เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก
ข่าวจากเว็บไซต์ไทยโพสต์ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๓
นาวิกศาสตร์ 8
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ี
ี
ในฐานะท่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงท่รับผิดชอบ จากระบบตรวจจับต่าง ๆ มาประมวลผลและใช้อาวุธ
�
ั
้
ก�าลังอากาศนาวี รวมทั้งก�าลังทางเรืออื่นของกองทัพเรือ ต่อเป้าหมายได้ท้งในการรบต่อต้านเรือผิวนา (Anti
�
�
้
�
ื
ิ
มาก่อน ใคร่ขอเรียนเพ่มเติมว่าการปฏิบัติการนาเคร่อง Surface Warfare) และการปราบเรือดานา (Anti
่
ื
บินลงในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency landing) Submarine Warfare) การแบ่งประเภทเครองบินใน
ี
ี
�
สาหรับกรณีน้ของนักบินและลูกเรือเป็นไปอย่างถูกต้อง การปฏิบัติการทางเรือท่วไป ปัจจุบันจึงไม่นิยมท่จะ
ั
ั
ื
�
ตามข้นตอนการปฏิบัติ นามาสู่ความปลอดภัยต่อชีวิต ให้แยกเป็นเคร่องบินต่อต้านเรือผิวนา และเคร่องบิน
�
ื
้
�
และความเสียหายต่อทรัพย์สินทางราชการน้อยสุดกว่า ปราบเรือดานา แต่จะรวมขีดความสามารถท้งสองไว้ใน
�
้
ั
ู
ทน่าจะเป็น และเป็นทกล่าวขวญในหม่สงคมการบิน เคร่องอีกประเภท เรียกว่าเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล
ี
ั
ื
่
ั
่
ื
ี
ท่วไป จึงขอชมเชยและชื่นชมไว้ ณ โอกาสน้ด้วย และ (Maritime Patrol Aircraft) โดยหน้าที่ส�าคัญที่มอบให้
ี
ั
�
้
�
้
�
ื
ื
�
้
�
จากรูปเคร่องบินต่อต้านเรือผิวนาข้างบน ทาให้คิดถึง นอกจากการต่อต้านเรือผิวนา และการปราบเรอดานา
ื
ี
เคร่องบินปราบเรือดานา (บปด.) ท่กองทัพเรือเคยมีคือ ตามท่กล่าวมาแล้ว ยังมีการค้นหาและกู้ภัย (Search
ี
�
�
้
บปด.๑ (แบบ S - 2F) ซึ่งติดตั้งระบบค้นหา ตรวจจับ and Rescue) และอื่น ๆ นับเป็นเครื่องมือหลักในการรบ
และระบบอาวุธในการปราบเรือด�าน�้า พร้อมทั้งอุปกรณ์ ทางเรือประเภทหนึ่ง
ื
ี
�
ื
ส่อสารและสงครามอิเล็กทรอนิกส์พร้อมมูล ปัจจุบันได้ บทความน้จะนาเสนอเร่องราวของเคร่องบินประเภทน ้ ี
ื
�
�
ปลดประจาการแล้ว ทาให้สภาพปัจจุบันของไทยขาด เก่ยวกับบทบาทท่สาคัญในการปฏิบัติการทางเรือแต่ละ
ี
ี
�
ื
ี
�
�
�
ื
้
เคร่องมือรบสาคัญในการปราบเรือดานา ขณะท่พ้นท ่ ี สาขา และคุณลักษณะที่ต้องการ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เต็มไปด้วยการปฏิบัติการ ส�าหรับกองทัพเรือ
ของเรือด�าน�้าชาติต่าง ๆ
๑. หน้าที่และบทบาทส�าคัญ
เน่องจากอิทธิพลของเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้รับการ
ื
พัฒนาให้เจริญรุดหน้าไปมาก แนวโน้มของการรบทางเรือ
คาดว่าการเข้าทาการยุทธจะกระทากันในระยะไกล
�
�
�
มากข้นตลอดเวลา และเม่อเข้าปะทะกันความแม่นยาและ
ึ
ื
ิ
�
ความรวดเร็วของการใช้อาวุธจะเป็นส่งสาคัญ การรบ
ี
ี
จะเป็นไปในลักษณะท่รวดเร็วแต่รุนแรง ผู้ใดท่ค้นหา
�
�
ตรวจจับ พิสูจน์ทราบ และสามารถกาหนดตาบลท ่ ี
ฝ่ายตรงข้ามได้ถูกต้องก่อน ตลอดจนมีขีดความสามารถ
เครื่องบินปราบเรือด�าน�้า แบบที่ ๑ (แบบ S- 2F)
ท่จะนาอาวุธเข้าไปโจมตีได้ ต้งแต่ระยะไกลจะเป็นฝ่าย
ั
ี
�
ด้วยขีดสมรรถนะของเคร่องบินสมัยใหม่ท่ม ี ได้เปรียบ ซ่งกาลังท่จะสามารถปฏิบัติการเพ่อให้ได้มา
�
ี
ึ
ี
ื
ื
ึ
้
ิ
่
ึ
ี
ั
ี
ึ
ความเร็วสูงข้น มีความคงทน สามารถปฏิบัติการได้ใน ถงสงท่พงปรารถนาของการรบดงกล่าวน ได้อย่างเหมาะสม
ทุกสภาพอากาศ มีระยะเวลาบิน (Endurance) นานขึ้น คือ กาลังอากาศนาวี เน่องจากมีคุณสมบัติท่ได้เปรียบ
ื
�
ี
มีขนาดใหญ่ สามารถรับภาระในการติดตั้งระบบตรวจจับ กว่าก�าลังประเภทอื่น โดยเฉพาะในเรื่องความเร็ว มีรัศมี
ระบบอาวุธ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ต้องการได้ครบ ปฏิบัติการที่ไกลครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวาง และความ
ี
สมบูรณ์ในเคร่องเดียวกัน โดยมีระบบอานวยการรบ มีจุดเด่นสูงในเร่องท่สามารถตรวจจับได้ไกล ท้งด้วย
ั
�
ื
ี
ื
ี
(Combat Management System) ที่สามารถน�าข้อมูล สายตาและอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากน้ยังมีความคงทน
นาวิกศาสตร์ 9
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
่
ี
ื
ู
้
ั
้
ี
ื
่
ี
สามารถอย่ในพนทได้นานระดบหนึง มพนท่และระวาง
ั
ี
บรรทุกท่สามารถติดต้งระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ
ที่ต้องการได้
เครื่องบินเครื่องแรกของ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
บินจาก USS Bermingham เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓
ิ
�
สาหรับเคร่องบนลาดตระเวนทางทะเลท่มีต้นกาเนิด แนวความคิดในการต่อต้านเรือผิวน�้าในการฝึกผสม
�
ื
ี
เพียงไม่ก่ปีหลัง จากท่มีการคิดค้นเคร่องบิน ปัจจุบันได้ถูก ระหว่างกองทัพเรือสิงคโปร์ และกองทัพเรืออินเดีย
ี
ี
ื
ก�าหนดให้มีหน้าที่ และบทบาทในการปฏิบัติการต่าง ๆ สถานการณ์ข้าศึก พิจารณาขีดความสามารถ ตลอดจน
ที่ส�าคัญของการท�าสงครามทางเรือดังนี้ หนทางปฏิบัติของข้าศึกที่น่าเป็นไปได้ และเป็นอันตราย
ต่อฝ่ายเรามากที่สุด ก�าหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ต่าง ๆ
๑.๑ การต่อต้านเรือผิวน�้า รวมทั้งมอบภารกิจแก่หน่วยปฏิบัติต่าง ๆ
การปฏิบัติการน้นับว่าเป็นการปฏิบัติหลักของ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลในการต่อต้าน
ี
ื
้
�
ั
ั
ี
ี
สงครามทางเรือนับต้งแต่ยังมีการรบมิติเดียว ท่การให้ เรือผิวนา ท้งท่อยู่ในอัตราการจัดหน่วยเฉพาะกิจ หรือ
�
้
้
้
้
�
ื
ึ
ึ
ี
่
ไดมาซงการครองทะเลจะตองทาลายเรอรบขาศกใหมาก ท่มาข้นการควบคุมทางยุทธการ จะมีบทบาทสาคัญใน
ึ
ที่สุด โดยอาวุธที่ส�าคัญได้แก่ ปืนใหญ่เรือ จนกระทั่งถึง ข้นตอนน้ คือ การลาดตระเวนหาข่าว (Reconnaissance)
ั
ี
ี
สงครามสามมิติ หรือสี่มิติ กรณีที่มีการขยายอ�านาจจาก โดยมีความมุ่งหมายท่จะให้ได้ข่าวสารเก่ยวกับการ
ี
ทะเลข้นสู่ฝั่งในปัจจุบันท่มีการวิวัฒนาการของเทคโนโลย ี ปฏิบัติการ ขีดความสามารถ ตลอดจนท่ต้ง และการ
ั
ี
ึ
ี
ั
ั
ด้านต่าง ๆ ได้เจริญรุดหน้าไปมากท้งระบบอาวุธ และ ประกอบกาลังต่าง ๆ ของข้าศึก รวมท้งลักษณะของพ้นท ่ ี
�
ื
ื
ิ
ี
ระบบตรวจจับ บทบาทของเคร่องบินลาดตระเวนท่เร่มต้น ปฏิบัติการ และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อที่จะน�ามาเป็น
ี
�
ด้วยการค้นหาข้าศึกหน้ากองเรือได้ทวีความสาคัญมากข้น ข้อมูลต่าง ๆ ในการวางแผน ในการน้กองทัพเรือบางชาต ิ
ึ
ิ
ั
ื
่
�
ั
�
ตามลาดับจนกระท่งอาจเรียกว่าเป็นกาลังรบส่วนหน่ง ยงได้ใช้เครองบนดงกล่าวลาดตระเวนถ่ายภาพ และ
ั
ึ
ี
ั
ท่ขาดไม่ได้ โดยจะเข้าไปมีบทบาทปฏิบัติการตามข้นตอน ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ
ี
�
พื้นฐานการรบสาขานี้ ดังนี้ ครบถ้วน ลาดตระเวนหาข้อมูลเก่ยวกับการทาสงคราม
ั
ข้นตอนแรกการเตรียมการ ในขนตอนน้เป็นการ อิเล็กทรอนิกส์ ท้งท่ได้จากการดกรับฟัง และการแพร่
ั
้
ั
ี
ี
ั
ื
เตรียมความพร้อมในการค้นหา และพิสูจน์ฝ่ายข้าศึก คล่นต่าง ๆ ของข้าศึกเก็บไว้เพ่อนามาวิเคราะห์
ื
�
พร้อมกับวางแผนในการจะเผชิญกับภัยคุกคาม ทบทวน เป็นประโยชน์ในการรบ
นาวิกศาสตร์ 10
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
ขั้นค้นหา พิสูจน์ฝ่าย และแบ่งมอบเป้า ขั้นตอนนี้ หลังจากท่ทาการ Search หรือ Patrol จนพบ
ี
เป็นการปฏิบัติเมื่อทราบข่าว หรือประมาณสถานการณ์ เป้าหมายที่น่าสงสัย (Bogey) แล้วปัญหาต่อไปคือ ต้องให้
ึ
ั
ึ
ิ
�
ได้ถึงการเข้ามาซ่งภัยคุกคามผิวน้าของข้าศกในเชง แน่ใจว่าเป้าหมายน้นเป็นศัตรู (Hostile) หรือไม่ ซ่งจะ
ึ
ป้องกัน (Defensive) หรือเป็นการปฏิบัติเชิงรุก (Offensive) ต้องท�าการพิสูจน์ฝ่าย (Identify) กัน ส�าหรับการพิสูจน์
�
ี
้
ี
ั
�
ในการขจัดภัยคุกคามผิวนาจากข้าศึกท่คาดว่าอาจเข้ามา ทราบน้จะกระทากันท้งด้วยสายตา และอุปกรณ์พิเศษ
ขัดขวางการปฏิบัติของฝ่ายเรา ความมุ่งหมายที่ต้องการ ประกอบกับการวิเคราะห์เป้าทางเรดาร์
�
�
ี
่
ื
ิ
ั
คือ ค้นหาข้าศึกให้พบ พิสูจน์ฝ่าย กาหนดตาบลท่ ติดตาม แม้ว่าเครองบนลาดตระเวนทางทะเลในปัจจุบนจะ
ึ
ั
ู
ี
ให้ได้มาซ่งข้อมลรายละเอียดเป้าหมายท่จาเป็น พร้อมกับ ติดต้งระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน แต่การจะเข้าไป
�
เตรียมความพร้อมต่าง ๆ ในการเข้าโจมตี พิสูจน์ทราบโดยเฉพาะเวลากลางวันอาจถูกต่อต้าน
ี
ในข้นตอนน้ การลาดตระเวนเฝ้าตรวจ (Surveillance) จากข้าศึก และอาจสูญเสียการจู่โจมได้ บทบาทในการ
ั
เพื่อตรวจพบการปรากฏตัวของข้าศึกโดยเร็วที่สุด ตั้งแต่ ปฏิบัติน้จึงมักให้เป็นของเฮลิคอปเตอร์ และอากาศยาน
ี
ในระยะไกลเท่าที่จะท�าได้ ที่จะท�าให้ฝ่ายเรามีเวลามีเสรี ไร้คนขับ (UAV)
ื
�
ในการปฏิบัติการต่าง ๆ ที่จะกระท�าต่อข้าศึก รวมทั้งจะ เม่อทาการค้นหา และพิสูจน์ทราบเป้าหมายเป็น
�
สามารถเลือกตาบลท่แรกยุทธ์ได้ ซ่งอาจเรียกว่าเป็นหัวใจ Hostile แล้ว หากเป้าหมายนั้นเป็นอันตรายต่อฝ่ายเรา
ี
ึ
ื
ี
ั
ของการรบแบบน้น้น เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล หรือฝ่ายเราก�าลังจะเข้าปฏิบัติการโจมตีต่อเป้าหมายนั้น
ที่มีรัศมีท�าการไกล มีความเร็วสูง ปฏิบัติการได้ทุกสภาพ จะต้องมีข้อมูลต่าง ๆ ทางยุทธวิธีของเป้าหมาย เช่น
�
็
ี
อากาศ ติดต้งอุปกรณ์ตรวจจับพร้อมมูล จะมีความเหมาะสม เขมความเร็ว รูปกระบวน ตลอดจนตาบลท่ตามช่วงระยะ
ั
ี
ิ
ิ
ึ
ี
ึ
ี
ท่สุดในการปฏิบัติการ ซ่งการปฏิบัติการน้สามารถแบ่ง เวลาจะเป็นส่งท่ต้องการเป็นอย่างย่ง ซ่งก็เป็นบทบาท
ื
ี
ออกได้เป็น ๒ วิธีการปฏิบัติ คือ การลาดตระเวนค้นหา ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่จะต้องเอามา
ี
ั
ื
ี
(Search) ท่ใช้ในการปฏิบัติการเชิงรุก ค้นหาในพ้นท ี ่ ให้ได้ ดังน้นหลังจากท่พิสูจน์ทราบว่าเป็นข้าศึกแล้ว
�
ท่กาหนดโดยรูปแบบต่าง ๆ และการลาดตระเวนรักษาด่าน ก็จะมีการติดตาม (Tracking) ยุทธวิธีในการติดตามของ
ี
ั
ื
ี
ี
(Patrol) ท่ใช้ในเชิงป้องกัน เพ่อตรวจสอบในแนวด่าน เคร่องบินจะใช้ท้งสายตา และอุปกรณ์พิเศษท่ไม่มีการ
ื
ั
�
ื
ี
ึ
ี
(Barrier) หรือพ้นท่ด่านท่กาหนดข้นไม่ให้ข้าศึกผ่านไปได้ แพร่คลื่น หรืออาจใช้เรดาร์ประกอบเป็นคร้งคราวได้
ี
การลาดตระเวนแบบน้มีวิธีปฏิบัติหลายรูปแบบเช่นกัน แต่ต้องไม่เข้าไปในระยะอาวุธต่อสู้อากาศยานของข้าศึก
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางยุทธวิธีและสิ่งแวดล้อม และควรไม่ให้เขารู้ตัว
เม่อได้ประเมินค่าเป้าหมายข้าศึกแล้วเห็นว่า
ื
เป้าหมายนั้นต้องรีบท�าลายอย่างเร่งด่วน หรือต้องจ�ากัด
ื
ื
เสรีในการเคล่อนไหว การปฏิบัติจะให้เคร่องบินเข้าไป
ี
ึ
เกาะติด (Shadowing) ซ่งการเกาะติดแบบน้ข่าวสาร
ิ
ข้อมูลทางยุทธวิธีของข้าศึกเป็นส่งท่ต้องการและจาเป็น
�
ี
ี
�
ิ
อย่างย่ง การเกาะติดวิธีน้จึงไม่คานึงว่าข้าศึกจะรู้ตัวหรือไม่
ั
ี
ั
�
ข้นการโจมตี และข้นภายหลังการต่อต กาลัง
ทางเรือท่ใช้ในการโจมตีต่อต้านเรือผิวนาจะประกอบด้วย
�
ี
้
เรือผิวน�้า เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือด�าน�้า การโจมตี
จะแบ่งเป็นสองลักษณะ คือ การโจมตีระยะไกล และ
่
ี
ั
ื
ิ
่
ื
่
ี
ิ
เครองบนลาดตระเวนทางทะเลของสหรฐอเมรกาทตรวจพบกองเรอญปุ่นได้ก่อน
ในการยุทธที่หมู่เกาะมิดเวย์ท�าให้เป็นฝ่ายได้เปรียบตั้งแต่ต้น
นาวิกศาสตร์ 11
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
การจม HMS Sheffield โดยกองทัพเรืออาร์เจนตินาในสงครามฟอล์คแลนด์
เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Neptune ชี้เป้าให้เครื่องบินโจมตี
ื
ั
การโจมตีในระยะใกล้ ส่วนการปฏิบัติของเคร่องบิน พิสูจน์ฝ่ายจนแน่ชัดว่าเป็นศัตรู หากเป้าหมายน้นม ี
ื
ื
จะประกอบด้วยเคร่องบินไอพ่นโจมตี และเคร่องบิน ความส�าคัญก็จะต้องติดตาม หรือเกาะติดเพื่อให้ฝ่ายเรา
ลาดตระเวนทางทะเลติดอาวุธปล่อยน�าวิถี มีข้อมูลทางยุทธวิธีที่จะด�าเนินกลยุทธ์ต่อไป
�
�
ี
นอกจากจะมีบทบาทหลักเป็นกาลังโจมตีแล้ว สาหรับกรณีท่ยานใช้อาวุธในการโจมต ี
�
บทบาทของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลในสงครามน ้ ี (Weapon Platform) ต้องการใช้อาวุธปล่อยนาวิถ ี
ื
จะเป็นกาลังสนับสนุนในการโจมตี ซ่งการปฏิบัติการ ในระยะไกลสุด (Maximum Range) โดยที่เป้าหมายนั้น
ึ
�
ี
�
ท่สาคัญนอกจากตามท่กล่าวมาแล้ว คือ ลาดตระเวน อยู่นอกระยะตรวจจับของตน คือ เกินระยะขอบฟ้าเรดาร์
ี
ั
หาข่าวในข้นการเตรียมการ จากน้นค้นหาข้าศึกให้พบ (Over the Horizontal) หรือระยะดักรับของเครื่องมือ
ั
ให้เร็วที่สุด ในระยะไกลสุดเท่าที่จะท�าได้ และหลังจากที่ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การโจมตีระยะไกลของเรือ
ภาพรวมของการโจมตีเรือผิวน�้าที่เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลท�า OTHT
นาวิกศาสตร์ 12
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
้
�
ี
ั
ท่ติดต้งอาวุธปล่อยนาวิถี หรือการโจมตีเรือผิวนาของ
เคร่องบินโจมตีติดอาวุธปล่อยนาวิถีอากาศ-สู่-พ้น
ื
ื
�
ยานโจมตีแบบน้จาเป็นจะต้องมีผู้ช่วย (Third Party)
�
ี
ี
ช้เป้าพ้นระยะขอบฟ้า (Over The Horizontal
ู
ิ
Targeting/OTHT) ในการส่งข้อมลทางยุทธวธี โดยเฉพาะ
ี
�
ี
ตาบลท่ท่แน่นอนของเรือเป้าให้กับยานท่ใช้อาวุธ
ี
ื
ี
ี
ึ
ซ่งหน้าท่ในการปฏิบัติการน้เป็นของเคร่องบินลาดตระเวน
ทางทะเลที่ติดตั้งอุปกรณ์สมบูรณ์จะมีความเหมาะสม
ั
่
เมอการโจมตเสรจสนจะเป็นขนตอนของการ
ี
็
ิ
้
้
ื
ั
่
ึ
ี
�
ั
รายงานสถานภาพตาง ๆ ทงของฝายเราและขาศก ทสาคญ
่
้
้
่
คือ ผลความเสียหายของข้าศึกจากการโจมตีของฝ่ายเรา สัญลักษณ์โรงเรียนปราบเรือด�าน�้าร่วมกองทัพเรือออสเตรเลีย
้
�
ี
�
่
ี
่
ั
�
ื
่
เพอนามาประเมินค่าจะเป็นหน้าททเป็นบทบาทสาคญ ของการค้นหาได้มาก อยู่คนละมัชฌิมกับเรือดานาท่อยู่
ี
�
ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลในการปฏิบัติการนี้ ใต้น�้า อาจไม่รู้ว่าถูกตรวจพบ สามารถเลือกหาจุดปล่อย
ื
�
้
ื
�
อาวุธได้สะดวกและประณีต เน่องจากเรือดานาเม่ออยู่
๑.๒ การปราบเรือด�าน�้า ใต้น�้าไม่มีอาวุธอะไรที่จะต่อสู้
�
ี
ั
�
�
การปราบเรือดานา โดยท่วไปกาลังท่ใช้จะประกอบด้วย อย่างไรก็ดี สาหรับอากาศยานโดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์
้
�
ี
�
ื
ื
ั
เรือ อากาศยาน ท้งเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล ท่ยังมีขีดจากัดในเร่องความทนต่อสภาวะสภาพอากาศ
ั
ี
ี
และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานา รวมท้งเรือดานา ท่รุนแรง มีขนาดเล็ก ท่ไม่สามารถติดต้งอุปกรณ์และระบบ
้
�
�
�
ั
้
�
ี
ด้วยกันเอง สาหรับอากาศยานท่มีบทบาทสาคัญ และเป็น อาวุธต่าง ๆ ได้มากนัก มีรัศมีปฏิบัติการและความเร็ว
�
�
ั
ี
ื
�
กาลังหลักในการปฏิบัติการน้ มีจุดเด่นหลายประการ ตลอดจนช่วโมงบินท่อยู่ได้ในอากาศน้อยกว่าเคร่องบิน
ี
ี
ี
ื
ั
ื
ี
เช่น มีรัศมีปฏิบัติการท่ไกลครอบคลุมพ้นท่ได้มากกว่า ดังน้นการใช้งานจึงมักถูกใช้ในพ้นท่ท่ไม่กว้างขวางมากนัก
ี
่
ี
ุ
มความเรวสง สามารถเข้าหาจดแน่ชดสดท้ายทพบ ทต้องการความแน่นอนในการตรวจพบ เช่น การเข้า
่
็
ุ
ี
ี
ั
ู
เรือด�าน�้า (Datum) ได้รวดเร็ว ลดเวลาตาย (Time late) เป็นฉากคุ้มกัน (Integrated Screen) ในพื้นที่ที่ก�าหนด
ก�าลังที่ใช้ในการปราบเรือด�าน�้า
นาวิกศาสตร์ 13
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ั
ี
ั
ื
้
�
�
�
้
้
ร่วมกับเรือผิวนา หรือการเป็นฉากคุ้มกันหน้ากระบวน ไปลาดตระเวนเน้นหนกตามเส้นทางนน เรอดานาดเซล
(Advanced Screen) โดยใช้โซนารชักหย่อนได้ (Dipping แบบธรรมดาขณะเดินทางจะมีวงรอบของการเปิดเผยตัว
์
้
ี
ี
ื
Sonar) เป็นอุปกรณ์ตรวจจับที่ส�าคัญ หรือการเข้าไปใช้ โผล่เหนือน�าเพ่ออัดแบตเตอร่ ถ้ามีการลาดตระเวนท่ดีพอ
�
ื
ี
�
�
�
้
อาวุธทาลายเรือดานาโดยการนาทาง (Vector) จากยานอ่น โอกาสจะตรวจพบมีมาก วิธีท่นิยมกันในการไล่ล่า
การปฏิบัติมักอยู่ในพ้นท่ท่ไม่ห่างไกลเรือแม่มากนัก เรือด�าน�้าขณะเดินทาง คือ การ Control Choke Point
ี
ื
ี
ื
้
ึ
�
บทบาทในการปราบเรือดานาของเฮลิคอปเตอร์จะ ซ่งได้แก่ การส่งเคร่องบินไปต้งแนวด่าน โดยใช้ทุ่น
ั
�
ื
แตกต่างกับเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลปราบ ตรวจจับเสียง (Sonobouy) ตามช่องแคบ หรือตามแนว
�
เรือดานาพอสมควร แต่ต่างก็เป็นกาลังหลักในการ ต�าบลที่คาดว่าเรือด�าน�้าจะผ่าน
้
�
�
้
ปฏิบัติการท่ขาดไม่ได้ หลักการในการโจมตีเรือดานา สาหรับการปราบเรือดานาอีกลักษณะ คือ การปราบ
�
�
�
้
ี
�
�
�
�
ี
ึ
้
ื
�
ี
สามารถกระทาได้ใน ๓ ลักษณะ ซ่งแต่ละลักษณะ เรือดานาในพ้นท่ปฏิบัติการ ลักษณะน้คือ หากคาดว่า
�
�
้
ี
อากาศยานจะเข้าไปมีบทบาท คือ การโจมตีแหล่งกาเนิด เรือดาน�าข้าศึกสามารถเข้ามาในพ้นท่ปฏิบัติการของเขา
ื
ี
�
้
จะมีการใช้การโจมตีทางอากาศทาลายแหล่งกาเนิดของ ได้แล้ว และมีโอกาสท่จะท�าอันตราย การปราบเรือดาน�า
�
�
ึ
้
�
�
ึ
เรอดานาข้าศก เช่น อู่ซ่อมและต่อเรือ ฐานทัพ ท่าเรือ ของฝ่ายเราจะมีการปฏิบัติในเชิงรุกซ่งได้แก่ การส่งหน่วย
ื
�
้
การโจมตีขณะเรือดานาเดินทาง อาจเร่มต้นด้วยการ ไล่ล่าสังหาร (Hunter Killer Group) ออกปฏิบัติการ
�
ิ
ส่งเคร่องบินไปวางทุ่นระเบิดทางรุกเพ่อปิดช่องทาง ในพ้นท่ท่คาดว่าเรือดานาดักรอคอยอยู่ และเชิงป้องกัน
�
ื
้
ื
ี
ื
�
ี
ี
�
้
เข้า - ออกฐานทัพ แต่ถ้าเรือดานาหลุดรอดออกมาได้ ซ่งได้แก่ การให้มีการป้องกันกระบวนเรือท่มีคุณค่า
�
ึ
ี
และเดินทางเข้าสู่พ้นท่ปฏิบัติการของเขา ฝ่ายเราจะม ี โดยจัดหน่วยเรือฉากคุ้มกัน และให้มีการสนับสนุนท้ง
ื
ั
ื
การส่งก�าลังออกไปปฏิบัติการไล่ล่า ระยะใกล้และระยะไกล ท้งเคร่องบินลาดตระเวน
ั
การไล่ล่าเรือดานาดีเซลขณะเดินทางเข้าพ้นท ี ่ ทางทะเล และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานาต่างก็เป็น
�
้
�
้
ื
�
�
ปฏิบัติการ (Transit) ก่อนอ่นจะต้องประมาณสถานการณ์ ก�าลังหลักของหน่วยก�าลังดังกล่าว
ื
ื
เส้นทางเดินเรือของข้าศึกเสียก่อน แล้วจึงให้เคร่องบิน
การตรวจจับเรือด�าน�้าโดยใช้ทุ่นเสียง Sonobouy และการวัดความผิดปกติของสนามแม่เหล็กโลก
(MAD) ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
นาวิกศาสตร์ 14
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ตัวอย่างการจัดฉากคุ้มกันกระบวนเรือที่มีคุณค่า ทั้งนี้พื้นที่หน้ากองเรือจะเป็นการลาดตระเวน
ตาม Air Plan ต่าง ๆ ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลปราบเรือด�าน�้า
�
้
�
ั
�
สาหรับข้นตอนในการปราบเรือดานาทางยุทธวิธ ี
ื
ั
แบ่งออกได้เป็น ๔ ข้นตอน โดยเคร่องบินลาดตระเวน
�
ื
ั
ิ
�
ั
ี
้
�
ทางทะเลปราบเรอดานามบทบาทสาคญในการปฏบต ิ
การแต่ละขั้นตอนดังนี้
ขั้นการหา (Search Phase) ขั้นนี้มีความมุ่งหมาย
�
ิ
�
ึ
ต้องการตรวจพบเรือดานาข้าศึก ซ่งอาจเร่มต้นในลักษณะ
้
้
�
ี
�
�
การกวาดค้นในพ้นท่ท่คาดว่าเรือดานาข้าศึกกาลัง
ื
ี
ปฏิบัติการอยู่ หรือจุดที่มีการพบครั้งสุดท้ายแล้วหายไป
ื
(Datum) โดยเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล หรือ
การค้นหาในพ้นท่ท่กาหนดให้ เพ่อป้องกันมิให้ข้าศึก
ื
ี
ี
ื
�
�
เข้ามาดักคอยทาอันตรายต่อกระบวนเรือฝ่ายเรา ตัวอย่าง
ตาม Air Plan
ขั้นการตรวจพบ (Contact Phase) ขั้นที่สองของ
ั
การปฏิบัติการปราบเรือดาน�าคือ ข้นการพบ และ
�
้
ตรวจสอบเป้าหมายว่าเป้าท่พบเป็นอะไร ฝ่ายใด มีตาบล
ี
�
ท่แน่นอนเป็นอย่างไร ซ่งหากว่าเป็นข้าศึกจะได้ข้อมูล
ี
ึ
ต่าง ๆ ไปประกอบการใช้อาวุธให้ได้ผลดี เครื่องมือส�าคัญ
ื
ั
ี
ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่ใช้ในข้นตอนน ี ้
ื
คือ ทุ่นฟังเสียงใต้นา (Sonobouy) และเคร่องมือวัด
�
้
ตัวอย่าง Air Plan ที่ก�าหนดให้เป็นพื้นที่ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล ความผิดปกติสนามแม่เหล็กโลก (Magnetic Anomaly
ในการค้นหาเรือด�าน�้ารอบกระบวนเรือ
นาวิกศาสตร์ 15
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
Detector/MAD.) ในการตรวจสอบยืนยัน และก�าหนด อากาศยานจะเข้าไปมีบทบาทเป็นอันมาก เครื่องบินที่มี
ต�าบลที่ของเรือด�าน�้าเป้าหมาย ขีดความสามารถในการบรรทุกพอสมควร มีความรวดเร็ว
ี
ั
ื
ข้นการโจมต (Attack Phase) เม่อตรวจพบยืนยันเป้า และแคล่วคล่องในการปฏิบัติการจะเป็นพาหนะในการ
ิ
ุ
ุ
ก�าหนดต�าบลที่จะมีการเข้าต่อตีเป้า บทบาทในขั้นตอนนี้ วางท่นระเบดทางรกทด แต่ไม่เหมาะสมใช้ในการวาง
ี
ี
่
ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลอาจเข้าปฏิบัติการ ทางรับเชิงป้องกันที่ไม่ต้องการความรวดเร็ว แต่ต้องการ
ื
�
้
ื
�
�
ตามลาพัง หรือร่วมกับยานปราบเรือดานาอ่น แล้วแต่กรณ ี ความประณีตถูกต้อง ส่วนในการต่อต้านทุ่นระเบิด
ั
ื
แต่จุดได้เปรียบคือ ความรวดเร็วและความปลอดภัย จากการวางของข้าศึกน้น เคร่องบินและเฮลิคอปเตอร์
�
ี
ื
่
ี
ั
ในการเข้าหาเป้า อาวุธทใช้คอ ปืนกลอากาศและจรวด สามารถค้นหาทุ่นระเบิดทอดประจาท่ได้ รวมท้ง
�
เม่อเรือดานายังมีส่วนโผล่เหนือนา แต่สาหรับกรณีเรือ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ในการกวาด
�
้
้
�
�
ื
ดังกล่าวอยู่ใต้นาอาวุธท่เหมาะสมคือ ระเบิดลึก และ และล่าท�าลายทุ่นระเบิดอีกด้วย
�
้
ี
ตอร์ปิโด
เครื่องบิน B-52 กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาฝึกวางทุ่นระเบิดทางรุก
การตรวจสอบยืนยันและก�าหนดต�าบลที่ของเรือด�าน�้าเป้าหมาย บทบาทการปฏิบัติของเคร่องบินลาดตระเวนทาง
ื
้
ิ
ี
ิ
ั
ั
ี
ุ
�
ั
ี
ข้นการติดตามและตรวจค้น (Maintain and ทะเลในการปฏบตการน ทสาคญในปัจจบนจะมเฉพาะ
ั
่
ี
Regain Contact) ภายหลังการเข้าตีหากปรากฏไม่ได้ผล การวางทุ่นทางรุก หรืออาจเป็นทางรับท่ความมุ่งหมาย
แต่ต้องการติดตามให้ตรวจพบ และเข้าโจมตีใหม่ สนามทุ่นระเบิดเป็นสนามทางยุทธวิธีในการขัดขวาง
�
�
บทบาทการปฏิบัติของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล หรือทาลายกาลังทางเรือข้าศึก มิให้เป็นอุปสรรคต่อ
ื
จะเริ่มต้นใหม่ตามที่กล่าวมาแล้ว การบรรลุภารกิจในการปฏิบัติการของฝ่ายเรา เป็นการ
�
ั
ั
หวังผลช่วคราวในการทาลายข้าศึกโดยตรง ท้งน้เป็น
ี
ี
ื
๑.๓ การปฏิบัติการสงครามทุ่นระเบิด เพราะเคร่องบินประเภทน้ไม่สามารถมีระวางบรรทุก
�
�
ั
ในการปฏิบติการสงครามท่นระเบิด ซงประกอบด้วย ทุ่นระเบิดเป็นจานวนมากภายในได้ สามารถนาไป
ุ
ึ
่
การวางทุ่นระเบิด และการต่อต้านทุ่นระเบิดน้น และปล่อยได้เฉพาะท่จุดติดต้งอาวุธใต้ปีก และใต้ท้อง
ั
ี
ั
นาวิกศาสตร์ 16
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
เครื่องบินประมาณ ๖ ลูก เท่านั้น (เครื่องบินแบบ P-3 เรือ อากาศนาวี ก�าลังรบยกพลขึ้นบก และอื่น ๆ ท�าการ
ี
�
ี
ึ
ื
Orion) ทั้งนี้ตามหลักนิยมกองทัพสหรัฐอเมริกาการวาง ยกพลข้นบกเข้ายึดพ้นท่ชายหาดท่เลือกสถาปนากาลัง
ทุ่นระเบิดทางรุกท่มีความมุ่งหมายสนามทุ่นระเบิดเป็น รบบนฝั่ง เพ่อขยายผลการปฏิบัติการทางทหารต่อไป ซ่ง
ี
ื
ึ
สนามทางยุทธศาสตร์ท่หวังผลให้สนามน้นมีภัยคุกคาม ปกติแล้วจะสามารถแบ่งการปฏิบัติการนี้เป็น ๕ ขั้นตอน
ั
ี
ึ
ื
ั
ั
สูงอย่างต่อเน่อง ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจ สังคม จตวิทยา คือ ข้นการวางแผน ข้นการข้นสู่เรือ ข้นการซักซ้อม
ั
ิ
ขวัญประชากร ตลอดจนศักย์สงครามของข้าศึกที่ต้อง ขั้นการเดินทางไปยังพื้นที่ที่หมาย และขั้นการบุกโจมตี
ื
ิ
ั
ใช้ทุ่นระเบิดจานวนมากน้น จะใช้เคร่องบินท้งระเบิด แต่ละข้นตอนต่าง ๆ กาลังอากาศนาวี และกาลังทาง
�
ั
�
�
ื
ขนาดใหญ่ เช่น เคร่องบิน B-52 โดยใช้ยุทธวิธีเดียวกับ อากาศอ่นท่มาสนับสนุนจะเข้าไปเก่ยวข้องตลอด ท้งน ้ ี
ื
ั
ี
ี
ื
ิ
ี
�
ึ
ื
การท้งระเบิดภาคพ้นดิน ซ่งกองทัพอากาศ และกองทัพเรือ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะมีบทบาทท่สาคัญใน
สหรัฐอเมริกามีการฝึกร่วมกันเป็นประจ�า การให้ได้มาซ่งการควบคุมทะเลท่ต้องการ การป้องกัน
ี
ึ
การปล่อยทุ่นระเบิด MK62 ของเครื่องบิน P-3 Orion
ขีดความสามารถในการวางทุ่นระเบิดทางรุกใน
ี
เชิงยุทธศาสตร์ตามท่กล่าวมาแล้ว ท่ต้องใช้เคร่องบิน
ื
ี
ท้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ (Strategic Bomber) น้น
ิ
ั
ื
ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยยังไม่มีเคร่องบินดังกล่าว
ี
ในการน้เคยมีแนวความคิดท่จะนาเคร่องบินลาเลียงมี
�
�
ื
ี
ประตูท้ายลักษณะเคร่องบิน C-130 มาดัดแปลงโดย
ื
บรรทุกทุ่นระเบิดภายในแล้วเปิดประตูท้ายท้ง ผู้เขียน
ิ
เห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แม้ว่าจะพยายามดัดแปลง หรือ
�
ออกแบบใด ๆ และยังไม่มีการดาเนนการมาก่อน จะม ี
ิ
แต่การใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดตามที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งใช้มา
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ประตูท้ายเครื่องบิน C-130 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะออกแบบให้วางทุ่นระเบิด
�
้
�
ั
กองกาลังเฉพาะกิจสะเทินนาสะเทินบกในข้นการเดินทาง
ี
๑.๔ การปฏิบัติการสะเทินน�้าสะเทินบก และการป้องกันพื้นที่ท่หมาย (Amphibious Objective
้
้
ิ
�
้
การปฏิบัติการสะเทินนาสะเทินบก คือ การโจมต ี Area) ดวยการปฏิบัตการลาดตระเวนเฝาตรวจ การปราบ
ึ
จากทะเลสู่ฝั่งด้วยการใช้กาลังทางเรือ ซ่งประกอบด้วย เรือด�าน�้า การต่อต้านเรือผิวน�้า และอื่น ๆ
�
นาวิกศาสตร์ 17
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ี
ื
๑.๕ การปฏิบัติการทางทหารอ่น ๆ ท่มิใช่การสงคราม ๒. คุณลักษณะที่ส�าคัญ
ื
ี
นอกจากสาขาการปฏิบัติการทางเรือหลัก ท่เคร่องบิน
ลาดตระเวนทางทะเลสามารถเข้าไปมีบทบาท เป็นความ
พยายามหลัก (Main Effort) หรือความพยายามรอง
ที่มีส่วนช่วยของการปฏิบัติการนั้น ๆ ในสงครามทางเรือ
ี
�
ี
ื
ตามท่กล่าวมาแล้ว สาหรับการปฏิบัติการอ่น ๆ ท่มิใช่
การสงคราม (Military Operation Other Than War)
ท่จะต้องปฏิบัติ ต้งแต่ยามปกติตามหลักนิยมทางทะเล
ั
ี
ของกองทัพเรือไทย ท่ประกอบด้วย การใช้กาลังทางเรือ
�
ี
เพ่อรักษากฎหมายในทะเล และเพ่อภารกิจการช่วยเหลือ
ื
ื
น้น เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะเข้าไปมีบทบาท
ื
ั
ในหลายปฏิบัติการ เช่น การป้องกันการกระทาผิด
�
กฎหมายทางเศรษฐกิจการค้าต่าง ๆ การปราบปรามอันเป็น
โจรสลัด และการกระทาความผิดทางทะเลอ่น ๆ
ื
�
่
ึ
่
ิ
ั
การอนุรกษ์ทรัพยากรและสงแวดล้อมทางทะเล ซง
ส่วนใหญ่จะเป็นการลาดตระเวนเฝ้าตรวจสนับสนุน
การปฏิบัติ การขัดขวางทางทะเล (Maritime Interdiction
Operation) นอกจากนี้ยังเป็นก�าลังหลัก หรือช่วยเหลือ
กาลังผิวนาในการคุ้มครองเส้นทางการคมนาคมทางทะเล ห้องนักบินและศูนย์ยุทธการ ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
�
้
�
ฐานขุดเจาะ และแหล่งผลประโยชน์ของชาติอ่น ๆ แบบ P-8 Poseidon ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
ื
ในทะเล การค้นหา กู้ภัย และการบรรเทาภัยพิบัติต่าง ๆ จากบทบาทและความต้องการใช้งานในการ
�
ี
ี
ในทะเล ตลอดจนการปฏิบัติในการสนับสนุนการด�าเนิน ปฏิบัติการท่สาคัญตามท่กล่าวมาแล้ว ประกอบกับเป็น
ี
ั
นโยบายระหว่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ท่ประจักษ์และยอมรับท่วไปกันมานานแล้วว่า ในบรรดา
ี
�
�
กาลังท่ใช้ป้องกันประเทศต่าง ๆ กาลังทางเรือจะเป็น
�
ั
กาลังท่ถูกนามาใช้ต้งแต่ยามสงบ ในการปกป้องคุ้มครอง
�
ี
และส่งเสริมเศรษฐกิจการค้า ตลอดจนผลประโยชน์
ิ
ของชาติทางทะเลรูปแบบต่าง ๆ ท่ามกลางส่งแวดล้อม
ี
ท่ต่างแย่งชิงเป็นเจ้าของทรัพยากรท่มีจากัด เคร่องบิน
�
ื
ี
ึ
ื
ลาดตระเวนทางทะเลซ่งเป็นเคร่องมือรบหลักเอนกประสงค์
ี
ของกาลังทางเรือจึงเป็นท่ต้องการจัดหา หรือพัฒนา
�
ให้ทันสมัยพร้อมใช้งานอยู่เสมอของกองทัพเรือแทบ
ทุกชาติ มีการสร้างออกมามากหลายแบบแต่สามารถ
แบ่งออกได้ ๓ ลักษณะ คือ ลักษณะแรก เป็นการ
ตัวอย่างรูปแบบหนึ่งที่ใช้ค้นหาผู้ประสบภัยในทะเล ออกแบบมาเพ่อวัตถุประสงค์ลาดตระเวนทางทะเล
ื
ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล (S คือย่านการตรวจจับ)
ื
�
�
้
ท้งต่อสู้เรือผิวนา ปราบเรือดา และอ่น ๆ โดยเฉพาะ
ั
นาวิกศาสตร์ 18
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ื
�
ื
ี
�
เช่น เคร่องบินแบบ P-3 Orion ท่เคยประจาการใน สาหรับการออกแบบเคร่องบินลาดตระเวน
ื
กองทัพเรือไทย หรือแบบ P-1 Kawasaki ของกองทัพเรือ อีกลักษณะ คือ ดัดแปลงมาจากเคร่องบินโดยสาร
ื
ั
ี
ี
ื
ญ่ปุ่น เป็นต้น ลักษณะต่อไปเป็นการนาเคร่องบินท่ใช้ ปัจจุบันได้มีการนาเคร่องบินโดยสารท้งท่ใช้เคร่องยนต์
ี
�
�
ื
ในการขนส่งทางทหาร (Military transport aircraft) แบบ Turbo prop และ Turbo fan มาดัดแปลง
ี
ื
ท่ส่วนใหญ่จะมีประตูท้ายมาดัดแปลง โดยติดต้งระบบ เช่น เคร่องบินลาดตระเวนแบบ P-8 Poseidon ของ
ั
ี
�
ุ
ึ
�
ื
ตรวจจับและระบบอาวธเข้าไป ซงมีข้อดีสาหรับผ้ใช้ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาท่นาเคร่องบินโดยสารแบบ
ู
่
คือ ง่ายสาหรับการซ่อมบารุงที่ผู้ใช้จะใช้เคร่องบินแบบ Boeing 737 หรือแบบ ATR 72 MPA ของกองทัพเรือ
�
ื
�
เดียวกันท้งกิจในการขนส่งลาเลียง และกิจในทางยุทธการ ตุรกี และอีกหลายชาติท่นาเคร่องบินโดยสารแบบ
ื
ั
ี
�
�
ิ
ั
ั
้
ั
ิ
่
ื
่
แตมใชเครองบนเครองเดยวกน จะสลบภารกจกนได ทงน ้ ี ATR 72 มาดัดแปลง
้
ั
ี
่
ื
่
ิ
เพราะระวางบรรทุกและนาหนักท่จะบรรทุกได้ (Pay load)
้
ี
�
ื
ื
�
สาหรับเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลได้ใช้เป็นพ้นท ี ่
�
ห้องศูนย์ยุทธการ และนาหนักท่จะบรรทุกถูกใช้ไปกับ
ี
้
ื
ี
ลูกเรือท่มีมากกว่าเคร่องบินปกติ อุปกรณ์ต่าง ๆ และอาวุธ
ั
ี
ี
ท่ติดต้ง (แนวความคิดน้กองทัพเรือไทยเคยใช้มาก่อน
ื
กรณีเคร่องบินต่อสู้เรือผิวนาแบบท่ ๑ และเคร่องบิน
้
ี
ื
�
ลาเลียงแบบท่ ๑ ท่ใช้เคร่องบินแบบเดียวกันคือ F 27
�
ี
ื
ี
Fokker) ตัวอย่างเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่ถูก
ื
ี
ออกแบบมาลักษณะนี้ เช่น แบบ C 130 Sea Hercules
ของกองทัพเรืออินเดีย แบบ C 295 MPA ของกองทัพเรือ เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ ATR 72
หลายชาติเป็นต้น
ภายในเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ C 130
นาวิกศาสตร์ 19
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ี
ื
แม้การออกแบบสร้างจะมีท่มาแตกต่างกันออกไป การบินด้วยเคร่องวัดประกอบการบิน (Instrument
ึ
ื
แต่คุณลักษณะของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล Flight Rule/IFR) ทนพายุฝนฟ้าคะนองได้ระดับหน่ง
ื
ื
ื
ทุกแบบจะมีมาตรฐานสาคัญ เพ่อให้มีขีดความสามารถ เน่องจากต้องปฏิบัติการเหนือทะเลเป็นประจา เคร่องยนต์
�
�
ึ
้
�
ื
�
้
�
ื
หลักซ่งได้แก่ การต่อต้านเรือผิวนา การปราบเรือดานา อย่างน้อยต้องมี ๒ เคร่อง โครงสร้างเคร่องบินต้องม ี
ื
การค้นหาและกู้ภัย และการเฝ้าตรวจทางทะเลเพ่อ การป้องกันสนิมตามมาตรฐาน ความเร็ว และเพดานบิน
ี
่
็
ิ
ิ
ู
ั
สนับสนุนการปฏิบัติการทางทะเลแบบอื่น ๆ ดังนี้ สงสดตามมาตรฐาน แต่ต้องปฏบตการทความเรว
ุ
่
�
และความสูงตาท่จะปฏิบัติการทางยุทธวิธี โดยเฉพาะ
ี
การปราบเรือด�าน�้าได้ เวลาบินได้อย่างน้อย ๑๐ ชั่วโมง
ระยะปฏิบัติการประมาณ ๒,๐๐๐ ไมล์ทะเล ระยะทาง
ี
ึ
ิ
ท่ใช้ในการว่งข้นและบินลงเป็นไปตามมาตรฐาน ภายนอก
ั
เคร่องบินนอกจากจะสามารถติดต้งอุปกรณ์ต่าง ๆ
ื
ท่ต้องการแล้ว จะต้องมีจุด (Hardpoint) ให้เลือก
ี
ติดต้งอาวุธปล่อยนาวิถีอากาศ-สู่-พ้น ตอร์ปิโดปราบ
�
ื
ั
เรือด�าน�้า และทุ่นระเบิดที่ใช้กับเครื่องบินได้
ที่เก็บทุ่นดักฟังเสียง Sonobouy ภายในเครื่องบิน
และการปล่อยจากเครื่องโดยท่อปล่อย
๒.๑ สมรรถนะทั่วไป
ื
ื
พ้นฐานของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะต้องม ี
ขนาดใหญ่ ที่ส�าคัญคือ พอที่จะจัดให้มีห้องศูนย์ยุทธการ
ี
ขนาดมเจ้าหน้าทประจาประมาณ ๕ สถานี มพนท ี ่
่
�
้
ื
ี
ี
ั
ี
ติดต้งอุปกรณ์ต่าง ๆ และท่เก็บทุ่นดักฟังเสียง Sonobouy
ี
ี
ี
พร้อมท่ปล่อย (Launcher) มสถานท่สาหรับยาม
�
ตรวจการณ์ (Look out) ซ้ายขวา และสถานที่ส�าหรับ
ให้นักบิน ลูกเรือ หมุนเวียนพักผ่อน ต้องเป็นเคร่องบิน
ื
ท่สามารถทาการบินได้ท้งกลางวันและกลางคืนทุกสภาพ
ี
�
ั
อากาศ ต้องมีขีดความสามารถในการบินด้วยระบบ รูปบนเป็นภายนอกเครื่องบินรูปล่างเป็นยามตรวจการณ์
นาวิกศาสตร์ 20
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
๒.๒ ระบบตรวจจับ - อุปกรณ์ตรวจจับความผิดปกติสนามแม่เหล็ก
ื
ี
นอกจากอุปกรณ์เคร่องวัดประกอบการบิน และ โลก หรือท่ MAD (Magnetic Anomaly Detector)
เคร่องช่วยในการเดินอากาศแบบต่าง ๆ ท่ต้องม ี เป็นอุปกรณ์ตรวจหาค่าผิดปกติสนามแม่เหล็กโลกตาม
ื
ี
�
ี
�
ื
�
ี
ี
ตามมาตรฐานการบินสากลท่กาหนดแล้ว เพ่อให้ปฏิบัต ิ ตาบลท่ อันเน่องจากอานาจแม่เหล็กใหม่ท่ผิดแปลกมา
ื
่
ี
ตามขดความสามารถทต้องการ อย่างน้อยเครองบน กระท�า เป็นเครื่องมือแบบ Passive ระยะตรวจจับขึ้นกับ
่
ิ
ี
ื
ื
ลาดตระเวนจะติดตั้งระบบตรวจจับพื้นฐาน ดังนี้ ขนาดของเป้าไม่อาจใช้เป็นเคร่องมือค้นหาในข้นต้นได้
ั
่
่
ื
ื
๒.๒.๑ ระบบตรวจจับเป้าพื้นน�้า แต่จะใช้ร่วมกบเครองมออน เช่น Sonobouy ในการ
ั
ื
ี
ระบบน้ใช้ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจท่เป็น แยกเป้า ยืนยันเป้า หรือก�าหนดต�าบลที่ที่แน่นอน
ี
พ้นฐานในการปฏิบัติการสนับสนุนการรักษากฎหมาย - อุปกรณ์ที่ท�างานโดยอาศัยคลื่นเสียงใต้น�้าซึ่ง
ื
�
ี
และปกป้องผลประโยชน์ของชาติในทะเล ตลอดจน ได้แก่ ทุ่นฟังเสียงใต้นาท่เรียกว่า Sonobouy นับเป็น
้
�
้
ื
�
การค้นหากู้ภัย และช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัต ิ อุปกรณ์หลักในการตรวจจับเรือดานาของเคร่องบิน
ั
�
ต่าง ๆ ต้งแต่ยามปกติไปจนถึงการรบผิวนา ในการค้นหา ใช้ในการตรวจจับ จาแนกเป้า กาหนดตาบลท่ และยืนยันเป้า
ี
�
�
�
้
พิสูจน์ทราบ และสนับสนุนการใช้อาวุธของหน่วยทาการยิง
�
ื
หรือเป็นหน่วยยิงเอง เคร่องมือตรวจจับของระบบน ้ ี
ที่ควรมีเป็นอย่างน้อยได้แก่
ื
- อุปกรณ์ซ่งจัดได้ว่าเป็นเคร่องมือตรวจจับ
ึ
ื
ื
ี
่
่
่
ทเชอถือได้มากทสุดในการพิสูจน์ทราบ คอ สายตาของ
ี
นักบิน หรือลูกเรือ (Eyes) รวมทั้งอุปกรณ์ช่วยซึ่งได้แก่
กล้องส่องทางไกล หรือที่ใช้ในเวลากลางคืน เช่น ไฟฉาย
และพลุส่องสว่าง
ี
- อุปกรณ์ท่ใช้คล่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการค้นหา
ื
ึ
ตรวจจับ ซ่งได้แก่ เรดาร์เฝ้าตรวจ (Surveillance Radar)
ี
ุ
ทมสมรรถนะการใช้งานทางยทธการในทะเลมระยะ
่
ี
ี
ี
ั
�
ี
ตรวจจบท่ไกล จาแนกและติดตามเป้าท่ต้องการได้
สามารถตรวจจับเป้าขนาดเล็กโดยเฉพาะกล้องตา
เรือด�าน�้าได้
- อุปกรณ์ตรวจจับที่ใช้ระบบ Electro Optic/
ึ
Infrared ซ่งสามารถใช้งานในสภาพอากาศและวิสัย
ที่ไม่ดีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เครื่องมือตรวจจับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
- ระบบ Electronic Support Measures/ ทุ่นฟังเสียงใต้น�้านี้ใช้ทิ้งจากเครื่องบิน
ESM ในการตรวจจับข้อมูลสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เม่อตกลงถึงพ้นนาโดยมีร่มชูชีพพยุงลงไปแล้ว จะม ี
ื
ื
�
้
้
�
การแพร่คลื่นเรดาร์ของฝ่ายตรงข้าม Hydrophones หลุดจากทุ่นลงไปใต้นา รับฟังเสียงต่าง ๆ
้
ื
ี
�
๒.๒.๒ ระบบตรวจจับเป้าใต้น�้า ท่เกิดจากใต้นาแล้วสัญญาณเสียงนี้จะถูกแปลงเป็นคล่น
ี
ื
้
�
ื
เคร่องมือตรวจจับเป้าใต้นาพ้นฐานท่ใช้ใน VHF ส่งต่อไปบนเครื่องรับบนเครื่องบิน ทุ่นฟังเสียงใต้น�้า
เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลมีดังนี้ มีทั้งแบบ Passive และ Active แบบ Passive ดักฟัง
นาวิกศาสตร์ 21
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ื
�
ี
อย่างเดียว แต่แบบ Active จะแพร่คล่นเสียงออกไป - ตอร์ปิโด เป็นอาวุธสาคัญท่ใช้ในการต่อต ี
ื
ู
�
้
�
ู
�
และคอยรับ Echo สะท้อนกลับมาหลักการเดียวกับ ใช้เมอตรวจพบเรอดานาอย่ใต้นา และได้ข้อมลทาง
่
้
ื
Sonar ข้อมูลที่ได้จะได้ทั้งระยะและทิศทางของเป้า ยุทธวิธีเพียงพอ
๒.๓ ระบบอาวุธ ๒.๔ ระบบสื่อสารและเชื่อมโยงทางยุทธวิธี
ื
ื
ี
ื
อาวุธพ้นฐานของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล พ้นฐานระบบน้ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล
ื
มีดังนี้ ควรมีดังนี้
ื
่
๒.๓.๑ อาวุธที่ใช้โจมตีเป้าพื้นน�้า - การสอสารนอกจากระบบของอากาศยานตามปกต ิ
้
้
่
ื
ี
�
่
ื
ื
ี
่
ั
- ปืนกล และจรวดอากาศ เครื่องบินบางแบบ แลว จะตองมเครองมอ และความถพอสาหรบการสอสาร
�
ยังใช้อาวุธท้งสองแบบน้อยู่ เพ่อใช้โจมตีเป้าพ้นนา ทางยุทธวิธีกับหน่วยก�าลังอื่น ๆ ทั้งข่าย UHF VHF และ
ื
ี
้
ั
ื
ี
ขนาดเล็กระยะประชิดท่มีการป้องกันไม่เข้มแข็งนัก HF ตลอดจนระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียม (Satellite
หรือเรือด�าน�้าขณะอยู่บนผิวน�้าทั้งล�า หรือบางส่วน Communication)
�
ื
- อาวุธปล่อยนาวิถีอากาศ-สู่-พ้น ใช้โจมต ี - ระบบเชื่อมโยงทางยุทธวิธี (Tactical Data Link)
ี
ื
�
เป้าหมายระยะไกล อ�านาจการท�าลายสูง ท่สามารถเช่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีกับหน่วยกาลังด้วย
ี
�
ื
- ทุ่นระเบิด อาวุธชนิดนี้ใช้ปล่อยจากเครื่องบิน กันเองกับเหล่าทัพอ่นท่มาปฏิบัติการร่วม หรือกับกาลัง
ุ
ลาดตระเวนทางทะเลในการวางทุ่นระเบิดทางรก หรือ ชาติพันธมิตรท่มาปฏิบัติการร่วม/ผสมตลอดจนกับหน่วย
ี
ทางรับที่หวังผลทางยุทธวิธีเพื่อท�าลาย หรือขัดขวางเรือ ควบคุมต่าง ๆ ทั้งบนบกในทะเล
ผิวนาข้าศึกมิให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการทางเรือ - อปกรณหมายรพสจนฝาย (Identification Friend
�
้
่
ู
์
ู
้
ิ
ุ
์
ของฝ่ายเรา or Foe/IFF)
๒.๕ ระบบอ�านวยการรบ
�
ื
ระบบอานวยการรบของเคร่องบินลาดตระเวน
�
�
้
้
�
ทางทะเลจะเหมือนกับของเรือผิวนา หรือเรือดานา คือ
่
�
ี
จะทาหน้าทเป็นศนย์กลางทเชอมต่อระหว่างระบบ
่
ื
่
ี
ู
ตรวจจับ ระบบอาวุธ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประมวลผล
แสดงภาพ วางแผน ควบคุม จัดการ และส่งการ
ั
ื
ื
เพ่อให้เคร่องบินดังกล่าวสามารถปฏิบัติงานตามขีด
ี
ิ
ิ
ี
้
่
ความสามารถทต้องการได้อย่างมประสทธภาพ ทงน ี ้
ั
ื
จะต้องมีการจัดห้องศูนย์ยุทธการภายในเคร่องบิน
อย่างเหมาะสม และเพียงพอในการปฏิบัติงาน
ทุ่นระเบิด MK 63 Quickstrike ติดตั้งใต้ปีกเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
๒.๓.๒ อาวุธที่ใช้โจมตีเรือด�าน�้า ๓. ข้อเสนอแนะ
�
- ระเบิดลึก (Depth Bomb) ใช้สาหรับ ๓.๑ ข้อเสนอแนะส�าหรับกองทัพเรือ ประการแรก
�
้
�
เป้าหมายเรือดานาท่มองเห็นได้ขณะดา (Visible) หรือ ตามความคิดเห็นของผู้เขยนคือ ขอเรียนว่าเคร่องบิน
ี
�
ื
ี
อาจใช้ขณะที่เรือด�าน�้าก�าลังจะด�า ลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถในการต่อสู้
ี
นาวิกศาสตร์ 22
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ี
ี
�
�
้
�
เรือผิวนา และปราบเรือดานามีความจาเป็นเป็นอย่างย่ง ิ ขององค์วัตถุ ความเป็นมืออาชีพขององค์บุคคลท่เช่ยวชาญ
้
�
โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบัน ด้วยเหตุผลดังนี้ ในองค์ยุทธวิธีจะได้ผลในเชิงป้องปราม และอาจส่งผลถึง
ื
ี
๓.๑.๑ ข้อแรกเป็นเร่องของความ เกียรติภูมิของกองทัพด้วย ในการน้มีกองทัพเรือหลายชาต ิ
ี
ื
ั
จ�าเป็นของก�าลังทางเรือ ประเทศที่ต้องการใช้ประโยชน์ รวมท้งกองทัพเรือไทยท่ใช้เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล
ี
ื
ี
ั
อย่างเต็มท่ในพ้นท่ทะเลอาณาเขต และเขตเศรษฐกิจ ดัดแปลงช่วคราว เป็นพาหนะเดินทางของผู้บังคับบัญชา
�
ั
ี
ึ
จาเพาะของตน รวมถึงในทะเลหลวงตามสิทธิท่กฎหมาย ช้นสูง โดยเฉพาะการไปต่างประเทศอย่างเป็นทางการซ่ง
ระหว่างประเทศกาหนดในการป้องกันประเทศ และรักษา เปรียบเสมือนการอวดธงราชนาวีในต่างแดนไปในตัวด้วย
�
่
ิ
์
�
�
ี
้
ี
้
ผลประโยชนของชาตทางทะเล จะตองมกาลงทไดสดสวน ๓.๑.๓ สาหรับท่กล่าวว่า “จาเป็น
�
่
ั
ี
ั
ิ
ี
ื
ทั้งสามมิติ คือ เรือผิวน�้า เรือด�าน�้า และก�าลังทางอากาศ เป็นอย่างย่งโดยเฉพาะภาวะในปัจจุบัน” ท้งน้เน่องจาก
ั
ึ
ี
ี
ื
ซ่งกาลังในส่วนหลังน้แม้บางชาติจะให้กองทัพอากาศ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถ
�
้
ปฏิบัติแต่เป็นในลักษณะ Air Force for the Navy ซึ่ง ในการต่อต้านเรือผิวนา โดยเฉพาะเข้าประจาการมา
�
�
ี
�
�
มีการจัดในลักษณะ Maritime Air Group ส่วนเรือดานา ประมาณเกือบ ๔๐ ปี สมควรท่จะพิจารณาจัดหาใหม่
้
ก็ไม่ได้สาคัญน้อยไปกว่าเรือผิวนา ไม่ว่าทะเลอาณาเขต ทดแทน ส่วนเคร่องบินท่มีขีดความสามารถการปราบ
้
�
ี
ื
�
�
�
ั
ื
�
้
�
�
และเขตเศรษฐกิจจาเพาะของตน นาจะลึกต้นขนาดใด เรือดานาโดยเฉพาะน้น ได้ถูกปลดประจาการไปประมาณ
้
สงครามทางเรอเป็นสงครามการเคลอนทมใช่จะตกรอบ ๒๐ กว่าปีแล้ว ยังไม่มีการทดแทนแต่อย่างใดคงมีแต่
ิ
่
ี
ื
ี
่
ื
�
�
ื
้
ื
ึ
ี
ั
พ้นท่ปฏิบัติการเฉพาะในบ้านแล้วต้งรับได้ เน่องจาก เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานา ซ่งตามหลักยุทธวิธีในการ
�
ั
�
้
�
�
้
�
ทะเลทุกแห่งในโลกมีสามมิติ คือ ผิวนา ใต้นา และเหนือนา ปราบเรือดานาอากาศยานท้งสองแบบไม่สามารถใช้
้
้
การขาดกาลังป้องกัน หรือใช้ในทางรุกเชิงป้องกันใน ทดแทนกันได้ การขาดเครื่องบินปราบเรือด�าน�้าจะท�าให้
�
�
ี
มิติใดมิติหน่งอาจท�าให้การป้องกันท่เหลือไร้คุณค่า ไม่มีโอกาสตรวจจับเรือดานาในระยะไกลได้ และ
�
้
ึ
คือสูญเปล่าได้ เน่องจากการขาดแคลนเคร่องบินปราบเรือดานาน ี ้
ื
�
้
�
ื
ี
๓.๑.๒ ส�าหรับเครื่องบินลาดตระเวน อยู่ในภาวะพ้นท่ทางทะเลในภูมิภาคกาลังเต็มไปด้วย
�
ื
�
�
้
ทางทะเลนอกจากความสาคัญในการปฏิบัติการร่วม การปฏิบัติการด้วยเรือดานา และอีกหลายประเทศกาลัง
�
�
�
้
ื
ในการต่อสู้เรือผิวนา โดยเฉพาะจุดเด่นเร่องการค้นหา เร่งเสริมสร้างปรับปรุงเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล
ื
้
�
�
�
และการปราบเรือดานาในยามสงคราม ตลอดจนการ โดยเฉพาะท่มีขีดความสามารถในการปราบเรือดานา
�
ี
้
ี
ั
ั
ปฏิบัติการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ รวมท้งการ ท้งหมดท่กล่าวมาผู้เขียนจึงมีความเห็นว่าเครองบิน
่
ื
ี
ั
รักษากฎหมายในทะเลต้งแต่ยามปกติแล้ว การมีหรือไม่ม ี ลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถหลักในการ
ื
�
เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลยังจะส่งผลถึงการ ต่อสู้เรือผิวนา และการปราบเรือดานา จึงมีความจาเป็น
�
�
้
้
�
ื
ป้องปราม และเกียรติภูมิของกองทัพเรือไทยด้วยในเร่อง เป็นอย่างยิ่งส�าหรับกองทัพเรือไทยในภาวะปัจจุบัน
ื
การป้องปราม เช่น ในการปฏิบัติการผสมกับกองทัพเรอ ๓.๒ ข้อเสนอแนะประการต่อไป คือ ในกรณ ี
ิ
ื
ื
ื
ี
่
ั
ชาตอนในภมภาคตามพนธกรณ หรอการฝึกผสมกบ ท่มีความต้องการควรจะจัดหาลักษณะใด ในเร่องน ้ ี
ี
ั
ิ
ู
กองทัพเรือพันธมิตร การใช้เครื่องบินที่เก่าล้าสมัย หรือ ผู้เขียนมีความเห็นว่าในห้วงภาวะปัจจุบัน กองทัพเรือ
�
ไม่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติ ตลอดจนการขาดไม่ม ี อาจมีความต้องการเคร่องบินท่ใช้ในการขนส่งลาเลียง
ื
ี
�
เครื่องบินประเภทที่ต้องการเข้าปฏิบัติการ ย่อมแสดงถึง ในเวลาใกล้เคียง เพ่อเป็นการง่ายในการซ่อมบารุง
ื
ั
จุดอ่อน หรือช่องว่างของการปฏิบัติการน้น แต่ในทาง และประหยัดงบประมาณในอนาคต กองทัพเรืออาจใช้
ี
่
ี
้
ั
ึ
ิ
ั
้
้
ื
่
ิ
ื
่
ตรงขามหากแสดงออกถงขดความสามารถ และความพรอม แนวความคดทเคยใช้เมอครงจดหาเครองบนต่อต้าน
นาวิกศาสตร์ 23
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
เครื่องบินล�าเลียงแบบที่ ๑ (F 27 MK 400)
ื
ี
เรือผิวน�้าแบบที่ ๑ และเครื่องบินล�าเลียงแบบที่ ๑ ที่ใช้ สมควรต้องได้รับการจัดหาทดแทน ส่วนเคร่องบินท่ม ี
้
ื
�
�
เคร่องบินแบบ F 27 Fokker แบบเดียวกันดัดแปลง ขีดความสามารถในการปราบเรือดานา กองทัพเรือได้
ึ
แล้วใช้ต่างภารกจกนเป็นแบบ F27 MK 200 และ ว่างเว้นการมีประจาการมาช้านานแล้ว ซ่งเคร่องมือ
ื
ิ
�
ั
ี
้
�
ี
�
แบบ F27 MK 400 รบประเภทน้เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานาท่มีอยู่ก ็
สรุปเท่าท่ได้เรียนให้ทราบ ถึงบทบาทสาคัญ ไม่อาจทดแทนได้ ประกอบกับพ้นท่ปฏิบัติการในเอเชีย
�
ื
ี
ี
�
ี
�
้
ื
ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลในการลาดตระเวน ตะวันออกเฉียงใต้น้ยังเต็มไปด้วยการปฏิบัติการเรือดานา
�
เฝ้าตรวจ การปฏิบัติการต่อต้านเรือผิวนา การปราบ ของหลายชาติพร้อมกัน กับการแข่งขันการจัดหา
้
เรือด�าน�้า และอื่น ๆ ในการท�าสงครามทางเรือซึ่งอาจจะ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถหลัก
ื
ี
ี
ื
เกิดขึ้นในการรบใหญ่ครั้งต่อไป ตลอดจนการปฏิบัติการ ตามท่กล่าวไว้แล้ว ทุกท่านคงเห็นพ้องกันอีกว่าเคร่องบิน
�
�
ี
ในการเฝ้าตรวจ ในการสนับสนุนการป้องกันและ ประเภทน้น่าจะมีความจาเป็นเป็นอย่างย่งสาหรับ
ิ
�
ี
�
ี
ปราบปรามการกระทาท่อาจเป็นการกระทาผิดกฎหมาย กองทัพเรือไทยในปัจจุบัน ควรท่จะได้รับการพิจารณา
ในทะเล การรักษาผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจน ให้มประจาการในโอกาสแรกทสภาวะทางงบประมาณ
ี
่
ี
�
การช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติ การค้นหาและ เอื้ออ�านวย
การกู้ภัย รวมทงอาจเป็นเคร่องมอของรัฐบาลในการ
ื
ื
ั
้
ช่วยเหลือดาเนินการใด ๆ ตามนโยบาย หรือตามพันธกรณ ี แหล่งข้อมูล
�
ระหว่างประเทศ ซ่งอาจส่งผลถึงการป้องปราม และ - เอกสารอ้างอิงกองทัพเรือ (อทร) หมายเลข ๘๐๐๑ “หลักนิยม
ึ
เกียรติภูมิของประเทศต้งแต่ยามปกติ ทุกวันน้ทุกท่าน ทางทะเลกองทัพเรือ”
ั
ี
- กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ
�
คงจะเห็นความสาคัญของเคร่องมือรบทางเรือประเภทน ้ ี - ค้นหาจาก www.google.com ในเรื่อง Marime Patrol Aircraft
ื
ื
ั
ี
และท้งน้เน่องจากปัจจุบันเรายังขาดแคลน ด้วยเหตุท ี ่ Anti Surface Warfare, Anti Submarine Warfare และอ่น ๆ
ื
ที่เกี่ยวข้อง
เคร่องบินประเภทน้มีขีดความสามารถเฉพาะในการ
ี
ื
ต่อต้านเรอผวนา และทมอย่ได้รบราชการมานานปีแล้ว
ี
่
ี
ั
ู
�
ื
ิ
้
นาวิกศาสตร์ 24
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓