโดยดินสอดำ มีต้นฉบับร่างกระจัดกระจาย ร,ร,ล สุครีพ มูรธา ร,ล, วิเทศ ลงไปจอดที่บางนา อยู่ใน
อยู่ตามแฟ้มเอกสารต่าง ๆ บังคับบัญชาหลวงไชยนาวา
๑๓
เอกสารนี้ต่อมานำไปพิมพ์ขึ้นด้วยเครื่องพิมพ์ดีด ก่อนลงมือประกาศสงครามราว ๓ วัน ให้เรือทั้ง
มีเนื้อหาแจกแจงหน้าที่กองระวังเหตุการณ์ทางใต้ ๓ ลำ แล่นมาจอดณตำบลใดตำบลหนึ่งซึ่งจะไม่ทำให้
กองระวังเหตุการณ์ทางเหนือ รายละเอียดในการจับเรือ เราสังเกตเหตุการของเรือข้าศึกได้ง่าย ทั้งไม่ให้ข้าศึก
เชลย หน้าที่เรือตอร์ปิโดที่กำกับเรือบรรทุกทหาร หน้าที่ ทราบว่าเรามาทอดที่ตำบลนั้นด้วย ถ้าไม่มีเหตุการอย่าง
ิ
ุ
กรมชุมพลทหารเรือ กรมพัสดทหารเรือ กรมเสนาธการ ใดในคืนนั้นราว ๑๐ ทุ่มให้ถอยเรือลงไปจอดที่บางนา
ทหารเรือ กรมสรรพาวุธทหารเรือ กรมยุทธโยธาทหารเรือ แลเวลา ๑ ทุ่มออกจากบางนามาทอดที่ตำบลนั้นอิก
กรมทหารเรือชายทะเล และกรมแพทย์ทหารเรือ ดั่งนี้เรื่อย ๆ ไปทุก ๆ คืน แลในการออกเรือหรือจอดเรือ
และเมื่อสิ้นสงครามแล้วมีการรวบรวมนำไปพิมพ์ ให้เงียบที่สุด
โดยเครื่องพิมพ์ดีดเป็นส่วนหนึ่งของเอกสารอีกชื่อหนึ่ง กองเรือนี้ เมื่อเกิดเหตุการอย่างใดขึ้นที่เรือข้าศึก
ว่า “บรรดากิจการที่กรมเสนาธิการทหารเรือได้ปฏิบัติ เช่น เรือข้าศึกลอยหรือเรือข้าศึกจม ให้ส่งวิทยุมายังเรือ
ไป เนื่องด้วยการสงครามในระหว่างประเทศสยามกับ เสือคำรนสินธุให้ทราบ ส่วนเรือตนเองให้พ่วงเรือข้าศึก
ประเทศเยอรมันนี, ออสเตรียแลฮังการี” อีกครั้งหนึ่ง ออกไปจอดไว้ให้พ้นทางเรือเดิน
๑๔
รายละเอียดในเอกสาร “ระเบียบการเตรียมศึกใน ส่วนการต่อสู้ถ้าข้าศึกมีปืนใหญ่ยิงขึ้นแล้ว ให้กอง
ระหว่างประเทศสยามแลประเทศเยอรมัน” ทำให้เห็น เรือนี้ระดมยิงตอบเฉภาะลำที่มีปืนใหญ่ยิง ในการที่
ถึงวันเวลาซึ่งเกิดกระบวนการวางแผนจับยึดเรือเชลย เข้าไปพ่วงเรือนี้ ถ้าข้าศึกต่อสู้ให้ป้องกันตัว แลพยายาม
การกำหนดตัวบุคคลตลอดจนการปฏิบัติเพื่อจับยึดเรือ พ่วงเรือข้าศึกเอาแอบทางเรือเดินให้จงได้
เชลย ซึ่งเสนาธิการทหารเรือวางแผนไว้เบื้องต้น ๒ น่าที่กองเรือระวังเหตุการณ์ทางเหนือ
ดังข้อความระบุว่า กองเรือนี้มีกองเรือพิฆาฎแลกองเรือช่วยรบ
๑๓ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๘ การจับเรือเชลย (ปึกที่ ๓). แผ่นที่ ๗๕ (ด้านหลัง) - ๘๐ (ด้านหลัง).
๑๔ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๗ กิจการต่าง ๆ ที่กรมเสนาธิการได้ปฏิบัติในระหว่างสงคราม. แผ่นที่ ๔๑ - ๔๒.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 67
เรือสถิตย์ราชการ
(ยกเรือวิเทศ) แลเรือกลชั้น ๔ ขนาดใหญ่อีก ๕ ลำ ส่วนพันจ่า จ่า พลทหารเปนน่าที่ของกรมชุมพล จะต้อง
(กรมชุมพลต้องบอกเลขหมายของเรือให้กองเรือพิฆาฏ จัดให้พร้อมตามจำนวนที่ได้กำหนดไว้แล้วในน่าที่กรม
ทราบ) อยู่ในบังคับบัญชาของ ร.อ. หลวงนิยมยุทธนาวี ชุมพล
เมื่อได้รับข่าวจากกองเรือทางไต้ว่าเรือข้าศึกลอยหรือ การเดินทางไปจับเรือเชลย
กีดขวางแม่น้ำ เปนจำนวนกี่ลำแล้ว ให้จัดการส่งเรือ ให้นายทหาร พันจ่า จ่าแลพลทหาร ที่ได้จัดไว้
ตามจำนวนที่พอสมควรแก่การออกไป สำหรับลากเรือ สำหรับไปลงเรือเชลยลงเรือกลชั้น ๔ (เรือข้าศึกขนาด
ข้าศึกเข้าแอบฝั่ง ใหญ่ ๑ ลำใช้เรือกลบรรทุกคน ๒ ลำ) พร้อมกันณที่ฝั่ง
อนึ่งให้เรือสุริยะมณฑล รับคนจากกรมชุมพลไป ตะวันออกตั้งแต่ท่าขุนนางถึงกองเรือกล ๔ ที่ใดจะได้
สำหรับยึดเรือถ่านข้าศึกที่เกาะสีชัง ในวันที่ เดือน นัดหมายภายหลัง แลเมื่อถึงเวลาพร้อมกันแล้วให้แล่น
เวลา ถ้าแม้จะมีเหตุที่ข้าศึกจะต่อสู้เพื่อการยึดเรือนี้แล้ว ลงไปยึดเรือเชลย
ให้เรือสุริยะ ฯ ต่อสู้ เมื่อเสร็จการนี้แล้วกลับได้ ถ้ามีคน ในการนี้เพื่อป้องกันข้าศึกที่อยู่ในเรือเชลยจะต่อสู้
ประจำเรือของข้าศึกอยู่ในเรือให้รับมาด้วย แล้วส่ง ด้วยปืนเล็ก ให้เรือตอรปิโดอีก ๒ ลำแล่นตามเรือ
กระทรวง. บรรทุกทหารลงไปกำกับ
การจับเรือเชลย น่าที่เรือตอรปิโดที่กำกับเรือบรรทุกทหาร
ในการจับเรือเชลยนี้ ให้นายทหารซึ่งงมีนามข้าง เมื่อเรือบรรทุกทหารได้แล่นไปแล้ว ให้กองเรือ
ท้ายนี้ (ดูบาญชี) ลงประจำยึดเรือเชลยขนาดใหญ่ ๙ ลำ ตอรปิโดจัดเรือตอรปิโด ๒ ลำแล่นตามไปแลลอยลำ
68 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
เรือเสือทยานชล
อยู่ในบริเวณเรือเชลย ถ้าเห็นว่าเรือเชลยลำใดยิงปืน น้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องเขียน เครื่องครัวและเสบียง
ต่อสู้ขัดขวางไม่ให้ผู้ที่จะไปยึดเรือขึ้นบนเรือ ก็ให้เอา อาหาร เครื่องใช้ประจำเรือและธงอาณัติสัญญา
ปืนใหญ่ยิงไปที่ดาดฟ้าเรือลำนั้น เมื่อเห็นว่าผู้ที่ไปยึดเรือ กรมเสนาธิการทหารเรือ กำหนดหน้าที่ให้จัดพนักงาน
ขึ้นบนเรือได้แล้วให้หยุดยิง แลให้ตรวจดูเรือเชลยทุกลำ อาณัติสัญญาลงประจำเรือทุกลำ กรมสรรพาวุธทหารเรือ
ว่าได้ถูกยึดไว้เรียบร้อยแล้ว ให้กลับได้ กำหนดหน้าที่ให้จัดปืนพก กระสุนปืนพก กระสุนปืน
อนึ่งก่อนที่จะไป ให้รับแพทย์แลหีบเครื่องยาลงไป ใหญ่และตอร์ปิโด กรมยุทธโยธาทหารเรือ กำหนด
กับเรือด้วย เพื่อรักษาพยาบาลคนบาทเจ็บ ที่อาจเกิดขึ้น หน้าที่ให้เตรียมการให้พร้อมซ่อมแซมเครื่องจักรหรือ
ในการยึดเรือเชลย... ๑๕ การใด ๆ ที่เกี่ยวกับช่างให้พร้อมทุกเมื่อ กรมทหารเรือ
นอกจากนี้ “ระเบียบการเตรียมศึกในระหว่าง ชายทะเล กำหนดหน้าที่ให้จัดส่งพลทหารมาสมทบ
ประเทศสยามและประเทศเยอรมัน” ยังได้กล่าวถึง ขนกระสุนจากคลังมาลงเรือ กรมแพทย์ทหารเรือ กำหนด
หน่วยงานทหารเรืออื่น ๆ ซึ่งกำหนดให้มีหน้าที่ในการ หน้าที่ให้เตรียมแพทย์ จ่าพยาบาลและหีบเครื่องยา
ศึกครั้งนี้ ได้แก่ กรมชุมพลทหารเรือ กำหนดหน้าที่ให้ เอกสาร “ระเบียบการเตรียมศึกในระหว่าง
จัดพันจ่า จ่า และพลทหาร เพื่อใช้ในปฏิบัติการ และ ประเทศสยามแลประเทศเยอรมัน” น่าจะจัดทำเสร็จสิ้น
ติดไฟเครื่องจักรเรือไอน้ำไว้ให้พร้อมออกทำการทุกเมื่อ ก่อนหรือในวันอาทิตย์ที่ ๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐
กรมพัสดุทหารเรือกำหนดหน้าที่ให้เตรียมการถ่าน น้ำ เนื่องจากเริ่มมีการปรับปรุงขยายแผนและดำเนินการ
๑๕ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๗ ระเบียบการเตรียมศึกในระหว่างประเทศสยามและประเทศเยอรมัน. แผ่นที่ ๑ - ๑๐.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 69
อยู่แล้วในน่านน้ำสยามเท่านั้น ในส่วนเรือแพนกนี้ ส่วน
มากแลที่นับว่าเป็นประโยชน์มากนั้น ได้จอดอยู่ที่ตำบล
บางคอแหลม ในเรือแพนกนี้และจะต้องจัดการยึดเรือ
โดยระมัดระวัง ส่วนในที่อื่นก็มีแต่ที่อ่าวสีชังแลเป็นแต่
เพียงแต่เรือฉาง แลทั้งมีจำนวนเพียง ๒ ลำเท่านั้น
เพราะฉะนั้นการยึดเรือในแพนกนี้จึงไม่สู้สำคัญนัก
คงสรุปรวมได้ความว่า การจับเรือเชลยนั้นต้องแบ่งออก
เป็น ๒ แพนกดังนี้
ก. การจับเรือเชลยที่ตำบลบางคอแหลม
ข. การจับเรือเชลยที่ตำบลอ่าวสีชัง” ๑๗
การที่สยามตัดสินใจจะประกาศสงครามกับประเทศ
เยอรมันและออสเตรีย - ฮังการี น่าจะเป็นเรื่องลับสุดยอด
และเป็นเรื่องที่มีจุดเริ่มต้นเกินกว่าเสนาบดีกระทรวง
ทหารเรือและเสนาธิการทหารเรือ จะคาดหมายได้
ดังจะเห็นได้จากการประเมินกำลังเตรียมศึกครั้งแรกนั้น
มุ่งตรงไปยังกองเรือสินค้าชาติเดนมาร์กดังได้กล่าวแล้ว
อีกทั้งเสนาบดีกระทรวงทหารเรือ ทรงสำเร็จการศึกษา
รัชกาลที่ ๖ ทรงเห็นชอบด้วย วิชาทหารจากประเทศเยอรมัน เป็นบุคคลที่ชาวเยอรมัน
ในกรุงเทพฯ เชิดชูพระเกียรติยศ ในขณะเดียวกัน
ปฏิบัติตามแผนซึ่งวางไว้ตามเอกสารตลอดจนจัดการ เสนาธิการทหารเรือ เจ้ากรมและผู้บัญชาการกรม
ิ
ื
ึ
ประชุมหัวหน้ากรมต่างๆ เพื่อชี้แจงหน้าที่ของตนโดย หลายท่านสำเรจการศกษาวชาการทหารเรอจากประเทศ
็
เสนาบดีกระทรวงทหารเรือทรงเป็นประธานในที่ อังกฤษดังได้กล่าวแล้ว
ประชุมในวันจันทร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ เมื่อกระทรวงทหารเรือได้ทราบข่าวศึกกับประเทศ
๑๖
เยอรมันและออสเตรีย - ฮังการี แน่ชัด สิ่งที่เสนาธิการ
สัญญาณลับ ทหารเรือ ตั้งข้อสังเกตและยึดถือเป็นหลักซึ่งจำต้อง
“เรือสินค้าของเยอรมันนีซึ่งฝ่ายสยามจะพึงยึดไว้ ปฏิบัติ นั่นคือ จะต้องไม่ประมาทศึก ต้องคิดไว้ว่าพวก
เป็นเรือเชลยนั้น ก็มีอยู่แต่เรือที่ทอดสมออยู่แล้วในน่านน้ำ เยอรมันจะไม่ปล่อยให้ยึดเรือง่าย ๆ ในวันที่ ๑
สยาม ส่วนเรือสินค้าที่เดินไปมาในระหว่างท่าต่าง ๆ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ เสนาธิการทหารเรือ จึงสั่งการ
ในทวีปอาเซียก็นับว่าได้หมดไปเป็นเวลานานมาแล้ว ให้นายทหารไปสืบข่าวเรือสินค้าเยอรมันอีกครั้งหนึ่ง
เหตุฉนั้นในเรื่องจับเรือแพนกนี้จึงมิได้มีปัณหาอย่างใดที่ จากรายงานการสืบข่าวในครั้งนี้บ่งชี้ว่าเรือสินค้า
จะต้องคำนึง จึงควรคิดถึงแต่การจับเรือสินค้าที่ได้จอด
๑๖ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๕ ระเบียบการเตรียมศึกในระหว่างประเทศสยามและประเทศเยอรมัน. แผ่นที่ ๑ - ๑๐.
๑๗ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๘ การจับเรือเชลยแผ่นที่ (ปึกที่ ๓). แผ่นที่ ๗๕ (ด้านหลัง) - ๗๖.,
กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๗ กิจการต่าง ๆ ที่กรมเสนาธิการได้ปฏิบัติในระหว่างสงคราม. แผ่นที่ ๔๑ - ๔๒.
70 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
๑๘
เยอรมันได้เตรียมการตอบโต้การจับกุม ต่อมามีการ สัญญาณลับในการสงครามระหว่างประเทศสยาม
ประชุมชี้แจงหน้าที่ของบรรดาหัวหน้ากรมต่าง ๆ ในวัน กับประเทศเยอรมนีที่เขม็งเกลียวมาโดยลำดับ มาถึง
จันทร์ที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ ในระหว่างวันที่ ขั้นตอนรอพระบรมราชานุญาตเท่านั้น
๓ - ๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ เป็นวันหยุดราชการ
ประจำปี เนื่องด้วยพระราชพิธีเข้าพรรษา เมื่อเปิด วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐
ทำการในวันศุกร์ที่ ๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงมี
การดำเนินการเพื่อเตรียมศึกเขม็งเกลียวขึ้นเป็นการ ลายพระราชหัตถเลขา ณ พระที่นั่งภาณุมาสจำรูญ ถึง
ทำงานวันต่อวัน นายพลเรือเอก สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ เจ้าฟ้า
จนกระทั่งวันพุธที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ บริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมหลวงนครสวรรค์วรพินิต เสนาบดี
เสนาบดีกระทรวงทหารเรือจึงกราบบังคมทูลฯ ถวาย กระทรวงทหารเรือ เป็นข้อความว่า
หนังสือลับราชการลับแด่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า “วันที่ ๑๒ กรกฎาคม ๒๔๖๐
เจ้าอยู่หัว “ว่าด้วยการเตรียมป้องกันการวุ่นวายของเรือ ถึงบริพัตร์
เยอรมัน” มีเนื้อหาด้วยความเห็นซึ่งได้ปรึกษากับเสนา จดหมายลงวันที่ ๑๑ ว่าด้วยการเตรียมป้องกัน
ธิการทหารเรือและเจ้าพระยายมราช เสนาบดีกระทรวง การวุ่นวายของเรือเยอรมันนั้น ได้รับแล้ว เห็นชอบด้วย
พระนครบาลในการที่จะจัดการป้องกันพวกเยอรมนี ตามความคิดที่จะจัดนั้นทุกประการ ให้จัดไปตามความ
ซึ่งอาจทำอันตรายแก่เราทางเรือแล้ว จะขอพระบรม คิดนั้นเถิด
ราชานุญาตเริ่มลงมือควบคุมเรือเยอรมันตั้งแต่วันจันทร์ที่ ราม./” ๒๐
๑๙
๑๖ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐
๑๘ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๗ กิจการต่าง ๆ ที่กรมเสนาธิการได้ปฏิบัติในระหว่างสงคราม. แผ่นที่ ๕๐ - ๕๑.
๑๙ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนีและ
ออสเตรียฮังการี (ปึกที่ ๑). แผ่นที่ ๒๘ - ๒๙.
๒๐ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๙ ร.๖ ทรงเห็นชอบด้วยกับการเตรียมป้องกันความวุ่นวายของเยอรมัน. แผ่นที่ ๑.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 71
เรือเจนทะเลเทียบท่าราชวรดิษฐ์ ตรงข้ามราชนาวิกสภา ประมาณ พ.ศ.๒๔๖๐
หลังจากมีพระบรมราชานุญาตให้เตรียมป้องกัน ๓. นายเรือเอก หลวงชลัมพิไสยเสนี ทำการแทน
การวุ่นวายของเรือเยอรมัน กรมเสนาธิการทหารเรือได้ ผู้บังคับการกองเรือปืน ให้นำกองเรือปืน นอกจาก
ส่งหนังสือไปยังผู้บังคับบัญชาทหารเรือหน่วยต่าง ๆ ร.ร.ล.สุริยะฯ ไปรายงานตัวต่อ นายนาวาตรี หลวงไชย
ตามลำดับ จนกระทั่งวันศุกร์ที่ ๑๓ กรกฎาคม นาวา ผู้บังคับการกองเรือระวังเหตุการณ์ทางใต้
พ.ศ.๒๔๖๐ จึงจัดทำหนังสือราชการส่งถึงผู้บังคับ ณ บางนา ในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม
บัญชาทหารเรือโดยระบุให้จัดคนและสิ่งของเพื่อใช้ใน ๔. นายเรือเอก หลวงนิยมยุทธนาวี รั้งผู้บังคับการ
การสงครามและมีหนังสือราชการส่งไปยังนายทหาร กองเรือพิฆาฎตอร์ปิโด ให้เป็นผู้บังคับการกองเรือ
ซึ่งแต่งตั้งให้เป็นผู้บังคับกองทหารเรือในการปฏิบัติการ ระวังเหตุการณ์ทางเหนือ มีอำนาจบังคับบัญชาเทียบ
ยึดเรือเชลย ได้แก่ ยศชั้น นายนาวาโท ตั้งแต่วันที่ ๑๕ กรกฎาคม มีเรือ
๑. นายนาวาตรี หลวงหาญสมุท แทนผู้ช่วย ประจำกองเรือ ๑๒ ลำ คือ ร.พ.ล.เสือคำรณสินธุ์
เสนาธิการทหารเรือ ให้เป็นผู้บังคับการกองเรือชะเลย ร.พ.ล.เสือทยานชล ร.ล.ปราบปรปักษ์ ร.ล.เทวาสุราราม
มีอำนาจบังคับบัญชาเทียบยศชั้นนายนาวาเอก เตรียมตัว ร.ล.อุไทยราชกิจ ร.ล.สถิตย์ราชการ ร.ล.เขจรชลธี
๒๑
พร้อมปฏิบัติตามแผนการณ์ ณ ท่าราชวรดิษฐ์ ในวันที่ เรือกลชั้น ๔ หมายเลข ๓๔, ๓๗, ๓๘ , ๔๒ เรือกล
๒๑ กรกฎาคม เวลา ๗ ทุ่ม (๐๑๐๐) ชั้น ๔ ชื่อระโว้ ให้รุมไฟไว้พร้อมออกได้ภายใน
๒. นายนาวาตรี หลวงไชยนาวา ทำการแทน ครึ่งชั่วโมงตั้งแต่วันที่ ๑๖ กรกฎาคม เป็นต้นไป ในวันที่
หัวหน้าแพนกตอร์ปิโด ให้เป็นผู้บังคับกองเรือระวัง ๒๑ กรกฎาคม เวลา ๑๑ ทุ่ม จะได้ลงมือยึดเรือสินค้า
เหตุการณ์ทางใต้ มีอำนาจบังคับบัญชาเทียบยศชั้น ข้าศึก และเมื่อยึดเรือสินค้าเป็นที่เรียบร้อยแล้วให้
นายนาวาเอก มีเรือประจำกองเรือ ๓ ลำ คือ ร.ร.ล. ยกเลิกกองระวังเหตุการณ์ทางเหนือ คืนเรือช่วยรบไป
สุครีพครองเมือง ร.ร.ล.มูรธาวสิทธิสวัสดิ์ และ ร.ล. ประจำการกองเรือช่วยรบ คืนเรือกลไฟเล็กต่อกรม
วิเทศกิจการ ให้ปฏิบัติตามแผนการ ตั้งแต่วันที่ ชุมพลทหารเรือในวันที่ ๒๒ กรกฎาคม ๒๒
๑๕ กรกฎาคม เป็นต้นไป
๒๑ กรมชุมพลทหารเรือแจ้งในวันที่ ๑๖ กรกฎาคม ว่าเรือกลที่ ๓๘ หม้อน้ำชำรุด ได้จัดเรือกลศรีอยุธยาเดชแทน แต่กรมชุมพลทหารเรือ
ได้แจ้งเปลี่ยนเป็นเรือกลที่ ๓๕ แทนเรือกลศรีอยุทธยาเดชอีกครั้งหนึ่ง เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม
๒๒ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนีและ
ออสเตรียฮังการี (ปึกที่ ๑). แผ่นที่ ๔๖ - ๕๔.
72 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 73
ปฏิบัติการยึดเรือเชลย
๕. นายเรือโท แสง สุคนธฉายา รั้งผู้บังคับการกอง ๖. นายเรือเอก หลวงแม่นศรจักร ผู้บังคับกองเรือ
เรือช่วยรบ ให้เลิกกองเรือช่วยรบชั่วคราวจนกว่าจะมี ตอร์ปิโด ให้กองเรือตอร์ปิโดจัดเรือ ๒ ลำ ลุมไฟไว้ให้
คำสั่งอย่างอื่น ให้นำเรือ ร.ล.วิเทศกิจการ ไปรายงานตัว ออกได้ภายในครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กรกฎาคม
ต่อ นายนาวาตรี หลวงไชยนาวา ผู้บังคับการกองเรือ เมื่อทราบว่าเรือข้าศึกติดไฟ ให้ส่งเรือไปคอยคุมข้าศึก
ระวังเหตุการณ์ทางใต้ ณ บางนา ในวันที่ ๑๕ กรกฎาคม และยิงด้วยปืนใหญ่ เมื่อเรือข้าศึกลำใดแสดงกิริยาจะ
และให้สั่ง ร.ล.ปราบปรปักษ์ ร.ล.อุไทยราชกิจ ออกเดิน ถ้าขืนออกเรือยังไม่หยุดอีกให้ยิงด้วยตอร์ปิโดได้
ร.ล.เทวาสุราราม ร.ล.สถิตย์ราชการ ร.ล.เขจรชลธี ในวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ให้จัดเรือตอร์ปิโด ๒ ลำ
ไปสมทบกองเรือระวังเหตุการณ์ทางเหนือ ในบังคับบัญชา แล่นตามเรือบรรทุกทหารที่ไปยึดเรือสินค้าข้าศึก คอย
ของนายเรือเอก หลวงนิยมยุทธนาวี ผู้บังคับการกอง ป้องกันอันตรายให้พวกที่ไปยึดเรือของข้าศึก ๒๓
๒๓ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนีและ
ออสเตรียฮังการี (ปึกที่ ๒). แผ่นที่ ๕๖ - ๕๘.
74 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
ทหารเวลามีศึก เนื้อหาตอนท้ายของคำบรรยายกล่าว
ถึงศาลพิจารณาทรัพย์สินเชลยเมื่อมีการสงครามตาม
ธรรมเนียมกฎหมายนานาประเทศ ทหารเรือมีหน้าที่จับ
คร่าบุคคลและทรัพย์สินของศัตรู จะต้องส่งให้อัยการ
แผ่นดินฟ้องร้องต่อศาล หากหลักฐานไม่เพียงพอศาลก็
ต้องตัดสินปล่อย จะริบไว้ไม่ได้ แต่ในการประชุม
บรรยายในหัวข้อเรื่อง “ธรรมศาสตร์” ในบ่าย
วันที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ นั้น นายนาวาเอก
พระยาวินัยสุนทร ตั้งข้อสังเกตไว้ว่าประเทศสยาม
ขณะนั้นหาได้มีศาล ซึ่งมีอำนาจพิจารณาทรัพย์สิน
๒๔
ชนชาติศัตรูตามธรรมเนียมกฎหมายนานาประเทศไม่
ต่อมาเวลาบ่ายสี่โมง (๑๖๐๐) ที่ห้องประชุม
ราชนาวิกสภา นายนาวาตรี หลวงหาญสมุท ได้นัดหมาย
นายทหารที่ได้คัดเลือกไปทำการยึดเรือเชลย
รวม ๓๗ นาย เข้าประชุม เนื้อหาการประชุมเป็นคำกล่าว
ตักเตือนเรื่องเกี่ยวแก่กฎหมายนานาประเทศ เตือนให้
ระมัดระวังไม่ให้พูดถึงข่าวเล่าลือว่าประเทศสยามจะรบ
กับประเทศเยอรมัน เพราะคำพูดของนายทหารย่อมมี
น้ำหนักจะทำให้พลเมืองแตกตื่น พร้อมแนะนำเมื่อ
๒๕
เลิกงานแล้วให้งดการเดินทาง ควรอยู่กับบ้านจะดีกว่า
การประชุมที่ราชนาวิกสภา ในวันพฤหัสบดี
มีเหตุผลสำคัญว่า ราชนาวิกสภาเป็นที่ชุมนุมฟังบรรยาย
ตามปกติ กรมเสนาธิการทหารเรือมีอำนาจเรียกนายทหาร
ราชนาวิกสภา มาฟังการบรรยายได้ อีกทั้งในวันนี้เรื่องที่บรรยายก็เป็น
วันพฤหัสบดีที่ ๑๙ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐ เวลา หัวข้อเรื่อง “ธรรมศาสตร์” ซึ่งเป็นวิชาที่เคยบรรยายอยู่
บ่ายสองโมง (๑๔๐๐) ที่ห้องประชุมราชนาวิกสภา แล้ว เนื้อหาคำบรรยายถึงกฎหมายธรรมเนียมใน
นายนาวาเอก พระยาวินัยสุนทร เจ้ากรมพระธรรมนูญ ระหว่างประเทศนับเป็นการแนะนำให้เข้าใจเรื่องการยึด
ทหารเรือเป็นองค์ปาฐกบรรยายหัวข้อเรื่อง “ธรรมศาสตร” เรือเชลยให้กระจ่างแจ้งเข้าใจง่ายขึ้น จึงเอื้อต่อการรักษา
์
๒๖
ซึ่งเป็นหัวข้อบรรยายประจำวันพฤหัสบดี เนื้อหา ความลับ ผู้เข้าร่วมประชุมไม่ทราบว่าจะต้องไปทำการ
คำบรรยายในวันนั้นว่าด้วยอำนาจทหารและอำนาจศาล ยึดเรือเชลยแต่อย่างใด
๒๔ วินัยสุนทร, พลเรือตรี พระยา. “ธรรมศาสตร์” นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๑ เดือนกุมภาพันธ์ ๒๔๖๐. หน้า ๑๑ - ๑๒. อนึ่งจากบทความเรื่องนี้ระบุว่า
รัฐบาลสยามได้ออกกฎหมายว่าด้วยศาลทรัพย์เชลยในวันที่ ๒๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๔๖๐
๒๕ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ กปศ.ยก.ทร.๙๙.๑/๑๑ ประวัติการจับเชลย โดยพลเรือตรีพระยาหาญกลางสมุทร ร.น. แผ่นที่ ๑๑ - ๑๒.
๒๖ กองประวัติศาสตร์ ยศ.ทร. แฟ้มที่ ๑ สบ.ทร.๙๙.๑/๖ ปฏิบัติราชการในการที่ประเทศสยามประกาศสงครามกับประเทศเยอรมนีและ
ออสเตรียฮังการี (ปึกที่ ๒). แผ่นที่ ๙๗.
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 75
แม่น้ำเจ้าพระยาไม่เคยขาดสาย ทั้งหลายถือเอาเกียรติในการนี้เป็นสำคัญ เพราะนาย
วันเสาร์ที่ ๒๑ กรกฎาคม กรมเสนาธิการทหารเรือ ทหารในราชนาวีมีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับหน้าที่
ได้จัดส่งหนังสือราชการกลับถึงนายทหาร นัดหมายให้ หรือเกียรติอย่างท่านทั้งหลาย ซึ่งข้าพเจ้าได้เลือกคัด
มาพร้อมกัน ณ ราชนาวิกสภา เวลา ๑ ทุ่ม แล้ว ท่านแล้วว่าจะทำการในหน้าที่นี้ได้ดีที่สุด จงรับเอา
นายทหารที่อยู่ในห้องประชุมราชนาวิกสภาทั้งหมด เกียรติอันนี้แต่บัดนี้ และจงทำกำลังใจให้พร้อมเพรียงที่
จึงรู้ตัวทั่วกันว่าภารกิจที่จะต้องร่วมกันกระทำในอีก จะปฏิบัติหน้าที่ให้เรียบร้อยและดีที่สุด อย่าให้มีการผิด
ไม่กี่ชั่วโมงต่อจากนั้นเมื่อนายนาวาตรี หลวงหาญสมุทร พลาดโดยไม่จำเป็นขึ้นได้ มิฉะนั้นจะพาให้ราชนาวี
กล่าวบรรยายว่า สยามเสื่อมเสียชื่อเสียง และจะเป็นการเสียชื่อของ
“ข้าพเจ้าขอถือเกียรติแจ้งให้นายทหารที่เชิญมาที่ ประเทศชาติด้วย จงทำการด้วยความอดทนในกรณีต่าง ๆ
กำลังประชุมกันอยู่นี้ว่า ท่านทั้งหลายจะได้ทำหน้าที่ ที่อาจจะเกิดขึ้นด้วยความสุขุม แต่ต้องทำโดยรวดเร็ว
ของท่านแล้ว ให้สมกับท่านได้เป็นนายทหารเรือตรงกับ เพื่อให้การจับเรือข้าศึกครั้งนี้เสร็จสิ้นสำเร็จลงในเวลา
ที่ได้ตั้งใจไว้ คือท่านทั้งหลายมีหน้าที่จะต้องไปจับเรือ อันสั้น เมื่อสงสัยอย่างใดให้ถามข้าพเจ้าได้ ณ บัดนี้
สินค้าเยอรมันที่หนีหลบภัยสงครามกับประเทศ ก่อนที่เราจะแยกจากกัน เพื่อออกปฏิบัติการเป็น
เยอรมันนีอ๊อสเตรีย - ฮังการี ในคืนวันนี้จึงขอให้ท่าน อิสระ’พอเสร็จสิ้นการปราศัยแล้ว นายทหารเหล่านั้น
76 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
พากันเงียบและตกตะลึงไปก็มี ต่อมาอีกสักครู่หนึ่งจึงมี ดังเป็นแถวยาว เวลา ๓ ยาม ๕๕ นาที เสียงแตรให้
เสียงไชโยขึ้น พร้อมกับแสดงความพร้อมเพรียง สัญญาณออกเรือเมื่อถึงเวลาจวนใกล้รุ่ง วันที่ ๒๒
ในทุกประการ...” กรกฎาคม เรือใหญ่ทั้ง ๒ กระบวน ได้แล่นลงมาพร้อม
นายทหารซึ่งประชุมอยู่ ณ ห้องประชุมราชนาวิกสภา กัน หยุดเครื่องจักรขนานอยู่กับเรือเชลยทั้ง ๒ ด้าน
ได้รับคำสั่งให้พร้อมเตรียมตัวข้ามฟาก เวลา ๒ ยาม เรือปืนก็แบะหัวเรือเตรียมรบ ปืนทุก ๆ กระบอก หันไป
๓๐ นาที (๐๐๓๐) เวลา ๒ ยาม ๕๐ นาที (๐๐๕๐) ทางเรือเชลยพร้อมกัน เรือตอร์ปิโดก็หันท่อตอร์ปิโดไป
เสนาบดีกระทรวงทหารเรือเสด็จเยี่ยมนายทหารที่ ทางเรือเชลยทุก ๆ ท่อ
ราชนาวิกสภา พร้อมประทานแจกใบประกาศสงคราม เวลา ๑๑ ทุ่ม ๓๑ นาที (๐๕๓๐) กระบวนเรือทั้ง
ด้วยในเวลา ๗ ทุ่ม ๑๐ นาที (๐๑๑๐) ได้นำนายทหาร สิ้นได้ถึงหมู่เรือเชลย ต่างคู่ต่างแล่นกลับลำ เข้าเทียบ
ทั้งหมด ข้ามมาที่ท่าราชวรดิษฐ์ ซึ่งเป็นที่ชุมนุมพล เรือเชลยที่ตนจะต้องยึดเป็นลำดับ เอาบันไดพาดเรือ
พันจ่า จ่า และพลทหาร ไว้พร้อมตั้งแต่ ๗ ทุ่ม เชลยไต่ขึ้นไป การจับเรือเชลยซึ่งเสนาธิการทหารเรือ
(๐๑๐๐) กับนายทหารกรมเสนาธิการทหารเรือที่ได้รับมอบ
เวลา ๓ ยาม ๕๐ นาที (๐๓๕๐) มีเสียงแตรให้ หมายได้ร่วมกันจัดทำแผนการ เตรียมอาวุธ พาหนะ
สัญญาณเตรียมออกเรือ เสียงระฆังเรือเร่งเตือนช่างกล และกำลังพลไว้อย่างเงียบเชียบตั้งแต่ขั้นเตรียมการ
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 77
นายพลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
78 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
จนถึงขั้นปฏิบัติการ ซึ่งสิ้นสุดระยะเวลาราว ๔ สัปดาห์ สงครามอย่างผ่าเผย เป็นผลให้สยามได้รับเชิญให้
โดยมีเสนาธิการทหารเรือ ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งราชนาวิกสภา ส่งกองทหารเข้าร่วมรบในสมรภูมิยุโรป ทหารบกจาก
และใช้สถานที่ราชนาวิกสภาดำเนินการในขั้นตอนที่ สยามส่วนหนึ่งทำหน้าที่ในกองทหารบกยานยนต์
สำคัญที่สุด อีกส่วนหนึ่งทำหน้าที่ในการอากาศยาน ทหารทั้งสองส่วน
หากจะกล่าวถึงความเกี่ยวข้องกับราชนาวิกสภาแล้ว ได้รับการฝึกหัดในประเทศฝรั่งเศส ได้รับความรู้ใน
นั่นหมายความว่า การปฏิบัติการยึดเรือเชลย ได้เริ่มต้นขึ้น เครื่องยนต์รถยนต์ และการบิน จนถึงกับสร้างเครื่องบิน
ณ ห้องประชุมราชนาวิกสภา ได้ใช้วิธีการอันเป็น ได้เองในโอกาสต่อมา นอกจากนี้สยามได้รับการยอมรับ
เครื่องมือดำเนินงานสำคัญของราชนาวิกสภา คือ ให้มีสถานะของประเทศเคียงบ่าเคียงไหล่กับชาติ
การปาฐกถา และประชุมปรึกษาหารือเพื่อความเข้าใจ มหาอำนาจในยุโรป ได้รับเชิญให้ส่งตัวแทนที่มีบทบาท
ในแผนปฏิบัติการและร่วมกำหนดขั้นตอนสุดท้ายคือ สำคัญในการร่วมดำเนินการก่อตั้งองค์การสันนิบาตชาติ
การจับยึดเรือเชลยอันเป็นปฏิบัติการที่สำคัญที่สุด และในที่สุดได้เป็นจุดเริ่มต้นแห่งการผ่อนปรนแก้ไขสนธิ
ของแผนการสงครามความสำเร็จในการปฏิบัติการของ สัญญาว่าด้วยสิทธิสภาพนอกอาณาเขตอันเป็นภาระ
นายทหารและพลทหารเรือแห่งราชนาวีสยามที่ดำเนิน ของคนชาติสยามให้หมดสิ้นไปในที่สุด.
ไปจนลุล่วงเรียบร้อย ทำให้ประเทศสยามเข้าร่วม
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 79
To Become The Best
ภาพกิจกรรม
พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผบ.ทร. ร่วมพิธีเปิดกิจกรรมโครงการ “กลาโหมโปร่งใสไร้คอร์รัปชัน” โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธี ณ ห้องพินิตประชานาถ ศาลาว่าการกลาโหม เขตพระนคร
กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๖ มี.ค.๕๙
ผบ.ทร. รับเยี่ยมคำนับ นาย กลิน ที. เดวีส์ เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เพื่อแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ
ณ ห้องรับรอง บก.ทร. พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อ ๗ มี.ค.๕๙
To Become The Best
ผบ.ทร. เป็นประธานในพิธีรับมอบเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ผบ.ทร. รับมอบเงินจาก พล.ร.ต.สุพจน์ สายวงศ์ปัญญา ประธาน
จากสโมสรโรตารีพระปิ่นเกล้า – ธนบุรี โรตารีสากลภาค ๓๓๕๐ เพื่อมอบ คณะกรรมการ นนร. รุ่นที่ ๗๘ และ จก.สก.ทร. จำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท
ให้แก่ รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า พร. ณ ห้องรับรอง บก.ทร. พระราชวังเดิม เพื่อให้มูลนิธิ สก.ทร. นำไปใช้ประโยชน์ตามวัตถุประสงค์ ณ ห้องรับรอง บก.ทร.
เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อ ๓ มี.ค.๕๙ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๕ มี.ค.๕๙
ผบ.ทร. เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลแก่ผู้เข้าร่วมกิจกรรมวิ่งแข่งขัน ผบ.ทร. ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำการประมง
เพื่อสุขภาพกำลังพลของ ทร. ครั้งที่ ๑/๒๕๕๙ ณ บก.ทร. วังนันทอุทยาน ผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เป็นประธานในการประชุม ศปมผ. ครั้งที่ ๔/๒๕๕๙
เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๖ มี.ค.๕๙ เพื่อติดตามความก้าวหน้าในการแก้ไขปัญหาการทำการประมงผิดกฎหมาย
ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม ณ ห้องประชุม ชั้น ๖ บก.ทร. วังนันทอุทยาน
เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๘ มี.ค.๕๙
พล.ร.อ.ณรงค์พล ณ บางช้าง รอง ผบ.ทร. เป็นประธานในการสวนสนาม รอง ผบ.ทร. ต้อนรับคณะเยาวชนจาก ๓ จังหวัดชายแดนใต้
ทางเรือของไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล งานวันสถาปนาไทยอาสาป้องกันชาติ ตามโครงการรวมใจไทยเป็นหนึ่งกองทัพเรือ ครั้งที่ ๔ ประจำปี ๒๕๕๙ เพื่อรับฟัง
๔ มีนาคม ประจำปี งป.๕๙ โดยมี พล.ร.ท.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ โอวาทและรับของที่ระลึก ณ ท้องพระโรง พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่
ผบ.ทรภ.๓ เข้าร่วมในการสวนสนาม ณ แหลมพรหมเทพ อ.เมืองภูเก็ต จว.ภูเก็ต กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๕ มี.ค.๕๙
เมื่อ ๔ มี.ค.๕๙
To Become The Best
พล.ร.อ.ไกรวุธ วัฒนธรรม ผช.ผบ.ทร. เป็นประธานในพิธีมอบเครื่องราช ผช.ผบ.ทร. ตรวจเยี่ยม สน.ผชท.ทร.ไทย/วอชิงตัน ประจำสถาน
อิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี ๒๕๕๘ ในโอกาส เอกอัครราชทูตไทย โดยมี น.อ.สุวิน แจ้งยอดสุข ผชท.ทร.ไทย/วอชิงตัน ต้อนรับ
พระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา ๕ ธันวาคม ๒๕๕๘ ให้แก่ผู้กระทำความดี ณ สน.ผชท.ทร.ไทย/วอชิงตัน กรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ ๗ มี.ค.๕๙
ความชอบอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนาและประชาชน จำนวน ๒๓ คน
ณ ห้องรับรอง บก.ทร. พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพฯ เมื่อ ๒ มี.ค.๕๙
พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ เสธ.ทร. ในฐานะประธานกรรมการ เสธ.ทร. เป็นประธานการประชุมคณะทำงานรับรองมาตรฐานของ
บริษัทอู่กรุงเทพ จำกัด เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการ บริษัท อู่กรุงเทพ คณะกรรมการขับเคลื่อนการวิจัย และพัฒนาการใช้ประโยชน์เครื่องบินทะเล
จำกัด ประจำเดือน มี.ค.๕๙ ณ ห้องประชุม ชั้น ๕ บก.ทร. วังนันทอุทยาน โดยมี พล.ร.ต.บุญเรือง หอมขจร ผอ.สวพ.ทร. เข้าร่วมประชุมฯ เพื่อพิจารณา
เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๔ มี.ค.๕๙ ข้อมูลและวางแผนในการดำเนินการด้านมาตรฐานเครื่องบินทะเล ณ ห้องประชุม ๒
ชั้น ๕ บก.ทร. วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๙ มี.ค.๕๙
พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.กร. เป็นประธานในพิธีทำบุญ ผบ.กร. รับการเยี่ยมคำนับจาก พล.ร.ต.ชัชชัย โพธิพรรค จก.จร.ทร.
เรือเร็วตรวจการณ์ลำน้ำ ในโอกาสที่ บริษัท มาร์ซัน จำกัด ได้มอบเรือเร็ว และคณะ ณ ห้องรับรองนายทหารชั้นผู้ใหญ่ บก.กร. อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี
ตรวจการณ์ลำน้ำ จำนวน ๖ ลำ ตามโครงการเสริมสร้างกำลังกองทัพ ประจำปี เมื่อ ๒๑ มี.ค.๕๙
งป.๕๗ โดยมี พล.ร.ต.นิกิตติ์ ฑีร์ฆะยศ ผบ.กลน.กร. ต้อนรับ ณ บริเวณท่าเรือ
ราชนาวิกสภา เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๘ มี.ค.๕๙
To Become The Best
พล.ร.ท.ธนะกาญจน์ ใคร่ครวญ ผบ.นย. และ ผบ.กปช.จต. เป็นประธาน พล.ร.ท.จุมพล ลุมพิกานนท์ รอง เสธ.ทร. เป็นประธานการประชุม
ในพิธีเปิดงานประจำปี ๒๕๕๙ และถวายผ้าป่าสามัคคี เพื่อหารายได้สมทบทุน คณะทำงานด้านการประชาสัมพันธ์ ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการทำประมง
ก่อสร้างกุฏิหลังใหม่ ณ วัดตะกาดเง้า อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี เมื่อ ๕ มี.ค.๕๙ ผิดกฎหมาย (ศปมผ.) เพื่อพิจารณาการออกกฎหมายฉบับใหม่ของประเทศ
สหรัฐอเมริกา ที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาแรงงาน ณ ห้องประชุม บก.ทร.
วังนันทอุทยาน เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๑ มี.ค.๕๙
พล.ร.ท.รังสฤษดิ์ สัตยานุกูล ผบ.ทรภ.๑ ต้อนรับ พล.ร.อ.พัลลภ ตมิศานนท์ พล.ร.ท.พรชัย ปิ่นทอง ผบ.ทรภ.๒ เป็นประธานในพิธีงานวันคล้ายวัน
เสธ.ทร. และคณะ ในการตรวจเยี่ยมพื้นที่ภาคตะวันออก เพื่อรับทราบ ปัญหา สถาปนา ทรภ.๒ ประจำปี ๒๕๕๙ โดยมีข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง ในสังกัด
อุปสรรค ข้อขัดข้อง และข้อเสนอแนะในการปฏิบัติงานของหน่วย ณ บก.ทรภ.๑ ทรภ.๒ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธี ณ บก.ทรภ.๒ อ.เมืองสงขลา จว.สงขลา
อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี เมื่อ ๑๖ มี.ค.๕๙ เมื่อ ๑๑ มี.ค.๕๙
พล.ร.ท.สายันต์ ประสงค์สำเร็จ ผบ.ทรภ.๓ เป็นประธานในพิธี พล.ร.ท.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.รร.นร. พร้อมคณะผู้บังคับบัญชาและ
งานวันคล้ายวันสถาปนา ทรภ.๓ ประจำปี ๒๕๕๙ โดยมีข้าราชการ ทหาร ลูกจ้าง ข้าราชการ รร.นร. ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
ในสังกัด ทรภ.๓ และแขกผู้มีเกียรติเข้าร่วมพิธี ณ บก.ทรภ.๓ อ.เมืองภูเก็ต ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ
จว.ภูเก็ต เมื่อ ๑๑ มี.ค.๕๙ เมื่อ ๑๗ มี.ค.๕๙
To Become The Best
พล.ร.ท.วิพากษ์ น้อยจินดา ผบ.ฐท.สส. พร้อมด้วยคณะนายทหาร พล.ร.ท.สัมพันธ์ สุนทรครุธ ปช.ทร. และข้าราชการ สปช.ทร. ร่วมลงนาม
ชั้นผู้ใหญ่ ฐท.สส. ถวายสักการะพระอัฐิธาตุ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จ ถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรม
พระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ณ วัดญาณสังวรารามวรมหาวิหาร มหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๐ มี.ค.๕๙
อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เมื่อ ๑๕ มี.ค.๕๙
พล.ร.ท.สุทธินันท์ สกุลภุชพงษ์ จก.อร. พร้อมคณะผู้บังคับบัญชา นำคณะ พล.ร.ท.พิเชฐ ตานะเศรษฐ จก.ยศ.ทร. ผู้แทน ทร. ร่วมลงนาม
บริษัทเข้ามอบเครื่องกรองน้ำและเงินสนับสนุนงานกาชาด ประจำปี ๒๕๕๙ บันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสร้างเครือข่ายพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้
โดยมี คุณปรานี อารีนิจ นายกสมาคมภริยาทหารเรือ เป็นผู้รับมอบ ณ สมาคม (Museum Family) ระหว่าง ทร. กับ สถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ
ภริยาทหารเรือ เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๕ มี.ค.๕๙ สำนักงานบริหาร และพัฒนาองค์ความรู้ (องค์การมหาชน) ณ ห้องประชุม
อาคารราชนาวิกสภา เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๔ มี.ค.๕๙
พล.ร.ท.ธานินทร์ ลิขิตวงศ์ จก.สพ.ทร. พร้อมด้วยนายทหารชั้นผู้ใหญ่ พล.ร.ท.ศักดิ์สิทธิ์ ยังวิจิตร จก.พธ.ทร. ตรวจเยี่ยม รร.พธ.พธ.ทร.
สพ.ทร. ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลา ณ รร.พธ.พธ.ทร. เขตบางนา กรุงเทพฯ เมื่อ ๘ มี.ค.๕๙
สหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๐ มี.ค.๕๙
To Become The Best
พล.ร.ต.ทิวา ดาราเมือง จก.ขส.ทร. เป็นประธานในพิธีงานวันคล้าย พล.ร.ต.สมชาย ณ บางช้าง ลก.ทร. พร้อมด้วยข้าราชการ สลก.ทร.
วันสถาปนา ขส.ทร. ครบรอบ ๑๑๓ ปี โดยมีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของ ทร. ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาสหทัยสมาคม
ร่วมแสดงความยินดี ณ บก.ขส.ทร. เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ เมื่อ ๓ มี.ค.๕๙ ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อ ๙ มี.ค.๕๙
พล.ร.ต.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ฐท.กท. เป็นประธานเปิดการบรรยาย พล.ร.ต.สานนท์ ผะเอม ผบ.สอ.รฝ. เป็นประธานในพิธีสวนสนามของ
“การจัดทำการเตรียมสนามรบด้านการข่าว (IPB) ในพื้นที่รับผิดชอบของ นขต.สอ.รฝ. เพื่อแสดงออกถึงความพร้อมของกำลังพลและอาวุธยุทโธปกรณ์
ึ
ิ
ั
ฐท.กท. ครั้งที่ ๑” โดยมี น.อ.มี ช่อมณี ข้าราชการบำนาญ อดีตฝ่ายเสนาธิการ ความเข้มแขง ความมีระเบียบวนัย และเป็นการแสดงออกถงศกยภาพของหน่วย
็
ประจำกรมข่าวทหารเรือ เป็นวิทยากรบรรยาย ณ บก.ฐท.กท. เขตบางกอกน้อย ณ ลานอเนกประสงค์ สอ.รฝ. อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี เมื่อ ๔ มี.ค.๕๙
กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๐ มี.ค.๕๙
พล.ร.ต.นพดล เรืองสมัย ผอ.สตน.ทร. และข้าราชการ สตน.ทร. พล.ร.ต.บุญเรือง หอมขจร ผอ.สวพ.ทร. ให้การต้อนรับ พล.ร.อ.พัลลภ
ร่วมลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาสหทัยสมาคม ตมิสานนท์ เสธ.ทร. ตรวจเยี่ยมผลงานวิจัยของ ทร. ในพีธีเปิดการฝึก ทร.
ในพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพฯ เมื่อ ๑๔ มี.ค.๕๙ ประจำปี ๒๕๕๙ ณ ท่าเรือแหลมเทียน ฐท.สส. อ.สัตหีบ จว. ชลบุรี เมื่อ ๑ มี.ค. ๕๙
To Become The Best
พล.ร.ต.ช่อฉัตร กระเทศ รอง จก.ยศ.ทร. ผู้แทน จก.ยศ.ทร. เข้าร่วมงาน พล.ร.ต.สมภพ สุวิทยาลังการ รอง ผบ.ทรภ.๒ รักษาราชการแทน
โครงการพบปะหัวหน้าส่วนราชการในจังหวัดนครปฐม “สภากาแฟ” ประจำเดือน ผบ.ทรภ.๒ เป็นประธานในพิธีเปิดการอบรมงานป้องกันและควบคุมโรค
มี.ค.๕๙ ณ อาคารศูนย์ศิลปวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยศิลปากร จว.นครปฐม ไข้เลือดออก ใน ทร. พื้นที่ ฐท.สข.ทรภ.๒ ประจำปี งป.๕๙ ณ สโมสร
เมื่อ ๙ มี.ค.๕๙ สัญญาบัตร ฐท.สข.ทรภ.๒ อ.เมืองสงขลา จว.สงขลา เมื่อ ๘ มี.ค.๕๙
พล.ร.ต.สมหมาย วงษ์จันทร์ รอง เสธ.กร. มอบรางวัลการตรวจวัดดัชนี พล.ร.ต.ธีระพงษ์ มูลละ รอง ผอฺ.อจปร.อร. เป็นประธานประกอบพิธี
มวลกาย และการทดสอบสมรรถภาพทางกายกำลังพลของ กร. ที่มีสุขภาพ ประดับเครื่องหมายยศให้กับข้าราชการกลาโหมพลเรือนชั้นสัญญาบัตร และนาย
แข็งแรง เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กำลังพลดูแลรักษาสุขภาพของตัวเอง ทหารประทวนที่ได้รับการเลื่อนยศสูงขึ้น ณ ห้องบรรยาย บก.อจปร.อร.
ณ บก.กร. อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ระหว่าง ๑๐ – ๑๑ มี.ค.๕๙ อ. พระสมุทรเจดีย์ จว.สมุทรปราการ เมื่อ ๙ มี.ค.๕๙
พล.ร.ต.เธียรศิริ มนต์ไตรเวศย์ รอง ผบ.กปช.จต. ผู้แทน ผบ.กปช.จต. พล.ร.ต.พงศกร กุวานนท์ ผบ.กดน.กร. ร่วมจัดงานนิทรรศการเทคโนโลยี
เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกอบรมค่ายเยาวชน “ตามรอยพระบาทยาตรา” เรือในทศวรรษหน้า ครั้งที่ ๓ (Ship Tech III : 2016) ซึ่ง กดน.กร. รับผิดชอบ
ประจำปี ๒๕๕๙ ณ ห้องประชุมหอสมุดแห่งชาติรัชมังคลาภิเษกจันทบุรี การจัดนิทรรศการเรือดำน้ำ และการจัดแสดงส่วนประกอบที่สำคัญของ
อ.เมืองจันทบุรี จว.จันทบุรี เมื่อ ๑๑ มี.ค.๕๙ เรือดำน้ำไทยในอดีต ที่ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี
ฮอลล์ ๒ อ.ปากเกร็ด จว.นนทบุรี เมื่อ ๓ - ๔ มี.ค.๕๙
To Become The Best
พล.ร.ต.วศินสรรพ์ จันทวรินทร์ ผบ.กบฮ.กร. เป็นประธานในพิธีงาน พล.ร.ต.สุพจน์ ภู่ระหงษ์ ผบ.วทร.ยศ.ทร. นำผู้แทนนักศึกษาหลักสูตร
วันคล้ายวันสถาปนา กบฮ.กร. ครบรอบ ๒๔ ปี และครบรอบขึ้นระวางประจำการ วทร.รุ่นที่ ๔๘ มอบเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ให้กับ พล.ร.อ.สำเภา พลธร
ร.ล.จักรีนฤเบศร ๑๙ ปี ณ บก.กบฮ.กร. ท่าเรือจุกเสม็ด อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี ครูประจำหลักสูตร วทร. เพื่อสนับสนุนการจัดทำตำราแผนที่ประวัติศาสตร์โลก
เมื่อ ๑๗ มี.ค.๕๙ ณ บก.วทร.ยศ.ทร. อ.พุทธมณฑล จว.นครปฐม เมื่อ ๒๑ มี.ค.๕๙
พล.ร.ต.สุรพล ชัชวาลวานิช ผอ.รพ.อาภารเกียรติวงศ์ ฐท.สส. เป็นประธาน พล.ร.ต.กล้าหาญ เพ็ชรมีศรี ผบ.พล.นย. พร้อมฝ่ายอำนวยการ ตรวจเยี่ยม
ในพิธีปิดการอบรมหลักสูตรพลผู้ช่วยปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์ ทร. การฝึกการปฏิบัติการสนับสนุนการช่วยรบ ประจำปี งป.๕๙ โดยมี น.อ.จรงศักดิ์
(NEMTA) ณ ห้องประชุมกฤษณจันทร์ สโมสร รพ.อาภากรเกียรติวงศ์ ฐท.สส แย้มบาน ผบ.กรมสนับสนุน พล.นย. ต้อนรับ ณ สนามฝึก ทร. หมายเลข ๑๕
เมื่อ ๑๘ มี.ค.๕๙ หาดยาว อ.สัตหีบ จว.ชลบุรี เมื่อ ๑๗ มี.ค.๕๙
พล.ร.ต.เชษฐา ใจเปี่ยม ผบ.กทบ.กร. และเลขานุการคณะทำงานด้านการ พล.ร.ต.ภิญโญ โตเลี้ยง ผบ.นสร.กร. เป็นผู้แทน ผบ.ทร. เยี่ยมอาการ
ประชาสัมพันธ์ (ศปมผ.) ให้สัมภาษณ์รายการ เดินหน้าประชารัฐ เรื่อง “e-license และมอบเงินช่วยเหลือพร้อมทั้งปรึกษาหาแนวทางช่วยเหลือ พลฯ ปริวรรต
การขอรับใบอนุญาตทำการประมงพาณิชย์” และ น.อ.กฤษฎา แสงเพ็ชร์ส่อง ราษฎร์เจริญ ทหารผลัด ๔/๕๕ นสร.กร. ประสพอุบัติเหตุขณะปฏิบัติหน้าที่
เลขานุการคณะทำงานพัฒนาระบบงานทะเบียนและบันทึกข้อมูลเรือประมง ในราชการ ณ บ้านเช่าในตลาดสดท่าใหม่ อ.ท่าใหม่ จว.จันทบุรี เมื่อ ๗ มี.ค.๕๙
ณ สถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย NBT กรุงเทพฯ เมื่อ ๑ มี.ค.๕๙
การฌาปนกิจ
สงเคราะห์แห่งราชนาวี
!"#$"%&!'(!"#$%&'()*(+"%&,!!!"
!"#$%&$'(!)"*+)","-.
!"#$%&!"#!"#$%&'()*+,"-./0.1),"2$"34 5 !"#$%& ! !"#$%! !.".!""# !"#$%$ !!,!!" !"#
!"#$%&'()"$*++"!,"-.+*/(!!"#$%&'(&)!!"#$"%& '&()*!!"#$%&'"(()!*+,-!!"#"$$%
!"#$%$ !" !" !"#$% !"!"! – !"#$!
!"#$%&!"#$%&'()*%++,/
!"#$%&'( !" - !"#! - !"#$ !"#$%#& !"#$"% !"#$
!"#$%&%''(
!"#$$ !.".#$%&!'%( !"#$%&'()*& !"#$#%&#$'$()*#&#$ !". !" !" !.".!"
!"#$% !"#$%&'(#)*+ ,-%./0123/ !"#$%&' !". !" !" !.".!"
!"#$% !.".#$%&' !""#$%&'( !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$! !.".#$%&"' !"#$%&'()* !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$# !."."#$% !"#$%&'%()" !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$% !.".!"#$%& !"#$%&'()*% !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$% !"#$%&! !"!#$%&'()* !"#$%&' !". !" !" !.".!"
!"#$% !"#$%&' !"#$%&'( !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"#$" !.".#$%&'()*+ !"##$#%&'() !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"#$% !"#$%"&' ()*+,-./ !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"#$% !.".#$$%&$ !"#$%&'$()& !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$$ !.".#.$%&'( !"#$%&'() !"#$#%&#$'(#)#* !". !! !" !.".!"
!"#$$ !.".#$%&'()$* !"#$%"& !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$! !.".#$%& !"#$%&&# !"#$#%&#$'(#)#* !". !! ! !.".!"
!!"#$ !.".#$%& !"##$% !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$# !"#$%&'()" !"#$%&'()"*+ !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"#$% !".#.$.%&%%&' !"#$%&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$% !.".#$%& !"#$%&&" '()*+,-./01 !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$" !"#$%&'( !"#$%&! !"#$!"%&' - !! ! !.".!"
!"#$% !.".#$%&'(!") !"#$%&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$% !"#$%!&'" !"#$%& !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"#$% !".#.$.%&%'(")* +,-./ !"#$#%&#$'(#)#* !". !" ! !.".!"
!"#!$ !"#$%!&'()*$" !"#$%&'()*+, !"#$!"%&' - !! ! !.".!"
!"#!! !.".#$%& '&(' !"#$%& !"#$#%&#$'(#)#* !". !" ! !.".!"
!"#!$ !"#$%#&' ()#'%*+, !"#$!"%&' - !" ! !.".!"
!"#!# !"#$%&'( '#%')&* !"#$!"%&' !"#$%&' !" ! !.".!"
!"#!$ !.".#$%&'$() !"#$%&'() !"#$#%&#$'(#)#* !". !" ! !.".!"
90 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙
- ! -
!"#$%&!"#$%&'()*%++,/
!"#$%&'( !! - !"#! - !"#$ !"#$%#& !"#$"% !"#$
!"#$%&%''(
!"#!$ !.".#$%&'( )*+,-)./ !"#$#%&#$'(#)#* !". !" ! !.".!"
!"#!" !"#$%&'() !"#$#%& !"#$!"%&' - !" ! !.".!"
!"#!$ !"#$%&'()*% !"#$%&'#(()* !"#$!"%&' - !" ! !.".!"
!"#!$ !"#$!%&" !"#$%$&#$' !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"#!$ !".#.$.%&%'(")* !"#$%&""' !"#$#%&#$'(#)#* !". !! !" !.".!"
!"#$% !."."#$$%& !"#$%&'()*+ !"#$#%&#$'(#)#* !". !" ! !.".!"
!"#$! !.".#$%&' !"#$%& !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$$ !.".#.$%&'() !"#$%&'! !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$# !.".#$%$&& !"#$%&' !"#$#%&#$'$()*#&#$ !".#$. !" ! !.".!"
!"#$% !.".#.$%&'"() !"#$%&'( !"#$#%&#$'$()*#&#$ !!."!. !" ! !.".!"
!"#$% !".#.$%&' !"#$%&'()'# !"#$!"%&' - !" ! !.".!"
!"#$" !"#$%&' !"#$%&'( !"#$!"%&' - !" !! !.".!"
!"#$% !.".#.#$%& !"#$%&'()* !"#$#%&#$'$()*#&#$ !". !" !" !.".!"
!"#$% !.".#!$%&'(&) !"#$%&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !! !.".!"
!"#$% !.".#$%&'$() !"#$%&!'( !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"##$ !"#$%&'&'() !"#$%&'& !"#$%&' !". !" !" !.".!"
!"##! !.".#$%& !"#$%&'() !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"##$ !"#$%"!&&$' !"#$%&' !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"### !.".#$%!& '()*%+%,-. !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"##$ !"#$%&'( )*"&"+'% !"#$%&' !". !" !" !.".!"
!"##$ !".#.$.%&'()*# !"#$%"&'()* !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"##" !"#$"%& '()*(+,- !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"##$ !.".#$%#&'( !"#$%&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"##$ !"#$%&"' !"#$%&$&'( !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
!"##$ !.".#$%& !"#!$#%!& !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$% !.".#$%& !"#$!#%"& !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$! !.".#$%& !"#$%&'() !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !! !.".!"
!"#$%&'
!"#$% !"#$%&" !"#$%&! - ! – !". !" !" !.".!"
!"#$# !".#.$.%&'() !"#$%#&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$$ !.".#"$%! !"#$%$& !"#!"#$"!%&"'"( !". !" !"#$%&!"#$%&'()*%++,/
!" !.".!"
!"#$%&'( !" - !"#! - !"#$ !"#$%#& !"#$"% !"#$
!"#$%&%''(
!"#$% !.".#$# !"#$%&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$" !"#$%!&# !"#!$%!#&' !"#$%&' !". !" !" !.".!"
!"#$% !"#$%&%'&() !"#$!!"# !"#$!"%&' - !" ! !.".!"
!"#$% !.".#$%&' !"#$%%&' !"#$#%&#$'(#)#* !". !" !" !.".!"
!"#$% !.".!#$%& !"#$%&'()&* !"#$#%&#$'$()*#&#$ !". !" !! !.".!"
!"#$% !"#$%&'(')* !"#$%&$" !"#$%&' !". !! !" !.".!"
!"#$! !"#$%$& !"#"$% !"#$!"%&' - !" !" !.".!"
นาวิกศาสตร์ในนามของกองทัพเรือขอแสดงความอาลัยในมรณกรรมของสมาชิกที่กล่าวนามเป็นอย่างยิ่ง
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๙ เล่มที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๙ 91
!"#$%&'!()*
!.".
(!"#$%&'()* !+,-.,/"01)
!"#$%&'(#! )*+)",)",-".!)*+/0&1,"%234250,"6!"7( 48%
!"#$%&'()*+&!)*,$ *-.*&"/.01" *"4/56/7,*&"82&"0"9-
!".!.!!