หน่วยท่ี 4 นโยบายพ้นื ฐานแหง่ รฐั และ
การบรหิ ารราชการแผ่นดนิ
หอ้ งเรยี นพลเมอื งประชาธปิ ไตย
ครูกรี ะตกิ าญน์ มาอยูว่ งั
วทิ ยาลยั เทคนิคเพชรบูรณ์
ความรู้เบื้องต้นเกยี่ วกบั แนวนโยบาย
แห่งรัฐบาลไทยปัจจุบัน
ท่มี า : https://www.posttoday.com/politic/analysis/595459
https://www.facebook.com/NBT2HDTV/posts/3131094290241593/
http://www.industry.go.th/center_mng/index.php/2016-04-24-18-06-24/2016-04-24-
ท่มี าของภาพ
https://www.facebook.com/ExciseDepartment/photos/pcb.
10157661176810166/10157661176160166/?type=3&theater
ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การบริหารราชการแผ่นดนิ
การจัดระเบยี บบริหารราชการแผ่นดนิ คอื หมายถงึ อะไร
⚫ การจัดระเบียบในการปกครองประเทศ
⚫ การมีองค์กรในการบริหารกจิ การของรัฐ
⚫ กาหนดว่ามีจะองค์กรบริหารราชการอย่างไร
⚫ มีหน้าที่อะไรและอานาจความรับผิดชอบแค่ไหน
⚫ ดาเนินการบริหารให้เป็ นไปตามนโยบายของรัฐ
⚫ มีจดุ ม่งุ หมายเพอ่ื ให้บริการหรือสนองความต้องการของ
ประชาชน
ความรู้เบื้องต้นเกย่ี วกบั การบริหารราชการแผ่นดนิ
หลกั อานาจในการปกครองประเทศ
หลกั อานาจในการปกครองประเทศ มี 3 หลกั การดังน้ีคอื
⚫ หลกั การรวมอานาจปกครอง
( Centralization )
⚫ หลักการแบ่งอานาจการปกครอง
( Deconcentralization )
⚫ หลกั การกระจายอานาจการปกครอง
( Decentralization )
หลกั การบริหารราชการแผ่นดนิ มี 3 หลกั การดงั น้ีคอื
⚫ ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
⚫ ระเบียบบริหารราชการส่วนภูมภิ าค
⚫ ระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถน่ิ
⚫ระเบยี บบริหารราชการ
ส่วนกลาง
ระเบยี บบรหิ ารราชการสว่ นกลาง
ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
⚫ ได้แก่ สานกั นายกรัฐมนตรี กระทรวง ทบวง
กรม
⚫ หรือส่วนราชการทมี่ ฐี านะเป็ นกรม อย่ใู นความ
รับผดิ ชอบของรัฐบาล
⚫ ใช้หลักการรวมอานาจปกครอง
( Centralization )
การบรหิ ารราชการสว่ นกลาง
• การจดั ตง้ั ยบุ สานกั นายกรฐั มนตรี กระทรวง ทบวง
กรม
• ตอ้ งทำเป็นพระรำชบญั ญตั ิ
• นายกรฐั มนตรี กระทรวง ทบวง กรม มฐี านะเป็นนิติ
บคุ คล
สานกั นายกรฐั มนตรี
• เพยี งหน่วยงานเดยี วมฐี านะเป็นกระทรวง
• มีบทบาทเป็ นแหลง่ ประสานงานระหวา่ งกระทรวงต่าง ๆ และงานอน่ื ๆ
ในระดบั ชาตดิ ว้ ย
• ในสานกั นายกรฐั มนตรีนายกรฐั มนตรเี ป็ นผูบ้ งั คบั บญั ชา
• สานกั นายกรฐั มนตรี มีสว่ นราชการ ดงั ต่อไปน้ี
สานกั งานปลดั สานกั นายกรฐั มนตรี, กรมประชาสมั พนั ธ์
และ สานกั งานคณะกรรมการคมุ้ ครองผูบ้ รโิ ภค
กระทรวง
• สว่ นราชการของกระทรวงมีหนา้ ท่แี ละความรบั ผดิ ชอบ ดงั น้ี
1) สานกั งานเลขานุการรฐั มนตรี
2) สานักงานปลดั กระทรวง มีฐานะเป็นกรม
• หน่วยงานระดบั กระทรวงปจั จุบนั ตามพ.ร.บ.ปรบั ปรุงกระทรวง ทบวง
กรม พ.ศ. 2545 มปี จั จบุ นั มี 20 กระทรวง
กระทรวง
• กระทรวงเป็นหน่วยงานของขา้ ราชการสว่ นกลางท่ใี หญ่ท่สี ดุ
• ในแตล่ ะกระทรวงมรี ฐั มนตรวี ่าการกระทรวงเป็นผูบ้ งั คบั บญั ชาขา้ ราชการ
และกาหนดนโยบายของกระทรวง ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายท่คี ณะรฐั มนตรี
กาหนด
• อนุมตั แิ ละรบั ผิดชอบในการปฏบิ ตั ริ าชการของกระทรวง
• มีรฐั มนตรวี ่าการกระทรวงเป็นผูช้ ่วยสงั่
• มปี ลดั กระทรวงซ่งึ เป็นขา้ ราชการประจาสูงสุดในกระทรวงเป็นผูบ้ งั คบั บญั ชา
ขา้ ราชการ
ทบวง
• เป็นหน่วยราชการใหญ่กวา่ กรมแต่เลก็ กว่ากระทรวง
• ทบวงอาจสงั กดั สานกั นายกรฐั มนตรี สงั กดั กระทรวง หรอื เป็ นทบวง
อสิ ระ
• เดมิ ประเทศไทยเคยมที บวงเพยี งทบวงเดยี วคอื "ทบวงมหาวทิ ยาลยั "
มฐี านะเป็นกระทรวงมีรฐั มนตรวี ่าการทบวงรบั ผดิ ชอบ
• ปจั จุบนั ไม่มีทบวงแลว้ ยบุ ไปเม่ือ พ.ศ.2545
กรม
• เป็นหน่วยงานราชการขนาดกลางรบั ผดิ ชอบงานดา้ นใดดา้ นหน่ึงของ
รฐั แยกยอ่ ยจากกระทรวง หรอื ทบวง
• กรมอาจสงั กดั สานักนายกรฐั มนตรี สงั กดั กระทรวง ทบวง หรือเป็น
กรมอสิ ระกไ็ ด้
• มีอธิบดกี รมเป็นผูบ้ งั คบั บญั ชาสูงสุดของ ขา้ ราชการประจา
• การตง้ั หรอื ยบุ กรมและกรมหรอื สว่ นราชการท่เี รยี กช่ืออย่างอน่ื และ
ฐานะเป็นกรมให้ ตราเป็น พระราชกฤษฎกี า
การบรหิ ารราชการสว่ นภมู ภิ าค
ระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค
⚫ ได้แก่ จังหวัด และอาเภอ
⚫ มขี ้าราชการของส่วนกลางเป็ นตวั แทนของ
กระทรวง ทบวง กรม ไปประจา
เป็ นการแบ่งเบาภาระของส่วนกลาง
⚫ หลักการกระจายอานาจการปกครอง
( Decentralization )
รำชกำรบริหำรสว่ นภูมภิ ำค ( จงั หวดั และอำเภอ )
• หมายถงึ ราชการของกระทรวง ทบวง กรม ต่างๆ ซ่งึ ไดแ้ บง่ แยกออกไป
ดาเนินการจดั ทา ตามเขตการปกครองของประเทศ ( ไดแ้ กจ่ งั หวดั และ
อาเภอ )
• เพอ่ื สนองความตอ้ งการของประชาชนในเขตการปกครองน้นั ๆ โดยมี
เจา้ หนา้ ท่ขี องราชการสว่ นกลาง ซ่งึ ไดร้ บั การแต่งตง้ั ออกไปประจาตามเขต
การปกครองตา่ งๆ ในสว่ นภมู ภิ าคเพอ่ื บรหิ ารราชการภายใจการบงั คบั บญั ชา
ของราชการสว่ นกลาง
• การบรหิ ารราชการสว่ นภมู ิภาคใชห้ ลกั หลกั การแบง่ อานาจ
จงั หวดั
•จงั หวดั เป็นหน่วยการปกครองในสว่ นภมู ิภาคท่ใี หญ่ท่สี ดุ
•จงั หวดั ประกอบดว้ ยอาเภอหลายๆ อาเภอ
•จงั หวดั มฐี านะเป็นนิตบิ คุ คล ( สว่ นอาเภอไม่เป็นนิตบิ คุ คล )
•การจดั ตง้ั ยบุ เปลย่ี นแปลงเขตจงั หวดั ตอ้ ง ตราเป็น
พระราชบญั ญตั ิ
อำเภอ
• อาเภอคอื หน่วยราชการบรหิ ารสว่ นภมู ิภาครองจากจงั หวดั
• อาเภอแบ่งเป็นหลายตาแหน่งอาเภอไม่มฐี านะเป็นนิตบิ คุ คล
• การจดั ตง้ั ยบุ และเปลย่ี นแปลงเขตอาเภอ กระทาไดโ้ ดยการตราเป็น
พระราชกฤษฎกี า
• ในอาเภอหน่ึงมีนายอาเภอคนหน่ึงเป็นหวั หนา้ ปกครองบงั คบั บญั ชา
บรรดาขา้ ราชการในอาเภอและรบั ผิดชอบงานบรหิ ารราชการของ
อาเภอ
ก่งิ อำเภอ
•ก่งิ อาเภอเป็นหน่วยการปกครองซ่งึ รวมหลายตาบล แต่ไม่มี
ลกั ษณะใหญ่พอท่จี ะตง้ั เป็นอาเภอ
•มปี ลดั อาเภอประจาก่งิ อาเภอเป็ นหวั หนา้ และมีปลดั อาเภอ
อน่ื ๆ ตามจานวนท่จี าเป็นหวั หนา้ สว่ นราชการของกระทรวง
ตำบล
• ตาบลไม่เป็นการบรหิ ารสว่ นภมู ภิ าคตามพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ าร
ราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 แต่เป็นการบรหิ ารราชการในสว่ นภมู ิภาคตาม
พระราชบญั ญตั ลิ กั ษณะปกครองทอ้ งท่ี พ.ศ.2457
• ตาบล ประกอบดว้ ยหม่บู า้ นหลายๆ หม่บู า้ น
• ไม่มีฐานะเป็นนิตบิ คุ คล
• การจดั ตง้ั ตาบลใหม่ตามหลกั เกณฑโ์ ดยออกเป็น ประกาศ
กระทรวงมหาดไทยจดั ตง้ั ตาบลข้ึนและประกาศในราชกจิ จานุเบกษาต่อไป
หมู่บำ้ น
• ตาม พ.ร.บ. ลกั ษณะปกครองทอ้ งท่ี พระพทุ ธศกั ราช ๒๔๕๗ หม่บู า้ นเป็นหน่วยการปกครองในสว่ น
ภมู ิภาคท่มี ขี นาดเลก็ ท่สี ดุ
• ถา้ เป็นท่มี ีคนอยูร่ วมกนั มาก ถงึ จานวนบา้ นนอ้ ย ใหถ้ อื เอาจานวนคนเป็นสาคญั ประมาณราว ๒๐๐
คนเป็นหม่บู า้ นหน่ึง
• ถา้ เป็นท่ผี ูค้ นตง้ั บา้ นเรอื นอยู่หา่ งไกลกนั ถงึ จานวนคนนอ้ ยถา้ และจานวนบา้ นไม่ตา่ กว่า ๕ บา้ นแลว้
จะจดั เป็นหม่บู า้ นหน่ึงกไ็ ด้
• ในหม่บู า้ นหน่ึง ใหม้ ีผูใ้ หญ่บา้ นคนหน่ึง และมผี ูช้ ่วยผูใ้ หญ่บา้ นฝ่ ายปกครอง หม่บู า้ นละสองคน เวน้
แตห่ ม่บู า้ นใดมคี วามจาเป็นตอ้ งมีมากกวา่ สองคน ใหข้ ออนุมตั ิกระทรวงมหาดไทย
ระเบยี บบริหำรรำชกำรสว่ นทอ้ งถ่นิ
ระเบียบบริหารราชการส่วนท้องถนิ่
⚫ ได้แก่ องค์การปกครองส่วนท้องถน่ิ ในรูปแบบต่าง ๆ
เช่น องค์การบริหารส่วนจงั หวดั เทศบาล องค์การ
บริหารส่วนตาบล เมอื งพทั ยา กรุงเทพมหานคร
⚫ เป็ นลกั ษณะทรี่ ัฐเปิ ดโอกาสให้มีการปกครองตนเอง
⚫ โดยมกี ารเลอื กต้ังขน้ึ เองในท้องถน่ิ น้ันเพ่ือให้มาทา
หน้าทใ่ี นการดาเนินกจิ การและบริหารท้องถิ่นน้ัน ๆ
⚫ ใช้หลกั การกระจายอานาจ
ประวตั กิ ารปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ของไทย
• การปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในประเทศไทยเร่มิ ตน้ ตง้ั แต่
รชั กาลท่ี 5
• ใน ร.ศ.124 ( พ.ศ.2448) มีการจดั ตง้ั คณะกรรมการ
สขุ าภบิ าลตลาดท่าฉลอมข้ึนเป็ น องคก์ ารปกครองสว่ น
ทอ้ งถน่ิ แหง่ แรก
ประวตั กิ ารปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ของไทย
• พ.ศ.2496 มกี ารตราพระราชบญั ญตั สิ ขุ าภบิ าลข้ึน
• พ.ศ .2498 มีการตราพระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ ารราชการสว่ น
จงั หวดั ข้ึน ทาใหเ้ กดิ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั
• พ.ศ. 2518 มกี ารตรา พ.ร.บ.ระเบียบบรหิ ารกรุงเทพมหานคร
• พ.ศ.2521 มีการตรา พ.ร.บ.ระเบยี บบรหิ ารเมอื งพทั ยา
ประวตั กิ ารปกครองสว่ นทอ้ งถ่นิ ของไทย
• พ.ศ.2537 มกี ารตรา พ.ร.บ.สภาตาบลและองคก์ ารบรหิ ารสว่ น
• ตาบลข้ึน
• พ.ร.บ.องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั พ.ศ.2540
พ.ศ.2542 พระราชบญั ญตั เิ ปลย่ี นแปลงฐานะของสขุ าภบิ าล
เป็นเทศบาล พ.ศ. ๒๕๔๒
รูปแบบการปกครองท้องถน่ิ 6 รูปแบบ
⚫ องค์การบริหารส่วนจงั หวัด(อบจ.)
⚫ เทศบาล
⚫ สุขาภิบาล
⚫ กรุงเทพมหานคร
⚫ เมืองพทั ยา
⚫ องค์การบริหารส่วนตาบล (อบต.)
องคก์ ารบรหิ ารสว่ นจงั หวดั (อบจ.)
• เป็นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ท่มี ีขนาดใหญ่ท่สี ดุ มจี งั หวดั ละ 1 แหง่ ยกเวน้
กรุงเทพมหานคร
• อบจ. จงึ ตง้ั ข้ึนเพอ่ื บรหิ ารกจิ การในเขตจงั หวดั และช่วยพฒั นางานของเทศบาลและ อบต.
• จดั สรา้ งระบบสาธารณูปโภคท่เี ทศบาลและ อบต. ไม่สามารถทาได้ เน่ืองจากขาด
งบประมาณ เช่น จดั ใหม้ ีท่อบาบดั น้าเสยี ประปาหมู่บา้ น
• อบจ. มหี นา้ ท่ใี นการจดั บรกิ ารสาธารณะใหป้ ระชาชนอยา่ งทวั่ ถงึ เช่นเดยี วกบั อบต. และ
เทศบาล
เทศบาล
• เทศบาล เป็นองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ ในเขตชมุ ชนเมือง
• แบ่งไดเ้ ป็น 3 ประเภท คอื เทศบาลตาบล เทศบาลเมือง และเทศบาลนคร ทง้ั น้ีข้ึนอยู่กบั จานวน
ประชากรในทอ้ งถ่นิ ความเจรญิ ทางเศรษฐกจิ หรอื รายไดใ้ นทอ้ งถน่ิ
• การพฒั นาความเจรญิ ในทอ้ งถ่นิ เช่น อาเภอหาดใหญ่ เดิมเป็นเทศบาลเมอื งหาดใหญ่ ต่อมา
ยกระดบั เป็นเทศบาลนครหาดใหญ่ เพราะมีการขยายตวั ทง้ั ประชากร รายได้ และความเจรญิ เป็น
ตน้