ทุ่งนาโล่ง ๆ สนามรบทุ่งโล่ง กองทัพที่มีกำลังมาก พระองค์ทรงจัดให้ไปตีกรุงศรีอยุธยา อีกกองหนึ่ง
ก็จะได้เปรียบ กองทัพกำลังน้อย เพราะสามารถ จึงจะควร”
กระจายกำลังเต็มที่ เมื่อ ศิริชัยนรธา ทูลดังนี้ พระองค์ทรงเห็นชอบ
แสดงให้เห็นว่า หลังสงครามพระเจ้าหงสาวดี แล้วทรงให้นัดจิงหน่อง กับสะโตธรรมราชา พระราชโอรส
นันทบุเรง ในปี พ.ศ.๒๑๒๙ - ๒๑๓๐ แล้ว กองทัพไทย เป็นแม่ทัพคุม ๑๓ ทัพ รวมพลทหาร ๑๐๐,๐๐๐
โดยแม่ทัพใหญ่ สมเด็จพระมหาธรรมราชา สมเด็จ ช้างรบ ๕๐๐ ม้า ๑๖,๐๐๐ พร้อมสรรพด้วยศาสตราวุธ
พระนเรศวร และสมเด็จพระเอกาทศรถ มั่นใจใน ครั้นเดือน ๑๒ ขึ้น ๕ ค่ำ จุลศักราช ๙๕๔ ก็รับสั่ง
สมรรถภาพและประสิทธิภาพของกองทัพไทย ที่แทบ ให้ยกไปตีเจ้าฟ้าเมืองก่อง (เมืองคัง) น่าสังเกตพื้นที่
กล่าวได้ว่าทหารทุกคนเป็นนักรบเชิงรุกทั้งสิ้น เพราะ รบเป็นป่าเขา พม่าใช้ทหารม้าจำนวนมาก
ทุกคนได้รับการฝึกฝนมาจากพระอาจารย์ใหญ่ เมื่อพม่าทราบข่าวกรุงศรีอยุธยา ผลัดเปลี่ยน
สมเด็จพระนเรศวร ในแนวนี้ด้วยกันทั้งสิ้น และใช้ แผ่นดิน (พระมหาธรรมราชา เสด็จสวรรคต สมเด็จ
ได้ผลมาแล้วทั้งศึกใหญ่ ศึกเล็ก จึงกำหนดขึ้นเป็น พระนเรศวร ฯ เสด็จขึ้นครองราชย์) ก็คิดว่าเหตุการณ์
แผนยุทธศาสตร์การป้องกันพระนครเสียเลย บ้านเมืองคงไม่ปกติ อาจมีการแย่งราชสมบัติกัน
ระหว่างพี่กับน้อง ซึ่งจะเป็นจุดอ่อนด้านความมั่นคง
เดี่ยวมือสอง ภายใน พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง จึงถือโอกาส
สงครามพระมหาอุปราชา (ครั้งที่ ๑) พ.ศ.๒๑๓๓ ให้จัดทัพมาตีกรุงศรีอยุธยาทันที โดยให้พระมหา
สาเหตุของสงคราม พม่าเห็นว่าตราบใดที่ยัง อุปราชา เดี่ยวมือสอง เป็นแม่ทัพคุมเป็นทัพกษัตริย์
ปราบกรุงศรีอยุธยา ที่เป็นกบฏ (ในมุมมองของพม่า) มาเอง มีกำลังพลรวม ๒๐๐,๐๐๐ คน ช้าง ๑,๐๐๐
เอากลับไปเป็นเมืองขึ้นของกรุงหงสาวดีไม่ได้ หัวเมือง ม้า ๑๒,๐๐๐ ศาสตราวุธครบครัน (ฝ่ายพม่าบอกว่า
ประเทศราชอื่น ๆ ก็จะทยอยกันเป็นกบฏต่อกรุงหงสาวดี จัดเป็น ๒๔ ทัพ) ให้เจ้าเมืองพสิม และเจ้าเมือง
อยู่เรื่อยไป เข้าหลักยุทธศาสตร์ความมั่นคงของ พุกาม เป็นทัพหน้า เดือน ๑๒ แรม ๑๒ ค่ำ ปีขาล
อาณาจักรพม่าที่วางไว้ “ถ้าจะให้อาณาจักรพม่ามั่นคง พ.ศ.๒๑๓๓ ยกออกจากหงสาวดีไปตีกรุงศรีอยุธยา
จะต้องทำลายอาณาจักรอยุธยา (ไทย)” กะว่าจะถือโอกาสที่อยุธยาวุ่นวายยำเสียเลย
จากมหาราชวงศ์พงศาวดารพม่าบันทึกว่า.... พม่าเดินทัพเข้ามาทางด่านเจดีย์สามองค์
“ครั้นจุลศักราช ๙๕๒ ปี (พ.ศ.๒๑๓๑) ซึ่งเป็นเส้นทางเดินทัพในเขตแดนประเทศไทย
เจ้าประเทศราชเงี้ยว เจ้าฟ้าเมืองก่อง (เมืองคัง) ระยะทางจากชายแดนถึงกรุงศรีอยุธยาสั้นที่สุด
เป็นขบถ (ปี พ.ศ.๒๑๒๔ ขบถมาครั้งหนึ่งแล้ว) ครั้น เมื่อลงสู่พื้นราบแล้วมีเส้นทางเดินทัพรุกเข้าสู่
พระองค์ทรงทราบ จึงมีรับสั่งให้ขุนนางข้าราชการ กรุงศรีอยุธยาหลายทาง ทั้งทางบก ทางน้ำ พม่า
ทั้งปวงเข้าเฝ้า แล้วทรงรับสั่งเรื่องเป็นขบถนั้น หวังจู่โจมเข้าหากรุงศรีอยุธยาชนิดไม่ต้องการให้
ศิริชัยนรธา กราบทูลว่า ซึ่งเกิดเป็นขบถนี้ ควรจัด ไทยตั้งหลักได้ทัน ถ้าฝ่ายไทยการข่าวไม่ดี พอรู้ว่า
ให้ยกทัพไปตีเสียกองหนึ่ง แต่ที่พระนเรศวร ฯ ข้าศึกลงสู่พื้นราบก็จะตั้งตัวไม่ทัน กว่าจะเกณฑ์พล
กรุงศรีอยุธยาเป็นขบถนั้น พระองค์ทรงเสด็จยก เข้ากองทัพ จัดทัพ ยกทัพไปต่อต้านระหว่างทาง
ไปตีหลายครั้งแล้วก็ยังไม่มีชัยชนะสักครั้ง เพราะ ข้าศึกก็เข้ามาจ่อถึงคอหอย เส้นทางด่านเจดีย์สามองค์
ฉะนั้นข้าพระพุทธเจ้าเห็นด้วยเกล้า ฯ ว่าถ้าพระองค์ การเดินทัพในเขตไทยเสียเวลาน้อยกว่าเส้นทาง
ไม่ทรงปราบปรามให้พวกขบถเหล่านี้ราบคาบ ด่านแม่ละเมา อย่างน้อย ๒ สัปดาห์
แล้วไปภายหลัง ประเทศราช ลาว ญวน ทั้งปวง สมเด็จพระนเรศวร ฯ เสวยราชย์ได้ ๔ เดือน
ก็จะกระด้างกระเดื่องขึ้นเป็นแน่ โดยเหตุนี้ขอ โชคดีที่ไม่มีการแย่งราชสมบัติเหมือนที่พม่าคาดหวัง
๐50 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
กองทัพไทย จึงพร้อมรับศึก และเป็นกองทัพที่แข็งแกร่ง ของข้าศึกมาช่วยปีกขวาได้ช้าลง ทัพพระยาพุกาม
ยิ่งกว่าเดิม เพราะคราวนี้ผู้นำทัพ หรือแม่ทัพใหญ่ จึงแตกพ่ายภายในเวลาอันรวดเร็ว ตัวพระยาพุกาม
มิใช่สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์น้อยอีกแล้ว แต่ เสียชีวิตในที่รบ ปีกซ้าย และแนวกลางเห็นเช่นนั้น
เป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวผู้มีอำนาจเต็ม มีพระชนมายุ ก็เสียกำลังใจ พลอยแตกพ่ายไปด้วย” ยุทธวิธีใช้รูป
๓๕ พรรษา กำลังเป็นหนุ่มใหญ่ไฟแรง ขบวนขั้นบันไดตีทำลายจุดอ่อนนี้ ยอดเยี่ยมจริง ๆ
สมเด็จพระนเรศวร ฯ ปรับกระบวนศึก ยกกองทัพ คู่ต่อสู้ทั้ง ๆ ที่เห็น แต่ก็แก้ปัญหาไม่ทัน ถ้าไม่มี
ออกไปรับศึกพม่าที่สุพรรณบุรี วางกำลังซุ่มสองข้างทาง กองหนุนเคลื่อนที่เร็วไปช่วยอย่างทันท่วงที กองหน้า
บริเวณลำน้ำท่าคอย แล้วส่งกองทัพน้อยไปเมือง นั้นโยกไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะกำลังจะปะทะกับ
กาญจนบุรี ทำทีเหมือนจะไปรักษาเมือง ยกไปล่อข้าศึก ข้าศึกตรงหน้า ถ้าขยับมาช่วยก็จะถูกล้อมทันที
ฝ่ายทัพพระมหาอุปราชา ยกมาถึงเมืองกาญจนบุรี การรบแบบนี้เป็นการรบปะทะสู้กันซึ่ง ๆ หน้า
ไม่มีใครสู้รบ ก็คิดประมาณการว่าไทยคงตั้งมั่นอยู่ใน พม่าถือว่ามีกำลังมากกว่า จึงแปรรูปขบวนหน้า
กรุงเช่นคราวก่อน ทัพพม่ายกมาตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นพ่อ กระดานโจมตีเต็มกว้างด้านหน้า แต่โดยรูปขบวนรบ
ยกมาครั้งใดไทยก็รับอยู่ในเมือง จึงยกทัพเข้ามา แบบขั้นบันไดของสมเด็จพระนเรศวร ตีตรงจุดอ่อน
ด้วยความประมาท ครั้นพบกองล่อของสมเด็จพระ ก่อนจนแตกพ่ายเมื่อทัพหนึ่งแพ้ ทัพอื่น ๆ ถ้าใจไม่
นเรศวร เห็นเป็นกองทัพเล็กน้อย พระยาพุกาม เด็ดเดี่ยวจริง ๆ ก็จะพลอยแพ้ตามไปด้วย สมเด็จ
ทัพหน้าของพระมหาอุปราชาก็ยกเข้าตี ทัพไทย พระนเรศวร ฯ ท่านคงรู้ฝีมือความสามารถของ
แกล้งสู้รบแล้วหนี พม่าได้ทีไล่ติดตาม ครั้นทัพหน้า แม่ทัพพม่าเป็นอย่างดี จึงเลือกตีตรงจุดอ่อนก่อน
พม่าล่วงเข้าพื้นที่ซุ่มของทัพไทย สมเด็จพระนเรศวร ฯ ย่ำอดีต ชุด ๒ “พระบรมเดชานุภาพอันล้นพ้น
จึงให้ยกทัพออกโจมตีกระหนาบ ได้สู้รบกันถึง สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็นเจ้า” โดย เชาว์
ขั้นตะลุมบอน ทัพหน้าหงสาวดีแตกพ่ายยับเยิน รูปเทวินทร์ หน้า ๓๗๖ กล่าวไว้ว่า “พงศาวดารพม่า
พระยาพุกามตายในที่รบ พระยาพสิมถูกจับได้ที่บ้าน จดเหตุการณ์ครั้งนี้ลงไว้ว่า ครั้งนั้นไทยเกือบจับ
จระเข้สามพัน ทัพหน้าของพม่าแตกหนีไปจนปะทะ พระมหาอุปราชาไว้ได้อยู่แล้ว ด้วยกองทัพพม่า
กับทัพหลวงของพระมหาอุปราชา ทัพหลวงจึง แตกฉานยับเยินยิ่งกว่าครั้งใด ๆ เสียผู้คน ช้าง ม้า
พลอยแตกไปด้วย ไทยเกือบจับพระมหาอุปราชา และ เครื่องศัตราวุธทิ้งไว้ให้แก่ไทยเป็นจำนวนมาก
แม่ทัพใหญ่ของพม่าได้ ฝ่ายพม่าสูญเสียมากทั้งคน พระมหาอุปราชาหนีรอดไปได้อย่างหวุดหวิด กลับไป
อาวุธยุทโธปกรณ์ เหลือกลับไปกรุงหงสาวดีไม่มาก ถึงกรุงหงสาวดีได้เมื่อ เดือน ๕ ปีเถาะ พ.ศ.๒๑๓๔
พิมาน แจ่มจรัส กล่าวไว้ในนเรศวรเป็นเจ้า พระเจ้าหงสาวดีทรงขัดเคืองที่พ่ายแพ้แก่ไทยใน
หน้า ๑๕๖ - ๑๕๗ กล่าวถึงยุทธวิธีที่ฝ่ายไทยใช้เป็น ครั้งนี้ยิ่งนัก”
อีกแบบหนึ่ง ดังนี้ เมื่อกองทัพกลับถึงกรุงหงสาวดี แม่ทัพนายกอง
“พระนเรศวรเป็นเจ้าทรงยกทัพไปตั้งรับที่ท่าคอย ถูกพระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง ลงพระราชอาญา ส่วน
พระมหาอุปราชา เห็นว่ามีกำลังมากกว่า จึงตั้งทัพ พระมหาอุปราชาถูกภาคทัณฑ์ให้ทำการแก้ตัวใหม่
เป็นหน้ากระดาน พระยาพุกามเป็นปีกขวา พระยาพสิม กองทัพใหญ่ขนาด ๒๐๐,๐๐๐ คน แตกพ่ายง่ายเกินไป
ั
้
เป็นปีกซ้าย พระมหาอุปราชาอยู่กลาง เข้าตีพร้อม เพยงศกยกเดยวรบกันไม่ถงวนกพายแพถอยกลบไปแลว
้
่
ี
ึ
ี
ั
็
ึ
กันทั้ง ๓ ทัพ พระนเรศวรทรงสังเกตเห็นปีกขวา แทนที่จะเป็นการแสดงแสนยานุภาพ อวดหัวเมือง
ด้านพระยาพุกามอ่อน จึงทรงนำทัพเฉียงแบบขั้น ขึ้นต่าง ๆ ให้เกรงขามอำนาจพม่าหงสาวดี กลับกลาย
บันไดทางซ้าย (ซ้ายสูง ขวาต่ำ) เข้าโจมตีปีกขวา เป็นแสดงความอ่อนแอของกองทัพหงสาวดี แสดง
ของพม่าไปหาปีกซ้าย ทำให้ปีกซ้ายและแนวกลาง ให้เห็นถึงขวัญและกำลังใจในการสู้รบของทหาร
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐51
หงสาวดียุคพระเจ้านันทบุเรง แตกต่างจากสมัย ติดลบ เดี่ยวมือหนึ่งมาเองก็ไม่สำเร็จ ส่งเดี่ยวมือสอง
พระเจ้าบุเรงนองมาก หรือ พม่า มอญ เริ่มเบื่อ มาแทน ยิ่งแย่ แพ้กระเจิดกระเจิงกลับไป
สงคราม สงครามครั้งนี้พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง
บริเวณที่สงสัยว่าเป็นโค้งเกือกม้าที่เป็นที่ตั้งทัพของสมเด็จพระนเรศวร
เส้นทางการเดินทัพของพม่า พ.ศ.๒๑๓๓
๐52 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
การรบที่บริเวณลำน้ำท่าคอย สุพรรบุรี (พ.ศ.๒๑๓๓) การรบที่บริเวณลำน้ำท่าคอย สุพรรณบุรี (พ.ศ.๒๑๓๓)
(จาก นเรศวรเป็นเจ้า หน้า ๑๕๖ - ๑๕๗ โดย พิมาน แจ่มจรัส)
สงครามยุทธหัตถี ปี พ.ศ.๒๑๓๕ ก็จะยิ่งถือว่าเป็นผู้มีบุญบารมีสูง เป็นที่ยำเกรงของ
การกระทำยุทธหัตถี เป็นการต่อสู้กันตัวต่อตัว หัวเมือง หรืออาณาจักรใกล้เคียง แม่ทัพที่นำหน้า
ระหว่างแม่ทัพของทั้ง ๒ ฝ่าย บนหลังช้าง ถือเป็น ทัพลุยด้วยตนเอง แล้วชนะ หรือกล้าท้าตีท้าต่อย
สุดยอดของการแสดงความกล้าหาญ และแสดงฝีมือ ตัวต่อตัวแล้วชนะ ไม่มีใครอยากเป็นศัตรูด้วย
ในการรบบนหลังช้างของขุนศึก การรบบนหลังช้าง สงครามยุทธหัตถีในประวัติศาสตร์ไทยที่ผ่านมา
เป็นศิลปะชั้นสูงของนักรบ ใครชนะจะได้รับการ มีบันทึกไว้เพียง ๔ ครั้ง (อาจมีมากกว่านี้) ตาม
ยกย่อง สรรเสริญว่าเป็นผู้มีฝีมือและมีความกล้าหาญ ลำดับดังนี้ (มีในระดับแม่ทัพรอง อีกหลายครั้ง)
เป็นนักรบโดยสมบูรณ์แบบ ถ้าเป็นพระมหากษัตริย์ ขุนสามชน เจ้าเมืองฉอด กระทำยุทธหัตถี
เจ้าอ้ายพระยากับเจ้ายี่พระยากระทำยุทธหัตถี สิ้นพระชนม์ทั้งคู่ ราชสมบัติตกเป็นของเจ้าสามพระยา ภาพวาดฝีมือนายเทศ ภายในพระที่นั่ง
วโรภาษพิมาน พระราชวังบางประอิน
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐53
พระอินทราชาทำยุทธหัตถีกับหมื่นพระนคร แผ่นดินพระบรมไตรโลกนาถ ภาพฝีมือหลวงสุวรรณสิทธ์ ภายในพระที่นั่ง
วโรภาษพิมาน พระราชวังบางประอิน
กับ พ่อขุนศรีอินทราทิตย์ แห่งอาณาจักรสุโขทัย กระด้างกระเดื่องแข็งเมืองที่ละเมืองสองเมือง
และกับ พ่อขุนรามคำแหง ในปี พ.ศ.๑๘๑๙ เอาตัวอย่างกรุงศรีอยุธยา อาณาจักรหงสาวดีก็จะ
สงครามยุทธหัตถีระหว่าง เจ้าอ้ายพระยา ลดขนาดลง “ข้าจะต้องยิ่งใหญ่เหมือนพ่อ” ดังนั้น
กับ เจ้ายี่พระยา เมื่อปี พ.ศ.๑๙๖๑ จึงให้พระมหาอุปราชา ราชโอรสยกทัพใหญ่มาตี
สงครามยุทธหัตถีระหว่างสมเด็จพระบรม กรุงศรีอยุธยาอีกครั้ง (แก้ตัวที่ครั้งแรกแพ้) โดย
ไตรโลกนารถ และสมเด็จพระอินทราชา ทรงชนช้าง เกณฑ์ทัพหัวเมืองใหญ่ที่ปกครองโดยเชื้อพระวงศ์
กับหมื่นด้นนคร ในปี พ.ศ.๑๙๙๐ จัดกองทัพมาร่วมด้วย กระทำสงครามใหญ่ มีกำลัง
สงครามคราวเสียสมเด็จพระสุริโยทัย ในปี ทหารรวมกันมากกว่า ๒๕๐,๐๐๐ คน เป็นทัพกษัตริย์
พ.ศ.๒๐๙๑ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิ ทรงชนช้าง ถึง ๔ กองทัพ ๓ กองทัพเพื่อทำการรบ อีก ๑ กองทัพ
กับพระเจ้าแปร สำหรับส่งกำลังบำรุง เรื่องเสบียงอาหาร ฯลฯ
ทัพทั้ง ๔ ของพม่าแยกกันบุกเข้าสู่อาณาจักรอยุธยา
สาเหตุของสงครามยุทธหัตถี เป็น ๓ เส้นทาง เป็นการเดินทัพเส้นทางนอก ดังนี้
พระเจ้าหงสาวดีนันทบุเรง มีนโยบายแน่วแน่
ที่จะตียึดเอากรุงศรีอยุธยาเป็นเมืองประเทศราช เส้นทางเดินทัพของพม่า (ยุทธการคีมบีบ)
ของพม่าให้ได้เช่นเดียวกับสมัยพระเจ้าบุเรงนอง กองทัพเมืองหลวงกรุงหงสาวดี มีพระมหา
ผู้บิดา เพื่อความยิ่งใหญ่ และความมั่นคงของ อุปราชา เป็นแม่ทัพหลวง มีมางจาปะโร พระพี่เลี้ยง
อาณาจักรพม่าหงสาวดี ถ้ายังปราบไทยอยุธยาไม่ได้ เป็นทัพหน้า เคลื่อนทัพออกจากกรุงหงสาวดี เมื่อ
หัวเมืองขึ้นต่าง ๆ ของกรุงหงสาวดีก็จะค่อย ๆ พากัน วันพุธ เดือนอ้าย (ธันวาคม) พ.ศ.๒๑๓๕ ขึ้น ๗ ค่ำ
๐54 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ปีมะโรง เดินทัพผ่านเมืองเมาะตะมะเข้าสู่อาณาจักร ทัพเมืองเชียงใหม่ เจ้าเมืองเชียงใหม่ มังนรธาช่อ
อยุธยา ทางด่านพระเจดีย์สามองค์ จี้ตรงเข้าหา เป็นพระอนุชาของพระเจ้านันทบุเรง (ต่างมารดา)
กรุงศรีอยุธยา ศูนย์กลางการปกครองโดยตรง เนื่องจากมาแพ้พระนเรศวร ๒ ครั้งแล้วจึงถูกลงโทษ
หวังจู่โจมเข้าถึงกรุงศรีอยุธยาอย่างรวดเร็ว ให้เป็นกองทัพเสบียงจัดเตรียมเสบียงอาหาร ส่งจาก
กองทัพเมืองแปร และเมืองตองอู เดินทัพ ล้านนาลงมาสนับสนุนกองทัพทั้ง ๓ ในการทำ
เข้ามาทางด่านแม่ละเมา เมืองตาก กองทัพเมืองแปร ศึกสงครามครั้งนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีกองทัพ
มีพระเจ้าแปร ราชโอรส (สโตธรรมราชา) ผู้ตีเมือง คุมเสบียงอาหาร มาด้วย น่าคิดว่าทำไมระยะหลัง
คังได้เมื่อปี พ.ศ.๒๑๓๓ เป็นแม่ทัพ กองทัพเมือง พระเจ้านันทบุเรงไม่ใช้กองทัพล้านนา เชียงใหม่
ตองอู มีนัดจิงหน่อง โอรสเจ้าเมืองตองอู เป็นแม่ทัพ เป็นกองรบหลักบ้างเลย หรือไม่ไว้ใจชาวล้านนา
พงศาวดารพม่า บ่งว่ามีกำลังพล ๓ ทัพ รวมกัน กองทัพพม่าทั้ง ๓ กองทัพจากกรุงหงสาวดี
ประมาณ ๒๕๐,๐๐๐ คน โดยนัดมาทำการยุทธ์ เมืองแปร และเมืองตองอู ระยะทางเดินทัพเข้าสู่
บรรจบกันที่กรุงศรีอยุธยา (ไม่นับรวมกองทัพส่ง กรุงศรีอยุธยา ไกลใกล้ ยากง่ายแตกต่างกัน ไม่ทราบว่า
เสบียงของพระเจ้าเชียงใหม่) เมืองแปรและตองอู ออกเดินทางจากที่รวมพลของ
แผนผังเส้นทางเดินทัพพม่า ๔ ทัพ ๓ เส้นทาง (พ.ศ.๒๑๓๕)
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐55
ตนเมื่อใด จึงปรากฏว่ากองทัพกรุงหงสาวดีของพระ ประการหนึ่ง ถ้าใจยังสู้ มีบทเรียนมากมายที่เคยแพ้
มหาอุปราชา เดินทัพเข้ามาถึงเขตแดนอาณาจักร มาหลาย ๆ ครั้ง ยังกลับมาเอาชนะได้ในครั้งสุดท้าย
อยุธยาก่อนทัพเมืองแปร เมืองตองอู แม้จะเข้ามา และกลายเป็นผู้พิชิตไปในที่สุด เรื่องของการทำศึก
ถึงเพียงทัพแรกทัพเดียว ก็ยังมีกำลังพลมากกว่า สงคราม บรมครูทางทหารทั้งหลายสอนไว้ว่า อย่า
กองทัพกรุงศรีอยุธยา ของสมเด็จพระนเรศวร ฯ มาดู ดูถูกข้าศึก การดูถูกข้าศึกเป็นความประมาทที่
กันว่า สมเด็จพระนเรศวร ฯ ท่านจะวางแผนสู้ศึกครั้ง อันตรายยิ่ง คืออย่าได้ประเมินขีดความสามารถของ
นี้อย่างไร จึงทำให้กองทัพไทยรบกับกองทัพพม่า ข้าศึกต่ำกว่าความเป็นจริง
ของ พระมหาอุปราชา เพียงทัพเดียว สงครามก็ยุติ
กองทัพเมืองแปร เมืองตองอู และเมืองเชียงใหม่ ไทยเตรียมกองทัพ
อุตส่าห์เดินทางมาหลายร้อยกิโลเมตร ไม่มีโอกาสได้ เป็นเหตุบังเอิญที่สมเด็จพระนเรศวร ฯ กำลังให้
รำดาบ รำทวน (ศึกครั้งนี้บรรดาแม่ทัพของทั้ง ระดมพลเตรียมกองทัพจะไปตีเขมร เป็นการทำ
๒ ฝ่าย เป็นคนรุ่นเดียวกัน ) สงครามตอบแทน สั่งสอนที่เขมรถือโอกาสมารุกราน
สมเด็จพระนเรศวร ฯ ได้รับใบบอกจากเมือง ไทยเกือบทุกครั้งที่มีศึกด้านพม่ายกมาติดกรุงศรีอยุธยา
กาญจนบุรี เดือนอ้าย ขึ้น ๑๒ ค่ำ (๑๔ ธันวาคม เมื่อกองทัพพม่าพ่ายแพ้ยับเยินกลับไปในปี พ.ศ.๒๑๓๓
พ.ศ.๒๑๓๕) ปีมะโรง เรื่องกองทัพพระมหาอุปราชา นั้น พระองค์คิดว่าจะต้องใช้เวลาเตรียมช้าง ม้า
เคลื่อนออกจากหงสาวดี จะเข้าสู่ไทยทางด่าน รี้พลอีกหลายปีกว่าจะยกมาตีกรุงศรีอยุธยาอีก น่าจะ
พระเจดีย์สามองค์ ยอดเยี่ยมมากครับ ระบบการ เป็นเวลาว่างศึกด้านพม่า จึงวางแผนจะไปตีเขมร
รายงานข่าวของไทย ๖ วัน จากหงสาวดี ม้าเร็ว ครั้นถึงเดือนอ้าย ปีมะโรง พ.ศ.๒๑๓๕ จึงมี
คงวิ่งทั้งวันทั้งคืนถึงรายงานข่าวให้กรุงศรีอยุธยา พระดำรัสตรัสสั่งให้มีท้องตราเกณฑ์ทัพที่จะไปตี
ทราบได้ทันกาล ทัพใหญ่มุ่งมาจี้คอหอย ต่อมา กรุงกัมพูชา กำหนดว่าให้พร้อมกันจะยกไปให้ทัน
ก็ทราบข่าวจากหัวเมืองเหนืออีกว่ามีทัพเมืองแปร กลางเดือนยี่ (มกราคม) ปีนั้น พอมีท้องตราออกไป
เมืองตองอู กำลังเข้ามาทางด่านแม่ละเมา และมี ได้แค่ ๖ วัน ก็ได้รับใบบอกจากหัวเมืองกาญจนบุรีว่า
ทัพเจ้าเมืองเชียงใหม่ เคลื่อนลงมาด้วย ทรงคิดว่า พระมหาอุปราชา ยกทัพเข้ามาทางด่านพระเจดีย์
ถ้าปล่อยให้ทุกกองทัพมารวมตัวบรรจบกันได้ที่ สามองค์ ทัพหนึ่ง และต่อมาได้รับใบบอกจาก
กรุงศรีอยุธยา ข้าศึกจะมีกำลังมากกว่าไทยหลายเท่า หัวเมืองเหนือว่ายังมีกองทัพข้าศึกยกลงอีกจาก
จำเป็นจะต้องรวมกำลังหาโอกาสทำลายกองทัพ เชียงใหม่ และทางด่านแม่ละเมา จึงโปรดให้ย้าย
ที่เข้ามาถึงก่อน ในลักษณะทยอยทำลายที่ละกองทัพ ที่ประชุมพล จากทุ่งบางขวด ด้านตะวันออก
มิให้ฝ่ายข้าศึกรวมกันได้ ตามแผนของพม่า กรุงศรีอยุธยา เพื่อจะยกไปตีกัมพูชา ให้ไปตั้ง
แผนนั้นวางได้ แต่เวลาทำจะได้ตามแผนหรือไม่ ประชุมพลที่ทุ่งป่าโมก แขวงเมืองวิเศษชัยชาญ
เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แทน ที่ทุ่งป่าโมกนี้ เป็นทางร่วมที่จะยกไปเมือง
แผนยุทธศาสตร์ในการป้องกันพระนครของไทย สุพรรณบุรีก็ได้ หรือจะขึ้นไปเมืองเหนือก็ได้ทั้ง
ยึดถือตามแผนยุทธศาสตร์ที่ได้ปรับปรุงใหม่ คือ สองทาง เหตุบังเอิญนี้ทำให้ สมเด็จพระนเรศวร ฯ
ออกไปตั้งรับข้าศึกให้ห่างไกลเมืองหลวง ตั้งแต่ใกล้ เตรียมกองทัพได้รวดเร็วทันกาล ยกออกไปรับศึก
แนวชายแดน ซึ่งใช้ได้ผลมาแล้ว คราวศึกพม่า ห่างไกลพระนครได้ทันท่วงที น่าจะมีพระสยาม
พระมหาอุปราชา เมื่อปี พ.ศ.๒๑๓๓ เทวาธิราชมาตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว จึงมีเหตุบังเอิญ
แต่ข้าศึกเคยแพ้ไปครั้งหนึ่ง เมื่อกลับมาอีกครั้ง ส่งผลดีทางบวกแก่ราชอาณาจักรอยุธยายุคนั้น
คงไม่ใช่หมูเหมือนเดิม การแพ้ศึกก็เป็นบทเรียนที่ดี หลายครั้ง (อ่านต่อฉบับหน้า)
๐56 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
นักเรียนนายเรือไทย
บทความ
ในโรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา
ก นาวาเอก ไกรศรี เกษร
ล่าวนำ
โรงเรียนนายเรือสหรัฐอเมริกา หรือที่พวกเรารู้จักคุ้นเคยกันดีในนาม “โรงเรียนนายเรือ
แอนนาโปลิส” เพราะเหตุว่ามีตำบลที่ตั้งอยู่ที่เมืองแอนนาโปลิส มลรัฐแมรี่แลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกานั้น
นับเป็นสถาบันการศึกษาชั้นนำด้านการทหารเรืออันเลื่องชื่อของโลก ที่ปัจจุบันใคร ๆ ก็ต่างใฝ่ฝันจะได้ไปเข้า
รับการศึกษา และนับเป็นโชคดีของประเทศไทยที่ในอีก ๔ ปีข้างหน้า เราจะมีนายทหารเรือรุ่นใหม่ ซึ่งสำเร็จ
การศึกษาจากสถาบันแห่งนี้ กลับไปรับราชการ เนื่องด้วย นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ วงศ์อิศเรศ เป็นหนึ่งใน
๑๒ คนของนักเรียนต่างชาติจาก ๑๐ ประเทศ (ไทย สิงคโปร์ เกาหลีใต้ เลบานอน จอร์แดน ตูนีเซีย มัลดีฟส์
ศรีลังกา บังกลาเทศ และเม็กซิโก) ที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษา ในหลักสูตรประจำปี ค.ศ.๒๐๑๒
ร่วมกับบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวของสหรัฐ ฯ รวมจำนวนทั้งสิ้น ๑,๒๓๔ คน โดยหากไม่มีอุปสรรคข้อขัดข้องใด ๆ
นักเรียนนายเรือ ศุภวิชญ์ ฯ จะสำเร็จการศึกษาตามกำหนดเวลาในปี ค.ศ.๒๐๑๕ ที่จะถึงนี้
ประวัติ
นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ วงศ์อิศเรศ
ชื่อ นนร.ศุภวิชญ์ วงศ์อิศเรศ ชื่อเล่น จิ๋ว
วันเดือนปีเกิด วันพฤหัสบดีที่ ๑๒ มีนาคมพ.ศ.๒๕๓๕
สถานที่เกิด จังหวัดอุบลราชธานี เป็นบุตรคนที่ ๓
ของพี่น้องจำนวน ๓ คน
บิดาชื่อ พันเอกวันชัย วงศ์อิศเรศ
อาชีพ แพทย์
สถานที่ทำงาน โรงพยาบาลอุบลราชธานี
มารดา พันตรีหญิง สุวรรณา วงศ์อิศเรศ (เสียชีวิต)
การศึกษา
ประถมศึกษาปีที่ ๑ - ๖ โรงเรียนอนุบาลอุบลราชธานี
มัธยมศึกษาปีที่ ๑ - ๓ โรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย
(กรุงเทพ ฯ)
มัธยมศึกษาปีที่ ๔ - ๖ โรงเรียมเตรียมทหาร รุ่น ๕๑
(จังหวัดนครนายก)
มหาวิทยาลัยเตรียมเข้ามหาวิทยาลัย Prep College
ณ Tilton School เมือง Tilton มลรัฐ New Hampshire
ประเทศสหรัฐอเมริกา
งานอดิเรก อ่านหนังสือ
นักเรียนนายเรือ ศุภวิชญ์ วงศ์อิศเรศ
กีฬา Wrestling (มวยปล้ำ)
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐57
นักเรียนนายเรือไทยในโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ
ความจริงการจัดส่งนักเรียนนายเรือไทยไป
ศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ เคยมีการดำเนินการ
ต่อเนื่องกันมานานแล้ว ล่าสุดเรามีนักเรียนนายเรือ
คนสุดท้ายที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบันแห่งนี้
เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๒ หรือประมาณ
๒ ปีที่แล้ว คือ ว่าที่เรือโท รัฐ กาญจนโชติ ปัจจุบัน
รับราชการเป็นนายทหารพัสดุ แผนกพลาธิการ
เรือหลวงนเรศวร กองเรือฟริเกตที่ ๒ กองเรือยุทธการ
แต่อย่างไรก็ตามการดำเนินการในอดีตกับปัจจุบัน
นั้นมีความแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง สำหรับนักเรียน
นายเรือศุภวิชญ์ ฯ นับเป็นนักเรียนนายเรือคนแรกที่
กองทัพเรือส่งมาเตรียมตัวสำหรับการเข้าเรียนใน นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ กับ ผู้ช่วยทหารเรือไทย/วอชิงตัน และ
โรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ ณ ประเทศสหรัฐอเมริกา รองผู้บังคับการกรมนักเรียน โรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ
พร้อม ๆ กับนักเรียนทุนรัฐบาลไทยคนอื่น ๆ ภายใต้ อากาศและกองทัพบกที่ส่งนักเรียนนายเรืออากาศ
การกำกับดูแลของสำนักงานคณะกรรมการ และนักเรียนนายร้อยมาเตรียมเข้าโรงเรียนนายเรือ
ข้าราชการพลเรือน ในทำนองเดียวกันกับกองทัพ อากาศที่โคโรลาโดสปริงส์ และโรงเรียนนายร้อย
เวสปอยท์ ซึ่งการดำเนินการดังกล่าวกองทัพเรือต้อง
ใช้งบประมาณเพิ่มขึ้นเป็นค่าการศึกษาในชั้นมัธยม
ปลายปีละประมาณ ๑.๕ ล้านบาท นอกเหนือจาก
ค่าการศึกษาในโรงเรียนนายเรือแอนนาโปลิส
การลงทุนตามข้างต้นนับเป็นการมองการณ์ไกลและ
เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างจะคุ้มค่า เพราะทำให้
นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ได้มีโอกาสเตรียมตัวเอง
ในสังคมของสหรัฐ ฯ ให้มีความพร้อมด้านต่าง ๆ
เช่นเดียวกันกับวัยรุ่นคนอื่น ๆ ก่อนที่จะยื่นใบสมัคร
เพื่อขอรับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียน
นายเรือสหรัฐ ฯ ทั้งนี้จากการที่ผมได้มีโอกาส
สนทนากับ Mr. Tim Disher ที่เป็น Director
International Program ผู้รับผิดชอบดูแลนักเรียน
ต่างชาติ ยืนยันว่าการจัดส่งนักเรียนนายเรือไทยที่จะ
เข้าโรงเรียนนายเรือแอนนาโปลิสมาเตรียมตัวใน
ประเทศสหรัฐ ฯ ก่อนล่วงหน้าเป็นเวลาประมาณ ๑ ปี
โดยให้เข้ารับการศึกษาในชั้นมัธยมปลาย (เกรด ๑๒)
นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ กับ ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทยวอชิงตัน ทำนองเดียวกันกับ นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ
วันไปรายงานตัวเข้ารับการศึกษา เมื่อ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ.๕๔
๐58 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
จะเป็นประโยชน์อย่างมากต่อการพิจารณาคัดเลือก
นักเรียนเข้ารับการศึกษาของคณะกรรมการ ฯ
ซึ่งตามปกติจะมีผู้ยื่นใบสมัครปีละประมาณ ๑๒,๐๐๐ คน
รับเข้าศึกษาได้ปีละประมาณ ๑,๒๐๐ คน ในจำนวนนี้
รวมนักเรียนต่างชาติปีละประมาณไม่เกิน ๑๐ คน
และนักเรียนหญิงปีละประมาณ ๒๐๐ คน โดย
คณะกรรมการ ฯ พิจารณาจากผลการศึกษาในระดับ
มัธยมปลายทุกหมวดวิชา ความพร้อมด้านร่างกาย
ความประพฤติ ความมีมนุษยสัมพันธ์ และสุขภาพ
โดยหากมีข้อสงสัยของนักเรียนแต่ละคนประการใด
คณะกรรมการ ฯ จะสามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้
จากโรงเรียนมัธยม โดยมีครูของนักเรียนเป็นผู้ นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ กับเพื่อนนักเรียนต่างชาติร่วมชั้น
สนับสนุน ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ ไม่สามารถดำเนินการ
ได้เลย หากนักเรียนนายเรือของเรามีการเตรียมตัว ที่โรงเรียนทิวตันสคูล เมืองทิวตัน มลรัฐนิวแฮมเชียร์
อยู่เฉพาะที่ประเทศไทย จึงไม่น่ามีข้อสงสัยว่าเหตุใด ซึ่งจากการที่ได้มีโอกาสติดตามผลการศึกษาแล้ว
ในอดีตกองทัพเรือก็ได้เคยจัดส่งนักเรียน เห็นได้ว่านักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ มีการพัฒนา
นายเรือไทยที่มีผลการศึกษาที่ดีเยี่ยมมายื่นใบสมัคร ไปในทางที่ดีในทุก ๆ ด้าน โดยเฉพาะด้านการเป็น
เพื่อขอรับการคัดเลือกให้เข้ารับการศึกษาในโรงเรียน นักกีฬาของโรงเรียน คงมีสิ่งที่น่าเป็นห่วงประการ
นายเรือสหรัฐ ฯ แล้วและมีหลายครั้งที่ไม่ได้รับโอกาส เดียวคือคะแนนวิชาภาษาอังกฤษที่มีการวัดผลได้
นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ได้เดินทางมาเตรียมตัว ค่อนข้างต่ำ แต่ก็มีการพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก หลัง
เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ จากที่นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ใช้ชีวิตในโรงเรียน
เมื่อปลายเดือน สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๒ โดยสำนักงาน มัธยมดังกล่าวได้ ๑ ปีการศึกษา เมื่อปลายเดือน
คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน ได้ประสานกับ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๓ - มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ ก็ได้
ฝ่ายสหรัฐ ฯ จัดให้นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ผ่านกระบวนการยื่นใบสมัครพร้อม ๆ กับนักเรียนทุน
เข้ารับการศึกษาในชั้นมัธยมปลาย (เกรด ๑๒) รัฐบาลคนอื่น ๆ และบรรดาวัยรุ่นหนุ่มสาวของสหรัฐ ฯ
ทั่วไป ภายใต้การสัมภาษณ์ของ ผู้ช่วยทูตทหารเรือ
สหรัฐ ฯ/กรุงเทพ ฯ ผ่านระบบ Skype (ปกติการ
สัมภาษณ์นี้ทำที่ สถานเอกสารทูตสหรัฐ ฯ ประจำ
ประเทศไทย) จนกระทั่งประมาณปลายเดือน
เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔ ก็ได้รับทราบข่าวที่น่ายินดีว่า
นักเรียนนายเรือไทยของเราได้ผ่านการคัดเลือกให้
เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ รุ่นปี
ค.ศ.๒๐๑๕ (นับปีจบ) ในการนี้ ถึงแม้ว่าการดูแล
นักเรียนเป็นหน้าที่โดยตรงของผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร
เรือไทยในต่างประเทศ แต่ผมไม่เคยนึกฝันว่าวันหนึ่ง
นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ กับ ผู้ช่วยทหารเรือ ไทย/วอชิงตัน ในการทำหน้าที่ดังกล่าว ผมพร้อมด้วย นาวาเอก
และ รองผู้ช่วยทหารเรือ ไทย/วอชิงตันวันแรกที่ได้รับการปล่อยกลับบ้าน สมชาย โชคสงวน รอง ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย/
เพื่อเยี่ยมผู้ปกครอง เมื่อ ๑๓ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๕๔
วอชิงตัน จะได้มีโอกาสทำหน้าที่เป็นผู้ปกครอง
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐59
ขับรถพา นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ไปรายงานตัว บทสรุป
เข้ารับการศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ ที่เมือง การที่กองทัพเรือของเรามีนักเรียนนายเรือไทย
แอนนาโปลิส เมื่อวันจันทร์ที่ ๒๐ มิถุนายน ได้รับการศึกษาในโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ (อีกครั้ง
พ.ศ.๒๕๕๔ รวมทั้งได้มีโอกาสไปร่วมพิธีการสาบาน หนึ่ง) นับเป็นความภาคภูมิใจ และผมเชื่อว่า
ตนเข้ารับการศึกษาของนักเรียนนายเรือเมื่อวัน ข้าราชการทุกระดับ คงมีความรู้สึกยินดีที่ไม่แพ้กัน
พฤหัสบดีที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔ ได้เห็น โอกาสดังกล่าวคงไม่เกิดขึ้นได้ง่าย ๆ หากบุคลากร
นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ยกมือขวาขึ้นแบระดับ ของกองทัพเรือที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้มีความรู้
อกพร้อมกล่าวคำปฏิญาณ ในชุดเครื่องแบบกลาสี ความสามารถไม่ถึงขั้น และผู้บังคับบัญชาไม่ให้การ
และหัวโล้น ปัจจุบัน นักเรียนนายเรือศุภวิชญ์ ฯ ได้ สนับสนุนเรื่องเดินทางมาเตรียมตัวล่วงหน้าก่อน นับ
เปลี่ยนสถานะเป็นนักเรียนนายเรือชั้นใหม่ หรือ ว่าคำขวัญที่ผมเคยได้ยินเมื่อครั้งเป็นนักเรียนนาย
“Plebe”กำลังเข้ารับการปรับปรุงลักษณะทหารใน เรือ เมื่อ ๓๐ กว่าปีที่แล้วที่ว่า “เหล็กในคนย่อม
ภาคเรียนฤดูร้อนของโรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ หรือ สำคัญกว่าเหล็กในเรือ” ยังมีมนต์ขลัง หวังเป็นอย่าง
“Plebe Summer” ก่อนที่จะเริ่มเป็นนักเรียนนายเรือ ยิ่งว่า นักเรียนนายเรือธิปก เอกวิริยะเสถียร ซึ่ง
สหรัฐ ฯ หรือ “Midshipman” เต็มตัวในเดือน ขณะนี้กำลังมาเตรียมตัวเข้ารับการศึกษาระดับมัธยม
กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔ จนกระทั่งจบการศึกษาในอีก ปลายที่โรงเรียนไวโอมิ่งมลรัฐเพนซิลวาเนีย คงจะ
๔ ปีข้างหน้า สามารถสร้างชื่อเสียงให้กับกองทัพเรือไทยใน
โรงเรียนนายเรือสหรัฐ ฯ ได้เช่นเดียวกัน
ภัยพิบัติ รู้ทันรับมือได้ : ดินถล่ม
วิธีปฏิบัติ
ศึกษาดูประวัติสภาพดินและร่องนำ้รอยพื้น
ที่อยู่อาศัยเพื่อประเมินความรุนแรง
เตรียมแผนอพยพ โดยศึกษาเส้นทางหนีภัย
เตรียมอุปกรณ์ยังชีพให้พร้อมอพยพหนีภัย
อย่าลังเลในการอพยพ เพราะจะหนีไม่ทัน
ปิดแก็ส ติดไฟฟ้า เพราะอาจเพิ่มความเสียหาย
แนวทางป้องกัน
หลีกเลี่ยงการสร้างบ้านอาศัยอยู่ในบริเวณที่เคยมี
การณ์ดินถล่มหรือบริเวณหุบเขาพื้นที่มีความ
ลาดชันสูงพื้นที่ราบ ลุ่มแอ่ง กะทะ พื้นที่ร่องน้ำพื้นที่
ถมดินใหม่ที่มีความลาดชัน
หากท่านอยู่ในพื้นที่บริเวณอันตราย ให้สำรวจพื้นที่
โดยรอบเพื่อเตรียมการหนีภัย
ควรปลูกพืชยึดหน้าดินบริเวณเชิงเขา และพื้นที่ลาดชัน เพื่อลดความเสี่ยงของดินถล่ม
สังเกตุอากาศหากฝนตกหนัก ควรอพยพไปสู่พื้นที่ปลอดภัยโดยเร็ว
สังเกตุพื้นที่รอบที่อยู่อาศัยหากพบสิ่งบอกเหตุที่มีโอกาสเกิดดินถล่มให้แจ้งหน่วยงานที่รับผิดชอบดำเนินการ
แก้ไขโดยเร็ว
ที่มา : ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ www.ndwc.go.th
๐60 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
โรงเรียนสัตหีบ
บทความ
เพื่อลูกหลานข้าราชการกองทัพเรือ
นาวาโท คณิศร์ คูตระกูล
ค สูงมี ๑๐ ห้องเรียน และห้องประชุม ปัจจุบันอาคาร
วามเป็นมา
๗๕ ปีแล้วที่โรงเรียนสัตหีบได้รับอนุมัติให้มี
การจัดตั้งขึ้น นับตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๔๗๙ จากกองทัพเรือ หลังนี้อยู่หลังตึกสิงห์สมุทร และเปลี่ยนชื่อโรงเรียน
เป็น “โรงเรียนทหารเรือบำรุง” และเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๖
เมื่อมีการก่อสร้างฐานทัพเรือที่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ได้เปลี่ยนชื่อโรงเรียนเป็น “โรงเรียนสิงห์สมุทร”
เพื่อดำเนินการจัดการศึกษาให้กับบุตรหลานของ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลถึงชั้นมัธยมศึกษา
ข้าราชการทหาร ลูกจ้าง และคนงานในสังกัด ปีที่ ๖ โดยกระทรวงศึกษาธิการรับรองวิทยฐานะเท่า
กองทัพเรือที่ย้ายเข้ามารับราชการในพื้นที่สัตหีบ โรงเรียนรัฐบาล
ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๘๐ ได้รับใบอนุญาตจาก โรงเรียนสิงห์สมุทรได้รับการส่งเสริมจากหน่วย
์
กระทรวงศึกษาธิการ จดทะเบียนเป็นโรงเรียนราษฎร งานต่าง ๆ ในการก่อสร้างอาคารเรียนเพิ่มเติมขึ้น
มีชื่อว่า “โรงเรียนสถานีทหารเรือสัตหีบ” โดยมี เนื่องจากมีจำนวนนักเรียนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เช่น
หลวงประจญปัจจามิตร (เจริญ นายเรือ) เป็นเจ้าของ เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๘ ได้รับเงินจากสำนักงานสลาก
และผู้จัดการ มีนางประยงค์ สันติกุล เป็นครูใหญ่ กินแบ่งรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการสร้างอาคาร
มีนักเรียนประมาณ ๑๐๐ คน ต่อมาได้ย้ายไปอยู่ เรียน ๒ ชั้น มีชื่อว่า “ตึกหมั่นเรียน” ปัจจุบันเปลี่ยนเป็น
บริเวณถนนสุขุมวิทใกล้ทางแยกไประยองและได้ “ตึกสิงห์สมุทร” พ.ศ.๒๕๐๑ ได้รับเงินจากสำนักงาน
มีการสร้างอาคารเรียนเป็นอาคารไม้ชั้นเดียวยกพื้น สลากกินแบ่งรัฐบาลอีกครั้งให้สร้างอาคารเรียนอีก
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐61
อาคารเรียนโรงเรียน “ม้าน้ำพันสมอ” ตราสัญลักษณ์โรงเรียน
หลังหนึ่งปัจจุบันได้ทุบทิ้งและสร้างใหม่และได้มีการ ผลงานที่สำคัญ
เปลี่ยนชื่อโรงเรียนอีกครั้งเป็น “โรงเรียนสัตหีบ” โรงเรียนสัตหีบมีการพัฒนาในระบบการเรียน
เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ.๒๕๐๒ มีพลเรือตรี การสอนให้มีความเจริญก้าวหน้าตลอดเวลาจนได้
ประเทือง วงศ์จันทร์ เป็นเจ้าของ นาวาเอกแก้ว รับโรงเรียนรางวัลพระราชทานระดับประถมศึกษา
ทองสลวย เป็นผู้จัดการ และอาจารย์ใหญ่ ขนาดใหญ่ จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ
คือ เรือเอกสมัคร หนูไพโรจน์ และเมื่อ พ.ศ.๒๕๒๔ รัชกาลที่ ๙ เมื่อ พ.ศ. ๒๕๔๑ นับเป็นพระมหา
กองทัพเรือได้มีหนังสือกระทรวงกลาโหม กรุณาธิคุณอย่างสูงต่อคณะครูและนักเรียนโรงเรียน
ที่ ๑๔๔/๙๗๘ ลงวันที่ ๑๔ มกราคม พ.ศ.๒๕๒๔ สัตหีบ และเมื่อกระทรวงศึกษาธิการมีการประกาศให้
ขอโอนโรงเรียนเฉพาะระดับมัธยมศึกษา ให้กรม โรงเรียนจะต้องมีการประเมินคุณภาพการศึกษา
สามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการรับไปดำเนินการ โรงเรียนสัตหีบได้รับการประกันคุณภาพและรับรอง
ได้กระทำพิธีมอบโอนโรงเรียน เมื่อวันที่ ๒๒ มาตรฐานการศึกษา จากสำนักงานคณะกรรมการ
มกราคม พ.ศ.๒๕๒๔ ได้เปลี่ยนชื่อ “โรงเรียน การศึกษาเอกชน กระทรวงศึกษาธิการ และรับการ
สัตหีบ” เฉพาะระดับมัธยมศึกษาเป็น “โรงเรียนสิงห์ ประเมินคุณภาพภายนอกของสถานศึกษา ระดับ
สมุทร” และใช้ชื่อนี้มาจนถึงปัจจุบัน ในส่วนของ การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ.๒๕๔๙ จากสำนักงาน
ระดับอนุบาลถึงชั้นประถมศึกษา ๖ ยังคงใช้ชื่อ รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา
“โรงเรียนสัตหีบ” ตามเดิม โดยแบ่งที่ตั้งออกเป็น (องค์กรมหาชน) นอกจากรางวัลเกียรติยศดังกล่าวแล้ว
๒ เขต คือ โรงเรียนสัตหีบ เขตฐานทัพเรือสัตหีบ
และโรงเรียนสัตหีบ เขตกองเรือยุทธการ เริ่มก่อสร้าง
มาตั้งแต่ปีการศึกษา ๒๕๑๘ เป็นโรงเรียนเดียวกัน
เพียงแต่แยกออกเป็นสองพื้นที่เพื่อสะดวกต่อ
นักเรียนที่จะได้เรียนใกล้บ้านไม่ต้องเดินทางไปไกล
ปัจจุบัน โรงเรียนสัตหีบ เป็นหนึ่งในสวัสดิการ
สัตหีบ ซึ่งเป็นกิจการหนึ่งในสวัสดิการกองทัพเรือ
กิจกรรมนักเรียน
๐62 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
โรงเรียนสัตหีบยังได้รับรางวัลเหรียญทอง โรงเรียน รางวัลเหรียญทอง ท่องอาขยาน การแข่งขัน
ส่งเสริมสุขภาพ ระดับเหรียญทอง พ.ศ.๒๕๔๙ -ปัจจุบัน รวมศิลป์สร้างสรรค์ การสร้างสรรค์ภาพด้วยการปะ
จากกระทรวงสาธารณสุข และรางวัลโรงเรียนคุณธรรม ติด การแข่งขันวาดภาพระบายสี ป.๔ การแข่งขัน
ชั้นนำเขตการศึกษา พ.ศ.๒๕๕๑ วาดภาพ ป.๖ การแข่งขันงานปติมากรรมลอยตัว
ตลอดระยะเวลา ๗๕ ปีที่ผ่านมาโรงเรียนสัตหีบ การเดี่ยวซอด้วง และการเดี่ยวซออู้
มิได้หยุดนิ่งมีการส่งเสริมบุคลากรภายในโรงเรียน รางวัลเหรียญเงินคณิตคิดเร็ว ชั้น ป.๔ (ไม่มี
ให้มีความเจริญก้าวหน้าตามยุคสมัยที่เทคโนโลยี โรงเรียนใดได้เหรียญทอง) และลูกทหารเรือ ของเรา
มีความก้าวหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง โดยการจัดส่ง ได้รับการคัดเลือกแข่งขันระดับประเทศในรายการ
บุคลากรไปอบรมตามหน่วยงานที่จัดให้มีการอบรม “รายการสุดยอดเด็กไทยก้าวใหม่ที่ไกลกว่า” ในวันที่
และเชิญวิทยากรที่มีความรู้ความสามารถมาให้ความ ๒๗ มกราคม พ.ศ.๒๕๕๔ ณ เมืองทองธานี
รู้กับคณะครูภายในโรงเรียนอย่างสม่ำเสมอ มีการนำ ได้อันดับที่ ๑๑ ของประเทศ
นักเรียนไปทัศนศึกษานอกสถานที่ตามแหล่งเรียนรู้ ผลงานชนะเลิศระดับประเทศที่นำความภูมิใจ
ต่าง ๆ เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรง นอกจากนั้น ให้กับชาวน้ำเงินขาวอีกผลงานหนึ่ง คือ การเข้าร่วม
แล้วยังมีการจัดอบรมนักเรียนให้มีความรู้เพิ่มเติม เช่น แข่งขันในโครงการ “กล้าใหม่....ใฝ่รู้” ปี๕ โดย
การอบรมการขับขี่รถจักรยานยนต์ให้ถูกกฎจราจร ธนาคารไทยพาณิชย์ ที่ท้าทาย ความรู้ทักษะความ
เพื่อความปลอดภัยในการเดินทางมาโรงเรียนและ สามารถในงานด้านศิลปะกับความคิดสร้างสรรค์
สร้างจิตสำนึกในการใช้รถใช้ถนนอย่างถูกต้องตาม การทำงานเป็นทีมที่มีคุณภาพ แบ่งการแข่งขันเป็น
กฎหมายการจราจรอีกด้วย หรือการเชิญแพทย์จาก ๔ ระดับ คือ ระดับประถมศึกษาแข่งขันวาดภาพ
โรงพยาบาลมาให้ความรู้กับนักเรียนในการปฏิบัติตน ระบายสี ระดับมัธยมศึกษาแข่งขันตอบคำถามและ
อย่างไรเมื่อเกิดการระบาดของโรคต่าง ๆ ขึ้นใน ระดับอุดมศึกษาแข่งขันโครงงาน ในส่วนของ
พื้นที่ หรือพื้นที่ใกล้เคียง นอกจากนั้นโรงเรียน โรงเรียนสัตหีบ เขตกองเรือยุทธการส่งนักเรียน
สัตหีบยังมีการส่งเสริมนักเรียนที่มีความรู้ความ เข้าแข่งขันการวาดภาพระบายสี ๑ ทีม ประกอบด้วย
สามารถ โดยเมื่อมีการจัดการแข่งขันทางด้านวิชาการ น้องอนุบาล ๒ ป.๑ ป.๔ ป.๔ และพี่ ป.๖ อีก ๒ คน
โรงเรียนจะมีการคัดเลือกนักเรียนที่มีความสามารถ ร่วมกันแสดงฝีมือ ถ่ายทอดความคิดสร้างสรรค์
ในกลุ่มสาระต่าง ๆ เข้าร่วมการแข่งขัน จนสามารถ บนผืนผ้าใบขนาด ๒ x ๔ เมตร ภายในระยะเวลา
ชนะเลิศทั้งในระดับเขตพื้นที่การศึกษา ระดับจังหวัด ที่กำหนด โดยมีโรงเรียนต่าง ๆ ส่งทีมเข้าร่วมแข่งขัน
และระดับประเทศมาแล้วมากมาย และในปี ทั่วประเทศจำนวน ๕๐ โรงเรียน ณ ห้อง MCC Hall
การศึกษา ๒๕๕๔ ที่ผ่านมาโรงเรียนสัตหีบทั้ง ๒ ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ บางกะปิ กรุงเทพ ฯ
เขตได้จัดส่งนักเรียนเข้าร่วมการแข่งขันทางด้านวิชาการ
“งานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับภาคกลางและภาค
ตะวันออก ครั้งที่ ๖๐” ณ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
เมื่อวันที่ ๒๗ - ๒๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ โดยนักเรียน
โรงเรียนสัตหีบสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศ
เกือบทุกกลุ่มสาระวิชา จากการแข่งขัน ๙ รายการ
ได้รับรางวัลเหรียญทอง ๘ รายการ และผ่านเข้า
แข่งขันระดับประเทศ ๑ รายการคือ คณิตคิดเร็ว
ดังนี้
นักเรียนที่ชนะเลิศการแข่งขันวาดภาพระบายสี
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐63
ผลปรากฏว่าโรงเรียนสัตหีบ เขตกองเรือยุทธการ นักเรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม ตามคุณลักษณะ
ได้รับรางวัลชนะเลิศ ระดับประเทศ รับเงินรางวัล อันพึงประสงค์
ทุนการศึกษา สำหรับนักเรียน ๖ คน เป็นเงิน สร้างความเข้มแข็งในระบบการบริหาร และ
๑๒๐,๐๐๐ บาท โดย ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด จัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพ
ได้กรุณาดำเนินการเปิดบัญชีออมทรัพย์ให้กับ พัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐาน
เด็กเก่ง ของเราเรียบร้อยแล้ว วิชาชีพครู มีความสามารถในการจัดการเรียน
ภาพแห่งความสำเร็จ ส่วนหนึ่งนั้นเป็นการ การสอน ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สนับสนุนจากผู้ปกครองร่วมกับคณะครูของโรงเรียน พัฒนาองค์กร แห่งการเรียนรู้ที่เข้มแข็ง มี
ที่ช่วยกันฟูมฟัก อบรม ให้ความรู้และประสบการณ์ มาตรฐานสูง พัฒนาอย่างต่อเนื่องตามเกณฑ์
ให้การสนับสนุนเด็ก ๆ ได้แสดงออกอย่างเต็ม ประเมินคุณภาพ มาตรฐานสถานศึกษา และสร้าง
ศักยภาพ และในปีการศึกษาต่อ ๆ ไป โรงเรียนสัตหีบ ความพึงพอใจ เป็นที่ยอมรับของชุมชนและสังคม
มีความมั่นใจว่าบุตรหลานของทหารเรือจะสร้างผลงาน ทั่วไป
ให้คุณพ่อ คุณแม่ได้ชื่อใจและสร้างชื่อเสียงให้กับ ศปส.ทร. จึงได้อนุมัติงบประมาณในปี พ.ศ.๒๕๕๔
โรงเรียนอีกอย่างไม่รู้จบ เพื่อเป็นแนวทางในการ เพื่อพัฒนางานด้านต่าง ๆ ของโรงเรียนสัตหีบ อาทิเช่น
ศึกษาต่อและการดำเนินชีวิตต่อไปในอนาคตอย่างมี โครงการก่อสร้างอาคารเรียนมัธยมศึกษา ๔
คุณภาพ และเป็นกำลังที่สำคัญของประเทศต่อไป ชั้น ๑๕ ห้องเรียน วงเงิน ๑๔,๐๐๐,๐๐๐ บาท
จำนวน ๑ หลัง สำหรับเป็นอาคารเรียนและ
กองทัพเรือ กับ การพัฒนาโรงเรียนสัตหีบ ทำกิจกรรมของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ ๑ - ๔
ิ
้
้
้
ั
์
ด้วยความห่วงใยในความก้าวหน้าทางการศึกษา และประกอบดวยหองวทยาศาสตรมธยม หอง
ของบุตรหลาน โรงเรียนสัตหีบ โดยเฉพาะกองทัพเรือ คณิตศาสตร์ ห้องคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มคุณภาพการ
โดยศูนย์ประสานการจัดสวัสดิการภายในกองทัพเรือ เรียนการสอนให้กับนักเรียน
(ศปส.ทร.) ได้ให้โรงเรียนสัตหีบจัดทำแผนกลยุทธ์ โครงการปรับปรุงห้องสมุด จำนวน ๑ หลัง
๔ ปี ในการพัฒนาโรงเรียนให้เข้มแข็ง ได้มาตรฐาน วงเงิน ๑,๒๐๐,๐๐๐ บาท จากห้องสมุดเดิมที่เป็น
ในทุกด้าน โดยมุ่งเน้น อาคารไม้เก่า ให้ทันสมัย เป็นการสร้างบรรยากาศ
พัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีความเป็นเลิศทาง ที่เอื้อต่อการศึกษาค้นคว้า ให้นักเรียน สอดคล้อง
ปัญญา มีการศึกษาตามเกณฑ์ มาตรฐาน มีความรู้ กับกิจกรรม สร้างห้องสมุดมีชีวิต กระตุ้นให้นักเรียน
มีคุณภาพ รู้จักคิดวิเคราะห์ มีค่าเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ รักการอ่าน การค้นคว้า ด้วยมุมห้องสมุดไอที มุมเด็ก
ทางการเรียนตามเกณฑ์มาตรฐาน ส่งเสริมให้ และห้องสมุดเคลื่อนที่
กิจกรรมพัฒนาบุคลากรให้มีคุณภาพ
๐64 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
โครงการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษา วงเงิน ของลูกหลานข้าราชการ และลูกจ้างของกองทัพเรือ
๒๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อพัฒนาครูอาจารย์ให้มีคุณภาพ ให้ก้าวหน้าตลอดไป ในอันที่จะพัฒนาคุณภาพ
ด้านการสอนให้มากยิ่ง ๆ ขึ้น ทางการศึกษา พัฒนาเยาวชนของชาติให้มีผลสัมฤทธิ์
นอกจากนั้นยังจัดงบพัฒนา ห้องเรียนคอมพิวเตอร์ ที่ดี เพื่อเป็นกำลังสำคัญของสังคมและประเทศไทย
โรงอาหาร และค่ายลูกเสืออีกเป็นจำนวนมาก คณะครู ต่อไป ดังคำขวัญของโรงเรียนที่ว่า “รักเกียรติ รักหน้าที่
นักเรียน โรงเรียนสัตหีบ ขอขอบคุณกองทัพเรือ มีวินัย มีจิตใจใฝ่ทำแต่ความดี”
และ ศปส.ทร ที่มุ่งมั่นพัฒนาโรงเรียนสัตหีบ ที่เป็น
เก็บตก
จัดการกับความดันโลหิตสูงเวลานอน แก้เวียนศรีษะใน ๖๐ วินาที
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Univesrsity of Vigo ต่อไปนี้เป็นวิธีง่าย ๆ ที่จะช่วยอาการเวียนศีรษะ
ในประเทศสเปน กล่าวว่า หากคุณรับประทาน แบบบ้านหมุน (Vertigo): คือให้เเรียนรู้วิธีเอียงศีรษะ
แอสไพรินในปริมาณต่ำเป็นประจำทุกวันเพื่อป้องกัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่า การบริหารแบบ Epley
หัวใจพิบัติ ให้ลองรับประทานมันก่อนที่จะไปพบกับ maneuver (เป็นการบริหารเพื่อช่วยบรรเทาอาการ
แพทย์ มันช่วยให้ความดันโลหิตลดลงได้ ในสตรี เวียนศีรษะแบบบ้านหมุนสามารถทำโดยแพทย์
จำนวน ๑๘๖ คน (อายุเฉลี่ยอยู่ที่ ๔๔ ปี) พบว่าผู้ที่ นักกายภาพบำบัด หรือทำเองได้ - ผู้แปล) เป็นการ
รับประทานในตอนเช้าจะมีความดันโลหิตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย บริหารให้ศีรษะและคอติดต่อกันเป็นเวลานานหนึ่งนาที
ในขณะที่คนที่รับประทานในตอนค่ำจะมีระดับความ เป็นวิธีที่ช่วยอาการเวียนศีรษะได้เป็นอย่างดีโดยไป
ดันโดยเฉลี่ยตัวบน (Systolis) ลดลงราว ๘ จุด และ ทำให้ผลึกแคลเซียม คาร์บอเนต ที่อยู่ผิดที่ผิดทาง
ตัวล่าง (Diastolic) ลดลง ๕.๕ ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า (ซึ่งทำให้เกิดอาการเวียนศีรษะแบบบ้านหมุนได้)
การรับประทานแอสไพรินก่อนนอนในตอนกลางคืน ให้ไปอยู่ในส่วนของหูบริเวณที่สามารถถูกดูดซึมไปได้
นั้นปลอดภัยสำหรับผู้ที่มีอาการกรดในกระเพาะไหล ในการศึกษามีอาการหายไปหลังจากทำการบริหาร
ย้อนกลับ แบบนี้ทุกวันเป็นเวลาหนึ่งสัปดาห์ คุณสามารถเข้าเว็บ
ที่มา คอลัมน์ : News + Trends youtube.com เพื่อดูคลิปที่สาธิตวิธีการบริหารที่
เรื่อง : Beat High BP at Bedtime ปลอดภัย (สามารถดูได้ที่ prevention.com/links
วาระสาร : Prevention เดือนพฤศจิกายน ๒๐๐๘
ได้เช่นกัน)
ที่มา คอลัมน์ : News + Trends
เรื่อง : 60 - Second Dizziness Cure
วาระสาร : Prevention เดือนพฤศจิกายน ๒๐๐๘
ข่าวประชาสัมพันธ์
กองทัพเรือ ขอเชิญชวนสมาชิกราชนาวิกสภาและ/หรือข้าราชการ
กองทัพเรือ ตลอดจนผู้ประสงค์จะช่วยเหลือพี่น้องผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วม
โดยสามารถบริจาคเงิน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ได้ที่ กรมการเงิน
ทหารเรือ หรือโอนเงินเข้าบัญชีออมทรัพย์ ธนาคารทหารไทย สาขา
กองบัญชาการกองทัพเรือ หมายเลขบัญชี “ศูนย์รับบริจาคเงิน เพื่อ
ช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยและภัยหนาว ของกองทัพเรือ” หมายเลขบัญชี
๑๑๕-๒-๑๔๓๒๒-๖
ที่มา : กรมกิจการพลเรือนทหารเรือ
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐65
คอลัมน์ประจำ
ดาวประดับราชนาวี
“
กองบรรณาธิการ
แม่ทัพเรือแห่งราชอาณาจักรไทย
คนที่ ๔๗
”
ที่เข้มแข็ง มีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๑ พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ
ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม
ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการทหารเรือ ตลอดระยะเวลา
๓ ปี ที่กองทัพเรืออยู่ภายใต้การนำของ ผู้บัญชาการ
ทหารเรือ คนที่ ๔๗ กำลังพลของกองทัพเรือทุกพรรคเหล่า
ได้ร่วมกันปฏิบัติงานอย่างเต็มกำลังความสามารถ
เป็นการปฏิบัติงานอย่างทุ่มเทด้วยหัวใจ ด้วยความ
ศรัทธาเชื่อมั่นในผู้บังคับบัญชาสูงสุด ได้เห็นแบบอย่าง
ของความมุ่งมั่นและประจักษ์ในความเสียสละซื่อสัตย์
ในการทำงานเพื่อประเทศชาติ และประชาชนนำพา
กองทัพเรือไปสู่เวทีโลก ประกาศเกียรติภูมิของทหารเรือไทย
พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ผู้บัญชาการทหารเรือ
นั (ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๑ - ๒๕๕๔) ให้นานาชาติได้ยกย่องสรรเสริญ อีกทั้ง ยังเป็น
ผู้บังคับบัญชาที่มีวิสัยทัศน์เปี่ยมไปด้วยคุณธรรม
บจากวันที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จพระราชดำเนินมาทรงเปิดโรงเรียนนายเรือ และเมตตาใส่ใจในทุกข์สุขของกำลังพล ตลอดจน
ณ พระราชวังเดิม เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๔๔๙ ครอบครัว เหนืออื่นใดก็คือเป็นผู้บังคับบัญชาที่
กิจการทหารเรือของไทยตามแบบตะวันตกก็ได้เริ่มต้นขึ้น หลอมรวมใจกำลังพลเป็นหนึ่งเดียวในการปกป้อง และ
และมีวิวัฒนาการเรื่อยมา จนคนไทยมีความสามารถ เทิดทูนไว้ ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ในการทหารเรือ ทัดเทียมกับชาวต่างชาติ ก่อกำเนิด ซึ่งเป็นที่เคารพเทิดทูนสูงสุดของปวงชนชาวไทย
กองทัพเรือแห่งราชนาวี สืบสานภาระหน้าที่ในการ แม้ในวันนี้ พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ จะพ้นจาก
ปกป้องอธิปไตยของชาติทางทะเลมาอย่างต่อเนื่อง ตำแหน่งผู้บัญชาการทหารเรือไปแล้วตามวาระ แต่สิ่งที่
จนถึงปัจจุบัน ยังคงดำรงอยู่อย่างเป็นรูปธรรมก็คือ ความมั่นคง
แต่กองทัพเรือจะดำรงภารกิจอย่างภาคภูมิ เข้มแข็งของกองทัพเรือ อันเป็นผลมาจากการอุทิศตน
สมเกียรติมิได้ หากปราศจากผู้นำที่จะดำรงตำแหน่ง ในการทำงานและแบกรับภาระหน้าที่สำคัญ โดยไม่เห็น
ผู้บัญชาการทหารเรือ ทำหน้าที่ปกครองบังคับบัญชา แก่ความเหนื่อยยาก กองบรรณาธิการนาวิกศาสตร์
้
่
เป็นหลักชัยให้กำลังพลยึดมั่นรวมใจเป็นหนึ่งเดียวในการ จึงขอนำเสนอผลงานในดานตาง ๆ ของผู้บัญชาการ
ทำหน้าที่ตามความรับผิดชอบอย่างเต็มกำลังความ ทหารเรือ คนที่ ๔๗ ให้ผู้อ่านได้ทราบเพื่อเป็นเกียรติ
สามารถ เพื่อให้ภารกิจลุล่วงในทุก ๆ ด้าน เป็นกองทัพเรือ ดังต่อไปนี้
๐66 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
การเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และการดำเนิน ในห้วงเวลาที่มีการจัดส่งหมู่เรือปราบปรามโจรสลัด
โครงการตามพระราชดำริ ไปปฏิบัติงานในอ่าวเอเดน ซึ่งเป็นการแสดงบทบาท
ภารกิจที่สำคัญสูงสุดของกองทัพเรือ ภายใต้ ของทหารเรือไทยในเวทีโลก
การนำของ พลเรือเอก กำธร ฯ ก็คือ การปกป้อง นอกจากนี้ ในห้วงเวลาที่สถานการณ์บ้านเมือง
เทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ และการสานต่อ มีความขัดแย้งเกิดขึ้น กองทัพเรือภายใต้การนำของ
โครงการตามพระราชดำริในวาระสำคัญต่าง ๆ อาทิ พลเรือเอก กำธร ฯ ได้เข้าร่วมในการแก้ไขและประคับประคอง
โครงการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้า สถานการณ์อย่างละมุนละม่อม จนกองทัพเรือเป็นที่
อยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม ยอมรับและได้รับการกล่าวขานในฐานะทหารอาชีพที่ยึดมั่น
พระชนมพรรษา ๗ รอบ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ ในความสงบสุขของชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ซึ่งกองทัพเรือมีโครงการเฉลิมพระเกียรติถึง รวมทั้งยังได้ทุ่มเทสรรพกำลังในการรักษาความสงบ
๑๐ โครงการ ๑ กิจกรรม อาทิ โครงการพิพิธภัณฑ์ เรียบร้อยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้พื้นที่
อู่เรือหลวง เฉลิมพระเกียรติ ฯ โครงการหอศิลป์ รับผิดชอบของกองทัพเรือ มีความปลอดภัยเพิ่มขึ้น
พ่อหลวงเฉลิมพระเกียรติ ฯ เป็นต้น อย่างน่าพอใจ
นอกจากนี้ กองทัพเรือยังได้จัดเรืออังสนาถวาย ด้านบริหารจัดการ
เป็นเรือพระที่นั่งแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และ พลเรือเอก กำธร ฯ ได้นำแนวคิด POSDCORB
สมเด็จเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี และการบริหารจัดการภาครัฐมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสม
ในโอกาสเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดประตูระบายน้ำ กับการบริหารงานของกองทัพเรือ มีการจัดทำหลักนิยม
คลองลัดโพธิ์ และทรงเปิดสะพานภูมิพล ๑ และสะพาน ข่าวกรองทหารเรือ มีการกระจายอำนาจในการสั่งการ
ภูมิพล ๒ ณ อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ แทนผู้บัญชาการทหารเรือ นอกจากนี้ ยังริเริ่มโครงการ
เมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๓ รวมทั้งยังสาน ย้ายที่ตั้งกรมอู่ทหารเรือไปยังพื้นที่สัตหีบ การจัดสร้าง
ต่อโครงการเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งเฉลิมพระเกียรติ บก.ทร.แห่งใหม่ มีการปรับโครงสร้างของกองทัพเรือ
๘๔ พรรษา ชุดเรือ ต.๙๙๔ และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง อาทิ ปรับชั้นยศ เจ้ากรมพลาธิการทหารเรือ เป็นพลเรือโท
เฉลิมพระเกียรติ ๘๔ พรรษา หรือ เรือ OPV จนลุล่วง จัดตั้งสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ เป็นต้น
โดยเฉพาะเรือ OPV นับเป็นเรือขนาดใหญ่ที่สุดที่ ด้านการส่งกำลังบำรุง
กองทัพเรือ โดยกรมอู่ทหารเรือเคยสร้างมา มีการจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการซ่อมบำรุง
ด้านยุทธการ และปรับปรุงยุทโธปกรณ์ของกองทัพเรือ (อซป.) เพื่อให้
พลเรือเอก กำธร ฯ ได้จัดเตรียมกำลังทางเรือให้มี เกิดเอกภาพและบูรณาการการบริหารการส่งกำลังบำรุง
ความพร้อมรบตามขีดความสามารถในการปฏิบัติการ ทั้งระบบ ทั้งนี้ ได้นำเทคโนโลยีสารสนเทศมาประยุกต์
ทางทหาร การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้สามารถใช้งานด้านการส่งกำลังบำรุงได้จริง เพื่อ
และการช่วยเหลือประชาชน มีการปรับปรุงเรือและ ขยายขีดความสามารถในการส่งกำลังบำรุงในอ่าวไทย
ยุทโธปกรณ์หลายโครงการ อาทิ การปรับปรุง และทะเลอันดามัน
เรือฟริเกต ชุดเรือหลวงนเรศวร จัดหาเครื่องบินลำเลียง มีการก่อสร้างท่าเทียบเรือที่สถานีเรือสมุย จังหวัด
EMBRAER การปรับปรุงระบบอำนวยการรบของเรือ สุราษฎร์ธานี ก่อสร้างระบบซ่อมทำตัวเรือใต้แนวน้ำ
หลวงจักรีนฤเบศร ฯลฯ ที่สำคัญคือ การจัดหาเรือดำน้ำ ที่ฐานทัพเรือพังงา ก่อสร้างสถานีเรือจังหวัดระนอง
ซึ่งได้เสนอโครงการไปตั้งแต่รัฐบาลพรรคประชาธิปปัตย์ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการดำรง
และเสนอโครงการอีกครั้งในยุครัฐบาลพรรคเพื่อไทย ความพร้อมให้แก่กองทัพเรือทั้งในยามสงบและภาวะ
รวมทั้งริเริ่มแนวคิดการนำสงครามแบบใช้เครือข่ายเป็น สงคราม
ศูนย์กลางมาประยุกต์ใช้ในการควบคุมบังคับบัญชา ด้านกำลังพล
กำลังทางเรือในระยะไกลอย่างเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะ พลเรือเอก กำธร ฯ ต้องการให้กำลังพลทุกระดับชั้น
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐67
เป็นทั้ง “คนเก่งและคนดี” จึงได้กำหนดค่านิยม SAIL เป็นอยู่ของสมาชิกทุกคนในทุก ๆ ด้าน เพื่อเสริมสร้าง
ซึ่งประกอบด้วย ความเป็นชาวเรือ (Seamanship) ขวัญกำลังใจ ความสามัคคี และความภาคภูมิใจในการ
ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี (Allegiance) ความ เป็นทหารเรือ มุ่งเน้นการใช้ชีวิตตามแนวเศรษฐกิจ
เป็นผู้มีคุณธรรมจริยธรรมและความเป็นสุภาพบุรุษ พอเพียง สามารถพึ่งพาตนเองได้ เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
ทหารเรือ (Integrity and Gentleman) และความเป็น ทัดเทียมกับเหล่าทัพอื่น ผลงานที่เป็นรูปธรรม อาทิ
ผู้นำ (Leadership) มีการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ การปรับปรุงห้องอาหารนายทหารสัญญาบัตร และ
เพื่อการย้ายบรรจุที่เหมาะสม อาทิ ให้มีการจัดทำหลัก ปรับปรุงศูนย์อาหารพระราชวังเดิมสำหรับข้าราชการ
ขีดสมรรถนะ (Competency) กำหนดระดับคะแนน ทุกชั้นยศให้มีความสะอาดถูกสุขลักษณะ มีมาตรฐาน
ความคาดหวังในมาตรฐานตำแหน่งงาน (Competency ราคาย่อมเยา และเป็นต้นแบบให้หน่วยต่าง ๆ นำไป
Job Mapping) ของแต่ละตำแหน่งงานของกองทัพเรือ พัฒนาให้กำลังพลมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การจัดทำ
มีการประเมินขีดความสามารถนายทหารสัญญาบัตร โครงการที่พักอาศัย Navy Place และบ้านเอื้ออาทร
ของหน่วยงานนำร่อง จำนวน ๑๑ หน่วย (เว้นนายพลเรือ) ริเริ่มการก่อสร้างฌาปนสถานกองทัพเรือ แห่งที่ ๒ ในเขต
เป็นต้น กรุงเทพมหานคร และปริมณฑล เป็นต้น
นอกจากนี้ ยังได้การแก้ไขหลักเกณฑ์การสอบ นอกจากนี้ ยังได้สร้างศูนย์สุขภาพและศูนย์กีฬาที่
เลื่อนฐานะของนายทหารประทวน เพื่อให้ผู้บังคับบัญชา มีมาตรฐาน เพียงพอต่อความต้องการ รวมทั้งยัง
สามารถคัดเลือกผู้มีความรู้ความสามารถ ขยันขันแข็ง ปรับปรุงสถานพยาบาลและสถานรับเลี้ยงเด็กปฐมวัย
ให้ได้เจริญก้าวหน้าตามที่เห็นควร โดยแบ่งเป็น ๒ ส่วน ของกองทัพเรือให้มีความสมบูรณ์สามารถรองรับ
ได้แก่ สอบเลื่อนฐานะจำนวนร้อยละ ๘๐ และการ การดูแลบุตรหลานข้าราชการได้ดีขึ้น
พิจารณาของผู้บังคับบัญชาการจำนวนร้อยละ ๒๐ งานด้านสังคม
ที่สำคัญที่สุดก็คือ กำหนดให้มีการเจริญเติบโต พลเรือเอก กำธร ฯ ให้ความสำคัญในเรื่องความ
แบบก้าวกระโดด เพื่อการแก้ปัญหาการแออัดของกำลัง รับผิดชอบต่อสังคม CSR (Corporate Social
พลในชั้นยศสูง ซึ่งนับเป็นมิติใหม่ของกองทัพเรือ ที่เริ่ม Responsibility) มาอย่างสม่ำเสมอและต่อเนื่อง
ใช้เป็นครั้งแรกในการปรับย้ายเมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๓ ด้วยศักยภาพของกองทัพเรือที่จะสามารถเข้าร่วมกับ
ด้านการวิจัยทางทหาร หน่วยงานภายนอกในการจัดทำโครงการต่าง ๆ เพื่อ
การวิจัยและพัฒนามีความสำคัญและมีความ สร้างสรรค์สิ่งที่ดีงามสู่สังคม อาทิ โครงการอาชาบำบัด
จำเป็นอย่างยิ่งต่อการพัฒนาขีดความสามารถโดยรวม เพื่อเด็กออทิสติก โครงการเยาวชนเรือใบ การสนับสนุน
ทั้งนี้การวิจัยและพัฒนาทางทหารมีความมุ่งหมายเพื่อ การกีฬาแห่งประเทศไทยในการส่งนักกีฬาที่เป็น
การพึ่งพาตนเองและนำผลการวิจัยมาใช้อย่างจริงจัง กำลังพลของกองทัพเรือเข้าร่วมการแข่งขันกีฬา
และเป็นรูปธรรม เอเชี่ยนเกมส์ จนได้รับเหรียญรางวัลในกีฬาหลาย
พลเรือเอก กำธร ฯ จึงให้ความสำคัญ และให้การ ประเภท เป็นต้น รวมทั้งยังได้บริจาคเงินช่วย
สนับสนุนโครงการวิจัยของกองทัพเรือจนประสบ ผู้ประสบภัยพิบัติทั้งในประเทศ และช่วยผู้ประสบภัย
ความสำเร็จสามารถนำไปใช้ในการปฏิบัติภารกิจได้จริง สึนามิให้แก่ประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย
หลายโครงการ อาทิ โครงการเครื่องจำลองฝึกยิง ทั้งหมดที่กล่าวมานี้ คือ ความเป็นไปที่เกิดขึ้น
ตอร์ปิโด โครงการวิจัยพัฒนาระบบ Data Link ในห้วงเวลาที่ พลเรือเอก กำธร พุ่มหิรัญ ดำรงตำแหน่ง
โครงการวิจัยและพัฒนาจัดสร้างต้นแบบเครื่องบินทะเล ผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่ง กองบรรณาธิการนาวิก
เป็นต้น ศาสตร์ เชื่อว่า คุณผู้อ่านทุกท่านคงจะประจักษ์อย่าง
ด้านสวัสดิการ แจ่มชัดว่า พลเรือเอก กำธร ฯ คือ “ดาวประดับราชนาวี”
กำลังพลของกองทัพเรือและครอบครัว ถือเป็น และแสงอันงดงามของดาวดวงนี้จะสถิตย์อยู่กลางใจของ
ครอบครัวขนาดใหญ่ พลเรือเอก กำธร ฯ จึงใส่ใจในความ ทหารเรือและประชาชนตลอดไป
๐68 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
คอลัมน์ประจำ
นานาสาระ
นาวาโทหญิง แสงแข โตษยานนท์
ต้ พระบิดาแห่งฝนหลวง
นกำเนิดโครงการพระราชดำริฝนหลวง ตามธรรมชาติแล้ว การตัดไม้ทำลายป่า ยังเป็น
โครงการพระราชดำริฝนหลวง เป็นโครงการที่ สาเหตุให้สภาพแวดล้อมทางธรรมชาติเปลี่ยนแปลง
ก่อกำเนิดจากพระมหากรุณาธิคุณ ที่ทรงห่วงใย อย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความเดือดร้อนให้แก่ราษฎร
ในความทุกข์ยากของพสกนิกรในท้องถิ่นทุรกันดาร ในทุกภาคของประเทศ ทำความเสียหายแก่
ิ
ที่ต้องประสบปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุปโภค บริโภค เศรษฐกจโดยรวมของชาติเป็นมูลค่ามหาศาลใน
และเกษตรกรรม อันเนื่องมาจากภาวะแห้งแล้งซึ่งมี แต่ละปี ตามเส้นทางที่เคยเสด็จพระราชดำเนิน
สาเหตุมาจากความผันแปร และคลาดเคลื่อนของ ทั้งภาคพื้นดิน ทางอากาศยานดังกล่าว ทรงสังเกต
ฤดูกาลตามธรรมชาติ กล่าวคือ ฤดูฝนเริ่มต้นล่าเกินไป เห็นว่ามีเมฆปริมาณมากปกคลุมท้องฟ้า แต่ไม่
หรือหมดเร็วกว่าปกติหรือฝนทิ้งช่วงยาวในช่วงฤดูฝน สามารถก่อรวมตัวกัน จนเกิดเป็นฝนได้ เป็นเหตุให้เกิด
จาก พระราชกรณียกิจ ในการเสด็จพระราชดำเนิน ภาวะฝนทิ้งช่วงระยะยาวทั้ง ๆ ที่เป็นช่วงฤดูฝน ทรงคิด
เยี่ยมพสกนิกร ในทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่อง สม่ำเสมอ คำนึงว่า น่าจะมีมาตรการทางวิทยาศาสตร์ ที่จะ
นับแต่เสด็จขึ้นเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ จนตราบเท่าทุก ช่วยให้เมฆเหล่านั้นก่อรวมตัวกันจนเกิดเป็นฝนได้
วันนี้ ทรงพบเห็นว่าภาวะแห้งแล้ง ได้ทวีความถี่ ทรงเชื่อมั่นว่า ด้วยลักษณะของกาลอากาศ ภูมิอากาศ
และมีแนวโน้มว่าจะรุนแรงยิ่งขึ้นตามลำดับ เพราะ และภูมิประเทศของประเทศไทยซึ่งตั้งอยู่ใน
นอกจากความผันแปร และคลาดเคลื่อนของฤดูกาล ภูมิภาคเขตร้อน และอยู่ในอิทธิพลของฤดูมรสุมของ
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐69
ทวีปเอเชีย โดยเฉพาะฤดูมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ โครงการ และหัวหน้าคณะปฏิบัติการทดลอง เป็น
ซึ่งเป็นฤดูฝน และเป็นฤดูเพาะปลูกประจำปี คนแรก และเลือกพื้นที่วนอุทยานเขาใหญ่เป็นพื้นที่
ของประเทศไทย จะสามารถดัดแปรสภาพอากาศ ทดลองเป็นแห่งแรก โดยทดลองหยอดก้อน
ให้เกิดเป็นฝนตกได้ อย่างแน่นอน น้ำแข็งแห้ง (Dry Ice หรือ Solid Carbondioxide)
จาก พ.ศ.๒๔๙๘ เป็นต้นมา ทรงศึกษาค้นคว้า ขนาดไม่เกิน ๑ ลูกบาศก์นิ้ว เข้าไปในยอดเมฆสูงไม่
และวิจัยทางเอกสาร ทั้งด้านวิชาการอุตุนิยมวิทยา เกิน ๑๐,๐๐๐ ฟุต ที่ลอยกระจัดกระจายอยู่เหนือ
และการดัดแปลงสภาพ พื้นที่ทดลองในขณะนั้นทำให้
อากาศ ซึ่งทรงรอบรู้ และ กลุ่มเมฆ ทดลองเหล่านั้น มี
เชี่ยวชาญ เป็นที่ยอมรับทั้งใน การเปลี่ยนแปลงทางฟิสิกส์
และต่างประเทศ จนทรงมั่น ของเมฆอย่างเห็นได้ชัดเจน
พระทัย จึงพระราชทาน เกิดการกลั่นรวมตัวกันหนา
แนวคิดนี้แก่ หม่อมราชวงศ์ แน่น และก่อยอดสูงขึ้นเป็น
เทพฤทธิ์ เทวกุล ผู้เชี่ยวชาญ เมฆฝนขนาดใหญ่ ในเวลา
ในการวิจัย ประดิษฐ์ทาง อันรวดเร็วแล้วเคลื่อนตัว
ด้านเกษตรวิศวกรรม ของ ตามทิศทางลม พ้นไปจาก
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ สายตา ไม่สามารถสังเกตได้
ขณะนั้น ในปีถัดมา และ เนื่องจากยอดเขาบัง แต่จาก
ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ การติดตามผลโดยการ
ให้หาลู่ทางที่จะทำให้เกิด สำรวจทางภาคพื้นดิน และ
การทดลองปฏิบัติการใน ได้รับรายงานยืนยันด้วย
ท้องฟ้าให้เป็นไปได้ วาจาจากราษฎรว่า เกิด
การทดลองในท้องฟ้า ฝนตกลงสู่พื้นที่ทดลอง
เป็นครั้งแรก จนถึงปี วนอุทยานใหญ่ในที่สุด นับ
พ.ศ.๒๕๑๒ กระทรวง เป็นนิมิตหมายบ่งชี้ให้เห็น
เกษตรและสหกรณ์ ได้จัด ว่า การบังคับเมฆให้เกิดฝน
ตั้งหน่วยบินปราบศัตรูพืช เป็นสิ่งที่เป็นไปได้ เพื่อ
กรมการข้าว และพร้อมที่ แสดงความรำลึกในพระ
จะให้การสนับสนุน ใน มหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่
การสนองพระราชประสงค์ หาที่สุดมิได้ที่มีต่อปวงชน
์
หม่อมราชวงศ เทพฤทธิ์ เทวกุล จึงได้นำความขึ้น ชาวไทย คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเฉลิมพระเกียรติ
กราบบังคมทูลพระกรุณาทรงทราบว่า พร้อมที่จะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในฐานะที่ทรงเป็น
ดำเนินการ ตามพระราชประสงค์แล้ว ดังนั้นในปี “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และกำหนดให้วันที่
เดียวกันนั้นเอง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ ๑๔ พฤศจิกายน ของทุกปี เป็น “วันพระบิดาแห่ง
ให้ทำการทดลองปฏิบัติการจริงในท้องฟ้าเป็นครั้งแรก ฝนหลวง” เพื่อจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ของชาติไทย
เมื่อวันที่ ๑ - ๒ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๑๒ ให้ประชาชนทั้งในปัจจุบันและอนุชนรุ่นหลังได้มีโอกาส
โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แต่งตั้งให้ แสดงความจงรักภักดี ชื่นชมในพระบารมี และร่วมกัน
หม่อมราชวงศ์ เทพฤทธิ์ เทวกุล เป็นผู้อำนวยการ ถวายสดุดีเฉลิมพระเกียรติติดต่อกันไปทุกปี
๐70 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
คอลัมน์ประจำ
อาวุธศึกษา
นาวาเอก ศูนย์ปืน โสมภีร์
หัวใจสำคัญของการยิงปืนให้แม่นโดยทั่วไปก็คือ
ศูนย์ปืน แต่การจะยิงปืนไรเฟิลในระยะไกลที่ระยะ
๘๐๐ หลา หรือ ๑,๕๐๐ หลานั้น การใช้ศูนย์ปืนเปิด
เล็งยิงเป้าหมายโดยไม่มีกล้องเล็งกำลังขยายสูงกไม่อาจ
็
ทำได้โดยง่ายเพราะที่ระยะไกลนั้นแทบจะมองไม่เห็น
เป้าเลย ฉะนั้นกล้องเล็งกำลังขยายสูงที่ติดตั้งกับปืน
ไรเฟิลจึงเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญที่ช่วยอำนวยความ
สะดวกให้พวกสไนเปอร์สามารถยิงเป้าหมายในระยะไกล
ได้อย่างแม่นยำ อย่างไรก็ตามหากเรานำปืนของ
เทคนิคการปรับศูนย์ปืน พวกเขาที่ติดกล้องเล็งอย่างดีมาให้เราทำการยิง
เชื่อได้เลยว่าเราก็ไม่อาจยิงโดนเป้าได้เลยแม้แต่น้อย
เพราะไม่ใช่ว่าจะมีกล้องเล็งที่สามารถมองเห็น
ของกล้องติดปืนไรเฟิล
ส เป้าหมายได้อย่างชัดเจนแล้วทำให้ยิงถูกเป้าหมาย
เราจะต้องทราบถึงวิธีใช้กล้องพวกนี้ด้วย
ไนเปอร์เพียงคนเดียวของเยอรมันเคยทำให้
สำหรับกล้องติดปืนที่นิยมนำมาใช้กันในปืน
กองทัพสหรัฐอเมริกาทั้งกองพันปั่นป่วนมา
แล้ว ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สองนั่นเพราะว่า ไรเฟิลเพื่อช่วยยิงเป้าหมายในระยะ ๘๐๐ ถึง
นอกจากคนพวกนี้จะยิงได้อย่างแม่นยำแล้วยังไม่รู้ว่า ๑,๕๐๐ หลานั้น โดยทั่วไปนั้นจะนิยมใช้กล้องที่มี
พวกเขาซุ่มยิงมาในทิศทางใดด้วย คำถามที่สำคัญก็ กำลังขยายประมาณ ๑๐ ถึง ๒๐ เท่า ซึ่งจะทำให้เรา
คือว่า พวกเขายิงเป้าหมายได้อย่างแม่นยำได้ สามารถมองเห็นเป้าหมายได้อย่างดี ยิ่งกำลังขยาย
อย่างไรในระยะไกล และเครื่องมือที่สำคัญที่ทำให้ สูงมากเท่าไรก็ยิ่งสามารถเลือกตำแหน่งตกของ
พวกเขายิงได้อย่างแม่นยำนั้นมันคืออะไร ปัจจุบัน กระสุนบนเป้าได้อย่างดี แต่มันก็ทำให้การเล็งยิงและ
เรื่องของสไนเปอร์ไม่ได้ถูกจำกัดให้รู้อยู่ในวงการของ การค้นหาเป้าหมายกระทำได้ยากมากขึ้นไปด้วย
ทหารเท่านั้น พลเรือนที่มีความสนใจอย่างจริงจัง เนื่องจากกล้องที่มีกำลังขยายสูงนั้นจะทำให้ความ
ก็สามารถเรียนรู้วิธีการยิงของสไนเปอร์ได้จากสื่อ กว้างในการมองเห็นแคบมากส่งผลให้การค้นหา
อินเทอร์เน็ตหรือหนังสือที่วางขายในท้องตลาด ดังนั้น เป้าหมายใช้เวลานานกว่ากล้องที่มีกำลังขยายต่ำ
การเปิดเผยหลักการและเทคนิคการยิงปืนของสไนเปอร์ สำหรับกล้องติดปืนพวกนี้ด้านบนจะมีปุ่มหมุน
จึงเป็นเรื่องปกติที่ใคร ๆ ก็เรียนรู้ได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ปรับเส้นเล็งชดเชยกระสุนตกทางระดับหรือทาง
และเพื่อให้พวกเราได้มีความรู้ในเรื่องนี้บ้างไม่มาก Elevation ส่วนปุ่มปรับเส้นเล็งทางข้างเพื่อชดเชยลม
ก็น้อย กระผมจึงขอเล่าถึงหลักการที่สำคัญของการ นั้นอยู่ทางด้านขวา
เล็งยิงปืนไรเฟิลติดกล้องเล็งของพวกสไนเปอร์พอให้ ปุ่มปรับสองปุ่มนี้มีความสำคัญมากในการยิงให้
ทราบเป็นสังเขปดังต่อไปนี้ แม่นยำในระยะต่าง ๆ กัน ซึ่งในการติดตั้งกล้องเล็ง
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐71
ครั้งแรกนั้นนอกจากจะต้องติดตั้งอย่างพิถีพิถันแล้ว หลุดเป้าไปเลยจนทำให้เราไม่สามารถทราบได้เลยว่า
ยังจะต้องทำการปรับตั้งซีโร่หรือ “Set Zero” ให้กับ กระสุนมันตกลงตรงไหน ยิ่งถ้าบริเวณที่เป้าอยู่นั้น
มันด้วยหรือพูดง่ายๆ ก็คือ ปรับให้ตำแหน่งกระสุน เป็นพงหญ้าแล้วยิ่งไม่มีทางรู้ได้เลยว่ากระสุนตกต่ำ
ตกที่ระยะใดระยะหนึ่งให้ตำแหน่งเล็งจากกล้องหรือ หรือสูงส่งผลทำให้เราไม่สามารถปรับยิงให้โดนเป้า
กากะบาททับตรงกับตำแหน่งที่กระสุนตกบนเป้า หมายได้เลย นั่นคือเหตุผลว่าทำไปเราถึงต้องทราบ
พอดี ซึ่งโดยปกติแล้วเราก็จะทำการปรับเซ็ทซีโร่ที่ ถึงคุณลักษณะของวิถีกระสุนและการปรับศูนย์ก่อน
ระยะ ๑๐๐ หลา เป็นมาตรฐาน และเมื่อปรับ ทำการยิงนัดแรก แต่หากเป็นกล้องที่มีปุ่มที่มีสเกล
เรียบร้อยแล้วเราก็จะใช้ระยะนี้เป็นฐานในการยิงปืน ชดเชยกระสุนตกทางระยะหรือ Ballistic Drop
ไรเฟิลที่ระยะอื่น ๆ ต่อไป Compensator แล้วก็เพียงแต่หมุนไปที่ระยะนั้นก็
สมมุติว่าเราจะนำปืนที่ตั้งค่าซีโร่อย่างดีแล้ว สามารถทำการยิงได้เลยซึ่งกล้องชนิดนี้สร้างมาเพื่อ
มาทำการยิงที่ระยะ ๘๐๐ หลา เราก็จะต้องทราบวิถี วิถีกระสุนชนิดใดชนิดหนึ่งเท่านั้น การจะนำไปยิงกับ
กระสุนก่อนว่ากระสุนที่เราจะนำมายิงกับปืนนั้น มีวิถี กระสุนที่มีวิถีกระสุนที่แตกต่างไปก็จะทำให้การปรับ
อย่างไรก่อน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วกระสุนมักจะตกต่ำ แต่งไม่ส่งผลดีมากนัก
เสมอที่ระยะไกลขึ้น ซึ่งข้อมูลของวิถีกระสุนนี้ เมื่อทำการปรับตามที่ได้กล่าวมาข้างต้นแล้ว
สามารถค้นหาได้จากข้อมูลผู้ผลิตหรือหากหาไม่ได้ ต่อไปก็ทำการยิงนัดแรกไปยังเป้าหมาย แล้วทำการ
ก็ใช้โปรแกรมคำนวณหาซึ่งก็ไม่ได้ซับซ้อนแต่ ตรวจหารอยกระสุนตกว่าตกบริเวณไหนของเป้าหมาย
อย่างไดเพียงใช้สูตรคำนวณสมัยตอนเรียนฟิสิกส์สมัย จากนั้นจึงทำการประมาณว่ากระสุนนั้นตกต่ำกว่า
มัธยมปลายก็สามารถใช้คำนวณได้แล้ว พูดง่าย ๆ ก็ ตำแหน่งที่ต้องการกี่นิ้ว เช่น หากตำแหน่งที่กระสุน
คือ หารด้วยตัวเลขหน้าสุดที่ระยะที่จะยิง เช่นที่ระยะ ตกสูงจากตำแหน่งที่ต้องการ ๔ นิ้ว ก็ให้นำมาหาร
๘๐๐ หลาก็หารด้วย ๘ หากยิงที่ ๖๐๐ หลาก็หาร ด้วย ๘ (กรณีที่ยิงที่ระยะ ๘๐๐ หลา) ซึ่งก็จะได้ค่า
ด้วย ๖ นั่นเอง สมมุติว่าจากวิถีกระสุนพบว่าวิถี ๑/๒ MOA ก็ให้ปรับปุ่มด้านบนชดเชยในทางต่ำไป
ตกต่ำ ๑๖ นิ้ว ที่ระยะ ๘๐๐ หลา เราก็เอา ๑๖ หาร จำนวน ๒ คลิก (คือหมุนตรงข้ามกับทิศทางที่ปรับ
ด้วย ๘ ซึ่งจะเท่ากับ ๒ ตัวเลขนี้ก็คือ ค่าที่เราใช้ ครั้งแรก) รับรองว่านัดต่อไปเข้ากลางในตำแหน่งที่
ปรับศูนย์ทางระดับให้ชดเชยสูงขึ้น ๒ MOA หรือ ๒ ต้องการพอดี ส่วนการปรับแต่งซ้ายขวาชดเชยลมก็
Minute of Angle ซึ่งเราก็จะทำการปรับศูนย์ปืนที่ ทำในหลักการเดียวกัน เท่านี้ท่านก็สามารถมีทฤษฎี
ปุ่มด้านบนโดยทำการชดเชยให้ศูนย์อยู่ในตำแหน่งที่ ที่เพียงพอที่จะใช้ฝึกยิงปืนไรเฟิลติดกล้องเล็งได้
สูงขึ้น ๒ MOA โดยหมุนไป ๔ คลิกตามทิศทาง อย่างแม่นยำเพียงพอแล้ว
ชดเชยให้สูงขึ้นซึ่งจะเท่ากับ ๑ MOA ฉะนั้นงานนี้
เราก็จะต้องหมุนไป ๘ คลิก หากเราไม่ทำการปรับ
ก่อนโดยทำการยิงไปเลยแล้วกระสุนจะตกต่ำมาก
๐72 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
คอลัมน์ประจำ
ข่าวนาวีรอบโลก
นาวาเอก จรินทร์ บุญเหมาะ
สหราชอาณาจักร ตามคำแถลงของ กห.สหราชอาณาจักร นอก
ฮ.
การทดสอบยิงอาวุธปล่อยจาก ฮ.Apaches ในทะเล เหนือจากการยิงอาวุธปล่อย Hellfire ที่นำวิถีด้วย
โจมตี Agusta Westland/Boeing WAH เรดาร์จำนวน ๙ นัด ยังมีการยิงปืน ๓๐ มิลลิเมตร
– 64DApache AH.1 ทบ.สหราชอาณาจักร จำนวน ๕๕๐ นัด ซึ่งผลการยิงถูกเป้าหมายถึงร้อย
ปฏิบัติการทดสอบการยิงอาวุธปล่อยครั้งแรกจาก ละ ๑๐๐ การฝึกซึ่งกินเวลาสองสัปดาห์นี้ นับเป็น
เรือรบ ทร.สหราชอาณาจักร ทั้งนี้ตามคำแถลงของ ครั้งแรกที่อาวุธปล่อยนำวิถี Hellfire ได้รับการ
กห.สหราชอาณาจักรเมื่อวันที่ ๑๓ พฤษภาคม ทดสอบใช้งานสภาวะแวดล้อมในทะเล โดย
พ.ศ.๒๕๕๔ การดำเนินการครั้งนี้มีขึ้นระหว่างการ ฮ.Apaches บินขึ้นจากเรือ HMS Ocean ทั้งกลาง
ฝึกที่บริเวณช่องแคบ Gibraltar โดย ฮ.บินขึ้นจาก วันและกลางคืนในสภาวะต่าง ๆ ด้วยนักบินจาก
เรือ HMS Ocean บินเข้าสกัดกั้นเป้าจำลอง โดยมี หน่วยบินกองทัพบก (Army Air Corp–AAC) ฝูงบิน
อาวุธคือ ปืนใหญ่อากาศขนาด ๓๐ มิลลิเมตรที่ตอน ๖๕๖ การฝึกครั้งนี้มีการทดสอบในทุกแง่มุมของการ
หัว และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM–114 ใช้ Apache ปฏิบัติการในทะเล เช่น การลำเลียงอม
Hellfire อย่างไรก็ตามไม่มีการเปิดเผยว่าเป้านั้นอยู่ ภัณฑ์ การขนถ่ายสัมภาระ การบิน การยิงอาวุธ
บนบกหรือในทะเล และการรับอากาศยานขึ้นลงบน HMS Ocean
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐73
กห.สหราชอาณาจักรมีความตั้งใจที่จะใช้ นอกจากมีพลังที่เหนือกว่าแล้ว เครื่องยนต์
Apache สำหรับภารกิจโจมตีในทะเล แต่ทว่าด้วย RTM332 ยังได้รับการออกแบบให้ทนต่อการ
การติดพันกับการรบในอัฟกานิสถานทำให้แผนที่ว่านี้ กัดกร่อนและความเค็มในทะเล ลำตัวเครื่องและ
ต้องเลื่อนออกไป ซึ่งตามแผนที่กำหนดไว้เดิมนั้น ส่วนที่เคลื่อนไหว (ระบบส่งกำลัง เฟืองเกียร์ ฯลฯ)
Apache จะประจำการอยู่บนเรือ HMS Ocean หรือ ของเครื่อง Apache สหราชอาณาจักรยังได้รับการ
เรือบรรทุกเครื่องบินอื่นอีกสองลำคือ HMS Ark เคลือบสารพิเศษเพื่อปกป้องสำหรับการใช้งาน
Royal และ HMS Illustrious มาตั้งแต่ต้นปี พ.ศ. ๒๕๕๑ ในทะเล และการดัดแปลงอย่างอื่น เช่น ใบพัดหลัก
สิ่งที่บ่งชี้ว่า กห.สหราชอาณาจักรให้ความสำคัญ ที่มีระบบป้องกันน้ำแข็งเกาะที่พับได้เพื่อความ
กับการใช้ Apache ในสภาวะแวดล้อมทางทะเลคือ สะดวกในการเก็บใต้ดาดฟ้า ระบบควบคุมการบิน
การกำหนดรายละเอียดลักษณะเฉพาะหลายประการ สำรองด้วยเส้นลวด และจุดยึดเกาะเครื่องเข้ากับ
ที่แตกต่างไปจาก ฮ.แบบเดียวกันนี้ที่ใช้อยู่ในกองทัพ ดาดฟ้าเรือ อีกทั้งยังติดตั้งเครื่องแจ้งตำบลที่ใต้น้ำ
สหรัฐ ฯ หรือชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ เพื่อใช้บอกตำแหน่งเครื่องบินกรณีประสบเหตุตกลงน้ำ
เชื้อเพลิงแบบปิดเพื่อป้องกันคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า หน่วยบิน ทบ.สหราชอาณาจักรมี ฮ.Apache
ใช้เครื่องยนต์ Rolls–Royce Turbomeca RTM322 อยู่ ๖๗ ลำ ในจำนวนนี้ราว ๘ – ๑๐ ลำส่งไปใช้
ที่ทรงพลังกว่าเครื่องยนต์มาตรฐาน General งานประจำอยู่ในอัฟกานิสถาน ซึ่งทาง กห.สหราช
Electric T700–GE–701 ทำให้มีประสิทธิภาพที่สูง อาณาจักรยังไม่สามารถกำหนดได้ว่าเมื่อใดการใช้
กว่า และเพิ่มความปลอดภัยเมื่อปฏิบัติการในทะเล Apache ในทะเลจะเริ่มขึ้น
เยอรมนี สัญญาต่อเรือฟริเกต F 125 จำนวน ๔ ลำได้
โครงการเรือฟริเกต F 125 ลงนามไปเมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๔๙ ระหว่าง
มีการตัดเหล็กแผ่นแรกสำหรับการต่อเรือฟริเกต สำนักงานจัดหาพัสดุกลาโหม (Bundesamt fuer
ลำใหม่ชั้น Baden Wurttemberg (F 125) ที่จะต่อ Wehrtechnik Und Beschafung–BWB) กับบริษัท
ขึ้นจำนวน ๔ ลำให้แก่ ทร.เยอรมนี โดยพิธีมีขึ้นที่ ร่วมค้า ARGE F 125 ซึ่งประกอบด้วยบริษัท
อู่ต่อเรือบริษัท Blohm + Voss เมือง Hamburg เมื่อ ThyssenKrupp Marine Systems (TKMS) –
วันที่ ๙ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ Blohm + Voss ที่เมือง Hamburg และ บริษัท
๐74 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
Friedrich Lurssen Werft ที่เมือง Bremen ยาว ๑๔๙.๕ เมตร กว้าง ๑๘.๘ เมตร นับเป็นเรือ
บริษัท Lurssen ได้ส่วนแบ่งโครงการร้อยละ ๒๐ ฟริเกตที่มีขนาดใหญ่ที่สุดซึ่งเข้าประจำการใน
โดยเป็นผู้ทำการสร้างตอนหัวของเรือทั้ง ๔ ลำ และ ทร.เยอรมนี ระบบขับเคลื่อนเป็นแบบผสมระหว่าง
TKMS ซึ่งเป็นหัวหน้าโครงการ ดำเนินการผ่านทาง ดีเซล–ไฟฟ้า กับเครื่องกังหันก๊าซ ซึ่งประกอบ
Blohm + Voss เป็นผู้สร้างส่วนที่เหลือทั้งหมด ไปด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าขนาด ๔.๕ เมกกะวัตต์จำนวน
ทั้งการเชื่อมต่อส่วนหัว ติดตั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ และ ๒ ตัว เครื่องยนต์กังหันก๊าซ ๑ เครื่องขนาด
การทดสอบเรือในทะเลก่อนการส่งมอบให้แก่ ๒๐,๐๐๐ กิโลวัตต์ และเครื่องกำเนิดไฟฟ้าดีเซล
กองทัพเรือเยอรมนี การวางกระดูกงูสำหรับเรือลำแรก ๔ เครื่องผลิตไฟฟ้าได้ ๒,๙๐๐ กิโลวัตต์ ความเร็ว
ดำเนินการในต้นเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๕๔ และ สูงสุด ๒๖ นอต ความเร็วเดินทาง ๒๐ นอต
ลำต่อ ๆ ไปในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๕๖ หลัง อาวุธประจำเรือประกอบไปด้วยปืนใหญ่น้ำหนัก
เรือลำแรกได้รับการทดสอบสมบูรณ์แล้ว กำหนดส่ง เบา Oto Melara ขนาด ๑๒๗/๕๔ จำนวน ๑ กระบอก
มอบให้แก่ BWB ในเดือนมีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ ลำที่ ปืนกล Rheinmetall ขนาด ๒๗ มิลลิเมตร จำนวน
สองในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๐ ลำที่สามใน ๒ ระบบ ปืนกลขนาด ๑๒.๗ มิลลิเมตร จำนวน
เดือนมกราคม พ.ศ.๒๕๖๑ และลำสุดท้ายในเดือน ๕ กระบอก และอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านอากาศยาน
ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๑ Mk 49 Rolling Airframe จำนวน ๒ ระบบ และ
เรือฟริเกต F 125 สร้างขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเป้าพื้นน้ำ Harpoon
เพื่อใช้ในหลายภารกิจ เช่น ให้การสนับสนุนปฏิบัติ จำนวน ๘ ท่อยิง อุปกรณ์การตรวจจับหลักคือ
การของนาโต ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม เรดาร์ TRS–4D/NR ย่านความถี่ C–band
แก่ผู้ประสบภัยธรรมชาติ ปราบปรามโจรสลัด และ ที่ได้รับการพัฒนาขึ้นใหม่โดยบริษัท Cassidian ซึ่ง
ต่อต้านการก่อการร้าย แนวคิดหลักในการออกแบบ ประกอบไปด้วย ๔ สายอากาศแบบแผงอยู่ประจำ
เรือคือต้องให้เรือมีความพร้อมใช้งานมากที่สุด เพื่อ ที่ไม่หมุน ติดตั้งอยู่ที่เสากระโดงสองแห่ง ๆ ละ ๒ แผง
ให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้ไกลและต่อเนื่อง ซึ่ง ดาดฟ้าบินและโรงเก็บอากาศยานอยู่ตอนท้ายเรือ
ความต้องการหลักประกอบไปด้วย ขีดความสามารถ รองรับ ฮ.NH–90 ได้ ๒ ลำ มีเรือยางลำตัวแข็ง
ปฏิบัติภารกิจได้นานสุดถึง ๒๔ เดือน อยู่ในทะเล ขนาด ๑๐ เมตร ปล่อยและรับกลับเรือใหญ่ด้วยการ
ได้ ๕,๐๐๐ ชั่วโมงต่อปี ช่วงห่างระหว่างการ ใช้หลักเดวิท สำหรับใช้งานกับหน่วยปฏิบัติการพิเศษ
ปรนนิบัติบำรุงใหญ่ ๖๘ เดือน ให้การสนับสนุน ฝรั่งเศส
หน่วยสงครามพิเศษ สนับสนุนการยิงฝั่ง การทำ การทดสอบเรือฟริเกตชั้น Aquitaine
สงครามอสมมาตร และอยู่ในทะเลได้นาน ๒๑ วัน เรือฟริเกตลำแรกชั้น Aquitaine ตามโครงการร่วม
ด้วยการรับการสนับสนุนจากการรับส่งสิ่งของในทะเล ฝรั่งเศส – อิตาลี ที่มีชื่อว่า Fregate Europeen
ในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ Multi–Mission หรือ FREMM ได้แล้วเสร็จสมบูรณ์
ทร.เยอรมนีที่มีการใช้แนวคิดลูกเรือ ๒ ชุดกับ การออกทดสอบเป็นเวลา ๓ สัปดาห์ในทะเลทาง
เรือลำเดียว มีจำนวนลูกเรือที่เป็นแกนอยู่ ๑๒๐ นาย ตะวันตกเฉียงเหนือของฝรั่งเศส โดยเริ่มมาตั้งแต่
การสลับเปลี่ยนกำลังพลกระทำได้ภายใน ๔๘ ชั่วโมง วันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๕๔ การทดสอบครั้งนี้
โดยดำเนินการในช่วง ๔๘ เดือน ในเรือยังจัดที่พัก ดำเนินการโดยอู่บริษัท DCN ที่เมือง Lorient ซึ่งเร็ว
อาศัยให้ชุดทำงานของ ฮ.จำนวน ๒๐ นาย และ กว่าที่กำหนดไว้ราวหนึ่งเดือน
หน่วยรบพิเศษอีก ๕๐ นาย ผู้ที่เข้าร่วมในการทดสอบประกอบไปด้วย
F 125 มีระวางขับน้ำเต็มที่ ๗,๒๐๐ ตัน บุคลากรจาก บริษัท DCN และบริษัทร่วมค้า
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐75
ทร.ฝรั่งเศส และผู้แทนจากสำนักงานจัดหยุทโธปกรณ์ ค้นหาและติดตามเป้า ARTEMIS ซึ่งทั้งสองรายการนี้
(Direction Generale de l’Amement - DGA) ผลิตโดย Thales ดาดฟ้าบินและโรงเก็บอากาศยาน
ทำการทดสอบเรือตามแผนนอกฝั่งเมือง Brittany อยู่ตอนท้ายเรือสำหรับการใช้งานกับ ฮ. NH90 Caymen
ซึ่งใช้เวลา ๓ สัปดาห์ ซึ่งประกอบไปด้วย จำนวน ๑ ลำ
การควบคุมและบังคับเรือ ระบบขับเคลื่อนและ ถัดจากการฝึกเพื่อทำการคุ้นเคย เรือ Aquitaine
การเดินเรือ จะเข้าสู่แผนการทดสอบอย่างเต็มรูปแบบ ของ
เรือชั้น Aquitaine ได้รับการสั่งต่อขึ้นจำนวน เครื่องจักรใหญ่ที่ผสมระหว่างดีเซลไฟฟ้ากับกังหันก๊าซ
๑๑ ลำให้แก่ ทร.ฝรั่งเศส โดยแบ่งออกเป็นแบบ (Combined Diesel–Electric or Gasturbine
อเนกประสงค์จำนวน ๙ ลำ และสำหรับการป้องกัน - CODLOG) ระบบขับเคลื่อนประกอบไปด้วย
ภัยทางอากาศเป็นพื้นที่ (Fregate de Defense เครื่องยนต์กังหันก๊าซ Avio–GE LM2500 + G4 จำนวน
Aerienne - FREDA) จำนวน ๒ ลำ ๑ เครื่อง สำหรับความเร็วสูง และมอเตอร์ไฟฟ้า
บริษัท Orizzonte Sistemi Navali (บริษัทร่วม ขนาด ๒ เมกกะวัตต์จำนวน ๒ ตัวสำหรับความเร็ว
ค้าระหว่าง Fincantieri และ Finmeccanica) ได้รับ ต่ำ
สัญญาว่าจ้างให้เป็นผู้ดำเนินการจัดหาเรือฟริเกตชั้น เรือ Aquitaine เดินทางกลับเข้ามายังเมือง
Bergamini จำนวน ๖ ลำให้แก่ ทร.อิตาลี และ Lorient เมื่อต้นเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๕๔ และ
DCNS ต่อเรือในโครงการ FREMM จำนวน ๑ ลำ เทียบท่าเป็นเวลาหลายสัปดาห์เพื่อการทดสอบและ
ให้แก่ มอรอคโค ติดตั้งระบบต่าง ๆ และกลับออกไปทดสอบในทะเล
FREMM มีระวางขับน้ำ ๖,๐๐๐ ตัน เรือรุ่น อีกครั้งเมื่อปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเน้น
อเนกประสงค์ติดตั้งอาวุธประกอบด้วย ปืนใหญ่ ไปที่การทดสอบระบบอาวุธ ตามแผนที่กำหนดไว้
ยิงเร็วพิเศษ Oto Melara ขนาด ๗๖/๖๒ มิลลิเมตร เรือต้องส่งมอบให้แก่ DGA ในปี พ.ศ.๒๕๕๕
อาวุธปล่อยนำวิถีร่อนโจมตีฝั่ง SCALP อาวุธปล่อยนำวิถี เรือที่ต่อขึ้นตามโครงการ FREMM ให้แก่
ต่อต้านอากาศยานเป็นจุด Aster 15 อาวุธปล่อยนำวิถี ทร.ฝรั่งเศสมีแผนดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงปี
พื้นสู่พื้น Exocet MM40 Block 3 (ผลิตโดย MBDA) ๒๕๖๕ ใช้เวลารวมทั้งสิ้นราว ๕๐ ล้าน คน - ชั่วโมง
และตอร์ปิโดขนาดเบา MU90 (ผลิตโดย Eurotorp) ณ อู่ต่อเรือที่ DCNS เมือง Lorient, Brest และ
อุปกรณ์ตรวจจับประกอบไปด้วย เรดาร์อเนกประสงค์ Cherbourg รวมทั้งบริษัทคู่สัญญาย่อยอื่น ๆ
Herakles ย่านความถี่ E/F และกล้องอินฟราเรด
๐76 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
โปรตุเกส กลางวัน/กลางคืน Vigy 10 Mk III ของ Sagem และ
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งลำแรก เรดาร์เดินเรือย่านความถี่ I, F ของ Kelvin Hugues
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Viana do Castelo เรือชั้น Viana do Castelo ต่อขึ้นเพื่อนำเข้า
ขนาด ๘๓ เมตร ลำแรกจากจำนวนที่สั่งต่อขึ้น ประจำการทดแทนเรือคอร์เวตชั้น Baptista de
ทั้งสิ้น ๘ ลำให้แก่ ทร.โปรตุเกสได้เดินทางมา Andrade จำนวน ๓ ลำ และชั้น Joao Coutinho
ถึงฐานทัพเรือที่กรุงลิสบอน หลังจากที่ได้เลื่อนเวลา จำนวน ๔ ลำ ซึ่งเรือดังกล่าวนี้ประจำการใน
ส่งมอบมาเป็นระยะเวลานาน ทร.โปรตุเกสมาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๑๓
NRP Viana do Castelo (P360) ทำการส่ง ในช่วงเวลาเดียวกันนี้เรือดำน้ำชั้น Trident
มอบโดยบริษัทต่อเรือ Estaleiros Navais de Viana (Type 209PN) ลำที่สองจากจำนวนทั้งสิ้นสองลำ
do Castelo (ENVC) เมื่อเดือนธันวาคม ที่สั่งต่อจากบริษัท ThyssenKrupp Marine System
พ.ศ.๒๕๕๓ ล่วงเลยมากว่า ๕ ปีหลังจากที่ได้รับ ประเทศเยอรมนีก็ได้เดินทางมาถึงกรุงลิสบอนเมื่อ
การปล่อยลงน้ำ ขึ้นระวางประจำการ ๓๐ มีนาคม วันที่ ๓๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๕๔
พ.ศ.๒๕๕๔ ออกจากอู่เมื่อวันที่ ๒๖ เมษายน
พ.ศ. ๒๕๕๔ และเดินทางมายังลิสบอนในอีกสามวัน
ต่อมา
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้นนี้มีระวางขับน้ำ
๑,๘๗๐ ตัน จัดหาภายใต้โครงการชื่อ Navio de
Patrulha Oceanica (NPO) เรือ Viana do Castelo
ติดตั้งยุทโธปกรณ์ประกอบด้วย ปืน L60 ขนาด
๔๐ มิลลิเมตร ซึ่งจะถูกทดแทนด้วยระบบปืน
MARLIN WS ของ Oto Melara ระบบสื่อสาร
จากบริษัท EID ของโปรตุเกส แท่นตรวจจับเป้า
ที่มา : กรมข่าวทหารเรือ
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐77
คอลัมน์ประจำ
พจนานุกรมศัพท์ชาวเรือ
พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์
entrance ท้องเรือส่วนหัวเรือ equinoctial ศูนย์สูตรท้องฟ้า
ส่วนของตัวเรือจากท่อนหัวหรือหัวเรือตอนที่ตัดน้ำ (Cut Water) วงใหญ่บนวงกลมท้องฟ้าซึ่งอยู่ทุกจุดในมุม ๙๐
ื
ื
้
ี
ไปทางทายเรอจนถงบมเรอ เรือที่มีความเร็วสูงต้องมีท้องเรือ องศาจากขั้วฟ้า ระบบของศูนย์สูตรท้องฟ้าครอบคลุมตลอด
ึ
ส่วนหัวที่ดีเยี่ยม ทรงกลมท้องฟ้า Celestial Equator ก็เรียก
epaulettes อินทรธนู equipage เครื่องใช้ในเรือ
คำทั่วไปใช้สำหรับแสดงถึงวัตถุที่ไม่สามารถบริโภคได้ แต่
ต้องลำเลียงขึ้นเรือเพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างถูกต้อง
สมบูรณ์
Equivalent Service Rounds (ESR) บันทึกอายุลำกล้องปืน
มาตรฐานแสดงการสึกกร่อนของลำกล้องปืน จำนวนนัด
ของกระสุนทั้งหมดที่ยิง รวมทั้งบรรจุนัดดินขับที่ลดลงจะถูกบันทึก
เป็นอายุลำกล้องปืน
escape hatch ประตูนิรภัย
ก่อนที่กองทัพบกอังกฤษนำอินทรธนูมาใช้ประดับเครื่องแบบนั้น
ได้มีการใช้กันอย่างแพร่หลายในกองทัพฝรั่งเศสนานแล้ว ราชนาวี
อังกฤษใช้ครั้งแรกเป็นเพียงส่วนประกอบหนึ่งของเครื่องแบบ
ที่ไม่บังคับซึ่งไม่ได้อยู่ในมาตรฐานของของเครื่องแบบชนิดใดๆ
ในช่วงแรกนั้น นายทหารของอังกฤษที่ปรากฏตัวในฝรั่งเศสหากไม่
มีอินทรธนูประดับบนบ่าของเครื่องแบบจะไม่ได้รับการยอมรับว่า
เป็นนายทหารสัญญาบัตร ในช่วงแรก ๆ ที่ใช้กันยังไม่แพร่หลาย
เมื่อคราวเนลสันพบ นาวาเอก Ball และ นาวาเอก Shephern
ในฝรั่งเศสเขาได้บันทึกไว้ว่า “พวกเขามีอินทรธนูประดับบนบ่า
ซึ่งดูสวยงามดี ผมคิดว่ามันเป็นเหมือนหงอนไก่เสียอีก
พวกเขาไม่ได้มาเยี่ยมผม ผมก็ไม่นับว่าเรารู้จักมักคุ้นกัน” อินทรธนู
เริ่มแรกนั้นทำจากผ้าซับเลือดที่ตัดแต่งเรียบส่วนประดับของเครื่องแบบ โดยทั่วไปหมายถึงประตูขนาดเล็ก ติดตั้งเพื่อใช้เป็นทางหนี
ชนิดนี้เดิมประกอบด้วยริบบิ้นเป็นพวง จากห้องในเรือเมื่อทางออกถูกปิดกั้น พัฒนาขึ้นสูงสุดใน
ephemeris ปฏิบัติวัตถุท้องฟ้าประจำวัน เรือดำน้ำสมัยใหม่ ซึ่งมีห้องนิรภัยติดไว้เพื่อต่อเข้ากับห้อง
บรรณสารที่บอกตำแหน่งของวัตถุท้องฟ้าซึ่งคำนวณไว้สำหรับ ช่วยชีวิตหรือยานช่วยชีวิตจากการจมลึก มีประตูติดตั้ง
ในแต่ละวันของปี หรือสำหรับช่วงเวลาปกติอื่น ๆ เพิ่มเติมสำหรับหลบหนีโดยที่ไม่ได้รับการช่วยเหลือ และมี
equator เส้นศูนย์สูตร อุปกรณ์ และกลไกซึ่งสามารถปฏิบัติงานพิเศษได้หลายอย่าง
วงใหญ่ของโลกที่มีระยะห่างจากขั้วโลกทั้งสองเท่ากัน escape trunk ห้องนิรภัย
แบ่งโลกเป็นซีกโลกเหนือและซีกโลกใต้ วัดละติจูดเป็นเหนือ ห้องสำหรับหนีภัยซึ่งออกแบบเป็นพิเศษในเรือ
หรือใต้จากเส้นศูนย์สูตรนี้ ดำน้ำสมัยใหม่
/
equitorial tides ระดับน้ำศูนย์สูตร escort ๑. คุ้มกัน (กริยา) ๒. อากาศยาน เรือคุ้มกัน
ระดับน้ำที่เกิดขึ้นประมาณทุกสองสัปดาห์ในขณะที่ดวงจันทร์ ๑. ปกป้องหรือคุ้มครอง เช่น The main body was escorted
อยู่เหนือเส้นศูนย์สูตร by ten destroyers.
๐78 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
๒. อากาศยานที่ได้รับมอบหมายให้คุ้มกัน และ even keel (เรือ) สมดุล / ตั้งตรง
ร่วมเดินทางไปกับอากาศยานลำอื่น หรือเรือรบที่คุ้มกัน การที่เรือลอยอย่างสมดุลและได้ระดับโดยไม่เอียงซ้าย
กระบวนเรือ หรือกองเรือเฉพาะกิจ เอียงขวาหรือตกหัวตกท้าย (Its plane of floatation is either
escort vessel เรือคุ้มกัน coincident with or parallel to the designed waterline.)
even strain การตึงเสมอ
To take an even strain หมายถึงใช้แรงให้เกิดความตึง
อย่างสม่ำเสมอ และคงที่เพื่อไม่ให้เกิดการขาด ปัจจุบัน หมายถึง
การวางลงและพักไว้กับพื้น
evolution การฝึก
การนำหรือการเคลื่อนที่ทางยุทธวิธีของเรือ หรือ อากาศยาน
มีความหมายทำนองเดียวกันกับ exercise
executive officer รองผู้บังคับหน่วย / ต้นเรือ
นายทหารสัญญาบัตรที่มีอาวุโสเป็นอันดับสองของ
หน่วย เช่น สถานีเรือฝูงบินในเรือเป็นต้น สแลง : exec หรือ
เป็นชื่อเดิมของเรือพิฆาตคุ้มกัน (Escort Destroyer – DE) XO น.อ. W.T. Truxum ของ ทร.สหรัฐฯ บันทึกเกี่ยวกับ
ปัจจุบันถูกจัดเป็นเรือฟริเกต เรือคุ้มกันใช้เรียกเรือรบ ต้นเรือของเรือรบสหรัฐฯ ในป ๑๘๘๑ ว่า : “ตำแหน่งต้นเรือ
ี
ที่ทำหน้าที่คุ้มกันเรือหรือกระบวนเรือ (executive officer) ที่ใช้เรียกกันไม่นานมานี้ทำให้เกิดการ
estimated position (EP) ที่เรือโดยประมาณ วิจารณ์กันมากอารมณ์เสีย มีการต่อต้านอย่างขมขื่น
ตำบลที่เรือได้จากการประมาณการไม่ใช่จากข้อมูลที่ทราบ มันเติบโตมาจากเถ้ากระดูกของ First Lieutenant
บ่อยครั้งใช้เป็นข้อมูลเริ่มต้นสำหรับคำนวณหาตำบลที่เรือ (ต้นเรือ) คนเก่าพบเห็นกันในตำแหน่งรองผู้บังคับหน่วย
estimated of the situation การประมาณสถานการณ์ ของกองทัพบก บริษัทหรือโรงงานอุตสาหกรรม ทั้งหลาย
กระบวนการทางตรรกวิทยา ในการให้เหตุผลที่ผู้บังคับบัญชา ที่จ้างคนทำงานจำนวนมาก ซึ่งเรียกกันว่า ผู้อำนวยการ
ใช้ในการพิจารณาสถานการณ์ทั้งหมดแล้วจึงตัดสินใจ หรือผู้จัดการ ต้นเรือ ตำแหน่งที่หนักยากลำบากที่สุด
estuary บริเวณปากแม่น้ำ ผู้คนในเรือรบไม่ค่อยให้ความสำคัญ และ ตระหนักถึง
บริเวณส่วนกว้างของปากน้ำที่น้ำไหลออกสู่ทะเล เช่น คุณค่า.......เขารับผิดชอบเรื่องความสะอาดของเรือ
The Thames estuary สำหรับภาษากลาง หรือภาษามาตรฐาน ความเป็นระเบียบเรียบร้อย หมดจดเกลี้ยงเกลา ดูสม
ของภาษาอังกฤษโดยเฉพาะที่ใช้ในมหานครลอนดอน และ กับเป็นเรือรบ เหนือสิ่งอื่นใดเขาต้องทำตามที่ผู้บังคับการ
ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของเกาะอังกฤษ เรียกว่า Estuary เรือสั่งการ นั่นคือประกาศ และปฏิบัติตามคำสั่ง งาน
English สุดท้ายของเขาคือต้องไม่ขึ้นบกเว้นเสียแต่เมื่อเขาเห็นว่า
evacuation convoy กระบวนเรืออพยพในความคุ้มกัน ทุกสิ่งทุกอย่างปลอดโปร่ง (Sheet Anchor)”
กระบวนเรือในความคุ้มกันที่ใช้เพื่อการอพยพออกจาก exercise head หัวฝึก
น่านน้ำที่เป็นอันตราย หัวไม่บรรจุดินระเบิด โดยปกติจะติดตั้งอุปกรณ์วัดค่า
evaporator (evaps) เครื่องกลั่นน้ำ ระยะไกลไว้ในหัวฝึก สำหรับใช้แทนหัวรบจริงในตอร์ปิโด
อุปกรณ์บนเรือใช้สำหรับทำน้ำจืดจากน้ำทะเลโดย หรืออาวุธปล่อยชนิดอื่น นอกจากนี้หัวฝึกตอร์ปิโดจะลอยขึ้น
กระบวนการกลั่น สู่ผิวน้ำเมื่อยิงออกไปสุดระยะเพื่อสะดวกในการเก็บกู้
evasive steering นำเรือหลบหลีก exercise, joint การฝึกร่วม
ยุทธวิธีการนำเรือของเรือผิวน้ำเพื่อทำให้เรือดำน้ำสับสน การฝึกของสองเหล่าทัพหรือมากกว่า (เหล่าทัพของ
รวมถึงการเล่นซิกแซ็ก (Zigzagging) การแล่นเลี้ยวไปเลี้ยวมา ประเทศเดียวกัน)
(Sinuating) และ การแล่นหลบหลีก (Weaving) expansion joint ข้อต่อขยาย
evening colors พิธีเชิญธงลง ข้อต่อซึ่งทำไว้เมื่อมีการขยายตัว หดตัวหรือการบิดตัวในท่อ
พิธีเชิญธงลงกระทำเมื่อเวลาดวงอาทิตย์ตก (Sunset) ที่ดาดฟ้าเรือหรือที่ชิ้นบนของเรือ (Superstructure)
สถานีบก และเรือรบซึ่งจอดในท่าเรือ หรือทิ้งสมอ จะกระทำพิธี expedite ปฏิบัติทันที / ปฏิบัติให้เร็วขึ้นอีก
เชิญธงลงขณะดวงอาทิตย์ตกซึ่งเวลาแตกต่างกันตามแต่ละวัน ปฏิบัติให้เร็วขึ้น มีความหมายเช่นเดียวกับ to speed up
และตำบลที่ เรือรบของนาวีทั่ว ๆ ไปจะไม่มีพิธีเชิญธงลงขณะ explosivemeter เครื่องตรวจวัตถุระเบิด
เรือเดินและประจำสถานีรบ อุปกรณ์สำหรับทดสอบไอระเหยของวัตถุติดไฟ
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐79
คอลัมน์ประจำ
หนังสือน่าอ่าน
ฉ นาวาเอกหญิง กรแก้ว ตันติเวชกุล
บับนี้ ห้องสมุดกลางกองทัพเรือ ขอแนะนำ หนังสือ “มะเร็งอารมณ์ดี” ผลงานของอาจารย์ไมตรี
ลิมปิชาติ นักเขียนเรื่องสั้นระดับแนวหน้าของวงการหนังสือ ที่มาถ่ายทอดเรื่องราวจากประสบการณ์
จริงในการรับมือกับโรคมะเร็ง อีกทั้งยังให้ผู้อ่านได้เรียนรู้ว่าการเป็นโรคมะเร็งก็มีดีเช่นกัน *** หนังสือ
“ประวัติศาสตร์จีน ยุคก่อนประวัติศาสตร์ถึงราชวงศ์ชิง” บอกเล่าเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ของจีน ความ
รุ่งเรืองและล่มสลายของราชวงศ์ต่าง ๆ แถมท้ายภาคผนวกพิเศษด้วยตารางแสดงราชวงศ์ทั้งหมดของจีน
เพื่อการจดจำที่ง่ายยิ่งขึ้น มีภาพการ์ตูนประกอบ ให้อ่านสนุก และได้สาระไปพร้อมกัน *** หนังสือ “เทคนิค
วิเคราะห์คำศัพท์ WORD ANALYSIS PREFIX SUFFIX ROOT” ให้ท่านเรียนรู้วิธีใช้ภาษาอังกฤษอย่าง
มืออาชีพ เช่น การสร้างคำศัพท์มาใช้ได้โดยรู้จักคำศัพท์อยู่แค่ไม่กี่คำ การวิเคราะห์คำที่แม้ไม่รู้ความหมาย
ก็สามารถเข้าใจเนื้อความของเรื่องที่อ่านและสามารถจับใจความของเรื่องนั้นได้ เป็นต้น
มะเร็งอารมณ์ดี
ไมตรี ลิมปิชาติ. กรุงเทพฯ, วสี ครีเอชั่น,
๒๕๕๓. ๑๕๒ หน้า.
ราคา ๑๓๐ บาท
เลขเรียกหนังสือ ๖๑๕.๘ ม ๙๖๕ ม
“โชคดีที่เป็นมะเร็ง เมื่อผมรู้ครั้งแรกว่าเป็นมะเร็ง ผมตกใจมากกลัวตายมากกว่าอย่างอื่นจนกินไม่ได้
นอนไม่หลับแต่พอตั้งหลักได้ กลับเห็นว่าผมเป็นคนโชคดีที่เป็นมะเร็งเพราะทุกคนไม่ใช่ว่าจะเป็นมะเร็งอย่างผมได้
ทำให้รู้ว่า ผมคงไม่ตายกับมะเร็งมากกว่าตายแบบอื่นผมต้องเข้ารับการรักษา ต้องผ่าตัด ต้องฉายแสง และ
ต้องไปพบหมอทุก ๓ เดือน ตั้งแต่ผมเป็นมะเร็ง ผมเลิกดื่มของมึนเมา งดเนื้อสัตว์ทุกชนิดเว้นปลา ผมกินผลไม้
และผักมากขึ้น ที่สำคัญทำให้ผมไม่ลืมที่จะออกกำลังกาย ด้วยเหตุดังกล่าว จึงทำให้สุขภาพของผมดีขึ้น
ดูหนุ่มขึ้นผมบนศีรษะที่เหลืออยู่น้อยเส้น กลับมีผมดกดำขึ้น หากผู้อ่านและไม่ได้อ่านท่านใดอยากโชคดี
เหมือนผมก็ให้ลองเป็นมะเร็งดูได้ และจะรู้ว่าเป็นมะเร็งมีดีอะไรบ้าง....”
ข้อความตอนหนึ่งจากหนังสือ “มะเร็งอารมณ์ดี” หนังสืออ่านง่ายในสไตล์ของ คุณไมตรี ลิมปิชาติ
นักเขียนอารมณ์ดี อดีตนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย ที่ถ่ายทอดประสบการณ์ส่วนตัวเกี่ยวกับ “มะเร็ง”
ตั้งแต่พฤติกรรมการกิน จนกระทั่งรู้ตัวว่าเป็นมะเร็ง การดูแล การรักษาบำบัดเมื่อเป็นมะเร็ง พร้อมสูตรยา
รักษาโรคมะเร็งของหลวงพ่อชา สุภัทโท และพระมหาเอี้ยน วิโนทโก ผู้อ่านที่เป็นมะเร็งจะได้มีกำลังใจต่อสู้
โรคมะเร็ง ส่วนคนที่ไม่ได้เป็นมะเร็ง ก็จะได้ป้องกันระวังตัวไว้ ไม่ให้เป็นโรคนี้
๐80 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ประวัติศาสตร์จีนยุคก่อนประวัติศาสตร์
ถึงราชวงศ์ชิง
มอนเทจ คัลเชอร์. กรุงเทพฯ, สุขภาพใจ,
๒๕๕๑. ๓๐๔ หน้า. ราคา ๒๔๐ บาท
เลขเรียกหนังสือ ๙๕๙.๑ ม ๒๖๑ ป
เหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ แม้ว่าจะได้ผ่านพ้นไปแล้ว ก็มิได้หมายความว่าจะล้าสมัย แต่กลับเป็นเหมือน
กระจกเงาเพื่อสะท้อนให้เข้าถึงความรุ่งเรือง และการล่มสลายของราชวงศ์ต่าง ๆ โดยรับเอาบทเรียน
จากประวัติศาสตร์มาปรับใช้เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยขึ้นอีก
หนังสือเล่มนี้ได้บอกเล่าเหตุการณ์ที่น่าสนใจทางประวัติศาสตร์กว่า ๕๐,๐๐๐ ปีของจีน ตั้งแต่ยุคก่อน
ประวัติศาสตร์ ถึงสมัยราชวงศ์ชิง โดยผ่านเรื่องราวความรุ่งเรืองและการล่มสลายของราชวงศ์ต่าง ๆ คละเคล้า
ไปกับชีวประวัติของบุคคลสำคัญในประเทศ โดยใช้การ์ตูนประกอบ ซึ่งทำให้อ่านสนุกและได้สาระ พร้อมกับส่งผลให้
การจดจำทำได้ง่ายยิ่งขึ้น แถมท้ายด้วยภาคผนวกพิเศษด้วยตารางแสดงราชวงศ์ทั้งหมดของจีน และวิธีการจำ
ประวัติศาสตร์อย่างง่าย ๆ ซึ่งช่วยในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่ซับซ้อนยาวนานไม่เป็นเรื่องน่าเบื่อ
เทคนิควิเคราะห์คำศัพท์
WORD ANALYSIS PREFIX SUFFIX ROOT
Unselfish. กรุงเทพฯ, เอ็ดดูเคชั่น ไมน์ด ไลน์ มัลติมีเดีย,
๒๕๕๓. ๒๑๖ หน้า.
ราคา ๒๒๐ บาท
เลขเรียกหนังสือ ๔๒๘.๒๔ U ๕๔๓ ท
เทคนิควิเคราะห์คำศัพท์ที่สำคัญ การสร้างคำจากการรวมตัวของส่วนประกอบของคำ ซึ่งมีทั้งการเติม
Prefix กับ Root และ Root กับ Suffix แล้วความหมายจะเปลี่ยนหรือจะยังคงความหมายเดิมนั้น ล้วนเป็น
พื้นฐานสำคัญในการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษให้สามารถใช้งานได้จริง
หนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณเรียนรู้ว่า Prefix และ Suffix แต่ละตัวมีความหมายอย่างไร เมื่อนำมาเติมเข้ากับ
Root แล้วความหมายจะเปลี่ยน หรือจะยังคงความหมายเดิมแต่หน้าที่ของคำเปลี่ยนไป เช่น จากคำกริยา
เมื่อเติม Prefix หรือ Suffix จะกลายเป็นคำนาม หากได้เรียนรู้ในเรื่องนี้ก็จะทำให้ใช้ภาษาอังกฤษได้อย่าง
มืออาชีพ สามารถสร้างคำศัพท์มาใช้ได้โดยไม่ทำให้รู้สึกว่า รู้จักคำศัพท์อยู่แค่ไม่กี่คำ และยังทำให้การใช้
ภาษาอังกฤษทั้งการพูด อ่าน เขียนของคุณมีเสน่ห์มากขึ้น โดยเฉพาะการอ่าน หากได้เรียนรู้เรื่อง Prefix Suffix
Root และการวิเคราะห์คำ แม้ไม่รู้ความหมายของคำก็สามารถเข้าใจเนื้อความของเรื่องที่อ่านและสามารถ
จับใจความของเรื่องได้
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐81
ประทีปธรรม
คอลัมน์ประจำ
กองอนุศาสนาจารย์ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
ชีวิตสบายถ้าใจคิดถูก
ค
วามสบาย เป็นสภาพที่ใคร ๆ ก็ต้องการ แต่ต้องจับหลักการให้ถูกต้องก่อน เพราะความคิดของคน
ไม่เหมือนกัน บางคนคิดว่าถ้าร่ำรวยแล้วจะสบาย แต่พอรวยเข้าจริงกลับมีความทุกข์เพิ่มขึ้น คนเป็นโสด
ก็อาจคิดว่าถ้ามีครอบครัวแล้วจะสบาย ส่วนคนมีครอบครัวแล้วก็อาจจะคิดว่าตอนที่เป็นโสดสบายกว่า
มิหนำซ้ำบางทีความสบายของคนหนึ่งอาจเป็นความทุกข์ของอีกคนหนึ่งก็ได้
พระพุทธศาสนาชี้ทางแห่งความสบายไว้หลายข้อ แต่พอจะพูดโดยหลักกว้าง ๆ ได้ว่า ความสบายที่แท้นั้น
มาจากความยินดีพอใจในสิ่งที่ตนมี ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินเงินทอง สามีภรรยา หรือหน้าที่การงานเพราะเมื่อมี
ใจรักในสิ่งใด ก็ย่อมมีความสุขที่ได้อยู่กับสิ่งนั้น แม้แต่ที่การงานที่เป็นเรื่องต้องคิดต้องทำ หรือ
ต้องแบกหามเหน็ดเหนื่อยซึ่งดูเผิน ๆ เป็นสิ่งตรงข้ามกับความสบาย แต่เมื่อมีใจรักและอยากทำ ก็จะรู้สึกว่าได้
ทำแล้วมีความสุข มีความภูมิใจ แม้แต่อุปสรรคข้อขัดข้องต่าง ๆ ก็จะกลายเป็นเรื่องที่ต้องการจะต่อสู้
ต้องการที่จะแก้ไขเรียนรู้ไปด้วย
สมมติว่าคนคนหนึ่งมีอาชีพรับจ้าง มีรายได้น้อย แต่ก็ตั้งใจทำอย่างดี พอใจในสิ่งที่ตนมีอยู่ก่อน เขาก็จะ
รู้สึกสบายไร้ทุกข์ ความยินดีพอใจเช่นนี้มิใช่การตัดทางก้าวหน้าไม่ให้ทำอะไรเพื่อชีวิตที่ดีกว่า ตรงกันข้าม
กลับเป็นการสร้างพื้นฐานชีวิตที่ดีในปัจจุบัน เป็นก้าวย่างที่มั่นคงเพื่อไปสู่จุดหมายที่ปรารถนา ขอเพียงรัก
ในสิ่งที่มี ยินดีในสิ่งที่ทำ ก็จะสามารถเป็นอยู่อย่างสบาย ๆ ได้ในทันทีโดยไม่ต้องรออนาคตที่ยังมาไม่ถึง
๐82 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
สารพัน สาระเพลง
คอลัมน์ประจำ
อัครศิลปิน สีแสด
Still on My Mind
I can’t get you off my mind,
However I try.
The flame kindled in my heart
Keep burning high.
Though time has the power to quell,
It really cannot dispel
The magic touch of your hand,
So gentle in mine.
When night’s curtain starts to fall
When light fades away,
My thoughts fly back to that day
You were so near.
This song will never, never end.
ส And time we cannot suspend.
You’ll be ever and ever,
วัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน สองฉบับที่
ผ่านมาผมได้เขียนถึงเพลงพระราชนิพนธ์ที่มี
เนื้อหาเกี่ยวกับความรักชาติและสถาบัน คือเพลง Still on my mind.
ความฝันอันสูงสุด และ เพลงมาร์ชราชนาวิกโยธิน คำร้องด้วยพระองค์เอง เพลงนั้นคือเพลง “Still on
ฉบับนี้ผมจะเขียนถึงเพลงพระราชนิพนธ์ที่เกี่ยวกับ My Mind” หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อไทยว่า
ความรักในรูปแบบอื่นบ้าง ซึ่งพระบาทสมเด็จ “ในดวงใจนิรันดร์”
พระเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์ไว้หลายเพลง แต่ เป็นอย่างไรบ้างครับ ท่านผู้อ่านหลายท่านคง
เพลงที่ผมอยากจะกล่าวถึงเป็นเพลงที่มีทำนองและ จะรู้จักเพลงนี้บ้างไม่มากก็น้อย ยังจำทำนองได้ใช่
เนื้อหากินใจมาก นอกจากนั้นยังมีความพิเศษตรงที่ ไหมครับ ซาบซึ้งมากเลยนะครับ ผมเชื่อว่าเพลงนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงพระราชนิพนธ์ เป็นเพลงที่ประทับใจในความรู้สึกของคนหลายคน
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐83
และผมก็เป็นคนหนึ่งที่หลงใหลเพลงนี้เอามาก ๆ
ผมชอบเนื้อหาของเพลงตรงที่มีความโรแมนติก
อย่างลึก ๆ ไม่ว่าจะเล่นเอง ร้องเอง หรือได้ยินได้ฟัง
คนอื่นร้อง อดไม่ได้ที่จะคิดถึงความรักความผูกพัน
ของหนุ่มสาวที่มีต่อกันอย่างดื่มด่ำ
เพลงพระราชนิพนธ์ “Still on My Mind” เป็น
เพลงที่ฟังแล้วได้อารมณ์และความรู้สึกของความ
คิดถึง เฝ้าถวิลหาหญิง หรือ ชายผู้เป็นที่รัก เสน่ห์
ของเพลงอยู่ที่การใช้ถ้อยคำในภาษาอังกฤษ
ที่สละสลวยแต่กระชับได้ใจความ แต่ละบรรทัดมี
ความหมายจบอยู่ในตัวเอง และส่งต่อเนื้อความไปที่
ประโยคถัดไป ในขณะเดียวกันทำนองเพลงก็ช่วย
เน้นความรู้สึกถ่ายทอดผ่านทำนองที่พริ้วโปรยขึ้น
และลงสลับกันไปได้อย่างอ่อนหวานยิ่งนัก แค่เพียง
ได้ยินประโยคเริ่มต้นว่า... “I can’t get you off my
mind, However I try.” ด้วยทำนองเพลงที่ไต่ขึ้น
แล้วทอดเสียงชั่วขณะที่ “can’t” จากนั้นไล่ต่ำลงมา
จาก “get you off my mind,” ก่อนที่จะจบประโยค
“However I try.” ด้วยทำนองที่ไล่ขึ้นไปอีกครั้ง
ก็ชวนให้อารมณ์หวั่นไหวแล้ว และยิ่งได้ฟังท่วง
ทำนองที่ตอกย้ำความรู้สึกอย่างล้ำลึกด้วยช่วงเสียง ดอกเตอร์ ประเสริฐ ณ นคร ประพันธ์โดยแปลจาก
สูงตรงประโยค “This song will never, never end. คำร้องภาษาอังกฤษในลักษณะวรรคต่อวรรคโดยยัง
And time we cannot suspend.” จบลงด้วยการ คงรักษาความหมายเดิมของคำร้องภาษาอังกฤษซึ่ง
เคลื่อนเข้าหาทำนองที่ทอดต่ำลงพร้อมกับจังหวะ เป็นบทพระราชนิพนธ์ไว้อย่างครบถ้วน (จากหนังสือ
ที่นุ่มนวลขึ้นอีกครั้ง ตรง “You’ll be ever and ever, ประมวลบทเพลง “ธ สถิตในดวงใจนิรันดร์” ที่
Still on my mind.” ก็ยิ่งทำให้ซาบซึ้งดื่มด่ำ โรงเรียนจิตรลดาจัดพิมพ์เพื่อเฉลิมพระเกียรติ
ถึงอารมณ์ และอานุภาพของความรักจากบทเพลง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคล
“Still on My Mind” ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมัยทรงครองสิริราชสมบัติครบ ๕๐ ปี ๙ มิถุนายน
ทรงถ่ายทอดให้พวกเราได้สัมผัสกัน พ.ศ.๒๕๓๙
“Still on My Mind” เป็นเพลงพระราชนิพนธ์ เห็นด้วยกับผมใช่ไหมครับ ว่าเพลงนี้ชวน
เพลงแรกที่ทรงพระราชนิพนธ์คำร้องเป็นภาษา หลงใหลอย่างยิ่ง ผมเห็นท่าจะต้องจบแค่นี้ก่อน
อังกฤษด้วยพระองค์เอง เดิมทรงตั้งชื่อเพลงว่า เพราะเกิดรู้สึกอยากฟังเพลงนี้ขึ้นมาแล้วล่ะครับ
“I Can’t Get You out of My Mind” ต่อมาทรง ขอไปหามุมโรแมนติกเป็นการส่วนตัวหน่อยนะครับ
เปลี่ยนเป็น “Still on My Mind” ส่วนคำร้องภาษา แล้วพบกันฉบับหน้า
ไทย โปรดเกล้าฯ พระราชทานให้ศาสตราจารย์
๐84 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
ภาพกิจกรรม
■ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจ ในพื้นที่ภาคใต้ โดยมี พล.ร.ท.วิฑูรย์ คัมภีระพันธุ์
ผบ.ทรภ.๒ พร้อมข้าราชการ และชมรมภริยา ฯ เฝ้ารับเสด็จ ณ ท่าอากาศยานหาดใหญ่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อ ๒๔ ส.ค.๕๔
■ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี เสด็จเยี่ยมหน่วยแพทย์ (พอ.สว.) และพระราชทานของที่ระลึก ในพื้นที่
รร.บ้านนาพรุ หมู่ที่ ๒ บ้านนาพรุ จ.กระบี่ รร.คลองเคียนรัฐราษฎร์รังสรรค์ จ.พังงา และ รร.บ้านสะปำ “มงคลวิทยา” จ.ภูเก็ต โดย ทร.
จัด ฮ.ทร. เป็น ฮ.พระที่นั่ง มี พล.ร.ต.พังพล ศิริสังข์ไชย ผบ.กบร.กร. เป็นผู้อำนวยการเดินทาง เมื่อ ๒๐ - ๒๓ ส.ค.๕๔
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐85
■ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ ทรงบรรจุถุงพระราชทานมูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภา ฯ) ยามยากสภากาชาดไทย
โปรดให้ข้าราชบริพารและกองทัพเรือ เป็นผู้ดำเนินการบรรจุถุงพระราชทานเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม จ.ชัยนาท และ จ.อุตรดิตถ์
ในการนี้ พล.ร.ท.สุรชัย สังขพงศ์ เสธ.กร. พล.ร.ต.พังพล ศิริสังข์ไชย ผบ.กบร.กร. และนายทหารชั้นผู้ใหญ่กองเรือยุทธการ เฝ้ารับเสด็จ ฯ
ณ ฝูงบิน ๒๐๑ กองบิน ๒ กบร.กร. อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อ ๑๒ ก.ย.๕๔
■ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. และ นายยงยุทธ ตะริโย รอง ผอ. ■ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. เป็นประธานในพิธี
ธนาคารออมสินอาวุโส ร่วมมอบเสาธง อุปกรณ์การเรียน อุปกรณ ์ สวนสนามทางเรือ บริเวณอ่าวไทยตอนบน บน ร.ล.จักรีนฤเบศร
กีฬาและเครื่องคอมพิวเตอร์ให้กับศูนย์อบรมจริยธรรมประจำมัสยิด เพื่ออำลาหน่วย ทร. พื้นที่สัตหีบ เมื่อ ๗ ก.ย.๕๔
บ้านบูเก๊ะยามูล ต.โคกเคียน จ.นราธิวาส เมื่อ ๒๒ ส.ค.๕๔
■ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมว.กห.
เดินทางมาตรวจเยี่ยม ทร. ในโอกาส
เข้ารับตำแหน่งใหม่ โดยมี พล.ร.อ.กำธร
พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. ต้อนรับ ณ บก.ทร.
พระราชวังเดิม กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๕ ก.ย.๕๔
๐86 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
■ ผบ.ทร.เยี่ยมอำลาหน่วย ทร. ในพื้นที่ กรุงเทพมหานคร และ ปริมณฑล เนื่องใน โอกาสครบเกษียณอายุราชการ ณ รร.นร. จ.สมุทรปราการ
เมื่อ ๑๓ ก.ย.๕๔
■ พล.ร.อ.กำธร พุ่มหิรัญ ผบ.ทร. และคณะเยี่ยมอำลา นรข. โดยมี พล.ร.ต.สรชา ศรประทุม ผบ.นรข. และกำลังพล นรข. ให้การต้อนรับ ณ
บก.นรข. อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อ ๑๖ ก.ย.๕๔
■ ผบ.ทร. ทำพิธีรับส่งหน้าที่ ผบ.ทร. ณ บก.ทร. พระราชวังเดิม กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๓๐ ก.ย.๕๔
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐87
■ พล.ร.อ.ศักดิ์สิทธิ์ เชิดบุญเมือง เป็นประธานในพิธี ■ พล.ร.อ.พลวัฒน์ สิโรดม ปษ.พิเศษ ทร. ลงนามในเอกสารรับ-
มอบคอมพิวเตอร์ให้ศูนย์การเรียนรู้ด้วยตนเอง ณ อาคาร ส่งหน้าที่ ให้กับ พล.ร.ท.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รอง เสธ.ทร. ณ สนง.
กองการศึกษา รร.ชุมพล ฯ ยศ.ทร. อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔ รอง เสธ.ทร. กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๓ ต.ค.๕๔
■ พล.ร.ท.สมหมาย ปราการสมุทร จก.ยศ.ทร. เป็นประธาน ■ พล.ร.ท.วิฑูรย์ คัมภีระพันธุ์ ผบ.ทรภ.๒ เป็นประธาน
ในพิธีอำลาชีวิตราชการ ณ รร.ชุมพล ฯ ยศ.ทร. อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ในงานแถลงข่าวโครงการจัดสร้างพระอนุสาวรีย์และศาล
เมื่อ ๑๕ ก.ย.๕๔ พล.ร.อ.พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากร
เกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ณ บริเวณชายหาด
เกาะสมุยและที่โรงแรมเดอะแฟร์เฮาส์ บีช รีสอร์ทแอนด์โฮเต็ล
เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อ ๒๕ ส.ค.๕๔
■ พล.ร.ท.ผสมทรัพย์ เกื้อหนุน ประธาน คพท. เป็นประธานในพิธี ■ ประธาน คพท. เป็นประธานปิดการฝึกอบรมให้แก่ทหาร
เปิดงานวันนัดพบแรงงานกำลังพลประจำเรือพาณิชย์ ครั้งที่ กองประจำการ รุ่นที่ ๔/๕๔ ในพื้นที่สัตหีบ ณ สโมสรสัญญาบัตร
์
๔/๕๔ โดยมี พล.ร.ต.สมชาย นิลพิบูลย รองประธาน ฐท.สส. อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี เมื่อ ๑๕ ก.ย.๕๔
คพท.๑ พล.ร.ต.สรวงสรร พินทุสมิต รองประธาน คพท.๒
และผู้แทนจากหน่วยงานภายนอกมาแนะนำวิธีการปฏิบัติในการ
สมัครงานหลังจากปลดประจำการ ณ ห้องศรีศิริ ขส.ทร. กรุงเทพ ฯ
เมื่อ ๓๐ ส.ค.๕๔
๐88 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
■ พล.ร.ท.พงศ์ศักดิ์ ภูรีโรจน์ ผบ.นย. และนางภัณฑ์ธิมา ภูรีโรจน์ ■ พล.ร.ต.ณรงค์รัตน์ โพธิ์แดง รอง ผบ.ทรภ.๒ เป็นประธานในพิธีเปิด-
้
ประธานชมรมภริยานาวิกโยธิน เป็นประธานเปิด “มะรีนเบเกอรี่” ปิดการแข่งขันกีฬาฟุตบอลตานยาเสพติด ทรภ.๒ ตามโครงการ
ร้านชมรมภริยานาวิกโยธิน ค่ายจุฬาภรณ์ อ.เมือง จ.นราธิวาส เมื่อ ลานกีฬาต้านยาเสพติด ประจำปี งป.๕๔ ณ สนามกีฬา ฐท.สข.
๒๒ ส.ค.๕๔ ทรภ.๒ จ.สงขลา เมื่อ ๑ ก.ย.๕๔
■ พล.ร.ต.อภิชัย อมาตยกุล จก.ขส.ทร. เป็นประธานในพิธีอำลาชีวิตการรับราชการ สำหรับผู้รับราชการครบเกษียณอายุราชการ
และผู้ที่ขอลาออกตามแนวทางการรับราชการ ประจำปี ๒๕๕๔ ณ ห้องศรีศิริ ขส.ทร. กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๑๖ ก.ย.๕๔
■ พล.ร.ต.นภดล สุธัมมสภา จก.อล.ทร. (ท่านเก่า) ส่งมอบหน้าที่ให้กับ พล.ร.ต.พิทักษ์ พิบูลย์ทิพย์ จก.อล.ทร. (ท่านใหม่) ณ บก.อล.ทร.
จ.สมุทรปราการ เมื่อ ๔ ต.ค.๕๔
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐89
■ พล.ร.ต.สุรพงษ์ อัยสานนท์ จก.สบ.ทร. (กรพ.จะใส่ภาพเอง) ■ พล.ร.ต.โชติวัฒน์ สาริกะวณิช ผบ.กตอ.กร. ในนามของผู้แทน
ผบ.กร. ร่วมกับ พล.ร.ท.Dato’Wira Jamil bin Osman ผบ.กร.
ทร.มาเลเซีย เป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสม THALAY LAUT
18/2011 ณ หอประชุม PUSTAKMAR ฐานทัพเรือ LUMUT
ประเทศมาเลเซีย เมื่อ ๘ ก.ย.๕๔
■ พล.ร.ต.ไกรวุธ วัฒนธรรม จก.ขว.ทร. (ท่านเก่า) ส่งหน้าที่ให้ ■ พล.ร.ต.พังพล ศิริสังข์ไชย ผบ.กบร.กร. ให้การต้อนรับ Mrs.
พล.ร.ต.พิเชฐ ตานะเศรษฐ จก.ขว.ทร.(ท่านใหม่) ณ ห้องประชุม Amanda Spencer เลขานุการโท พร้อมเจ้าหน้าที่กงสุลออสเตรเลีย
ขว.ทร. กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๓ ต.ค.๕๔ ประจำประเทศไทย เพื่อแนะนำตัว รวมทั้งขอคำแนะนำในการให้
ข้อมูลและให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยว หากเกิดปัญหาต่าง ๆ ณ
ห้องรับรอง บก.กบร.กร. อ.บ้านฉาง จ.ระยอง เมื่อ ๘ ก.ย.๕๔
■ พล.ร.ต.จีรพัฒน์ ปานสกุณ ผบ.กยพ.กร. พร้อมข้าราชการและทหารกองประจำการ ร่วมถวายพระพรพระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลา ๑๐๐ ปี รพ.ศิริราช กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๑๙ ก.ย.๕๔
๐90 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
■ พล.ร.ต.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.กทบ.กร.
เปนประธานในพธปลกปาชายเลนเฉลมพระเกยรต ิ
ี
็
ิ
่
ิ
ี
ู
เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม พระชนมพรรษา
๗ รอบ เพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดี โดยจัดกิจกรรม
ปลูกป่าชายเลน (ไม้โกงกาง) บริเวณพื้นที่ กทบ.กร.
จ.สมุทรปราการ เมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔
ี
■ พล.ร.ต.ธาน ผุดผาด ผบ.กลน.กร.
เ ป็ น ป ร ะ ธ า น ใ น พิ ธี ม อ บ ป ร ะ ก า ศ นี ย บั ต ร
หลักสูตรผลัดเปลี่ยนกำลังพล นรข. ประจำปี ๒๕๕๔
ณ หน้าอาคาร ๓ บก.กลน.กร. กรุงเทพ ฯ เมื่อ
๒๑ ก.ย.๕๔
■ น.อ.เกรียงเดช รัตนปัญญากุล ผบ.ศปศ.๖๑ เป็นประธานใน ■ น.อ.อารักษ์ แก้วเอี่ยม รอง ผบ.กลน.กร. เป็นผู้แทน
พิธีเปิดการอบรมและฝึกกำลังพล ศปศ.๖๑ ผลัด ๕๑ ปี งป.๕๕ กลน.กร. รับมอบเรือเจ็ตสกี จำนวน ๔ ลำ จาก บริษัท
ณ ห้องประชุม บก.ศปศ.๖๑ อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี เมื่อ ฟังค์ชั่นมารีน จำกัด ณ หมวดเรือที่ ๓ กลน.กร.
๒๒ ก.ย.๕๔ กรุงเทพ ฯ เมื่อ ๘ ก.ย.๕๔
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐91
■ น.อ.สมเกียรติ ผลประยูร ผบ.ฉก.นย.ทร./ผบ.ฉก.ภต. เป็นประธานในการจัดกิจกรรมพัฒนาสัมพันธ์ผู้ผ่านการอบรมโครงการ
ประชาร่วมใจทำความดีเพื่อแผ่นดินพร้อมมอบถุงยังชีพและจัดชุดแพทย์เคลื่อนที่ให้บริการรักษาพยาบาลแก่ผู้มาร่วมงาน
ณ ค่ายจุฬาภรณ์ ตำบลโคกเคียน อ.เมืองนราธิวาส จ.นราธิวาส เมื่อ ๑๒ ก.ย.๕๔
■ กองทัพเรือ นำกำลังพลและยุทโธปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัย ■ กองทัพเรือจับมือกับ ๔ หน่วยงานใหญ่ ใช้เรือใหญ่ผลักดันน้ำ
น้ำท่วม ณ ต.วัดโตนด และ ต.เสาธง อ.บางปะหัน ในแม่น้ำเจ้าพระยา แก้ปัญหาน้ำล้นตลิ่ง เพื่อสนับสนุนการแก้ไข
จ.พระนครศรีอยุธยา เมื่อ ๖ ต.ค.๕๔ ปัญหาน้ำท่วมในแม่น้ำเจ้าพระยา ตั้งแต่ ต.ค.๕๔ เป็นต้นมา
■ ก ล น . กร . จั ด ก ำ ลั ง พ ล
ในการบรรจุกระสอบทราย เพื่อ
ป้องกันน้ำท่วม บริเวณพื้นที่
วั ด ป า ก ค ล อ ง ม ะ ข า ม เ ฒ่ า
ณ วัดปากคลองมะขามเฒ่า
อ.วัดสิงห์ จ.ชัยนาท ระหว่าง ๑๕ -
๑๘ ก.ย.๕๔
๐92 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ เล่มที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
คอลัมน์ประจำ
สุขภาพนาวี
กรมแพทย์ทหารเรือ
สำหรับประเด็นอื่นก็อาจจะเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการรักษาของยาหรือเพื่อเพิ่มความร่วมมือในการ
ใช้ยาของผู้ป่วย ยากลุ่มนี้อาจจำเป็นต้องกำหนดเวลา
รับประทานที่ชัดเจนของการรับประทานยาก่อนนอน
เช่น หนึ่งทุ่มหรือสองทุ่ม เป็นต้น กล่าวโดยสรุป
หากรับประทานก่อนนอนวันละครั้ง ให้ถามแพทย์
หรือเภสัชกรว่าเหตุผลคืออะไร เช่น ทำให้ง่วงนอน
ก็ปรับตามเวลาที่ว่า หรือเป็นเวลาที่เหมาะสำหรับ
รับประทานยาประเภทนั้น ๆ ก็รับประทานตามเวลานั้น
แต่หากให้วันละ ๓ ครั้งหลังอาหาร และก่อนนอน
ห เช่นนี้ไม่น่าเกี่ยวข้องกับ การที่ยาทำให้ง่วง สามารถ
ากต้องเข้าเวรดึก ทำงานกะดึกหรืออยู่ยาม
กำหนดตารางเวลารับประทานเป็นทุก ๖ ชั่วโมงได้
ยาที่ต้องทานก่อนนอน หรือยาหลังอาหาร
ควรทานอย่างไร และปรับให้สอดคล้องกับความสะดวก สำหรับประเด็น
ในเรื่องของการรับประทานยาก่อนและหลังอาหาร
หลายท่านอาจประสบปัญหาการทานยาเนื่องจาก ก็พบว่าจะคล้ายกับยาที่รับประทานก่อนนอนคือยา
ต้องอยู่เวรตอนกลางคืน ดังนั้นเมื่อถามว่ายาที่ ที่แพทย์สั่งให้รับประทานก่อนและหลังอาหาร
รับประทานตอนกลางคืนนั้นจะต้องรับประทาน เพราะว่าเพื่อลดอาการข้างเคียงจากยาหรือเพื่อเพิ่ม
อย่างไร ขออธิบายสรุปดังนี้ เนื่องจากพบว่ายาที่ ประสิทธิภาพในการรักษา ยกตัวอย่างยาลดน้ำตาล
แพทย์สั่งให้รับประทานตอนก่อนนอนตอนกลางคืน ในเลือด อาจมีทั้งก่อน และหลังอาหาร เช่น กลัยพิไซด์
ส่วนใหญ่นั้นพบว่าเป็นการสั่งเพื่อลดอาการข้างเคียง ให้รับประทานก่อนอาหารเพื่อหวังผลให้ยาไปลดระดับ
จากยา เช่น ง่วงซึม จึงให้รับประทานก่อนนอน น้ำตาลหลังรับประทานอาหาร หรือยา เมทฟอร์มิน
เพราะฉะนั้นยาที่ทำให้เกิดอาการง่วงซึมนั้น ถ้า ให้รับประทานหลังอาหารเพื่อลดอาการข้างเคียง
รับประทานตอนเริ่มทำงานก็อาจจะทำให้เป็นปัญหา จากยา เป็นต้น ดังนั้นยาในกลุ่มดังกล่าวควรใช้
อันตรายในการทำงานได้ โดยเฉพาะการทำงานกับ มื้ออาหารมาเป็นข้อกำหนดในการรับประทานยาจะ
เครื่องจักรหรือการขับขี่ยานพาหนะ หรือบางครั้ง ดีที่สุด แต่หากไม่สามารถใช้มื้ออาหารมากำหนด
หากเข้าเวรยามอาจทำให้หลับยามได้ เพราะฉะนั้น ระยะเวลารับประทานได้สม่ำเสมอ หรือชัดเจน
ถ้ายาตัวใดที่ให้รับประทานก่อนนอนเพื่อลดอาการ อาจกำหนดระยะเวลาทุก ๖ หรือ ๘ ชั่วโมงได้ แทน
ข้างเคียงจากยาที่อาจเกิดกับผู้ป่วย ยากลุ่มนั้นควร การรับประทานยาวันละ ๔ หรือ ๓ ครั้งตามลำดับ
รับประทานก่อนจะนอนหลับจริง ๆ ตามแบบแผน หากเคยรับประทานยาครั้งละ ๕๐๐ มิลลิกรัม
แต่ละบุคคล หากยามออกเวรตอนเช้า ก็อาจปรับเวลา สามารถใช้ชนิด ๒๕๐ มิลลิกรัม จำนวน ๒ เม็ดหรือไม่
ยาก่อนนอนมารับประทานตอนเช้า ได้ถ้ายาดังกล่าวเป็น ยาชนิดเดียวกัน และเป็น
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐93
เกลือเดียวกัน สามารถใช้ขนาดยารวมในจำนวน ทำไม เวลามารับยาเภสัชกรต้องถามเรื่องแพ้ยา
ที่เท่ากันได้ เช่นแพทย์สั่งจ่ายยา อะม๊อกซี่ซิลลิน ทุกครั้ง
๕๐๐ มิลลิกรัม แต่ทางโรงพยาบาลมี อะม๊อกซี่ซิลลิน แพ้ยา บ่อยครั้งเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้
๒๕๐ มิลลิกรัม ดังนั้นสามารถที่จะจ่ายนี้ความแรง แต่หากผู้ป่วยเคยได้รับยาใดแล้วแพ้รุนแรง เป็นผลให้
๒๕๐ มิลลิกรัมโดยเพิ่มขนาดเป็น ๒ เท่าได้ แต่ถ้า ต้องกลับมารับการรักษาในโรงพยาบาล ถ้าหากได้รับ
เมื่อไรเป็น ยาต่างชนิด หรืออาจชนิดเดียวกันแต่อยู่ ยาดังกล่าวซ้ำเข้าไปอีกเมื่อรับการรักษาในครั้งใหม่
ในรูปเกลือที่แตกต่างกัน จะไม่สามารถนำมาใช้ อาจทำให้เกิดอันตรายจนถึงตายได้ ดังนั้นบุคลากร
ในขนาดเท่ากันได้ แม้ว่าอาจใช้รักษาโรคเดียวกัน การแพทย์จึงจำเป็นที่จะต้องถามเรื่องแพ้ยาทุกครั้ง
เนื่องจากผู้ป่วยหลายท่านอาจยังมีความเข้าใจ เพราะป้องกันการแพ้ยาซ้ำ และควรนำบัตรแพ้ยา
ผิดว่าเมื่อก่อนรับประทานยาชนิดหนึ่งในขนาด ติดตัว ใส่ในกระเป๋าเงิน หรือสิ่งที่ถือเป็นประจำ เพื่อ
๑๐ มิลลิกรัมยังไม่สามารถควบคุมความดันโลหิตได้ เป็นการส่งต่อข้อมูลให้บุคลากรการแพทย์ มีบางราย
คราวนี้มาเปลี่ยนให้รับประทานยาอีกชนิดแต่มีความแรง ไปโรงพยาบาลในขณะที่ไม่รู้สึกตัว ถ้าพกบัตรติดตัว
เพียง ๕ มิลลิกรัมจะดีขึ้นหรือเปล่า เช่น เคยได้รับยา ไว้ทุกคนที่เห็นก็จะทราบข้อมูลการแพ้ยาเบื้องต้นได้
โพรพาโนลอล วันละ ๒๐ มิลลิกรัม ความดันโลหิตยังคง ทำให้ปลอดภัยแก่ตนเอง ดังนั้นคราวนี้ถ้าแพทย์
สูงอยู่ เปลี่ยนมาใช้ยาลดความดันโลหิตอีกขนานเช่น เภสัชกร หรือพยาบาลสอบถามว่าเคยแพ้ยาอะไร
อะทีโนลอล ขนาด ๑๐ มิลลิกรัม จะคุมได้หรือ และ เราก็จะได้ตอบอย่างไม่หงุดหงิดว่า แพ้ยาหรือไม่แพ้ยา
มีบางรายแอบเพิ่มขนาดเอง เพราะฉะนั้นต้องตอบ เพราะคุณหมอเหล่านั้นคำนึงถึงความปลอดภัยของ
เลยว่า ยาต่างชนิดกันจะให้ผลในการรักษาไม่เท่ากัน ผู้ป่วยนั่นเอง ยังมีอีกหลายคำถามที่ผู้อ่านอาจสงสัย
หรือขนาดยาที่ใช้ในการรักษาของยาแต่ละชนิด เมื่อจะรับประทานหรือใช้ยาใด ดังนั้นถ้าไม่แน่ใจ
ไม่เท่ากัน ดังนั้นถ้ามีการใช้ในขนาดที่เท่ากันของยา หรือมีข้อสงสัยเกี่ยวกับเรื่องยาควรสอบถามเภสัชกร
ต่างชนิดนั้น อาจจะทำให้เกิดอันตรายจากการใช้ยา ก่อนใช้ยาทุกครั้ง เพื่อความปลอดภัย ใช้ยาถูกต้อง
หรือไม่มีผลในการรักษาเท่าที่ควร และเกิดประโยชน์ในการรักษาอาการของท่าน
ข่าวประชาสัมพันธ์
สพ.ทร. ได้จัดหาลูกปืนพกชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จาก สหรัฐอเมริกา ตราอักษร
Win เพิ่มเติม จำนวน ๓ รายการ ไว้เพื่อจำหน่ายให้แก่ข้าราชการของ ทร. ดังนี้
ขนาด .๓๘ นิ้ว SUPER AUTOMATIC (๑ กล่อง : ๕๐ นัด) ราคากล่องละ ๑,๒๕๐ บาท
ขนาด .๓๘๐ นิ้ว AUTOMATIC FMJ (๑ กล่อง : ๕๐ นัด) ราคากล่องละ ๑,๒๕๐ บาท
ขนาด .๒๒ LR - STD (XT22LR) (๑ กล่อง : ๕๐ นัด) ราคากล่องละ ๑๗๕ บาท
ผู้มีสิทธิซื้อลูกปืนพก ใช้หลักเกณฑ์ตามที่ได้ประกาศตามข่าว สพ.ทร. ด่วนที่ ๒๖/๐๘/๕๓
มวว. ๐๔๑๒๐๐ ส.ค.๕๓ ทุกประการ โดยจะจำหน่ายลูกปืนรายการดังกล่าว เฉพาะวันพุธ
ระหว่างเวลา ๐๙๐๐ - ๑๑๓๐ และ เวลา ๑๓๓๐ - ๑๔๓๐ ตั้งแต่ บัดนี้ เป็นต้นไป
ที่มา : กรมสรรพาวุธทหารเรือ
๐94 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
บทความพิเศษ
ถ้อยคำจากใจ…สานสัมพันธ์นักเขียน
นาวาเอกหญิง จิตรา รัตนวิทย์
ก ประจำภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะอักษรศาสตร์
กิจกรรมสานสัมพันธ์นักเขียนนาวิกศาสตร์ ปี พ.ศ.๒๕๕๔
ารได้พบบุคคลที่มีความรัก ศรัทธา ในการ
เขียน หรือ พบนักเขียนขวัญใจนักอ่านเป็น
ความปรารถนาที่กองบรรณาธิการ และ เพื่อนนัก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีผลงานทางวิชาการ
และมีความเชี่ยวชาญในการเขียนบทความ
เขียนทุกท่านรอคอยมานาน ดังนั้น กอง มาบรรยายในหัวข้อเทคนิคการเขียนบทความ
บรรณาธิการจึงมีการจัดกิจกรรม “สานสัมพันธ์นัก โดยวิทยากรได้บรรยายและแสดงความคิดเห็น อย่าง
เขียน” ขึ้นในวันพฤหัสบดี ที่ ๒๒ กันยายน ตรงเป้าหมาย ตามหลักวิชาการและให้ข้อคิดว่า
พ.ศ.๒๕๕๔ ณ ห้องประชุมอาคารราชนาวิกสภา “สิ่งสำคัญประการหนึ่งที่นักเขียนควรคำนึงถึงคือ
โดยมีเจ้ากรมยุทธศึกษาทหารเรือ พลเรือเอก คุณค่าของงานเขียนทุกชิ้น ที่ต้องกลั่นออกมาจาก
สมหมาย ปราการสมุทร เป็นประธาน จินตนาการ ประสบการณ์ ความรู้ และจิตวิญญาณ
มีอะไรในงานนี้ ของการเขียนที่ดี “โดยบทความแต่ละเรื่องจะต้องมี
คอนเซ็ปต์ของการกิจกรรมครั้งนี้ ใช้ชื่อว่า วัตถุประสงค์แรกตั้งแต่ก่อนเริ่มลงมือเขียน” โดย
“ถ้อยคำจากใจ...สานสัมพันธ์นักเขียน” เพื่อสร้าง บทความที่ดีควรให้ผู้อ่านทราบว่าผู้เขียนคิดอะไร
ความสัมพันธ์อันดีระหว่างนักเขียนกับกอง ต้องการสื่ออะไรนักเขียนต้องการให้ผู้อ่านได้อะไร
บรรณาธิการ ตลอดจนเพื่อรับทราบข้อคิดเห็น จากบทความที่เขียน และอะไรเป็นแรงบันดาลใจใน
ข้อเสนอแนะในการปรับปรุงนิตยสารนาวิกศาสตร์ เรื่อง และบทความทุกเรื่องต้องมีบทสรุปและข้อคิด
ให้ได้มาตรฐาน กองบรรณาธิการได้เรียนเชิญ ให้ผู้อ่านด้วย
อาจารย์ เรือโท ดอกเตอร์ ดินาร์ บุญธรรม อาจารย์ นักเขียนใหม่...ฟังทางนี้
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐95
ั
อาจารย์ เรือโท ดอกเตอร์ ดินาร์ ฯ ฝากความ ให้มีการถกประเด็นในเรื่องต่าง ๆ จากหลาย ๆ ระดบ
เห็นถึงผู้สนใจในการเขียนบทความว่า อย่าบอกว่า นำมาจัดทำเป็นบทความ
ไม่มีเวลา เขียนไม่เก่ง เขียนไม่เป็น ถ้าใจบอกว่า ควรนำวัตถุประสงค์ของการผลิตนาวิกศาสตร์
ชอบแล้วให้เวลากับตนเอง อ่านหนังสือให้มาก และภารกิจหน้าที่ของราชนาวิกสภา มาลงให้สมาชิก
เก็บเกี่ยวความรู้ สิ่งที่จะได้ตอบแทนนั้นคุ้มค่ามาก ได้รับทราบด้วย
นานาทัศนะที่ได้จากนักเขียน บทความเกี่ยวกับวันคล้ายวันสถาปนาหน่วย
บรรยากาศของกิจกรรมสานสัมพันธ์นักเขียน ต่าง ๆ ไม่ควรนำลงทุกปี
เต็มไปด้วยมิตรภาพ และความเป็นกันเอง ทั้ง บทความเกี่ยวกับอาวุธศึกษา ควรเน้นที่อาวุธ
ระหว่างนักเขียนด้วยกันเองและนักเขียนกับ ประจำเรือ
กองบรรณาธิการ นักเขียนหลายท่านเป็นนายทหาร ควรพิจารณาทบทวนสัดส่วนบทความตามระเบียบ
ชั้นผู้ใหญ่ทั้งอยู่ในประจำการและนอกประจำการ ราชนาวิกสภา ว่าด้วยหลักเกณฑ์การปฏิบัติในการจัดหา
อาทิ พลเรือเอก ไพศาล นภสินธุวงศ์ นักเขียนคุณภาพ ต้นฉบับนิตยสารนาวิกศาสตร์ พ.ศ.๒๕๔๖
รับประกันด้วย รางวัลพลเรือเอก กวี สิงหะ (๔ปี) กองบรรณาธิการ ควรมีกรอบกติกาที่ชัดเจน
พลเรือเอก ไพโรจน์ แก่นสาร ในส่วนของนักเขียน เพื่อแก้ปัญหาในเรื่องการปรับเปลี่ยนของกอง
จากหน่วยงานต่าง ๆ ก็มีมากมาย กองบรรณาธิการ บรรณาธิการ และคณะกรรมการราชนาวิกสภา
ขอบรรยายด้วยภาพดังต่อไปนี้ ควรประชาสัมพันธ์ให้ข้าราชการที่เกษียณอายุ
ราชการแล้วทราบว่า ต้องสมัครเป็นสมาชิกนาวิก
ศาสตร์ใหม่
ควรกำหนดให้ชัดเจนว่านิตยสารนาวิกศาสตร์
เป็นนิตยสารประเภทใด จะเป็นวิชาการหรือวาไรตี้
การจัดงานสานสัมพันธ์นักเขียน ควรเรียนเชิญ
คณะกรรมการราชนาวิกสภา เข้าร่วมกิจกรรม
ควรมีคอลัมน์ถาม – ตอบ เพื่อแลกเปลี่ยน
ความคิดเห็น เพื่อนำไปปรับปรุง
เสนอให้จัดทำหนังสือเดือนละ ๒ ฉบับ แบบ
คู่ขนาน เพื่อให้ทันแจกจ่ายในวันที่ ๑ ของเดือน
อยากให้มีสิ่งหลากหลายในนิตยสารนาวิก
ศาสตร์ ไม่ใช่เป็นบทความทางวิชาการอย่างเดียว
นักเขียนแต่ละท่านก็ให้มุมมองทัศนะและข้อคิด
เห็นรวมข้อเสนอแนะต่าง ๆ มากมายล้วนแต่เป็น
์
ภาพบรรยากาศภายในงาน ประโยชน์แก่พัฒนานิตยสารนาวิกศาสตรให้มีมาตรฐาน
ข้อเสนอแนะและข้อคิดเห็นจากนักเขียน สากล แต่มีข้อคิดเห็นหนึ่งที่ กองบรรณาธิการทุกคน
ควรให้มีการบริหารจัดการบทความในเรื่อง แอบปลื้มใจ เล็ก ๆ คือ “ขอให้จัดกิจกรรมสาน
ประวัติศาสตร์ ซึ่งมีลงซ้ำ ๆ ควรเพิ่มเรื่องเทคโนโลยี สัมพันธ์นักเขียน เช่นนี้ทุกปี” ซี่งกองบรรณาธิการ
ใหม่ ๆ จากหลาย ๆ ด้าน ขอน้อมรับมุมมองทัศนะ ข้อคิดเห็นรวมทั้งข้อเสนอ
รูปภาพ น่าจะมีการลงภาพในทุกระดับชั้นยศ แนะต่าง ๆ ที่ท่านนักเขียนได้กรุณาแนะนำมา
ไม่เฉพาะแต่ผู้บังคับบัญชา นำเรียนคณะกรรมการราชนาวิกสภาต่อไป
๐96 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔
คอลัมน์ประจำ
การฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี
กรมสวัสดิการทหารเรือ
ยอดจำนวนสมาชิกการฌาปนกิจสงเคราะห์แห่งราชนาวี ณ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔
- ยอดยกมาจาก ๑ กันยายน ๒๕๕๔ ๗๓,๗๔๖ ราย
- สมาชิกสมัครใหม่ ๒๐๖ ราย
- คืนสมาชิกภาพ ๘ ราย
- ลาออก ๒ ราย
- ถึงแก่กรรมอนิจกรรมและถึงแก่กรรม ๔๔ ราย
- ยอดจำนวนสมาชิก ณ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๔ ๗๓,๙๑๔ ราย
ศพที่ ๑๓๗๒๒ พ.จ.อ.เพิ่ม หงษ์ไทย ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๖๕ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๙ พ.ย.๕๓
ศพที่ ๑๓๗๒๓ น.อ.เสนาะ พรหมอยู่ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๖๕ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๓๐ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๒๔ พ.จ.อ.ชินกร ฝาหัด ข้าราชการประจำการ สังกัด กลน.กร. อายุ ๓๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๐ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๒๕ นางศิริกุล โกสีย์ ครอบครัว ฯ อายุ ๘๘ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๘ ก.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๒๖ น.อ.เจริญ เจริญรัชต์ภาคย์ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๘๙ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๘ ต.ค.๕๓
ศพที่ ๑๓๗๒๗ น.อ.นคร เผือกเวช ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๕ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๔ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๒๘ นางอำไพ เพ็งรักษ์ ครอบครัว ฯ อายุ ๗๙ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๒๙ นายสมัย สุนรกุมภ์ ครอบครัว ฯ อายุ ๕๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๙ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๐ นางกาวินธิดา เกษศิริ ครอบครัว ฯ อายุ ๓๙ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๑ ร.ต.ประสิทธิ์ เชื่อมสุข ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๖๑ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๓ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๒ นางสมพร ปุยทอง ครอบครัว ฯ อายุ ๗๕ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๙ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๓ น.อ.สมชัย พูวิบูลย์ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๘๔ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๕ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๔ น.ท.ประทุม กิจเจริญ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๑ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๔ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๕ น.อ.เอื้อ สุชาติวัฒนะ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๑ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๐ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๖ จ.ท.เหลี่ยม แสงโชติ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๓ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๕ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๗ นางสมพิศ ปรีเปรม ครอบครัว ฯ อายุ ๕๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๗ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๘ น.อ.สมหวัง โสภณ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๑ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๓๙ นายเจน พัฒน์ช่วย ครอบครัว ฯ อายุ ๕๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๖ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๐ นายสมศักดิ์ สีสุก ลูกจ้างลาออก อายุ ๗๐ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๘ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๑ นายวิชัย ชินวิวัฒนผล ลูกจ้างลาออก อายุ ๖๓ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๘ ก.ย.๕๔
นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔ ๐97
ศพที่ ๑๓๗๔๒ นางปทิตตา โฉมเฉลา ครอบครัว ฯ อายุ ๓๗ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๕ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๓ นางชูบุญ สง่าพงษ์ ครอบครัว ฯ อายุ ๕๗ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๐ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๔ จ.อ.เกรียงศักดิ์ บุญชิต ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๓ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๘ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๕ จ.อ.มนูญ ทรัพย์เผือก ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๑ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๒ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๖ นายนิกร แก้วประดับ ลูกจ้างประจำ สังกัด กรง.ฐท.สส. อายุ ๕๑ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๓ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๗ น.อ.สมศักดิ์ กลิ่นระคนธ์ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๘๔ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๓๐ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๘ น.อ.สุเทพ ไพบูลย์รัตน์ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๙๓ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๔๙ นายเล็ก เจริญมา ลูกจ้างลาออก อายุ ๘๔ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๗ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๐ พ.จ.อ.สุศาตร์ สังข์ทอง ข้าราชการประจำการ สังกัด พัน ซบร.สมสน.พล.นย. อายุ ๓๕ ปี
ถึงแก่กรรม เมื่อ ๑๙ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๑ น.อ.บุญส่ง เจริญล้ำเลิศ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๐ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๖ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๒ ร.ท.สุวิทย์ เนินหาด ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๙ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๐ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๓ จ.อ.นิพัฒน์ภูมิ ศรีขัดเค้า ข้าราชการประจำการ สังกัด บก.พล.นย. อายุ ๓๒ ปี ถึงแก่กรรม เมื่อ ๑๗ ส.ค.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๔ นางจรูญศรี พราววิเชียร ครอบครัว ฯ อายุ ๙๔ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๙ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๕ พ.จ.อ.วิชิต บุญวรสถิต ข้าราชการประจำการ สังกัด พัน ร.๑ กรม ร๑.พล.นย. อายุ ๓๕ ปี
ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๖ จ.อ.สว่าง เดชทองคำ ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๘ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๗ พ.จ.อ.บรรเจิด จันทวารี ข้าราชการประจำการ สังกัด พัน ร.๒ กรม ร.๒ พล.นย. อายุ ๕๐ ปี
ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๙ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๘ พ.อ.ถกล ศุขถุงทอง ครอบครัว ฯ อายุ ๗๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๕๙ นางบรรจง คงอาจหาญ ครอบครัว ฯ อายุ ๕๖ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๒ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๖๐ นางทองคำ รอดรักษา ครอบครัว ฯ อายุ ๕๘ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๕ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๖๑ นางสมจิตต์ เทียมศรี ครอบครัว ฯ อายุ ๗๗ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๖ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๖๒ นายจำเนียร จันทร์ดิษฐ์ ลูกจ้างลาออก อายุ ๗๒ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๒ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๖๓ พ.จ.อ.บำรุง รินกระโทก ข้าราชการประจำการ สังกัด พัน ร.๑ กรม ร.๑ พล.นย. อายุ ๔๒ ปี
ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๔ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๖๔ ร.อ.ไพโรจน์ ราภรณ์พิจิตร ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๘ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๑๕ ก.ย.๕๔
ศพที่ ๑๓๗๖๕ น.อ.บุญเลิศ ไวยเนตร ข้าราชการบำนาญ สังกัด ทร. อายุ ๗๘ ปี ถึงแก่กรรมเมื่อ ๒๔ ก.ย.๕๔
นาวิกศาสตร์ในนามของกองทัพเรือ
ขอแสดงความอาลัยในมรณกรรม
ของสมาชิกที่กล่าวนามมาแล้วนี้เป็นอย่างยิ่ง
๐98 นาวิกศาสตร์ ปีที่ ๙๔ ฉบับที่ ๑๑ พฤศจิกายน ๒๕๕๔