The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by , 2022-02-24 10:39:57

ประวัติลีลาศ

ประวัติลีลาศ

ประเภทลีลาศ

คำนำ

สมุดเล่มเล็กนี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชาพละศึกษาที่จัด

ทำเล่มนี้ขึ้นมาก็เพราะต้องการให้ผู้อ่านได้ใช้เวลา

ว่างให้เกิดประโยชน์และรู้จักประเภทของลีลาศ

คณะผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าผู้อ่านจะได้รับ

ประโยชน์เป็นอย่างยิ่ง

คณะผู้จัดทำ

สารบัญ

ประเภทลาตินอเมริกัน (Latin American) หน้า
ประเภทบอลลูม (Baiiroom ) 1
ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ 7
13

ประเภทลาตินอเมริกัน(Latin American)




เป็นการลีลาศที่มีการเคลื่อนไหวร่างกาย ที่เต็มไปด้วยความมีชีวิตชีวา เร้าใจ และ
สนุกสนาน โดยเน้นการใช้กล้ามเนื้อและโครงร่างในแต่ละส่วน เช่น ลำตัว แขนขา
สะโพก เอว ไหล่ และศีรษะตามจังหวะดนตรีและเอกลักษณ์ของแต่ละจังหวะ และยังเป็น
กิจกรรมที่เพิ่มระดับความหนักของการทำงานของระบบหายใจ และไหลเวียนโลหิตในระดับ
ปานกลางหนัก

1

ประเภทลาตินอเมริกัน(Latin American)

จังหวะแซมบ้า (Samba)

มีต้นแบบมาจากแถบแอฟริกา แต่ถูกพัฒนาจนเป็นที่นิยมในประเทศบราซิล ซึ่ง
จังหวะแซมบ้าได้ถูกยอมรับให้เป็นจังหวะที่สามารถเข้าแข่งขันในมหกรรมการแสดง
ระดับโลกที่นิวยอร์คได้ เมื่อปี ค.ศ.1939 (พ.ศ. 2482) และอีกสิบปีต่อมาจังหวะ
แซมบ้าก็ถูกยอมรับกันอย่างแพร่หลายในปี ค.ศ.1948 (พ.ศ.2491) – ค.ศ.1949
(พ.ศ. 2492)

2

ประเภทลาตินอเมริกัน(Latin American)

จังหวะรุมบ้า (Rumba)

รุมบ้าถูกนำเข้ามาในอเมริกาโดยทาสชาวอัฟริกัน แต่เมื่อราว ค.ศ. 1928/1929
การก้าวเท้าและรูปแบบการเต้นของจังหวะนี้ ยังไม่ชัดเจนทีเดียว คนส่วนมากทึกทัก
เอาการเต้นของจังหวะนี้เป็นการเต้นรูปแบบใหม่ ของจังหวะ ฟอกซ์ทรอท โดยเพิ่มการ
ใช้สะโพกลงไป หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 รุมบ้า ได้รับการพัฒนาต่อให้เป็น คิวบัน
รุมบ้า โดย (MONSIEUR PIERRE และ DORIS LAVELL) นักเต้นรำชาวอังกฤษ
ซึ่งมีโรงเรียนสอนเต้นรำอยู่ที่ ถนน REGENT ในนครลอนดอน แต่ก็ยังไม่ได้
มาตรฐานเท่าที่ควร จนกระทั่ง WATER LAIRD เริ่มเขียนตำราเต้นรำของ ลาติน
ขึ้นผลงานของเขาได้รับการยอมรับเป็นอย่างมากจากหลายองค์กรของการเต้นรำและ
นั่นเองการจัดมาตรฐานก็บรรลุถึงความเป็นจริง

3

ประเภทลาตินอเมริกัน(Latin American)

จังหวะ ชะ ชะ ช่า (Cha Cha Cha)

ถูกพัฒนามาจากจังหวะแมมโบ้ (Mambo) ซึ่งตั้งขึ้นจากการเลียนเสียงรองเท้า
กระทบพื้นขณะเต้นรำ โดยถูกพบเห็นครั้งแรกที่ประเทศอเมริกา และแพร่หลายไปยังแถบยุโรป
จากนั้นก็ได้รับความนิยมอย่างจริงจังในช่วงปี ค.ศ.1956 (พ.ศ. 2499) ก่อนที่จะถูกตัด
ทอนชื่อลงเป็น ชาช่า (Cha Cha) แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังคงเคยชินกับ ชะ ชะ ช่า (Cha
Cha Cha) มากกว่า

4

ประเภทลาตินอเมริกัน(Latin American)

จังหวะไจวฟ์ (Jive)

ลักษณะท่าทาง การแขม่วหน้าท้อง การเตะ และดีดสะบัดปลายเท้า ระดับการ
เคลื่อนไหวเป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับปานกลาง หึงหนัก (Moderate
vigourous physical activity) ใช้การเดินทั้งแบบปลายเท้า และเต็มเท้า เพื่อให้ได้
ความเร็ว 235 ก้าวต่อนาที ตามความเร็วของดนตรี 44 บาร์ต่อนาที

5

ประเภทลาตินอเมริกัน(Latin American)

จังหวะพาโซ-โดเบ้ล (Paso-Doble)

ลักษณะท่าทาง ลักษณะการเดินแบบตึง หรือเหยียดเข่า และไม่เกร็ง แขม่วท้อง
ขมิบก้น เพื่อกล้ามเนื้อกระชับ ยืดลำตัวด้วยการยกชายโครง (Ribcage) ตลอดเวลา
ระดับการเคลื่อนไหว เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับเบา - ปานกลาง จากการเดินด้วย
ปลายเท้า หรือบางครั้งเดินเต็มเท้าด้วยความเร็ว 124 ก้าวต่อนาที ตามความเร็วของ
ดนตรี 62 บาร์ต่อนาที

6

ประเภทบอลลูม (Baiiroom )

การลีลาศที่เคลื่อนที่ด้วยการลากหรือไสเท้ากับพื้น ลำตัวยืดตรง สง่างาม
จังหวะและทำนองของดนตรีช้า นุ่มนวลและทิศทางของการเคลื่อนไหวจะต้อง
เคลื่อนที่ไปรอบๆบริเวณ อาจเป็นวงกลมหรือเป็นห้องสี่เหลี่ยม

จังหวะวอลท์ (Waltz)

ลักษณะท่าทาง - การยืดตัวขึ้น และลดตัวลง (Rise and Fall) การสวิงตัว (Body
Swing) การสเวย์ (Sway)

ระดับการเคลื่อนไหว - เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับปานกลาง ทั้งๆ ที่เป็นการเดิน
ด้วยความเร็วประมาณ 90 ก้าวต่อนาที ตามความเร็วของดนตรี 30 บาร์ต่อนาที แต่วิธีการยืด
ตัวขึ้น และลดตัวลง (Rise and Fall)การสวิงตัว (Body Swing) การสเวย์ (Sway)
และการทำ C.B.M. (Contra Body Movement) เป็นการเพิ่มการทำงานของกล้ามเนื้อมาก
ขึ้น จึงทำให้ความหนัก หรือความเหนื่อยเพิ่มขึ้น

7

ประเภทบอลลูม (Baiiroom )

การลีลาศที่เคลื่อนที่ด้วยการลากหรือไสเท้ากับพื้น ลำตัวยืดตรง สง่างาม จังหวะและ
ทำนองของดนตรีช้า นุ่มนวลและทิศทางของการเคลื่อนไหวจะต้องเคลื่อนที่ไปรอบๆบริเวณ
อาจเป็นวงกลมหรือเป็นห้องสี่เหลี่ยม

จังหวะวอลท์ (Waltz)

ลักษณะท่าทาง - การยืดตัวขึ้น และลดตัวลง (Rise and Fall) การสวิงตัว (Body
Swing) การสเวย์ (Sway)

ระดับการเคลื่อนไหว - เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับปานกลาง ทั้งๆ ที่เป็นการเดิน
ด้วยความเร็วประมาณ 90 ก้าวต่อนาที ตามความเร็วของดนตรี 30 บาร์ต่อนาที แต่วิธีการ
ยืดตัวขึ้น และลดตัวลง (Rise and Fall)การสวิงตัว (Body Swing) การสเวย์
(Sway) และการทำ C.B.M. (Contra Body Movement) เป็นการเพิ่มการทำงานของ
กล้ามเนื้อมากขึ้น จึงทำให้ความหนัก หรือความเหนื่อยเพิ่มขึ้น

8

ประเภทบอลลูม (Baiiroom )

ANARTKICK.CO.TH

จังหวะเเทงโก้ (tango)

แต่เดิมคือจังหวะ มิลองก้า (Milonga) ที่ใช้เต้นกันในโรงละครเล็ก ๆ แต่เมื่อชนชั้นสูงจากประเทศบราซิล
ไปพบเข้า จึงเริ่มมีการนํามาเต้นรำกันมากขึ้นและชื่อของจังหวะมิลองก้า (Milinga) ก็ถูกเปลีี่ยนเป็นจังหวะ
แทงโก้ (Tango) ในที่สุด
ระดับการเคลื่อนไหว - เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับเบา ถึงปานกลาง ด้วยความเร็ว ในการเคลื่อนที่
ประมาณ 99 ก้าวต่อนาที ตามความเร็ว ของดนตรี 33 บาร์ต่อนาที
ลักษณะท่าทาง - การย่อตัวตลอดเวลาแบบสงบนิ่ง และการก้าวเท้าแบบพุ่งในลักษณะกระแทก เป็นช่วงๆ
(Staccato Actions) ควบคู่กับการเคลื่อนไหวของศีรษะ และไหล่ โดยสับเปลี่ยนทันทีทันใด โดยเปรยี
บเทียบการเคลื่อนไหวคล้ายสัตว์ ดัง แมว หรือ เสือ

9

ประเภทบอลลูม (Baiiroom )

จังหวะสโลว์ฟอกซ์ทรอท(SlowFoxtrot)

ลักษณะท่าทาง - เป็นการใช้พลังของขาและเท้า ในการเปลี่ยนน้ำหนักรับต่อเนื่องกัน เหมือนวงล้อ โดยเน้น
การใช้ปลายเท้า และส้นเท้าอย่างชัดเจน
ระดับการเคลื่อนไหว - เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับปานกลาง ด้วยความเร็วประมาณ 90 ก้าวต่อนาที
ตามความเร็วของดนตรี 30 บาร์ต่อนาที และยังเพิ่มความหนัก จากการหน่วงของเท้า และการเคลื่อนเปลี่ยน
ทิศทางไปกับคู่อย่างกลมกลืน
เริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ก่อนสงครามโลกครั้งที่ 1 ในทวีปยุโรป โดยนักเต้นประกอบจังหวะคนหนึ่งชื่อ แฮรี ฟอกซ์
(Harry Fox) และถูกนํามาดัดแปลงขัดเกลาโดย แฟรงค์ ฟอรด์ (Frank Ford) ประมาณปี ค.ศ1922
(พ.ศ2465) ถึง ค.ศ1929 (พ.ศ2472) จนเริ่มแพร่หลาย

10

ประเภทบอลลูม (Baiiroom )

จังหวะ Viennese Waltz หรือ Quick Waltz

ลักษณะท่าทาง - การย่อตัว และยืดตัวขึ้น (Rise and Fall) พร้อมกับการเลื่อนไหล
ด้วยการหมุนไปโดยรอบ ซึ่งต้องอาศัยพลัง และความแข็งแกร่งของร่างกาย

ระดับการเคลื่อนไหว - เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับปานกลางถึงหนัก ที่ใช้ความเร็ว
ในการเคลื่อนไหวประมาณ 180 ก้าวต่อนาที ตามความเร็วของดนตรี 60 บาร์ต่อนาที

11

ประเภทบอลลูม (Baiiroom )

จังหวะควิ๊กสเต็ป (quickstep)

ลักษณะท่าทาง - การใช้เท้าเฉียดผิวฟลอร์อย่างกระฉับกระเฉง การใช้เข่าและขา เท้าและ
ข้อเท้า เพื่อส่งความเร็วที่ถูกต้อง ระหว่างความเร็วและช้า

ระดับการเคลื่อนไหว - เป็นการเคลื่อนไหวร่างกายระดับปานกลาง ที่ใช้ความเร็วในการ
เคลื่อนที่ประมาณ 133 ก้าวต่อนาที ตามความเร็วของดนตรี 50 บาร์ต่อนาที

12

ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ

ลักษณะการเต้นเป็นจังหวะที่ไม่ช้าไม่เร็วจนเกินไปเป็นที่นิยมเต้นกันในประเทศไทยมาก

-จังหวะกัวราชา (Guaracha)

จังหวะค่อนข้างเร็ว ใช้ความคล่องแคล่วว่องไวส่วนใหญ่จะใช้ไหล่ เอว สะโพก เข่า ข้อ
เท้าการก้าวเดินสามารถยกเท้าพ้นพื้นใต้

13

ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ

-จังหวะบีกิน (Beguine)

ปัจจุบันนิยมเต้นกับเฉพาะงานสังคม ลีลาศทั่วๆไปในประเทศไทย ไม่นิยมเต้นกันในต่าง
ประเทศไม่ปรากฏหลักฐานว่าคนไทยเรานิยมเต้นรําจังหวะกินมาตั้งแต่เม็อไร เท่าที่พอจะทราบได้
คือ ในช่วงเวลาที่ครูอัตถ์
พึ่งประยูร บรมครูสอนลีลาศคนหนึ่งของไทยที่เต้นรำมาตั้งแต่ พศ2492 หรือ 2493 นั้นก็มีการ
เต้นรําจังหวะกินกันแล้วโดยเข้าใจกันว่าชาวฟิลิปปินส์ที่มาเล่นดนตรีในเมืองไทยเป็นผู้แนะนํา
ดนตรีและการนับจังหวะ

ดนตรีของจังหวะบีกินเป็นแบบ 4/4 คือ มี 4 จังหวะใน 1 ห้องเพลง โดยที่สามจังหวะแรกจะ
เป็นเสียงหนักและจังหวะที่สี่จะเป็นเสียงเบา และทุกๆจังหวะจะมีความเร็วช้าเท่ากันหมด การนับ
จังหวะจะนับ 1,2,3, พัก, 1,2,3,พัก (พัก หมายถึงพักเข่าหรืองอเข่า) ต่อเนื่องกันไป และก้าวที่ 1
ตรงกับจังหวะที่ 1 ของห้องเพลง

14

ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ

-จังหวะตะลุง

ความสำคัญของจังหวะนี้ อยู่ที่การโยกและโยนการใช้กล้ามเนื้อของลำตัว ควบคุมการ
เคลื่อนไหวเพื่อให้เกิดความยืดหยุ่นของข้อเท้า นักเต้นจังหวะตะลุงที่ดีควรตระหนักถึงการใช้นํ้า
หนักโดยไม่พยายามเพิ่มเติมน้ำหนักลงไปในการเคลื่อนไหวที่เป็นจริง
โดยมุ่งประเด็นไปที่ลักษณะของการเน้นและควบคุมการโอนถ่ายของน้ำหนักจากเท้าข้างหนึ่งไป
ยังเท้าอีกข้างหนึ่งลักษณะของการยืดหยุ่นก่อให้เกิดการย่นย่อและเหยียดตึงในแต่ละครั้งของ
การยืดขึ้นและหน่วงลงใช้เวลา 1/2บีทของดนต
เท้าที่เข้าไปแตะชิดอยู่ที่ครึ่งบีทหลังของดนตรี

15

ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ

-จังหวะรุมบ้า (American Rumba)

รุมบ้าเป็นจังหวะที่จัดอยู่ในพวกลาตินอเมริกัน (LatinAmerican) ทําเนิดขึ้นในชนชาติ
หมู่เกาะคิวบาจังหวะนี้เกิดขึ้นมานานแล้วแต่แพร่ออกสู่โลกลีลาศหลังแทงโก้ (Tango) และ
วอลทซ์(Waltz) ปัจจุบัน จังหวะรุมบ้า (Rumba)เป็นที่รู้จักกับคนทั่วโลกมาเป็นเวลานาน
แล้วลักษณะการลีลาศจังการหวะรุมบ้าเป็นการลีลาศคล้ายๆจังหวะวอลทซ์ แต่จังหวะค่อน
ข้างเร็วกว่าการก้าวเท้าสั้นกว่าและนอกจากนี้รุมบ้ายังต้องใช้สะโพกเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กับ
การเคลื่อนไหวของเท้าด้วยคือนับตั้งแต่เอวลงไปให้โยกหรือส่ายสะโพกได้เล็กน้อยให้ดูแต่
พองาม ถ้าโยกหรือสายมากจะดูเป็นเรื่องน่าเกลียดไป และไม่สวยงาม

16

ประเภทเบ็ดเตล็ดต่างๆ

-จังหวะรุมบ้า (American Rumba)

การใช้สะโพกเคลื่อนไหวให้สัมพันธ์กับการก้าวเท้านั้นเป็นเรื่องที่ทุกคนต้องฝึก ผู้ฝึกใหม่
อาจจะฝืนตัวเองเล็กน้อยเพราะผู้ฝึกใหม่ส่วนมากใจมักจะมุ่งอยู่ที่การก้าวเท้าให้ถูกสเต็ปเท่านั้น
ความสวยงามของรุมบ้านั่นอยู่ที่การก้าวเท้าการถ่ายเทน้ำหนักตัว และการใช้สะโพกทั้งสาม
อย่าง ต้องให้สัมพันธ์กันและเป็นไปตามหลักธรรมส่วนลําตัวตั้งแต่เอวขึ้นไปให้อยู่ใน
ลักษณะตรงแบบสบายๆไม่เกร็ง ไม่ยืดคอ ไม่แอ่นอก ไม่ทําหลังค่อมและไม่เอียงตัวไปมาการ
นับจังหวะ

จังหวะนับ นับ ช้า ช้า เร็ว หรือนับ 1 23ข้อสําคัญอีกอย่างหนึ่งในการลีลาศจังหวะรุมบ้าก็
คือการใช้เท้า โดยเฉพาะการใช้สปริง ข้อเท้าและที่หัวเข่าซึ่งมีทั้งเหยียดตึงและงอการใช้สปริง
ข้อเท้าจะเกิดบ่อยขณะที่ก้าวเท้า เมื่อเท้าใดก้าวไปแตะพื้นน้ำหนักตัวก็ต้องเทไปที่เท้านั้นทุกครั้ง
ไปพร้อมกับใช้สปริงที่ข้อเท้าด้วย

17

จัดทำโดย

นายสุทธิรักษ์ ชูนาวา เลขที่7
นายอรุณฤธิ์ สมทรัพย์ เลขที่9
นางสาวกิ่งดาว ขนานขาว เลขที่13
นางสาวนฤมล ชัยสวัสดิ์ เลขที่19
นางสาวรัตนภรณ์ รัตนรังสี เลขที่29
นางสาวสุพัตรา คงสุวรรณ เลขที่37
นางสาวอารยา บรมสุข เลขที่39

นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่6/1

"NO ENTERTAINMENT
IS SO CHEAP AS
READING, NOR ANY
PLEASURE SO
LASTING."

(Lady M. W. Montagu)

"ไม่มีความบันเทิงใดที่มีราคาถูกและอยู่ได้นานเท่ากับการอ่านอีกแล้ว"


Click to View FlipBook Version