The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Wanaponrkam, 2023-07-13 03:52:02

หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรื่อง คำราชาศัพท์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่๒

Brown And Orange Modern We Are Hiring Poster

เรื่อง คำ ราชาศัพท์ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ รายวิชา ภาษาไทยพื้นฐาน คำ ราชาศัพท์สำ หรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ คำ ราชาศัพท์สำ หรับพระภิกษุสงฆ์ คำ สุภาพสำ หรับบุคคลทั่วไป อ้างอิงจาก หนังสือหลักภาษาและการใช้ภาษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒


คำ นำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ จัดทำ ขึ้นเพื่อรวบรวมความรู้นอกจากหนังสือเรียนในชั้นเรียน เรื่อง คำ ราชาศัพท์ สำ หรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ภายในหนังสือประกอบไปด้วยเนื้อหาคำ ราชาศัพท์ สำ หรับพระมหากษัตริย์ พระบรมวงศานุวงศ์ คำ ราชาศัพท์สำ หรับพระสงฆ์ และคำ สุภาพสำ หรับบุคคล ทั่วไป ในการจัดทำ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ ได้จัดทำ ขึ้นโดยเรียบเรียงข้อมูลไว้เป็นลำ ดับเพื่อง่ายต่อ การประเมิน ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์เล่มนี้ จะสามารถส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้ที่ได้มา ศึกษาไม่มากก็น้อย ทั้งนี้ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าขอกราบขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วย และยินดี รับฟังข้อเสนอแนะเพื่อนำ มาปรับปรุงและพัฒนาต่อไป วนพร ขุนทอง ผู้จัดทำ ก


คำ นำ ส า ร บั ญ ที่ ม า แ ล ะ ป ร ะ โ ย ช น์ ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง คํ า ร า ช า ศั พ ท์ ลำ ดั บ ชั้ น พ ร ะ ร า ช ว ง ศ์ ก า ร ใ ช้ คำ น า ม ร า ช า ศั พ ท์ คำ ร า ช า ศั พ ท์ ต า ม พ ร ะ อิ ส ริ ย ย ศ คำ น า ม ร า ช า ศั พ ท์ คำ ก ริ ย า ร า ช า ศั พ ท์ คำ ก ร า บ บั ง ค ม ทู ล คำ ร า ช า ศั พ ท์ ที่ มั ก ใ ช้ ไ ม่ ถู ก ต้ อ ง ข้ อ ค ว ร ร ะ วั ง ใ น ก า ร ใ ช้ คำ ร า ช า ศั พ ท์ คำ ร า ช า ศั พ ท์ เ ฉ พ า ะ สำ ห รั บ พ ร ะ ส ง ฆ์ คำ ที่ ใ ช้ สำ ห รั บ พ ร ะ ส ง ฆ์ คำ ขึ้ น ต้ น - ล ง ท้ า ย จ ด ห ม า ย ถึ ง พ ร ะ ภิ ก ษุ คำ ร า ช า ศั พ ท์ สำ ห รั บ ส ม เ ด็ จ พ ร ะ สั ง ฆ ร า ช คำ ร า ช า ศั พ ท์ สำ ห รั บ พ ร ะ ส ง ฆ์ คำ สุ ภ า พ สำ ห รั บ บุ ค ค ล ทั่ ว ไ ป บ ร ร ณ า นุ ก ร ม กข๑๒๓๔๕๖๘ ๑ ๒ ๑ ๖ ๑ ๙ ๒ ๐ ๒ ๑ ๒ ๑ ๒ ๒ ๒ ๔ ๒ ๕ค ส า ร บั ญ เ รื่ อ ง ห น้ า ข


คำ ราชาศัพท์ แปลความหมายได้ว่า "ถ้อยคำ ที่ใช้สำ หรับพระราชา" ซึ่งต่อมาหมายรวมถึงคำ ที่ ใช้กับพระภิกษุสงฆ์ ข้าราชการ และสุภาพชนด้วย จากศิลาจารึกหลักที่ ๑ ของพ่อขุนรามคำ แหงมหาราช ปรากฏการใช้ คำ ราชาศัพท์ซึ่งแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีคำ ราชาศัพท์ใช้ตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี และปรากฎหลักฐานว่ามีการใช้คำ ราชาศัพท์มากขึ้นในสมัยสมเด็จพระรามาธิบดีที่หนึ่ง (อู่ทอง) ในสมัยสมเด็จพระบรมไตรโลกกันนาถได้มีกฎมณเฑียรบาลที่ระบุถึงการใช้คำ ราชาศัพท์อย่างเป็น ลายลักษณ์อักษรขึ้น คำ ราชาศัพท์จึงเป็นถ้อยคำ ที่เกิดขึ้นหลังจากที่บ้านเมืองเปลี่ยนระบบการปกครอง จากระบอบพ่อกับลูกมาเป็นแบบเทวราชา ที่มีความเชื่อว่ากษัตริย์ คือ สมมติเทพ ทำ ให้มีการสร้างคำ ขึ้น ใหม่เพื่อแสดงความแตกต่างระหว่างกษัตริย์ซึ่งเป็นผู้ปกครองประเทศกับประชาชนทั่วไป ดังนั้นคำ ราชาศัพท์จึงเป็นระเบียบของภาษาที่ต้องใช้ให้เหมาะสมกับระดับชั้นของบุคคลและการ ใช้ถ้อยคำ สำ หรับพระมหากษัตริย์ พระบรมมาวงศานุวงค์ ถือเป็นการแสดงความจงรักภักดี รวมถึงบุคคล ชั้นผู้ใหญ่ที่พึงยกย่องนับถือตามความเหมาะสมด้วย ๑ ที่มาและประโยชน์ คำคำคำคำราชาศัศั ศั พ ศั พท์ท์ ท์ท์ ที่มาของคำ ราชาศัพท์ ประโยชน์ของการเรียนคำ ราชาศัพท์ บุคคลในสังคมมีระดับลดหลั่นกันตามชาติวุฒิ คุณวุฒิ วัยวุฒิ คนไทยมีนิสัยสุภาพอ่อนน้อม ยกย่องให้เกียรติผู้อื่น การใช้ภาษาจึงต้องเลือกใช้คำ ให้เหมาะสมกับฐานะของบุคคล การใช้คำ ราชาศัพท์ จึงแสดงให้เห็นว่าคนไทยมีวัฒนธรรมทางภาษาที่สอดคล้องกับวัฒนธรรมอันดีของชาติ ดังนั้นจึงควรศึกษา เรื่องคำ ราชาศัพท์และใช้ให้ ถูกต้องซึ่งการเรียนเรื่องคำ ราชาศัพท์มีประโยชน์ ดังนี้ ๑) ช่วยสืบทอดและรักษามรดกทางวัฒนธรรมของชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่คนไทยมีพระ มหากษัตริย์เป็นประมุขของชาติ มีพระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำ ชาติมีการเคารพยกย่องให้เกียรติซึ่ง กันและกัน การใช้คำ ราชาศัพท์และคำ สุภาพจึงแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองทางวัฒนธรรมที่ควรภาคภูมิใจ ๒) ช่วยให้เข้าใจภาษาที่ปรากฏในสื่อต่างๆ เช่น ข่าว นวนิยาย บทประพันธ์ วรรณคดี กวีนิพนธ์ต่างๆ เป็นต้น ๓) ช่วยให้ใช้ภาษาในการสื่อสารได้ถูกต้องเหมาะสมผู้ ที่ใช้ภาษาสื่อสารได้ถูกต้องเหมาะสมย่อม ได้รับการชื่นชมและเกิดความมั่นใจในการติดต่อสื่อสาร ๔) ช่วยเสริมสร้างบุคลิกภาพที่ดีแก่ตนเอง ทำ ให้เข้าสังคมได้อย่างมั่นใจ การติดต่อสื่อสารมี ประสิทธิที่ผล


คําราชาศัพท์ หมายถึง ถ้อยคําสุภาพไพเราะที่ใช้ให้เหมาะกับ ฐานะของบุคคลในสภาพสังคมไทย ซึ่งถือหลักแบ่งตามวัยวุฒิ คุณวุฒิ และชาติวุฒิ ได้แก่ ๑. พระมหากษัตริย์ และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ ๒. พระบรมวงศานุวงศ์ (พระบรมวงศ์ และพระอนุวงศ์) ๓. พระภิกษุสงฆ์ ๔. ขุนนาง ข้าราชการ ๕. สุภาพชน คำ ราชาศัพท์ ๒


ลำ ดับชั้นพระราชวงศ์ ชั้น ๑ พระมหากษัตริย์ - พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ชั้น ๒ สมเด็จพระบรม - สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ - สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร - สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมาร ชั้น ๓ สมเด็จเจ้าฟ้า - สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์อัครราชกุมารี - สมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี - สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอ เจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนากรมหลวง นราธิวาสราชนครินทร์ - ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวด ชั้น ๕ หม่อมเจ้า ชั้น ๖ หม่อมราชวงศ์ ชั้น ๗ หม่อมหลวงชั้น ๔ พระองค์เจ้า - พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี พระวรราชาทินัดดามาตุ - พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา - พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ - พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าทีปังกรรัศมีโชต คำ ราชาศัพท์ ๓


คำ ราชาศัพท์ การใช้คำ นามราชาศัพท์ พระบรมราช ใช้เฉพาะพระเจ้าแผ่นดิน เพื่อเทิดพระเกียรติ เช่น พระบรมราชโองการ พระบรมราชจักรีวงศ์ ฯลฯ พระบรม ใช้เฉพาะพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เช่น พระบรมราชานุเคราะห์ พระปรมาภิไธย พระบรมราโชวาทพระบรมฉายาลักษณ์ พระบรมสาทิสลักษณ์ พระบรมราชานุสรณ์ ฯลฯ ยกเว้น พระบรมราชินูปถัมภ์ ใช้สําหรับพระบรมราชินีนาถ พระราช ใช้กับสี่พระองค์ คือ พระมหากษัตริย์ สมเดจ็พระบรมราชินี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เช่น พระราชานุญาต พระราชวโรกาส พระนามาภิไธย พระราชประวัติ พระราชดําริ พระราชหัตถเลขา พระราชกุศล ฯลฯ พระ ใช้นําหน้าคํานามที่เป็นอวัยวะ ของใช้สําหรับพระองค์เจ้าขึ้นไป เช่น พระวโรกาส พระดําริ พระกระแส พระทนต์ พระกรรณ พระยี่ภู่ พระนาภี พระเสโท พระมาลา พระโอสถ พระกลด พระบัญชร พระ นลาฏ พระชานุ พระขนง ฯลฯ ถ้าเป็นชั้นหม่อมเจ้า ไม่ต้องมี “พระ” นําหน้า ใช้เพียงราชาศัพท์เฉยๆ เช่น หัตถ์ กร ฯลฯ ตัวอย่าง เช่น“ หม่อมเจ้า..... ประชวรโรคหทัย ถึงชีพิตักษัย พระราชทาน น้ำ สรงศพที่วัด..... ” ๔


คำ ราชาศัพท์ คำ ราชาศัพท์ตามพระอิสริยยศ ๕


คำ นามราชาศัพท์ คํานามราชาศัพท์ หมายถึง การทําคํานามธรรมดาเป็นคําราชาศัพท์ ข้อสังเกต จะมีคําว่า “พระ” ขึ้นต้น ยกเว้น พระราชทาน เป็นกริยาราชาศัพท์ พระเนตร หมายถึง ตา พระนาสา, พระนาสิก หมายถึง จมูกฟัน พระปราง หมายถึง แก้ม พระโอษฐ์ หมายถึง ปาก พระทนต์ หมายถึง ฟัน พระพักตร์ หมายถึง หน้า พระกรรณ หมายถึง หู พระศอ หมายถึง คอ พระหัตถ์ หมายถึง มือ พระอุระ , พระทรวง หมายถึง อก พระหทัย หมายถึง ใจ พระบาท หมายถึง เท้า สร้อยพระศอ หมายถึง สร้อยคอ ฉลองพระองค์ หมายถึง เสื้อ พระภูษา หมายถึง ผ้านุ่ง รัดพระองค์ หมายถึง เข็มขัด พระสนับเพลา หมายถึง กางเกง รองพระบาท, ฉลองพระบาท หมายถึง รองเท้า พระมาลา หมายถึง หมวก พระกรต หมายถึง ร่ม พระราชหัตถเลขา หมายถึง จดหมาย ฉลองพระเนตร หมายถึง แว่นตา พระแสงกรรบดิ หมายถึง มีดโกน ซับพระองค์ หมายถึง ผ้าเช็ดตัว ฉลองพระบาท หมายถึง รองเท้ำ แก้วเสวย หมายถึง แก้วน้ำ ฉลองพระหัตถ์ช้อน หมายถึง ช้อน คำ ราชาศัพท์ ๖


คำ นามราชาศัพท์ พระราชโอรส, พระโอรส หมายถึง ลูกชาย พระราชธิดา, พระธิดา หมายถึง ลูกสาว พระราชนัดดา, พระนัดดา หมายถึง หลาน พลับพลา หมายถึง ที่พักชั่วคราว พระแท่น หมายถึง เตียง พระเขนย หมายถึง หมอน พระอัยกา หมายถึง ปู่ , ตา พระอัยกี หมายถึง ย่า , ยาย พระเชษฐา หมายถึง พี่ชาย พระเชษฐภคินี หมายถึง พี่สาว พระราชอนุชา หมายถึง น้องชาย พระขนิษฐา หมายถึง น้องสาว พระวิสูตร หมายถึง ม่านหรือมุ้ง พระบัญชร หมายถึง หน้าต่าง พระแท่นบรรทม หมายถึง เตียงนอน พระสาง หมายถึง หวี ผ้าพันพระศอ หมายถึง ผ้าพันคอ ทองพระกร หมายถึง กำ ไล นาฬิกาข้อพระหัตถ์ หมายถึง นาฬิกาข้อมือ พระฉาย หมายถึง กระจกส่อง ธารพระกร หมายถึง ไม้เท้า พระกุณฑล หมายถึง ต่างหู พระเพลา หมายถึง กางเกง พระธำ มรงค์ = แหวน พระโอสถมวน หมายถึง บุหรี่ พระโอสถ หมายถึง ยารักษาโรค รัดพระองค์ หมายถึง เข็มขัด พระบัญชร หมายถึง เก้าอี้ พระสุธารส หมายถึง น้ำ ดื่ม กระเป๋าทรง หมายถึง กระเป๋าถือ คำ ราชาศัพท์ ๗


คำ ราชาศัพท์ คำ กริยาราชาศัพท์ การทํากริยาทั่วไปให้เป็นกริยาราชาศัพท์ ๑. เปลี่ยนกริยาราชาศัพท์นั้นเป็นราชาศัพท์เลยถ้าเปลี่ยนได้ เช่น กิน เป็น เสวย นอน เป็น บรรทม ฝัน เป็น สุบิน ๒. ถ้าไม่สามารถเปลี่ยนกริยานั้นเป็นราชาศัพท์ได้ทันที ให้ใช้ “ทรง” นําหน้ากริยาธรรมดา นาม ธรรมดา หรือนามราชาศัพท์ เช่น ทรงเล่น ทรงเจ็บ ทรงถือ ทรงช้าง ทรงดนตรี ทรงพระราชนิพนธ์ ทรงพระราชดําริ ฯลฯ ข้อสังเกต ๑. คําที่สามารถทําเป็นราชาศัพท์ได้ทันที ไม่ใช้ท ช้ รง + กริยานั้น เช่น ใช้ “เสวย” ไม่ใช้ ทรงกิน ใช้ “โปรด” ไม่ใช้ ทรงชอบ ๒. ไม่ใช้ “ทรง” + กริยาราชาศัพท์ เช่น ทรงเสวย ทรงโปรด ทรงเสด็จ ทรงเสวย ทรงตรัส ๓. การใช้ “มี, เป็น” เมื่อเป็นกริยาราชาศัพท์ มี, เป็น + ราชาศัพท์ ทรง + มี, เป็น + คําที่ไม่ใช่ราชาศัพท์ เช่น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเป็นพระราชอนุชาในรัชกาลที่ ๘ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงเป็นผู้แทนน้องใหม่ของคณะอักษรศาสตร์ ๔. ใช้คําว่า ไม่ + ทรง เช่น ไม่ทรงกังวล ไม่ใช้ ทรงไม่กังวล ๘


คำ กริยาราชาศัพท์ กริยาราชาศัพท์ จำ แนกเป็น ๔ ชนิด ดังนี้ ๑. คำ กริยาที่เป็นราชาศัพท์อยู่ในตัวของมันเอง กริยาที่เป็นคําโดด ซึ่งบัญญัติขึ้นเฉพาะ พระราชาหรือเจ้านาย เท่านั้น คํากริยาประเภทนี้ไม่ต้องเติมคําว่า “ทรง” ลงข้างหน้าเพราะเป็น กริยาราชาศัพท์อยู่แล้ว กริ้ว แปลว่า โกรธเคือง ตรัส แปลว่า พูด , แจ้ง ทอดพระเนตร แปลว่า ดู, มอง, แล ประทับ แปลว่า อยู่ที่, อยู่กับที่ ประชวร , ทรงพระประชวร แปลว่า เจ็บ, ป่วย โปรด แปลว่า ชอบ, รัก, เอ็นดู สรง แปลว่า อาบน้ำ , รดนํ้า เสด็จ แปลว่า ไป เสวย แปลว่า กิน บรรทม แปลว่า นอน พระราชทาน แปลว่า ให้ ๒. คำ กริยาที่ประสมขึ้นใช้เป็นราชาศัพท์ตามประเภทของบุคคล ได้แก่ คํากริยาที่มีความหมายอย่างเดียวกัน แต่บัญญัติคําขึ้นใช้หลายชนิดตามชั้นของบุคคลเป็นประเภทๆ ไปเช่น กริยาที่มีความหมายว่า เกิด ป่วย ตาย เป็นต้น ๓. คำ กริยาราชาศัพท์ที่ใช้คํา “เสด็จ” นําหน้าคํากริยาที่มี “เสด็จ” นําหน้า และคํากริยาที่ตามหลังนั้น จะใช้คํา สามัญ หรือคําที่เป็นราชาศัพท์อยู่แล้วก็ได้ เช่น เสด็จกลับ, เสด็จประพาส , เสด็จประทับ, เสด็จพระราชดําเนิน คำ ราชาศัพท์ ๙


คำ กริยาราชาศัพท์ ๔. คำ กริยาราชาศัพท์ที่ใช้คํา “ทรง” นําหน้าคํากริยาที่มี “ทรง” นําหน้า คําที่ตามหลังนั้นจะเป็นคํานามหรือ กริยาก็ได้ แต่เมื่อประสมกันแล้วนับว่าเป็นคํากริยาราชาศัพท์ จําแนก ออกเป็น 3 ชนิด คือ ๔.๑ ใช้ “ทรง” เป็นกริยาช่วยนําหน้ากริยาสามัญ วิธีนี้สําหรับใช้เปลี่ยน คํากริยาสามัญ ให้เป็น คํากริยา ราชาศัพท์ เช่น ทรงสดับ, ทรงฟัง, ทรงดําริ, ทรงรําพึง, ทรงยินดี, ทรงขอบใจ, ทรงสั่งสอน, ทรงชุบเลี้ยง, ทรงปกครอง, ทรงดูแล, ทรงช่วยเหลือ ๔.๒ ใช้ “ ทรง” นําหน้านามสามัญวิธีนี้สําหรับใช้เปลี่ยน คํานามสามัญ ให้เป็น กริยาราชาศัพท์ เช่น ทรงเมตตา, ทรงกรุณา, ทรงอุตสาหะ, ทรงฟุตบอล, ทรงสกี, ทรงรถ,ทรงแบดมินตัน, ทรงเทนนิส ๔.๓ ใช้ “ทรง” นําหน้าคํานามราชาศัพท์ วิธีนี้ใช้สําหรับเปลี่ยน คํานามที่เป็นราชาศัพท์อยู่แล้ว ให้เป็นคํากริยา ราชาศัพท์ และคําที่ตามหลังนั้นนิยมใช้คําตามราชาศัพท์ที่มีคํา “ทรง” นําหน้า เช่นพระผนวช เป็น ทรงพระผนวช แปลว่า บวช ทรงพระดําเนิน เป็น ทรงพระดําเนิน แปลว่า เดิน คําว่า “ทรง” ยังมีความหมายขึ้นอยู่ กับคํานามราชาศัพท์ที่ตามท้ายด้วย เช่น ทรงช้าง, ทรงม้า หมายถึง ขี่ช้าง, ขี่ม้า, ทรงธรรม หมายถึง ฟังธรรม * หมายเหตุ * ไม่ให้ใช้ “ทรง” นําหน้า คํากริยาที่มีคํานามราชาศัพท์ต่อท้าย เช่น มีพระราชดําริ ไม่ให้ใช้ว่า ทรงมีพระราชดําริ แต่ใช้ว่า ทรงพระราชดําริ ไม่ให้ใช้ว่า ทรงเป็นพระราชโอรส เป็นพระราชโอรส คำ ราชาศัพท์ ๑๐


คำ กริยาราชาศัพท์ คำ กริยาราชาศัพท์อื่น ๆ ทรงปฏิสันถาร หมายถึง ทักทายปราศรัย ต้องพระประสงค์ หมายถึง อยากได้ พระราชปุจฉา หมายถึง ถาม พระวนิจฉัย หมายถึง พิจารณา ทรงบําเพ็ญพระราชกุศล หมายถึง ทําบุญ มีพระราชหฤทัยระลึกถึง หมายถึง คิดถึง แย้มพระสรวล หมายถึง ยิ้ม ทรงพระสรวล หมายถึง หัวเราะ ทรงพระกันแสง หมายถึง ร้องไห้ ทรงพระสุบิน หมายถึง ฝัน ทรงพระอักษร หมายถึง อ่านหนังสือ, เรียนหนังสือ, เขียนหนังสือ ทรงพระสําราญ หมายถึง สบายกายสบายใจ ทรงพระเจริญ หมายถึง โตขึ้น, มากขึ้น, เจริญขึ้น ทรงพ่วงพี หมายถึง อ้วน ซูบพระองค์ หมายถึง ผอม ทรงพระกาสะ หมายถึง ไอ ทรงเครื่อง หมายถึง แต่งตัว ทรงกีฬา หมายถึง เล่นกีฬา ลงพระบังคนเบา หมายถึง ถ่ายปัสสาวะ ลงพระบังคนหนัก หมายถึง ถ่ายอุจจาระ กราบบังคมทูล หมายถึง บอก แสดงหน้าพระที่นั่ง หมายถึง แสดงให้ชม ถวายพระกระยาหาร หมายถึง เลี้ยงอาหาร คำ ราชาศัพท์ ๑๑


คำ กราบบังคมทูล หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดิน ถ้าผู้รับคํากราบบังคมทูลไม่ทรงรู้จัก ควรแนะนําตนเองว่า “ ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้า ปกกระหม่อม ข้าพระพุทธเจ้า.......... ขอพระราชทานพระบรมราชวโรกาส กราบบังคมทูลพระกรุณาทราบฝ่าละอองธุลีพระบาท ” และลงท้ายว่า ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดินกราบบังคมทูลถึงความสะดวกสบาย หรือรอดอันตราย "เดชะพระบารมีปก เกล้าปกกระหม่อม............" กราบบังคมทูลถึงสิ่งที่ทําผิดพลาดไม่สมควรทํา "พระราชอาญาไม่ พ้นเกล้าพ้น กระหม่อม" หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดินกราบบังคมทูลขอพระราชทานพระมหากรุณา "ขอพระบารมีปกเกล้าปกกระหม่อม” กราบบังคมทูลถึงของหยาบมิบังควร "ไม่ควรจะกราบบังคมพระกรุณา" หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดินกราบบังคมทูลเป็นกลางๆ เพื่อให้ทรงเลือก "ควรมิควร ประการใดสุดแล้วแต่จะ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม" กราบบังคมทูลถึงความคิดเห็นของ ตนเอง "เห็นด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม" หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดินกราบบังคมทูลถึงการทําสิ่งใดสิ่งหนึ่งถวาย "สนองพระมหากรุณาธิคุณ“ กล่าวขออภัยโทษ "เดชะพระอาญาไม่พ้นเกล้า" และลงท้ายว่า “ด้วยเกล้าด้วย กระหม่อม” หลักเกณฑ์ในการกราบบังคมทูลพระเจ้าแผ่นดิน กล่าวถึงสิ่งที่ได้รับความอนุเคราะห์ "พระเดชพระคุณเป็น ล้นเกล้าล้นกระหม่อม" คำ ราชาศัพท์ ๑๒


คำ กราบบังคมทูล ในการกราบบังคมทูล กราบทูล หรือทูล มีข้อที่ต้องระมัดระวังนอกจากการใช้ราชาศัพท์ก็ คือ คําขึ้นต้น คําสรรพนาม คํารับ คําลงท้าย ซึ่งต้องใช้ให้ถูกต้องตามฐานันดรศักดิ์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระบรมราชินนาถ คําขึ้นต้น : ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาทปกเกล้าปกกระหม่อม สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า ข้าพระพุทธเจ้า บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาท คํารับ : พระพุทธเจ้าข้า คําลงท้าย : ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ สมเด็จพระบรมราชินี, สมเด็จพระบรมราชชนนี , สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช คําขึ้นต้น : ขอพระราชทานกราบบังคมทูล ทราบฝ่าละอองพระบาท สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า ข้าพระพุทธเจ้า บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ใต้ฝ่าละอองพระบาท คํารับ : พระพุทธเจ้าข้า คําลงท้าย : ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม หรือควรมิควรแล้วแต่จะทรงพระกรุณาโปรด เกล้าโปรดกระหม่อม คำ ราชาศัพท์ ๑๓


คำ กราบบังคมทูล พระบรมวงศ์ ชั้นสมเด็จเจ้าฟ้า (พระราชโอรส พระราชธิดาอื่น ๆ) คําขึ้นต้น : ขอพระราชทานกราบทูล ทราบฝ่าพระบาท สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า ข้าพระพุทธเจ้า บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ใต้ฝ่าพระบาท คํารับ : พ่ะย่ะค่ะ คําลงท้าย : ควรมิควรแล้วแต่ จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม พระบรมวงศ์ ชั้นพระองค์เจ้า คําขึ้นต้น : ขอประทานกราบทูล ทราบฝ่าพระบาท สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า ข้าพระพุทธเจ้า บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ใต้ฝ่าพระบาท คํารับ : กระหม่อม คําลงท้าย : ควรมิควรแล้วแต่โปรด พระอนุวงศ์ ชั้นพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้า (ที่มิได้ทรงกรม) และหม่อมเจ้า คําขึ้นต้น : ทูล ทราบฝ่าพระบาท สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า กระหม่อม (ชาย), หม่อมฉัน (หญิง) บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ฝ่าพระบาท คํารับ : กระหม่อม คําลงท้าย : ควรมิควรแล้วแต่โปรด คำ ราชาศัพท์ ๑๔


คำ กราบบังคมทูล พระอนุวงศ์ ชั้นหม่อมเจ้า คําขึ้นต้น : ทูล ฝ่าพระบาท สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า กระหม่อม (ชาย), หม่อมฉัน (หญิง) บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ฝ่าพระบาท คํารับ : กระหม่อม คําลงท้าย : แล้วแต่โปรด สมเด็จพระสังฆราช คําขึ้นต้น : กราบทูล ทราบฝ่าพระบาท สรรพนาม : บุรุษที่ 1 ใช้ว่า เกล้ากระหม่อม (ชาย), เกล้ากระหม่อมหญิง (หญิง) บุรุษที่ 2 ใช้ว่า ใต้ฝ่าพระบาท คํารับ : กระหม่อม คําลงท้าย : ควรมิควรแล้วแต่โปรด คำ ราชาศัพท์ ๑๕


คำ ราชาศัพท์ที่มักใช้ไม่ถูกต้อง คำ ราชาศัพท์ ๑๖


คำ ราชาศัพท์ที่มักใช้ไม่ถูกต้อง เดินทาง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จนถึง สมเด็จพระบรมราชกุมารีใช้ว่า เสด็จพระราชดําเนิน (เสด็จฯ) เจ้านายองค์อื่นๆ ใช้คำ ว่า "เสด็จ" ถ้าพระราชวงศ์หลายพระองค์ซึ่งดํารงพระยศต่างกัน ทํากริยา “ไป” พร้อมกัน จะใช้ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถเสด็จพระราชดําเนิน พร้อมด้วย................. ยกเว้น เสด็จในคําต่อไปนี้ไม่ใช้ว่า เสด็จฯ ได้แก่ เสด็จเข้า เสด็จ ออก เสด็จยืน เสด็จประพาส เสด็จพระราชกุศล คําว่า “ขอบใจ” ถ้าจะกล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงขอบใจก็ใช้ว่า “ทรงขอบใจ” หรือ “พระราชทานพระราชกระแสขอบใจ” เว้นแต่ผู้ที่ทรงขอบใจนั้นเป็นพระราชวงศ์ จึงใช้ “ขอบพระทัย” เช่น : พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานพระราชกระแสขอบใจประชาชน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระราชกระแสขอบพระทัยพลตรีพระเจ้าวรวงศ์เธอ กรมหมื่น นราธิปพงศ์ประพันธ์ “คําสั่ง” สําหรับพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวใช้ “พระบรมราชโองการ” สําหรับพระบรมราชินี “คําสั่ง” ใช้ว่า “พระราชเสาวนีย์” การใช้คํา “ถวาย” ถ้าสิ่งของนั้นเป็นของเล็ก ใช้ “ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวาย” คำ ราชาศัพท์ ๑๗


คำ ราชาศัพท์ที่มักใช้ไม่ถูกต้อง ถ้าเป็น ของใหญ่หรือสิ่งที่เป็นนามธรรม “น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวาย” หรือ “ถวาย” เฉย ๆ เทิดทูนพระเกียรติ ใช้เป็น ราชาศัพท์ไม่ได้ กําหนดการ ใช้กับเรื่องทั่วๆ ไป หมายกําหนดการ ใช้กับเรื่องที่ราชสํานักกําหนด เช่น หมายกําหนดการพระราชทานปริญญาบัตร อาคันตุกะ แปลว่า แขกผู้มาหา ถ้าเป็นแขกของคนธรรมดา เรียกว่า อาคันตุกะ ถ้าเป็นแขกของ พระมหากษัตริย์ เรียกว่า พระราชอาคันตกุะ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นพระราชอาคันตุกะของ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบท พระบาทสมเดจ็พระเจ้าอยู่หัวทรงเป็นอาคันตุกะของประธานาธิบดี ประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกาเดินทางมาเยือนไทยในฐานะพระราชอาคันตุกะของในหลวง การเปลี่ยนที่ประทับของกษัตริย์เปลี่ยนจากที่ประทับประจําไปประทับชั่วคราวใช้ว่า “เสด็จฯ แปรพระราชฐาน” เปลี่ยนจากที่ประทับชั่วคราวไปที่ประทับประจําใช้ว่า “เสด็จนิวัติพระนคร” เมื่อกล่าวถึง สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ต่างประเทศ หรือตัวละครใน วรรณคดีที่เป็นเจ้า เช่น อิเหนา จะต้องใช้ราชาศัพท์ตามฐานันดรศักดิ์ที่แท้จริง เว้นแต่คําว่า “บรม” ใช้สําหรับพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็น พระมหากษัตริย์แห่งประเทศไทยเท่านั้น คำ ราชาศัพท์ ๑๘


ข้อควรระวังในการใช้คำ ราชาศัพท์ คําใหม่ ๆ ที่ไม่มีราชาศัพท์โดยเฉพาะ เช่น กระเป๋า เครื่องสําอาง นาฬิกา ลิปสติก เซตผม สเปรย์ผม เมื่อจะใช้ให้เป็นราชาศัพท์คําใดที่เปลี่ยนได้ก็เปลี่ยน ที่เปลี่ยน ไม่ได้ก็ควรคงรูปศัพท์เดิมไว้ เช่น ทรงถือ กระเป๋า เครื่องพระสําอาง นาฬิกา ลิปสติก ทรงแต่งพระเกศา ทรงฉีดเส้นพระเกศา เป็นต้น คำ ราชาศัพท์ ๑๙


พระพุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำ ชาติของประชาชนไทย ในภาษาไทยจึงมีการกำ หนดถ้อยคำ ไว้จำ นวน หนึ่งสำ หรับใช้กับภิกษุสามเณรโดยเฉพาะ ทั้งนี้เพราะพระภิกษุอยู่ในฐานะที่เป็นผู้สืบศาสนาและเป็นผู้ทรงศีล สามารถเทศนาสั่งสอนประชาชนให้ประพฤติดีประพฤติชอบ จึงควรใช้ภาษาด้วยถ้อยคำ ที่สุภาพ เพื่อให้ผู้ฟังเกิดความ เคารพนับถือ ประเทศไทยมีคำ พูดที่ใช้กับพระภิกษุโดยเฉพาะอยู่ประเภทหนึ่งบางทีก็เป็นคำ ที่พระภิกษุเป็นผู้ใช้เอง ซึ่งคน ไทยส่วนใหญ่จะรู้จักกันหมดแล้ว เช่น คำ ว่า อาตมาภาพ หรืออาตมา มีความหมายเท่ากับ ฉัน บางคำ ก็ทั้งท่านใช้เอง และเราใช้กับท่าน เช่น คำ ว่า ฉัน หมายถึง กิน เป็นต้น การพูดกับพระภิกษุต้องมีสัมมาคารวะ สำ รวม ไม่ใช้ถ้อยคำ ที่ เป็นไปในทำ นองพูดเล่นหรือพูดพล่อยๆ ซึ่งจะเป็นการขาดความเคารพไปสำ หรับพระภิกษุ แม้คำ ว่าราชาศัพท์ จะสามารถแปลตรงตัวได้ว่าเป็นถ้อยคำ ที่ใช้กับพระมหากษัตริย์แต่ในปัจจุบันนี้คำ ราชาศัพท์ยังครอบคลุมไปถึงพระบรมวงศานุวงศ์ พระภิกษุสงฆ์ และสุภาพชน หรือเรียกอีกนัยว่าคำ สุภาพ สำ หรับคำ ราชาศัพท์ที่ใช้กับพระภิกษุสงฆ์จะต่างกับราชวงศ์และสุภาพชน และยังขึ้นอยู่กับสมณศักดิ์ของพระสงฆ์อีกด้วย โดย สามารถเรียงลำ ดับได้ดังนี้ ๑. สมเด็จพระสังฆราช ๒. สมเด็จพระราชาคณะ ๓. พระราชาคณะชั้นรอง ๔. พระราชาคณะชั้นธรรม ๕. พระราชาคณะชั้นเทพ ๖. พระราชาคณะชั้นราช ๗. พระราชาคณะชั้นสามัญ ๘. พระครูสัญญาบัตร พระครูชั้นประทวน พระครูฐานานุกรม ๙. พระเปรียญตั้งแต่ ๓-๙ คำ ราชาศัพท์เฉพาะ สำ หรับพระภิกษุสงฆ์ ๒๐


คำ ที่ใช้สำ หรับพระสงฆ์ พระสงฆ์ทั่วไปให้ใช้คําสําหรับพระ เช่น ป่วย = อาพาธ นอน = จําวัด ยกเว้น สมเด็จพระสังฆราช ใช้คํา ราชาศัพท์ เสมอพระองค์เจ้า เช่น กิน = เสวย ป่วย = ประชวร นอน = บรรทม ระวัง พระสงฆ์องค์อื่นแม้จะเป็นพระ ราชาคณะ เช่น สมเดจ็พระวันรัต พระธีรญาณมุนี ใช้คําเหมือนพระสงฆ์ทั่วไป คําขึ้นต้น-ลงท้ายจดหมายถึงพระภิกษุ ผู้รับ สมเด็จพระสังฆราช คําขึ้นต้น: กราบทูล คําลงท้าย: ควรมิควรแล้วแต่จะโปรด ผู้รับ สมเด็จพระราชาคณะ/พระราชาคณะ คําขึ้นต้น: นมัสการ คําลงท้าย: ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างยิ่ง ผู้รับ พระสงฆ์ทั่วไป คําขึ้นต้น: นมัสการ คําลงท้าย: ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างยิ่ง คำ ราชาศัพท์เฉพาะ สำ หรับพระภิกษุสงฆ์ ๒๑


คำ ราชาศัพท์สําหรับสมเด็จพระสังฆราช คำ ราชาศัพท์เฉพาะ สำ หรับพระภิกษุสงฆ์ ๒๒


คำ ราชาศัพท์สําหรับสมเด็จพระสังฆราช คำ ราชาศัพท์เฉพาะ สำ หรับพระภิกษุสงฆ์ ๒๓


คำ ราชาศัพท์สําหรับพระสงฆ์ ทำ วัตร หมายถึง สวดมนต์ (ในโบสถ์) เจริญพระพุทธมนต์ หมายถึง สวดมนต์ (ให้ญาติโยม) อุปสมบท หมายถึง บวชพระ บรรพชา หมายถึง บวชเณร ลาสิกขา หมายถึง สึก (พระ, เณร) อาสนะ หมายถึง ที่นั่ง เสนาสนะ หมายถึง ที่นอน, ที่อยู่ ธรรมาสน์ หมายถึง ที่เทศน์ ถวายพระ หมายถึง มอบให้ ประเคน หมายถึง ยกให้ด้วยมือ ภัตตาหาร หมายถึง อาหาร มรณภาพ หมายถึง เสียชีวิต อาพาธ หมายถึง ป่วย ปลงผม หมายถึง โกนผม คำ ราชาศัพท์เฉพาะ สำ หรับพระภิกษุสงฆ์ ๒๔


“เด็กเป็นผู้ที่จะรับช่วงทุกสิ่งทุกอย่างต่อจากผู้ใหญ่ รวมทั้งการรับผิดชอบในการธำ รงรักษาอิสรภาพและความ สงบสุขของบ้านเมือง ดังนั้นเด็กทุกคนจึงสมควรและจำ เป็นที่จะต้องได้รับการอบรมและเลี้ยงดูอย่างถูกต้องเหมาะสม ให้มีความสามารถสร้างสรรค์ประโยชน์ต่างๆ พร้อมทั้งการฝึกหัดขัดเกลาความคิดจิตใจให้ประณีต ให้มีศรัทธามั่นคง ในคุณความดี มีความประพฤติเรียบร้อยสุจริตและมีปัญญาฉลาดแจ่มใสในเหตุในผล หน้าที่นี้เป็นของทุกคนที่จะร่วม มือกันกระทำ โดยพร้อมเพรียงสม่ำ เสมอ ผู้ที่เกิดก่อน ผ่านชีวิตมาก่อนจะต้องสงเคราะห์อนุเคราะห์ผู้เกิดตามมาภาย หลังด้วยการถ่ายทอดความรู้ ความดี และประสบการณ์อันมีค่าทั้งปวงให้ด้วยความเมตตาเอ็นดูและด้วยความบริสุทธิ์ ใจให้เด็กไทยได้ทราบ เข้าใจ และสำ คัญที่สุดให้รู้จักคิดด้วยเหตุผลที่ถูกต้อง จนสามารถเห็นจริงด้วยตนเองได้ในความ เจริญ และความเสื่อมทั้งปวง” พระบรมราโชวาท พระราชทานลงพิมพ์ในหนังสือวันเด็กประจำ ปี 2522 คำ สุภาพ สำ หรับบุคคลทั่วไป ๒๕


“ไอ้” ควรใช้คำ ว่า “สิ่ง” แทน เช่น ไอ้นี่ก็ได้ ควรเป็น สิ่งนี้ก็ได้ หรือตัดคำ ว่า ไอ้ ออก เช่น ปลาไอ้เบี้ยว เป็น ปลาเบี้ยว “อี” ควรใช้คำ ว่า “นาง” แทน เช่น อีเลิ้ง เป็นนางเลิ้ง หรือนกอีลุ้ม เป็นนกนางลุ้ม “ขี้” ควรใช้คำ ว่า “อุจจาระ” แทน หรือตัดออกเลย เช่น ดอกขี้เหล็ก เป็น ดอกเหล็ก หรือเปลี่ยนคำ เลย เช่น ขี้มูก เป็น น้ำ มูก หรือขนมขี้หนู เป็น ขนมทราย "เยี่ยว” ควรใช้คำ ว่า “ปัสสาวะ” แทน เช่น ไปเยี่ยวก่อน เป็น ไปปัสสาวะก่อน คำ สุภาพที่ใช้กับบุคคลทั่วไป คำ สุภาพ หมายถึง คำ ที่ใช้ให้ถูกต้องตามกาลเทศะ และบุคคลได้ยินแล้วน่าฟังชวนฟังเป็นถ้อยคำ ที่เหมาะสม คำ ที่ใช้กับสุภาพชนทั่วไป เพื่อความเหมาะสมกับสถานภาพเหตุการณ์และโอกาส คำ สุภาพ เป็นคำ ทีดีงาม แม้เเต่พระมหากษัตริย์ผู้เป็นประมุขของประเทศก็ยังทรงนิยมใช้อยู่เสมอ สังเกตได้จาก พระบรมราโชวาท และพระราชดำ รัสของพระองค์ที่พระราชทานแก่ข้าราชการ และประชาชนชาวไทยในโอกาสต่างๆ หลักการใช้คำ สุภาพ คำ สุภาพเป็นการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำ ต่าง ๆ ให้เหมาะสม ตามสถานการณ์ของผู้พูด เรามาดูกันดีกว่า ว่าหลักการ ใช้คำ สุภาพเป็นอย่างไร ๑. ไม่ควรใช้ถ้อยคำ อุทานที่ไม่สุภาพ เช่น เว้ย โว้ย หรือคำ หยาบคาย เช่น ให้ฉิบหาย ให้ตายห่า และพูดกระชาก เสียง เช่น ไม่ใช่ เปล่า เป็นต้น ๒. ไม่ควรใช้คำ หยาบคายที่มีลักษณะดังต่อไปนี้ ๓. ไม่ควรใช้คำ ผวน หรือคำ ใดก็ตามที่ผวนหางเสียง หรือท้ายคำ กลับมาไว้ข้างหน้า แล้วจำ เป็นคำ ไม่สุภาพ เช่น อร่อยดี ผวนเป็น อะหรี่ดอย หรือ คุณหมอจ๋า ผวนเป็น คุณหมาจ๋อ เป็นต้น คำ สุภาพ สำ หรับบุคคลทั่วไป ๒๖


คำ สุภาพที่ใช้กับบุคคลทั่วไป คำ สุภาพ สำ หรับบุคคลทั่วไป ๒๗


คำ สุภาพที่ใช้กับบุคคลทั่วไป คำ สุภาพ สำ หรับบุคคลทั่วไป ๒๘


บรรณานุกรม ประนอม พงษ์เผือก และคณะ. หลักภาษาและการใช้ภาษา ภาษาไทย. พิมพ์ครั้งที่ ๘. กรุงเทพมหานคร: อักษรเจริญทัศน์, อาจารย์พีระเสก บริสุกธิ์บัวทิพย์. (๒๕๖๓). คำ ราชาศัพท์. สืบค้นเมื่อ ๙ กรกฎาคม ๒๕๖๖, จาก http://119.46.166.126/digitalschool/m2/th2_1/lesson1/content3/powerpoint4_2.pptx ค


Click to View FlipBook Version