The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by hmiv1159, 2018-09-11 04:03:12

69 ทวิ 69 ตรี

รายงาน

เรื่อง ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคลกบั การบัญชี ( 69 ทวแิ ละ69 ตรี )

จัดทาโดย

นาย ณรงค์ฤทธ์ิ บุตรเพชร เลขท่ี 9

นางสาว ธารารัตน์ ชนอารี เลขท่ี 13

นางสาว พนดิ า เยน็ ฉ่า เลขท่ี 18

นางสาว พชั ริตา ไชยา เลขที่ 19

นางสาว ลลติ า บุญเลศิ เลขท่ี 22

นางสาว สโรชา อ่นุ จติ ร เลขที่ 30

นางสาว อรอนงค์ ยงิ่ รัมย์ เลขท่ี 32

นางสาว อารีรัตน์ ไกรสวสั ด์ิ เลขที่ 34

นางสาว เอมกิ า หวานเสนาะ เลขท่ี 38

นางสาว ณฐั ริกา เชิดชู เลขที่ 39

ระดบั ช้ัน ปวช.3/4 สาขาวชิ า การบัญชี

เสนอ

อาจารย์ ชนาภา ขากล่อม

รายงานนเี้ ป็ นส่วนหน่ึงของวชิ า ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคลกบั การบัญชี(2201-2006)

ภาคเรียนท่ี 1 ปี การศึกษา 2561

วทิ ยาลยั เทคนิคระยอง

69 ทวิ

ภายในหน่ึงร้อยห้าสิบวนั นบั แต่วนั สุดทา้ ยของรอบระยะเวลาบญั ชี ใหบ้ ริษทั หรือห้าง
หุน้ ส่วนนิติบุคคลยืน่ รายการซ่ึงจาเป็นตอ้ งใชใ้ นการคานวณภาษีตามมาตรา 65 มาตรา 65 ทวิ
มาตรา 66 และมาตรา 67 เกี่ยวกบั รายรับ รายจ่าย กาไรสุทธิและรายการอื่น ๆ ต่อเจา้ พนกั งาน
ประเมินตามแบบท่ีอธิบดีกาหนด พร้อมด้วยบญั ชีงบดุล บญั ชีทาการ และบญั ชีกาไรขาดทุน
บญั ชีรายรับรายจ่าย หรือบญั ชีรายรับก่อนหกั รายจ่ายท่ีมีบุคคลตามมาตรา 3 สัน ตรวจสอบและ
รับรองในรอบระยะเวลาบญั ชีดงั กล่าว แลว้ แต่กรณี

( พระราชบญั ญตั ิแกไ้ ขเพ่ิมเติม (ฉบบั ท่ี 25) พ.ศ. 2525 ใชบ้ งั คบั สาหรับรอบระยะเวลา
บญั ชีเร่ิมในหรือหลงั 1 ม.ค. 2526 เป็นตน้ ไป )

ประกาศอธบิ ดีกรมสรรพากร

เกย่ี วกบั ภาษเี งินได้ (ฉบบั ท่ี 16)

เร่ือง กาหนดแบบแสดงรายการเกยี่ วกบั ภาษเี งินได้ของบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิตบิ ุคคล

---------------------------------------------

อาศยั อานาจตามความในมาตรา 67 ทวิ มาตรา 68 มาตรา 69 ทวิ มาตรา 70 และมาตรา
70 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรจึงกาหนดแบบแสดงรายการเก่ียวกบั ภาษีเงิน
ไดข้ องบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล เพ่ือใชย้ น่ื รายการต่อเจา้ พนกั งานประเมินตามประมวล
รัษฎากร ดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ 1 ให้ยกเลิกประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเก่ียวกบั ภาษีเงินได้ (ฉบบั ที่ 14) เร่ือง
กาหนดแบบแสดงรายการเก่ียวกับภาษีเงินได้ของบริษทั ห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ลงวนั ที่ 1
พฤษภาคม 2524

ขอ้ 2 ใหก้ าหนดแบบดงั ต่อไปน้ีเป็นแบบแสดงรายการเก่ียวกบั ภาษีเงินไดข้ องบริษทั
หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล

(1) แบบ ภ.ง.ด.50 ใชส้ าหรับบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตาม
กฎหมายไทยหรือต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ และกระทากิจการในประเทศไทย ตาม
มาตรา 66 วรรคหน่ึง แห่งประมวลรัษฎากร

“(2) แบบ ภ.ง.ด.51 ทา้ ยประกาศน้ี ใชส้ าหรับ
(ก) กรณีบริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่ตอ้ งจดั ทาประมาณการกาไร

สุทธิหรือขาดทุนสุทธิ ตามมาตรา 67 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร
(ข) กรณีบริษทั จดทะเบียน ธนาคารพาณิชยต์ ามกฎหมายว่าดว้ ยการ

ธนาคารพาณิชย์ หรือบริษัทเงินทุน บริษัทหลักทรัพยห์ รือบริษทั เครดิตฟองซิเอหรือตาม
กฎหมายว่าดว้ ยการประกอบธุรกิจเงินทุน ธุรกิจหลกั ทรัพย์ และธุรกิจเครดิตฟองซิเอร์ หรือ
บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ตามหลกั เกณฑ์ วธิ ีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกาหนดตามมาตรา
67 ทวิ (2) แห่งประมวลรัษฎากร ”
( แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบบั ที่ 42) ใชบ้ งั คบั สาหรับการยืน่ รายการ
ต้งั แต่ 26 มี.ค. 2535 เป็นตน้ ไป)

(3) แบบ ภ.ง.ด.52 ใชส้ าหรับบริษทั หรือหา้ งหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตาม
กฎหมายของต่างประเทศ และกระทากิจการในท่ีอื่น ๆ รวมท้งั ในประเทศไทย ตามมาตรา 66

วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร ซ่ึงดาเนินกิจการขนส่งผ่านประเทศต่าง ๆ ตามมาตรา 67 แห่ง
ประมวลรัษฎากร

(4) แบบ ภ.ง.ด.53 ใชส้ าหรับ
(ก) กรณีที่รัฐบาล องคก์ ารของรัฐบาล เทศบาล สุขาภิบาล หรือองคก์ าร

บริหารราชการส่วนทอ้ งถิ่นอ่ืน เป็นผจู้ ่ายเงินไดพ้ ึงประเมิน ตามมาตรา 40 แห่งประมวลรัษฎากร
ใหแ้ ก่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลคร้ังหน่ึง ๆ ต้งั แต่ 500 บาทข้ึนไป และตอ้ งหกั ภาษีไว้ ณ
ที่จ่าย ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

(ข) กรณีที่มีการจ่ายเงินใหแ้ ก่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลคร้ังหน่ึง ๆ
ต้งั แต่ 500 บาทข้ึนไป และตอ้ งหกั ภาษีไว้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร

(5) แบบ ภ.ง.ด.54 ใชส้ าหรับ
(ก) กรณีผจู้ ่ายเงินไดพ้ ึงประเมิน ตามมาตรา 40 (2)(3)(4)(5) หรือ (6) แห่ง

ประมวลรัษฎากร ใหแ้ ก่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลที่ต้งั ข้ึนตามกฎหมายของต่างประเทศ
และมิไดป้ ระกอบกิจการในประเทศไทย และตอ้ งหกั ภาษีจากเงินไดพ้ ึงประเมินที่จ่ายไม่ว่าจะ
เป็นการจ่ายนอกหรือในประเทศไทย ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

(ข) กรณีบริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลท่ีต้งั ข้ึนตามกฎหมายของ
ต่างประเทศและประกอบกิจการในประเทศไทย จาหน่ายเงินกาไรหรือเงินประเภทอื่นใดท่ีกนั
ไวจ้ ากกาไรหรือถือไดว้ า่ เป็นเงินกาไรออกไปจากประเทศไทย และตอ้ งเสียภาษีเงินไดใ้ นจานวน
ที่จาหน่าย ตามมาตรา 70 ทวแิ ห่งประมวลรัษฎากร

“(6) แบบ ภ.ง.ด.55 ใชส้ าหรับมูลนิธิหรือสมาคมที่ประกอบกิจการซ่ึงรายได้
ตาม (3) ของคานิยาม “บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล” ตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร”
(แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบบั ที่ 21) ใชบ้ งั คบั สาหรับรอบระยะเวลา
บญั ชีเริ่มในหรือหลงั 1 มกราคม 2526 เป็นตน้ ไป)

“แบบแสดงรายการตามวรรคหน่ึง ใหใ้ ชแ้ บบแสดงรายการท่ี
กรมสรรพากรจดั พมิ พข์ ้ึนเท่าน้นั เวน้ แต่อธิบดีจะสั่งเป็นอยา่ งอ่ืน”
(แกไ้ ขเพม่ิ เติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากร (ฉบบั ท่ี 56) ใชบ้ งั คบั 23 พฤศจิกายน 2538 เป็น
ตน้ ไป)

“แบบแสดงรายการตาม (4) ใชย้ นื่ โดยแสดงรายการภาษีเงินไดห้ กั ณ ท่ี
จ่าย ดว้ ยส่ือบนั ทึกในระบบคอมพวิ เตอร์ตามรูปแบบ (Format) ของขอ้ มูลที่อธิบดีกรมสรรพากร

กาหนดกไ็ ด้ โดยผปู้ ระสงคจ์ ะยนื่ แบบแสดงรายการดว้ ยสื่อบนั ทึกในระบบคอมพิวเตอร์ ตอ้ งยน่ื
คาขอต่ออธิบดีกรมสรรพากร”
(แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยประกาศอธิบดีกรมสรรพากรเก่ียวกบั ภาษีเงินได้ (ฉบบั ท่ี 160) ใชบ้ งั คบั 1
ธนั วาคม 2549 เป็นตน้ ไป)

ขอ้ 3 แบบแสดงรายการที่ยกเลิกตามประกาศฉบบั น้ี ใหย้ งั คงใช้ไดต้ ่อไปจนกว่าจะ
หมด

ขอ้ 4 ประกาศน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั สาหรับการยน่ื รายการต้งั แต่วนั ท่ีลงในประกาศน้ีเป็นตน้
ไป

ประกาศ ณ วนั ท่ี 5 กมุ ภาพนั ธ์ พ.ศ. 2525

ประกาศกรมสรรพากร
เร่ือง การกาหนดแบบแสดงรายการภาษี
---------------------------------------------
ดว้ ยในการย่ืนแบบแสดงรายการภาษีเพื่อชาระภาษีหรือนาส่งภาษีเงินไดบ้ ุคคล
ธรรมดา ภาษีเงินไดน้ ิติบุคคล ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่าย ภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีธุรกิจเฉพาะ ผูม้ ี
หนา้ ที่เสียภาษีหรือนาส่งภาษี จะตอ้ งยน่ื แบบแสดงรายการภาษีโดยใชแ้ บบแสดงรายการภาษีที่
กรมสรรพากรจดั พมิ พข์ ้ึนเท่าน้นั ตามท่ีกาหนดไวใ้ นประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกบั ภาษี
เงินได้ (ฉบบั ที่ 16) เรื่อง กาหนดแบบแสดงรายการเก่ียวกบั ภาษีเงินไดข้ องบริษทั หรือ ห้าง
หุน้ ส่วนนิติบุคคล ลงวนั ท่ี 5 กุมภาพนั ธ์ พ.ศ.2525 ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกบั ภาษี
เงินได้ (ฉบบั ที่ 28) เรื่อง กาหนดแบบเกี่ยวกบั ภาษเี งินไดบ้ ุคคลธรรมดา ลงวนั ที่ 20 เมษายน พ.ศ.
2531 ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกบั ภาษีเงินได้ (ฉบบั ท่ี 58) เร่ือง กาหนดแบบแสดง
รายการเกี่ยวกบั ภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาหัก ณ ท่ีจ่าย ลงวนั ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2538
ประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เกี่ยวกบั ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ฉบบั ท่ี 65) เรื่อง กาหนดแบบเก่ียวกบั
ภาษมี ูลค่าเพิม่ ลงวนั ท่ี 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2538 และประกาศอธิบดีกรมสรรพากร เก่ียวกบั ภาษี
ธุรกิจเฉพาะ (ฉบบั ท่ี 2) เรื่อง กาหนดแบบเกี่ยวกบั ภาษีธุรกิจเฉพาะ ลงวนั ที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.
2538
เพื่อเป็นการอานวยความสะดวกในการยน่ื แบบแสดงรายการภาษีเพื่อชาระภาษีหรือ
นาส่งภาษี อธิบดีกรมสรรพากรอาศยั อานาจตามประกาศอธิบดีกรมสรรพากรดงั กล่าวอนุมตั ิให้
ใชแ้ บบแสดงรายการภาษที ี่ผมู้ ีหนา้ ท่ีเสียภาษีหรือนาส่งภาษพี มิ พจ์ ากระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต
ทางเวบ็ ไซตข์ องกรมสรรพากร www.rd.go.th สาหรับใชใ้ นการยน่ื แบบแสดง รายการภาษีเพ่ือ
ชาระภาษีหรือนาส่งภาษี ดงั น้ัน ผูม้ ีหนา้ ที่เสียภาษีหรือนาส่งภาษีจึงมีสิทธิท่ีจะใช้แบบแสดง
ร า ย ก า ร ภ า ษี ที่ พิ ม พ์ จ า ก ร ะ บ บ เ ค รื อ ข่ า ย อิ น เ ท อ ร์ เ น็ ต ท า ง เ ว็ บ ไ ซ ต์ ข อ ง
กรมสรรพากร www.rd.go.th หรือจะใชแ้ บบแสดงรายการภาษีที่กรมสรรพากรจดั พิมพข์ ้ึน ใน
การยน่ื แบบแสดง รายการภาษีเพ่ือชาระภาษีหรือนาส่งภาษีไดต้ ้งั แต่วนั ท่ีที่ลงในประกาศน้ีเป็ น
ตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2545

ประกาศอธิบดกี รมสรรพากร

เกยี่ วกบั ภาษเี งินได้ (ฉบบั ที่ 111)

เรื่อง กาหนดการยน่ื แบบแสดงรายการภาษี การชาระภาษแี ละสถานทยี่ นื่ แบบแสดงรายการภาษี
---------------------------------------------

อาศยั อานาจตามความในมาตรา 11 มาตรา 59 และมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวล
รัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดการยนื่ แบบแสดงรายการภาษี การชาระภาษีและสถานท่ี
ยนื่ แบบแสดงรายการภาษี สาหรับการย่นื แบบแสดงรายการภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่าย ผ่านระบบ
เครือข่ายอินเทอร์เน็ตไวด้ งั ต่อไปน้ี

ขอ้ 1 กาหนดให้การยื่นรายการขอ้ มูลตามแบบ ภ.ง.ด.53 ผ่านระบบเครือข่าย
อินเทอร์เน็ต ทางเวบ็ ไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th เป็นการยนื่ แบบแสดง
รายการภาษี กรณีการจ่ายเงินไดใ้ หแ้ ก่บริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคล ตามมาตรา 3 เตรส และ
มาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

การยนื่ แบบแสดงรายการภาษตี ามวรรคหน่ึง มิใหใ้ ชก้ บั การยน่ื แบบแสดง รายการ
ภาษีเกินกาหนดเวลาตามท่ีกาหนดในขอ้ 3

ขอ้ 2 ผมู้ ีหนา้ ที่นาส่งภาษีเงินไดท้ ี่มีความประสงคจ์ ะยน่ื แบบแสดงรายการภาษตี ามขอ้
1 จะตอ้ งย่ืนคาขอยื่นแบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ตต่ออธิบดี
กรมสรรพากรและตอ้ งไดร้ ับอนุมตั ิแลว้ มีสิทธิยน่ื รายการขอ้ มูลตามแบบ ภ.ง.ด.53 ผา่ นระบบ
เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทางเวบ็ ไซต์ (Web Site) ของกรมสรรพากร www.rd.go.th โดยใหถ้ ือเป็น
สถานที่ยนื่ แบบแสดงรายการภาษไี ดอ้ ีกแห่งหน่ึง

ขอ้ 3 การยนื่ แบบแสดงรายการภาษีผ่านระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ใหย้ น่ื ไดภ้ ายใน
เจด็ วนั นบั แต่วนั สิ้นเดือนของเดือนท่ีจ่ายเงินไดพ้ ึงประเมิน โดยไม่เวน้ วนั หยดุ ราชการ กรณีวนั
สุดทา้ ยของการย่ืนแบบแสดงรายการภาษีตรงกบั วนั หยุดราชการ ให้ยื่นได้ภายในวนั ทาการ
ถดั ไป และใหย้ นื่ แบบแสดงรายการภาษภี ายในเวลา 22.00 นาฬิกา ของแต่ละวนั

ข้อ 4 ผูม้ ีหน้าท่ีนาส่งภาษีเงินได้ต้องนาส่งเงินภาษี พร้อมกับการยื่นแบบแสดง
รายการภาษผี า่ นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต การนาส่งเงินภาษีดงั กล่าวจะตอ้ งใชว้ ธิ ีการโอนเงิน
เขา้ บญั ชีเงินฝากธนาคารของกรมสรรพากร ผา่ นระบบอิเลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Payment)

ขอ้ 5 ใหผ้ อู้ านวยการกองคลงั กรมสรรพากร เป็น "เจา้ หนา้ ที่รับชาระเงินภาษีอากร"
เพื่อรับชาระเงินภาษี

ขอ้ 6 การนาส่งภาษีเงินไดต้ ามประกาศน้ีให้ถือว่าเป็ นการสมบูรณ์ เมื่อไดม้ ีการย่ืน
แบบแสดงรายการภาษีผา่ นระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยไดโ้ อนเงินเขา้ บญั ชีเงินฝากธนาคาร
ของกรมสรรพากร และไดร้ ับใบเสร็จรับเงินของกรมสรรพากรตามจานวนเงิน ซ่ึง "เจา้ หนา้ ท่ีรับ
ชาระเงินภาษอี ากร" ตามขอ้ 5 ไดล้ งลายมือชื่อรับเงินแลว้

การลงลายมือชื่อตามวรรคหน่ึงจะจดั พิมพข์ ้ึนดว้ ยระบบคอมพิวเตอร์กไ็ ด้ ขอ้ 7
ประกาศน้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั สาหรับการยน่ื รายการต้งั แต่วนั ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2545 เป็นตน้ ไป

ประกาศ ณ วนั ที่ 16 กนั ยายน พ.ศ. 2545

คาวนิ ิจฉัยของคณะกรรมการวนิ ิจฉัยภาษอี ากร
ท่ี 4/2526

เรื่อง การหักภาษเี งนิ ได้ ณ ทจ่ี ่าย กรณบี ริษทั โอนกรรมสิทธ์ใิ นอสังหาริมทรัพย์ให้แก่ส่วนราชการ

---------------------------------------

ดว้ ยกรมสรรพากรไดข้ อใหค้ ณะกรรมการวินิจฉัยภาษีอากร วนิ ิจฉัยว่า กรณีบริษทั ผู้
ชนะการประมูลเพ่ือทาและขายส่งสุราขาว-ผสม ของโรงงานสุรา กรมสรรพสามิตจดทะเบียน
โอนกรรมสิทธ์ิที่ดินและโรงงานที่ก่อสร้างเสร็จใหแ้ ก่กรมสรรพสามิต ก่อนวนั ที่ บริษทั จะไดร้ ับ
สิ ทธิ ในการทาแ ละข า ยส่ งสุ รา ขา วผส มของโรงงา นสุ รา กรม สรรพสา มิ ตโดยบริ ษัทจะ ไ ม่
เรียกร้องค่าตอบแทนใดๆ ท้งั สิ้น ตามเงื่อนไขในสัญญาที่บริษทั ทากบั กรมสรรพสามิตน้นั จะเขา้
ลกั ษณะเป็นการโอนกรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพยใ์ หแ้ ก่ส่วนราชการโดยไม่มีค่าตอบแทน ซ่ึง
ไม่ถือเป็ นการขายตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากร ตามนยั มาตรา 3 (1) แห่งพระราช
กฤษฎีกาฯ (ฉบบั ที่ 121) พ.ศ. 2525 หรือไม่ และจะตอ้ งถูกหกั ภาษเี งินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 69
ทวิ แห่งประมวลรัษฎากรหรือไม่

คณะกรรมการฯ ไดพ้ ิจารณาแลว้ ในการประชุมคร้ังที่ 9/2526 วนั ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ.
2526 มีคาวนิ ิจฉยั ดงั ต่อไปน้ี

(1) กรณีที่บริษทั ผชู้ นะการประมูลเพ่ือทาและขายส่งสุราขาวผสม ของโรงงาน
สุรา กรมสรรพสามิต จดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิที่ดินและโรงงานที่ก่อสร้างเสร็จให้แก่กรม
สรรพสามิตตามเงื่อนไขในสัญญาท่ีบริษทั ทาไวก้ บั กรมสรรพสามิต เขา้ ลกั ษณะเป็นการโอน
กรรมสิทธ์ิในอสังหาริมทรัพยใ์ หแ้ ก่ส่วนราชการ โดยมีค่าตอบแทน คือ บริษทั จะไดร้ ับสิทธิใน
การทาและขายส่งสุขาขาวผสม ของโรงงานสุรา กรมสรรพสามิตมีกาหนดเวลา 15 ปี นบั ต้งั แต่
วนั ท่ี 1 มกราคม 2528 ถึงวนั ที่ 31 ธนั วาคม 2542 เป็นการตอบแทน จึงถือเป็นการขายตามมาตรา
39 แห่งประมวลรัษฎากร

(2) ถา้ การจดทะเบียนโอนกรรมสิทธ์ิที่ดินและโรงงานท่ีก่อสร้างเสร็จใหแ้ ก่กรม
สรรพสามิตตาม (1) บริษทั ไดก้ ระทาก่อนวนั ท่ีบริษทั ไดร้ ับสิทธิในการทาและขายส่งสุราขาว-
ผสม ของโรงงานสุรา กรมสรรพสามิต จึงยงั ไม่มีกรณีตอ้ งหกั ภาษีเงินได้ ณ ท่ีจ่ายตามมาตรา 69
ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร เน่ืองจากสิทธิดงั กล่าว แมจ้ ะถือเป็นทรัพยส์ ินหรือประโยชน์อยา่ งอ่ืน
ท่ีอาจคิดคานวณไดเ้ ป็ นเงินก็ตาม แต่ก็เป็นเพียงสิทธิท่ีบริษทั จะไดร้ ับในภายหนา้ จึงยงั ไม่เป็ น
เงินได้พึงประเมินตามมาตรา 39 แห่งประมวลรัษฎากรในขณะที่มีการโอนกรรมสิทธ์ิใน
อสงั หาริมทรัพยน์ ้นั

คาวนิ ิจฉยั น้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ท่ีลงในคาวนิ ิจฉยั น้ีเป็นตน้ ไป

ส่ัง ณ วนั ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2526

คาสั่งกรมสรรพากร

ที่ ท.ป. 117/2545

เรื่อง มอบอานาจให้ผู้อานวยการสานักบริหารภาษธี ุรกจิ ขนาดใหญ่ สั่งและปฏบิ ตั ิราชการ

แทนอธิบดีกรมสรรพากร
--------------------------------
เพื่อให้การปฏิบตั ิราชการตามประมวลรัษฎากรบางกรณีสาหรับสานกั บริหาร ภาษี
ธุรกิจขนาดใหญ่เป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว อาศยั อานาจตามความในมาตรา 38(7) แห่ง
พระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 และมาตรา 2 แห่งประมวลรัษฎากร
อธิบดีกรมสรรพากรจึงมีคาสงั่ ดงั ต่อไปน้ี
ขอ้ 1 ใหย้ กเลิก
(1) คาส่ังกรมสรรพากร ที่ ท.ป.62/2539 เรื่อง มอบหมายใหเ้ จา้ พนกั งาน
สรรพากรส่ังขีดช่ือผปู้ ระกอบการจดทะเบียนออกจากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 85/19
แห่งประมวลรัษฎากร ลงวนั ท่ี 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2539 ซ่ึงแกไ้ ขเพิ่มเติมโดยคาสั่ง
กรมสรรพากร ท่ี ท.ป. 110/2545 เรื่อง มอบหมายให้เจ้าพนักงานสรรพากรส่ังขีดช่ือ
ผูป้ ระกอบการจดทะเบียน ออกจากทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 85/19 แห่งประมวล
รัษฎากร ลงวนั ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2545
(2) คาส่ังกรมสรรพากร ที่ ท.ป. 94/2543 เรื่อง มอบอานาจการสั่งอนุมตั ิ ใหถ้ ือ
เป็นรายจ่าย กรณีมิไดป้ ฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ งในการส่งเงินสะสมหรือเงินสมทบเขา้ กองทุนสารองเล้ียง
ชีพ และการสั่งอนุมตั ิให้เป็ นผูป้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมยอ้ นหลงั การขยายเวลา
การชาระอากรเป็ นตวั เงิน และการสั่งอนุมตั ิการยนื่ แบบแสดงรายการเกี่ยวกบั ภาษีเงินได้ กรณี
มิไดใ้ ชแ้ บบแสดงรายการตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกาหนด สาหรับศนู ยบ์ ริหารภาษีธุรกิจ
ขนาดใหญ่ ลงวนั ที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2543
(3) คาสั่งกรมสรรพากร ท่ี ท.ป. 107/2545 เร่ือง มอบอานาจสั่งอนุมตั ิให้
ผปู้ ระกอบการจดทะเบียนจดั ทารายการในใบกากบั ภาษีเป็ นภาษาต่างประเทศ หรือเป็ นหน่วย
เงินตราต่างประเทศ ตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่งประมวลรัษฎากร สาหรับศูนยบ์ ริหาร
ภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่ ลงวนั ที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2545
(4) คาสั่งกรมสรรพากร ท่ี ท. 486/2542 เร่ือง มอบอานาจหนา้ ที่สั่งและปฏิบตั ิ
ราชการแทนอธิบดี สาหรับศนู ยบ์ ริหารภาษธี ุรกิจขนาดใหญ่ ลงวนั ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2542

ขอ้ 2 มอบอานาจใหผ้ อู้ านวยการสานกั บริหารภาษีธุรกิจขนาดใหญ่สั่งและปฏิบตั ิ
ราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร สาหรับผูป้ ระกอบธุรกิจขนาดใหญ่ตามที่กรมสรรพากร
กาหนด ดงั ต่อไปน้ี

(1) การอนุมตั ิใหบ้ ริษทั หรือหา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลถือเงินท่ีจ่ายสมทบเขา้ กองทุน
สารองเล้ียงชีพเป็นรายจ่ายในการคานวณกาไรสุทธิและขาดทุนสุทธิในรอบระยะเวลา บญั ชีท่ี
แกไ้ ขให้ถูกตอ้ งหรือในรอบระยะเวลาบญั ชีที่ปฏิบตั ิไม่ถูกตอ้ งไดส้ าหรับกรณีบริษทั หรือ ห้าง
หุ้นส่วนนิติบุคคลมิไดป้ ฏิบตั ิให้ถูกตอ้ ง ในการส่งเงินสะสมหรือเงินสมทบเขา้ กองทุนสารอง
เล้ียงชีพ ตามขอ้ 5 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 183 (พ.ศ. 2533) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา่ ดว้ ยกองทุนสารองเล้ียงชีพ

(2) การอนุมตั ิใหเ้ ป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมยอ้ นหลงั ตาม
มาตรา 85 วรรคส่ี แห่งประมวลรัษฎากร

(3) การอนุมตั ิขยายเวลาการชาระอากรเป็นตวั เงินตามมาตรา 3 อฏั ฐ แห่ง
ประมวลรัษฎากร ในกรณีผมู้ ีหนา้ ที่เสียอากรไดเ้ สียอากรโดยวิธีปิ ดแสตมป์ บนตราสาร สาหรับ
ตราสารที่กาหนดให้ตอ้ งชาระอากรเป็ นตวั เงินแทนการปิ ดแสตมป์ อากรตามประกาศอธิบดี
กรมสรรพากรท่ีออกโดยอาศยั อานาจ ตามมาตรา 123 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร ซ่ึงต่อมาไดน้ า
ตราสารดงั กล่าวไปชาระอากรเป็นตวั เงินไวอ้ ีก และไดข้ อขยายเวลาการชาระอากรเป็นตวั เงิน

(4) การอนุมตั ิใหถ้ ือว่าผมู้ ีหนา้ ที่หกั ภาษีไดย้ นื่ แบบแสดงรายการนาส่งภาษี
ถูกตอ้ งตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกาหนดโดยอนุโลม ในกรณีผูจ้ ่ายเงินไดซ้ ่ึงมีหนา้ ท่ีหัก
ภาษีเงินไดไ้ ดน้ าส่งภาษีโดยมิไดใ้ ชแ้ บบแสดงรายการตามแบบท่ีอธิบดีกรมสรรพากรกาหนด
สาหรับการหกั ภาษี ตามมาตรา 3 เตรส มาตรา 50 มาตรา 69 ทวิ และมาตรา 70 แห่งประมวล
รัษฎากร

(5) การอนุมตั ิใหผ้ ปู้ ระกอบการจดทะเบียนจดั ทารายการในใบกากบั ภาษีเป็น
ภาษาต่างประเทศ หรือเป็ นหน่วยเงินตราต่างประเทศ ตามมาตรา 86/4 และมาตรา 86/6 แห่ง
ประมวลรัษฎากร

(6) การส่ังขีดชื่อผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมออกจากทะเบียน
ภาษมี ูลค่าเพิ่ม ตามมาตรา 85/19 แห่งประมวลรัษฎากร

(7) การอนุมตั ิขยายกาหนดเวลาการอุทธรณ์ตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร
ตามมาตรา 3 อฏั ฐะ วรรคหน่ึง แห่งประมวลรัษฎากร

(8) การอนุมตั ิใหท้ ุเลาการเสียภาษีอากรระหว่างรอคาวินิจฉยั อุทธรณ์ หรือคา
พพิ ากษาของศาล ตามมาตรา 31 แห่งประมวลรัษฎากร

(9) การรับจานอง การรับจานา การไถ่ถอนการจานอง และการคืน ทรัพยส์ ินท่ี
จานากรณีการใชท้ รัพยส์ ินเป็นหลกั ทรัพยค์ ้าประกนั หน้ีภาษอี ากร และใหม้ ีอานาจ มอบหมายให้
เจา้ หนา้ ที่ไปทาการดงั กล่าวแทนไดด้ ว้ ย

(10) การสั่งคืนสญั ญาค้าประกนั ที่ใชค้ ้าประกนั หน้ีภาษีอากรคา้ งระหวา่ งขอทุเลา
การเสียภาษีอากรหรือการผ่อนชาระภาษีอากรคา้ ง เม่ือปรากฏว่าผูค้ า้ งภาษีอากรไดช้ าระภาษี
อากรคา้ งครบถว้ นแลว้ หรือไดม้ ีคาวินิจฉยั อุทธรณ์หรือคาพิพากษาถึงที่สุดแลว้ ใหป้ ลดหน้ีภาษี
อากรคา้ ง รวมถึงการแจง้ หมดภาระผกู พนั ตามสัญญาค้าประกนั ไปยงั ผคู้ ้าประกนั ดว้ ย

“(11) การอนุมตั ิใหเ้ ป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะยอ้ นหลงั ตาม
มาตรา 91/12 วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร

(12) การส่ังขีดชื่อผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีธุรกิจเฉพาะออกจากทะเบียน
ภาษีธุรกิจเฉพาะ ตามมาตรา 91/21(3) แห่งประมวลรัษฎากร”
(แกไ้ ขเพมิ่ เติมโดยคาสัง่ กรมสรรพากรท่ี ท.ป.132/2546 ใชบ้ งั คบั 10 กนั ยายน 2546 เป็นตน้ ไป)

“(13) การอนุมตั ิใหเ้ ป็นสานกั งานใหญ่ขา้ มประเทศ ตามมาตรา 9 แห่งพระราช
กฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าดว้ ยการลดอตั ราและยกเวน้ รัษฎากร (ฉบบั ที่
586) พ.ศ. 2558

(14) การอนุมตั ิใหเ้ ป็นบริษทั การคา้ ระหว่างประเทศ ตามมาตรา 8 แห่งพระราช
กฤษฎีกา ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าดว้ ยการลดอตั ราและยกเวน้ รัษฎากร (ฉบบั ท่ี
587) พ.ศ. 2558”
(แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยคาส่ังกรมสรรพากรท่ี ท.ป.247/2558 ใชบ้ งั คบั 30 มิถุนายน พ.ศ. 2558 เป็น
ตน้ ไป)

ขอ้ 3 คาสัง่ น้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ที่ 11 ตุลาคม พ.ศ. 2545 เป็นตน้ ไป
สง่ั ณ วนั ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2545

คาสั่งกรมสรรพากร

ท่ี ท.ป.130/2546

เรื่อง มอบอานาจให้สรรพากรภาคสั่งและปฏบิ ตั ิราชการแทนอธิบดกี รมสรรพากร
--------------------------------

เพ่ือใหก้ ารปฏิบตั ิราชการตามประมวลรัษฎากรบางกรณีสาหรับสานกั งานสรรพากร
ภาคเป็นไปโดยสะดวกและรวดเร็ว อาศยั อานาจตามความในมาตรา 38(7) แห่งพระราชบญั ญตั ิ
ระเบียบบริหารราชการแผน่ ดิน พ.ศ. 2534 ซ่ึงแกไ้ ขเพิ่มเติมโดยพระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหาร
ราชการแผน่ ดิน (ฉบบั ท่ี 5) พ.ศ. 2545 และมาตรา 2 แห่งประมวลรัษฎากร อธิบดีกรมสรรพากร
จึงมีคาสง่ั ดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ 1 ใหย้ กเลิกคาส่งั กรมสรรพากร ที่ ท.ป.118/2545 เรื่อง มอบอานาจใหส้ รรพากร
ภาคสงั่ และปฏิบตั ิราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ลงวนั ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2545

ขอ้ 2 มอบอานาจใหส้ รรพากรภาคสั่งและปฏิบตั ิราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร
ในเขตทอ้ งท่ีสานกั งานสรรพากรภาคน้นั ดงั ต่อไปน้ี

(1) การใชอ้ านาจตามมาตรา 12 และมาตรา 12 ตรี แห่งประมวลรัษฎากร
(2) การอนุมตั ิให้บริษทั หรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล ถือเงินท่ีจ่ายสมทบเขา้

กองทุนสารองเล้ียงชีพเป็ นรายจ่ายในการคานวณกาไรสุ ทธิและขาดทุนสุ ทธิในรอบระยะเวลา
บญั ชีท่ีแกไ้ ขใหถ้ กู ตอ้ งหรือในรอบระยะเวลาบญั ชีท่ีปฏิบตั ิไม่ถูกตอ้ งได้ สาหรับกรณีบริษทั หรือ
หา้ งหุน้ ส่วนนิติบุคคลมิไดป้ ฏิบตั ิใหถ้ ูกตอ้ งในการส่งเงินสะสมหรือเงินสมทบเขา้ กองทุนสารอง
เล้ียงชีพตามขอ้ 5 แห่งกฎกระทรวง ฉบบั ที่ 183 (พ.ศ. 2533) ออกตามความในประมวลรัษฎากร
วา่ ดว้ ยกองทุนสารองเล้ียงชีพ

"(3) การอนุมตั ิให้ถือว่าผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษีไดย้ ืน่ แบบแสดงรายการนาส่งภาษี
ถูกตอ้ งตามแบบท่ีอธิบดีกรมสรรพากรกาหนดโดยอนุโลม ในกรณีผูจ้ ่ายเงินไดซ้ ่ึงมีหนา้ ท่ีหัก
ภาษีเงินไดไ้ ดน้ าส่งภาษีโดยมิไดใ้ ชแ้ บบแสดงรายการตามแบบท่ีอธิบดีกรมสรรพากรกาหนด
สาหรับการหกั ภาษี ตามมาตรา 3 เตรส มาตรา 50 มาตรา 69 ทวิ และมาตรา 70 และมาตรา 70
ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร "

(แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยคาสง่ั กรมสรรพากรท่ี ท.ป.216/2557 ใชบ้ งั คบั 14 มกราคม พ.ศ.
2557 เป็นตน้ ไป)

(4) การอนุมตั ิขยายกาหนดเวลาการอุทธรณ์ตามมาตรา 30 แห่งประมวลรัษฎากร
ตามมาตรา 3 อฏั ฐะ วรรคหน่ึง แห่งประมวลรัษฎากร

(5) การอนุมตั ิใหท้ ุเลาการเสียภาษีอากรระหว่างรอคาวนิ ิจฉัยอุทธรณ์ หรือคา
พิพากษาของศาล ตามมาตรา 31 แห่งประมวลรัษฎากร

(6) การรับจานอง การรับจานา การไถ่ถอนการจานอง และการคืน ทรัพยส์ ินท่ี
จานากรณีการใชท้ รัพยส์ ินเป็นหลกั ทรัพยค์ ้าประกนั หน้ีภาษีอากร และใหม้ ีอานาจมอบหมายให้
เจา้ หนา้ ท่ีไปทาการดงั กล่าวแทนไดด้ ว้ ย

(7) การส่ังคืนสัญญาค้าประกนั ที่ใชค้ ้าประกนั หน้ีภาษีอากรคา้ งระหวา่ งขอทุเลา
การเสียภาษีอากรหรือการผ่อนชาระภาษีอากรคา้ ง เม่ือปรากฏว่าผูค้ า้ งภาษีอากรไดช้ าระภาษี

อากรคา้ งครบถว้ นแลว้ หรือไดม้ ีคาวินิจฉยั อุทธรณ์หรือคาพิพากษาถึงท่ีสุดแลว้ ใหป้ ลดหน้ีภาษี
อากรคา้ ง รวมถึงการแจง้ หมดภาระผกู พนั ตามสญั ญาค้าประกนั ไปยงั ผคู้ ้าประกนั ดว้ ย

“(๘) การอนุมตั ิใหเ้ ป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิมก่อนยน่ื คาขอจด
ทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม ตามมาตรา ๘๕ วรรคสี่ แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะกรณีที่
ผปู้ ระกอบการไดป้ ระกอบกิจการโดยไม่ไดจ้ ดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม แต่ไดป้ ฏิบตั ิเก่ียวกบั การ
เสียภาษีมูลค่าเพิ่มเช่นเดียวกบั ผูป้ ระกอบการจดทะเบียน ดังต่อไปน้ี ก่อนการจดทะเบียน
ภาษีมูลค่าเพ่ิมใหผ้ ปู้ ระกอบการเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนต้งั แต่วนั ท่ีความรับผดิ ในการเสีย
ภาษมี ลู ค่าเพ่ิมเกิดข้ึนเป็นคร้ังแรก

(ก) ผูป้ ระกอบการประกอบกิจการโดยสาคญั ผิดว่าไดม้ ีการจดทะเบียน
ภาษมี ลู ค่าเพิม่ แลว้

(ข) ผปู้ ระกอบการออกใบกากบั ภาษีใหแ้ ก่ผซู้ ้ือสินคา้ หรือผรู้ ับบริการ ใน
การขายสินค้า หรื อการให้บริ การทุกคร้ัง และจัดทาในทันทีที่ความรับผิดในการเสีย
ภาษีมูลค่าเพ่มิ เกิดข้ึน

(ค) ผปู้ ระกอบการจดั ทารายงานภาษีซ้ือ และรายงานภาษขี าย
(ง) ผปู้ ระกอบการไดย้ น่ื แบบแสดงรายการ และชาระภาษีมูลค่าเพ่ิม ภายใน
กาหนดเวลาตามกฎหมาย ซ่ึงคานวณภาษีมูลค่าเพิ่มโดยวิธีภาษีขายหักดว้ ยภาษีซ้ือ ตามมาตรา
๘๒/๓ แห่งประมวลรัษฎากร หรื อผู้ประกอบการได้ยื่นแบบแสดงรายการและชาระ
ภาษมี ลู ค่าเพ่ิมเม่ือพน้ กาหนดเวลาตามกฎหมายโดยตนเอง ไม่ไดเ้ กิดข้ึนเน่ืองจากการตรวจสอบ
ไต่สวนของเจา้ พนกั งานประเมิน

(จ) ในขณะท่ีมีการยนื่ คาร้องขออนุมตั ิใหเ้ ป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียน
ภาษีมลู ค่าเพ่ิม ผปู้ ระกอบการยงั ประกอบกิจการอยจู่ นถึงในปัจจุบนั และ

(ฉ) ผปู้ ระกอบการขอเป็นผปู้ ระกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มก่อนยืน่
คาขอ จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม เพ่ือให้มีสิทธิออกใบกากบั ภาษีและนาส่งภาษีขายให้ถูกตอ้ ง
มิไดม้ ีเจตนา ขอคืนภาษมี ลู ค่าเพิม่ แต่อยา่ งใด ท้งั น้ี โดยพิจารณาในปี น้นั ว่ามีภาษีขายท่ีตอ้ งชาระ
มากกวา่ ภาษซี ้ือ

(แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยคาสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป.233/2557 ใชบ้ งั คบั ๒๖ ธันวาคม
พ.ศ. ๒๕๕๗ เป็นตน้ ไป)

(9) การพิจารณาคาอุทธรณ์คาสั่งทางปกครอง กรณีสรรพากรพ้ืนที่ซ่ึงเป็ น
หวั หนา้
ส่วนราชการที่มีฐานะเทียบเท่ากอง และกรณีขา้ ราชการระดบั 8 ระดบั 7 และระดบั 6 ของ
สานกั งาน
สรรพากรพ้ืนท่ีท่ีไดใ้ ชอ้ านาจตามระเบียบกรมสรรพากร วา่ ดว้ ยการคืนเงินภาษีอากร พ.ศ. 2539
และกรณีผทู้ ี่สรรพากรพ้นื ที่มอบหมายใหใ้ ชอ้ านาจตามระเบียบกรมสรรพากร ว่าดว้ ยการคืนเงิน
ภาษีมูลค่าเพิ่ม พ.ศ. 2539

(แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยคาส่ังกรมสรรพากรท่ี ท.ป.164/2550 ใชบ้ งั คบั 19 ธนั วาคม
2550 เป็นตน้ ไป)

“(10) การอนุมตั ิเปลี่ยนแปลงวธิ ีการเลือกยน่ื รายการและเสียภาษีของสามีและ
ภริยา ตามมาตรา 57 ฉ วรรคส่ี แห่งประมวลรัษฎากร เฉพาะกรณีสามีหรือภริยาไดย้ ่ืนคาขอ
อนุมตั ิเปล่ียนแปลงวิธีการเลือกย่ืนรายการน้นั โดยยงั ไม่มีการออกหมายเรียกหรือออกหนงั สือ
แจง้ การประเมินจากเจา้ พนกั งานประเมิน”

(แกไ้ ขเพ่ิมเติมโดยคาสั่งกรมสรรพากรที่ ท.ป. 246/2558 ใช้บงั คบั ๒ มิถุนายน
พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นตน้ ไป)

“ขอ้ 3 มอบอานาจใหน้ กั วิชาการสรรพากร 9 ชช. ที่ปฏิบตั ิราชการ ณ สานกั งาน
สรรพากรภาคสั่งและปฏิบตั ิราชการแทนอธิบดีกรมสรรพากร ตามท่ีกาหนดไวใ้ นขอ้ 2 (2) (3)
(4) (5) (6) (7) (8) (9) และ (10) ในเขตทอ้ งที่สานกั งานสรรพากรภาคน้นั ”

(แกไ้ ขเพิ่มเติมโดยคาสั่งกรมสรรพากรท่ี ท.ป. 246/2558 ใชบ้ งั คบั ๒ มิถุนายน
พ.ศ. ๒๕๕๘ เป็นตน้ ไป)

ขอ้ 4 คาสงั่ น้ีใหใ้ ชบ้ งั คบั ต้งั แต่วนั ที่ท่ีลงในคาสัง่ น้ีเป็นตน้ ไป

สั่ง ณ วนั ที่ 10 กนั ยายน พ.ศ. 2546

คาสั่งกรมสรรพากร

ที่ ป. 91/2542

เร่ือง ความรับผดิ เกย่ี วกบั การหักภาษเี งนิ ได้ ณ ทจี่ ่าย ตามมาตรา 3 เตรส มาตรา 50 มาตรา
69 ทวิ และการหักภาษี ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร

---------------------------------------------

เพ่ือใหเ้ จา้ พนกั งานสรรพากรถือเป็นแนวทางปฏิบตั ิในการพิจารณากรณีความรับผิด
เก่ียวกบั การหกั ภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส มาตรา 50 มาตรา 69 ทวิ และการหกั ภาษี
ตามมาตรา 70 แห่งประมวลรัษฎากร กรมสรรพากรจึงมีคาสั่งดงั ต่อไปน้ี

ขอ้ 1 ผมู้ ีหนา้ ที่หกั ภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 3 เตรส มาตรา 50 และมาตรา 69 ทวิ แห่ง
ประมวลรัษฎากร ตอ้ งยน่ื รายการตามแบบที่อธิบดีกรมสรรพากรกาหนด และนาเงินภาษีที่ตนมี
หนา้ ท่ีตอ้ งหกั ไปส่ง ณ ที่วา่ การอาเภอภายในเจด็ วนั นบั แต่วนั ท่ีจ่ายเงินไดพ้ ึงประเมิน ท้งั น้ี ไม่วา่
ตนจะไดห้ กั ภาษีไวแ้ ลว้ หรือไม่ ตามมาตรา 52 แห่งประมวลรัษฎากร

ผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายตามวรรคหน่ึง ดงั ต่อไปน้ี มีสิทธิยน่ื รายการตามแบบที่
อธิบดีกรมสรรพากรกาหนด และนาเงินภาษีที่ตนมีหนา้ ที่ตอ้ งหกั ไปส่ง ณ ท่ีวา่ การ อาเภอภายใน
เจด็ วนั นบั แต่วนั สิ้นเดือนของเดือนท่ีจ่ายเงินไดพ้ ึงประเมิน ตามมาตรา 3 อฏั ฐะวรรคสอง แห่ง
ประมวลรัษฎากร

(1) ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่ายที่ตอ้ งหกั ตามมาตรา 50(1) แห่งประมวลรัษฎากร

(2) ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่ายท่ีตอ้ งหัก ตามมาตรา 50(2) แห่งประมวลรัษฎากร
เฉพาะเงินไดพ้ งึ ประเมิน ตามมาตรา 40(4)(ก) และ (ช) แห่งประมวลรัษฎากร

(3) ภาษีเงินไดห้ กั ณ ท่ีจ่ายที่ตอ้ งหกั ตามมาตรา 50(4) แห่งประมวลรัษฎากร

(4) ภาษีเงินไดห้ กั ณ ที่จ่ายท่ีตอ้ งหกั ตามมาตรา 69 ทวิ แห่งประมวลรัษฎากร

(5) ภาษีเงินไดห้ กั ณ ท่ีจ่ายที่ตอ้ งหกั ตามมาตรา 3 เตรส แห่งประมวลรัษฎากร

กรณีผูม้ ีหนา้ ท่ีหักภาษี ณ ท่ีจ่ายตามวรรคหน่ึงและวรรคสอง ไม่ไดย้ น่ื รายการ
และนาส่งเงินภาษีหัก ณ ท่ีจ่าย ภายในเวลาที่กฎหมายกาหนด ตอ้ งระวางโทษปรับไม่เกินสอง
พนั บาท ตามมาตรา 35 แห่งประมวลรัษฎากร

ขอ้ 2 กรณีผมู้ ีหนา้ ท่ีหักภาษี ณ ท่ีจ่ายตามขอ้ 1 ไม่ไดห้ กั ภาษี ณ ที่จ่าย และไม่ไดน้ า
เงินภาษที ่ีตนมีหนา้ ท่ีตอ้ งหกั ไปส่ง ณ ท่ีวา่ การอาเภอภายในเวลาท่ีกฎหมายกาหนดผมู้ ีหนา้ ที่หกั
ภาษีซ่ึงเป็นผจู้ ่ายเงินตอ้ งรับผดิ ร่วมกบั ผมู้ ีเงินไดใ้ นการเสียภาษีที่ตอ้ งชาระตามจานวนเงินภาษีที่
ไม่ไดห้ กั และไม่ไดน้ าส่ง ตามมาตรา 54 วรรคหน่ึง แห่งประมวลรัษฎากรและตอ้ งเสียเงินเพ่ิมอีก
ร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ตอ้ งเสียหรือนาส่งโดยไม่รวมเบ้ียปรับ ตาม
มาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

ขอ้ 3 กรณีผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษี ณ ที่จ่ายตามขอ้ 1 ไม่ไดห้ กั ภาษี ณ ท่ีจ่าย แต่ ไดอ้ อกเงิน
ค่าภาษีแทนผมู้ ีเงินได้ โดยนาเงินภาษีท่ีตนมีหนา้ ท่ีตอ้ งหกั ไปส่ง ณ ที่ว่าการอาเภอภายในเวลาท่ี
กฎหมายกาหนด แต่นาเงินส่งไวไ้ ม่ครบจานวนที่ถูกตอ้ ง ผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษีซ่ึงเป็ นผจู้ ่ายเงินตอ้ ง
รับผิดร่วมกบั ผูม้ ีเงินไดใ้ นการเสียภาษีท่ีตอ้ งชาระตามจานวนเงินภาษีที่ขาดไป ตามมาตรา 54
วรรคหน่ึง แห่งประมวลรัษฎากร และตอ้ งเสียเงินเพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือน
ของเงินภาษีท่ีตอ้ งเสียหรือนาส่งโดยไม่รวมเบ้ียปรับ ตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

ขอ้ 4 กรณีผมู้ ีหนา้ ที่หกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายตามขอ้ 1 ไม่ไดห้ กั ภาษี ณ ท่ีจ่าย แต่ไดอ้ อกเงิน
ค่าภาษีแทนผมู้ ีเงินได้ โดยนาเงินภาษีที่ตนมีหนา้ ที่ตอ้ งหกั ไปส่ง ณ ที่วา่ การอาเภอภายในเวลาท่ี
กฎหมายกาหนด ไวค้ รบจานวนท่ีถูกตอ้ ง ผูม้ ีหนา้ ที่หกั ภาษีซ่ึงเป็ นผูจ้ ่ายเงินและผมู้ ีเงินไดพ้ น้
ความรับผิดที่จะตอ้ งชาระเงินภาษีเท่าจานวนที่ผูจ้ ่ายเงินไดน้ าส่งไวค้ รบจานวนที่ถูกตอ้ ง ตาม
มาตรา 54 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร

ขอ้ 5 กรณีผมู้ ีหนา้ ที่หกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายตามขอ้ 1 ไดห้ กั ภาษี ณ ท่ีจ่าย และนาเงินภาษีที่
ตนมีหน้าท่ีตอ้ งหักไปส่ง ณ ท่ีว่าการอาเภอภายในเวลาที่กฎหมายกาหนด ไวค้ รบจานวนที่
ถูกตอ้ ง ผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษซี ่ึงเป็นผจู้ ่ายเงินและผมู้ ีเงินไดพ้ น้ ความรับผิดที่จะตอ้ งชาระเงินภาษีเท่า
จานวนที่ผูจ้ ่ายเงินไดน้ าส่งไวค้ รบจานวนท่ีถูกตอ้ ง ตามมาตรา 54 วรรคสองแห่งประมวล
รัษฎากร

ขอ้ 6 กรณีผมู้ ีหนา้ ที่หกั ภาษี ณ ท่ีจ่ายตามขอ้ 1 ไดห้ กั ภาษี ณ ที่จ่าย และนาเงินภาษีที่
ตนมีหน้าที่ตอ้ งหักไปส่ง ณ ท่ีว่าการอาเภอภายในเวลาที่กฎหมายกาหนด ไม่ครบจานวนที่
ถูกตอ้ ง ผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษีซ่ึงเป็นผจู้ ่ายเงินตอ้ งรับผดิ ร่วมกบั ผมู้ ีเงินไดใ้ นการเสียภาษีที่ตอ้ งชาระ
ตามจานวนเงินภาษีที่ขาดไป ตามมาตรา 54 วรรคหน่ึง แห่งประมวลรัษฎากรและตอ้ งเสียเงิน
เพิ่มอีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีท่ีตอ้ งเสียหรือนาส่ง โดยไม่รวมเบ้ีย
ปรับ ตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

ขอ้ 7 กรณีผมู้ ีหนา้ ท่ีหกั ภาษี ณ ที่จ่ายตามขอ้ 1 ไดห้ กั ภาษี ณ ท่ีจ่ายไวค้ รบจานวนที่
ถูกตอ้ ง แต่ไดน้ าเงินภาษีที่ตนมีหน้าท่ีตอ้ งหักไปส่ง ณ ท่ีว่าการอาเภอภายในเวลาที่กฎหมาย
กาหนด ไม่ครบจานวนท่ีถกู ตอ้ ง หรือไม่นาเงินภาษีที่ตนมีหนา้ ท่ีตอ้ งหกั ไปส่ง ณ ที่วา่ การอาเภอ
ภายในเวลาท่ีกฎหมายกาหนด ผมู้ ีเงินไดซ้ ่ึงตอ้ งเสียภาษีพน้ ความรับผดิ ท่ีจะตอ้ งชาระเงินภาษีเท่า
จานวนที่ผูจ้ ่ายเงินไดห้ กั ไวแ้ ลว้ น้นั และผมู้ ีหน้าท่ีหักภาษีซ่ึงเป็ นผูจ้ ่ายเงินตอ้ งรับผิดชาระเงิน
ภาษีจานวนน้นั แต่ฝ่ ายเดียว ตามมาตรา 54 วรรคสอง แห่งประมวลรัษฎากร และตอ้ งเสียเงินเพ่ิม
อีกร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีท่ีตอ้ งเสียหรือนาส่งโดยไม่รวมเบ้ียปรับ
ตามมาตรา 27 แห่งประมวลรัษฎากร

ขอ้ 8 กรณีรัฐบาล หรือองคก์ ารของรัฐบาลเป็นผจู้ ่ายเงินไดพ้ ึงประเมินตามมาตรา 40
แห่งประมวลรัษฎากร ใหเ้ ป็นหนา้ ที่ของเจา้ พนกั งานผจู้ ่ายเงินท่ีจะตรวจสอบใหแ้ น่ว่าจานวนเงิน
ภาษีท่ีจะตอ้ งหกั ภาษี ณ ที่จ่าย ตามมาตรา 50 แห่งประมวลรัษฎากรน้นั ไดค้ านวณ และจดไวใ้ น
ฎีกาเบิกเงินแลว้ และใหเ้ ป็นหนา้ ท่ีที่จะหกั เงินจานวนน้นั ก่อนจ่าย ตามมาตรา 53 แห่งประมวล
รัษฎากร


































Click to View FlipBook Version