งานหน่วยที่ 3
เทคโนโลยใีนอนาคต 10 อย่าง
1. เครอื ขา่ ยมอื ถอื 5G/6G
■ ระบบ 4G ทใ่ีชก้ นั ในปจั จุบนั กส็ ามารถทาความเรว็ ในการรบั ส่งขอ้ มูล
สูงสุดเพม่ิ ขน้ึ จาก 3G อกี ราว 50 เท่า และสาหรบั 5G จะมกี าร
รบั ส่งขอ้ มูลสูงสุดเพม่ิ ขน้ึ ไปอกี 20 เท่าจาก 4G แต่ทพ่ี เิศษคอื
สามารถใชก้ ารได้แมแ้ ต่ขณะทเ่ีคลอื่ นทเี่รว็ ถงึ 500 กโิลเมตร/ชว่ั โมง
สามารถส่งขอ้ มูลต่อพน้ื ทเี่พม่ิ ขน้ึ อกี 100 เท่า ดงั นนั้ 5G จะเป็น
แพลตฟอร์ม (Platform) ทเี่ชอ่ื มโยงเทคโนโลยอี น่ื ๆ เขา้ ไว้
ด้วยกนั เช่น AI, Big Data, Cloud และ IoT เป็นต้น
2. การคานวณและวศิ วกรรมควอนตมั
■ เทคโนโลยคี วอนตมั จะเขา้ มามบี ทบาททาใหภ้ าพทเี่ราจนิ ตนาการไว้
เกดิ ขน้ึ ได้จรงิ เช่น คอมพวิ เตอร์สามารถเพม่ิ ประสทิ ธภิ าพใหด้ ขี น้ึ
หลายพนั เท่า สามารถถอดรหสั ดเีอน็ เอของสง่ิ มชี วี ติ ทย่ี าวมากเป็น
พนั ๆ ลา้ นหน่วย สามารถสร้างแบบจาลองเพอื่ ค้นหายาใหม่ๆ ทใี่ชไ้ ด้
อย่างแม่นยากบั ผูป้ ่วย ใชต้ รวจวนิ จิ ฉยั โรคในการแพทย์ได้อยา่ ง
รวดเรว็ ไม่ต้องรอผลแลบ็ หลายวนั
■ รวมถงึ ยงั มกี ารสร้างอุปกรณ์ไฮเทคอน่ื ๆ เช่น ชปิ สาหรบั นาฬกิ า
อะตอม (Atomic Clock) ใชเ้ ทยี บค่าเวลาสากลทมี่ คี วาม
แมน่ ยามาก ถงึ ระดบั นาโนวนิ าที (nano-second) รองรบั
การซ้อื ขายในระบบธนาคาร หรอื คาสงั่ ซอ้ื ในตลาดหลกั ทรพั ย์ทมี่ ี
ปรมิ าณถงึ 100 ลา้ นคาสง่ั ต่อวนิ าทไีด้
3. เอไอแห่งอนาคต
■ ระบบปญั ญาประดษิ ฐ์แห่งอนาคตหรอื Future Artificial
Intelligence จะมสี ่วนทเี่ป็นหวั ใจหรอื สมองของระบบไดแ้ ก่ เทคโนโลยกี าร
เรยี นร้ขู องเครอื่ ง หรอื Machine Learning ด้วยเครอื ขา่ ย
ประสาทเทยี ม ทเ่ีรยี กว่า Deep Neural Network ซงึ่ สร้างโดย
เลยี นแบบเครอื ขา่ ยเซลลป์ ระสาทในสมองของมนุษย์ ความสามารถของ AI ที่
เพม่ิ ขน้ึ
■ ทาใหร้ ะบบไซเบอร์-ฟิสคิ ลั (Cyber-Physical System) ที่
ส่งผา่ นขอ้ มูลระหว่างโลกอนิ เทอร์เนต็ กบั โลกจรงิ ทางกายภาพมปี ระสทิ ธภิ าพมาก
ขน้ึ เช่น รถยนต์ขบั เคลอ่ื นอตั โนมตั ไิร้คนขบั AI ประมวลผลและสงั่ การควบคุม
การขบั รถไดใ้ นเวลาเส้ยี ววนิ าทดี ้วยประสทิ ธภิ าพและความปลอดภยั ทมี่ ากขน้ึ แต่
อาจจะทาใหค้ นขบั รถจานวนมากต้องตกงาน มกี ารคาดการณ์ว่าในปี
ค.ศ.2030 AI จะทาให้ตาแหนง่ งานหายไป 400-800 ลา้ นตาแหน่ง แมจ้ ะ
ทาให้เกดิ งานใหมๆ่ ขน้ึ มาพอๆ กนั แต่จะเป็นทกั ษะทแ่ี ตกต่างออกไปอย่างสน้ิ เชงิ
4. การเดนิ ทางแบบไร้รอยต่อ
■ Mobility-as-a-Service หรอื แมส (Maas) มกี ารเตบิ โต
แบบกา้ วกระโดดของเทคโนโลยนี ใ้ีนปจั จุบนั ตวั อยา่ งผูใ้ ห้บรกิ ารแมสรายใหญ่ 2
รายคอื อูเบอร์ (Uber) ของสหรฐั ฯ กบั ตตี๊ ี๊ (DiDi) ของจนี ขอ้ มูลปี
พ.ศ.2560 ระบุว่ามูลค่าของบรษิ ทั ตต๊ี อ๊ี ยู่ทร่ี าว 56,000 ลา้ นเหรยี ญ
สหรฐั ฯ ขณะทอ่ี ูเบอร์มากกว่าคอื 62,000 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ ทนี่ ่าสนใจคอื
ตตี๊ ี๊ เป็นบรษิ ทั ทโี่ตอย่างก้าวกระโดดจากการเทคโอเวอร์บรษิ ทั อูเบอร์ในจนี เมอ่ื ปี
พ.ศ.2559
■ ปจั จุบนั นอกจากการนาผูโ้ดยสารไปยงั ทหี่ มายแลว้ ยงั บรกิ ารส่งของต่างๆ
อยา่ งบรกิ าร GrabFood และ Line Man ทไ่ีด้รบั ความนยิ มอย่าง
สูงในประเทศไทยอยูใ่ นขณะน้ี ทงั้ นส้ี ถาบนั วจิ ยั BIS Research ประเมนิ
ว่าอนาคตอนั ใกล้ ตลาดของแมสกาลงั เตบิ โตด้วยความเร่ง โดยปจั จยั สาคญั คอื
ความสามารถในการสร้างแพลตฟอร์มการใหบ้ รกิ ารยานพาหนะ และ
ความสามารถในการใหบ้ รกิ ารแบบ On Demand รวมถงึ การสนบั สนุน
อยา่ งเหมาะสมโดยภาครฐั
5. เซลลแ์ สงอาทติ ย์เพอรอฟสไกต์
■ เซลล์แสงอาทติ ย์แบบเพอรอฟสไกต์ มโีครงสร้างผลกึ คลา้ ยแร่
แคลเซยี มไทเทเนยี มออกไซด์ (CaTiO3) หรอื แร่เพอรอฟสไกต์ ท่ี
ดูดซบั แสงและเปลย่ี นแสงอาทติ ย์เป็นพลงั งานไฟฟ้ าได้ดี ยงั สามารถขน้ึ
รูปไดใ้ นลกั ษณะสารละลายคลา้ ยกบั น้าหมกึ พมิ พ์ เพอื่ นาไปพมิ พบ์ น
แผน่ ฟิล์มหรอื พน้ื ผวิ ต่างๆ โดยมตี ้นทนุ การผลติ ต่า คอื 30-50%
ของเซลล์แสงอาทติ ย์แบบซลิ คิ อน
■ มกี ารประเมนิ ว่าในอกี 5-6 ปีขา้ งหนา้ ตลาดของเซลลแ์ สงอาทติ ย์น่าจะ
เตบิ โตไปไดจ้ นถงึ 1.4 แสนลา้ นเหรยี ญ และดว้ ยขอ้ ดขี องเซลล์แบบนท้ี มี่ ี
น้าหนกั เบาและโค้งงอได้ไม่เสยี หาย สาหรบั ประเทศไทยนกั วจิ ยั สวทช.
พฒั นาทง้ั ส่วนทเ่ีป็นโครงสร้างวสั ดุในการส่งผา่ นอเิลก็ ตรอน สาร
เคลอื บผวิ ชนดิ กนั น้าและสะทอ้ นความร้อน รวมทงั้ พฒั นากระบวนการ
เคลอื บฟิลม์ บางเพอื่ เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพและเสถยี รภาพของเซลล์
แสงอาทติ ย์ชนดิ น้ี
6. แบตเตอรล่ี เิทยี มยุคหนา้
■ ในปี พ.ศ.2561 มูลค่าตลาดของแบตเตอรลี่ เิทยี มไอออน สาหรบั ยานยนต์ไฟฟ้ า
และอุปกรณ์อเิลก็ ทรอนกิ ส์อนื่ ๆ อยู่ท่ี 36,000 ลา้ นเหรยี ญสหรฐั ฯ เตบิ โตปีละ
13% โดยจนี จะเป็นผูผ้ ลติ รายใหญ่ทสี่ ุด แมจ้ ะยงั ไม่มแี บตเตอรที่ ม่ี คี ุณสมบตั คิ รบทกุ
อย่าง แต่กม็ แี บตเตอรท่ี น่ี ่าสนใจหลายแบบ เช่น
■ – แบตเตอรแ่ี บบ Solid-state Lithium Ion ทจี่ ุพลงั งานไดม้ ากข้นึ
เป็น 2 เท่า และมคี วามปลอดภยั มากขน้ึ
■ – แบตเตอรล่ี เิทยี ม-ซลั เฟอร์ (Lithium-sulfur) ทคี่ นหนั มาสนใจกนั
เพราะจุพลงั งานไดม้ ากกว่าแบบลเิทยี มไออน 2-4 เทา่ แต่ราคาถูกกว่า
■ – แบตเตอรล่ี เิทยี ม-แอร์ (Lithium-air) จุพลงั งานมากข้นึ ถงึ 10-100
เท่า
7. โครงเสรมิ ภายนอกกาย
■ เป็นเทคโนโลยที ชี่ ่วยใหม้ นุษย์มพี ละกาลงั เสรมิ และยงั ป้องกนั อนั ตราย
บางอย่างต่อร่างกายได้ ซงึ่ มกี ารนา Exoskeleton ใชช้ ่วยเพม่ิ
ความสามารถทาภารกจิ ต่างๆ ใชใ้ นทางทหาร ใชก้ ู้ภยั ใชช้ ว่ ยเรอื่ ง
ฝึ กฝนและสร้างสมรรถภาพของนกั กฬี าได้ และในทางการแพทย์กช็ ่วย
เร่งกระบวนการฟ้ืนฟูสมรรถภาพร่างกายของผูป้ ่วย ยกระดบั คุณภาพ
ชวี ติ คนพกิ ารหรอื ผูส้ ูงอายุโดยทว่ั ไปได้อกี ด้วย
■ ตวั อย่างทใ่ีชง้ านแลว้ ในระดบั อุตสาหกรรม เช่น
■ – ชุด EskoVest ของ Esko Bionics ในโรงงาน
ประกอบรถยนต์ของ Ford ทว่ั โลก
■ – ชุด Chairless chair ของ Noonee ทเ่ีป็นอุปกรณ์
สวมใส่ตดิ อยู่บรเิวณเอว ขา และเท้าของผูใ้ ชส้ ามารถกางออกเป็นเก้าอ้ไี ด้
ซงึ่ ใชง้ านแลว้ มากกว่า 350 ชน้ิ
8. ไฟเบอร์สารพดั ประโยชนจ์ ากจุลนิ ทรยี ์
■ มจี ุลนิ ทรยี ์หลายชนดิ ทสี่ ามารถสร้างเซลลูโลส แต่เซลลูโลสในจุลนิ ทรยี ต์ ่างจาก
เซลลูโลสในพชื ตรงทสี่ ามารถทาออกมาใหบ้ รสิ ุทธไ์ิ ด้งา่ ยกว่า แขง็ แรงกว่า ขน้ึ รูป
ได้งา่ ยและยงั อุม้ น้าได้ดดี ว้ ย ตวั อยา่ งจุลนิ ทรยี ์ทผ่ี ลติ เซลลูโลสได้ ได้แก่ พวก
Acetobacter และ Agrobacteria โดยเซลลูโลสทจ่ี ุลนิ ทรยี ์
เหลา่ นส้ี ามารถนามาประยุกต์ใชป้ ระโยชน์ไดห้ ลายรูปแบบ ทง้ั เป็นสารตงั้ ตน้
ทาอาหาร เชน่ เตมิ ในวุน้ มะพร้าว เตา้ หู ไอศกรมี หรอื โปรตนี เกษตร
■ ในทางการแพทยส์ ามารถเปลยี่ นน้าตาล Mannitol ได้ เมอ่ื ผา่ น
กระบวนการอกี 2-3 ขน้ั ตอนจะเกดิ เป็นไบโอฟิลม์ (biofilm) ทเี่หมาะทา
เป็นผลติ ภณั ฑ์ปิดแผล หรอื ผวิ หนงั เทยี ม (artificial Skin) นกั วจิ ยั
จาก ETH Zurich University พฒั นาเทคนคิ การพมิ พ์ 3 มติ ิ
โดยใชจ้ ุลนิ ทรยี ์ทย่ี งั มชี วี ติ อยูเ่ ป็นองค์ประกอบนามาผลติ นาโนฟิลเตอร์ ใชก้ รอง
สารพษิ ได้ ส่วนในด้านอุตสาหกรรม บรษิ ทั Nanollose ในออสเตรเลยี
ตงั้ ต้นของเหลอื ท้งิ ในอุตสาหกรรมและการเกษตรนาไฟเบอร์ทไี่ด้มาผลติ เป็น
เสอ้ื ผา้ หรอื ผลติ ภณั ฑ์อน่ื ๆ โดยไม่ต้องตดั พชื ซง่ึ ตอ้ งอาศยั ความร้สู าขาใหม่
ดา้ นชวี วทิ ยาการสงั เคราะห์ ทเี่ตบิ โตอยา่ งก้าวกระโดดในทศวรรษทผี่ า่ นมา
9. กายจาลองทดสอบยา
■ ในปี พ.ศ.2558 สวทช. เคยกล่าวถงึ เทคโลยกี ารเพาะกลุม่ เซลล์สมอง
ทเี่รยี กว่า Brain Organoid ทม่ี ขี นาดและรปู ร่างคลา้ ยกบั
สมองของตวั อ่อนในครรภ์อายุ 5 สปั ดาห์ มขี นาดเท่ากอ้ นยางลบ
ดนิ สอ และส่งถา่ ยกระแสประสาทไดจ้ รงิ จงึ ใชเ้ ป็นโมเดลในการทดลอง
ต่างๆ แกป้ ญั หาจรยิ ธรรมเรอื่ งการใชม้ นุษย์ทดลองยาโดยตรง ไม่
เพยี งแต่สมองจว๋ิ ยงั มอี วยั วะอนื่ ๆ อกี หลายอย่างกเ็พาะเลย้ี งได้เชน่ กนั
เรยี กรวมๆ ว่าเป็น ออร์แกนอยด์ (Organoid) ทแ่ี ปลว่า “อวยั วะ
เลก็ ๆ” ถอื เป็นหนง่ึ ในเครอื่ งมอื ทใ่ีชต้ รวจวเิคราะห์ทดสอบทส่ี าคญั ได้ เชน่
ตรวจความเป็นพษิ และศกึ ษาปฏสิ มั พนั ธ์ของเซลลก์ บั สารออกฤทธิ์
ความก้าวหนา้ ครง้ั ใหญ่เกดิ ขน้ึ จากระบบทเ่ีป็นแพลตฟอร์มเชอ่ื มต่อออ
แกนอยด์ของอวยั วะต่างๆ เขา้ ด้วยกนั ผา่ นระบบของเหลว จนได้
ผลลพั ธ์คลา้ ยเป็นร่างกายเทยี มขนาดจวิ๋ หรอื เป็น “กายจาลอง” ที่
นามาใชท้ ดสอบยาได้
10. วคั ซนี มะเรง็ เฉพาะบุคคล
■ การรกั ษาโรคมะเรง็ โดยการฉายรงั สี การใชย้ าเคมบี าบดั เป็นการรกั ษา
แบบเหมารวม ไมจ่ าเพาะกบั บคุ คล แต่ละคนจงึ ตอบสนองกบั ยาหรอื รงั สี
แตกต่างกนั ไป นอกจากนม้ี กั เกดิ อาการขา้ งเคยี งรุนแรง และบางครงั้
ผูป้ ่วยทหี่ ายแลว้ กอ็ าจเป็นมะเรง็ เดมิ ไดอ้ กี
■ วงการวทิ ยาศาสตร์การแพทย์จงึ มคี วามพยายามทจี่ ะทาวคั ซนี หรอื ยา
สาหรบั โรคมะเรง็ แบบเฉพาะบคุ คลขน้ึ โดยมวี ธิ กี ารคอื เร่ิมจากนาเซลล์
ปกตแิ ละเซลล์มะเรง็ ของผูป้ ่วยออกมา “อ่านรหสั ดเีอน็ เอ” จากนนั้
เปรยี บเทยี บรหสั ในตาแหน่งต่างๆ เพอ่ื หาว่ามตี าแหน่งใดทเี่ปลย่ี นแปลงไป
บา้ ง โดยเฉพาะตาแหน่งทเ่ีกย่ี วขอ้ งกบั การสร้างโปรตนี จากนนั้ ใช้
ซอฟต์แวร์ทางชวี สารสนเทศ หรอื bioinformatics มา
จดั ลาดบั ความสาคญั ของส่วนทเ่ีปลย่ี นแปลงไปนน้ั