คู่มือทกั ษะความฉลาดทางดจิ ทิ ลั สาหรับครู 1
คูม่ อื ทกั ษะความฉลาดทางดจิ ิทลั สาหรับครู 2
คำนำ
คมู่ ือทักษะความฉลาดทางดจิ ิทัลสาหรับครู เป็นส่วนหน่งึ ของรายวชิ า GD58201 การพฒั นาความเป็น
ครู เพ่ือให้ได้ศึกษาหาความรู้ในเรื่องดิจิทัล ความสามารถที่ทาให้เข้าใจ (understand) ใช้ (use) และ
สร้างสรรค์ (create) ส่ือและเทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเท่าทันและปลอดภัย และได้ศึกษาอย่างเข้าใจเพื่อเป็น
ประโยชนก์ ับการเรยี น
ผู้จัดทาหวังว่าคู่มือทักษะความฉลาดทางดิจิทัลสาหรับครูเล่มนี้จะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน หรือผู้ที่
สนใจหาข้อมูลเรื่องนี้อยู่ หากมีข้อแนะนาหรือข้อผิดพลาดประการใด ผู้จัดทาขอรับไว้และขออภัยมา ณ ที่นี้
ด้วย
ผ้จู ัดทำ
นางสาวณฐั พร ผิวพรรณ
รหสั นกั ศึกษา 647190611 หมู่ท่ี 6
คู่มอื ทกั ษะความฉลาดทางดจิ ิทลั สาหรับครู 3
สำรบัญ
ทกั ษะควำมฉลำดทำงดิจทิ ัลสำหรับครู.............................................................................................. 5
1) ครตู ้องเปน็ เสมือนสะพานเชื่อมโยงองคค์ วามร้สู าระวชิ าต่างๆ ..........................................................5
2) ครู ตอ้ งเป็นเกราะป้องกนั ความเสีย่ งและภยั อันตรายท่ีอาจเกดิ ข้นึ ไดจ้ ากโลกไซเบอรแ์ ละสงั คมดิจิทลั 6
สรปุ บทบาทของครยู ุคดิจิทัล ..............................................................................................................6
ควำมฉลำดทำงดจิ ิทัลประกอบด้วยทักษะ 8 ด้ำน .............................................................................7
1. การแสดงตัวตนบนโลกดจิ ิทลั (Digital Identity).............................................................................7
2. การใชเ้ ครื่องมือและสอ่ื ดจิ ทิ ลั (Digital Use) ...................................................................................7
3. ความปลอดภัยทางดิจิทัล (Digital Safety).....................................................................................7
4. ความม่ันคงปลอดภัยทางดิจทิ ัล (Digital Security) .........................................................................7
5. ความฉลาดทางอารมณ์บนโลกดจิ ิทลั (Digital Emotional Intelligence)........................................8
6. การสอ่ื สารดิจทิ ัล (Digital Communication)................................................................................8
7. การรู้ดจิ ทิ ลั (Digital Literacy).......................................................................................................8
8. สิทธทิ างดิจทิ ัล (Digital Rights) .....................................................................................................8
1. ทักษะในการรักษาอตั ลักษณ์ท่ีดีของตนเอง (Digital Citizen Identity)............................................9
2. ทกั ษะการคิดวเิ คราะห์มวี ิจารณญาณทีด่ ี (Critical Thinking)........................................................10
3. ทักษะในการรักษาความปลอดภยั ของตนเองในโลกไซเบอร์ (Cyber security Management) .......10
4. ทักษะในการรักษาข้อมลู ส่วนตวั (Privacy Management) ...........................................................11
5. ทกั ษะในการจัดสรรเวลาหนา้ จอ (Screen Time Management) .................................................12
6. ทกั ษะในการบรหิ ารจดั การขอ้ มูลทีผ่ ู้ใชง้ านมีการทิง้ ไว้บนโลกออนไลน์ (Digital Footprints)...........12
รอยเทา้ ดจิ ทิ ลั (Digital Footprints) คืออะไร ...................................................................................12
7. ทักษะในการรับมอื กับการกลน่ั แกลง้ บนโลกไซเบอร์ (Cyberbullying Management)...................12
วิธีจัดการเม่ือถูกกลน่ั แกลง้ บนโลกไซเบอร์.........................................................................................13
8. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยอี ย่างมีจริยธรรม (Digital Empathy).........................................................13
คู่มือทกั ษะความฉลาดทางดิจทิ ลั สาหรบั ครู 4
คดิ ก่อนจะโพสตล์ งสังคมออนไลน์ (Think Before You Post)...........................................................13
ประวตั ิผจู้ ดั ทำ....................................................................................................................................14
ค่มู ือทกั ษะความฉลาดทางดจิ ิทลั สาหรบั ครู 5
ทักษะควำมฉลำดทำงดจิ ทิ ลั สำหรับครู
กำรรู้ดจิ ทิ ัล (Digital Literacy : DL)
“ความสามารถทท่ี าใหเ้ ข้าใจ (understand) ใช้ (use) และสรา้ งสรรค์ (create) ส่ือและเทคโนโลยีดจิ ิทัลได้
อย่างเท่าทันและปลอดภัย”
บทบำทของครูยุคดิจิทลั
ในขณะท่ีเทคโนโลยีดิจิทัลมีการพัฒนาและก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็ว มีการใช้งานง่ายขึ้น (User-
friendly) ขนาดเล็กลงแต่ความสามารถมหาศาล หลอมรวมกับการดารงชีวิตมากข้ึน ส่งผลให้เกิดการ
เปล่ยี นแปลงอย่างฉบั พลนั ทั้งในระดับบุคคลและระดับสังคมท้ังในเชงิ บวกและลบ ซึง่ หากสงั คมและคนในสังคม
ขาดความรู้ ทักษะ โดยเฉพาะอย่างย่ิงขาดความเท่าทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่เกิดจากเทคโนโลยี
ดิจิทัล นอกจากจะไม่ได้ประโยชน์จากความก้าวหน้าของเทคโนโลยีแล้ว ยังตกเป็นเหย่ือทางเทคโนโลยีท่ี
ก่อให้เกดิ ผลเชิงลบมหาศาลอีกดว้ ย
หลายครั้งระหว่างการศึกษา มักเกิดคาถามข้ึนมาว่า “ครูยังมีความจาเป็นอยู่หรือไม่ในยุคดิจิทัล ยุคท่ี
นักเรียนสามารถเรียนรู้ด้วยตนเอง ได้จากทุกท่ี ในทุกเวลา” คาตอบคือ แม้ในขณะที่นักเรียนสามารถเรียนรู้
ผา่ นส่อื ดจิ ทิ ลั และเรียนรู้การใชง้ านเทคโนโลยดี จิ ทิ ลั ได้เรว็ กว่าครใู นชว่ งวยั รุ่น นักเรยี นอาจเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง
ตามกรอบความคิด (Concept) ของดิจิทัล คือ เรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลา (Ubiquitous) แต่การสร้างทักษะการ
เรียนรู้ด้วยการนาตนเอง (Self-directed Learning) และการรู้จักตนเอง (Self-awareness) ให้รู้ความถนัด
และความสนใจของตนเอง ต้องมีการสร้างและบ่มเพาะต้ังแต่เล็ก จึงจะสามารถนาไปสู่การค้นคว้า หาความรู้
หรือพฒั นาทักษะทจี่ าเป็นสาหรับตนเอง เฉพาะเป็นรายบคุ คลไดซ้ งึ่ ส่งิ เหล่านจี้ ะเกดิ ขึน้ ได้ผู้ปกครองและครู
มคี วามสาคัญเป็นอย่างยง่ิ
“ครู” ฟันเฟืองสาคัญของการพัฒนาคนและขับเคล่ือนการศึกษาและจัดการเรียนรู้ท่ีเหมาะสมและมี
คุณภาพแกน่ ักเรยี น การจัดการศึกษาจงึ ให้ความสาคัญอย่างมากต่อบทบาทของครูทาใหม้ ีการทบทวนบทบาท
ของครทู ่ีเหมาะสมกบั พฤติกรรมการเรยี นรู้ของนกั เรียน ตลอดจนโครงสรา้ งทางสังคมและเศรษฐกิจที่เปล่ยี นไป
ท่ีท้ังครูและนักเรียนจะต้องเผชิญในชีวิตประจาวัน อย่างไรก็ดีแม้ยุคสมัยจะเปลี่ยนไปอย่างไรก็ตาม บทบาท
และหน้าท่ีหลักของครูยังคงไม่เปลี่ยนแปลง น่ันคือ ครูจะต้องเป็นผู้ถ่ายทอดองค์ความรู้และทักษะให้กับ
นักเรียน
เพื่อให้นักเรียนสามารถนาองค์ความรู้และทักษะไปใช้ประโยชน์ต่อการทางานและการดารงชีวิต สิ่งท่ี
เพ่มิ ข้นึ สาหรบั บทบาทของครูยคุ ดจิ ิทลั คอื
1) ครูต้องเป็นเสมือนสะพำนเชื่อมโยงองค์ควำมรู้สำระวิชำต่ำงๆ ประกอบกับพัฒนาทักษะท่ี
สง่ เสริมและสนับสนนุ ใหเ้ กดิ การเรียนรทู้ ีเ่ หมาะสมกบั นักเรียน โดยเฉพาะทักษะดจิ ทิ ลั ทมี่ ีความสาคญั ย่ิงต่อการ
คมู่ ือทักษะความฉลาดทางดิจทิ ลั สาหรับครู 6
เรียนรู้ในยุคดิจิทัล ปัจจุบันมีรูปแบบการเรียนรู้ที่ผสมผสานเทคโนโลยีมากมายและหลากหลาย เช่น TPACK
และ SAMR เป็นต้น แต่การจะจัดการเรียนรใู้ นรปู แบบใดก็ตาม ครูจาเป็นต้องรจู้ ักนักเรียนเป็นรายบุคคล รู้จัก
รูปแบบการเรียนรู้ (Learning Style) และเข้าใจความเร็วในการเรียนรู้ของนักเรยี น (Learning Pace) รู้ความ
ถนดั และความสนใจของนักเรยี น และทส่ี าคญั คือต้องเข้าใจโลกของนักเรียนในแตล่ ะชว่ งวยั ด้วย ซง่ึ ในยคุ ดิจิทัล
ท่มี ีการเคลื่อนท่ีของข้อมูลข่าวสารมหาศาลอย่างรวดเร็ว การเข้าถึงส่ือและการส่ือสารทง่ี ่ายและสะดวกขน้ึ ทุก
ที่และทุกเวลา ส่งผลให้นักเรียนเข้าไปอยู่อีกโลกหนึ่ง เป็นโลกเสมือนที่สร้างข้ึน และทุกคนบนโลกน้ันสามารถ
สร้างตัวตนของตนเองข้ึนใหม่ โดยอาจเป็นความจริงหรือไม่ก็ดีอาจประสงค์ดีหรือร้ายก็ได้โลกที่มีความกว้าง
ใหญ่และไร้พรมแดนที่นักเรียนเข้าถึงได้ง่ายน้ีหากมีภัยอันตรายจะเป็นดาบสองคม คือ ภัยนี้จะสามารถเข้าถึง
ตวั ไดแ้ มก้ ระทั่งในห้องนอน โดยไมต่ ้องเดินทางไปที่ใดเลย ครูจงึ ตอ้ งทาความเขา้ ใจโลกแห่งยุคดิจิทัลนี้ด้วย แต่
ครูซ่ึงเป็นผู้อพยพทางดิจทิ ัล (Digital Immigrant) จะมีความเท่าทัน เข้าใจและรู้ทันโลกดิจิทัลชา้ กว่าหรือน้อย
กวา่ นกั เรียน และบอ่ ยครง้ั ครูมักจะละเลยและไม่สนใจส่งิ ทีน่ ักเรยี นเผชญิ อย่ใู นโลกน้นั
2) ครู ต้องเป็นเกรำะป้องกันควำมเส่ียงและภัยอันตรำยท่ีอำจเกิดขึ้นได้จำกโลกไซเบอร์และสังคม
ดิจิทัล ครูต้องเป็นแบบอย่างที่ดีเท่าทันต่อการเปล่ียนแปลง รู้ทันดิจิทัล สามารถเลือกใช้สื่อและเทคโนโลยี
ดิจิทัลมาใช้สนับสนุนการจัดการเรียนการสอน และบริหารจัดการการเรียนการสอนในห้องเรียนได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ เพราะแม้ว่านักเรียนจะมีความชานาญในเรื่องดิจิทัลมากกว่าครูสามารถใช้งานเทคโนโลยีดิจิทัล
และเรียนรู้จากสื่อดิจิทัลต่างๆ ได้มากกว่าและรวดเร็วกว่าครูแต่ความเร็วดังกล่าวจาเป็นอย่างยิ่งต้องมาพร้อม
ด้วย การรู้เท่าทัน ซึ่งสามารถบ่มเพาะให้เกิดขึ้นได้จากการถ่ายทอดจากครูหรือ เรียนรู้จากส่ือต่าง ๆ รอบตัว
ใหต้ นเองรูเ้ ท่านั้น และสามารถสร้างเกราะปอ้ งกันภัยของตนเองได้ (สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศกึ ษา, 2562)
สรปุ บทบำทของครูยุคดิจิทัล
ครูยุคดิจิทัล ต้องปรับทบาทให้เป็นเสมือนสะพานเชื่อมโยงองค์ความรู้ให้กับนักเรียนด้วยความเข้าใจใน
พฤตกิ รรมการเรยี นรู้ท่เี ปลยี่ นแปลงไป สามารถเลอื กใชห้ รือสร้างสรรค์สื่อและเทคโนโลยดี ิจิทลั ทเ่ี หมาะสมเพื่อ
กระตุ้นให้เกิดการเรียนรู้ตลอดจนเป็นเกราะป้องกันความเส่ียงและภัยอันตรายที่อาจเกิดข้ึนจา กโลกออนไลน์
ให้กับนักเรียนได้
ควำมฉลำดทำงดจิ ิทลั คอื อะไร (What is Digital Intelligence Quotient ?)
DQ ความฉลาดทางดิจิทัล (DQ: Digital Intelligence Quotient) หรือความสามารถทางสังคม
อารมณ์และการรับรู้ท่ีจะทาให้แต่ละคนสามารถเผชิญกับความท้าทายของชีวิตดิจิทัล สามารถปรับอารมณ์
ปรับตัว และปรับพฤตกิ รรมให้เข้ากับชีวิตดจิ ิทลั ซึง่ จะครอบคลุมท้ังความรทู้ กั ษะ ทศั นคตแิ ละคา่ นยิ ม ทีจ่ าเปน็
หรือท่เี รียกว่า ทกั ษะการใช้สอื่ และการเขา้ สังคมในโลกออนไลนน์ น่ั เอง (นติ ยา นาคอนิ ทร์, 2564)
คู่มอื ทักษะความฉลาดทางดจิ ทิ ลั สาหรับครู 7
8 ทกั ษะควำมฉลำดทำงดจิ ทิ ลั (8 Skills of Digital Intelligence Quotient)
ควำมฉลำดทำงดจิ ิทัลประกอบดว้ ยทกั ษะ 8 ด้ำน
1. กำรแสดงตวั ตนบนโลกดิจทิ ลั (Digital Identity)
ความสามารถในการสร้างและจัดการลกั ษณะเฉพาะของตนเองบนโลกออนไลนส์ รา้ งความตระหนักในเรื่องของ
ภาพลักษณ์การแสดงออกทางความคิดและสามารถจัดการผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจากการแสดงตัวตนบนโลก
ออนไลน์ทั้งในระยะสั้นและในระยะยาว ซ่ึงการแสดงตัวตนบนโลกดิจิทัลจะประกอบด้วยความเป็นพลเมือง
ดิจิทัล (Digital Citizen) ความเป็นผู้สร้างสรรค์ดิจิทัล (Digital Co-creator) ความเป็นผู้ประกอบการดิจิทัล
(Digital Entrepreneur)
2. กำรใชเ้ คร่อื งมือและสือ่ ดจิ ิทลั (Digital Use)
ความสามารถในการใช้งาน การควบคุมและการจัดการใช้อปุ กรณ์ดจิ ิทัลและสื่อดิจิทัลเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่าง
ชีวิตออนไลน์และออฟไลน์เพ่ือให้เกิดประโยชน์และเหมาะสมกับการใช้งาน การใช้เคร่ืองมือและส่ือดิจิทัล
ประกอบด้วยการบริหารจัดการเวลาบนโลกดิจิทัล (Screen Time) สุขภาพบนโลกดิจิทัล (Digital Health)
การมสี ว่ นร่วมในชุมชนดจิ ิทัล (Community Participation)
3. ควำมปลอดภยั ทำงดิจิทัล (Digital Safety)
ความสามารถในการจัดการความเส่ียงในโลกออนไลน์ เช่น การกล่ันแกล้งบนอินเทอร์เน็ต (Cyberbullying)
ล่อลวง คุกคาม การเข้าถึงเนื้อหาท่ีผิดกฎหมายหรือเป็นอันตราย เช่น เนื้อหาท่ีมีความรุนแรงและความหยาบ
คาย สือ่ ลามกอนาจาร และรวมถงึ การหลกี เล่ียงความเส่ยี งและจัดการความเสย่ี งบนโลกออนไลน์ ประกอบดว้ ย
ความเสี่ยงจากพฤติกรรมการใช้งาน (Behavioral Risks) ความเสี่ยงจากเน้ือหา (Content Risks) ความเส่ียง
จากการตดิ ตอ่ กบั คน (Contact Risks)
4. ควำมมั่นคงปลอดภยั ทำงดจิ ิทัล (Digital Security)
ความสามารถในการตรวจจับภัยคุกคามในโลกไซเบอร์เช่น การแฮก (Hacking) และมัลแวร์ (Malware) เพ่ือ
ทาความเข้าใจ และสามารถเลือกแนวทางปฏิบัติท่ีดีท่ีสุด เลือกใช้เครื่องมือในการรักษาความปลอดภัยที่
เหมาะสมสาหรับการป้องกันข้อมูลครอบคลุมถึงความมั่นคงปลอดภยั ท่ีเก่ียวข้องกับเทคโนโลยสี ารสนเทศและ
การส่ือสาร เช่น การทาธุรกรรมต่างๆ ทางอิเล็กทรอนิกส์การป้องกันภัยและควบคุมการทารายการผ่านระบบ
ออนไลน์การป้องกันการละเมิดข้อมูล มาตรฐานท่ีเก่ียวข้องและวิธีการจัดการความปลอดภัยและความเช่ือมั่น
ของผู้ใช้ความม่ันคงปลอดภัยทางดิจิทัลจะประกอบด้วยการป้องกันรหัสผ่าน (Password Protection) ความ
มั่นคงปลอดภัยบนอินเทอร์เน็ต (internet Security) ความมั่นคงปลอดภัยทางโทรศัพท์มือถือ (Mobile
Security)
คมู่ อื ทักษะความฉลาดทางดจิ ทิ ลั สาหรบั ครู 8
5. ควำมฉลำดทำงอำรมณ์บนโลกดจิ ิทลั (Digital Emotional Intelligence)
ความสามารถในการเข้าสังคมโลกออนไลน์ได้แก่การเอาใจใส่การเข้าใจความรู้สึกของคนอื่น การเห็นใจการ
แสดงนา้ ใจการช่วยเหลือและการสร้างความสัมพันธ์ท่ดี ีกบั บคุ คลอนื่ ๆในโลกออนไลน์แบ่งเป็น 3 องคป์ ระกอบ
คือ ความเข้าใจ เห็นใจ มีน้าใจต่อผู้อื่นบนโลกดิจิทัล (Empathy) ความตระหนักและการควบคุมอารมณ์
(Emotional Awareness and Regulation) ความตระหนักด้านอารมณ์และสังคม (Social and Emotional
Awareness)
6. กำรสอ่ื สำรดจิ ิทลั (Digital Communication)
ความสามารถในการสื่อสารการปฏิสัมพันธแ์ ละทางานร่วมกันกับผู้อื่นโดยใช้เทคโนโลยีและส่ือดิจิทัล แบ่งเป็น
3 องค์ประกอบ คือ รอยเท้าหรือร่องรอยดิจิทัล (Digital Footprint) การติดต่อส่ือสารออนไลน์ (Online
Communication) ความร่วมมอื ออนไลน์ (Online Collaboration)
7. กำรรู้ดิจิทัล (Digital Literacy)
ความสามารถในการค้นหา การประเมินผล การใช้ประโยชน์การแบ่งปัน และสร้างสรรค์เนื้อหารวมถึง
ความสามารถในการประมวลผลการคิดคานวณอย่างเป็นระบบ แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบ คือการคิดอย่างมี
วิจารณญาณ (Critical Thinking) การคิดสร้างสรรค์เน้ือหา (Content Creation) การคิดเชิงประมวลผล
(Computational Thinking)
8. สิทธิทำงดจิ ิทลั (Digital Rights)
ความสามารถในการเข้าใจและรักษาสิทธิสว่ นบุคคลของตนเอง สิทธเิ สรภี าพตามกฎหมาย รวมถึงสทิ ธิในความ
เป็นส่วนตวั ทรัพย์สินทางปัญญา เสรภี าพในการพูด การแสดงความคิดเหน็ และการป้องกันตนเอง จากคาพูด
ท่ีแสดงถึงความเกลียดชัง แบ่งเป็น 3 องค์ประกอบ คือเสรีภาพในการพูด (Freedom of Speech) สิทธิ์ใน
ทรัพย์สินทางปญั ญา (Intellectual Property Rights)ความเปน็ สว่ นตัว (Privacy) (ธาราหิรัญโชติ, 2560)
ควำมเปน็ พลเมืองดจิ ทิ ัล (Digital Citizenship) คอื อะไร
ความเป็นพลเมืองดิจิทัลคือ พลเมืองผู้ใช้งานส่ือดิจิทัลและส่ือสังคมออนไลน์ที่เข้าใจบรรทัดฐานของ
การปฏิบัติตัวใหเ้ หมาะสมและมคี วามรบั ผดิ ชอบในการใชเ้ ทคโนโลยี โดยเฉพาะอย่างยิง่ การส่อื สารในยคุ ดจิ ทิ ัล
เป็นการส่ือสารท่ีไร้พรมแดน สมาชิกของโลกออนไลน์คือ ทุกคนที่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ตบนโลกใบน้ี ผู้ใช้สื่อ
สังคมออนไลน์มีความหลากหลายทางเช้ือชาติ อายุ ภาษา และวัฒนธรรม พลเมืองดิจิทัลจึงต้องเป็นพลเมืองท่ี
มีความรบั ผิดชอบ มจี รยิ ธรรม เหน็ อกเห็นใจและเคารพผู้อืน่ มสี ่วนร่วมและม่งุ เนน้ ความเป็นธรรมในสังคม การ
เป็นพลเมืองในยุคดจิ ิทัลนน้ั มีทักษะทส่ี าคญั 8 ประการ
คมู่ ือทกั ษะความฉลาดทางดิจิทลั สาหรบั ครู 9
8 ทกั ษะในกำรเป็นพลเมืองดิจิทลั (8 Skills of Digital Intelligence Quotient for Digital Citizen)
1. ทกั ษะในกำรรกั ษำอตั ลกั ษณท์ ด่ี ีของตนเอง (Digital Citizen Identity)
สามารถสร้างและบริหารจัดการอัตลักษณ์ที่ดีของตนเองไว้ได้อย่างดีทั้งในโลกออนไลน์และโลกความ
จริงอัตลักษณ์ที่ดีคือ การท่ีผู้ใช้ส่ือดิจิทัลสร้างภาพลักษณ์ในโลกออนไลน์ของตนเองในแง่บวก ท้ังความคิด
ความรูส้ กึ และการกระทา โดยมวี ิจารณญาณในการรับส่งข่าวสารและแสดงความคิดเห็น มคี วามเหน็ อกเห็นใจ
ผู้ร่วมใช้งานในสังคมออนไลน์ และรู้จักรับผิดชอบต่อการกระทา ไม่กระทาการท่ีผิดกฎหมายและจริยธรรมใน
โลกออนไลน์ เชน่ การละเมดิ ลิขสิทธิ์ การกลัน่ แกล้งหรอื การใช้วาจาที่สร้างความเกลยี ดชงั ผู้อ่ืนทางส่ือออนไลน์
คู่มือทักษะความฉลาดทางดิจทิ ลั สาหรับครู 10
2. ทกั ษะกำรคิดวิเครำะหม์ ีวจิ ำรณญำณทดี่ ี (Critical Thinking)
สามารถในการวิเคราะหแ์ ยกแยะระหวา่ งข้อมลู ท่ีถูกต้องและข้อมลู ทผี่ ิด ข้อมลู ทีม่ เี น้อื หาเป็นประโยชน์
และข้อมลู ท่เี ขา้ ข่ายอันตราย ขอ้ มูลตดิ ต่อทางออนไลน์ท่นี ่าตั้งข้อสงสัยและน่าเชอ่ื ถอื ได้ เม่อื ใช้อนิ เทอร์เนต็ จะรู้
ว่าเน้ือหาอะไร เป็นสาระ มีประโยชน์ รู้เท่าทันส่ือและสารสนเทศ สามารถวิเคราะห์และประเมินข้อมูลจาก
แหล่งข้อมูลที่หลากหลายได้ เข้าใจรูปแบบการหลอกลวงต่างๆ ในโลกไซเบอร์ เช่น ข่าวปลอมเว็บปลอม ภาพ
ตัดต่อ เป็นต้น
3. ทักษะในกำรรกั ษำควำมปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์ (Cyber security Management)
สามารถป้องกันข้อมูลด้วยการสร้างระบบความปลอดภัยที่เข้มแข็ง และป้องกันการโจรกรรมข้อมูล
หรือการโจมตีออนไลน์ได้ มีทักษะในการรักษาความปลอดภัยของตนเองในโลกออนไลน์ การรักษาความ
ปลอดภัยของตนเองในโลกไซเบอร์คือ การปกปอ้ งอปุ กรณด์ ิจทิ ัลข้อมูลท่ีจดั เก็บและข้อมูลสว่ นตัวไม่ให้เสียหาย
สญู หาย หรอื ถูกโจรกรรมจากผไู้ มห่ วังดใี นโลกไซเบอร์ การรกั ษาความปลอดภยั ทางดจิ ิทลั มีความสาคญั ดงั นี้
1. เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและความลับ หากไม่ได้รักษาความปลอดภัยใหก้ ับอุปกรณ์ดิจทิ ัล ข้อมูล
สว่ นตัวและข้อมลู ท่ีเป็นความลับอาจจะรวั่ ไหลหรือถกู โจรกรรมได้
2. เพื่อป้องกันการขโมยอัตลักษณ์ การขโมยอัตลักษณ์เร่ิมมีจานวนท่ีมากข้ึนในยุคข้อมูลข่าวสาร
เน่ืองจากมีการทาธุรกรรมทางออนไลน์มากยิ่งขึ้น ผู้คนเริ่มทาการชาระค่าสินค้าผ่านส่ืออินเทอร์เน็ต และทา
ธุรกรรมกับธนาคารทางออนไลน์ หากไม่มีการรักษาความปลอดภัยท่ีเพียงพอ มิจฉาชีพอาจจะล้วงข้อมูล
เกีย่ วกับบตั รเครดติ และข้อมูลสว่ นตัวของผู้ใช้งานไปสวมรอยทาธุรกรรมได้ เชน่ ไปซอื้ สนิ คา้ กยู้ ืมเงนิ หรือสวม
รอยรบั ผลประโยชน์และสวัสดิการ
3. เพ่ือป้องกันการโจรกรรมข้อมูล เนื่องจากข้อมูลต่างๆ มักเก็บรักษาในรูปของดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็น
เอกสารภาพถา่ ย หรือคลิปวดี ิโอ ขอ้ มลู เหลา่ น้ีอาจจะถูกโจรกรรมเพอ่ื นาไปขายต่อ แบลค็ เมล์ หรอื เรยี กคา่ ไถ
ค่มู ือทกั ษะความฉลาดทางดิจทิ ลั สาหรบั ครู 11
4. เพอ่ื ปอ้ งกันความเสียหายของข้อมลู และอุปกรณ์ ภยั คุกคามทางไซเบอร์อาจส่งผลเสียต่อข้อมูลและ
อุปกรณ์ดิจิทัลได้ ผู้ไม่หวังดีบางรายอาจมุ่งหวังให้เกิดอันตรายต่อข้อมูลและอุปกรณ์ที่เก็บรักษามากกว่าท่ีจะ
โจรกรรมข้อมูลนั้น ภัยคุกคามอย่างไวรัสคอมพิวเตอร์ โทรจัน และมัลแวร์สร้างความเสียหายร้ายแรงให้กับ
คอมพิวเตอรห์ รอื ระบบปฏบิ ตั กิ ารได้
4. ทักษะในกำรรกั ษำขอ้ มูลส่วนตัว (Privacy Management)
มีดุลพินิจในการบริหารจดั การข้อมูลส่วนตัว รู้จักปกป้องข้อมูลความส่วนตัวในโลกออนไลน์โดยเฉพาะ
การแชร์ข้อมลู ออนไลน์เพอ่ื ป้องกนั ความเปน็ ส่วนตวั ท้ังของตนเองและผอู้ นื่ รเู้ ท่าทนั ภยั คุกคามทางอินเทอร์เน็ต
เช่น มัลแวร์ ไวรสั คอมพวิ เตอร์ และกลลวงทางไซเบอร์
ค่มู อื ทักษะความฉลาดทางดิจทิ ลั สาหรบั ครู 12
5. ทักษะในกำรจัดสรรเวลำหนำ้ จอ (Screen Time Management)
สามารถในการบริหารเวลาท่ีใช้อุปกรณ์ยุคดิจิทัล รวมไปถึง
การควบคุมเพื่อให้เกิดสมดุลระหว่างโลกออนไลน์ และโลก
ภายนอก ตระหนักถึงอันตรายจากการใช้เวลาหน้าจอนาน
เกนิ ไป การทางานหลายอยา่ งในเวลาเดียวกัน และผลเสยี ของ
การเสพติดสื่อดิจิทัลสานักวิจัยสยามเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ต
โพลล์ระบุว่า วัยรุ่นไทยเกือบ 40 % อยากใช้เวลาหน้าจอ
มากกว่าออกกาลังกาย และผลการสารวจจาก We are
social พบว่า ในแตล่ ะวัน คนไทยใชเ้ วลาหนา้ จอ ดงั ภาพน้ี
6. ทกั ษะในกำรบริหำรจดั กำรข้อมูลท่ีผูใ้ ช้งำนมีกำรท้งิ ไวบ้ นโลกออนไลน์ (Digital Footprints)
สามารถเข้าใจธรรมชาติของการใช้ชีวิตในโลกดิจิทัลว่าจะหลงเหลือร่อยรอยข้อมูลทิ้งไว้เสมอ รวมไปถึงเข้าใจ
ผลลัพธท์ อ่ี าจเกิดขึน้ เพื่อการดแู ลสิง่ เหลา่ นอี้ ย่างมคี วามรับผิดชอบ
รอยเทำ้ ดิจทิ ลั (Digital Footprints) คืออะไร
รอยเท้าดจิ ทิ ลั คือ คาท่ีใช้เรียกรอ่ งรอยการกระทาต่างๆ ท่ีผใู้ ช้งานทงิ้ รอยเอาไว้ในโลกออนไลน์ โซเชยี ล
มีเดีย เว็บไซต์หรือโปรแกรมสนทนา เช่นเดียวกับรอยเท้าของคนเดินทาง ข้อมูลดิจิทัล เช่น การลงทะเบียน
อีเมล การโพสต์ข้อความหรือรูปภาพ เม่ือถูกส่งเข้าโลกไซเบอร์แล้วจะท้ิงร่อยรอยข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้งานไว้
ใหผ้ ู้อนื่ ติดตามได้เสมอ แม้ผใู้ ช้งานจะลบไปแลว้ ดังน้ัน หาก
เป็นการกระทาที่ผิดกฎหมายหรือศีลธรรม ก็อาจมี
ผลกระทบต่อช่ือเสียงและภาพลักษณ์ของผู้กระทา กล่าว
ง่ายๆ รอยเท้าดิจิทัลคือทุกสิ่งทุกอย่างในโลกอินเทอร์เน็ตท่ี
บอกเรื่องของเรา เช่น ข้อมูลส่วนตัวท่ีแชร์ไว้ในบัญชีส่ือ
สงั คมออนไลน์ (Profile) รูปภาพ/ภาพถา่ ย และ ข้อมูลอ่ืนๆ
ทเี่ ราโพสตไ์ ว้ในบล็อกหรือเวบ็ ไซต์
7. ทกั ษะในกำรรบั มือกับกำรกลั่นแกล้งบนโลกไซเบอร์ (Cyberbullying Management)
การกล่ันแกล้งบนโลกไซเบอร์คือ การใช้อินเทอร์เน็ตเป็นเคร่ืองมือหรือช่องทางเพื่อก่อให้เกิดการ
คุกคามล่อลวงและการกลั่นแกล้งบนโลกอินเทอร์เน็ตและส่ือสังคมออนไลน์ โดยกลุ่มเป้าหมายมักจะเป็นกลุ่ม
เด็กจนถึงเด็กวัยรุ่น การกล่ันแกล้งบนโลกไซเบอร์คล้ายกันกับการกลั่นแกล้งในรูปแบบอื่นหากแต่การกลั่น
แกล้งประเภทนี้จะกระทาผ่านสื่อออนไลน์หรือสอ่ื ดิจิทัล เช่น การส่งข้อความทางโทรศัพท์ ผู้กลั่นแกล้งอาจจะ
ค่มู อื ทักษะความฉลาดทางดิจิทลั สาหรับครู 13
เปน็ เพอื่ นร่วมชนั้ คนรจู้ กั ในสอ่ื สงั คมออนไลน์ หรืออาจจะเป็นคนแปลกหนา้ ก็ได้ แตส่ ว่ นใหญ่ผู้ท่กี ระทาจะรู้จัก
ผูท้ ี่ถูกกล่ันแกล้ง รูปแบบของการกล่นั แกล้งมกั จะเปน็ การว่ารา้ ย ใส่ความขูท่ ารา้ ยหรอื ใชถ้ อ้ ยคา ,
การคกุ คามทางเพศผ่านส่ือออนไลน์ , การแอบอ้างตัวตนของผู้อื่น , การแบล็กเมล์ , การหลอกลวง , การสร้าง
กล่มุ ในโซเซียล เพ่ือโจมตี
วธิ จี ัดกำรเมื่อถูกกลัน่ แกล้งบนโลกไซเบอร์
1. หยุดการตอบโต้กับผู้กลนั่ แกลง้ Logout จากบัญชีสอ่ื สงั คมออนไลน์ หรอื ปดิ เคร่อื งมือสอื่ สาร
2. ปดิ ก้ันการส่ือสารกบั ผกู้ ลัน่ แกลง้ โดยการบล็อก จากรายชื่อผู้ตดิ ตอ่
3. ถา้ ผู้กล่ันแกล้งยังไม่หยุดการกระทาอีก ควรรายงาน
8. ทักษะกำรใชเ้ ทคโนโลยีอยำ่ งมจี รยิ ธรรม (Digital Empathy)
มีความเห็นอกเห็นใจ และสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นบนโลกออนไลน์ แม้จะเป็นการสื่อสารท่ีไม่ได้
เห็นหน้ากัน มีปฏิสัมพันธ์อันดีต่อคนรอบข้าง ไม่ว่าพ่อแม่ ครู เพื่อนทั้งในโลกออนไลน์และในชีวิตจริง ไม่ด่วน
ตัดสินผูอ้ นื่ จากข้อมลู ออนไลนแ์ ตเ่ พยี งอยา่ งเดียว และจะเปน็ กระบอกเสยี งให้ผทู้ ี่ตอ้ งการความช่วยเหลอื
คิดก่อนจะโพสต์ลงสังคมออนไลน์ (Think Before You Post)
ใครค่ รวญกอ่ นท่จี ะโพสตร์ ปู หรือข้อความลงในสือ่ ออนไลน์ ไม่โพสต์ขณะกาลังอย่ใู นอารมณ์โกรธ
สอ่ื สารกับผูอ้ น่ื ด้วยเจตนาดี ไม่ใช้วาจาที่สรา้ งความเกลยี ดชังทางออนไลน์ ไม่นาลว้ งข้อมูลส่วนตวั ของผอู้ ื่น ไม่
กลั่นแกลง้ ผอู้ ืน่ ผา่ นสื่อดจิ ิทัล (อินทนนท์, 2563)
โดยอาจต้ังความถามกับตัวเองกอ่ นโพสตว์ ่า
คมู่ ือทกั ษะความฉลาดทางดิจิทลั สาหรบั ครู 14
สรุปควำมรู้ท่ีได้รับ
โดยรวมเปรียบเสมือนเครื่องมอื สาหรับพัฒนาทักษะดิจิทลั ของครู เม่อื “คร”ู คือหัวใจในการถา่ ยทอด
องค์ความรู้ ทักษะ ตลอดจนเป็นแบบอยา่ งทด่ี ใี ห้กับนักเรียนแลว้ เพือ่ ใหท้ นั ตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี
ดิจิทัล และสามารถเป็นพลเมืองดิจทิ ัลทด่ี ี ครูตอ้ งพร้อมที่จะพัฒนาตนเองอย่ตู ลอดเวลาใหม้ ที ักษะความฉลาด
ทางดิจิตอลทั้ง 8 ดา้ น ซ่งึ ปจั จุบันมีเครือ่ งมือสนับสนุนและอานวยความสะดวกต่อการพัฒนาทักษะมากมายท่ี
ครสู ามารถนาไปประยุกตแ์ ละพฒั นาต่อเพื่อเปน็ ส่ือการเรยี นรู้ทีเ่ หมาะสมกบั ผู้เรียนได้ เพ่ือพัฒนาผ้เู รียนใหเ้ ปน็
พลเมอื งดิจทิ ัลทีด่ ีได้อย่างเหมาะสม
คู่มอื ทักษะความฉลาดทางดิจิทลั สาหรบั ครู 15
อ้ำงอิงแหล่งที่มำ
ดร.สรานนท์ อนิ ทนนท์. (2563). ความฉลาดทางดจิ ิทัล (DQ Digital Intelligence). กรุงเทพมหานคร: มลู นธิ ิ
ส่งเสริมสื่อเดก็ และเยาวชน(สสย.).
ววิ รรณ ธาราหิรญั โชติ. (18 กนั ยายน 2560). ทักษะทางดิจทิ ัลทจ่ี าเปน็ สาหรับเดก็ ในอนาคต. เข้าถงึ ได้จาก
กรุงเทพธรุ กิจ: https://www.bangkokbiznews.com/blog/detail/642553
สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา. (2562). แนวปฏิบัตขิ องการสร้างและสง่ เสริมการรดู้ ิจทิ ัลสาหรบั ครู.
กรุงเทพมหานคร:สานักงานเลขาธกิ ารสภาการศึกษา.
สุภาณี เสง็ ศรี, รจุ โรจน์ แก้วอไุ ร, กติ ติพงษ์ พมุ่ พวง นติ ยา นาคอนิ ทร.์ (2564). 8 ทกั ษะ “ความฉลาดทาง
ดิจิทลั ” ของนกั ศึกษาวิชาชีพครสู กู่ ารเปน็ พลเมือง 4.0. วารสารบัณฑติ ศึกษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏ
เชียงราย,3.
คู่มือทักษะความฉลาดทางดจิ ทิ ลั สาหรบั ครู 16
คมู่ ือทกั ษะควำมฉลำดทำงดจิ ทิ ลั สำหรบั ครู
เสนอ
อำจำรย์ ดร.สธุ ดิ ำ ปรีชำนนท์
อำจำรย์ ดร.สจุ ิตตรำ จนั ทรล์ อย
รำยวิชำ GD58201 กำรพัฒนำควำมเป็นครู
หลักสูตรประกำศนียบตั รบัณฑิตวชิ ำชพี ครู มหำวทิ ยำลยั รำชภฏั หม่บู ำ้ นจอมบงึ
ประวตั ผิ ้จู ดั ทำ
ช่ือ-นำมสกลุ : นำงสำวณัฐพร ผิวพรรณ
ชือ่ เล่น : เฟริ น์
ระดบั กำรศกึ ษำ : ปรญิ ญำตรี สำขำฟสิ กิ ส์ มหำวิทยำลยั เกษตรศำสตร์
กำลงั ศึกษำตอ่ : หลกั สตู รประกำศนียบัตรบณั ฑติ วิชำชพี ครู รนุ่ ที่23
มหำวิทยำลัยรำชภัฏหมู่บำ้ นจอมบงึ
คู่มอื ทกั ษะความฉลาดทางดิจิทลั สาหรบั ครู 17