The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2021-11-02 02:30:25

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล เดือนธันวาคม ๒๕๖๓

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล



พลเรือเอก ศุภกร บูรณดิลก

























































ข่าวจากเว็บไซต์ไทยโพสต์ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๓



นาวิกศาสตร์ 8
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



ในฐานะท่เคยเป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงท่รับผิดชอบ จากระบบตรวจจับต่าง ๆ มาประมวลผลและใช้อาวุธ



ก�าลังอากาศนาวี รวมทั้งก�าลังทางเรืออื่นของกองทัพเรือ ต่อเป้าหมายได้ท้งในการรบต่อต้านเรือผิวนา (Anti






มาก่อน ใคร่ขอเรียนเพ่มเติมว่าการปฏิบัติการนาเคร่อง Surface Warfare) และการปราบเรือดานา (Anti


บินลงในสถานการณ์ฉุกเฉิน (Emergency landing) Submarine Warfare) การแบ่งประเภทเครองบินใน



สาหรับกรณีน้ของนักบินและลูกเรือเป็นไปอย่างถูกต้อง การปฏิบัติการทางเรือท่วไป ปัจจุบันจึงไม่นิยมท่จะ




ตามข้นตอนการปฏิบัติ นามาสู่ความปลอดภัยต่อชีวิต ให้แยกเป็นเคร่องบินต่อต้านเรือผิวนา และเคร่องบิน




และความเสียหายต่อทรัพย์สินทางราชการน้อยสุดกว่า ปราบเรือดานา แต่จะรวมขีดความสามารถท้งสองไว้ใน




ทน่าจะเป็น และเป็นทกล่าวขวญในหม่สงคมการบิน เคร่องอีกประเภท เรียกว่าเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล








ท่วไป จึงขอชมเชยและชื่นชมไว้ ณ โอกาสน้ด้วย และ (Maritime Patrol Aircraft) โดยหน้าที่ส�าคัญที่มอบให้












จากรูปเคร่องบินต่อต้านเรือผิวนาข้างบน ทาให้คิดถึง นอกจากการต่อต้านเรือผิวนา และการปราบเรอดานา


เคร่องบินปราบเรือดานา (บปด.) ท่กองทัพเรือเคยมีคือ ตามท่กล่าวมาแล้ว ยังมีการค้นหาและกู้ภัย (Search




บปด.๑ (แบบ S - 2F) ซึ่งติดตั้งระบบค้นหา ตรวจจับ and Rescue) และอื่น ๆ นับเป็นเครื่องมือหลักในการรบ
และระบบอาวุธในการปราบเรือด�าน�้า พร้อมทั้งอุปกรณ์ ทางเรือประเภทหนึ่ง




ส่อสารและสงครามอิเล็กทรอนิกส์พร้อมมูล ปัจจุบันได้ บทความน้จะนาเสนอเร่องราวของเคร่องบินประเภทน ้ ี



ปลดประจาการแล้ว ทาให้สภาพปัจจุบันของไทยขาด เก่ยวกับบทบาทท่สาคัญในการปฏิบัติการทางเรือแต่ละ










เคร่องมือรบสาคัญในการปราบเรือดานา ขณะท่พ้นท ่ ี สาขา และคุณลักษณะที่ต้องการ พร้อมทั้งข้อเสนอแนะ
ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เต็มไปด้วยการปฏิบัติการ ส�าหรับกองทัพเรือ
ของเรือด�าน�้าชาติต่าง ๆ
๑. หน้าที่และบทบาทส�าคัญ
เน่องจากอิทธิพลของเทคโนโลยีต่าง ๆ ได้รับการ

พัฒนาให้เจริญรุดหน้าไปมาก แนวโน้มของการรบทางเรือ
คาดว่าการเข้าทาการยุทธจะกระทากันในระยะไกล



มากข้นตลอดเวลา และเม่อเข้าปะทะกันความแม่นยาและ




ความรวดเร็วของการใช้อาวุธจะเป็นส่งสาคัญ การรบ


จะเป็นไปในลักษณะท่รวดเร็วแต่รุนแรง ผู้ใดท่ค้นหา


ตรวจจับ พิสูจน์ทราบ และสามารถกาหนดตาบลท ่ ี
ฝ่ายตรงข้ามได้ถูกต้องก่อน ตลอดจนมีขีดความสามารถ
เครื่องบินปราบเรือด�าน�้า แบบที่ ๑ (แบบ S- 2F)
ท่จะนาอาวุธเข้าไปโจมตีได้ ต้งแต่ระยะไกลจะเป็นฝ่าย



ด้วยขีดสมรรถนะของเคร่องบินสมัยใหม่ท่ม ี ได้เปรียบ ซ่งกาลังท่จะสามารถปฏิบัติการเพ่อให้ได้มา















ความเร็วสูงข้น มีความคงทน สามารถปฏิบัติการได้ใน ถงสงท่พงปรารถนาของการรบดงกล่าวน ได้อย่างเหมาะสม
ทุกสภาพอากาศ มีระยะเวลาบิน (Endurance) นานขึ้น คือ กาลังอากาศนาวี เน่องจากมีคุณสมบัติท่ได้เปรียบ



มีขนาดใหญ่ สามารถรับภาระในการติดตั้งระบบตรวจจับ กว่าก�าลังประเภทอื่น โดยเฉพาะในเรื่องความเร็ว มีรัศมี
ระบบอาวุธ ตลอดจนอุปกรณ์ต่าง ๆ ท่ต้องการได้ครบ ปฏิบัติการที่ไกลครอบคลุมพื้นที่ได้กว้างขวาง และความ

สมบูรณ์ในเคร่องเดียวกัน โดยมีระบบอานวยการรบ มีจุดเด่นสูงในเร่องท่สามารถตรวจจับได้ไกล ท้งด้วย






(Combat Management System) ที่สามารถน�าข้อมูล สายตาและอุปกรณ์ต่าง ๆ นอกจากน้ยังมีความคงทน
นาวิกศาสตร์ 9
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓












สามารถอย่ในพนทได้นานระดบหนึง มพนท่และระวาง


บรรทุกท่สามารถติดต้งระบบอาวุธและอุปกรณ์ต่าง ๆ
ที่ต้องการได้









เครื่องบินเครื่องแรกของ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
บินจาก USS Bermingham เมื่อ พ.ศ.๒๔๕๓


สาหรับเคร่องบนลาดตระเวนทางทะเลท่มีต้นกาเนิด แนวความคิดในการต่อต้านเรือผิวน�้าในการฝึกผสม



เพียงไม่ก่ปีหลัง จากท่มีการคิดค้นเคร่องบิน ปัจจุบันได้ถูก ระหว่างกองทัพเรือสิงคโปร์ และกองทัพเรืออินเดีย



ก�าหนดให้มีหน้าที่ และบทบาทในการปฏิบัติการต่าง ๆ สถานการณ์ข้าศึก พิจารณาขีดความสามารถ ตลอดจน
ที่ส�าคัญของการท�าสงครามทางเรือดังนี้ หนทางปฏิบัติของข้าศึกที่น่าเป็นไปได้ และเป็นอันตราย
ต่อฝ่ายเรามากที่สุด ก�าหนดนโยบาย หลักเกณฑ์ต่าง ๆ
๑.๑ การต่อต้านเรือผิวน�้า รวมทั้งมอบภารกิจแก่หน่วยปฏิบัติต่าง ๆ
การปฏิบัติการน้นับว่าเป็นการปฏิบัติหลักของ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลในการต่อต้าน








สงครามทางเรือนับต้งแต่ยังมีการรบมิติเดียว ท่การให้ เรือผิวนา ท้งท่อยู่ในอัตราการจัดหน่วยเฉพาะกิจ หรือ











ไดมาซงการครองทะเลจะตองทาลายเรอรบขาศกใหมาก ท่มาข้นการควบคุมทางยุทธการ จะมีบทบาทสาคัญใน

ที่สุด โดยอาวุธที่ส�าคัญได้แก่ ปืนใหญ่เรือ จนกระทั่งถึง ข้นตอนน้ คือ การลาดตระเวนหาข่าว (Reconnaissance)



สงครามสามมิติ หรือสี่มิติ กรณีที่มีการขยายอ�านาจจาก โดยมีความมุ่งหมายท่จะให้ได้ข่าวสารเก่ยวกับการ

ทะเลข้นสู่ฝั่งในปัจจุบันท่มีการวิวัฒนาการของเทคโนโลย ี ปฏิบัติการ ขีดความสามารถ ตลอดจนท่ต้ง และการ






ด้านต่าง ๆ ได้เจริญรุดหน้าไปมากท้งระบบอาวุธ และ ประกอบกาลังต่าง ๆ ของข้าศึก รวมท้งลักษณะของพ้นท ่ ี





ระบบตรวจจับ บทบาทของเคร่องบินลาดตระเวนท่เร่มต้น ปฏิบัติการ และสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อที่จะน�ามาเป็น


ด้วยการค้นหาข้าศึกหน้ากองเรือได้ทวีความสาคัญมากข้น ข้อมูลต่าง ๆ ในการวางแผน ในการน้กองทัพเรือบางชาต ิ








ตามลาดับจนกระท่งอาจเรียกว่าเป็นกาลังรบส่วนหน่ง ยงได้ใช้เครองบนดงกล่าวลาดตระเวนถ่ายภาพ และ




ท่ขาดไม่ได้ โดยจะเข้าไปมีบทบาทปฏิบัติการตามข้นตอน ลาดตระเวนทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ


พื้นฐานการรบสาขานี้ ดังนี้ ครบถ้วน ลาดตระเวนหาข้อมูลเก่ยวกับการทาสงคราม

ข้นตอนแรกการเตรียมการ ในขนตอนน้เป็นการ อิเล็กทรอนิกส์ ท้งท่ได้จากการดกรับฟัง และการแพร่







เตรียมความพร้อมในการค้นหา และพิสูจน์ฝ่ายข้าศึก คล่นต่าง ๆ ของข้าศึกเก็บไว้เพ่อนามาวิเคราะห์


พร้อมกับวางแผนในการจะเผชิญกับภัยคุกคาม ทบทวน เป็นประโยชน์ในการรบ
นาวิกศาสตร์ 10
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓


ขั้นค้นหา พิสูจน์ฝ่าย และแบ่งมอบเป้า ขั้นตอนนี้ หลังจากท่ทาการ Search หรือ Patrol จนพบ

เป็นการปฏิบัติเมื่อทราบข่าว หรือประมาณสถานการณ์ เป้าหมายที่น่าสงสัย (Bogey) แล้วปัญหาต่อไปคือ ต้องให้





ได้ถึงการเข้ามาซ่งภัยคุกคามผิวน้าของข้าศกในเชง แน่ใจว่าเป้าหมายน้นเป็นศัตรู (Hostile) หรือไม่ ซ่งจะ

ป้องกัน (Defensive) หรือเป็นการปฏิบัติเชิงรุก (Offensive) ต้องท�าการพิสูจน์ฝ่าย (Identify) กัน ส�าหรับการพิสูจน์






ในการขจัดภัยคุกคามผิวนาจากข้าศึกท่คาดว่าอาจเข้ามา ทราบน้จะกระทากันท้งด้วยสายตา และอุปกรณ์พิเศษ
ขัดขวางการปฏิบัติของฝ่ายเรา ความมุ่งหมายที่ต้องการ ประกอบกับการวิเคราะห์เป้าทางเรดาร์







คือ ค้นหาข้าศึกให้พบ พิสูจน์ฝ่าย กาหนดตาบลท่ ติดตาม แม้ว่าเครองบนลาดตระเวนทางทะเลในปัจจุบนจะ




ให้ได้มาซ่งข้อมลรายละเอียดเป้าหมายท่จาเป็น พร้อมกับ ติดต้งระบบอุปกรณ์ต่าง ๆ ครบครัน แต่การจะเข้าไป

เตรียมความพร้อมต่าง ๆ ในการเข้าโจมตี พิสูจน์ทราบโดยเฉพาะเวลากลางวันอาจถูกต่อต้าน

ในข้นตอนน้ การลาดตระเวนเฝ้าตรวจ (Surveillance) จากข้าศึก และอาจสูญเสียการจู่โจมได้ บทบาทในการ

เพื่อตรวจพบการปรากฏตัวของข้าศึกโดยเร็วที่สุด ตั้งแต่ ปฏิบัติน้จึงมักให้เป็นของเฮลิคอปเตอร์ และอากาศยาน

ในระยะไกลเท่าที่จะท�าได้ ที่จะท�าให้ฝ่ายเรามีเวลามีเสรี ไร้คนขับ (UAV)


ในการปฏิบัติการต่าง ๆ ที่จะกระท�าต่อข้าศึก รวมทั้งจะ เม่อทาการค้นหา และพิสูจน์ทราบเป้าหมายเป็น

สามารถเลือกตาบลท่แรกยุทธ์ได้ ซ่งอาจเรียกว่าเป็นหัวใจ Hostile แล้ว หากเป้าหมายนั้นเป็นอันตรายต่อฝ่ายเรา





ของการรบแบบน้น้น เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล หรือฝ่ายเราก�าลังจะเข้าปฏิบัติการโจมตีต่อเป้าหมายนั้น
ที่มีรัศมีท�าการไกล มีความเร็วสูง ปฏิบัติการได้ทุกสภาพ จะต้องมีข้อมูลต่าง ๆ ทางยุทธวิธีของเป้าหมาย เช่น



อากาศ ติดต้งอุปกรณ์ตรวจจับพร้อมมูล จะมีความเหมาะสม เขมความเร็ว รูปกระบวน ตลอดจนตาบลท่ตามช่วงระยะ








ท่สุดในการปฏิบัติการ ซ่งการปฏิบัติการน้สามารถแบ่ง เวลาจะเป็นส่งท่ต้องการเป็นอย่างย่ง ซ่งก็เป็นบทบาท


ออกได้เป็น ๒ วิธีการปฏิบัติ คือ การลาดตระเวนค้นหา ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่จะต้องเอามา




(Search) ท่ใช้ในการปฏิบัติการเชิงรุก ค้นหาในพ้นท ี ่ ให้ได้ ดังน้นหลังจากท่พิสูจน์ทราบว่าเป็นข้าศึกแล้ว

ท่กาหนดโดยรูปแบบต่าง ๆ และการลาดตระเวนรักษาด่าน ก็จะมีการติดตาม (Tracking) ยุทธวิธีในการติดตามของ





(Patrol) ท่ใช้ในเชิงป้องกัน เพ่อตรวจสอบในแนวด่าน เคร่องบินจะใช้ท้งสายตา และอุปกรณ์พิเศษท่ไม่มีการ







(Barrier) หรือพ้นท่ด่านท่กาหนดข้นไม่ให้ข้าศึกผ่านไปได้ แพร่คลื่น หรืออาจใช้เรดาร์ประกอบเป็นคร้งคราวได้

การลาดตระเวนแบบน้มีวิธีปฏิบัติหลายรูปแบบเช่นกัน แต่ต้องไม่เข้าไปในระยะอาวุธต่อสู้อากาศยานของข้าศึก
ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ทางยุทธวิธีและสิ่งแวดล้อม และควรไม่ให้เขารู้ตัว
เม่อได้ประเมินค่าเป้าหมายข้าศึกแล้วเห็นว่า

เป้าหมายนั้นต้องรีบท�าลายอย่างเร่งด่วน หรือต้องจ�ากัด


เสรีในการเคล่อนไหว การปฏิบัติจะให้เคร่องบินเข้าไป


เกาะติด (Shadowing) ซ่งการเกาะติดแบบน้ข่าวสาร

ข้อมูลทางยุทธวิธีของข้าศึกเป็นส่งท่ต้องการและจาเป็น





อย่างย่ง การเกาะติดวิธีน้จึงไม่คานึงว่าข้าศึกจะรู้ตัวหรือไม่




ข้นการโจมตี และข้นภายหลังการต่อต กาลัง
ทางเรือท่ใช้ในการโจมตีต่อต้านเรือผิวนาจะประกอบด้วย



เรือผิวน�้า เครื่องบิน เฮลิคอปเตอร์ เรือด�าน�้า การโจมตี
จะแบ่งเป็นสองลักษณะ คือ การโจมตีระยะไกล และ










เครองบนลาดตระเวนทางทะเลของสหรฐอเมรกาทตรวจพบกองเรอญปุ่นได้ก่อน
ในการยุทธที่หมู่เกาะมิดเวย์ท�าให้เป็นฝ่ายได้เปรียบตั้งแต่ต้น
นาวิกศาสตร์ 11
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

การจม HMS Sheffield โดยกองทัพเรืออาร์เจนตินาในสงครามฟอล์คแลนด์
เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Neptune ชี้เป้าให้เครื่องบินโจมตี



การโจมตีในระยะใกล้ ส่วนการปฏิบัติของเคร่องบิน พิสูจน์ฝ่ายจนแน่ชัดว่าเป็นศัตรู หากเป้าหมายน้นม ี


จะประกอบด้วยเคร่องบินไอพ่นโจมตี และเคร่องบิน ความส�าคัญก็จะต้องติดตาม หรือเกาะติดเพื่อให้ฝ่ายเรา
ลาดตระเวนทางทะเลติดอาวุธปล่อยน�าวิถี มีข้อมูลทางยุทธวิธีที่จะด�าเนินกลยุทธ์ต่อไป



นอกจากจะมีบทบาทหลักเป็นกาลังโจมตีแล้ว สาหรับกรณีท่ยานใช้อาวุธในการโจมต ี

บทบาทของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลในสงครามน ้ ี (Weapon Platform) ต้องการใช้อาวุธปล่อยนาวิถ ี

จะเป็นกาลังสนับสนุนในการโจมตี ซ่งการปฏิบัติการ ในระยะไกลสุด (Maximum Range) โดยที่เป้าหมายนั้น




ท่สาคัญนอกจากตามท่กล่าวมาแล้ว คือ ลาดตระเวน อยู่นอกระยะตรวจจับของตน คือ เกินระยะขอบฟ้าเรดาร์


หาข่าวในข้นการเตรียมการ จากน้นค้นหาข้าศึกให้พบ (Over the Horizontal) หรือระยะดักรับของเครื่องมือ

ให้เร็วที่สุด ในระยะไกลสุดเท่าที่จะท�าได้ และหลังจากที่ สงครามอิเล็กทรอนิกส์ เช่น การโจมตีระยะไกลของเรือ





















ภาพรวมของการโจมตีเรือผิวน�้าที่เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลท�า OTHT



นาวิกศาสตร์ 12
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓






ท่ติดต้งอาวุธปล่อยนาวิถี หรือการโจมตีเรือผิวนาของ
เคร่องบินโจมตีติดอาวุธปล่อยนาวิถีอากาศ-สู่-พ้น



ยานโจมตีแบบน้จาเป็นจะต้องมีผู้ช่วย (Third Party)



ช้เป้าพ้นระยะขอบฟ้า (Over The Horizontal


Targeting/OTHT) ในการส่งข้อมลทางยุทธวธี โดยเฉพาะ



ตาบลท่ท่แน่นอนของเรือเป้าให้กับยานท่ใช้อาวุธ





ซ่งหน้าท่ในการปฏิบัติการน้เป็นของเคร่องบินลาดตระเวน
ทางทะเลที่ติดตั้งอุปกรณ์สมบูรณ์จะมีความเหมาะสม


เมอการโจมตเสรจสนจะเป็นขนตอนของการ












รายงานสถานภาพตาง ๆ ทงของฝายเราและขาศก ทสาคญ




คือ ผลความเสียหายของข้าศึกจากการโจมตีของฝ่ายเรา สัญลักษณ์โรงเรียนปราบเรือด�าน�้าร่วมกองทัพเรือออสเตรเลีย











เพอนามาประเมินค่าจะเป็นหน้าททเป็นบทบาทสาคญ ของการค้นหาได้มาก อยู่คนละมัชฌิมกับเรือดานาท่อยู่


ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลในการปฏิบัติการนี้ ใต้น�้า อาจไม่รู้ว่าถูกตรวจพบ สามารถเลือกหาจุดปล่อย





อาวุธได้สะดวกและประณีต เน่องจากเรือดานาเม่ออยู่
๑.๒ การปราบเรือด�าน�้า ใต้น�้าไม่มีอาวุธอะไรที่จะต่อสู้





การปราบเรือดานา โดยท่วไปกาลังท่ใช้จะประกอบด้วย อย่างไรก็ดี สาหรับอากาศยานโดยเฉพาะเฮลิคอปเตอร์







เรือ อากาศยาน ท้งเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล ท่ยังมีขีดจากัดในเร่องความทนต่อสภาวะสภาพอากาศ



และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานา รวมท้งเรือดานา ท่รุนแรง มีขนาดเล็ก ท่ไม่สามารถติดต้งอุปกรณ์และระบบ








ด้วยกันเอง สาหรับอากาศยานท่มีบทบาทสาคัญ และเป็น อาวุธต่าง ๆ ได้มากนัก มีรัศมีปฏิบัติการและความเร็ว






กาลังหลักในการปฏิบัติการน้ มีจุดเด่นหลายประการ ตลอดจนช่วโมงบินท่อยู่ได้ในอากาศน้อยกว่าเคร่องบิน







เช่น มีรัศมีปฏิบัติการท่ไกลครอบคลุมพ้นท่ได้มากกว่า ดังน้นการใช้งานจึงมักถูกใช้ในพ้นท่ท่ไม่กว้างขวางมากนัก




มความเรวสง สามารถเข้าหาจดแน่ชดสดท้ายทพบ ทต้องการความแน่นอนในการตรวจพบ เช่น การเข้า







เรือด�าน�้า (Datum) ได้รวดเร็ว ลดเวลาตาย (Time late) เป็นฉากคุ้มกัน (Integrated Screen) ในพื้นที่ที่ก�าหนด
ก�าลังที่ใช้ในการปราบเรือด�าน�้า
นาวิกศาสตร์ 13
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓











ร่วมกับเรือผิวนา หรือการเป็นฉากคุ้มกันหน้ากระบวน ไปลาดตระเวนเน้นหนกตามเส้นทางนน เรอดานาดเซล
(Advanced Screen) โดยใช้โซนารชักหย่อนได้ (Dipping แบบธรรมดาขณะเดินทางจะมีวงรอบของการเปิดเผยตัว





Sonar) เป็นอุปกรณ์ตรวจจับที่ส�าคัญ หรือการเข้าไปใช้ โผล่เหนือน�าเพ่ออัดแบตเตอร่ ถ้ามีการลาดตระเวนท่ดีพอ







อาวุธทาลายเรือดานาโดยการนาทาง (Vector) จากยานอ่น โอกาสจะตรวจพบมีมาก วิธีท่นิยมกันในการไล่ล่า
การปฏิบัติมักอยู่ในพ้นท่ท่ไม่ห่างไกลเรือแม่มากนัก เรือด�าน�้าขณะเดินทาง คือ การ Control Choke Point







บทบาทในการปราบเรือดานาของเฮลิคอปเตอร์จะ ซ่งได้แก่ การส่งเคร่องบินไปต้งแนวด่าน โดยใช้ทุ่น



แตกต่างกับเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลปราบ ตรวจจับเสียง (Sonobouy) ตามช่องแคบ หรือตามแนว

เรือดานาพอสมควร แต่ต่างก็เป็นกาลังหลักในการ ต�าบลที่คาดว่าเรือด�าน�้าจะผ่าน




ปฏิบัติการท่ขาดไม่ได้ หลักการในการโจมตีเรือดานา สาหรับการปราบเรือดานาอีกลักษณะ คือ การปราบ















สามารถกระทาได้ใน ๓ ลักษณะ ซ่งแต่ละลักษณะ เรือดานาในพ้นท่ปฏิบัติการ ลักษณะน้คือ หากคาดว่า




อากาศยานจะเข้าไปมีบทบาท คือ การโจมตีแหล่งกาเนิด เรือดาน�าข้าศึกสามารถเข้ามาในพ้นท่ปฏิบัติการของเขา




จะมีการใช้การโจมตีทางอากาศทาลายแหล่งกาเนิดของ ได้แล้ว และมีโอกาสท่จะท�าอันตราย การปราบเรือดาน�า







เรอดานาข้าศก เช่น อู่ซ่อมและต่อเรือ ฐานทัพ ท่าเรือ ของฝ่ายเราจะมีการปฏิบัติในเชิงรุกซ่งได้แก่ การส่งหน่วย



การโจมตีขณะเรือดานาเดินทาง อาจเร่มต้นด้วยการ ไล่ล่าสังหาร (Hunter Killer Group) ออกปฏิบัติการ


ส่งเคร่องบินไปวางทุ่นระเบิดทางรุกเพ่อปิดช่องทาง ในพ้นท่ท่คาดว่าเรือดานาดักรอคอยอยู่ และเชิงป้องกัน











เข้า - ออกฐานทัพ แต่ถ้าเรือดานาหลุดรอดออกมาได้ ซ่งได้แก่ การให้มีการป้องกันกระบวนเรือท่มีคุณค่า



และเดินทางเข้าสู่พ้นท่ปฏิบัติการของเขา ฝ่ายเราจะม ี โดยจัดหน่วยเรือฉากคุ้มกัน และให้มีการสนับสนุนท้ง



การส่งก�าลังออกไปปฏิบัติการไล่ล่า ระยะใกล้และระยะไกล ท้งเคร่องบินลาดตระเวน

การไล่ล่าเรือดานาดีเซลขณะเดินทางเข้าพ้นท ี ่ ทางทะเล และเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานาต่างก็เป็น







ปฏิบัติการ (Transit) ก่อนอ่นจะต้องประมาณสถานการณ์ ก�าลังหลักของหน่วยก�าลังดังกล่าว


เส้นทางเดินเรือของข้าศึกเสียก่อน แล้วจึงให้เคร่องบิน
การตรวจจับเรือด�าน�้าโดยใช้ทุ่นเสียง Sonobouy และการวัดความผิดปกติของสนามแม่เหล็กโลก
(MAD) ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
นาวิกศาสตร์ 14
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

ตัวอย่างการจัดฉากคุ้มกันกระบวนเรือที่มีคุณค่า ทั้งนี้พื้นที่หน้ากองเรือจะเป็นการลาดตระเวน
ตาม Air Plan ต่าง ๆ ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลปราบเรือด�าน�้า







สาหรับข้นตอนในการปราบเรือดานาทางยุทธวิธ ี


แบ่งออกได้เป็น ๔ ข้นตอน โดยเคร่องบินลาดตระเวน









ทางทะเลปราบเรอดานามบทบาทสาคญในการปฏบต ิ
การแต่ละขั้นตอนดังนี้
ขั้นการหา (Search Phase) ขั้นนี้มีความมุ่งหมาย




ต้องการตรวจพบเรือดานาข้าศึก ซ่งอาจเร่มต้นในลักษณะ






การกวาดค้นในพ้นท่ท่คาดว่าเรือดานาข้าศึกกาลัง


ปฏิบัติการอยู่ หรือจุดที่มีการพบครั้งสุดท้ายแล้วหายไป

(Datum) โดยเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล หรือ
การค้นหาในพ้นท่ท่กาหนดให้ เพ่อป้องกันมิให้ข้าศึก






เข้ามาดักคอยทาอันตรายต่อกระบวนเรือฝ่ายเรา ตัวอย่าง
ตาม Air Plan
ขั้นการตรวจพบ (Contact Phase) ขั้นที่สองของ

การปฏิบัติการปราบเรือดาน�าคือ ข้นการพบ และ


ตรวจสอบเป้าหมายว่าเป้าท่พบเป็นอะไร ฝ่ายใด มีตาบล


ท่แน่นอนเป็นอย่างไร ซ่งหากว่าเป็นข้าศึกจะได้ข้อมูล


ต่าง ๆ ไปประกอบการใช้อาวุธให้ได้ผลดี เครื่องมือส�าคัญ



ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่ใช้ในข้นตอนน ี ้

คือ ทุ่นฟังเสียงใต้นา (Sonobouy) และเคร่องมือวัด


ตัวอย่าง Air Plan ที่ก�าหนดให้เป็นพื้นที่ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล ความผิดปกติสนามแม่เหล็กโลก (Magnetic Anomaly
ในการค้นหาเรือด�าน�้ารอบกระบวนเรือ
นาวิกศาสตร์ 15
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

Detector/MAD.) ในการตรวจสอบยืนยัน และก�าหนด อากาศยานจะเข้าไปมีบทบาทเป็นอันมาก เครื่องบินที่มี
ต�าบลที่ของเรือด�าน�้าเป้าหมาย ขีดความสามารถในการบรรทุกพอสมควร มีความรวดเร็ว



ข้นการโจมต (Attack Phase) เม่อตรวจพบยืนยันเป้า และแคล่วคล่องในการปฏิบัติการจะเป็นพาหนะในการ



ก�าหนดต�าบลที่จะมีการเข้าต่อตีเป้า บทบาทในขั้นตอนนี้ วางท่นระเบดทางรกทด แต่ไม่เหมาะสมใช้ในการวาง



ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลอาจเข้าปฏิบัติการ ทางรับเชิงป้องกันที่ไม่ต้องการความรวดเร็ว แต่ต้องการ






ตามลาพัง หรือร่วมกับยานปราบเรือดานาอ่น แล้วแต่กรณ ี ความประณีตถูกต้อง ส่วนในการต่อต้านทุ่นระเบิด


แต่จุดได้เปรียบคือ ความรวดเร็วและความปลอดภัย จากการวางของข้าศึกน้น เคร่องบินและเฮลิคอปเตอร์






ในการเข้าหาเป้า อาวุธทใช้คอ ปืนกลอากาศและจรวด สามารถค้นหาทุ่นระเบิดทอดประจาท่ได้ รวมท้ง

เม่อเรือดานายังมีส่วนโผล่เหนือนา แต่สาหรับกรณีเรือ ในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเฮลิคอปเตอร์ในการกวาด






ดังกล่าวอยู่ใต้นาอาวุธท่เหมาะสมคือ ระเบิดลึก และ และล่าท�าลายทุ่นระเบิดอีกด้วย



ตอร์ปิโด




เครื่องบิน B-52 กองทัพอากาศสหรัฐอเมริกาฝึกวางทุ่นระเบิดทางรุก
การตรวจสอบยืนยันและก�าหนดต�าบลที่ของเรือด�าน�้าเป้าหมาย บทบาทการปฏิบัติของเคร่องบินลาดตระเวนทาง












ข้นการติดตามและตรวจค้น (Maintain and ทะเลในการปฏบตการน ทสาคญในปัจจบนจะมเฉพาะ



Regain Contact) ภายหลังการเข้าตีหากปรากฏไม่ได้ผล การวางทุ่นทางรุก หรืออาจเป็นทางรับท่ความมุ่งหมาย
แต่ต้องการติดตามให้ตรวจพบ และเข้าโจมตีใหม่ สนามทุ่นระเบิดเป็นสนามทางยุทธวิธีในการขัดขวาง


บทบาทการปฏิบัติของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล หรือทาลายกาลังทางเรือข้าศึก มิให้เป็นอุปสรรคต่อ

จะเริ่มต้นใหม่ตามที่กล่าวมาแล้ว การบรรลุภารกิจในการปฏิบัติการของฝ่ายเรา เป็นการ



หวังผลช่วคราวในการทาลายข้าศึกโดยตรง ท้งน้เป็น



๑.๓ การปฏิบัติการสงครามทุ่นระเบิด เพราะเคร่องบินประเภทน้ไม่สามารถมีระวางบรรทุก



ในการปฏิบติการสงครามท่นระเบิด ซงประกอบด้วย ทุ่นระเบิดเป็นจานวนมากภายในได้ สามารถนาไป



การวางทุ่นระเบิด และการต่อต้านทุ่นระเบิดน้น และปล่อยได้เฉพาะท่จุดติดต้งอาวุธใต้ปีก และใต้ท้อง



นาวิกศาสตร์ 16
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

เครื่องบินประมาณ ๖ ลูก เท่านั้น (เครื่องบินแบบ P-3 เรือ อากาศนาวี ก�าลังรบยกพลขึ้นบก และอื่น ๆ ท�าการ





Orion) ทั้งนี้ตามหลักนิยมกองทัพสหรัฐอเมริกาการวาง ยกพลข้นบกเข้ายึดพ้นท่ชายหาดท่เลือกสถาปนากาลัง
ทุ่นระเบิดทางรุกท่มีความมุ่งหมายสนามทุ่นระเบิดเป็น รบบนฝั่ง เพ่อขยายผลการปฏิบัติการทางทหารต่อไป ซ่ง



สนามทางยุทธศาสตร์ท่หวังผลให้สนามน้นมีภัยคุกคาม ปกติแล้วจะสามารถแบ่งการปฏิบัติการนี้เป็น ๕ ขั้นตอน






สูงอย่างต่อเน่อง ซึ่งจะมีผลต่อเศรษฐกิจ สังคม จตวิทยา คือ ข้นการวางแผน ข้นการข้นสู่เรือ ข้นการซักซ้อม


ขวัญประชากร ตลอดจนศักย์สงครามของข้าศึกที่ต้อง ขั้นการเดินทางไปยังพื้นที่ที่หมาย และขั้นการบุกโจมตี



ใช้ทุ่นระเบิดจานวนมากน้น จะใช้เคร่องบินท้งระเบิด แต่ละข้นตอนต่าง ๆ กาลังอากาศนาวี และกาลังทาง





ขนาดใหญ่ เช่น เคร่องบิน B-52 โดยใช้ยุทธวิธีเดียวกับ อากาศอ่นท่มาสนับสนุนจะเข้าไปเก่ยวข้องตลอด ท้งน ้ ี










การท้งระเบิดภาคพ้นดิน ซ่งกองทัพอากาศ และกองทัพเรือ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะมีบทบาทท่สาคัญใน
สหรัฐอเมริกามีการฝึกร่วมกันเป็นประจ�า การให้ได้มาซ่งการควบคุมทะเลท่ต้องการ การป้องกัน


การปล่อยทุ่นระเบิด MK62 ของเครื่องบิน P-3 Orion
ขีดความสามารถในการวางทุ่นระเบิดทางรุกใน

เชิงยุทธศาสตร์ตามท่กล่าวมาแล้ว ท่ต้องใช้เคร่องบิน


ท้งระเบิดทางยุทธศาสตร์ (Strategic Bomber) น้น



ปัจจุบันกองทัพอากาศไทยยังไม่มีเคร่องบินดังกล่าว

ในการน้เคยมีแนวความคิดท่จะนาเคร่องบินลาเลียงมี




ประตูท้ายลักษณะเคร่องบิน C-130 มาดัดแปลงโดย

บรรทุกทุ่นระเบิดภายในแล้วเปิดประตูท้ายท้ง ผู้เขียน

เห็นว่าไม่มีทางเป็นไปได้ แม้ว่าจะพยายามดัดแปลง หรือ

ออกแบบใด ๆ และยังไม่มีการดาเนนการมาก่อน จะม ี

แต่การใช้เครื่องบินทิ้งระเบิดตามที่กล่าวมาแล้ว ซึ่งใช้มา
ตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง ประตูท้ายเครื่องบิน C-130 ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะออกแบบให้วางทุ่นระเบิด




กองกาลังเฉพาะกิจสะเทินนาสะเทินบกในข้นการเดินทาง

๑.๔ การปฏิบัติการสะเทินน�้าสะเทินบก และการป้องกันพื้นที่ท่หมาย (Amphibious Objective





การปฏิบัติการสะเทินนาสะเทินบก คือ การโจมต ี Area) ดวยการปฏิบัตการลาดตระเวนเฝาตรวจ การปราบ

จากทะเลสู่ฝั่งด้วยการใช้กาลังทางเรือ ซ่งประกอบด้วย เรือด�าน�้า การต่อต้านเรือผิวน�้า และอื่น ๆ

นาวิกศาสตร์ 17
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



๑.๕ การปฏิบัติการทางทหารอ่น ๆ ท่มิใช่การสงคราม ๒. คุณลักษณะที่ส�าคัญ


นอกจากสาขาการปฏิบัติการทางเรือหลัก ท่เคร่องบิน
ลาดตระเวนทางทะเลสามารถเข้าไปมีบทบาท เป็นความ
พยายามหลัก (Main Effort) หรือความพยายามรอง
ที่มีส่วนช่วยของการปฏิบัติการนั้น ๆ ในสงครามทางเรือ




ตามท่กล่าวมาแล้ว สาหรับการปฏิบัติการอ่น ๆ ท่มิใช่
การสงคราม (Military Operation Other Than War)
ท่จะต้องปฏิบัติ ต้งแต่ยามปกติตามหลักนิยมทางทะเล


ของกองทัพเรือไทย ท่ประกอบด้วย การใช้กาลังทางเรือ


เพ่อรักษากฎหมายในทะเล และเพ่อภารกิจการช่วยเหลือ


น้น เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะเข้าไปมีบทบาท


ในหลายปฏิบัติการ เช่น การป้องกันการกระทาผิด

กฎหมายทางเศรษฐกิจการค้าต่าง ๆ การปราบปรามอันเป็น
โจรสลัด และการกระทาความผิดทางทะเลอ่น ๆ







การอนุรกษ์ทรัพยากรและสงแวดล้อมทางทะเล ซง
ส่วนใหญ่จะเป็นการลาดตระเวนเฝ้าตรวจสนับสนุน
การปฏิบัติ การขัดขวางทางทะเล (Maritime Interdiction
Operation) นอกจากนี้ยังเป็นก�าลังหลัก หรือช่วยเหลือ
กาลังผิวนาในการคุ้มครองเส้นทางการคมนาคมทางทะเล ห้องนักบินและศูนย์ยุทธการ ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล



ฐานขุดเจาะ และแหล่งผลประโยชน์ของชาติอ่น ๆ แบบ P-8 Poseidon ของกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา

ในทะเล การค้นหา กู้ภัย และการบรรเทาภัยพิบัติต่าง ๆ จากบทบาทและความต้องการใช้งานในการ



ในทะเล ตลอดจนการปฏิบัติในการสนับสนุนการด�าเนิน ปฏิบัติการท่สาคัญตามท่กล่าวมาแล้ว ประกอบกับเป็น


นโยบายระหว่างประเทศในรูปแบบต่าง ๆ ท่ประจักษ์และยอมรับท่วไปกันมานานแล้วว่า ในบรรดา



กาลังท่ใช้ป้องกันประเทศต่าง ๆ กาลังทางเรือจะเป็น


กาลังท่ถูกนามาใช้ต้งแต่ยามสงบ ในการปกป้องคุ้มครอง


และส่งเสริมเศรษฐกิจการค้า ตลอดจนผลประโยชน์

ของชาติทางทะเลรูปแบบต่าง ๆ ท่ามกลางส่งแวดล้อม

ท่ต่างแย่งชิงเป็นเจ้าของทรัพยากรท่มีจากัด เคร่องบิน





ลาดตระเวนทางทะเลซ่งเป็นเคร่องมือรบหลักเอนกประสงค์

ของกาลังทางเรือจึงเป็นท่ต้องการจัดหา หรือพัฒนา

ให้ทันสมัยพร้อมใช้งานอยู่เสมอของกองทัพเรือแทบ
ทุกชาติ มีการสร้างออกมามากหลายแบบแต่สามารถ
แบ่งออกได้ ๓ ลักษณะ คือ ลักษณะแรก เป็นการ
ตัวอย่างรูปแบบหนึ่งที่ใช้ค้นหาผู้ประสบภัยในทะเล ออกแบบมาเพ่อวัตถุประสงค์ลาดตระเวนทางทะเล

ของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล (S คือย่านการตรวจจับ)




ท้งต่อสู้เรือผิวนา ปราบเรือดา และอ่น ๆ โดยเฉพาะ

นาวิกศาสตร์ 18
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓






เช่น เคร่องบินแบบ P-3 Orion ท่เคยประจาการใน สาหรับการออกแบบเคร่องบินลาดตระเวน

กองทัพเรือไทย หรือแบบ P-1 Kawasaki ของกองทัพเรือ อีกลักษณะ คือ ดัดแปลงมาจากเคร่องบินโดยสาร





ญ่ปุ่น เป็นต้น ลักษณะต่อไปเป็นการนาเคร่องบินท่ใช้ ปัจจุบันได้มีการนาเคร่องบินโดยสารท้งท่ใช้เคร่องยนต์




ในการขนส่งทางทหาร (Military transport aircraft) แบบ Turbo prop และ Turbo fan มาดัดแปลง


ท่ส่วนใหญ่จะมีประตูท้ายมาดัดแปลง โดยติดต้งระบบ เช่น เคร่องบินลาดตระเวนแบบ P-8 Poseidon ของ







ตรวจจับและระบบอาวธเข้าไป ซงมีข้อดีสาหรับผ้ใช้ กองทัพเรือสหรัฐอเมริกาท่นาเคร่องบินโดยสารแบบ


คือ ง่ายสาหรับการซ่อมบารุงที่ผู้ใช้จะใช้เคร่องบินแบบ Boeing 737 หรือแบบ ATR 72 MPA ของกองทัพเรือ



เดียวกันท้งกิจในการขนส่งลาเลียง และกิจในทางยุทธการ ตุรกี และอีกหลายชาติท่นาเคร่องบินโดยสารแบบ














แตมใชเครองบนเครองเดยวกน จะสลบภารกจกนได ทงน ้ ี ATR 72 มาดัดแปลง







เพราะระวางบรรทุกและนาหนักท่จะบรรทุกได้ (Pay load)






สาหรับเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลได้ใช้เป็นพ้นท ี ่

ห้องศูนย์ยุทธการ และนาหนักท่จะบรรทุกถูกใช้ไปกับ




ลูกเรือท่มีมากกว่าเคร่องบินปกติ อุปกรณ์ต่าง ๆ และอาวุธ



ท่ติดต้ง (แนวความคิดน้กองทัพเรือไทยเคยใช้มาก่อน

กรณีเคร่องบินต่อสู้เรือผิวนาแบบท่ ๑ และเคร่องบิน




ลาเลียงแบบท่ ๑ ท่ใช้เคร่องบินแบบเดียวกันคือ F 27




Fokker) ตัวอย่างเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่ถูก


ออกแบบมาลักษณะนี้ เช่น แบบ C 130 Sea Hercules
ของกองทัพเรืออินเดีย แบบ C 295 MPA ของกองทัพเรือ เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ ATR 72
หลายชาติเป็นต้น
ภายในเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลแบบ C 130
นาวิกศาสตร์ 19
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓



แม้การออกแบบสร้างจะมีท่มาแตกต่างกันออกไป การบินด้วยเคร่องวัดประกอบการบิน (Instrument


แต่คุณลักษณะของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล Flight Rule/IFR) ทนพายุฝนฟ้าคะนองได้ระดับหน่ง



ทุกแบบจะมีมาตรฐานสาคัญ เพ่อให้มีขีดความสามารถ เน่องจากต้องปฏิบัติการเหนือทะเลเป็นประจา เคร่องยนต์










หลักซ่งได้แก่ การต่อต้านเรือผิวนา การปราบเรือดานา อย่างน้อยต้องมี ๒ เคร่อง โครงสร้างเคร่องบินต้องม ี

การค้นหาและกู้ภัย และการเฝ้าตรวจทางทะเลเพ่อ การป้องกันสนิมตามมาตรฐาน ความเร็ว และเพดานบิน







สนับสนุนการปฏิบัติการทางทะเลแบบอื่น ๆ ดังนี้ สงสดตามมาตรฐาน แต่ต้องปฏบตการทความเรว



และความสูงตาท่จะปฏิบัติการทางยุทธวิธี โดยเฉพาะ

การปราบเรือด�าน�้าได้ เวลาบินได้อย่างน้อย ๑๐ ชั่วโมง
ระยะปฏิบัติการประมาณ ๒,๐๐๐ ไมล์ทะเล ระยะทาง



ท่ใช้ในการว่งข้นและบินลงเป็นไปตามมาตรฐาน ภายนอก

เคร่องบินนอกจากจะสามารถติดต้งอุปกรณ์ต่าง ๆ

ท่ต้องการแล้ว จะต้องมีจุด (Hardpoint) ให้เลือก

ติดต้งอาวุธปล่อยนาวิถีอากาศ-สู่-พ้น ตอร์ปิโดปราบ



เรือด�าน�้า และทุ่นระเบิดที่ใช้กับเครื่องบินได้
ที่เก็บทุ่นดักฟังเสียง Sonobouy ภายในเครื่องบิน
และการปล่อยจากเครื่องโดยท่อปล่อย
๒.๑ สมรรถนะทั่วไป


พ้นฐานของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะต้องม ี
ขนาดใหญ่ ที่ส�าคัญคือ พอที่จะจัดให้มีห้องศูนย์ยุทธการ

ขนาดมเจ้าหน้าทประจาประมาณ ๕ สถานี มพนท ี ่








ติดต้งอุปกรณ์ต่าง ๆ และท่เก็บทุ่นดักฟังเสียง Sonobouy



พร้อมท่ปล่อย (Launcher) มสถานท่สาหรับยาม

ตรวจการณ์ (Look out) ซ้ายขวา และสถานที่ส�าหรับ
ให้นักบิน ลูกเรือ หมุนเวียนพักผ่อน ต้องเป็นเคร่องบิน

ท่สามารถทาการบินได้ท้งกลางวันและกลางคืนทุกสภาพ



อากาศ ต้องมีขีดความสามารถในการบินด้วยระบบ รูปบนเป็นภายนอกเครื่องบินรูปล่างเป็นยามตรวจการณ์
นาวิกศาสตร์ 20
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

๒.๒ ระบบตรวจจับ - อุปกรณ์ตรวจจับความผิดปกติสนามแม่เหล็ก


นอกจากอุปกรณ์เคร่องวัดประกอบการบิน และ โลก หรือท่ MAD (Magnetic Anomaly Detector)
เคร่องช่วยในการเดินอากาศแบบต่าง ๆ ท่ต้องม ี เป็นอุปกรณ์ตรวจหาค่าผิดปกติสนามแม่เหล็กโลกตาม









ตามมาตรฐานการบินสากลท่กาหนดแล้ว เพ่อให้ปฏิบัต ิ ตาบลท่ อันเน่องจากอานาจแม่เหล็กใหม่ท่ผิดแปลกมา



ตามขดความสามารถทต้องการ อย่างน้อยเครองบน กระท�า เป็นเครื่องมือแบบ Passive ระยะตรวจจับขึ้นกับ





ลาดตระเวนจะติดตั้งระบบตรวจจับพื้นฐาน ดังนี้ ขนาดของเป้าไม่อาจใช้เป็นเคร่องมือค้นหาในข้นต้นได้





๒.๒.๑ ระบบตรวจจับเป้าพื้นน�้า แต่จะใช้ร่วมกบเครองมออน เช่น Sonobouy ในการ



ระบบน้ใช้ในการลาดตระเวนเฝ้าตรวจท่เป็น แยกเป้า ยืนยันเป้า หรือก�าหนดต�าบลที่ที่แน่นอน

พ้นฐานในการปฏิบัติการสนับสนุนการรักษากฎหมาย - อุปกรณ์ที่ท�างานโดยอาศัยคลื่นเสียงใต้น�้าซึ่ง



และปกป้องผลประโยชน์ของชาติในทะเล ตลอดจน ได้แก่ ทุ่นฟังเสียงใต้นาท่เรียกว่า Sonobouy นับเป็น





การค้นหากู้ภัย และช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัต ิ อุปกรณ์หลักในการตรวจจับเรือดานาของเคร่องบิน


ต่าง ๆ ต้งแต่ยามปกติไปจนถึงการรบผิวนา ในการค้นหา ใช้ในการตรวจจับ จาแนกเป้า กาหนดตาบลท่ และยืนยันเป้า





พิสูจน์ทราบ และสนับสนุนการใช้อาวุธของหน่วยทาการยิง


หรือเป็นหน่วยยิงเอง เคร่องมือตรวจจับของระบบน ้ ี
ที่ควรมีเป็นอย่างน้อยได้แก่

- อุปกรณ์ซ่งจัดได้ว่าเป็นเคร่องมือตรวจจับ







ทเชอถือได้มากทสุดในการพิสูจน์ทราบ คอ สายตาของ

นักบิน หรือลูกเรือ (Eyes) รวมทั้งอุปกรณ์ช่วยซึ่งได้แก่
กล้องส่องทางไกล หรือที่ใช้ในเวลากลางคืน เช่น ไฟฉาย
และพลุส่องสว่าง

- อุปกรณ์ท่ใช้คล่นแม่เหล็กไฟฟ้าในการค้นหา


ตรวจจับ ซ่งได้แก่ เรดาร์เฝ้าตรวจ (Surveillance Radar)


ทมสมรรถนะการใช้งานทางยทธการในทะเลมระยะ







ตรวจจบท่ไกล จาแนกและติดตามเป้าท่ต้องการได้
สามารถตรวจจับเป้าขนาดเล็กโดยเฉพาะกล้องตา
เรือด�าน�้าได้
- อุปกรณ์ตรวจจับที่ใช้ระบบ Electro Optic/

Infrared ซ่งสามารถใช้งานในสภาพอากาศและวิสัย
ที่ไม่ดีได้ทั้งกลางวันและกลางคืน เครื่องมือตรวจจับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
- ระบบ Electronic Support Measures/ ทุ่นฟังเสียงใต้น�้านี้ใช้ทิ้งจากเครื่องบิน
ESM ในการตรวจจับข้อมูลสงครามอิเล็กทรอนิกส์ เม่อตกลงถึงพ้นนาโดยมีร่มชูชีพพยุงลงไปแล้ว จะม ี






การแพร่คลื่นเรดาร์ของฝ่ายตรงข้าม Hydrophones หลุดจากทุ่นลงไปใต้นา รับฟังเสียงต่าง ๆ




๒.๒.๒ ระบบตรวจจับเป้าใต้น�้า ท่เกิดจากใต้นาแล้วสัญญาณเสียงนี้จะถูกแปลงเป็นคล่น





เคร่องมือตรวจจับเป้าใต้นาพ้นฐานท่ใช้ใน VHF ส่งต่อไปบนเครื่องรับบนเครื่องบิน ทุ่นฟังเสียงใต้น�้า
เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลมีดังนี้ มีทั้งแบบ Passive และ Active แบบ Passive ดักฟัง
นาวิกศาสตร์ 21
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓




อย่างเดียว แต่แบบ Active จะแพร่คล่นเสียงออกไป - ตอร์ปิโด เป็นอาวุธสาคัญท่ใช้ในการต่อต ี







และคอยรับ Echo สะท้อนกลับมาหลักการเดียวกับ ใช้เมอตรวจพบเรอดานาอย่ใต้นา และได้ข้อมลทาง



Sonar ข้อมูลที่ได้จะได้ทั้งระยะและทิศทางของเป้า ยุทธวิธีเพียงพอ
๒.๓ ระบบอาวุธ ๒.๔ ระบบสื่อสารและเชื่อมโยงทางยุทธวิธี




อาวุธพ้นฐานของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล พ้นฐานระบบน้ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล

มีดังนี้ ควรมีดังนี้


๒.๓.๑ อาวุธที่ใช้โจมตีเป้าพื้นน�้า - การสอสารนอกจากระบบของอากาศยานตามปกต ิ












- ปืนกล และจรวดอากาศ เครื่องบินบางแบบ แลว จะตองมเครองมอ และความถพอสาหรบการสอสาร

ยังใช้อาวุธท้งสองแบบน้อยู่ เพ่อใช้โจมตีเป้าพ้นนา ทางยุทธวิธีกับหน่วยก�าลังอื่น ๆ ทั้งข่าย UHF VHF และ






ขนาดเล็กระยะประชิดท่มีการป้องกันไม่เข้มแข็งนัก HF ตลอดจนระบบการสื่อสารผ่านดาวเทียม (Satellite
หรือเรือด�าน�้าขณะอยู่บนผิวน�้าทั้งล�า หรือบางส่วน Communication)


- อาวุธปล่อยนาวิถีอากาศ-สู่-พ้น ใช้โจมต ี - ระบบเชื่อมโยงทางยุทธวิธี (Tactical Data Link)



เป้าหมายระยะไกล อ�านาจการท�าลายสูง ท่สามารถเช่อมโยงข้อมูลทางยุทธวิธีกับหน่วยกาลังด้วย



- ทุ่นระเบิด อาวุธชนิดนี้ใช้ปล่อยจากเครื่องบิน กันเองกับเหล่าทัพอ่นท่มาปฏิบัติการร่วม หรือกับกาลัง

ลาดตระเวนทางทะเลในการวางทุ่นระเบิดทางรก หรือ ชาติพันธมิตรท่มาปฏิบัติการร่วม/ผสมตลอดจนกับหน่วย

ทางรับที่หวังผลทางยุทธวิธีเพื่อท�าลาย หรือขัดขวางเรือ ควบคุมต่าง ๆ ทั้งบนบกในทะเล
ผิวนาข้าศึกมิให้เป็นอุปสรรคต่อการปฏิบัติการทางเรือ - อปกรณหมายรพสจนฝาย (Identification Friend










ของฝ่ายเรา or Foe/IFF)
๒.๕ ระบบอ�านวยการรบ


ระบบอานวยการรบของเคร่องบินลาดตระเวน





ทางทะเลจะเหมือนกับของเรือผิวนา หรือเรือดานา คือ



จะทาหน้าทเป็นศนย์กลางทเชอมต่อระหว่างระบบ





ตรวจจับ ระบบอาวุธ และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง ประมวลผล
แสดงภาพ วางแผน ควบคุม จัดการ และส่งการ



เพ่อให้เคร่องบินดังกล่าวสามารถปฏิบัติงานตามขีด






ความสามารถทต้องการได้อย่างมประสทธภาพ ทงน ี ้


จะต้องมีการจัดห้องศูนย์ยุทธการภายในเคร่องบิน
อย่างเหมาะสม และเพียงพอในการปฏิบัติงาน
ทุ่นระเบิด MK 63 Quickstrike ติดตั้งใต้ปีกเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล
๒.๓.๒ อาวุธที่ใช้โจมตีเรือด�าน�้า ๓. ข้อเสนอแนะ

- ระเบิดลึก (Depth Bomb) ใช้สาหรับ ๓.๑ ข้อเสนอแนะส�าหรับกองทัพเรือ ประการแรก



เป้าหมายเรือดานาท่มองเห็นได้ขณะดา (Visible) หรือ ตามความคิดเห็นของผู้เขยนคือ ขอเรียนว่าเคร่องบิน




อาจใช้ขณะที่เรือด�าน�้าก�าลังจะด�า ลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถในการต่อสู้

นาวิกศาสตร์ 22
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓







เรือผิวนา และปราบเรือดานามีความจาเป็นเป็นอย่างย่ง ิ ขององค์วัตถุ ความเป็นมืออาชีพขององค์บุคคลท่เช่ยวชาญ


โดยเฉพาะในภาวะปัจจุบัน ด้วยเหตุผลดังนี้ ในองค์ยุทธวิธีจะได้ผลในเชิงป้องปราม และอาจส่งผลถึง


๓.๑.๑ ข้อแรกเป็นเร่องของความ เกียรติภูมิของกองทัพด้วย ในการน้มีกองทัพเรือหลายชาต ิ



จ�าเป็นของก�าลังทางเรือ ประเทศที่ต้องการใช้ประโยชน์ รวมท้งกองทัพเรือไทยท่ใช้เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล




อย่างเต็มท่ในพ้นท่ทะเลอาณาเขต และเขตเศรษฐกิจ ดัดแปลงช่วคราว เป็นพาหนะเดินทางของผู้บังคับบัญชา




จาเพาะของตน รวมถึงในทะเลหลวงตามสิทธิท่กฎหมาย ช้นสูง โดยเฉพาะการไปต่างประเทศอย่างเป็นทางการซ่ง
ระหว่างประเทศกาหนดในการป้องกันประเทศ และรักษา เปรียบเสมือนการอวดธงราชนาวีในต่างแดนไปในตัวด้วย










ผลประโยชนของชาตทางทะเล จะตองมกาลงทไดสดสวน ๓.๑.๓ สาหรับท่กล่าวว่า “จาเป็น








ทั้งสามมิติ คือ เรือผิวน�้า เรือด�าน�้า และก�าลังทางอากาศ เป็นอย่างย่งโดยเฉพาะภาวะในปัจจุบัน” ท้งน้เน่องจาก





ซ่งกาลังในส่วนหลังน้แม้บางชาติจะให้กองทัพอากาศ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถ


ปฏิบัติแต่เป็นในลักษณะ Air Force for the Navy ซึ่ง ในการต่อต้านเรือผิวนา โดยเฉพาะเข้าประจาการมา





มีการจัดในลักษณะ Maritime Air Group ส่วนเรือดานา ประมาณเกือบ ๔๐ ปี สมควรท่จะพิจารณาจัดหาใหม่

ก็ไม่ได้สาคัญน้อยไปกว่าเรือผิวนา ไม่ว่าทะเลอาณาเขต ทดแทน ส่วนเคร่องบินท่มีขีดความสามารถการปราบ













และเขตเศรษฐกิจจาเพาะของตน นาจะลึกต้นขนาดใด เรือดานาโดยเฉพาะน้น ได้ถูกปลดประจาการไปประมาณ

สงครามทางเรอเป็นสงครามการเคลอนทมใช่จะตกรอบ ๒๐ กว่าปีแล้ว ยังไม่มีการทดแทนแต่อย่างใดคงมีแต่















พ้นท่ปฏิบัติการเฉพาะในบ้านแล้วต้งรับได้ เน่องจาก เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานา ซ่งตามหลักยุทธวิธีในการ








ทะเลทุกแห่งในโลกมีสามมิติ คือ ผิวนา ใต้นา และเหนือนา ปราบเรือดานาอากาศยานท้งสองแบบไม่สามารถใช้


การขาดกาลังป้องกัน หรือใช้ในทางรุกเชิงป้องกันใน ทดแทนกันได้ การขาดเครื่องบินปราบเรือด�าน�้าจะท�าให้



มิติใดมิติหน่งอาจท�าให้การป้องกันท่เหลือไร้คุณค่า ไม่มีโอกาสตรวจจับเรือดานาในระยะไกลได้ และ



คือสูญเปล่าได้ เน่องจากการขาดแคลนเคร่องบินปราบเรือดานาน ี ้






๓.๑.๒ ส�าหรับเครื่องบินลาดตระเวน อยู่ในภาวะพ้นท่ทางทะเลในภูมิภาคกาลังเต็มไปด้วย





ทางทะเลนอกจากความสาคัญในการปฏิบัติการร่วม การปฏิบัติการด้วยเรือดานา และอีกหลายประเทศกาลัง





ในการต่อสู้เรือผิวนา โดยเฉพาะจุดเด่นเร่องการค้นหา เร่งเสริมสร้างปรับปรุงเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเล





และการปราบเรือดานาในยามสงคราม ตลอดจนการ โดยเฉพาะท่มีขีดความสามารถในการปราบเรือดานา






ปฏิบัติการในการรักษาผลประโยชน์ของชาติ รวมท้งการ ท้งหมดท่กล่าวมาผู้เขียนจึงมีความเห็นว่าเครองบิน




รักษากฎหมายในทะเลต้งแต่ยามปกติแล้ว การมีหรือไม่ม ี ลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถหลักในการ


เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลยังจะส่งผลถึงการ ต่อสู้เรือผิวนา และการปราบเรือดานา จึงมีความจาเป็น






ป้องปราม และเกียรติภูมิของกองทัพเรือไทยด้วยในเร่อง เป็นอย่างยิ่งส�าหรับกองทัพเรือไทยในภาวะปัจจุบัน

การป้องปราม เช่น ในการปฏิบัติการผสมกับกองทัพเรอ ๓.๒ ข้อเสนอแนะประการต่อไป คือ ในกรณ ี







ชาตอนในภมภาคตามพนธกรณ หรอการฝึกผสมกบ ท่มีความต้องการควรจะจัดหาลักษณะใด ในเร่องน ้ ี




กองทัพเรือพันธมิตร การใช้เครื่องบินที่เก่าล้าสมัย หรือ ผู้เขียนมีความเห็นว่าในห้วงภาวะปัจจุบัน กองทัพเรือ

ไม่มีขีดความสามารถในการปฏิบัติ ตลอดจนการขาดไม่ม ี อาจมีความต้องการเคร่องบินท่ใช้ในการขนส่งลาเลียง



เครื่องบินประเภทที่ต้องการเข้าปฏิบัติการ ย่อมแสดงถึง ในเวลาใกล้เคียง เพ่อเป็นการง่ายในการซ่อมบารุง


จุดอ่อน หรือช่องว่างของการปฏิบัติการน้น แต่ในทาง และประหยัดงบประมาณในอนาคต กองทัพเรืออาจใช้















ตรงขามหากแสดงออกถงขดความสามารถ และความพรอม แนวความคดทเคยใช้เมอครงจดหาเครองบนต่อต้าน
นาวิกศาสตร์ 23
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓

เครื่องบินล�าเลียงแบบที่ ๑ (F 27 MK 400)



เรือผิวน�้าแบบที่ ๑ และเครื่องบินล�าเลียงแบบที่ ๑ ที่ใช้ สมควรต้องได้รับการจัดหาทดแทน ส่วนเคร่องบินท่ม ี




เคร่องบินแบบ F 27 Fokker แบบเดียวกันดัดแปลง ขีดความสามารถในการปราบเรือดานา กองทัพเรือได้

แล้วใช้ต่างภารกจกนเป็นแบบ F27 MK 200 และ ว่างเว้นการมีประจาการมาช้านานแล้ว ซ่งเคร่องมือ









แบบ F27 MK 400 รบประเภทน้เฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดานาท่มีอยู่ก ็
สรุปเท่าท่ได้เรียนให้ทราบ ถึงบทบาทสาคัญ ไม่อาจทดแทนได้ ประกอบกับพ้นท่ปฏิบัติการในเอเชีย









ของเคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลในการลาดตระเวน ตะวันออกเฉียงใต้น้ยังเต็มไปด้วยการปฏิบัติการเรือดานา

เฝ้าตรวจ การปฏิบัติการต่อต้านเรือผิวนา การปราบ ของหลายชาติพร้อมกัน กับการแข่งขันการจัดหา

เรือด�าน�้า และอื่น ๆ ในการท�าสงครามทางเรือซึ่งอาจจะ เคร่องบินลาดตระเวนทางทะเลท่มีขีดความสามารถหลัก




เกิดขึ้นในการรบใหญ่ครั้งต่อไป ตลอดจนการปฏิบัติการ ตามท่กล่าวไว้แล้ว ทุกท่านคงเห็นพ้องกันอีกว่าเคร่องบิน



ในการเฝ้าตรวจ ในการสนับสนุนการป้องกันและ ประเภทน้น่าจะมีความจาเป็นเป็นอย่างย่งสาหรับ





ปราบปรามการกระทาท่อาจเป็นการกระทาผิดกฎหมาย กองทัพเรือไทยในปัจจุบัน ควรท่จะได้รับการพิจารณา
ในทะเล การรักษาผลประโยชน์ของชาติ ตลอดจน ให้มประจาการในโอกาสแรกทสภาวะทางงบประมาณ




การช่วยเหลือประชาชนจากภัยพิบัติ การค้นหาและ เอื้ออ�านวย
การกู้ภัย รวมทงอาจเป็นเคร่องมอของรัฐบาลในการ




ช่วยเหลือดาเนินการใด ๆ ตามนโยบาย หรือตามพันธกรณ ี แหล่งข้อมูล

ระหว่างประเทศ ซ่งอาจส่งผลถึงการป้องปราม และ - เอกสารอ้างอิงกองทัพเรือ (อทร) หมายเลข ๘๐๐๑ “หลักนิยม

เกียรติภูมิของประเทศต้งแต่ยามปกติ ทุกวันน้ทุกท่าน ทางทะเลกองทัพเรือ”


- กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ

คงจะเห็นความสาคัญของเคร่องมือรบทางเรือประเภทน ้ ี - ค้นหาจาก www.google.com ในเรื่อง Marime Patrol Aircraft




และท้งน้เน่องจากปัจจุบันเรายังขาดแคลน ด้วยเหตุท ี ่ Anti Surface Warfare, Anti Submarine Warfare และอ่น ๆ

ที่เกี่ยวข้อง
เคร่องบินประเภทน้มีขีดความสามารถเฉพาะในการ


ต่อต้านเรอผวนา และทมอย่ได้รบราชการมานานปีแล้ว









นาวิกศาสตร์ 24
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓


Click to View FlipBook Version