The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ที่ละลึกในวันกองทัพเรือ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นาวิกศาสตร์, 2021-11-09 02:44:30

วันกองทัพเรือ

ที่ละลึกในวันกองทัพเรือ


ทัพเรือภาคที่ ๒ ส่งมอบห้องน้าและซ่อมแซมบ้าน

ให้ประชาชนในพื้นที่ที่ประสบอุทกภัย






ทัพเรือภาคที่ ๒ ส่งมอบห้องน�้าและซ่อมแซมบ้านให้ประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย โดย พลเรือโท ส�าเริง จันทร์โส
ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ ๒ (ในขณะนั้น) ในฐานะผู้อ�านวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ทัพเรือภาคที่ ๒ พร้อมด้วย นางภาวิณี

จันทร์โส ประธานชมรมภริยาทหารเรือ ทัพเรือภาคที่ ๒ (ในขณะนั้น) และนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทัพเรือภาคที่ ๒ จัดพิธีส่งมอบ

ห้องน้าและซ่อมแซมบ้านให้ นางจ�าเนียร สุวรรณะ พร้อมทั้งมอบถุงยังชีพให้ประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการช่วยเหลือและ
บรรเทาความเดือดร้อนในช่วงมรสุม ณ ต�าบลสทิงหม้อ อ�าเภอสทิงพระ จังหวัดสงขลา เมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔

ตามที่ได้เกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสงขลาในห้วงเดือนธันวาคม ๒๕๖๓ ทัพเรือภาคที่ ๒ โดยศูนย์บรรเทาสาธารณภัย
ทัพเรือภาคที่ ๒ ให้ความช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ จัดเรือผลักดันน้าเข้ามาท�าการผลักดันน้า บริเวณปากคลองสทิงหม้อ


จากเหตุการณ์ดังกล่าว ผู้อ�านวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัยทัพเรือภาคที่ ๒ เดินทางไปเยี่ยมประชาชนในพื้นที่ประสบอุทกภัย
และพบ นางจ�าเนียร สุวรรณะ อายุ ๗๕ ปี บ้านเลขที่ ๑๒๔/๑ หมู่ ๔ ต�าบลสทิงหม้อ อ�าเภอสิงหนคร จังหวัดสงขลา ได้รับ




ความเดือดร้อนจากบ้านท่อยู่อาศัยเสียหาย จึงส่งการให้หน่วยบรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือสงขลา ทัพเรือภาคท ๒
จัดก�าลังพลพร้อมยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ด�าเนินการก่อสร้างห้องน้าและซ่อมแซมบ้านหลังน้าลด ตั้งแต่วันที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๔


จนแล้วเสร็จ เมื่อวันที่ ๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔












99


ทัพเรือภาคที่ ๓ จัดกิจกรรมการมอบกล่องยา

และเวชภัณฑ์แก่ชาวประมงในทะเล




ทัพเรือภาคที่ ๓ โดย กองกิจการพลเรือน กองบัญชาการทัพเรือภาคที่ ๓ จัดกิจกรรมการมอบกล่องยาและเวชภัณฑ์






ให้เรือท่ปฏิบัติราชการในทะเล ประกอบด้วย เรือหลวงศรีราชา และ เรือ ต.๒๓๓ ซ่งปฏิบัติภารกิจในพ้นท่จังหวัดภูเกต
ณ หลักเทียบเรือ ทัพเรือภาคที่ ๓ ต�าบลวิชิต อ�าเภอเมืองภูเก็ต จังหวัดภูเก็ต เมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
โดยวัตถุประสงค์ของกิจกรรมในครั้งนี้ เพื่อให้เรือที่ปฏิบัติหน้าที่ในทัพเรือภาคที่ ๓ น�ากล่องยาและเวชภัณฑ์ ดังกล่าว



ไปมอบให้ชาวประมงในทะเลและประชาชนท่อาศัยอยู่ตามพ้นท่เกาะต่าง ๆ ในทะเลอันดามัน ซ่งห่างไกลจากการสาธารณสุขพ้นฐาน


ถือเป็นการส่งมอบความห่วงใยให้กันและกันจากหน่วยงานภาครัฐสู่ประชาชน


























100


กองทัพเรือเร่งใช้เรือผลักดันมวลน�้า

ระบายออกแม่น�้าเจ้าพระยาเตรียมรับมวลน�้าเหนือ










เม่อวันท ๒๖ กันยายน ๒๕๖๔ กองทัพเรือ โดย ชุดเฉพาะกิจผลักดันนาของกองทัพเรือ พร้อมกาลังพลสังกัดอู่ทหารเรือ
พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ ได้ล�าเลียงเรือผลักดันน�้า จ�านวน ๒๖ ล�า เข้าประจ�าการตามคลองต่าง ๆ ซึ่งจุดระบายน�้า
ที่ส�าคัญรวม ๕ จุด ได้แก่คลอง ๔ ต�าบลบางปลา คลองสุวรรณภูมิ หน้าสนามบินสุวรรณภูมิ ต�าบลบางโฉลง คลองกิ่งแก้ว
คลองขุด ต�าบลบางพลีใหญ่ และคลองส�าโรง โดยท�าการผลักดันน�้าวันละ ๑๖ - ๒๐ ชั่วโมงต่อวัน รองรับปริมาณน�้าที่ระบาย








ลงมาจากหลายจังหวัด ท้งอุทัยธาน ชัยนาท สิงห์บุร อ่างทอง สุพรรณบุร พระนครศรีอยุธยา ลพบุร ปทุมธาน นนทบุร รวมถง

กรุงเทพมหานคร ซ่งภารกิจผลักดันนาสามารถเพ่มการไหลเวียนของมวลนาไปยังประตูระบายนาได้เร็วข้น โดยทางองค์การบริหาร








ส่วนต�าบลบางพลีใหญ่ ได้สนับสนุนน�้ามันดีเซลวันละ ๑ พันลิตร ในภารกิจผลักดันน�้าเข้าปฏิบัติภารกิจมวลน�้า


ท้งน หลังจากท นายกเทศมนตรีตาบลบางพล ลงดูพ้นท่ร่วมกับนายอาเภอบางพลีและหน่วยงานท่เก่ยวข้องได้เห็น















ปัญหาในเร่องของการระบายนา บางจุดท่น้าท่วมขังอยู่นานน้นเกิดจากการนาไปได้ช้าเพราะเป็นพ้นท่ราบลุ่มและเป็นแอ่งกระทะ











ทางนายอาเภอบางพลีจึงได้ประสานกับกองทัพเรือ ให้ชุดเฉพาะกิจของผลักดันนาของกองทัพเรือ นาเรือผลักดันนาในคลอง











สายหลักต่าง ๆ ในการระบายนา รวม ๒๖ ลา ทาการเร่งผลักดันมวลนาให้ไปรอการระบายนาท่หน้าประตูของเคร่องสูบนา




ทางด้านคลองส่งนาสุวรรณภูมิได้ไวข้น โดยเฉพาะในคลองสาโรงหน้า วัดบางโฉลงนอก ซ่งในการดาเนินการในคร้งน้เป็นการ





ประสานความร่วมมือจากหลายหน่วยงานที่เข้ามาช่วยกัน
101


ผู้บัญชาการทหารเรือ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน

“เราท�าความ ดี ด้วยหัวใจ” พร้อมส�ารวจริมสองฝั่งเจ้าพระยา

เตรียมป้องกันน�้าท่วม รวมทั้งตรวจเยี่ยมชุดเฉพาะกิจเรือผลักดันน�้า






พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะผู้อ�านวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ
พร้อมคณะ ร่วมกิจกรรมจิตอาสาพระราชทาน “เราท�าความ ดี ด้วยหัวใจ” ในกิจกรรมจิตอาสาป้องกันน�้าท่วม โดยร่วมกับ
ก�าลังพลจิตอาสากองทัพเรือและประชาชนในพื้นที่ เสริมแนวกระสอบทรายตามแนวเขื่อนริมฝั่งแม่น�้าเจ้าพระยา เพื่อป้องกัน
น�้าท่วมเนื่องจากระดับน�้าในแม่น�้าเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้น ณ บริเวณชุมชนสันติชนสงเคราะห์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร

เมื่อวันที่ ๖ ตุลาคม ๒๕๖๔

































102


จากนั้นผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมคณะได้ลงเรือส�ารวจสถานการณ์น�้าในแม่น�้าเจ้าพระยา ตามเส้นทางกองบัญชาการ
กองทัพเรือพระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ ถึงชุมชนสันติชนสงเคราะห์ ต่อมาผู้บัญชาการทหารเรือพร้อมคณะเดินทาง






ไปตรวจเย่ยมการปฏิบัติงานของเรือผลักดันนาของชุดเฉพาะกิจผลักดันนา อู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรอ




ณ วัดบางโฉลงนอก อาเภอบางพล จังหวัดสมุทรปราการ พร้อมร่วมกิจกรรมจิตอาสากับกาลังพลจิตอาสากองทัพเรือ และจิตอาสา
จากจังหวัดสมุทรปราการ ในการร่วมกันท�าความสะอาดพื้นที่ เก็บขยะ ผักตบชวา เพื่อไม่ให้เข้าไปกีดขวางการท�างานของเรือ
ผลักดันน�้า รวมทั้งกิจกรรมเสริมกระสอบทรายริมเขื่อนคลองบางโฉลง เพื่อสนับสนุนหน่วยงานในพื้นที่ในการป้องกันน�้าท่วม



















สาหรับพ้นท่จังหวัดสมุทรปราการ กองทัพเรือ โดย ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองทัพเรือ ส่งการให้อู่ทหารเรือ




พระจุลจอมเกล้า กรมอู่ทหารเรือ จัดตั้งชุดเฉพาะกิจผลักดันน�้า เพื่อน�าเรือผลักดันน�้าเข้ามาสนับสนุนการเร่งระบายน�้าท่วมขัง
ในพื้นที่ อ�าเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ ตั้งแต่วันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔ เป็นต้นมา ปัจจุบันมีเรือผลักดันน�้าปฏิบัติภารกิจ
จ�านวน ๒๖ ล�า แบ่งตามจุดต่าง ๆ จ�านวน ๖ จุด ได้แก่
จุดที่ ๑ คลองลาดกระบัง ข้างแม็คโคร บางพลี จ�านวน ๓ ล�า

จุดที่ ๒ คลองลาดกระบัง ข้างบริษัทบางกอก แอร์เวย์ จ�านวน ๓ ล�า
จุดที่ ๓ คลองขุด ถนนต�าหรุ - บางพลี ต�าบลบางพลี จ�านวน ๔ ล�า
จุดที่ ๔ สถานีอนามัยบางปลา คลองบางปลา จ�านวน ๖ ล�า
จุดที่ ๕ สะพานกู้พารา คลองส�าโรง ต�าบลบางพลีใหญ่ จ�านวน ๔ ล�า
จุดที่ ๖ สะพานวัดบางโฉลงนอก คลองส�าโรง ต�าบลบางโฉลง จ�านวน ๖ ล�า

โดยมีการเดินเครื่องทั้งหมดวันละ ๒๐ ชั่วโมง ในการวางเรือผลักดันน�้าในครั้งนี้ มีเป้าหมายในการเร่งระบายน�้าออก






ไปยังคลองบางปลาและคลองส่งนาสุวรรณภูม เพ่อส่งมวลนาออกสู่ทะเลให้มีประสิทธิภาพในการระบายนาท่วมขังให้เร็วท่สุด









โดยผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นยาการเตรียมการและป้องกันเหตุนาท่วมมีความสาคัญไม่น้อยกว่าการช่วยเหลือเม่อเกิดเหต ุ
และเกิดความเสียหายแล้ว ขณะท่มวลนายังมาไม่ถึงกรุงเทพมหานครและจังหวัดสมุทรปราการ ท้งยังจะมีนาทะเลหนุนสูง
















มาเพ่มอีกด้วย จึงส่งการให้หน่วยงานท่รับผิดชอบของกองทัพเรือเร่งตรวจสอบพ้นท่ตา คันก้นนาท่ชารุด ให้อุดเสริมแนวป้องกัน







รวมถึงให้ใช้เรือผลักดันนาพร่องนาในแม่นาลาคลองรอไว้ก่อน เพ่อให้มีพ้นท่รองรับมวลนาขนาดใหญ่ท่กาลังจะมาถึง โดยปัจจุบัน









ติดตั้งที่อ�าเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จ�านวน ๒๖ ล�า และจะติดตั้งที่คลอดลัดโพธิ์อีก ๑๒ ล�า ตามที่ได้ประสานกับ
ทางกรุงเทพมหานคร
103


กองทัพเรือ โดย ศูนย์ประสานงานและสนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทาน

ตามแนวพระราชด�าริของกองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ

บรรจุกระสอบทรายและสนับสนุนการขนย้ายกระสอบทราย

เพื่อเตรียมการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร



กองทัพเรือ โดย ศูนย์ประสานงานและสนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดาริของกองทัพเรือ
ร่วมกับก�าลังพลจิตอาสา ฐานทัพเรือกรุงเทพ จ�านวน ๕๐ นาย และส�านักการระบายน�้า กรุงเทพมหานคร กองทัพบก ต�ารวจ
ลูกเสือไทย และประชาชนจิตอาสา บรรจุกระสอบทรายและสนับสนุนการขนย้ายกระสอบทราย โดยด�าเนินการบรรจุทราย


จานวน ๕ ตัน ณ บ่อสูบนาแก้มลิง (ด้านข้างศูนย์การค้าเดอะมอลล์บางแค) ถนนเพชรเกษม แขวงบางแคเหนือ เขตบางแค

กรุงเทพมหานคร ได้กระสอบทราย จ�านวน ๑๐,๐๐๐ ถุง และด�าเนินการขนย้ายไปท่าราชวรดิษฐ แขวงพระบรมมหาราชวัง
เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เพื่อเตรียมการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๖๔






























104


กองทัพเรือ โดย ศูนย์ประสานงานและสนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทาน

ตามแนวพระราชด�าริของกองทัพเรือร่วมด�าเนินการ

จัดเรียงกระสอบทรายเตรียมการป้องกันอุทกภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร




กองทัพเรือ โดย ศูนย์ประสานงานและสนับสนุนโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชด�าริของกองทัพเรือ






ร่วมกับกาลังพลจิตอาสาจากฐานทัพเรือกรุงเทพ สานักการระบายนา กรุงเทพมหานคร กองทัพบก ตารวจ และประชาชนจิตอาสา




ดาเนินการจัดเรียงกระสอบทราย จานวน ๑๐,๐๐๐ ถุง เพ่อลาเลียงวางกันแนวรอบริมเข่อน เตรียมการป้องกันอุทกภย


ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ณ บริเวณท่านิเวศน์วรดิฐ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๔
ตุลาคม ๒๕๖๔

























105


ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ

น�าก�าลังพลจิตอาสากองทัพเรือเร่งเข้าช่วยเหลือ

ในการสร้างเตียงนอนให้กับผู้ป่วยและสะพานข้ามที่เป็นทางสัญจรของประชาชน

ที่อาศัยอยู่ตามแนวตลิ่ง ริมแม่น�้าเจ้าพระยา





ศนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ โดย พลเรือตร นเรศ วงศ์ตระกูล ผู้บัญชาการฐานทัพเรือกรุงเทพ ในฐานะ


ผู้อานวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย ฐานทัพเรือกรุงเทพ (ผอ.ศบภ.ฐท.กท.) นากาลังพลจิตอาสากองทัพเรือ ร่วมกับประชาชน

จิตอาสาในพื้นที่ชุมชนดุสิต นิมิตรใหม่ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เร่งเข้าช่วยเหลือในการสร้างเตียงนอนให้กับผู้ป่วย
และสะพานข้ามที่เป็นทางสัญจรของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวตลิ่ง ริมแม่น�้าเจ้าพระยา เมื่อวันที่ ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔

















เพอเปนการบรรเทาความเดอดรอนเบองตนอนเนองมาจากผลกระทบจากมวลนาในแมนาเจาพระยาทเออลนจนนาเขาทวม








ทางเดินและบ้านเรือน พร้อมกันนี้ยังได้น�าถุงยังชีพมามอบให้กับชาวชุมชนดุสิต นิมิตรใหม่ เพื่อเป็นประโยชน์ในการด�ารงชีวิต

ซ่งเป็นไปตามนโยบายของกองทัพเรือในการอานวยความสะดวกและช่วยเหลือประชาชนในพ้นท่รับผิดชอบ และยังเป็นการ



สร้างขวัญและก�าลังใจให้กับผู้ประสบภัยให้ผ่านพ้นวิกฤตในครั้งนี้โดยเร็ว







106


ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด

จัดก�าลังพลและยุทโธปกรณ์ให้การช่วยเหลือและฟื้นฟูประชาชน

ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีอย่างเร่งด่วน








จากเหตุการณ์นาท่วมฉับพลันในพ้นท่จังหวัดจันทบุร เม่อวันท ๑๒ ตุลาคม ๒๕๖๔ ส่งผลให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อน


เป็นจ�านวนมาก โดย พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะ ผู้อ�านวยการศูนย์บรรเทาสาธารณภัย
กองทัพเรือ สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัย กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด จัดก�าลังพลและยุทโธปกรณ ์
ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยอย่างเร่งด่วน ประกอบด้วยการจัดรถครัวสนาม เพ่อแจกจ่ายให้แก่ประชาชนท่ได้รับผลกระทบ


รวมถึงให้การช่วยเหลือ ผู้ที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ออกมายังพื้นที่ที่ปลอดภัย




ในการน ผู้บัญชาการทหารเรือได้เน้นยาให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองบัญชาการป้องกันภัยแดนจันทบุรีและตราด



จัดเตรียมกาลังพล ยานพาหนะ และยุทโธปกรณ์ให้การช่วยเหลือประชาชนท่ได้รับความเดือดร้อนต่อไป รวมท้งเตรียมแผนฟื้นฟ ู





และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบในพ้นท ประกอบด้วย การสารวจความเสียหาย ทาความสะอาดพ้นท่ให้ประชาชนสามารถ



ใช้ชีวิตประจาวันได้ รวมถึงการให้ความช่วยเหลืออ่น ๆ อาท ด้านการแพทย์ การซ่อมแซมท่อยู่อาศัย ยานพาหนะ การแจกจ่าย



เครื่องอุปโภคบริโภค เป็นต้น















107


สวัสดิการ











































ศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง



โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์ทหารเรือ

และโรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ






ปัจจุบันประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอาย ผสูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงท่ต้องดูแล ตลอดจนเป็นการ







โดยสมบูรณ์ นอกจากจานวนผู้สูงอายุจะเพ่มมากข้นแล้ว ดาเนินการตามนโยบายของผู้บัญชาการทหารเรือในด้าน
ส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้านสุขภาพร่วมด้วย ผู้ดูแลโดยเฉพาะสมาชิก การสวัสดิการแก่กาลังพล เพ่อเป็นการสร้างขวัญกาลังใจ



ในครอบครัวมีน้อยลง ผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวมีมากขึ้น ท�าให้ ในการปฏิบัติงานต่อไป




กลมผสงอายุท่ต้องการผู้ดูแลมีจานวนเพ่มมากข้น ส่งผลให ท้งน พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ











ท้งภาครัฐและภาคเอกชน มีนโยบายในการจัดการบริการ (ในขณะน้น) พร้อมด้วย นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคม

หลายอย่างเพ่อดูแลผู้สูงอาย โดยเฉพาะซ่งส่วนใหญ่มีอัตรา ภริยาทหารเรือ เป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและ



ค่าบริการค่อนข้างสูง ดังน้น กองทัพเรือ โดย กรมแพทย์ทหารเรือ ผู้ป่วยติดเตียง ณ โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ กรมแพทย์

จึงได้จัดต้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงข้นในพ้นท ทหารเรือ เขตบางนา กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม




กรุงเทพมหานคร ณ โรงพยาบาลทหารเรือกรุงเทพ เขตบางนา ๒๕๖๔ และเป็นประธานในพิธีเปิดศูนย์ดูแลผู้สูงอายุและ





และพ้นท่สัตหีบ ณ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ โดยม ผู้ป่วยติดเตียง โอกาสน ผู้บัญชาการทหารเรือได้มอบเวชภัณฑ ์

วัตถุประสงค์เพ่อให้บริการดูแลผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียง ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเดียวกันเพ่อใช้ประโยชน์


ในกลุ่มข้าราชการและครอบครัวสังกัดกองทัพเรือ โดยดาเนินการ ตอคนไข้ ณ โรงพยาบาลอาภากรเกียรติวงศ์ ฐานทัพเรือสัตหีบ

ในรูปแบบการจัดสวัสดิการภายในหน่วยงานเพ่อช่วยเหลือ อ�าเภอสัตหีบจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔

และบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของกาลังพลกองทัพเรือท่ม ี


108


ศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตข้าราชการกองทัพเรือ




โครงการศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตข้าราชการกองทัพเรือ มีวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งเพื่อเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิต



และสนับสนุนให้ข้าราชการกองทัพเรือท่เกษียณอายุราชการ มีทางเลือกในการแสวงหาท่พักอาศัย ในสภาพแวดล้อมท่เหมาะสม







อบอุ่น และปลอดภัย สามารถดารงชีวิตได้อย่างมีศักด์ศร และเพ่อให้ได้รับบริการด้านสุขภาพและบริการทางสังคมท่เช่อมโยงกน
อย่างมีประสิทธิภาพ






ทงน พลเรอเอก ชาตชาย ศรวรขาน ผบญชาการทหารเรอ (ในขณะน้น) พร้อมด้วย นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคม






ภริยาทหารเรือ เป็นประธานเปิดศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตข้าราชการกองทัพเรือ โดยมี พลเรือตรี สมพงษ์ ภูเวียง ผู้อ�านวยการ
การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ (ในขณะน้น) ในฐานะผู้อานวยการศูนย์ส่งเสริมคุณภาพชีวิตข้าราชการกองทัพเรอ





และหัวหน้าหน่วยข้นตรงกองทัพเรือพ้นที่สัตหีบ ร่วมให้การต้อนรับ ณ บริเวณพ้นท่หาดนางรอง อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุร เม่อวันท ี ่





๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔





109



ลานกีฬาม้าน้า




การพัฒนาพื้นที่ลานกีฬาม้าน้า มีวัตถุประสงค์เพื่อรองรับนโยบายกองทัพเรือในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่
ของกองทัพเรือโดยพัฒนาพื้นที่ให้เหมาะสม เพื่อให้ข้าราชการและครอบครัวในพื้นที่สัตหีบมีพื้นที่ออกก�าลังกายและพักผ่อน




ท่สมบูรณ์แบบมากข้น มีการปูพ้นลู่ว่งยางสังเคราะห์โดยรอบ ท้งยังปรับภูมิทัศน์ให้มีความโดดเด่นเพ่อให้เป็นจุดแลนมาร์คแห่งใหม ่


สามารถใช้เป็นลานจัดกิจกรรมของฐานทัพเรือสัตหีบ รวมทั้งหน่วยงานต่าง ๆ ตลอดจนเป็นการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยว
ในพื้นที่สัตหีบต่อไป








ทงน พลเรอเอก ชาตชาย ศรวรขาน ผบญชาการทหารเรอ (ในขณะน้น) พร้อมด้วย นางจุฬารัตน์ ศรีวรขาน นายกสมาคม







ภริยาทหารเรือ เป็นประธานเปิดลานกีฬาม้าน้า ณ สวนสุขภาพแหลมม้าน้า ฐานทัพเรือสัตหีบ อาเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุร ี
เมื่อวันที่ ๑๖ สิงหาคม ๒๕๖๔
















110


กองทัพเรือเปิดฌาปนสถานกองทัพเรือพื้นที่กรุงเทพ


ณ วัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ





























กองทัพเรือเปิดฌาปนสถานกองทัพเรือพ้นท่กรุงเทพ ณ วัดสารอด เขตราษฏร์บูรณะ ซ่งเป็นไปตามนโยบายของ

ผู้บัญชาการทหารเรือ ประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ด้านการสวัสดิการ ให้กองทัพเรือด�าเนินการพัฒนาด้านสวัสดิการเพิ่มเติม
เพื่อให้ก�าลังพลกองทัพเรือและครอบครัวมีสวัสดิการที่ดีมากยิ่งขึ้นอย่างเหมาะสม โดยมีเป้าหมายประการหนึ่งคือการจัดหา
ฌาปนสถานกองทัพเรือเพิ่มอีก ๑ แห่ง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร เพื่อเป็นสวัสดิการให้กับก�าลังพลกองทัพเรือและครอบครัว
ในทุกระดับ ซึ่งมีสวัสดิการฌาปนสถานกองทัพเรือและกรมสวัสดิการทหารเรือเป็นผู้รับผิดชอบในการด�าเนินการ


จากการดาเนินการของหน่วยรับผิดชอบตามท่กล่าวข้างต้น กองทัพเรือได้รับการสนับสนุนจาก พระศรีธีรพงศ์




เจ้าคณะเขตราษฎร์บูรณะ รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดสารอดและคณะสงฆ์วัดสารอดให้กองทัพเรือใช้พ้นท ส่งอานวยความสะดวก

และฌาปนสถานของวัดสารอด เพ่อจัดสวัสดิการด้านการฌาปนสถานของกองทัพเรือพร้อมท้งจัดต้งสานักงานฌาปนสถานกองทัพเรือ





พ้นท่กรุงเทพ ณ วัดสารอด ถือได้ว่าเป็นจุดเร่มต้นในความร่วมมือระหว่าง กองทัพเรือและวัดสารอด ในการพัฒนาพ้นท ี ่





และการฌาปนสถาน อันเป็นประโยชน์แก่กาลังพลกองทัพเรือ ครอบครัว และประชาชนในพ้นท่ต่อไปโดยเร่มเปิดให้บริการ


ตั้งแต่วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๔ เป็นต้นมา
ส�าหรับวัดสารอดตั้งอยู่ ณ ซอยสุขสวัสดิ์ ๔๔ ถนนสุขสวัสดิ์ แขวงราษฎร์บูรณะ เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร
ระยะทาง ๓.๔ กิโลเมตร จากอาคารที่พักส่วนกลาง พื้นที่สุขสวัสดิ์ ๒๖ และไม่ไกลจากกองบัญชาการกองทัพเรือและหน่วยงาน
กองทัพเรือส่วนกลาง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร
111


วิจัยและพัฒนา

































กองทัพเรือจัดท�าโครงการ “เรือรบปลอดเชื้อ”




กองทัพเรือจัดท�าโครงการ “เรือรบปลอดเชื้อ” โดยติดตั้งหลอด UVC (Ultraviolet C) เครื่องอบโอโซนในเรือรบ
ซึ่งมีเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชเป็นต้นแบบ จากนั้นด�าเนินการติดตั้งในเรือรบ จ�านวน ๙ ล�า ได้แก่ เรือหลวงจักรีนฤเบศร

เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงบางปะกง


เรือหลวงอ่างทอง และเรือหลวงสิมิลัน โดยหลังจากติดต้งระบบแล้วเม่อเรือออกทะเลไปปฏิบัติภารกิจ พบว่าไม่มีกาลังพล

ในเรือป่วยเป็นโรคติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ สามารถลดปริมาณสารเคมี ไอเสียจากเครื่องยนต์ และสารระเหยอื่น ๆ
ที่ฟุ้งกระจายอยู่ในเรือ รวมทั้ง กลิ่นอาหาร กลิ่นอับจากความชื้นที่เกาะอยู่ตามผนัง และแผงความเย็นในระบบปรับอากาศ

สาหรับความเป็นมาของโครงการฯ เกิดจากความคิดป้องกันไม่ให้เรือรบของกองทัพเรือต้องประสบปัญหากาลังพล




ประจาเรือติดเช้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่ายเม่อต้องปฏิบัติภารกิจในเรือรบซ่งมีระบบปรับอากาศรวมส่งผลกระทบ

ต่อความพร้อมรบหรือพร้อมปฏิบัติภารกิจ พลเรือโท ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ (ในขณะนั้น) จึงหารือกับ


พลเรือโท สมัย ใจอินทร์ รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ในขณะน้น) และ นายสมโภชน์ อาหุนัย จากบริษัทพลังงานบริสุทธ จากด








ซ่งก่อนหน้าน้ได้นาอุปกรณ์เคร่องฆ่าเช้อในอากาศไปบริจาคพร้อมติดต้งให้โรงพยาบาลต่าง ๆ ในกรุงเทพมหานคร รวมถึง


โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ คณะทางานจึงนาอุปกรณ์ไปศึกษาเพ่อติดต้งในเรือรบ ซ่งใช้ระบบ




ปรับอากาศรวมเช่นเดียวกับโรงพยาบาล โดยอุปกรณ์ดังกล่าวเป็นหลอด UVC (Ultraviolet C) ที่น�ามาประยุกต์ใช้กับเรือรบ
และเป็นเครื่องฟอกอากาศด้วยแสง UV (UV GERMICIDAL AIR PURIFIER)











112









ในการน้กองทัพเรือได้มีคาส่งแต่งต้งคณะทางานศึกษาฯ เป็นคณะทางานป้องกันการแพร่ระบาดเช้อโรคทางระบบ
ปรับอากาศ โดยท�าการทดสอบ ทดลอง ติดตั้งบนเรือรบ จากนั้นได้น�าไปตรวจสอบ ทดสอบ และวัดผล ซึ่งได้รับการรับรองจาก

กรมวิทยาศาสตร์ทหารเรือและกรมแพทย์ทหารเรือ ท้งน้พบว่าสามารถใช้งานได้เป็นอย่างดีและไม่รบกวนกบระบบต่าง ๆ ของเรอ




ทางคณะทางานจึงรายงานผลการทดสอบน้ให้ พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผบญชาการทหารเรอ (ในขณะน้น) รับทราบ






และขออนุญาตทดลองติดต้งใช้งาน โดยติดต้งในเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดชเป็นลาแรก กอนเดนทางไปเขารบการปรบปรงเรอ













ท่ประเทศเกาหลีใต้ เน่องจากในขณะน้นเป็นในห้วงท่ประเทศเกาหลีใต้เกิดการระบาดของโรคติดเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สูงสุด


ซึ่งผลการปฏิบัติหลังติดตั้งระบบแล้วเป็นระยะเวลา ๒ เดือน พบว่าไม่มีก�าลังพลนายใดป่วยเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ
ต่อมาเมื่อมีการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) ในระลอกที่ ๒ ท�าให้เรือรบสมรรถนะสูง
และเรือรบขนาดใหญ่ท่มีกาลังพลปฏิบัติงานเรือขอรับการสนับสนุนการติดต้งเป็นจานวนมากจึงดาเนินการติดต้งจนแล้วเสร็จ






จ�านวน ๗ ล�า ประกอบด้วย เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงมกุฎราชกุมาร เรือหลวงนเรศวร
เรือหลวงตากสิน เรือหลวงกระบุรี และเรือหลวงบางปะกง และอยู่ระหว่างการติดตั้งจ�านวน ๒ ล�า คือ เรือหลวงอ่างทอง
และเรือหลวงสิมิลัน ทั้งนี้จากการฝึกภาคทะเลของนักเรียนนายเรือ โดยหมู่เรือฝึก คือ เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงบางปะกง


และเรือหลวงมกุฎราชกุมาร ท่ทาการติดต้งเคร่องฆ่าเช้อดังกล่าวแล้วพบว่า ไม่มีกาลังพลประจาเรือรวมถึงนักเรียนนายเรือ





ที่เข้าร่วมฝึกป่วยเป็นโรคเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ
113


เรือข้ามฟากอายุ ๕๐ ปี ที่ปรับปรุงเป็นระบบขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้า

พร้อมออกทดลองแล่นรับ/ส่งผู้โดยสาร ในแม่น้าเจ้าพระยา







พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ในขณะนั้น) เป็นประธานในพิธีเปิดตัวเรือแตงโมพลังงานไฟฟ้า


(ขส.ทร.๑๑๑๐) ซึ่งเป็นเรือข้ามฟากในแม่น้าเจ้าพระยาของกองทัพเรือที่มีอายุการใช้งานมานานถึง ๕๐ ปี โดยมี พลเรือโท
ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ (ในขณะนั้น) และ พลเรือตรี สาธิต นาคสังข์ เจ้ากรมการขนส่งทหารเรือ
(ในขณะนั้น) ให้การต้อนรับ ณ ท่าเรือราชนาวิกสภา เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๖๔



กองทัพเรืออนุมัติแต่งต้งคณะทางานพลังทดแทนร่วม ระหว่าง กองทัพเรือ และ บริษัทพลังงานบริสุทธ จากัด (มหาชน)


เพื่อด�าเนินการด้านความร่วมมือกับภาคเอกชน ในการน�าพลังงานทดแทนมาใช้ในกองทัพเรือ ในการวิจัยและพัฒนาเพื่อพึ่งพา
ตนเอง ตามแนวทางการพัฒนากองทัพเรือที่ก�าหนดไว้ในยุทธศาสตร์กองทัพเรือ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๐ – พ.ศ.๒๕๗๙) ในเรื่อง
การส่งเสริมการสร้างเครือข่ายความร่วมมือการวิจัยและพัฒนายุทโธปกรณ์กับองค์กรต่าง ๆ ท้งภาครัฐและเอกชน โดยม ี




พลเรือโท ประชาชาต ศิริสวัสด รองเสนาธิการทหารเรือ (ในขณะน้น) เป็นหัวหน้าคณะทางานร่วมฝ่ายกองทัพเรือ นายสมโภชน ์




อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าท่บริหารบริษัทพลังงานบริสุทธ จากัด (มหาชน) เป็นหัวหน้าคณะทางานร่วมฝ่ายบริษัทพลังงานบริสุทธ ิ ์



จ�ากัด (มหาชน) และ พลเรือโท สมัย ใจอินทร์ รองผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ (ในขณะนั้น) เป็นรองหัวหน้าคณะท�างาน
114


ทั้งนี้ คณะท�างานดังกล่าวได้จัดให้มีโครงการติดตั้ง


ระบบขับเคล่อนไฟฟ้าสาหรับรถโดยสารเรือเวรข้ามฟาก

(เรือแตงโม) เพ่อวิจัยและพัฒนาการใช้พลังงานไฟฟ้าในเรือเวร

ข้ามฟาก (เรือแตงโม) ในสังกัดกรมการขนส่งทหารเรือท่ม ี

อายุการใช้งานมานาน ๕๐ ปี ท่ไม่สามารถใช้งานได้ มาดัดแปลง


จากระบบเคร่องยนต์สันดาปภายในท่ใช้น�้ามันดีเซลเป็น

เช้อเพลิงมาปรับปรุงเป็นระบบขับเคล่อนพลังงานไฟฟ้าจาก

แบตเตอรี่ ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า เพื่อลดฝุ่น PM 2.5
และมลภาวะในอากาศ ส�าหรับเรือข้ามฟากดังกล่าวมีชื่อเรียก
อย่างไม่เป็นทางการว่า “เรือแตงโม” ด้วยรูปทรงของเรือที่มี
ลักษณะคล้ายลูกแตงโมผ่าซีก แต่ด้วยรูปลักษณ์ของท้องเรือ




ทาให้เรอแม้จะเอียงมากเพยงใดแต่กยังสามารถทรงตัวอย่ได้

ปัจจุบันเรือแตงโมสังกัดแผนกเรือบริการ กองเรือเล็ก กรมการ


ขนส่งทหารเรือ เร่มมีใช้ต้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๙๕ เป็นต้นมา
โดยใช้บริการรับ - ส่งกาลังพลกองทัพเรือและบุคคลท่วไปข้ามฟาก



ในแม่น้าเจ้าพระยาในเวลาราชการ ระหว่างฝั่งธนบุรีกับ
ฝั่งพระนคร ระหว่าง ท่านิเวศน์วรดิฐกับท่าราชนาวิกสภา และ
ท่าพระราชวังเดิมกับท่าราชนาวีสโมสร ปัจจุบันมีเรือให้บริการ
จ�านวน ๑๑ ล�า โดยใช้ชื่อเรือว่า ขส.ทร.๑๑๐๑ - ๑๑๑๑ และ


เรือแต่ละลาจะมีนามแฝงโดยต้งจากช่อคลองสาคัญ ๆ เช่น


บางกอกน้อย บางหลวง ชักพระ ผดุงกรุงเกษม ตล่งชัน โอ่งอ่าง

เป็นต้น















โครงการดังกล่าวเป็นการปรับปรุงเรือข้ามฟาก

ในแม่น้าเจ้าพระยา หรือ “เรือแตงโม” จากการใช้เครื่องยนต์






ซ่งใช้พลังงานจากน้ามันเช้อเพลิง เปล่ยนมาเป็นมอเตอรไฟฟา

ท่ใช้พลังงานจากแบตเตอร่ซ่งมีเสียงเบากว่า และลดมลพิษ


ในอากาศได้ โดยโครงการนี้กองทัพเรือได้รับความร่วมมือจาก
นายสมโภชน์ อาหุนัย ประธานเจ้าหน้าท่บริหาร บริษัทพลังงาน



บริสุทธ จากัด (มหาชน) บริจาคมอเตอร์ไฟฟ้าแบตเตอร์ร ่ ี


และอุปกรณ์ประกอบเพ่อใช้ในโครงการน โดยเรือข้ามฟาก







ททาใหมนแล่นได้ประมาณ ๕ ช่วโมง ต่อการชาร์จ ๑ ครง




ที่ความเร็ว ๕ น็อต และความเร็วสูงสุด ๘ น็อต ที่ส�าคัญคือ
อาจเป็นจุดก�าเนิดเรือไฟฟ้าอื่น ๆ ของกองทัพเรือในอนาคต
115


นาวีวิจัย ประจ�าปี ๒๕๖๔










กองทัพเรือได้มอบรางวัลยกย่องเกียรติคุณนักวิจัยของกองทัพเรือและผลงานโครงการวิจัยท่เข้าสู่สายการผลิตของ




กองทัพเรือ ซ่งจัดข้นเพ่อเป็นการเชิดชูเกียรต และสร้างขวัญกาลังใจ รวมท้งเป็นการสร้างแรงจูงใจให้กับนักวิจัยและนักประดิษฐ์


ของกองทัพเรือได้สร้างสรรค์ผลงานท่เป็นประโยชน์ต่อหน่วยงานและกองทัพ ทาให้หน่วยสามารถดารงสภาพยุทโธปกรณ ์



และเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานของหน่วย อีกทั้งช่วยลดงบประมาณในการจัดหายุทโธปกรณ์ ท�าให้กองทัพสามารถพึ่งพา


ตนเองได้ ตอบสนองต่อนโยบายของกองทัพเรือด้านการวิจัยและพัฒนา โดยในปีน มีผลงานวิจัยและส่งประดิษฐ์ เสนอขอเข้ารับรางวัล

ยกย่องเกียรติคุณนักวิจัยของกองทัพเรือรวม จานวน ๑๓ ผลงาน ประกอบด้วย

• ผลงานวิจัยและพัฒนาด้านยุทโธปกรณ์ จ�านวน ๒ ผลงาน
• ผลงานด้านสิ่งประดิษฐ์ จ�านวน ๖ ผลงาน
• ผลงานด้านหลักการ จ�านวน ๕ ผลงาน
ซึ่งผลงานที่ได้รับรางวัลดีเด่น หน่วยเจ้าของผลงานได้รับโล่เกียรติคุณ นายทหารโครงการและนักประดิษฐ์ได้รับโล่และ
ประกาศเกียรติคุณพร้อมเงินรางวัล ผลงานที่ได้รับรางวัลชมเชย นายทหารโครงการและนักประดิษฐ์ จะได้รับโล่และประกาศ
เกียรติคุณ พร้อมเงินรางวัล และผลงานโครงการวิจัยที่เข้าสู่สายการผลิตของกองทัพเรือ จ�านวน ๘ โครงการ ได้รับโล่รางวัล


ส�าหรับผลงานวิจัยและสิ่งประดิษฐ์ที่ได้รับรางวัลประจ�าปี ๒๕๖๔ มีดังนี้
• ผลงำนกำรวิจัยและพัฒนำกำรทำงทหำรด้ำนยุทโธปกรณ์

ได้รับรางวัลดีเด่น จ�านวน ๒ ผลงาน ได้แก่
๑. ผลงาน โครงการวิจัยและพัฒนาการผลิตและทดสอบใบจักรเรือแมงกานิส หน่วยเจ้าของโครงการ กรมอู่ทหารเรือ
นายทหารโครงการ นาวาเอก เสวียง เถื่อนบุญ


































116



๒. ผลงาน โครงการวิจัยและพัฒนาการสร้างตะเกียงระบบเลนส์หมุนพลังงานแสงอาทิตย์ เพ่อใช้กับประภาคาร/กระโจมไฟ
ของกรมอุทกศาสตร์ หน่วยเจ้าของโครงการ กรมอุทกศาสตร์ นายทหารโครงการ นาวาเอก พันธุ์นาถ นาคบุปผา





































• ผลงำนด้ำนสิ่งประดิษฐ์ ได้รับรำงวัลดีเด่น จ�านวน ๒ ผลงาน ได้แก่

๑. ผลงาน เคร่องต้งความลึกของทุ่นระเบิดแบบอัตโนมัติหน่วยเจ้าของผลงาน กรมการส่อสารและเทคโนโลยีสารสนเทศ


ทหารเรือ หัวหน้านักประดิษฐ์ นาวาเอก อนุสรณ์ ยังคุ้มญาติ











































117


๒. ผลงาน การพัฒนานวัตกรรมหุ่นฝึกทักษะการดูดเสมหะ (NAVY SAFETY SUCTION MODEL) หน่วยเจ้าของผลงาน
กรมแพทย์ทหารเรือ หัวหน้านักประดิษฐ์ นาวาโทหญิง สุปราณี พลธนะ


























• ผลงำนด้ำนหลักกำร ได้รับรำงวัลดีเด่น จ�านวน ๒ ผลงาน ได้แก่

๑. ผลงาน ระบบแจ้งเตือนอัจฉริยะ (NPD Smart Alert บน NPD Platform) หน่วยเจ้าของผลงาน กรมช่างโยธา
ทหารเรือ หัวหน้าผู้สร้างผลงาน นาวาเอก พรชัย จ้อยจ�ารูญ




























๒. ผลงาน โปรแกรมคอมพิวเตอร์ช่วยฝึกปฏิบัติทางทัศนสัญญาณ หน่วยเจ้าของผลงาน กรมการส่อสารและเทคโนโลย ี

สารสนเทศทหารเรือ หัวหน้าผู้สร้างผลงาน ว่าที่ เรือตรี ฉลาด ราศี
























118


ในส่วนของนักประดิษฐ์ และผู้สร้างผลงานที่ได้รับรางวัลชมเชยเข้ารับรางวัล มีรายชื่อดังนี้


• ผลงำนด้ำนสิ่งประดิษฐ์ จ�านวน ๔ ผลงาน ได้แก่
๑. ผลงาน ระบบวิเคราะห์ภัยคุกคามไซเบอร์บนเครือข่ายสารสนเทศกองทัพเรือ หน่วยเจ้าของผลงาน กรมการสื่อสาร

และเทคโนโลยีสารสนเทศทหารเรือ หัวหน้านักประดิษฐ์ นาวาโท จตุพร ศรีกลชาญ
๒. ผลงาน การประยุกต์ใช้ Lightweight โปรโตคอล และ IOT ส�าหรับระบบเฝ้าตรวจและแจ้งเตือนอัคคีภัยกองทัพเรือ
หน่วยเจ้าของผลงาน โรงเรียนนายเรือ หัวหน้านักประดิษฐ์ นาวาเอก ผู้ช่วยศาสตราจารย์ จิตติ สัมภัตตะกุล

๓. ผลงาน ตู้นิรภัยอุปกรณ์ช่วยชีวิตทางน�้า (Aquatic Life Saving Box) หน่วยเจ้าของผลงาน กรมแพทย์ทหารเรือ
หัวหน้านักประดิษฐ์ นาวาเอก เงิน พวงนาค




๔. ผลงาน อุปกรณ์ต้นแบบกาจัดนาท่ปนเปื้อนในนามันดีเซล หน่วยเจ้าของผลงาน โรงเรียนนายเรือ หัวหน้านักประดิษฐ ์


นาวาโทหญิง สายฝน เกียวสัมพันธ์

• ผลงำนด้ำนหลักกำร จ�านวน ๒ ผลงาน ได้แก่

๑. ผลงาน การพัฒนา Application การวางแผนจาหน่ายผู้ป่วยออกจากโรงพยาบาล เพ่อส่งเสริมพฤติกรรมการ

ดูแลตนเองสาหรับผู้ป่วยท่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจ หน่วยเจ้าของผลงาน กรมแพทย์ทหารเรือ หัวหน้าผู้สร้างผลงาน


นาวาโทหญิง สุพัตรา นุชกูล
๒. ผลงาน การพัฒนาแนวทางการพยาบาลผู้ป่วยที่ได้รับยาวาร์ฟาริน โดยใช้การคิดเชิงนวัตกรรม หน่วยเจ้าของผลงาน
กรมแพทย์ทหารเรือ หัวหน้าผู้สร้างผลงาน นาวาโทหญิง สินีนุช ศิริวงศ์

๓. ผลงาน การพัฒนาโปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการคานวณอัตรากาลังพยาบาลตามภาระงานในหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม

โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ หน่วยเจ้าของผลงาน กรมแพทย์ทหารเรือ หัวหน้าผู้สร้างผลงาน
นาวาตรีหญิง จิตสิริ รุ่นใหม่

• ผลงำนโครงกำรวิจัยที่เข้ำสู่สำยกำรผลิตของกองทัพเรือ จ�านวน ๘ โครงการ ดังนี้

๑. โครงการวิจัยและพัฒนารั้วไร้สาย นายทหารโครงการ นาวาเอก อนุสรณ์ ยังคุ้มญาติ
๒. โครงการวิจัยและพัฒนาปลอกทวีแรงถอยของปืนกลขนาด ๐.๕ นิ้ว แบบเอ็ม ๒ ล�ากล้องหนัก นายทหารโครงการ
นาวาเอก ชัชวาลย์ โตรุ่ง
๓. โครงการวิจัยและพัฒนาปลอกทวีแรงถอยของปืนกล ขนาด ๗.๖๒ มิลลิเมตร แบบเอ็ม ๖๐ นายทหารโครงการ
นาวาเอก ชัชวาลย์ โตรุ่ง

๔. โครงการวิจัยและพัฒนาอากาศยานไร้นักบินข้น - ลงทางด่ง แบบนารายณ์ ๓.๐ นายทหารโครงการ


นาวาเอก ภาณุพงศ ขุมสิน

๕. โครงการวิจัยและพัฒนาการสร้างระบบตะเกียงเลนส์หมุนพลังงานแสงอาทิตย์เพ่อใช้กับประภาคาร/กระโจมไฟ
ของกรมอุทกศาสตร์ นายทหารโครงการ นาวาเอก พันธุ์นาถ นาคบุปผา



๖. โครงการวิจัยและพัฒนาเส้อเกราะกันกระสุนสะเทินนาสะเทินบก นายทหารโครงการ นาวาเอก นพิพัฒน์ รัตนพิทักษ ์
๗. โครงการวิจัยและพัฒนาระบบแสดงแผนที่อิเล็กทรอนิกส์ (ECS) นายทหารโครงการ นาวาเอก ฤทธิเดช เกตุทอง

๘. โครงการวิจัยและพัฒนาการหล่อใบจักรนิกเกิลอะลูมิเนียมบรอนซ์สาหรับเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง นายทหารโครงการ
นาวาเอก เสวียง เถื่อนบุญ












119


การวิจัยและพัฒนาโครงการ

“ระบบอากาศยานไร้คนขับเพื่อการลาดตระเวนทางทะเล”





กองทัพเรือประสบความสาเร็จในการวิจัยและพัฒนาโครงการ “ระบบอากาศยานไร้คนขับเพ่อการลาดตระเวนทางทะเล”



หรือใช้ช่อว่า MARCUS (Maritime Aerial Reconnaissance Craft Unmanned System) โดยอาศัยพ้นฐานและการต่อยอด
ผลงานวิจัยและพัฒนาด้านอากาศยานไร้คนขับจากหลายโครงการที่ผ่านมา ได้รับการสนับสนุนทุนวิจัยจากส�านักงานการวิจัย
แห่งชาติ (วช.) เป็นจ�านวนเงิน ๑๐ ล้านบาท ใช้ระยะเวลาในการวิจัยและพัฒนา ๒ ปี (ต.ค.๖๑-ก.ย.๖๓) มีส�านักงานวิจัยและ
พัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ (สวพ.ทร.) เป็นหน่วยเจ้าของโครงการ
เป้าหมายของการพัฒนา MARCUS นั้น ต้องการตอบสนองต่อความต้องการและข้อจ�ากัดของการใช้งานทางทะเล




เป็นการเฉพาะ โดยกาหนดให้เป็นอากาศยานไร้คนขับแบบปีกน่งข้นลงทางด่ง อาศัยข้อดีของการเป็นอากาศยานไร้คนขับแบบ

ปีกนิ่งที่สามารถเดินทางได้รวดเร็ว มีระยะเวลาในการบินได้นาน เหมาะสมต่อการปฏิบัติการทางทะเลที่มีพื้นที่กว้าง แต่ใน
ขณะเดียวกันก็มีข้อดีที่สามารถขึ้นลงในทางดิ่ง เช่นเดียวกับอากาศยานไร้คนขับแบบปีกหมุน จึงท�าให้ MARCUS สามารถ
ขึ้นลงได้จากแทบทุกสถานที่ ต้องการพื้นที่ว่างเพียงประมาณ ๕ x ๕ เมตรเท่านั้น ใช้พลังงานไฟฟ้าในการท�างานทั้งหมด



ด้วยเล็งเห็นถึงความสะดวกในการใช้งานและการบารุงรักษาจากข้อจากัดท่จะต้องใช้กาลังพลในการปฏิบัติการให้น้อยท่สุด


รวมถึงแนวโน้มของการพัฒนาเทคโนโลยีด้านพลังงานไฟฟ้าที่จะเป็นไปอย่างก้าวกระโดดในระยะเวลาอันสั้น




















120


คณะนักวิจัยมีความร่วมมือในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และร่วมพัฒนากับภาคเอกชนของประเทศไทย โดยร่วมงาน
กับ บริษัทสยาม ดราย เทค จ�ากัด (SDT Composites) ในด้านการออกแบบและผลิตโครงสร้างอากาศยานไร้คนขับด้วย
วัสดุ Pre-Impregnated หรือ Dry Carbon ที่มีความทนทานแต่มีน�้าหนักเบาพิเศษ และ บริษัทพิมส์ เทคโนโลจิส จ�ากัด

(Pims Technologies) ในด้านการพัฒนาระบบโปรแกรมควบคุมการปฏิบัติการทางอากาศ หรือ TBACCS (Tactical-Based
Aerial Command Control System) นับว่าเป็นไปตามนโยบายของรัฐบาล ในการส่งเสริมให้มีการวิจัยและพัฒนาร่วมกับ


ภาคเอกชนของประเทศไทย ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมและการพัฒนา S - Curve ท ๑๑ ด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ
ตามนโยบายในการพัฒนาประเทศไปสู่ยุค Thailand 4.0



MARCUS มีความกว้างปีก ๓.๔ เมตร นาหนักข้นบิน ๒๔ กิโลกรัม ความเร็วเดินทางประมาณ ๑๐๐ กิโลเมตรต่อช่วโมง

หรือประมาณ ๕๕ น็อต ระยะเวลาบินในอากาศประมาณ ๑ ชั่วโมง สามารถบินท�าภารกิจต่อเนื่องได้เองแม้อยู่นอกระยะ
การควบคุม ซึ่งเป็นผลจากการติดตั้ง Companion Computer ที่เป็นระบบประมวลผลขนาดเล็กซึ่งติดตั้งระบบโปรแกรม
TBACCS ช่วยให้สามารถตัดสินใจและควบคุมอากาศยานไร้คนขับได้อย่างต่อเนื่อง แม้อยู่นอกระยะการควบคุมจาก Ground
Control Station หรือจนกว่าจะเข้าสู่ระยะการควบคุมของ Ground Control Station ชุดอื่นต่อไป MARCUS ได้รับการ
รับรองมาตรฐานงานวิจัยด้านยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ (กมย.ทร.) ปี ๒๕๖๔ ซึ่งในปัจจุบัน กองทัพเรือ โดย ส�านักงานวิจัย

และพัฒนาการทางทหารกองทัพเรือ ได้รับอนุมัติทุนวิจัยเพ่มเติม ในการวิจัยอากาศยานไร้คนขับเพ่อการลาดตระเวนทางทะเล

แบบที่ ๒ หรือ MARCUS-B แล้วโดยมีวัตถุประสงค์หลักในการเพิ่มศักยภาพของ MARCUS รุ่นแรก ให้มีระยะเวลาในการบิน
ปฏิบัติการได้ไม่ต�่ากว่า ๒ ชั่วโมง ซึ่งเมื่อปรับปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้ว จะเสนอต่อ กองทัพเรือ เพื่อน�า MARCUS ล�าใหม่เข้าสู่

สายการผลิตต่อไป นับเป็นอีกก้าวหน่งของงานวิจัย
ท่จะเข้าสู่สายการผลิตได้อย่างเป็นรูปธรรม ตามนโยบาย

ของผู้บัญชาการทหารเรือ ประจาปีงบประมาณ ๒๕๖๔

และ ๒๕๖๕ ท่มุ่งเน้นให้ “ขับเคล่อนงานวิจัยของ


กองทัพเรือให้สามารถนาไปสู่ภาคการผลิตและ


เปนประโยชน์ต่อการใช้งานได้อย่างเป็นรูปธรรม”










121


การบริหารจัดการ


































กองทัพเรือร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจ�าปี ๒๕๖๔








กองทัพเรือร่วมพิธีมอบรางวัลเลิศรัฐ ประจาปี ๒๕๖๔ โดยม นายวิษณ เครืองาม รองนายกรัฐมนตร เป็นประธาน
ในพิธีมอบรางวัล ผ่านระบบ Video Conference : Zoom Meeting เมื่อวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๔ โดยกองทัพเรือได้รับ
รางวัลคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ หมวด ๔ ด้านการวิเคราะห์ผลการด�าเนินงานขององค์การและการจัดการความรู้
สาขาคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ ประจ�าปี ๒๕๖๔
นอกจากนี้ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ยังได้รับรางวัลบริการภาครัฐ ระดับดีเด่น จากผลงาน
“นวัตกรรมอุปกรณ์ช่วยระบายหนองและสารคัดหลั่งอัจฉริยะ Drainmate Pro” อีกด้วย





ท้งน รางวัลเลิศรัฐ หรือ Public Sector Excellence Awards (PSEA) เป็นรางวัลท่สานักงานคณะกรรมการพัฒนา


ระบบราชการ (ก.พ.ร.) ได้กาหนดข้น ซ่งเป็นรางวัลแห่งเกียรติยศท่มอบให้กับหน่วยงานท่มีผลการดาเนินการท่เป็นเลิศ ท้งในด้าน







การเพ่มประสิทธิภาพ การให้บริการภาครัฐ การพัฒนาคุณภาพการบริหารจัดการ ภายในองค์กร และเปิดระบบราชการ
ให้ภาคส่วนอื่นเข้ามามีส่วนร่วม













รำงวัลคุณภำพกำรบริหำรจัดกำรภำครัฐ รำยหมวด ๔ รำงวัลบริกำรภำครัฐ
ด้ำนกำรวิเครำะห์ผลกำรด�ำเนินงำนขององค์กำร ประเภทนวัตกรรมบริกำร ระดับดีเด่น

และกำรจัดกำรควำมรู้


122


กองทัพเรือได้รับผลการประเมิน

คุณธรรมและความโปร่งใส


ในการด�าเนินงาน


ของหน่วยงานภาครัฐ


ประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๖๔


ระดับ AA












ส�านักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ส�านักงาน ป.ป.ช.) แจ้งผล การประเมินคุณธรรม
และความโปร่งใสในการด�าเนินงานของหน่วยงานภาครัฐ (Integrity and Transparency Assessment : ITA) ประจ�าปี
งบประมาณ ๒๕๖๔ ให้หน่วยราชการทราบผ่านระบบ ITAS ในภาพรวม กองทัพเรือได้คะแนน ร้อยละ ๙๗.๖๙ ซึ่งถือว่า



มีคุณธรรมและความโปร่งใสการดาเนินงาน ระดับ AA ผ่านเกณฑ์ ค่าเป้าหมายท่สานักงานคณะกรรมการป้องกันและ
ปราบปรามการทุจริตแห่งชาติก�าหนด
ทั้งนี้ กองทัพเรือด�าเนินการประเมิน ITA โดยมีการเก็บข้อมูลจาก ๓ ส่วน ประกอบด้วย
ส่วนที่ ๑ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน (Internal Integrity and Transparency Assessment - IIT)
ส่วนที่ ๒ ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก (External Integrity and Transparency Assessment - EIT)

ส่วนที่ ๓ การเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Open Data Integrity and Transparency Assessment - OIT)
ส�านักงาน ป.ป.ช. ได้ประกาศผลการประเมินคุณธรรมและความโปร่งใสฯ ITA ประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๖๔ เมื่อวันที่
๒๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ กองทัพเรือได้คะแนนร้อยละ ๙๗.๖๙ ซ่งถือว่ามีคุณธรรมและความโปร่งใส การดาเนินงานระดับ AA


โดยมีรายละเอียดคะแนนเฉลี่ยในแต่ละส่วน ดังนี้ ในส่วนการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ OIT ได้คะแนนเฉลี่ยอยู่ที่ ร้อยละ ๑๐๐


ซงเป็นคะแนนสูงสุด รองลงมาเป็นคะแนนในส่วนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายใน IIT ได้คะแนนเฉล่ยร้อยละ ๙๖.๒๖ และ


คะแนนในส่วนของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียภายนอก EIT ได้คะแนนเฉล่ยร้อยละ ๙๖.๐๓ โดยมีผลคะแนนในรายตัวช้วัดย่อย

อยู่ในช่วง (๙๕.๓๘ - ๑๐๐) ส�าหรับตัวชี้วัดคะแนนต�่าสุด ได้แก่ ตัวชี้วัด ในแบบวัดการรับรู้ EIT หัวข้อ การปรับปรุงการท�างาน
คะแนนร้อยละ ๙๕.๓๘ และคะแนนสูงสุด ได้แก่ ตัวชี้วัด ในแบบวัด OIT หัวข้อการเปิดเผยข้อมูลและการป้องกันการทุจริต
คะแนนร้อยละ ๑๐๐
แสดงให้เห็นว่าข้าราชการกองทัพเรือมีค่านิยมและทัศนคติที่ดี ในการปฏิบัติงานด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต มีคุณธรรม




จริยธรรม และมีจิตสานึกความรับผิดชอบต่อบทบาทหน้าท่ในการรักษาผลประโยชน์ของกองทัพเรือและประเทศชาต คานึงถึง

คุณภาพในการให้บริการประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตลอดจนเห็นความสาคัญของการเปิดเผยข้อมูล
สาธารณะ อีกทั้งการได้คะแนนตัวชี้วัดการเปิดเผยข้อมูลและการป้องกันการทุจริต ร้อยละ ๑๐๐ นั้น ยังสะท้อนให้เห็นถึงการ

ตระหนักรู้ของข้าราชการกองทัพเรือ ในการปฏิบัติหน้าท่อย่างซ่อสัตย์ สุจริต มุ่งผลสัมฤทธ์สูงสุด และคานึงถึงประโยชน์ส่วนรวม



เป็นหลักอย่างชัดเจน
123


กองทัพเรือ ร่วมกับ สภากาชาดไทย จัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต โดยมีวัตถุประสงค์เพ่อหารายได้ทูล


เกล้าทูลกระหม่อมถวาย โดยเสด็จพระราชกุศลบารุงสภากาชาดไทยอันเป็นการสนองในพระราชปณิธานของ

สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิต พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง องค์สภานายิกาสภากาชาดไทย



ท่จะให้การช่วยเหลือรักษาพยาบาลเพ่อนมนุษย์ผู้เจ็บป่วยท้งมวลให้ได้อยู่ร่วมกันอย่างสันติสุข อีกท้งเป็นการเผยแพร่





ดนตรีแนวคลาสสิกให้เป็นท่แพร่หลายในหมู่ประชาชนชาวไทย ซ่งกองทัพเรือก็ได้ดาเนินการตามพระราชปณิธาน

ต้งแต่ปี ๒๕๐๔ เป็นต้นมา โดยใช้ช่อการแสดงว่า “กาชาดคอนเสิร์ต” โดยมีการจัดเป็นประจาเกือบทุกปีจนถึง






ปัจจุบันนับเป็นเวลา ๖๐ ปี ในปีน้เป็นการจัดการแสดงกาชาดคอนเสิร์ต คร้งท ๔๗ ปีพุทธศักราช ๒๕๖๔

ได้จัดการแสดงในรูปแบบการถ่ายทอดสดเผยแพร่ผ่านทาง Facebook : กองทัพเรือ ในวันอังคารท่ ๓ สิงหาคม


๒๕๖๔ โดยได้รับเกียรติจากศิลปินนักร้อง ได้แก่ พลเรือตร วีระพันธ์ วอกลาง (ศิลปินแห่งชาต สาขา

ศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล) พ.ศ. ๒๕๕๑) เรือตร สันต ลุนเผ่ (ศิลปินแห่งชาติสาขาศิลปะการแสดง (ดนตร ี

สากล) พ.ศ. ๒๕๕๘) นนทิยา จิวบางป่า กิตตินันท์ ชินสาราญ พิจิกา จิตตะปุตตะ ทรงสินธ์ ศิริคุณารัศม์ และ

วงช่นใจ





























124


125


เกียรติคุณก�าลังพลทหารเรือ






































มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานยศ

พลเรือตรี เป็นกรณีพิเศษ ให้แก่ นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย





พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานในพิธี แสดงความยินดีแก่ นาวาเอก ทองย้อย


แสงสินชัย เน่องในโอกาส มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระราชทานยศ พลเรือตร เป็นกรณีพิเศษ




เน่องจากเป็นผู้ประกอบคุณงามความด มีผลงานเป็นท่ประจักษ์แก่สาธารณชน องค์กร ทาคุณประโยชน์แก่กองทัพเรอ

และประเทศชาติโดยส่วนรวม ตั้งแต่วันที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๖๔ ณ ห้องรับรอง ชั้น ๒ กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม
เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๔
































126


้ หนา ๑
่ เลม ๑๓๘ ตอนที่ ๕๐ ข ราชกิจจานุเบกษา ๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๔

ประกาศส านักนายกรัฐมนตร ี
เรื่อง พระราชทานยศทหารเป็นกรณีพิเศษ



มพระบรมราชโองการโปรดเกลาโปรดกระหมอมพระราชทานยศ พลเรือตร เป็นกรณีพเศษ









ใหแก นาวาเอก ทองย้อย แสงสินชัย นายทหารพนราชการ สงกดกองทพเรือ เนื่องจาก







เป็นผประกอบคุณงามความดี มีผลงานเป็นทีประจกษแกสาธารณชน องค์กร ทาคุณประโยชน ์

ให้แก่กองทัพเรือและประเทศชาติโดยส่วนรวม ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม ๒๕๖๔

ประกาศ ณ วันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖4

ผู้รับสนองพระบรมราชโองการ
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย เกิดเมื่อวันที่ ๒๐ จะถ่ายทอดและจารึกส่งท่ได้ศึกษาและได้เห็นมา หลังจาก





มิถุนายน พ.ศ. ๒๔๘๘ ท่จังหวัดราชบุร ปัจจุบัน เป็นนายทหาร ลาสิกขา ก็ยังเขียนงานกวีนิพนธ์อย่างต่อเน่อง เม่อเข้ารบ




พ้นราชการ สังกัดกองทัพเรือ ตาแหน่งสุดท้ายคือ ผู้อานวยการ ราชการในกองทัพเรือ ก็ได้รับมอบหมายให้เป็นผู้แต่งบทกวีต่างๆ



กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ แต่ยังคงท�างาน ในโอกาสสาคัญของกองทัพเป็นประจา ท่สาคัญคือคาร้อยกรอง


ด้านวรรณศิลป์ แต่งบทกาพย์กลอน และหนังสือเกี่ยวกับพุทธ กาพย์เห่เรือ ซ่งใช้ในพระราชพิธีสาคัญๆ ในการเสด็จทาง





ศาสนา และเป็นวิทยากรให้ความรู้เก่ยวกับด้านวรรณศิลป ชลมารค การได้รับมอบหมายให้รับหน้าท่เป็นผู้แต่งบทกาพย์
กับองค์กร สถานศึกษาต่าง ๆ ทั้งราชการและเอกชน เหเรือ เหล่านี้ พลเรือตรี ทองย้อย ฯ จึงถือเป็นเกียรติยศอัน

สูงยิ่งที่ได้รับใช้ต่อองค์พระประมุขของประเทศ ที่ พลเรือตรี
ประวัติกำรสร้ำงสรรค์ผลงำน ทองย้อย จงรักภักดีเป็นที่ยิ่ง และได้รับใช้หน่วยงานต้นสังกัด
พลเรือตรี ทองย้อย แสงสินชัย เป็นผู้มีอุปนิสัยสนใจ รวมทั้งยังเป็นการสร้างมรดกให้แก่แผ่นดินสืบไป
ใคร่รู้ต่อสิ่งหรือเรื่องราวต่างๆ มาตั้งแต่วัยเด็ก เมื่อได้บรรพชา ในด้านวรรณกรรมเกี่ยวกับวิชาการศาสนา จากผล
เปนสามเณร และได้มีโอกาสศึกษาเล่าเรียนปริยัติธรรม จึงมิได้ ของการศึกษาปริยัติธรรมจนจบเปรียญธรรม ๙ ประโยค

สนใจเฉพาะหลักวินัยท่ปรากฏในหลักสูตรการเรียนของแต่ละช้น นอกจากทาให้มีความรู้ในทางธรรมเช่นเดียวกับมหาเปรียญ







แต่ยังเรียนรู้และต้งข้อสังเกตต่อหลักวิชาและประสบการณ์ต่างๆ ท่วไปแล้ว ยังทาให้เกิดปณิธานแน่วแน่ท่จะปกป้องเชิดช ู

ที่ได้พบเห็น ยิ่งได้ซึมซับหลักวิชา และความเป็นไปในสังคม พระพุทธศาสนา ซึ่งได้แก่หลักธรรมค�าสอนให้บริสุทธิ์มั่นคง
มากเท่าใด ก็ยิ่งเกิดแรงบันดาลใจให้แสดงออกและสร้างสรรค์ ด้วยการเผยแผ่วิชาการของพระพุทธศาสนาที่ถูกต้อง และ
งานวรรณกรรม บทบาทในเรื่องนี้ จ�าเป็นอย่างยิ่งยวดที่ต้องอาศัยความรู้จริง
ในด้านกวีนิพนธ์ พลเรือตรี ทองย้อย ฯ เป็นผู้ที่มีความ ความวิริยะอุตสาหะในการค้นคว้า และความสามารถทาง




สามารถอย่างสูงในการแต่งบทกวี โคลง ฉันท์ กาพย์ กลอน ได้ ด้านวรรณกรรม ท่จะถ่ายทอดหลักวิชาซ่งคนท่วไปถือวา





เรมแต่งมาต้งแต่คร้งยังบวชเรียน (ดังจะเห็นได้จากฉายาท่ได้ เข้าใจยากและน่าเบ่อหน่ายให้คนเข้าใจได้ จึงมุ่งม่นศึกษา


รับตอนบวช คือ “วรกวินฺโท” ซึ่งหมายถึง “จอมกวีผู้ประเสริฐ”) และค้นคว้าวิชาการในพระพุทธศาสนาจนแตกฉาน ฝึกฝน

โดยในยุคแรก ได้รับแรงบันดาลใจจากสภาพชีวิตชนบทท การเขียนงานวิชาการจนสร้างผลงานออกมามิได้ขาด ซึ่งมีทั้ง

ถือก�าเนิด ทั้งความบริสุทธิ์ของธรรมชาติ ผู้คน และวัฒนธรรม ประเภทให้ความรู้ทางพระพุทธศาสนาโดยทั่วไป และผลงาน


ย่งเม่อได้บรรพชาอุปสมบทและศึกษาปริยัติธรรมอย่างสนใจ ท่มุ่งช้แจงแก้ข้อกล่าวหาต่อพระรัตนตรัยท่มีผู้อ่นเขียนข้น








ก็ย่งทาให้รู้ลึกถึงแก่นแกนของวิถีชีวิตและวัฒนธรรมไทย อันจะท�าให้เกิดความเสื่อมเสียแก่พระพุทธศาสนาได้

ซงเกือบท้งหมดมีพระพุทธศาสนาเป็นบ่อเกิด จึงปรารถนา


127


กำพย์เห่เรือ ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร

ส�าหรับกาพย์เห่เรือส�าคัญที่ พลเรือตรี ทองย้อย ฯ ได้ประพันธ์ โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประจ�าปี ๒๕๕๐ เมื่อวันที่
มีดังนี้ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๐
๑. กำพย์เห่เรือกำญจนำภิเษก พ.ศ.๒๕๓๙ (กองทัพเรือ ๖. กำพย์เห่เรือเฉลิมพระชนมพรรษำ ๗ รอบ ใช้เห่ใน



สรางเรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณรัชกาลที่ ๙ ธนาคาร พระราชพธีเสด็จพระราชดาเนินทรงบาเพ็ญพระราชกุศล


ไทยพาณิชย์จัดประกวดกาพย์เห่เรือชมเรือลาน และสรรเสรญ ถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร



พระบารมี พลเรือตรี ทองย้อย ฯ ได้รับรางวัลชนะเลิศ และได้ โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ประจ�าปี ๒๕๕๕ เมื่อวันที่
แต่งเพิ่มอีก ๔ บท รวมเป็น ๕ บท ใช้เห่ในวาระที่กองทัพเรือ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๕๕

จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เสด็จพระราชดาเนินถวาย ๗. กำพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล

ผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เม่อวันท ่ ี กองทัพเรือจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เสด็จพระราช
๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๓๙ ด�าเนินถวายผ้าพระกฐิน เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๑
๒. กำพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ใช้เห่ในวาระที่กองทัพเรือ ๘. กำพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคล
จัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในพระราชพิธีเฉลิม การพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เสด็จเลียบพระนคร และ

พระชนมพรรษา ๖ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๔๒ พระบาทสมเด็จ งานพระราชพิธีเสด็จพระราชดาเนินถวายผ้าพระกฐิน
พระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดาเนินถวายผ้าพระกฐิน ณ วัดอรุณ โดยขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ วัดอรุณราชวราราม

ราชวราราม ราชวรมหาวิหาร เม่อวันท ๔ พฤศจิกายน ๒๕๔๒ ราชวรมหาวิหาร เมื่อวันที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๒



๓. กำพย์เห่เรือเอเปค ใช้เห่ในวาระท่กองทัพเรือได้รับ


มอบหมายให้จดแสดงขบวนพยหยาตราทางชลมารค


เม่อวันท ๒๐ ตุลาคม ๒๕๔๖ ในโอกาสท่ประเทศไทย




เป็นเจ้าภาพจัดประชุมผู้นา APEC (กาพย์เห่เรือท่แต่งในงานน ี ้

มี ๒ บท คือ ชมเรือกระบวน และ ชมเมือง)
๔. กำพย์เห่เรือฉลองสิริรำชสมบัติครบ ๖๐ ปี ใช้เห่
ในวาระท่กองทัพเรือได้รับมอบหมายให้เชิญขบวนเรือ

พระราชพิธ (จัดแสดงขบวนพยุหยาตราทางชลมารค) เม่อวันท ่ ี


๑๒ มิถุนายน ๒๕๔๙ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดาเนินทอดพระเนตร พร้อมด้วยพระราชอาคันตุกะ

จากประเทศต่าง ๆ ณ ราชนาวิกสภา
๕. กำพย์เห่เรือเฉลิมพระชนมพรรษำ ๘๐ พรรษำ ใช้เห่ใน


พระราชพิธีเสด็จพระราชดาเนินทรงบาเพ็ญพระราชกุศล
128


บุคคลดีเด่นของกองทัพเรือ ประจ�าปี ๒๕๖๔



นักกีฬามวยสากลทีมชาติไทย สังกัดกองทัพเรือ

เหรียญทองแดงโอลิมปิก




สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวร นารีรัตนราชกัญญา โปรดเกล้าฯ ให้ผู้แทนพระองค์เชิญดอกไม ้


พระราชทานมอบให้แก่ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนด (ยศในขณะน้น) นักกีฬามวยสากล ทีมชาติไทย
สังกัดกองทัพเรือ ที่ได้รับรางวัลเหรียญทองแดงจากการแข่งขันมวยสากลหญิง รุ่น ๖๐ กิโลกรัม ในกีฬาโอลิมปิก ๒๐๒๐
ที่ประเทศญี่ปุ่น ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๔



อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร (ยศในขณะนั้น)

กล่าวว่า “ความส�าเร็จของแต้วในวันนี้จะเกิดขึ้นไม่ได้เลย หาก
ไม่รับการสนับสนุนจากหลาย ๆ ฝ่าย ทั้งสมาคมมวยสากลฯ
การกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกองทัพเรือที่นับว่า

เป็นจุดเรมต้นในชีวิตการรับราชการและเปิดโอกาสให้

ท�าตามความฝัน ซึ่งแม้จะไม่เป็นไปตามความฝันในครั้งนี้แต่อีก
ฝันหนึ่งก�าลัง จะกลายเป็นความจริง คือ การได้รับการบรรจุ
เข้ารับราชการเป็นทหารเรือ สุดท้ายนี้ ขอขอบคุณ พลเรือเอก
ชาตชาย ศรวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ท่สนับสนุนและให้




รางวัล ดวยการบรรจุเขารับราชการเป็นทหารเรือ เพื่อสร้างความ

มั่นคงให้กับชีวิต และขอมอบความส�าเร็จรวมทั้งความสุขครั้งนี้
ให้คนไทยทั้งประเทศ และขอสัญญาว่าพร้อมที่จะสู้ใหม่อีกครั้ง
ในโอลิมปิกเกมส์ ๒๐๒๔ ที่กรุงปารีส”






129


ผลงานการแข่งขันในรายการส�าคัญ ได้แก่

• รายการ Sea Games ๒๐๑๑ ครั้งที่ ๒๖ ในปี ๒๕๕๔ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง
• รายการ Sea Games ครั้งที่ ๒๗ เมื่อปี ๒๕๕๖ ณ สาธารณรัฐเมียนมาร์ ได้รับรางวัลเหรียญเงิน
• รายการ เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ ๑๘ เมื่อปี ๒๕๖๑ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ได้รับรางวัลเหรียญเงิน
• รายการ Sea Games ครั้งที่ ๓๐ เมื่อปี ๒๕๖๒ ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ได้รับรางวัลชนะเลิศเหรียญทอง
• การแข่งขันคัดเลือกโอลิมปิกเกมส์ โซนเอเชียและโอเชียเนีย ณ กรุงอัมมาน ประเทศจอร์แดน











ทงน ผู้ท่อยู่เบ้องหลังความสาเร็จของ อาสาสมัครทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนด คือ พันจ่าเอก สุบรรณ พันโนน
อดีตนักมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยในรุ่นไลท์ฟลายเวท สังกัดสโมสรราชนาว ซ่งเคยได้รับรางวัลจากการแข่งขันกีฬาซีเกมส ์


เอเชียนเกมส์ นอกจากนั้นยังเคย เป็นตัวแทนทีมชาติไทยเข้าร่วมแข่งขันกีฬาโอลิมปิกเกมส์ โดยปัจจุบัน พันจ่าเอก สุบรรณ ฯ
เป็นข้าราชการกองทัพเรือ และยังเป็นผู้ฝึกสอนให้ทีมมวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทยทั้งทีมชายและทีมหญิง ตั้งแต่ปี ๒๕๕๐

จนถึงปัจจุบัน โดยสามารถพานักกีฬามวยสากลทีมชาติไทยเข้าร่วมการแข่งขันรายการสาคัญมากมาย อาท ซีเกมส์ เอเชียนเกมส ์

และโอลิมปิกเกมส์
























130


กองทัพเรือ โดย สวัสดิการกีฬากองทัพเรือ ได้เสนอ

ขออนุมัติรางวัลพิเศษและการบรรจุเข้ารับราชการเป็นกรณ ี


พเศษ ตามหลักเกณฑ์การเสนอขอเล่อนยศและการให้รางวัล


พิเศษแก่นักกีฬาในสังกัดกองทัพเรือแล้ว ท้งน อาสาสมัคร



ทหารพรานหญิง สุดาพร สีสอนด (ยศในขณะน้น) สาเร็จการศึกษา

ระดับปริญญาตรีจากคณะศึกษาศาสตร์ สถาบันการพลศึกษา

วิทยาเขตสุโขทย และกาลังรออนุมัติสาเร็จการศึกษาในระดับ


ปริญญาโทจากคณะศึกษาศาสตร์ เอกสังคมศาสนาและ




วฒนธรรม วทยาลยทองสข ซ่งตามหลักเกณฑ์การขอเล่อนยศ









และเลอนฐานะตามลาดบชนนนผ้ทีสาเรจการศกษา

















ระดบประกาศนยบตรวชาชพหรอคณวุฒปรญญาตรขนไป


ให้เสนอขอปรับวุฒิและแต่งต้งยศตามคุณวุฒิท่สาเร็จการศึกษา


ซ่งตามหลักเกณฑ์จะเสนอเข้ารับการบรรจในระดบ



สัญญาบัตรได้รับการแต่งต้งยศเป็น “เรือตรี” ปัจจุบันได้รับ



การบรรจุเป็นข้าราชการกองทัพเรือพร้อมท้งแต่งต้งยศ


เปน “เรือตรี” ในตาแหน่ง “อาจารย์พละศึกษา แผนกปกครอง
วิทยาลัยพยาบาลกองทัพเรือ ศูนย์วิทยาการ กรมแพทย์ทหารเรือ”

ทั้งนี้ กองทัพเรืออนุมัติให้ เรือตรีหญิง สุดาพร
สีสอนดี เป็นบุคคลดีเด่นของกองทัพเรือ ประจาปี ๒๕๖๔

และรับรางวัล “เกียรติยศนาวี” ในงานวันกองทัพเรือ
๒๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
131


ผลการแข่งขันกีฬาของคณะกรรมการกีฬากองทัพเรือ ประจ�าปีงบประมาณ ๒๕๖๔


คณะกรรมการกีฬากองทัพเรือส่งนักกีฬาเข้าร่วม พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี


การแข่งขันกีฬารายการสาคัญต่าง ๆ ในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ • การแข่งขันเรือยาวประเพณ ๕๕ ฝีพาย สนาม
และได้รับถ้วยรางวัลชนะเลิศ จ�านวน ๘ ใบ ดังนี้ อาเภอกุมวาปี จังหวัดอุดรธานีผลการแข่งขัน ชนะเลิศ ได้รับ

๑. การแข่งขันกรีฑาชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ชิงถ้วย ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ




พระราชทาน คร้งท ๖๖ ประจาปี ๒๕๖๓ ระหว่าง ๑๐ - ๑๓ พระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี


ธันวาคม ๒๕๖๓ • การแข่งขันเรือยาวประเพณ ๓๐ ฝีพาย สนามอาเภอ
• ประเภทประชาชนชาย ได้อันดับ ๔ ทาได้ ๑ ปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ผลการแข่งขัน ชนะเลิศ ได้รับถ้วย

เหรียญทอง ๓ เหรียญทองแดง พระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ
• ประเภทเยาวชนชาย ชนะเลิศคะแนนรวมครองถ้วย รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ี
รางวัลพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เป็นปีท ๓ • การแข่งขันเรือยาวประเพณ ๓๐ ฝีพาย สนาม







ทาได้ ๔ เหรียญทอง ๑๐ เหรียญเงิน ๓ เหรียญทองแดง เทศบาล ตาบลโพสังโฆ จังหวัดสิงห์บุร ผลการแข่งขัน ชนะเลิศ ได ้
๒. การแข่งขันมวยสากลชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย รับถ้วยพระราชทาน ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา

ประจาปี ๒๕๖๓ ระหว่าง ๑๖ - ๒๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ สิริวัฒนาพรรณวด ี
• มวยสากลหญิง ชนะเลิศครองถ้วยรางวัลร่วมกับ โดย พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ



ทีมสานักงานตารวจแห่งชาต ได้ ๒ เหรียญทอง ๒ เหรียญเงิน ๒ (ในขณะน้น) รับมอบถ้วยรางวัลชนะเลิศการแข่งขันกีฬาจาก


เหรียญทองแดง คณะกรรมการกีฬากองทัพเรือ จานวน ๘ ใบ ณ ห้องรับรอง

• มวยสากลชาย ได้อันดับ ๕ กองบัญชาการ กองทัพเรือ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่
๓. การแข่งเรือพายได้รับรางวัลถ้วยพระราชทาน กรุงเทพมหานคร เม่อวันท ๒๗ มกราคม ๒๕๖๔











• การแข่งเรือพายชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ประจาป ท้งน เพ่อเป็นการสร้างขวัญและกาลังใจให้แก่กาลังพล
๒๕๖๓ ชิงถ้วยพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ ของกองทัพเรือท่มีความอดทนและทุ่มเทพัฒนาทักษะทาง



สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชิน ระหว่าง ๒๖ - ๒๙ พฤศจิกายน การกีฬาจนประสบผลสาเร็จตามพระราชดารัส “กีฬาสร้างคน

๒๕๖๓ ผลการแข่งขัน ชนะเลิศคะแนนรวม ได้รับถ้วยพระราชทาน คนสร้างชาติ” ของ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จานวน ๒ ประเภท ได้แก่ ประเภท มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร สร้างกาลังพล




เรือยาวและประเภทเรือกรรเชียง เป็นคนคุณภาพ มีกาลังกายท่แข็งแรง มีจิตใจท่เข้มแข็ง รู้จัก

• การแข่งขันเรือยาวประเพณ ๕๕ ฝีพาย สนาม วินัย รู้จักระเบียบ กฎ กติกา มารยาท สอนให้อยู่ร่วมกับสังคม


อาเภอปากคาด จังหวัดบึงกาฬ ผลการแข่งขันชนะเลิศ ได้รับ ด้วยความเรียบร้อย ตรงกับคาท่ว่า “เป็นนักกีฬา ต้องเคารพ

ถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จ กฎกติกา เป็นปวงประชา ต้องเคารพกฎหมาย”
132


จ่าเอก ฐิติกร เพียสา และ จ่าโท ปริวัตร เหลวกูล

ช่วยเด็กกัมพูชารอดชีวิตจากการจมน้า




พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ Resuscitation” ประมาณ ๑ นาท ภายใต้การควบคุมและส่งการ



(ในขณะน้น) เป็นประธานมอบใบประกาศยกย่องชมเชย จ่าเอก ของ พันจ่าเอก อมร ไชยสุข ผู้บังคับตอนพยาบาล หน่วยเฉพาะกิจ


ฐิติกร เพียสา และ จ่าโท ปริวัตร เหลวกูล ท่ช่วยเด็กชาวกัมพูชา นาวิกโยธิน ๑๘๒ จนฟื้นคืนชีพ และนาส่งสถานพยาบาลใกล้เคียง



รอดชีวิตจากการจมน�้า โดยม พลเรือโท รณรงค์ สิทธินันทน์ เพ่อทาการตรวจรักษาจนปลอดภัย จากการสอบถามทราบว่า



ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ตลอดจนผู้บังคับบัญชา ผู้จมน้าเป็นเด็กชายชาวกัมพูชา ออกไปเล่นน้าโดยท่บิดามารดา






ของ จ่าเอก ฐิติกร และ จ่าโท ปริวัตร ร่วมแสดงความยินด ท่อยู่ในบริเวณน้นไม่ทันสังเกตเห็น ท้งน้ในปัจจุบันมีชาวกัมพูชา




ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม และครอบครัวท่ได้รับอนุญาตทางานในพ้นท่ต้งแต่ก่อน





เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เม่อวันท ๑๖ ธันวาคม ๒๕๖๓ เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙








เม่อวันท ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓ ขณะท จ่าเอก ฐิติกร (COVID - 19) ท่ตกค้าง ในพ้นท่บ้านหาดเล็ก อาเภอคลองใหญ ่




เพียสา และ จ่าโท ปริวัตร เหลวกูล ปฏิบัติหน้าท่พยาบาลเวร จังหวัดตราด จานวนประมาณ ๒๐๐ คน และยังไม่เดินทาง


ประจาวัน ตอนพยาบาล หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธิน ๑๘๒ กาลัง กลับภูมิล�าเนา โอกาสนี้ผู้บัญชาการทหารเรือได้แสดงความ









ปฏบตหน้าทเพอตรวจรกษากาลงพลและประชาชนในพนท ยนดีและช่นชม จ่าเอก ฐิติกร ฯ และ จ่าโท ปริวัตร ฯ ท่ม ี












รับผิดชอบ ณ บริเวณบ้านหาดเล็ก ตาบลหาดเล็ก อาเภอ ปฏิภาณไหวพริบ ในการช่วยเหลือผู้ประสบเหตุจมน้าด้วยการ
คลองใหญ่ จังหวัดตราด ประสบเหตุพบร่างเด็กชาย อายุประมาณ ปฐมพยาบาลเบื้องต้นจนผู้ป่วยคืนสติ ซึ่งการกระท�าดังกล่าว

๓ ขวบ นอนหงายไม่เคล่อนไหวในทะเลห่างจากชายหาดบ้านเล็ก ได้รับเสียงช่นชมจากผู้อยู่ในเหตุการณ์ ตลอดจนญาติของ





ออกไปประมาณ ๒๐ เมตร จึงรีบนาตัวเด็กข้นมาบนฝั่ง จากการ ผู้ประสบเหตุเป็นอย่างมาก รวมท้งส่อโซเชียลต่าง ๆ ท่นาเร่องราว



ตรวจสอบเบ้องต้นพบว่าผู้ป่วยหมดสต ไม่มีสัญญาณชีพ จากเหตการณ์ในครงนไปเผยแพร่เป็นการสร้างภาพลกษณ์











จึงทาการช่วยชีวิตฉุกเฉินโดยการ CPR “Cardiopulmonary ท่ดีให้แก่กองทัพเรือ

133


จ่าเอก ณัฐวรรษน์ ภวัตณัฐรัชต์ จ่าเอก โยธิน เกล้าวิกรณ์


และ พลทหาร บดินทร์ น�าวัฒนาเจริญ

ช่วยเหลือชีวิตประชาชนที่พลัดตกทะเล






พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ (ในขณะน้น) มอบประกาศเกียรติคุณยกย่องชมเชยให้แก่ จ่าเอก


ณัฐวรรษน์ ภวัตณัฐรัชต์ จ่าเอก โยธิน เกล้าวิกรณ์ และ พลทหาร บดินทร์ นาวัฒนาเจริญ สังกัด กองสนับสนุน กองเรือยุทธการ

ท่มีความกล้าหาญร่วมกันสร้างความดี ช่วยเหลือชีวิตประชาชนท่พลัดตกทะเลจนปลอดภัย ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรอ



พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร เม่อวันท ๒๖ มกราคม ๒๕๖๔


ทั้งนี้ สืบเนื่องก�าลังพลทั้ง ๓ นาย ได้เข้าช่วยชีวิต นางผุสดี คันโท อายุ ๖๓ ปี ที่มีอาการหน้ามืด พลัดตกทะเล บริเวณ




หน้าท่ว่าการอาเภอสัตหีบ ก่อนถูกกระแสน้าพัด ลอยไปบริเวณทุ่นไฟปากร่อง อ่าวดงตาล ขณะท่กาลังพลท้ง ๓ นาย อยู่ระหว่าง


ปฏิบัติหน้าที่เวรยาม ณ บริเวณท่าเทียบเรือกลางอ่าว กองเรือยุทธการ ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือ ทั้งหมดจึงตัดสินใจ
นาเรือเล็กออกไปให้ความช่วยเหลือในทันทีทันใดจนรอดชีวิต ก่อนช่วยปฐมพยาบาลพร้อมประสานครอบครัวท่จังหวัดฉะเชิงเทรา


ให้มารับตัวกลับบ้านด้วยความปลอดภัย








134


จ่าเอก อริย น้อยมี พยาบาล ช่วยเหลือ

ประชาชนถูกชิงทรัพย์ได้รับบาดเจ็บบนสะพานลอย





พลเรือเอก ชาติชาย ศรีวรขาน ผู้บัญชาการทหารเรือ ผเสียหายได้สาเร็จ รวมถึงปฐมพยาบาลผู้ประสบเหตุท่ได ้




(ในขณะน้น) เป็นประธานในพิธีมอบประกาศเกียรติคุณ รับบาดเจ็บ พร้อมท้งประสานศูนย์กู้ชีพ โรงพยาบาลสมเด็จ


ให้แก่ จ่าเอก อริย น้อยม พยาบาล แผนกพลาธิการ เรือหลวง พระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ และส่งตัวเข้ารับการรักษา




ท่าดินเเดง หมวดเรือท ๒ กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ อย่างทันท่วงท ท้งยังแจ้งเจ้าหน้าท่ตารวจให้นาตัวผู้กระทาผิด





ณ กองบัญชาการกองเรือทุ่นระเบิด ตาบลแหลมฟ้าผ่า ไปด�าเนินตามกฎหมายต่อไป
อาเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ เม่อวันท่ ๙ โอกาสน้ผู้บัญชาการทหารเรือได้กล่าวชมเชย





มิถุนายน ๒๕๖๔ จ่าเอก อริยฯ ว่าการกระทาดังกล่าวได้แสดงถึงความกล้าหาญ


จากเหตุการณ์ท จ่าเอก อริยฯ ได้ให้การช่วยเหลือ ท่ยอมเสียสละเพ่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุโดยไม่คานึง




หญิงเคราะห์ร้ายถูกชิงทรัพย์ได้รับบาดเจ็บบนสะพานลอย ถึงอันตรายท่อาจจะเกิดข้นแก่ตนเอง ถือเป็นแบบอย่างทด ี





หน้าโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรอ ของสังคมและสร้างภาพลักษณ์ท่ดีของกองทัพเรือให้ปรากฏ



จนได้รับความปลอดภัยท้งร่างกายและทรัพย์สิน เม่อวันท ่ ี ต่อสาธารณชน นับเป็นบุคคลท่ควรแก่การยกย่องชมเชย
๖ มิถุนายน ๒๕๖๔ ขณะท จ่าเอก อริยฯ เดินข้าม เป็นอย่างย่ง กองทัพเรือขอประกาศให้ทราบโดยท่วกันว่า




สะพานลอยได้ยินเสียงขอความช่วยเหลือ ด้วยความที่มีสติ จ่าเอก อริย น้อยมี เป็นผู้ประกอบคุณงามความดี สมควรได้
และจิตใจท่กล้าหาญ จึงตัดสินใจว่งติดตามผู้กระทาผด รับการยกย่องชมเชยและยึดถือเป็นแบบอย่างที่ดี




จนสามารถควบคุมตัวและนาทรัพย์สินของมีค่าคืนแก่

135


เสริมสร้างขวัญและก�าลังใจก�าลังพล
































ผู้บัญชาการทหารเรือ เยี่ยมบ�ารุงขวัญก�าลังพล

กรมแพทย์ทหารเรือ



พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมคณะนายทหารช้นผู้ใหญ่ของกองทัพเรือ เดินทางไป

เยี่ยมบ�ารุงขวัญก�าลังพลและบุคลากรทางการแพทย์ของกรมแพทย์ทหารเรือ ณ โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า แขวงบุคคโล




เขตธนบุร กรุงเทพมหานคร เม่อวันท ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๔

โดยม พลเรือโท ชลธร สุวรรณกิตต เจ้ากรมแพทย์ทหารเรือ และ พลเรือตร ณัฐ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อานวยการ






โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า ให้การต้อนรับ พร้อมนาคณะของผู้บัญชาการทหารเรือ รับฟังการบรรยายสรุปเพ่อรับทราบถง

การดาเนินการ อุปสรรค และข้อขัดข้อง ในการปฏิบัติงาน โดยเฉพาะการให้บริการฉีดวัคซีนเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19)

แก่ประชาชน รวมถึงการรักษาพยาบาลผู้ติดเชื้อ โอกาสนี้ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้ส่งก�าลังใจแด่บุคลากรทางการแพทย์ของ



กรมแพทย์ทหารเรือ ท่ปฏิบัติภารกิจในการดูแลรักษากาลังพลและประชาชน ท่เข้ารับการรักษาพยาบาล จากสถานการณ์การแพร่



ระบาดของเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) ด้วยความเสียสละ พร้อมท้งช่นชมว่าทุกนายคือ หน่งในนักรบชาวเรือ ท่ทุ่มเท





เสียสละตนเอง เพ่อช่วยเหลือพ่น้องประชาชนให้ปลอดภัยจากเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19)















136




จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) ซ่งรัฐบาลถือเป็นวาระแห่งชาต ิ




กองทัพเรือ ได้ดาเนินมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองตามแนวชายแดนท้งทางบกและทางนา การใช้ทรัพยากรของกองทัพ ได้แก่
การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม การจัดสถานพยาบาลและบุคลากรทางการแพทย์ในการดูแลและให้การรักษาประชาชนโดยทั่วไป
การจัดรถครัวสนาม รวมทั้งการน�าก�าลังพลบริจาคโลหิตจากภาวะโลหิตขาดแคลน ส�าหรับในส่วนของ คลินิกวัคซีน โควิด - ๑๙




โรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ท่ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้มาตรวจเย่ยมในวันน สามารถรองรับการให้บริการ

แก่ประชาชนในการฉีดวัคซีนได้วันละ ๕๐๐ คน โดยแบ่งตามช่วงเวลาการจองคิวเพ่อลดความแออัดของผู้เข้ารับการฉีดวัคซีน และ



ในส่วนของการรักษาพยาบาลผู้ป่วย ท่ขยายตัวเพ่มมากข้นน้น ทางโรงพยาบาลสมเด็จพระปิ่นเกล้า กรมแพทย์ทหารเรือ ได้ปรับเปล่ยน


สโมสรกรมแพทย์ทหารเรือ ให้เป็น “หอผู้ป่วยปิ่นเกล้า” ซ่งรองรับผู้ติดเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19) สีเขียวเฉพาะเพศชาย


และ ปรับเปล่ยนอาคารเทียมเชิด - บุญเมือง ช้น ๑ ช้น ๒ และ ช้น ๔ เป็นหอผู้ป่วยท่ติดเช้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID - 19)







เฉพาะสีแดง และผู้ป่วยวิกฤต โดยปัจจุบันยังคงมีผู้ป่วยเข้ารับการรักษาเป็นจานวนมาก


















137


จัดพิมพ์โดย กองโรงพิมพ์ กรมสำรบรรณทหำรเรือ

138


139


140


Click to View FlipBook Version