1
2 .d ฉบับที่4/2565 วันที่ 31 ธันวาคม 2565 รายงานประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ปี2565 และ ปี 2566 “เศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 272.7 ต่อปี ตามการขยายตัวของภาคบริการ” จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ตามการผ่อนคลายมาตรการของภาครัฐและมาตรการกระตุ้น และส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาวไทย และคาดว่าในปี 2566 มีแนวโน้มจะขยายตัวที่ร้อยละ 42.6 1. เศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ในปี 2565 1.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 272.7 โดยมีช่วงคาดการณ์ ที่ร้อยละ 272.3-273.1 ต่อปีขยายตัวจากที่คาดการณ์ไว้ ณ เดือนกันยายน 2565 ที่คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 226.2 เนื่องจากได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน หลังการ แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) คลี่คลายลง และการเปิดประเทศเต็มรูปแบบ โดยยกเลิกการลงทะเบียนเข้าไทยผ่านระบบ Thailand Pass ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้ามา ท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น และภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวของชาวไทยเป็นสำคัญ ด้านอุปทาน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 287.3 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 286.9 - 287.7 เป็นการขยายตัวจาก ภาคบริการ ที่ขยายตัวร้อยละ 332.1โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 331.7-332.5ต่อปี หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง ภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการเดินทาง ระหว่างประเทศ โดยยกเลิกการลงทะเบียนในระบบ Thailand Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 เป็นต้นมา และได้ขยายระยะเวลาการพำนักในไทยให้กับชาวต่างชาติจากประเทศที่ได้รับ การยกเว้นวีซ่า ให้อยู่ในไทยได้นานขึ้นจากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน และขยายเวลาให้กับผู้ที่มาขอวีซ่า หน้าด่าน (Visa on Arrival : VOA) จากเดิมไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน ทำให้นักท่องเที่ยวอยู่ในไทย ได้นานขึ้นมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติทยอย เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อีกทั้งภาครัฐได้ดำเนินการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ภายในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนขยาย โครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่จะสนับสนุนกิจกรรมด้านท่องเที่ยว โดยการเพิ่มวันหยุดต่อเนื่องพิเศษ การออกมาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับบริษัทเอกชนที่นำ พนักงานไปท่องเที่ยวในเมืองรองและเมืองหลัก เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทาง ท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น นอกจากนี้ รายงานประมาณการเศรษฐก ิ จจงัหวดัภเ ู กต ็ ส านักงานคลังจังหวัดภูเก็ต ศาลากลางจังหวัด ถ.เจ้าฟ้า ต.ตลาดเหนือ อ.เมือง จ.ภูเก็ต โทรศัพท์ 0-7621-2215 โทรสาร 0-7621-2215 ต่อ 322 http://www.cgd.go.th/pkt
3 หน่วยงานภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนได้ร่วมกันทำการตลาดส่งเสริมการขายและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยว ในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิเช่น งาน Amazing Phuket Roadshow to Korea ใน 2 เมือง คือ กรุงโซล และเมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลีใต้ อีกทั้งได้ทำการตลาดเพื่อเป็นการกระตุ้นและ ส่งเสริมการท่องเที่ยวตามพื้นที่ต่างๆ ภายในประเทศ อาทิ กรุงเทพมหานคร หรือ ภูมิภาคเดียวกัน และ ข้ามภูมิภาค ที่มีสายการบินที่บินตรงเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ทั้งยังร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในจังหวัด อย่างต่อเนื่องด้วย เช่น งานเทศกาลถือศีลกินผัก, ลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬา ครั้งที่ 29 ประจำปี 2565 และ งาน Phuket Thailand Powerboat 2022 เป็นต้น ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตเพิ่มมากขึ้น ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 11.4 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 11.1-11.7 จากแนวโน้มการขยายตัวของปริมาณการใช้ไฟฟ้าอุตสาหกรรม จำนวนโรงงานอุตสาหกรรมและทุนจดทะเบียนอุตสาหกรรม ภาคเกษตรกรรม หดตัวร้อยละ (-18.0) โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ(-18.4)-(-17.6) ต่อปี จากปริมาณผลผลิตยางพาราและปริมาณสัตว์น้ำรวมมีแนวโน้ม ลดลง เนื่องจากสภาพภูมิอากาศแปรปรวน อีกทั้งต้นทุนในการผลิตปรับตัวเพิ่มขึ้น เช่น ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าปุ๋ยเคมี ค่ายากำจัดศัตรูพืช การปรับขึ้นค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ด้านอุปสงค์คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 44.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 43.7-44.3 เป็นผลจาก การบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวที่ร้อยละ 81.1 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 80.6-81.6 ต่อปี จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลายลงอย่างมาก ภาครัฐจึงผ่อนคลาย นโยบายจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวลง และรัฐบาลได้ออกมาตรการรักษาระดับการบริโภค ภายในประเทศหลายมาตรการ อาทิเช่น โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โครงการ เพิ่มกำลังซื้อให้ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือพิเศษ โครงการคนละครึ่งเฟส 4 ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่น ของผู้บริโภคเพิ่มสูงขึ้น ทำให้ประชาชนสามารถจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น การลงทุนภาคเอกชน หดตัวร้อยละ (-2.7) โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ (-2.9)-(-2.6) จากการขออนุญาตพื้นที่ก่อสร้างและสินเชื่อเพื่อการลงทุน ชะลอตัว ต้นทุนของผู้ประกอบการที่เพิ่มสูงขึ้น และสถาบันการเงินเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ การใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวร้อยละ (-0.2) โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ (-0.3)-(-0.1) ต่อปี เนื่องจาก การขาดแคลนแรงงานก่อสร้างและปัญหาด้านสาธารณูโภค ต้องย้ายแนวเขตเสาไฟฟ้าที่กีดขวาง อย่างไรก็ดี จังหวัดมีการจัดประชุมติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณ และการจัดโครงการ “คลินิกหมอคลังช่วยได้” เพื่อช่วยเหลือส่วนราชการต่าง ๆ ให้สามารถดำเนินการก่อหนี้และเร่งรัดการใช้จ่ายเงินเพิ่มขึ้น 1.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในจังหวัดภูเก็ตปี 2565 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 4.4 โดยมีช่วงคาดการณ์เฉลี่ยร้อยละ 4.2-4.6 ต่อปี ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อจังหวัดภูเก็ต ได้แก่ สถานการณ์ด้านราคาพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นของราคาสินค้าและบริการที่จำเป็น ต่อชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม เป็นต้น การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและอัตราดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ดีภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องต่างทยอยฟื้นตัว จากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ มาตรการเปิดประเทศ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุน การจ้างงานและรายได้ของครัวเรือนได้บางส่วน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่สนับสนุน การใช้จ่ายของประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5
4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะ 3 และโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เป็นต้น ขณะที่การจ้างงาน ในปี 2565 คาดว่าจะมีการจ้างงานทั้งหม ด 455,712 คน ขยายตัวร้อยละ 46.5 เป็นการขยายตัวตามภาคบริการ เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวและต่อเนื่องกับการท่องเที่ยวสามารถกลับมา เปิดกิจการได้ตามปกติส่งผลให้ความต้องการแรงงานเพิ่มมากขึ้น 2. เศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ในปี 2566 2.1 ด้านการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ตในปี 2566 คาดว่าจะฟื้นตัวต่อเนื่อง ที่ร้อยละ 42.6 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 42.1-43.1 ต่อปีโดยมีภาคบริการเป็นแรงขับเคลื่อนที่สำคัญ จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชีย ยุโรป และอเมริกา และหลาย ประเทศทั่วโลกได้ทยอยเปิดประเทศเต็มรูปแบบเช่นกัน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยว ทั้งในประเทศและต่างประเทศ จะส่งผลให้นักท่องเที่ยวเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ด้านอุปทาน คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 45.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 44.5-45.5 เป็นการขยายตัวจาก ภาคบริการ ที่ขยายตัวร้อยละ 46.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 45.9-47.0 ต่อปี โดยคาดว่าหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 คลี่คลายลง ภาครัฐได้ยกเลิกระบบควบคุมและ ป้องกันการแพร่ระบาดลง และขยายระยะเวลาการพำนักในไทยให้กับชาวต่างชาติจากประเทศที่ได้รับ การยกเว้นวีซ่า ให้อยู่ในไทยได้นานขึ้นจากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน และขยายเวลาให้กับผู้ที่มาขอวีซ่า หน้าด่าน (Visa on Arrival : VOA) จากเดิมไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน ทำให้นักท่องเที่ยวอยู่ในไทย ได้นานขึ้นมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 ทำให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง กับการท่องเที่ยวและการเดินทางกลับมาเปิดดำเนินการมากขึ้น อีกทั้งหน่วยงานภาครัฐและเอกชนได้ออก ทำการตลาดทั้งในและต่างประเทศ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ภาคอุตสาหกรรม ขยายตัวร้อยละ 1.6 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.5-1.7 เนื่องจากปริมาณการใช้ไฟฟ้าอุตสาหกรรม จำนวนโรงงานและทุนจดทะเบียนอุตสาหกรรมมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ภาคเกษตรกรรม ขยายตัวร้อยละ 4.0 โดยมี ช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 3.8-4.2 ต่อปี จากปริมาณผลผลิตยางพารา กุ้ง และสัตว์น้ำรวม มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ตามความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น ด้านอุปสงค์คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 17.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 16.7-17.4 เป็นผลจาก การบริโภคภาคเอกชน ที่ขยายตัวร้อยละ 22.5 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 22.0-22.9 ต่อปี จากการที่รัฐบาลได้เปิดประเทศและผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยว รวมทั้งนโยบาย ส่งเสริมการท่องเที่ยวของไทย ทำให้ภาคการท่องเที่ยวฟื้นตัว ส่งผลให้รายได้จากภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจ บริการที่เกี่ยวข้องเพิ่มสูงขึ้น และสนับสนุนให้การบริโภคภาคเอกชนขยายตัว การลงทุนภาคเอกชน ขยายตัว ร้อยละ 5.4 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 5.3-5.4 ต่อปี จากนโยบายการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ ส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของการท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องจากการท่องเที่ยว การใช้จ่ายภาครัฐ ขยายตัวร้อยละ 1.4 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 1.3-1.5 ต่อปี คาดว่าจะขยายตัวตามมาตรการการเร่งรัด การเบิกจ่าย สำหรับรายได้เกษตรกร ขยายตัวร้อยละ 5.2 โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ร้อยละ 4.9-5.4 ขยายตัว จากความต้องการของผู้บริโภคและมาตรการช่วยเหลือต่าง ๆ ของภาครัฐ
5 2.2 ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในจังหวัดภูเก็ตปี 2566 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ร้อยละ 4.8 โดยมีช่วงคาดการณ์เฉลี่ยร้อยละ 4.5-5.0 ต่อปี ปัจจัยที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อจังหวัดภูเก็ตคือ ปัญหาความ ขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครนที่ยังยืดเยื้อ ทำให้ราคาพลังงานและโภคภัณฑ์ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อต้นทุน สินค้าที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ในขณะที่การจ้างงานในปี 2566 คาดว่าจะมีการจ้างงาน ทั้งหมด 488,823 คน ขยายตัวร้อยละ 7.3 เป็นการขยายตัวตามภาคบริการและธุรกิจที่ต่อเนื่อง จากการท่องเที่ยว เนื่องจากแรงงานในจังหวัดภูเก็ตส่วนใหญ่อยู่ในภาคบริการ ปัจจัยเสี่ยงเศรษฐกิจในปี 2565 – 2566 ของจังหวัดภูเก็ต ที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง 1. ความไม่แน่นอนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 ทั้งสายพันธุ์ ที่ระบาดในปัจจุบันและที่อาจเกิดขึ้นใหม่ในอนาคต ความไม่แน่นอนของประสิทธิภาพของวัคซีนในการ สร้างภูมิคุ้มกันโรคในกรณีที่มีการกลายพันธุ์ 2. ภาวะสงครามที่ยังยืดเยื้อส่งผลกระทบต่อราคาพลังงานและสินค้าโภคภัณฑ์ยังอยู่ใน ระดับสูง ซึ่งส่งผ่านไปต้นทุนของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจ 3. ความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกและภาวะเงินเฟ้อในหลายประเทศ ทั่วโลก ที่อาจส่งผลต่อการตัดสินใจท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยว 4. ประเด็นด้านเสถียรภาพทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นจากการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน ราษฎรไทยในต้นปี 2566 รวมทั้งความขัดแย้งทางการเมืองในประเทศ ที่จะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุน และผู้บริโภค 5. วิกฤตภัยธรรมชาติ รวมถึงปัญหาภัยแล้ง น้ำท่วมและหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้าน 6. ปัญหาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว เช่น เหตุการณ์เรือล่ม การก่อการร้าย และโรคระบาดต่าง ๆ 7. หนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง ส่งผลต่อกำลังซื้อของภาคครัวเรือนลดลง 8. ปัญหาการจ้างงาน จากการขาดแคลนแรงงาน ปัจจัยสนับสนุนเศรษฐกิจในปี 2565 - 2566 ของจังหวัดภูเก็ต 1. สถานการณ์การแพร่ระบาดและการกลายพันธ์ของเชื้อไวรัสสายพันธุ์โอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 – BA.5 และการแพร่ระบาดของโรคฝีดาษวานรที่คลี่คลายลง 2. นักท่องเที่ยวต่างชาติมีแนวโน้มเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น ตามแนวทางการเปิด ประเทศและการยกเว้นวีซ่าให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย ประกอบกับ เกือบทุกประเทศได้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศลงอย่างต่อเนื่อง 3. ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องทยอยฟื้นตัวจะเป็นแรงขับเคลื่อนหลักของ เศรษฐกิจในระยะต่อไป
6 ตารางสรุปสมมติฐานและผลการประมาณการเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต ปี 2565 (ณ เดือนธันวาคม 2565) Estimate : การประมาณการ ที่มา : กลุ่มงานนโยบายและเศรษฐกิจจังหวัด สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต F = Forecast : การพยากรณ์ ปรับปรุง : 10 มกราคม 2566 เฉลี่ย สมมติฐานหลัก สมมติฐานภายนอก 1) ปริมาณผลผลติ : ยางพารา(ร้อยละตอ่ ปี) 100.2 -53.2 4.0 3.8 4.2 2) ปริมาณผลผลติ : กงุ้ (ร้อยละตอ่ ปี) -4.3 5.4 3.4 3.2 3.6 3) ปริมาณผลผลติ : สตัวน์ ้า รวม (ร้อยละตอ่ ปี) -36.3 -31.2 4.5 4.3 4.8 4)ราคาทเี่กษตรกรขายไดเ้ฉลี่ย: ยางพารา(บาทตอ่ก.ก.) 54.5 57.3 58.4 58.4 58.5 5)ราคาทเี่กษตรกรขายไดเ้ฉลี่ย: กงุ้ทะเล(บาทตอ่ก.ก.) 231.9 245.4 248.6 248.4 248.7 6)ราคาทเี่กษตรกรขายไดเ้ฉลี่ย: สตัวน์ ้า รวม (บาทตอ่ก.ก.) 60.6 60.0 60.5 60.5 60.6 7) ปริมาณการใชไ้ฟฟ้าภาคอตุสาหกรรม (ร้อยละตอ่ ปี) -21.3 23.8 2.0 1.9 2.1 8)จา นวนโรงงานในจงัหวดั (โรง) 294 300 305 304 305 9) ทนุจดทะเบยีนของอตุสาหกรรม (ลา้นบาท) 11,426 11,669 11,797 11,791 11,804 10)จา นวนนกัทอ่งเทยี่วเฉลี่ย (ผา่นทางน้า + ผา่นสนามบนิ) 1,790,762 10,203,762 18,132,085 18,076,587 18,195,511 11)จา นวนเทยี่วบนิลงทจี่งัหวดั (เทยี่ว) 18,495 58,592 95,271 94,977 95,564 12) ภาษบีา รุงทอ้งถิ่นจากโรงแรม (ร้อยละตอ่ ปี) -72.3 362.6 25.0 24.5 25.5 13) ภาษมีูลคา่เพิ่มทจี่ดัเกบ็ได้(ร้อยละตอ่ ปี) -48.1 83.3 23.6 23.1 24.1 14)รถยนตจ์ดทะเบยีนใหม่(คนั ) 5,007 8,081 8,970 8,930 9,010 15)รถจกัรยานยนตจ์ดทะเบยีนใหม่(คนั ) 10,666 18,068 19,983 19,888 20,079 16) สินเชื่อเพื่อการลงทนุ (ลา้นบาท) 62,134 61,240 62,036 61,996 62,075 17) พ้ืนทอี่นุญาตกอ่สร้าง(ตารางเมตร) 915,985 806,067 807,276 807,215 807,336 18)รถยนตเ์พื่อการพาณิชย์(คนั ) 1,754 2,231 2,415 2,406 2,424 สมมติฐานด้านนโยบาย 21)รายจ่ายประจา ภาครฐั (ลา้นบาท) 2,783.6 2,807.0 2,843.5 2,841.7 2,845.3 (ร้อยละตอ่ ปี) 29.1 0.8 1.3 1.2 1.4 22)รายจ่ายลงทนุภาครฐั (ลา้นบาท) 1,352.0 1,268.5 1,292.6 1,291.4 1,293.8 (ร้อยละตอ่ ปี) 126.1 -6.2 1.9 1.8 2.0 ผลการประมาณการ 1)อตัราการขยายตวัทางเศรษฐกจิ (ร้อยละตอ่ ปี) -64.7 272.7 42.6 42.1 43.1 2)อตัราการขยายตวัของภาคเกษตรกรรม (ร้อยละตอ่ ปี) -27.6 -18.0 4.0 3.8 4.2 3)อตัราการขยายตวัของภาคอตุสาหกรรม (ร้อยละตอ่ ปี) -7.4 11.4 1.6 1.5 1.7 4)อตัราการขยายตวัของภาคบริการ(ร้อยละตอ่ ปี) -66.7 332.1 46.5 45.9 47.0 5)อตัราการขยายตวัของการบริโภคภาคเอกชน (ร้อยละตอ่ ปี) -46.4 81.1 22.5 22.0 22.9 6)อตัราการขยายตวัของการลงทนุภาคเอกชน (ร้อยละตอ่ ปี) -1.8 -2.7 5.4 5.3 5.4 7)อตัราการขยายตวัของการใชจ้่ายรฐับาล(ร้อยละตอ่ ปี) 38.0 -0.2 1.4 1.3 1.5 8)อตัราการขยายตวัของรายไดเ้กษตรกร(ร้อยละตอ่ ปี) -26.1 -16.5 5.2 4.9 5.4 9)อตัราเงินเฟ้อ(ร้อยละตอ่ ปี) 1.1 4.4 4.8 4.5 5.0 10)จา นวนผมู้ีงานทา (คน) 311,128 455,712 488,823 488,440 489,221 เปลี่ยนแปลง(คน) -2,519 144,585 33,111 32,727 33,508 -0.8 46.5 7.3 7.2 7.4 2564 2565 E 2566 F ณ ธนัวาคม 2565 ช่วง
7 สมมติฐานหลักในการประมาณการเศรษฐกิจ 1. ด้านอุปทาน ในปี 2565 เศรษฐกิจภูเก็ตมีแนวโน้มขยายตัวที่ร้อยละ 287.3 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 286.9-287.7 จากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรมและภาคบริการ ขยายตัวที่ร้อยละ 11.4 และ 332.1 ตามลำดับ ในขณะที่ภาคการเกษตร หดตัวร้อยละ (-18.0) โดยมีรายละเอียดดังนี้ 1.1 ปริมาณผลผลิตยางพารา ในปี 2565 คาดว่าจะหดตัวร้อยละ (-53.2) โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ (-53.7)-(-52.7) หดตัวจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากมีฝนตกชุกต่อเนื่อง น้ำท่วม ในหลายพื้นที่ ทำให้จำนวนวันกรีดยางลดลง และต้นทุนการผลิตที่ปรับเพิ่มขึ้น เช่น ค่าแรงงาน ค่าปุ๋ยเคมี และ ค่ายากำจัดศัตรูพืช ส่งผลให้ปริมาณผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดลดลง ในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 4.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 3.8-4.2 ภาพที่ 1 ประมาณการอัตราการขยายตัวของปริมาณผลผลิตยางพารา ที่มา: การยางแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต 1.2 ปริมาณผลผลิตกุ้ง คาดว่าในปี 2565 จะขยายตัวที่ร้อยละ 5.4 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ 5.1-5.7 ขยายตัวจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 คลี่คลายลง และการผ่อนคลายการเดินทางระหว่างประเทศ ส่งผลให้ นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัว ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งภาครัฐมีนโยบาย/โครงการต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการเลี้ยงกุ้ง สร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรและ ผู้ประกอบการกล้าลงทุนเพิ่มขึ้น มีการบริหารจัดการปัญหาโรคกุ้งและด้านการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมที่ดี สามารถลดความเสี่ยงของอัตราการตายได้มากขึ้น ส่งผลให้โอกาสการเลี้ยงกุ้งประสบความสำเร็จสูงขึ้น ในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 3.4 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 3.2-3.6
8 ภาพที่ 2 ประมาณการอัตราการขยายตัวของปริมาณผลผลิตกุ้งทะเล ที่มา : สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต, ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต 1.3 ปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำรวม คาดว่าในปี 2565 หดตัวที่ร้อยละ (-31.2) โดยมีช่วงการ คาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ (-31.7)-(-30.7) หดตัวเพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน 2565 จากสภาพอากาศแปรปรวน มีมรสุมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นส่งผลให้ ชาวประมงลดจำนวนวันในการนำเรือออกไปจับสัตว์น้ำ ทำให้ปริมาณผลผลิตสัตว์น้ำลดลง ในปี 2566 คาดว่า จะขยายตัวร้อยละ 4.5 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.3-4.8 ภาพที่ 3 ประมาณการอัตราการขยายตัวของสัตว์น้ำรวม ที่มา : ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต 1.4 ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม คาดว่าในปี 2565 จะขยายตัวร้อยละ 23.8โดยมีช่วง คาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 23.3-24.3 ขยายตัวจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากความต้องการ ใช้ไฟฟ้าเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 2.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 1.9-2.1
9 ภาพที่ 4 ประมาณการอัตราการขยายตัวของปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม ที่มา: การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต 1.5 จำนวนโรงงานในจังหวัด ในปี 2565 คาดว่ามีโรงงานอุตสาหกรรมจำนวน 300 โรง โดยมี ช่วงคาดการณ์อยู่ที่จำนวน 300–301 โรง อุตสาหกรรมที่มีการลงทุนมากที่สุดในจังหวัดภูเก็ตคือ อุตสาหกรรม การขนส่ง ประกอบด้วยการซ่อมและเคาะพ่นสีรถยนต์เป็นหลัก และการดัดแปลงซ่อมเครื่องยนต์ เครื่องกังหัน รวมถึงส่วนประกอบต่าง ๆ ซึ่งจะสนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการ ในปี 2566 คาดว่ามีโรงงานอุตสาหกรรม เพิ่มขึ้นจำนวน 305 โรง โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 304-305 โรง ภาพที่ 5 ประมาณการจำนวนโรงงานอุตสาหกรรม ที่มา: สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต 1.6 ทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรม ในปี 2565 คาดว่าจะมีจำนวนทุนจดทะเบียนอุตสาหกรรม จำนวน 11,669 ล้านบาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 11,657–11,681 ล้านบาท โดยอุตสาหกรรมที่มีการลงทุน มากที่สุดคือ อุตสาหกรรมการขนส่งประกอบด้วย การซ่อมและเคาะพ่นสีรถยนต์เป็นหลักและการดัดแปลง เครื่องยนต์ เครื่องกังหัน รวมถึงธุรกิจที่สนับสนุนการท่องเที่ยวและบริการ ในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัว อยู่ที่จำนวน 11,797 ล้านบาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 11,791-11,804 ล้านบาท
10 ภาพที่ 6 ประมาณการจำนวนทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรม ที่มา: สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต 1.7 จำนวนนักท่องเที่ยว (จำนวนนักท่องเที่ยวผ่านสนามบิน+นักท่องเที่ยวผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง คาดว่าในปี 2565 จะมีนักท่องเที่ยวจำนวน 10.2 ล้านคน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 10.1–10.2 ล้านคน ขยายตัวจากที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนกันยายน2565 จากภาคการท่องเที่ยวที่ฟื้นตัวดีอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้คลี่คลายลง และการผ่อนคลาย มาตรการเดินทางระหว่างประเทศ โดยตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2565 ได้ยกเลิกการลงทะเบียนระบบ Thailand Pass สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 ได้เปิดประเทศเต็มรูปแบบพร้อมทั้งได้กำหนดให้ โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคติดต่อที่ต้องเฝ้าระวัง โดยนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางเข้าประเทศไทย ไม่ต้องแสดงเอกสารการฉีดวัคซีนหรือผลการตรวจ ATK รวมทั้งได้ขยายระยะเวลาการพำนักในไทยให้กับ ชาวต่างชาติจากประเทศที่ได้รับการยกเว้นวีซ่า ให้อยู่ในไทยได้นานขึ้นจากไม่เกิน 30 วัน เป็นไม่เกิน 45 วัน และ ขยายเวลาให้กับผู้ที่มาขอวีซ่าหน้าด่าน (Visa on Arrival : VOA) จากเดิมไม่เกิน 15 วัน เป็นไม่เกิน 30 วัน ซึ่งจะ ทำให้นักท่องเที่ยวอยู่ในไทยได้นานขึ้นมีการใช้จ่ายเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2565 – 31 มีนาคม 2566 ส่งผลให้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองทั้งทางอากาศและทางเรือเพิ่มขึ้น เนื่องจาก มีเรือสำราญเดินทางมาจอด ณ ท่าเทียบเรือป่าตอง ให้ผู้โดยสารขึ้นมาท่องเที่ยวแบ บ One Day Trip นอกจากนี้ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวชาวไทยเดินทางท่องเที่ยว เพิ่มมากขึ้น ผ่านโครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4ส่วนขยาย โครงการทัวร์เที่ยวไทย ที่จะสนับสนุนกิจกรรม ด้านท่องเที่ยวด้วยการเพิ่มวันหยุดต่อเนื่องพิเศษ มาตรการลดหย่อนภาษีเงินได้นิติบุคคล สำหรับบริษัทเอกชน ที่นำพนักงานไปท่องเที่ยวในเมืองรองและเมืองหลัก ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ต มากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการมีรายได้เพิ่มขึ้น นอกจากนี้หน่วยงานภาครัฐร่วมกับภาคเอกชนได้ร่วมกันทำการตลาด ส่งเสริมการขายและเจรจาธุรกิจด้านการท่องเที่ยวในสถานที่ต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ อาทิเช่น งาน Amazing Phuket Roadshow to Korea ใน 2 เมือง คือ กรุงโซล และเมืองปูซาน สาธารณรัฐเกาหลีอีกทั้ง ได้ทำการตลาดเพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมการท่องเที่ยวตามพื้นที่ต่างๆ ภายในประเทศ อาทิ กรุงเทพมหานคร หรือ ภูมิภาคเดียวกัน และข้ามภูมิภาค ที่มีสายการบินที่บินตรงเข้ามาจังหวัดภูเก็ต ทั้งยังร่วมมือกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ ภายในจังหวัดอย่างต่อเนื่อง เช่น งานเทศกาลถือศีลกินผัก, ลากูน่าภูเก็ตไตรกีฬา ครั้งที่ 28 ประจำปี 2565 และงาน Phuket Thailand Powerboat 2022 เป็นต้น เพื่อกระตุ้นตลาดอย่างต่อเนื่อง
11 ซึ่งเป็นสัญญาณที่ดีว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้ ครัวเรือนและภาคธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยวทยอยฟื้นตัวต่อเนื่อง ในปี 2566 คาดว่าจำนวน นักท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 18.1 ล้านคน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 18.1-18.2 ล้านคน ภาพที่ 7 ประมาณการอัตราการขยายตัวของจำนวนนักท่องเที่ยว ที่มา: ท่าอากาศยานภูเก็ต, ด่านตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดภูเก็ต 1.8 จำนวนเที่ยวบินขึ้น-ลงที่สนามบิน ในปี 2565 คาดว่าจำนวนเที่ยวบินจะอยู่ที่ประมาณ 58,592 เที่ยวบิน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 58,512-58,672 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือน กันยายน 2565 จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่คลี่คลายลง การกระจาย วัคซีนครอบคลุมมากขึ้น ภาครัฐจึงได้ผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคทั้งภายในและระหว่างประเทศ โดยการ ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและเปิดประเทศเต็มรูปแบบ อีกทั้งหลายประเทศต้นทางได้ผ่อนคลาย มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศอย่างต่อเนื่อง และเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว ประกอบกับสายการบิน เปิดเส้นทางบินตรงเพิ่มขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาเพิ่มขึ้น สายการบินต่างๆ จึงได้เพิ่มจำนวนเที่ยวบินและเส้นทางบินเพื่อรองรับปริมาณความต้องการเดินทางของผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้น อย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เที่ยวบินระหว่างประเทศและเที่ยวบินในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัว จากการที่สายการบิน ได้เปิดเที่ยวบินใหม่และการกลับมาเปิดเที่ยวบินที่เคยระงับทำการบินในช่วงการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ ไวรัสโคโรนา 2019เพิ่มขึ้น เช่น เส้นทางโซล-ภูเก็ต เส้นทางมัสกัต-ภูเก็ต และ เส้นทางเชเรเมเตียโว-ภูเก็ต เป็นต้น ในปี 2566 คาดว่าจำนวนเที่ยวบินจะอยู่ที่ 95,271 เที่ยวบิน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 94,977-95,564 เที่ยวบิน
12 ภาพที่ 7 ประมาณการจำนวนเที่ยวบิน ที่มา : ท่าอากาศยานภูเก็ต 1.9 ภาษีบำรุงท้องถิ่นจากโรงแรม ในปี 2565คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 362.6โดยมีช่วงคาดการณ์ อยู่ที่ร้อยละ 362.2-363.0 ขยายตัวจากที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากธุรกิจโรงแรม มีแนวโน้มทยอยฟื้นตัวจากวิกฤต COVID-19 ที่คลี่คลายลง อัตราการการฉีดวัคซีนทั่วถึงมากขึ้น ภาครัฐ จึงผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางของนักท่องเที่ยวลง ส่งผลให้จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้น อีกทั้ง ภาครัฐได้ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ ภายในประเทศ เพื่อเป็นการกระตุ้นและส่งเสริมให้นักท่องเที่ยว ชาวไทยเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการทัวร์เที่ยวไทย ทำให้นักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการโรงแรมและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ในปี 2566 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 25.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 24.5-25.5 ภาพที่ 9 ประมาณการภาษีบำรุงท้องถิ่นจากโรงแรมที่จัดเก็บได้ ที่มา: องค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต
13 2. ด้านอุปสงค์ในปี2565 คาดว่าจะขยายตัวร้อยละ 44.0 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 43.7-44.3 เป็นผลมาจากการบริโภคภาคเอกชน ขยายตัวร้อยละ 81.1 ในขณะที่การลงทุนภาคเอกชน และการใช้จ่ายภาครัฐ หดตัวร้อยละ (-2.7 ) และ (-0.2) ตามลำดับ โดยมีรายละเอียดดังนี้ 2.1 ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ ในปี 2565 คาดว่าจะขยายตัวที่ร้อยละ 83.3 โดยมี ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 82.8-83.8 ขยายตัวจากที่ประมาณการไว้เมื่อเดือนกันยายน 2565 ตามการขยายตัว ของเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัว หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ที่คลี่คลายลง อัตราการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้น ทำให้ประชาชนสามารถใช้ชีวิตและดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจได้เกือบเป็นปกติ อีกทั้งได้ยกเลิกการลงทะเบียน Thailand Pass ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2565 ส่งผลให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น อีกทั้งภาครัฐได้ดำเนินการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น โครงการ เราเที่ยวด้วยกัน โครงการทัวร์เที่ยวไทย โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ทำให้มีนักท่องเที่ยวชาวไทยและ ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ประกอบการทั้งภาคท่องเที่ยวและธุรกิจ ที่ต่อเนื่องจากการท่องเที่ยวมีรายได้เพิ่มขึ้น ถึงแม้จะไม่มากเท่ากับเหตุการณ์ปกติในปี 2562 แต่ก็ทำให้ เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง จากการจับจ่ายใช้สอยต่าง ๆ มากขึ้น ส่งผลให้ภาครัฐจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ได้เพิ่มขึ้น คาดว่าในปี 2566 การจัดเก็บภาษีจะขยายตัวร้อยละ 23.6 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 23.1-24.1 ภาพที่10 ประมาณการภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ ที่มา: สำนักงานสรรพากรพื้นที่ภูเก็ต 2.2 รถยนต์จดทะเบียนใหม่ ในปี 2565 คาดว่าจะมีจำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวน 8,081 คัน โดยมีช่วงการคาดการณ์อยู่ที่ 8,057–8,106 คัน เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือน กันยายน 2565 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้การท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัว ทำให้กิจกรรมสำหรับนักท่องเที่ยวและการจับจ่ายใช้สอยเพิ่มขึ้น ประชาชนหลายภาคส่วนมีรายได้เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งการส่งเสริมการขายของผู้จำหน่ายรถยนต์ ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อรถยนต์เพิ่มขึ้น ในปี 2566 คาดว่า จำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวน 8,970 คัน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 8,930-9,010 คัน
14 ภาพที่ 11 ประมาณการจำนวนรถยนต์จดทะเบียนใหม่ ที่มา: สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต 2.3 รถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ คาดว่าในปี 2565จะมีจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ จำนวน 18,068 คัน โดยมีช่วงการคาดการณ์อยู่ที่ 18,016–18,120 คัน เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิม เมื่อเดือนกันยายน 2565 จากการผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด 2019 ที่คลี่คลายลง และมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจทำให้ภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจต่อเนื่องฟื้นตัว ส่งผลให้กิจกรรม ทางเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอยทยอยฟื้นตัว ส่งผลดีต่อยอดจำหน่ายรถรถจักรยานยนต์เพิ่มขึ้น เนื่องจาก กลุ่มผู้ใช้รถจักรยานยนต์มีกำลังซื้อเพิ่มขึ้น ในปี 2566 คาดว่าจำนวนรถจักรยานยนต์ใหม่จะอยู่ที่จำนวน 19,983 คัน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 19,888-20,079 คัน ภาพที่ 12 ประมาณการจำนวนรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ที่มา: สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต
15 2.4 สินเชื่อเพื่อการลงทุน ของสถาบันการเงินในจังหวัดภูเก็ต ในปี 2565 คาดว่ามีจำนวนเงิน 61,240 ล้านบาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 61,195–61,284 ล้านบาท ชะลอตัวจากที่ประมาณการไว้เดิม เมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากสถาบันการเงินเพิ่มความเข้มงวดและความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อมากขึ้น จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต้องจ่ายเพิ่มสูงขึ้น ในปี 2566 คาดว่า จะมีจำนวนเงิน 62,036 ล้านบาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 61,996-62,075 ล้านบาท ภาพที่ 13 ประมาณการปริมาณสินเชื่อเพื่อการลงทุน ที่มา: ธนาคารแห่งประเทศไทย 2.5 พื้นที่ขออนุญาตก่อสร้าง ในปี 2565 คาดว่าจะหดตัวที่ร้อยละ (-12.0) โดยมีช่วงคาดการณ์ อยู่ที่ร้อยละ (-12.5)-(-11.5) หดตัวจากที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนกันยายน 2565 จากระดับราคาน้ำมัน และวัสดุก่อสร้างที่ยังอยู่ในระดับสูงจากปัญหาความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ผู้รับเหมาต้องแบกรับ ภาระต้นทุนที่ปรับเพิ่มขึ้น แม้ผู้ประกอบการจะมีโอกาสผลักภาระต้นทุนโดยการปรับขึ้นราคาที่อยู่อาศัย แต่ก็อาจทำได้จำกัดเนื่องจากกำลังซื้อยังฟื้นตัวช้า รวมถึงการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ส่งผลให้ราคาขาย เพิ่มขึ้นทำให้ผู้ซื้อน้อยลง ประกอบกับต้นทุนที่สูงขึ้นตามราคาพลังงาน ราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าจ้างแรงงาน ทำให้ผู้ประกอบการบางส่วนชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ออกไป แต่อย่างไรก็ดีมาตรการกระตุ้น อสังหาริมทรัพย์ของธนาคารแห่งประเทศไทย ด้วยการผ่อนคลายมาตรการ LTV สำหรับสินเชื่อที่อยู่อาศัยและ สินเชื่ออื่นที่เกี่ยวเนื่องกับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยจนถึงสิ้นปี 2565 เพื่อเป็นการผ่อนคลายภาระให้แก่ประชาชน ที่ต้องการที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง ในปี 2566 คาดว่าจะมีแนวโน้มขยายตัวร้อยละ 0.2 โดยมีช่วงคาดการณ์ อยู่ที่ร้อยละ 0.1-0.2 ภาพที่ 14 ประมาณการพื้นที่อนุญาตก่อสร้าง ที่มา: สำนักงานสถิติจังหวัดภูเก็ต
16 2.6 รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ คาดว่าในปี 2565 จะมีจำนวนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ จำนวน 2,231 คัน มีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 2,222-2,241 คัน ทรงตัวเท่ากับที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่องจากภาคบริการ และภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่าง ๆ เช่น โครงการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 4 ส่วนขยาย โครงการทัวร์เที่ยวไทย ทำให้ประชาชนกลับมาใช้ชีวิตในการประกอบ อาชีพและกิจกรรมทางเศรษฐกิจจนเกือบเป็นปกติ ส่งผลต่อความต้องการใช้รถยนต์เพื่อการพาณิชย์เพิ่มขึ้น อีกทั้งผู้ประกอบการมีการเปิดตัวรถรุ่นใหม่อย่างต่อเนื่องทั้งรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์เครื่องยนต์สันดาปภายใน เพื่อเป็นการส่งเสริมการตลาดมากขึ้น ในปี 2566 คาดว่าจะมีจำนวนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์จำนวน 2,415คัน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่จำนวน 2,406-2,424 คัน ภาพที่ 15 ประมาณการจำนวนรถยนต์เพื่อการพาณิชย์ 2.7 การใช้จ่ายของภาครัฐ ในปี 2565 คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะหดตัวร้อยละ (-0.2) โดยมีช่วง คาดการณ์อยู่ที่ (-0.3)-(-0.1) จากรายจ่ายลงทุนที่หดตัวร้อยละ (-6.2) โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ (-6.4)-(-6.0) เนื่องจากสภาพภูมิอากาศไม่เอื้ออำนวย เกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมในหลายพื้นที่ ผู้รับจ้าง ไม่สามารถเข้าทำงานได้ และการขาดแคลนแรงงานก่อสร้าง สำหรับรายจ่ายประจำคาดว่าขยายตัว ร้อยละ 0.8 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 0.8-0.9 อย่างไรก็ดีจังหวัดได้มีการประชุมติดตามเร่งรัดการใช้จ่าย งบประมาณของส่วนราชการ เพื่อเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด และจัดโครงการ “คลินิกหมอคลังช่วยได้” เพื่อช่วยเหลือส่วนราชการและเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด สำหรับในปี 2566 คาดว่าการใช้จ่ายภาครัฐจะขยายตัวร้อยละ 1.4 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 1.3-1.5 ที่มา: สำนักงานขนส่งจังหวัดภูเก็ต
17 ภาพที่ 16 ประมาณการอัตราการขยายตัวของรายจ่ายประจำ ที่มา: สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต ภาพที่ 17 ประมาณการอัตราการขยายตัวของรายจ่ายลงทุน ที่มา: สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 กำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายงบประมาณภาพรวมไว้ที่ร้อยละ 100.0 ของวงเงินงบประมาณรายจ่ายในภาพรวม โดยกำหนดเป้าหมายการใช้จ่ายรายจ่ายลงทุนและรายจ่ายประจำ ไว้ที่ร้อยละ 100.0 โดยมีเป้าหมายการใช้จ่ายและการเบิกจ่ายรายไตรมาสประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 ดังนี้ เป้าหมายการเบิกจ่ายและ การใช้จ่ายภาครัฐ ปีงบประมาณพ.ศ. 2566 ไตรมาสที่ 1 ไตรมาสที่ 2 ไตรมาสที่ 3 ไตรมาสที่ 4 เบิกจ่าย ใช้จ่าย เบิกจ่าย ใช้จ่าย เบิกจ่าย ใช้จ่าย เบิกจ่าย ใช้จ่าย รายจ่ายประจำ 35.0 35.3 55.0 55.8 80.0 81.8 98.0 100.0 รายจ่ายลงทุน 19.0 29.0 39.0 58.2 57.0 81.8 75.0 100.0 รายจ่ายภาพรวม 32.0 34.1 52.0 56.2 75.0 81.7 93.0 100.0
18 ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รายจ่ายรัฐบาลคาดว่าจะสามารถเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวม ได้ทั้งสิ้น 4,135.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 18.0 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราการเบิกจ่าย ที่ร้อยละ 93.0 ของวงเงินงบประมาณในภาพรวม โดยรายจ่ายประจำสามารถเบิกจ่ายได้ 2,843.0 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 8.6 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายที่ร้อยละ 98.0 ของวงเงิน งบประมาณรายจ่ายประจำ สำหรับรายจ่ายลงทุนสามารถเบิกจ่ายได้1,292.0ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 45.7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน คิดเป็นอัตราการเบิกจ่ายที่ร้อยละ 75.0 ของวงเงินงบประมาณรายจ่าย ลงทุน เนื่องจากจังหวัดได้มีการจัดประชุมติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายเงินงบประมาณของส่วนราชการ เพื่อเร่งรัด การใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด ตารางผลการเบิกจ่ายงบประมาณ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 งบประมาณ จัดสรร ผ ล ก ารเบิ ก จ่า ย สะสมตั้งแต่ต้นปี งปม.จนถึงเดือน ธันวาคม 2565 ร้อยละการเบิกจ่าย ผลการเบิกจ่าย คาดการณ์เบิกจ่าย คาดการณ์ร้อยละ การเบิกจ่าย 1.งบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 รายจ่ายประจำ 1,062.5 713.4 67.1 2,843.0 98.0 รายจ่ายลงทุน 1,746.9 87.7 5.0 1,292.0 75.0 รายจ่ายภาพรวม 2,809.4 801.1 28.5 4.135.0 93.0 2.งบประมาณเหลื่อมปี ปี 2565 649.9 189.1 29.1 .8 รวมงบเหลื่อมปี 649.9 189.1 29.1 กราฟผลการเบิกจ่ายผลการเบิกจ่ายงบประมาณภาพรวม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สะสมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงเดือนธันวาคม 2565 ที่มา: สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต
19 กราฟผลการเบิกจ่ายผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 สะสมตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงเดือนธันวาคม 2565 ที่มา: สำนักงานคลังจังหวัดภูเก็ต 3. รายได้เกษตรกร ในปี 2565 คาดว่าจะหดตัวลดลงที่ร้อยละ (-16.5) โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ ร้อยละ (-17.0)-(-16.0) จากภาครัฐผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยการเปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติและออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่างๆ จากภาครัฐ เช่น โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ส่วนขยาย โครงการเราเที่ยวด้วยกัน ส่งผลให้ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ตามเกษตรกรมีรายได้ลดลง จากภาระต้นทุนการผลิตที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะราคาปุ๋ยเคมีและ อาหารสัตว์การปรับค่าจ้างแรงงานขั้นต่ำ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงและพลังงานปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.1 ราคายางพารา ในปี 2565 คาดว่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 57.3 บาท โดยมีช่วงการคาดการณ์ อยู่ที่ 57.2–57.4 บาท ชะลอตัวจากที่คาดการณ์ไว้เมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราลดลง จากภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ส่งผลต่อความต้องการยางพาราที่จะนำไปผลิตยางล้อรถยนต์ลดลง อีกทั้งราคา น้ำมันดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง ส่งผลให้ยางสังเคราะห์มีราคาถูกลง แต่อย่างไรก็ดีภาครัฐขยายเวลาโครงการ สนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการผลิตผลิตภัณฑ์ยางออกไปจนถึงสิ้นเดือนธันวาคม 2565 เพื่อสนับสนุนการขยาย กำลังการผลิตผู้ประกอบการแปรรูปผลิตภัณฑ์ยางต่าง ๆ และผลิตภัณฑ์ถุงมือยางธรรมชาติ ที่จะช่วยกระตุ้น ให้เกิดการใช้ยางภายในประเทศเพิ่มมากขึ้น ในปี 2566 คาดว่าราคายางพาราจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 58.4 บาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 58.4-58.5 บาท ภาพที่ 18 ประมาณการราคายางพารา ที่มา: สำนักงานการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดภูเก็ต
20 3.2 ราคากุ้ง ในปี 2565 คาดว่าราคาเฉลี่ยอยู่ในระดับที่เพิ่มขึ้นโดยอยู่ที่กิโลกรัมละ 245.4 บาท โดยมีช่วงการคาดการณ์อยู่ที่ 244.7-246.0 บาท เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019คลี่คลายลง และการผ่อนคลายมาตรการการเดินทางระหว่างประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาประเทศไทยและ จังหวัดภูเก็ตเพิ่มขึ้น ส่งผลดีต่อกิจการร้านอาหารและทำให้ความต้องการบริโภคเพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งภาครัฐ มีนโยบาย/โครงการต่าง ๆ ที่ช่วยส่งเสริมการเลี้ยงกุ้ง ส่งผลให้เกษตรกรและผู้ประกอบการมีความเชื่อมั่น ที่จะลงทุนเพิ่มขึ้น ส่วนปัญหาด้านโรคระบาดของกุ้งและด้านการเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อม ได้มี การบริหารจัดการที่ดีขึ้น สามารถลดความเสี่ยงของอัตราการตายได้เพิ่มขึ้น ในปี 2566 คาดว่าจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 248.6 บาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 248.4-248.7 บาท ภาพที่ 19 ประมาณการราคากุ้งทะเล ที่มา: สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต ,ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต 3.3 ราคาสัตว์น้ำรวม ในปี 2565 คาดว่าราคาเฉลี่ยจะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60.0 บาท โดยมี ช่วงการคาดการณ์อยู่ที่ 59.9–60.0 บาท เพิ่มขึ้นจากที่ประมาณการไว้เดิมเมื่อเดือนกันยายน 2565 เนื่องจาก ความต้องการของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่อง ในปี 2566 คาดว่า จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 60.5 บาท โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 60.5-60.6 บาท ภาพที่ 20 ประมาณการราคาสัตว์น้ำรวม ที่มา : สำนักงานประมงจังหวัดภูเก็ต, ท่าเทียบเรือประมงภูเก็ต
21 4. ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจในจังหวัดภูเก็ตปี 2565 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ ร้อยละ 4.4 โดยมีช่วงการคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.2-4.6 โดยปัจจัยที่มีผลต่ออัตราเงินเฟ้อจังหวัดภูเก็ต จากสถานการณ์ด้านราคาพลังงานที่สูงขึ้น รวมถึงทิศทางการปรับขึ้นของราคาสินค้าและบริการที่จำเป็น ต่อชีวิตประจำวันต่าง ๆ เช่น ค่ากระแสไฟฟ้า ค่าก๊าซหุงต้ม เป็นต้น การปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำและอัตราดอกเบี้ย แต่อย่างไรก็ดีภาคท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องต่างทยอยฟื้นตัว จากมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวและ มาตรการเปิดประเทศ ส่งผลให้มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติเพิ่มขึ้น ซึ่งจะเข้ามาช่วยหนุน การจ้างงานและรายได้ของครัวเรือนได้บางส่วน อีกทั้งมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายของภาครัฐที่สนับสนุน การใช้จ่ายของประชาชนอย่างต่อเนื่อง อาทิเช่น โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 4 โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษระยะ 2 และโครงการคนละครึ่งเฟส 5 เป็นต้น ในปี 2566 คาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ที่ร้อยละ 4.8 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 4.5-5.0 ในขณะที่การจ้างงานในปี 2565 คาดว่าจะมีการจ้างงานทั้งหมด 455,712 คน โดยมี ช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 455,504-455,921คน ขยายตัวร้อยละ 46.5 โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ร้อยละ 46.4–46.5 เป็นการขยายตัวตามภาคบริการ เนื่องจากธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่ต่อเนื่องกับการท่องเที่ยว สามารถกลับมา เปิดบริการได้ตามปกติทำให้มีความต้องการแรงงานเพิ่มมากขึ้น ปี 2566 คาดว่าจะมีการจ้างงานทั้งหมด 488,823 คน โดยมีช่วงคาดการณ์อยู่ที่ 488,440-489,221 คน ตารางสรุปภาพรวมเศรษฐกิจและแนวโน้มของจังหวัดภูเก็ต ource: Phuket Update: 15.15 pm. 10/01/23 indicator unit 2559 2560 2561 2562 2563 2564 MIN CONCENSUS MAX MIN CONCENSUS MAX Economic Growth GPP current price Million Baht 194,920 212,851 236,213 248,716 134,616 53,719 202,226 202,555 202,885 297,047 298,529 300,046 %yoy 10.5 5.3 8.4 2.8 -62.2 -60.1 276.5 277.1 277.7 46.6 47.4 48.1 GPP constant price Million Baht 145,042 151,683 163,872 169,982 99,845 35,269 131,295 131,434 131,572 186,816 187,466 188,138 %yoy 11.7 4.6 8.0 3.7 -61.0 -64.7 272.3 272.7 273.1 42.1 42.6 43.1 population person 497,940 507,052 515,559 523,480 530,841 537,665 543,443 543,981 544,519 549,267 549,811 550,355 %yoy 2.0 1.8 1.7 1.5 1.4 1.3 1.1 1.2 1.3 1.0 1.1 1.2 GPP per capita baht/person 344,607 371,632 407,301 423,082 226,158 99,911 372,119 372,357 372,595 540,805 542,966 545,186 Agriculture : API (Q) %yoy 3.9 -29.2 24.7 1.0 20.7 -27.6 -18.4 -18.0 -17.6 3.8 4.0 4.2 Industry : IPI (Q) %yoy 8.5 4.2 3.3 -1.2 -18.1 -7.4 11.1 11.4 11.7 1.5 1.6 1.7 Service : SI (Q) %yoy 14.9 21.0 12.4 -5.0 -61.1 -66.7 331.7 332.1 332.5 45.9 46.5 47.0 Private Consumption : Cp Index %yoy 10.5 12.7 12.7 2.3 -41.4 -46.4 80.6 81.1 81.6 22.0 22.5 22.9 Private Invesment : Ip Index %yoy -0.2 -1.7 6.5 2.5 -6.3 -1.8 -2.9 -2.7 -2.6 5.3 5.4 5.4 Government Expenditure : G Index %yoy -3.7 -24.1 5.1 -2.3 11.0 38.0 -0.3 -0.2 -0.1 1.3 1.4 1.5 Border trade %yoy Farm Income %yoy -20.0 -20.5 35.9 0.4 19.7 -26.1 -17.0 -16.5 -16.0 4.9 5.2 5.4 Economic Stability Inflation Rate % per annual -0.0 0.8 1.4 0.2 -1.3 1.1 4.2 4.4 4.6 4.5 4.8 5.0 GPP deflator %yoy -1.1 0.7 0.4 -0.9 -1.2 4.6 4.2 4.4 4.6 4.5 4.8 5.0 Employment person 318,181 320,569 320,393 320,659 313,647 311,128 455,504 455,712 455,921 488,440 488,823 489,221 yoy 3,848 2,388 -176 267 -7,012 -2,519 144,376 144,585 144,793 32,727 33,111 33,508 %yoy 1.2 0.8 -0.1 0.1 -2.2 -0.8 46.4 46.5 46.5 7.2 7.3 7.4 2565E 2566F
22 คำนิยามตัวแปรและการคำนวณในแบบจำลองเศรษฐกิจจังหวัดภูเก็ต GPP constant price ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีฐาน GPP current prices ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีปัจจุบันรายจ่ายรัฐบาลสามารถเบิกจ่าย งบประมาณภาพรวมได้ทั้งสิ้น GPPS ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีฐาน ด้านอุปทาน GPPD ดัชนีผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาปีฐาน ด้านอุปสงค์ API ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคเกษตร IPI ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคอุตสาหกรรม SI ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคบริการ Cp Index ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน Ip Index ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน G Index ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐบาล GPP Deflator ระดับราคาเฉลี่ยของผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดภูเก็ต CPI ดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต PPI ดัชนีราคาผู้ผลิตระดับประเทศ Inflation rate อัตราเงินเฟ้อจังหวัดภูเก็ต Farm Income Index ดัชนีรายได้เกษตรกร Population จำนวนประชากรของจังหวัดภูเก็ต Employment จำนวนผู้มีงานทำของจังหวัดภูเก็ต %yoy อัตราการเปลี่ยนแปลงเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน Base year ปีฐาน (2548 = 100) Min สถานการณ์ที่คาดว่าเลวร้ายที่สุด Consensus สถานการณ์ที่คาดว่าจะเป็นได้มากที่สุด Max สถานการณ์ที่คาดว่าดีที่สุด
23 การคำนวณดัชนี ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจด้านอุปทาน (Supply Side หรือ Production Side: GPPS) ประกอบด้วย 3 ดัชนีได้แก่ (1) ดัชนีผลผลิตภาคเกษตรกรรมจังหวัดภูเก็ต โดยให้น้ำหนัก 0.07 (2) ดัชนีผลผลิตภาคบริการจังหวัดภูเก็ต โดยให้น้ำหนัก 0.88 (3) ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต โดยให้น้ำหนัก 0.05 การกำหนดน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบของดัชนี โดยหาสัดส่วนจากมูลค่าเพิ่มราคาปี ปัจจุบัน ของเครื่องชี้เศรษฐกิจภาคเกษตรกรรม (สาขาเกษตร + สาขาประมง) เครื่องชี้เศรษฐกิจภาคอุตสาหกรรม (สาขาการทำเหมืองแร่และเหมืองหิน สาขาอุตสาหกรรม สาขาไฟฟ้าและสาขาการจัดหาน้ำ) และเครื่องชี้ เศรษฐกิจภาคบริการ (14 สาขา ตั้งแต่สาขาก่อสร้าง - สาขากิจกรรมบริการด้านอื่น ๆ) จากข้อมูล GPP ของ สศช. เทียบกับ GPP รวมราคาปีปัจจุบันของ สศช. จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวการณ์ผลิตภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการของจังหวัดภูเก็ตเป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้าประมาณ 1 เดือนครึ่ง (45 วัน) โดยการคำนวณ API (Q), IPI (Q), SI (Q) ได้กำหนดปีฐาน 2548 ซึ่งคำนวณจากเครื่องชี้ผลผลิตภาค เกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคบริการของจังหวัดภูเก็ตรายเดือน อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปี พ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ➢ ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคเกษตร (Agricultural Production Index: API) • ประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 3 ตัว คือ - ปริมาณผลผลิต : ยางพารา โดยให้น้ำหนัก 0.00 - ปริมาณผลผลิต : กุ้งทะเล โดยให้น้ำหนัก 0.34 - ปริมาณผลผลิต : สัตว์น้ำรวม โดยให้น้ำหนัก 0.66 • โดยตัวชี้วัดทุกตัวได้ปรับฤดูกาล (Seasonal Adjusted : SA) แล้ว การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ API (Q) ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ข้างต้น ได้ จากสัดส่วนมูลค่าเพิ่มของเครื่องชี้ ณ ราคาปีปัจจุบัน กับ GPP แบบ Bottom up ณ ราคาปีปัจจุบันภาค เกษตรกรรม (สาขาเกษตร และสาขาประมง) ➢ ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production Index: IPI) • ประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 3 ตัว คือ - ปริมาณการใช้ไฟฟ้าภาคอุตสาหกรรม โดยให้น้ำหนัก 0.36 - จำนวนโรงงานอุตสาหกรรม โดยให้น้ำหนัก 0.35 - ทุนจดทะเบียนของโรงงานอุตสาหกรรมใหม่ โดยให้น้ำหนัก 0.29 การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ IPI ให้น้ำหนักของเครื่องชี้จากหา ความสัมพันธ์ Correlation ระหว่าง เครื่องชี้เศรษฐกิจผลผลิตอุตสาหกรรมรายปี กับ GPP (สศช.) ณ ราคาคงที่ ภาคอุตสาหกรรม (สาขาเหมืองแร่ สาขาอุตสาหกรรม และสาขาไฟฟ้า)
24 ➢ ดัชนีปริมาณผลผลิตภาคบริการ (Service Index: SI) • ประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 3 ตัว คือ - จำนวนนักท่องเที่ยวเข้า-ออกสนามบิน โดยให้น้ำหนัก 0.29 - จำนวนเที่ยวบินลงที่จังหวัด โดยให้น้ำหนัก 0.42 - ภาษีบำรุงท้องถิ่นจากโรงแรม โดยให้น้ำหนัก 0.29 การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ SI ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ โดยเครื่องชี้ภาค บริการ ด้านขายส่งขายปลีก บริหารราชการ การศึกษา สุขภาพ และที่พักแรมฯ โดยหาสัดส่วนของ GPP ณ ราคาปีปัจจุบัน (2552) ของสาขาขายส่ง ขายปลีกฯ สาขาที่พักแรมและร้านอาหาร สาขาบริหารราชการฯ สาขาการศึกษา สาขาสุขภาพฯ เทียบ GPP รวมภาคบริการ (ตั้งแต่สาขาก่อสร้าง ถึงสาขากิจกรรมบริการด้าน อื่น) ณ ราคาปีปัจจุบัน (สศช.) หารด้วยจำนวนเครื่องชี้ในด้านนั้นๆ ➢ ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจด้านอุปสงค์(Demand Side: GPPD) • ประกอบไปด้วย 3 ดัชนีได้แก่ (1) ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน โดยให้น้ำหนัก 0.55 (2) ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน โดยให้น้ำหนัก 0.29 (3) ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐ โดยให้น้ำหนัก 0.16 การกำหนดน้ำหนักของแต่ละองค์ประกอบของดัชนี โดยหาค่าเฉลี่ยในแต่ละดัชนี เทียบกับ GPP constant price โดยเฉลี่ยเพื่อหาสัดส่วน และคำนวณหาน้ำหนักจากสัดส่วนของแต่ละดัชนีเทียบผลรวม สัดส่วนดัชนีรวมทั้งหมด จัดทำขึ้นเพื่อใช้ติดตามภาวะการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคภาคเอกชน การลงทุน และการ ใช้จ่ายภาครัฐของจังหวัดภูเก็ตเป็นรายเดือน ซึ่งจะล่าช้าประมาณ 1เดือนครึ่ง (45 วัน) โดยการคำนวณ Cp Index, Ip Index, G Index ได้กำหนดปีฐาน 2548 ซึ่งคำนวณจากเครื่องชี้ภาวะการใช้จ่ายเพื่อการบริโภค ภาคเอกชน การลงทุน และใช้จ่ายภาครัฐของจังหวัดภูเก็ตเป็นรายเดือน อนุกรมเวลาย้อนหลังไปตั้งแต่ปีพ.ศ. 2548 เป็นต้นมา ➢ ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption Index : Cp Index) • ประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 3 ตัว คือ - ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ โดยให้น้ำหนัก 0.86 - จำนวนรถยนต์นั่งส่วนบุคคลจดทะเบียนใหม่ โดยให้น้ำหนัก 0.12 - จำนวนรถมอเตอร์ไซด์จดทะเบียนใหม่ โดยให้น้ำหนัก 0.02 การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ Cp Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหา ค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้ในการจัดทำ Cp Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดียวกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจาก สัดส่วนมูลค่าเครื่องชี้ฯ เทียบกับมูลค่ารวมของเครื่องชี้ทั้งหมด
25 ➢ ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (Private Investment Index: Ip) • ประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 3 ตัว คือ - สินเชื่อเพื่อการลงทุน โดยให้น้ำหนัก 0.39 - พื้นที่ได้รับอนุญาตให้ก่อสร้างรวม โดยให้น้ำหนัก 0.59 - รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ โดยให้น้ำหนัก 0.02 การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ Ip Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหา ค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้ในการจัดทำ Ip Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดียวกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจาก สัดส่วนมูลค่าเครื่องชี้ฯ เทียบกับมูลค่ารวมของเครื่องชี้ทั้งหมด ➢ ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐ (Government Expenditure Index: G) • ประกอบไปด้วยองค์ประกอบทั้งสิ้น 2 ตัว คือ - รายจ่ายประจำภาครัฐ โดยให้น้ำหนัก 0.80 - รายจ่ายลงทุนภาครัฐ โดยให้น้ำหนัก 0.20 การกำหนดน้ำหนักขององค์ประกอบในการจัดทำ Ip Index ให้น้ำหนักของเครื่องชี้ จากการหา ค่าเฉลี่ยของเครื่องชี้ในการจัดทำ Ip Index และแปลงเป็นมูลค่าหน่วยเดียวกัน (บาท) แล้วหาน้ำหนักจาก สัดส่วนมูลค่าเครื่องชี้ฯ เทียบกับมูลค่ารวมของเครื่องชี้ทั้งหมด ➢ ผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัด ณ ราคาคงที่ (GPP constant price) • ประกอบไปด้วยดัชนี 2 ด้าน - ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจด้านอุปทาน (GPPS) โดยให้น้ำหนัก 0.97 - ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจด้านอุปสงค์(GPPD) โดยให้น้ำหนัก 0.03 ➢ ดัชนีชี้วัดด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ • GPP Deflator : ระดับราคา ประกอบไปด้วย - ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) โดยให้น้ำหนัก 0.97 - ดัชนีราคาผู้บริโภคจังหวัดภูเก็ต (CPI) โดยให้น้ำหนัก 0.03 • การเปลี่ยนแปลงของจำนวนผู้มีงานทำ คำนวณจาก GPP constant price X 0.193 (อัตราการพึ่งพาแรงงาน) ➢ อัตราการพึ่งพาแรงงาน คำนวณจากการวิเคราะห์การถดถอยเชิงเส้นอย่างง่าย (Simple Linear Regression Analysis) โดยมีรูปแบบความสัมพันธ์ คือ ln(Emp) = +(ln(GPP)) โดยที่ Emp = จำนวนผู้มีงานทำ จำแนกตามอุตสาหกรรม และเพศของจังหวัดภูเก็ต ข้อมูลWebsite สำนักงานสถิติแห่งชาติ ซึ่งใช้ ปี 2549 – 2554 โดยไม่รวม จำนวนผู้มีงานทำในสาขาการก่อสร้างGPP = ผลิตภัณฑ์มวลรวม จังหวัดภูเก็ต ณ ราคาคงที่ ข้อมูลจาก สศช.ซึ่งใช้ปี 2549 – 2554 โดยไม่รวม GPP สาขาการ ก่อสร้าง
26 ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยธุรกิจในจังหวัดภูเก็ตที่สนับสนุนข้อมูล 1. ดัชนีผลผลิตภาคเกษตร (Agriculture Production Index : API) รายการเครื่องชี้ หน่วยงาน * ปริมาณยางพารา - ผู้อำนวยการการยางแห่งประเทศไทย จังหวัดภูเก็ต - เกษตรจังหวัดภูเก็ต - เกษตรและสหกรณ์จังหวัดภูเก็ต - ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต * ปริมาณกุ้งทะเล - ประมงจังหวัดภูเก็ต - หัวหน้าสำนักงานท่าเทียบเรือประมง * ปริมาณสัตว์น้ำ - ประมงจังหวัดภูเก็ต - หัวหน้าสำนักงานท่าเทียบเรือประมง 2. ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม (Industrial Production Index : IPI) รายการเครื่องชี้ หน่วยงาน * ปริมาณการใช้ไฟฟ้า - ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดภูเก็ต - ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอำเภอถลางจังหวัด ภูเก็ต - ผู้จัดการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคป่าตอง อ.กะทู้ จังหวัดภูเก็ต * จำนวนโรงงานในจังหวัด * ทุนจดทะเบียนของอุตสาหกรรม - อุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต - ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดภูเก็ต
27 3. ดัชนีผลผลิตภาคบริการ (Service Index : SI) รายการเครื่องชี้ หน่วยงาน * จำนวนนักท่องเที่ยวเข้า-ออกสนามบิน - การท่าอากาศยานภูเก็ต - ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานภูเก็ต - ประธานหอการค้าจังหวัดภูเก็ต - นายกสมาคมธุรกิจท่องเที่ยว * จำนวนนักท่องเที่ยวผ่านด่านตม. (ขาเข้า) - ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองท่าอากาศยาน ภูเก็ต - ผู้กำกับการด่านตรวจคนเข้าเมืองภูเก็ต * ภาษีบำรุงท้องถิ่นจากโรงแรม - นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ต - สรรพากรพื้นที่ภูเก็ต * จำนวนเที่ยวบินขึ้น-ลงที่จังหวัด - การท่าอากาศยานภูเก็ต 4. ดัชนีการบริโภคภาคเอกชน (Private Consumption Index: Cp Index) รายการเครื่องชี้ หน่วยงาน * ภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้ - สรรพากรพื้นที่ภูเก็ต * รถยนต์จดทะเบียนใหม่ * มอเตอร์ไซด์จะทะเบียนใหม่ - ขนส่งจังหวัดภูเก็ต - พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต - สถิติจังหวัดภูเก็ต - ประธานหอการค้า
28 5. ดัชนีการลงทุนภาคเอกชน (Private Investment Index: IP Index) รายการเครื่องชี้ หน่วยงาน * พื้นที่อนุญาตก่อสร้างรวม - สำนักงานสถิติจังหวัดภูเก็ต * สินเชื่อรวม - ประธานชมรมธนาคารจังหวัดภูเก็ต - ผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สาขาภูเก็ต - ผู้อำนวยการธนาคารออมสินเขตภูเก็ต -ผู้อำนวยการสำนักงานธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตรจังหวัดภูเก็ต * รถยนต์เพื่อการพาณิชย์ - ขนส่งจังหวัดภูเก็ต 6. ดัชนีการใช้จ่ายภาครัฐบาล (Government Expenditure Index: G Index) รายการเครื่องช้ี หน่วยงาน * รายจ่ายประจำ * รายจ่ายลงทุน - คลังจังหวัดภูเก็ต - หัวหน้ากลุ่มระบบบริหารการคลัง สำนักงาน คลังจังหวัดภูเก็ต 7. ดัชนีระดับราคาของจังหวัด (GPP Deflator) รายการเครื่องชี้ หน่วยงาน * ดัชนีผู้ผลิต * ดัชนีผู้บริโภค - พาณิชย์จังหวัดภูเก็ต