เลม ๑๒๗ ตอนที่ ๔๕ ก หนา ๔ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓
ราชกิจจานุเบกษา
พระราชบัญญัติ
ระเบียบบรหิ ารราชการกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (ฉบบั ท่ี ๒)
พ.ศ. ๒๕๕๓
ภมู พิ ลอดุลยเดช ป.ร.
ใหไว ณ วนั ที่ ๑๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๕๓
เปนปท่ี ๖๕ ในรชั กาลปจ จบุ นั
พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกลา ฯ
ใหป ระกาศวา
โดยทเี่ ปน การสมควรแกไขเพ่ิมเตมิ กฎหมายวาดวยระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
จึงทรงพระกรุณาโปรดเกลา ฯ ใหตราพระราชบัญญัติขึ้นไวโดยคําแนะนําและยินยอมของ
รฐั สภา ดังตอ ไปนี้
มาตรา ๑ พระราชบญั ญัตนิ เี้ รยี กวา “พระราชบญั ญตั ิระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
(ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๕๓”
มาตรา ๒ พระราชบัญญัตินี้ใหใชบังคับตั้งแตวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา
เปน ตนไป
มาตรา ๓ ใหยกเลิกความในมาตรา ๓๓ แหงพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ
กระทรวงศึกษาธกิ าร พ.ศ. ๒๕๔๖ และใหใชความตอ ไปนี้แทน
เลม ๑๒๗ ตอนที่ ๔๕ ก หนา ๕ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓
ราชกจิ จานุเบกษา
“มาตรา ๓๓ การบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานใหยึดเขตพ้ืนที่การศึกษา
โดยคํานึงถึงระดับของการศึกษาข้ันพื้นฐาน จํานวนสถานศึกษา จํานวนประชากร วัฒนธรรม
และความเหมาะสมดานอ่นื ดวย เวน แตก ารจัดการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐานตามกฎหมายวาดวยการอาชีวศึกษา
ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการโดยคําแนะนําของสภาการศึกษามีอํานาจประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษากําหนดเขตพื้นท่ีการศึกษาเพ่ือการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
แบงเปนเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาและเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามธั ยมศึกษา
ในกรณีทีส่ ถานศึกษาใดจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานท้ังระดับประถมศึกษาและระดับมัธยมศึกษา
การกําหนดใหส ถานศึกษาแหง นัน้ อยูในเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาใด ใหยึดระดับการศึกษาของสถานศึกษานั้น
เปน สําคญั ทัง้ นี้ ตามทีร่ ฐั มนตรีประกาศกําหนดโดยคาํ แนะนาํ ของคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พนื้ ฐาน
ในกรณีที่มีความจําเปนเพื่อประโยชนในการจัดการศึกษาหรือมีเหตุผลความจําเปนอยางอ่ืน
ตามสภาพการจัดการศึกษาบางประเภท คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานอาจประกาศกําหนดให
ขยายการบรกิ ารการศึกษาขั้นพ้นื ฐานของเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาหนึง่ ไปในเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาอื่นได”
มาตรา ๔ ใหเพิ่มความตอไปนี้เปนวรรคหาของมาตรา ๓๖ แหงพระราชบัญญัติระเบียบ
บรหิ ารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖
“ในการดําเนินการตามวรรคหน่ึงในสวนท่ีเก่ียวกับสถานศึกษาเอกชนและองคกรปกครอง
สวนทองถิ่นวาจะอยูในอํานาจหนาท่ีของเขตพื้นท่ีการศึกษาใด ใหเปนไปตามที่รัฐมนตรีวาการ
กระทรวงศกึ ษาธกิ ารประกาศกําหนดโดยคําแนะนําของคณะกรรมการการศึกษาข้นั พน้ื ฐาน”
มาตรา ๕ ใหรัฐมนตรีวาการกระทรวงศึกษาธิการโดยคําแนะนําของสภาการศึกษา
มีอํานาจประกาศในราชกิจจานุเบกษาเพื่อกําหนดหรือแกไขเปล่ียนแปลงเขตพื้นท่ีการศึกษา
สําหรบั เขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาและเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษามธั ยมศึกษาใหแ ลวเสร็จภายในเกาสิบวัน
นบั แตวนั ทีพ่ ระราชบญั ญัตนิ ี้ใชบ ังคับ
มาตรา ๖ ใหรฐั มนตรีวาการกระทรวงศกึ ษาธิการรักษาการตามพระราชบัญญัตนิ ี้
ผรู บั สนองพระบรมราชโองการ
อภสิ ทิ ธ์ิ เวชชาชีวะ
นายกรัฐมนตรี
เลม ๑๒๗ ตอนที่ ๔๕ ก หนา ๖ ๒๒ กรกฎาคม ๒๕๕๓
ราชกจิ จานเุ บกษา
หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใชพระราชบัญญัติฉบับน้ี คือ โดยที่การจัดระเบียบบริหารราชการ
ในเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษากาํ หนดใหแตละเขตพ้ืนที่การศึกษาประกอบดว ยการศึกษาระดบั ประถมศกึ ษาและระดับ
มัธยมศึกษา ซึ่งมีการบริหารและการจัดการศึกษาข้ันพื้นฐานรวมอยูในความรับผิดชอบของแตละเขตพื้นท่ี
การศึกษา ทาํ ใหเ กิดความไมคลอ งตัวในการบรหิ ารราชการ สมควรแยกเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาออกเปนเขตพ้ืนที่
การศึกษาประถมศึกษาและเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เพื่อใหการบริหารและการจัดการศึกษา
มีประสิทธิภาพ อันจะเปนการพัฒนาการศึกษาแกนักเรียนในชวงชั้นประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
ใหสัมฤทธิผลและมีคุณภาพยิ่งขึ้น ตลอดจนเพ่ือใหสอดคลองกับกฎหมายวาดวยการศึกษาแหงชาติ
จึงจาํ เปน ตองตราพระราชบัญญตั ินี้