สร้างเหล็กในคน
(ตอนที่ ๑)
ถ.ถุง
เหล็กในเรือ ลอยลำ� ยังชำ�รุด เหล็กในคน แข็งสุด ถ้�สร้�งได้
เรียนให้ลึก ฝึกให้แม่น แก่นศ�สตร์ชัย เร�นี้ไซร้ กล้�แกร่งได้ กว่�เหล็กเรือ
พลเรือเอก ส�ม�รถ จำ�ปีรัตน์
กล่าวน�า
ื
ุ
ั
คน หรอทรพยากรมนษย์ (Human resource) อะไรให้นักเรียนจ่า (นรจ.) และข้าราชการรวมทั้งบุคคล
ี
ื
�
นับเป็นทรัพยากรสาคัญท่สุดของทุกประเทศและ ท่ผ่านเข้ามาใน รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. เห็นได้ง่าย เพ่อจะได้
ี
�
�
ทุกองค์กรในยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี (พ.ศ.๒๕๖๑ - พ.ศ. พึงระลึกไว้ตลอดเวลา สามารถจดจานาไปปรับ หรือ
๒๕๘๐) ก�าหนดยุทธศาสตร์ไว้ ๖ ด้าน มีด้านที่เกี่ยวกับ ประยุกต์ใช้ในการรับราชการได้ ผู้เขียนจึงได้ค้นคว้า
ิ
ี
คนโดยตรง คือ ยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาและเสริมสร้าง ส่งท่เป็นสัญลักษณ์ของโรงเรียนทหารต่าง ๆ หลายแห่ง
ี
ี
ศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ และในแผนพัฒนาเศรษฐกิจ ท่ดูแล้วมีความสะดุดตา เป็นสัญลักษณ์ท่สร้างไว้ของ
ั
ื
้
ี
ั
และสังคมแห่งชาต ฉบบท่ ๑๒ (พ.ศ.๒๕๖๐ - พ.ศ.๒๕๖๔) โรงเรียนนายร้อยเวสพอยท์ สหรฐอเมริกา คอ ปายระบบ
ิ
ยทธศาสตร์ท่ ๑ การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพ เกียรติศักดิ์ (ดูภาพที่ ๑ THE CADET HONOR CODE)
ุ
ี
ทุนมนุษย์ ให้ความส�าคัญกับการวางรากฐานการพัฒนา เขียนข้อความไว้ว่า “A CADET WILL NOT LIE, CHEAT,
�
ึ
ี
คนให้มีความสมบูรณ์ เร่มต้งแต่กลุ่มเด็กปฐมวัยท่ต้อง STEAL, OR TOLERATE THOSE WHO DO.” ซ่งคาว่า
ั
ิ
ั
ั
ู
่
ี
ึ
่
ี
ี
่
พัฒนาให้มีสุขภาพกายและใจท่ดี มีทักษะทางสมอง “Honor” เป็นหนงในค�ากล่าวทเป็นทร้จกกนดของ
ี
ี
ี
ื
ทักษะการเรียนรู้ และทักษะชีวิตเพ่อให้เติบโตอย่างม ี พลเอก ดักกลาส แม็คอาเธอร์ ท่ได้กล่าวไว้ท่โรงเรียน
ื
ี
ื
ี
ื
คุณภาพ เก่ยวกับเร่องคน หรือทรัพยากรมนุษย์น้ เม่อ นายร้อยเวสพอยท์ เม่อวันท่ ๑๒ พฤษภาคม ค.ศ.๑๙๖๒
ี
ั
ี
ี
คร้งท่ผู้เขียนรับราชการอยู่ท่ โรงเรียนชุมพลทหารเรือ ดังนี้ “Duty, Honor, Country. Those three
กรมยุทธศึกษาทหารเรือ (รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.) นาวาเอก hallowed words reverently dictate what
�
กาจร เจริญเกียรติ ผู้บังคับการ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. you ought to be, what you can be,
ในขณะน้น ได้มีดาริอย่างหน่งว่าจะสร้างสัญลักษณ์ what you will be.”
ึ
�
ั
นาวิกศาสตร์ 45
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๑ THE CADET HONOR CODE
ั
ื
จากน้นได้อ่านบทความเร่อง “สร้างคน” ของคุณคร ู growth stronger” ส�าหรับสถานที่ตั้งเป็นบริเวณลาน
ี
พลเรือเอก สามารถ จาปีรัตน์ ในหนังสือนาวิกศาสตร์ สวนสนามด้านหน้าเสาธงก็เหมาะสมดี เพราะเป็นท่ท ่ ี
�
ี
ฉบับเดือนสิงหาคม - กันยายน พ.ศ.๒๕๕๕ รู้สึกมีความ นรจ. ข้าราชการ และประชาชนท่ผ่านไปผ่านมาเห็น
่
ั
่
่
ประทับใจอยางยิ่ง โดยมีบทกวีที่กลาวไว้ท้ายบทความวา ได้ง่าย รวมท้งลานสวนสนามเป็นสถานท่ท่ นรจ.
ี
ี
“เหล็กในเรือ ลอยล�า ยังช�ารุด ใช้บ่อยท่สุด เช่น ช่วงแถวตอนเช้า ออกกาลังกาย
ี
�
เหล็กในคน แข็งสุด ถ้าสร้างได้ แถวรับธงข้นเวลา ๐๘๐๐ ฝึกวิชาทหารราบ ฝึกสวนสนาม
ึ
เรียนให้ลึก ฝึกให้แม่น แก่นศาสตร์ชัย ซ้อมแฟนซีดริล แถวรับธงลงของทุกวัน และแถวเวลา
เรานี้ไซร้ กล้าแกร่งได้ กว่าเหล็กเรือ” ๑๙๐๐ เป็นต้น (ดูภาพที่ ๒ เหล็กในคนส�าคัญกว่าเหล็ก
�
ส�าหรับค�าว่า “เหล็กในคน ดีกว่า เหล็กในเรือ” คุณครู ในเรือ และแถวรับธงลงของ นรจ. ในวันงานเล้ยงประจาปี)
ี
ได้อธบายไว้ว่าเป็นคาทบรรพบุรุษทหารเรือได้กล่าวเป็น เม่อสร้างเสร็จแล้วก็ได้อธิบายให้ นรจ. และข้าราชการ
�
ื
ิ
ี
่
ื
ี
้
�
�
�
�
ปริศนาคาคม เพ่อกาชับยาเตือนสติลูกหลานทหารเรือ ให้ทราบความหมายของคาน้มาโดยตลอด เพราะเหล็ก
ี
ของท่านด้วยความห่วงใย และมองการณ์ไกล (Visions) ในคนไม่ได้ใช้เวลาสร้างแค่วันหรือสองวัน แต่ท่ รร.ชุมพลฯ
ในอนาคตว่า ความเจริญก้าวหน้าทางเทคโนโลยี และ ยศ.ทร. ใช้เวลาสร้าง นรจ. ประมาณ ๒ ปี นักเรียนหลักสูตร
ั
่
สภาพสังคมในยุคโลกาภิวัฒน์ อาจท�าให้ “เหล็ก” ในตัว ข้าราชการกลาโหมพลเรือนตากว่าช้นสัญญาบัตรประมาณ
�
ลูกหลานของท่านเกิดสึกกร่อนลงได้ แต่ตอนหลัง ๆ ๔๕ วัน หากเราสร้างเหล็กในคนให้ นรจ. และข้าราชการ
คาว่า “เหล็กในคน ดีกว่า เหล็กในเรือ” กลายเป็น กลาโหมพลเรือนตากว่าช้นสัญญาบัตร ให้เป็นเหล็กเน้อด ี
ั
ื
่
�
�
่
“เหล็กในคน สาคัญกว่า เหล็กในเรือ” แมคาวา “ดีกว่า” ได้แล้ว อีกประมาณ ๔๐ ปี ของชีวิตรับราชการ เหล็กในคน
�
�
้
ี
จะเปล่ยนเป็นคาว่า “สาคัญกว่า” แต่ก็ยังแสดงให้เข้าใจ เหล่าน้ก็จะไม่เป็นสนิม หรือผุกร่อนไปก่อนเวลาอันควร
�
�
ี
�
ี
ได้ว่า เหล็กในคนดีกว่า (ส�าคัญกว่า) วัตถุหรือเครื่องมือ และเหล็กในคนเหล่าน้จะเป็นรากฐานท่สาคัญของ
ี
ิ
ั
ั
ี
ั
รวมท้งเทคโนโลยีต่าง ๆ ดังน้นจึงตกลงใจว่าถ้าสร้าง กองทัพเรือ ในการปฏบัติภารกิจท่ได้รบมอบหมายให้
ั
ั
ั
สัญญลักษณ์เป็นประโยคน้ก็น่าจะเหมาะสม รวมท้งคิดว่า ประสบความสาเรจอย่างวัฒนาถาวรตลอดไป ดงน้น จึงจะขอ
ี
็
�
ั
ี
ควรจะใส่ภาษาอังกฤษไว้ด้วย เพราะขณะน้นประเทศไทย ใช้บทความน้ถ่ายทอดประสบการณ์ในการสร้างเหล็ก
�
กาลังเข้าสู่ประชาคมอาเซียน จึงให้ครูแผนกภาษาของ ในคนที่เกิดขึ้นที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. และประสบการณ์
ี
�
้
รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ช่วยเขยนคาแปลภาษาอังกฤษไว้ดวย จากการฝึกภาคทะเลของผู้เขียนในสมุดจดหมายเหต ุ
�
ื
คือ “As time passes, A ship’s steel grow weaker, ประจาตัวนักเรียนนายเรือเพ่อให้เกิดประโยชน์กับคน
but with time and training, a sailor’s steel รุ่นหลังต่อไป
นาวิกศาสตร์ 46
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๒ เหล็กในคนส�าคัญกว่าเหล็กในเรือและแถวรับธงลงของนักเรียนจ่าในวันงานเลี้ยงประจ�าปี
เหล็กในคน สิ่งแรกที่ผู้เขียนนึกถึงก็คือ คุณสมบัตินายทหารเรือไทย
�
ี
ั
�
ี
“เหล็ก” เป็นแร่ธาตุท่นามาใช้งานในชีวิตประจาวัน ๕ ประการ ตามท่ได้รับการส่งสอนมาโดยตลอดและ
มากท่สุด และเป็นท่รู้จักกันอย่างแพร่หลาย โดยท่วไป มักจะพบเห็นตามหนังสือ นิตยสาร วารสารต่าง ๆ ของ
ี
ี
ั
ั
ี
แล้วเหล็กจะแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ เหล็ก (Iron) ทหารเรือ รวมท้งมักติดไว้ตามสถานท่สาคัญท่พบเห็นได้ง่าย
ี
�
และเหล็กกล้า (Steel) ซึ่งทั้งสองประเภทนี้มีคุณสมบัติ ทั้งนี้ค�าว่า “นายทหารเรือ” นั้น บางท่านอาจเข้าใจว่า
ี
็
ท่ต่างกัน แต่ส่วนใหญ่มักจะเรียกเหมารวมกันว่า “เหลก” หมายถึงเฉพาะนายทหารสัญญาบัตร แต่ในความจริงแล้ว
น่นเอง โดยเหล็กท่พบได้มากในธรรมชาติซ่งต้องใช้วิธ ี รวมถึงนายทหารประทวนด้วย โดยคุณสมบัตินายทหาร
ั
ี
ึ
ิ
ถลุงออกมาก่อน เพ่อให้ได้เป็นแร่เหล็กบริสุทธ์ และ เรือไทย ๕ ประการ ได้แก่
ื
�
สามารถนามาใช้ประโยชน์ต่อไปได้ ส่วนเหล็กกล้า ๑. มีความรู้
ี
เป็นโลหะผสมท่มีส่วนผสมระหว่าง เหล็ก ซิลิคอน ๑.๑ จะต้องขวนขวายหาความรู้ และฝึกฝนตนเอง
แมงกานีส คาร์บอน และธาตุอื่น ๆ อีกเล็กน้อย ท�าให้มี อยู่เสมอ
ั
คุณสมบัติในการยืดหยุ่นสูง ท้งมีความทนทาน แข็งแรง และ ๑.๒ รู้จักถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้อื่น
สามารถต้านทานต่อแรงกระแทก และภาวะทางธรรมชาต ิ ๑.๓ รู้จักใช้ความรู้ให้เป็นประโยชน์
ได้อย่างดีเยี่ยม ที่ส�าคัญคือ เหล็กกล้าไม่สามารถค้นพบ ๒. เป็นผู้น�าทางทหาร
ื
ได้ตามธรรมชาติเหมือนกับเหล็ก เน่องจากเป็นเหล็กท ี ่ ๒.๑ มีลักษณะท่าทางองอาจสมเป็นทหาร และ
สร้างข้นมาโดยการประยุกต์ของมนุษย์ ดังน้นการสร้าง มีความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ
ั
ึ
ื
เหล็กในคนจึงมีวัตถุประสงค์ หรือเจตนาเพ่อสร้างคน ๒.๒ มีระเบียบวินัย
(หล่อหลอมคน) ให้มีคุณสมบัติเช่นเดียวกับเหล็กกล้า ๒.๓ มีความส�านึกในหน้าที่ กล้าตัดสินใจ และ
คือ ความแข็งแรง อดทน ยืดหยุ่นสูง สามารถรับมือ รับผิดชอบ
ี
ได้กับสภาวะแวดล้อมท่จะเกิดข้นหลังจากจบออกไป ๒.๔ มีมนุษย์สัมพันธ์ดี
ึ
ั
รบราชการแล้วได้เป็นอย่างดี การสร้างเหล็กในคนท ี ่ ๒.๕ มีจิตใจแน่วแน่ ไม่ท้อถอย
�
เข้าใจได้ง่ายท่สุดสาหรับนักเรียนทหารก็คือ สร้างเหล็ก ๒.๖ มีความอดทนพากเพียร และกระตือรือร้น
ี
ี
ี
ในคนให้ร่างกาย และท่ยากท่สุดก็คือ การสร้างเหล็กในคน ๒.๗ มีความริเริ่ม
ท่ใจ หรือจิตวิญญาณ แล้วเราจะสร้างเหล็กในคนได้อย่างไร ๒.๘ มีความเป็นธรรม
ี
นาวิกศาสตร์ 47
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
๒.๙ มีไหวพริบ ทุกที่ ทุกเวลา เพราะผู้บังคับบัญชาทุกคนมีอ�านาจ และ
ิ
่
ี
๓. มีความซื่อสัตย์ และความจงรักภักดี หน้าทปกครองดูแลทุกข์สขของทหาร ท้งรับผดชอบใน
ั
ุ
ั
์
๔. เป็นสุภาพบุรุษ ความประพฤต การฝกสอน อบรม การลงทณฑ ตลอดจน
ิ
ึ
๔.๑ มีความเมตตา กรุณา เสียสละ ไม่อิจฉาริษยา ส่งการแก่ผู้ใต้บังคับบัญชา นอกจากน้แล้วการประพฤต ิ
ั
ี
ี
๔.๒ มีคุณธรรม และจริยธรรม ปฏิบัติตัวเป็นแบบอย่างท่ดีให้แก่ผู้ใต้บังคับบัญชาก ็
๔.๓ มีความสุภาพอ่อนโยน เป็นส่วนส�าคัญในการสร้างเหล็กในคนได้ อย่างไรก็ตาม
ี
ี
๔.๔ รู้จักกาลเทศะ แหล่งท่เหมาะสมท่สุดในสร้างเหล็กในคนก็คือสถาน
๕. มีความละเอียดรอบคอบไม่ประมาท ศึกษา เพราะเป็นที่มีพร้อมที่สุด ได้แก่ สถานที่ บุคลากร
ื
ซึ่งคุณสมบัตินายทหารเรือทั้ง ๕ ประการนี้ (๓ มี ๒ เป็น) (ผู้บังคับบัญชาและครู) แนวทาง (หลักสูตร) เคร่องมือ และ
ั
ื
ี
เม่อผู้เขียนเข้ารับราชการก็ได้เห็นว่ามีอยู่แล้ว ไม่ทราบว่า มีเวลาในการสร้างอย่างต่อเน่อง ท้งน้สถานศึกษาหลัก
ื
้
้
่
ื
้
่
ี
�
็
ั
่
้
ประกาศใชเมอใด และไดพยายามคนควากยงไมพบแหลง ท่เป็นแหล่งผลิตกาลังพลหลักของกองทัพเรือ ได้แก่
ี
ึ
ท่อ้างอิงได้ อีกอย่างหน่งท่นึกถึงในการสร้างเหล็กในคน โรงเรียนนายเรือ (รร.นร.) และโรงเรียนจ่าทหารเรือ ถ้า
ี
ี
ก็คือ ค่านิยมหลักของกองทัพเรือ (Royal Thai Navy โรงเรียนเหล่าน้สามารถผลิตนักเรียนทหาร ได้แก่ นักเรียน
ื
ี
Core Values) ท่ประกาศใช้เม่อวันท่ ๒๒ กันยายน นายเรือ (นนร.) และนักเรียนจ่าทหารเรือ (นรจ.) รวมทั้ง
ี
ั
พ.ศ.๒๕๕๓ สมัยคุณครู พลเรือเอก ก�าธร พุ่มหิรัญ เป็น ข้าราชการกลาโหมพลเรือนช้นสัญญาบัตร (ฝึกอบรม
ั
ี
ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้กาหนดค่านิยมให้เป็นเอกลักษณ์ ท่ รร.นร.) และข้าราชการกลาโหมพลเรือนตากว่าช้น
�
�
่
เฉพาะของกองทัพเรือไว้ ๔ ประการ โดยใช้คาย่อว่า สัญญาบัตร (ฝึกอบรมท่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.) ให้เป็น
ี
�
“SAIL” ซึ่งหมายถึง เหล็กกล้าท่ดีในระหว่างท่เข้ารับการศึกษา หรือฝึกอบรม
ี
ี
ื
ี
๑. ความเป็นชาวเรือ (Seamanship) ท่โรงเรียนได้แล้ว เม่อคนเหล่าน้สาเร็จการศึกษา หรือ
�
ี
�
ื
๒. ความซ่อสัตย์ และความจงรักภักดี (Allegiance) สาเร็จการฝึกอบรมออกมารับราชการแล้ว เขาก็จะเป็น
ี
ี
ี
ิ
๓. ความเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรม และความเป็น เหลกกลาทดไปอกหลายสบป ถาเปนนกเรยนนายเรอกอก
ี
ั
ื
ี
็
็
ี
้
่
็
้
สุภาพบุรุษทหารเรือ (Integrity and Gentleman) ๓๓ - ๓๗ ปี และนักเรียนจ่าทหารเรือก็ประมาณ ๓๙ - ๔๐ ปี
๔. ความเป็นผู้น�า (Leadership) เข้าทานอง “ไม้อ่อนดัดง่าย ไม้แก่ดัดยาก” ก็ได้ ทั้งนี้
�
ดังน้นหากทุกโรงเรียน และครูทุกคนสามารถสร้าง “การสร้างเหล็กในคนให้กับนักเรียนทหารเปรียบเหมือน
ั
เหล็กในคนให้นักเรียนทหารในทุกหลักสูตร โดยเฉพาะ การปลูกต้นไม้ หากต้องการต้นไม้มีล�าต้น และกิ่งก้าน
ี
ี
ี
หลักสูตรในโรงเรียนจ่าทหารเรือ และหลักสูตรในโรงเรียน ท่แข็งแรง มีใบดกหนาให้ร่มเงาท่ดี มีดอกท่สวยงาม
ี
�
ิ
�
นายเรือ จะทาให้กองทัพเรือมีทรัพยากรบุคคลเป็น ออกผลดกให้รสชาติอร่อย ก็ต้องเร่มท่การบารุงดิน
ี
ี
�
้
ื
เหล็กกล้าท่มคุณสมบัตินายทหารเรือ ๕ ข้อ และค่านิยม เม่อปลูกแล้วก็ต้องรดน�า ใส่ปุ๋ย พรวนดิน บารุงราก
�
หลักของกองทัพเรือ ๔ ข้อ อย่างที่ตั้งไว้ได้อย่างแน่นอน ต้น ใบ และดูแลไม่ให้มีแมลง หรือศัตรูพืชมาทาลาย
ตั้งแต่ตอนเริ่มปลูก ไม่ใช่ปลูกไปแล้วปล่อยปละละเลย
การสร้างเหล็กในคนในหลักสูตรนักเรียนจ่าทหารเรือ ไม่สนใจ จนผ่านไปหลายปีต้นไม้ก็ไม่โตเท่าที่ควร มีใบ
ั
ี
การสร้างเหล็กในคน? จะสร้างเหล็กในคนที่ไหน? และให้ผลบ้างเล็กน้อย ไม่เป็นอย่างท่ใจหวังน่นเอง”
็
ั
ั
�
สร้างอย่างไร? สร้างเมื่อใด? และใครเป็นคนสร้าง? จาก สาหรบการสร้างเหลกในคนในหลกสูตรนกเรยนจ่าของ
ี
ั
ั
ี
ี
ื
ประสบการณ์การรับราชการท่ผ่านมา ผู้บังคับบัญชาทุกคน โรงเรียนชุมพลทหารเรือ เม่อคร้ง นาวาเอก อะดุง พันธุ์เอ่ยม
ทุกระดับ สามารถสร้างเหล็กในคนให้กับกาลังพลได้ มาด�ารงต�าแหน่ง ผู้บังคับการ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. (เดือน
�
นาวิกศาสตร์ 48
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ั
ื
�
�
ตุลาคม พ.ศ.๒๕๕๔) ได้ดาริให้มีการจัดทาแผนพัฒนา มีความรู้ความเข้าใจในวิชาการทหารเรือเบ้องต้น ท้งวิชาท ี ่
นรจ. ๔ ขั้นตอน (ระยะเวลาการศึกษาประมาณ ๒ ปี) ปฏิบัติเฉพาะตัว เช่น วิชานกหวีดเรือ เชือกเล็ก เชือกใหญ่
ื
ี
�
เพ่อความมุ่งหวังท่จะสร้าง นรจ. ให้มีจิตสานึกในความ ดิ่งน�้าตื้น ดิ่งทราย การถือท้ายเรือ เป็นต้น และวิชาที่ต้อง
ี
็
ี
ิ
ุ
์
ั
ุ
ี
เปนทหารอาชพ เปนคนด มีอดมการณ มวนย มีคณธรรม ปฏิบัติเป็นหมู่คณะ เช่น เรือกระเชียง ชักหย่อนเรือเล็ก
็
่
ั
จริยธรรม มภาวะผ้นา มีความจงรักภักดี ยึดมนในชาต ิ และเมื่อเข้าสู่ภาคปกติแล้ว รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. จัดให้มี
ู
�
ี
�
ศาสนา พระมหากษัตริย์ ปฏิบัติตนตามคุณสมบัต ิ การแข่งขันวิชาการเรือปฏิบัติประจาปีว่าใครมีความสามารถ
นายทหารเรือไทย และตามค่านิยมที่กองทัพเรือก�าหนด ในวิชาการเรือปฏิบัติดีที่สุด ผู้ชนะเลิศก็ได้รับรางวัล ซึ่ง
ั
้
ี
ิ
�
ี
ุ
ิ
ี
่
ื
ี
่
รวมทงมแนวทางในการดาเนนชวตในยคทมการสอสาร ผู้เขียนเคยคิดว่านอกจากจะมีการให้รางวัลแล้ว ควรจะม ี
ของข้อมูลต่าง ๆ อย่างกว้างขวาง ด้วยการน�าข้อดีจาก การติดเคร่องหมายแสดงให้เห็นถึงความสามารถในแต่ละ
ื
ื
ี
การดูงานโรงเรียนทหารต่าง ๆ มาวิเคราะห์ผสมผสานกัน วิชาชีพไว้ท่ข้างเส้อนอต (ข้างในเคร่องแบบชุดกะลาสี)
ื
่
ั
ี
ั
มกองนกเรยนเปนหนวยรบผดชอบในการจดทา ดวยความ ด้วยเหมือนกับลูกเสือ (ดูภาพท่ ๓ การแข่งขันการเรือ
ิ
ั
�
ี
้
ี
็
ื
ร่วมมือร่วมแรงร่วมใจของผู้บังคับบัญชา และครูในกอง ปฏิบัติ และเคร่องหมายวิชาพิเศษของลูกเสือ) เพ่อให้
ื
ั
้
ั
�
ี
ั
ั
นกเรยนทาให้สามารถจดท�าแผนพฒนา นรจ. ๔ ขนตอน นรจ. และเป็นแบบอย่างให้ นรจ. คนอื่น ๆ ได้ปฏิบัติตาม
พร้อมทั้งตัวชี้วัดได้ส�าเร็จ ประกอบด้วย โดยควรออกเป็นระเบียบของโรงเรียนก็น่าจะปฏิบัติได้
ี
ั
ข้นท่ ๑ “ปรับพฤติกรรม” เป็นการสร้างบุคลิกภาพ
ใหม่จากบุคคลพลเรือนมาเป็นนักเรียนทหาร ภายใต้
�
กฎ ระเบียบต่าง ๆ โดยเคร่งครัด ดาเนินการในห้วงการฝึก
็
ึ
ภาคสาธารณะศึกษา ใช้เวลาประมาณ ๓๐ วัน เปนการฝก
ี
การเป็นผู้ตามท่สมบูรณ์แบบท้งการรับฟัง และปฏิบัต ิ
ั
ตามคาส่งของผู้บังคับบัญชา (ท่ถูกต้อง มีเหตุผล) โดย
�
ั
ี
เคร่งครัด และไม่มีข้อโต้แย้ง ฝึกความอดทนอดกล้นให้
ั
สามารถบังคับจิตใจตนเองได้ นรจ.ใหม่ต้องใส่ใจกับคน
รอบข้างเพื่อให้เกิดความสามัคคีของหมู่คณะ รวมทั้งฝึก
ร่างกายให้มีความสมบูรณ์เพ่มข้น เพ่มลักษณะท่าทาง
ิ
ึ
ิ
ให้เป็นนักเรียนทหาร ตัวอย่างการด�าเนินการหลัก ได้แก่ ภาพที่ ๓ การแข่งขันการเรือปฏิบัติ และเครื่องหมายวิชาพิเศษ
การฝึกทหารราบบุคคลท่ามือเปล่า/ท่าอาวุธ เพื่อสร้าง ของลูกเสือ
ึ
บุคลิกภาพ ลักษณะท่าทางองอาจผ่งผาย การฝึกการ
สวนสนามในรูปแบบกองพัน โดยแต่งต้งให้ นรจ. ช้นปีท ี ่ การปลูกฝังขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ การปกครอง
ั
ั
๒ เป็นผู้ช่วยครูฝึก เพื่อสร้างให้ นรจ. ชั้นปีที่ ๒ มีภาวะ บังคับบัญชา กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ และการทดสอบ
ิ
ู
�
�
ี
ผ้นา มีความภาคภูมใจ ได้มโอกาสแสดงออก และเป็น สมรรถภาพร่างกาย โดยให้มีการจัดทาสมุดบันทึก
แบบอย่างท่ดีแก่รุ่นน้อง รวมท้งได้ให้ นรจ. ได้ดูวีดีโอการ สมรรถภาพร่างกาย และการเรือปฏิบัติให้กับ นรจ. (ดูภาพ
ี
ั
ี
สวนสนามของประเทศต่าง ๆ ท่สวนสนามได้อย่าง ที่ ๔ สมุดบันทึกสมรรถภาพร่างกาย และการเรือปฏิบัติ)
ี
็
่
ื
ิ
ึ
ึ
พร้อมเพรยง เข้มแขง สวยงาม เพอสร้างความฮกเหม ซ่ง นรจ. สามารถเก็บสมุดน้ไว้กับตัว และบันทึกเก็บข้อมูล
ี
และแรงบันดาลใจ การฝึกวิชาการเรือ เพื่อให้ นรจ.ใหม่ ไปทุกปีจนถึงวันเกษียณได้ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะจะได้มี
นาวิกศาสตร์ 49
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ั
ื
ื
เร่องราวของตนเอง รวมท้งเป็นเคร่องเตือนใจให้ระลึกถึง แถวหยุด เมื่อแถวหยุดการเคลื่อนที่แล้ว ห้าม นรจ.ใหม่
ิ
�
ั
ิ
ิ
ต้งแต่เร่มเข้ารับราชการในกองทัพเรือ ไว้ให้ลูกหลานดูได้ กระทาส่งใด ๆ (อยู่ในท่าตรงและน่ง) การเดินให้แกว่งมือ
ิ
และในช่วงเวลาเช้าระหว่างเวลา ๐๕๔๕ - ๐๖๔๕ ของทุกวัน ไปข้างหน้าประมาณ ๖ น้ว แกว่งไปข้างหลังประมาณ ๓ น้ว
ิ
ี
ิ
ี
ื
ี
ั
จัดให้มีระบบ “พ่สอนน้อง” โดยให้ นรจ. ช้นปีท่ ๒ สอน ยืดอก ยกไหล่ ระหว่างการเคล่อนท่ (เดินหรือว่งเป็นแถว)
ี
ั
และทบทวนวิชาการเรือปฏิบัติให้กับ นรจ. ช้นปีท่ ๑ ให้มีการนับ หรือร้องเพลงเป็นการให้จังหวะตลอดเวลา
ทุกพรรคเหล่า เพ่อให้มีความชานาญในวิชาชีพทหารเรือ การรับประทานอาหารให้เน้นมารยาทในโต๊ะอาหาร การจัด
ื
�
เพิ่มมากขึ้น ส�าหรับตัวชี้วัดที่ได้ก�าหนดในขั้นที่ ๑ ได้แก่ วางภาชนะให้ถูกต้องตามหลักปฏิบัติ ต้องกวดขันการ
�
๑. นรจ.ใหม่ ต้องผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพ ทาความเคารพของ นรจ.ใหม่ ให้ถูกต้อง แข็งแรงอยู่เสมอ
ร่างกาย ได้แก่ ๑) วิ่ง ๒.๗ กิโลเมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๖ เป็นต้น ส�าหรับพิธีสวนสนามวันปิดภาคสาธารณะศึกษา
ี
นาที ๒) ดึงข้อ ไม่น้อยกว่า ๕ ครั้ง ๓) ลุก - นั่ง ไม่น้อย (ดูภาพท่ ๕ การสวนสนามของนักเรียนจ่าใหม่) ได้เชิญ
กว่า ๓๕ ครั้ง และ ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๓๐ ครั้ง ผู้บังคับบัญชาระดับสูง และผู้ปกครองมาร่วมในพิธี ซ่ง
ึ
ิ
ั
ั
๒. นรจ.ใหม่ รู้จก/ทราบข้อปฏบติ และข้อห้าม กิจกรรมนี้จะเป็นการสร้างความภาคภูมิใจ และแรง
ตามที่ก�าหนด บันดาลใจให้กับ นรจ.ใหม่ ได้อีกทางหนึ่งด้วย
๓. นรจ.ใหม่ สามารถสวนสนามประกอบอาวุธใน
รูปแบบกองพันและกองร้อยได้ในวันปิดภาคสาธารณะ
ศึกษา
ภาพที่ ๕ การสวนสนามของนักเรียนจ่าใหม่
อีกกิจกรรมหน่ง คือ การสวนสนามเรือกระเชียง
ึ
(ดูภาพท่ ๖ สวนสนามเรือกระเชียง) ซ่งมีท่มาจากพิธ ี
ึ
ี
ี
สวนสนามวันปิดฝึกภาคสาธารณะศึกษาของ นรจ.ใหม่ โดย
มีแนวความคิดว่าเม่อ นรจ.ใหม่ ได้สวนสนามแสดงความ
ื
ั
ี
สามารถแล้ว นรจ.ช้นปีท่ ๒ นอกจากจะแสดงแฟนซีดริล
ภาพที่ ๔ สมุดบันทึกสมรรถภาพร่างกายและการเรือปฏิบัติ จะแสดงออกอย่างอ่นได้อย่างไรอีกบ้าง? เพ่อแสดงให้เห็น
ื
ื
ถึงอัตลักษณ์ของโรงเรียนชุมพลทหารเรือท่ว่า “เคร่งครัด
ี
ั
�
ตัวอย่างของผู้เข้าหน้าท่นายทหารเวรปกครองใน ระเบียบวินัย มุ่งม่นในวิชาชีพทหารเรือ” สาหรบอตลกษณ ์
ี
ั
ั
ั
ภาคสาธารณะศึกษา ท่ต้องกากับดูแลการปฏิบัติของ นรจ. น้เกิดข้นขณะกาลังขับรถตรวจพ้นท่ว่า รร.ชุมพลฯ
ี
ี
ื
�
ึ
ี
�
ิ
ื
่
ใหม (มีหลักสูตรการฝึกเพ่มประสิทธิภาพก่อนเปิดภาค) ยศ.ทร. ควรมีอัตลักษณ์อะไรดี เพ่อให้เป็นไปตามการ
�
�
่
�
เช่น การจัดแถวต้องเรียงลาดับความสูงตา ระยะต่อ ระยะ ประเมินคุณภาพการศึกษาของสานักงานรับรองมาตรฐาน
�
ื
เคียง และมีความกระตือรือร้นเสมอ การนาแถวเคล่อนที ่ และประเมินคุณภาพการศึกษา (องค์การมหาชน) หรือ
ึ
ของ นรจ. (ทั้งเดินและวิ่ง) ให้เท้าพร้อมตั้งแต่ก้าวแรกจน สมศ. ซ่ง รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ถือเป็นโรงเรียนทหาร
นาวิกศาสตร์ 50
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ั
ี
ช้นปีท่ ๒ พรรคกลิน การฝึกวิชาการอาวุธ ใช้ นรจ.
ั
ช้นปีท่ ๒ เหล่าปืน ส่วนพรรคเหล่าอ่น เช่น พลาธิการ
ื
ี
เหล่าขนส่ง ก็ให้แสดงความสามารถในสถานีเชือกเล็ก
เชือกใหญ่ นกหวีดเรือ ชักหย่อนเรือเล็ก และ นรจ.
ท่เหลือทุกพรรคเหล่าให้เป็นพลกระเชียง นอกจากน ้ ี
ี
ยังมีเรือใบอีกหลายล�าร่วมในพิธีสวนสนามด้วย ซึ่งต่อมา
ในหลักสูตรนักเรียนข้าราชการกลาโหมพลเรือน
่
ั
ตากว่าช้นสัญญาบัตร ก็ได้บรรจุการฝึกกระเชียงทน
�
ั
ลงในหลักสูตรด้วย รวมท้งได้เผยแพร่ไปยังทหารกอง
ภาพที่ ๖ สวนสนามเรือกระเชียง
ี
ประจาการท่ศูนย์ฝึกทหารใหม่ ก็ให้มีการฝึกกระเชียงทน
�
ี
�
ื
โรงเรียนแรกของกระทรวงกลาโหม (กห.) ท่เข้าสู่ระบบ ในทะเลเพ่อสร้างเหล็กในคนให้กับทหารกองประจาการด้วย
ิ
ิ
ู
การประเมนของ สมศ. และได้รบผลการประเมนอย่ใน
ั
ื
�
ี
ระดับดีมากมาโดยตลอด จากการพิจารณา และทบทวน ข้นท่ ๒ “การสร้างจิตสานึกความเป็นทหาร” เพ่อ
ั
ี
ั
หน่วยงานหลกทจดการฝึกการเรียนการสอนในโรงเรยน ปลูกฝังให้มีอุปนิสัยจิตใจท่มีวินัย มีความเสียสละ มีระบบ
ี
่
ั
ี
�
แล้วพบว่ามีอยู่สองหน่วย ได้แก่ กองนักเรียน และกอง เกียรติศักด์ ค่านิยมทหารเรือ เน้นยาในเร่องความซ่อสัตย์
้
ื
ื
ิ
ี
การศึกษา โดยกองนักเรียนมีหน้าท่ในการปกครองบังคับ มีความอดทนในแบบทหารท้งร่างกายและจิตใจ ซ่งอยู่
ึ
ั
บัญชา ปลูกฝังระเบียบวินัย ส่วนกองการศึกษารับผิดชอบ ในกฎเกณฑ์และระเบียบต่าง ๆ และต้องยอมรับในกฎเกณฑ์
ั
�
ั
ั
เร่องการเรียนการสอนท้งหมด ดังน้นจึงเห็นว่าถ้านาหน้าท ี ่ และระเบียบน้นแม้จะไม่เต็มใจ มีบุคลิกลักษณะท่าทาง
ื
ี
ึ
ของท้ง ๒ กองน้มาเป็นอัตลักษณ์ก็จะมีความเหมาะสม องอาจผ่งผาย ให้ฝึกปฏิบัติจนเกิดความเคยชิน โดยใช้เวลา
ั
ั
ี
จากน้นก็นาเข้าท่ประชุม และเห็นพ้องต้องกันให้ใช้ ประมาณ ๖ เดือน (มิถุนายน – พฤศจิกายน) ตัวอย่างการ
�
�
ั
ี
ี
อัตลักษณ์น้ กลับมาท่การแสดงของ นรจ.ช้นปีท่ ๒ ดาเนินการ เช่น การอบรมและปลูกฝังให้รู้จัก และเข้าใจ
ี
ั
ิ
ิ
ได้เสนอให้มีการแสดงวิชาชีพทหารเรือให้ผู้บังคับบัญชา สามารถปฏบัตตามกฎ ระเบียบ ข้อบงคับ แบบธรรมเนียม
และผู้ปกครองดูก็น่าจะดี จึงได้จัดสถานการแสดง ทหาร มารยาททหาร และค่านิยมกองทัพเรือได้อย่างถูกต้อง
ี
วิชาชีพทหารเรือ ได้แก่ การฝึกวชาอาวธ การฝึกวชา สรางระบบเกยรตศกด (Honor System) ให้เกิดข้นกับ
ึ
้
ิ
ุ
ิ
ิ
ั
์
ิ
ี
ั
ิ
ั
้
่
ี
ื
ื
ิ
ิ
็
เชอกเลก การฝึกวชาเชอกใหญ่ การฝึกวชานกหวดเรอ นรจ. และต้องปฏิบตเสมอต้นเสมอปลายท้งตอหนาและ
ื
การฝึกถือท้ายเรือใหญ่ การฝึกชักหย่อนเรือกระเชียง ลับหลัง ได้แก่ “ไม่คดโกง ไม่ลักขโมย ไม่โกหก ไม่ก่อ
ื
ื
การฝึกซ่อมเคร่องจักรกล (การกล) และการสวนสนามเรือ ให้เกิดการแตกความสามัคคี และต้องรายงานเม่อพบ
้
�
�
ื
ิ
�
ั
ึ
กระเชียง โดยได้นาเรือกระเชียง ท้งเรือกระเชียงหูและ ผกระทาผด” การฝกสวนสนามเพ่อดารงความมีระเบียบ
ู
เรือกระเชียงช่อง จานวน ๑๖ ลา มาร่วมสวนสนาม วินัยให้ได้อย่างต่อเน่อง รวมท้งยังเป็นการฝึกความอดทน
�
ื
�
ั
ื
ประกอบกับเรือท้องกระจก อีก ๑ ลา มาใช้เป็นเรือธง โดย แบบทหาร การตรวจระเบียบตอน เพ่อปลูกฝังนิสัยให้เป็น
�
บนหลังคาเรือท้องกระจก ให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ แสดงตีธง ผู้มีความละเอียดรอบคอบ มีความประณีตในการทา
�
สองมือ สาหรับเรือกระเชียงได้ติดธงประมวลอักษรภาษา ความสะอาดในที่ต่าง ๆ ที่ตนเองรับผิดชอบ (ภาพที่ ๗
�
ื
อังกฤษ ค�าว่า “W E L C O M E” โดยให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ การจัดระเบียบในตู้และการจัดเคร่องนอน) การมอบหมาย
ี
เหล่าสามัญ ทาหน้าท่ถือท้าย การแสดงฝึกทหารราบ งานให้กับ นรจ. ปฏิบัติงาน เพื่อให้มีความรับผิดชอบ
�
ี
ก็ใช้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ เหล่า สอ.รฝ. การฝึกช่างกลใช้ นรจ. ต่องานท่ได้รับมอบหมายเป็นหมู่คณะ ได้รู้จักคิดและ
นาวิกศาสตร์ 51
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ื
�
วางแผนในการทางานต่าง ๆ ฝึกความเสียสละ เม่อมีงาน ราชการทหารเรือ และให้ได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็น
ั
่
ั
ิ
�
ี
ทต้องรบผดชอบ ให้ได้ร้จกกาหนดวธการในการทางาน ร่วมกันเกี่ยวกับภาพยนตร์นั้น ๆ ตัวชี้วัดขั้นที่ ๒ ได้แก่
�
ิ
ู
ี
ื
ั
เพ่อให้บรรลุเป้าหมาย รวมท้งกระบวนการในการแก้ ๑. ผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่
ี
ปัญหาต่าง ๆ ท่เกิดข้นจากการทางาน เช่น เม่อมอบหมาย ๑) วิ่ง ๒,๗๐๐ เมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๕.๑๐ นาที (เวลา
ื
�
ึ
ให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ตัดหญ้าหน้าภาค ไม่ใช่ว่า นรจ.ชั้นปี ลดลง) ๒) ดึงข้อ ไม่น้อยกว่า ๖ ครั้ง (จ�านวนครั้งมากขึ้น)
ั
�
ั
ั
ที่ ๒ รับค�าสั่งแล้วก็ไปสั่งต่อ นรจ.ชั้นปีที่ ๑ ให้ตัดหญ้า ๓) ลุก-น่ง ไม่น้อยกว่า ๓๙ คร้ง (จานวนคร้งมากข้น) และ
ึ
หน้าภาคเท่านั้น แต่ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ต้องคิดว่าสนามหญ้า ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๓๗ ครั้ง (จ�านวนครั้งมากขึ้น)
หน้าภาคมีขนาดใหญ่เท่าใด ควรใช้คนตัดหญ้าก่คน คนกวาด ๒. มีผลประเมินลักษณะทางทหาร และระเบียบวินัย
ี
ก่คน ตัดแล้วเอาหญ้าไปท้งท่ไหน ใช้เวลาประมาณเท่าใด ตามแบบประเมิน ในระยะเวลา ๑ เดือน อยู่ในเกณฑ์
ี
ิ
ี
ื
�
ึ
เป็นต้น การตรวจเคร่องแต่งกายและอาวุธ เพื่อให้ นรจ. ดีมาก หรือร้อยละ ๙๐ ข้นไป (ดาเนินการตลอดท้งปี
ั
แต่งกายได้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย มีความประณีตในการ การศึกษา)
ื
ื
ิ
ื
ั
ทาความสะอาดเคร่องแต่งกายของตนในทุกเคร่องแบบ ๓. ถูกลงทณฑ์เน่องจากฝ่าฝืนข้อปฏบัติ และข้อห้าม
�
รักษาความสะอาดของเคร่องแต่งกายของตน การทดสอบ ต่าง ๆ ตามที่ก�าหนด ในแต่ละสัปดาห์ ไม่เกินร้อยละ ๑๐
ื
ื
สมรรถภาพร่างกายของ นรจ. การฝึกข้ามเคร่องกีดขวาง ในแต่ละภาค
ั
ื
เพ่อให้มีความกระฉบกระเฉง คล่องแคล่วว่องไว และ ๔. ได้รับชมภาพยนตร์เกี่ยวกับทหาร และสามารถ
ั
ื
เป็นการสร้างความเช่อม่นในตนเอง และฝึกการตัดสินใจ วิเคราะห์เน้อหาของภาพยนตร์ได้เดือนละ ๒ เร่อง
ื
ื
โดยดาเนินการเดือนละ ๑ คร้ง การแข่งขันกีฬาระหว่าง (ด�าเนินการตลอดทั้งปีการศึกษา)
ั
�
�
ภาค ประกอบด้วย การแข่งขันตีกระเชียง การว่ายนา
้
ทะเลเป็นภาค กีฬาทหารเรือ และมอบรางวัลให้กับ
ื
ื
ี
ภาคท่ชนะเลิศ หรือให้สลักรายช่อลงโล่ไว้เพ่อเป็นการ
สร้างความภาคภูมิใจ สร้างความสามัคคี กระชับความ
สัมพันธ์ของ นรจ. ในระหว่างภาค และระหว่างรุ่นพ่กับรุ่น
ี
น้องให้แน่นแฟ้นย่งข้น การฝึกทบทวนบุคคลท่ามือเปล่า
ิ
ึ
และลักษณะท่าทางทหาร เพ่อให้มลกษณะท่าทางท ่ ี
ื
ั
ี
เป็นทหาร องอาจผ่งผาย สามารถปฏิบัติท่าต่างๆ ได้อย่าง
ึ
ถูกต้อง แม่นย�า และพร้อมเพรียงกัน การฝึกภาวะผู้น�า
�
ื
และฝึกการปกครองกันเอง เพ่อฝึกให้มีความเป็นผู้นา
ื
ทหารในเบ้องต้น โดยการให้ได้ควบคุมแถวทหาร พูด
ื
อบรมตักเตือนเพ่อนด้วยกัน และรายงานต่าง ๆ หน้าแถว
ื
การฝึกมารยาทในโต๊ะอาหาร เพ่อให้ได้รู้มารยาทในโต๊ะ ภาพที่ ๗ การจัดระเบียบในตู้และการจัดเครื่องนอน
อาหาร รู้จักมารยาทในการรับประทานอาหารร่วมกับผู้ม ี
ี
ั
อาวุโสสูงกว่า โดยการให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๑ และชั้นปีที่ ๒ ข้นท่ ๓ “การสร้างความภาคภูมิใจในความเป็น
รับประทานอาหารร่วมโต๊ะอาหารเดียวกันทุกมื้อ ทุกวัน ทหาร” เป็นการกระตุ้นความรู้สึกและสร้างแรงบันดาลใจ
ี
ให้ได้ชมภาพยนตร์เก่ยวกับทหารเรือ ประวัติศาสตร์ ให้มีทัศนคติท่ดี มีความพึงพอใจในความเป็นทหาร มีความ
ี
ี
ู
ั
การส้รบในอดต เพ่อให้มีความรู้ ภาคภูมิใจในการรับ ม่นใจในตนเอง มีความเช่อม่นในความสามารถของตนเอง
ื
ื
ั
นาวิกศาสตร์ 52
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
�
ั
่
ี
ู
ั
ั
ื
ั
ู
ี
ทาตนเป็นทไว้วางใจกบผ้บงคบบญชา รวมทงเป็นผ้ทม ี เคร่องมือสะพานเดินเรือท่อาคาร บก.รร.ชุมพลฯ ให้
ี
้
ั
่
ี
คุณค่าต่อคนอื่น ๆ รอบข้าง โดยใช้เวลาประมาณ ๑๑ นรจ. เลือกเข้าร่วมกิจกรรม/ชมรมต่างๆ ท่เป็นการ
�
เดือน (ธันวาคม – กันยายน) ตัวอย่างการดาเนินการ ได้แก่ แสดงออกความสามารถพิเศษ เช่น แฟนซีดริล การฝึก
ี
ื
้
�
การอบรมและปลูกฝังเก่ยวกับประวัติศาสตร์ชาติไทย ดานาพ้นฐาน การฝึกต่อสู้ป้องกันตัว กลองยาว ดนตรีไทย
�
ั
้
ี
ุ
ี
่
ี
ี
ั
ิ
่
ุ
ั
ุ
้
้
เชน การเสยกรงศรอยธยาครงท ๑ และครงท ๒ การกอบก ้ ู และดรยางค์ รวมทงให้ นรจ. ไปแสดงความสามารถ
่
ี
เอกราชของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และของสมเด็จ พิเศษตามหน่วยงาน หรือสถานท่ต่าง ๆ เม่อมีโอกาส
ื
�
�
ี
พระเจ้าตากสินมหาราช วีรกรรมของชาวบ้านบางระจัน สาหรับกิจกรรมแฟนซีดริล มีผู้ท่ประทับใจแล้วนาไป
และเหตุการณ์ของทหารเรือไทยในการรบสมรภูมิต่าง ๆ เผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ จนดังไปทั่วโลก (ดูภาพที่ ๘ การ
ื
ิ
ั
เช่น เหตุการณ์ยุทธนาวีที่เกาะช้าง เหตุการณ์ รศ.๑๑๒ แสดงแฟนซีดรลของนกเรียนจ่า โรงเรียนชุมพลทหารเรอ)
ั
ี
ุ
เหตการณ์วรกรรมบ้านดอนแตง ของหน่วยเรอรกษา การจัดงานราตรีสองสมอ โดยให้ นรจ. ได้มีส่วนร่วม
ื
�
ความสงบเรียบร้อยตามลาแม่น�าโขง เป็นต้น อบรม ในการจัดงานมากที่สุด โดยเสนอความคิด แนวทางการ
้
เก่ยวกับกฎหมายทหาร การปรับปรุงและพัฒนา ดาเนินงาน และเป็นผู้จัดงานเอง (ไม่จ้างบุคคลภายนอก)
ี
�
คุณภาพชีวิตสภาพแวดล้อมต่าง ๆ ให้กับ นรจ. ให้ม ี และ นรจ. มีโอกาสศึกษาดูงานหน่วยงานรัฐ เอกชน ท้งใน
ั
ิ
ความแปลกใหม่อยู่เสมอ เพอสร้างสภาพทางจตใจให้ม ี และนอกกองทัพเรือ ตัวชี้วัด ในขั้นที่ ๓ ได้แก่
ื
่
ี
ความรู้สึกท่ดี มีความพึงพอใจต่อสถาบัน และการเป็น ๑. ผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่
นักเรียนจ่าทหารเรือ เช่น ปรับปรุงกราบพักทั้งตู้ เตียง ๑) วิ่ง ๒,๗๐๐ เมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๓.๕๙ นาที (เวลา
้
�
�
ั
พัดลม การปรับปรุงห้องพักผ่อน การปรับปรุงห้องนา น้อยลง) ๒) ดึงข้อ ไม่น้อยกว่า ๘ คร้ง (จานวนคร้งมากข้น)
ั
ึ
ึ
�
ั
ั
ให้มีแบบน่งได้ ปรับปรุงห้องเรียนให้มีคอมพิวเตอร์และ ๓) ลุก-น่ง ไม่น้อยกว่า ๔๔ คร้ง (จานวนคร้งมากข้น) และ
ั
ั
ื
่
ุ
ุ
ั
เครองฉายโปรเจคเตอร์ทกห้อง พฒนาห้องสมดให้ม ี ๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๔๔ ครั้ง (จ�านวนครั้งมากขึ้น)
คอมพิวเตอร์อานวยความสะดวกในการค้นหา และฝึก ๒. มีการมอบหมายงานให้ทาให้สาเร็จลุล่วง เพ่อ
ื
�
�
�
ื
ั
ี
การใช้งาน ปรับปรุงอาคารเรียนรวม (ท่น่ง พ้น ผนัง ระบบ แสดงออกถึงความภาคภูมิใจอย่างน้อย ๑ งาน/เดือน
โสตทัศนศึกษา และติดเครื่องปรับอากาศ) ปรับปรุงห้อง เช่น งานพัฒนา รร.ชุมพลฯ การเข้าร่วมกิจกรรมและกีฬา
ี
ประกอบอาหารและโรงอาหาร โต๊ะอาหาร ผ้าปูโต๊ะ และ ต่าง ๆ การให้ นรจ. ท่มีความสามารถพิเศษ เช่น แฟนซีดริล
ี
ี
จัดหาเก้าอ้ใหม่ การสร้างสถานท่พบญาติ การสร้างหอ กลองยาว ไปแสดงในงานต่าง ๆ
ื
ั
ั
เกียรติยศ การน�าอาวุธยุทโธปกรณ์มาต้งแสดงในพ้นท ี ่ ๓. มีการปรบปรุงพัฒนาคุณภาพชีวตให้กับ นรจ.
ิ
ั
ื
ิ
ั
�
ื
ท้งเรือ และเคร่องบิน (ตามแนวคิดคือ ให้มีท้ง เรือ เคร่อง อย่างน้อย ๑ อย่าง/เดือน เช่น การจัดหาส่งอานวย
ึ
ั
้
�
ื
บิน และรถถัง เพ่อให้ครบสาขาการปฏิบัติการท้งในนา ความสะดวกภายในอาคารกราบพักซ่งเป็นการร่วมคิด
อากาศ และพื้นดิน หรือน�้า ฟ้า ฝั่ง) อาวุธยุทโธปกรณ์ ของผู้บังคับบัญชา และ นรจ. หรือตามที่ นรจ. เสนอ
่
ั
ตาง ๆ ได้ถูกเกบไวในคลงหรอหองเกบของ ไดนามาจดตง ๔. จัดให้ นรจ.ช้นปีท่ ๒ ได้ปกครองดูแล นรจ.ช้นปีท ี ่
ื
้
ั
ั
้
็
�
ั
้
้
ั
ี
็
ี
ไว้เป็นสัญลักษณ์พรรค-เหล่าของ นรจ. ท่บริเวณข้าง ๑ ในการแนะน�าเรื่องต่าง ๆ เช่น การปฏิบัติตัว ระเบียบ
�
ลานสวนสนามคือ พังงาแทนพรรคนาวินเหล่าสามัญ วินัย/การถ่ายทอดความรู้/การให้คาปรึกษา อย่างน้อย
ปืนขนาดต่าง ๆ แทนพรรคนาวินเหล่าปืนและเหล่า ในอัตราส่วน ๑ : ๒ และให้ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ บันทึกเรื่องที่
่
ั
สอ.รฝ. ตอร์ปิโดแทนพรรคนาวินเหล่าตอร์ปิโด ทุ่นระเบิด ตนเองได้ปกครองดูแล นรจ.ช้นปีท ๑ อย่างน้อยเดือนละ
ี
แทนพรรคนาวินเหล่าทุ่นระเบิด และใบจักรแทนพรรค - ๑ เรื่อง/คน
ี
เหล่ากลิน ปรับปรุงห้องออกกาลังกาย และการจัดทา ๕. ให้รางวัล นรจ.ช้นปีท่ ๒ ท่มีความใส่ใจการปกครอง
ี
�
ั
�
นาวิกศาสตร์ 53
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๘ การแสดงแฟนซีดริลของนักเรียนจ่า โรงเรียนชุมพลทหารเรือ
ั
ี
ี
�
ดูแล นรจ.ช้นปีท่ ๑ มากท่สุด (ตรวจสอบได้จากการบันทึก ความสาเร็จในชีวิตมาถ่ายทอดประสบการณ์ให้ได้ฟัง
ในข้อ ๔) อย่างน้อย ๑ ครั้ง/เดือน อันจะส่งผลให้เกิดความรู้สึกต้องการเอาเป็นแบบอย่าง
ั
�
ื
๖. ถูกลงทัณฑ์เน่องจากฝ่าฝืนข้อปฏิบัติ และข้อห้าม และเป็นบทเรียน นอกจากน้นยังจะทาให้มีอุดมการณ์
ต่าง ๆ ตามที่ก�าหนด ไม่เกินร้อยละ ๕ ในแต่ละภาค มีเป้าหมายชีวิตในการรับราชการ รู้จักคิดวางแผนชีวิต
ั
๗. นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ได้รับสิทธิในการปกครองกันเอง ในอนาคตตนเองได้ ในข้นท่ ๔ น้ ใช้เวลาประมาณ ๖ เดือน
ี
ี
�
โดยมีครูปกครองท�าหน้าที่คอยชี้แนะ ในช่วงช้นปีท่ ๒ ภาคการศึกษาท่ ๒ ไปจนสาเร็จการศึกษา
ั
ี
ี
ี
ั
�
๘. นรจ.ช้นปีท่ ๒ สามารถจัดงานราตรีสองสมอได้เอง โดยมีการดาเนินการ เช่น เชิญเสมียนทูต ผู้พิพากษา
�
ี
ี
ึ
็
�
จนสาเรจลล่วง โดยมครปกครองคอยให้คาปรกษาและ นักธุรกิจ และรุ่นพ่ท่ไปอยู่หน่วยต่าง ๆ มาบรรยาย
ุ
ี
ู
ื
แนะน�า การบรรยายในหัวข้ออุดมการณ์ของทหาร เพ่อให้เกิดความ
เข้าใจและซาบซ้งในอุดมการณ์ทหาร ได้แก่ ๑) มีความ
ึ
ี
ข้นท่ ๔ “การสร้างอุดมการณ์ในการรับราชการ จงรักภักดีต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
ั
ในกองทัพเรือ” เพื่อให้ได้รับรู้ รับทราบการด�าเนินชีวิต ๒) มีความเสียสละ ๓) มีความรับผิดชอบต่อหน้าท่ ๔)
ี
รับราชการในกองทัพเรือจากชีวิตจริงและประสบการณ์ มีความพอเพียงในตนเอง ๕) มีความสามัคคีในหมู่ทหาร
ี
ี
ื
ี
จริงโดยตรง โดยหาตัวอย่างของบุคคลที่ชีวิตรับราชการ และให้ชมภาพยนตร์ท่เก่ยวกับทหารท่เสียสละเพ่อ
ก้าวหน้าและที่รับราชการไม่ก้าวหน้า รวมทั้งผู้ที่ประสบ ประเทศชาติและประชาชน ตัวชี้วัด ในขั้นที่ ๔ ได้แก่
นาวิกศาสตร์ 54
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
๑. ผ่านเกณฑ์การทดสอบสมรรถภาพร่างกาย ได้แก่ เฉพาะที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. (บนบก) นอกจากนี้ ยังได้
ิ
๑) ว่ง ๒,๗๐๐ เมตร ใช้เวลาไม่เกิน ๑๓.๕๙ นาที ๒) ดึงข้อ สร้างเหล็กในคนอีกแนวทางหนึ่ง คือ การฝึกภาคปฏิบัติ
ี
�
ไม่น้อยกว่า ๘ ครั้ง ๓) ลุก-นั่ง ไม่น้อยกว่า ๔๔ ครั้ง และ ใช้การในทะเลของ นรจ. ประจาปี (ดูภาพท่ ๙ คู่มือบันทึก
๔) ดันพื้น ไม่น้อยกว่า ๔๔ ครั้ง การฝึกภาคปฏิบัติใช้การในทะเลของ นรจ.) ซ่งมีระยะเวลา
ึ
๒. มีการอบรมหัวข้อเกี่ยวกับ “อุดมการณ์ทหาร” ประมาณ ๓๐ วัน เป็นการสร้างเหล็กในคนตามวิถีทาง
ื
อย่างน้อย ๔ ครั้ง ของทหารเรอที่ประเทศมหาอานาจทางทะเลในอดีต
�
ั
ี
๓. มีการอบรมหัวข้อเก่ยวกับ “เป้าหมายชีวิต” อย่าง สเปน โปรตุเกส ฝร่งเศส และอังกฤษ ก็ได้ปฏิบัติมา
ี
อย่างน้อย ๔ ครั้ง เช่นเดียวกัน โดยเฉพาะผู้ท่ทหารเรือรู้จักกันดี ก็คือ
๔. มีการอบรมหัวข้อเกี่ยวกับ “ประวัติศาสตร์ชาติ ลอร์ด เนลสน แห่งราชนาวีอังกฤษ ผู้ท่เป็นต้นกาเนิด
ี
ั
�
ไทยประวัติบุคคลส�าคัญ หรือประวัติการรบต่าง ๆ ของ หลักนิยมการรบทางเรือ “Crossing the T” ได้สมัคร
ทหารเรือ” อย่างน้อย ๔ ครั้ง เข้าเป็นทหารเรือตั้งแต่อายุ ๑๒ ปี ได้ท�าสงครามทางเรือ
๕. มีผลสอบของ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ เกี่ยวกับบทบาท เกือบตลอดชีวิตการรับราชการ แม้จะสูญเสียแขนและ
หน้าที่ของทหาร อยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก ไม่ต�่ากว่าร้อยละ ดวงตาแต่ก็ยังรักอาชีพน้จนเสียชีวิตจากการรบทางเรือ
ี
๘๐ ของ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ในวาระสุดท้าย หรือถ้าได้ดูภาพยนต์เร่อง “Master and
ื
ี
๖. ผลการสอบ (แบบอัตนัย) เก่ยวกับอุดมการณ์ Commander : The Far Side of the World”
และเป้าหมายชีวิตในการรับราชการ ของ นรจ.ชั้นปีที่ ๒ เป็นเร่องราวของสงครามเรือใบระหว่างราชนาวีอังกฤษ
ื
อยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก ไม่ต�่ากว่าร้อยละ ๘๐ ของ นรจ. กับฝร่งเศส (ราวปี ค.ศ.๑๘๐๕) จะได้เห็นนักเรียนนายเรือ
ั
ชั้นปีที่ ๒ ทั้งหมด ฮอลลอม, ลอร์ด เบล็คเนย์ และเพ่อน ฝึกทาการใน
ื
�
ื
ั
๗. มีผลการประเมินความพึงพอใจของผู้บังคับ เรือใบต้งแต่เด็กเพ่อสร้างให้เป็นลูกเรือ นายเรือ และ
ี
บัญชาที่มีต่อ นรจ. ทั้งหมด อยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก ผู้บังคับการเรือท่ดีในอนาคต จึงนับเป็นตัวอย่างการสร้าง
๘. ถูกลงทัณฑ์เน่องจากฝ่าฝืนข้อปฏิบัติ และข้อห้าม เหล็กในคนที่ควรศึกษาได้อีกแนวทางหนึ่ง ในภาพยนตร์
ื
ต่าง ๆ ตามที่ก�าหนด ไม่เกินร้อยละ ๕ ในแต่ละภาค ยังกล่าวถึง “โจ เพลส” หรือ “เฒ่าทะเลหรือทหารเรือ
ั
ี
ี
๙. มีผลประเมินความพึงพอใจของหน่วยงานท่มีต่อ ช้นลายคราม” อยู่ในเร่องด้วย ซ่งจะได้กล่าวเก่ยวกับ
ื
ึ
จ่าตรีจบใหม่ อยู่ในเกณฑ์ดี - ดีมาก ทหารเรือลายครามต่อไปในการฝึกภาคทะเลของ นนร.
่
ี
้
ั
๑๐. นรจ.ชนปีท ๒ ทุกนาย ได้รบการแนะนา การฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเลของ นรจ.
�
ั
ั
�
แนวทางการดาเนินชีวิตเป็นรายบุคคลจากผู้บังคับบัญชา รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. หรือเรียกส้น ๆ ว่า “การฝึกภาคทะเล” ได้
ของ รร.ชุมพลฯ คนใดคนหนึ่ง คนละ ๑ ครั้ง ซึ่งผู้เขียน จัดตั้งเป็นหมู่เรือฝึกนักเรียนจ่า (มฝ.นรจ.) ประกอบด้วย
ได้บรรยายในหัวข้อ “ชีวิต (น่าจะ) ออกแบบได้ (บ้าง)” เรือฝึกประมาณ ๔ - ๕ ลา พ้นท่ฝึกใช้พ้นท่อ่าวไทย มีเส้นทาง
ี
ื
ี
ื
�
โดยมีสาระส�าคัญคือ ตั้งจุดมั่งหมาย (Objective) ให้ เดินเรือ ปกติจะออกจากฐานทัพเรือสัตหีบไปภาค
โอกาส (Opportunity) สร้างทัศนคติท่ดี (Attitude) ตะวันออก เช่น เกาะช้าง จังหวัดตราด ประจวบคีรีขันธ์
ี
และมีวินัย (Discipline) หรือ “OOAD” เพื่อให้รู้จัก หรือชุมพร เกาะสมุย ฐานทัพเรือสงขลา และย้อนกลับ
�
ื
ี
ั
การดาเนินชีวิตต้งแต่การเข้ามาเป็น นรจ. จนกระท่งเกษียณ มาท่ฐานทัพเรอสัตหีบ หัวข้อวิชาในการฝึก เป็นการนา
�
ั
ี
ึ
ี
อายุราชการ ซ่งได้เขียนเป็นบทความลงในนาวิกศาสตร์ ความรู้ท่ได้เรียนในภาคทฤษฎี และภาคปฏิบัติท่โรงเรียน
แล้ว ไปใช้ฝึกปฏิบัติในเรือ เช่น วิชาการอาวุธ วิชาการเรือ
จากที่กล่าวมาเป็นการสร้างเหล็กในคนให้กับ นรจ. วิชาการเดินเรือ วิชาการกล และวิชาการสื่อสาร รวมทั้ง
นาวิกศาสตร์ 55
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ี
วิชาเดินเรือ และการเรือปฏิบัติท่ได้ศึกษาใน รร.ชุมพลฯ
�
�
ยศ.ทร. ได้ให้เรือแต่ละลากาหนดให้ นรจ.ทุกคนได้
ปฏิบัติด้วยตนเอง เช่น การถือท้ายเรือใหญ่ การเข้า
�
้
ิ
ิ
ั
หน้าท่ยามตรวจการณ์ ด่งทราย ด่งนาตื้น ท้งน้ก็เคยม ี
ี
ี
ผู้ทักท้วงว่านาวิกโยธิน หรือขนส่ง หรือต่อสู้อากาศยาน
�
และรักษาฝั่ง ไม่ได้ทางานในเรือ จะฝึกถือท้ายเรือใหญ่
�
เข้ายามตรวจการณ์ ไปทาไม? ผู้เขียนได้ให้ความเห็นว่า
ื
ื
เม่อแต่งเคร่องแบบทหารเรือแล้ว จะต้องมีประสบการณ์
็
่
ี
ตรงเกยวกบทหารเรอ เปนการสรางความภาคภมใจใหกบ
้
ู
้
ื
ั
ิ
ั
ตัวเขาเอง เช่น เมื่อมีคนถามว่า “ทหารเรือถือท้ายเรือรบ
เป็นอย่างไร เหมือนกับการขับรถหรือไม่? ทาอย่างไร?
�
ั
ี
�
จึงจะถือท้ายเรือได้ตรงกับเข็มเรือท่ผู้นาเรือได้ส่งการ
ี
�
ื
(โดยเฉพาะขณะท่คล่นลมแรง)” หรือคาถามว่า “เห็น
เรือเล็ก ๑ ล�า ทางหัวเรือขวา ประมาณ ๔ ปอยท์” แสดงว่า
เรือเล็กอยู่ด้านไหนของเรือ การตอบว่าผมเป็นนาวิกโยธิน
ไม่เคยถือท้ายเรือใหญ่เลย หรือถือท้ายเรือใหญ่ไม่เป็น
หรือไม่เข้าใจว่า ๔ ปอยท์ คืออะไร ทิศไหน เคยแต่ได้ยิน
กับการตอบว่าเคยถือท้ายเรือใหญ่มาแล้ว รู้สึกดีมาก เวลา
จะให้เรือเลี้ยวซ้ายหรือเลี้ยวขวา ต้องท�าอย่างไร อาการ
เรือเป็นอย่างไร? หรือ ๔ ปอยท์ คือ ทิศประมาณ ๔๕
ี
ภาพที่ ๙ คู่มือบันทึกการฝึกภาคปฏิบัติใช้การในทะเลของ องศาจากหัวเรือ ตามความรู้ท่ถ่ายทอดกันมาทหารเรือ
ี
ั
นักเรียนจ่า จะแบ่งเข็มทิศท่มี ๓๖๐ องศา ออกเป็น ๓๒ ปอยต์ ดังน้น
ี
๑ ปอยท์ ก็จะประมาณ ๑๑.๒๕ องศา (ดูภาพท่ ๑๐
ื
ี
การฝึกท่ต้องปฏิบัติเม่ออยู่ในเรือ (การฝึกสถานีต่าง ๆ) การแบ่งทิศของทหารเรือ) การเข้ายามเครื่องสั่งจักรเพื่อ
เช่น การฝึกรับ - ส่งส่งของในทะเล การฝึกพ่วงจูง การฝึก บงคับใหเรือเดนหนาหรือถอยหลังทาอย่างไร ไดเห็นภาพ
�
้
้
ิ
้
ิ
ั
ี
ั
ั
้
ื
ื
�
้
เกบคนตกนาด้วยเรอใหญ่ ทงนสาหรบ นรจ. ว่าบนสะพานเดินเรือมีเคร่องมือเคร่องใช้อะไรบ้าง? ได้ม ี
็
ื
�
้
ี
ื
ั
ช้นปีท่ ๑ พรรค-เหล่าท่เม่อจบการศึกษาแล้วไม่ได้ โอกาสเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีของทหารเรือด้วย
ี
ปฏิบัติงานในเรือ เช่น พรรคนาวิกโยธิน พรรคนาวิน ตนเองจากประสบการณ์จริง เช่น การเป่านกหวีดเรือใน
เหล่าทหารสารวัตร เหล่าทหารขนส่ง และเหล่าต่อสู้ สถานีต่าง ๆ การแสดงความเคารพระหว่างเรือ การขานตอบ
อากาศยานและรักษาฝั่ง ก็จะมีโอกาสได้ฝึกภาคทะเลด้วย ระหว่างเรือเล็กเรือใหญ่ รวมท้งได้มีโอกาสสัมผัสคล่นลม
ั
ื
ื
ิ
ี
�
ซ่งเป็นเร่องท่สาคัญอย่างย่ง เพราะพวกเขาเหล่าน้เม่อได้ ในทะเล (อาการเมาคล่น) และได้ไปทัศนศึกษาท่าเรือ
ื
ี
ึ
ื
ื
ช่อว่าเป็นทหารเรือแล้ว จะต้องได้ฝึกในเรือสักคร้งหน่ง และเกาะต่าง ๆ ในอ่าวไทย ได้เห็นเรือประมง เรือสินค้า
ึ
ั
ี
ื
ิ
ในชีวิต เพ่อให้รู้ว่าการใช้ชีวิตในเรือเป็นอย่างไรบ้าง จะได้ ว่งในทะเล ได้เห็นแท่นขุดเจาะท่มีเป็นร้อย ๆ แท่นใน
เป็นประสบการณ์ตรง และสามารถถ่ายทอดหรือไปเล่าให้ อ่าวไทย จะเป็นประสบการณ์ท่ดีสาหรับพวกเขาต่อไป
ี
�
รุ่นน้อง หรือครอบครัว หรือประชาชนฟังได้ โดยเฉพาะ ในอนาคต
นาวิกศาสตร์ 56
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๑๐ การแบ่งทิศของทหารเรือ
ั
ี
ื
การฝึกระหว่างท่เรือจอดอยู่ท่ฐานทัพเรือสัตหีบ ก ็ รู้สึกรักทะเล รักอาชีพทหารเรือ คร้นเม่อได้แนวทางแล้ว
ี
ื
ี
็
จะมการฝึกความอดทนเพ่อสร้างเหลกในคนให้ นรจ. จึงได้เชิญผู้บังคับการเรือ ต้นเรือ ต้นกล และนายทหาร
ได้แก่ การฝึกวิ่งทน การตีกระเชียงทน การว่ายน�้าทะเล ประจาเรือ มาร่วมประชุมกับ มฝ.นรจ. เพ่อปรับปรุง
ื
�
ิ
ี
ี
่
ข้ามเกาะ และก่อนท่เรือจะออกทะเลก็จะมการวง จุดมุ่งหมาย และแนวทางฝึกภาคทะเลใหม่ โดยก�าหนด
ี
ข้นเขาไปท่กระโจมไฟแหลมปู่เจ้า และเม่อว่งถึงครบ จุดมุ่งหมายว่า “เม่อเสร็จส้นการฝึกภาคทะเล นักเรียนจ่า
ิ
ิ
ื
ื
ึ
ทุกคนแล้ว ก็จะมีการสักการะ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ จะต้องเกิดความรู้สึกรักอาชีพทหารเรือ อยากจะปฏิบัต ิ
�
กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ องค์บิดาทหารเรือไทย งานในเรือ” และกาหนดแนวการฝึกใหม่ เช่น ให้เรือ
ิ
�
ั
พร้อมกับร้องเพลงท่ทรงนิพนธ์ไว้ โดยในสมัยก่อนน้น แต่ละลาคัดเลือก และแต่งต้งกาลังพลประจาเรือเป็น
�
�
ั
ี
จะร้อง ๒ เพลง ได้แก่ เพลงเดินหน้ากับเพลงดอกประดู่ ครูปกครอง นรจ. จานวนหน่ง โดยครูปกครองมีสิทธ ิ
�
ึ
�
ี
ื
�
�
ตอนหลังน้ร้องเพลงดาบของชาติ เพ่มอีก ๑ เพลง ทาโทษ นรจ. ได้ สาหรับกาลังพลประจาเรือคนอ่น ๆ
ิ
�
ื
ี
ผู้เขียนมีเร่องท่จะเล่าเก่ยวกับการฝึกภาคทะเลให้ฟัง ไม่มีสิทธิในการลงโทษ ยกเว้น นรจ. ท�าความผิดซึ่งหน้า
ี
�
ื
ี
อีกเรื่องหนึ่งคือ ได้อ่านคู่มือบันทึก ฯ ฝึกภาคทะเลของ และการลงโทษต้องลงโทษเม่อมีการกระทาผิดท่ชัดเจน
ึ
นรจ. บางคนแล้ว ทราบว่ามีส่วนหน่งไม่อยากจะฝึก เช่น สมัยก่อนการแถวเวลา ๐๖๐๐ ผู้ที่มาแถวก่อนจะถูก
ภาคทะเล โดยบันทึกว่า “ฝึกแล้วไม่ได้อะไรมาก ได้แต่ ก�าลังพลประจ�าเรือสั่งให้กอดคอลุกนั่ง หรือยึดพื้น หรือ
ถูกลงโทษเป็นหลัก” ท�าให้ นาวาเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม อื่น ๆ เพื่อรอเพื่อน ๆ มาแถวจนครบ การปฏิบัติอย่างนี้
�
ิ
่
ุ
ั
ผบ.รร.ชมพลฯ ยศ.ทร. (ขณะน้น) ดารวาทาอยางไรจะให ้ ถือว่าเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง เพราะ นรจ. ที่มาแถวก่อนคือ
่
�
์
ี
ี
นรจ. ไดประโยชนจากการฝกภาคทะเล ฝึกจบแลวเกดความ ผู้ท่ปฏิบัติตามเวลาไม่ได้ทาผิด ส่วนผู้ท่ยังไม่มาก็ยังไม่ม ี
้
�
้
ิ
ึ
รู้สึกรักชีวิตการอยู่เรือ หรืออยากปฏิบัติงานในเรือรบ ความผิดเพราะยังไม่ถึงเวลา ๐๖๐๐ ผู้ท่ทาผิดและต้อง
ี
�
นาวิกศาสตร์ 57
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ี
ถูกลงโทษคือ ผู้ท่มาแถวเวลา ๐๖๐๐ ไม่ทัน เป็นต้น นรจ. มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษสูงขึ้น คือ ให้มีการสอน
หรือการรับประทานอาหารเวลา ๑๒๐๐ ก็ให้เป็นเวลา พิเศษในช่วงเวลา ๑๖๐๐ – ๑๗๐๐ ของทุกวัน ก�าหนด
ิ
่
ั
ี
้
ี
่
่
�
รบประทานอาหารอยางเดยว ไมใชเวลามาชแจงความผด ให้มีการท่องศัพท์ ๕ คา และประโยคภาษาอังกฤษ ๒
แล้วทาโทษจนถึงเวลา ๑๒๓๐ หรือ ๑๒๔๕ แล้วจึงปล่อย ประโยคทุกวัน ให้มีการจัดแข่งขัน “English Contest”
�
�
ี
�
ี
ให้รับประทานอาหารเท่ยงอย่างเร่งรีบ สาหรับการลงโทษ โดยให้ นรจ. แต่ละภาคได้มีโอกาสนาภาษาอังกฤษท่ท่อง
เป็นส่วนรวม ถ้าจะลงโทษก็คือเวลา ๑๙๐๐ ที่แถวอบรม ทุกวันมาใช้แสดงออก การแข่งขันเปิดดิกชันนารี การ
�
ี
และช้แจงข้อบกพร่องในการปฏิบัติประจาวัน หรือการ แข่งขันต่อศัพท์ (Scrabble) การแสดงออกบนเวที เช่น
�
ึ
ั
ี
ปลุกนักเรียนลุกข้นมาทาโทษในเวลาดึกด่น ท้งท่เป็น การสนทนาในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตามสถานที่ต่าง ๆ ที่
ื
�
เวลานอนของนักเรียน โดยอ้างว่าเป็นการฝึกกาลังใจ ควรรู้ และใช้ในชีวิตประจ�าวัน การร้องเพลงภาษาอังกฤษ
ี
�
ก็ไม่จ�าเป็นต้องท�า ทั้งนี้นายทหารประจ�าเรือจะต้องสอน และการจัด นรจ. ท่อยู่ชมรมดานาเบ้องต้น ทาหน้าท ่ ี
�
ื
�
้
ู
้
ี
ี
ู
้
ี
่
ั
ี
ี
ให้ นรจ. มความรเกยวกบทหารเรือ และความรตามสาขา เป็นผู้ช่วยเหลือนักท่องเท่ยวชาวต่างชาติท่มาเท่ยวท ่ ี
ี
ี
วิชาชีพท่ต้องปฏิบัติงานในเรือให้ได้มากท่สุด สอนให้รู้จัก รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. (พูดภาษาอังกฤษได้จริง) นอกจากน ้ ี
ว่าเวลาไหน ควรท�าอะไร ส�าหรับก�าลังพลเรือประจ�าเรือ ยังมีการจัดกิจกรรมปฎิบัติจิตภาวนาเป็นประจ�า การจัด
ื
ของแต่ละลาน้น มฝ.นรจ. ได้แจ้งว่าได้ให้ นรจ. ในเรือ บรรพชาสามเณรก่อนสาเร็จการศึกษา เพ่อให้ นรจ. มีความร ู้
�
�
ั
�
ั
�
�
ี
ี
�
�
ั
ลาน้นคัดเลือกกาลังพลประจาเรือท่เป็นมืออาชีพ มีความ เก่ยวกับพุทธศาสนา สามารถนาหลักธรรม คาส่งสอน
�
ี
เป็นครู สามารถถ่ายทอดความรู้ และการใช้ชีวิตในเรือท่ด ี ไปใช้ในชีวิตประจาวัน อันจะนาไปสู่ความเป็นคนท่ม ี
�
ี
�
�
ท่สุดจานวน ๒ คนต่อลา เข้ารับรางวัลเป็น “ครูดีเด่นของ คุณธรรม จริยธรรมในตัวเองได้
ี
ื
นรจ.” ในตอนเสร็จส้นการฝึกภาคทะเล เพ่อเป็นการ
ิ
ี
ู
สร้างขวัญกาลังใจ และสร้างความสัมพันธ์ท่ดีระหว่าง การสร้างเหลกในคนในการฝึกภาคทะเลหลกสตร
็
ั
�
กาลังพลประจาเรือและ นรจ. ผลจากการเปล่ยนแปลง นักเรียนนายเรือ
�
�
ี
แนวทางการในการฝึกภาคทะเลครั้งนั้น เมื่อได้อ่านคู่มือ สาหรับการฝึกภาคทะเล (สร้างเหล็กในคน)
�
บันทึกฯ ฝึกภาคทะเลของ นรจ. หลังจากเสร็จสิ้นการฝึก นอกจากจะมีหลักสูตร นรจ. แล้ว ยังมีการฝึกภาคทะเล
ภาคทะเลแล้ว พบว่า นรจ. มีความพึงพอใจ ภาคภูมิใจ ของหลักสูตร นนร. ด้วย โดยในหลักสูตร นนร.
และเกิดความรู้สึกรักอาชีพทหารเรือ รวมท้งอยากปฏิบัต ิ จะมีการฝึกภาคทะเลในช่วงกลางปีการศึกษา ระยะเวลา
ั
งานในเรือเพิ่มมากขึ้น ส�าหรับที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ก็มี การฝึกประมาณ ๓๐ วัน และภาคปลายปีการศึกษา ระยะ
การคัดเลือกครูดีเด่นประจาปี โดยมีการมอบโล่เกียรติยศ เวลาการฝึกประมาณ ๔๕ - ๕๕ วัน เพื่อให้เห็นภาพการฝึก
�
และเงินรางวัลจาก “สมาคมศิษย์เก่าชุมพลทหารเรือ” ภาคทะเลทชัดเจนข้นจงได้ย้อนกลบไปอ่านหนงสอเก่า
ึ
ั
ื
ึ
่
ั
ี
ึ
ี
ื
ที่มีคุณครู พลเรือเอก เทียนชัย มังกร นายกสมาคมฯ เล่มหน่งเม่อ ๓๐ กว่าปีท่แล้ว ก็คือ สมุดจดหมายเหต ุ
�
ี
่
ให้ความกรุณาสนับสนุนมาตั้งแต่ครั้งแรก ประจาตัวนักเรียนนายเรือท่ได้เขยนไว้ระหวางปี พ.ศ.๒๕๓๐
ี
ึ
การสร้างเหล็กในคนอีกด้านหน่ง คือ การเรียนการสอน - พ.ศ.๒๕๓๓ (ดูภาพที่ ๑๑ สมุดจดหมายเหตุประจ�าตัว
วิชาภาษาอังกฤษให้กับ นรจ. โดยก�าหนดจุดมุ่งหมาย ๒ นักเรียนนายเรือ) จึงจะถ่ายทอดประสบการณ์จากในสมุด
ี
อย่างคือ ท�าให้ นรจ. เมื่อจบการศึกษาหลักสูตร ๒ ปีแล้ว จดหมายเหตุเล่มน้เป็นหลัก ซ่งสมุดจดหมายเหตุน้ ข้อ ๑
ึ
ี
ึ
มีคะแนนสอบภาษาอังกฤษ (PT) สูงข้นกว่าตอนเข้ามา ความมุ่งหมายสาคัญ เพ่อเป็นการปลูกฝัง ๑) ความสามารถ
�
ื
�
�
เป็น นรจ. และทาให้ นรจ. สามารถพูดหรือส่อสารภาษา ในการสังเกตและความจา ๒) ความสามารถในการแสดง
ื
อังกฤษเบ้องต้นได้ โดยกาหนดวิธีการสาหรับการทาให้ ความคดเหนและความร้สกลงเป็นลายลกษณ์อกษร ๓)
ื
ั
ิ
�
็
ึ
ู
ั
�
�
นาวิกศาสตร์ 58
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
้
้
นิสัยในความละเอียดและความเรียบร้อย ขอ ๖ ขอความ การฝึกภาคสาธารณะและการฝึกภาคทะเลนักเรียนนาย
ี
ี
ท่จะกล่าวต่อไปน้ เป็นปทัสถานท่จะให้นักเรียนจดลง เรือชั้นปีที่ ๑ (ชั้นใหม่)
ี
้
ี
้
ั
ื
ี
่
�
ั
สมุด คอ (ก) นกเรียนตองเขยนด้วยตนเอง ใชสานวนโวหาร ในสมุดหน้าแรกบันทึกไว้ว่า “วนท ๓๑ มนาคม
ี
ี
ของตนเอง ตามเหตุการณ์เท่าท่ได้รู้เห็น หรือจากการ พ.ศ.๒๕๓๐ เป็นวันแรกของการฝึกภาคสาธารณะและ
ี
ั
่
ึ
ี
ื
้
ั
ิ
ี
พิเคราะห์วิจารณ์ในส่งท่เป็นประโยชน์ และน่าใฝ่ใจ รวมท้ง ฝกภาคทะเลของ นนร.ชนปท ๑ หรอชนใหมของ นนร.
้
ั
่
กิจการที่ส�าคัญ ๆ เท่าที่ได้ปฏิบัติในโรงเรียน,...บรรยาย รุ่นที่ ๘๔ (นักเรียนเตรียมทหารรุ่นที่ ๒๗) โดยมีที่ตั้งที่
ถึงลักษณะภูมิประเทศท่ไป ตลอดจนอุปนิสัยใจคอ รร.นร. จว.สมุทรปราการ ก่อนหน้านั้น นนร.รุ่นที่ ๘๔
ี
ี
ี
ของพลเมืองท่ตนได้พบเห็น อ่าว ท่าเรือ ท่จอดเรือ ป้อม... ได้เข้าเรียนท่โรงเรียนเตรียมทหาร ถ.พระราม ๔
ี
ั
(ข) พฤติการณ์อันน่าใฝ่ใจท้งมวล ข้อ ๗ การจดน้น (สมัยน้นมักเรียกนักเรียนเตรียมทหารว่า “สุภาพบุรุษ
ั
ั
ั
ี
นักเรียนควรเขยนภาพประกอบไปด้วย... เป็นต้นว่า พระราม ๔”) เป็นเวลาประมาณ ๑ ปี ได้ถูกส่งตัว
(ก) แผนที่เส้นทางเดินเรือ (ข) แผนผังการจอดทอดสมอ (ขึ้นเหล่า) ที่ รร.นร. ตั้งแต่เมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม พ.ศ.
ี
ั
ั
(ค) รูปสเกทช์ของต�าบลที่ไป ของฝั่งทะเล ของหัวแหลม ๒๕๓๐ แล้ว” ท้งน้ภาพบางภาพของ รร.นร. สมัยก่อนน้น
ี
ี
�
ของส่งหมายสาคัญในการเข้าอ่าว ..(ง) รูปการ์ตูนท่สุภาพ ไม่เหมือนกับ รร.นร. สมัยน้ท่มีการเปล่ยนแปลงไปมาก
ี
ี
ิ
(มีรถไฟฟ้าว่งผ่านหน้าโรงเรียน) จึงขอเล่าสักนิดหน่อย
ิ
้
ี
่
่
ั
ั
ื
ู่
ั
รร.นร. สมยกอนเหมอนกับตงอยทต่างจงหวัด (บ้านนอก)
แม้จะมีถนน ๔ เลน มีรถเมล์ปรับอากาศและรถเมล์ร้อน
�
้
(จาได้ว่ามีสาย ๒๕ ปากน�า-ท่าช้าง) และรถสองแถว
�
ิ
ี
ั
ี
สแดงวงผ่าน วธสงเกตถ้านงรถจากบางนาผ่านสาโรง
ั
ิ
่
่
ื
่
ี
ี
่
�
ี
ื
เมอมาใกล้ รร.นร. มสถานทจะต้องจาเพอเตรยมตัว
่
ลงรถเมล์คือ วัดบางนางเกรงอยู่ทางขวามือ พอสังเกต
เห็นรั้วที่เป็นก�าแพงสีขาวขนาดใหญ่ (ก�าแพงป้อม) และ
หลังคาตึกสีแดง นั่นก็คือที่หมาย รร.นร. ให้ลงรถเมล์ได้
ี
สาหรับประตูเข้า-ออกด้านหน้าท่ติดกับถนนใหญ่มีเพียง
�
ประตูเดียว (ปัจจุบันมี ๒ ประตู) เม่อเข้าประตูแล้ว
ื
ก็ไปสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หว รัชกาลท ๕ พร้อมกับปฏิญาณ
่
ี
ั
ู
ว่า “ข้าพระพุทธเจ้า จะรักษามรดกของพระองค์ท่าน
ึ
ี
ั
�
ไว้ด้วยชีวิต” ซ่งคาปฏิญาณน้ได้ปฏิญาณต้งแต่เป็นนักเรียน
เตรียมทหารต่อหน้าพระบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาลท่ ๕
ี
ภาพที่ ๑๑ สมุดจดหมายเหตุประจ�าตัวนักเรียนนายเรือ
ี
(หน้าตึก Y) ส่วนท่ด้านหลังของบรมราชานุสาวรีย์ รัชกาล
ี
ี
โรงเรียนนายเรือ (รร.นร.) ได้แจกจ่ายสมุดจดหมายเหต ุ ที่ ๕ ท่ รร.นร.จะมีพระราชหัตถเลขาท่อยู่ในสมุดเย่ยม
ี
ั
�
ั
ี
ประจาตัว นนร. ให้กับ นนร. ทุกนายต้งแต่ช้นปีท่ ๑ โรงเรียนนายเรือ ความว่า “เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน
ี
และให้ใช้จนถึงชั้นปีที่ ๕ ส�าหรับผู้เขียนได้เริ่มเขียนสมุด รศ.๑๒๕ เราจุฬาลงกรณ์ ปร. ได้มาเปิดโรงเรียนน้ มีความ
จดหมายเหตุตั้งแต่การฝึกภาคทะเลของ นนร.ชั้นปีที่ ๑ ปล้มใจ ซ่งได้เหนการทหารเรือมีรากหย่งลงแล้ว จะเป็น
ึ
ั
ื
ื
จนถึงชั้นปีที่ ๕ รวมทั้งหมด ๘ ภาค ที่มั่นสืบไปในภายน่า” สาหรับป้ายช่อโรงเรียนปัจจุบันก ็
�
นาวิกศาสตร์ 59
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
�
ี
ปรับปรุงใหม่แล้ว อาคารเรียน อาคารนอน สนามรักบ ้ ี ปืนกล ๒๐ มิลลิเมตร เออริคอนแท่นเด่ยว ใช้พลประจาปืน
�
ฟุตบอล สนามฟุตบอล โรงพละศึกษา สระว่ายนายังคงอย ู่ ๒ นาย โดยจะต้องท่องหน้าที่ประจ�าปืนต�าแหน่งต่าง ๆ
้
�
ี
�
ี
แต่ก็มีการเปล่ยนแปลงไปตามยุคสมัย หอดาราศาสตร์ และหมุนเวียนทาหน้าท่ประจาปืนสลับกันไป วิชาการเรือ
ื
็
่
่
้
ยังโดดเด่นเป็นสง่าอยู่เหมือนเดิม อนุสรณ์สถานเรือธนบุร ี ไดแก วชาเชือกเลกและเชอกใหญ เชน การผกกะ ผกหกคอ
ิ
่
ู
ู
ั
เมอก่อนอยหน้าอาคารนอนตรงสนามรกบด้านโรงอาหาร ผูกเจ็ก ผูกถังตั้ง ผูกตระกรุดเบ็ด เป็นต้น (ดูภาพที่ ๑๒
ู
่
่
้
ี
ื
ั
ื
ได้ถูกย้ายมาอยู่ใกล้กับหอดาราศาสตร์ สมัยก่อนในเวลา ตัวอย่างเง่อนผูกเชือกของทหารเรือ) วิชาชักหย่อนเรือเล็ก
ี
ี
ั
ั
กลางคืน นนร.ช้นปีท่ ๑ และ ๒ มักจะถูกรุ่นพ่ส่งให้เข้าไป ซึ่งมีค�าแปลกๆ เป็นศัพท์เฉพาะทหารเรือ เช่น หลักเดวิส
ื
ในเรือแล้วไปหาช่อผู้เสียชีวิตท่มีรูปภาพติดต้งอยู่ในเรือ บาระตูรอกตน บาระตูคอรอก และเฉาะ เป็นต้น แรก ๆ
ั
ี
�
โดยบอกว่าเป็นการฝึกขวัญกาลังใจ ท่หน้าโรงอาหารจะม ี ก็ไม่เข้าใจว่าคืออะไร แต่พอเรียนไปฝึกไปสักพัก ก็จะเข้าใจ
ี
ั
�
้
ี
บ่อนาอยู่ ๑ บ่อ สมัยน้น นนร.จะเรียกบ่อนาน้ว่า “บ่อเห้ย” และปฏิบัติได้ถูกต้อง
�
ี
้
อาจจะเพราะมีตัวเงินตัวทองอาศัยอยู่ในบ่อด้วย นักกีฬา
ี
ั
ี
โดยเฉพาะนักรักบ้ถูกรุ่นพ่ส่งให้โดดลงบ่อเพ่อล้างตัวก่อน
ื
เข้าโรงอาหารเป็นประจา ปัจจุบันบ่อนาน้ก็ไม่มีแล้ว ใกล้กับ
ี
�
�
้
ี
อนุสรณ์สถานเรือธนบุรีจะมีสโมสรสัญญาบัตรเก่า ท่ นนร.
�
ั
ช้นปีท่ ๒ ต้องไปเข้ายาม ตลอดเวลา ๒ ช่วโมงในเวลาคาคืน
่
ั
ี
ี
ุ
ี
�
้
่
ี
ั
จาไดว่ามแตความเงยบสงด และมยงเยอะมาก (จะแอบหลับ ผูกเจ็ก
ื
ก็ไม่ได้) และจะมีช่วงเวลารู้สึกดีใจมากเม่อได้ยินเสียง
ั
จักรยานของจ่ายาม (นนร.ช้นปีท่ ๓) หรือผู้ช่วยนายทหารยาม
ี
ั
ี
(นนร.ช้นปีท่ ๔) หรือนายทหารยาม (นนร.ช้นปีท่ ๕) มาตรวจ
ั
ี
ท่สโมสร มีส่งหน่งท่ผู้เขียนยังจาได้ไม่ลืมก็คือ มีรูปภาพ
�
ี
ี
ิ
ึ
ขนาดใหญ่ของเจ้าสมุทร (โพไซดอน) อยู่ในสโมสรด้วย
ต่อมาเมื่อรื้อสโมสรแล้วก็หายไป เมื่อครั้งอยู่ รร.ชุมพลฯ
ยศ.ทร. จึงได้เสนอให้ นาวาเอก วิฉนุ ถูปาอ่าง รองผู้บังคับการ ผูกถังตั้ง
รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ขณะนั้นรับผิดชอบในการปรับปรุง
สโมสรสัญญาบัตร (สโมสรเพชรเกล็ดแก้ว) ให้วาดภาพ
เจ้าสมุทรไว้ที่ด้านในสโมสรด้วย ซึ่งเรื่องเจ้าสมุทรนี้จะได้
เล่าต่อไปในการฝึกภาคทะเลของ นนร. ในพิธีข้ามเส้น
อีเควเตอร์หรือเส้นศูนย์สูตร
การฝึกภาคทะเลตลอดระยะเวลา ๒๑ วัน มีการฝึก หักคอชั้นเดียว
ี
ต่าง ๆ (สร้างเหล็กในคน) ท่ให้ทั้งความรู้วิทยาการทหารเรือ
ความเป็นชาวเรือ ความเป็นผู้ตาม และความเป็นผู้นา
�
ซ่งจากสมุดจดหมายเหตุแทบไม่น่าเช่อว่าจะมีมากมาย
ื
ึ
�
ี
หลายอย่าง สามารถนามาเรียบเรียงใหม่ ดังน้ วิชาการอาวุธ
้
�
ั
ิ
ื
ื
ทงปน ๗๖/๕๐ มลลเมตร แบบ ๙๓ ใชพลประจาปน ๘ นาย ผูกตระกรุดเบ็ดสองชั้น
้
ิ
�
ปืน ๔๐/๖๐ มิลลิเมตร ใช้พลประจาปืน ๕ นาย และ ภาพที่ ๑๒ ตัวอย่างเงื่อนผูกเชือกของทหารเรือ
นาวิกศาสตร์ 60
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๑๓ ดิ่งทรายและดิ่งน�้าตื้น
�
วิชานกหวีดเรือ วิชาการถือท้ายเรือใหญ่ วิชาการ วิชาขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ เช่น การทา
ั
ปฏิบัติตัวในเรือใหญ่ วิชาธงสองมือ (ท้งไทยและสากล) ความเคารพท้ายเรือ เป็นประเพณีสืบมาจากสมัยโรมัน
ั
ึ
ั
ื
ี
้
ั
วิชาร้อยรอก (ใช้เชือกร้อยรอก) ซ่งรอกในเรือมีท้งหมด ในสมยนนดาดฟ้าท้ายเรอมักจะสร้างห้องอย่างประณต
�
�
๕ ชนิด ได้แก่ รอกธรรมดา รอกตีน (ช่อแปลกอีกละ) สวยงาม สาหรับประดิษฐานรูปปั้นจาลองของเทวรูป
ื
ิ
ิ
ี
รอกกล รอกบุเลย์ และรอกแม่เหล็ก วิชาดิ่งทราย ใช้ดิ่ง ศักด์สิทธ์ จัดเป็นห้องผู้บังคับการเรือ และท่อยู่ของ
�
ึ
�
ี
ผูกติดกับปลายเชือกแล้วเหว่ยงข้นจากเรือไปบนฝั่งขณะท ี ่ นายทหารประจาเรือ จึงถือว่าเป็นตอนท่สาคัญ และได้รับ
ี
ื
เรือจะเทียบท่า วิชาดงนาต้น (ดูภาพท่ ๑๓ ด่งทรายและ เกียรติสูงสุดของเรือ เม่อผู้ใดข้นมาบนเรือจะต้องทาความ
ิ
�
�
ื
ึ
่
้
ิ
ี
ดิ่งน�้าตื้น) ใช้สาหรับวัดความลึกนาสาหรับนาเรือเข้า เคารพท้ายเรือก่อนเสมอ ปัจจุบันนี้ขณะเรือจอดให้ชักธง
�
้
�
�
�
ื
้
ิ
ี
๊
ื
ั
ื
่
�
ี
ี
ทอดสมอ แม้ว่าปัจจุบันจะมีเคร่องหย่งนาอิเล็กทรอนิกส์ ราชนาวขนทเสาทายเรอ (เวลาเรอเดนชกธงราชนาวทกาฟ
้
ี
่
ั
ึ
้
ั
�
ิ
ื
้
แต่ด่งนาต้นก็ยังใช้อยู่ในเรือรบ วิชาการสมอเรือ ท้งแบบ ของเสากลางลา) ส่วนส่งศักด์สิทธ์น้นทหารเรือไทยได้ใช้
ิ
ั
�
ิ
ิ
มีกะสมอ และไม่มีกะสมอ และเครื่องประกอบในการ พระพุทธรูปแทน การทาความเคารพท้ายเรือจึงถือว่าให้
�
ิ
ท้งสมอ เช่น โซ่สมอ สเกล กุญแจกล ปากจับ เคร่องห้ามโซ่ ความเคารพแก่สถานท่ และธงราชนาวีด้วย การถามตอบใน
ื
ี
กว้าน และทุ่นสมอ เป็นต้น เวลากลางคืน ใช้การตะโกนถามด้วยคาว่า “โบ๊ต...อะฮ้อย”
�
นาวิกศาสตร์ 61
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
�
�
ส่วนการขานตอบมีหลายคาตอบ เช่น “อาย อาย หมายถึง เตรียมเอาไว้ให้ตอนสร้างเรือสาหรับชาวเรือทุกคน การแต่ง
ื
�
มีนายทหารสัญญาบัตรมากับเรือเล็ก” “โน โน หมายถึง เคร่องแบบทหารเรือ ผ้าผูกคอดาชุดกะลาสี ในสมัย
�
ไม่มีนายทหารสัญญาบัตรมากับเรือเล็ก” ถ้าตอบว่า โบราณกะลาสีเรือนิยมใช้ผ้าเช็ดหน้าผูกคอสาหรับเช็ด
“อ่างทอง หมายถึง ผู้บังคับการเรือหลวงอ่างทองมากับ เหงื่อไคล ต่อมาจึงดัดแปลงเป็นผ้าผูกคอด�าผูกเป็นเงื่อน
เรือเล็ก” เป็นต้น การใช้นกหวีดเรือ ส�าหรับนายทหาร ให้เรียบร้อย และเมื่อ ลอร์ด เนลสัน แม่ทัพเรืออังกฤษ
ั
ึ
สัญญาบัตรข้นเรือและลงเรือ หรือการตระฆงบอกเวลา ผู้มีชื่อเสียงถึงแก่กรรม ในยุทธนาวีที่ทราฟัลกา เมื่อ ค.ศ.
ี
�
�
ั
เป็นคู่ (ไม่เกิน ๔ คู่ หรือ ๘ ครั้ง) ถ้าเกิน ๘ ครั้ง สมัยนั้น ๑๘๐๕ ราชนาวีอังกฤษได้รับคาส่งให้ใช้ผ้าผูกคอสีดา
ื
ื
ื
ได้เล่าต่อกันมาว่าจะถูกผีเส้อสมุทรจับเอาไปกินหรือ เป็นเคร่องหมายแสดงการไว้ทุกข์ และใช้เร่อยมาจนกลาย
ั
�
ทาสามี หรือเล่าว่าทุกปีจะต้องส่งมนุษย์ไปสังเวยแก่ เป็นประเพณีของทหารเรือท่วโลก และปรับเป็นการใช้
ั
มังกรไฟซ่งเป็นเจ้าทะเลอยู่ในขณะน้น โดยมังกรไฟจะ ผ้าพันคอ (Scarf) หรือเนคไท (Tie) ด�าไปด้วย และยังมี
ึ
ึ
ี
ข้นมาเลือกคนเอาเอง เม่อถึงกาหนดเจ้าเมืองจะจัดเรือส่ง เร่องเก่ยวกับขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือท่น่า
ื
ี
�
ื
ื
ั
ไปหนึ่งล�า เมื่อเรือไปถึงบริเวณถ�้ามังกรไฟ ได้ท�าพิธีเชิญ สนใจอีกหลายเร่องสามารถหาอ่านได้ท่วไป วิชาการ
ั
�
มังกรไฟข้นมา มังกรไฟได้เลือกเอาตัวนายเรือลาน้น ปฐมพยาบาลและการช่วยชีวิต ในสมุดจดหมายเหต ุ
ึ
ี
ิ
ื
ื
นายเรือจึงขอผลัดไว้ว่าจะยอมให้กินเม่อตีระฆัง ๙ คร้ง บนทกไว้ว่า ห่นทใช้ฝึกปั๊มหวใจเพอช่วยชวตมชอว่า
ั
่
ุ
ึ
ี
ั
ี
ั
ื
่
่
มังกรไฟก็ยอม และลงไปคอยอยู่ในถ�้าใต้บาดาล นายเรือ “Anny” ปัจจุบันไม่รู้ว่า Anny จะยังอยู่หรือเปล่าหรือ
ี
้
ั
ื
ี
ั
ี
่
ู
ผ้น้นจึงคิดเปลยนการตระฆังเรอมาตอย่างมาก ๘ ครง ว่าเกษียณไปแล้ว? การชักสลุตธง เป็นการแสดงความ
้
ี
่
ั
้
ั
ั
�
ึ
้
ตงแต่นันมามงกรไฟจงต้องนอนคอยจนกระทงบัดน แต่ เคารพของเรือสินค้าต่อเรือรบ การทาความเคารพ
ปัจจุบันถ้าตีเกิน ๔ คู่ ๘ คร้งก็จะถูกลงโทษแทนถูก ระหว่างเรือรบกับเรือรบ โดยเรือช้น ๑ จะใช้แตรเป่า
ั
ั
�
ั
่
ื
ั
ั
มงกรไฟกน พิธีบูชาแม่ย่านางเรือ กระทาเมอเรอจะออก แสดงความเคารพ ส่วนเรือช้น ๒ และช้น ๓ จะใช้
ิ
ื
ทะเลวันแรก ซ่งปกติจะต้งเคร่องเซ่นไหว้ท่สะพาน นกหวีดเรือเป่าแสดงความเคารพ การทดสอบสมรรถภาพ
ี
ื
ึ
ั
ื
ิ
เดินเรือ หัวเรือ ท้ายเรือ และห้องเคร่องจักรใหญ่ วิธีซ่อน ร่างกาย ได้แก่ การวัดส่วนสูงและนาหนัก การว่ง
้
�
ั
ทรัพย์ในเรือ สมยกรกโบราณมประเพณชาวเรอเล่าต่อ ทดสอบในระยะ ๑๐๐ เมตร และ ๔๐๐ เมตร ในสมุด
ี
ี
ื
ี
�
กันมาว่า เวลาสร้างเรือใหม่ข้นมาจะฝังเงินเหรียญไว้ใต้ จดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า “ระยะ ๑๐๐ เมตร ทาเวลา
ึ
เสากระโดงเรือโดยเอาทาง “หัว” ขึ้น ถ้าไม่เช่นนั้นแล้ว ได้ ๑๓.๖ วินาที และระยะ ๔๐๐ เมตร ท�าเวลาได้ ๖๔
ั
จะประสบความลาบากในภายหลัง เน่องจากในสมัยน้น วินาที การวิ่งทน ๑๐ กิโลเมตร การวิ่งขึ้นเขากระโจมไฟ
ื
�
ื
ื
เช่อกันว่าคนเราเม่อตายไปแล้วจะต้องน่งเรือจ้างข้าม แหลมปู่เจ้าเพ่อสักการะเสด็จเต่ยและร้องเพลงถวายการ
ั
ื
ี
ี
่
�
ู
ื
้
้
�
แม่นา Styx ไปส่ดนแดนแห่งความตาย มคนแจวเรอ วายนาขามเกาะ (จากทาเรือแหลมเทียนไปเกาะพระ) การไต ่
ิ
้
่
ชื่อ “Charon” ใครข้ามก็ต้องเสียค่าโดยสาร ถ้าใคร เกาะรอบเกาะพระ การฝึกกระเชียงทนท่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.
ี
ั
ี
ไม่มีค่าโดยสารก็คงจะอดข้าม ท้งน้หากเป็นการตายบนบก การดูงานหน่วยงานในกองทัพเรือ ได้แก่ อู่ทหารเรือ
่
ั
คงไม่ยุ่งยากอะไรมากนัก เพราะมีเวลาและญาติพ่น้อง พระจุลจอมเกล้า ซงไดบนทกวา “วนองคารท ๗ เมษายน
ี
่
ั
้
่
ึ
ี
ั
ึ
ี
ึ
ท่สามารถจะออกให้แทนด้วยวิธีใดวิธีหน่ง เช่น เอาเงิน พ.ศ.๒๕๓๐...เดิมอู่ซ่อมเรือแห่งแรกของกองทัพเรือ
�
ึ
ใส่ปาก แต่สาหรับชาวเรือหากต้องตายในทะเล ได้ก่อสร้างข้นในกรุงเทพฯ ณ บริเวณวัดระฆังกับปาก
ื
ี
มีความลาบากเพราะญาติพ่น้องอาจไม่รู้ เม่อไม่มีเงิน คลองมอญ มีพื้นที่ ๔๐ ไร่ จนถึงปัจจุบันเกือบร้อยปีแล้ว
�
�
่
ื
ใส่ปากอาจต้องน่งคอยเรือจ้างเป็นเวลานานหลายวัน และได้พัฒนาเรอยมาจนมาต้งท ตาบลแหลมฟ้าผ่าน ้ ี
ี
่
ั
ั
ุ
ื
้
ี
หลายเดือนหรือหลายปี จึงมีประเพณีฝังเงินเหรียญ มเนอทประมาณ ๔๐๐ ไร่ ห่างจาก กรงเทพมหานคร
ี
่
นาวิกศาสตร์ 62
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
้
�
ื
๓๐ กิโลเมตร เริ่มก่อสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๑๗ แล้วเสร็จ ต่อเป้าพ้นนา (หินฉลาม) และเป้าอากาศยาน (ร่มชูชีพ
ื
ื
เม่อปี พ.ศ.๒๕๒๔ งบประมาณค่าก่อสร้างประมาณ ปัจจุบันเป็นเป้าเคร่องบินบังคับ) การฝึกยิงปืน ๒๐
๕,๐๐๐ ล้านบาท พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและ มิลลิเมตรเออริคอน และปืน ๔๐/๗๐ มิลลิเมตร เป็นต้น
ั
สมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ รวมท้งสมเด็จ ส�าหรับต�าแหน่งของทหารเรือที่ปฏิบัติงานในเรือ เช่น
เจ้าฟ้าจุฬาภรณ์วลัยลักษณ์ ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ผู้บังคับการเรือ (ผบ.เรือ) ต้นเรือ (ตร.) ต้นกลเรือ (ตก.เรือ)
ี
�
เสด็จพระราชดาเนินเปิดอู่แห่งใหม่น้ ในวันพฤหัสบดีท ่ ี ต้นปืน (ตป.) ต้นหน (ตห.) สรั่งกล (สก.) สรั่งเรือ (สร.)
๗ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๒๔ และทรงพระราชทานนามอู่ ต้นเด่น และจุมโพ่ เป็นต้น การเรียนวิชาเดินเรือเบื้องต้น
้
ี
ื
ุ
ู
ึ
ื
ี
แห่งนว่า “อ่ทหารเรอพระจลจอมเกล้า” และได้ยดถอ เช่น การใช้แผนท่เดินเรือ การขีดเข็ม การเรียนและการฝึก
วันน้เป็นวันสถาปนาอู่ทหารเรือพระจุลจอมเกล้าจนถึง เกี่ยวกับการช่างกล (พรรคกลิน) เช่น เครื่องจักรในเรือ
ี
�
ปัจจุบัน” จากนั้นไปรับประทานอาหารที่กรมพลาธิการ การป้องกันความเสียหาย (ปคส.) ท่ทาให้รู้จักไฟประเภท
ี
ทหารเรือ ซึ่งมีภารกิจ อ�านวยการ ประสานงาน แนะน�า ต่าง ๆ ได้แก่ ไฟประเภท ก. (วัตถุของแข็ง เช่น ไม้ กระดาษ
�
�
�
�
ื
กากับการ และดาเนินการในเร่องการส่งกาลังบารุง เป็นต้น) ประเภท ข. (ของเหลวที่มีไอระเหย เช่น น�้ามัน
สายพลาธิการ รวมท้งการวิจัยและพัฒนาการพัสดุสาย จาระบี) และประเภท ค. (เคร่องมือ อุปกรณ์ไฟฟ้า) วิธีการดับ
ื
ั
พลาธิการ การบริการและการจัดเลี้ยง ตลอดจนการฝึก โดยใช้ CO2 (ฟองดบไฟทางกล) ดบไฟประเภท ก.
ั
ั
และศึกษาของทหารเหล่าพลาธิการ การดูงานแห่งท่สาม ได้รู้จัก OBA (ใช้สาหรับสวมท่ใบหน้าป้องกันก๊าซพิษ
ี
�
ี
ี
ี
�
คือ กรมอุทกศาสตร์ทหารเรือ ทาให้ได้รับความรู้เก่ยวกับ เม่อเข้าดับไฟ) เป็นคร้งแรก การปิด – เปิดประตูในเรือท่ม ี
ั
ื
การเขียนแผนที่ (แผนที่เดินเรือ) หนังสือการเดินเรือ เช่น เครื่องหมายก�ากับ (X Y Z) ให้เป็นไปตามสถานการณ์
ื
ื
ประกาศชาวเรือ เก่ยวกับนาฬิกา โดยเฉพาะการเทียบเวลา การเข้ายามเครองสงจกรหรอเทเลกร๊าฟ เป็นเครอง
ี
่
ื
ั
่
ั
่
ั
๐๘๐๐ เป็นประจาทุกวันของประเทศไทยให้ได้มาตรฐาน กาหนดให้เรือเดินหน้าหรือถอยหลัง ติดตงไว้ทสะพาน
ี
้
�
�
่
ื
ี
็
ิ
�
ั
่
ื
ื
เหมือนกับการเทียบเวลาท่เมืองกรีนิซ ประเทศอังกฤษ เดนเรอ และกาหนดความเรวเรอ (รอบเครองจกรใหญ่)
และเครื่องจักรท�านายน�้า ที่ใช้ท�านายน�้าขึ้น น�้าลง สูงสุด มีการวัดส่วนสูงและนาหนัก เพ่อบันทึกไว้เป็นข้อมูลว่า
�
้
ื
่
�
ตาสุด เป็นต้น การฝึกในเรือ โดย นนร. จะแบ่งเป็น จาก นนร.ชั้นปีที่ ๑ ถึงชั้นปีที่ ๕ จะมีการเปลี่ยนแปลง
๒ กราบ (กราบขวาและกราบซ้าย) ๓ ภาค (ภาคหัว อย่างไรบ้าง มีการวิ่งทดสอบในระยะ ๑๐๐ เมตร ในสมุด
ภาคกลาง และภาคท้าย) และ ๘ ตอน (กราบขวา แบ่งเป็น บันไว้ว่าท�าเวลาได้ ๑๓.๖ วินาที วิ่ง ๔๐๐ เมตร ท�าเวลา
ตอน ๑ ตอน ๓ ตอน ๕ และตอน ๗ และกราบซ้าย ได้ ๖๔ วินาที จากน้นก็เรียนวิชาชีพทหารเรือ ได้แก่ วิชา
ั
แบ่งเป็น ตอน ๒ ตอน ๔ ตอน ๖ และตอน ๘) ซึ่งผู้เขียน ธงประมวล ทงประมวลสากลและประมวลราชนาว ซงทง
้
ั
ี
ั
่
ึ
้
�
ได้อยู่ตอน ๓ กราบขวา สาหรับการฝึกประจาสถาน ี สองธงประมวลจะมีความหมายต่างกัน เช่น ในประมวล
�
ี
�
ต่าง ๆ เช่น การฝึกประจ�าสถานีออกเรือ (เทียบ ออกจาก ราชนาวี ธงอักษร ก หรือ G หมายถึง เรือลาน้เป็นเรือหลัก
เทียบ (เรือเทียบท่า) และออกจากจอด (เรือทอดสมอ) ในประมวลสากล ธงอักษร G หมายถึง ข้าพเจ้าต้องการ
�
้
�
�
การฝึกประจาสถานีเดินเรือในร่องนา การฝึกประจา น�าร่อง วิชาธงสองมือสากล และธงสองมือไทย วิชาโคม
สถานีเรือเดิน (ในทะเล) การฝึกประจ�าสถานีรบ การฝึก ไฟไทย และโคมไฟสากล
ี
ประจ�าสถานีช่วยคนตกน�้า การฝึกประจ�าสถานีรับ - ส่ง “วันท่ ๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๐ พิเศษกว่าทุกวัน เพราะ
�
�
ี
ั
ิ
ส่งของในทะเล การฝึกประจาสถานีพ่วงจูง เป็นต้น การฝึก มีเรือหลวงอ่างทอง (การฝึกคร้งน้มีลาเดียว) ได้มาเทียบท่า
ี
ั
ิ
ิ
ี
้
ยิงอาวุธ ได้แก่ การยิงปืนพก ๐.๔๕ นว (ยงทุกคน) การฝึก ท่ รร.นร. และวนท่ ๘ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๐ เวลาประมาณ
ิ
ิ
ยงปืนหลอด ๘ มลลเมตร การฝึกยงปืนประจาเรอ ๐๗๐๐ พวกเรา นนร.ชั้นปีที่ ๑ จ�านวน ๑๔๘ นาย ก็เริ่ม
ื
ิ
ิ
�
นาวิกศาสตร์ 63
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ั
ลงเรือ โดยมี นาวาตรี ศรณรงค์ บูรณดิลก ผู้บังคับการเรือ ท่าเรือจากพระสมุทรเจดีย์ข้ามไปสมุทรปราการค่นอยู่
้
�
ั
กล่าวต้อนรับ” ส�าหรับการฝึกภาคทะเลของ นนร. โดย เท่าน้น ส่วนพระสมุทรเจดีย์ หรือพระเจดีย์กลางนาในอดีต
ปกติจะจัดต้งเป็น “หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ” ประกอบ นั้นได้เชื่อมเป็นฝั่งตะวันตกกลายเป็นแผ่นดินไปแล้ว
ั
ั
ี
ก�าลังด้วยเรือรบของกองเรือยุทธการ จ�านวน ๒ – ๔ ล�า กลบมาท่การฝึกภาคทะเล การนอนในเรือฝึก สาหรบ
ั
�
ี
นาเรือมาจอดเทียบท่าท่ รร.นร. ช่อว่า “ท่าเสือซ่อนเล็บ” เรือหลวงอ่างทอง เป็นเรือประเภทยกพลข้นบกขนาดใหญ่
ื
�
ึ
ื
ื
�
ั
่
บางท่านอาจสงสยว่าทาไมชอว่าท่าเสอซ่อนเลบเหมอน ท่รับมาจากสหรัฐฯ ต้งแต่สมัยสงครามโลกคร้งท่ ๒
ี
ั
ั
ี
็
ื
้
่
่
่
�
กับผูเขียนก็เคยสงสัยมาก่อน เหตุที่ชื่อวาทาเสือซอนเล็บ ปัจจุบันปลดระวางประจาการไปแล้ว การฝึกภาคทะเล
ี
มีท่มา ในปี พ.ศ.๒๓๖๒ เจ้าเมืองไซ่ง่อน ขณะเข้ายึดครอง ในเรือยกพลขึ้นบกของ นนร. โดยปกติจะไม่จัดห้องนอน
ื
ั
เขมรอยู่ได้เกณฑ์ไพร่พลท้งคนญวนและคนเขมรผลัดละ ให้ เน่องจากมีนักเรียนจานวนมาก พวกเราจึงได้นอนท ี ่
�
ประมาณ ๑๐,๐๐๐ คน ขุดคลองจากทะเลสาบเสียมราฐ Tank Deck ใต้ดาดฟ้าเรือ ซึ่ง Tank Deck เป็นที่ส�าหรับ
มาออกที่เมืองบันทายมาศ เป็นคลองกว้าง ๒๔ เมตร ลึก จอดรถสะเทินน�้าสะเทินบกหรือรถ AAV ของนาวิกโยธิน
๓.๕ เมตร ฝ่ายไทยเห็นว่าการท่ญวนขุดคลองมาออก ในการยกพลข้นบก อุปกรณ์สาหรับนอนในเรือฝึกจะม ี
�
ี
ึ
ใกล้ไทยเช่นน้ อาจเตรียมการยกทัพเรือมาตีกรุงเทพฯ ผ้าใบ หมอน และผ้าห่ม เวลาจะนอนก็ปูผ้าใบกับพื้นเรือ
ี
ื
และหัวเมืองชายทะเลได้ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้า ก็นอนได้แล้ว เวลาเรือโคลงก็ไม่ต้องห่วงมีพ้นท่ในการ
ี
ิ
นภาลัย รัชกาลท่ ๒ ทรงมีพระราชดาริว่า ท่เมือง กล้งไปกล้งมาพอสมควร ตอนเช้าหลังจากได้ยินเสียง
ิ
�
ี
ี
ั
สมุทรปราการยังไม่มีท่ม่นป้องกันท่ม่นคง จึงโปรดให้ นกหวีดปลุก ก็ต้องพับผ้าห่มแล้วเอาหมอนกับผ้าห่ม
ี
ี
ั
�
่
็
ึ
ึ
ึ
พระเจ้าลูกยาเธอ กรมหม่นเจษฎาบดินทร์ ซ่งต่อมาข้น ใส่ไว้ในผ้าใบเกบอย่างเป็นระเบียบ ซงการทาเช่นน ี ้
ื
็
ครองราชย์เป็นรัชกาลท่ ๓ เป็นแม่กองร่วมกับพระยา กเป็นการฝึกอย่างหนงเพอสร้างให้ นนร. ร้จกมความ
ั
ื
ู
ี
่
ี
่
ึ
สุริยวงศ์โกษา ลงไปจัดการสร้างป้อมข้นทางฝั่งตะวันออก เป็นระเบียบเรียบร้อย และมีวินัยในตนเอง มีเร่องท ี ่
ึ
ื
๔ ป้อม คือ “ป้อมประโคนชัย ป้อมนารายณ์ปราบศึก น่าสนใจเก่ยวกับการพับผ้าห่ม คือ ในคากล่าวสุนทรพจน์
ี
�
ป้อมปราการ และป้อมกายสิทธิ์” ชักปีกกางถึงกันและ ของ พลเรือเอก William H. McRaven ซึ่งจบการศึกษา
สร้างตึกดินไว้เคร่องศาสตราวุธพร้อมฉางข้าว ส่วนท ่ ี จากท่มหาวิทยาลัย Texas at Austin เน่องในงานวัน
ื
ื
ี
เกาะกลางนาหน้าเมืองสมุทรปราการ ก็ให้สร้างป้อม รับปริญญาของทางมหาวิทยาลัย ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ ได้พูด
�
้
ข้นอีกป้อมหน่ง เรียกว่า “ป้อมผีเส้อสมุทร” (ตรงข้าม ถึงชีวิต และข้อคิดจากการเข้าร่วมกับหน่วยซีล (Seal)
ึ
ื
ึ
รร.นร.) และท่ฝั่งด้านตะวันตกตรงกันก็สร้างข้นอีกหน่ง ึ ว่า “ทุกเช้าของหน่วยฝึกของซีล ครูผู้ฝึกจะเข้ามายัง
ี
ึ
ี
ป้อมชื่อ “ป้อมนาคราช” ส่วนทางด้านเหนือป้อมผีเสื้อ ค่ายทหาร และส่งแรกท่พวกเขาจะตรวจก็คือ “เตียงนอน”
ิ
ี
ึ
สมุทร มีหาดทรายเกิดข้นกลางนา ทรงพระราชดาริจะสร้าง ถ้าคุณทามันได้ถูกต้อง มุมของมันจะได้เหล่ยม และผ้า
้
�
�
�
พระเจดีย์ขึ้นที่หาดทรายนี้ แต่ยังไม่ทันได้สร้างในรัชกาล คลุมเตียงจะตึงเปร๊ยะ ส่วนหมอนจะอยู่ตรงใต้หัวเตียง
ี
ที่ ๒ มาสร้างพระเจดีย์กลางน�้าในรัชกาลที่ ๓ และทรง พอดี และผ้าห่มจะถูกพับอย่างเรียบร้อยไว้ใกล้ด้าน
สร้างป้อมข้นอีก ๓ ป้อม คือ “ป้อมตรีเพชร ป้อมคงกะพัน ปลายเตียง เรียกได้ว่ามันเป็นงานง่าย ๆ ดูเหมือนว่ามันจะ
ึ
ิ
และป้อมเสอซ่อนเล็บ” ป้อมรุ่นน้ได้ผุพังไปตามกาลเวลา เป็นอะไรท่ธรรมดามาก แต่ทุก ๆ วัน ส่งท่ต้องทาก็คือ
ื
ี
ี
ี
�
ื
ึ
ปัจจุบันคงเหลืออยู่ในสภาพดีเพียงป้อมเดียว คือ ป้อมผีเส้อ การจัดเตียงนอนให้ได้อย่างมืออาชีพ ซ่งฟังดูแล้วออกจะ
่
สมุทร ซ่งอยู่ในการดูแลของกองทัพเรือ แต่ไม่ได้อยู่กลางนา ้ � แปลก ๆ อยซกหนอยทวาความจรงแลวพวกเรานาจะถก
ั
่
่
ู
ู
่
้
ิ
่
ี
ึ
ื
เหมือนเม่อตอนสร้าง ได้เข้ามาชิดริมฝั่งด้านตะวันตก ปลูกฝังมาให้เป็นนักรบอย่างแท้จริงมากว่า แต่ความเฉียบคม
เพราะแผ่นดินจากฝั่งงอกออกไป มีเพียงคลองเล็ก ๆ ท่เป็น ท่ซ่อนอยู่ในการกระทาง่าย ๆ นได้ก่อเกิดส่งท่เป็นในทุกวันน ้ ี
ี
�
ี
้
ี
ิ
ี
นาวิกศาสตร์ 64
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ี
�
ี
ถ้าคุณเก็บท่นอนในตอนเช้าทุกวัน นั่นหมายถึง การท่คุณ การเดินเรือจาก รร.นร. ไปสัตหีบ มีการประจาสถาน ี
ั
�
้
ั
�
�
ได้ทางานแรกของวันสาเร็จไปเรียบร้อยแล้ว และน่น เดินเรือในร่องนา (เจ้าพระยา) เป็นเวลานานพอสมควร ท้งน ี ้
�
ึ
�
นามาซ่งความภูมิใจเล็ก ๆ และทาให้คุณรู้สึกอยากทางาน การเดินเรือในร่องน�้าโดยปกติจะชิดขวาร่องน�้า เวลาเรือ
�
ิ
ึ
ช้นต่อ ๆ ไป และต่อไป และต่อไป” ซ่งผู้เขียนได้เคย สวนกันก็จะผ่านทางซ้าย เรียกโดยทั่วไปว่า “ขวาปกติ”
เล่าเร่องน้ให้ นรจ. นักเรียนกลาโหมพลเรือน เพ่อนร่วมงาน ซงจะแตกตางกบการขบรถยนตของไทย คอ ชดซายถนน
ื
ิ
้
่
์
ึ
ื
ั
่
ี
ั
ื
และผู้ใต้บังคับบัญชาฟังเสมอว่า แม้แต่นักรบท่แท้จริง ขณะเดินเรือในร่องน�้าจาก รร.นร. จะผ่านสถานที่ส�าคัญ
ี
ี
ก็ต้องถูกฝึกให้เก็บท่นอนตอนเช้าให้เรียบร้อยก่อน ได้แก่ ศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ จะอยู่ด้านซ้ายมือ
่
ู
ุ
ี
่
ั
ิ
ั
็
ื
ื
ื
้
หรออย่างการขดรองเท้าให้มนกเป็นการฝึกทดเหมอน (กราบซาย) ต่อมาก็เป็น กองเรอทนระเบด และ อจปร.อร.
�
�
ง่าย ๆ แต่ถ้าทาสาเร็จก็จะเกิดความภาคภูมิใจ และ อยู่ทางขวามือ (กราบขวา) ให้สังเกตว่าจะมีเรือรบจอดอย ู่
สร้างนิสัยให้เป็นคนท่มีความอดทน ละเอียดรอบคอบ หลายล�า (ตอนไปดูงานเดินทางโดยรถบัส ตอนนี้ได้เห็น
ี
เพราะการขัดรองเท้าที่ดีต้องมันทั้งคู่ ไม่ใช่แค่หัวรองเท้า อจปร.อร. เม่ออยู่บนเรือรบ) เม่อผ่าน อจปร.อร. จะเข้าโค้ง
ื
ื
�
�
ึ
้
แม้แต่ครีบรองเท้าก็ต้องทาความสะอาด และขัดด้วย สมุทรปราการ และออกสู่ปากแม่นาเจ้าพระยา ซ่งบริเวณ
�
้
ี
ย้อนกลับมาท่การฝึกภาคทะเลของ นนร. หลังจากลงเรือ ปากแม่นาเจ้าพระยาจะมองเห็นสถานีนาร่อง ข้อสังเกต
�
ท่ท่าเรือเสือซ่อนเล็บแล้ว หมู่เรือฝึกได้ออกเดินทางไป คือ เป็นตึกสีขาวแดงต้งตระหง่านอยู่ในทะเล (ดูภาพท ่ ี
ั
ี
�
�
ื
ฐานทัพเรือสัตหีบ เพ่อรับการส่งกาลังบารุงและเตรียม ๑๔ ทุ่นไฟปากร่อง และสถานีน�าร่อง) ก็เป็นอันว่า สถานี
ความพร้อมอีกครั้ง เดินเรือในร่องน�้าสิ้นสุดลงแล้ว จากนั้นก็เป็นการเดินเรือ
“หะเบสสมอพลัน ออกสันดอนไป ในทะเลมุ่งหน้าไปสัตหีบ มีเรื่องเล่าการเดินเรือในร่องน�้า
ลัดไปเกาะสีชัง จนกระทั่งกระโจมไฟ โดยเฉพาะในร่องนาเจ้าพระยาท่ผู้เขียนเคยนาเรือ
ี
�
้
�
เที่ยวหาข้าศึกมิได้นึกจะกลับมาใน เข้า-ออกหลายคร้ง ขณะท่ผู้เขียนรับราชการอยู่กองเรือ
ั
ี
ถึงตายตายไป ตายให้แก่ชาติของเรา.....” ทุ่นระเบิด ต�าบลที่จอดเรือ คือ เทียบท่าอยู่ใน อจปร.อร.
ี
็
ั
�
สาหรบการออกเรอจากท่าเสือซ่อนเลบ มเกร็ดความร ้ ู และส่วนหนึ่งเทียบท่าอยู่ที่ท่าเรือ บก.กองเรือทุ่นระเบิด
ื
ท่ผู้เขียนได้บันทึกไว้ว่า “การออกเรือจะต้องออกเรือ ซ่งอยู่ใกล้ ๆ กับ อจปร.อร. เวลาจะออกเรือไปปฏิบัต ิ
ี
ึ
้
ื
�
ทวนนาเสมอ” เพ่อให้เรือเกิดความปลอดภัยสูงสุด เพราะ ราชการในทะเล จะต้องเดินเรือในร่องนาทุกคร้ง มีอยู่
ั
้
�
ึ
้
้
�
ั
การออกเรือตามนาหางเสือจะไม่กินนาทาให้บังคับเรือยาก คร้งหน่งขณะเดินเรือในร่องนาถึงบริเวณโค้งสมุทรปราการ
�
้
�
�
ื
ซ่งการปฏิบัติดังกล่าวน้ถือเป็นหลักนิยมของชาวเรือ ยามถือท้ายรายงานว่าหางเสอขดข้องไม่สามารถบังคับ
ึ
ี
ั
ั
ื
(ศาสตร์) อย่างไรก็ตามเม่อจบมารับราชการแล้วม ี เรือได้ ผู้เขียนจึงส่งให้ปล่อยสมอหัวเรือ (สร่งเรือจะประจา �
ั
ประสบการณ์มากข้น หากจาเป็นต้องออกเรือตามนา อยู่หัวเรือ และฆ้อนคอยตีเคร่องยึดโซ่สมอเพ่อปล่อยสมอ
ื
�
้
ึ
ื
�
ี
�
ก็ต้องปฏิบัติได้ แต่ต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมาก ได้ทันที) ชักหวูด (จ่ายาม ประจาอยู่ท่สะพานเดินเรือ)
�
�
้
(ศิลป์) โดยเฉพาะการออกเรือตามนาเมื่อเรือจอดเทียบท่า ทุ่นและธงสัญญาณ (ยามทัศนะ ทัศนสัญญาณ ประจา
�
ี
ในแม่น้าเจ้าพระยา ฐานทัพเรือสงขลา หรือฐานทัพเรือพังงา อยู่บนดาดฟ้าทัศนะ) ตามท่ได้เรียนและฝึกปฏิบัติมา
ขณะเวลาที่น�้าลงกระแสน�้าจะแรงมาก เมื่อเรือเทียบอยู่ (ในการฝึกภาคทะเล) ผลปรากฏว่าเรือไม่ได้รับอันตราย
ั
ื
ื
ั
ั
ั
กราบซ้ายหากถอยหลงออกโดยให้หวเรอแนบกบท่าเรอ ใด ๆ หลังจากน้นก็ซ่อมทาหางเสือ และเดินทางต่อไป
�
ี
ี
จะออกเรือยาก วิธีท่เคยทาคือปลดเชือกหัวเรือเพ่อให้ จนถึงสัตหีบได้ ท่ต้องการจะเล่าก็เพราะว่าอยากให้เป็น
�
ื
�
้
�
นาแทงหวเรอถ่างออกก่อน แล้วจงใช้เครองจกรขวา บทเรียนสาหรับเรือทุกลาที่เดินเรือในร่องนา จะต้องไม่
้
ื
ั
�
�
ั
ื
่
ึ
เดินหน้าไปกลับลา จะทาให้ออกเรือได้ง่ายกว่า สาหรับ ประมาท ต้องพร้อมปฏิบัติทันทีเม่อหางเสือเรือขัดข้อง
�
�
ื
�
นาวิกศาสตร์ 65
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๑๔ ทุ่นไฟปากร่องและสถานีน�าร่อง
เรือหลวงอ่างทอง ใช้เวลาเดินทางประมาณเกือบหนึ่งวัน ๑ รอบ และการฝึกกระเชียงทน ที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.
ี
ก็เดินทางถึงและเข้าจอดท่ท่าเรือแหลมเทียน ฐานทัพเรือ ระยะทางประมาณ ๑๓ กิโลเมตร (ดูภาพที่ ๑๖ เส้นทาง
ึ
ี
สัตหีบ ในระหว่างท่เรือจอดสัตหีบมีการทดสอบสมรรถภาพ การฝึกกระเชียงทน) ซ่งรายการท่ ๑ ถึง ๓ เป็นการทดสอบ
ี
ิ
้
ึ
่
ี
รางกายของ นนร. ประกอบดวย การว่งข้นเขากระโจมไฟ เฉพาะตัว แต่รายการท่ ๔ เป็นการทดสอบร่วมกันของ
แหลมปู่เจ้า การว่ายน�้าข้ามเกาะ โดยว่ายน�้าจากท่าเรือ คนในเรือกระเชียง ส�าหรับ
ึ
ี
ิ
ึ
แหลมเทียนไปข้นบกท่เกาะพระ ระยะทางประมาณ รายการท่ ๑ การว่งข้นเขา ในสมุดจดหมายเหต ุ
ี
๑ กิโลเมตร (ดูภาพท่ ๑๕ เส้นทางการว่งข้นเขาและ บันทึกไว้ว่า “วันเสาร์ท่ ๑๑ เมษายน พ.ศ.๒๕๓๐
ี
ิ
ึ
ี
การว่ายน�้า) การไต่เกาะ โดยวิ่งรอบเกาะพระ จ�านวน ตื่นนอนเช้า ๐๔๒๐ วิ่งขึ้นเขากรมหลวงฯ ข้าพเจ้ารู้สึกว่า
นาวิกศาสตร์ 66
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๑๕ เส้นทางการวิ่งขึ้นเขาและการว่ายน�้า ภาพที่ ๑๖ เส้นทางการฝึกกระเชียงทน
�
้
้
่
ตัวเองเหนื่อยมากเหลือเกิน พอวิ่งขึ้นมาพร้อมหมดแล้ว รายการท ๒ การว่ายนาขามเกาะ ในสมุดจดหมายเหต ุ
ี
�
ิ
ั
ี
ก็ทาการสักการะกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักด์ โดยการ บันทึกไว้ว่า “ในช้นปีท่ ๑ ใช้เวลา ๗๑ นาที” (ช้นปีท่ ๒
ี
ั
แจกธูปเทียนสักการะ ร้องเพลงดอกประดู่ และเพลงเดินหน้า ภาคกลางปี ไม่ได้บันทึกไว้) ชั้นปีที่ ๒ ภาคปลายปี วันที่
ี
ั
ึ
ซ่งเป็นเพลงพระนิพนธ์ของท่านเอง ท้งน้ในสมัยก่อน ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ “ท�าเวลาได้ ๓๒ นาที” เวลา
�
้
ี
ึ
จะร้องเพลงถวาย ๒ เพลง คือ เพลงดอกประดู่และเพลง ดีข้นมาก แสดงว่าหลังจากได้เรียนการว่ายนาท่โรงเรียน
เดินหน้า แต่ปัจจุบันทั้งหลักสูตร นนร. และ นรจ. จะร้อง นายเรือได้ผลดี ประกอบกับการมีประสบการณ์ในการ
�
้
�
�
ึ
ิ
้
เพิ่มอีก ๑ เพลง คือ เพลงดาบของชาติ การวิ่งขึ้นเขาใน ว่ายนาทาให้การว่ายนาข้ามเกาะดีข้น (เหมือนจะเร่มม ี
ื
ี
ั
ช้นปีที่ ๒ ภาคกลางปี เม่อวันท่ ๑๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐ เหล็กในคนบ้างแล้ว) ในชั้นปีที่ ๓ ภาคกลางปีและภาค
ี
�
บันทึกไว้ว่าทาเวลาได้ ๒๑ นาที ในช้นปีท่ ๒ ภาคปลายปี ปลายปีไม่ได้บันทึกไว้ ในช้นปีท่ ๔ ภาคปลายปี วันท ่ ี
ั
ี
ั
เม่อวันท่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ ว่งข้นเป็นช้นตามลา ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ “ทาเวลาได้ ๓๕ นาที”
�
ิ
ึ
�
ั
ื
ี
ึ
ี
ั
ี
ิ
ั
ไม่มีการจับเวลา การว่งข้นเขาในช้นปีท่ ๓ ภาคกลางปีไม่ได้ และบันทึกไว้ว่าใช้เวลามากกว่าภาคปลายปีช้นปีท่ ๓
ี
ั
ี
บันทึกไว้ ในช้นปีท่ ๓ ภาคปลายปี วันท่ ๑๓ กุมภาพันธ์ ส�าหรับชั้นปีที่ ๕ ไม่ได้บันทึกไว้
ี
พ.ศ.๒๕๓๒ ท�าเวลาได้ ๑๙ นาที การวิ่งขึ้นเขาในชั้นปีที่ รายการท่ ๓ การไต่เกาะ ในสมดจดหมายเหต ุ
ุ
ั
ั
๔ ภาคกลางปีไม่ได้บันทึกไว้ ในช้นปีท่ ๔ ภาคปลายปี ช้นปีท่ ๑ ไม่ได้บันทึกไว้ ช้นปีท่ ๒ ภาคกลางปี วันท ี ่
ั
ี
ี
ี
ี
�
วันท่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ ทาเวลาได้ ๒๓ นาที และ ๑๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐ บันทึกไว้ว่า “ได้ลาดับท่ ๖
�
ี
การวิ่งขึ้นเขาชั้นปีที่ ๕ ไม่ได้บันทึกไว้ ของนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๒ เวลา ๓๗ นาที” ชั้นปีที่
นาวิกศาสตร์ 67
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
๒ ภาคปลายปี วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ “ได้ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ ไม่ได้บันทึกเวลาไว้ แต่บันทึกไว้ว่า
ื
ิ
ล�าดับที่ ๓ แต่ใช้เวลาถึง ๔๑ นาที” สาเหตุที่ใช้เวลามาก “ลงเรือกระเชียงแล้ว เม่อเร่มตี หลักกระเชียงก็หลุด แสดงว่า
ขึ้นเนื่องจากเป็นการไต่เกาะในเวลาน�้าขึ้น ชั้นปีที่ ๓ ภาค ไม่มีการตรวจสอบความพร้อมของเรือกระเชียง ซ่งไม่ทราบ
ึ
ี
ปลายปี วันที่ ๑๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ ไม่ได้บันทึก ว่าเป็นความผิดพลาดของใคร สาหรับการตีวันน้ ข้าพเจ้า
�
้
ี
�
ั
เวลาไว้ แต่บันทึกไว้ว่า “สาหรับการไต่เกาะวันน้ มีนา คิดว่ายากท่สุดเพราะเจอท้งคล่น ลม และฝน เรือก ็
ื
�
ี
�
ึ
ข้นสูงมาก ทาให้การไต่เกาะมีความลาบากยากเข็ญมาก ไม่สมบูรณ์ ทาให้ได้ผลไม่ดีเท่าท่ควร แต่ก็ฝึกความอดทน
ี
�
�
ี
ึ
นัก และประกอบกับนักเรียนส่วนมากได้รับบาดเจ็บและ ได้ดีทีเดียว” ซ่งครูท่านท่ตรวจสมุดจดหมายเหตุ เขียน
เป็นอันตรายเป็นจานวนมาก ข้าพเจ้าจึงคิดว่า ไม่คุ้ม ตอบว่า “การคิดในแง่ดี ก็จะได้ประโยชน์” และช้นปีท่ ๔
ี
ั
�
ั
ี
ี
ั
กับการฝึกคร้งน้ เพราะอาจเกิดอันตรายถึงชีวิตได้ คร้งต่อไป ภาคปลายปี วันท่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ “เรือลาของ
�
้
�
ในการไต่เกาะ ข้าพเจ้าขอเสนอให้ไต่เกาะเวลาท่นาลง” ข้าพเจ้าใช้เวลา ๒ ชั่วโมง ๓๐ นาที....ในการฝึกครั้งนี้ ซึ่ง
ี
ี
ทั้งนี้ครูผู้ตรวจได้เขียนตอบว่า “จะน�าเรียน มฝ.นนร...... เป็นเวลาท่ไม่ดีนัก แต่ข้าพเจ้าก็พอใจ เพราะชุดเรามีความ
�
�
ั
เขียนให้มาก ๆ ไว้ทุกวัน วันข้างหน้านามาอ่านนามา สามัคคีกันดีไม่ทะเลาะกันเลย” ดังน้นหัวใจสาคัญของ
�
ุ
้
ปรบปรงได้” ทงนการเขยนสมดจดหมายเหตประจาตว การฝึกกระเชียงคือความอดทน และความสามัคคี ซ่ง
ึ
ี
ั
ี
้
ุ
ุ
�
ั
ั
ื
ื
�
นนร. รวมท้งของ นรจ. หรอนักเรียนในหลักสูตรอ่น ๆ ผู้เขียนได้นาการฝึกกระเชียงทนไปใช้ในการฝึกหลักสูตร
ั
ั
�
ี
มีประโยชน์อย่างมาก สาหรับการไต่เกาะในช้นปีท่ ๔ นักเรียนข้าราชการกลาโหมพลเรือนตากว่าช้นสัญญาบัตร
่
ั
�
ภาคปลายปี วันท่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ ไม่ได้ ที่เข้ารับการฝึกอบรมที่ รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ซึ่งผลการฝึก
ี
ี
ื
บันทึกเวลาไว้ แต่บันทึกไว้ว่า “วันน้ต่นต้งแต่ ๐๕๐๐ ท�าให้นักเรียนมีความอดทน (ก้นแตก มือแตก เมาคลื่น
ั
ิ
และเร่มไต่เกาะเวลา ๐๖๑๕ การไต่เกาะก็เป็นไปด้วย แดดร้อน โดนด้ามกระเชียงกระแทกหลัง) และมีความรัก
�
ั
ึ
ความยากล�าบากเพราะน�้าขึ้นสูงมาก รวมทั้งคลื่นลมแรง ความสามัคคีกันเพิ่มมากข้น รวมท้งยังได้รู้จักคาว่า “ลงเรือ
�
ื
จึงมีทางเลือกว่าจะปีนเขา หรือจะว่ายน�้าไป ซึ่งอันตราย ลาเดียวกัน” แล้วต้องช่วยกัน (กระเชียง) ทุกคน เพ่อให้เรือ
ั
�
สาหรับนักเรียนมาก กว่าจะไต่เกาะเสร็จก็เกือบ ๐๙๐๐ ทาให้ ไปถึงจุดหมายปลายทางตามท่ต้งเป้าหมายไว้ ได้เรียนรู้
�
ี
่
ั
ี
ั
�
ี
ี
ี
�
การออกเรือไปสงขลาช้ากว่าเวลาท่กาหนด ในการไตเกาะ การทาหน้าท่ของตนเองให้ดีท่สุด ท้งคนท่น่งอยู่คู่หน้าสุด
คร้งต่อไป ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ควรจะเป็นวันท่ออกเรือ” ที่ต้องเริ่มกระเชียงให้พร้อมกัน ส่วนกระเชียงที่อยู่คู่หลัง
ี
ั
ั
ื
ื
ี
เม่อได้กลับมาอ่านเร่องน้อีกคร้งหน่งแล้ว ทาให้คิดได้ว่า ก็ต้องคอยดู และกระเชียงให้พร้อมคู่หน้า และระมัดระวัง
�
ึ
ึ
�
การไต่เกาะในเวลานาข้นได้สร้างเหล็กในคนให้กับนักเรียน ไม่ให้ด้ามกระเชียงไปโดนหน้าหลังคู่หน้าตนเองด้วย
้
นายเรืออย่างมาก เช่น ต้องใช้การตัดสินใจว่าจะปีนเขา จบตอนที่ ๑
้
�
หรือว่ายนา ต้องใช้ความอดทน แต่ทุกคนต้องทาหน้าท ี ่
�
ตนเองต่อไปจนส�าเร็จภารกิจ ที่มา
ี
�
สาหรับรายการท่ ๔ การกระเชียงทน ระยะทาง - โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
๑๓ ไมล์ทะเล ในช้นปีท่ ๑ ไม่ได้บันทึกไว้ ช้นปีท่ ๒ - การจัดการความรู้ โรงเรียนนายเรือ เข้าถึงได้จากเว็บไซด์
ั
ั
ี
ี
ภาคกลางปี วันที่ ๑๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐ บันทึกไว้ว่า https://rtnakm.com/
ี
�
“เรือลาข้าพเจ้าจานวน ๑๘ คน เข้าเป็นลาดับท่ ๓ ใน - สัตหีบแชนแนล สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซด์ Youtube.com
�
�
ุ
ี
ั
ั
ื
ี
ั
้
�
�
ี
จานวน ๑๒ ลา” ช้นปีท่ ๒ ภาคปลายปี วันท่ ๑๕ - แผนพฒนา นรจ. ๔ ขนตอน กองนกเรยน โรงเรยนชมพลทหารเรอ
ี
ั
- เว็บไซด์ www.wikipedia.com
กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ เรือล�าข้าพเจ้าเข้ามาเป็นล�าดับที่ - www.sites.google.com
๑๑ จากจ�านวน ๑๓ ล�า ชั้นปีที่ ๓ ภาคปลายปี วันที่ ๑๑ - www.youtube.com
นาวิกศาสตร์ 68
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๔
สร้างเหล็กในคน
(ตอนที่ ๒)
ถ.ถุง
การทดสอบสมรรถภาพร่างกายของ นนร. และ การฝึกภาคทะเล (สร้างเหล็กในคน) ของ นนร.
ิ
ึ
ี
ี
นรจ. ในช่วงการฝึกภาคทะเล ได้แก่ การว่งข้นเขากระโจม ยังได้ประสบการณ์ท่ส�าคัญ คือ การได้มีโอกาสไปเย่ยมเยือน
้
ั
ี
�
ู
�
ไฟแหลมป่เจ้า การว่ายนาข้ามเกาะ การไต่เกาะ และ เมืองท่าและสถานท่สาคัญ ท้งในประเทศและต่างประเทศ
�
ี
ี
้
่
กระเชยงทน (ดภาพท ๑๗ ว่ายนาข้ามเกาะ ไต่เกาะ ซึ่งในสมุดจดหมายเหตุบันทึกไว้ ดังนี้
ู
และกระเชียงทน) สามารถปรับให้เป็นการแข่งขันใน นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๑ ภาคสาธารณะและภาค
ั
สัปดาห์กีฬานาวได้ โดยประเภทบุคคลประกอบด้วย ทะเล (ช้นใหม่) ได้ไปทัศนศึกษาเกาะสมุย ในตอนน้น
ั
ี
ี
การว่งข้นเขา โดยเร่มต้นปล่อยตัวท่ทางข้นเขาด้านหน่วย บันทึกไว้ว่า “เกาะสมุยเป็นสถานที่ท่องเที่ยว เป็นเกาะที่
ิ
ึ
ิ
ึ
บญชาการนาวกโยธน จากน้นวงข้นไปอ้อมกระโจมไฟ ใหญ่เป็นอันดับสามของประเทศ มีแหล่งท่องเท่ยวสาคัญ
ิ
ั
�
ี
ิ
ิ
ึ
ั
่
ื
ั
ี
ั
ี
แล้ววงลงเขาด้านท่าเรอแหลมเทยน ฐานทพเรอสตหบ ได้แก่ หาดละไม หาดชะเวง หินตาหินยาย (ท�าไมชื่อหิน
ิ
่
ื
�
ี
้
แล้วต่อด้วยการว่ายนาข้ามเกาะ ไปส้นสุดท่การไต่เกาะ ตาหินยายต้องไปดูกับตากันเอง) วัดพระพุทธรูปองค์ใหญ่”
ิ
้
ี
ั
่
่
ส�าหรับประเภททีม ก็เพิ่มกระเชียงทนไปอีก ๑ รายการ ตอนนนการทองเทยวในเกาะสมยตองน่งรถสองแถว หรอ
ื
ั
ุ
้
(๑๐ คน กระเชียง ๔ คู่ ๘ คน ถือท้าย ๑ คน และหัวเรือ ไม่ก็ต้องเช่ามอเตอร์ไซค์ให้พาว่งไปตามสถานท่ท่องเท่ยว
ี
ิ
ี
/ให้สัญญาณ/สารอง ๑ คน) โดยเม่อไต่เกาะเสร็จก็ลง ที่อยู่รอบเกาะ สถานที่พักโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร
ื
�
เรือกระเชียง เส้นทางอาจจะเป็นท่าเรือเกาะพระ ไปอ้อมเกาะ ก็ไม่ได้มีมากมายเหมือนสมัยน ได้กินก๋วยเต๋ยว หรือ
้
ี
ี
ี
เตาหม้อ แล้วกลับเข้ามาท่เป็นท่าเรือแหลมเทียน หรือจาก ข้าวราดแกงก็อร่อยแล้ว หมู่เกาะอ่างทอง (ดูภาพที่ ๑๘
ท่าเรือเกาะพระอ้อมเข้าด้านในผ่านกองเรือยุทธการ หมู่เกาะอ่างทอง) เป็นอุทยานแห่งชาติท่น้อยคนจะได้
ี
ี
�
เกาะเตาหม้อ กลับมาท่ท่าเรือแหลมเทียน หรือจะกาหนด ไปเยือน ประกอบด้วยเกาะต่าง ๆ ๔๐ เกาะ ที่สะดุดตา
เส้นทางอื่น ๆ ก็ได้ คือ ชื่อเกาะแปลก ๆ เช่น เกาะวัวเตะ เกาะสามเส้า เกาะ
ี
ั
�
วัวตาหลา เกาะผ เกาะหินดิบ เกาะทองท้งแท่ง และเกาะ
ลิ่ม เป็นต้น และได้ปล่อยให้ นนร. ขึ้นชมเกาะวัวตาหล�า
ี
้
ท่มีทะเลสาบนาเค็มอยู่กลางเกาะ น่าแปลกใจว่านาทะเล
้
�
�
ข้นมาอยู่ได้อย่างไร การเดินเรือในช่องหมู่เกาะอ่างทอง
ึ
้
�
้
ต้องใช้ความระมัดระวังเพราะไม่มีร่องนา และน่านน�า
ุ
ก็ไม่ได้กว้างมากนัก อทยานเขาสามร้อยยอด จังหวัด
ี
้
ี
�
ภาพที่ ๑๗ ว่ายน�้าข้ามเกาะ ไต่เกาะ และกระเชียงทน ประจวบคีรีขันธ์ มีถาพระยานครเป็นสถานท่ท่องเท่ยว
นาวิกศาสตร์ 14
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ี
ส�าหรับอ่าวสามร้อยยอด (บางปู) บันทึกไว้ว่าเป็นสถานที่ ชาวประมง แต่ปัจจุบันเกาะช้างเป็นแหล่งท่องเท่ยว
ี
ื
่
ุ
�
ึ
�
หลบพาย และคล่นลมมาต้งแต่สมัยรัชกาลท ๑ หัวหิน ที่สาคัญในภาคตะวันออกอีกแห่งหน่ง มีท่พักจานวนมาก
ั
ี
ี
ี
ึ
ี
ื
ี
สถานท่ท่องเท่ยวท่มีช่อเสียงอีกแห่งหน่งของประเทศ และมีนักท่องเท่ยวเดินทางไปเท่ยวตลอดท้งปี ในสมุด
ี
ั
่
ี
ึ
ั
ซ่งเคยมาคร้งหน่งสมัยเป็นนักเรียนเตรียมทหาร โดยมา จดหมายเหตุบันทึกไว้ว่า “วันศุกร์ท ๔ กันยายน ๓๐
ึ
ทางรถยนต์ แต่คราวน้พิเศษหน่อยมาทัศนศึกษาหัวหิน เมื่อคืนข้าพเจ้าเข้ายามเรือจอด ต�าแหน่งสะพานเดินเรือ
ี
โดยทางเรือ” มีหน้าท่แบร่งหาท่เรือด้วย เพ่อจะได้ทราบว่าสมอเกาหรือ
ี
ื
ิ
ี
�
ไม่ คาว่า “สมอเกา” หมายถึงสมอไม่กินดิน...จากน้นเวลา
ั
๑๘๐๐ เรือหะเบสสมอข้นเพ่อเดินทางไปสงขลา ข้าพเจ้า
ื
ึ
ต้องเข้ายามถือท้าย การถือท้ายเรือหลวงพงันค่อนข้าง
ล�าบากเพราะคลื่นลมแรง” (ดูภาพที่ ๑๙ การทอดสมอ
หมู่เรือฝึก นนร.และมุมแบริ่งหาที่เรือจากเรือหลวงพงัน)
ภาพที่ ๑๘ หมู่เกาะอ่างทอง
ภาพที่ ๑๙ การทอดสมอหมู่เรือฝึก นนร.และแบริ่งหาที่เรือจาก
เรือหลวงพงัน
นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๒ ภาคกลางปี หมู่เรือฝึก
นักเรียนนายเรือ (มฝ.นนร.) ประกอบด้วยเรือฝึกจ�านวน จากเกาะช้างเดินเรือประมาณ ๑ วัน ๒ คืน ก็ถึง จังหวัด
�
๓ ลา ได้แก่ เรือหลวงประแส เรือหลวงพงัน และเรือหลวง สงขลา โดยเรือหลวงพงัน และเรือหลวงช้าง เข้าเทียบท่า
ี
ช้าง (ปัจจุบันปลดประวางประจ�าการไปแล้วทั้ง ๓ ล�า) ท่สถานีทหารเรือสงขลา (สสข.) ส่วนเรือหลวงประแส
ิ
ู
ี
ั
ื
�
้
้
ี
ผู้เขียนได้ฝึกในเรือหลวงพงัน ซ่งเป็นเรือยกพลข้นบก จอดทอดสมออยบรเวณเกาะหน ทงนการนาเรอไปเทยบทา ่
ู
่
ึ
ึ
ขนาดใหญ่ประเภทเดียวกับเรือหลวงอ่างทอง และเรือหลวง มีสถานีเดินเรือในร่องน�้าสงขลา (ตามภาพที่ ๒๐ ร่องน�้า
ช้าง สมัยน้นสถานท่ท่ได้ปล่อยให้ทัศนศึกษา ได้แก่ เกาะช้าง สงขลาและสถานีเรือสงขลา) และได้วาดภาพเกาะหน ู
ั
ี
ี
้
ซ่งเป็นเกาะท่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ ท่ต้องไปคือ และเกาะแมวท่อยู่ปากทางเข้าร่องนาสงขลา แต่ในภาพ
ี
�
ี
ี
ึ
้
้
ี
้
็
ู
�
็
นาตกธารมะยม ซ่ง นนร. จะไปเล่นนาและซักผ้ากัน สมัยน้น จะเหนว่าเกาะหนใหญ่กว่าเกาะแมว อย่างนแมวกคงไม่
ั
ึ
�
เกาะช้างยังมีคนอาศัยอยู่ไม่มากนัก อาชีพส่วนใหญ่เป็น สามารถจับหนูได้
นาวิกศาสตร์ 15
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ ๒๕๖๔
�
ื
เรือยามประจาอ่าว เพ่อระมัดระวังความปลอดภัยของ
�
เรือท่จอดในอ่าวเป็นส่วนรวม โดยเรือยามประจาอ่าว
ี
จะชักธงฉานที่เสาก๊าฟ (Gaff) แสดงเป็นสัญญลักษณ์
ี
ึ
ซ่งธงฉานนี้ก็คือ ธงเกตุท่ชักไว้ท่หัวเรือตอนเรือจอดเทียบท่า
ี
โดยธงฉานหรือธงเกตุจะมีลักษณะคล้ายธงชาต และ
ิ
มีเครื่องหมายกองทัพเรืออยู่บริเวณกลางธง อีกอย่างคือ
วันนี้ (วันศุกร์ที่ ๑๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐) นายทหาร
�
ประจาเรือได้ตรวจการเขียนสมุดจดหมายเหตุของผู้เขียน
ี
ั
้
มีข้อความดังน “ขอให้ต้งใจเขียนและลายมืออย่าหวัด
่
มากนัก อ่านยากมาก” (ดูภาพท ๒๑ ตรวจการเขียนสมุด
ี
จดหมายเหตุ) ซ่งผู้เขียนต้องขออภัยจาไม่ได้ว่าเป็นลายมือ
ึ
�
ของคุณครูท่านใด และถือเป็นข้อบกพร่องท่ไม่ต้งใจเขียน
ั
ี
และไม่ได้บันทึกรายนามนายทหารประจาเรือฝึก และ
�
รายชื่อครูฝึกในหมู่เรือฝึกไว้เป็นหลักฐาน
ภาพที่ ๒๐ ร่องน�้าสงขลาและสถานีเรือสงขลา
ื
เม่อเรือเทียบท่าเรียบร้อย นนร. ได้ปล่อยให้
ี
่
ู
ิ
ั
ทศนศกษาภมประเทศ โดยส่วนใหญ่จะไปทหาดใหญ่
ึ
�
ซ่งเป็นอาเภอท่มีความเจริญมาก มีของขายหลากหลาย
ึ
ี
เช่น ผลไม้อบแห้ง ขนม ชา กาแฟ เป็นต้น จากสงขลาเดินเรือ
ต่อไปทชุมพร ในระหว่างการเดินทางมีการฝึกสถาน ี
่
ี
พ่วงจูง ฝึกสถานีเก็บคนตกนา และฝึกยิงปืน ๔๐/๖๐
้
�
มิลลิเมตร เป้าหมายคือหินใบ (เป้าพื้นน�้า) และร่มชูชีพ
่
ี
(เป้าอากาศยาน) จนวันท ๙ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐
เรือเดินทางถึงชุมพร ได้มีโอกาสไปสักการะเสด็จเต่ยในศาล
ี
ี
ท่หาดทรายร และได้เห็นเรือหลวงชุมพรท่ต้งอยู่บนอู่แห้ง
ี
ี
ั
ี
ั
รวมท้งได้เห็นผู้คนมาท่องเท่ยว และสักการะเสด็จเต่ย
ี
จ�านวนมาก ในสมุดจดหมายเหตุวันนี้มีค�าที่น่าสนใจคือ
“เรือยามประจ�าอ่าว” ซึ่งคนทั่วไปอาจไม่ทราบว่า เวลา
ท่มีเรือหลายลาจอดอยู่ในอ่าวเดียวกันจะต้องมีการจัด ภาพที่ ๒๑ ตรวจการเขียนสมุดจดหมายเหตุ
ี
�
นาวิกศาสตร์ 16
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ั
ี
จากชุมพรเรือเดินทางกลับมาท่ฐานทัพเรือสัตหีบ ท่อทาง) ได้เข้ายามเคร่องส่งจักร (Telegraph) ได้เรียนร ู้
ื
�
�
�
ึ
ั
ึ
ื
อีกคร้งหน่ง เพ่อรับการส่งกาลังบารุง และทดสอบสมรรถภาพ ระบบไฟฟ้า และระบบทาความเย็นในเรือ เป็นต้น ซ่ง
ร่างกายของ นนร. ได้แก่ การวิ่งขึ้นเขา การกระเชียงทน การฝึกพรรคกลินน้จะได้เป็นข้อมูลในการตัดสินใจเลือก
ี
รวมทั้งการฝึกยิงเครื่องยิงลูกระเบิด M.79 และยิงปืนกล พรรค-เหล่าของ นนร.ต่อไป
ี
้
ี
่
๒๐ มิลลิเมตร เออริคอน ท่สนามยิงอาวุธทงโปรง โดยมเปา
ุ
ี
ื
ี
ั
ึ
เป็นเคร่องบินเล็กแบบบังคับ การฝึกภาคน้มการสลบชดฝก
ุ
ผู้เขียนจากการฝึกปฏิบัติในหน้าท่พรรคนาวิน ได้สลับให้ไป
ี
ฝึกปฏิบัติหน้าท่เป็นพรรคกลิน (ช่างกล) ต้งแต่วันท ี ่
ั
ี
๑๖ กันยายน ถึง ๒๗ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๐ ในเส้นทาง
เดินเรือ ฐท.สส. – สงขลา – สมุย – ประจวบฯ - รร.นร.
แต่ตื่นเช้ามาก็ยังไม่ได้ฝึกพรรคกลิน ก็ต้องเปลี่ยนชุดเป็น
ชุดฝึกนาวิกโยธินพร้อมอาวุธ แล้วฝึกเดินทางไกลจาก
ึ
ท่าเรือแหลมเทียนเดินข้นเขา ทางข้นกระโจมไฟแหลม
ึ
ปู่เจ้า ลงจากเขาไปทางกองพันลาดตระเวน นย. แล้ววนกลับ
มาขึ้นเขาใหม่กลับสู่ท่าเรือแหลมเทียน หลังจากฝึกเดิน
ิ
ี
ทางไกลเสร็จแล้วก็เร่มการฝึกหน้าท่พรรคกลินด้วยการฝึก
“การป้องกันความเสียหาย (ปคส.)” เป็นรายการแรก
โดย ปคส.ในเรือจะแบ่งออกเป็น ๒ หน่วยซ่อม คือ หน่วย
ซ่อมหัว และหน่วยซ่อมท้าย องค์ประกอบของหน่วย
ซ่อม ได้แก่ ๑) OBA ๒) CO ๓) ช่างไฟฟ้า ๔) หัวฉีด ๑
2
๕) หัวฉีด ๒ ๖) สายสูบ ๑ ๗) สายสูบ ๒ และ ๘) เครื่อง ภาพที่ ๒๒ ระบบท่อทาง
สูบน�้าเคลื่อนที่ ทั้งนี้ผู้อ่านที่ไม่ใช่ทหารเรืออาจไม่คุ้นเคย
กับชื่อต่าง ๆ จึงขออธิบายตามความเข้าใจเพิ่มเติม ดังนี้ นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๒ ภาคปลายปี เริ่มต้นใน
ั
่
เจ้าหน้าที่ OBA มีหน้าท่ในการสารวจความเสียหายเม่อ วนองคารท ๙ กมภาพนธ พ.ศ.๒๕๓๑ เปนวนตง มฝ.นนร.
ื
ั
์
้
็
ั
ุ
ี
ั
ั
�
ี
เกดเหตในเรอ เช่น ไฟไหม้ เจ้าหน้าที่ CO มีหน้าที่ดับไฟ ประกอบด้วย เรือหลวงสีชัง (เรือธงหรือเรือหมู่) เรือหลวง
ิ
ุ
ื
2
เบื้องต้น ช่างไฟฟ้า มีหน้าที่ในการตัดไฟฟ้าในที่เกิดเหตุ ประแส และเรือหลวงปิ่นเกล้า สาหรับคาว่า “เรือธง
�
�
ื
ึ
ั
ั
ื
ื
ู
่
ี
้
หัวฉีด มี ๒ แบบ คือ แบบหัวฉีดรวมและแบบฝอยน�้า (Flagship)” นน หมายถง เรอทผบญชาการกองเรอ หรอ
้
ความเร็วต�่า สายสูบ มีสองขนาด คือ ขนาด ๑ ๑/๒ นิ้ว ผู้บังคับหมู่เรือฝึกใช้ปฏิบัติงานในเรือระหว่างการฝึก
และขนาด ๒ ๑/๒ น้ว ความยาว ๕๐ ฟุต และเคร่องสูบนา ภาคทะเล การฝึกภาคทะเลครั้งนี้ผู้เขียนได้ฝึกอยู่บนเรือ
�
้
ิ
ื
เคลื่อนที่ ส�าหรับไว้สูบน�้าทะเลมาช่วยดับไฟ ส�าหรับวิชา หลวงปิ่นเกล้า ซึ่งเป็นเรือฟริเกตปราบเรือด�าน�้า คราวนี้
ื
อ่น ๆ ของพรรคกลินท่ผู้เขียนได้เข้ายามในระหว่างเรือเดิน ไม่ต้องนอนใน Tank Deck เหมือนสองคร้งท่ผ่านมา ผู้เขียน
ี
ั
ี
ี
และเรือจอด เช่น วิชาแป็กกิ้ง วิชาเครื่องจักรใหญ่แบบ ได้นอนในห้องกะลาส ๓ ร่วมกับ นนร.ชั้นปี ๑ และ
ดีเซล ที่มีองค์ประกอบ ๔ ระบบใหญ่ ได้แก่ ระบบน�้าจืด ชั้นปีที่ ๓ การเดินทางไปขึ้นเรือต้องใช้เรือด่วน ขส.ทร.
้
่
�
ื
ี
ี
�
ระบบนาทะเล ระบบนามันหล่อ และระบบน�ามันเช้อเพลิง ไปขึ้นเรือหลวงปิ่นเกล้าท่จอดเทียบท่าอยู่ท อจปร.อร.
้
้
ระบบท่อทาง (Piping) ภายในเรือ (ดูภาพที่ ๒๒ ระบบ สาหรับท่าเรือเสือซ่อนเล็บ ใช้เป็นท่จอดเรือสาหรับ
�
�
ี
นาวิกศาสตร์ 17
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ ๒๕๖๔
ี
ั
ื
เรือหลวงสีชัง และเรือหลวงประแส การฝึกคร้งน้หมู่เรือฝึก วิชาการติดต่อส่อสารภายในเรือ วิชาสมอเรือ เชือกใหญ่
่
�
ั
ี
จอดเทียบท่าแค่สองวัน วันท ๑๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๓ การถอดและประกอบอาวุธ และมีการอาบนาทะเลคร้งแรก
้
ี
ื
ื
่
ก็ออกเรือเดินทางไปสัตหีบเหมือนกับทุกคร้งคือ หลังจาก มีเร่องท นนร. ได้ส่งต่อกันมาว่า เม่อออกฝึกภาคทะเล
ั
�
ออกเรือแล้วก็มีการประจาสถานีเดินเรือในร่องนา และ ต้องเตรียม “แป้งเย็นตรางู” ใส่ถุงทะเลไปด้วยทุกคร้ง
�
้
ั
้
�
�
ประจาสถานีเดินเรือ (เม่อพ้นปากร่องนาเจ้าพระยาแล้ว) เพราะระหว่างท่เรือเดินทางในทะเลหลายวัน จะต้องมีการ
ื
ี
้
�
ื
เม่อไปถึงก็มีการทดสอบสมรรถภาพร่างกายตามระเบียบ อาบน�าทะเล เนื่องจากนาจืดในเรือมีไว้สาหรับด่ม และท�า
�
้
ื
่
�
ี
ี
ั
ิ
ิ
ั
�
ี
้
้
ิ
ปฏบตประจา หรอจะเรยกว่าเป็นประเพณทได้ปฏบต ิ อาหารเป็นหลัก จึงให นนร.อาบนาทะเลแทน หลังเสร็จ
ื
กันมาของการฝึกภาคทะเล ได้แก่ การว่งข้นเขา การว่ายนา จากอาบนาทะเลแล้ว ต้องเช็ดตัวให้แห้งก่อน ต่อด้วย
ิ
้
�
้
ึ
�
็
ึ
ี
ข้ามเกาะ การไต่เกาะ และกระเชียงทน ความรู้ในภาคนี้ ทาแป้งเยนตราง แล้วจะร้สกเยนสบาย ไม่เหนยวตว
ั
ู
็
ู
ึ
ี
ื
ั
ท่น่าสนใจ (ในจดหมายเหตุเขียนอย่างน้) ได้แก่ ได้เห็น ซ่งทุกอย่างก็เป็นจริงตามเร่องเล่า ดังน้นหากตรวจถุงทะเล
ี
การสาธิตการยิงระเบิดน�้าลึก K-GUN (ส�าหรับปราบเรือ ของ นนร. สมัยน้นเกือบทุกคนจะต้องมีแป้งเย็นตราง ู
ั
ด�าน�้า) จ�านวน ๒ ลูก และการสาธิตการยิงจรวดปราบ ในถุงทะเลด้วย (ถ้าไม่มีก็ขอยืมเพื่อนใช้ไป) ในระหว่าง
�
้
้
�
เรือดานาระยะกลาง แบบ Hedgehog ความรู้และ การเดินเรือได้บันทึกไว้ว่า “ได้มองเห็นแท่นขุดเจาะนามัน
�
ึ
ประสบการณ์จากการปล่อยให้ทัศนศึกษาบนบก ได้แก่ มองเห็นกระโจมไฟปิลองลอดก์ ซ่งหมายความว่า เหลือ
ี
สงขลา ส่วนความรู้เก่ยวกับวิชาชีพทหารเรือใหม่ เช่น ระยะทางอีกประมาณ ๑๐๐ ไมล์ทะเลก็จะถึงบรูไน และ
ั
ิ
การใช้เรดาร์หาท่เรือในลักษณะแบร่ง และระยะทาง ก่อนน้น จากเดิมที่ถือเข็ม ๐๙๔ ก็เปลี่ยนเป็นเข็ม ๑๒๓ ความเร็ว
ี
�
ี
ึ
จะได้ความรู้เฉพาะการหาท่เรือชายฝั่งด้วยการใช้เข็มทิศ ๑๒ นอตเหมือนเดิม” ซ่งแท่นขุดเจาะนามันถือว่าเป็น
้
ั
ี
ั
เป็นหลก ได้เรยนการใช้ ATP (ALLIED TACTICAL ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ท่กองทพเรือได้จัดเรือรบ
ี
PUBLICATION) หรือประมวลสัมพันธมิตร และการ ออกลาดตระเวน สร้างความปลอดภัยและความอุ่นใจให้กับ
ี
ั
ี
เรียน/การฝึกทบทวนวิชาโคมไฟ ธงสองมือ จนกระท่ง เจ้าหน้าท่ท่ปฏิบัติงานบนแท่น และยังมีการฝึกป้องกัน
ี
้
�
ี
เรือเข้าจอดท่สงขลา คราวน้ได้เข้าไปเทียบท่าเพียง การก่อการร้ายบนแท่นขดเจาะนามนเป็นประจาทกปี
ั
ุ
ุ
�
ลาเดียว คือ เรือหลวงสีชัง ส่วนอีก ๒ ลา เรือหลวงประแส นอกจากแท่นขุดเจาะนามันแล้ว ผลประโยชน์ของชาต ิ
�
้
�
�
และเรือหลวงปิ่นเกล้า ท้งสมอบริเวณแถวเกาะหน ภายหลัง ทางทะเลยังมีอีกหลายอย่าง เช่น เรือไทยท่กาลังทา
�
�
ิ
ู
ี
ี
จึงทราบว่าสาเหตุท่เรือท้งสองลาไม่เข้าเทียบท่าเรือ การประมง เรือท่องเที่ยว เรือสินค้า เป็นต้น ตาม พ.ร.บ.
ั
�
�
้
�
ื
�
ิ
สงขลา เน่องจากมีโดมโซนาร์ (ใช้สาหรับค้นหาเรือดานา) การรกษาผลประโยชน์ของชาตทางทะเลปี พ.ศ.๒๕๖๒
ั
อยู่ท่ใต้ท้องเรือ หากจะเข้าไปจอดเทียบท่า โซนาร์อาจได้รับ ได้ให้ความหมายไว้ว่า “ผลประโยชน์ของชาติทางทะเล”
ี
ความเสียหายได้ (ถ้าน�้าไม่ลึกพอ หรือมีสิ่งกีดขวางใต้น�้า) หมายความว่า “ผลประโยชน์ของประเทศไทยอันพึง
ึ
่
ี
เรอจอดอยู่สงขลาจนถงวันท ๒๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ได้รับจากกิจกรรมทางทะเล หรือประโยชน์อ่นใดในเขต
ื
ื
๒๕๓๑ เวลา ๐๒๐๐ ออกเรือจากสงขลา ถือเข็มแรก ๐๙๔ ทางทะเล ไม่ว่าโดยตรงหรือโดยอ้อม เพ่อให้เกิด
ื
ความเร็ว ๑๒ นอต มุ่งหน้าไปประเทศบรูไน ระยะทาง ประโยชน์ในทุก ๆ ด้าน เช่น ด้านความม่นคง ด้าน
ั
๙๐๐ ไมล์ทะเล (ประมาณ ๑,๖๖๘ กิโลเมตร เนื่องจาก เศรษฐกิจ ด้านสังคม ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
๑ ไมล์ทะเลจะเท่ากับ ๑.๘๕๒ กิโลเมตร แต่ถ้าเป็นไมล์บก ด้านทรัพยากรหรือด้านสิ่งแวดล้อม” ในวันศุกร์ที่ ๒๖
ั
ั
จะเท่ากบ ๑.๖๐๙ กโลเมตร) ใช้เวลาประมาณ ๓ วน กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ เวลาประมาณ ๐๖๐๐ เรือเดินทาง
ิ
ระหว่างการเดินทางมีการเรียน การฝึกประจาสถาน และ มาถึงบรูไน แต่ยังเข้าเทียบท่าไม่ได้ ต้องรอให้สว่าง และ
ี
�
ี
ั
�
ี
ึ
้
การเข้ายามสลบกันไป การเรียนมหลากหลายวิชา เช่น รอพนักงานนาร่องอยู่ท่ปากร่องนา ซ่งเป็นธรรมเนียม
�
นาวิกศาสตร์ 18
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
่
่
ึ
ิ
ึ
ั
้
หรือประเพณีอีกอย่างหน่งของชาวเรือ หากเรือจะเข้า C-802) การเดินทางจากสงขลาไปบรูไนนนมีสงหนง
เทียบท่าประเทศอ่น ต้องใช้พนักงานนาร่องของประเทศน้น ท่ผู้เขียนจดจาฝังใจมาโดยตลอดคือ เป็นการเดินเรือ
�
ื
�
ี
ั
ั
ิ
ี
เช่น เรือต่างชาติจะเข้าเทียบท่าที่ท่าเรือคลองเตย ก็ต้อง ออกนอกอ่าวไทยคร้งแรก ส่งท่ต้องประสบพบเจอคือ
�
�
ื
ใช้พนักงานนาร่องของไทยในการเดินเรือในร่องนา ต้งแต่ คล่นลมแรง โดยเฉพาะเรือหลวงปิ่นเกล้าน้นถือว่าเป็นเรือคร ู
ั
ั
้
ี
�
ื
ปากร่องนาเจ้าพระยาจนถึงท่าเทียบเรือคลองเตย เป็นต้น และเรือปราบเซียน ใครท่บอกว่า “ไม่เมาคล่นหรือเมาเรือ”
้
จนเวลา ๐๘๐๐ พนักงานนาร่องบรูไนก็ข้นมาบนเรือหลวง ให้ขึ้นมาที่ห้องศูนย์ยุทธการเรือหลวงปิ่นเกล้า จะได้รู้ว่า
ึ
�
้
�
สีชัง (เรือหมู่) แล้วนาเรือเข้าร่องนาจนไปจอดเทียบท่าเรือ การเมาคลื่นเป็นเช่นไร ผู้เขียนเมาคลื่นจนแทบไม่มีอะไร
�
้
ี
่
�
มัวรา ประเทศบรูไน (ดูภาพท ๒๓ ร่องนาและการจอดเรือ จะอาเจียน นอกจากน�้าย่อยสีเหลือง ๆ เขียว ๆ ที่ออกมา
ที่ท่าเรือมัวรา) จากร่างกาย ตลอด ๓ วันของการเดินทางไม่สามารถ
�
ทานข้าวได้ตามปกติ ส่งท่ช่วยดารงชีวิตอยู่ได้ก็คือ ต้มมาม่า
ี
ิ
ั
ื
(ใส่ถ่วงอก ลูกช้น) กับนาอัดลม บางคนเมาคล่นจนถึง
้
ิ
�
ขนาดต้องให้น�้าเกลือก็มี แม้จะเมาคลื่นเมาเรือแต่เมื่อถึง
เวลาเข้ายาม นนร. ทุกนายก็ต้องพยายามปฏิบัติหน้าท ่ ี
ให้ได้ (เป็นการฝึกหรือสร้างเหล็กในคน) หลังจากออกยาม
แล้วก็ค่อยไปพัก เม่อจบออกมาแล้วพวกเราทหารเรือ
ื
ี
�
ื
ท่ออกเรือบ่อย ๆ ก็คุ้นเคยกับคล่นและลมทะเลทาให้
การเมาคลื่นลดลง ส�าหรับช่วงการเดินทางนี้ การเรียน
ื
และการฝึกในเรืออาจลดลงไปบ้าง เน่องจากสภาพ
ื
คล่นลมแรง และความไม่พร้อมของ นนร. (เหล็กยังไม่
กล้าแกร่งพอ) ในสมุดจดหมายเหตุบันทึกเก่ยวกับ
ี
ั
ประเทศบรูไนว่า “ประเทศบรูไน ต้งอยู่ทางทิศตะวันออก
เฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียว มีกรุงบันดาเสรี-เบกาวัน
เป็นเมืองหลวง อยู่ห่างจากท่าเรือมัวราประมาณ ๒๗
กิโลเมตร ประชาชนร้อยละ ๖๕ เป็นชาวบรูไน ร้อยละ
๒๕ เป็นชาวจีน ร้อยละ ๑๐ อื่น ๆ นับถือศาสนาอิสลาม
เป็นศาสนาประจาชาต มีสุลต่านเป็นประมุขปกครอง
�
ิ
ภาพที่ ๒๓ ร่องน�้าและการจอดเรือที่ท่าเรือมัวรา
ประเทศ” เม่อเรือจอดเทียบท่าเสร็จแล้วมีธรรมเนียม
ื
ี
้
�
จากในภาพจะเห็นว่า การเข้าร่องนาท่าเรือมัวราจะ ปฏิบัติท่ส�าคัญ ได้แก่ การเย่ยมคานับของผู้บังคับหมู่เรือ
ี
�
ู
็
้
�
มองเหนเกาะอย่ทางด้านซ้ายของร่องนา มหลกนาเป็น และผู้บังคับการเรือต่อผู้บัญชาการทหารเรือ หรือนายทหาร
�
ั
ี
ทุ่นไฟสีเขียวทางกราบขวา ทุ่นไฟสีแดงทางกราบซ้าย ช้นผู้ใหญ่ของบรูไน การเปิดให้ประชาชนและคนไทย
ั
ี
และมองเห็นกระโจมไฟด้านขวา กระพริบ ๓ วาบทุก ๖ ในต่างประเทศข้นชมเรือ และงานเล้ยงรับรองบนเรือ
ึ
ี
วินาท ได้จอดเรือเทียบกน ๓ ลา มองเห็นเรือรบบรูไน ซ่งคร้งน้จัดงานเล้ยงรับรองบนเรือหลวงสีชัง ผู้เขียนได้เป็น
�
ี
ั
ี
ั
ึ
เทียบท่าอยู่ด้านหน้า เป็นเรือรบติดอาวุธปล่อยนาวิถ ี ตัวแทน นนร.ชั้นปีที่ ๒ ร่วมงานเลี้ยงด้วย มีแขกรับเชิญ
�
ู
้
่
ู
ู
่
ู
ั
�
ั
แบบ Exocet (สมัยน้นถือว่าเป็นอาวุธปล่อยนาวิถีท ่ ี เชน เอกอคราชทตไทย และทตกระทรวงตาง ๆ ผชวยทต
่
ั
ทันสมัยมาก เพราะยังไม่มีท้ง Harpoon และ C-801 หรือ ทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารเรือบรูไน เป็นต้น หมู่เรือฝึก
นาวิกศาสตร์ 19
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ ๒๕๖๔
่
ู
ี
ี
่
ื
้
ั
ี
ั
่
ั
จัดการแสดงศิลปะของไทย เช่น ฟันดาบ กระบ่กระบอง ทงน้เมอเป็น นนร.ช้นปีท ๒ ควรจะร้เกยวกบ
ี
มวยไทย กลองยาว ดนตรีไทย และดนตรีสากล เป็นต้น การหาที่เรือชายฝั่งแบบต่าง ๆ ได้แก่ เครื่องมือเดินเรือ
(รร.นร. ก็มีชมรมของ นนร. เช่นเดียวกับ รร.ชุมพลฯ และเคร่องใช้ การแก้เข็มและขีดเข็ม (ท่ท่องจาได้ข้นใจ คือ
�
ี
ื
ึ
ยศ.ทร. มีชมรมของ นรจ.) ความรู้อีกอย่างหนึ่งคือ ต้องม ี C D M V T จริงไปหลอกให้หลอกตาม และหลอกไปจริง
การปรับเวลาของหมู่เรือฝึกให้ตรงกับเวลาของบรูไน ให้จริงตาม) แบร่งเข็มไขว้ (แบบ ๒ ท่หมาย และ ๓ ท่หมาย)
ี
ิ
ี
คือ เวลาของบรูไนจะเร็วกว่าไทยประมาณ ๑ ช่วโมง แบร่งกับระยะทาง (ใช้เรดาร์) วัดมุมแนวนอน (ใช้ Sextant)
ิ
ั
วันรุ่งข้นได้มีโอกาสไปทัศนศึกษาในตัวเมืองหลวงของ แบริ่ง ๔ ปอยท์ แบริ่งทวีมุม แบริ่งไม่จ�ากัดมุม และแบริ่ง
ึ
ี
ี
ั
บรูไน ได้แก่ พิพิธภัณฑ์บรูไน พิพิธภัณฑ์ Cherchill ผ่านกับมุม การฝึกภาคทะเลคร้งน้มีเหตุการณ์ท่บันทึก
้
้
ิ
ี
ึ
Brunei Monument มัสยิด ห้างสรรพสินค้าโยฮัน และ ไว้ในสมุดจดหมายเหตุอีกเหตุการณ์หน่ง คือ “พธขามเสน
พระราชวังสุลต่าน เรือจอดที่ท่าเรือมัวราจนถึงวันที่ ๒๙ อิเควเตอร์ (เส้นศูนย์สูตร)” ซ่งมีกาหนดว่า หมู่เรือฝึก
ึ
�
ุ
ื
ู
็
ุ
ิ
ั
กมภาพนธ์ พ.ศ.๒๕๓๑ กออกเดนทางม่งหน้าส่เมอง จะผ่านเส้นอิเควเตอร์ ในวันพุธที่ ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๑
สุราบายา ประเทศอินโดนีเซีย ระยะทางประมาณ ๑,๑๐๕ ก่อนเร่มพิธ ๑ วัน ช่วงเวลากลางคืนประมาณ ๑๙๐๐
ี
ิ
ึ
ไมล์ทะเล (ประมาณ ๒,๐๔๖ กิโลเมตร) ระหว่างการเดินทาง ปีศาจทะเลได้ข้นเรือมาทางรูโซ่สมอ มาแจ้งแก่ผู้บังคับ
ี
มีการฝึกสถานีการตรวจค้นในทะเล การฝึกเดินเรือ การเรือว่า “ตอนน้เรือของท่านได้เข้ามาในอาณาจักรของ
ั
ชายฝั่ง หลักปฏิบัติที่ส�าคัญ ได้แก่ เดินเรือชายฝั่งในเวลา เจ้าสมุทรแล้ว จะต้องปฏิบัติตามท่เจ้าสมุทรส่งการตาม
ี
ี
ื
กลางวันต้องห่างจากชายฝั่งอย่างน้อย ๑ ไมล์ทะเล หาก สาส์นท่จะอ่านน” (เจ้าสมุทร คอ เทพเจ้าโพไซดอน)
้
ี
็
่
เป็นเวลากลางคืนต้องห่างชายฝั่งอย่างน้อย ๓ ไมล์ทะเล ซงผบงคับการเรือกตอบวา “ยินดทจะปฏบติตาม” พร้อม
ึ
่
่
ี
ิ
ี
ั
้
ั
ู
ี
ส�าหรับการหาที่เรือนั้น การเดินเรือในร่องน�้าให้หาที่เรือ ท้งเล้ยงอาหารตอบแทนแก่ปีศาจทะเล (ดูภาพท ๒๕
ี
่
ั
ุ
่
ุ
ื
ี
ิ
ึ
ี
ื
ิ
ื
ทก ๓๐ วนาท เดนเรอชายฝั่งให้หาทเรอทก ๓ นาท ี ปีศาจทะเลข้นมาแจ้งข่าวผู้บังคับการเรือ) และเม่อถึงเวลา
การเดินเรือในทะเลลึกต้องหาท่เรือทุก ๑๕ นาท ได้เรียนร ู้ เร่มพิธีประมาณ ๐๙๐๐ ของวันท ๒ มีนาคม พ.ศ.
ี
่
ี
ิ
ี
การหาที่เรือแบบต่าง ๆ และสัญญลักษณ์ในแผนที่ เช่น ๒๕๓๑ เจ้าสมุทร ภริยา พร้อมทั้งบริวาร เช่น ผู้พิพากษา
ี
่
ื
์
่
ี
ื
การหาท่เรือโดยประมาณ (DR) ทเรอเรดาร ทเรอดาวเทียม ช่างตัดผม ช่างโกนหนวด หมอ และสัตว์ทะเล ได้ขึ้นมา
ี
ี
ี
ท่เรือ Fix และท่เรือดาราศาสตร์ (ดูภาพท ๒๔ การหาท่เรือ บนเรือหลวงปิ่นเกล้า ผู้บังคับการเรือได้กล่าวต้อนรับ และ
ี
่
ี
และสัญญลักษณ์) กล่าวขออภัยโทษให้แก่ก�าลังพลประจ�าเรือ และ นนร.
ภาพที่ ๒๔ การหาที่เรือและสัญญลักษณ์ ภาพที่ ๒๕ ปีศาจทะเลขึ้นมาแจ้งข่าวผู้บังคับการเรือ
นาวิกศาสตร์ 20
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ี
ื
ี
ท่ได้เข้ามาในอาณาจักร และอาจล่วงเกินโดยไม่อาจ มาท่เรือของเรา เม่อเราได้รับสัญญาณแล้ว ก็จะต้องตอบ
ทราบได้ ส่วนเจ้าสมุทรก็ได้กล่าวถึงความรุ่งเรืองของ ชื่อเรือเป็น Call Sign ดังนี้ “DE (This is) H T M S
อาณาจักรตนว่าเป็นอย่างไรบ้าง และพระราชทาน (His Thai Majesty Ship : ) H S E D) (H S คือ Call sign
ื
�
�
้
อภัยโทษแก่ทุกคน ด้วยการให้ทุกคนทาการอาบนาชาระ เรือไทยหรืออากาศยานไทย และ E D คือช่อเรือ)”
�
ล้างความผิดและความสกปรก ตัดผม โกนหนวดเครา แปลว่า “นี่คือ เรือหลวง....” ซึ่งการปฏิบัติเช่นนี้ผู้เขียน
ื
ื
จนเสร็จเรียบร้อย เจ้าสมุทร ภริยา และบริวารก็ลงจากเรือ เคยมีประสบการณ์เม่อคร้งอยู่เรือหลวงถลาง เม่อหมู่เรือ
ั
เป็นอันเสร็จพิธี สารวจและรวบรวมข้อมูลทางยุทธการของกองเรือ
�
ี
ั
้
ี
่
้
ี
ท้งน นนร. ทผ่านพิธีนแล้ว ก็จะถือว่าเป็นชาวเรือ ทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ (มสร.กทบ.กร.) จะเดินทางไป
ั
โดยสมบรณ์ หรือเป็น “ทหารเรือช้นลายคราม” มีการมอบ ฝั่งทะเลอันดามัน ในหมู่เรือประกอบด้วย เรือหลวงถลาง
ู
ี
ี
ประกาศนียบัตรให้กับ นนร. ท่ร่วมพิธีน้ด้วย (ดูภาพท ี ่ (เรือธง) เรือหลวงบางระจัน และเรือหลวงหนองสาหร่าย
ู
๒๖ พธีข้ามเส้นอิเควเตอร์ (เส้นศูนย์สตร) และ เดินทางถึงสิงคโปร์ แล้วเตรียมจะเข้าจอดที่ท่าเรือบรานี
ิ
�
้
ประกาศนียบัตร) ในประกาศนียบัตรจะเห็นเจ้าสมุทร เม่อเรือไปถึงร่องนาในตอนเช้ามืด ได้สังเกตเห็นว่ามีเรือของ
ื
ิ
ั
ั
์
ั
ั
ยืนถืออาวุธเป็นสามง่ามอยู่ข้างกาย มีสัตว์ทะเลล้อมรอบ สงคโปรส่งสญญาณโคมไฟว่า “วบวาบ วบวาบ วบวาบ”
ี
ู
ึ
มีนางเงือก และปลาโลมา เป็นต้น ผ้เขยนจงถามนายทหารสอสารว่าสญญาณอะไร?
ื
ั
่
�
ั
นายทหารส่อสารขณะน้นเพ่งจะสาเร็จการศึกษา และ
ิ
ื
ื
�
อาจยังไม่มีความชานาญเร่องโคมไฟมากนักจึงยังตอบ
ไม่ได้ (เหล็กยังไม่กล้าพอ) เขาถามมาว่าเราเป็นใคร จึงให้
ื
ื
นายทหารส่อสารไปส่งการให้พนักงานส่อสารตีไฟตอบ
ั
ื
กลับไป เร่องน้จึงอยากจะให้เป็นบทเรียนว่า วิชาโคมไฟ
ี
หรือธงสองมือ หรือวิชาธงประมวล หรือวิชาความรู้ต่าง ๆ
ั
ิ
ื
ี
ท่ได้เรียนได้ฝึกปฏิบัต (ศาสตร์) เม่อคร้งอยู่ใน โรงเรียนจ่า
�
ั
ิ
ทหารเรือ และ รร.นร.น้น มีความสาคัญอย่างย่ง นักเรียน
ี
ั
ี
ทหารทุกคนต้องต้งใจเรยน และต้งใจฝึกให้เช่ยวชาญ หรือ
ั
ภาพที่ ๒๖ พิธีข้ามเส้นอิเควเตอร์ (เส้นศูนย์สูตร)
ั
็
ึ
้
ื
ื
่
�
�
และประกาศนียบัตร ชานาญจนถงขนเป็นมออาชีพ เพราะเมอสาเรจการศึกษา
ออกมารับราชการแล้ว เราไม่ทราบแน่นอนว่าจะได้ใช้
ี
ี
จนถึงเช้าวันศุกร์ที ๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๑ หมู่เรือฝึก เม่อใด ต้องมีความพร้อมท่จะใช้เสมอ เหมือนเหล็กท่ถูกต ี
ื
่
ื
่
ึ
่
เดนทางถงปากรองนาใกล ๆ สถานน�ารองเมองสราบายา เปนดาบตองลบไวใหคมอยูเสมอ ดงเพลง “ดาบของชาต ิ
่
ิ
็
ั
ุ
ี
้
้
�
ั
้
้
่
้
ึ
จนเวลา ๐๘๐๐ พนักงานนาร่องชาวอินโดนีเซียก็ข้น เล่มนี้ คือชีวิตเรา ถึงจะคมอยู่ดีลับไว้.... ”
�
เรือหลวงสีชัง (ไม่ได้ขึ้นอีก ๒ ล�า) แล้วน�าเรือเข้าร่องน�้าที่ หลังจากเรือจอดเทียบท่าเรือสุราบายาหรือท่าเรือ
มีความยาวประมาณ ๓๐ กิโลเมตร ระหว่างการเดินเรือใน Tunjung Perak แล้ว (Tunjung ภาษาอินโดแปลว่า
ั
ี
�
ื
ร่องนาจะมองเห็นเรือประมงอินโดนีเซีย เรือสินค้าท่จอด แหลม ซงท้งอินโดนีเซียและมาเลเซีย นิยมนามาต้งเป็นช่อ
�
้
ั
่
ึ
้
�
�
�
้
ทอดสมอในแม่นา เรือรบ และเรือดานา (อินโดนีเซียมีเรือ ท่าเรือ เช่น Tujung Priok ท่กรุงจาการ์ตา และ Tunjung
ี
�
้
ู่
ดานามานานแล้ว) จอดอย ในสมุดจดหมายเหตุบันทึกว่า Pelas อยู่ทางตอนใต้ของมาเลเซียติดกับสิงคโปร์ ห่างจาก
�
“ลืมไป เมื่อเข้าใกล้สถานีน�าร่องแล้ว สถานีน�าร่องจะส่ง กัวลาลัมเปอร์ประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เป็นต้น) มีการ
สัญญาณโคมไฟ “วับวาบ (A) วับวาบ (A) วับวาบ (A)” ปล่อยให้ นนร. ได้ทัศนศึกษาภูมิประเทศตัวเมืองสุราบายา
นาวิกศาสตร์ 21
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ ๒๕๖๔
ื
ิ
ได้เห็นอนุสาวรีย์สูง ๆ แต่ไม่รู้ช่อ และส่งต่าง ๆ ศูนย์การค้า Block M, Ratu Pasar, Metro Pasar และ
ภายในเมือง จนตอนเย็นกลับมาเชียร์การแข่งขันกีฬา สวนสนุกคล้ายแดนเนรมิต ในสมุดจดหมายเหตุยังบันทึก
ื
็
ื
่
่
ี
ิ
ั
ู
่
ระหว่าง นนร. ไทย กบ นนร. อนโดนเซีย (หลักสตร อีกว่า “ทาเรอ Tungjung Priok เปนทาเรอทใหญโตมาก
่
ี
ึ
การศึกษา ๔ ปี) ซ่งมีอยู่ประมาณ ๓๐๐ คน พออีกวันหน่ง มีการขนถ่ายสินค้า และเรือเข้าออกตลอดวัน ส่วน
ึ
ี
ก็ได้ไปท่พลาซ่า มีของขายหลายอย่าง ตอนเย็นได้ไปร่วม กรุงจาการ์ตา เป็นเมืองท่เจริญกว่าเมืองสุราบายา ผู้คน
ี
งานเลี้ยงที่ รร.นร. อินโดนีเซีย เป็นเจ้าภาพ มีอาหารเป็น มากมายแต่ยังพูดภาษาอังกฤษไม่ค่อยได้ มีรถแท็กซ ่ ี
้
ั
่
ี
ั
่
ั
้
ถว มนฝรง โรต และน�าขวด การสนทนาขณะนนใช้ภาษา ติดมิเตอร์แล้ว” ส�าหรับอาหารหลักของ นนร. ที่อยู่ใน
ั
อังกฤษ (รร.นร. อินโดนีเซีย ตั้งอยู่ที่เมืองสุราบายา และ เมืองจาการ์ตาก็คือ Dunkin Donut และไก่ทอด KFC
ึ
ตอนท่ผู้เขียนได้ไปเรียนหลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ ซ่งชาวอินโดนีเซียจะใช้มอรับประทานอาหารแทนช้อนส้อม
ื
ี
ี
่
ั
้
ี
ี
อินโดนีเซีย ได้กลับไปดูงานท รร.นร. แห่งน้อีกคร้ง) ท้งนชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ยังใช้มือรับประทานอาหาร
ั
ี
ึ
ู่
เลิกงานเล้ยงก็กลับเรือ ส่วนอีกวันหน่งเป็นชุดอยู่ ต้อง อย เพราะเป็นวัฒนธรรมท่สืบต่อกันมา เหมือนกับคนไทย
ี
ี
สอบวิชาที่ตกค้าง ได้แก่ เชือกเล็ก เรือช่วยชีวิต การชัก สมัยก่อนท่ใช้มือรับประทานอาหารเหมือนกัน อยู่ท ่ ี
ี
หย่อนเรือเล็ก การขีดเข็ม การใช้เคร่องมือเดินเรือ จากน้น จาการ์ตา ๓ วัน หมู่เรือฝึกก็ออกเดินทางต่อ ตอนน้ในสมุด
ื
ั
การปฏิบัติหน้าท่เวรยาม วันต่อมา ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๑ จดหมายเหตุบันทึกว่า “วันเสาร์ท่ ๑๒ มีนาคม ๓๑
ี
ี
ได้มีโอกาสไปชมเรือฝึกของ นนร. อินโดนีเซีย เป็นเรือใบ วันนี้อากาศดี คลื่นลมสงบ ข้าพเจ้าพอจะมีเวลาว่างที่
่
ี
่
ื
ิ
ึ
ั
ช่อ K.R.I.DEWARUCI ท้งน อักษร K.R.I. เป็นภาษา จะคดวา อก ๑๖ วนกจะไดกลบ รร.นร. แลวซิ หนงเดอน
้
ั
็
้
ี
้
ื
ั
�
�
ื
อินโดนีเซีย เป็นคานาหน้าช่อเรือรบอินโดนีเซีย ย่อมาจาก กว่า ๆ ที่ผ่านมา ได้สร้างอะไรหลาย ๆ อย่างให้แก่
“Kapal Republik Indonesia” ถ้าเป็นเรือรบของไทย ข้าพเจ้า แก่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ซึ่งข้าพเจ้าจะไม่ลืม
ั
�
จะใช้ “H.T.M.S : His Thai Majesty Ship” เรือรบ ส่งเหล่าน้นแน่ ๆ” ช่วงบ่าย ผู้ช่วยต้นปืนได้แนะนา
ิ
�
สหรัฐอเมริกา ใช้ “U.S.S. : United State Ship” การเดินทางเข้าช่องแคบสิงคโปร์ ส่งสาคัญ คือ กระโจมไฟ
ิ
เรอรบราชนาวีอังกฤษ ใช้ “H.M.S. : Her Majesty Horsburgh ข้อสังเกตคือ กระโจมไฟจะมีสีขาวคาดเขียว
ื
�
Ship” ส่วนประเทศอ่น ๆ ก็มีเหมือนกัน เรือใบลาน ี ้ ท่จะใช้เป็นจุดเปล่ยนเข็มเข้าช่องแคบ ในช่องแคบจะม ี
ื
ี
ี
ื
ื
ี
สร้างเม่อปี ค.ศ.๑๙๕๒ เคยพา นนร. อินโดนีเซีย “Middle Channel” คือ พ้นท่อันตราย สังเกตจากสีชมพ ู
ี
เดินทางไปฝึกท่สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญ่ปุ่น มะนิลา ในแผนท เรือจึงต้องเดินเรือข้าง Middle Channel
ี
ี
่
ึ
้
�
มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย (ในสมุดจดหมายเหต ุ ซ่งเรียกว่า “Boat Lane” โดยให้ระวังทางนาวน เรียกว่า
ื
เมื่อเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๓๑ ได้บันทึกไว้ว่า “ในช่วง “Eddy” การเดินเรือในช่องแคบมะละกาแม้คล่นลม
ปลายเดือน มีเรือฝึกของอินโดนีเซียมาเย่ยมช่อ จะสงบ แต่จะมีเรือสินค้าและเรืออ่น ๆ อีกจานวนมาก
�
ื
ี
ื
ึ
K.R.I.DEWARUCI”) ซ่งชาวอินโดนีเซียรู้สึกมีความ โดยเฉพาะในเวลากลางคืนจะมองเห็นแสงไฟหลาย
้
้
ั
ภาคภูมิใจกับเรือฝึกลานมาก จากนนเวลาประมาณ ร้อยดวง ต้องใช้ความระมัดระวังอย่างมากที่สุด (ผู้เขียน
�
ี
�
๑๒๐๐ ออกเรือเดินทางไปกรุงจาการ์ตา เมืองหลวงของ เคยมีประสบการณ์นาเรือในช่องแคบมะละกาในเวลา
อินโดนีเซีย ระยะทางประมาณ ๔๐๐ ไมล์ทะเล ในวันพุธ กลางคืน หลังจากออกเรือจากท่าเรือบราน สิงคโปร์ ในเวลา
ี
ี
ื
�
้
ที่ ๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๑ เวลา ๐๘๑๐ เรือเดินทางถึง ประมาณ ๒๔๐๐ เม่อออกจากร่องนาแล้ว หมู่เรือก็เล้ยวขวา
�
ปากร่องนา มีพนักงานนาร่องมาข้นเรือ แล้วนาเรือเข้า เข้าช่องแคบมะละกาทันท แล้วได้ส่งการให้ต้นหน
ึ
้
�
ั
�
ี
เทียบท่าเรือ Tunjung Priok เสร็จเรียบร้อยก็ปล่อย หาที่เรือให้แม่นย�าที่สุด เช่น แบริ่งกับระยะทาง (เรดาร์)
นนร. ขึ้นทัศนศึกษากรุงจาการ์ตา ผู้เขียนไปหลายที่ เช่น หาท่เรือจากดาวเทียม (GPS) รวมท้งการเปรียบเทียบท่เรือ
ี
ั
ี
นาวิกศาสตร์ 22
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
�
ั
�
กับเรืออีก ๒ ล�า คือ เรือหลวงบางระจัน และเรือหลวง การทางานท้งในส่วนพรรคนาวิน (นว.) ทางานบนดาดฟ้า
�
้
�
ี
หนองสาหร่าย ว่าต�าบลที่เรือถูกต้องหรือไม่ รวมทั้งได้ให้ เหนือแนวนา กับพรรคกลิน (กล.) ทางานใต้แนวนาเก่ยวกับ
�
้
�
นายทหารประจ�าเรือมาดูการน�าเรือในช่องแคบมะละกา การกล การไฟฟ้าใต้แนวนา โดยแบ่งพรรค-เหล่า
้
ในเวลากลางคืนเพื่อเก็บไว้เป็นประสบการณ์ และจะได้ ออกเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ ๑) พรรคนาวินรวมกับพรรคนาวิก
นาไปใช้ในอนาคตได้) จากสิงคโปร์ใช้เวลาเดินเรือ โยธิน โดยยังเรียนรวมกันอยู่ และจะไปแยกอีกครั้งตอน
�
ั
ี
่
ั
ประมาณ ๓ วัน กับอีก ๗ ช่วโมง หมู่เรือฝึกนักเรียน ปลายปีช้นปีท ๔ หลังจากได้ฝึกหมู่รบหรือภาคนาวิกโยธิน
ั
นายเรือก็เดินทางถึงปีนง ประเทศมาเลเซีย การปฏิบัต ิ ในภาคปลายปีชั้นปีที่ ๓ เรียบร้อยแล้ว ๒) พรรคนาวิน
เหมือนเดิมคือ จะมีพนักงานน�าร่องขึ้นมาบนเรือ แล้วน�า เหล่าพลาธิการ (พธ.) และ ๓) พรรคกลิน (กล.) แต่ไม่มี
้
เรือเข้าร่องนาจนจอดเทยบท่าเรอปีนัง จากนนก็ปล่อย พรรคนาวิน เหล่าอุทกศาสตร์ (อศ.) สมัยนั้นการเลือกก็
้
ั
ี
ื
�
ให้ นนร. ได้ทัศนศึกษาเมืองปีนัง ได้แก่ ห้างสรรพสินค้า เลือกตามผลการเรียน เหตุผลของการเลือกพรรคเหล่าก็
ั
ึ
ในตัวเมือง ข้นเขาไปปีนังฮิลล์ โดยน่งรถเมล์สาย ๑ ต่อด้วย ไม่เหมือนกัน อย่างผู้เขียนที่เลือกพรรคนาวิน ก็เพราะไม่
รถเมล์สาย ๘ และสุดท้ายเป็นรถรางข้นเขา ใช้เวลา อยากอยู่ในห้องเคร่องจักรเคร่องไฟฟ้าท่จะมีกล่นนามัน
้
ื
ื
ึ
�
ิ
ี
ประมาณ ๔๐ นาที ระหว่างรถรางวิ่งขึ้นเขา จะมองเห็น ท�าให้เมาคลื่นได้ง่าย เป็นต้น
ทิวทัศน์รอบ ๆ ปีนังทั้งหมด (ด้านหน้า) บนปีนังฮิลล์จะ
มีโรงแรม สวนนก และวัด ตอนเย็นมีงานเลี้ยงรับรองบน จบตอนที่ ๒
เรือหลวงสีชังอีกครั้ง และมีการแสดงศิลปะของไทยโดย
นนร. ให้แขกรับเชิญได้ชมจนเลิกงาน เรือจอดอยู่ที่ปีนัง
่
ี
จนถึงวันเสาร์ท ๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๑ ก็เดินทาง ที่มา
ั
ย้อนกลับผ่านช่องแคบมะละกาเข้าสู่น่านนาไทยอีกคร้ง - โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
�
้
- การจัดการความรู้ โรงเรียนนายเรือ เข้าถึงได้จากเว็บไซด์
ในระหว่างการเดินทางกลับก็มีการเรียน การฝึก การสอบ https://rtnakm.com/
วิชาต่าง ๆ และการเวรยามประจ�าสถานี จนวันจันทร์ที่ - สัตหีบแชนแนล สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซด์ Youtube.com
ั
้
ั
ี
ั
ุ
ื
ี
๒๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๑ วันสุดท้ายของการบันทึก “ตื่น - แผนพฒนา นรจ. ๔ ขนตอน กองนกเรยน โรงเรยนชมพลทหารเรอ
�
ี
�
ึ
ข้นมาประจาสถานีรบอีก ช่วงน้ประจาสถานีรบบ่อย - เว็บไซด์ www.wikipedia.com
�
ั
จากน้นการฝึกประจาสถานีสละเรือใหญ่ เรียนวิชาการ - www.sites.google.com
- www.youtube.com
ปกครอง และขนบธรรมเนียมประเพณีทหารเรือ พอตอน
สาย ๆ ก็สอบด้วย ตอนบ่ายเรียนการขีดเข็ม การอ่าน
แผนท่ ช่วงนเรือเร่มเข้าอ่าวไทยแล้ว เห็นเคร่องบิน
ื
ี
ี
ิ
้
ี
ตรวจการณ์ของราชนาวีไทยบินผ่านไปมา รู้สึกดีใจท่ได้
ั
�
กลับมาในเขตน่านนาของเราอีกคร้งหน่ง” การฝึกภาค
ึ
้
ั
�
ี
ทะเลคร้งน้มีความสาคญมาก คือ เป็นการเดินทางไป
ั
ั
ต่างประเทศ (โดยทางเรือ) คร้งแรกของผ้เขียน ทาให้ซึมซับ
�
ู
�
กับคาว่า “ร่วมเครือนาวี จักยลปฐพีไพศาล : Join the
Navy to See the World” ได้อย่างแท้จริง มีเรื่องที่
�
สาคญอกอยางหน่งในชวงปลายปชนปท ๒ คอ การเลอก
ี
ั
่
่
ี
้
ื
ื
ี
ั
่
ึ
ี
ั
พรรคเหล่าของ นนร. (สมัยน้น) หลังจากได้เรียนรู้และฝึก
นาวิกศาสตร์ 23
ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๒ กุมภาพันธ ๒๕๖๔
สร้างเหล็กในคน
(ตอนจบ)
ถ.ถุง
นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๓ ภาคกลางปี หมุนขวา (X1) ๑ รอบ และหมุนซ้าย (Y1) ๑ รอบ ที่ละ
ั
ี
วันพุธท ๓๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๑ วันน้ต้งหมู่เรือฝึก ๑๐ องศา โดยใช้ที่หมายเดียวกันและมีระยะห่างไม่น้อย
ี
่
ภาคปฏิบัติกลางปีของนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๑ ๒ ๓ ๔ กว่า ๑๐ ไมล์ จนเมื่อเรือหันครบ ๓๖๐ องศาแล้วก็น�ามา
�
ื
�
ี
�
และ ๕ ประกอบด้วยเรือจานวน ๓ ลา คือ เรือหลวง คานวณ” เม่อฝึกเสร็จก็เดินทางต่อแล้วก็เข้าจอดท่ท่าเรือ
ื
ิ
ึ
พระทอง (เรือธงหรือเรือหมู่) เรือหลวงอ่างทอง และ แหลมเทียน ฐานทัพเรือสัตหีบ ต่นเช้ามาก็ว่งข้นเขาตามท ่ ี
เรือหลวงประแส ซ่งคร้งน้ผู้เขียนได้ลงฝึกในเรือหลวง ได้ปฏิบัติมาทุกครั้ง แล้วก็เรียนวิชาการยาตราเรือ มี ๒
ึ
ั
ี
ิ
ประแส เป็นเรอฟรเกต ชอเดม U.S.S.GALLUP ม นาวาโท ประเภท คือ การยาตราเรือภายใน และการยาตราเรือ
ิ
ื
ี
ื
่
กมล สุทธิสารสุนทร เป็นผู้บังคับการเรือ เรือเอก สุพรรณ ภายนอก วิชาการตอบเรียกของพนักงานวิทย ซ่งจะต้อง
ุ
ี
ั
ี
็
ั
เหมมาลา เป็นต้นเรือ และ นาวาตร สุรชัย โภคามาส จดบนทกการเรยกตอบออกมาเปนรหส เช่น This is = DE,
ึ
ี
เป็นต้นกลเรือ เรือมาจอดเทียบท่าเรือเสือซ่อนเล็บ ๑ วัน Roger = R, Formation = Form เป็นต้น จากน้น
ั
ก่อนออกเดินทางไปยังฐานทัพเรือสัตหีบ ในระหว่างการ ก็ออกเรือเดินทางไปเกาะช้าง จังหวัดตราด – เกาะแรด
เดินทางมีการหาโมเมนตัม (Momentum) ของเรือ จังหวัดประจวบคีรีขันทร์ - สงขลา ในระหว่างการเดินทาง
ดังนี้ “เอาขวดโยนที่หัวเรือ จับเวลา เมื่อได้แบริ่งขวดแล้ว ได้เรียนและฝึกวิชาชีพทหารเรือเหมือนที่เคยปฏิบัติ เช่น
ั
บอกท้ายเรือ พอขวดถึงท้ายเรือตามแบร่งท่ต้งไว้ ก็ให้ ธงสองมือ การถอดประกอบอาวุธประจาเรือ การยิงอาวุธ
ิ
ี
�
�
ื
�
�
้
สัญญาณ แล้วหัวเรือก็จะโยนขวดต่อไป ทาต่อเน่องไปจน ประจาเรือต่อเป้าพ้นนาและเป้าอากาศยาน การชักสลุตธง
ื
เรือหยุดแล้วแบร่งพร้อมกันท้งหัวเรือและท้ายเรือ จากน้น การรับ - ส่งส่งของในทะเล การสมอเรือ เรือช่วยชีวิต
ั
ั
ิ
ิ
�
�
ี
�
นาจานวนขวดท่โยนออกไปมาคานวณหาโมเมนตัมเรือ” การชักหย่อนเรือเล็ก กระเชียง ยังได้เรียนและฝึกการใช้
�
ซ่งต้องมีทีมงาน (Team Work) ท่ด เพ่อให้งานสาเร็จ Sextant หาที่เรือชายฝั่ง การใช้ ATP การใช้ประมวล
ึ
ี
ี
ื
ี
ึ
ิ
ั
ต้งแต่คนโยนขวด คนแบร่งท่หัวเรือและท้ายเรือ คนจับ สากล และประมวลราชนาว ซ่งจ�าเป็นอย่างยิ่งต่อการ
ี
ื
่
ี
ั
เวลา คนติดต่อ คนบันทึก ขออธิบายเพ่มเติมการหา เข้าเวรยาม เพราะเม่อเป็นนักเรียนนายเรือช้นปีท ๓
ิ
�
โมเมนตัมของเรือ คือ การหาระยะทางหน้าที่สั่งหยุดเรือ พรรคนาวิน จะต้องเข้ายามในตาแหน่งท่สูงข้น เช่น ผู้ช่วย
ึ
ี
ตามความเร็วต่าง ๆ แล้วจะมีระยะทางอีกเท่าไร? ซ่ง ต้นหน ผู้ช่วยพนักงานวิทย พนักงานเรดาร์ พนักงานศูนย์
ุ
ึ
ค่าท่ได้จะนามาใช้ในการนาเรือต่อไป เช่น การเทียบเรือ ยุทธการ (CIC) เป็นต้น จากสงขลาเรือเดินทางกลับมา
�
�
ี
้
ั
�
ึ
ึ
การเก็บคนตกนา นอกจากหาโมเมนตัมแล้วยังม ี สัตหีบอีกคร้งหน่ง ผู้เขียนต้องข้นจากเรือเพ่อข้นไปฝึก
ื
ึ
การหาดิวิเอช่น (Deviation) เป็นการหาอัตราผิด สาขานาวิกโยธินที่หน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน (นย.) อีก
ั
ของเข็มทิศแม่เหล็ก วิธีการคือ “การหมุนเรือ ๒ รอบ ประมาณ ๑๕ วัน การฝึกภาคปฏิบัติทางทะเลจึงส้นสุดลง
ิ
นาวิกศาสตร์ 22
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๓ ภาคปลายปี เป็นเข็ม ๑๓๕ ๒๐๓ ระหว่างการเดินทางจาก รร.นร.
�
ั
ิ
ี
วันแรกของการฝึกภาคปฏิบัติทางทะเล เร่มต้งแต่วันท ่ ี ไปสัตหีบ จะใช้แผนท่หมายเลข ๑๔๒ ข้าพเจ้าทาหน้าท ี ่
๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ ถึง ๓๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒ พนักงานวิทยุ ส่งควรทราบ เช่น ออกเรือตามแผน
ิ
ั
ิ
รวมระยะเวลาท้งส้น ๕๒ วัน หมู่เรือฝึกประกอบด้วย (ED49-4) เร่มการฝึกตามตารางฝึก 1605 (EX3-8
ิ
เรือหลวงสีชัง (เรือหมู่) เรือหลวงท่าจีน และเรือหลวง DESIG EVENT 1605) ขอแยกขบวนเพื่อหลบเรือแล้ว
ปิ่นเกล้า เส้นทางเดินเรือท่เป็นเมืองท่าต่างประเทศ ได้แก่ กลับเข้าเข็มเดิม (TA87-TA92) และขอแยกขบวนไป
ี
ี
ท่าเรือพอร์ตกลังและท่าเรือปีนัง ประเทศมาเลเซีย ท่าเรือ เป่าเขม่า (TA87-TA43) ซึ่งข้อความท่ได้รับน้จะต้องเปิด
ี
โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา และท่าเรือบอมเบย์ ประเทศ ATP แล้วแปลความหมายออกมา จากน้นก็รายงานให้
ั
อินเดีย ครั้งนี้ผู้เขียนได้ลงฝึกในเรือหลวงสีชัง ซึ่งเป็นเรือ ผู้นาเรือในขณะน้นได้รับทราบ เช่น ผู้บังคับการเรือ ตร.
ั
�
ี
ึ
�
ยกพลข้นบกขนาดใหญ่ต่อท่อู่อิตัลไทย มารีน จากัด (อู่เรือ ตห. ตป. นปร. หรือ นสส. เป็นต้น” จากนั้นก็มีการหา
ั
เอกชนของไทย) และได้บันทึกนายทหารท่อยู่ในหมู่เรือฝึก โมเมนตัมเรือ และการหาดิวิเอช่น จนเรือเข้าเทียบท่าเรือ
ี
ี
ไว้ครบทุกท่าน เช่น พลเรือตร สุวิทย์ วัฒนกุล เป็นผู้บังคับ แหลมเทียน ตื่นเช้ามาก็วิ่งขึ้นเขากระโจมไฟแหลมปู่เจ้า
ี
หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ (ผบ.มฝ.นนร.) นาวาเอก แล้วกลับมาเรียนวิชาชีพทหารเรือ และความรู้เก่ยวกับเรือ
ี
ี
ประสิทธิผล หอมจันทร์ เสนาธิการหมู่เรือฝึกนักเรียน วันต่อมาขณะท่เรือยังอยู่ท่สัตหีบก็เป็นการฝึกกระเชียงทน
ื
้
นายเรือ (เสธ.มฝ.นนร.) และผู้อานวยการศึกษาพรรคนาวิน ว่ายนาข้ามเกาะ และไต่เกาะ เม่อทดสอบสมรรถภาพ
�
�
(ผอ.ผอศ.นว) นาวาเอก บวร ม่งเมือง ผู้ช่วยผู้อานวยการ ร่างกาย และรับการส่งกาลังบารุงเรียบร้อย หมู่เรือฝึก
ิ
�
�
�
ศึกษาพรรคนาวิน (ผช.ผอศ.นว.) นาวาเอก วิรัช ศรีบุญวงศ์ ก็ออกเดินทางไปจังหวัดชุมพร มีการฝึกยิงเป้าพ้นนา
้
�
ื
เป็นต้นกลหมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ (ตก.มฝ.นนร.) เป้าอากาศยานกลางวันและกลางคืน ถึงปากนาชุมพรก็จอด
�
้
ึ
ี
และผู้อานวยการศึกษาพรรคกลิน (ผอศ.กล.) นาวาโท ทอดสมอปล่อย นนร. ข้นบก ส่วนใหญ่จะไปสักการะเสด็จเต่ย
�
นิรุทธ์ หงส์ประสิทธิ์ เป็นผู้ช่วยผู้อ�านวยการศึกษาพรรค ท่หาดทรายร เรือจอดอยู่ชุมพร ๑ วัน ออกเดินทางไป
ี
ี
นาวิน (ผช.ผอศ.นว.) นาวาเอก วิญชัย จารุปกรณ์ เป็น จังหวัดสงขลาต่อ มีการสาธิตการยิงลูกระเบิดลึกปราบเรือ
นายทหารยุทธการหมู่เรือฝึกฯ (นยก.มฝ.นนร.) นาวาโท ด�าน�้า K-GUN โดยเรือหลวงปิ่นเกล้าและเรือหลวงท่าจีน
์
�
�
�
ดารงศักด ห้าวเจริญ นายทหารส่งกาลังบารุงหมู่เรือฝึกฯ การฝึกรับ - ส่งสิ่งของในทะเล วันที่ ๑๗ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
ิ
(นกบ.มฝ.นนร.) นาวาตร จิรศักด ชวนะเสน เป็นนายทหาร ๒๕๓๒ เรือก็ถึงสงขลา และเข้าจอดเทียบท่า จอดวันเดียว
์
ิ
ี
ี
�
่
ี
กาลังพลหมู่เรือฝึกฯ (นกพ.มฝ.นนร.) นาวาตร ไพทูรย์ ก็ออกเรือในวันท ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ เวลา ๑๔๐๐
ื
่
ื
ู่
ึ
ประสพสิน นายทหารสอสารหมเรอฝกฯ (นสส.มฝ.นนร.)
และนายทหารประจ�าเรือหลวงสีชัง เช่น นาวาตรี บุญชัย
มรินทร์พงษ์ ผู้บังคับการเรือ (ผบ.เรือ) เรือเอก กาญจน์
ดีอุบล ต้นเรือ (ตร.) และเรือเอก สุรินทร์ สวัสดิใหม่
ต้นกลเรือ (ตก.เรือ) เรือจอด ๑ วัน ก็ออกเดินทางไป
�
�
้
ฐานทัพเรือสัตหีบ มีการประจาสถานีเดินเรือในร่องนา
�
้
�
ผู้เขียนได้มีโอกาสได้เห็นการนาเรือในร่องนาบนสะพาน
ั
เดินเรือเป็นคร้งแรก และจดบันทึกไว้ว่า “ออกจากท่าเรือ
เสือซ่อนเล็บเพื่อเดินทางไปสัตหีบ ซึ่ง นนร. มีการชม
้
่
การเดนเรอในรองนาครงแรก จะใชเขม ๑๒๖ แลวเปลยน ภาพที่ ๒๗ ตัวอย่างรูปขบวนเรือ
ิ
ื
�
้
็
ี
่
้
้
ั
นาวิกศาสตร์ 23
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
ื
เพ่อเดินทางไปพอร์ตกลัง ประเทศมาเลเซีย มีการฝึกสถาน ี
พ่วงจูง มีการฝึกการแปรขบวนของหมู่เรือ เป็นรูปขบวน
ต่าง ๆ เช่น FORM 1 FORM 2 FORM 3 และ FORM 4
่
ี
(ดูภาพท ๒๗ ตัวอย่างรูปขบวนเรือ) มีการเรียน
ิ
การใช้โต๊ะพล็อต จากน้นเรือก็เร่มเข้าช่องแคบมะละกา
ั
ี
�
ิ
ส่งสาคัญท่ต้องเห็นก่อนเข้าช่องแคบและเคยกล่าวไปแล้ว
ก็คือ กระโจมไฟ Horsburgh และได้เคยเขียนไว้ว่า
“วันจันทร์ท่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ เรือเร่มเข้า
ิ
ี
ช่องแคบมะละกา เพราะสังเกตได้จากกระโจมไฟฮอสเบิร์ก
็
่
ื
ิ
ั
่
ั
ี
่
�
่
ชองแคบมะละกาเปนชองแคบทสาคญในการเดนเรอทวโลก
ถ้าประเทศไทยเราขุดคอคอดกระ ข้าพเจ้าคิดว่าคงจะให้
ประโยชน์กับไทยมากทีเดียว” เรือเดินทางในช่องแคบ
มะละกาผ่านสิงคโปร์แต่ไม่ได้เข้าจอด ได้แต่เห็นอยู่ใน
ึ
สายตาจนถึงเมืองท่าพอร์ตกลังก็มีนาร่องข้นมาบนเรือ
�
�
้
�
แล้วนาเรือเดินทางในร่องนาแล้วเข้าจอดเทียบท่า (ขณะเป็น
ผู้บังคับการเรือหลวงถลาง ก็เคยนาเรือเข้าร่องนาแห่งน ้ ี
�
�
้
ี
ื
และจอดเทยบท่าเรือพอร์ตกลัง หลงออกมาจากท่าเรอ ภาพที่ ๒๘ ท่าเรือพอร์ตกลัง และหมู่ดาวบนท้องฟ้า
ั
ี
ี
บรานีท่สิงคโปร์ตามท่ได้เคยกล่าวไปแล้ว) ลักษณะท่าเรือ
ี
พอร์ตกลัง “เป็นท่าเรือท่สะอาด และท่ท่าเทียบเรือ ของมาเลเซียในสมัยนั้น วันศุกร์ที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ.
ี
ู
ี
จะติดทุ่น หรือลูกตะเพราในการเทียบได้ดี เป็นระเบียบ ๒๕๓๒ เรือออกจากพอร์ตกลังเดินทางไปหม่เกาะพพ ี
ี
ี
่
ี
และสวยงาม ควรท่เมืองไทยจะเอาไปพัฒนาใช้กับเมือง และเกาะพญานาค จังหวัดกระบ ได้เห็นนักท่องเท่ยว
ื
่
ี
ี
ี
่
่
ั
ี
ิ
ท่าเทียบเรือของไทยบ้าง” (ดูภาพท ๒๘ ท่าเรอพอร์ตกลัง ชาวต่างชาตจานวนมากมาเทยวทเกาะพีพ จากน้นก ็
�
และหมู่ดาวบนท้องฟ้า) จากภาพจะเห็นได้ว่าไม่ได้มีการ เดินทางต่อไปท่าเรือภูเก็ต เข้าร่องน�้าภูเก็ต ถือเข็ม ๓๓๐
บันทึกไว้เฉพาะท่าเรือ แต่ได้บันทึกภาพดาวต่าง ๆ ที่ใช้ พอถึงทุ่นที่ ๓ (สีเขียว) เปลี่ยนเข็มเป็น ๐๑๒ จากนั้นก็ใช้
สาหรับการเดินเรือดาราศาสตร์ไว้ด้วย เช่น หมู่ดาวเหนือ หลักน�า น�าเรือเข้าไปจนถึงท่าเทียบเรือ เมื่อเรือเทียบท่า
�
ึ
ั
็
�
ี
(Northern Stars) มีดาวท่สาคัญ เช่นดาว Perseus เรียบร้อยกปล่อยนักเรียนให้ไปทศนศกษาตัวเมืองภูเก็ต
ดาว Vega ดาว Altair และเวลาจะหาที่เรือดาราศาสตร์ ได้รู้จักแหล่งท่องเท่ยว ได้แก่ หาดในหาน แหลมพรหมเทพ
ี
ื
ี
ต้องใช้เคร่องมือท่เรียกว่า “Sextant” มาวัดดาว ขณะท ่ ี และหาดราไวย์ ตอนนั้นภูเก็ตยังไม่เป็นที่นิยมเหมือนกับ
เรือจอดท่พอร์ตกลัง นนร. ได้ข้นบกไปทัศนศึกษาท ่ ี หาดใหญ่ นักท่องเท่ยวก็จะมีชาวต่างชาติมากกว่าคนไทย
ึ
ี
ี
กรุงกัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของมาเลเซีย ขณะนั้นก็ วันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๒ เรือเดินทางออกจาก
ี
เจริญมาก มตกใหญ่โตผสมกบธรรมชาตคอต้นไม แสดงถง ภูเก็ตมุ่งหน้าสู่กรุงโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา ใช้เวลา
้
ั
ื
ิ
ึ
ึ
่
ื
ความร่มร่น มีย่านคนจีนท่ดูเจริญกว่าคนพ้นเมืองเช้อสาย เดินทางประมาณ ๔ วน ในเช้าวันท ๓ มนาคม พ.ศ.
ี
ื
ี
ั
ื
ี
�
มาเลย์ ได้ไปดูสวนสัตว์ สาหรับชาวมาเลเซียแล้วส่วนใหญ่ ๒๕๓๒ เรือเดินทางเข้าเทียบท่าเรือ Queen Elizabeth
จะพูดภาษาอังกฤษได้ และได้ข้นไป Genting Highlands กรุงโคลัมโบ สภาพท่าเรือแห่งนี้เก่ามาก ๆ ตามแผนแล้ว
ึ
ซึ่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยว และบ่อน Casino ที่มีชื่อเสียง เม่อเรือเทียบท่าเสร็จจะมีการปล่อยให้นักเรียนข้นบก
ึ
ื
นาวิกศาสตร์ 24
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
ั
ทัศนศึกษา แต่ขณะน้นสถานการณ์ในประเทศศรีลังกา ยังไม่ เป็นท่าเรือเก่า มีกงสุลไทย ผู้ช่วยทูตทหารเรือไทย และ
สงบดีจึงยังไม่ได้ปล่อย รอจนกระทั่งเอกอัครราชทูตไทย วงดุริยางค์ของกองทัพเรืออินเดียมารอรับ เมื่อเทียบท่า
ั
็
้
ื
ี
ั
็
ู
ี
ึ
ั
ิ
่
็
ื
(เป็นผ้หญง) มาชแจงให้หมู่เรอฝึกทราบสถานการณ์ให้ เสรจนกเรยนกไปทศนศกษาในตวเมองบอมเบย์ซงกเป็น
ึ
เรียบร้อยก่อนจึงปล่อยนักเรียนได้ นนร. จึงได้เข้าไปในเมือง เมืองเก่า การเดินทางก็ไม่มีรถปล่อย ต้องเดินจากท่าเรือ
ึ
ซ่งเป็นเมืองเก่าแก่ค่อนข้างจะทรุดโทรม ท้งน้ประเทศ ท่ค่อนข้างสกปรกเป็นเวลาเกือบช่วโมงจึงจะถึงตัวเมือง
ี
ั
ี
ั
ศรีลังกามีประชากรประมาณ ๑๗ ล้านคน ประกอบด้วย ในเมืองน้ท่ท่าเรือนอกจากจะมีเรือสินค้า แล้วยังมีฐานทัพเรือ
ี
ี
ชาวสิงหล ทมิฬ และอีก ๒ ชนชาต นบถอศาสนา ภาคตะวันตกของอินเดียต้งอยู่ด้วย จึงมองเห็นเรือรบและ
ั
ื
ั
ิ
ั
ู
ื
ุ
พุทธ ฮินด และคริสต์ และยังมีการแบ่งช้นวรรณะอยู่ เรอบรรทกเครองบนจอดเทียบทาอย่ดวย สาหรบของท่ระลึก
ิ
่
ู
้
่
ี
ั
ื
�
วันหยุดราชการไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์แต่เป็นวันพระ ดังนั้น ท่พอซ้อได้จาพวกผ้าปูเตียง กาไล สร้อย กระเป๋าหนัง
ื
�
�
ี
ปีหน่งจึงมีวันหยุดประมาณ ๑๐๐ กว่าวัน ในระหว่าง และหนังสือต่าง ๆ ประมาณวันท ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒
ี
่
ึ
ี
เรือจอดผู้เขียนได้เป็นตัวแทนไปร่วมงานเล้ยงท่บ้าน เรือออกเดินทางอีกคร้ง “หมู่เรือฝึกออกจากท่าเรือ
ั
ี
ื
ท่านเอกอัคราชทูต ท่านได้เล่าให้ฟังหลายเร่อง เช่น คนไทย บอมเบย์ มุ่งหน้ากลับสู่เกาะตะรุเตา การเดินทางครั้งนี้
ี
ี
ี
ื
ี
ั
ท่ทางานในศรีลังกากับบริษทญปุ่น สินค้าท่มช่อของ ใช้เวลาประมาณ ๗ วัน ๒๒ ชั่วโมง” เป็นการเดินทาง
่
�
ี
ี
ื
�
ื
ศรีลังกา เช่น เพชร พลอย เคร่องเทศ และชา ท่มีช่อเสียง ท่ค่อนข้างนาน ยังจาได้ว่าไม่ได้อาบนาจืด ในทุกเย็นจะได้
�
้
ู
้
ื
�
และนิยมซื้อ คือ ชาซีลอน ใส่กล่องไม้อย่างสวยงาม และ อาบนาทะเลและทาแป้งอังกฤษตราง เม่อเขียนมาถึง
ี
นอริตาเก้ (Noritake) ซึ่งเป็นสินค้าหัตถกรรม นอกจาก ตรงน้ก็ทาให้นึกได้ว่าตอนไปสมทบเป็นต้นหนเรือหลวง
�
สนค้าแล้วศรลงกาในสมัยนนยงม Casino ด้วย ในคน สายบุร ปฏบัติราชการพ้นท่ทัพเรือภาค ๒ ก็เคยออกเรือนาน
ื
ี
ิ
ี
ี
ิ
ี
ื
ั
ั
้
ั
ี
ั
วันท ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒ ก่อนออกเรือมีงานเลี้ยงบน ประมาณ ๗ – ๘ วนเหมอนกน โดยเสนทางเดินเรอออกจาก
ื
ั
ื
่
้
เรือหลวงสีชัง ศรีลังกาได้มีการแสดงที่มีเครื่องดนตรีหลัก ฐานทัพเรือสัตหีบก็ว่งลงใต้มุ่งหน้าออกปากอ่าวไทย
ิ
ได้แก่ กลอง ปี่ ขลุ่ย และการแสดงการร่ายร�า ซึ่งการตี แล้วออกลาดตระเวนในเส้นทางอาณาเขตทางทะเล
จังหวะจะเร่งเร้า รุนแรง รวดเร็ว ขาดความอ่อนช้อย กับประเทศเพ่อนบ้าน ต้งแต่บริเวณปลายแหลมกาเมา
ั
ื
งดงาม ส่วนของไทยเป็นการแสดงศิลปะป้องกันตัว ลงไปเรื่อย ๆ ได้เห็นเรือประมงหลายสิบล�าที่แสดงความ
่
ี
เหมือนกับทุกคร้ง วันรุ่งข้นเรือออกเดินทางจากโคลัมโบ ดีใจท่ได้เห็นเรือรบ “พใหญ่” ออกลาดตระเวนได้ช่วยเหลือ
ั
ึ
ี
ไปกรุงบอมเบย์ ประเทศอินเดีย ในระหว่างการเดินทาง ลูกเรือประมงด้วยการตรวจรักษาพยาบาล และให้ยา
มีการฝึกใหม่ คือ ฝึกเก็บคนตกน�้าด้วยเรือใหญ่ในเวลา สามัญประจาบ้าน ส่วนพ่น้องชาวประมงก็จะให้ปลา
ี
�
กลางคืน ที่ต้องใช้วิธีการเก็บแบบ Williamson Turn เป็นของตอบแทนระหว่างกัน เหนือส่งอ่นใดคือ พ่น้องชาว
ี
ิ
ื
(กรณีไม่เห็นคนตกนา) ส่วนอีกวิธีหน่งก็คือ Full Rudder ประมงได้รับความอบอุ่นใจ เพราะเป็นการป้องปรามไม่ให้
้
�
ึ
�
�
ื
Turn (กรณีเห็นคนตกนา) สาหรับวิธีเก็บแบบ Williamson เรือรบของประเทศเพ่อนบ้านมาจับ หรือยึดเรือประมงไทย
้
ี
Turn ดังนี้ “ถ้าคนตกน�้ากราบขวา จะใช้เข็ม ๖๐ องศา ได้เป็นอย่างด นอกจากได้พบกับเรือประมงแล้วยังได้พบเรือ
ั
�
้
กับเข็มเดิม จากน้นก็หางเสือซ้ายหมด จนเรือหันกลับ สินค้า แท่นขุดเจาะนามันและก๊าซธรรมชาติอีกหลายแท่น
ี
มาเส้นทางเดิม” เช้าวันที่ ๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒ ใกล้ ท่สว่างไสวในเวลากลางคืน ก็ถือเป็นการออกปฏิบัต ิ
�
ื
ี
อินเดียแล้ว มีเรือตรวจการณ์ของอินเดียและรัสเซีย ราชการในทะเลของทหารเรือท่ได้ทาประจาทุกวัน เพ่อ
�
มาลาดตระเวนให้เห็น จนเวลา ๑๐๐๐ ก็รับนาร่องข้นเรือ คุ้มครองผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของไทย กลับมา
�
ึ
้
�
�
ี
นาเรือเข้าร่องนา มองเห็น GATEWAY OF INDIAN อยู่ทาง ท่การฝึกภาคทะเลระหว่างการเดินทางก็ปฏิบัติตาม
ี
่
กราบซ้าย เรือเข้าเทียบท่า Prince’s Dock Bombay ตารางฝึกทุกวัน ยกเว้นวันท ๑๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒
นาวิกศาสตร์ 25
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
�
ิ
ี
ี
ี
ี
ุ
ี
ึ
่
้
ี
ุ
มีการฝึกประจาสถานีสละเรือใหญ่ วันท ๑๘ มีนาคม พ.ศ. พธสดดวรชนในยทธนาวทเกาะชาง ซ่งวันท่เกิดเหตุจริง
ี
่
๒๕๓๒ หมู่เรือฝึกเดินทางถึงหมู่เกาะนิโคบาร์ของอินเดีย คือ วันท ๑๗ มกราคม พ.ศ.๒๔๘๔ เป็นเหตุการณ์รบ
ี
่
ี
ั
ั
ึ
่
ึ
่
็
ั
ั
้
ั
ั
ซงรสเซยไดเชาเปนฐานทพเรือต้งแต่ในสมยน้น จนถงวนท ่ ี ทางเรือที่เกิดขึ้นในกรณีพิพาท ไทย - ฝรั่งเศส อันเป็นผล
๑๙ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๒ หมู่เรือฝึกก็เดินทางถึงเกาะ สืบเน่องมาจากการท่ไทยเรียกร้องให้ปรับปรุงเส้นแบ่ง
ื
ี
้
�
ตะรุเตา จังหวัดสตูล ปล่อยให้ นนร. ขึ้นบกหนึ่งวันแล้ว เขตแดน ไทย - ฝร่งเศส ใหม่ โดยใช้แนวร่องนาลึกเป็นเกณฑ์
ั
ก็ออกเรือเดินทางไปปีนัง แล้วเข้าเทียบท่าเรือ Swetting ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และหลักความยุติธรรม
ี
ั
ั
ี
ั
ถือเป็นการมาทัศนศึกษาปีนังคร้งท ๒ ของผู้เขียน เรือจอด และให้ฝร่งเศสคืนดินแดนฝั่งขวาแม่นาโขงท่ฝร่งเศส
�
่
้
ั
ท่ปีนัง ๓ วัน ก็ออกเดินทางกลับสงขลา ส้นสุดการบันทึก ยึดไปจากเหตุการณ์ ร.ศ. ๑๑๒ คืนให้ไทย ผลการรบคร้งน ้ ี
ี
ิ
การฝึกภาคปฏิบัติปลายปีในสมุดจดหมายเหตุ ฝ่ายไทยเสยเรอรบไป ๓ ลา คอ เรือหลวงธนบร เรือหลวง
�
ุ
ื
ี
ี
ื
สงขลา และเรือหลวงชลบุร ทหารเสียชีวิตรวมท้งส้น ๓๖ นาย
ั
ี
ิ
นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๔ ภาคกลางปี สาหรับฝ่ายฝร่งเศส แม้จะไม่เสียเรือรบลาใดเลยก็ตาม
�
ั
�
ี
ั
ั
่
วันจันทร์ท ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๓๒ เป็นวันต้ง แต่เรือธงลามอตต์ปิเกต์น้นก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน
หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ ประกอบด้วย เรือหลวง ส�าหรับจ�านวนทหารที่เสียชีวิตและบาดเจ็บนั้น การข่าว
อ่างทอง (เรือหมู่) เรือหลวงท่าจีน และ เรือหลวงโพสามต้น ของฝ่ายไทยไม่ทราบจานวนแน่นอน แต่มีรายงานว่า
�
ี
“ภาคน้เป็นการฝึกภาคทะเลอย่างเดียว ไม่มีการฝึกท ี ่ เม่อเรือข้าศึกกลับถึงไซ่ง่อนได้มีการขนศพทหารท่เสียชีวิต
ื
ี
ึ
ี
ึ
กองการฝึก กองเรือยุทธการ ซ่งข้าพเจ้าคิดว่าไม่ดี เพราะ และทหารท่ได้รับบาดเจ็บข้นบกกันตลอดคืน และสาเหต ุ
�
ึ
การฝึกท่กองการฝึก กองเรือยุทธการ จะให้ได้ความรู้มาก หน่งท่ทาให้ฝร่งเศสล่าถอยคือ เกรงว่าไทยจะมีกาลัง
ี
ั
�
ี
�
้
ั
�
�
สาหรับ นนร.ช้นปีท่ ๔ ในเร่องศูนย์ยุทธการ และการ ทางเรือมาสมทบมากข้น โดยเฉพาะเรือดานาท่มีถึง ๔ ลา
�
ี
ึ
ื
ี
เดินเรือ” ข้าพเจ้าได้ลงฝึกในเรือหลวงท่าจีน สังกัด กปด. เรือเดินทาง ๑ วันก็ถึงหมู่เกาะสัตกูต มีแหล่งท่องเที่ยว
้
�
กร. (กองเรือปราบเรือดานา กองเรือยุทธการ) นายทหาร สาคัญคือ ถาพระยานคร ปล่อยให้นักเรียนนายเรือ
้
�
�
�
ั
่
ุ
�
ื
ึ
ี
ิ
ประจาเรอทได้บนทกไว้ เช่น นาวาโท จตพร ศรนาม ทัศนศึกษา ๑ วัน ก็ออกเดินทางไปจังหวัดนราธิวาส มีการฝึก
ิ
เป็นผู้บังคับการเรือ เรือเอก สมหมาย วงษ์จันทร์ เป็น การพ่วงจูง การเก็บคนตกน�้า การรับ - ส่งสิ่งของในทะเล
ั
้
�
ต้นเรือ นาวาตรี ชัยยุทธ นุชดี เป็นต้นกลเรือ ส�าหรับ การฝึกยิงอาวุธต่อเป้าพ้นนาท้งกลางวันและกลางคืน
ื
ี
่
มฝ.นนร. ม นาวาเอก บวร ม่งเมือง เป็นผู้บังคับการ การฝึกยิงเป้าอากาศยานตอนกลางวัน จนวันท ๗ กันยายน
ี
ิ
�
ี
หมู่เรือฝึกนักเรียนนายเรือ เรือจอดอยู่ท่ท่าเรือเสือซ่อนเล็บ พ.ศ.๒๕๓๒ เรือกเข้าจอดทอดสมอทหน้าร่องนา จังหวัด
ี
่
็
้
ั
ี
ิ
ั
๒ วัน ก็ออกเดินทางไปสัตหีบ ระหว่างเส้นทางก็มีการฝึก นราธิวาส ได้ปล่อยให้ไปเทยวชมพระราชวงทกษณ
่
ี
ี
ั
ี
หาโมเมนตัมและหาความเร็วเรือจนถึงท่หมายท่าเรือ ราชนิเวศน์ท่ต้งอยู่บนเขาตันหยง ได้เท่ยวชมตัวเมือง
ี
ั
แหลมเทยน ฐานทพเรือสตหบ เรอจอดแค่วนเดยวไม่ม ี นราธิวาส ที่อยู่ห่างจากชายแดนมาเลเซีย ประมาณ ๒
ี
ื
ี
ั
ั
การฝึกท่กองการฝึก กองเรือยุทธการ ตามท่ได้กล่าวไปแล้ว กิโลเมตร แต่ไม่ได้รับอนุญาตให้ข้ามไปฝั่งมาเลเซีย ได้พูดคุย
ี
ี
ี
ึ
�
เช้าวันรุ่งข้นก็ออกเรือไปอาเภอแหลมสิงห์ จังหวัด กับประชาชนซ่งใช้ภาษายาวีมากกว่าภาษาไทย และส่วนใหญ่
จันทบุรี หมู่เรือฝึกได้จอดทอดสมอระหว่างเกาะนมสาว นับถือศาสนาอิสลาม จากน้นเรือได้ออกจากนราธิวาส
ั
ี
ิ
่
ึ
และเกาะจุฬา จากน้นก็ปล่อยข้นบก ข้าพเจ้าไปทัศนศึกษา เดินทางไปจังหวัดสงขลา แล้วกลับมาท รร.นร. เป็นอันส้นสุด
ั
่
ั
ี
้
�
ี
ิ
ตัวเมืองจันทบุร และนาตกพล้ว จากน้นวันเสาร์ท ๒ การฝึกภาคทะเลครั้งนี้ ซึ่งมีระยะเวลารวม ๑๘ วัน
กันยายน พ.ศ.๒๕๖๓ ก็ออกเรือไปเกาะสัตกูต จังหวัด
ประจวบคีรีขันธ์ ในระหว่างการเดินทางผ่านเกาะช้าง ได้ทา นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๔ ภาคปลายปี
�
นาวิกศาสตร์ 26
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
ั
ุ
ิ
่
วันจันทร์ที่ ๑๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ หมู่เรือฝึก ๒๒ กมภาพนธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นการฝึกวงไต่เกาะ
ิ
ภาคทะเลนักเรียนนายเรือเร่มต้นข้นอีกคร้ง คร้งน ี ้ “เริ่มไต่เกาะประมาณ ๐๖๑๕ การไต่ก็เป็นไปด้วยความ
ึ
ั
ั
ั
ื
�
�
ึ
้
ประกอบด้วย เรือหลวงสุรินทร์ (เรือหมู่) เรือหลวงท่าจีน ยากลาบาก เพราะนาข้นสูงมากรวมท้งคล่นลมแรง จึง
�
และเรือหลวงประแส มี พลเรือตรี ไพโรจน์ สันติเวชซกุล มีทางเลือกว่าจะปีนเขา หรือจะว่ายนาไปซ่งอันตราย
ึ
้
ึ
ู
็
เปนผ้บงคบหมเรอฝก ขาพเจ้าไดลงฝกในเรอหลวงท่าจน ส�าหรับนักเรียนมาก กว่าจะไต่เกาะเสร็จก็เกือบ ๐๙๐๐
ื
ั
้
ู
ั
่
้
ี
ื
ึ
เรือจอดเทียบท่าเรือเสือซ่อนเล็บ ๓ วัน วันพฤหัสบดีท ่ ี ท�าให้การออกเรือไปสงขลาช้ากว่าเวลาที่ก�าหนด ในการ
ี
๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ ก็ออกเรือเดินทางไปสัตหีบ ไต่เกาะครั้งต่อไป ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ควรจะเป็นวันท่ออกเรือ”
ระหว่างการเดินทางได้ฝึกการหาโมเมนตัม และดิวิเอชั่น
ื
ี
แล้วเข้าจอดท่ท่าเรือแหลมเทียน ต่นเช้าก็ฝึกว่งทนจาก
ิ
ี
ท่าเรอแหลมเทยนผ่านโรงพยาบาลอาภากรเกยรตวงศ์
ิ
ื
ี
ตลาดสัตหีบ หมู่บ้านกองเรือยุทธการ หน่วยบัญชาการ
ต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง สนามบินอู่ตะเภา แล้ววนกลับ
ท่าเรือ ซ่งเป็นระยะทางท่ไกลพอสมควร ทาให้ นนร.
ี
�
ึ
่
่
็
็
ุ
บางนายว่งหลดจากแถว บางนายกเปนลม ตอนชวงบาย
ิ
มีการฝึกป้องกันความเสียหาย โดยการใช้หน้ากากป้องกัน
ั
แก๊สพิษ (OBA) และฝึกดบไฟขณะเรือจอด รวมทงการเรียน
้
ั
การสอนตามตารางฝึกจนถึงเวลานอน ต่นเช้าอีกวัน เป็น
ื
ุ
่
ึ
ี
การฝึกกระเชียงทนท รร.ชมพลฯ ยศ.ทร. ซ่งชุดของ
ผู้เขียนใช้เวลา ๒ ชั่วโมง ๓๐ นาที เช้าวันอาทิตย์ที่ ๑๘ ภาพที่ ๒๙ การน�าเรือเข้าเทียบ
ึ
�
้
กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๓๓ ฝึกว่ายนาข้ามเกาะ ช่วงบ่ายข้นไป
ี
�
ื
้
ั
ฝึกการส่อสารท่กองการฝึก กองเรือยุทธการ ในหัวข้อ หลังจากน้นก็ออกเรือ มีการยิงอาวุธเป้าพ้นนา
ื
การใช้วิทยุโทรศัพท์ทั้งภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ ต่อเป้า “หินฉลาม” และเป้าอากาศยาน มีการฝึกสถานี
ั
่
ิ
ซ่งเคยฝึกมาบ้างแล้วในช้นปีท ๓ ภาคปลายปี และช้นปีท ๔ รับ - ส่งส่งของในทะเล การฝึกพ่วงจูง การฝึกเก็บคนตกนา
ี
่
�
ึ
ี
้
ั
่
ื
ี
ภาคกลางปี ต่นเช้าอีกวันหนึ่งเป็นการฝึกประจาสถานีรบ ด้วยเรอใหญ่ และการฝึกดาราศาสตร์ (ดภาพท ๓๐
�
ู
ื
และป้องกันความเสียหาย แล้วได้ก็เรียนวชาการแปรขบวน ดาวเย็นและดาวเช้า) จนวันอาทิตย์ท ๒๕ กุมภาพันธ์
ิ
ี
่
ั
ี
ท้ง Single Multiple และ Circular อีกวันหนึงก็เป็นการ พ.ศ.๒๕๓๓ เรือจอดทอดสมอท่สงขลา ปล่อยให้นักเรียน
่
ึ
ั
ิ
ว่งข้นเขากระโจมไฟแหลมปู่เจ้า สักการะเสด็จเต่ย แล้วกลับ ทัศนศึกษา ๑ วัน จากน้นก็ออกเรือเดินทางมุ่งหน้าไป
ี
มาเรียนวิชาการน�าเรือ “การกลับล�าในที่แคบ และการ กรุงจาการ์ตา การฝึกหัดศึกษาส่วนใหญ่ของ นนร.
ั
ี
ื
่
น�าเรือเข้าเทียบ (ดูภาพที่ ๒๙ การน�าเรือเข้าเทียบ) และ ช้นปีท ๓ และ ๔ ก็คือการศึกษาในเร่องเดินเรือ
ผูกทุ่น ส่งสาคัญคือ กระแสน้าและกระแสลม จากน้น ดาราศาสตร์ (นักเรียนนิยมเรียกกันว่า “วัดแดดวัดดาว”)
�
�
ิ
ั
ั
ั
เป็นการฝึกเข้าเทียบจริงโดยใช้ เรือ ต.๑๕ เรือ ต.๑๘ เพราะต้องวัดตลอดเวลาต้งแต่ต่นนอนตอนเช้าจนกระท่ง
ื
ิ
และ เรือ ต.๙๒ การเข้าเทียบควรท�ามุมไม่เกิน ๔๕ องศา ดวงอาทตย์ตกดน รอจนท้องฟ้ามดจนเหนดาวเย็นข้น
ื
ึ
็
ิ
จากท่า การเล็งควรเล็งตรงกลางท่าค่อนไปทางปลายท่า ชัดเจนจึงจะวัดได้ แล้วนาผลการวัดดาวมาคานวณหา
�
�
ี
การฝึกโดยให้ นนร. ฝึกทีละคน ซึ่งก็ฝึกได้ดีพอสมควร” ท่เรือในทะเล การฝึกภาคในทะเลแม้จะมีความลาบาก
�
วันรุ่งข้นก็มีการฝึกวิชาการนาเรือเข้าเทียบอีกวัน วันท ่ ี แต่หากคิดดูอีกทีก็มีคนไม่มากนักท่จะได้มีโอกาสอย่างน ้ ี
ึ
�
ี
นาวิกศาสตร์ 27
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
้
�
อย่างการนอนในเรือ เรือหลวงท่าจีนแม้จะจัดให้นักเรียน เข้าร่องนา แล้วเข้าเทียบท่าเรือ Tungjung Priok ก่อนเข้า
นอนในห้องกะลาส แต่ส่วนหน่งก็ไม่ได้นอนในห้องกะลาส ี จะต้องแบร่งทุ่นเขียว (ด้านขวา) ได้ ๑๙๐ แล้วถือเข็ม
ี
ิ
ึ
ื
ี
ี
ช่วงท่เรือเดินในทะเลหลายวัน ในเวลาท่คล่นลมสงบพวกเรา ๑๗๗ – ๑๘๐ เข้าร่องน�้า ข้อสังเกตคือ หัวเรือจะตรงกับ
ชอบหอบผ้าใบ หมอน และผ้าห่มมานอนท่ดาดฟ้าเรือ หอควบคุมสถานีน�าร่องบนฝั่ง จากนั้นก็เข้าเทียบท่าแล้ว
ี
ี
ึ
�
เช่น ท่ใต้หรือข้าง ๆ ป้อมปืน หรือดาดฟ้าท้ายเรือ สาหรับ ก็ปล่อย นนร. ข้นบกทัศนศึกษาเป็นเวลา ๓ วัน โดยมีของ
ื
ี
ผู้ท่มีประสบการณ์แล้วจะไม่นอนด้านหลังปล่อง เพราะ ท่นักเรียนนายเรือนิยมซ้อเป็นของท่ระลึกมากท่สุด
ี
ี
ี
ี
ี
�
ั
�
ื
ต่นมาจะพบว่ามีข้เถ้าตกอยู่ตามหน้าตามตัวจานวนมาก ก็คือ “ต้นกล้วย” ท่ทาจากไม้ มีหลายขนาดท้งต้นเล็ก
ถ้าไม่มีประสบการณ์ก็ต้องโดนก่อนแล้วจึงจะจาได้ ก็เป็น ต้นใหญ่ จนถึงวันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ ก็อออกเรือ
�
เร่องสนุกสนานทีเดียว ข้อดีของการนอนบนดาดฟ้าอีก เดินทางไปเมองโคตาคินาบาร ประเทศมาเลเซย ในระหวาง
ื
่
ื
ู
ี
�
อย่างหนึ่ง คือ เราจะได้มองดูดาวบนท้องฟ้าอย่างชัดเจน การเดินทางก็มีการฝึกต่าง ๆ เช่น ประจาสถานีรบ การฝึก
ั
และสวยงาม ดาวเหล่านั้นเหมือนจะอยู่ใกล้ ๆ เรานี่เอง การส่อสาร (NAVCOMEX) ท้งธงประมวล โคมไฟ ธงสองมือ
ื
และท่ามกลางดวงดาวเราจะได้ยินเสียงเคร่องจักรของเรือ “ในวันที่ ๗ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ มีการเปลี่ยนเวลาจาก
ื
และเสียงคล่นลมผสมผสานกันไป นอนฟังจนหลับไปจนเช้า ๐๐๐๑ เป็น ๐๑๐๑ ตามเวลาประเทศมาเลเซีย โดยการ
ื
ี
ั
ื
ื
ต่นข้นมาก็รีบพบเคร่องนอนเก็บ แล้วปฏิบัติตามตารางต่อไป เปล่ยนเวลาจะใช้ ZT (Zone Time) เทียบจากเวลาท่เมือง
ี
ึ
กรีนีช ประเทศอังกฤษเป็นหลัก เช่น ของไทยเวลาจะ
มากกว่าท่กรีนิช + ๗ แต่ท่เมืองโคตาคินาบารู จะมากกว่า
ี
ี
ึ
ี
กรินีช + ๘ ซ่งเวลาเหล่าน้มีผลในการคานวณวิชาดาราศาสตร์
�
ดวย” วนพฤหสบดท ๘ มนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ เรอกเขาเทยบ
ี
ี
้
ั
ี
็
่
้
ื
ี
ั
ท่าเรือโคตาคินาบารู ในการเทียบเรือครั้งนี้ได้บันทึกว่า
“การเข้าโดยให้หัวเรือเราตรงกับเรือหลวงประแส ประมาณ
เข็ม ๑๗๐ เมื่อหัวเรือซบ ก็ใช้เครื่องจักรขวาถอยหลังเพื่อ
ึ
ให้ท้ายเรือแนบ ซ่งผู้การท่านเทียบเรือได้ดีมากจริง....การ
ื
ออกเรือ ขวาเดินหน้าเบาเพ่อให้ท้ายเรือผลักออก เม่อท้าย
ื
ออกแล้วก็ถอยหลงท้ง ๒ เคร่อง จนเลยท่นแดง เสรจแล้ว
ื
ุ
ั
ั
็
ปั่นเรือโดยใช้ขวาถอยหลัง ซ้ายเดินหน้า หางเสือขวาหมด
จนเรือสามารถตั้งล�าได้” โคตาคินาบารูเป็นเมืองท่าของ
รัฐซาบาห์ ประเทศมาเลเซีย ต้งอยู่บนเกาะราบวน มีสินค้า
ั
ี
ึ
�
ี
ส่งออกท่สาคัญ ได้แก่ ไม้ ซ่งมองเห็นกองไว้ท่ท่าเรือน ้ ี
เป็นจานวนมาก เรือจอดท่น่มีการปล่อยให้ประชาชน
�
ี
ี
มาชมเรือ และมีงานเลี้ยงบนเรือหลวงสุรินทร์ ในคืนวันที่
ึ
๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ จากน้นก็ออกเรืออีกครั้งหน่ง
ั
จุดหมายปลายทางคือ กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์
ภาพที่ ๓๐ ดาวเย็นและดาวเช้า
ระยะทางประมาณ ๖๐๑.๗ ไมล์ทะเล (ประมาณ ๑,๑๑๔
วันศุกร์ที่ ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ หมู่เรือฝึกเดินทาง กิโลเมตร) ความเร็วในการเดินทาง ๑๒ นอต แผนที่ที่ใช้
ถึงปากร่องน�้า มีน�าร่องขึ้นมาบนเรือหมู่ แล้วก็เริ่มน�าเรือ ในการเดินเรอ ประกอบด้วยหมายเลข ๗๖๒๖ ๒๑๑๑
ื
นาวิกศาสตร์ 28
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
ี
๒๑๑๒ ๙๖๗ ๓๘๐๗ ๒๖๖๑บ ๙๗๐ และ ๓๔๘๗ นักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๕ ภาคกลางปี
ี
ั
ั
การเดินทางใช้เวลาประมาณ ๓ วัน เรือเข้าเทียบท่าเรือ การฝึกคร้งน้เป็นการฝึกภาคทะเลระยะส้นเพียง ๗ วัน
ี
ั
ที่ South Harbor of Manila กรุงมะนิลา ปล่อยขึ้น เท่าน้น “วันอาทิตย์ท่ ๒ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓ เป็นวันแรก
ั
ทัศนศึกษากรุงมะนิลา เมืองหลวงของฟิลิปปินส์ ต้งอยู่ ในการฝึกภาคทะเลปฏิบัติของนักเรียนนายเรือชั้นปีที่ ๕
บนเกาะมินดาเนา สภาพเป็นเมืองเก่า ของแปลกตาก็คือ พวกเราออกจากอาคารกราบพัก ๕ กองการฝึก กองเรือ
รถจิปนี่ คล้าย ๆ รถบรรทุกย่อส่วนที่ใช้เป็นรถเมล์ ไปที่ ยุทธการ มาลงเรือเล็ก เพื่อไปขึ้นเรือหลวงประแส เวลา
ึ
ี
Rizal Park (ดูภาพที่ ๓๑ ค่าเข้าชมและตั๋วรถเมล์) ไปดู ๑๓๐๐ ก็ข้นเรือเรียบร้อย ภาคน้เป็นการฝึกภาคทะเล
Port Santiago (ที่คุมขังนักโทษ) และ CASA Manila ของชั้นปีที่ ๕ โดยเฉพาะ โดยให้ นนร. ชั้นปีที่ ๕ ท�าการ
Museum (บ้านพักสร้างด้วยไม้ของ Rizal มีทั้งห้องนอน แทนนายทหาร” วันท ๓ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓ เวลา
่
ี
ั
ห้องครัว ห้องอาหาร) ซ่งท้งสองแห่งเป็นโบราณสถาน ๐๙๐๐ เรือออกจากท่าเทียบเรือเกาะพระ ขีดเข็มตรง
ึ
�
ี
ั
ี
ี
เก่าแก่ท่เก่ยวข้อง Rizal ผู้นาชาวฟิลิปปินส์สมัยน้นท่ต่อส ู้ ไปเกาะแรด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อให้ นนร. ได้ฝึก
กับสเปนในการเรียกร้องเอกราช ได้มีโอกาสข้นรถราง ทาเดินเรือดาราศาสตร์แต่ว่าไม่สามารถทาได้ เน่องจาก
ื
ึ
�
�
ึ
ึ
ี
ไฟฟ้า ซ่งขณะน้นไทยยังไม่มีรถไฟฟ้า “ข้าพเจ้า...ได้ข้นรถราง สภาพอากาศปิดจึงต้องเปล่ยนทิศทางการเดินเรือด้วย
ั
ั
ี
ไฟฟ้า เสียค่าโดยสาร ๓.๕ Peso โดยต๋วจะใช้เหรียญกลม การขีดเข็มจากเกาะแรดย้อนกลับมาท่เกาะช้างและ
หยอด แล้วเดินข้นไปรอรถราง เม่อมาถึงจะจอดให้คนลง เกาะกูด จังหวัดตราด แล้วเดินเรือต่อไปถึงสงขลาจึง
ึ
ื
เพียงช่วครู่ แล้วว่งต่อคล้าย ๆ รถเมล์ แต่รถไม่ติดเลย มีความ สามารถฝึกทาเดินเรือดาราศาสตร์ได้ นอกจากการฝึกทา
�
�
ิ
ั
ี
สะดวก รวดเร็ว ข้าพเจ้าคิดว่ากรุงเทพฯ น่าจะท�าบ้าง” เดินเรือดาราศาสตร์แล้ว มีการฝึกหน้าท่นายทหารต่าง ๆ
เช่น ตร. นกว. ตห. นสส. และ นวต. ซึ่ง นนร. ชั้นปีที่ ๕
้
�
ื
�
ี
เม่อสาเร็จการศึกษาก็ต้องมาทาหน้าท่เหล่าน จนเรือมา
ี
่
จอดสงขลา ในวันท ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓ ก็ส้นสุด
ิ
ี
การเขียนในสมุดจดหมายเหตุ ส่วนวันที่เหลือก็คือ วันที่
๖ – ๘ กันยายน พ.ศ.๒๕๓๓ เข้าใจว่าเป็นการเดินทาง
ี
กลับมาท่ฐานทัพเรือสัตหีบแล้วก็จบการฝึกภาคทะเล
ุ
และเป็นการจบการเขยนสมดจดหมายเหตประจาตว
ี
�
ุ
ั
นนร. ตั้งแต่ชั้นปีที่ ๑ ถึงชั้นปีที่ ๕ ของผู้เขียน
ท้งน้การฝึกภาคทะเลในแต่ละช้นปีของ รร.นร. ม ี
ั
ั
ี
ั
ี
จุดมุ่งหมายท่แตกต่างกัน ต้งแต่ข้นแรกท่เป็นผู้ปฏิบัต ิ
ี
ั
ุ
้
ี
และรอฟังคาสงอย่างเดียว จนถึงขนสดท้ายท่ต้องเป็น
ั
่
ั
�
ผู้คิดและสั่งการได้เอง โดยเมื่อเป็น นนร.ชั้นปีที่ ๑ และ
่
ี
ช้นปีท ๒ จะต้องได้รับการฝึกให้เป็นลูกมือในลักษณะ
ั
ี
�
ู
ั
“ตาด หฟัง” หน้าท่หลักคือ ทาตามคาส่งให้ดีท่สุด คาว่า
ี
ู
�
�
ภาพที่ ๓๑ ค่าเข้าชมและตั๋วรถเมล์ “ตาดู” หมายถึง ดูในสิ่งที่จะต้องท�าหน้าที่ เช่น สถานี
่
ี
ี
จนถงวนเสารท ๑๗ มนาคม พ.ศ.๒๕๓๓ เรอออกเวลา เทียบเรือมีหน้าท่ประจาเชือก ก็ต้องดูเชือกว่าอยู่เชือก
ั
ึ
์
�
ี
ื
ึ
๑๔๐๐ เดินทางไปบรูไน ซ่งเป็นท่น่าเสียดายว่าการเขียน เส้นไหน ดูเชือกว่าตึงหรือหย่อน มีรอยขาดหรือไม่ หาก
ี
สมุดจดหมายเหตุในภาคนี้ได้สิ้นลงเพียงเท่านี้ ทาหน้าท่ประจาลูกตะเพรา ก็ต้องคอยดูลูกตะเพราหัว
ี
�
�
นาวิกศาสตร์ 29
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
�
ื
�
ลูกตะเพรากลางลา หรือลูกตะเพราท้ายเรือ หากทาหน้าท ่ ี จากห้องเคร่อง ฟังการรายงานจากห้องศูนย์ยุทธการ
ื
ู่
ถือท้ายถือพังงาอย ต้องดูว่าถือเข็มได้ตรงหรือไม่ เม่อได้รับ ฟังการรายงานจากยามเรดาร์ ฟังการรายงานจากจ่ายาม
ี
ิ
ั
ั
ค�าสั่งหางเสือขวาแล้ว หัวเรือไปทางขวาหรือไม่ หางเสือ ส่งท่ปากต้องส่ง เช่น ส่งให้หาท่เรือ ส่งถือเข็มเรือ
ี
ั
ี
�
กินนาหรือไม่ หากทาหน้าท่ยามตรวจการณ์ ต้องคอยด ู ส่งความเร็วเรือ ส่งตรวจสอบเป้าหัวเรือ เป้ากราบซ้าย
�
ั
ั
้
ความเรียบร้อยของกล้องสองตาและเข็มทิศ เป็นต้น และเป้ากราบขวา สั่งจ่ายามให้ตรวจสอบลูกยาม และ
�
ั
�
คาว่า “หูฟัง” หมายถึง ฟังคาส่งจากหัวหน้าโดยตรง ความเรียบร้อยของเรือ สั่งเวรวิทยุให้ติดต่อสื่อสาร และ
บริเวณนั้น ๆ เช่น ถ้าปฏิบัติหน้าที่เป็นประจ�าเชือกต้อง สมองคิด เช่น ในระหว่างรับผิดชอบเข้ายาม ๔ ช่วโมง
ั
�
ฟังคาส่งว่าให้เข้าเชือก หะเบส หะเรีย เก็บเชือกให้ตึง คิดว่าทาอย่างไรจะทาการเดินเรือให้ปลอดภัย เรือต้อง
�
�
ั
๋
ื
็
ิ
ั
ิ
ื
หกคอ ตง ปล่อยเชอก แล้วกปฏบัตตาม เป็นตน เม่อเปน ถือเข็มอะไรบ้าง เปลี่ยนเข็มกี่ครั้ง หาที่เรือได้ด้วยวิธีไหน
็
้
นนร. ชั้นปีที่ ๓ ๔ และ ๕ นอกจากจะ “ตาดู หูฟัง” บ้าง ความเร็วเรือควรเป็นเท่าไร หากคนตกน�้าจะต้องท�า
�
ยังต้อง “ปากสั่ง สมองคิด” โดย นนร. ชั้นปีที่ ๓ จะเริ่ม อย่างไร หากหางเสือไม่กินนาจะต้องทาอะไร หากพบเป้า
�
้
�
ี
ได้รับการฝึกให้ปฏิบัติหน้าท เช่น หัวหน้าเชือก จ่ายาม ท่หัวเรือจะต้องทาอย่างไร ท้งน้การสร้างเหล็กในคน
ี
ั
่
ี
ยามวิทย ยามเรดาร์ ประจาโต๊ะพล็อต ผู้ช่วยนายยาม ให้กับ นรจ. และ นนร. ผู้เขียนมีข้อเสนอแนะ คือ ควรมี
�
ุ
เรือเดิน ยกตัวอย่าง เมื่อเป็นหัวหน้าเชือก เมื่อได้ยินเสียง การจัดท�าสมุดบันทึกประจ�าตัวให้กับ นรจ. และ นนร.
นกหวีดให้หะเบสก็ต้องสั่ง (ปากสั่ง) ให้ นนร. ชั้นปีที่ ๑ อย่างน้อย ๒ เล่ม ส�าหรับ นรจ. เล่มที่ ๑ คือ สมุดบันทึก
ิ
และ ๒ ท่ประจาเชือกหะเบส ขณะหะเบสก็ต้องสังเกต สมรรถภาพร่างกาย เร่มใช้ต้งแต่รับราชการจนกระท่ง ั
ั
�
ี
(สมองคิด) ว่าเชือกที่ก�าลังหะเบสนั้นตึง หรือหย่อนมาก เกษียนอายุราชการ และเล่มที่ ๒ คือ สมุดบันทึกวิชาชีพ
ี
ื
เกินไปหรือไม่ เพ่อป้องกันอันตรายท่จะเกิดจากเชือกขาด เฉพาะทาง เช่น นรจ. เหล่าโซนาร์ บันทึกช่วโมงการเข้ายาม
ั
หรือเชือกมาพันแขนขาของนักเรียน และเมื่อเป็น นนร. ปฏิบัติหน้าท่เป็นจ่ายามโซนาร์ หรือ นรจ. เหล่าวิทย ุ
ี
ั
ชั้นปีที่ ๔ และ ๕ ได้รับหน้าที่ให้เป็นนายเรือเดินก็ต้องมี บันทึกช่วโมงการเข้ายามวิทย หรือพรรคกลิน บันทึก
ุ
ั
ั
ั
ี
หน้าท่ส่งการท้งในสะพานเดินเรือ และการปฏิบัติท้งหมด ชั่วโมงการฝึก ปคส. ส�าหรับ นนร. เล่มที่ ๑ คือ สมุด
ั
้
ั
ึ
ั
ิ
ี
ื
ั
ขณะท่เรือเดิน ขอยกตัวอย่างเม่อคร้งเป็นนายทหาร บนทกสมรรถภาพร่างกาย เร่มใช้ตงแต่รบราชการจน
�
ประจาเรือออกฝึกภาคปฏิบัติกลางปีของ นนร. ในประเทศ กระทั่งเกษียนอายุราชการ และเล่มที่ ๒ คือ สมุดบันทึก
ั
ขณะผู้เขียนเข้ายามเป็นนายทหารยามเรือเดิน (คร้งละ ๔ วิชาชีพเฉพาะทาง เช่น บันทึกช่วโมงการเป็นนายยาม
ั
ช่วโมง) ได้สอนให้ นนร. ช้นปีท ๓ (เข้าหน้าท่ผู้ช่วย เรือเดิน บันทึกช่วโมงการเข้ายามเคร่องส่งจักรหรือ
่
ั
ั
ี
ื
ี
ั
ั
ื
ั
ี
ี
่
นายยามเรือเดิน) และ นนร. ช้นปีท ๔ (เข้าหน้าท่นายยาม เคร่องไฟฟ้า บันทึกช่วโมงการเข้ายามเรดาร์ บันทึก
ั
เรือเดิน) ท่กาลังปฏิบัติหน้าท่อยู่สะพานเดินเรือพร้อมกับ ช่วโมงการฝึก ปคส. สาหรับสมุดบันทึกวิชาชีพเฉพาะทาง
�
�
ี
ี
ั
ผู้เขียน ให้เข้าใจค�าว่า “ตาดู หูฟัง ปากสั่ง สมองคิด” เร่มใช้เม่อรับราชการจนถึงเม่อไม่ได้อยู่ปฏิบัติงานในเรือ
ื
ิ
ื
โดยถามว่าขณะเข้ายามอยู่น้มีการ “ตาดู หูฟัง ปากส่ง แล้ว
ั
ี
สมองคิด” อะไรบ้าง? ส่งท่ตาต้องด เช่น ดูหัวเรือและรอบ ๆ ส�าหรับเรือฝึกที่ผู้เขียนได้ลงเรือฝึก ได้แก่ เรือหลวง
ู
ี
ิ
เรือ ดูท่เรือ ดูเข็มทิศ ดูเรดาร์ ดูเคร่องหย่งนา ดูข้อมูล อ่างทอง เรือหลวงพงัน เรือหลวงสีชัง เรือหลวงปิ่นเกล้า
�
้
ื
ี
ั
พยากรณ์อากาศ ดูไฟ ดูสภาพอากาศ คล่น ลม เมฆ ดูเรือ เรือหลวงประแส (๒ ครั้ง) เรือหลวงท่าจีน (๒ ครั้ง) แบ่ง
ื
และสิ่งปลูกสร้างในทะเล เป็นต้น สิ่งที่หูต้องฟัง เช่น ฟัง เป็นเรือยกพลขึ้นบกขนาดใหญ่ ได้แก่ เรือหลวงอ่างทอง
�
ื
ุ
ึ
เสียงวิทย ฟังการรายงานเข็มเรือ ฟังการรายงานเคร่องส่ง ั เรือหลวงพงัน และเรือหลวงสีชัง ซ่งปัจจุบันปลดประจาการ
�
จักร ฟังการรายงานจากยามตรวจการณ์ ฟังการรายงาน แล้ว ๒ ลา คือ เรือหลวงพงัน และเรือหลวงอ่างทอง สาหรับ
�
นาวิกศาสตร์ 30
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
�
ี
ี
เรือหลวงอ่างทองท่ประจาการอยู่ปัจจุบันเป็นลาท่ต่อ ที่ส�าคัญ” ของนักเรียนทหาร และนายทหารนักเรียนทุก
�
ี
์
ู
ู
ั
ี
ขึ้นใหม่อีกชุดหนึ่งคือ ชุดเรือฟริเกตเก่า ได้แก่ เรือหลวง หลกสตร คร อาจารยในโรงเรยนตาง ๆ ควรจะมการอบรม
่
ประแส เรือหลวงท่าจีน และเรือหลวงปิ่นเกล้า ซ่งสมัยน้น และฝึกทบทวนความรู้ก่อนท่จะเปิดหลักสูตร เพ่อให้
ี
ึ
ั
ื
ั
พวกเรา นนร. เรียกว่าเป็น “เรือครู” ปัจจุบันก็ปลดระวาง การฝึกอบรมของนกเรยนเป็นไปในแนวทางเดยวกน
ี
ั
ี
�
�
ี
ั
�
ื
ประจาการไปแล้วทุกลา อาจมีผู้สงสัยว่าทาไมช่อเรือ บรรลุวัตถุประสงค์ท่ต้งไว้ได้เป็นอย่างดี เช่น ฝ่ายวิชาการ
เป็นชื่อเกาะบ้าง แม่น�้าบ้าง จึงขอเล่าเรื่องการตั้งชื่อเรือ สถาบันวิชาการทหารเรือช้นสูง (ฝวก.สรส.) เคยเปิด
ั
สักนิดหน่อยว่า กองทัพเรือได้มีระเบียบกองทัพเรือว่าด้วย หลักสูตรการเพ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนให้กับ
ิ
ั
ื
การต้งช่อเรือปี พ.ศ.๒๕๒๗ เช่น เรือฟริเกต ให้ต้งช่อ นายทหารท่จบการศึกษามาจากต่างประเทศ ก่อนท่จะทา �
ั
ี
ื
ี
�
ตามแม่นาสายสาคัญ ยกตัวอย่าง เรือหลวงประแส หน้าท่สอน หรือคุมสัมมนาในหลักสูตรต่าง ๆ ของสถาบัน
้
ี
�
เรือหลวงท่าจีน เรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางปะกง วิชาการทหารเรือช้นสูง อีกตัวอย่างหน่ง ฝ่ายวิชาการ
ั
ึ
�
�
ั
ื
้
ี
และเรือหลวงสายบุร เรือดานา ให้ต้งช่อตามผู้มีอิทธิฤทธ ์ ิ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ ร่วมกับสถาบันสอนภาษา AUA
ึ
ี
�
้
ในนิยาย หรือวรรณคดีเก่ยวกับการดานา ซ่งไทยเคยมีมาแล้ว เปิดหลักสูตรทบทวนภาษาอังกฤษให้กับนายทหารท่จะ
ี
�
ี
ในอดีต จ�านวน ๔ ล�า ได้แก่ เรือหลวงมัจฉานุ เรือหลวง ท�าให้หน้าท่เป็นครูสอนหลักสูตรเสนาธิการทหารเรือ
ื
ิ
ุ
วรณ เรอหลวงสนสมทร และ เรอหลวงพลายชมพล สองภาษา (ดูภาพท ๓๒ ประกาศนียบัตรการอบรม
ุ
่
ี
ิ
ุ
ื
ั
ื
ิ
�
ี
เรือทุ่นระเบิด ให้ต้งช่อตามสมรภูมิท่สาคัญ เช่น การเพ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการอบรม
เรือหลวงถลาง เรือหลวงบางระจัน เรือหลวงหนอง ภาษาอังกฤษ) หรือ (ภาพที่ ๓๓ การเปิดอบรมหลักสูตร
สาหร่าย และเรือหลวงดอนเจดีย์ สาหรับเรือยกพลข้นบก เพิ่มประสิทธิภาพครูปกครอง กนร.รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.)
ึ
�
(landing ship) เรือระบายพล (landing craft) เรือส่ง ก่อนการฝึกภาคสาธารณะ นรจ. ใหม่ หรือการให้คร ู
ก�าลังบ�ารุง เรือน�้ามัน (oiler) เรือน�้า เรือลากจูง (harbor ในกองการศึกษาเขียนแผนการสอนในวิชาท่ตนเอง
ี
tug) และเรือล�าเลียง ตั้งตามชื่อเกาะ เช่น เรือหลวงช้าง รับผิดชอบ การจัดทาคู่มือการสวนสนามในภาคสาธารณ
�
�
�
เรือหลวงพงัน เรือหลวงลันตา เรือหลวงสีชัง เรือหลวง ศึกษา การจัดทาคู่มือการแสดงแฟนซีดริล และการจัดทา
ื
สุรินทร์ เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงจุฬา เรือหลวงสมุย คู่มือการสวนสนามเรือกระเชียง เพ่อให้ครูรุ่นหลังได้นา �
็
เรือหลวงสัตกูด ไปใช้ได้ต่อไป กเป็นแนวทางสร้างเหล็กในคนให้กบ
ั
ู
จากที่ได้เขียนมาพอสรุปได้ว่าเป็นการ “สร้างเหล็ก คร อาจารย์ และนายทหารปกครองของกองทัพเรือได้
ื
ในคนให้กับ นรจ. และ นนร.” ให้มีคุณสมบัตินายทหารเรือ หรือเม่อคร้งรับราชการอยู่ในเรือ เม่อมีโอกาสนาเรือเขา
�
ื
ั
้
�
ไทย และค่านิยมหลักของ ทร. เป็นเรื่องส�าคัญอย่างยิ่ง เทียบท่าเรือแหลมเทียน หรือการนาเรือเก็บทุ่นหมายเขต
�
้
อีกส่วนหน่งท่ช่วยในการสร้างเหล็กในคนก็คือ “ครู ท้งทวนนาและตามนา ก็ได้ฝึกให้นายทหารพรรคนาวิน
ึ
้
�
ั
ี
�
อาจารย์” ของ ทร. จากประสบการณ์ท่ผ่านมาคร อาจารย์ ประจาเรือ เช่น ตร. นกว. ตห. และ นสส. นาเรือเข้าเทียบท่า
ู
�
ี
ในโรงเรียนโดยท่วไปจะถูกเปรียบเปรยเหมือน “เรือจ้าง” ทิ้งสมอ เก็บคนตกน�้า หรือเก็บทุ่นหมายเขต ไม่ว่าจะเป็น
ั
ิ
ู
ี
ุ
�
ท่มีหน้าท่ส่งลูกศิษย์ข้นฝั่งแล้วก็จบ ส่วนคร อาจารย์ ในการฝึกยทธวธีกองเรอทนระเบดประจาป การฝึกยุทธวิธ ี
ี
ี
ุ่
ึ
ิ
ื
ึ
ของกองทัพเรือมักจะถูกเปรียบเปรยเหมือน “เป็นช่าง ของกองเรอยทธการ การฝกรวม/ผสม Cobra Gold การฝก
่
ึ
ื
ุ
ปั้นหม้อ มีหน้าที่ปั้นหม้อให้ออกมาให้ดีให้ได้” ไม่ว่าจะ ร่วมผสม CARAT การออกปฏิบัติราชการ ทรภ.๑ และ ทรภ.๒
เปรียบเปรยเป็นอะไรก็ตามครู อาจารย์ ถือเป็นคน หรือ การออกปฏิบัติราชการในหมู่เรือรักษาการณ์ไกลกังวล
ทรัพยากรมนุษย์ท่ควรจะได้รับการ “สร้างเหลกในคน การออกเรือสารวจและรวบรวมข้อมูลทางยุทธการ กองเรือ
ี
�
็
ให้กับครู อาจารย์” ด้วยเหมือนกัน เพราะครู อาจารย์ ทุ่นระเบิด ก็เป็นอีกแนวทางหนึ่งในการสร้างเหล็กในคน
ในหลักสูตรต่าง ๆ ของกองทัพเรือถือเป็น “แบบอย่าง ให้กับคนประจ�าเรือ
นาวิกศาสตร์ 31
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
ภาพที่ ๓๒ ประกาศนียบัตรการอบรมการเพิ่มประสิทธิภาพการเรียนการสอนและการอบรมภาษาอังกฤษ
ภาพที่ ๓๓ การเปิดอบรมหลักสูตรเพิ่มประสิทธิภาพครูปกครอง กนร.รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร.
นาวิกศาสตร์ 32
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔
ั
ึ
สรุป “ปรบพฤติกรรม” ขั้นที่ ๒ “การสร้างจตสานกความเป็น
�
ิ
ทหารเรือทุกนายถือเป็นทรัพยากรท่สาคัญของ ทหาร” ขั้นที่ ๓ “การสร้างความภาคภูมิใจในความเป็น
ี
�
ั
่
�
ี
กองทัพเรือ ท่จาเป็นต้องสร้างให้มีเหล็กในคน เช่น ทหาร” และข้นท ๔ “การสร้างอุดมการณ์ในการรับราชการ
ี
คุณสมบัตินายทหารเรือไทย ๕ ประการ ได้แก่ มีความร ู้ ในกองทัพเรือ” รวมท้งการฝึกภาคปฏิบัติทางใช้การในทะเล
ั
เป็นผู้นาทางทหาร มีความซ่อสัตย์และความจงรักภักด ี ของ นรจ. และยกตัวอย่างการสร้างเหล็กในคนจากการ
�
ื
�
เป็นสุภาพบุรุษ และมีความละเอียดรอบคอบไม่ประมาท ฝึกภาคทะเล ท่ได้บันทึกไว้ในสมุดจดหมายเหตุประจาตัว
ี
ั
ั
่
ี
และค่านิยมหลักของกองทัพเรือ (SAIL) ได้แก่ ความเป็น นักเรียนนายเรือของผู้เขียน ต้งแต่เป็น นนร. ช้นปีท ๑ ถึง
ั
ี
�
่
ั
ชาวเรือ ความซื่อสัตย์และความจงรักภักดี ความเป็นผู้มี ช้นปีท ๕ รวมจานวน ๘ ภาค รวมท้งประสบการณ์ในการ
ี
ี
คุณธรรม จริยธรรม และความเป็นสุภาพบุรุษทหารเรือ รับราชการท่ผ่านมา นอกจากน้การสร้างเหล็กในคนไม่ได้
และความเป็นผู้นา โดยการสร้างเหล็กในคนควรจะสร้าง มีความจาเป็นเฉพาะนักเรียนทหารเท่าน้น แต่การสร้าง
�
ั
�
ิ
ู
ื
ต้งแต่เม่อเร่มต้นการเข้ามารับราชการในกองทัพเรือ เหล็กในคนให้กับคร อาจารย์ ก็มีความสาคัญเช่นเดียวกัน
ั
�
ื
ี
�
ยกตัวอย่างได้จากหลักสูตร นรจ. ที่เข้ารับการศึกษาที่ ท้งน้เพ่อให้กาลังพลของกองทัพเรือ มีความพร้อมในการ
ั
รร.ชุมพลฯ ยศ.ทร. ระยะเวลาประมาณ ๒ ปี ได้มีการ ปฏิบัติหน้าท่และภารกิจ ตามท่ได้รับมอบหมายให้สาเร็จ
ี
�
ี
จัดทาแผนพัฒนา นรจ. ๔ ข้นตอน ได้แก่ ข้นท ๑ ลุล่วงด้วยดีตลอดไป
่
�
ั
ี
ั
“เหล็กในคน ต้องสร้าง ตั้งแต่เริ่ม
สะสมเพิ่ม ความแกร่งกล้า ทีละน้อย
ส�าคัญกว่า สร้างตอนปลาย ได้แต่คอย
กว่าจะได้ ใช้สอย ไม่ทันการ
เหล็กในเรือ ส�าคัญ หมั่นถูขัด
คอยขจัด สนิมร้าย ไม่ให้กร่อน
ช่วยพยุง เรือไว้ คนได้นอน
บ้านคลายร้อน แสนสุขเรา เหล่าชาวเรือ
เหล็กในคน เหล็กในเรือ ดั่งเช่นดาบ
ควรหมั่นลับ ให้คม อย่ารู้เบื่อ
รู้ส�านึก ร่วมกัน ทหารเรือ
ค�้าจุนเจือ เพื่อชาติ ราชนาวี”
ที่มา
๑. แผนพัฒนา นรจ. ๔ ขั้นตอน กองนักเรียน โรงเรียนชุมพลทหารเรือ กรมยุทธศึกษาทหารเรือ
๒. การจัดการความรู้ โรงเรียนนายเรือ เข้าถึงได้จากเว็บไซด์https://rtnakm.com/
๓. เว็บไซด์ www.wikipedia.com
๔. เว็บไซด์ www.sites.google.com
๕. สัตหีบแชนแนล สามารถเข้าถึงได้จากเว็บไซด์ www.youtube.com
นาวิกศาสตร์ 33
ปีที่ ปีที่ ๑๐๔ เล่มที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๔