6
บทที 2
แนวคดิ ทฤษฎี และงานวจิ ัยทีเกยี วข้อง
ในการดาํ เนินงานวิจยั สืออิเล็กทรอนิกส์วิชาหลักการบญั ชีเบืองต้น ทางดา้ นคณะ
ผูจ้ ัดทาํ งานวิจยั ได้ทาํ การรวบรวมแนวคิดและหลกั การต่างๆ จากเอกสารแนวคิด ทฤษฏี และ
งานวิจยั เกียวข้อง โดยมีเนือหาและรายละเอียดดงั ต่อไปนี
2.1 ความรู้เกียวกบั รายวชิ าทีจดั ทาํ งานวจิ ยั
2.1.1 วิชาหลกั การบญั ชีเบืองตน้ 1
2.2 ความรู้เกียวกบั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ E-Book
2.2.1 โปรแกรม Any Flip
2.3 แนวคดิ และทฤษฎีทีเกียวขอ้ ง
2.4 งานวจิ ยั ทีเกียวขอ้ ง
2.1 ความรู้เกยี วกบั รายวิชาทีจดั ทาํ งานวิจัย
2.1.1 วิชาการบัญชีเบืองต้น 1
หวั ข้อเรือง
1. ความรู้เบืองตน้ ทางการบญั ชี
2. สินทรัพย์ หนีสิน ส่วนของเจา้ ของ
3. การวเิ คราะหร์ ายการคา้
4. การบนั ทกึ รายการคา้ ในสมดุ รายวนั ทวั ไป
5. การผ่านรายการไปบญั ชีแยกประเภททวั ไป
จดุ ประสงค์เชิงพฤติกรรม
1. อธิบายความหมายของบญั ชีเบืองตน้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
2. อธิบายวตั ถุประสงคข์ องบญั ชีเบืองตน้ ไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง
3. เขา้ ใจประโยชน์ของการบญั ชี
4. อธิบายถึงความสัมพนั ธข์ องสินทรัพย์ หนีสิน และส่วนของเจา้ ของ
5. เขา้ ใจถึงการวเิ คราะหร์ ายการคา้
6. อธิบายถึงเอกสารประกอบการบนั ทึกบญั ชี
7
7. อธิบายถึงการบนั ทึกรายการคา้ ในสมุดรายวนั ทวั ไป
8. เขา้ ใจเรืองวงจรบญั ชี
9. เขา้ ใจถึงขนั ตอนการทาํ สมุดบนั ทึกรายการขนั ตน้
10. เขา้ ใจในหลกั การบนั ทึกรายการคา้ ในสมุดรายวนั ทวั ไป
11. อธิบายถึงการผา่ นรายการไปบญั ชีแยกประเภททวั ไป
12. เขา้ ใจการทาํ สมุดบญั ชีแยกประเภท
13. ทราบถงึ รูปแบบและวิธีการบนั ทกึ ของสมุดบญั ชีแยกประเภททวั ไป
2.1.2 ความหมายของบญั ชีเบืองต้น
การบญั ชี (Accounting) หมายถึง งานศิลปะของการนาํ รายงานและเหตกุ ารณ์ทางการเงินมาจด
บนั ทึก จดั หมวดหมู่ สรุปผล และวเิ คราะห์ ตีความอยา่ งมีหลกั เกณฑ์
การบญั ชี คือ การจดบนั ทึกรายการคา้ ต่างๆ ทีเกียวกบั การรับ-จ่ายเงิน และสิงทีมีค่าเป็ นเงิน
ไวใ้ นสมุดบญั ชีอย่างสมาํ เสมอ เป็นระเบียบถูกตอ้ งตามหลกั การ และสามารถแสดงผลการดาํ เนินงาน
และฐานะการเงินของกิจการในระยะเวลาหนึงได้ การทาํ บญั ชี (Bookkeeping) หมายถึง งานประจาํ ที
เกียวขอ้ งกบั การบนั ทึกและรวบรวมขอ้ มูลประจาํ วนั เพือใหส้ ามารถจดั ทาํ งบการเงินไดก้ ารทาํ บญั ชีเป็น
งานย่อยส่วนหนึงของการบญั ชี บุคคลผูป้ ฏิบตั ิงานเกียวกบั การบญั ชี เรียกว่า นักบญั ชี (Accountant)
ส่วนผทู้ ีมีหนา้ ทีบนั ทึกและรวบรวมขอ้ มลู เกียวกบั การเงินประจาํ วนั เรียกวา่ ผทู้ าํ บญั ชี (Bookkeeper)
2.1.3 อธบิ ายวตั ถปุ ระสงค์ของบญั ชีเบืองต้นไว้อย่างถูกต้อง
1. เพือเป็นการบนั ทึกเหตุการณ์ทางการคา้
2. เพือใหเ้ จา้ ของกิจการไดท้ ราบว่าช่วงเวลานนั ๆ มีสินทรพั ย์ หนีสินและส่วนของเจา้ ของอยู่
เป็นจาํ นวนเท่าใดและอยา่ งไร
3. เพือเป็นปัจจยั หนึงประกอบการตดั สินใจในการลงทุนของนกั ธุรกิจและประกอบการตดั สิน
ใจในการบริหารของเจา้ ของกิจการ
4. เพือเป็นการป้องกนั การทุจริตและการสูญหายของสินทรัพย์
5. เพือใหเ้ ป็นไปตามขอ้ บงั คบั ของกฎหมาย
6. เพือเป็นเครืองมือนาํ มาใชใ้ นการคาํ นวณภาษที ีจะตอ้ งจ่ายแก่รัฐ
2.1.4 ประโยชน์และวัตถปุ ระสงค์ของการบัญชี
1. ช่วยใหเ้ จา้ ของกิจการสามารถควบคุมรักษาสินทรัพยข์ องกิจการได้
2. ช่วยใหท้ ราบผลการดาํ เนินงานของกิจการ ในรอบระยะเวลาใดเวลาหนึงวา่ ผลการดาํ เนินงาน
8
ทีผา่ นมา กิจการมีกาํ ไรหรือขาดทุนเป็นจาํ นวนเทา่ ใด
3. ช่วยให้ทราบฐานะการเงินของกิจการ ณ วนั ใดวนั หนึงวา่ กิจการในสินทรัพย์ หนีสิน และ
ทนุ ซึงเป็นส่วนของเจา้ ของกิจการเป็นจาํ นวนเท่าใด
4. การทาํ บญั ชีเป็ นการรวบรวมสถิติอย่างหนึงทีช่วยในการบริหารงาน และให้ขอ้ มูลอนั
เป็ นประโยชน์ในการวางแผนการดาํ เนินงาน และควบคุมกิจการให้ประสบผลสาํ
เร็จตามความมุ่งหมาย
5. เพือบนั ทึกรายการคา้ ทีเกิดขึนตามลาํ ดบั ก่อนหลงั และจาํ แนกตามประเภทของรายการคา้
6. เพือให้ถูกตอ้ งตามพระราชบญั ญตั ิวา่ ดว้ ยการทาํ บญั ชีของกิจการตา่ งๆ
2.1.5 สินทรัพย์ หนีสิน ส่วนของเจ้าของ
สินทรัพย์ (Assets) หมายถึง สิงทีมีตวั ตน หรือไม่มีตวั ตนอนั มีมูลค่า ซึงบุคคลหรือกิจการเป็น
เจ้า ของหรือสามารถถือเอาประโยชน์ได้จาก กรรมสิทธิในอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ สิทธิ
เรียกร้องมูลค่าทีไดม้ า รายจ่ายทีเกิดสิทธิ และรายจ่ายของงวดบญั ชีถดั ไป
1. สินทรัพยท์ ีเป็นตวั เงินหรือเทียบเท่าเงิน เชน่ เงินสด และตวั เงินรับต่าง ๆ
2. สินทรัพยท์ ีเป็นสิทธิเรียกร้อง เช่น ลูกหนี
3. สินทรัพยท์ ีมีตวั ตน เช่น ทีดิน อาคาร รถยนต์
4. สินทรัพยท์ ีไม่มีตวั ตน เชน่ สิทธิบตั ร ลิขสิทธิ สัมปทาน
5. รายจ่ายทีจา่ ยไปแลว้ จะใหป้ ระโยชน์ต่องวดบญั ชีถดั ไป ไดแ้ ก่ คา่ ใชจ้ ่ายลว่ งหนา้ ประเภท
ต่างๆ เช่นคา่ โฆษณาจา่ ยล่วงหนา้
สินทรัพยส์ ามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่
1. สินทรัพยห์ มุนเวียน (Current Assets) หมายถึง สินทรัพยท์ ีมีสภาพคล่อง สามารถจะ
เปลียน เป็นเงินสด เช่น เงินสด เงินฝากธนาคาร เป็ นตน้ หรือสินทรัพยอ์ ืนทีเปลียนเป็ นเงินสดได้เร็ว
โดยปกติจะไมเ่ กิน 1 ปี เช่น ตวั เงนิ รับ ลูกหนีการคา้ สินคา้ คงเหลือ เป็นตน้
2. สินทรัพย์ไม่หมุนเวียน (Non – Current Assets) หมายถึง สิ นทรัพย์ทีไม่สามารถ
เปลียนเป็ นเงินสดไดโ้ ดยเร็วซึงมีระยะเวลามากกว่า 1 ปี เช่น เงินลงทุนระยะยาว เงินให้กูย้ มื ระยะยาว
และการลงทนุ ในหุน้ สามญั ของบริษทั ตา่ งๆ เป็นตน้ สินทรัพยถ์ าวร (Fixed Assets) หรือเป็นสินทรัพยท์ ี
มีตวั ตน มีลกั ษณะการใชง้ านทีคงทน และมีอายกุ ารใชง้ านนานเกินกว่า 1 ปี เช่น ทีดินอาคาร อปุ กรณ์
รถยนต์ เป็นตน้ สินทรัพยไ์ มม่ ีตวั ตน (Intangible Assets) หมายถึง สินทรพั ยท์ ีไมม่ ีรูปร่างไมส่ ามารถจบั
9
ตอ้ งไดท้ างกายภาพ แต่สามารถตีราคาให้มีมูลค่าเป็นเงินตรา และถือกรรมสิทธิได้ เช่น เครือง หมาย
การคา้ สิทธิบตั ร ลิขสิทธิ ค่าความนิยม เป็นตน้
หนีสิน (Liability) หมายถึง ภาระผูกพนั ในปัจจุบนั ของกิจการทีตอ้ งจ่ายชาํ ระคืนแก่บุคคลภาย
นอกในอนาคต ภาระผกู พนั ดงั กลา่ วเป็นผลของเหตกุ ารณ์ในอดีตซึงการชาํ ระภาระผูกพนั นนั คาดวา่ จะ
ส่งผลให้กิจการสูญเสียทรัพยากรทีมีประโยชน์เชิงเศรษฐกิจ เช่น เจา้ หนีการคา้ เงินกู้ เงินเบิกเกินบญั ชี
เจา้ หนีจาํ นอง เป็นตน้ หนีสินแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ไดแ้ ก่
1. หนีสินหมุนเวียน (Current Liabilities) หมายถึง ภาระผูกพนั ทีกิจการตอ้ งชาํ ระคืนภายในระ
ยะเวลา ไมเ่ กิน 1 ปี เชน่ เจา้ หนีการคา้ เงินเบกิ เกินบญั ชีธนาคาร เงินกูย้ มื จากธนาคารระยะสัน ตวั เงนิ จ่าย
เป็ นตน้
2. หนีสินไม่หมุนเวียน (Non –Current Liabilities) หมายถึง หนีสินซึงมีระยะเวลาการชาํ ระคืน
เกินกว่า 1 ปี หรือเกินกว่ารอบระยะเวลาการดาํ เนิน งานตามปกติของกิจการ เช่น เงินกูร้ ะยะยาว หุน้ กู้
พนั ธบตั รเงินกู้ เป็นตน้
ส่วนของเจา้ ของ (Owner’s equity).หมายถึง ส่วนไดเ้ สียคงเหลือในสินทรัพยข์ องกิจการหลงั จาก
หกั หนีสิน ทงั สินออกแลว้ กรรมสิทธิทีเจา้ ของกิจการมีในสินทรัพย์ เรียกวา่ สินทรัพยส์ ุทธิ(สินทรัพย์ –
หนีสิน) ส่วนของเจา้ ของกิจการแบง่ ได้ 3 ประเภท
1. กิจการเจา้ ของคนเดียว
2. หา้ งหุน้ ส่วน
3. บริษทั จาํ กดั
10
11
2.1.6 งบดุล (Balance Sheet)
งบดุล หมายถึง รายการทีแสดงฐานะทางการเงินของกิจการ ณ วนั ใดวนั หนึงซึงประกอบด้วย
สินทรพั ย์ หนีสิน และส่วนของเจา้ ของ ซึงองคป์ ระกอบเหล่านีตอ้ งอาศยั ความสมั พนั ธ์ของสมการบญั ชี
ประเภทของงบดุล
1. งบดุลแบบบญั ชี (Accounting Form) งบดุลแบบบญั ชีใชแ้ บบฟอร์มคลา้ ยกบั บญั ชีแยก
ประ เภท ซึงมีลกั ษณะคลา้ ยตวั T แบง่ ออกเป็น 2 ดา้ น ทางดา้ นซา้ ยมือ จะแสดงรายการ
ของสินทรัพย์ ส่วนดา้ นขวามือจะแสดงรายการของหนีสินและส่วนของเจา้ ของ
12
13
2. งบดุลแบบรายงาน (Report Form)
14
2.1.7 การวเิ คราะห์รายการค้า
การวิเคราะห์รายการคา้ หมายถึง การพิจารณารายการทีเกิดขึนในกิจการคา้ ว่ามีผลกระทบต่อ
สินทรัพย์ หนีสิน และส่วนของเจา้ ของอยา่ งไร ในการวเิ คราะห์รายการคา้ จึงยดึ สมการบญั ชีทีวา่
สินทรพั ย์ = หนีสิน + ส่วนของเจา้ ของ
การวิเคราะห์รายการคา้ เป็ นจุดเริมตน้ ของวงจรบญั ชี เป็ นขนั แรกของการจดั ทาํ บญั ชี ซึงสําคญั
มาก เพราะหากวเิ คราะห์รายการผิด ก็จะทาํ ใหข้ นั ตอนตอ่ ๆไปผดิ ไปดว้ ย
หลกั ในการวิเคราะห์รายการคา้ มีดงั นี
1. การวิเคราะห์รายการคา้ ทีเกิดขึนว่าทาํ ให้สินทรัพย์ หนีสิน และส่วนของเจา้ ของกิจการ
เปลียน แปลง โดยการเพิมขึนหรือลดลงอยา่ งไรบา้ ง
2. รายการคา้ ทีเกิดขึนเมือวิเคราะห์แลว้ การเปลียนแปลงของสินทรัพย์ หนีสิน และส่วนของ
เจา้ ของนันจะตอ้ งทาํ ให้สมการบญั ชีเป็ นจริงเสมอ กล่าวคือเมือวิเคราะห์รายการคา้ แลว้ สินทรัพยท์ ี
เปลียนแปลงจะตอ้ งเท่ากบั หนีสินทีเปลียนแปลงบวกดว้ ยส่วนของเจา้ ของทีเปลียนแปลงเสมอ
การวิเคราะหร์ ายการคา้ จะมีผลต่อสินทรัพย์ หนีสิน ส่วนของเจา้ ของ สรุปไดด้ งั นี
กรณี ผลการวิเคราะห์ ตัวอย่างรายการค้า
ที
1 สินทรัพยเ์ พิม สินทรพั ยล์ ด ซืออปุ กรณ์สาํ นกั งานเป็นเงินสด
2 สินทรพั ยเ์ พิม หนีสินเพมิ ซือเครืองตกแตง่ เป็ นเงินเชือ
3 สินทรพั ยเ์ พิม ส่วนของเจา้ ของเพิม เจา้ ของกิจการนาํ เงินสดมาลงทนุ
4 สินทรัพยล์ ด หนีสินลด จา่ ยชาํ ระหนีใหเ้ จา้ หนี
5 สินทรัพยล์ ด ส่วนของเจา้ ของลด จ่ายคา่ รับรองลูกคา้
6 สินทรพั ยเ์ พิม หนีสิน เจา้ ของกิจการนาํ อาคารและเงินกูม้ าลงทนุ
และส่วนของเจา้ ของเพิม
7 สินทรัพยเ์ พิม สินทรัพลด ซือคอมพวิ เตอร์พร้อมเครืองพมิ พ์ 1 ชุดเป็นเงิน
หนีสินเพมิ ผอ่ น ชาํ ระเงินดาวน์ 10%
8 หนีสินเพมิ ส่วนของเจา้ ของลด ไดร้ ับใบแจง้ หนีค่าเช่าเครืองถ่ายเอกสาร
15
ตวั อยา่ งจงวิเคราะห์รายการคา้ ต่อไปนี ผลการวเิ คราะห์
ลาํ ดับ รายการค้า สินทรัพยเ์ พิม ส่วนของเจา้ ของเพมิ
1 เจา้ ของกิจการนาํ สินทรัพยม์ าลงทุน สินทรัพยเ์ พิม ส่วนของเจา้ ของเพมิ
2 รับเงินสดเป็นค่าบริการ สินทรพั ยเ์ พิม สินทรัพยล์ ด
3 รับชาํ ระหนีจากลูกคา้ สินทรัพยล์ ด หนีสินลด
4 จา่ ยชาํ ระหนีใหเ้ จา้ หนี สินทรัพยล์ ด ส่วนของเจา้ ของลด
5 เจา้ ของกิจการถอนเงินสดไปใชส้ ่วนตวั สินทรพั ยเ์ พิม หนีสินเพมิ
6 ซือของตกแตง่ เป็นเงินเชือ สินทรพั ยล์ ด ส่วนของเจา้ ของลด
7 จ่ายเงนิ เดือนพนกั งาน สินทรพั ยเ์ พิม สินทรัพยล์ ด
8 ซือเครืองดูดฝ่นุ เป็นเงินสด
สินทรัพยล์ ด ส่วนของเจา้ ของลด
9 จ่ายค่ารถรับจา้ ง
สินทรพั ยเ์ พิม สินทรพั ยล์ ด
10 นาํ เงินสดไปฝากธนาคาร
2.1.8 การบนั ทึกรายการค้าในสมดุ รายวันทัวไป
ขา้ งตน้ ไดก้ ล่าวเรืองเกียวกบั สมุดขนั ตน้ ไปแลว้ ต่อไปนีเราจะตอ้ งนํารายการคา้ ทีเกิดขึนมา
บนั ทกึ ในสมดุ รายวนั ใหถ้ ูกตอ้ งในทกุ ๆ รายการนันเป็นอย่างไร จากทีเราไดท้ ราบเรืองการการวิเคราะห์
รายการบญั ชีมาแลว้ วา่ อะไรมีผลอย่างไรกบั รายการ และในแตล่ ะรายการนันเดบิต เครดิตอยา่ งไร มาถึง
ขนั ตอนนีเราตอ้ งสามารถทีจะทาํ การ เดบิต เครดิต ให้แลว้ เพราะวา่ ขนั ตอนนีจะมีการลงรายการมีเดบติ
เครดติ
ขนั ตอนในการบญั ชีรายวนั ทวั ไป
. ใหท้ าํ การเขยี นหัวเรืองของบญั ชีวา่ เป็นของบญั ชีอะไร กิจการของใคร และระบุเลขทีหนา้
เพือเป็นการงา่ ยในการคา้ หากและช่วยใหส้ ามารถเรียงลาํ ดบั ใหถ้ ูกตอ้ งเพือมีการฉีกขาด
2. ทาํ การวเิ คราะห์รายการ วเิ คราะหว์ ่าเป็นรายการบญั ชีใด เดบติ และเครดิต เป็นจาํ นวนเงิน
เทา่ ไหร่ และยอดรวมของทงั สองจะตอ้ งเทา่ กนั ตามทีเราไดร้ ับทราบในระบบบญั ชีคู่มาแลว้
3. เขียนวนั ทีของรายรายการในช่อง วนั เดือน ปี โดยใหล้ งปี ก่อนให้อยบู่ นสุด หลงั จากนันลง
เดือน แลว้ ต่อเป็นวนั ที ถา้ เดือนเดียวกนั ในวนั ถดั มาไมต่ อ้ งเขียนซาํ
16
4. ใหล้ งรายการในช่องของรายการบญั ชี โดยใหล้ งเดบิตเป็นอนั ดบั แรก แลว้ ใหช้ ิดขอบทาง
ดา้ นซา้ ย พร้อมลงจาํ นวนเงินในช่องของเดบิตให้ตรงกบั รายการ และใหห้ ลกั หน่วยนันชิดของดา้ นขวา
เสมอ ลงรายการดา้ นเครดิต ให้เยืองทางจากขอบดา้ นซ้ายและเดบิตมาระยะพอสมควร และทาํ การลง
จาํ นวนเงินดา้ นเครดิตใหต้ รงกบั รายการ
5. ทําการอธิบายรายการให้ได้ใจความและควรให้พอดีกับบรรทัด 1 บรรทัด ให้มีใจความ
กระชบั พอเขา้ ใจได้ และใหท้ าํ การขีดเสน้ เพือใหจ้ บรายการนนั ๆ
ตวั อยา่ งการบนั ทึกในสมุดรายวนั ทวั ไป
กิจการนาย สมชาย เป็ นกิจการทาํ ความสะอาดและจดั ตกแต่งสวน ตามบา้ นเรือนมีชือว่า สมชายตาม
สะอาด โดยมีรายการทีเกิดขึนในเดือนกนั ยายน 2556 ดงั นี
วนั ที 1 นายสมชายไดน้ าํ เงินสดมาลงทนุ เป็นเงินทงั หมด 2,000,000 บาท
วนั ที 3 ซือเครืองใชส้ าํ นกั งาน 50,000 บาท และอปุ กรณ์สาํ นกั งาน 20,000 บาท
วนั ที 5 ไดท้ าํ การซือวสั ดุสินเปลือง จาํ นวน 8,000 บาท
วนั ที 10 ไดร้ ับค่าบริการ จากการทาํ ความสะอาดบา้ นและจดั สวน จาํ นวนเงิน 20,000 บาท
วนั ที 12 ไดร้ ับค่าบริการทาํ ความสะอาดบา้ น 10,000 บาทโดยจะชาํ ระในอีก 1 เดือน
วนั ที 21 ซือรถยนตจ์ าํ นวน 600,000 บาท จ่ายเงินสด 300,000 บาท ส่วนทีเหลือจะทาํ การจ่ายในอีก 3
เดือน
วนั ที 28 ได้ชาํ ระค่าใช้จ่ายต่างๆ ดังนี ค่านาํ มนั รถ 800 บาท ค่าไฟฟ้า 1,200 ค่านํา 200 บาท และค่า
เงนิ เดือนพนงั งาน 12,000 บาท
ตวั อยา่ งการบนั ทึกมดี งั นี
ให้ทาํ การเขียนทีหัวกระดาษเป็ นสมุดรายวนั ทวั ไป ลงเลขทีหน้าดว้ ย รายการในวนั ที 1 คือนาย
สมชายเองเงินมาลงทุนจึงทาํ ให้ มีการเดบิต เงินสด เครดิต ส่วนของเจา้ ของจาํ นวนเงิน 2,000,000 สมุด
รายวนั ทวั ไปเลขที
หนา้ 1
วนั ที รายการ เลขที เดบิต เครดิต
บญั ชี
2556 เงินสด 101 2,000,000.- 2,000,000.-
ก.ย. 1 ทนุ – นายสมชาย 301
นายสมชายนาํ เงินสดมาลงทุน
17
รายการที 2 เป็นของวนั ที 3 ซือเครืองใชส้ ํานกั งาน 50,000 บาท และอปุ กรณ์สาํ นกั งาน 20,000 บาท จึง
ลงสมดุ รายวนั ทวั ไปดงั นี
วนั ที รายการ เลขที เดบิต เครดิต
70,000.-
บญั ชี
2556 เครืองใชส้ าํ นกั งาน 111 50,000.-
3 อุปกรณ์สาํ นกั งาน 121 20,000.-
เงนิ สด 101
ซือเครืองใช-้ อุปกรณ์สาํ นกั งาน
ดงั นนั จะเห็นไดว้ า่ การบนั ทึกในสมดุ รายวนั ทวั ไปนนั ไมไ่ ดต้ ่างจากทีเคยทาํ ใหบ้ ญั ชี รูปตวั T แต่เรา
ตอ้ งลงตามช่องทีกาํ หนดและมีการเขียนคาํ อธิบายให้กระชบั รายการดงั กลา่ วจึงลงในรูปแบบดงั นี
สมดุ รายวนั ทวั ไป
2.1.9 การผ่านรายการไปบญั ชีแยกประเภททัวไป
บญั ชีแยกประเภท หมายถึง สมุดบัญชีทีใช้สําหรับบนั ทึกรายการต่อจากสมุดรายวนั ขันตน้
โดยจาํ แนกไวเ้ ป็นหมวดหมูม่ ีความสาํ คญั ในการจดั ทาํ งบทดลองไดเ้ ร็วและประหยดั เวลา เพราะในบญั ชี
แยกประเภทแตล่ ะบญั ชีไดจ้ ดั ทาํ และเรียงลาํ ดบั ตามหมวดบญั ชีไวแ้ ลว้
สมดุ บญั ชีแยกประเภทแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ชนิด ไดแ้ ก่
1. สมุดบญั ชีแยกประเภททวั ไป (General Ledger) เป็นสมุดบญั ชีทีใชส้ าํ หรับบนั ทึกรายการต่อ
จากสมุดรายวนั ขนั ตน้ ซึงไดแ้ ยกบญั ชีไวเ้ ป็นหมวดหมสู่ มดุ บญั ชีแยกประเภททวั ไปนนั ใชบ้ นั ทึกในการ
เปลียนแปลงสินทรัพย์ หนีสิน และส่วนของเจา้ ของ (ทุน) ต่อจากการบนั ทึกลงในสมุดรายวนั ทัวไป
ไดแ้ ก่ บญั ชีแยกประเภทสินทรัพย์ บญั ชีแยกประเภทหนีสิน และบญั ชีแยกประเภทส่วนของเจา้ ของ
2. สมุดบญั ชีแยกประเภทย่อย (Subsidiary Ledger) เป็นสมุดบญั ชีช่วยซึงเป็ นบญั ชี ยอ่ ยคุมยอด
(Controlling Accounts) ในสมุดแยกประเภททัวไป ได้แก่ สมุดแยกประเภทลูกหนี และสมุดแยก
ประเภทเจา้ หนี
รูปแบบของบญั ชีแยกประเภททีนิยมใชก้ นั ทวั ไปมี 2 แบบ
1. แบบบญั ชีแยกประเภททวั ไป (แบบมาตรฐาน) มีลกั ษณะคลา้ ยตวั อกั ษรภาษาองั กฤษคอื ตวั
18
“T” ซึงแบ่งออกเป็ น 2 ดา้ น ทางดา้ นซ้ายมือคือดา้ นลกู หนีหรือเดบิต ทางดา้ นขวามือคือดา้ นเจา้ หนีหรือ
ดา้ นเครดิตส่วนประกอบตา่ งๆ ของบญั ชีแยกประเภททวั ไป มีดงั นี
ชือบญั ชี......( ) เลขที..........( )
พ.ศ. รายการ หนา้ เดบิต พ.ศ. รายการ หนา้ เครดิต
เดือน วนั ที บญั ชี
บญั ชี เดือน วนั ที
(3) (4) (5) (6) (3) (4) (5) (7)
(1) ชือบญั ชี (5) ช่องหนา้ บญั ชี
(2) เลขทีบญั ชี (6) ช่องจาํ นวนเงินเดบติ
(3) ช่อง วนั เดือน ปี (7) ช่องจาํ นวนเงินเครดิต
(4) ช่องรายการ
บญั ชีแยกประเภทย่อย (แบบแสดงยอดดุล) มีลกั ษณะคลา้ ยกบั รูปแบบของสมุดรายวนั ทวั ไป แต่จะมี
ช่องยอดคงเหลือเพิมขึนมาเพือแสดงรายการคงเหลือทุกครังทีมีการบนั ทึกรายการและเมือต้องการ
ทราบยอดคงเหลือ
ส่วนประกอบตา่ งๆ ของบญั ชีแยกประเภทย่อย มีดงั นี
19
ชือบญั ชี......( ) เลขที..........( )
พ.ศ. รายการ หนา้ เดบิต เครดิต คงเหลือ
เดือน วนั ที บญั ชี
(3) (4) (5) (6) (7) (8)
(1) ชือบญั ชี (5) ช่องหนา้ บญั ชี
(2) เลขทีบญั ชี (6) ช่องจาํ นวนเงินเดบิต
(3) ช่อง วนั เดือน ปี (7) ช่องจาํ นวนเงินเครดิต
(4) ช่องรายการ (8) ช่องจาํ นวนเงินคงเหลือ
ประเภทของบญั ชีแยก ประเภทมี 3 ประเภท ได้แก่
1. บญั ชีประเภทสินทรัพย์ หมายถึง บญั ชีทีแสดงมูลค่าของสินทรัพยท์ ีกิจการเป็ นเจา้ ของแยก
ตามประเภทสินทรัพย์ เช่น บญั ชีเงินสด บญั ชีเงินฝากธนาคาร บญั ชีลูกหนี บญั ชีทีดิน ฯลฯ
2. บัญชีประเภทหนีสิน หมายถึง บัญชีทีแสดงมูลค่าของหนีสินทีกิจการตอ้ งชําระให้กับ
บุคคลภายนอก เช่น บญั ชีเจา้ หนีการคา้ บญั ชีเงินกูธ้ นาคาร บญั ชีค่าใช้จ่ายคา้ งจ่าย บญั ชีตวั เงินจ่าย เป็น
ตน้
3. บัญชีประเภทส่วนของเจ้าของ หมายถึง บญั ชีประเภทส่วนของเจา้ ของ (Owner’s equity)
หมายถึง บญั ชีทีแสดงส่วนของเจา้ ของทีเพิมหรือลดลง ไดแ้ ก่ บญั ชีทุน บญั ชีถอนใชส้ ่วนตวั
บญั ชีรายได้ บญั ชีคา่ ใชจ้ ่าย
บญั ชีรายได้ เมือมีรายได้ ทาํ ใหส้ ่วนของเจา้ ของเพิมขึน
บญั ชีคา่ ใชจ้ ่าย เมือมีค่าใชจ้ า่ ย ทาํ ใหส้ ่วนของเจา้ ของลดลง
บญั ชีถอนใชส้ ่วนตวั เมือมีการถอนเงินสดและนาํ สินทรัพยไ์ ปใชส้ ่วนตวั ทาํ ใหส้ ่วนของเจา้ ของลดลง
หลกั การบนั ทึกบญั ชีแยกประเภทมีหลกั การดงั นี
20
1. ใหน้ าํ ชือบญั ชีทีเดบิตในสมดุ รายวนั ทวั ไป มาตงั เป็นชือบญั ชีแยกประเภท และบนั ทึกรายการ
ทางดา้ นเดบติ โดย
1.1 เขียนช่อง วนั เดือน ปี ตามทีปรากฏในสมดุ รายวนั ทวั ไป
1.2 เขยี นชือบญั ชีทีเครดติ ลงในชอ่ งรายการ
1.3 เขยี นจาํ นวนเงินลงในช่องเดบิต
2. ให้นาํ บญั ชีทีเครดิตในสมุดรายวนั ทวั ไป มาตงั เป็ นเป็ นชือบญั ชีแยกประเภท และบนั ทึกไว้
ทางดา้ นเครดิตโดย
2.1 เขียนช่อง วนั เดือน ปี ตามทีปรากฏในสมดุ รายวนั ทวั ไป
2.2 เขียนชือบญั ชีทีเดบิตลงในชอ่ งรายการ
2.3 เขยี นจาํ นวยเงินลงในช่องจาํ นวนเงินเครดิต
3. การบนั ทึกบนั ชีในช่องรายการของบญั ชีแยกประเภท แบง่ ได้ 3 กรณี
กรณีที 1 รายการเปิ ดบญั ชีโดยการลงทุนครังแรก ถา้ กิจการนาํ เงินสดมาลงทุนใหเ้ ขียนชือบญั ชี
แยกประเภทตรงกันขา้ มกัน ถา้ กิจการนาํ สินทรัพยห์ ลายอยา่ งมาลงทุนและรับโอนเจ้าหนีมาลงทุนให้
เขยี นในช่องรายการวา่ "สมดุ รายวนั ทวั ไป"
กรณีที 2 รายการเปิ ดบัญชีโดยเริมรอบระยะเวลาบัญชีใหม่ซึงเป็ นยอดคงเหลือยกมาจาก
ระยะเวลาบญั ชีก่อนการบนั ทึกในช่องรายการใหเ้ ขยี นวา่ "ยอดยกมา"
กรณีที 3 รายการคา้ ทีเกิดขึนในระหว่างเดือน ในช่องรายการให้เขียนชือบญั ชีแยกประเภท
ตรงกนั ขา้ มกนั
การอา้ งอิง (Posting Reference)
การผา่ นรายการไปยงั บญั ชีแยกประเภททีเกียวขอ้ ง ตอ้ งมกี ารอา้ งอิงถึงทีมาของรายการนนั ดงั นี
1. ทีสมดุ รายวนั ทวั ไป เขยี นเลขทีของบญั ชีแยกประเภทลงในช่องเลขทีบญั ชี
2. ทีบญั ชีแยกประเภท เขียนหนา้ ของสมุดรายวนั ทวั ไปลงในช่องหน้าบญั ชี โดยเขียนอกั ษรย่อว่า
"ร.ว." เช่น "ร.ว.1” รายการนีมาจากสมุดรายวนั ทวั ไป หนา้ ที 1
ดงั นัน การอา้ งอิงทีมาของรายการ คือ การอา้ งอิงเลขหนา้ สมุดรายวนั ทวั ไปในบญั ชีแยกประเภท
และเลขทีบญั ชีในสมุดรายวนั ทวั ไปทาํ ให้ทราบถึงแหล่งทีมาของรายการสะดวกในการคน้ หาในภาย
หลงั และเป็นการป้องกนั การหลงลืมการผา่ นรายการ การจดั หมวดหมู่ และการกาํ หนดเลขทีบญั ชี
21
การทีจะทาํ การบนั ทึกรายการคา้ ในบญั ชีแยกประเภทต่างๆ ให้ละเอียดและเป็นระเบียบเรียบ ร้อย
สะดวกแก่การจดั ทาํ รายงานเพือประโยชน์ในการอา้ งอิงและคน้ หาภายหลงั นนั ควรจดั บญั ชีต่างๆ ให้
เป็นหมวดหมูแ่ ละกาํ หนดเลขทีสาํ หรับหมวดหม่บู ญั ชีไวใ้ น “ผงั บญั ชี”(Chart of Account)
การจดั หมวดหมู่ของบญั ชี แบง่ เป็น 5 หมวด ไดแ้ ก่
1. หมวดสินทรัพย์
2. หมวดหนีสิน
3. หมวดส่วนของเจา้ ของ (ทนุ )
4. หมวดรายได้
5. หมวดคา่ ใชจ้ ่าย
ผงั บญั ชี (Chart of Accounts)
ผงั บญั ชี หมายถึง การจดั บญั ชีและกาํ หนดเลขทีบญั ชีให้เป็ นหมวดหมู่ เพือใชใ้ นการอา้ งองิ เมือผา่ น
รายการ จากสมุดรายวนั ทวั ไปไปบญั ชีแยกประเภททวั ไป
เลข 1 สาํ หรบั หมวดสินทรัพย์
เลข 2 สาํ หรับหมวดหนีสิน
เลข 3 สาํ หรบั หมวดส่วนของเจา้ ของ
เลข 4 สาํ หรับหมวดรายได้
เลข 5 สาํ หรบั หมวดค่าใชจ้ ่าย
2.2 ความรู้เกยี วกบั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์ E-Book
หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ หรือทีรู้จกั กนั ในชืออีบุ๊ค (e-book หรือ e-book) เป็ นคํามาจาก
ภาษาต่างประเทศ ย่อมาจากคาํ ว่า (electronic book) หมายถึง หนงั สือทีสร้างขึนดว้ ยโปรแกรม
คอมพิวเตอร์มีลกั ษณะ เป็ นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ โดยปกติมกั จะเป็นแฟ้มขอ้ มูลคอมพิวเตอร์ที
สามารถอ่านเอกสารผา่ นทางหนา้ จอคอมพิวเตอร์ทังในระบบออฟไลน์และออนไลน์ คุณลกั ษณะ
ของหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถเชือมโยงจุดไปยงั ส่วนต่างๆ ของหนังสือ เวบ็ ไซต์ต่างๆ ตลอดจน
มีปฏิสัมพนั ธ์และโตต้ อบกบั ผูเ้ รียนได้ นอกจากนันหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์สามารถแทรกภาพ เสียง
ภาพเคลือนไหว แบบทดสอบ และสามารถสังพิมพเ์ อกสารทีตอ้ งการออกทางเครืองพิมพไ์ ด้ อีก
ประการหนึงทีสาํ คญั ก็คือหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สามารถปรับปรุงขอ้ มูลให้ทนั สมยั ไดต้ ลอดเวลา ซึง
คุณสมบตั ิเหล่านีจะไม่มีในหนงั สือธรรมดาทวั ไป
22
ความคิดเกียวกบั หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์มีมาภายหลงั ปี ค.ศ. 1940 ซึงปรากฏใน นิยายวิทยาศาสตร์
เรืองหนึง เป็ นหลกั การใหม่ของคอมพิวเตอร์ตามแบบแผน IBM มีผลิตภณั ฑ์คือ Book Master เนือหา
หนงั สือ อิเลก็ ทรอนิกส์ในปี 1980 และก่อน 1990 ในช่วงแรกมี 2 ส่วน คือ เรืองเกียวกบั คู่มืออา้ งอิงและ
การศึกษาบนั เทิง งานทีเกียวกบั การอา้ งอิง มกั จะเกียวกบั เรืองการผลิตและการเผยแพร่ เอกสารทาง
วิชาการพร้อมๆ กนั กบั การผลิตที ซบั ซอ้ น เช่น Silicon Graphics ดว้ ยขอ้ จาํ กดั ทางเทคโนโลยี ทีห่างไกล
ความจริง เช่น มีปัญหาของจอภาพซึงมี ขนาดเล็กอ่านยาก แบตเตอรีมีอายุการใช้งานสัน ไม่มีการ
ป้องกนั ขอ้ มูลซึงเป็นปัญหาเกียวกบั เรืองลิขสิทธิ ตอ่ มาเทคโนโลยแี ลบ็ ท็อปคอมพวิ เตอร์ไดเ้ ขา้ มามีส่วน
ช่วยให้ E-Book มีการรุดหนา้ เร็วขึนจนสามารถ บรรลุผลในการเป็นหนงั สือทีสมบูรณ์แบบ เพราะไดน้ าํ
บางส่วนของ แล็บท็อปมาประยุกตใ์ ชจ้ นทาํ ให้ E-Book มีคุณภาพและประสิทธิภาพทีดีได้ นอกจากนี
Internet ก็ ไดร้ ับความนิยมมากขึนสินเปลืองค่าใชจ้ ่ายนอ้ ย ไม่ตอ้ งมีอุปกรณ์ทีจะใชเ้ ก็บขอ้ มูล สามารถ
ส่งขอ้ มูลไดค้ ราว ละมากๆ มีการป้องกนั ขอ้ มลู (Encryption) ในการพฒั นา E-Book จะม่งุ ไปทีความบาง
เบาและสามารถพมิ พท์ ุกอยา่ งไดม้ ากทีสุดเท่าทีจะทาํ ไดใ้ หเ้ หมือนกระดาษจริงมากทีสุด
ประเภทของหนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์
หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ แบง่ ออกเป็น 10 ประเภท ดงั นีคอื
1) หนังสืออิเลก็ ทรอนกิ ส์ หรือแบบตํารา (Textbook) หนงั สือ อิเล็กทรอนิกส์ รูปหนงั สือปกติทีพบเห็น
ทวั ไป หลกั หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ ชนิดนีสามารถกล่าวไดว้ า่ เป็ นการแปลงหนงั สือจากสภาพสิงพิมพ์
ปกติเป็ นสัญญาณดิจิตอล เพิม ศักยภาพเดิมการนําเสนอ การปฏิสัมพันธ์ ระหว่างผูอ้ ่านหนังสือ
อีเล็กทรอนิกส์ ดว้ ยศกั ยภาพของ คอมพิวเตอร์ขนั พืนฐาน เช่น การเปิ ดหน้าหนังสือ การสืบคน้ การ
คดั เลือก เป็นตน้
2) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือเสียงอ่าน มีเสียงคาํ อ่าน เมือเปิ ดหนงั สือจะมีเสียง อ่านหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ประเภทเหมาะสําหรับหนังสือเด็กเริมเรียน หรือหนังสือฝึ กออกเสียง หรึอ ฝึ กพูด
(Talking Book ) เป็นตน้ หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ชนิดนีเป็นการเนน้ คุณลกั ษณะดา้ นการนาํ เสนอ เนือหา
ทีเป็ นตัวอักษรและเสียงเป็ นคุณลักษณะหลัก นิยมใช้กับกลุ่มผู้อ่านทีมีระดับลักษณะทางภาษา
โดยเฉพาะดา้ นการฟังหรือการอ่านค่อนข่างตาํ เหมาะสําหรับการเริมตน้ เรียนภาษาของเด็กๆ หรือผทู้ ี
กาํ ลงั ฝึ กภาษาทีสอง หรือฝึ กภาษาใหมเ่ ป็นตน้
3) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แบบหนังสื อภาพนิงหรืออัลบัมภาพ (static Picture Book) เป็ นหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ ทีมีคุณลกั ษณะหลกั เน้นจัดเก็บข้อมูล และนําเสนอขอ้ มูลในรูปแบบภาพนิง (static
picture) หรืออลั บมั ภาพเป็ นหลกั เสริมดว้ ยการนําศกั ยภาพของคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการนาํ เสนอ เช่น
23
การเลือกภาพทีตอ้ งการ การขยายหรือย่อขนาดของภาพของคอมพิวเตอร์มาใชใ้ นการนาํ เสนอ เช่น การ
เลือกภาพทีตอ้ งการ การขยายหรือย่อขนาดของภาพหรือตวั อกั ษร การสําเนาหรือการถ่ายโอนภาพ การ
แต่งเติมภาพ การเลือกเฉพาะส่วนของภาพ (cropping) หรือเพิมข้อมูล เชือมโยงภายใน (Linking
information) เช่น เชือมขอ้ มูลอธิบายเพิมเติม เชือมขอ้ มูลเสียงประกอบ เป็นตน้
4) หนังสื ออิเล็กทรอนิกส์ แบบหนังสื อภาพเคลือนไหว(Moving Picture Book) เป็ นหนังสื อ
อิเล็กทรอนิกส์ทีเน้น การนาํ เสนอขอ้ มูลในรูปแบบภาพวีดีทศั น์ (Video Clips) หรือภาพยนตร์สัน ๆ
(Films Clips) ผนวกกบั ขอ้ มูลสนเทศทีอยใู่ นรูปตวั หนงั สือ (Text Information) ผอู้ ่านสามารถเลือก ชม
ศึกษาขอ้ มูลได้ ส่วนใหญ่นิยมนาํ เสนอขอ้ มูลเหตุการณ์ประวตั ิศาสตร์ หรือเหตุการณ์ส าคญั เช่น ภาพ
เหตุการณ์สงครามโลก ภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของบุคคลสําคญั ๆ ของโลกในโอกาสต่างๆ ภาพ
เหตกุ ารณ์ ความสาํ เร็จหรือสูญเสียของโลกเป็นตน้
5) หนงั สืออเิ ลก็ ทรอนิกส์แบบหนังสือสือประสม (Multimedia Book) เป็นหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ทีเนน้
เสนอขอ้ มูลเนือหาสาระ ในลกั ษณะแบบสือประสมระหวา่ งสือภาพ (Visual Media) เป็นทงั ภาพนิงและ
ภาพเคลือนไหวกับสือประเภทเสียง (Audio Media)ในลักษณะต่าง ๆ ผนวกกับศักยภาพของ
คอมพวิ เตอร์อืนเช่นเดียวกบั หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์อืน ๆ ทีกล่าวมาแลว้
6) หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์แบบหนังสือสือหลากหลาย (Polymedia book) เป็นหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ที มี
ลกั ษณะเช่นเดียวกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบสือประสม แต่มีความหลากหลายในคุณลกั ษณะดา้ น
ความเชือมโยงระหว่างข้อมูลภายในเล่มทีบันทึกในลักษณะต่าง ๆ เช่น ตัวหนังสื อภาพนิง
ภาพเคลือนไหว เสียงดนตรี และอืนๆ เป็นตน้
7) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ แบบหนังสือเชือมโยง ( Hypermedia Book) เป็ นหนังสือทีมีคุณลักษณะ
สามารถเชือมโยงเนือหาสาระภายในเล่ม (Internal Information Linking) ซึงผูอ้ ่านสามารถคลิก เพือ
เชือมไปสู่เนือหาสาระทีออกแบบเชือมโยงกันภายใน การเชือมโยงเช่นนีมีคุณลักษณะเช่นเดียวกับ
บทเรียนโปรแกรมแบบแตกกิง ( Branching Programmed Instruction) นอกจากนียงั สามารถเชือมโยง
กบั แหล่งเอกสารภายนอก (External or Information Sources) เมือเชือมตอ่ ระบบ อินเตอร์เน็ต
8) หนังสืออเิ ล็กทรอนิกส์แบบหนังสืออจั ฉริยะ (Intelligent Electronic Book) เป็นหนงั สือ ประสม แต่
มีการใชโ้ ปรแกรมชนั สูงทีสามารถมีปฏิกิริยา หรือ ปฏิสัมพนั ธ์ กบั ผูอ้ ่านเสมือนหนังสือมี สติปัญญา
(อจั ฉริยะ) ในการไตร่ตรอง หรือคาดคะเนในการโตต้ อบ หรือปฏิกริ ิยากบั ผอู้ ่าน
9) หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์แบบสือหนงั สือทางไกล (Telemedia Electronic Book) หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์
ประเภทนีมีคุณลักษณะหลกั ต่างๆ คลา้ ยกับ Hypermedia Electronic Books แต่เน้นการเชือมโยงกับ
24
แหล่งข้อมูลภายนอกผ่านระบบเครือข่าย (Online Information Sourcess) ทงั ทีเป็ นเครือข่ายเปิ ด และ
เครือข่ายเฉพาะสมาชิกของเครือขา่ ย
10) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์แบบหนังสือไซเบอร์ สเปซ (Cyberspace book) หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
ประเภทนีมีลกั ษณะเหมือนกับหนังสืออิเล็กทรอนิกส์หลายๆ แบบทีกล่าวมาแลว้ ผสมกัน สามารถ
เชือมโยงแหล่งขอ้ มลู ทงั จากแหลง่ ภายในและภายนอกสามารถน าเสนอขอ้ มลู ในระบบสือทีหลากหลาย
สามารถปฏิสมั พนั ธ์กบั ผอู้ ่านไดห้ ลากหลาย
ลกั ษณะของไฟล์หนังสืออเิ ลก็ ทรอนกิ ส์
ผผู้ ลิตสามารถเลือกสร้าง E-Books ได้ 4 รูปแบบ คือ
Hyper Text Markup Language (HTML)
Portable Document Format (PDF)
Peanut Markup Language (PML)
Extensive Markup Language (XML)
ซึงรายละเอยี ดของไฟลแ์ ตล่ ะประเภทจะมีดงั นี
1. HTML : เป็นรูปแบบทีไดร้ ับความนิยมสูงสุด HTML เป็น ภาษามาร์กอปั ออกแบบมา เพือใชใ้ น
การสร้างเวบ็ เพจ หรือขอ้ มลู อืนทีเรียกดูผา่ นทางเวบ็ Browser เริมพฒั นาโดย ทิม เบอร์เนอรส์ ลี
(Tim Berners Lee) สําหรับภาษา SGML ในปัจจุบนั HTML เป็ น มาตรฐานหนึงของ ISO ซึง
จดั การโดย World Wide Web Consortium (W3C) ใน ปัจจุบนั ทาง W3C ผลกั ดนั รูปแบบของ
HTML แบบใหม่ ทีเรียกว่า XHTML ซึงเป็ นลักษณะ ของโครงสร้าง XML แบบหนึงทีมี
หลกั เกณฑ์ในการกาํ หนดโครงสร้างของโปรแกรมทีมีรูปแบบ ทีมาตรฐานกว่ามาทดแทนใช้
HTML รุ่น 4.01 ทีใชก้ นั อยใู่ นปัจจุบนั
HTMLยังคงเป็ นรู ปแบบไฟล์อย่างหนึ ง สําหรับ .html และ สําหรับ .htm ทีใช้ใน
ระบบปฏิบตั ิการทีรองรับ รูปแบบนามสกลุ 3 ตวั อกั ษร
2. PDF : ไฟลป์ ระเภท PDF หรือ Portable Document Format ถูกพฒั นาโดย Adobe System Inc เพือ
จดั เอกสารให้อยูใ่ นรูปแบบทีเหมือนเอกสารพร้อมพิมพ์ ไฟล์ ประเภทนีสามารถใชง้ านได้ใน
ระบบปฏิบตั ิการจาํ นวนมากและรวมถึงอุปกรณ์ E-Book Reader ของ Adobe ดว้ ยเช่นกนั และ
ยงั คงลักษณะเอกสารเหมือนต้นฉบบั เอกสารใน รูปแบบ PDF สามารถจัดเก็บ ตัวอักษร
รูปภาพ รูปลายเส้น ในลกั ษณะเป็นหนา้ หนงั สือ ตงั แต่ หนึงหนา้ หรือหลายพนั หนา้ ไดใ้ นแฟ้ม
เดียวกนั PDF เป็นมาตรฐานทีเปิ ดใหค้ นอืนสามารถ เขียนโปรแกรมมาทาํ งานร่วมกบั PDF ได้
25
การใช้งานแฟ้มแบบ PDF เหมาะสมสําหรับงานทีการแสดงผลให้มีลักษณะเดียวกันกับ
ตน้ ฉบบั ซึงแตกตา่ งกบั การใชง้ านรูป Browser แบบอืน เช่น HTML การแสดงผลของ HTML
จะแตกต่างกันออกไป ขึนอยู่กบั โปรแกรมทีใช้ และจะแสดงผลต่างกัน ถา้ ใช้ คอมพิวเตอร์
ตา่ งกนั
3. PML : พฒั นาโดย Peanut Press เพือใชส้ ําหรับสร้าง E-Books โดยเฉพาะ อปุ กรณ์พกพาต่างๆ ที
สนบั สนุนไฟลป์ ระเภท PML นีจะสนบั สนุนไฟลน์ ามสกลุ .pdb ดว้ ย
4. XML : ส าหรับการใชง้ านทวั ไป พฒั นาโดย W3C โดยมีจุดประสงคเ์ พือเป็นสิงทีเอาไวต้ ิดต่อกนั
ในระบบทีมีความแตกต่างกนั (เช่น ใชค้ อมพิวเตอร์มีมีระบบปฏิบตั ิการคนละตวั หรืออาจจะ
เป็นคนละโปรแกรมประยกุ ตท์ ีมีความตอ้ งการสือสารขอ้ มูลถึงกนั )และเพือเป็น พนื ฐานในการ
สร้างภาษามาร์กอปั เฉพาะทางอีกขนั หนึง XML พฒั นามาจาก SGML โดย ดดั แปลงใหม้ ีความ
ซบั ซอ้ นลดนอ้ ยลง XML ใชใ้ นแลกเปลียนขอ้ มูลระหวา่ งเครืองคอมพิวเตอร์ ทีแตกตา่ งกนั และ
เนน้ การแลกเปลียนขอ้ มูลผา่ นอินเทอร์เน็ต XMLยงั เป็นภาษาพืนฐานใหก้ บั ภาษาอืนๆ อีกดว้ ย
(ยกตัวอย่างเช่น Geography Markup Language (GML), RDF/XML, RSS, MathML, Physical
Markup Language (PML), XHTML, SVG, MusicXML และ cXML) ซึงอนุญาตให้โปรแกรม
แกไ้ ขและท างานกบั เอกสารโดยไม่ จาํ เป็นตอ้ งมีความรูใ้ นภาษานนั มาก่อน
2.3 แนวคิดและทฤษฎที ีเกยี วข้อง
สือนบั เป็ นสิงทีมีบทบาทสําคญั อย่างมากในการสอนตงั แต่ในอดีตจนถึงปัจจุบนั เนืองจากเป็น
ตวั กลางทีช่วยให้การสือสารระหว่างผูส้ อนและผเู้ รียนดาํ เนินไปอยา่ งมี ประสิทธิภาพ ช่วยใหผ้ ูเ้ รียน
เขา้ ใจความหมายของเนือหาบทเรียนให้ตรงกบั ผูส้ อนตอ้ งการ ไม่ว่าสือนันจะอยู่ในรูปแบบใดก็ตาม
ลว้ นแต่เป็ นทรัพยากรทีสามารถอาํ นวยความสะดวกในการเรียนรู้ได้ทงั สิน และคาํ ว่า สือ (medium,
pl.media) เป็นคาํ มาจากภาษาลาตินวา่ “ระหว่าง”สิงใดก็ตามทีบรรจุขอ้ มูลสารสนเทศหรือเป็ นตวั กลาง
ข้อมูลส่งผ่านจากผูส้ ่งหรือ แหล่งส่งไปยงั ผูร้ ับเพือให้ผูส้ ่งและผูร้ ับสามารถสือสารกันได้ตรงตาม
วตั ถุประสงคใ์ นการเล่าเรียน เมือผูส้ อนนาํ สือมาใช้ประกอบการสอนเรียกว่า “สือการสอน” และเมือ
นาํ มาให้ผูเ้ รียนใชเ้ รียกว่า “สือการเรียน”โดยเรียกรวมกนั ว่า “สือการเรียนการสอน” หรืออาจจะเรียก
สันๆ ว่า “สือการสอน” หมายถึงสิงใดก็ตามไม่ว่าจะเป็ นเทปบนั ทึกเสียง สไลด์ วทิ ยุ โทรทศั น์ วดี ีทศั น์
แผนภูมิ แผน่ ซีดีสําเร็จรูป รูปภาพ ฯลฯ ซึงเป็ นวสั ดุบรรจุเนือหาเกียวกบั การเรียนการสอน หรือเป็ น
อุปกรณ์เพือถ่ายทอดเนือหาสิงเหล่านีเป็ นวสั ดุอุปกรณ์ทางกายภาพทีนาํ มาใชเ้ ทคโนโลยีการศึกษาเป็ น
26
สิงทีใชเ้ ป็นเครืองมือหรือช่องทางทาํ ใหก้ ารสอนส่งไปถึงผเู้ รียน สือการสอนถือวา่ มบี ทบาทมากในการ
เรียนการสอนตงั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั เนืองจากเป็นตวั กลางทีช่วยใหก้ ารสือระหวา่ งผูส้ อนและผเู้ รียน
ดาํ เนินการไป ไดอ้ ยา่ งมีประสิทธิภาพ ทาํ ใหผ้ เู้ รียนมีความหมายของเนือหาบทเรียนไดต้ รงกบั ทีผูส้ อน
ตอ้ งการเรียนรู้ไดท้ งั สิน ในการใชส้ ือการสอนนนั ผสู้ อนจาํ เป็นตอ้ งศึกษาถึงลกั ษณะคุณสมบตั ิ ของสือ
แตล่ ะชนิดเพือเลือกสือให้ตรงกบั วตั ถุประสงคก์ ารสอนและสามารถจดั ประสบการณ์ การเรียนรู้ใหแ้ ก่
ผูเ้ รียน โดยตอ้ งการวางแผนอย่างเป็นระบบในการใช้สือดว้ ย ทงั นีเพือให้ กระบวนการเรียน การสอน
ดาํ เนินไปอยา่ งมีประสิทธิภาพประเภทของสือการเรียนการสอน สือต่างๆ ทีเป็นตวั กลางในการส่งผา่ น
ขอ้ มูลสารสนเทศจากผสู้ อนไปยงั ผเู้ รียน หรือเป็นสิงทีผูเ้ รียนใชศ้ ึกษาความรู้ดว้ ยตนเอง นกั วิชาการได้
จาํ แนกสือการสอนตามประเภท ลกั ษณะและวธิ ีการใชด้ งั นี
สือโสตทศั น์ เป็ นสือทีนับไดว้ ่าเป็ นจุดเริมของสือการเรียนการสอน โดยเป็ นสือทีบรรจุหรือ
ถ่ายทอดข้อมูลเพือให้เกิดการเรียนรู้ด้วยการได้ยินเสียงและเห็นภาพ สือทีใช้กันมาแต่ดังเดิม เช่น
หนงั สือตาํ ราเรียน ภาพ ของจริง ของจาํ ลอง จะเป็นสือทีบรรจุเนือหาในตวั เอง ตอ่ มามี การใชเ้ ทคโนโลยี
ในการประดิษฐ์อปุ กรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพือการถ่ายทอดเนือหาและวสั ดุทีใช้ กบั อปุ กรณเ์ หล่านี โรเบิร์ต
อี. เดอ คีฟเฟอร์ (Robert E. de Kieffer) ได้แบ่งสือการสอน ออกเป็ น ประเภทตามลักษณะทีใช้สือ
ความหมายทางเสียงและภาพรวมเรียกว่า “สือโสต ทศั น”์ (audiovisual materials) ในปัจจุบนั มีสือโสต
เพิมขึนมากจากทีเดอ คีฟเฟอร์ ได้กล่าว ไวท้ ัง ประเภท ในทีนีจึงขอยกตัวอย่างสือใหม่ในแต่ละ
ประเภทดงั นี . สือไมใ่ ชเ้ ครืองฉาย (no projected materials) เป็นสือทีใชก้ ารทางทศั นะ โดยไม่ตอ้ งใช้
เครืองฉายร่วมด้วย แบ่งออกเป็ น ประเภท ไดแ้ ก่ สือภาพ (illustrative materials) เป็ นสือทีสามารถ
ถ่ายทอดเนือหา เช่น ภาพกราฟิ ก กราฟ แผนที ของจริงของ จาํ ลอง กระดานสาธิต (demonstration
boards) ใชใ้ นการนาํ เสนอเนือหา เช่น กระดานชอล์ก กระดานนิเทศ กระดานแม่เหล็ก กระดานผา้ สําลี
ฯลฯ และกิจกรรม (activates) . สือเครื องฉาย (projected and equipment) เป็ นวัสดุและอุปกรณ์
อิเลก็ ทรอนิกส์เพือการสือสารดว้ ยภาพหรือทงั ภาพทงั เสียง อุปกรณ์มีทงั แบบฉายตรงและฉาย ออ้ มเพือ
ถา่ ยทอดเนือหาจากวสั ดุแต่ละประเภททีใชเ้ ฉพาะอปุ กรณ์นันเพือให้เป็นภาพปรากฏขึนบนจอเช่นเครือง
ฉายขา้ มศีรษะใชก้ บั แผน่ โปร่งใส เครืองฉายสไลด์ใชก้ บั แผ่นฟิ ลม์ สไลด์ หรือใหท้ งั ภาพและเสียง เช่น
เครืองฉายภาพยนตร์ฟิ ลม์ เครืองเลน่ ดีวดี ีใชก้ บั วซี ีดีและดวี ีดี เหล่านี เป็นตน้ นอกจากนียงั อาจรวมเครือง
ถา่ ยทอดสัญญาณ คอื เครืองแอลซีดีทีใชถ้ ่ายทอด สญั ญาณจากคอมพวิ เตอร์หรือเครืองเล่นวซี ีดีเขา้ ไวใ้ น
เครืองด้วย เพือนําสัญญาณภาพจาก อุปกรณ์เหล่านันขึนจอภาพ . สือเสียง (audiomaterials and
equipment) เป็ นวสั ดุและอุปกรณ์ อิเล็กทรอนิกส์ เพือการสือสารด้วยเสียง อุปกรณ์เครืองเสียงจะใช้
27
ถ่ายทอดเนือหาจากวสั ดุแต่ ละประเภททีใชเ้ ฉพาะกบั อุปกรณ์นนั เพือเป็นเสียงให้ไดย้ นิ เช่น เครืองเล่น
ซีดีใช้กับแผ่นซีดี เครื องเล่น บันทึกเทปใช้กับเทปเสียง หรื ออาจเป็ นอุปกรณ์ในการถ่ายทอด
สัญญาณเสียง ดงั เช่นวทิ ยุทีรับสญั ญาณเสียงจากแหล่งส่งโดยไมต่ อ้ งใชว้ สั ดุใดๆในการนาํ เสนอเสียง
สือแบ่งตามประสบการณ์การเรียนรู้ การแบ่งประเภทของสือการสอนตามระดับ ประสบการณ์ของ
ผูเ้ รียน ซึง (Edgar Dale : ) ได้อธิบายถึงความสัมพนั ธ์ระหว่างสือโสตทศั นูปกรณ์ต่างๆ ใน
ขณะเดียวกัน ก็เป็ นการแสดงขนั ตอนของประสบการณ์ การเรียนรู้และการใช้สือแต่ละประเภทใน
กระบวนการเรียนรู้ดว้ ย โดยพฒั นาแนวความคดิ ของBruner ซึงเป็ นนกั จิตวทิ ยาจนได้ แบ่งสือการสอน
ออกเป็ น ประเภท ซึงพิจารณาจากลกั ษณะ ของประสบการณ์ทีได้รับจากสือ การสอนประเภทนนั
และยึดเอาความเป็ นรูปธรรมและนามธรรมเป็ นหลักในการแบ่งประเภท และได้เรียงลําดับจาก
ประสบการณ์ทีเป็ นรูปธรรมทีสุด จนถึงประสบการณ์ทีเป็ นนามธรรมทีสุด (Abstract Concrete
Continuum) เรียกว่า “กรวย ประสบการณ์”(Cone of Experience) ดังรูปที รูปที แสดงกรวย
ประสบการณ์ของ เอ็ดการ์ เดล ขันที ประสบการณ์ตรงและมีความมุ่งหมาย(Direct Purposeful
Experience) เป็ นประสบการณ์ทีเป็ นรากฐานของประสบการณ์ทังปวง เพราะได้เรี ยนรู้จาก
ประสบการณ์จริง ไดเ้ ห็น ไดย้ นิ เสียง ไดส้ ัมผสั ดว้ ยตนเอง เช่น การเรียนจากของจริง (Real object) ได้
ร่วมกิจกรรม การเรียนดว้ ยการลงมือกระทาํ เป็นตน้ ขนั ที ประสบการณ์จาํ ลอง (Contrived Simulation
Experience) จากขอ้ จาํ กดั ทีไมส่ ามารถจดั การเรียนการสอนจากประสบการณ์จริงให้แก่ผูเ้ รียนได้ เช่น
ของจริงมีขนาดใหญ่ หรือเล็กเกินไป มีความซับซ้อน มีอนั ตราย จึงใชป้ ระสบการณ์จาํ ลองแทน เช่น
การใช้หุ่นจําลอง(Model) ของตัวอย่าง (Specimen) เป็ นต้น ขันที ประสบการณ์นาฏการ
(Dramatized Experience) เป็นประสบการณ์ที จดั ขึนแทนประสบการณ์จริงทีเป็นอดีตไปแลว้ หรือเป็น
นามธรรมทียากเกินกว่าจะเขา้ ใจและ ไม่สามารถใชป้ ระสบการณ์จาํ ลองได้ เช่น การละเล่นพืนเมือง
ประเพณีต่างๆ เป็ นตน้ ขนั ที การสาธิต (Demonstration)คือการอธิบายข้อเท็จจริง ความจริงและ
กระบวนการทีสําคญั ด้วยการแสดงให้เห็นเป็ นลําดับขัน การสาธิตอาจทาํ ได้โดยครูเป็ นผูส้ าธิต
นอกจากนีอาจใชภ้ าพยนตร์ สไลดแ์ ละฟิ ลม์ สตริป แสดงการสาธิตในเนือหาทีตอ้ งการสาธิตได้ ขนั ที
การศึกษานอกสถานที (Field Trip) การพานกั เรียนไปศึกษายงั แหล่ง ความรู้นอกห้องเรียน เพือเปิ ด
โอกาสใหน้ กั เรียนรู้หลายๆ ดา้ น ไดแ้ ก่ การศึกษาความรู้จาก สถานทีสําคญั เช่น โบราณสถาน โรงงาน
อุตสาหกรรม เป็นตน้ ขนั ที นิทรรศการ (Exhibition) คอื การจดั แสดงสิงตา่ งๆ รวมทงั มีการสาธิต และ
การฉายภาพยนตร์ประกอบเพือให้ประสบการณ์ในการเรียนรู้แก่ผูเ้ รียนหลายด้าน ไดแ้ ก่ การจดั ป้าย
นิทรรศการ การจัดแสดงผลงานนักเรียน ขันที ภาพยนตร์ และโทรทัศน์(Motion Picture and
28
Television)ผูเ้ รียนได้ เรียนดว้ ยการเห็นและไดย้ นิ เสียงเหตกุ ารณ์และเรืองราวต่างๆ ไดม้ องเห็นภาพใน
ลกั ษณะการ เคลือนไหวเหมือนจริงไปพร้อมๆกนั ขนั ที การบนั ทกึ เสียง วทิ ยุ และภาพนิง(Recording,
Radio and Picture) ไดแ้ ก่ เทปบนั ทึกเสียง แผ่นเสียง วิทยุ ซึงตอ้ งอาศยั เรืองการขยายเสียง ส่วนภาพนิง
ได้แก่ รูปภาพทงั ชนิดโปร่งแสงทีใช้กบั เครืองฉายภาพขา้ มศีรษะ(Overhead projector) สไลด์ (Slide)
ภาพนิงจากคอมพิวเตอร์และภาพบนั ทึกเสียงทีใชก้ บั เครืองฉายภาพทึบแสง (Overhead projector) ขนั ที
ทศั นส์ ญั ลกั ษณ์ (Visual Symbol) มีความเป็นนามธรรมสูง จาํ เป็น ทีจะตอ้ งคาํ นึงถึงประสบการณ์ของ
ผูเ้ รียนเป็ นพืนฐานในการเลือกนาํ ไปใช้ สือเหล่านีคือ แผนภูมิ แผนสถิติ ภาพโฆษณา การ์ตูน แผนที
และสัญลกั ษณ์ตา่ งๆ เป็นตน้ ขนั ที วจนสญั ลกั ษณ์ (Verbal Symbol) เป็นประสบการณ์ขนั สุดทา้ ย ซึง
เป็นนามธรรมทีสุด ไม่มคี วามคลา้ ยคลึงกนั ระหวา่ ง วจนสัญลกั ษณก์ บั ของจริง ไดแ้ ก่ การใชต้ วั หนังสือ
แทนคาํ พูด การใชก้ รวยประสบการณ์ของเดลจะเริมตน้ ดว้ ยการให้ผูเ้ รียนมีส่วนร่วมอยู่ใน เหตุการณ์
หรือการกระทาํ จริงเพือให้ผูเ้ รียนมีประสบการณ์ตรงเกิดขึนก่อนแลว้ จึงเรียนรู้โดย การเฝ้าสังเกตใน
เหตุการณ์ทีเกิดขนึ ซึงเป็ นขนั ตอ่ ไปของการไดร้ บั ประสบการณ์รอง ตอ่ จากนนั จงึ เป็นการเรียนรู้ดว้ ยการ
รับประสบการณ์โดยผ่านสือต่างๆ และทา้ ยทีสุดเป็ นการ ให้ผูเ้ รียนเรียนจากสัญลกั ษณ์ซึงเป็ นเสมือน
ตวั แทนของเหตุการณ์ทีเกิดขึน นอกจากนี เจโรม บรูเนอร์ (Jerome Bruner : - ) ไดอ้ อกแบบ
โครงสร้างของกิจกรรมการสอนไว้ รูปแบบหนึงโดยประกอบด้วยมโนทศั น์ดา้ นการกระทาํ โดยตรง
(Enactive) การเรียนรู้ดว้ ยภาพ (Iconic) และการเรียนรู้ด้วย นามธรรม (Abstract) เมือเปรียบเทียบกบั
กรวยประสบการณ์ ของเดลกบั ลกั ษณะสาํ คญั ประการของการเรียนรู้ของ บรูนเนอร์ แลว้ จะเห็นว่า มี
ลกั ษณะใกลเ้ คียงและเป็ นคู่ขนาน กนั ดงั แสดงให้เห็น การเปรียบเทียบ ในรูปที โครงสร้างของ
กิจกรรมการสอนตามแนวคิดของบรูนเนอร์ สือแบ่งตามทรัพยากรการเรียนรู้ ทรัพยากร หมายถึง สิงทงั
ปวงทีมีค่า ทรัพยากรการเรียนรู้ (learning resources) จึงหมายถึงทุกสิงทีมีอยู่ในโลกไม่วา่ จะเป็ นสิงที
เกิดขึนเองโดยธรรมชาติหรือสิงทีคนประดิษฐ์ ขึนมาเพือใชใ้ นการเรียนรู้ โดนลั ด์ พี. อีลี (Donald P.
Ely, : : ) ไดจ้ าํ แนกสือการ เรียนการสอนตามทรัพยากรการเรียนรู้ รูปแบบ โดยแบ่งไดเ้ ป็ น
สือทีออกแบบขึนเพือ จุดมุ่งหมายทางการศึกษา (by design) และสือทีมีอยู่ทวั ไปแลว้ นาํ มาประยุกตใ์ ช้
ในการเรียน การสอน ไดแ้ ก่ . คน (People) “คน”ในทางการศึกษาโดยตรงนนั หมายถึง บุคคลทีอยู่
ใน ระบบของโรงเรียน ไดแ้ ก่ ครู ผูบ้ ริหาร ผแู้ นะนาํ การศึกษา ผชู้ ่วยสอนหรือผทู้ ีอาํ นวยความ สะดวก
ดา้ นตา่ งๆเพือใหผ้ เู้ รียนเกิดการเรียนรู้ ส่วน “คน”ตามความหมายของการประยกุ ตใ์ ช้ ไดแ้ ก่ คนทีทาํ งาน
หรือมีความชาํ นาญงานในแต่ละสาขาซึงมีอยู่ในวงสังคมทวั ไป คนเหล่านีเป็ น “ผูเ้ ชียวชาญ”ซึงถึงแม้
มิใช่นกั ศึกษาแต่สามารถจะช่วยความสะดวกหรือเชิญมาเป็นวิทยาการ เพือเสริมการเรียนรู้ไดใ้ นการให้
29
ความรู้แต่ละดา้ น อาทิเช่น ศิลปิ น นกั การเมือง นกั ธุรกิจ ช่าง ซ่อมเครือง . วสั ดุ(Materials)ในการศึกษา
โดยตรงเป็ นประเภททีบรรจุเนือหาบทเรียน โดยรูปแบบของวสั ดุมิใช่สิงสําคัญทีตอ้ งคาํ นึงถึง เช่น
หนังสือ สไลด์ แผนที แผ่นซีดี หรือสือ ต่างๆ ทีเป็ นทรัพยากรในการเรียนการสอนนันจะมีลกั ษณะ
เชน่ เดียวกบั วสั ดุทีใชใ้ นการศึกษา ดงั กล่าวเพยี งแตว่ า่ เนือหาทีบรรจุในวสั ดุส่วนมากจะอยใู่ นรูปของการ
ให้ความบนั เทิง เช่น คอมพิวเตอร์ หรือภาพยนตร์สารคดีชีวิตสัตวส์ ิงเหล่านีถูกมองไปในรูปแบบของ
ความบนั เทิง แต่สามารถให้ความรู้ในเวลาเดียวกนั . อาคารสถานที (Settings) หมายถึง ตวั ตึก ทีว่าง
สิงแวดลอ้ ม ซึงมีผลเกียวกับ ทรัพยากรรูปแบบอืนๆ ทีกล่าวมาแลว้ และมีผลกับผูเ้ รียนด้วย สถานที
สําคัญในการศึกษา ได้แก่ ตึกเรียนและสถานทีทีออกแบบมาเพือการเรียนการสอนโดยรวม เช่น
ห้องสมดุ หอประชุม ส่วนสถานทีต่างๆ ในชุมชนก็สามารถประยกุ ตใ์ หเ้ ป็นทรัพยากรสือสารเรียน การ
สอน ไดเ้ ช่น โรงงาน ตลาด สถานทีทางประวตั ิศาสตร์เช่น พพิ ิธภณั ฑ์ เป็นตน้ . เครืองมือและอปุ กรณ์
(Tools and Equipment) เป็นทรัพยากรทางการ เรียนรู้เพือช่วยในการผลิตหรือใชร้ ่วมกบั ทรัพยากรอืนๆ
ส่วนมากมกั เป็ น โสตทศั นูปกรณ์หรือ เครืองมือต่างๆ ทีนาํ มาใชป้ ระกอบหรืออาํ นวยความสะอาดใน
การเรียนการสอน เช่น เครือง ฉายขา้ มศีรษะ คอมพิวเตอร์ เครืองถ่ายเอกสาร หรือแมแ้ ต่ตะปู ไขควง
เหล่านีเป็นตน้ . กิจกรรม (Activities) โดยทวั ไปแลว้ กิจกรรมทีใชใ้ นการเรียนการสอนมกั จดั ขึน เพือ
ร่วมกระทาํ ทรัพยากรอืนๆ หรือเป็นเทคนิควธิ ีการพิเศษเพือการเรียนการสอน เช่น เกม การสัมมนา การ
จดั ทศั น์ศึกษา กิจกรรมเหล่านีมกั มีวตั ถุประสงคเ์ ฉพาะทีตงั ขึน โดยมีการใช้ วสั ดุการเรียนเฉพาะแต่ละ
วชิ าหรือวธิ ีการพเิ ศษในการเรียนการสอน
2.4 งานวิจยั ทีเกยี วข้อง
ภัทราดา เอียมบุญญฤทธิ (บทคัดย่อ : 2561) การวิจัยนีมีความมุ่งหมายของการวิจัยดังนี 1) เพือ
ศึกษาทักษะชีวิตในการใช้สือออนไลน์ของวยั รุ่นและ 2) เพือเปรียบเทียบทกั ษะชีวิตในการใช้สือ
ออนไลน์ของวยั รุ่นก่อนและหลงั เขา้ รับการฝึ กอบรมเชิงจิตวทิ ยา กล่มุ ตวั อย่างทีใชใ้ นการวิจยั แบ่งเป็น
2 กลุ่ม คือ กลุม่ ตวั อยา่ งทีใชใ้ นการศึกษาทกั ษะชีวติ ในการใชส้ ือออนไลน์ ไดแ้ ก่ นิสิตชนั ปี ที 1 ปี การ
ศึกษา 2559 คณะศึกษาศาสตร์มหาวทิ ยาลยั บูรพา จาํ นวน 134 คน ทีไดม้ าจากการสุ่มตวั อยา่ งแบบกลุ่ม
(Cluster Sampling) และกลุ่มตัวอย่างทีใช้สําหรับฝึ กอบรมเพือเสริมสร้างทักษะชีวิตในการใช้สือ
ออนไลนไ์ ดแ้ ก่ นิสิตชนั ปี ที 1 ปี การศึกษา 2559 คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลยั บูรพาจาํ นวน 35 คน ที
ไดจ้ ากมาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) จากกลมุ่ ตวั อยา่ งทีใชใ้ นการศึกษาทกั ษะชีวิต
ในการใชส้ ือออนไลน์โดยมีคะแนนทกั ษะชีวิตในการใช้สือออนไลน์ตาํ กว่าเปอร์เซนต์ไทลท์ ี 25 และ
สมคั รใจเขา้ รับการฝึ กอบรมเชิงจิตวิทยา เครืองมือทีใชใ้ นการวิจยั เป็ นแบบสอบถามทกั ษะชีวิตในการ
30
ใช้สือออนไลน์และโปรแกรมการเสริมสร้างทกั ษะชีวิตในการใชส้ ือออนไลน์สถิติทีใชใ้ นการในการ
วิจยั ไดแ้ ก่ ค่าเฉลีย ค่าส่วนเบียงเบนมาตรฐานและการวเิ คราะห์เปรียบเทียบความแตกต่างของคะแนน
แบบทดสอบทกั ษะชีวิตในการใช้สือออนไลน์ของวยั รุ่นก่อนและหลงั การฝึ กอบรมเชิงจิตวิทยาโดยใช้
T-test for dependent samples ผลการวจิ ยั พบวา่ ทกั ษะชีวติ ในการใชส้ ือออนไลนโ์ ดยรวมของวยั รุ่นก่อน
และหลงั เขา้ รับการฝึ กอบรมเชิงจิตวทิ ยาแตกต่างกนั อยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิติทีระดบั 0.05 โดยมีคา่ เฉลีย
เพิมขึนกว่าก่อนเขา้ รับการฝึกอบรมแสดงวา่ การฝึกอบรมเชิงจิตวิทยาทาํ ใหว้ ยั รุ่นมีทกั ษะชีวิตในการใช้
สือออนไลนเ์ พิมขึน
พจนา ศรีกระจ่าง และ ลดั ดา ศุขปรีดี (บทคัดย่อ : 9) การวิจยั เรือง การพฒั นาหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรืองระบบสุริยะ ชนั ประถมศึกษาปี ที มีวตั ถุประสงค์ )
เพือพฒั นาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ เรืองระบบสุริยะสําหรับนักเรียนชันประถมศึกษาปี ที ให้มี
ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ / ) เพือเปรียบเทียบผลสัมฤทธิทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์เรืองระบบสุริยะของนกั เรียนก่อนและหลงั ไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใชห้ นงั สืออิเล็ก-
ทรอนิกส์ ) เพือศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ทีมีต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์สาระการเรียนรู้
วิทยาศาสตร์เรืองระบบสุริยะชนั ประถมศึกษาปี ที กลุ่มตวั อย่างทีใช้ในการวิจยั ไดแ้ ก่ นักเรียนชนั
ประถมศึกษาปี ที ปี การศกึ ษา 8 โรงเรียนวดั แสลง (เขมราษฎร์วทิ ยาคาร) จงั หวดั จนั ทบรุ ีจาํ นวน
คน โดยการสุ่มตวั อย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) สถิติทีใช้วิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ
ค่าเฉลีย ค่าส่วนเบียงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test) ผลการวิจยั พบวา่ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์
สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรือง ระบบสุริยะ ชันประถามศึกษาปี ที ทีพฒั นาขึนมีประสิทธิภาพ
. / . ซึงเป็นไปตามเกณฑท์ ีกาํ หนดไว้ ผลสัมฤทธิทางการเรียนกลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์
เรืองระบบสุริยะชนั ประถมศึกษาปี ที ทีไดร้ ับการจดั การเรียนรู้โดยใชห้ นงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์คะแนน
หลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียน อยา่ งมีนยั สาํ คญั ทางสถิติทีระดบั . และผเู้ รียนมีความพึงพอใจต่อหนงั สือ
อิเล็กทรอนิกส์สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์เรืองระบบสุริยะ ชนั ประถมศึกษาปี ที ทีระดบั ความพึง
พอใจมาก โดยมคี ่าเฉลียรวม . และมีค่าความเบียงเบนมาตรฐานที .
สิริภัทร เมืองแก้ว และกุลสิรินทร์ อภิรัตน์วรเดช (บทคัดย่อ : 2561) การพัฒนาหนังสือ
อิเลก็ ทรอนิกส์ E-book รายวชิ าภาษาและวฒั นธรรมเพือนบา้ น (ภาษาจีน) เพือ ใชเ้ ป็นสือเสริมการเรียนรู้
และใชพ้ ฒั นาผลสัมฤทธิ ทางการเรียนของนิสิตชนั ปี ที 1 มหาวิทยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเดจ็ เจา้ พระยา ผล
การวิเคราะห์ขอ้ มลู สามารถ อธิปรายไดด้ งั นี ผลการพฒั นาหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ E-book รายวชิ าภาษา
และวฒั นธรรมเพือนบา้ น (ภาษาจีน) สําหรับนิสิตชนั ปี ที 1 มหาวิทยาลยั ราชภฏั บา้ นสมเด็จเจา้ พระยา
31
เพือใช้เป็ นสือเสริมการเรียนรู้ในรหัสวิชา 2001103 วิชาภาษาและวฒั นธรรมเพือนบา้ น (ภาษาจีน) มี
เนือหาเกียวกับความรู้ทัวไปเกียวกับประเทศจีน สัทอักษรพินอินและบทสนทนาภาษาจีนใน
ชีวิตประจําวัน จํานวน 7 บทเรียน พบว่าหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ E-book ทีผูว้ ิจัยสร้างขึนมามี
ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E/E; เท่ากับ 81.38/82.50 เป็ นไปตามสมมุติฐานที ผูว้ ิจยั ตงั ไวค้ ือ 80/80 การ
ออกแบบ และพฒั นาอย่างเป็ นระบบเริมจากผูว้ ิจัยได้วิเคราะห์ปัญหาทีพบ คือ รายวิชาภาษาและ
วฒั นธรรมเพือนบา้ น (ภาษาจีน) ทีเปิ ดสอนให้แก่นิสิตชันปี ที 1 และนักศึกษาภาค การศึกษาพิเศษมี
จาํ นวนผูล้ งทะเบียนเรียนเป็ นจาํ นวนมาก เป็ นห้องเรียนขนาดใหญ่ทีมีจาํ นวนผูเ้ รียนตงั แต่ 50-250 คน
จากการสังเกตแุ ละการสัมภาษณ์พบวา่ จาํ นวนนิสิตในชนั เรียนทีมีจาํ นวนมาก ระยะเวลาเรียนทีมีจาํ กดั
ของแต่ละภาคการศึกษา รวมถึงอปุ สรรคต่างๆ ทีเกิดขึนระหว่างเรียนในชนั เรียนปกติ เช่น เสียงรบกวน
จากเพือนร่วมชนั เรียน การขาดการฝึกฝนในชนั เรียนการขาดเรียนและการขาดการศึกษาคน้ ควา้ เพิมเติม
ดว้ ยตนเองส่งผลต่อการเรียนวิชาภาษาและวฒั นธรรมเพือนบา้ น (ภาษาจีน) ผวู้ ิจยั จึงนาํ ประเด็นปัญหาที
พบมาแกไ้ ขดว้ ยจากการพฒั นาหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ E-book ขึนเพือใชเ้ ป็ นสือเสริมการเรียน รู้ใหแ้ ก่
ผเู้ รียน
ไพเราะ ราชสมบูรณ์ (บทคดั ยอ่ : 2560) การวิจยั ครังนีมีวตั ถุประสงคเ์ พือ 1) พฒั นาระบบบริหาร
การจดั การเรียนการสอนระบบทวิภาคี สอนเสริมด้วยสือออนไลน์ วิทยาลยั อาชีวศึกษาเอกชน2)
ตรวจสอบความเหมาะสมของระบบฯ และ 3) ประเมินการทดลองใชร้ ะบบฯ การดาํ เนินการวิจยั แบ่ง
ออกเป็น 3 ขนั ตอน คือ (1) การพฒั นาระบบฯ (2) การตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปไดใ้ น
การนาํ ไปใช้ และ (3) การทดลองใช้ การประเมินการทดลองใช้ การประเมินระบบและการปรับปรุง
ระบบฯ ผลการวิจยั พบว่า 1) ระบบบริหารการจดั การเรียนการสอนระบบทวิภาคี สอนเสริมดว้ ยสือ
ออนไลน์ วิทยาลยั อาชีวศึกษาเอกชน มีองค์ประกอบ 4 ดา้ น ได้แก่ (1) ดา้ นปัจจยั นาํ เขา้ ประกอบด้วย
นโยบายและแผนการดาํ เนินงาน บคุ ลากรทีเกียวขอ้ ง ระบบ ICT เครืองมอื การจดั การเรียนการสอน และ
งบประมาณ (2) ดา้ นกระบวนการ ประกอบดว้ ย การดาํ เนินกิจกรรมการเรียนการสอนระบบทวิภาคี
สอนเสริมด้วยสือออนไลน์ และการกาํ หนดหน้าทีบุคคลทีเกียวขอ้ ง (3) ดา้ น ผลผลิต ประกอบด้วย
ผูเ้ รียนสามารถผา่ นเกณฑต์ ามทีระบใุ นหลกั สูตรประกาศนียบตั รวิชาชีพชนั สูง พุทธศกั ราช 2557 และ
ผูเ้ รียนมีความพึงพอใจในการใช้ระบบฯ และ (4) ด้านขอ้ มูลป้อนกลบั ประกอบด้วย การนําผลการ
ประเมินทุกด้านไปใช้ประกอบการพิจารณาปรับปรุงระบบฯ เพือให้ได้ผลผลิตทีดีขึน 2) ผลการ
ตรวจสอบความเหมาะสมและความเป็นไปได้ ในการนาํ ไปใช้ พบวา่ ผตู้ อบแบบสอบถามเห็นดว้ ยกบั
องค์ประกอบของระบบทุกประเด็น มากกว่าร้อยละ 80 และ 3) ผลการประเมินการทดลองใชร้ ะบบฯ
32
พบว่า ในภาคเรียนที 1 ปี การศึกษา 2559 ผูเ้ รียนมีผลการเรียนทุกวิชาเฉลีย 2.00 ขึนไป ร้อยละ 63.57
ผเู้ รียนมีความพึงพอใจในการใชร้ ะบบฯ ทุกดา้ นอยู่ในระดบั มากถึงมากทีสุด และผลการประเมินระบบ
ตามมาตรฐานการประเมินของ JCSEE 4 ด้าน ได้แก่ ดา้ นอรรถประโยชน์ ด้านความเป็ นไปได้ ด้าน
ความเหมาะสม และดา้ นความถูกตอ้ ง พบวา่ มีผลการประเมินทุกดา้ นอย่ใู นระดบั มากทีสุด มีประเด็น
เพียงเล็กน้อยทีควรปรับปรุง คือ ผูว้ ิจยั ได้นาํ ประเด็นดงั กล่าวมาปรับปรุงระบบฯ ให้เหมาะสมและ
สมบูรณ์ต่อการจดั การเรียนการสอนเสริมดว้ ยสือออนไลนส์ าํ หรับผเู้ รียนระบบทวภิ าครี ุ่นตอ่ ไป
ทิพยม์ ณฑา สดชืน (บทคดั ย่อ: 2558) ไดพ้ ฒั นาหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์เรืองการถ่ายภาพเบืองตน้
โดยมีวตั ถุประสงค์ เพือพฒั นาหนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ เรืองการถ่ายภาพเบืองตน้ ดว้ ยโปรแกรม Adobe
Acrobat สําหรับประกอบการเรียนวิชา 263 - 201 เทคโนโลยีการศึกษาให้ไดป้ ระสิทธิภาพตามเกณฑ์
80/80 และเพือเปรียบเทียบผลสมั ฤทธิทางการเรียนก่อนและหลงั เรียนดว้ ย หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรือง
การถ่ายภาพเบืองต้นกลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักศึกษาคณะศึกษาศาสตร์ทีไม่เคยเรียน วิชา 263-201
เทคโนโลยีการศึกษาผลการวิจัย พบว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ ทีสร้างขึน มีประสิทธิภาพเท่ากับ
87.5/93.44 และคะแนนเฉลียหลงั เรียนสูงกวา่ ก่อนเรียนอยา่ งมีนยั สําคญั ทางสถิติ ทีระดบั .01 แสดงวา่
หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรืองการถา่ ยเบืองตน้ ทาํ ใหผ้ เู้ รียนมีความรู้ ความเขา้ ใจเพิมขึน
สุภาภรณ์ สิปปเวสม์ (บทคดั ยอ่ : 2560) ไดท้ าํ การวจิ ยั เรือง ประสิทธิภาพของสืออิเล็กทรอนิกส์
ทีเขียนจากโปรแกรม Adobe Acrobat โดยมีวตั ถุประสงค์ เพือพฒั นาและหาประสิทธิภาพ ของสือ
อิเล็กทรอนิกส์ ผลการวิจยั พบว่า ประสิทธิภาพของสืออิเล็กทรอนิกส์ ทีเขียนจา Adobe Acrobat มี
ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ทีกาํ หนด โดยผูเ้ รียนมีผลสัมฤทธิทางการเรียนหลงั สูงกว่าก่อนเรียนอยา่ งมี
นยั สาํ คญั ทางสถิติทีระดบั .05 และคะแนนเฉลียของผลการปฏิบตั ิงาน การสร้างหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์
สูงกวา่ เกณฑท์ ีกาํ หนดไว้
อคั รเดช ศรีมณีพนั ธ์ (บทคดั : ) ไดท้ าํ การวจิ ยั เรืองการพฒั นาหนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ รูปแบบ
สือประสมเพือการอบรม เรืองการใช้สือการสอนสําหรับบุคลากรมหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์
ผลการวจิ ยั การพฒั นาหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ รูปแบบสือประสมเพือการอบรม เรือง การใชส้ ือการสอน
มีประสิทธิภาพ . / . และผลสัมฤทธิทางเรียนหลงั เรียนงกสูงกว่าก่อนเรียนอยา่ งมีนัยสาํ คญั ทาง
สถิติทีระดบั .
กัญญา ไชยสิงห, ศุภรา สะดา และอัครพล ทองเย้า (บทคัดย่อ : ) ได้พัฒนาหนังสือ
อิเล็กทรอนิกส์ เรือง การผลิตและนาํ เสนอสือการศึกษาสําหรับนิสิตปริญญาตรี มหาวิทยาลยั นเรศวร
โดยมีวตั ถุประสงค์ เพือพฒั นาหนังสืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรืองการผลิตและนาํ เสนอสือการศึกษาและเพือ
33
ศึกษาความคิดเห็นของนิสิตในการใช้หนงั สืออิเล็กทรอนิกส์ เรืองการผลิตและนาํ เสนอสือ การศึกษา
กลุ่มตวั อย่าง ได้แก่ นิสิตระดบั ปริญญาตรีชนั ปี ที สาขาวิชาเทคโนโลยีและสือสารการศึกษาคณะ
ศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร จํานวน คน ผลการวิจัย ผลการวิจัยปรากฏว่า หนังสือ
อิเลก็ ทรอนิกส์ทีพฒั นาขึนมีค่าประสิทธิภาพเท่ากบั . / . ซึงเป็นไปตามเกณฑ์ / และความ
คดิ เห็นของนิสิตทีมีตอ่ หนงั สืออิเลก็ ทรอนิกส์ เรืองการผลิตและนาํ เสนอสือการศึกษา อยใู่ นระดบั ดีมาก
จิราภรณ์ พลางวนั (บทคดั ยอ่ : ) ไดว้ จิ ยั เรืองการพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ ช่วยสอนดว้ ย
ระบบมลั ติมเี ดีย เพือใชใ้ นการสอนเสริม ภาษาองั กฤษเพือการสือสารชนั มธั ยมศึกษาปี ที กลุม่ ตวั อยา่ ง
เป็นนกั เรียนชนั มธั ยมศึกษาปี ที จาํ นวน คนพบวา่ ผลสัมฤทธิทางการเรียนหลงั ใช้บทเรียนสูงกว่า
การใช้ บทเรียนอยา่ งมีนยั สําคญั ทางสถิติทีระดบั . ซึงเป็นไปตามสมมติฐาน
ฉันทนา คาํ กมั พล (บทคดั ย่อ : ) ไดว้ ิจยั เรืองการพฒั นาบทเรียนคอมพิวเตอร์ มลั ติมีเดียช่วย
สอนภาษาองั กฤษเพือการโรงแรมในแผนกแม่บา้ นกลุม่ ตวั อยา่ งเป็ นนกั เรียนชันปี ที สถาบนั การอบรม
การโรงแรมและการท่องเทียว ภาคเรียนที แผนกแม่บา้ นจาํ นวน คน ผลการวจิ ยั พบว่าได้ บทเรียน
คอมพิวเตอร์ มัลติมีเดียช่วยสอนภาษาอังกฤษเพือการโรงแรมในแผนกแม่บ้าน ประสิทธิภาพ
. / . ซึงสูกว่าเกณฑ์ มาตรฐานทีกาํ หนดไว คือ / และจากการประเมิน แบบสอบความคิด
เหน็ ของผเู้ รียนพบวา่ โปรแกรมมีความเหมาะสมสาํ หรบั การเรียนการสอน ภาษาองั กฤษเพือการโรงแรม
ถึงระดบั มากทีสุด
2.4.1 ค่มู ือการใช้งาน AnyFlip สําหรับทํา E-Book On Web
1. เปิ ดใชง้ าน Browser Google Chome
รูปที 2.1 เปิ ดใชง้ าน Browser Google Chome
34
2. Search ตรงช่อง URL WWW.Anyflip.com
รูปที 2.2 Search ตรงช่อง URL WWW.Anyflip.com
3. จะโชวห์ นา้ เวบ็ ตามภาพ
รูปที 2.3 หนา้ เวบ็ Anyflip
4. จะสามารถ Login ดว้ ย G-Mail หรือ FaceBook ก็ได้ หรือจะสมคั รเขา้ ใชง้ านของ
โปรแกรม Anyfilp
35
รูปที 2.4 Login ดว้ ย G-Mail หรือ FaceBook
5. โชวห์ นา้ ต่างการทาํ งานแลว้ คลิกที +ADD NEW BOOK เพือเขา้ สู่หนา้ Import file เขา้
สู่โปรแกรม
รูปที 2.5 หนา้ ต่างการทาํ งาน
6. คลิก UPLOAD YORD PDF เพือ UPLOAD File PDF จากในเครืองของเรา
36
รูปที 2.6 UPLOAD File PDF จากในเครือง
7. หลงั จากนนั รอ File PDF ทีเราตอ้ งการนาํ มาสรา้ ง E-BOOk
รูปที 2.7 รอ File PDF ทีเราตอ้ งการนาํ มาสร้าง E-BOOk
37
8. หลงั จาก Upload File PDF ทีเราตอ้ งการมาแลว้ โปรแกรมจะโชวห์ นา้ ตาการใชง้ านดงั
ภาพ สามารถทาํ การตงั ชือหวั ขอ้ หนงั สือ ชือหนงั สือ หรือ Keyword ในการคน้ หาได้
จาก Menu Book Info
รูปที 2.8 หนา้ การทาํ งาน
38
9. สามารถเลือก Template ไดจ้ าก Menu Template
รูปที 2.9 หนา้ การทาํ งาน 2
10. สามารถตกแตง่ สีหรือ Show Function ต่างๆ ไดจ้ าก Menu Advanced
39
รูปที 2.10 Menu Advanced
11. หลงั จากตกแต่ง E-Book เสร็จแลว้ กด Save And Close โปรแกรมจะทาํ การบนั ทึกงาน
ของเรา
รูปที 2.11 Save And Close โปรแกรม
12. หนา้ ตาหลงั จากบนั ทึกตวั งานเสร็จสิน
40
รูปที 2.12 หนา้ หลงั จากบนั ทึกตวั งานเสร็จสิน
13. หลงั จาก Save ตวั งานเสร็จแลว้ การทีจะสามารถเปิ ดดู E-Book ทีเราทาํ เสร็จแลว้ ใหไ้ ป
ที Menu ทีอยดู่ า้ นซา้ ยมือเลือกไปที MY BOOKCASES และเลือก Folder ทีเป็ นชือ
Profile ของเรา
41
รูปที 2.13 เลือกไปที MY BOOKCASES
14. หลงั จากนนั ไฟล์ E-Book ทีเราทาํ เสร็จจะอยบู่ นชนั วางหนงั สือของโปรแกรมเรา
สามารถเปิ ดใชง้ านไดโ้ ดยผา่ นการคลิกทีตวั E-Book ของเรา หรือ จะ Share ใหบ้ ุคคล
อืนก็ได้ โดยการ Copy Link หรือ จะScan QR Code ก็ได้
รูปที 2.14 Copy Link และ Scan QR Code
15. หนา้ ตาของ E-Book ทีเสร็จแลว้
42
รูปที 2.15 ผลงานเสร็จสิน