พัฒนาการของสงครามทุ่นระเบิด
แบบย่อยง่ายตามไทม์ไลน์ของประวัติศาสตร์
จากอดีตสู่ปัจจุบันและมุ่งไปยังอนาคต
นาวาตรี ธารไชยยันต์ ตันติอำานวย
ี
่
่
ี
ั
ด้วยทว่าการสงครามทุ่นระเบิดน้นเป็นสาขาการ ณ ราชอาณาจักรบาห์เรน โดยมีกองเรือท ๕ ของ
ั
ี
่
ั
ปฏิบตการทางเรือหน่งทมีความสลบซบซ้อน มความ สหรัฐอเมริกาเป็นผู้จัดการฝึก ซ่งผู้เขียนได้มีโอกาสไป
ึ
ี
ึ
ิ
ั
เฉพาะทางสูง จนท�าให้มีผู้เข้าใจการปฏิบัติอย่างถ่องแท้ ข้นเรือบัญชาการสงครามทุ่นระเบิดของประเทศญ่ปุ่น
ี
ึ
่
�
�
ั
ี
เพียงจานวนเล็กน้อยเท่าน้นในกองทัพเรือ ซ่งปรากฏการณ์ คือ เรือลาท ๒ ของเรือช้น Uraga Class คือ เรือ JS Bungo
ึ
ั
�
ี
ั
น้ไม่ได้เกิดเฉพาะในประเทศไทยแต่เพียงเท่าน้น แต่จาก จากการร่วมฝึกท้งการฝึกบนฝั่งและในทะเลทาให้ได้
ั
ึ
ประสบการณ์ของผู้เขียนซ่งได้ผ่านการฝึกผสมพหุภาค ี มีโอกาสได้พูดคุยกับมิตรประเทศที่เข้าร่วมฝึก ที่ต่างก็มี
International Maritime Exercise 2019 (IMX 2019) ความรู้สึกร่วมกันว่าการสงครามทุ่นระเบิดน้นเป็นท่รู้จัก
ี
ั
JS Bungo ถ่ายรูปร่วมกับ HMS Ledbury (ซ้าย) และ JS Takashima (ขวา)
นาวิกศาสตร์ 55
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ื
พัฒนาอย่างต่อเน่องตามยุคสมัย ผู้เขียนจึงเล็งเห็นถึง
�
ความจาเป็นในการสร้างความเข้าใจให้กับนักสงคราม
ั
ื
ึ
ื
่
ิ
ทางเรอสาขาอน ๆ ถงความอนตรายของการระเบด
ี
ใต้นาท่มีอานุภาพร้ายแรงไม่ย่งหย่อนกว่าการโดน
ิ
�
้
�
้
�
ตอร์ปิโดจากเรือดานา และร่วมด้วยการอธิบายการ
พัฒนาด้านเทคโนโลยีสงครามทุ่นระเบิดต้งแต่ยุค
ั
เร่มแรกจนกระท่งในยุคปัจจุบัน โดยแบ่งเป็นยุคโบราณ
ิ
ั
่
ี
ั
ยุคสงครามโลกคร้งท ๑ ยุคสงครามโลกคร้งท ๒
ี
ั
่
ื
ยุคอนาล็อค และในปัจจุบันคือยุคดิจิตอล เพ่อสร้าง
ความเข้าใจ ความเป็นมา และเห็นแนวทางในการพัฒนา
ของทุ่นระเบิดต้งแต่ในอดีต และการปฏิบัติการในอนาคต
ั
ผู้เขียนถ่ายรูปร่วมกับผู้บัญชาการกองเรือที่ ๕ ของสหรัฐอเมริกา เพ่อเพมความเข้าใจให้กบผ้ปฏิบติงานสาขาอนเพ่ม
ิ
่
่
ู
ั
ิ
ั
ื
ื
และผู้ร่วมฝึกจากชาติต่าง ๆ ประกอบด้วยสหรัฐอเมริกา สหราช มากข้น จนนาไปสู่การปฏิบัติงานร่วมกันได้อย่างเข้าใจ
�
ึ
อาณาจักร และสาธารณรัฐอินเดีย ซึ่งใช้ชีวิตและปฏิบัติงานร่วม
ึ
�
กันบนเรือบัญชาการสงครามทุ่นระเบิดของกองกาลังป้องกัน ซ่งกันและกันระหว่างผู้ปฏิบัติการด้านสงครามทุ่นระเบิด
ตนเองของญี่ปุ่น และผู้ปฏิบัติงานในสาขาสงครามทางเรืออื่น ๆ
ความรุนแรงของการระเบิดใต้นาของทุ่นระเบิดท่ไม่
ี
�
้
ั
�
น้อยและจากัดเป็นวงแคบ รวมท้งขาดการประชาสัมพันธ์ แตกต่างจากการโดนยิงด้วยตอร์ปิโด
๑
�
และเป็นการปฏิบัติเฉพาะทาง ทาให้มีผู้ท่เข้าใจการ การระเบดใต้นานบว่ามีความรนแรง และยากต่อ
ี
�
ั
้
ิ
ุ
ปฏิบัติงานด้านสงครามทุ่นระเบิดเป็นจานวนน้อย แต่กระน้น การป้องกันความเสียหายเม่อเกิดนาเข้าเรือ ซ่งทุ่นระเบิด
�
ั
�
ึ
ื
้
การสงครามทุ่นระเบิดก็ไม่สามารถแยกออกจากการ ได้เร่มเกิดข้นเม่อมนุษย์เร่มมีแนวคิดในการทาลายล้าง
ิ
ึ
�
ิ
ื
ปฏิบัติการทางเรือได้ และยังคงมีมนต์ขลังรวมถึงมีการ เรือในทะเล หรือแม่นา ด้วยการนาเอาดินระเบิดไปใส่
�
้
�
๑ ความเฉพาะทางของการสงครามทุ่นระเบิด: ๑. เป็นการปฏิบัติที่มีความละเอียด ความผิดพลาดในการก�าหนดต�าบลที่เป้าใต้น�้าเพียง ๑๕ เมตร
อาจท�าให้ส่งผลต่อเวลาปฏิบัติการใต้น�้าและชีวิตของเจ้าหน้าที่ถอดท�าลายอมภัณฑ์ (EOD) และเป็นการสูญเสียเวลาอันมีค่าในการเปิดช่องทางเข้า
�
ออกท่าเรือให้ทันตามกาหนดการของหมู่เรือหลัก เรือต่อต้านทุ่นระเบิดจึงจาเป็นต้องมีระบบการนาเรือท่แม่นยา ๒.ไม่แสดงภาพเร้าใจเน่องจาก
ี
�
�
�
ื
เป็นการค้นหาวัตถุใต้น�้าขนาดกว้าง ยาว ไม่เกิน ๑ ถึง ๒ เมตร ซึ่งนับเป็นเสน่ห์ และมนต์ขลังของการสงครามทุ่นระเบิด ที่ต้องค้นหาและท�าลาย
วัตถุที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่าจากผิวน�้า ซึ่งต้องใช้ความเข้าใจมากขึ้นจากการปฏิบัติงานปกติบนผิวน�้า เนื่องจากมีปัจจัยทางธรรมชาติใต้น�้าที่ส่งผล
ต่อการปฏิบัตินั้นมีเป็นจ�านวนมาก เช่น ความลึกของน�้าในพื้นที่ อุณหภูมิ ความเค็ม ความกดของน�้าทะเลซึ่งส่งผลต่อระยะการค้นหาของโซนาร์ล่า
ทาลายทุ่นระเบิด กระแสนา กระแสลมขณะรักษาตาบลท ความแรงของคล่นท่ส่งผลต่อ EOD ขณะปฏิบัติการในนา ความยาวสายยึดทุ่น การเหของ
ื
้
ี
�
�
้
่
ี
�
�
ทุ่นระเบิดที่ความเร็วกระแสน�้าระดับต่าง ๆ สภาพพื้นท้องทะเลเป็นหิน ดิน กรวด หรือทราย (ส่งผลต่อการสะท้อนของสัญญาณโซนาร์) ความชัน
ื
้
�
�
้
สันทราย พืชใต้น�า ปริมาณแบตเตอรีของยานล่าทาลาย ฯลฯ และระหว่างการปฏิบัติงานปกติหากมองด้วยสายตาเม่ออยู่บนผิวนา ไม่ว่าจะเป็นการ
กวาด หรือการใช้โซนาร์ล่าท�าลายทุ่นระเบิด ภาพที่มองจากด้านนอกของเรือทุ่นระเบิดก็ล้วนเป็นการแล่นเรือวนไปมาในพื้นที่แคบ ๆ ด้วยความเร็ว
๓ - ๕ นอต ทั้งนี้เพื่อไม่ให้หน้าจอเคลื่อนผ่านเร็วเกินไปจนผู้ใช้งานโซนาร์คลาดสายตาจากเป้าใต้น�้า และลดค่าอิทธิพลเสียง แม่เหล็ก และความ
ดันให้ต�่าที่สุดโดยในความเห็นของผู้เขียนเห็นว่าการสงครามทุ่นระเบิดนั้น มีความคล้ายคลึงกับการปราบเรือด�าน�้า เนื่องจากเป็นการสงครามใต้น�้า
้
ี
�
ี
ื
�
้
ท่ต้องใช้เสียงใต้นาเป็นเคร่องมือหลักในการปฏิบัติงาน และเป็นการปฏิบัติท่ต้องมีการค้นหาเป้าใต้นาเช่นเดียวกัน ต่างกันเพียงเป้าทุ่นระเบิดไม่
เคลื่อนที่แต่ก็สามารถเกิดการจมตัว หรืออยู่ในพื้นที่ที่มีเป้าใต้น�้าอื่น ๆ มากจนไม่สามารถแยกออกทันในเวลาที่จ�ากัดได้ว่าเป้าใดเป็นทุ่นระเบิดจริง
เป้าใดเป็นหิน ปะการัง หรือแม้แต่ขยะใต้ทะเล ในขณะที่เรือด�าน�้าหาวัตถุใต้น�้าที่เคลื่อนที่ได้ โดยทั้งสองการปฏิบัติการใต้น�้านี้ยากในการอธิบายให้
ผู้ที่ไม่ได้ปฏิบัติงานโดยตรงเข้าใจลักษณะการปฏิบัติงาน ดังนั้นหากมองด้วยสายตาเพียงอย่างเดียวจากเรืออื่น ๆ หรือผู้ชมจึงจินตนาการได้ยากว่า
�
ื
ื
ี
ี
ึ
เรือต่อต้านทุ่นระเบิดกาลังปฏิบัติการใดอยู่ เหตุการณ์ท่ต่นเต้นมากท่สุดมักจะเกิดข้นในห้องศูนย์ยุทธการเม่อค้นหาทุ่นระเบิดพบ (ซ่งในบางกรณ ี
ึ
เป้าที่พบก็อาจไม่ใช่ทุ่นระเบิด) และการเกิดฝอยน�้าเมื่อทุ่นระเบิดถูกท�าลายเพียงเท่านั้น
นาวิกศาสตร์ 56
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
้
ิ
�
�
�
ในภาชนะลอยนา และทาให้เกิดการจุดระเบิดบริเวณ ของทุ่นระเบดส่งผลให้แรงลอยตัวบริเวณกลางลาของ
�
�
ึ
้
ท้องเรือใต้แนวนา ซ่งการระเบิดใต้แนวนาน้น มีความร้ายแรง เรือมีน้อยกว่าแรงลอยตัวบริเวณหัวเรือและท้ายเรือ
ั
้
�
้
ื
ึ
ี
เป็นอย่างมากหากเกิดข้นในระยะท่ใกล้มากเพียงพอ และเน่องจากปรากฏการณ์ของการระเบิดใต้นา
ในรัศมีการระเบิดของคล่นกระแทก (Shock wave) (Underwater Explosion Phenomena) ซ่งผลของ
ื
ึ
โดยเฉพาะในจังหวะท่เรือแล่นอยู่เหนือทุ่นระเบิด ปรากฏการณ์การระเบิดใต้นาเกิด ๒ ปรากฏการณ์ท ่ ี
ี
�
้
พอด (โดยเฉพาะกับทุ่นระเบิดแบบอิทธิพลวางกับพ้น แตกต่างกันคือ ปรากฏการณ์การเกิดคล่น Shock wave
ื
ี
ื
ท้องทะเลซ่งจะบรรจุดินระเบิดจานวนมากกว่าทุ่นระเบิด และปรากฏการณ์การขยายและหดตัวของฟองอากาศ
ึ
�
่
ี
ี
�
ี
ทอดประจาท ท่ไม่สามารถบรรจุดินระเบิดเต็มปริมาตรได้ ท่เกิดจากการระเบิด (pulsation of the bubble)
เน่องจากต้องการให้ทุ่นระเบิดมีกาลังลอย) ก็จะทาให้ แล้วทาให้เกิดการเปล่ยนแปลงของแรงลอยตัวอย่าง
�
ี
ื
�
�
ั
ี
ี
เรือสามารถท่จะหักกลางได้ในการระเบิดเพียงคร้งเดียว กระทันหันจนตัวเรือท่เป็นเหล็กกล้าไม่สามารถปรับ
ั
ี
ื
ี
่
ั
ท้งน้เน่องจากความต่างของแรงลอยตัว (Buoyancy) เปลยนไปตามการเปลยนแปลงของแรงลอยตวได้
ี
่
ของมวลนาท่เปล่ยนแปลงไปในจังหวะท่เกิดการระเบิด จนส่งผลให้เกิดการหักของตัวเรือ
ี
�
๒
ี
้
ี
�
้
ี
แสดงการเปล่ยนแปลงของแรงลอยตัวของเรือผิวนาอย่างกะทันหัน จากปรากฏการณ์การระเบิดใต้นา (Underwater Explosion Phenomenon)
�
้
๒ Headquarters US Army Material Command, AMCP 706-179 – ENGINEERING DESIGN HANDBOOK – Explosive Series, p.3-16
นาวิกศาสตร์ 57
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
ึ
ซ่งผลิตจากการนาเอาถังเหล้า (Keg) บรรจุดินระเบิด
ในแม่น�้าเดลาแวร์ หรือ Battle of the kegs ซึ่งเกิดขึ้น
ในสงครามปฏิวัติอเมริกัน (American Revolutionary
War) โดยการปล่อยทุ่นระเบิดที่ประดิษฐ์จากถังใส่เหล้า
เหล่าน้ลอยไปตามกระแสนาเพ่อทาลายเรือของจักรวรรด ิ
ื
�
ี
้
�
อังกฤษที่จอดอยู่ในอ่าว
�
ี
ื
ภาพการเคล่อนตัวของ Gas Globe ท่เกิดจากการระเบิดใต้นา
้
ที่ Gas Globe จะยุบตัว ขยายตัว ยุบตัว ขยายตัว และยุบตัวอีก
ึ
ึ
ี
�
ี
ั
คร้งหน่ง ซ่งเป็นปรากฏการณ์ท่ทาให้เกิดการเปล่ยนแปลงของ
ุ
�
้
ื
�
แรงดันใต้ท้องเรืออย่างกระทันหันเม่อเทียบกับเวลาจนทาให้ตัว ภาพวาดแสดงเหตการณ์ Battle of the Kegs ในแม่นา
เรือผิวน�้าหักกลาง Delaware ภาพจาก Getty Images
ี
ี
พัฒนาการของเทคโนโลยีท่เก่ยวข้องกับสงคราม โดยเว็ปไซต์ของ Naval History and Heritage
ทุ่นระเบิดในยุคเริ่มต้น Command กล่าวถึงการประดิษฐ์ในครั้งนี้ไว้ว่า
ความคลาสสิคของสงครามทุ่นระเบิดน้นเร่มข้น “The use of sea mines dates back to the American
ั
ึ
ิ
มาหลายร้อยปี หากเป็นหลักฐานของฝั่งตะวันออกม ี Revolution when David Bushnell, while a
หลักฐานท่บ่งบอกว่าราชสานักจีนในสมัยราชวงศ์หมิง student at Yale, discovered gunpowder could be
ี
�
เร่มมีการประดิษฐ์คิดค้น “ทุ่นระเบิด” ข้นต้งแต่ศตวรรษ exploded while underwater. In 1777, a portion
ั
ิ
ึ
ที่ ๑๔ โดยนายทหารปืนใหญ่ที่ชื่อ Jiao Yu ซึ่งปรากฏ of the British fleet was stationed at the Delaware
ในบันทึกการประดิษฐ์อาวุธท่ใช้ดินปืนของจีน (บันทึก River off Philadelphia. Bushnell was authorized
ี
ึ
Huolongjing) ซ่งตามบันทึกของจีนได้กล่าวว่ามีการใช้ by General George Washington to attempt to
ทุ่นระเบิดดังกล่าวซ่งทาส่วนของเปลือกทุ่นจากไม้อัด destroy some of them by the use of the newly
�
ึ
๔
ั
กันร่วด้วยกาวไว้เพ่อใช้กับโจรสลัดญ่ปุ่น (Wokou) ๓ invented sea mine.”
ี
ื
�
สาหรับหลักฐานในฝั่งตะวันตกโดยส่วนใหญ่จะกล่าวถึง โดยในยุคของสงครามปฏิวัติอเมริกัน และสงคราม
ั
การประดิษฐ์ของ David Bushnell ที่เป็นผู้ประดิษฐ์เรือ กลางเมืองสหรัฐอเมริกา ทุ่นระเบิดในสมัยน้นยังถูก
เต่า (Turtle Submarine) และทุ่นระเบิดลอยตามกระแสนา เรียกว่าตอร์ปิโดอยู่
�
้
๕
๓ https://en.wikipedia.org/wiki/Naval_mine
๔ https://www.history.navy.mil/browse-by-topic/exploration-and-innovation/naval-mine-warfare.html
๕ https://navalunderseamuseum.org/civilwarmines/
นาวิกศาสตร์ 58
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ในโลกก็ได้เริ่มเกิดขึ้นด้วยเช่นกันในเหตุการณ์ Battle of
the Kegs ด้วยการส่งเรือเล็กไปสกัดกั้นไม่ให้ทุ่นระเบิด
มาโดนเรือใหญ่
ี
ี
พัฒนาการของเทคโนโลยีท่เก่ยวข้องกับสงคราม
ทุ่นระเบิดในยุคสงครามโลกครั้งที่ ๑ และ ๒
ิ
ื
้
ต่อมาเม่อเกิดการปฏวัติอุตสาหกรรมขนในทวีปยุโรป
ึ
และอเมริกาในห้วงปี ค.ศ.๑๗๖๐ - ค.ศ.๑๘๔๐ ซึ่งมีการ
�
ึ
ประดิษฐ์คิดค้นเทคโนโลยีต่าง ๆ จานวนมาก ซ่งทุ่นระเบิด
ี
�
ก็เช่นเดียวกัน ก็ได้มีการนาเอาวิทยาการท่คิดค้นได้จาก
ึ
ิ
ยุคน้มาพัฒนาทุ่นระเบิดให้มีประสิทธิภาพเพ่มมากข้น
ี
ื
ควบคู่ไปตามยุคสมัย เม่อเรือในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม
เริ่มที่จะเปลี่ยนจากเรือไม้เป็นเรือเหล็ก จึงเกิดนวัตกรรม
้
ื
�
่
ึ
ึ
ใหม่ในสงครามทุ่นระเบิดซงก็คอเขานากรด ซงเป็นการ
่
ภาพทุ่นระเบิดจากบันทึกของจีนในศตวรรษท ๑๔ ยุคราชวงศ์หมิง บูรณาการความรู้ทางเคมีเข้ากับความรู้ทางวิศวกรรม
ี
่
และฟิสิกส์ เกิดเป็นเขานากรดซ่งสามารถสร้างกระแส
ึ
�
้
ไฟฟ้าไปต่อทางไฟจุดระเบิด และเขากระทบแตก
ึ
ึ
ซ่งอาศัย Galvanic Action ท่เกิดปฏิกิริยารีดอกซ์ซ่ง
ี
ี
เป็นปฏิกิริยาเก่ยวกับการรับ-ส่งอิเล็กตรอน โดยสามารถ
แบ่งได้เป็น ๒ คร่งปฏิกิริยา คือ ปฏิกิริยาออกซิเดช่น
ึ
ั
ี
เป็นปฏิกิริยาท่เสียอิเล็กตรอน และปฏิกิริยารีดักช่น เป็น
ั
ี
ปฏิกิริยาท่รับอิเล็กตรอน เกิดการแลกเปล่ยนอิเล็กตรอน
ี
�
ี
จากการท่เหล็กต่างกัน ๒ ชนิดสัมผัสกันทาให้เกิด
กระแสไฟฟ้าไปจุดระเบิด
ภาพทุ่นระเบิดในสมัยสงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกา
ื
เม่อสงครามทุ่นระเบิดน้นเป็นการสู้และแก้เกมกัน
ั
ระหว่างผู้วางทุ่นระเบิดกับผู้ต่อต้านทุ่นระเบิดมาอยู่
ตลอดในประวัติศาสตร์สงครามทุ่นระเบิดของมนุษยชาต ิ
ี
ี
และมีการเปล่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีท่เปล่ยนแปลง
ี
ไปของโลก ผู้วางทุ่นระเบิดก็จะพยายามคิดค้นทุ่นระเบิด
ท่ไม่สามารถท�าการต่อต้านได้อยู่เสมอ ในส่วนของผู้ต่อต้าน
ี
ทุ่นระเบิดเองน้นก็จะพยายามสรรหาวิธีการท่จะเอาชนะ
ั
ี
ี
ี
ทุ่นระเบิดท่ต่อต้านได้ยากเหล่าน้เช่นเดียวกัน ในยุคแรก ๆ
ของทุ่นระเบิดซึ่งเป็นทุ่นระเบิดที่ท�าจากไม้ หรือถังเหล้า เขาน�้ากรด Hertz Horn
ึ
การต่อต้านทุ่นระเบิดซ่งคาดการณ์ว่าจะเป็นคร้งแรก
ั
นาวิกศาสตร์ 59
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ี
โดยในช่วงยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมน้เป็นยุคสงคราม
ึ
ั
่
ี
โลกคร้งท ๑ และเกิดการล่าอาณานิคมข้น ทุ่นระเบิด
�
ี
ในยุคน้ยังคงเป็นทุ่นระเบิดแบบทอดประจาท่แบบ
ี
กระทบระเบิด (Moored Contact Mine) ซึ่งมีสายโซ่
ยึดทุ่นระเบิดแบบควบคุม (Controlled Mine)
ซ่งมีคนเฝ้าคอยกดจุดระเบิดผ่านสายเม่อมีเรือแล่นผ่าน
ื
ึ
�
ิ
และท่นระเบดกระทบแตกแบบลอยตามกระแสนา
้
ุ
(Drifting Mine) ท�าให้การต่อต้านทุ่นระเบิดดังกล่าวนั้น
�
ี
จะต้องทาอย่างไรก็ได้ไม่ให้เรือท่เข้าไปต่อต้านไป
กระทบกับตัวทุ่นระเบิด จึงได้มีการประดิษฐ์เคร่องกวาด
ื
ข้นมาในยุคน เรือต่าง ๆ ท่ทาหน้าท่ต่อต้านทุ่นระเบิด
ึ
�
ี
ี
ี
้
ึ
จงถูกเรียกว่าเรอกวาดท่นระเบด (Minesweeper)
ื
ิ
ุ
ิ
โดยเร่มมีเทคนิคการกวาดต้งแต่การใช้สาย หรือเชือก
ั
ธรรมดาในการกวาดทุ่นให้ออกจากเส้นทางเดินเรือสาคัญ
�
หรือการเริ่มมีการคิดค้นเครื่องมือกวาดอย่าง Paravane
ึ
่
ี
ั
ข้นในระหว่างยุคสงครามโลกคร้งท ๑ (ค.ศ.๑๙๑๔ -
ค.ศ.๑๙๑๖) ซึ่งในยุคแรกตัว Paravane จะถูกติดตั้งไว้
ื
ื
บริเวณหัวเรือของเรือกวาดเพ่อตัดสายยึดทุ่นเม่อตัว
ี
Paravane ไปเก่ยวสายยึดทุ่นระเบิดแล้วทุ่นระเบิด
�
�
้
ึ
จะลอยข้นสู่ผิวนาจนสามารถยิงทาลายได้ด้วยปืน
แต่ถ้าสายยึดทุ่นไม่ขาดก็จะทาลายทุ่นระเบิดไปพร้อม
�
กับ Paravane น้น แล้วทาการเปล่ยน Paravane ตัวใหม่
�
ี
ั
เข้าแทนท ซ่งเป็นวิธีการท่ไม่คุ้มค่านักในการกวาด
ี
ี
่
ึ
ทุ่นระเบิดและด้านการส่งกาลังบารุง ต่อมาจึงได้มีการคิดค้น
�
�
ึ
การกวาดทุ่นระเบิดกลไกอีกแบบข้นโดยประเทศอังกฤษ
เรียกว่าการกวาดทุ่นระเบิดกลไกแบบ Oropesa การใช้ Paravane และ ขณะท�าการปล่อย Paravane
ื
ี
ี
ั
้
หรือท่เรียกสน ๆ ว่าการกวาดแบบ “โอ” โดยช่อโอ ท่จะสามารถตัดสายยึดทุ่นได้มากกว่าแถมยังเปล่ยน
ี
ซ่งในปัจจุบันผ่านมาแล้วกว่า ๑๐๐ ปี ก็ยังม ี อุปกรณ์ได้ง่ายกว่า Paravane และในยุคต่อ ๆ มาได้มีการ
ึ
เคร่องกวาดแบบน้ติดต้งอยู่บนเรือทุ่นระเบิดของทุก ๆ พัฒนากลไกตัดสายยึดทุ่นน้เป็นกรรไกรระเบิด แต่
ี
ื
ั
ี
ี
ประเทศท่มีเรือต่อต้านทุ่นระเบิด การตัดสายยึดทุ่นระเบิด อย่างไรก็ตามการต่อต้านทุ่นระเบิดก็ยังเป็นการต่อต้าน
ั
ของการกวาดแบบโอน้นต่างกับการใช้ Paravane โดยการ ท่ค่อนข้างซับซ้อน เน่องจากจาเป็นต้องมีการเตรียม
ี
�
ื
ตัดจะใช้กรรไกรในการตัดสายยึดทุ่นซ่งสามารถตัดได้ อุปกรณ์จ�านวนมาก หากลงรายละเอียดไปถึงเครื่องถ่วง
ึ
ื
ื
มากกว่าข้างละ ๑ ตัวเม่อเทียบกับ Paravane ซ่งม ี เคร่องรักษาระดับ ลูกลอย สเกล โซ่ สายกวาด และ
ึ
ี
ึ
ข้างละตัว ทาให้เรือกวาดทุ่นระเบิดท่ใช้กรรไกรซ่งใน ข้อต่อต่าง ๆ และการกวาดทุ่นระเบิดยังเป็นกระบวนการ
�
ยุคแรกของการกวาดเป็นกรรไกรกล มีความน่าจะเป็น ที่ซับซ้อน และกินระยะเวลาเนื่องจากจ�าเป็นต้องใช้เวลา
นาวิกศาสตร์ 60
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
้
�
ี
ี
่
ั
ี
�
ในการนาอุปกรณ์เหล่าน้ลงนา ประกอบกับการครอบคลุม ท่จะวางทุ่นระเบิดทางรุกได้ ทาให้ยุคสงครามโลกคร้งท ๑
ี
พ้นท่กว้างใหญ่ด้วยย่านทางกวาดหลักร้อยเมตรให้ ทุ่นระเบิดถูกใช้ในเชิงป้องกันเสียมากกว่า แต่การ
ื
๖
�
ุ
้
ั
่
็
ั
�
้
้
ื
่
ี
ี
ครอบคลมทงพนทด้วยความเรวต�านนจาเป็นต้องใช้เวลา คิดค้นทุ่นระเบิดอิทธิพลแม่เหล็กน้ได้ทาให้ทุกอย่าง
เพ่อให้แน่ใจได้ว่ามีความปลอดภัยแก่เรือท่จะผ่านพ้นท ี ่ เปลี่ยนไป
ื
ื
ี
ื
ภายหลังเสร็จสิ้นภารกิจ ทุ่นระเบิดแบบวางกับพ้นท้องทะเลอิทธิพล
ื
ิ
ี
แม่เหล็กน้สามารถวางได้จากเคร่องบินท้งระเบิดพร้อม
ื
ร่มชะลอการตกกระทบผิวนาเพ่อป้องกันการเสียหาย
�
้
้
ของทุ่นระเบิดเม่อกระทบกับผิวน�า โดยในยุคแรก ๆ
ื
ของทุ่นระเบิดแบบอิทธิพลนี้เซนเซอร์ท่รับค่าสัญญาณ
ี
การเปล่ยนแปลงของสนามแม่เหล็กโลกยังไม่ซับซ้อนนัก
ี
เน่องจากยังเป็นยุคคาบเก่ยวระหว่างยุคแมคคานิกและ
ื
ี
ยุคอนาล็อก จึงสามารถรับค่าสนามแม่เหล็กแบบรวม
ค่าแม่เหล็กทั้ง ๓ แกน หรือรับค่าเพียงแม่เหล็กแกนตั้ง
ุ
้
ี
ั
(Vertical Component) เท่านน ในช่วงน้ท่นระเบด
ิ
อิทธิพลแม่เหล็กเปรียบได้กับอาวุธลับของนาซีเยอรมัน
�
ั
ื
เน่องจากเป็นการปฏิวัติคร้งสาคัญของการวางทุ่นระเบิด
การกวาดทุ่นระเบิดแบบกลไก ภาพจาก EXTAC 1007 ทางรุก เป็นการแก้เกมของฝ่ายเยอรมันซ่งเป็นรองอังกฤษ
ึ
้
ั
�
้
�
�
ี
่
ในยคต่อมาซ่งเป็นยุคสงครามโลกครงท ๒ ได้ทาการ ในเรื่องกาลังรบผิวนา ฮิตเลอร์ถึงกับประกาศว่าเขามีอาวุธลับ
ึ
ุ
ั
ึ
ั
ปฏิวัติวงการทุ่นระเบิดอีกคร้งด้วยการคิดค้นทุ่นระเบิด ในการจัดการกบองกฤษ (หมายถงทุ่นระเบิดแม่เหลก)
ั
็
๗
็
้
ิ
ึ
ึ
ึ
ิ
ิ
ื
่
่
ุ
ี
อทธพลแมเหลกขนโดยนาซเยอรมัน ซงสามารถจดระเบด โดยเหตุการณ์เกิดข้นเม่อเรือของอังกฤษแล่นผ่าน
ั
โดยทท่นระเบดไม่ต้องสมผัสกบตวเรอ โดยอาศยการ ช่องทางท่ได้ทาการกวาดด้วยลวดกวาดแบบกลไก
ิ
ี
ุ
ั
่
�
ั
ี
ั
ื
ื
ี
ี
รับค่าสนามแม่เหล็กโลกท่เปล่ยนแปลงไปเม่อมีเรือ อย่างถ่ถ้วนแล้วมีเรือเกิดการระเบิดถึง ๒ ลา ประกอบกับการ
ี
�
ิ
ื
�
ว่งผ่านทุ่นระเบิดด้วยการคิดค้นเซนเซอร์วัดค่าสนาม ได้รับรายงานว่ามีเคร่องบินท้งระเบิดของเยอรมนีทาการ
ิ
ิ
แม่เหล็กท่เรียกว่า Magnetometer และยังเป็นชาติแรก ท้งวัตถุต้องสงสัยทรงกระบอกติดร่มลงในท่าเรือ และ
ี
ี
ิ
�
ท่เป็นผู้ทาการวางทุ่นระเบิดทางรุกได้อย่างมีประสิทธิภาพ เส้นทางเดินเรือของอังกฤษ อังกฤษจึงเร่มรู้ตัวแล้วว่า
ี
ั
่
ต่างจากในยุคก่อนหน้าในยุคสงครามโลกคร้งท ๑ ก�าลังต่อสู้อยู่กับทุ่นระเบิดชนิดใหม่อยู่ ภายหลังจากการ
ื
การจะวางทุ่นระเบิดทางรุก โดยใช้ทุ่นระเบิดทอด ตรวจสอบทุ่นระเบิดท่ด้าน และเกยต้นของเยอรมัน
ี
ั
ั
�
้
ื
�
็
�
ประจาท่ซ่งท้งใหญ่และหนักด้วยเรือผิวนาในพ้นท ี ่ กทาให้ในเวลาต่อมาองกฤษสามารถพฒนาการกวาด
ี
ั
ึ
ื
้
ั
ิ
ึ
ุ
อิทธิพลของข้าศึกน้นมีความเป็นไปได้ยาก เน่องจาก ท่นระเบิดอทธิพลขนโดยการปล่อยกระแสไฟฟ้า
จาเป็นท่จะต้องมีความเหนือกว่าด้านศักย์สงคราม ให้ไหลไปตามขดลวดกวาดเพ่อสร้างสนามแม่เหล็ก
�
ี
ื
้
่
ั
ุ
ทางเรืออย่างเหนือช้น หรือควบคุมทะเลได้เสียก่อน จาลองขนเพ่อตอต้านท่นระเบิดของเยอรมนไดทนทวงท ี
ึ
�
้
ั
ั
ื
่
�
ี
ทาให้ในยุคน้ฝ่ายท่มีศักย์สงครามน้อยกว่าไม่สามารถ ก่อนทเยอรมนีจะทาการวางทุ่นระเบิดแม่เหล็กน้เป็น
ี
่
ี
ี
�
๖ Ellis A Johnson; David A Katcher, Mine Against Japan, Silver Spring, Md. : Naval Ord-
์
์
nance Laboratory, 1973 p.5หนังสืออิเล็กทรอนิกส จากเว็ปไซต Google Books ค�าค้นหา “Mine Against Japan”
๗ Ellis A Johnson; David A Katcher, Mine Against Japan, Silver Spring, Md. : Naval Ordnance Laboratory, 1973 p.10
นาวิกศาสตร์ 61
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
ึ
จานวนมาก ซ่งนอกจากค่าอิทธิพลแม่เหล็กแล้วทุ่นระเบิด การผลิตเมนบอร์ด การผลิตไอซีชิป และยุคดอทคอม
ื
ื
�
ึ
ยังสามารถรับค่าอิทธิพลอ่น ๆ ได้อีกมากมาย แต่ค่าอิทธิพล การพัฒนาข้นของเคร่องช่วยคานวณอย่าง
ท่นิยมใช้ในการพัฒนาทุ่นระเบิดจะมีอยู่ด้วยกัน ๓ ค่า คอมพิวเตอร์ได้สร้างความปั่นป่วนให้วงการต่อต้าน
ี
คือ ค่าอิทธิพลแม่เหล็ก เสียง และความดัน ซ่งการ ทุ่นระเบิด เนื่องจากท�าให้ผู้วางทุ่นระเบิดสามารถที่จะ
ึ
ั
เกิดข้นของทุ่นระเบิดแบบอิทธิพลเหล่าน้น้นเร่มทาให้ สร้างโปรแกรมในการจุดระเบิดได้ และประมวลผลค่า
�
ึ
ิ
ี
เทคนิคการกวาดทุ่นระเบิดมีความส�าคัญน้อยลง อิทธิพลได้มากกว่า ๑ ค่า ทาให้เทคนิคการกวาดด้วย
�
ค่าอิทธิพลแบบเดียวไม่สามารถจัดการกับท่นระเบิด
ุ
แบบนี้ได้
ี
ฝ่ายท่พัฒนาการต่อต้านทุ่นระเบิดจาเป็นต้องพัฒนา
�
เทคนิคการต่อต้านแบบใหม่ข้นมา น่นคือ “การล่า” โดยใช้
ึ
ั
ี
เทคโนโลยของโซนาร์ความถสงเข้าต่อต้านท่นระเบด
่
ิ
ุ
ี
ู
พัฒนาการของเทคโนโลยีโซนาร์เร่มต้นข้นใน ค.ศ.๑๙๑๖
ึ
ิ
ี
ช่วงยุคสงครามโลกคร้งที ๑ โดยม Robert William
ั
่
�
Boyle นักฟิสิกส์ชาวแคนาเดียน แต่ทางานให้กับราชนาว ี
อังกฤษร่วมมือกับนักฟิสิกส์ชาวอังกฤษ A.B.Wood เป็น
ผู้รับผิดชอบโครงการลับสุดยอดในการใช้เสียงเพ่อค้นหา
ื
ั
ี
็
ุ
่
้
ี
ึ
๘
�
้
ี
ิ
�
ี
่
เจ้าหน้าทถอดทาลายอมภัณฑ์จากกองทัพบกและกรมตารวจ วตถใต้นาน ซงต่อมาเทคโนโลยคอมพวเตอร์กมส่วน
�
สหราชอาณาจักรกับทุ่นระเบิดท้งจากอากาศยานด้วยร่ม ช่วยในการคานวณ และแสดงผลบนหน้าจอของโซนาร์
ิ
�
ขนาด ๑,๐๐๐ กิโลกรัม ของเยอรมันภายหลังถอดชนวนเรียบร้อย ล่าท�าลายด้วย
แล้ว ณ เมืองกลาสโกลว์ สกอตแลนด์
ี
ี
พัฒนาการของเทคโนโลยีท่เก่ยวข้องกับสงคราม
ทุ่นระเบิดสมัยใหม่
ุ
ิ
ึ
�
การกาเนดขนของท่นระเบดอิทธพลและเซนเซอร์
้
ิ
ิ
�
แบบต่าง ๆ ทาให้การต่อต้านทุ่นระเบิดเป็นไปได้ยากมากข้น
ึ
และอุปกรณ์แบบเก่าอย่างการกวาดกลไกแบบ โอ
่
่
ไมสามารถตอตานทุนระเบิดแบบนี้ได เนื่องจากไมมีลวด
่
้
่
้
ให้สายกัดน้นตัด ฝ่ายต่อต้านทุ่นระเบิดจึงต้องคิดค้น
ั
เคร่องกวาดแบบต่าง ๆ ข้นมาไม่ว่าจะเป็นเคร่องกวาด
ื
ึ
ื
เสียง เคร่องกวาดแม่เหลก หรือการกวาดความดันด้วย
ื
็
ี
การใช้เรือขนาดใหญ่ท่เรียกว่า Guinea Pig แล่นผ่าน
ี
ช่องทางท่จะเดินเรือ แต่ความซับซ้อนและความยากใน
ั
การจดการกบทนระเบดด้วยวิธการกวาดทนระเบดกเพ่ม
ี
ิ
ิ
็
่
ั
ิ
ุ
ุ่
ี
ั
ึ
ิ
้
มากขนพรอม ๆ กบการมาถงของเทคโนโลยคอมพวเตอร ์ Robert William Boyle
ึ
้
๘ https://en.wikipedia.org/wiki/Sonar#ASDIC
นาวิกศาสตร์ 62
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
�
�
โซนาร์ล่าทาลายทุ่นระเบิดทาให้ข้อจากัดของการ Magnetic Steel พร้อม ๆ กับการป้องกันเสียง และมีขีด
ิ
่
ั
้
ั
ื
ุ
กวาดนนหมดไป เนองจากผ้ต่อต้านท่นระเบดได้กลบ ความสามารถในการเดินเรือ และปฏิบัติงานได้อย่าง
ู
ั
ั
ึ
มาเป็นฝ่ายครองความได้เปรียบอีกคร้งหน่ง ซ่งคร้งน ี ้ แม่นยาเม่อเรือทาความเร็วตาจึงเป็นสาเหตุให้เรือล่า
ึ
่
ื
�
�
�
�
ผู้ท่ทาหน้าท่ต่อต้านสามารถท่จะมองเห็นทุ่นระเบิด ทาลายทุ่นระเบิดมีขนาดเล็ก รูปร่างอวบท้วม แต่สามารถ
ี
ี
ี
�
ี
จากสัญญาณเสียงท่สะท้อนกลับมายังหน้าจอโซนาร์ รักษาต�าบลที่ได้อย่างแม่นย�า
ี
�
หรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้ ทาให้คราวน้สามารถกาหนด
�
ื
ี
ตาบลท่ของทุ่นระเบิดท่วางบนพ้นท้องทะเล รวมท้ง
ี
ั
�
�
ทุ่นระเบิดทอดประจาที่ได้จากสายยึดทุ่นได้ในระดับหน่ง
ึ
ลักษณะของการแพร่ของคล่นเสียงใต้นาซ่งนามาใช้ในการทานาย
�
้
�
ึ
ื
�
�
ระยะตรวจจับของโซนาร์ ท้งโซนาร์ปราบเรือดานาและโซนาร์
ั
้
�
ล่าท�าลายทุ่นระเบิด
�
ื
เน่องจากกาเนิดจากทฤษฎีเสียงใต้นาเหมือนกัน
้
�
�
โซนาร์ล่าทาลายทุ่นระเบิดก็มการหา Range of the day
ี
�
�
�
เช่นเดียวกับโซนาร์ปราบเรือดานา แต่จะทาก่อน
้
ื
ื
เข้าทางานในพ้นท่รับผิดชอบเพ่อนาไปหาย่านทางกวาด
�
ี
�
ื
(ค่า Detection Width) เพ่อนามาวางแผนการปฏิบัต ิ
�
ในการล่าทาลาย ว่าจะต้องทาการว่งเป็นจานวนก Track
่
�
ี
�
�
ิ
�
ื
ในช่องทางน้น แล้วแต่ละ Track จะต้องว่งก่เท่ยว เพ่อให้ เรือล่าทาลายทุ่นระเบิด Type 332 Frankenthal-class ของ
ี
ี
ิ
ั
ี
ี
ได้ค่า Percentage Clearance ได้ตามภารกิจท่ได้รับมา กองทัพเรือเยอรมน ท่ใช้วัสดุแบบ Non-Magnetic Steel เป็น
ี
ี
ั
นอกจากน้ยังมีการพัฒนาในส่วนของเรือล่าทาลาย เหล็กท่มีความแข็งแรงเหมือนเหล็กโดยปกติท่วไป แต่ไม่มีค่า
�
ี
�
ื
ี
อานาจแม่เหล็ก โดยเรือ M1064 Gromitz ลาน้เคยติดต้น แต่
�
ทุ่นระเบิด โดยเพิ่มเติมในส่วนของการพัฒนาตัวเรือเพื่อ ด้วยตัวเรือที่เป็น Non-Magnetic Steel ท�าให้เรือเมื่อได้รับการ
ลดค่าอิทธิพลส�าคัญ (เสียง แม่เหล็ก ความดัน) ด้วยการ ซ่อมทาส่วนท่เสียหายแล้วสามารถนากลับมาใช้ราชการได้อีกคร้ง
�
ั
ี
�
ออกแบบให้เรือใช้วัสดุแบบไม่มีค่าแม่เหล็ก เช่น ไม้ หรือ ซ่งหากเป็นเรือท่ต่อด้วยไม้ หรือไฟเบอร์ประสบเหตุเช่นเดียวกัน
ี
ึ
ี
ั
ึ
ไฟเบอร์กลาส ซ่งปัจจุบันพัฒนาไปถึงข้นการม Non คาดว่าตัวเรือจะได้รับความเสียหายมากกว่า
นาวิกศาสตร์ 63
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
�
้
ี
แต่อย่างไรก็ตามทางฝ่ายผู้ผลิตทุ่นระเบิดก็ได้แก้เกม ว่าเป้าใดเป็นทุ่นระเบิดจริง เป้าใดเป็นวัตถุใต้นาท่ไม่ใช่
ื
ผู้ต่อต้านอีกคร้งหนึ่ง เน่องจากทราบดีว่าหลักการของ ทุ่นระเบิด โดยในปัจจุบันได้มีการพัฒนาโปรแกรมช่วย
ั
ื
ึ
ั
โซนาร์น้นเกิดจากการปล่อยสัญญาณเสียงเพ่อให้เสียงไป ตรวจจับเป้าท่คาดว่าจะเป็นทุ่นระเบิดข้นเรียกว่า CAD Tool
ี
ื
ี
ื
้
สะท้อนวัตถุแล้วกลับมาท่ภาครับเพ่อแสดงผลบนหนาจอ หรือ Computer Aid Detection Tool เพ่อช่วยให้
ั
้
แต่หากวัตถุดังกล่าวสะท้อนเสียงได้น้อยลง หรือวัตถุใต้นา ผู้ใช้ย่นระยะเวลาในการจาแนกเป้าทุ่นระเบิด (ข้นการ
�
�
น้นจมตัวอยู่ในโคลนก็จะทาให้โซนาร์ล่าทาลายทุ่นระเบิด Classification) จากหน้าจอโซนาร์ได้ในข้นตอนการ
�
ั
�
ั
ี
ั
หาวัตถุน้นไม่เจอ จึงเป็นท่มาของการพัฒนาทุ่นระเบิด ประมวลผลหลังการปฏิบัติการต่อต้านทุ่นระเบิด (PMA:
ี
ื
ท่ลดการสะท้อนคล่นโซนาร์ หรือทุ่นระเบิดท่สามารถ Post Mission Analysis) ซึ่งจะใช้ประมวลผลการปฏิบัติ
ี
�
ี
�
�
ทาให้ตวเองจมตวไปในโคลนได้ ทาให้การสะท้อน ของโซนาร์ประจาเรือ หรือยานอัตโนมัติท่ติดต้งโซนาร์ล่า
ั
ั
ั
กลับของสัญญาณเสียงไปยังหน้าจอโซนาร์ของเรือล่า ท�าลายทุ่นระเบิดรวมทั้ง AUV และ SUV โดยโปรแกรม
ั
ิ
ท�าลายทุ่นระเบิดไม่สามารถกระท�าได้อีกต่อไป ส่งผลให้ จะช่วยผ้ใช้แยกเป้าท่นระเบดกบเป้าท่ไม่ใช่ท่นระเบดได้
ุ
ิ
ี
ุ
ู
เรือล่าทาลายทุ่นระเบิดไม่สามารถหาทุ่นระเบิดได้เจอแต่ ง่ายขึ้น โดยเทียบจากฐานข้อมูลของทุ่นระเบิดชนิด และ
�
�
ึ
ั
ี
�
ิ
ทุ่นระเบิดเหล่าน้นยังทางานได้เป็นปกต โดยเม่อค้นหา แบบต่าง ๆ ท่มีอยู่ในฐานข้อมูล ซ่งจะทาให้สามารถลดเวลา
ื
ั
ไม่เจอก็ไม่สามารถท�าการท�าลายทุ่นระเบิดได้ในที่สุด ในการปฏิบัติการในการต่อต้านทุ่นระเบิดให้ส้นลงอย่างม ี
�
ี
ึ
�
นัยสาคัญ ซ่งส่งผลให้เวลาท่ใช้ในการทาภารกิจ และ
การประเมินความเส่ยงซ่งเป็นหัวใจหลักของผลลัพธ์ท ่ ี
ึ
ี
�
ผู้ทาการต่อต้านทุ่นระเบิดจะส่งมอบให้กับผู้ปฏิบัติงาน
้
�
�
�
ในหน่วยข้างเคียง ไม่ว่าจะเป็นเรือผิวนา หรือเรือดานา
้
ก็ตามมีเวลาสั้นลง สามารถเปิดช่องทางได้เร็วมากขึ้น
ื
ั
�
ท้งน้ก็เพ่อให้ผู้มีอานาจตัดสินใจสามารถส่งการ
ั
ี
เดินเรือผ่านพ้นท่ท่ถูกวางทุ่นระเบิด (Mined Area) ได้อย่าง
ื
ี
ี
ึ
ปลอดภัย และปราศจากการระเบิดของทุ่นระเบิด ซ่งมีมา
ี
ั
ต้งแต่สมัยท่มีการต่อต้านทุ่นระเบิดยุคแรก ๆ ใน
สงครามกลางเมืองสหรัฐอเมริกา เสมือนดั่งการตัดสินใจ
ซ้ายทุ่นระเบิด Manta หรือ Mk44 ตามรหัสการเรียกขานของ ของ Admiral David Farragut ในการนากาลงผ่าน
�
�
ั
กองทัพเรือสหรัฐอเมริกา ขวาทุ่นระเบิด Rockan ตัวอย่างของ เข้าโจมตีป้อมของฝ่ายใต้ท่อ่าว Mobile Bay ท่ว่า
ี
ี
ื
ี
ทุ่นระเบิดท่ถูกออกแบบมาเพ่อลดการสะท้อนของสัญญาณเสียง “Damn the torpedoes, Full speed ahead” ซึ่ง
ที่เกิดจากโซนาร์ล่าท�าลายทุ่นระเบิด
ิ
เกดจากการประเมินภัยคุกคามทุ่นระเบิดเป็นอย่างดีแล้ว
จุดอ่อนอีกประการหน่งของโซนาร์ล่าทาลาย ภายหลังจากท่ทาการประเมินความเส่ยง (Risk
ี
ึ
�
ี
�
�
ี
ทุ่นระเบิดก็คือ ความไม่ชานาญของผู้ใช้งานโซนาร์ล่า Assessment) อย่างถ่ถ้วนโดยการตรวจสอบทุ่นระเบิด
่
ุ่
�
ี
ท�าลายเอง ซึ่งอาจเกิดจากการที่สภาพพื้นท้องทะเลเป็น ในสนามทนของฝ่ายใต้วาเกิดการชารุดเสยหายของวงจร
หิน หรือเป็นกรวด ซึ่งสภาพดังกล่าวท�าให้สัญญาณเสียง จุดระเบิด เน่องจากวางในนาทะเลเป็นเวลานานไม่ได้
ื
้
�
�
�
สะท้อนกลับมาเป็นจานวนมากจนทาให้ผู้ใช้แยกไม่ออก เกิดจากความเด็ดขาด หรือกล้าบ้าบิ่นแต่อย่างใด ๙
๙ Tamara Moser Melia, “Damn the Torpedoes” A Short History of US Naval Minecoun-
นาวิกศาสตร์ 64
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ี
ตัวอย่างหน้าจอ Computer Aid Detection Tool (CAD) เป็นการช่วยค้นหาเป้าท่น่าจะเป็นทุ่นระเบิดโดยอัตโนมัติของคอมพิวเตอร์โดย
อาศัยการเปรียบเทียบความต่างสีของพิกเซลที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ในขั้นการท�า Post Mission Analysis (PMA) ซึ่งเป็นการ
้
�
ึ
ั
วิเคราะห์เป้าเพ่อจาแนกเป้าว่าเป้าใดเป็นวัตถุใต้นาท่วไป และเป้าใดเป็นเป้าทุ่นระเบิดจริงภายหลังการปฏิบัติซ่งจะใช้กับอุปกรณ์ประเภท
ื
�
ยานค้นหาเป้าใต้น�้าอัตโนมัติ (Autonomous Underwater Vehicle: AUV) หรืออุปกรณ์ Side Scan Scan ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลานาน
ในการไล่ดูเป้าในแต่ละภารกิจแต่หากมีคอมพิวเตอร์ช่วยประมวลผลก็จะท�าให้สามารถวิเคราะห์เป้าใต้น�้าได้รวดเร็วขึ้นเป็นอย่างมาก
นาวิกศาสตร์ 65
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ใช้งานในกองทัพเรือไทย แต่บุคลากรของกองทัพเรือ
ี
ื
ก็สามารถท่จะเรียนรู้จากส่อต่าง ๆ หรือจากการฝึกได้
ซึ่งยาน AUV นี้ก็พัฒนามาแล้วร่วม ๓๐ ปี หรืออุปกรณ์
อีกประเภทที่เป็นที่รู้จักกันคือ ยานอัตโนมัติไร้คนขับบน
ผิวนาสาหรับล่าทาลายทุ่นระเบิด (Unmanned Surface
�
�
้
�
Vehicle: USV) เองก็ได้มีการพัฒนามาได้ราว ๆ ๑๐ ปี แล้ว
Admiral David Farragut เจ้าของวลี Damn the Torpedoes,
้
่
ี
ั
ั
Full Speed Ahead ทส่งใหเรอในกระบวนเดินหน้าเตมตวเข้าไป
ื
็
�
ในสนามทุ่นระเบิดภายหลังสารวจจนแน่ใจแล้วว่าทุ่นระเบิดของ
ฝ่ายใต้เสื่อมสภาพจากการที่อยู่ในน�้าเป็นเวลานาน
อนาคตของทุ่นระเบิดและการพัฒนาต่อไปของทุ่น
ระเบิดสมัยใหม่
ี
ื
่
ด้วยการมาถึงของคล่นการพัฒนานวัตกรรมลูกท ๖
จะมีการพูดถึงเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่าง Internet of Things,
Automation, Robotics, Digitalization และ
Sustainability ซ่งในแนวคิดในยุคปัจจุบันน้นเน้นหนัก
ั
ึ
ี
ื
ไปท่การใช้เคร่องจักรแทนมนุษย์ และการบังคับยาน
แบบ Remote Control โดยการต่อต้านทุ่นระเบิดใน
ยุคปัจจุบันน้นสามารถบังคับยานต่อต้านทุ่นระเบิดได้
ั
ี
จากระยะไกล โดยผู้ปฏิบัติงานไม่จาเป็นท่จะต้องอยู่บน
�
�
เรือต่อต้านทุ่นระเบิดอีกต่อไป การควบคมระยะไกลทาได้
ุ
ง่ายมากขึ้นเนื่องจากข้อมูล Data ที่ใช้ในการบังคับยาน
ั
สามารถท่จะส่งผ่านอากาศได้ในปริมาณมากข้น ท้งน ี ้
ี
ึ
ิ
แนวคดดังกล่าวเป็นท่นิยมในปัจจุบันก็เพ่อลดความเสยง
ี
่
ื
ี
ี
ต่อทรัพยากรบุคคล โดยยกตัวอย่างอุปกรณ์ท่บุคลากร ยานใต้น�้าอัตโนมัติค้นหาทุ่นระเบิด Reemus 600 (ตัวเลข ๖๐๐
ของกองเรือทุ่นระเบิดคุ้นเคยเป็นอย่างดีคือ ยานค้นหา คือน�้าหนักของตัวยานซึ่งหนัก ๖๐๐ ปอนด์) ซึ่งกองก�าลังป้องกัน
ทุ่นระเบิดแบบอัตโนมัติ แบบ Remus 100 ซึ่งเป็น AUV ตนเองญป่นไม่ได้ผลตเองแต่จดหามาเพอทดลองใช้งาน โดย
ุ
ื
ิ
ี
ั
่
่
ี
ท่มีใช้ในกองทัพเรือต่าง ๆ ท่วโลกอย่างแพร่หลาย แม้จะไม่ม ี ทดลองใช้งานครั้งแรกในการฝึก IMX 2019
ั
นาวิกศาสตร์ 66
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓
ั
ุ
ั
ึ
ั
ี
ซ่งท้งน้ก็คาดการณ์ได้ว่าทุ่นระเบิดทางทะเลท ่ ี จะยงไม่มีอปกรณ์ต่าง ๆ ดงทได้กล่าวมา แต่บคลากร
ุ
ี
่
ื
ผ่านการพัฒนามาอย่างต่อเน่องควบคู่กับการพัฒนา ของกองทัพเรือก็สามารถเรียนรู้ควบคู่กับเทคโนโลย ี
ั
ี
ื
ี
่
เทคโนโลยีของมนุษยชาติต้งแต่ในศตวรรษท ๑๔ ท่พัฒนาไปอยู่เสมอ ๆ ตามกาลเวลาได้เพ่อตามโลกให้ทัน
ิ
ื
ยุคราชวงศ์หมิงจนกระท่งปัจจุบันก็จะถูกพัฒนา ตามเทคโนโลยีให้ทัน และไม่ถูกโลกท้งไว้เบ้องหลัง รวมทั้ง
ั
ี
ควบคู่กันไปพร้อม ๆ กับเทคโนโลยีเหล่าน้ด้วย เช่น สามารถที่จะใช้ หรือเข้าใจอุปกรณ์เหล่านั้นได้หากมีการ
โดยเฉพาะเทคโนโลย Artificial Intelligent (AI) จัดซ้อ จัดหา หรือแม้แต่การพัฒนาข้นมาเองเพ่อนาไป
ื
ี
ื
�
ึ
ึ
ี
และ Big Data ซึ่งจะช่วยให้ทุ่นระเบิดมีฐานข้อมูล และ ใช้ในราชการ ซ่งเราในฐานะนักรบทางเรือจาเป็นท่จะ
�
ิ
�
ึ
สามารถประมวลผลได้แม่นยามากย่งข้นไปอีก หรือ ต้องก้าวตามให้ทันโลกในยุคสมัยใหม่ และอย่าหยุดที่จะ
ทุ่นระเบิดอาจมีวงจร หรือเพ่อช่วยกลไกเพ่อช่วยให้ เรียนร ดังคากล่าวของอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ท่ว่า Once you
ื
ู้
ี
�
ื
ื
ตัวทุ่นระเบิดจมตัวใต้พ้นท้องทะเลจนสัญญาณโซนาร์ stop learning, you start dying. “เมื่อใดก็ตามที่คุณ
ี
ไม่สามารถค้นหาได้อีกต่อไป ท้งน้ถึงแม้กองทัพเรือไทย หยุดเรียนรู้ คุณก็เริ่มที่จะตาย”
ั
้
ั
ั
ั
ื
ิ
่
ยานไรคนขบ USV ของ กองทพเรอสหรฐอเมรกา ขณะทาการปลอย คลื่นการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยี Kondratiev wave ลูกต่าง ๆ
�
Side Scan Sonar
เอกสารอ้างอิง
๑ ภาพจาก https://www.youtube.com/watch?v=UdFNuc5XtII&t=212s How Underwater Explosions damage Ships and Subs
๒ คัดลอกจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Naval_mine โดยเป็นภาพจากหนังสือของ Joseph Needham’s Science and Civilization in China:
เล่มที่ ๕ ส่วนที่ ๗ หน้า ๒๐๖
๓ ภาพจาก http://www.navweaps.com/Weapons
๔ คัดลอกภาพจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Paravane_(weapon)
๕ คัดลอกจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Parachute_mine ภาพจากคลังภาพของ Imperial War Museum สหราชอาณาจักร https://www.
iwm.org.uk/
๖ คัดลอกจาก https://en.wikipedia.org/wiki/Robert_William_Boyle
๗ ภาพจาก https://fas.org/
๘ ภาพจาก military.wikia.com และ www.solarnavigator.net
๙ ภาพจาก https://www.ecagroup.com/en/solutions/umisoft-software-system-for-unmanned-missions
๑๐ ภาพจาก https://navyrecognition.com/
นาวิกศาสตร์ 67
ปีที่ ๑๐๓ เล่มที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๓