เพิ่มหัวเรื่องพำไะพำะำย่อย (2)

โยฮัน เฟอร์เมร์

JOHAN
VERMEER




Complier by plengcandoit

1

JOHAN
VERMEER

2

3

4

5

PREFER
คำนำ

ห า ก จ ะ ก ล่ า ว ถึ ง ศิ ล ปิ น ผู้ ที่ มี ชื่ อ เ สี ย ง ใ น ป ร ะ เ ท ศ
เ น เ ธ อ ร์ แ ล น ด์ จ ะ เ ป็ น ใ ค ร ไ ป ไ ด้ ถ้ า ไ ม่ ใ ช่ โ ย ฮั น เ ฟ อ ร์ เ ม ร์
จิ ต ร ก ร ที่ มี ผ ล ง า น อั น เ ป็ น เ อ ก ลั ก ษ ณ์ แ ล ะ เ ท ค นิ ค ที่ ทำ ใ ห้ ภ า พ
นั้ น เ ห มื อ น กั บ ภ า พ ถ่ า ย เ ท ค นิ ค ก า ร จั ด แ ส ง แ ล ะ เ ง า แ ล ะ ก า ร
แ ส ด ง ร า ย ล ะ เ อี ย ด ข อ ง ภ า พ ที่ มี ค ว า ม ป ร ะ ณี ต จ น น่ า เ ห ลื อ เ ชื่ อ

ห นั ง สื อ เ ล่ ม นี้ จ ะ เ ล่ า ถึ ง ป ร ะ วั ติ ค ว า ม เ ป็ น ม า แ ล ะ ผ ล
ง า น อั น มี เ ส น่ ห์ แ ล ะ เ ป็ น ที่ โ ด่ ง ดั ง ข อ ง โ ย ฮั น เ ฟ อ ร์ เ ม ร์ ถึ ง แ ม้ ว่ า
ผ ล ง า น ข อ ง เ ข า ที่ ป ร า ก ฏ ใ ห้ เ ห็ น ใ น ปั จ จุ บั น นั้ น เ ห ลื อ เ พี ย ง 3 4
ภ า พ เ ท่ า นั้ น แ ต่ ผ ล ง า น ทั้ ง ห ม ด นั้ น ง ด ง า ม จ น ส ร้ า ง ค ว า ม น่ า
ป ร ะ ทั บ ใ จ ใ ห้ ผู้ ที่ ไ ด้ ช ม ผู้ จั ด ทำ มี ค ว า ม ชื่ น ช อ บ จึ ง อ ย า ก นำ
เ ส น อ ผ ล ง า น ข อ ง โ ย ฮั น เ ฟ อ ร์ เ ม ร์ ใ ห้ ผู้ อ่ า น ไ ด้ เ ห็ น ถึ ง ผ ล ง า น
อั น ท ร ง คุ ณ ค่ า ข อ ง โ ย ฮั น เ ฟ อ ร์ เ ม ร์ ที่ ซึ่ ง น อ ก จ า ก เ ข า จ ะ ไ ด้ รั บ
ก า ร ย ก ย่ อ ง ใ น ว ง ก า ร ศิ ล ป ะ ใ ห้ เ ป็ น ห นึ่ ง ใ น ศิ ล ปิ น เ อ ก ข อ ง โ ล ก

ป ฏิ ญ ญ า โ พ ธิ์ ทิ พ ย์
ผู้ จั ด ทำ

6

CONTENT
สารบัญ

Who is Johan Vermeer? 9

Jahan Vermeer's 15
Painting Style

Johan Vermeer 22
Artworks

Bibliography 73

7

8

WHO IS JOHA

9

AN VERMEER ?

10

11

Johan Vermeer

โยฮันเนิส ไรเนียส์โซน เฟอร์เมร์(Johannes Reynierszoon
Vermeer) หรือ โยฮัน เฟอร์เมร์(Johan Vermeer ) เกิดประมาณวันที่ 30
หรือ 31 ตุลาคม ปี ค.ศ. 1632 เป็นบุตรคนที่ 2 ดิกนา บัลเทนส์ และเรย์
เนียร์ แจนส์ซ เฟอร์เมร์และครอบครัวของเขาเป็นชาวดัตช์ที่อาศัยอยู่ใน
เมืองเดลฟ์ ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยในช่วงแรกพ่อของเฟอร์เมร์ได้รับการ
ฝึกฝนเป็นช่างทอผ้าอย่างดี แต่ในปี ค.ศ.1641 พ่อของเฟอร์เมร์ก็ได้
ประกอบอาชีพเป็นพ่อค้างานศิลปะและเจ้าของโรงแรม ต่อมาเฟอร์เมร์
ก็ได้สืบทอดธุรกิจโรงแรมและงานด้านศิลปะหลังจากที่พ่อของเขาเสียชีวิต
ในปี ค.ศ. 1652 ที่มาพร้อมกับหนี้สิน ทำให้เฟอร์เมร์ตัดสินใจที่จะฝึกฝน
และพัฒนาฝีมือทางด้านงานศิลปะเพื่อประกอบอาชีพเป็นจิตรกร แต่ก็ไม่มี
หลักฐานแน่ชัดว่าเฟอร์เมร์ได้ไปเล่าเรียนจากใครแต่คาดว่าน่าจะเป็นศิลปิน
หลายๆท่านในช่วงเวลานั้น และก็ได้มีนักประวัติศาสตร์ศิลป์บางท่านเชื่อว่า
เฟอร์เมร์ได้เรียนรู้จากภาพเขียนสะสมของพ่อ

12

ในปี 1653 โยฮัน เฟอร์เมร์ได้แต่งงาน
กับ แคททรีนา โบลีนส์ หญิงชาวคริสต์
โรมันคาทอลิก โดยก่อนงานแต่งโยฮันที่
นับถือศาสนาคริสต์นิกายโปรเตสแตนต์
ก็ได้เปลี่ยนเป็ นนิกายโรมันคาทอลิกให้

เหมือนกับภรรยาในวันที่ 5 เมษายน
หลังแต่งงานเสร็จก็ได้ย้ายมาอาศัยที่

บ้านแม่ของแคทครีน่า ที่ Oude
Langendijk เป็นสถานที่ที่ตั้งอยู่กลาง
ชุมชนคาทอลิกของเมืองเดลฟ์ เฟอร์เมร์
และภรรยาได้ใช้ชีวิตอยู่ในเมืองนี้พร้อม
กับลูก 11 คนและเขาได้ทำการผลิตผล

งานภาพเขียนต่างๆหลังแต่งงาน



13

14

Johan V
paintin

15

Vermeer
ng Style

16

ผลงานของโยฮัน เฟอร์เมร์ในช่วงแรกเป็นการนำเสนอบอก
เล่าเรื่องราวทางศาสนาแต่ก็ได้เปลี่ยนเป็นการเขียนภาพชีวิตประจำ
วันของผู้ในยุคนั้นช่วงปลายทศวรรษที่ 1650 โดยภาพเขียนส่วน
ใหญ่จะเป็นฉากภายในบ้าน องค์ประกอบอันเป็นเอกลักษณ์ของ
เฟอร์เมร์ คือ พื้นห้องที่เป็นลายหินอ่อน ผ้าภายในภาพจะต้องมีราย
ละเอียดที่มีความชัดเจนเสมือนจริง เช่น ผ้าปูโต๊ะ , ผ้าม่าน รวมถึง
สิ่งของอื่นๆไม่ว่าจะเป็นเครื่องดนตรี ข้าวของและอุปกรณ์ต่างๆให้มี
ความเสมือนจริงเช่นกัน

นอกจากความความเสมือนจริงของภาพที่มีความโดดเด่นแล้ว
การจัดแสงและเงาก็เป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะการ
จัดแสงของเฟอร์เมร์ก็เน้นความเป็นธรรมชาติเช่นกัน โดยเงานั้นจะ
มีความทอดตัวสั้น-ยาว , เข้ม-จาง ตามทิศทางของแสงตามความ
เป็นจริง นั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมภาพของเฟอร์เมร์ถึงมีความเสมือน
จริงเหมือนภาพถ่าย และด้วยความที่ภาพของเฟอร์เมร์นั้นมีความ
เสมือนจริงจึงทำให้มีหลายคนเชื่อว่าเขาได้ใช้กล้องทาบเงาซึ่งเป็น
เครื่องมือช่วยสำหรับจิตกรเป็นตัวช่วยในการวาดภาพของตัวเอง
เนื่องจากในศตวรรษที่ 17 ได้มีการใช้นำกล้องทาบเงากันอย่างแพร่
หลายแต่ก็ใช้งานกล้องนั้นอย่างยากลำบากเพราะภาพที่ได้ออกมา
จากกล้องทาบเงาจะกลับหัว

17

18

19

ชื่อของโยฮัน เฟอร์เมร์ไม่มีการระบุที่แน่ชัดในบันทึก
จดหมายเหตุของ Delft ทำให้มีการสันนิษฐานว่าเมื่อช่วงปลาย
ทศวรรษ 1640 เฟอร์เมร์ได้เดินทางไปยังประเทศอิตาลี ฝรั่งเศส
หรือแฟลนเดอร์ส(ในปั จจุบันคือทางตอนเหนือของประเทศเบลเยียม
เพื่อไปฝึกฝนทักษะทางศิลปะในสถานที่ต่างๆ และช่วงต้นทศวรรษ
1650 เป็นช่วงเวลาที่ศิลปะในเมืองเดลฟ์นั้นเกิดการเปลี่ยนแปลง
อย่างรวดเร็วทำให้เขาอาจได้รับแรงบันดาลใจมากมายในการวาด
ภาพ และในช่วงครึ่งหลังของปี ค.ศ. 1650 ผลงานของเฟอร์เมร์จะ
เริ่มนำเสนอในรูปแบบชีวิตประจำวันของผู้คน และได้สร้างสรรค์ผล
งานที่โดดเด่นซึ่งส่วนใหญ่จะเป็ นภาพวาดภายในโดยจะมีการจัด
แสงและเงาให้ดูสมจริงมากที่สุด

ช่วงชีวิตหลังแต่งงาน เฟอร์เมร์ยังคงวาดภาพงานศิลปะ
ต่อไปโดยที่เขาจะวาดเขียนอยู่ในห้องเล็กๆบนชั้นสองของบ้าน และ
ด้วยความที่ห้องของเฟอร์เมร์นั้นมีขนาดเล็กจึงจำกัดการวาดจึงไม่
สามารถวาดภาพขนาดใหญ่ได้แต่จะวาดได้เพียงภาพขนาดเล็กๆ
เท่านั้น เฟอร์เมร์ใช้เวลากับภาพๆหนึ่งเป็นเวลานานเพราะเขาจะใช้
ฝี มือที่มีความประณีตในการวาดภาพนั้นขึ้นมาและสีที่ใช้ก็เป็ นสีที่มี
คุณภาพและราคาสูง ทำให้ปีหนึ่งเฟอร์เมร์จะวาดภาพเฉลี่ยปีละ 3
ภาพเท่านั้น

20

21

Johan Vermeer
Artworks

22

Girl with a Pearl
Earring

ผลงานที่เป็นที่โด่งดังของเฟอร์เมร์ คือ Girl with a Pearl
Earring หรือชื่อไทย คือ สาวใส่ต่างหูมุก ภาพนี้ถูกวาดเมื่อปี ค.ศ.
1665 และได้รับขนานนามว่า “โมนาลิซ่าแห่งยุโรปเหนือ” หรือ “โม
นาลิซ่าของชาวดัตช์” ทั้งการจัดเงาและแสงหรือค่าต่างแสงของ
เฟอร์เมร์ เขาได้เลือกใช้พื้นหลังสีดำเรียบเพื่อให้จุดเด่นของภาพนั้น
คือหญิงสาวให้มีรูปแบบเป็นสามมิติ

ไม่มีใครทราบว่าหญิงสาวในภาพคือใคร บ้างก็ว่าเป็น Maria
Vermeer ลูกสาวคนโตของเฟอร์เมร์ บางคนคิดว่าเป็น Magdalena
van Ruijven ลูกสาวของ Pieter Van Ruijven ลูกค้าคนสำคัญของ
เฟอร์เมร์ และอีกคนก็คือ Griet สาวใช้ของเฟอร์เมร์ แต่ทั้งหมดนั่นก็
เป็นเพียงแค่สันนิษฐาน

หญิงสาวคนนี้ยังคงเป็นปริศนาและความเป็นปริศนานี้ก็สร้าง
ความหลงใหลและมีเสน่ห์กับภาพนี้มากขึ้น โดยหญิงสาวภายในภาพ
วาดนั้นสวมเสื้อผ้าที่มีลักษณะเหมือนเสื้อคลุม สวมโพกผ้าคลุมศีรษะ
แบบตะวันออก และใส่ตุ้มหูมุกเม็ดใหญ่ การจัดแสงเงาที่สะท้อนกับ
ตัวของหญิงสาวทำให้เราไม่รู้เลยว่าหญิงสาวคนนี้กำลังหันมามอง
หรือกำลังหันจากไปกันแน่

23

24

25

ภาพ Girl with a Pearl Earring ปัจจุบันถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่
พิพิธภัณฑ์ศิลปะ Mauritshuis ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองในกรุงเฮก ประเทศ
เนเธอร์แลนด์ ซึ่งนอกจากผลงานนี้จะได้จัดแสดงแล้วยังมีผลงานอื่นๆ
ของเฟอร์เมร์ได้ถูกนำมาจัดแสดงด้วยเช่นกัน

26

หนังสือ
Girl with

a
Pearl
Earring

27

และด้วยความที่ภาพนี้โด่งดังและมีเสน่ห์จนได้มี
การเขียนเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “Girl with a
Pearl Earring” ผู้แต่งคือ เทรซี เชวาเลียร์ หนังสือเล่มนี้
ถูกเขียนขึ้นเมื่อปี ค.ศ.1999

โดยเนื้อเรื่องเล่าคร่าวๆได้ว่า ครีท (Griet) หญิง
สาววัยสิบหกปีต้องจากครอบครัวในเมืองเดลฟ์เนื่องจาก
ความต้องการทางการเงินของครอบครัว พ่อของครีทได้
เป็นสมาชิกของสมาคมศิลปินและทำหน้าที่ช่างทาสี
กระเบื้อง ทำให้มีงานจ้างให้เธอนั่นคือสาวใช้ในบ้านของ
จิตรกรโยฮัน เฟอร์เมร์ ในสมัยนั้นสังคมที่เธออาศัยได้มี
การแบ่งชนชั้นกันอย่างเข้มงวด และครอบครัวเฟอร์เมร์
เป็นชนกลุ่มน้อยที่นับถือนิกายคาทอลิกต้องยอมอยู่กับค
รีทอย่างไม่เต็มใจนักเพราะเธอนับถือนิกาย
โปรเตสแตนต์ และเล่าถึงความรักของเธอที่มีต่อเฟอร์
เมร์ผู้เป็นนายที่มีครอบครัวอยู่แล้ว เรื่องราวไม่ได้นำ
เสนอให้เห็นถึงความรู้สึกของครีทแต่เป็นการนำเสนอ
จากการกระทำของเธอจนกระทั่งเธอได้เป็นแบบวาด
ภาพให้กับเฟอร์เมร์โดยใส่ต่างหูมุก

28

29

นอกจาก Girl with a Pearl Earring จะถูกนำไปเขียนเป็นนิยายอิงประวัติศาสตร์
แล้ว เมื่อปีค.ศ. 2003 Girl with a Pearl Earring ได้ถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนต์ดราม่าที่
กำกับโดย Peter Webber และเขียนบทภาพยนตร์โดย Olivia Hetreed โดยมี Scarlett
Johansson รับบท Griet หญิงสาวที่ได้ทำงานเป็นสาวใช้ให้กับจิตรกรอย่าง Johannes
Vermeer รับบทโดย Colin Firth




30

31

32

Diana and He

(1653 –

การใช้แสงเป็นเส้นนำ
สายตาจากทางซ้าย มีการไล่
สีสว่างแล้วเข้มขึ้นตามลำดับ

ขนาดของภาพ 98.5 ซม.×
“Diana and Her Companions” หรือ “ไดอาน่าและ
เป็นผลงานชิ้นแรกๆของโยฮัน เฟอร์เมร์ เป็นภาพที่นาง
คือผู้หญิงทั้งสี่คนภายในภาพวาด การใช้สีที่แสดงถึงคว
เป็นธรรมชาติทำให้ส่วนของใบหน้าไดอาน่านั้นมีควา

สมดุลอย่

33

r Companions

– 1654)

การแต่งกายของไดอาน่าเป็นการ
สวมเสื้อผ้าแบบกรุงโรมโบราณ ผ้าสี
เขียวแสดงถึงความเติบโตและความ

เป็นธรรมชาติ

การล้างเท้าที่นางไม้ได้ปฏิบัติต่อไดอาน่า
แสดงถึงความอ่อนโยนและความมีเมตตา

กรุณาของผู้หญิงดวยกันเอง และเป็น
สัญลักษณ์ของคริสตจักรคาทอลิกที่แสดงถึง

การชำระล้างและทำให้บริสุทธิ์
105 ซม. (38.8 นิ้ว × 41 นิ้ว)
ะสหายของเธอ” เป็นภาพเขียนสีน้ำมันขนาดกลางซึ่ง
งไม้กำลังล้างเท้าให้กับไดอาน่า โดยจุดสนใจของภาพก็
วามสำคัญโดยจะเน้นไปที่ไดอาน่าและแสงที่ไล่อย่างดู
มกลมกลืนกับฉากหลังซึ่งแสดงถึงความกลมกลืนและ
ย่าลงตัว

34

Christ in the House of
Martha and Mary
(1654-1656)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 160 ซม. × 142 ซม
“Christ in the House of Martha and Mary” เป็นภาพที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโยฮัน
เฟอร์เมร์ซึ่งเป็นภาพที่มีการนำเสนอเกี่ยวกับศาสนาอย่างเปิดเผย ปัจจุบันภาพนี้ถูกจัด

แสดงอยู่ที่หอศิลป์แห่งชาติสก๊อต ในเอดินบะระ ประเทศสกอตแลนด์

35

Saint Praxedis
(1655)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 1.02 ม. x 83 ซม.
“Saint Praxedis” เป็นภาพที่มีการสันนิษฐานกันอยู่ว่าเป็นภาพที่โยฮัน เฟอร์เมร์ หรือ
เฟลิชี ฟิเชอเรลลิ แต่เมื่อปี ค.ศ.1969 ได้มีการถกเถียงกันว่าภาพนี้เป็นของเฟอร์เมร์
เพราะพบลายเซ็นอยู่บริเวณทางด้านซ้ายของภาพ โดยภาพนี้เป็นภาพของนักบุญแพร็

กซิดิสที่กำลังบีบเลือดจากผู้พลีชีพทางด้านหลังใส่ภาชนะโดยที่มือของเธอได้ถือไม้
กางเขนเอาไว้ซึ่งอาจมีความเกี่ยวข้องกับศาสนา ปัจจุบันภาพนี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่
พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตกแห่งชาติ ประเทศญี่ปุ่น



36

A Maid
(1656 –

สตรีสาวใช้คนนี้กำลังหลับอยู่
โดยใช้แขนขวายันศีรษะตนเอง
ไว้ ส่วนมือซ้ายก็ได้เกาะโต๊ะไว้

บนโต๊ะมีการปูพรมแบบตะวัน
ออก มีจานของผลไม้ , เหยือก
สีขาว และแก้วใสที่ล้มอยู่ทาง

ด้านหน้าของเหยือกสีขาว

ขนาดของภาพ :
“A Maid Asleep” หรือ “ สาวใช้หลับ” เป็นภ
ที่เป็นสาวใช้กำลังหลับใหลอยู่บนโต๊ะซึ่งเป็น

จัดแสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ศิลปะเมโทรโพลิ

37

Asleep
– 1657)

ด้านขวามีเก้าอี้ถูกตั้งไว้หนึ่งตัว
และทางด้านหลังจะเป็นประตูที่
ถูกเปิดไว้ทำให้สามารถมองเห็น

ห้องถัดไปได้

88 ซม. x 76 ซม.
ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบที่แสดงถึงหญิงสาว
การละเลยหน้าที่ของเธอ ปัจจุบันภาพเขียนนี้
ลิทัน นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

38

Girl Reading a L
Window (1

ภายในบานพับของกระจกยังมีภาพ
สะท้อนของเด็กสาว ซึ่งแสดงให้เห็นถึง

แสงที่สาดส่องเข้ามาทางด้านใน

บนโต๊ะภายในภาพนั้นมีผเคลุม
โต๊ะผืนเดียวกับภาพ “A Maid
Asleep” นอกจากนี้ยังมีจานที่มี

ผลไม้เหมือนกันอีกด้วย

ขนาดของภาพ : 83
“Girl Reading a Letter at an Open Wind
เป็นภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบที่เป็นภาพขอ

ที่อยู่ในมือ โดยภาพๆนี้ยังแสดงถึงความรู้
ภาพๆนี้มีความสงบนิ่ง ปัจจุบันภาพนี้ถูกจั

ประเท

39

Letter at an Open
657 -1659)

การวาดผ้าม่านและลง
สีเขียวให้เหมือนกับ
เป็นกรอบภาพ

3 ซม. x 64.5 ซม.
dow” หรือ “เด็กสาวอ่านจดหมายริมหน้าต่าง”
องเด็กสาวกำลังตั้งอกตั้งใจในการอ่านจดหมาย
รู้สึกของเฟอร์เมร์ที่มีความละเอียดอ่อนทำให้
จัดแสดงอยู่ที่หอจิตรกรรมชั้นครูแห่งเดรสเดน
ทศเยอรมนี

40

Officer and Laughing Girl
(1657 – 1660)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 50 ซม. x 46 ซม.
"The Procuress" เป็นภาพของหญิงสาวที่มีการสันนิษฐานว่ามีความคล้ายคลึงกับ
ภรรยาของเฟอร์เมร์โดยมีแสงจากหน้าต่างได้ตกกระทบลงบนใบหน้าทำให้กลาย
เป็นจุดสนใจในภาพ หญิงสาวกำลังนั่งคุยกับบุรุษผู้เป็นทหารม้าที่สวมเสื้อโค้ทสีแดง
และหมวกที่ดูมีราคาแพงทำให้สามารถรับรู้ได้ถึงยศถาบรรดาศักดิ์ ปัจจุบันภาพนี้

ถูกจัดแสดงอยู่ที่ The Frick Collection เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

41

The Procuress
(1656)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 143 ซม. × 130 ซม. (56 นิ้ว × 51 นิ้ว)

42

The Glass of Wine
(1658 – 1661)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 66 ซม. x 76 ซม.
“The Glass of Wine” หรือ “แก้วไวน์” เป็นภาพที่แสดงถึงการเกี้ยวพาราสีอย่างหนึ่งซึ่งดู
เหมือนว่าบุรุษนั้นเฝ้ามองหญิงสาวที่กำลังดื่มไวน์อยู่ มือของเขาจับเหยือกพร้อมที่จะริน

ให้ หรืออาจเป็นนัยได้ว่ากำลังจะมอมให้หญิงสาวเมา ปัจจุบันภาพนี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่
พิพิธภัณฑ์ Gemäldegalerie กรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี

43

Girl Interrupted in her
Music

(1658- 1661)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 39.4 cm × 44.5 cm
“Girl Interrupted at her Music” เป็นภาพวาดที่แสดงถึงบุรุษกำลังเกี้ยวพาราสี
หญิงสาว มือของหญิงสาวถือกระดาษโน้ตดนตรีอยู่ ปัจจุบันภาพนี้ถูกจัดแสดงอยู่ที่

The Frick Collection นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา

44

The Mil
(1657 –

“The Milkmaid” หรือ
“สาวใช้นม” เป็นภาพวาดสี
น้ำมันบนผ้าใบ เป็นภาพของ
สาวใช้ที่กำลังเทนมจากเหยือก
ลงภาชนะถ้วยที่ทำจากดินเผา
นอกจากนี้ยังมีขนมปังหลาย
ก้อนวางอยู่ ภาพนี้ยังแสดงถึง
รายละเอียดของขนมปังได้
อย่างเด่นชัดและลักษณะ
ร่างกายของสาวใช้ที่มีขนาดตัว
ค่อนข้างอวบ ปัจจุบันภาพนี้ถูก
จัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์ศิลปะ

เมโทรโพลิแทน ในนคร
นิวยอร์ก

ขนาดของภาพ :

45

lkmaid
– 1661)

ภาพนนี้เป็นภาพที่เฟอร์เมร์ใช้
โทนสีที่สว่างและโดดเด่นกว่า
ภาพอื่นๆทำให้ภาพนี้ดูสว่าง
เป็นพิเศษ และการทาสีกำแพง
ของภาพเป็นสีขาวทำให้แสงที่
ได้ตกกระทบมานั้นทำให้เห็น
รายละเอียดผิวของกำแพงที่มี
ไม่เท่ากันและร่องลอยต่างๆซึ่ง
นี่ก็เป็นเทคนิคที่ท้าทายเฟอร์
เมร์แต่เขาก็ทำออกมาได้อย่าง

มีประสิทธิภาพ

46 ซม. x 41 ซม. ภายในภาพยังมีการแสดงให้เห็นถึง
เครื่องอุ่นเท้าที่ใช้ในสมัยนั้น

46

The Little Street
(1658 – 1661)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 54 ซม. x 44 ซม.
"The Little Street" เป็นภาพวาดทิวทัศน์ภาพแรกของโยฮัน เฟอร์เมร์ เป็น
ภาพที่แสดงลักษณะชิวิตภายในเมืองเนเธอร์แลนด์อันเงียบสงบ ปัจจุบันจัด

แสดงอยู่ที่พิพิธภัณฑ์แห่งชาติแห่งอัมสเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์

47

The Girl with a Wine
Glass

(1659 – 1662)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 78 ซม. x 67 ซม.
ปัจจุบันภาพ "The Girl with a Wine Glass" ถูกจัดแสดงอยู่ที่ พิพิธภัณฑ์

Herzog Anton Ulrich เมืองเบราน์ชไวค์ ประเทศเยอรมนี

48

View of Delft
(1660 – 1663)

ภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ , ขนาดของภาพ : 98 ซม. x 1.18 ม.
"View of Delft" เป็นภาพที่แสดงถึงทัศนียภาพของเมืองเดลฟ์ ซึ่งเป็นมุมมองจาก

ทางทิศใต้ของเมืองที่สะท้อนถึงความเงียบสงบ เรียบร้อยภายในเมือง มีการจัด
องค์ประกอบภายในภาพโดยการสร้างแถบแนวนอน 3 แถบโดยแบ่งเป็นน้ำ เมือง

และท้องฟ้า ปัจจุบันภาพนี้ถูกจัดแสดงอยู่ในคณะรัฐมนตรีด้านจิตรกรรมของ
ราชวงศ์ดัตช์ที่ Mauritshuis กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์

49