The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ภาษาอังกฤษ การนำเสนอ การประชุม การต้อนรับผู้มาเยือน และการแสดงการขอบคุณ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2023-04-19 23:48:50

ภาษาอังกฤษ การนำเสนอ การประชุม การต้อนรับผู้มาเยือน และการแสดงการขอบคุณ

ภาษาอังกฤษ การนำเสนอ การประชุม การต้อนรับผู้มาเยือน และการแสดงการขอบคุณ

ภาษาอังกฤษสาหรบ





การนาเสนองาน การประชุม






การตอนรบผูมาเยอน และการแสดงความขอบคุณ







































รวบรวมโดย กองวิชามนุษยศาสตร์ ฝ่ายศึกษา โรงเรียนนายเรือ

for non-profit, educational purposes only


คำน ำ


กมวษ.ฝศษ.รร.นร. ได้จัดทำคู มือภาษาอังกฤษสำหรับการนำเสนองาน (Presentations)

การประชุม (Meetings) การต้อนรับผู้มาเยือน (Receiving Visitors) และการแสดงความขอบคุณ

(Expressing Gratitude) ฉบับนี้ขึ้น เพื่อใช้ส าหรับการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้แก กำลังพล รร.นร.

ี่
ตามนโยบาย ผบ.รร.นร. ประจ าปี งป.๖๖ ทต้องการให้กำลังพลได้พัฒนาความสามารถในการใช้
ภาษาอังกฤษตามความเหมาะสม เพื่อให้มีความพร้อมในการฝึก สัมมนา หรือสัมผัสปฏิสัมพันธ์กับ

ต างชาติได้ นอกจากนี้ยังสามารถนำไปใช้ในการนำเสนองาน การประชุม การต้อนรับผู้มาเยือน และ

การแสดงความขอบคุณได้อย างถูกต้อง รวมท้งมีความมั่นใจในการใช้ภาษาอังกฤษมากขึ้น ทางคณะ

ผู้จัดท าจึงได้รวบรวมประโยค และส านวนต างๆ ที่เป็นประโยชน์ในการน าไปใช้ส าหรับแต ละสถานการณ์ซึ่ง

ี่
ี่
มาจากแหล งข้อมูลทมีความหลากหลาย เช น หนังสือทแนะนำการใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจ าวัน
ภาษาอังกฤษเพื่อการน าเสนองานและการประชุม ตลอดจนเว็บไซต์ท่ให้ความรู เกี่ยวกับการใช้


ภาษาอังกฤษที่ทันสมัยกับยุคปัจจุบัน


ทงนี้ ทางคณะผู้จัดทาหวังเป็นอย างยิ่งว าคู มือฉบับนี้จะเป็นประโยชน์แก ผู้สนใจในการเพิ่มพูน
ั้
ความรู้การใช้ภาษาอังกฤษ และน าไปประยุกต์ใช้เพื่อก อให้เกิดประโยชน์ในการปฏิบัติงานต อไปได้



คณะผู้จัดท า
เม.ย.๖๖


สารบัญ

หน้า

ี่
บทท 1 การน าเสนองาน (Presentations) 1
บทท 2 การประชุม (Meetings) 9
ี่
บทท 3 การต้อนรับผู้มาเยือน (Receiving Visitors) 19
ี่
บทท 4 การแสดงความขอบคุณ (Expressing Gratitude) 26
ี่


บทที่ 1



การน าเสนองาน (Presentations)






การน าเสนองาน (Presentations) เป็นภาษาองกฤษนั้นจัดได้ว่าเป็นการสื่อสารรูปแบบหนึ่งที่มี

ความส าคัญและมีความจ าเป็นอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ทั้งในแวดวงการศึกษา และการท างาน อกทั้งภาครัฐและ
เอกชนต่างก็ให้ความส าคัญต่อทักษะการน าเสนองานของบุคลากรในองค์กรของตนเอง ดังนั้น ผู้น าเสนองานจึง


ื่
ควรเรียนรู้ขั้นตอน และประโยค หรือส านวนภาษาองกฤษที่สามารถน ามาใช้ในการสื่อสารเพอให้บรรลุ
วัตถุประสงค์ต่อไปได้














1. การเรียกความสนใจจากผู้ฟัง

หากถึงช่วงเวลาที่เราก าลังจะเริ่มการน าเสนองาน แต่สภาพแวดล้อมภายในห้องยังมีความชุลมุน หรือผู้ฟัง


ยังพูดคุยกันเสียงดัง ก็อาจจะต้องเรียกร้องความสนใจจากผู้ฟังกอนด้วยประโยคดังต่อไปนี้

 Can I have your attention, please? ขอความกรุณาให้ความสนใจด้วยครับ/คะ

 I’d like to get started, if I may. ผม/ดิฉันก าลังจะเริ่มต้นแล้วนะครับ/คะ
 Let’s get started. ขออนุญาตเริ่มการน าเสนองานนะครับ/คะ

 Let’s make a start. ขออนุญาตเริ่มการน าเสนองานนะครับ/คะ


2. การกล่าวทักทาย

ส าหรับการทักทายเพอเป็นการต้อนรับผู้ฟังนั้นมีหลายรูปแบบ สามารถน าประโยคทักทายเหล่านี้ไปใช้ให้
ื่
เหมาะสมกับสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดังนี้













1 | P a g e


2.1 การกล่าวทักทายแบบเป็นทางการ


 On behalf of Royal Thai Naval Academy, I would like to welcome you here today.

My name is…...... (ชื่อ-นามสกุล) and I am (ต าแหน่ง)..........

ในนามของโรงเรียนนายเรือ ผม/ดิฉัน มีความยินดีต้อนรับทุกท่าน ในวันนี้ ผม/ดิฉัน................
(ชื่อ-นามสกุล) ต าแหน่ง.........

 Good morning/afternoon/evening ladies and gentlemen. My name is… (ชื่อ-นามสกุล)
and I am pleased to be here today to talk to you about..........

สวัสดีท่านสุภาพสตรีและสุภาพบุรุษ ผม/ดิฉัน.......... (ชื่อ-นามสกุล) วันนี้ผม/ดิฉันมีความยินดีที่

ได้มาพูดเรื่อง...........
 It’s a pleasure to have you with us in the presentation today.

เป็นความยินดีอย่างยิ่งที่คุณมาเข้าร่วมฟังการน าเสนองานในวันนี้


2.2 การกล่าวทักทายแบบไม่เป็นทางการ



 Hi, I’m…....... (ชื่อ-นามสกุล) and I am…...... (ต าแหน่ง).

สวัสดีครับ/ค่ะ ผม/ดิฉัน... (ชื่อ-นามสกุล)... (ต าแหน่ง)...
 Hello / Hi, everyone, I’m.......… (ชื่อ-นามสกุล) from.......... Section (แผนก) / ........

Division (กอง) / ...........Department (กรม) and today I’d like to talk to you about......…

สวัสดีครับ/ค่ะทกท่าน ผม/ดิฉัน......... (ชื่อ-นามสกุล) จากแผนก/กอง/กรม......... วันนี้ผม/ดิฉัน
จะมาพูดเกี่ยวกับ..........


2.3 การแนะน าเพื่อนร่วมงาน



 I’d like to introduce my colleague,…....... (ชื่อ-นามสกุล).

ื่
ผม/ดิฉัน ขอแนะน าเพอนร่วมงาน คือ........... (ชื่อ-นามสกุล)


















2 | P a g e


ี่
3. การแจ้งหัวข้อหรือเรื่องทจะน าเสนอ

















ผู้พูดบอกหัวข้อ หรือเรื่องที่จะน าเสนองาน โดยสามารถเลือกใช้ประโยคที่แนะน าดังต่อไปนี้



 Today, I’d like to talk about ….....

วันนี้ผม/ดิฉัน ต้องการมาน าเสนอเกี่ยวกับ.......…
 Today, I’m going to talk about.....…

วันนี้ผม/ดิฉัน จะมาน าเสนอเกี่ยวกับ….......
 The topic of the presentation today is ........…

หัวข้อการน าเสนอ ในวันนี้ คือ........…

 In my presentation today I’m going to explain ..........…
ในการน าเสนอของผม/ดิฉัน ในวันนี้จะอธิบาย…..........

 In my presentation I would like to report on …..........

ในการน าเสนอของผม/ดิฉัน จะรายงานเรื่อง.............
 The aim of this presentation is to …........

จุดมุ่งหมายของการน าเสนอนี้ คือ ….........
 Today’s presentation will be / focus on...........

การน าเสนอในวันนี้จะเป็นเรื่อง/มุ่งเน้นไปที่เรื่อง.............

 As you can see on the screen, our topic today is …………
จากที่คณเห็นบนจอภาพ หัวข้อในการน าเสนอวันนี้ คือ ...............

 What I’d like to present to you today is …………


ในวันนี้ ผม/ดิฉันต้องการน าเสนอให้แกพวกคณในหัวข้อ...............
 The subject of my presentation is ………….

หัวข้อในการน าเสนอของผม/ดิฉัน คือ.............





3 | P a g e


4. การล าดับการน าเสนอ และการอนุญาตให้ผู้ฟังได้มีโอกาสตั้งค าถาม
















 I’ve divided my presentation into three main parts: X, Y and Z.
ผม/ดิฉันได้แบ่งการน าเสนองานของผม/ดิฉันออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ดังนี้ X, Y และ Z.

 In my presentation I’ll focus on three major issues. First of all, I’ll be looking at ………,

second ……….., and third …………. .
ในการน าเสนอของผม/ดิฉันนั้น ผม/ดิฉันจะมุ่งเน้นที่ 3 ประเด็นหลัก ๆ โดยเริ่มแรกผม/ดิฉันจะพิจารณาที่

........... ล าดับที่ 2 ............ และล าดับที่ 3 ............
 I’ll begin/start with…….. . / Firstly, I will talk about…...... / I’ll begin with.......…, then I will

look at .......…, next .........… and finally,…....... .

ผม/ดิฉันจะเริ่มด้วย .......... ต่อไปเรื่อง ........... และเรื่องสุดท้ายคือ ............
 I’ll begin/start off by explaining …………. . Then/Next/After that, I’ll go on to …………... .

Finally, I’ll offer some solutions.

ผม/ดิฉันจะเริ่มต้นโดยการอธิบายเกี่ยวกับ..............ต่อจากนั้น ผม/ดิฉันจะด าเนินการต่อไป........... และ
สุดท้ายผม/ดิฉันจะขอเสนอแนวทางแก้ปัญหาต่างๆ

 First, I’d like to give you an overview of ............. Second, I’ll move on to ............ Then, I’ll

focus on ........... After that we’ll deal with ..........… Finally, we’ll consider ............

เริ่มแรกผม/ดิฉันอยากจะให้ภาพรวมของ ............ ประการที่สองผม/ดิฉันจะไปต่อในหัวข้อ .............. แล้ว

จะมุ่งเน้นไปที่ ............. หลังจากนั้นเราจะจัดการกับ ............ สุดท้ายเราจะพิจารณา .............

 To start with I’ll describe .........…

ผม/ดิฉันจะเริ่มต้นด้วยการบรรยายเกี่ยวกับ ...........…

 I will be glad to answer any questions that you may have at the end.



ผม/ดิฉันยินดีตอบค าถามทกคาถาม และขอให้ทุกท่านถามในตอนท้ายของการน าเสนอ
 Feel free to interrupt me if there’s anything you don’t understand.

คุณสามารถขัดจังหวะผม/ดิฉันได้ตามสบาย ถ้าไม่เข้าใจสิ่งไหนระหว่างการน าเสนอ


4 | P a g e


 If you have any questions, feel free to interrupt me at any time.

ถ้าคุณมีค าถาม สามารถขัดจังหวะผม/ดิฉันได้ทุกเวลา

 If you don’t mind, we’ll leave questions till the end.

หากคุณไม่ว่าอะไร พวกเราขอตอบค าถามต่างๆ ในตอนท้าย

 There will be time for questions after my presentation.

จะมีการให้เวลาส าหรับค าถามหลังจากการน าเสนอของผม/ดิฉัน


5. การเริ่มต้นน าเสนอ



 I’ll start with some general information on........…
ผม/ดิฉันขอเริ่มต้นด้วยข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับ.............

 I’d just like to give you some background information about…..........

ผม/ดิฉันขอเล่าถึงข้อมูลเบื้องต้นของเรื่อง.............
 Before I start, does anyone know…...........?

ก่อนที่ผม/ดิฉันจะเริ่ม มีใครรู้บ้างว่า..............












6. การเปลี่ยนหัวข้อ หรือกรณีเปลี่ยนผู้พูด



 I’ve finished the first part and moving to the next one.
ผม/ดิฉันพูดจบในส่วนแรกไปแล้ว มาเริ่มที่ส่วนต่อไปกันเลยครับ/ค่ะ

 Right, let’s move on to the next point.

เรามากล่าวถึงเรื่องต่อไปกันเลยครับ/ค่ะ
 Now, we are moving to the new point.

เราก าลังจะเข้าสู่เรื่องต่อไปครับ/ค่ะ
 Now I will pass over to /hand over to…........ (ชื่อ-นามสกุล)

ถึงตอนนี้ผม/ดิฉันขอส่งต่อให้กับคุณ.........…(ชื่อ-นามสกุล)

 Does anyone have any questions before I move on? I will be happy to answer them.
ท่านใดมีค าถาม ก่อนที่ผม/ดิฉันจะพูดเรื่องต่อไปไหมครับ/คะ ผม/ดิฉันยินดีที่จะตอบค าถามครับ/ค่ะ


5 | P a g e


7. การสรุปเนื้อหาจากการน าเสนอ


 Let me sum up the main points that we have covered today.

ผม/ดิฉัน ขอสรุปหัวข้อส าคัญ ๆ ที่เราได้พุดคุยกันในวันนี้

 So to summarise the main points of my talk, The first point was........… .
สรุปประเด็นใหญ่ๆ ที่ผม/ดิฉันพูด ประเด็นแรกคือ.........….

 Just a quick recap of my main points. First ......... .
สรุปอย่างสั้นๆ เกี่ยวกับประเด็นหลักๆ ที่ดิฉัน/ผม พูด ประเด็นแรกคอ.........….

 So, to summarize, we talked about 3 main parts/points; the first part/point was …....... .


กล่าวโดยสรุป เราพูดคุยเกี่ยวกับ 3 ประเด็นหลัก ๆ ประเด็นแรกคอ …………
 Here’s a quick recap of my presentation.

ต่อไปเป็นการสรุปที่น าเสนอมาทั้งหมดของผม/ดิฉัน
















8. การตอบค าถามระหว่างการน าเสนอ


8.1 ถ้าไม่เข้าใจค าถามจากผู้ฟงระหว่างการน าเสนอ สามารถขอให้ผู้นั้นถามซ้ า หรือให้อธิบายค าถาม
เพิ่มเติมเพื่อให้มีความชัดเจนขึ้น ดังนี้



 I’m sorry. Could you repeat your question, please?

ขอโทษครับ/ค่ะ ขอความกรุณาถามค าถามซ้ าอีกครั้งครับ/ค่ะ
 I’m afraid I didn’t quite catch that. Could you ask that again?


ผม/ดิฉันคิดว่า ผม/ดิฉันยังจับใจความนั้นไม่ได้ครับ/ค่ะ ช่วยกรุณาถามอกครั้งครับ/ค่ะ
 I’m afraid I don’t quite understand your question. Could you ask that again?

ผม/ดิฉันคิดว่า ผม/ดิฉันยังไม่เข้าใจค าถามของคุณครับ/ค่ะ ช่วยกรุณาถามอีกครั้งครับ/ค่ะ











6 | P a g e


8.2 ถ้าต้องการหลีกเลี่ยงการตอบค าถาม เพราะคิดว่ายังไม่ใช่เวลาตอบค าถามนั้น หรือค าถามนั้น
ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่น าเสนอ สามารถกล่าวได้ดังนี้



 If you don’t mind, I’d prefer not to discuss that today.

ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผม/ดิฉันจะขอไม่ถกปัญหาในหัวข้อนั้นในวันนี้ครับ/ค่ะ
 Perhaps we could deal with this after the presentation/at some other time.

บางทีเราสามารถพูดคุยในหัวข้อนี้หลังจากการน าเสนอหรือในเวลาอื่นๆ ครับ/ค่ะ
 I’m afraid that’s not really what we’re here to discuss today.

ผม/ดิฉันเกรงว่าหัวข้อนั้นยังไม่ใช่สิ่งที่เราจะถกปัญหากันในวันนี้
















8.3 ถ้าคุณไม่ทราบค าตอบของค าถามนั้น ขอให้บอกตรงๆ ว่าไม่ทราบค าตอบ และแนะน าบุคคลที่มีความรู้

ด้านนั้นต่อไป


 Sorry, that’s not my field. But I’m sure David Johnsons could answer your question.

ขอโทษครับ/ค่ะ หัวข้อนี้ไม่อยู่ในสายงานของผม/ดิฉัน แต่ทั้งนี้ผม/ดิฉันมั่นใจว่าคุณเดวิด จอห์นสันส์

สามารถให้ค าตอบได้ครับ/ค่ะ
 I’m afraid I don’t know the answer to your question, but I’ll try to find out for you.

ผม/ดิฉันเกรงว่า ผม/ดิฉันไม่ทราบค าตอบ แต่ผม/ดิฉันจะพยายามหาให้คุณครับ/ค่ะ
 I’m afraid I’m not in a position to answer that. Perhaps Jack Anderson could help.

ผม/ดิฉันเกรงว่า ผม/ดิฉันไม่อยู่ในฐานะที่จะตอบค าถามนั้น บางทีคุณแจ็ค แอนเดอร์สันสามารถช่วย

ตอบค าถามได้ครับ/ค่ะ
















7 | P a g e


9. การจบการน าเสนองาน


 That brings the presentation to the end. Thank you for your attention.

การน าเสนอได้จบลงแล้ว ขอบคุณทุกท่านที่ตั้งใจฟังครับ/ค่ะ

 If anyone has any questions, I’ll be pleased to answer them.
หากใครมีค าถามอะไร ถามได้เลยนะครับ/คะ ยินดีตอบครับ/ค่ะ

 If you have any questions, please do not hesitate to ask now.

ถ้าคุณมีค าถามอะไร โปรดอย่าได้ลังเลที่จะถามนะครับ/คะ

 Thank you all for listening, it was a pleasure being here today.

ขอขอบคุณททุกท่านตั้งใจฟัง รู้สึกยินดีอย่างมากที่ได้มาในวันนี้ครับ/ค่ะ
ี่
 Well that’s it from me. Thank you very much for listening patiently and attentively.

นี่คือการน าเสนองานจากผม/ดิฉัน ขอขอบคุณอย่างมากส าหรับการรับฟังอย่างตั้งอกตั้งใจมาตลอด

การน าเสนอครับ/ค่ะ



การน าเสนองานเป็นภาษาองกฤษที่ดีนั้น ผู้น าเสนอต้องค านึงหรือเน้นในเรื่องความเข้าใจของผู้ฟงเป็นส าคัญ
ิ่
จึงไม่จ าเป็นต้องใช้ค าศัพท์ยาก หรือถ้าต้องใช้ในบางเรื่องก็ควรเป็นค าศัพท์เฉพาะที่มีสไลด์อธิบายเพมเติมส าหรับ
ผู้ฟังที่ไม่เข้าใจ สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้การน าเสนองานดูน่าติดตาม และน่าฟังมากยิ่งขึ้น







































8 | P a g e


บทที่ 2

การประชุม (Meetings)





หน่วยงานหรือองค์กรอาจจะมีการประชุมของคณะท างานต่าง ๆ ซึ่งในบางครั้งจะมีการใช้ภาษาองกฤษเป็น
เครื่องมือในการติดต่อสื่อสาร ดังนั้นจึงควรมีการเรียนรู้ประโยคและส านวนต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ซึ่งสามารถน าไป

ประยุกต์ใช้ในการประชุมภายในองค์กรนั้นๆ ได้ เช่น ประโยค ส านวน หรือวลีที่ใช้ในการเปิด หรือการปิด

การประชุม การแสดงความคิดเห็น การเห็นด้วย หรือการไม่เห็นด้วยในเรื่องต่างๆ ของที่ประชุม เป็นต้น
ขอเริ่มต้นด้วยการใช้ค ากริยาที่ใช้กับค าว่าการประชุมในภาษาองกฤษ (meetings) คือ ค ากริยา “have”

และ “hold” ดังนี้


 We’re going to have another department meeting on Friday.

เราก าลังจะมีการประชุมของกรมในวันศุกร์นี้

 Let’s hold a meeting to discuss the policy changes.
เรามาจัดการประชุมเพื่อถกปัญหาการเปลี่ยนแปลงนโยบายกันเถอะ



แต่อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถใช้ค ากริยา “schedule” “arrange” หรือ “organize” เมื่อต้องการพดถึง

การจัดการประชุมในอนาคตได้เช่นกัน
เมื่อท่านเข้าร่วมประชุม ให้ใช้ค ากริยา “attend” the meeting ส าหรับความหมายที่เป็นทางการ หรือ

“go to” the meeting ในความหมายทั่วไปได้ เช่น


 Several people did not attend the development meeting.

หลายคนไม่ได้เข้าร่วมการประชุมการพัฒนา

 Did you go to the project team meeting?
ท่านได้เข้าร่วมประชุมคณะท างานโครงการหรือเปล่า





















9 | P a g e


ื่
ก่อนการประชุม จะมีการท าหนังสือแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบเพอเชิญประชุม (notice of meeting) โดยมี
การแนบวาระการประชุม (agenda) พร้อมกับแนบรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา (the minutes of the last

meeting) เพอให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ หรือศึกษาข้อมูลก่อนล่วงหน้า ในการประชุมที่เป็นทางการจะมีขั้นตอนและ
ื่
ส านวนภาษา ดังต่อไปนี้


1. การเปิดการประชุม
1.1 ประธาน (chairperson or chair) กล่าวเปิดการประชุม เมื่อเห็นว่าครบองค์ประชุมหรือถึงก าหนดเวลา

สามารถกล่าวเปิดการประชุมได้ ดังนี้

 Ladies and gentlemen, may I call the meeting to order.
ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรีครับ/คะ ผม/ดิฉันขอเปิดการประชุม

 Well, I think everyone is here now, so we’d better get started.

ผม/ดิฉันคิดว่าครบองค์ประชุมแล้ว ขอเปิดการประชุม

 Hello, everyone. Thank you for coming today.
สวัสดีทุกๆ ท่าน ขอขอบคุณส าหรับการมาร่วมประชุมในวันนี้

 Since everyone is here, let’s get started.
เมื่อทุกท่านพร้อมแล้ว ขอเริ่มเปิดการประชุม




1.2 ประธานขอให้ผู้เข้าร่วมประชุม (participants) ร่วมกันพจารณารับรองรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา
(to adopt the last minutes) ถ้าหากเห็นว่าไม่ตรงกับที่ได้ลงมติกันไว้ในการประชุมครั้งที่ผ่านมา ก็ขอให้แก้ไข
รายงานการประชุมนั้น

 Ladies and gentlemen, should we start with the adoption of the last minutes. I’d like

to know if anybody has any comment about the minutes. May I suggest that we go
through them page by page.

Does anybody wish to propose an amendment on page (1 2 3...........).

ท่านสุภาพบุรุษและสุภาพสตรี เรามาเริ่มการพิจารณารับรองรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา ท่านใด
มีข้อคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ/คะ ขอให้ช่วยกันดูทีละหน้า ........ มีท่านใดจะขอแก้ไขที่หน้า (1 2 3...)

บ้างไหมครับ/คะ














10 | P a g e


1.2.1 หากมีการขอแก้ไขก็จะพูดดังต่อไปนี้
 Mr./Madam Chairman, I’m… (ชื่อ ต าแหน่ง), I propose that… (จุดที่จะแกไข)

ท่านประธาน ผม/ดิฉัน... (ชื่อ ต าแหน่ง) ขอแก้ไข...


1.2.2 เมื่อปรับแก้ไขแล้ว ประธานจะบอกให้พลิกหน้าต่อไป

 Let’s proceed to the next page.

โปรดพลิกหน้าต่อไป



1.2.3 เมื่อครบทุกหน้าแล้วประธานจะกล่าวสรุปเพื่อรับรองการประชุมที่แกไขแล้ว
 I take it that the last minutes are adopted with those changes by the meeting.
ผม/ดิฉันขอสรุปว่า ที่ประชุมตกลงรับรองรายงานการประชุมครั้งที่ผ่านมา รวมทั้งส่วนที่แกไขใน

คราวนี้ด้วย























1.3 ประธานบอกวัตถุประสงค์ของการประชุม



 As you know, the purpose of this meeting is to consider the proposed project on ........
(ชื่อโครงการ).

ดังที่ทุกท่านทราบ วัตถุประสงค์ของการประชุมครั้งนี้คือ เพื่อพิจารณาโครงการเรื่อง.......................
(ชื่อโครงการ)

 As you can see from the agenda, we’ll be talking about… (ชื่อโครงการ)

ดังที่ทุกท่านเห็นจากวาระการประชุม เราจะพูดคุยเกี่ยวกับ...(ชื่อโครงการ)

 Can I ask you to look at the agenda?
ผม/ดิฉันขอให้ทุกท่านดูวาระการประชุมครับ/ค่ะ




11 | P a g e


 Our main goal today is to determine the budget for 2023.
เป้าหมายหลักของเราในวันนี้คือ เพื่อตกลงใจเรื่องงบประมาณส าหรับปี 2023

 The aim of this meeting is to…….. .

วัตถุประสงค์ของการประชุมคอ………

 After that, under item 3 we need to focus on………

หลังจากนั้น ภายใต้วาระที่ 3 พวกเราจะมุ่งเน้นเรื่อง...........



2. การเข้าสู่วาระการประชุม
 Let us first consider adopting the tentative agenda. Is there any suggestion?

ิ่
ขอให้เรามาพิจารณาวาระการประชุมเบื้องต้น มีผู้ใดเสนอความคิดเห็นเพมเติมบ้างไหม
 Does the meeting accept the proposal made by…........ (ชื่อ)?
ที่ประชุมจะรับข้อเสนอของคุณ ............ (ชื่อ) หรือไม่

 No objection. The amended agenda is adopted.


ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เป็นอันว่าที่ประชุมยอมรับวาระการประชุมตามที่ได้แกไข















3. การพิจารณาตามวาระต่างๆ

 Shall we start now with the first item? May I invite… (ชื่อ) to give his/her comments?

เราจะเริ่มวาระที่ 1 ขอเชิญคุณ...............(ชื่อ) แสดงความคิดเห็นครับ/ค่ะ
 Any other suggestions? / Would anyone like to say anything on this point?

มีท่านใดจะเสนอความคิดเห็นเพิ่มเติมหรือไม่

 If none, I thank….......... (ชื่อ) for his constructive comments.

ิ่
ถ้าไม่มท่านใดเสนอเพมเติม ขอขอบคุณ.............. (ชื่อ) ที่ได้ให้ข้อคิดเห็นที่มีประโยชน์
ิ่
ถ้าหากจะขอเสนอญัตติเพมเติมให้แจ้งกับประธานดังนี้
 Mr./Madam Chairman, I propose the motion that ….........
ิ่
เรียนท่านประธาน ผม/ดิฉันขอเสนอญัตติเพมเติมว่า .............




12 | P a g e


หากเห็นว่าควรยุติการอภิปรายในญัตตินั้นๆ ก็จะกล่าวว่า
 Mr./Madam Chairman, I move that the question be now put.

เรียนท่านประธาน ผม/ดิฉันขอเสนอให้ยุติการอภิปรายในญัตตินี้

 Mr./Madam Chairman, I move the motion that we vote on the project / I move that
the motion is put to the vote.

เรียนท่านประธาน ผม/ดิฉันขอเสนอให้มีการออกเสียงว่าจะรับโครงการนี้หรือไม่














4. การออกเสียงคัดค้าน / สนับสนุน
การประชุมเริ่มต้นด้วยการน าเสนอข้อมูล และการสอบถามว่าเห็นด้วยหรือไม่ พร้อมทั้งให้แสดงความคิดเห็น

 We will now take the vote. Who is in favor of the project? Please raise your hand.
เราจะลงคะแนนเสียง ผู้ใดสนับสนุนโครงการนี้ กรุณายกมอขึ้น

 Who is against the project? Please raise your hand.

ผู้ใดคัดค้านโครงการนี้ กรุณายกมอขึ้น

 Five in favor, twelve against, and three abstentions. This motion has been defeated by
7 votes. I declare this motion lost.

5 ท่านเห็นด้วย 12 ท่านคัดค้าน 3 ท่านงดออกเสียง ดังนั้นขอประกาศว่าญัตตินี้ตกไป
 The motion is carried unanimously.

ญัตตินี้ได้รับความเห็นชอบเป็นเอกฉันท์

 The motion is carried by an overwhelming majority.
ญัตตินี้ได้รับเสียงสนับสนุนเป็นส่วนใหญ่

 I hereby declare that the motion was carried.

ผม/ดิฉันขอประกาศว่าญ้ตตินี้ได้รับความเห็นชอบ

 It’s a 50-50 split, so I am going to use the chairman’s casting vote in favor of the motion.
ผลการออกเสียงแบ่งออกเป็น 50-50 ดังนั้นผม/ดิฉันจะใช้การออกเสียงชี้ขาดของประธานในที่ประชุมใน

การเห็นชอบของญัตติ





13 | P a g e


5. การเสนอให้น าวาระต่อไปมาพูดในที่ประชุม
 Mr./Madam Chairman, I beg to move a motion that we proceed to the next issue/item

on the agenda.

เรียนท่านประธาน ผม/ดิฉันขอเสนอให้พิจารณาในวาระถัดไปครับ/ค่ะ
 Can we move on to the next item?

เราสามารถไปยังวาระต่อไปได้ไหม

 So, shall we turn to item three?
พวกเราไปยังวาระที่ 3 ได้แล้วครับ/ค่ะ

 Let’s turn to the next item?

ขอไปที่วาระต่อไปครับ/ค่ะ












6. การแสดงความคิดเห็น
ค าถาม

 What does everyone think about…........?

ทุกๆ ท่านคิดอย่างไรเกี่ยวกับ...........
 I’d like to get your feedback on….........

ผม/ดิฉันต้องการได้ข้อเสนอแนะเรื่อง..........

 What are your thoughts about.........…?
ความคิดของคุณเกี่ยวกับ............มีอะไรบ้าง

 What are your views on….........?

มุมมองของคุณในเรื่อง..........มีอะไรบ้าง
 What does everyone else think?

ทุก ๆ ท่าน คิดอย่างไรกันบ้าง

 Are there any other comments?
มีค าวิจารณ์อื่นๆ บ้างไหม

 Would you like to add anything?

คุณต้องการเพิ่มเติมอะไรบ้างไหม


14 | P a g e


การแสดงความคิดเห็น
 Would I strongly believe that…........

ผม/ดิฉันเชื่ออย่างจริงจังว่า............

 I’m positive that….........
ผม/ดิฉันเห็นด้วยว่า..........

 I’m convinced that….......

ผม/ดิฉันมั่นใจว่า...........
 I have no doubt whatsoever that…........

ผม/ดิฉันไม่มีข้อสงสัยอะไรเลยว่า..........

 There’s no question that…........
ไม่มีค าถามอื่นใดเกี่ยวกับ..........

 I think / believe / feel that….........

ผม/ดิฉันคิด/เชื่อ/รู้สึกว่า..........
 From my point of view, ….......

จากมุมมองของผม/ดิฉัน.........

















 In my experience…......

ตามประสบการณ์ของผม/ดิฉัน…......
 I’d say that… ........

ผม/ดิฉันอยากจะกล่าวว่า..........

 If you want my honest opinion, I think that….......
ถ้าคุณต้องการความคิดเห็นที่มาจากใจจริง ผม/ดิฉันคิดว่า….......

 To be honest…........

ด้วยความจริงใจเลยว่า...........




15 | P a g e


การกล่าวเห็นด้วยหรือคัดค้านความคิดเห็นผู้อื่น
 I completely/absolutely agree.

ผม/ดิฉันเห็นด้วยอย่างยิ่ง

 I agree with you entirely.
ผม/ดิฉันเห็นด้วยกับคุณทั้งหมด

 I couldn’t agree more./I couldn’t agree with you more.

ผม/ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างมาก
 You’re absolutely right.

คุณถูกต้องเป็นอย่างมาก

 That’s a proper solution.
นั่นเป็นข้อแก้ไขที่ถูกต้อง

 I agree with you up to a point, but….......

ผม/ดิฉันเห็นด้วยกับมุมมองนั้น แต่..........
 I agree with you in principle, but…........

ผม/ดิฉันเห็นด้วยในหลักการนั้น แต่..........

 I think it might not be feasible because...........
ผม/ดิฉันคิดว่าคงเป็นไปไม่ได้เพราะ...........

 You might be right, but….........

คุณอาจจะถูก แต่...........
 It’s a good idea, but…........

นั่นเป็นความคิดที่ดี แต่............














 I’m afraid I disagree.
ผม/ดิฉันเกรงว่าผม/ดิฉันไม่เห็นด้วย

 I’m not so sure about that.
ผม/ดิฉันไม่แน่ใจกับสิ่งนั้น



16 | P a g e


 I disagree completely with that.
ผม/ดิฉันไม่เห็นด้วยกับสิ่งนั้น

 I’m completely against that.

ผม/ดิฉันขอคัดค้านสิ่งนั้น


7. การขอขัดจังหวะ

 Excuse me, can I interrupt?
ผม/ดิฉันขออนุญาตขัดจังหวะ

 May I have a word?

ผม/ดิฉันขออนุญาตกล่าวบางอย่าง



















8. การขอพักการประชุม

 The meeting is adjourned. We will reconvene tomorrow at 0900.

ขอยุติการประชุม เราจะเริ่มประชุมใหม่ในวันพรุ่งนี้ เวลาเก้าโมงเช้า
 We will adjourn for lunch and come back again at 1300.

เราจะพักรับประทานอาหารกลางวัน แล้วกลับมาพบกันใหม่เวลาบ่ายโมง




















17 | P a g e


9. การปิดการประชุม
 May I propose that we stop here. I declare the meeting closed.

ผม/ดิฉันขอยุติการประชุมแต่เพียงเท่านี้ ขอปิดการประชุม

 Let’s close the meeting.
ขอปิดการประชุม

























































18 | P a g e


บทที่ 3


การต้อนรับผู้มาเยือน (Receiving Visitors)





วิธีการกล่าวต้อนรับแขกที่มาเยือนนั้นมีมากมายหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ทางคณะผู้จัดท าจะขอแนะน า

ประโยคและส านวนพดต่าง ๆ ที่ใช้กันบ่อย ๆ ซึ่งสามารถใช้ทักทายผู้มาเยือน และกล่าวต้อนรับตามมารยาทได้
ดังต่อไปนี้
 I am so glad that you could come. ผม/ดิฉันดีใจจริงๆ ที่คุณสามารถมาได้



 I am so happy that you come to visit me. ผม/ดิฉันดีใจมากที่คุณมาเยือน
ในบางโอกาสที่มีผู้มาติดต่อยังส านักงาน เราอาจไม่จ าเป็นต้องรอให้ผู้มาติดต่อแนะน าตัวเองโดยเราสามารถ

กล่าวทักทายก่อน เช่น


 Good morning/afternoon, Sir/Ma’am/Miss. สวัสดีตอนเช้า/ ตอนบ่ายครับ/ค่ะ

 How do you do, Sir/Ma’am/Miss? สวัสดีครับ/ค่ะ
และต่อด้วยประโยคใดประโยคหนึ่งดังต่อไปนี้


 Could/May I help you? มีอะไรให้ผม/ดิฉันช่วยไหม
 What can I do for you? ผม/ดิฉันสามารถช่วยอะไรคุณได้บ้าง





















หลังจากนั้นผู้มาเยือนจะแนะน าตนเองและแจ้งวัตถุประสงค์ของการมาซึ่งแยกออกได้เป็นการมาตามที่ได้

นัดหมายไว้ และการมาโดยไม่ได้นัดหมายไว้ ในกรณีที่ผู้มาเยือนมาตามที่ได้นัดหมายไว้และได้แนะน าตนเองแล้ว

สิ่งที่เราควรกระท าก็คือบอกให้ผู้มาเยือนรอสักครู่ขณะที่เราโทรศัพท์ หรือเดินไปแจ้งให้บุคคลที่ผู้มาเยือนต้องการ
จะพบได้ทราบและกลับมาแจ้งให้ผู้มาเยือนทราบ




19 | P a g e


การบอกให้ผู้มาเยือนรอสักครู่

 Please take/have a seat. Just a moment, please. เชิญนั่งรอสักครู่

 If you’d like to take a seat for a moment. เชิญนั่งรอสักครู่

 Would you please wait for a few minutes? กรุณารอสักครู่
การอนุญาตให้ผู้มาเยือนเข้าพบได้

 Please send him/her in. กรุณาเชิญเขา/เธอเข้ามาได้

 Show him/her in, please. กรุณาบอกให้เขา/เธอเข้ามาได้

 Please let him/her in. กรุณาอนุญาตให้เขา/เธอเข้ามาได้
การกลับมาแจ้งให้ผู้มาเยือนทราบ


 Mr./Mrs./Miss ........... will see/receive you now. คุณ..........จะให้คุณเข้าพบได้ในตอนนี้
การเชื้อเชิญ


 If you’ll just follow me, Sir/Ma’am/Miss. คุณตามผม/ดิฉันมาได้เลยครับ/ค่ะ

 This way, please. กรุณามาทางนี้ /เชิญทางนี้

 Please follow me. กรุณาตามผม/ดิฉัน
 I will take you to his/her office. ผม/ดิฉันจะพาคุณไปห้องท างานของเขา

ในกรณีบุคคลที่ผู้มาเยือนต้องการพบไม่อยู่หรือไม่ว่างที่จะพบได้ในขณะนั้น อาจใช้ประโยคต่อไปนี้

 I’m sorry, but LT Jones is not in today.

ผม/ดิฉันขอโทษครับ/ค่ะ วันนี้ ร.อ.โจนส์ไม่อยู่


 I’m sorry, but LT Jones is in a meeting at the moment.
ผม/ดิฉันขอโทษครับ/ค่ะ ขณะนี้ ร.อ.โจนส์ อยู่ในที่ประชุม


 I’m sorry, but LT Jones has just left/gone out.

ผม/ดิฉันขอโทษครับ/ค่ะ ร.อ.โจนส์ เพิ่งจะออกไปข้างนอก

 I’m afraid LT Jones is not in today.

ผม/ดิฉันเกรงว่า ร.อ.โจนส์ ไม่อยู่ในวันนี้













20 | P a g e


อาจถามต่อด้วยประโยคต่อไปนี้ตามความเหมาะสมของแต่ละสถานการณ์

 Would you like to wait for a few minutes? คุณต้องการรอสักครู่ไหม

 Would you like to leave a message? คุณต้องการฝากขอความไหม

 Would you like to make a new appointment? คุณต้องการนัดหมายใหม่หรือไม่
 Would you like to come back later? คุณต้องการจะกลับมาในภายหลังไหม

หรือจะใช้ If you’d ......... (ย่อมาจาก If you would ..........) แทน Would you ... ก็ได้ โดยประโยค

Would you ....... นั้นเป็นเชิงถามความประสงค์ ส่วนประโยค If you’d ... นั้นเป็นเชิงเสนอแนะ ยกตัวอย่างเช่น

 If you’d like to wait for a few minutes. ถ้าคุณต้องการจะรอสักครู่



อนึ่ง การลงท้ายประโยคด้วย Sir/Ma’am/Miss นั้นเป็นการแสดงความสุภาพออนน้อมของผู้พด คล้ายกับ
ค าลงท้าย ครับ/ค่ะ ของไทย แต่การใช้ Sir/Ma’am/Miss นั้นมีข้อแตกต่างจากครับ/ค่ะ คือการใช้ครับ/ค่ะ นั้นยึด

เอาเพศของผู้พดเป็นหลัก แต่ Sir/Ma’am/Miss นั้นยึดเอาเพศหรือสถานภาพของผู้ที่เราพดด้วยเป็นหลัก หากผู้ที่


เราพูดด้วยเป็นชายต้องใช้ Sir เสมอ (โดยไม่ค านึงว่าผู้พดเป็นหญิงหรือชาย) และหากผู้ที่เราพดด้วยเป็นหญิงต้องใช้

Ma’am (ออกเสียงว่า “แหม่ม” ใช้กับหญิงทั่วๆ ไป ซึ่งเป็นค าเรียกสตรีที่สุภาพหรือมียศสูงกว่า) Miss (ใช้กับหญิงที่
ยังไม่แต่งงาน) หรือ Ms. (ใช้ในกรณีที่ผู้พูดไม่รู้สถานภาพของคู่สนทนา)


ตัวอย่าง 1 บทสนทนา

You : Good morning, Ma’am. May I help you?


Visitor : I’m Susan Brown from Comtech. I have an appointment with CAPT Lopez.

You : Please have a seat. I’ll tell her that you’re here.

------------------------------------------

You : CAPT Lopez, Ms. Brown from Comtech is here to see you.

Lopez : Please send her in.


You : CAPT Lopez will see you now. If you’ll just follow me, Ma’am.

Visitor : All right.















21 | P a g e


ตัวอย่าง 2 บทสนทนา

You : How do you do, Sir? Could I help you?


Visitor : I’d like to see LT Lewis. I’m James Carson from May Company.

You : Is he expecting you?


Visitor : No, I’m afraid he isn’t.

You : If you’d like to take a seat for a moment.


----------------------------------------
You : I’m sorry, but he is in a meeting at the moment. Would you like to leave a message for

him?












































22 | P a g e


ตัวอย่าง 3 บทกล่าวต้อนรับผู้มาเยี่ยมชมหน่วยงาน

Speech for Receiving Visitors


We are proud and honored to have such a distinguished group of guests come all the
way from Republic of Singapore to visit our Royal Thai Naval Academy.


Our staff will do their best to make your visit comfortable and worthwhile. Today, they

will introduce you to our facilities for training the cadets. Please do not hesitate to ask any
questions you may have.


I want to extend my warmest welcome to all of you, and sincerely hope that your visit
here will be worthwhile and meaningful.


____________________________________

ค ากล่าวต้อนรับผู้มาเยี่ยม


เรารู้สึกภูมิใจและเป็นเกียรติที่ได้ให้การต้อนรับแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ซึ่งเดินทางมาจากประเทศสาธารณรัฐ

สิงคโปร์เพื่อเยี่ยมชมโรงเรียนนายเรือของเรา


เจ้าหน้าที่ของเราจะอ านวยความสะดวกแก่ทกท่านอย่างดีที่สุด วันนี้พวกเราจะพาทุกท่านไปชม และจะ
แนะน าสิ่งอ านวยความสะดวกต่างๆ ในการฝึกนักเรียนนายเรือ ถ้าหากว่าท่านมีข้อสงสัย กรุณาสอบถามได้ทันที

กระผมยินดีต้อนรับทุกท่านด้วยความอบอุ่นยิ่ง และหวังอย่างจริงใจว่าการมาเยี่ยมชมของท่านครั้งนี้จะ

คุ้มค่า และบรรลุผลตามความมุ่งหมายทุกประการ





























23 | P a g e


ตัวอย่างประโยคเกี่ยวกับการกล่าวต้อนรับที่ควรรู้เพิ่มเติม

1. We would like to thank you for visiting Royal Thai Naval Academy.


เราขอขอบคุณที่มาเยี่ยมโรงเรียนนายเรือ

2. It is an honor and a privilege to receive a visit from such a distinguished group.


ี่
เป็นเกียรติและโชคดีทได้รับการเยี่ยมเยือนจากกลุ่มบุคคลที่มีเกียรติเช่นนี้
3. I would like to extend a warm welcome to you all.


กระผมยินดีต้อนรับทุกท่านอย่างอบอุ่น

4. Please feel free to ask us any questions you may have.


ถ้าท่านมีปัญหา เชิญสอบถามได้ตามสบาย


5. Today you will be introduced to the information processing center.

วันนี้ ท่านจะได้รับการแนะน าให้รู้จักศูนย์ปฏิบัติการทางข่าวสารข้อมูล


6. I want to welcome you all.

กระผมยินดีต้อนรับทุกท่าน


7. Thank you for coming all the way to Thailand to visit us.

ขอขอบคุณที่เดินทางมาจากทั่วทุกทิศ สู่ประเทศไทยเพื่อมาเยี่ยมเยือนเรา


8. Welcome to Royal Thai Naval Academy.

ยินดีต้อนรับสู่โรงเรียนนายเรือ


9. It is a great pleasure having you here.


เป็นสิ่งที่น่ายินดีมากที่ได้ต้อนรับทุกท่านที่นี่

10. We will do our best to make your visit a comfortable one.


เราจะอ านวยความสะดวกให้ดีที่สุดต่อการมาเยี่ยมชมของท่าน

11. Let me cordially welcome you to Royal Thai Naval Academy.


ยินดีต้อนรับท่านสู่โรงเรียนนายเรืออย่างจริงใจ




24 | P a g e


12. I am pleased I meet such an interesting group of people.

กระผมรู้สึกยินดีที่พบกลุ่มบุคคลที่น่าสนใจเช่นนี้


13. Today we would like to show you around our headquarters.

วันนี้ เราปรารถนาน าท่านไปชมรอบๆ กองบัญชาการของเรา



























































25 | P a g e


บทที่ 4

การแสดงความขอบคุณ (Expressing Gratitude)







ื้
ค าขอบคุณหรือค าว่า “Thank you” ในภาษาองกฤษนั้น เป็นค าเรียบง่ายที่เป็นรูปแบบพนฐานของ
ความสุภาพ ซึ่งเป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก ค าขอบคุณนี้สามารถใช้ในการเปิดประตูใจของใครต่อใครได้ ที่ไม่ว่าใครก็

ื่

ตามที่ได้ฟงแล้วก็ต้องรู้สึกดี ค าขอบคุณ “Thank you” นั้นสามารถพดหรือเขียนก็ได้ แต่เพอให้เกิดความรู้สึกที่
แตกต่างจากความเรียบง่ายนั้น ทางคณะผู้จัดท าจะเสนอค า และวลีที่น่าสนใจที่ท่านสามารถน าไปใช้เพอแสดง
ื่
ความขอบคุณเป็นภาษาอังกฤษ และเป็นการแสดงความรู้สึกขอบคุณอย่างแท้จริงในโอกาสต่าง ๆ ได้ ดังต่อไปนี้

1. ค าขอบคุณแบบพื้นฐานที่ใช้บ่อยๆ ไม่เป็นทางการ หรือใช้กับคนที่สนิทด้วย
การกล่าวขอบคุณในสถานการณ์ทั่วไปที่คุณต้องเจอบ่อย ๆ เป็นประจ าทุกวัน คุณสามารถใช้ค าเหล่านี้ได้ทั้ง

กับคนสนิท หรือคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักก็ได้เช่นกัน ขึ้นอยู่กับบริบทต่างๆ อาทิเช่น



 Thank you. นั้นเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด และพื้นฐานในการกล่าวค าขอบคุณ เหมาะส าหรับสถานการณ์ทั่วไป
และเป็นทางการ

 Thanks! เป็นการกล่าวขอบคุณแบบสั้น เน้นเป็นกันเองมากขึ้นเมื่อเทียบกับ Thank you ท่านสามารถ

ื่
ใช้ Thanks กับครอบครัว เพอน คนที่รู้จัก หรือไม่รู้จัก (คนแปลกหน้า) ก็ได้ แต่ท่านจะต้องเติม s ด้วยทุก
ครั้ง ทั้งการเขียนและการออกเสียง

 Thanks so much. เป็นการเน้นย้ าการขอบคุณ ใช้ส าหรับความสัมพันธ์ที่สนิทสนมกัน ไม่เหมาะส าหรับ

การใช้ที่เป็นทางการ
 Thanks a million. / Thanks a ton. / Thanks a bunch. คุณสามารถใช้วลีนี้กับคนที่คุณรู้สึกว่ามี

ความสัมพันธ์แบบใกล้ชิดสนิทสนมได้

 Many thanks. /Thanks a lot. ส านวนนี้แปลเป็นไทยว่า “ขอบคุณมาก/ขอบใจมาก” มักใช้กับคนใน
ครอบครัว เพื่อน หรือเพอนร่วมงานที่สนิท เป็นการขอบคุณที่ไม่เป็นทางการ
ื่

















26 | P a g e


2. ค าขอบคุณที่ใช้เมื่อมีใครบางคนให้ความช่วยเหลือคุณแบบเป็นทางการ
เมื่อมีใครบางคนช่วยคุณท าอะไรบางอย่าง นี่คือวิธีที่คุณสามารถขอบคุณพวกเขาส าหรับความมีน้ าใจ และ

ความช่วยเหลือ เช่น


 That’s very kind of you. / Thank you kindly. ส านวนนี้แปลเป็นไทยว่า “ขอบคุณมาก” เป็น

ค ากล่าวขอบคุณอย่างเป็นทางการและสุภาพมาก

 Please accept my deepest thanks. เป็นการกล่าวขอบคุณที่เป็นทางการ มีความหมายว่า “โปรดรับ
ค าขอบคุณอย่างสุดซึ้งของฉัน”

 I appreciate your thoughtfulness, you’ve made my day! เป็นค าขอบคุณที่รู้สึกซาบซึ้งมาก ๆ

เพราะเป็นการเน้นย้ า “made my day” ซึ่งเป็นการกล่าวขอบคุณที่แตกต่างจากรูปแบบเดิม ๆ เป็น
การสร้างความประทับใจให้ผู้รับ เพราะส านวน “You’ve made my day.” มีความหมายว่า “คุณท าให้

วันธรรมดาๆ ของฉันกลายเป็นวันดีๆ ที่น่าจดจ า”





















3. ค าขอบคุณเมอมีคนช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายที่ส าคัญ
ื่
การบรรลุความส าเร็จหรือเป้าหมายส าคัญนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายเสมอไป บ่อยครั้งที่มาในรูปแบบการช่วยเหลือ
และการสนับสนุนจากผู้คนรอบข้างที่ท าให้คุณประสบความส าเร็จได้ ต่อไปนี้จะขอแนะน าวิธีที่จะขอบคุณคนที่มีส่วน

ร่วมในความส าเร็จของคุณ


 I couldn’t have done it without you. ฉันไม่สามารถทาได้หากไม่มีคณ


 I really want to thank you for your help. ฉันอยากจะขอบคุณส าหรับความช่วยเหลือของคุณ

 I really appreciate everything you’ve done. ฉันซาบซึ้งส าหรับทุกสิ่งที่คุณท า

 Grateful for your support. รู้สึกขอบคุณส าหรับการสนับสนุน
(หากมีใครที่ช่วยเหลือและสนับสนุนคุณทุก ๆ เรื่องและคุณรู้สึกอยากขอบคุณพวกเขาเหล่านั้นก็สามารถ

ใช้ประโยคนี้ได้)



27 | P a g e


 I’m really grateful for your help. ฉันรู้สึกขอบคุณจริง ๆ ส าหรับความช่วยเหลือของคุณ
 This means a lot to me. มันมีความหมายกับฉันมาก

 From the bottom of my heart, thank you. ขอบคุณจากก้นบึ้งของหัวใจ

(เป็นการแสดงความขอบคุณ ความรู้สึกซาบซึ้งที่ออกมาจากใจจริง ๆ)
 I can’t even begin to explain how much your help meant to me.

ฉันไม่สามารถเริ่มอธิบายได้ว่าความช่วยเหลือของคุณมีความหมายต่อฉันมากเพียงใด

 Thank you for taking the time to help me, it really meant a lot.
ขอบคุณที่สละเวลาช่วยฉัน มันมีความหมายมากจริงๆ




















4. ค าขอบคุณส าหรับใช้ในที่ท างาน
ื่
การที่จะบอกผู้บังคับบัญชาหรือเพอนร่วมงานของคุณว่าคุณซาบซึ้งกับพวกเขาและผลงานของพวกเขามาก

แค่ไหน บางทีคุณเพงเสร็จสิ้นการท าโครงการที่คุณรู้ว่าไม่สามารถท าได้โดยล าพงโดยปราศจากความเชี่ยวชาญหรือ
ิ่
ื่

ค าแนะน าของผู้บังคับบัญชา หรือเพอนร่วมงานของคุณที่เพยงแค่ให้ค าแนะน าเล็กน้อยแต่กลับมีค่ามาก การพด

ขอบคุณที่แสดงความซาบซึ้งส าหรับคนที่ท างานอย่างหนัก หรือท างานอย่างเต็มที่เพื่อคุณ อาจใช้ประโยคดังต่อไปนี้

 Thank you for all your hard work on this. ขอบคุณส าหรับการท างานอย่างหนักของคุณ
 I truly appreciate your hard work. ผม/ดิฉันรู้สึกซาบซึ้งกับการท างานอย่างหนักของคุณ

ประโยคที่สองจะเป็นการกล่าวขอบคุณแบบรู้สึกขอบคุณจากใจ / ซาบซึ้ง / ประทับใจ มากกว่าประโยคแรก

 Thank you for helping me with this project. ขอบคุณที่ช่วยฉันท าโครงการนี้
 Thank you for taking the time to explain this. ขอบคุณที่สละเวลาอธิบายสิ่งนี้


 Thanks again for meeting with me today. ขอบคุณอกครั้งส าหรับการประชุมในวันนี้
 Thank you for leading by example. ขอบคุณส าหรับการเป็นผู้น าที่เป็นตัวอย่างที่ดี

 I truly enjoy being a part of your team. ฉันสนุกกับการเป็นส่วนหนึ่งของทีมของคุณ
 I appreciate your dedication. ฉันรู้สึกซาบซึ้งในการอุทิศตัวของคุณ



28 | P a g e


 Thank you for entrusting me with this project.
ขอบคุณส าหรับความไว้วางใจที่ให้ฉันท าโครงการนี้

 Thank you for sharing your honest feedback about the project.

ขอบคุณส าหรับการแบ่งปันความคิดเห็นเกี่ยวกับโครงการนี้
 I want to express my gratitude for everything that you’ve helped me achieve here.


ฉันอยากจะแสดงความขอบคุณ ส าหรับทุกสิ่งที่คณช่วยให้ฉันประสบความส าเร็จส าหรับงานชิ้นนี้
 Thank you for always going above and beyond to ensure the success of a project.
ื่
ขอบคุณส าหรับการท างานที่ยอดเยี่ยมเสมอมา เพอความส าเร็จของโครงการนี้


5. ค ากล่าวขอบคุณอย่างเป็นทางการ
เมื่อคุณติดต่อกับหน่วยงาน หรือองค์กรต่างๆ ซึ่งเป็นเรื่องทางการ คุณอาจต้องการใช้ข้อความในการแสดง

ความขอบคุณแบบเป็นทางการด้วยเช่นกัน ดังตัวอย่างต่อไปนี้


 Thank you for your prompt reply. ขอบคุณส าหรับการตอบกลับของคุณ

 I appreciate your feedback. ผม/ดิฉันขอบคุณส าหรับข้อเสนอแนะของคุณ

 I’m grateful for your assistance. ผม/ดิฉันขอบคุณส าหรับความช่วยเหลือของคุณ

 Thank you for your guidance. ขอบคุณส าหรับค าแนะน าของคุณ
 Thanks for explaining this to me. ขอบคุณทอธิบายสิ่งนี้ให้ผม/ดิฉัน
ี่


6. ค ากล่าวขอบคุณส าหรับของขวัญเนื่องในโอกาสวันพิเศษ
หากคุณมีการจัดงานวันเกิด งานแต่งงาน หรือมีสมาชิกเด็กน้อยคนใหม่ในบ้าน และคุณต้องการขอบคุณ

แขกที่มาร่วมงาน เพอแสดงถึงความซาบซึ้งที่ท าให้คุณมีความรู้สึกพเศษ หรือพวกเขาท าให้วันของคุณสนุกสนาน
ื่

หรือสดใสขึ้น คุณสามารถกล่าวแสดงความขอบคุณได้ดังนี้


 I just wanted to write to say thanks a bunch for the gift.


ฉันแคอยากจะเขียนเพื่อบอกว่าขอบคุณมาก ๆ ส าหรับของขวัญ
 Thank you for the beautiful blouse, I can’t wait to wear it this weekend.

ขอบคุณส าหรับเสื้อสวย ๆ ฉันแทบอดใจรอไม่ได้ที่จะใส่ในสุดสัปดาห์นี้

 Thank you for coming to my birthday party, it was more special getting to celebrate with you.
ขอบคุณทมาร่วมงานเลี้ยงวันเกิดของผม/ดิฉัน มันพิเศษมากที่ได้ฉลองกับคณ
ี่






29 | P a g e


 This is exactly what I’ve been wanting, thank you so much for getting it for me.
นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการอย่างแท้จริง ขอบคุณมาก ส าหรับสิ่งนี้ที่ให้แก่ผม/ดิฉัน

 I’m so grateful for the housewarming gift you sent.

ฉันรู้สึกขอบคุณส าหรับของขวัญวันขึ้นบ้านใหม่ที่คุณส่งมา
 Words can’t even express my thanks, but I hope this gift will help show you how

grateful I am for a friend like you.

ค าพูดไม่สามารถแสดงความขอบคุณได้ แต่ผม/ดิฉันหวังว่าของขวัญชิ้นนี้จะช่วยแสดงให้คุณเห็นว่าผม/
ดิฉันรู้สึกขอบคุณ ส าหรับเพื่อนอย่างคุณ

 Thank you for helping me through that difficult time.

ขอบคุณที่ช่วยฉันผ่านช่วงเวลาที่ยากล าบากนี้























7. การพูดขอบคุณในโอกาสพิเศษอื่น ๆ


 I appreciate what you did. ฉันซาบซึ้งในสิ่งที่คณท า
 Thank you for your time today. ขอบคุณส าหรับเวลาของคุณวันนี้
 I value and respect your opinion. ฉันให้ความส าคัญและเคารพในความคิดเห็นของคุณ

 I am so thankful for what you did. ฉันรู้สึกขอบคุณมากส าหรับสิ่งที่คุณทา

 I wanted to take the time to thank you. ฉันต้องการใช้เวลาในการขอบคุณ
 I just want to say thanks for helping me with my project.


ฉันแคอยากจะบอกว่าขอบคุณที่ช่วยฉันท าโครงงานของฉันนะ
 Thanks a lot for your help – I couldn’t have done it without you!
ขอบคุณมากส าหรับความช่วยเหลือของคุณ – ฉันไม่สามารถท าได้หากไม่มีคุณ





30 | P a g e


การกล่าวตอบรับค าขอบคุณ:


 You’re welcome! ด้วยความยินดีครับ/ค่ะ

 It was my pleasure. ด้วยความยินดีครับ/ค่ะ

 My pleasure. ด้วยความยินดีครับ/ค่ะ
 Don’t mention it. อย่าไปพูดถึงเลยครับ/ค่ะ (เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เอง)

 It was nothing. ไม่เป็นไรเลยครับ/ค่ะ

 I’m glad that I can help you. ผม/ดิฉันยินดีมากที่ให้ความช่วยเหลือครับ/ค่ะ





















































31 | P a g e


ตัวอย่างบทกล่าวขอบคุณหลังการเยี่ยมชมหน่วยงาน

Director, Ladies and Gentlemen,


It is a great honor and privilege to pay a courtesy call on you today and attend the
briefing on Global Warming Reduction Project.

The briefing and the Center tour are of great benefit and maximum value. They enable us
to understand clearly how to create green spaces in the community and participate in the

reduction of global warming.

On behalf of our group, I wish to express our sincere thanks to you and other officials for
rendering us the informative briefing and thoughtful arrangement. If we can offer you any similar

service in the future, please let me know.

As a token of our appreciation and gratitude, I would like to present you with a small
souvenir, the symbol of Royal Thai Naval Academy. May I present to you this plaque.




ท่านผู้อ านวยการ ท่านผู้มีเกียรติ


พวกเรารู้สึกเป็นเกียรติที่ได้มีโอกาสมาเยี่ยมค านับท่านในวันนี้ และได้รับฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกับ

โครงการลดภาวะโลกร้อน


ค าบรรยายและการเดินชมศนย์ฯ มีประโยชน์แก่พวกเราอย่างยิ่ง ท าให้เข้าใจชัดเจนถึงการร่วมกันสร้าง
พื้นที่สีเขียวในชุมชนและเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาวะโลกร้อน

ในนามของผู้แทนคณะ กระผมขอขอบคุณที่ท่านและเจ้าหน้าที่ได้กรุณาให้ข้อมูลและต้อนรับพวกเราเป็น


อย่างดี หากเราสามารถให้บริการแกท่านในท านองเดียวกันนี้ได้บ้างในอนาคต โปรดแจ้งให้เราทราบ

เพื่อเป็นการแสดงความซาบซึ้งต่อน้ าใจไมตรีของท่าน เราขอมอบของที่ระลึกเล็กๆ น้อยๆ คือสัญลักษณของ


โรงเรียนนายเรือให้แกท่าน


















32 | P a g e


บรรณานุกรม

งามพริ้ง รุ่งโรจน์ดี. เมื่อจับไมค์พูดอังกฤษ. กรุงเทพมหานคร: ส านักพิมพ์ ส.ส.ท., 2551.



ส าราญ ค ายิ่ง. คู่มอพูดภาษาอังกฤษในพิธีการต่างๆ. กรุงเทพมหานคร: 2553.


Stephens, Bryan. Meetings in English. Oxford: Macmillan Education, 2016.


Grussendorf, Marion. English for Presentations. Oxford: Oxford University Press, 2015.


http://www.si-englishbkk.com/study-guide/direction-present-english-language/


http://thai2eng.blogspot.com/2011/03/blog-post_20.html



https://bestreview.asia/how-to/say-thank-you-english/






































33 | P a g e


Click to View FlipBook Version