กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาไทย
โครงงาน สานวน สุภาษติ และคาพังเพยไทย
๑.ด.ช.พชิ ญตุ มุ์ จดั ทาโดย
๒.ด.ช.ภคั พล ยวุ รตั นพนั ธุ์ ม.๒/๓ เลขท่ี ๔
๓.ด.ช.ศิรภสั รตั นวร ม.๒/๓ เลขท่ี ๕
๔.ด.ช.กานตน์ ิธิ วะศินรตั น์ ม.๒/๓ เลขท่ี ๑๕
๕.ด.ช.จติ ธรรม กสิฤกษ์ ม.๒/๓ เลขท่ี ๑๘
หนั สวาสดิ์ ม.๒/๓ เลขท่ี ๒๕
อาจารยท์ ป่ี รึกษาโครงงาน
มาสเตอรค์ มสนั ต์ สนไธสง
โครงงานนเี้ ป็นสว่ นหน่งึ ของวิชาภาษาไทย ท๒๑๑๐๑
ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔
โรงเรยี นอสั สมั ชญั ธนบรุ ี
คานา
รายงานเลม่ นจี้ ดั ทาขนึ้ เพ่ือเป็นสว่ นหนึง่ ของวชิ าภาษาไทย ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๒ เพ่อื ใหไ้ ดศ้ กึ ษาหา
ความรูใ้ นเรือ่ ง สานวน สภุ าษิต และคาพงั เพย โดยไดศ้ กึ ษาผา่ นแหลง่ ความรูต้ ่างๆ อาทิเชน่ หนงั สือออนไลน์ และ
แหลง่ ความรูจ้ ากเวบ็ ไซตต์ ่างๆ โดยรายงานเลม่ นตี้ อ้ งมเี นอื้ หาเก่ียวกบั ความหมายของสานวน สภุ าษิต และคา
พงั เพยไทย เพ่ือนามาใชเ้ ป็นขอ้ คดิ และแนวปฏบิ ตั ิ รวมทง้ั คติเตือนประจาใจ และความสาคญั ของสานวน
สภุ าษิต และคาพงั เพยไทย
ผจู้ ดั ทาคาดหวงั เป็นอยา่ งย่งิ วา่ การจดั ทาเอกสารฉบบั นจี้ ะมีขอ้ มลู ท่ีเป็นประโยชนต์ ่อผทู้ ่สี นใจศกึ ษา
สานวน สภุ าษิต คาพงั เพยไทย เป็นอย่างดี
คณะผจู้ ดั ทา
๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔
ก
สารบญั หนา้
ก
เรือ่ ง ข
คานา ค
สารบญั ง
บทคดั ยอ่ ๑
กิตตกิ รรมประกาศ ๑
บทท่ี ๑ บทนา ๑
๑
๑.๑.ท่ีมาและความสาคญั ของโครงงาน ๑
๑.๒.จดุ ประสงคข์ องโครงงาน ๒
๑.๓.ขอบเขตการศกึ ษาคน้ ควา้ ๒
๑.๔.ประโยชนท์ ่คี าดว่าจะไดร้ บั ๓
บทท่ี ๒ เอกสารและความหมาย ๑๕
๒.๑.งานเอกสารท่ีเก่ียวขอ้ ง ๑๕
๒.๒.ความหมายของสานวน สภุ าษิตและคาพงั เพย ๑๕
บทท่ี ๓ วิธีดาเนินโครงงาน ๑๖
๓.๑.ขนั้ ตอนการทาโครงงาน ๑๗
๓.๒.อปุ กรณ์ ๑๗
บทท่ี ๔ ผลการศกึ ษาคน้ ควา้ ๑๗
บทท่ี ๕ สรุปและอภปิ รายผลการดาเนนิ การ จดั ทาโครงงาน ๑๗
๕.๑.สรุปผล ๑๘
๕.๒.อภิปรายผล ๑๙
๕.๓.ขอ้ เสนอแนะ
เอกสารอา้ งอิง
ภาคผนวก
ข
บทคดั ย่อ
ภาษาไทยเป็นภาษาท่ีมีเอกลกั ษณข์ องชนชาติไทยโดยมีทง้ั ภาษาพดู และภาษาเขียนท่ีเป็นแบบเฉพาะของ
เราเอง สุภาษิต คาพงั เพยสานวนไทย ต่างก็เป็นวฒั นธรรมของภาษา ท่ีไดร้ บั การพฒั นามาจากวิถีชีวิตความ
เป็นอย่ขู องคนไทยในยคุ ท่ีผ่าน ๆ มาซ่งึ แสดงใหเ้ ห็นถึงความงดงาม ความลกึ ซงึ้ ในการใชภ้ าษาท่ีสะทอ้ นถึงความ
เช่ือค่านิยมดว้ ยขอ้ ความสนั้ ๆ ท่ีสละสลวยแต่มีความหมาย แจ่มชดั มีแง่คิดท่ีคมคาย หรือมีการอบรมส่งั สอนท่ี
แยบยล
สภุ าษิต คอื ถอ้ ยคาหรือขอ้ ความท่กี ลา่ วสืบตอ่ กนั มาชา้ นานแลว้ มคี วามหมายเป็นคติสอนใจเชน่ รกั ยาวให้
บ่นั รกั สนั้ ใหต้ ่อหรอื นา้ เช่ยี วอยา่ ขวางเรอื เป็นตน้
คาพงั เพย คือถอ้ ยคาหรือขอ้ ความท่กี ลา่ วสืบต่อกนั มาชา้ นานแลว้ โดยกลา่ ว เพ่อื ใหต้ ีความเขา้ กบั เร่อื ง เชน่
กระต่ายต่ืนตมู
สานวน คือ ถอ้ ยคาหรือขอ้ ความท่ีกล่าวสืบต่อกันมาชา้ นานแลว้ เช่นกัน แต่มีความหมายไม่ตรงตามตัว
หรือมีความหมาย อ่ืนแฝงอยู่ เช่น สอนจระเขว้ ่ายนา้ ราไม่ดีโทษป่ีโทษกลอง บางครงั้ การใชส้ านวน โดยคะนอง
ปากของคนยคุ ใหม่ ทาใหค้ วามหมายผิดเพีย้ นไปจากเดิมอย่างสิน้ เชิงเลยก็มี ส่ิงเหล่านีห้ ากใชก้ นั ไปนาน ๆ และ
ขยายวงกวา้ งขึน้ จะทาใหเ้ ด็กไทยรุน่ ต่อ ๆ ไป ไม่รูจ้ กั ความหมายและท่ีมาของสานวนไทยอนั แทจ้ ริง ภาษาไทย
เป็นภาษาท่ีมีความงดงาม หลากหลายมีความคมคายสละสลวยนบั เป็นมรดกทางวฒั นธรรมท่ีตกทอดสลู่ กู หลาน
ไทยรุน่ ตอ่ รุน่
ค
กิตตกิ รรมประกาศ
โครงงานนีส้ าเร็จลุล่วงไดด้ ว้ ยความกรุณาจากมาสเตอร์มาสเตอร์ คมสนั ต์ สนไธสง อาจารยท์ ่ีปรึกษา
โครงงานนีท้ ่ีไดใ้ หค้ าเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแกไ้ ขขอ้ บกพรอ่ งต่างๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเล่มนีเ้ สร็จ ผู้
ศกึ ษาจึงขอกราบขอบพระคณุ เป็นอย่างสงู
ขอกราบขอบพระคณุ พ่อ คณุ แม่ และผปู้ กครอง ท่ีใหค้ าปรกึ ษาในเร่ืองต่าง ๆ รวมทง้ั เป็นกาลงั ใจท่ีดีเสมอ
มา
ขอบคุณเพ่ือน ๆ ท่ีช่วยใหค้ าแนะนาดี ๆ เก่ียวกับการเลือกคาสานวน สุภาษิต คาพังเพย และเก่ียวกับ
โครงงานชนิ้ นี้
ง
บทที่ ๑ บทนา
ทม่ี าและความสาคญั ของโครงงาน
สานวน สุภาษิต และคาพงั เพยเป็นเรื่องสาคัญเร่ืองหน่ึงของภาษาไทย เพราะเป็นคาพดู ท่ีกล่นั กรองขึน้
เพ่อื ความสละสลวยของภาษาเป็นถอ้ ยคาท่คี มคายกว่าคาพดู ธรรมดา เป็นคาพดู ท่รี วมใจรวมความยาวๆใหส้ นั้ ลง
ได้ กจ็ ะทาใหผ้ ฟู้ ังสามารถเขา้ ใจง่าย ๆ ฉะนนั้ การศกึ ษาถอ้ ยคาประเภทนไี้ ว้ เพ่อื ใชใ้ หถ้ กู ตอ้ งเหมาะสมกบั เนอื้ เรื่อง
ท่จี ะพดู จงึ มคี วามจาเป็น
เน่ืองจากปัจจบุ นั สภุ าษิต สานวนไทย คาพงั เพย ไม่ค่อยมีการนามาใชก้ นั มากบางครงั้ ผทู้ ่ีนามาใชก้ ็ใชไ้ ม่
ถูก หลายคนไม่รูไ้ ม่เข้าใจความหมาย อาจทาให้ความหมายของสุภาษิต สานวนไทย คาพังเพย เหล่านั้นมี
ความหมายท่ีผิดแปลกออกไป จนอาจจะกลายเป็นคาวิบตั ิได้ กลุ่มของขา้ พเจ้าจึงจัดทาโครงงานนีข้ ึน้ มาเพ่ือ
ศกึ ษารวบรวมสภุ าษิต สานวน คาพงั เพย ตลอดจนศกึ ษาความหมาย เพ่ือเป็นประโยชนแ์ ก่นกั เรียน และผทู้ ่ีสนใจ
เป็นการสง่ เสรมิ และเผยแพรค่ วามเป็นไทย เพ่อื เยาวชนและหวงแหนภาษาของชาติ
จดุ ประสงคข์ องโครงงาน
๑.เพ่ืออนรุ กั ษ์ สานวน สภุ าษิต และคาพงั เพยไทย ไวใ้ หส้ ืบตอ่ ไป
๒.เพ่อื ใหเ้ กิดความรู้ ความเขา้ ใจ และความหมาย ของสานวน สภุ าษิต คาพงั เพยไทย
ขอบเขตการศกึ ษาคน้ ควา้
๑.ระยะเวลาศกึ ษาตงั้ แต่ ๔ สงิ หาคม - ๘ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔
๒.แหลง่ ท่ศี กึ ษาหาความรูจ้ ากเวบ็ ไซตต์ า่ งๆ
ประโยชนท์ ค่ี าดวา่ จะได้รับ
๑.ไดร้ บั ความรูค้ วามเขา้ ใจ และความหมายเก่ียวกบั สานวน สภุ าษิต คาพงั เพยไทย
๒.สามารถนามาปรบั ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้
๓.สามารถอนรุ กั ษส์ านวน สภุ าษิต และคาพงั เพยไทยใหค้ งอย่สู บื ต่อไปได้
๑
บทท่ี ๒
เอกสารและความหมาย
เอกสารทเ่ี ก่ียวขอ้ ง
รายงาน เรอ่ื งสานวนสภุ าษิต คาพงั เพย ผจู้ ดั ทาไดม้ กี ารศกึ ษาเอกสารท่เี ก่ียวขอ้ ง ดงั นี้
๑.http:// ton 4181.blogspot.com/?m=1
๒. http://www.chaiwbi.com/2555student_/m5/d5201/wbi/555201/104.htm
๓.https://fliphtml5.com/kntk/ezgr/basic
๔. taneewitthaya.blogspot.com
สานวน หมายถึง คาอ่านกลา่ วสนั้ ๆกระชบั รดั กมุ แต่ไม่มคี วามหมายตรงตามตวั อกั ษรจะมีความหมาย
แปลกไปจากความหมายเดิมท่ใี ชก้ นั เป็นปกติในวฒั นธรรม เชน่ จงู จมกู หมายถึง ยอมใหค้ นอ่นื พาหรือนาไปทาง
ไหนทาอะไรกไ็ ด้ ต่อยหอย หมายถึง พดู ไมห่ ยดุ ปาก ถอยหลงั เขา้ คลอง หมายถึง ถอยเขา้ ไปสยู่ คุ เกา่ หรอื แบบเก่า
สภุ าษิต หมายถึง ขอ้ ความสนั้ ๆกะทดั รดั แตม่ คี วามหมายชดั เจนลกึ ซงึ้ มคี ติสอนใจหรือใหค้ วามจรงิ
เก่ียงกบั ความคดิ และแนวปฏิบตั ิซ่งึ สามารถพิสจู นเ์ ช่อื ถือได้ เช่น แพเ้ ป็นพระ ชนะเป็นมาน นา้ เช่ยี วอยา่ เอาเรือไป
ขวาง
คาพงั เพย มีลกั ษณะคลา้ ยสภุ าษิตและเกือบเป็นสภุ าษิต แต่ไม่ไดส้ อนใจหรอื ใหค้ วามจรงิ ท่พี สิ จู นไ์ ด้
โดยตรง เป็นคากลา่ วท่มี ลี กั ษณะตชิ ม แสดงความเหน็ อย่ใู นตวั เช่น ถ่ีลอดตาชา้ ง ห่างลอดตาเล็น ตานา้ พรกิ
ละลายแมน่ า้
ถงึ แมจ้ ะสามารถแยกวา่ คาไหนเป็นสานวน สภุ าษิต คาพงั เพย แต่ในทางปฏบิ ตั ิจรงิ ๆมปี ัญหามาก
เพราะขอ้ ความหรือคากลา่ วเชน่ นีม้ ่จี านวนมาก มลี กั ษณะทาบเก่ียวระหว่างสานวน สภุ าษิต คาพงั เพย จนไมอ่ าจ
ตดั สนิ เด็ดขาดว่าอยใู่ นประเภทไหน เชน่ นา้ ขนึ้ ใหร้ ีบตกั (เป็นสานวน เพราะความหมายไม่ตรงตามอกั ษร เป็นคา
พงั เพย เพราะกลา่ วติชมแสดงความเหน็ เก่ียวกบั คนท่ฉี วยโอกาส เป็นสภุ าษิต เพราะใหค้ ตสิ อนใจวา่ เม่ือมีโอกาส
จงรบี ทากิจการใหไ้ ดร้ บั ผลสาเรจ็ ) นา้ ลดต่อผดุ (เป็นสานวน เพาระ ความหมายไม่ตรงตามอกั ษร เป็นคาพงั เพย
เพราะ กลา่ วตหิ รือเยย้ หยนั คนทาช่วั ท่คี วามช่วั นนั้ ไดป้ รากฏขนึ้ เป็นสภุ าษิต เพราะ สอนความจรงิ ท่วี า่ ความช่วั
ความผิดพลาดนนั้ ไมส่ ามารถปิดบงั ไดต้ ลอดไป) เพราะเหตนุ จี้ ะไม่เนน้ ความสามารถในการแยกประเภทแตจ่ ะ
เนน้ ความหมาย เพ่อื จะนาไปใชไ้ ดถ้ กู ตอ้ งตามกาลเทศะและบคุ คลในสถานการณต์ ่างๆ(วฒั นธรรมในการใช้
ภาษา)
๒
ความหมายของสานวน สุภาษติ และคาพงั เพย
กบเลอื กนาย
ผทู้ ่ตี อ้ งการเปลยี่ นผบู้ งั คบั บญั ชาอย่เู ร่อื ย ๆ คนช่างเลือก ไมพ่ อใจอะไรงา่ ยๆ ใน
ท่สี ดุ กไ็ มไ่ ดส้ งิ่ ท่ดี ีกว่าเดมิ สานวนกบเลือกนาย มาจากนทิ านอีสปท่กี บไม่พอใจสิ่ง
ท่ไี ด้ จนในท่สี ดุ เทวดาสง่ นกกระสามาและกินกบจนหมด
ไก่งามเพราะขน คนงามเพราะแต่ง
ความงามของคน เสรมิ แต่งใหส้ วยไดไ้ กจ่ ะดสู วยงามกต็ รงท่มี ขี นสวย เหมอื นคน
หากไดแ้ ตง่ หนา้ ทาแปง้ แต่งตวั ใหด้ ี ก็ดสู วยงามขนึ้ มาไดเ้ ช่นกนั
ขงิ ก็รา ขา่ กแ็ รง
ต่างกจ็ ดั จา้ นพอๆกนั ตา่ งกม็ ีอารมณร์ อ้ น ไม่ยอมลดละใหแ้ ก่กนั ขงิ และข่าเป็น
สมนุ ไพรท่มี รี สเผด็ เม่อื นามาทาอาหาร เราจึงไม่นิยมใชร้ ว่ มกนั เพราะรสชาตขิ อง
ขงิ และขา่ จะตกี นั เอง
ข่ีช้างจบั ต๊ักแตน
เป็นการลงทนุ มาก แตไ่ ดผ้ ลตอบแทนนอ้ ยชา้ งเป็นสตั วต์ วั ใหญ่การจะขนึ้ ข่ชี า้ งก็
ยากลาบากการขนึ้ ข่ชี า้ งเพ่อื จบั ต๊กั แตนตวั เล็กนดิ เดียวยอ่ มเป็นการลงทนุ ท่ไี ม่
คมุ้ คา่
๓
คางคกขึน้ วอ
คนท่มี ฐี านะต่าตอ้ ย พอไดด้ บิ ไดด้ กี ม็ กั แสดงกิรยิ าอวดดีลืมตวั เรามกั เปรยี บ
คางคกกบั คนท่ตี ่าตอ้ ยยากจนซง่ึ ขนึ้ วอหรอื คานหามอนั เป็นพาหนะสาหรบั ขนุ นาง
ผมู้ ยี ศถาบรรดาศกั ดิ์
โคแก่ชอบกินหญ้าออ่ น
ชายสงู อายหุ รือชายแก่ท่ีชอบผหู้ ญิงรุน่ สาว โคหรือควายเม่อื แก่แลว้ ฟันจะไม่
ดี การกินหญา้ อ่อนจึงเคยี้ วงา่ ยกวา่ หญา้ แหง้ ซ่งึ นามาเปรยี บผชู้ ายแก่ท่ีชอบมี
ภรรยาสาวๆ
ฆา่ ควายเสียดายพริก
ทางานใหญ่ก็ตอ้ งยอมลงทนุ มากไม่ควรตระหน่ี ถา้ มวั กลวั สิน้ เปลอื งก็ทาใหเ้ สีย
งานเม่อื มงี านบญุ ในชนบทชาวบา้ นจะฆ่าควายนามาปรุงอาหารควายเป็นสตั ว์
ใหญ่ตอ้ งใชเ้ คร่ืองปรุงมากการใสเ่ ครือ่ งปรุงนอ้ ย อาหารกไ็ มอ่ รอ่ ยสานวนนีบ้ างที
ใชว้ ่า "ฆา่ ควายเสียดายเกลือ"
เงาตามตัว
ผทู้ ่ไี ปไหนไปดว้ ยกนั แทบไมค่ ลาดกนั เละสง่ิ ท่เี พิ่มขนึ้ หรอื ลดลงไปตามกนั เงาคอื
สิ่งท่เี กิดจากวตั ถทุ บึ ไปบงั แสงทาใหม้ รี ูปรา่ งตามวตั ถนุ นั้ เงาจึงตดิ ตามวตั ถนุ นั้ ไป
ตลอดหากมีแสงเกิดขนึ้ เช่น “พอนา้ มนั ขนึ้ ราคา สนิ คา้ อ่นื ๆก็ขนึ้ ราคาเป็นเงาตาม
ตวั ”
๔
จบั ปลาสองมือ
หมายจะเอาใหไ้ ดท้ ง้ั สองอยาก, เสย่ี งการทาสองอย่าพรอ้ มๆกนั ซง่ึ อาจไม่สาเร็จ
สกั อยา่ ง ลาตวั ปลาลน่ื และปลามีความไว การจบั ปลาไมใ่ หห้ ลดุ มือจึงตอ้ งใชท้ ง้ั
สองมือจบั พรอ้ มๆกนั ถา้ ใชม้ อื จบั ปลาขา้ งละตวั ปลาจะหลดุ จากมอื จนไมไ่ ดป้ ลา
สกั ตวั
จบั ปูใสก่ ระดง้
ยากท่จี ะทาใหอ้ ย่นู ่งิ ๆไดเ้ ด็กโดยท่วั ไปจะซุกซนไมอ่ ยนู่ ่งิ ไม่อยกู่ บั ท่ี การบงั คบั ให้
อยใู่ นระเบียบวนิ ยั จึงสิ่งท่ฝี ืนธรรมชาติของเด็กเหมอื นกบั ปู ซ่งึ จะเดินไตไ่ ปมา ถงึ
จะจบั ปใู สไ่ วใ้ นกระดง้ ปกู จ็ ะไต่ออกนอกกระดง้
ชา้ ๆได้พร้าสองเล่มงาม
ค่อยๆคดิ ค่อยๆทา จะไดท้ ารอบคอบและผลงานสาเรจ็ ดว้ ยดี หมายความถงึ การ
นาเหล็กมาตเี ป็นมีดพรา้ หากไม่รบี รอ้ น คอ่ ยๆตี กจ็ ะไดม้ ดี หรอื พรา้ ท่งี ามไดร้ ูป
และคม สานวนนบี้ างครงั้ ใชว้ า่ “ชา้ ๆไดพ้ รา้ เลม่ งาม”
ชีโ้ พรงให้กระรอก
แนะนาหรือบอกเป็นนยั ใหผ้ อู้ ่นื ตอ้ งช่องทางผดิ หรือเอาประโยชนไ์ ป เช่น “เธอจะ
ไมอ่ ยบู่ า้ น 2-3 วนั ก็ไม่ตอ้ งเท่ยี วไปบอกใครเขาหรอกเด๋ยี วพวกมิจฉาชพี รูเ้ ขา้
เท่ากบั เป็นการชโี้ พงใหก้ ระรอกท่เี ดียวนะ
๕
ซ่ือเป็ นแมวนอนหวด
แกลง้ ทาเป็นซือ่ หวดคอื พาชนะอย่างหนึ่งสาหรบั นง่ึ ของทาดว้ ยไมไ้ ผ่สาน แมวนอนหวด คอื แมวท่นี อนในหวดและ
ทาตวั น่งิ ๆ
ซอื้ ควายหน้านาซอื้ ผา้ หน้าตรุษ
ซอื้ ของไม่ถกู เวลายอ่ มไดข้ องแพงทาอะไรไมเ่ หมาะสมกบั เวลายอ่ มเดือดรอ้ น บางสานวนใชว้ ่า ซอื้ ววั หนา้ นาซอื้ ผา้
หนา้ หนาว
เฒ่าหวั งู
คนแกห่ รือคนท่มี อี ายมุ ากมเี ลห่ เ์ หลีย่ มหรือกลอบุ ายหลอกเด็กผหู้ ญิงในทาง
กามารมณ,์ คนแก่เจา้ เลห่ ์ เฒา่ หมายถึงคนแก่ หวั งคู ือสว่ นท่มี พี ษิ เฒ่าหวั งจู ึง
หมายถงึ คนแก่ท่สี อนพษิ รา้ ยไว้
ดนิ พอกหางหมู
งานการท่ปี ลอ่ ยไวใ้ หส้ ะสมค่งั คา้ ง จนทาใหล้ าบากเดือดรอ้ น สมยั กอ่ นหลาย
ครวั เรอื นจะเลยี้ งหมโู ดยปลอ่ ยใหห้ มอู ย่ใู นคอกท่ชี นื้ แฉะและสกปรก หางหมซู ง่ึ มี
ขนเป็นพวงกวดั แกวง่ ไปมา จะคอ่ ย ๆ ถกู โคนเกาะติดท่ลี ะนอ้ ย จนพอกพนู
กลายเป็นกอ่ นใหญ่ทาใหห้ นกั
เดินตามผใู้ หญห่ มาไมก่ ดั
ปฏบิ ตั ติ ามผใู้ หญ่หรอื ผมู้ ปี ระสบการณย์ ่อมปลอดภยั ผใู้ หญ่ในท่นี หี้ มายถึงผทู้ ่มี ี
ประสบการณการประพฤติปฏบิ ตั ติ ามอย่างผทู้ ่เี คยทาการนนั้ ๆ มาแลว้ ยอ่ มจะ
หลกี เลยี่ งความผดิ พลาดและสาเรจ็ ไดด้ ว้ ยดี
๖
ตนเป็ นทพี่ งึ่ แหง่ ตน
ใหพ้ ง่ึ ตนเอง สภุ าษิตนีม้ าจากคาสอนในพระพทุ ธศาสนาท่สี อนใหพ้ ่งึ ตนเองดงั
พทุ ธสภุ าษิตท่ีวา่ อตั ตา หิ อตั ตโน นาโถ
ตาขา้ วสารกรอกหมอ้
ทางานแคใ่ หเ้ สรจ็ ไปครงั้ หนง่ึ ๆ หรือทาแค่พอกินไปวนั หนึง่ ๆคนสมยั ก่อนจะตอ้ ง
นาขา้ วเปลือกมาตาเอาเปลอื กออก รอ่ นเอาเฉพาะขา้ วสารแลว้ จึงนาไปหงุ กินคนขี้
เกียจก็จะตาขา้ วเปลือกแค่พอหงุ กินไดม้ อื้ เด่ยี วเท่านนั้ พอจะกินมอื้ หนา้ ก็ค่อยตา
เอาใหม่
ถ่มนา้ ลายรดฟ้า
ประทษุ รา้ ยตอ่ ส่งิ ท่สี งู กว่า ตวั เองย่อมไดร้ บั ผลรา้ ย ถา้ แหงนหนา้ ถ่มนา้ ลายขนึ้ ฟา้
นา้ ลายยอ่ มตกลงมาใสห่ นา้ ตวั เอง
ถอดเขยี้ ว ถอดเล็บ
ละพยศ ละความดหุ รือรา้ ยกาจ เลกิ แสดงฤทธิ์หรือเลิกแสดงอานาจอีกต่อไปเขยี้ ว
และเลบ็ ของสตั วม์ คี วามแหลมคม เพ่อื ไวส้ าหรบั ตอ่ สกู้ บั ศตั รูสานวนถอดเขยี้ ว
ถอกเลบ็ จงึ หมายถึงเลกิ ท่จี ะตอ่ สแู้ ลว้
๗
ทานาบนหลงั คน
หาผลประโยชนใ์ สต่ นโดยขดู รดี ผอู้ ่นื การทานาเป็นวถิ ีหลกั ของคนไทยรุน่ กอ่ น ซ่งึ
จะตอ้ งลงแรงไถ หวา่ น ปักดาแลว้ จึงมกี ารเกบ็ เก่ียวขา้ วในทอ้ งนา การทาบนหลงั
คนจงึ เปรียบเสมือนการขดุ รดี จากคนๆนนั้
น้าขนึ้ ให้รบี ตัก
เม่อื มีโอกาสดมี าถึงควรรีบทา เม่อื ก่อนผคู้ นจะใชน้ า้ จากแม่นา้ ลาคลองอาบกิน
และหงุ หาอาหารเวลานา้ ขนึ้ นา้ จะเป่ียม ฝ่ังใสสะอาดผคู้ นจะตกั นา้ มาใสต่ มุ่ เพ่อื
เกบ็ ไวใ้ ช้ แตเ่ ม่อื นา้ ลงนา้ จะขนุ และตกั ไดย้ าก
นา้ ลดตอ่ ผดุ
ขณะเม่ือมยี ศศกั ดิ์ ทาความดแี ตเ่ ปลอื กนอก พอหมดอานาจวาสนา ความช่วั ท่ี
ทาไวก้ ป็ รากฏตอคอื เสาหรอื หลกั ท่ปี ักไวใ้ นนา้ เม่ือนา้ ขนึ้ นา้ จะท่วมจนมองไม่
เห็นตอคงเห็นผืนนา้ ดสู วยงามแต่พอนา้ ลงตอเหลา่ นกี้ ็จะโผลพ่ น้ นา้ ใหเ้ ห็นเต็มไป
หมด เหมอื นความช่วั ท่ที าไว้ พอหมดอานาจคนกจ็ ะนามาโจษกนั ท่วั
บวั ไม่ใหช้ า้ น้าไม่ใหข้ ุน่
รูจ้ กั ผ่อนปรนเขา้ หากนั มิใหก้ ระทบกระเทอื นใจกนั รูจ้ กั ถนอมนา้ ใจไมใ่ หข้ ่นุ เคือง
กนั ดอกบวั เป็นไมน้ า้ ท่มี ีเหงา้ อย่ใู นตม สว่ นของดอกจะโผลพ่ น้ นา้ เวลาเราเด็ด
ดอกบวั
๘
ปอกกล้วยเขา้ ปาก
เป็นเรื่องง่ายๆทาไดส้ ะดวก กลว้ ยเป็นผลไมท้ ่ปี อกเปลอื กไดง้ ่าย จงึ ใชเ้ ปรียบเทยี บ
กบั การกระทาท่งี า่ ยๆว่าปอกกลว้ ยเขา้ ปาก เช่น “งานชนิ้ นีน้ ะหรอื สบายมาก ง่าย
เหมอื นปอกกลว้ ยเขา้ ปาก”
ปิ้ งปลาประชดแมว
ทาประชดหรอื แดกดนั ซง่ึ รงั แตจ่ ะเสียประโยชน์ ปลาปิง้ คืออาหารท่แี มวชอบ การ
ปิง้ ปลามากๆเพ่อื ประชดแมวโดยใหแ้ มวกินจนกินจนกินไมไ่ หว สานวนนมี้ กั ใชค้ ู่
กนั วา่ “หงุ ขา้ วประชดหมา ปิง้ ปลาประชดแมว”
ผักชีโรยหน้า
การทาคามดีเพยี งผิวเผนิ อาหารท่จี ดั ใหด้ นู ่ารบั ประทาน มกั จะวางผกั ชีโรยหนา้
ทงั้ ท่ใี นอาหารอาจไม่มีสว่ นผสมของผกั ชีเลย
ผวั หาบเมียคอน
ช่วยกนั ทามาหากินทง้ั ผวั และเมยี หาบคอื การเอาของหอ้ ยท่ปี ลายไมค้ านทงั้ สอง
ขา้ งแลว้ แบกกลางคานช่วยกนั ทามาหากินทง้ั ผวั และเมีย หาบคือการเอาของหอ้ ย
ท่ปี ลายไมค้ านทง้ั สองขา้ งแลว้ แบกกลางคาน
๙
ฝนท่ังให้เป็ นเข็ม เพียรพยายามอย่างมากท่ีจะทางานยากใหส้ าเร็จท่งั คือ แท่งเหล็ก ซ่ึงไวร้ องรบั
ฝากปลาไวก้ บั แมว การตเี หล็กหรอื โลหะอ่นื ๆเช่น ตมี ีด พรา้ การนาเอาท่งั มาฝนจนเป็นเข็มนนั้ ตอ้ งใช้
ความอตุ สาหะพยายามและความอดทน
ฝากสงิ่ ท่เี ป็นของชอบของผรู้ บั ฝาก ยอ่ มสญู เสียสิ่งท่ฝี ากไวน้ นั้ ปลาเป็นอาหารท่ี
แมวชอบ ถา้ แมวเห็นปลาก็จะกินหมด สานวนนบี้ างครงั้ ใชว้ า่ “ฝากปลาอยา่ งไว้
กบั แมว”
พบไมง้ ามเม่อื ขวานบิน่
พบสิ่งท่ีรกั ท่ชี อบ เม่อื ไมส่ ามารถใชป้ ระโยชนก์ บั ส่ิงนนั้ ไดแ้ ลว้ ขวานเป็นอปุ กรณท์ ่ี
ใชต้ ดั ไมห้ ากใชต้ ดั ไมม้ าก ๆ ขวานจะบิ่นจนใชก้ ารไมด่ ี เม่อื มาพบไมง้ าม ๆ เขา้ ก็
ไม่สามารถใชข้ วานตดั ไมไ้ ดเ้ ช่น มาพบหญิงสาวท่ีพอใจ เม่อื อายมุ ากหรือแก่แลว้
สานวนนใี้ นบางครงั้ ใชว้ ่า”พบไมง้ ามเม่อื ยามขวานบ่ิน”
มอื ไมพ่ ายเอาเทา้ รานา้
เวลาทางานไมช่ ่วย แลว้ ยงั ขดั ขวางทาใหง้ านลา่ ชา้ ไมก่ า้ วหนา้ การเอาเทา้ ลงไปแช่
ในนา้ ขณะพายเรอื เทา้ จะรานา้ คือตา้ นนา้ ไวเ้ รอื จึงว่ิงไดช้ า้ คนพายจะเหน่อื ยมาก
ขนึ้
๑๐
ไม้อ่อนดดั งา่ ย ไม้แก่ดดั ยาก
การอบรมเดก็ ๆเพ่ือใหป้ ระพฤติปฏบิ ตั สิ ิง่ ท่ดี ี งา่ ยการอบรมส่งั สอนผใู้ หญ่ไมท้ ่ยี งั
ออ่ นอยเู่ ราสามารถนามาดดั ใหเ้ ป็นรูปต่างๆไดต้ ามตอ้ งการแตไ่ มท้ ่แี กเ่ ม่อื นามา
ดดั จะดดั ไดย้ ากหรอื อาจหกั ได้
ยกเมฆแต่ง
เรอ่ื งขนึ้ เองคาดเดาเอาเองกเุ รื่องขนึ้ สานวนนีม้ าจากตาราพยากรณ์ ของคน
สมยั กอ่ น เวลาจะยกทพั ก็จะมกี ารดเู มฆวา่ เป็นรูปอะไรกถ็ ือเป็น นมิ ติ ทานายว่าดี
หรอื รา้ ยสานวนนมี้ กั จะใชก้ บั การคาดเดา หรือการกเุ รอื่ งขนึ้ มาเอง
ยืน่ หมูยน่ื แมว
แลกกันโดยต่างฝ่ายต่างใหแ้ ละรบั ในเวลาเดียวกนั หมูและแมว ในท่ีนี้ ใชเ้ ปรียบ
แทนของสิ่งใดส่ิงหน่ึงท่ีนามาแลกเปลี่ยนกัน เช่น “เรามาย่ืนหมูย่ืนแมวกัน ฉัน
เลยี้ งหนงั เธอ เธอเลีย้ งขา้ วฉนั
รักดีหามจ่ัว รักช่ัวหามเสา หากตงั้ ใจใฝ่ดีจะพบกบั ความสขุ ความเจรญิ ถา้ ใฝ่ช่วั ก็จะไดร้ บั ความลาบาก จ่วั มี
นา้ หนักเบากว่าเสามากการหามจ่วั จึงเบาและง่ายกว่าการหามเสา มกั นามาใช้
เปรียบกับการกระทาถา้ ทาดีก็เหมือนการหามจ่วั ซ่ึงเบาสบายหมายถึง ความสุข
ความเจรญิ แตร่ กั ช่วั หรือการกระทาท่ไี ม่ดยี อ่ มไดร้ บั ความลาบาก เหมือนการหาม
เสาท่หี นกั
เรียนผกู ตอ้ งเรียนแก้
เม่ือรูว้ ิธีทาแลว้ ก็ตอ้ งรูว้ ิธีแกไ้ ข รูก้ ลอบุ ายทกุ ทาง ทงั้ ทางก่อและทางแก้ เช่น “เธอ
ชอบหว่านเสน่หไ์ ปเร่ือยน่ีนาตอนนีน้ ายกอ้ งเขาตกหลมุ รกั เธอเต็มท่ีแลว้ ถา้ เธอไม่
รกั เขาเธอก็รีบแกป้ ัญหานดี้ ว้ ยตนเอง เรียนผกู ตอ้ งเรียนแก้
๑๑
ลูกไกอ่ ยู่ในกามือ
ผทู้ ่ีตกอย่ภู ายใตอ้ านาจ ไม่อาจต่อสหู้ รือขดั ขืนได้ ลกู ไก่เป็นสตั วต์ วั เลก็ เม่ืออย่ใู น
องุ้ มือหรือกามอื จะกาไดม้ ิด ลกู ไกจ่ ึงไม่สามารถดนิ้ หลดุ ได้
เล่นกบั หมา หมาเลียปาก
ลดตวั ลงไปหรือวางตวั ไม่เหมาะสม จึงถกู ลมปาม หมาเป็นสตั วส์ ี่ขา ซ่งึ เราจะถือ
หมาเป็นสตั วส์ กลุ ต่ากว่าคนหากเราเลน่ กบั หมา หมามกั เขา้ มาเลียตามเนือ้ ตวั เรา
และเลียแกม้ เลียปาก สานวนนีบ้ างครงั้ ใชค้ ่กู นั เล่นกบั หมา หมาเลียปาก เล่นกบั
สาก สากตอ่ ยหวั ”
ววั สันหลงั หวะ
คนมีความผดิ ติดติดตวั จะคอยหวาดระแวง ววั เม่ือมีบาดแผลท่ีหลงั พอเห็นกาบิน
ผ่านมาก็หวาดระแวงวา่ กาจะมาจกิ แผลบางสานวนใชว้ า่ “ววั สนั หลงั ขาด”
ววั หายแล้วลอ้ มคอก
ของหายแลว้ จึงจะเร่ิมป้องกนั เร่ืองเกิดขึน้ แลว้ จึงคิดแกไ้ ข ชาวบา้ นท่ีเลีย้ งววั ไว้
บางคนผกู ววั ไวใ้ ตถ้ นุ บา้ น เม่อื มีคนมาลกั ขโมยววั ไปแลว้ จงึ คิดทาคอกใหว้ วั
๑๒
สาเนียงสอ่ ภาษา กริ ยิ าสอ่ สกลุ
คาพดู หรือกิรยิ าท่าทางจะบอกถงึ การไดร้ บั การอบรมส่งั สอนมา สาเนยี ง หมายถึง
คาพูด ภาษาหรือชาติกาเนิดส่วนกิริยาท่าทางจะบอกใหเ้ ห็นถึงการเลีย้ งดูอบรม
ส่งั สอน
สบิ ปากว่าไมเ่ ทา่ ตาเหน็
การได้ยินไดฟ้ ังจากผู้อ่ืนหลายๆคนก็ไม่เท่ากับพบเห็นดว้ ยตนเอง สิบปากว่า
หมายถึงการบอกเล่าหรือพดู โดยก่ีคนก็ตามจะเขา้ ใจเท่ากบั เราไดเ้ ห็นไดล้ งมือทา
เองย่อมไม่ได้
สซี อใหค้ วายฟัง พดู ส่งั สอนแนะนาคนโง่มกั ไม่ไดผ้ ล เสียเวลาเปลา่ ซอเป็นเคร่ืองดนตรีชนิดหน่งึ ท่ี
หนูตกถังขา้ วสาร มีเสียงไพเราะแต่หากเราสีซอใหค้ วายฟังควายย่อมไม่รูซ้ ึง้ ถึงความไพเราะของ
เสียงซอ
ผทู้ ่มี ฐี านะยากจนไดแ้ ต่งงานกบั คนรา่ รวยโดยมากจะใชก้ บั ชายยากจนไดแ้ ต่งงาน
กบั หญิงรา่ รวยฐานะดีขา้ วสารเป็นอาหารท่หี นชู อบกินเม่ือหนตู กในถงั ขา้ วสาร หนู
ย่อมอยู่ในความอ่ิมหมีพีมันแวดลอ้ มดว้ ยอาหารถึงจะขึน้ จากถังไม่ได้ ก็ไม่อด
อยากหวิ โหย
๑๓
หมูเขาจะหาม อย่าเอาคานเข้าไปสอด
เขา้ ไปขดั ขวางกิจกรรมหรือการกระทาของผอู้ ่ืนขณะท่กี าลงั จะสาเรจ็ ทาใหเ้ ขาเสีย
ผลประโยชนเ์ วลาหามหมเู ขาจะเอาหมหู อ้ ยไว้ ตรงกลางไมใ้ ชค้ นอยา่ งนอ้ ย ๒ คน
ยกปลายทั้งสองขึน้ การเอาคานเขา้ มาสอดตรงกลางไม้จะทาให้การหามหมูมี
อปุ สรรค ไม่คลอ่ งตวั
อดเปรีย้ วไว้กินหวาน
อดใจไวก้ ่อนเพ่ือรอส่ิงท่ีดีกว่าขา้ งหนา้ ผลไมบ้ างอย่างมีรสเปรีย้ วเม่ือยงั ดิบอยู่
เช่น มะม่วง สม้ มะเฟื อง แต่ถา้ รอจนสกุ ผลไมน้ นั้ จะหวานซ่งึ จะไดก้ ินของท่ีอรอ่ ย
กว่า
ออ้ ยเข้าปากชา้ ง
สิ่งของหรือประโยชนท์ ่ีตกอย่ใู นมือผอู้ ่ืนแลว้ ไม่ยอมคืน ออ้ ยเป็นอาหารท่ีชา้ งชอบ
ฉะนั้นเม่ืออ้อยเข้าปากช้างแล้วยากท่ีจะง้างออกได้ซ่ึ งหมายถึงการเสีย
ผลประโยชน์ โดยความผิดพลาดหรือรูไ้ ม่เท่าทนั ไปใหผ้ อู้ ่ืนแลว้ ย่อมยากท่ีจะได้
คนื
๑๔
บทที่ ๓
วธิ กี ารดาเนนิ โครงงาน
ข้นั ตอนการทาโครงงาน
โครงงานเรื่อง สานวน สภุ าษิต คาพงั เพยไทย มีวิธีดาเนนิ การศกึ ษาคน้ ควา้ ดงั นี้
๑.คณะผจู้ ดั ทานาเสนอหวั ขอ้ รายงานต่ออาจารยท์ ่ีปรกึ ษาเพ่ือขอคาแนะนาและกาหนดขอบเขตในการทา
รายงาน ระยะเวลาปฏิบตั งิ าน ๑ ช่วั โมง
๒.คณะผจู้ ัดทาร่วมกนั ประชุมวางแผนวิเคราะหห์ วั ขอ้ วตั ถุประสงคข์ องรายงาน ระยะเวลาปฏิบตั ิงาน ๒
ช่วั โมง
๓.คณะผจู้ ดั ทารว่ มกนั คน้ ควา้ จากแหลง่ ตา่ งๆ ดงั นี้
-หนงั สือสานวนสภุ าษิตออนไลน์
-อินเทอรเ์ นต็
ระยะเวลาปฏิบตั ิงาน ๒ ช่วั โมง
๔.ศกึ ษาและเก็บรวบรวมขอ้ มลู เพ่อื นามาวเิ คราะหแ์ ละสรุปเนอื้ หา ระยะเวลาปฏิบตั งิ าน ๒ ช่วั โมง
๕.นาเสนอผลงานต่ออาจารยท์ ่ปี รกึ ษาเพ่อื รายงานผลการดาเนินการ ระยะเวลาปฏิบตั งิ าน ๑ ช่วั โมง
อุปกรณ์
๑.เคร่อื งเขียน
๒.คอมพิวเตอร์
๓.อปุ กรณส์ ่ือสาร
๑๕
บทที่ ๔
ผลการศกึ ษาคน้ ควา้
จากการท่ีคณะผูจ้ ัดทาไดม้ ีความสนใจศึกษาสานวนสุภาษิตคาพงั เพยตามวัตถุประสงคค์ ือเพ่ือใหเ้ กิด
ความรูค้ วามเขา้ ใจเก่ียวกบั สานวน สภุ าษิต คาพงั เพย โดยแบง่ ตามลาดบั อกั ษรพยญั ชนะไทยจากเว็บไซต์ สานวน
สภุ าษิต คาพงั เพย ซ่งึ พบว่า สานวน สภุ าษิต คาพงั เพย มีจานวนมากซ่งึ ถ่ายทอดกนั มาตงั้ แต่สมยั โบราณท่ีใชส้ ่งั
สอนอบรมบุตรหลานให้มีคุณธรรมซ่ึงในปัจจุบันก็ยังมีการนา สานวน สุภาษิต คาพังเพย มาใช้ใน
ชีวิตประจาวนั ซ่งึ เราไดย้ ินอยบู่ า้ งในปัจจบุ นั เพ่ือใหป้ ระชาชนประพฤติปฏิบตั มิ ีคณุ ธรรมและสามารถอย่รู วมกนั ได้
ในสงั คมอยา่ งสงบสขุ โดยแยกไดด้ งั นี้
สานวน คือ ถอ้ ยคาท่ีเรียบเรียงขึน้ โดยมีความหมายพิเศษ ไม่ตรงกับความหมายท่ีใชต้ ามปกติท้ังนี้
อาจจะเป็นคาท่มี คี วามหมายโดยนยั หรอื ความหมายในเชิงเปรยี บเทยี บเป็นลกั ษณะคาพดู ท่ีรวมใจความยาวๆ
ใหก้ ะทดั รดั บางสว่ นอาจหมายถงึ สภุ าษิตและคาพงั เพยดว้ ย
สุภาษิต คือ คาพูดท่ีถือเป็นคติ มีความลึกซึง้ ใชส้ ่งั สอนถือเป็นการวางแนวและแสดงค่านิยมของ
มนษุ ยม์ าแต่โบราณกาล เช่น สภุ าษิตสอนหญิง สภุ าษิตพระรว่ ง ก็มีขอ้ ความส่งั สอนท่คี า่ นยิ มของสมยั นนั้ ๆไว้
อยา่ งชดั เจนตลอดจนพทุ ธสภุ าษิตคาส่งั สอนตามแนวทางพระพทุ ธศาสนา
คาพังเพย คือ เป็นคาเปรียบเทียบเรื่องต่างๆ เนือ้ ใชต้ ิชม ซึง้ สะทอ้ น ถึงความคิด ความเช่ือถือและ
ค่านิยม อนั เป็นลกั ษณะของคนไทย เช่น ค่านิยมในการยกย่องผอู้ าวุโส เคารพครูบาอาจารยแ์ ละนิยมความ
สภุ าพออ่ นโยน
๑๖
บทที่ ๕
สรุปและอภปิ รายผลการดาเนินการ จดั ทาโครงงาน
สรุปผล
การจดั ทารายงาน เรื่องสานวน สภุ าษิต คาพงั เพย สามารถสรุปไดด้ งั นี้
๑.เพ่อื อนรุ กั ษ์สานวน สภุ าษิต คาพงั เพย
๒.เพ่อื สง่ เสรมิ ใหค้ นในปัจจบุ นั หนั มาสนใจศกึ ษาสานวน สภุ าษิต คาพงั เพยมากขนึ้
๓.เพ่อื ใหเ้ กิดความรูค้ วามเขา้ ใจเร่ืองสานวน สภุ าษิต คาพงั เพย
๔.เพ่อื เป็นแนวทางในการศกึ ษา
อภปิ รายผล
จาการศกึ ษาคน้ ควา้ โครงงานเรอื่ งการศกึ ษา
สานวนหมายถึง คาท่ีพดู คอื เป็นคติ มีความลกึ ซงึ้ ใชส้ อน คอื การวางแนวและแสดงคานิยมของสมยั
โบราณ เชน่ คาว่านา้ พ่งึ เรอื เสือ เสือพง่ึ ป่า
สุภาษติ หมายถงึ เป็นคาเปรียบเทยี บเรือ่ งตา่ งๆ เพ่อื ใชต้ ชิ มสะทอ้ นถึงความคดิ ความเชอื้ ถือ และค่านิยม
อนั เป็นลกั ษณะของคนไทย เชน่ คาวา่ บา้ นเคยอยู่ อเู่ คยนอน
คาพังเพยหมายถึง ถอ้ ยคาท่เี รียบเรียงขึน้ โดยมคี วามหมายพิเศษ ไมต่ รงกบั ความหมายตามปกติทง้ั นอี้ าจจะ
เป็นคาท่มี ีความหมายโดยนยั หรือความหมายในเชงิ เปรยี บเทียบ เชน่ คาว่า กินบนเรือนขรี้ ถบนหลงั คา
ข้อเสนอแนะ
การจดั ทารายงานเร่อื งสานวน สภุ าษิต คาพงั เพย มีขอ้ เสนอแนะ ดงั นี้
๑.ควรปลกู จติ สานึกใหป้ ระชาชนใชภ้ าษาไทยอยา่ งถกู ตอ้ งตามอกั ขระวธิ ีเพ่อื เป็นการอนรุ กั ษภ์ าษาไทย
๒.ควรหาสานวน สภุ าษิต คาพงั เพยท่นี ิยมใชใ้ นปัจจบุ นั มาใชก้ นั ใหม้ ากขนึ้
๓.ควรมีการใชส้ านวน สภุ าษิต คาพงั เพยไดถ้ กู ตอ้ งและปฏิบตั ใิ นชีวติ ประจาวนั ได้
๑๗
เอกสารอ้างอิง
แหลง่ ท่ีมา http://ton4181.blogspot.com
(สบื คน้ เม่อื วนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔)
แหลง่ ท่มี า http://www.chaiwbi.com/2555student_/m5/d5201/wbi/555201/104.htm
(สบื คน้ เม่อื วนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔)
แหลง่ ท่มี า https://fliphtml5.com/kntk/ezgr/basic
(สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี ๗ สิงหาคม ๒๕๖๔)
แหลง่ ท่ีมา https://taneewitthaya.blogspot.com
(สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔)
แหลง่ ท่ีมา https://sites.google.com/site/khorngngansuphasitkhaphangphey/hna-raek
(สบื คน้ เม่อื วนั ท่ี ๗ สงิ หาคม ๒๕๖๔)
๑๘
ภาคผนวก
ขณะประชมุ กลมุ่
๑๙