The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kod26112508, 2023-08-31 12:02:17

66 วิจัย (30 กย 66)

66 วิจัย

งานว จ ยในช ้นเร ยน เร ่อง การศึกษาการจ ดการเร ยนรู้ด้วยส ่อpower point ร่วมก บแบบฝึกห ดทบทวนเน ้อหา ท ่ม ผลต่อผลส มฤทธ ์ทางการเร ยนรายว ชาช วว ทยา5 ส าหร บน กเร ยนระด บช ้นม ธยมศึกษาป ท ่6 ผ ู้ว จ ย นางกชณ ภา ก นตะกน ษฐ์ ครูช านาญการพ เศษ กล ่มสาระการเร ยนร ู้ว ทยาศาสตร์ โรงเร ยนปากเกร็ด อ าเภอปากเกร็ด จ งหว ดนนทบ ร ส าน กเขตพ ้นท ่การศึกษาม ธยมศึกษา นนทบ ร ภาคเร ยนท ่ 1 ป การศึกษา 2566


ช ่อเร ่องว จ ย การศึกษาการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาที่มีผลต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับน ักเร ียนระด ับช ั้นมัธยมศึกษาป ีที ่ 6 ช ่อผ ู้ว จ ย : นางกชณิภา กันตะกนิษฐ์ ปีการศึกษา : 2566 บทค ดย ่อ การวิจัยเรื่องการศึกษาผลการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาที่มี ผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 เพื่อศึกษาผลการ จัดการเรียนรู้เรื่องการศึกษาการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาที่มีผลต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2566 จ านวน 6 ห้องนักเรียนจ านวน 177 คน โดยการเลือกแบบเจาะจงจ านวนกลุ่มเป้าหมาย 41 คน เครื่องมือ ในการวิจัย คือ สื่อการสอนสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บข้อมูล ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ผลการวิจัยพบว่านักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่าเกณฑ์ที่ก าหนดในระดับร้อยละ 60 แสดงให้เห็นว่าการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อการ เรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6


ก ตต กรรมประกาศ การวิจัยในชั้นเรียน เรื่อง การศึกษาการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวน เนื้อหาที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ครั้งนี้ส าเร็จ ได้ผลตามขั้นตอนการท าวิจัยด้วยความกรุณาจากครูในกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกท่านที่ เป็นกัลยาณมิตรในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และให้ค าปรึกษาแนะน าและตรวจเครื่องมือในการวิจัยและความถูกต้อง ด้านเนื้อหาและการผลิตสื่อ ขอขอบพระคุณผู้อ านวยการ คณะครูและนักเรียนโรงเรียนปากเกร็ดที่ให้ค าปรึกษาในทุกๆเรื่องให้ก าลังใจ เอื้อเฟื้อและอ านวยความสะดวกในการท าวิจัย ท าให้การทดลองส าเร็จลุล่วงด้วยดี ผู้วิจัยหวังเป็นอย่างยิ่งว่า งานวิจัยในชั้นเรียนนี้คงเป็นประโยชน์ในการพัฒนาคุณภาพของนักเรียนและเป็น ประโยชน์ต่อผู้ที่ก าลังศึกษาค้นคว้างานวิจัยในด้านนี้หรือจะสามารถน าไปประยุกต์ใช้ด้านการสอนวิชาอื่นๆคุณค่า และประโยชน์อันพึงมีจากงานวิจัยฉบับนี้ ขอมอบเป็นเครื่องบูชาคุณบิดามารดา ญาติพี่น้องตลอดจนครูบาอาจารย์ และผู้มีพระคุณทุกท่าน กชณิภา กันตะกนิษฐ์ ผู้วิจัย


สารบ ญ เร ่อง หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข บทท ่ 1 บทน า 1 ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหา วัตถุประสงค์การวิจัย สมมติฐานการวิจัย ขอบเขตการวิจัย นิยามศัพท์เฉพาะ ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ บทท ่ 2 เอกสารท ่เก ่ยวข้อง 3 ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สื่อการสอน บทท ่ 3 ว ธ ด าเน นการว จ ย 7 ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูล บทท ่ 4 ผลการว เคราะห์ข้อมูล 8 ตารางแสดงคะแนนหลังใช้สื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา บทท ่ 5 สร ปการว จ ย อภ ปรายผลและข้อเสนอแนะ 9 สรุปและอภิปรายผลการวิจัย ข้อเสนอแนะ ภาคผนวก 10


บทท ่ 1 บทน า ความสำค ญและความเป ็นมาของปัญหา จากประสบการณ์ในการจัดการเรียนการสอนที่ใช้หนังสือแบบเรียนในรายวิชาชีววิทยา 5เป็นสื่อ เพียงอย่างเดียว มีผลท าให้นักเรียนขาดความสนใจในเนื้อหาที่เรียน ดังนั้นครูผู้สอนจึงได้ท าสื่อ การสอน ที่สอดคล้องกับเนื้อหาและมีรูปภาพประกอบและมีการสอดแสรกคลิปวีดีโอในเนื้อบางตอนที่ ส่งเสริมให้ นักเรียนมีความเข้าใจในเนื้อยิ่งขึ้น รวมทั้งการจัดท าชุดแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาโดยมีค าถาม และกิจกรรม การทบทวนสืบค้นเนื้อหาความรู้ที่เรียน เพื่อสรุปเป็นความเข้าใจในเนื้อหานั้นๆ และได้น าสื่อpower point ใช้ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนความรู้แล้วพบว่าการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower pointร่วมกับแบบฝึกหัด ทบทวนเนื้อหาสามารถช่วยแก้ไขปัญหาของนักเรียน ได้ศึกษาเนื้อหาจากบทเรียนได้ มากขึ้นและสามารถ ในการเข้าเรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และสามารถทบทวนเรียนรู้ได้ตลอดเวลาจนกว่าจะเกิดความเข้าในบทเรียน และยังสามารถดึงดูดความสนใจและกระตุ้นให้ผู้เรียนให้เข้าไปเรียนรู้ในบทเรียนได้เสมือนว่าเรียนในชั้นเรียน ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยาสูงขึ้น ด้วยเหตุผลดังกล่าวข้างต้นผู้วิจัยจึงสนใจศึกษาเรื่อง การศึกษาการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อ power point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน รายวิชาชีววิทยา5ส าหรับนักเรียน ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ว ตถ ประสงค์ของการว จ ย เพ ื่อพ ัฒนาผลสัมฤทธิ์การศึกษาการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นธยมศึกษาปีที่ 6 สมมต ฐานของการว จ ย การจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนรายวิชาชีววิทยา 5 (ว30245) ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ขอบเขตของการว จ ย 1. ประชากรและกล ่มต วอย่าง ประชากร (Population) น ักเร ียนชั้นม ัธยมศ ึกษาปีที่ 6 โรงเรียนปากเกร็ดที่เรียนวิชาชีววิทยา5 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จ านวน 6 ห้องเรียน จ านวนนักเรียน 177 คน กล ่มต วอย่าง (Samples) เป็นนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/4 โรงเรียนปากเกร็ดที่เรียน รายวิชาชีววิทยา 5 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 1


2. ระยะเวลาท ่ใช้ในการว จ ย ด าเนินการวิจัยในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 ระหว่างวันที่ 17 พฤษภาคม 2566 ถึง 30 มิถุนายน 2566 จ านวน 20 ชั่วโมง 3. เน ้อหาท ่ใช้ในการว จ ย รายวิชาชีววิทยา 5 รหัสวิชา ว 30245 เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัส น ยามศ พท์เฉพาะ 1. ผลส ัมฤทธ ิ์ทางการเร ียน (Learning Achievement) หมายถึง ความสามารถในการเร ียนรู้หร ือผล ความส าเร ็จที่ได้ร ับจากก ิจกรรมการเร ียนการสอน วัดได้จากคะแนนในการท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเร ียนที่สร ้างขึ้นตามเนื้อหาและจ ุดประสงค์การเร ียนร ู้ในวิชาชีววิทยา 5 โดยเปรียบเทียบคะแนน สอบหลังจัดการเรียนรู้กับคะแนนตามเกณฑ์ที่ครูก าหนดไว้ ร้อยละ 60 ของคะแนนทั้งหมด 2. การจัดการเรียนรู้สื่อpower point หมายถึง Power Point เป็นโปรเเกรมในการน าเสอนได้ใน หลายรูปเเบบ ไม่ว่าจะเป็นน าเสนอ เเบบเป็นอักษร ภาพ หรือเสียง โดยตัวโปรเเกรมนั้นสาารถน าสื่อเหล่า นี้มาผสมผานได้ อย่าลงตัวเเละมีประสิทธิภาพมากที่สุดที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นตามเนื้อหาหลักสูตรรายวิชาชีววิทยา5 เรื่องระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัส ประโยชน์ท ่คาดว่าจะได้ร บ 1. ผลสัมฤทธิ์ทางการเร ียนวิชาชีววิทยา 5 เร ื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัสของน ักเร ียนระดับ ชั้นม ัธยมศ ึกษาปีที่ 6 ม ีค ่าระดับคะแนนไม ่ต่ ากว่าร ้อยละ 60 2. ผู้เรียนสามารถแก้ไขข้อบกพร่องทางการเรียนด้วยการเข้าเรียนรู้ทางApplication Classroom ได้ ตลอดเวลาจากสื่อการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น กรอบแนวค ดในการว จ ย ต วแปรต้น ต วแปรตาม การจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 2


บทท ่ 2 แนวค ดทฤษฎ เอกสารและงานว จ ยท ่เก ่ยวข้อง เอกสารท ่เก ่ยวข้อง 1. ผลส มฤทธ ์ทางการเร ยน มีนักการศึกษาหลายท่านได้ให้ความหมายผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ดังนี้ ปราณี กองจินดา (2549) ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความสามารถหรือ ผลส าเร็จที ่ได้รับจากกิจกรรมการเรียนการสอนเป็นการเปลี ่ยนแปลง พฤติกรรมและประสบการณ์เรียนรู้พุทธิพิสัย จิตพิสัย และทักษะพิสัย และยังได้จ าแนกผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนไว้ตามลักษณะของวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนที่แตกต่างกัน กิตญา ตันหยง (2545)ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ว ่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน (academic achievement) หมายถึงผลที่เกิดจากการเรียนการสอนการอบรมการฝึกฝนท าให้นักเรียนมี คุณลักษณะอันพึงประสงค์และมีความรู้ความสามารถที่ซึ่งแสดงถึงความรอบรู้การมีทักษะการเปลี่ยนแปลง พฤติกรรมที่พัฒนาขึ้น 3 ด้าน ได้แก่ ด้านพุทธิพิสัยด้านจิตพิสัยและด้านทักษะพิสัยและประสบการณ์การ เรียนรู้ที่เกิดในตัวนักเรียนซึ่งสามารถวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนได้โดยใช้แบบวัดต่างๆอาทิ เช่นแบบทดสอบ แบบสังเกต ทักษะการปฏิบัติเป็นต้น พิมพันธ์เดชะคุปต์ และพเยาว์ยินดีสุข(2548) ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ว ่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหมายถึง ขนาดของความส าเร็จที่ได้จากกระบวนการเรียนการสอน สมพร เชื้อพันธ์(2547) ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา คณิตศาสตร์ หมายถึงความสามารถ ความส าเร็จและสมรรถภาพด้านต่างๆของผู้เรียนที่ได้จากการเรียนรู้มา จากการเรียนการสอน การฝึกฝนหรือประสบการณ์ของแต่ละบุคคลซึ่งสามารถวัดได้จากการทดสอบด้วยวิธี ต่างๆ พวงรัตน์ทวีรัตน์(2530) ให้ความหมายของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนไว้ว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หมายถึง ความรู้ความเข้าใจความสามารถ และทักษะทางด้านวิชาการรวมทั้งสมรรถภาพทางสมองและมวล ประสบการณ์ ทั้งปวงที่เด็กได้รับการเรียนการสอนท าให้เกิดการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในด้านต ่าง ๆ ซึ่ง แสดงให้เห็นได้ด้วย คะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3 ด้านได้แก่พุทธิพิสัย ด้านจิตพิสัย และด้านทักษะพิสัย ซึ่งสามารถวัดได้จากการทดสอบด้วยวิธีการต่างๆ สรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนขนาดของความรู้หมายถึงความสามารถ ความส าเร็จและ สมรรถภาพ ด้านต่างๆของผู้เรียนที่ได้จากการเรียนการสอน การฝึกอบรม การฝึกฝนหรือฝึกประสบการณ์ 3


ของแต่ละบุคคล ให้มีการเปลี่ยนแปลงพฤติการณ์เรียนที่พัฒนาขึ้น 2. ความหมายของส ่อการสอน มีนักการศึกษาได้ให้ความหมายของสื่อการสอนไว้ดังนี้ ส ่อการสอนออนไลน์ (Online learning) จากเวปไซต์(https://www.educatorroundtable.org/) การเรียนการสอนออนไลน์ (Online learning) จัดเป็นนวัตกรรมทางการศึกษาในอีกรูปแบบหนึ่งซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงวิธีเรียนในรูปแบบเดิมๆ ให้เป็นการเรียน ใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยท าการสอน นอกจากนี้ความหมายอีกในหนึ่งยังหมายถึงการเรียนทางไกล , การ เรียนผ่านเว็บไซต์ อีกด้วย การเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) จะเป็นเรียนทางผ่านทางอินเทอร์เน็ต โดยอยู่ใน รูปแบบของคอมพิวเตอร์ เป็นการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ บวกเข้ากับเครือข่ายอินเทอร์เน็ต สร้างการศึกษาที่มี ปฏิสัมพันธ์คุณภาพสูง โดยไม่จ าเป็นต้องเดินทาง เกิดความสะดวกและเข้าถึงได้อย่างรวดเร็ว ทุกสถานที่ ทุกเวลา เป็นการสร้างการศึกษาตลอดชีวิตให้กับประชากร การเรียนการสอนแบบออนไลน์ เป็นการศึกษาผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ด้วยตนเอง ผู้เรียนสามารถเลือก เรียนตามความชอบของตนเอง ในส่วนของเนื้อหาของเรียน ประกอบด้วย ข้อความ , รูปภาพ ,เสียง ,VDOและ Multimedia อื่นๆ สิ่งเหล่านี้จะถูกส่งตรงไปยังผู้เรียนผ่าน Web Browserทั้งผู้เรียน, ผู้สอน และเพื่อนร่วมชั้นทุก คน สามารถติดต่อ สื่อสาร ปรึกษา แลกเปลี่ยนความคิดเห็นแบบเดียวกับการเรียนในชั้นเรียนทั่วไป โดยการใช้ Email, Chat, Social Network เป็นต้น ด้วยเหตุนี้การเรียนรู้แบบออนไลน์ จึงเป็นเหมาะส าหรับทุกคน,เรียนได้ทุก เวลาลักษณะส าคัญของการเรียนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning)ผู้เรียนเป็นใครก็ได้ อยู่ที่ใดก็ได้ เรียน เวลาก็ใด เอาตามความสะดวกของผู้เรียนเป็นส าคัญ เนื่องจากโรงเรียนออนไลน์ได้เปิดเว็บไซต์ให้บริการตลอด 24 ชั่วโมงมีสื่อทุกประเภทที่น าเสนอในเว็บไซต์ ไม่ว่าจะทั้ง ข้อความ , ภาพนิ่ง , ภาพเคลื่อนไหว , เสียง , VDO ซึ่งจะ ช่วยกระตุ้นความสนใจในการเรียนรู้ของผู้เรียนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังท าให้เหตุภาพของเนื้อหาต่างๆง่ายดายมาก ขึ้นผู้เรียนสามารถเลือกวิชาเรียนได้ตามความต้องการเอกสารบนเว็บไซต์ที่มีLinks ต่อไปยังแหล่งความรู้อื่นๆ ท าให้ขอบเขตการเรียนรู้กว้างออกไป และเรียนอย่างรู้ลึกมากขึ้น ประโยชน์ของการเร ยนการสอนแบบออนไลน์ (Online learning) ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเรียนการสอน เนื่องจากไม่ได้จ ากัดอยู่ในสถานที่เดียวเท่านั้นเกิดเครือข่ายความรู้โยงใย ออกไปไกลเน้นการเรียนแบบผู้เรียนเป็นศูนย์กลางช่วยลดช่องว่างระหว่างการเรียนรู้ในเมืองกับท้องถิ่น สรุปแล้วการเรียนรู้แบบการเรียนรู้แบบออนไลน์ เป็นการเรียนที่มีความมีความยึดหยุ่นสูงเพราะฉะนั้น ผู้เรียนจ าต้องมีความรับผิดชอบในการเรียนมากกว่าปกติ เพราะไม่มีใครมานั่งจ้ าจี้จ้ าไชยิ่งเรียนยิ่งได้กับตัวเองอีกทั้ง ยังทราบผลย้อนกลับของการเรียน ทั้งจาก E-Mail , การประเมินย่อย , การประเมินผลหลัก โดยใช้เว็บไซต์เป็นที่ 4


สอบ รวมทั้งการประเมินผลรวมตามการสอบ เพื่อเป็นการเช็คว่าผู้เรียนได้เข้ามาเรียนจริง สามารถท าข้อสอบได้ มีความเข้าใจในเนื้อหา Brownและคนอื่นๆ(1985 อ้างอิงในเอกวิทย์,2545) ได้กล่าวไว้ว่าสื่อการสอนได้แก่อุปกรณ์ทั้งหลายที่ช่วย เสนอ ความรู้ให้แก่ผู้เรียนจนเกิดผลการเรียนรู้ที่ดีทั้งนี้มีความหมายรวมถึงกิจกรรมต่างๆที่ไม่เฉพาะแต่สิ่งที่เป็นวัตถุหรือ เครื่องมือเท่านั้นเช่นการศึกษานอกสถานที่ การแสดงบทนาฏการ การสาธิตการทดลองตลอดจนการการสัมภาษณ์และ การส ารวจเป็นต้น ส ่อ power point Power Point เป็นโปรเเกรมในการน าเสอนได้ในหลายรูปเเบบ ไม่ว่าจะเป็นน าเสนอ เเบบเป็นอักษร ภาพ หรือเสียง โดยตัวโปรเเกรมนั้นสามารถน าสื่อเหล่านี้มาผสมผานได้ อย่าบงลงตัวเเละมีประสิทธิภาพ มากที่สุดลักษณะการของโปรเเกรม Power Point การท างานในรูปของภาพนิ่ง (slide) คือเเผ่นเอกสารเดี่ยว ๆ ที่เเสดงสิ่งต่าง ๆ ตัวอักษร กราฟ ตาราง รูปภาพ หรืออื่นๆ เเละสามารถเเสดงไลด์ลงบนแผ่นกระดาษหรือเครื่องฉานข้ามศีรษะหรือหน้าจอคอมพิวเตอร์ หรือเครื่องฉาย โปรแกรม Microsoft PowerPoint 2003 เป็นโปรแกรมสั่งงานคอมพิวเตอร์ที่ถูกออกแบบมาให้ใช้ กับงานด้าน การน าเสนอเรื่องราวต่าง ๆ (Presentation)ในลักษณะคล้ายๆกับการฉายสไลด์ (Slide Show) โดย เราสามารถใช้ค าสั่งของ PowerPoint สร้างแผ่นสไลด์ที่มีรูปภาพและข้อความบรรยายเรื่องราวที่ต้องการจะ น าเสนอได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งก าหนดลักษณะแสงเงา และลวดลายสีพื้นให้สไลด์แต่ละแผ่นมีความสวยงาม น่าสนใจยิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถก าหนดรูปแบบการฉายสไลด์แต่ละแผ่น อย่างต่อเนื่อง และใช้เทคนิคพิเศษ ในการแสดงข้อความแต่ละบรรทัด เพื่อให้ผู้ชมการ ฉายสไลด์ค่อย ๆ เห็นข้อความบรรยายและภาพเหล่านี้ทีละ ขั้น ๆ อย่างต่อเนื่องกันเป็นเรื่องราวตามระยะเวลาที่เราก าหนดไว้ ความหมายของการน าเสนอข้อมูล การน าเสนอข้อมูล หมายถึง การสื่อสารเพื่อเสนอข้อมูล ความรู้ ความคิดเห็น หรือความต้องการไปสู่ผู้รับ สาร โดยใช้เทคนิคหรือวิธีการต่าง ๆ อันจะท าให้บรรลุผลส าเร็จตามจุดมุ่งหมายของการน าเสนอ ประโยชน์ของโปรแกรม PowerPoint 1. สามารถสร้างงานน าเสนอได้ แม้ว่าจะไม่เคยสร้างงานน าเสนอมาก่อนเนื่องจากจะมีระบบช่วยเหลือ (Office Assistant) ใน PowerPoint ซึ่งจะคอยแนะน าหลักการในการสร้างงานน าเสนออย่างเป็นขั้นตอน การ เลือกสีมาใช้กับสไลด์ และจัดองค์ประกอบทางศิลป์ได้โดยอัตโนมัติ 2. ในส่วนการน าเสนอภาพนิ่ง สามารถที่จะน าองค์ประกอบมัลติมีเดีย เช่น การน าเอฟเฟคเสียงดนตรี และวีดีโอ มาใช้ประกอบร่วมได้ 3. นอกจากสิ่งที่ได้เตรียมมาน าเสนอแล้ว ยังสามารถใช้PowerPointเตรียมเอกสารประกอบค าบรรยาย 5


และในขณะที่มีการน าเสนองาน ก็สามารถใช้เมาส์วาดเส้นบนสไลด์ที่แสดงอยู่ในขณะนั้นเพื่อเน้นประเด็นส าคัญได้ 4. สามารถที่จะดัดแปลงงานน าเสนอที่เป็นไฟล์PowerPoint เป็นสไลด์35 ม.ม. เพื่อใช้น าเสนอผ่าน เครือข่ายอินเทอร์เน็ต หรือเครือข่ายอินทราเน็ตภายในองค์กรได้ งานว จ ยท ่เก ่ยวข้องก บส ่อการสอน อนุชา พัฒนรัตน (2553) ได้ทำงานวิจัยเรื่องการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการสะสมรูปแบบ จังหวะด้วยสื่อการสอนแบบปฏิสัมพันธ์เพื่อฝึกการอ่านโน้ตแบบฉับพลันส าหรับนักเรียนกีตาร์ในระดับต้นการวิจัย ครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแผนการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการสะสมรูปแบบของการ สอนแบบปฏิสัมพันธ์เพื่อฝึกการอ่านโน้ตแบบฉับพลันสกีตาร์ส าหรับนักเรียนระดับชั้นต้น 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางด้านทักษะการอ่านโน้ตแบบฉับพลันและพัฒนาการการอ่านโน้ตแบบฉับพลัน ระหว่างนักเรียน ในระดับชั้นต้นที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการสะสมรูปแบบของจังหวะด้วยสื่อ ปฏิสัมพันธ์และนักเรียในระดับชั้นต้นที่ได้รับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้กีตาร์โดยเน้นการสะสมรูปแบบ แต่ไม่ใช้ สื่อการสอนแบบปฏิสัมพันธ์3) เปรียบเทียบพฤติกรรมการเรียนรู้ของกลุ่มทดลองและกลุ ่มแบ่งเป็น 3 หัวข้อดังนี้ 1) ด้านปัญญา 2) ด้านอารมณ์ความรู้สึก 3) ด้านความรับผิดชอบวิธีดำเนินการวิจัยเป็นแบบกึ่งทดลองกลุ่มตัวอย่าง ที่ ใช้ในการวิจัยคือนักเรียนกีตาร์ในระดับชั้นต้นที่มีอายุ-15 ปีแบ่งเป็นกลุ่มทดลอง 125 คนและกลุ่มควบคุม 5 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยมี3 ชนิด ได้แก่ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ทักษะการอ่านโน้ตแบบฉับพลัน 2) แบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ 3) วิเคราะห์ข้อมูลจากการทดลองโดย t-test และสถิติเชิงพรรณนา ผลการวิจัย มีดังต่อไปนี้ 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นการสะสมรูปแบบของสื่อแบบปฏิสัมพันธ์ประกอบด้วย 6 หัวข้อ และกิจกรรมการเรียนรู้2) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในภาพรวม 3 ขั้นตอนหลังการทดลองและพัฒนาการอ่านโน้ต แบบฉับพลันของกลุ่มทดลองและกลุ่มควบคุมดีขึ้น อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.53 กลุ่มทดลอง และ กลุ่มควบคุมมีพฤติกรรมการเรียนรู้อยู่ในระดับสูง (M=2.86, M=2.59) กลุ่มทดลองมีพฤติกรรมการเรียนรู้ด้าน อารมณ์ความรู้สึกและด้านความรับอยู่ในระดับสูง (M= 2.66, M=2.84) กลุ่มควบคุมมีพฤติกรรม การเรียนรู้ด้าน อารมรณ์ความรู้สึกและด้านความรับผิดชอบอยู่ในระดับปานกลาง (M=1.93, M=1.92) งานวิจัยที่เกี่ยวข้องผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน นันทนัช นรภักดิ์สุนทร(2555) ได้ทำวิจัยเรื่องผลของการจัดการเรียนรู้พลศึกษาตามแนวคิดที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต้นการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ย ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพลศึกษาก่อนและหลังการทดลองของนักเรียนกลุ่มทดลองและนักเรียนควบคุม 2) เปรียบเทียบค่าคะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพลศึกษาหลังการทดลองระหว่างนักเร ียนกลุ่ม ทดลองกับนักเรียนกลุ่มควบคุมกลุ่มตัวอย่างคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท ี่1 จำนวน109คนโรงเรียนนวมินท 5


ราชินูทิศ หอวัง นนทบุรี สังกัดคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ นักเรียนกลุ่มทดลองที่ได้รับการจัดการเรียนรู้พลศึกษาตามแนวคิดนีโอฮิวแมนนิส จ านวน 54 คนและนักเรียน กลุ่มควบคุมที่ได้รับการจัดการเรียนรู้พลศึกษาโดยวิธีปกติ จ านวน 55 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการจัด เรียนรู้พลศึกษาตามแนวคิด นีโอฮิวแมนนิสจ านวน 8 แผน และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาพลศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและทดสอบความแตกต่าง ของค่า คะแนนเฉลี่ยด้วยค่า "ที”ผลการวิจัยพบว่า1) คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพลศึกษาของนักเรียน กลุ่มทดลองหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ.05คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาพลศึกษาของนักเรียนกลุ่มควบคุมหลังการทดลองสูงกว่าก่อนการทดลองอย่างมีนัยสำคัญทางสถิ ติที่ระดับ 0.52 คะแนนเฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาพลศึกษาหลังการทดลอง ของนักเรียนกลุ่มทดลองสูง กว่านักเรียนกลุ่มควบคุมมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ0.5 6


บทท ่ 3 ว ธ ด าเน นการว จ ย การวิจัยเรื่อง การศึกษาการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาที่มีผลต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 1. แบบแผนการว จ ย การวิจัยครั้งนี้ เป็นการวิจัยเชิงทดลอง มีแบบแผนการวิจัยดังนี้ 2. กล ่มเป ้าหมายท ่ใช้ในการว จ ย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย ค ือน ักเร ียนในระดับชั้นม ัธยมศ ึกษาปีที่ 6/4 โรงเร ียนปากเกร็ด ภาคเร ียนที่ 1 ปีการศ ึกษา 2566จำนวน 41 คน 3. เคร ่องม อว จ ย 3.1 สื่อการสอนpower point เรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัส 3.2 แบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา 3.3 แบบบทสอบเรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัส 4. การเก็บรวบรวมข ้อม ูล ดำเน ินการจัดการเร ียนร ู้ด้วยสื่อสื่อpower pointร่วมกับแบบฝึกหัดดทบทวนเนื้อหาที่มีผลต่อ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 5. การว เคราะห์ขอม ูล วิเคราะห์เปรียบเทียบคะแนนและร ้อยละของคะแนนที่ได้จากก่อนและหลังจากการเรียนรู้ด้วยสื่อ power point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหาเทียบก ับเกณฑ ์ที่ได้กำหนดไว ้ค ือ ร ้อยละ 60 7


บทท ่ 4 ผลการว เคราะห์ข้อมูล จากการด าเน ินการจัดการเร ียนรู้ เร ื่อง การจัดการเร ียนร ู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวน เนื้อหา ที่มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาชีววิทยา 5 ส าหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 41 คน ให ้น ักเร ียนกลุ่มเป้าหมายทำแบบทดสอบหล ังเร ียนจำนวน 20 ข ้อ ซ ึ่งสร ุปผลการบ ันทึกคะแนนได้ใน ตารางต่อไปนี้ ตารางสร ุปคะแนนหลังจากการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา เร ื่อง ระบบ ประสาทและอวัยวะรับสัมผัส จ านวน 41 คน 8


บทท ่ 5 สร ปและอภ ปรายผลการว จ ย สร ปรายงานว จ ยม ด งน ้ 1. นักเรียนกลุ่มเป้าหมายมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ระบบประสาทและอวัยวะรับสัมผัสสูงกว่าเกณฑ์ ร้อยละ 60 เป็น จ านวน 27 คน คิดเป็นร้อยละ 66 2. จากการวิจัยพบว่า การด าเนินการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา ที่ มีผลต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนดีขึ้น ข ้อเสนอแนะจากผลการว จ ย 1. การเรียนการสอนแบบสื่อpower point ร่วมกับแบบฝึกหัดทบทวนเนื้อหา ภาระงานหลักของครูผู้สอน คือการเตรียมการสอน การผลิตสื่อการสอน และการติดตามนักเรียน ดังนั้นครูผู้สอนจึงควรมีเวลาอย่าง เพียงพอ ภาระงานของครูจึงต้องเลือกเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับการการการสอนเป็นส าคัญ 2. ครูผู้สอนต้องปรับทัศนคติในการเรียนการสอนที่ต้องกระตุ้นให้นักเรียนได้สืบค้นข้อมูลจากสื่อpower point ในแหล่งเรียนรู้Goo และคอยพูดคุยดูแลนักเรียนที่ไม่ค่อยมีความพร้อมด้านอุปกรณ์และอินเตอร์เน็ต เพื่อมีก าลังใจและคอยให้ค าปรึกษาแก่นักเรียนด้วยความรักและเข้าใจเพื่อเป็นการส่งเสริมในการเรียนรู้ให้กับ นักเรียน 9


ภาคผนวก 10


11


12


13


14


Click to View FlipBook Version