จรรยาบรรณและกฎหมาย
เกี่ยวกบั การใชส้ ่อื สงั คมออนไลน์
1.1 ความหมายของ จรรยาบรรณ
จรรยาบรรณ หมายถึง ประมวลความประพฤติ ท่ีผูป้ ระกอบวิชาชีพ การงานแตล่ ะอยา่ ง กาหนดข้ึน
เพ่ือรกั ษา และสรา้ งเสริมเกียรติคุณ ช่ือเสียง และฐานะของสมาชิก อาจเขียนเป็น ลายลกั ษณอ์ กั ษร
หรือไมก่ ็ได้ (ราชบณั ฑิตยสถาน. 2546 : 289) จรรยาบรรณ หมายถึง จริยาวิชาชีพ หรือจรรยาวิชาชีพ
หรือจริยธรรมวิชาชีพ ซ่ึงครอบคลุมในทุกเร่ือง ทุกประการ ท่ีเป็นขอ้ ควรปฏิบตั ิ สาหรบั กลุม่ วิชาชีพ (พระรา
ชวรมุนี. 2541 : 39-40)
จรรยาบรรณ เป็นขอ้ ควรประพฤติท่ีดีงาม สาหรับสมาชิก ในวิชาชีพน้ัน ๆ ขอ้ ควรประพฤติน้ี ถา้
เราฝ่าฝืนจะเกิดโทษ จรรยาบรรณวิชาชีพจึง เป็นมาตรฐาน ความประพฤติ และวิจารณญาณ ทางศีลธรรม
และวิชาชีพ ท่ีเป็นกฎเกณฑ์ หรือแบบแผนของความประพฤติ สาหรบั ยึดถือ เป็นแนวปฏิบตั ิ ของผูป้ ระกอบ
วิชาชีพหน่ึง หลกั ปฏิบตั ิดงั กลา่ ว อาศยั หลกั ธรรม ความถูกตอ้ ง สว่ นใหญ่ กาหนดโดยสมาคมวิชาชีพน้ัน ๆ
1.2 ความหมายของจรรยาบรรณของสื่อมวลชน
จริยธรรมของส่ือสารมวลชนหมายถึงธรรมท่ีเป็นขอ้ ประพฤติปฏิบตั ิของส่ือมวลชนใน
ขณะท่ีจรรยาบรรณหมายถึงประมวลกฎเกณฑค์ วามประพฤติหรือประมวลมารยาทของผู้
ประกอบอาชีพนนั้ ๆตอ้ งเป็นเอกลกั ษณท์ างวิชาชีพใชค้ วามรูม้ ีองคก์ รหรือสมาคมควบคุม
จรรยาบรรณของส่ือสารมวลชนหมายถึงหลกั คุณธรรมของผูป้ ระกอบอาชีพนัก
ส่ือสารมวลชนมารวมตวั กนั เป็นสมาคมวิชาชีพสรา้ งข้ึนเป็นลายลกั ษณอ์ กั ษรเพ่ือเป็นแนวทาง
ปฏิบตั ิแกผ่ ูป้ ระกอบอาชีพนักส่ือสารมวลชนใหม้ ีความรบั ผิดชอบ
1.3 จรรยาบรรณส่ือสากล 13 ขอ้
1. ประพฤติ ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีใหอ้ ยูใ่ นขอบเขตท่ีเหมาะสม
2. ไมส่ รา้ งขา่ ว หรือเขียนขอ้ มูลข้ึนมาเอง
3. ขา่ ว และขอ้ มูลท่ีนาเสนอทง้ั หมดตอ้ งเป็นความจริง
4. ไมน่ าเสนอขอ้ มูล แลว้ ไปละเมิดสิทธิสว่ นบุคคลของผูอ้ ่ืน
5. นาเสนอขา่ ว ขอ้ มูลโดยใหค้ วามเป็นธรรมกบั ทุกฝ่าย
6. ไมป่ ิดบงั อาพรางขา่ วท่ีควรนาเสนอ
7. ไมข่ ายขา่ ว เพ่ือเอาไปใชห้ าเงิน ในทางไมช่ อบ
1.3 จรรยาบรรณสื่อสากล 13 ขอ้ (ต่อ)
8. ไมเ่ ขา้ ร่วมกบั พรรคการเมืองฝ่ายใด ฝ่ายหน่ึง
10. นาเสนอขา่ ว และขอ้ มูลสาหรบั คนทุกภาคสว่ นในสงั คม ไมใ่ ชแ่ คก่ ลุม่ ใดกลุม่ หน่ึง
โดยเฉพาะ
11. ไมเ่ หยียดเช้ือชาติ ศาสนา และเผา่ พนั ธุข์ องบุคคล
12. พรอ้ มท่ีจะแกไ้ ขความผิดพลาดเสมอ
13. การเสนอขา่ ว และขอ้ มูลตอ้ งคานึงถึงวา่ ยงั มีเยาวชนท่ีจะไดร้ บั รู้
เร่ืองราวเหลา่ น้ันอยูด่ ว้ ย
1.4 จรรยาบรรณในการใชเ้ ครอื ขา่ ยสงั คมออนไลน์
1. ใหร้ ะมดั ระวงั การละเมิดหรือสรา้ งความเสียหายใหผ้ ูอ้ ่ืน
2. ใหแ้ หลง่ ท่ีมาของขอ้ ความ ควรอา้ งอิงแหลง่ ขา่ วได้
3. ไมก่ ระทาการรบกวนผูอ้ ่ืนดว้ ยการโฆษณาเกินความจาเป็น
4. ดูแลและแกไ้ ขหากตกเป็นเหย่ือจากโปรแกรมอนั ไมพ่ ึงประสงค์ เพ่ือป้องกนั มิให้
คนอ่ ืนเป็ นเหย่ ื อ
1.5 มารยาทท่ีพึงปฎิบตั ิรว่ มกนั ในสอ่ื สงั คมออนไลน์
1.การใหค้ วามรูต้ า่ ง ๆ ท่ีถูกตอ้ ง
2. ไมล่ ะเมิดคดั ลอกผลงานของผูอ้ ่ืน
3. ไมโ่ กหก หลอกลวง ไมข่ ายสินคา้ ท่ีกอ่ ใหเ้ กิดอนั ตราย
4. ไมส่ รา้ งความเสียหายทางธุรกิจแกผ่ ูอ้ ่ืน
5. ไมค่ ุกคาม ละเมิดสิทธิ เสรีภาพ ของผูอ้ ่ืน
6. ไมก่ อ่ กวน สรา้ งความราคาญ
7. เลือกใชภ้ าษาท่ีถูกตอ้ ง เหมาะสม ไมผ่ ิดหลกั ภาษาไทย
1.6 จริยธรรมที่ดีในการใชส้ ่อื สงั คมออนไลน์
1. ไมใ่ ชส้ งั คมออนไลน์ทารา้ ยผูอ้ ่ืน
2. ไมใ่ ชส้ งั คมออนไลน์รบกวนผูอ้ ่ืน
3. ไมใ่ ชส้ งั คมออนไลนเ์ พ่ือการลกั ขโมย
4. ไมใ่ ชส้ งั คมออนไลน์เพ่ือเป็นการเท็จหรือพยานเท็จ
5. ไมใ่ ชส้ งั คมออนไลน์ของผูอ้ ่ืนโดยไมไ่ ดร้ ับอนุญาต
6. คิดถึงผลตอ่ เน่ืองทางสงั คมของการใชส้ งั คมออนไลน์
7. ใชส้ งั คมออนไลน์ดว้ ยความใคร่ครวญและเคารพตอ่ ผูอ้ ่ืน
1.7 กฏหมายที่เก่ียวขอ้ งกบั สอ่ื สงั คมออนไลน์
สาระสาคญั ท่ีหลายคนควรพึงระวงั ใน พ.ร.บ.วา่ ดว้ ยกระทาความผิดเก่ียวกบั คอมพิวเตอร์ พ.ศ.
2560 หรือ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฉบบั 2 สาหรับชาวเน็ตหรือคนทางานออนไลนค์ วรรูไ้ วเ้ พ่ือการ
ใชส้ ่ือออนไลน์อยา่ งถูกตอ้ งและถูกกฎหมาย มีสาระสาคญั จางา่ ยๆ ดงั น้ี
1. การฝากรา้ นใน Facebook, IG ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
2. สง่ SMS โฆษณา โดยไมร่ ับความยินยอม ใหผ้ ูร้ บั สามารถปฏิเสธขอ้ มูลนั้นได้ ไมเ่ ชน่ น้ันถือ
เป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
3. สง่ Email ขายของ ถือเป็นสแปม ปรับ 200,000 บาท
4. กด Like ไดไ้ มผ่ ิด พ.ร.บ.คอมพฯ์ ยกเวน้ การกดไลค์ เป็นเร่ืองเก่ียวกบั สถาบนั เส่ียงเขา้
ขา่ ยความผิดมาตรา 112 หรือมีความผิดร่วม
1.7 กฎหมายที่เก่ียวขอ้ งกบั สือ่ สงั คมออนไลน์ (ต่อ)
5. กด Share ถือเป็นการเผยแพร่ หากขอ้ มูลท่ีแชรม์ ีผลกระทบตอ่ ผูอ้ ่ืน อาจเขา้ ขา่ ยความผิดตาม
พ.ร.บ.คอมพฯ์ โดยเฉพาะท่ีกระทบตอ่ บุคคลท่ี 3
6. พบขอ้ มูลผิดกฎหมายอยูใ่ นระบบคอมพิวเตอรข์ องเรา แตไ่ มใ่ ชส่ ่ิงท่ีเจา้ ของคอมพิวเตอรก์ ระทาเอง
สามารถแจง้ ไปยงั หน่วยงานท่ีรบั ผิดชอบได้ หากแจง้ แลว้ ลบขอ้ มูลออกเจา้ ของก็จะไมม่ ีความผิดตาม
กฎหมาย เชน่ ความเห็นในเว็บไซตต์ า่ ง ๆ รวมไปถึงเฟซบุก๊ ท่ีใหแ้ สดงความคิดเห็น หากพบวา่ การแสดง
ความเห็นผิดกฎหมาย เม่ือแจง้ ไปท่ีหน่วยงานท่ีรับผิดชอบเพ่ือลบไดท้ นั ที เจา้ ของระบบเว็บไซตจ์ ะไมม่ ี
ความผิด
7.สาหรบั แอดมินเพจ ท่ีเปิดใหม้ ีการแสดงความเห็น เม่ือพบขอ้ ความท่ีผิด พ.ร.บ.คอมพฯ์ เม่ือลบออกจาก
พ้ืนท่ีท่ีตนดูแลแลว้ จะถือเป็นผูพ้ น้ ผิด
1.7 กฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ส่อื สงั คมออนไลน์ (ต่อ)
8. ไมโ่ พสตส์ ่ิงลามกอนาจาร ท่ีทาใหเ้ กิดการเผยแพร่สูป่ ระชาชนได้
9. การโพสเก่ียวกบั เด็ก เยาวชน ตอ้ งปิดบงั ใบหนา้ ยกเวน้ เม่ือเป็นการเชิดชู ช่ืนชม อยา่ งใหเ้ กียรติ
10. การใหข้ อ้ มูลเก่ียวกบั ผูเ้ สียชีวิต ตอ้ งไมท่ าใหเ้ กิดความเส่ือมเสียเช่ือเสียง หรือถูกดูหม่ิน เกลียดชงั
ญาติสามารถฟอ้ งรอ้ งไดต้ ามกฎหมาย
11. การโพสตด์ า่ วา่ ผูอ้ ่ืน มีกฏหมายอาญาอยูแ่ ลว้ ไมม่ ีขอ้ มูลจริง หรือถูกตดั ตอ่ ผูถ้ ูกกลา่ วหา เอาผิด
ผูโ้ พสตไ์ ด้ และมีโทษจาคุกไมเ่ กิน 3 ปี ปรับไมเ่ กิน 200,000 บาท
12. ไมท่ าการละเมิดลิขสิทธ์ิผูใ้ ด ไมว่ า่ ขอ้ ความ เพลง รูปภาพ หรือวิดีโอ
13. สง่ รูปภาพแชรข์ องผูอ้ ่ืน เชน่ สวสั ดี อวยพร ไมผ่ ิด ถา้ ไมเ่ อาภาพไปใชใ้ นเชิงพาณิชย์ หารายได้
1.7.1 ความหมายของกฎหมาย ที่มา จดุ ประสงคแ์ ละความสาํ คญั
ของกฎหมาย สื่อสงั คมออนไลน์
ความหมายของกฎหมาย
ไดม้ ีผูใ้ หค้ วามหมายของกฏหมายไวด้ งั น้ี
- กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธ์ิ พระบิดาแหง่ กฏหมายไทย "กฏหมาย คือ คาสง่ั ทง้ั หลายของผูป้ กครองวา่
การแผน่ ดินตอ่ ราษฏรทง้ั หลาย เม่ือไมท่ าตาม ธรรมดาตอ้ งลงโทษ"
- ดร.สายหยุด แสงอทุ ยั "กฏหมาย คือขอ้ บงั คบั ของรฐั ท่ีกาหนดความประพฤติของมนุษย์ ถา้ ฝ่าฝืนจะ
ไดร้ บั ผลรา้ ยหรือถูกลงโทษ“
1.7.1ความหมายของกฎหมาย ท่ีมา จดุ ประสงคแ์ ละความสาํ คญั
ของกฎหมาย สื่อสงั คมออนไลน์ (ต่อ)
กฏหมาย สามารถแยกไดเ้ ป็น 2 คาคือ คาวา่ กฏซ่ึงแผลงมาจากคาวา่ กด หรือกาหนดความ
ประพฤติของมนุษย์ ถา้ ฝ่าฝืนจะไดร้ บั ผลรา้ ยและถูกลงโทษ
จากคาจากดั ความของกฏหมายขา้ งตน้ สามารถสรุปความหมายของกฏหมายไดว้ า่
หมายถึง ระเบียบ ขอ้ บงั คบั บทบญั ญตั ิซ่ึงผูม้ ีอานาจสูงสุดในรฐั หรือประเทศ ไดก้ าหนดมาเพ่ือ
ใชใ้ นการบริหารกิจการบา้ นเมืองหรือบงั คบั ความประพฤติของ ประชาชนในรฐั หรือประเทศนั้น
ใหป้ ฏิบตั ิตาม เพ่ือใหเ้ กิดความสงบสุขในสงั คม หากผูใ้ ดฝ่าฝืนจะไดร้ บั ผลอยา่ งใดอยา่ งหน่ึงตาม
กฏหมาย
1.7.1 ความหมายของกฎหมาย ที่มา จดุ ประสงคแ์ ละความสาํ คญั
ของกฎหมาย สื่อสงั คมออนไลน์ (ต่อ)
ท่ ีมาของกฏหมาย
แหลง่ ท่ีมาของกฏหมายมีอยูม่ ากมายหลายทาง และมีวิวฒั นาการหรือเปล่ียนแปลงมาโดยตลอด ทงั น้ี
สามารถแบง่ แหลง่ ท่ีมาของกฎหมายไดด้ งั น้ี
จารีตประเพณี เป็นแนวปฏิบตั ิท่ีใชใ้ นการควบคุมความประพฤติของมนุษยซ์ ่ึงไมไ่ ดบ้ ญั ญตั ิไว้ เป็นลาย
ลกั ษณอ์ กั ษร เป็นเร่ืองของการยึดถือและปฏิบตั ิสืบทอดกนั มาเป็นเวลานาน
การออก กฏหมายของฝ่ายนิติบญั ญตั ิ ในการปกครองระบอบราชาธิปไตย การออกกฏหมายจะเป็นพระ
บรมราชโองการของกษตั ริย์ ตอ่ มาอานาจในการออกกฏหมายเป็นของสถาบนั ท่ีเก่ียวขอ้ งกบั การออก
กฏหมายโดย เฉพาะ ท่ีสาคญั คือ สถาบนั รฐั สภาหรือสภานิติบญั ญตั ิ ปจั จุบนั รฐั ท่ีมีการปกครองระบอบ
ประชาธิปไตย รฐั สภาเป็นแหลง่ ออกกฏหมายโดยตรง
1.7.1 ความหมายของกฎหมาย ท่ีมา จดุ ประสงคแ์ ละความสาํ คญั
ของกฎหมาย สื่อสงั คมออนไลน์ (ต่อ)
คาสง่ั และกฤษฏีกาท่ีออกโดยฝ่ายบริหาร เป็นกฏหมายท่ีฝ่ายบริหารเป็นผูอ้ อกมาบงั คบั ใช้
คา พิพากษาของศาล คาพิพากษาของศาลคือแหลง่ ท่ีมาของกฏหมายนั้นๆ เชน่ กรณีท่ีผูพ้ ิพากษา
เคยตดั สินคดีในลกั ษณะเดียวกนั น้ีมากอ่ น เม่ือมีคดีลกั ษณะเชน่ เดียวกนั เกิดข้ึนมาอกี ผูพ้ ิพากษาจะ
ยึดเอาคาตดั สินท่ีแลว้ มาเป็นหลกั
ความคิด เห็นของนกั วิชาการ นกั วิชาการกฏหมายมีสว่ นชว่ ยใหเ้ กิดกฏหมายใหมๆ่ ข้ึนบงั คบั ใชใ้ น
สงั คม หรือนาไปสูก่ ารแกไ้ ขปรบั ปรุงกฏหมายตา่ งๆ ทีไมม่ ีความยุติธรรมหรือไมม่ ีความเทา่ เทียมกนั
ในสงั คม ใหม้ ีความเหมาะสมกบั สภาพสงั คมท่ีเปล่ียนแปลงไป เชน่ กฏหมายคุม้ ครองทรพั ยส์ ินทาง
ปัญญา กฏหมายเลือกตงั้ ท่ีเปล่ียนแปลงอายุของผูม้ ีสิทธ์ิเลือกตงั้ จาก 20 ปี เป็น 18 ปี
1.7.2 กฎหมายสื่อและการควบคมุ สื่อ
กฎหมายกาหนดเง่ือนไขการปิดกน้ั ส่ือแตล่ ะประเภทไวไ้ มเ่ หมือนกนั โดยรวมอาจมีหลกั การ
หลายอยา่ งท่ีสอดคลอ้ งกนั แตห่ ากเปรียบเทียบกฎหมายหลายฉบบั จะพบวา่ มีเน้ือหาบาง
ประเภทท่ีสามารถเผยแพร่ในส่ือบางประเภทได้ แตไ่ มส่ ามารถเผยแพร่ในส่ือบางประเภทได้
ขณะท่ีเน้ือหาบางประเภท เชน่ เน้ือหาท่ี “ขดั ตอ่ ความสงบเรียบรอ้ ย” หรือ “ศีลธรรมอนั ดี” ถูก
กาหนดใหเ้ ป็นเง่ือนไขหา้ มเผยแพร่ในกฎหมายท่ีควบคุมดูแลส่ือทุกประเภท
1.8.3 บคุ คลสาธารณะกบั สื่อสงั คมออนไลน์
สืบเน่ืองจากพฒั นาการทางสงั คมโลกอินเทอรเ์ น็ตตลอดจนเทคโนโลยีท่ีมีความเจริญกา้ วหนา้
อยา่ งไมห่ ยุดยงั้ กระแสความสนใจในเร่ือง “Social Media” หรือ “สงั คมออนไลน”์ เป็น
ส่ิงท่ีสงั คมใหค้ วามสนใจและกลา่ วถึงกนั อยา่ งแพร่หลาย Social Media มีตง้ั แต่ Blog
Twitter Facebook Youtube Photo Sharing, ทง้ั น้ี ข้ึนอยูก่ บั
วตั ถุประสงคข์ องแตล่ ะคนท่ีจะเลือกใช้ Social Media ในรูปแบบใด
บุคคลท่ีอยูใ่ นความสนใจของสาธารณชนทว่ั ไป ซ่ึงบุคคลประเภทน้ีถือวา่ ไดส้ ละสิทธิท่ีจะ
ดาเนินชีวิตโดยปราศจากการสงั เกตจบั ตามองของส่ือมวลชน และจะไดร้ ับความคุม้ ครองทาง
กฎหมายในความเป็นสว่ นตวั นอ้ ยกวา่ บุคคลทว่ั ไป เชน่ ดารา นักรอ้ ง นักแสดง นักการเมือง
นักกีฬา
อา้ งอิง
https://sites.google.com/site/kdhmaylaeacriythrrmsuxmwlchn/bukhkhl-
satharna-kab-sangkhm-xxnlin
https://sites.google.com/site/kdhmaylaeacriythrrmsuxmwlchn/kdhmay-sux-
laea-kar-khwbkhum-sux
https://sites.google.com/site/kdhmaylaeacriythrrmsuxmwlchn/khwam-hmay-
khxng-kdhmay-thima-cud-prasngkh-laea-khwam-sakhay-khx-ngkt-hmay
https://www.admissionpremium.com/business/news/3699
https://www.dailynews.co.th/article/678262/
https://sites.google.com/site/233socialnetwork/criythrrm-laea-khunthrrm-ni-
kar-chi-khxmphiwtexr-laea-xinthexrnet/crrya-brrn-kar-chi-kherux-khay-sangkhm-
xxnlin
หนังส่ืออเิ ล็กทรอนิกส์ เร่ือง จรรยาบรรณและกฎหมายเก่ียวกับสื่อสังคม
ออนไลนเ์ ล่มนีเ้ ป็ นส่วนหน่ึงของวิชา เทคโนโลยดี จิ ทิ ลั เพอื่ การจัดการอาชพี
รหสั วิชา 30001-2003
เสนอ
ครูปรียา ปันธิยะ
จดั ทาโดย
นางสาว พมิ กมล การดี
เลขที่ 5 สบล.64.1
สาขาวิชาการเลขานุการ
วทิ ยาลัยอาชวี ศึกษาลาปาง