แบบข้อตกลงในการพัฒนางาน (PA) สําหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตําแหน่งครู วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ (ทุกสังกัด) ประจําปีงบประมาณ พ.ศ. ....2565....... ระหว่างวันที่ 1 เดือน ตุลาคม พ.ศ. 2564 ถึงวันที่ 30 เดือน กันยายน พ.ศ. 2565 ผู้จัดทําข้อตกลง ชื่อ........นางนิอารีฟา........นามสกุล...บินหะยีอารง...........................ตําแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชํานาญการพิเศษ สถานศึกษา.....โรงเรียนอนุบาลยะรัง............ สังกัด.....สํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 2 รับเงินเดือนในอันดับ คศ. 3..... อัตราเงินเดือน ....43,890.......บาท ประเภทห้องเรียนที่จัดการเรียนรู้ (สามารถระบุได้มากกว่า 1 ประเภทห้องเรียน ตามสภาพการจัด การเรียนรู้จริง) □ ห้องเรียนวิชาสามัญหรือวิชาพื้นฐาน □ ห้องเรียนปฐมวัย □ ห้องเรียนการศึกษาพิเศษ □ ห้องเรียนสายวิชาชีพ □ ห้องเรียนการศึกษานอกระบบ / ตามอัธยาศัย ข้าพเจ้าขอแสดงเจตจํานงในการจัดทําข้อตกลงในการพัฒนางานตําแห่งครู วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ซึ่งเป็นตําแหน่งและวิทยฐานะที่ดํารงอยู่ในปัจจุบันกับผู้อํานวยการสถานศึกษา ไว้ดังต่อไปนี้ ส่วนที่ 1 ข้อตกลงในการพัฒนางานตามมาตรฐานตําแหน่ง 1. ภาระงาน จะมีภาระงานเป็นไปตามที่ ก.ค.ศ. กําหนด 1.1 ชั่วโมงสอนตามตารางสอน รวมจํานวน....12.20.........ชั่วโมง/สัปดาห์ดังนี้ กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จํานวน..5.40..ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา……...สุขศึกษา……………...จํานวน......2....ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา..........แนะแนว............... จํานวน......3…..ชั่วโมง/สัปดาห์ กลุ่มสาระการเรียนรู้/รายวิชา....กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน..จํานวน….1.40..ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.2 งานส่งเสริมและสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ จํานวน…………..8...............ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.3 งานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษา จํานวน.......3........ชั่วโมง/สัปดาห์ 1.4 งานตอบสนองนโยบายและจุดเน้น จํานวน..........5........ชั่วโมง/สัปดาห์ PA 1/ส
2. งานที่จะปฏิบัติตามมาตรฐานตําแหน่งครู (ให้ระบุรายละเอียดของงานที่จะปฏิบัติในแต่ละด้าน ว่าจะดําเนินการอย่างไร โดยอาจระบุระยะเวลาที่ใช้ในการดําเนินการด้วยก็ได้) ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 1. ด้านการจัดการเรียนรู้ ลักษณะงานที่เสนอให้ครอบคลุมถึง การสร้างและหรือพัฒนาหลักสูตร การ ออกแบบการจัดการเรียนรู้การจัด กิจกรรมการเรียนรู้การสร้างและหรือ พัฒนาสื่อ นวัตกรรมเทคโนโลยี และ แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผลการ จัดการเรียนรู้การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนาการ เรียนรู้การจัดบรรยากาศที่ส่งเสริมและ พัฒนาผู้เรียนและการอบรมและพัฒนา คุณลักษณะที่ดีของผู้เรียน 1.1 การสร้างและพัฒนา หลักสูตร และการออกแบบ การจัดการเรียนรู้ - วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด และผลการเรียนรู้กลุ่มสาระ การเรียนรู้วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี ชั้นประถมศึกษาปี ที่ 4 เพื่อริเริ่ม และพัฒนา ทักษะการคิดวิเคราะห์และ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้ การจัดการเรียนรู้เทคนิคผัง กราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษา ปีที่ 4 เพื่อนําไปออกแบบ หน่วยการเรียนรู้และ รายวิชา วิทยาศาสตร์ให้สอดคล้องกับ หลักสูตรสถานศึกษาและ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2561) ใน รูปแบบแผนการจัดการเรียนรู้ โดยจัดทําเป็นแบบอย่างให้ครู ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และ เผยแพร่ ผ่านสื่อออนไลน์ 1. ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะการคิด วิเคราะห์และ ผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน เรื่องวัสดุและ สสารสูงขึ้น 2. ผู้เรียนมี คุณลักษณะอันพึง ประสงค์และ สมรรถนะสําคัญของ ผู้เรียน 3. ผู้เรียนมีความพึง พอใจต่อการจัด บรรยากาศการเรียนรู้ 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์สูงขึ้น 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นและตามที่สถานศึกษา กําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สูงกว่าที่โรงเรียนกําหนด 4. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อการจัด บรรยากาศการเรียนรู้ใน ระดับมากขึ้นไป 5. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตามที่ สถานศึกษากําหนด
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 1.2 การออกแบบการจัดการ เรียนรู้ มีการออกแบบการจัดการ เรียนรู้ การจัดการสอนแบบ active learning ที่เน้นการมี ส่วนร่วมของผู้เรียน สร้างสื่อนวัตกรรมการสอน พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้ เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุ และสสาร ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 1. ผู้เรียนมีความรู้ ตามมาตรฐานและ ตัวชี้วัดตามธรรมชาติ วิชาวิทยาศาสตร์ 2. ผู้เรียนได้รับการ พัฒนาในด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์และ สมรรถนะสําคัญตาม หลักสูตร 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์สูงขึ้น 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นและตามที่สถานศึกษา กําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สูงกว่าที่โรงเรียนกําหนด 4. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตามที่ สถานศึกษากําหนด 1.3 จัดกิจกรรมการเรียนรู้ สามารถริเริ่ม คิดค้น และการ จัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะ การคิดวิเคราะห์และ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มี โดยใช้การจัดการเรียนรู้ เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุ และสสาร ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 ตาม แผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้าง ขึ้น 5 แผน 16 ชั่วโมง 1.ผู้เรียนมีความรู้ ตามมาตรฐานและ ตัวชี้วัดสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ความรู้ผ่านเกณฑ์ที่ สถานศึกษากําหนด 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 มี คุณลักษณะอันพึงที่ สถานศึกษากําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตาม หลักสูตรตามที่สถานศึกษา กําหนด
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 1.4 สร้างและพัฒนาสื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยีและ แหล่งเรียนรู้ ริเริ่มและพัฒนาการจัดการ เรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก เพื่อพัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนโดยใช้การ จัดการเรียนรู้ เรื่อง วัสดุและ สสาร ของนักเรียนชั้น ประถมศึกษาปีที่ 4 1. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนา ในด้านการเรียนรู้ 2. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือพัฒนา ด้านคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ 3. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้านสมรรถนะ สําคัญผู้เรียน 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ความรู้ผ่านเกณฑ์ การประเมิน เป็นไปตาม ระเบียบการวัดผล ประเมินผลของสถานศึกษา 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นตามที่ สถานศึกษากําหนด 1.5 การวัดและประเมินผล การจัดการเรียนรู้ พัฒนาเครื่องมือวัดและ ประเมินผลอย่างหลากหลาย รูปเอกสาร เรื่องวัสดุและ สสาร ประกอบด้วย แบบ ประเมินทักษะการคิด วิเคราะห์ แบบทดสอบก่อน เรียนและหลังเรียน แบบสอบถามความพึงพอใจ แบบสังเกต นําผลการวัดและ ประเมินผลการเรียนรู้ มาใช้ แก้ปัญหาการจัดการเรียนรู้ จัดทําเป็นแบบอย่างให้ครูใน กลุ่มสาระการเรียนรู้ต่อไป 1. ผู้เรียนได้รับการ ประเมินผลการ เรียนรู้ อย่างต่อเนื่อง หลากหลาย 2. นําผลการประเมิน มาใช้ในการส่งเสริม หรือปรับปรุงแก้ไข การเรียนรู้ของผู้เรียน 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ความรู้ผ่านเกณฑ์ การประเมิน เป็นไปตาม ระเบียบการวัดผล ประเมินผลที่สถานศึกษา กําหนด 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ผลสัมฤทธิ์สูงขึ้นตามที่ สถานศึกษากําหนด
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 1.6 การศึกษา วิเคราะห์ สังเคราะห์ เพื่อแก้ปัญหา หรือพัฒนาการเรียนรู้ของ ผู้เรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้ระหว่าง เพื่อนครูสาระวิทยาศาสตร์ มี การ SWOT หาแนวทางการ แก้ปัญหาการยกระดับ ผลสัมฤทธิ์สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์ ด้วยกระบวน การ PLC เพื่อริเริ่มและพัฒนา นวัตกรรมสู่การทําวิจัยในชั้น เรียน เพื่อแก้ปัญหาการ จัดการเรียนรู้ รู้จักนักเรียน เป็นรายบุคคล ส่งเสริมให้ ผู้เรียนเกิดความรู้ ทักษะ และ สมรรถนะในด้านการเรียนรู้ที่ จําเป็น มีทักษะการคิด วิเคราะห์และมีผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น สามารถเป็นแบบอย่าง ให้ครูสาระการเรียนรู้ที่มาร่วม นิเทศการจัดการเรียนรู้ และ เผยแพร่ได้ 1. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาในด้านการ เรียนรู 2. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 3. นักเรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้านสมรรถนะ สําคัญผู้เรียน 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์สูงขึ้น 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นและตามที่สถานศึกษา กําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สูงกว่าที่สถานศึกษากําหนด 4. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตามที่ สถานศึกษากําหนด 1.7 การจัดบรรยากาศที่ ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียน จัดบรรยากาศห้องเรียนให้ เป็นห้องเรียนคุณภาพ เอื้อต่อ การเรียนรู้ มีมุมรักการอ่าน มุมสืบค้นข้อมูล มีจอ LED ไวไฟ ทําให้ห้องเรียนน่าอยู่ 1. นักเรียนมีความสุข ในการเรียนรู้ 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีความพึงพอใจต่อการจัด บรรยากาศการเรียนรู้ใน ระดับมากขึ้นไป 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตาม หลักสูตรสถานศึกษา
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 1.8 อบรมและพัฒนา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ของผู้เรียน สอดแทรกคุณธรรม จริยธรรม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และค่านิยมความเป็นไทยที่ดี งามในกระบวนการจัดการ เรียนรู้ โดยคํานึงถึงความ แตกต่างของผู้เรียน ใน แผนการจัดการเรียนรู้ สอดแทรกเทคนิค กิจกรรม กลุ่ม ส่งเสริมการทํางาน ร่วมกัน กิจกรรมเพื่อนช่วย เพื่อน ความรับผิดชอบในการ ส่งงาน และมีความซื่อสัตย์ต่อ ตนเองในการบันทึกข้อมูล และเป็นแบบอย่างให้กับ คุณครูที่เข้ามานิเทศการ จัดการเรียนการสอนได้ 1. ผู้เรียนได้รับการ พัฒนาในด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์และค่านิยม ความเป็นไทยที่ดีงาม 2. ผู้เรียนมีความ สามัคคีมีน้ําใจ ช่วยเหลือซึ่งกันและ กัน 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ความรู้ผ่านเกณฑ์ ที่สถานศึกษากําหนด 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีผล การประเมินด้าน คุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่ สถานศึกษากําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะที่สําคัญตามที่ สถานศึกษากําหนด
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 2. ด้านการส่งเสริมและสนับสนุน การจัดการเรียนรู้ ลักษณะงานที่เสนอให้ครอบคลุมถึง การจัดทําข้อมูลสารสนเทศของผู้เรียน และรายวิชา การดําเนินการตามระบบ ดูแลช่วยเหลือผู้เรียน การปฏิบัติงาน วิชาการและงานอื่น ๆ ของสถานศึกษา และการประสานความร่วมมือกับ ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และหรือ สถานประกอบการ 2.1 จัดทําข้อมูลสารสนเทศ ของผู้เรียนและรายวิชา มีการริเริ่ม คิดค้น และพัฒนา รูปแบบการจัดทําข้อมูล สารสนเทศของผู้เรียนและ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เป็นเอกสารและรูปแบบ ออนไลน์(Google Sheet) เป็นปัจจุบัน เพื่อใช้ในการ ส่งเสริมสนับสนุนการเรียนรู้ แก้ไขปัญหาและพัฒนา คุณภาพผู้เรียนและเป็น แบบอย่างที่ดีดําเนินการ ช่วยเหลือผู้เรียน โดยบันทึก ข้อมูลส่วนตัวของนักเรียนแต่ ละคนที่สอนผ่านระบบ ออนไลน์ ด้วยโปรแกรม Microsoft Excel หรือ Google Sheet และสรุปเป็น สารสนเทศในรูปแบบของ แผนภูมิวงกลม และสรุปเป็น สารสนเทศในรูปแบบของ แผนภูมิวงกลม เพื่อแบ่งกลุ่ม นักเรียนเป็นเก่ง กลางและ อ่อน สําหรับการวางแผนใน การพัฒนาความคิดรวบยอด ทางวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีที่ไม่ถึงเกณฑ์ โดย จัดกิจกรรมซ่อมเสริม และ เพื่อนช่วยเพื่อน และเผยแพร่ 1. ผู้เรียนมีแหล่ง สารสนเทศรายวิชา 2. ผู้เรียนได้รับการ จัดการจัดเก็บข้อมูล ส่วนตัว ข้อมูล รายวิชา และได้รับ การจัดการเรียนรู้ อย่างทั่วถึงโดยผ่าน ระบบสารสนเทศที่ ทันสมัย 3. ผู้เรียนมีแหล่งการ เรียนรู้ที่เกิดจากการ ประสานความร่วมมือ กับผู้ปกครอง ภาคี เครือข่าย และหรือ สถานประกอบการ เพิ่มขึ้น 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 เข้าถึง ข้อมูลสารสนเทศรายวิชา วิทยาศาสตร์ 2. ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้รับ การจัดการจัดเก็บข้อมูล ส่วนตัว ข้อมูลรายวิชา และ ได้รับการจัดการเรียนรู้อย่าง ทั่วถึงโดยผ่านระบบ สารสนเทศที่ทันสมัย 3. ผู้เรียนร้อยละ 80 สามารถเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ที่ เกิดจากการประสานความ ร่วมมือกับผู้ปกครอง ภาคี เครือข่าย และหรือสถาน ประกอบการเพิ่มขึ้น
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) เป็นแบบอย่างให้ครูในกลุ่ม สาระการเรียนรู้ รวมถึงกลุ่ม ชุมชนการเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) 2.2 ดําเนินการตามระบบ ดูแลช่วยเหลือนักเรียน ดําเนินการตามระบบดูแล ช่วยเหลือผู้เรียน มีการเยี่ยม บ้านออนไลน์ การประเมิน SDQ นักเรียน และจัด กิจกรรมโฮมรูมนักเรียน พร้อมที่ไม่ถึงเกณฑ์ โดยจัด กิจกรรมซ่อมเสริม และเพื่อน ช่วยเพื่อน และเผยแพร่เป็น แบบอย่างให้ครูในกลุ่มสาระ การเรียนรู้ รวมถึงกลุ่มชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ (PLC) ดําเนินการตามระบบดูแล ช่วยเหลือผู้เรียน มีการเยี่ยม การประเมิน SDQ นักเรียน และจัดกิจกรรมโฮมรูม นักเรียน พร้อมที่ไม่ถึงเกณฑ์ โดยจัดกิจกรรมซ่อมเสริม และเพื่อนช่วยเพื่อน และ เผยแพร่เป็นแบบอย่างให้ครู ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ รวมถึงกลุ่มชุมชนการเรียนรู้ ทางวิชาชีพ (PLC) และเพจ เฟสบุ๊ค 1. ผู้เรียนได้รับการ ดูแลช่วยเหลือตาม ข้อมูลสารสนเทศได้ อย่างรวดเร็ว 1. ผู้เรียนร้อยละ 100 ได้รับ การดูแลช่วยเหลือตาม ข้อมูลสารสนเทศที่ครูจัดทํา ขึ้น
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 2.3 ปฏิบัติงานวิชาการและ งานอื่นๆของสถานศึกษา มีการร่วมปฏิบัติงานวิชาการ และงานอื่นๆของสถานศึกษา เพื่อยกระดับคุณภาพการจัด การศึกษาของสถานศึกษา โดยมีรูปแบบหรือแนวทางการ ดําเนินงานให้มีประสิทธิภาพ สูงขึ้นและเป็นแบบอย่างที่ดี ร่วมกิจกรรมการพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาร่วม กิจกรรมการจัดทําแผนพัฒนา คุณภาพสถานศึกษา 1. ผู้เรียนได้เรียนรู้ จากการจัดกิจกรรมที่ เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ จัดกิจกรรมที่หลาก หลายและได้เรียนรู้ การใช้เทคโนโลยี สนุกสนานกับการ เรียน 2. ผู้เรียนได้ พัฒนาการเรียนตาม ความแตกต่าง ระหว่างบุคคลและ พัฒนาอย่างเป็น ระบบ 3. ผู้เรียนมีความพึง พอใจต่อกิจกรรมต่อ ครูและสาระการ เรียนรู้วิทยาศาสตร์ 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์สูงขึ้น 2. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สูงขึ้นและตามที่สถานศึกษา กําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สูงกว่าที่โรงเรียนกําหนด 4. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตามที่ สถานศึกษากําหนด 2.4 ประสานความร่วมมือกับ ผู้ปกครอง ภาคีเครือข่ายและ หรือสถานประกอบการ มีการประสานความร่วมมือ กับผู้ปกครอง ภาคีเครือข่าย และสถานประกอบการ เพื่อ ร่วมกันแก้ไขปัญหาและ พัฒนาผู้เรียน มีการเยี่ยมบ้าน และเป็นแบบอย่างที่ดี 1. ผู้เรียนได้รับการ สนับสนุน ช่วยเหลือ ดูแลทั้งด้านวิชาการ คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ และ สมรรถนะสําคัญ ผู้เรียน 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีทักษะกระบวนการคิด วิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงขึ้น 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สูงกว่าที่โรงเรียนกําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี สมรรถนะสําคัญตามที่ สถานศึกษากําหนด
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 3. ด้านการพัฒนาตนเองและวิชาชีพ ลักษณะงานที่เสนอให้ครอบคลุมถึง การพัฒนาตนเองอย่างเป็นระบบและ ต่อเนื่อง การมีส่วนร่วมในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพเพื่อ พัฒนาการจัดการเรียนรู้และการนํา ความรู้ความสามารถ ทักษะที่ได้จาก การพัฒนาตนเองและวิชาชีพมาใช้ใน การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การพัฒนา คุณภาพผู้เรียน และการพัฒนา นวัตกรรมการจัดการเรียนรู้ 3.1 พัฒนาตนเองอย่างเป็น ระบบและต่อเนื่อง - พัฒนาทักษะ กระบวนการคิดวิเคราะห์ - พัฒนาการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการ ศึกษานํามาใช้ประกอบการ สอน เผยแพร่ตัวอย่างผลงาน ที่ได้พัฒนา ตัวอย่างสื่อ นวัตกรรมที่ใช้ในการจัดการ เรียนรู้ ให้ครูในกลุ่มสาระการ เรียนรู้ได้นําไปเป็นแนวทาง หรือเผยแพร่ผ่านเพจเฟสบุ๊ค 1. ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาในด้านการ เรียนรู้ 2. ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 3. ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้านสมรรถนะ สําคัญผู้เรียน 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 ได้รับ การแก้ปัญหาหรือ พัฒนาในด้านการเรียนรู้ 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 ได้รับ การแก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้านคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ 3. ผู้เรียนร้อยละ 70 ได้รับ การแก้ปัญหาหรือพัฒนา ด้านสมรรถนะสําคัญผู้เรียน 3.2 มีส่วนร่วมในการแลก เปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ มีส่วนในการเป็นผู้นําชุมชน การเรียนรู้ทางวิชาชีพ กลุ่ม สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยี ในฐานะ ตําแหน่ง Expert ในการ ส่งเสริมการจัดกรรมในการ พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนวิทยาศาสตร์ ให้กับ นักเรียน และสร้างกลุ่มในการ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ทางวิชาชีพ ผ่านกิจกรรมนิเทศ การจัดการเรียนรู้ 1. ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาในด้านการ เรียนรู้ 2. ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้าน คุณลักษณะอันพึง ประสงค์ 3. ผู้เรียนได้รับการ แก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้านสมรรถนะ สําคัญผู้เรียน 1. ผู้เรียนร้อยละ 80 ได้รับ การแก้ปัญหาหรือ พัฒนาในด้านการเรียนรู้ 2.ผู้เรียนร้อยละ 80 ได้รับ การแก้ปัญหาหรือ พัฒนาด้านคุณลักษณะอัน พึงประสงค์ 3. ผู้เรียนร้อยละ 70 ได้รับ การแก้ปัญหาหรือพัฒนา ด้านสมรรถนะสําคัญผู้เรียน
ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ตามมาตรฐานตําแหน่ง งาน (Tasks) ที่จะดําเนินการพัฒนา ตามข้อตกลงใน 1 รอบ การประเมิน (โปรดระบุ) ผลลัพธ์ (Outcomes) ของงานตามข้อตกลง ที่คาดหวังให้เกิดขึ้น กับผู้เรียน (โปรดระบุ) ตัวชี้วัด (Indicators) ที่จะเกิดขึ้นกับผู้เรียน ที่แสดงให้เห็นถึงการ เปลี่ยนแปลงไปในทาง ที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนา มากขึ้นหรือผลสัมฤทธิ์ สูงขึ้น(โปรดระบุ) 3.3 นําความรู้ความสามารถ ทักษะที่ได้จากการพัฒนา ตนเองและวิชาชีพมาใช้ใน การพัฒนาการจัดการเรียนรู้ การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน นําผลการอบรม สัมมนา และ การทํา PLC ไปพัฒนา การจัดการเรียนรู้ที่เน้นทักษะ การคิดวิเคราะห์และพัฒนา สื่อ นวัตกรรมเพื่อนํามาใช้ใน การพัฒนาคุณภาพผู้เรียน และสามารถเป็นแบบอย่างที่ดี ให้กับเพื่อนครูได้ 1. ผู้เรียน มีความรู้ ผ่านเกณฑ์การ ประเมินของ สถานศึกษา 2. ผู้เรียน มีผลการ ประเมินคุณลักษณะ อันพึงเป็นไปตามค่า เป้าหมายที่ สถานศึกษากําหนด 3. ผู้เรียน มีผลการ ประเมินสมรรถนะ สําคัญตามหลักสูตร เป็นไปตามค่า เป้าหมายที่ สถานศึกษากําหนด 1. ผู้เรียนร้อยละ 70 มี ความรู้ผ่านเกณฑ์การ ประเมินของสถานศึกษา 2. ผู้เรียนร้อยละ 80 มีผล การประเมินคุณลักษณะอัน พึงเป็นไปตามค่าเป้าหมายที่ สถานศึกษากําหนด 3. ผู้เรียนร้อยละ 70 มีผล การประเมินสมรรถนะ สําคัญตามหลักสูตรตามที่ สถานศึกษากําหนด หมายเหตุ 1. รูปแบบการจัดทําข้อตกลงในการพัฒนา ตามแบบ PA 1 ให้เป็นไปตามบริบท และสภาพการจัดการ เรียนรู้ของแต่ละสถานศึกษา โดยความเห็นชอบร่วมกันระหว่างผู้อํานวยการสถานศึกษา และข้าราชการครูผู้จัดทํา ข้อตกลง 2. งาน (Tasks) ที่เสนอเป็นข้อตกลงในการพัฒนางานต้องเป็นงานในหน้าที่ความรับผิดชอบหลัก ที่ส่งผล โดยตรงต่อผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน และให้นําเสนอรายวิชาหลักที่ทําการสอน โดยเสนอในภาพรวม ของ รายวิชาหลักที่ทําการสอนทุกระดับชั้น ในกรณีที่สอนหลายรายวิชา สามารถเลือกรายวิชาใดวิชาหนึ่งได้ โดย
จะต้องแสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติงานตามมาตรฐานตําแหน่ง และคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนางาน ตาม ข้อตกลงสามารถประเมินได้ตามแบบการประเมิน PA 2 3. การพัฒนางานตามข้อตกลง ตามแบบ PA 1 ให้ความสําคัญกับผลลัพธ์การเรียนรู้ ของผู้เรียน (Outcomes) และตัวชี้วัด (Indicators) ที่เป็นรูปธรรม และการประเมินของคณะกรรมการประเมินผลการพัฒนา งานตามข้อตกลง ให้คณะกรรมการดําเนินการประเมิน ตามแบบ PA 2 จากการปฏิบัติงานจริง สภาพการจัดการ เรียนรู้ในบริบทของแต่ละสถานศึกษา และผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนที่เกิดจากการพัฒนางาน ตามข้อตกลงเป็น สําคัญ โดยไม่เน้นการประเมินจากเอกสาร ส่วนที่ 2 ข้อตกลงในการพัฒนางานที่เป็นประเด็นท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียน ประเด็นที่ท้าทายในการพัฒนาผลลัพธ์การเรียนรู้ของผู้เรียนของผู้จัดทําข้อตกลง ซึ่งปัจจุบัน ดํารงตําแหน่งครู วิทยฐานะครูชํานาญการพิเศษ ต้องแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของวิทยฐานะครู ชํานาญการพิเศษ คือ การริเริ่ม พัฒนา การจัดการเรียนรู้และการพัฒนาคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน ให้เกิดการ เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหรือมีการพัฒนามากขึ้น (ทั้งนี้ ประเด็นท้าทายอาจจะแสดงให้เห็นถึงระดับการปฏิบัติ ที่คาดหวังในวิทยฐานะที่สูงกว่าได้) ประเด็นท้าทาย เรื่อง การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้การ จัดการเรียนรู้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 1. สภาพปัญหาการจัดการเรียนรู้และคุณภาพการเรียนรู้ของผู้เรียน รูปแบบการสอนที่สามารถนํามาใช้พัฒนาทักษะด้านการคิดวิเคราะห์มีหลากหลายวิธี เช่น การคิด โดยใช้ปัญหาเป็นฐาน เทคนิคการตั้งคําถาม เทคนิคการจัดกิจกรรมแบบหมวก 6 ใบ เทคนิคการจัดการเรียนรู้ ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เทคนิคการจัดการเรียนรู้มโนมิติรูปตัววี เทคนิคการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะ เทคนิคการจัดการเรียนรู้ 4 MAT รูปแบบการสอนที่ข้าพเจ้าสนใจ สามารถนํามาใช้พัฒนาทักษะด้านการคิด วิเคราะห์ คือ การจัดการเรียนการสอน โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก(Graphic Organizer Instructional Model) เป็น รูปแบบการเรียนการสอนที่สรุปความคิดรวบยอด จากการรวบรวมอย่างเป็นระบบ โดยสามารถจัดกิจกรรมที่เป็น การบูรณาการเนื้อหาหลาย ๆ เรื่องเข้าไว้ในกิจกรรมเดียวกัน เพื่อให้เข้าใจง่าย กระชับ ชัดเจน ซึ่งในการจัดกระทํา ข้อมูล ต้องใช้ทักษะการคิดวิเคราะห์ของนักเรียนแต่ละคนจึงเป็นรูปแบบการสอนที่ส่งเสริม ให้มีการพัฒนาด้าน การให้ทักษะการคิด หลักเหตุผล และการเชื่อมโยงของข้อมูลของนักเรียนได้เป็นอย่างดี ผังกราฟิก เป็นเครื่องมือที่ สามารถช่วยให้นักเรียนมีทักษะการคิดพื้นฐานและพัฒนาไปสู่ทักษะกระบวนการคิดขั้นสูง ช่วยให้นักเรียนเกิดการ เรียนรู้มโนทัศน์ได้ง่ายและมีความหมาย เกิดความรู้ ความเข้าใจในเนื้อหาที่นักเรียนกําลังเรียนอยู่ได้ง่ายยิ่งขึ้นทําให้ นักเรียนคิดช้าลง สามารถเกิดการจดจํา เก็บร่องรอยของขั้นตอนต่าง ๆ นําไปใช้ได้สําหรับคิดคนเดียว คิดเป็นกลุ่ม หรือการสอนคิดทั้งชั้นเรียน มีการเชื่อมโยงความคิดกับข้อมูลที่ได้รับแล้วนําเสนอออกมาให้เห็นเป็นรูปธรรม สามารถมองเห็นและอธิบายได้ซึ่งนําเสนอในลักษณะเป็นทั้งภาพและ กราฟิกเป็นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่มีขั้นตอนที่ชัดเจน เน้นให้ผู้เรียนสามารถสรุปองค์ความรู้ได้ด้วย ตนเอง ผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดต่าง ๆ สามารถพัฒนาการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น จึงควรสนับสนุนให้ครูผู้สอนวิทยาศาสตร์นําวิธีการนี้ไปใช้จัดกิจกรรมการเรียนรู้ในทุก ระดับชั้น และยังสอดคล้องกับ OJO, Olanrewaju A. and EGBON, Friday O.(2017, p. 6) กล่าวไว้ว่าผัง กราฟิกช่วยพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้นและยังช่วยให้ผู้เรียนมีความคงทนด้านความรู้เป็น อย่างดีเนื่องจากการคิดเป็นทักษะพื้นฐานที่มีความสําคัญมากในการดําเนินชีวิตและพัฒนาสิ่งต่าง ๆ จึงทําให้
ข้าพเจ้ามีความสนใจในการพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้ เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์ และพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนให้ดีขึ้น รวมทั้งศึกษาความพึงพอใจของ ผู้เรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2. วิธีการดําเนินการให้บรรลุผล วิเคราะห์หลักสูตร มาตรฐานการเรียนรู้และตัวชี้วัด ตามหลักสูตรสถานศึกษาและหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง 2561) นํามา ริเริ่ม พัฒนา จัดกิจกรรมการ เรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสําคัญ จัดกิจกรรมการเรียนตามแนวทาง active learning อย่างหลากหลาย โดยเน้นการมี ส่วนร่วมของผู้เรียน เพื่อพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิค ผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตามขั้นตอนดังนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง ประชากร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ปีการศึกษา 2565 จํานวน 71 คน 2 ห้องเรียน กลุ่มตัวอย่าง นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1 ปีการศึกษา 2565 จํานวน 35 คน (ข้อมูล ณ วันที่ 1 ตุลาคม 2564) 2. แบบแผนของการวิจัย รูปแบบการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยได้ดําเนินการทดลอง รูปแบบกลุ่มเดียว คือกลุ่มเดียวทดสอบก่อน เรียนและหลังเรียน (One-Group Pretest-Posttest Design) 3. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ประกอบด้วย เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง และเครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ดังนี้ 3.1 เครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุรอบตัววิชาวิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จํานวน 5 แผน 16 ชั่วโมง แผนการ จัดการเรียนรู้ที่ สาระการเรียนรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ เวลา (ชั่วโมง) 1 ประเภทของวัสดุ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก 3 2 ความแข็งของวัสดุ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก 3 3 ความยืดหยุ่นของวัสดุ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก 3 4 การนําความร้อนของวัสดุ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก 3 5 การนําไฟฟ้าของวัสดุ แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก 4 รวม 16 3.2 เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล 3.2.1 แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้น เรื่อง วัสดุและสสาร จํานวน 30 ข้อ เป็นข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก (Multiple Choice) โดยกําหนดว่า ตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดได้ 0 คะแนน
3.2.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้วิจัยได้สร้างขึ้นจํานวน 30 ข้อ เป็น ข้อสอบแบบปรนัย 4 ตัวเลือก (Multiple Choice) โดยกําหนดว่าตอบถูกได้ 1 คะแนน ตอบผิดได้ 0 คะแนน 3.2.3 แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัด กิจกรรมเรียนรู้โดยใช้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ซึ่งวัดในด้านเนื้อหาด้านการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ด้านบรรยากาศ สื่อและอุปกรณ์การเรียนรู้ และด้านการวัดและประเมินผล 4. การสร้างและการหาคุณภาพเครื่องมือ 5. การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้รายงานดําเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตัวเอง ซึ่งมีลําดับ ขั้นตอนดังนี้ 5.1 ขั้นเตรียมการทดลอง 5.1.1 เตรียมเครื่องมือที่ใช้ในการทดลอง ได้แก่ 1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนโดยใช้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) แบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 4) แบบสอบถามความพึงพอใจ 5.1.2 กําหนดระยะเวลาในการทดลอง 5.1.3 เตรียมห้องเรียน และอุปกรณ์ทดลอง สื่อ ให้เอื้อต่อการเรียนรู้ 5.1.4 เตรียมกลุ่มตัวอย่างในเรื่องของ วัน เวลา และสถานที่ที่จะทําการทดลอง 5.2 ขั้นดําเนินการทดลอง 5.2.1 ชี้แจงการทําแบบทดสอบก่อนเรียนให้ผู้เรียนก่อนเรียน จากนั้นให้กลุ่มตัวอย่าง จํานวน 35 คน ทําแบบทดสอบก่อนเรียน 20 นาที หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วัสดุและสสาร เมื่อหมดเวลาให้ นักเรียนส่งแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน เพื่อผู้รายงานจะได้นําข้อมูลไปวิเคราะห์ในขั้นต่อไป 5.2.2 ดําเนินการสอนกับกลุ่มตัวอย่าง ตามแผนการจัดการเรียนรู้พัฒนาทักษะการคิด วิเคราะห์ โดยใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จํานวน 5 แผน จํานวน 16 ชั่วโมง ด้วยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ (Inquiry Process) 5 Es ดังนี้ 1) สร้างความสนใจ 2) สํารวจและค้นหา 3) อธิบายและลงข้อสรุป 4) ขยายความรู้ 5) ประเมิน 5.2.3 เมื่อเรียนจนครบทุกขั้นตอนแล้วให้กลุ่มตัวอย่างทําแบบทดสอบหลังเรียน โดยใช้ ข้อสอบฉบับเดียวกับแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียน 5.2.4 หลังจากศึกษาเนื้อหาจากแผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง วัสดุ และสสาร จบแล้วให้ผู้เรียนทําแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อทดสอบหลังเรียน และนําผลการสอบ ของผู้เรียนไปวิเคราะห์ข้อมูลต่อไป 6. การวิเคราะห์ข้อมูล การรายงานครั้งนี้ผู้รายงานได้วิเคราะห์ข้อมูลดังนี้ 6.1 นําคะแนนที่ได้จากแบบทดสอบระหว่างเรียนและคะแนนจากแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน มาหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้เทคนิคผังกราฟิก เรื่อง วัสดุและสสาร ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เพื่อหา
ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กําหนดไว้หรือไม่ โดยใช้เกณฑ์ 75/75 6.2 นําผลคะแนนแบบทดสอบวัดทักษะการคิดวิเคราะห์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการ เรียน และแบบสอบถามความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ มาวิเคราะห์โดยวิธีทางสถิติเพื่อทดสอบสมติฐานและ สรุปผลการทดลอง 7. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 7.1 ขั้นการหาคุณภาพเครื่องมือ ได้ดําเนินการดังนี้ 7.1.1 การหาประสิทธิภาพของแผนการจัดการเรียนรู้ พัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง วัสดุและสสาร ให้ได้ตรงตามเกณฑ์ที่กําหนดไว้ คือ 75 / 75 โดยสูตร E1 / E2 ดังนี้ (ไชยยศ เรืองสุวรรณ, 2533 : 139) 1 = 100 7.2 การหาคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ มีขั้นตอนดังนี้ 7.2.1 การหาค่าความเที่ยงตรงด้านเนื้อหา (Content Validity) ของแบบ ทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์โดยใช้สูตร (ดัดแปลงจาก พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2540 : 117 ) ดังนี้ IOC = R 7.2.2 การหาค่าความเที่ยงตรงด้านเนื้อหา (Content Validity) ของแบบ ประเมินคุณภาพแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้สูตร (ดัดแปลงจาก พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2540 : 117 ) ดังนี้ IC = R 7.2.3 ค่าความยากง่ายของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้สูตร (พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2540 : 129) R 7.3 สถิติพื้นฐาน 7.3.1 การหาค่าเฉลี่ย (Mean) (พวงรัตน์ ทวีรัตน์, 2540 : 138) 7.4 สถิติที่ใช้ทดสอบ
สถิติที่ใช้ในการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลัง เรียนโดยใช้สูตรการทดสอบค่าที (t–test แบบ Dependent Samples) (ล้วน สายยศและอังคณา สายยศ, 2538 : 104) 1 2 2 N N D D D t 3. ผลลัพธ์การพัฒนาที่คาดหวัง 3.1 เชิงปริมาณ - ผู้เรียนร้อยละ 70 มีทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น - ผู้เรียนร้อยละ 70 มีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ระดับมาก 3.2 เชิงคุณภาพ - ผู้เรียนมีทักษะการคิดวิเคราะห์และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน(ความรู้/ทักษะ) สูงขึ้น - ผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ - ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ลงชื่อ........................................................................ (นางนิอารีฟา บินหะยีอารง) ตําแหน่ง ครู ผู้จัดทําข้อตกลงในการพัฒนางาน 1 ตุลาคม 2564 ความเห็นของผู้อํานวยการสถานศึกษา ( ) เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน ( ) ไม่เห็นชอบให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน โดยมีข้อเสนอแนะเพื่อนําไปแก้ไข และเสนอ เพื่อพิจารณาอีกครั้ง ดังนี้ ....................................................................................................................................... .............................................................................................................................................................................. ลงชื่อ.................................................................... (นางชไมพร จะระแอ) ตําแหน่ง ผู้อํานวยการโรงเรียนอนุบาลยะรัง 1 ตุลาคม 2564