The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิธีการแก้ปัญหาการมาโรงเรียนสายชองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Sayamon Sawasdee, 2023-01-16 04:20:50

วิธีการแก้ปัญหาการมาโรงเรียนสายชองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

วิธีการแก้ปัญหาการมาโรงเรียนสายชองนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5

ชื่อรายงายการศึกษาค้นคว้า วิธีการแก้ปัญหสการมาโรงเรียนสายของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โดย นางสาวณภัทร อัศวมีคุณ เลขที่ 3 นางสาวธัญญมณี โชคด าเกิง เลขที่ 4 นางสาวมณัชชา หงษาค า เลขที่ 5 นางสาวศยามล สวัสดี เลขที่ 6 นางสาวภัทราวดี จันทวดี เลขที่ 29 นางสาวศศิธร แซ่แต้ เลขที่ 30 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ห้อง 4 รายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการนี้เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชา I30202 การสื่อสารและการน าเสนอ (IS1) ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์


ชื่อรายงายการศึกษาค้นคว้า วิธีการแก้ปัญหสการมาโรงเรียนสายของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โดย นางสาวณภัทร อัศวมีคุณ เลขที่ 3 นางสาวธัญญมณี โชคด าเกิง เลขที่ 4 นางสาวมณัชชา หงษาค า เลขที่ 5 นางสาวศยามล สวัสดี เลขที่ 6 นางสาวภัทราวดี จันทวดี เลขที่ 29 นางสาวศศิธร แซ่แต้ เลขที่ 30 ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ห้อง 4 รายงานการศึกษาค้นคว้าเชิงวิชาการนี้เป็ นส่วนหนึ่งของรายวิชา I30202 การสื่อสารและการน าเสนอ (IS1) ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์


ก ชื่อโครงงาน วิธีการแก้ปัญหาการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่5 ผู้จัดท า 1.นางสาวณภัทร อัศวมีคุณ ช้นัม.5/4เลขที่ 3 2.นางสาวธัญญมณี โชคด าเกิง ช้ นัม.5/4เลขที่ 4 3.นางสาวมณัชชา หงษาค า ช้นัม.5/4เลขที่ 5 4.นางสาวศยามล สวัสดี ช้นัม.5/4เลขที่ 6 5.นางสาวภัทราวดี จันทวดีช้น มั.5/4 เลขที่ 29 6.นางสาวศศิธร แซ่แต้ ช้นัม.5/4 เลขที่ 30 ครูที่ปรึกษา คุณครูปภาวรินทร์ กิตติอมรพงศ์ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 สถานศึกษา โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ บทคัดย่อ การจดัทา โครงงานคร้ังน้ีมีวตัถุประสงคเ์พื่อศึกษาและวิเคราะห์และแกไ้ขพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของ นักเรียนโรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถมัภ์กลุ่มตวัอยา่งเป็นนกัเรียนระดบัช้นัมธัยมศึกษา ปี ที่ 5 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จ านวน 55 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาคือ การ ท าแบบสอบถามเพื่อให้นักเรียนกลุ่มตัวอย่างตอบค าถามถึงสาเหตุการมาโรงเรียนสาย ผลจากการส ารวจพบว่า สาเหตุที่ท าให้เกิดปัญหาการมาโรงเรียนสายส่วนใหญ่อยู่ในระดับปานกลาง สาเหตุที่ท าให้เกิดปัญหามากที่สุด คือการใช้เวลาในการท ากิจวัตรประจ าวันตอนเช้า รองลงมาคือ การจราจรติดขัด และน้อยที่สุดคือ อุบัติเหตุบน ท้องถนน


ข กิตติกรรมประกาศ โครงานน้ีสา เร็จลุล่วงไดด้ว้ยความกรุณาจากอาจารยป์ภาวรินทร์กิตติอมรพงศ์อาจารยท์ ี่ปรึกษา โครงงานที่ได้ให้ค าเสนอแนะ แนวคิด ตลอดจนแก้ไขข้อบกพร่องต่าง ๆ มาโดยตลอด จนโครงงานเล่มน้ีเสร็จ สมบูรณ์ ผู้ศึกษาจึงขอกราบขอบพระคุณเป็ นอย่างสูง ขอบคุณเพื่อนๆ ช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5 ที่ไดใ้หค้วามร่วมมือในการทา แบบสา รวจ ทา ใหโ้ครงงานเล่มน้ี เสร็จสมบูรณ์ ผู้ศึกษาจึงขอกราบขอบพระคุณเป็ นอย่างสูง


ค สารบัญ หน้า บทคัดย่อ ก กิตติกรรมประกาศ ข สารบัญ ค บทที่ 1 บทน า 1 ที่มาและความส าคัญของการศึกษาค้นคว้า 1 บทที่ 2 เอกสารและรายงานการศีกษาที่เกี่ยวข้อง 3 บทที่ 3 วิธีด าเนินการศึกษา 7 บทที่ 4 ผลการศึกษา 10 บทที่5 สรุปผลอภิปรายผล และข้อเสนอแนะ 14 บรรณานุกรม 16 ภาคผนวก 17


บทที่ 1 บทน า ที่มาและความส าคัญของรายงานการศึกษาค้นคว้า จากระเบียบโรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒารามในพระบรมราชินูปถัมภ์ว่าด้วยคะแนนความประพฤตินักเรียน พ.ศ. 2564 ว่าด้วยเรื่องการเรียนการร่วมกิจกรรมในโรงเรียนระบุไว้ว่า หากนักเรียนมาไม่ทันเข้าแถวเคารพธง ชาติทุกๆ 3คร้ังจะถูกตดัคะแนนเป็นจา นวน 5คะแนน โดยต้ งัแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงเดือนกรกฎาคม มีปัญหา การมาโรงเรียนสายของนักเรียน จากสถิติจากรายงานของกิจการนักเรียน เป็ นร้อยละ 81.23 จากปัญหาที่พบ ทางกลุ่มเราคิดว่าสาเหตุหลกัของการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5คือ พฤติกรรมของแต่ละบุคคล เช่น ใช้สื่ออิเล็กทรอนิกส์ในตอนกลางคืน การพูดคุยโทรศัพท์จนดึก เล่นเกมส์ เป็ น ตน้การมาโรงเรียนสายของนกัเรียนช้นัมธัยมศกึษาปีที่5 ในการแก้ปัญหาพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนักเรียนต้องศึกษาสาเหตุการมาโรงเรียนสายของ นกัเรียนระดบัช้ นัมธัยมศกึษาปีที่5และเสนอวิธีการแกป้ ัญหาในดา้นต่างๆ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อศึกษาปัญหาการมาโรงเรียนสาย 2. เพื่อส ารวจจ านวนนักเรียนที่มาสายในแต่ละวัน 3. เพื่อแก้ไขปัญหานักเรียนมาสาย สมมติฐาน 1. วิธีการเดินทางมาโรงเรียนส่งผลต่อการมาสาย 2. การเข้านอนและตื่นนอนส่งผลต่อการมาสาย 3. สภาพอากาศส่งผลต่อการมาสาย ขอบเขตของการด าเนินงาน ศึกษาการมาสายของนกัเรียนโรงเรียนสตรีวดัมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถมัภ์ระดบัช้ นั มัธยมศึกษาปี ที่ 5


ประโยชน์ของการศึกษาค้นคว้า 1. ไดศ้ึกษาโครงงานเรื่องปัญหาการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนระดบัช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5 2. นกัเรียนระดบัช้ นมัธยมศึกษาปี ที่ ั 5 มาสายน้อยลง 3.ศึกษาพฤตกิรรมการมาสายของนกัเรียนระดบัช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5


บทที่ 2 เอกสารและรายงานที่เกี่ยวข้อง ในงานวิจยัคร้ังน้ีคณะผู้จัดท าไดศ้ึกษาเอกสารและงานวจิยัที่เกี่ยวขอ้งและไดน้า เสนอตามหวัขอ้ต่อไปน้ี 1.ระเบียบปฏิบตัิของนกัเรียนเกี่ยวกบัการมาโรงเรียนสาย 2.ผลกระทบจากการมาเรียนสาย 3.งานวิจัยที่เกี่ยวขอ้ง 1.ระเบียบปฏิบัติของนักเรียนเกี่ยวกับการมาโรงเรียนสาย ใหย้ดึถือวา่เมื่อธงชาติข้ึนสู่ยอดเสาเรียบร้อยแลว้ถือวา่มาสาย ซ่ึงมีแนวปฏิบตัิดงัน้ี 1.1 พบครูที่ตรวจเช็คนักเรียนมาสาย ลงชื่อในสมุดบนัทึกการมาสายดว้ยตนเอง ใหต้รงกบัช่องและ ระดบัช้นัของตนเอง 1.2รวมกลุ่มเขา้แถวพร้อมกนั ในจุดที่กา หนด ร้องเพลงชาติสวดมนต์สงบนิ่ ง กล่าวคา ปฏิญาณ เหมือนกิจกรรมหนา้เสาธงทุกประการ 1.3 รับการอบรมจากครูเวรประจ าวัน 1.4 ทา กิจกรรมตามที่ครูเวรประจา วนักา หนด เช่น เกบ็กวาดขยะ หรืออื่นๆ 1.5แยกแถวเขา้หอ้งเรียนหลงัจากกิจกรรมหนา้เสาธงเสร็จสิ้ นแลว้ 1.6 จะต้องถูกด าเนินการตามมาตรการของระเบียบการมาสาย 2. ผลกระทบจากการมาเรียนสาย สามารถแบ่งออกเป็น 3กลุ่ม คือ 2.1 ตนเอง 2.1.1 มีปัญหาทางด้านการเรียน 2.1.2เดก็ขาดความเป็นระเบียบวนิยัตรงต่อเวลา


2.1.3ไม่ไดร้ับข่าวสารจากทางโรงเรียน 2.1.4 ถูกอาจารย์ต าหนิ 2.2 ครอบครัว 2.2.1เมื่อเดก็มาโรงเรียนสายบ่อยคร้ังผปู้กครองกจ็ะถูกเรียกมาโรงเรียน 2.2.2ผปู้กครองมีความกงัวลในการมาโรงเรียนของนกัเรียน 2.3 สงัคม/สิ่งแวดลอ้ม 2.3.1การเรียนไม่ค่อยมีการพฒันา 2.3.2 ขาดมาตรฐานเรื่องความมีระเบียบวินัย 3. งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง อาจารยอ์ินทิรา หุตะนาวิน (2560) เรื่องการศึกษาความสมัพนัธ์ระหวา่งจิตสา นึกความรับผดิชอบกบั พฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนกัเรียน : มีวตัถุประสงคเ์พื่อศึกษาความสมัพนัธ์ระหวา่งจิตสา นึกความ รับผดิชอบกบัพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนวิทยาลยัเทคโนโลยอีรรถวิทยพ์าณิชยการและหา วิธีแกไ้ข ปัญหาการมาโรงเรียนสายของนกัเรียน ส่งเสริมและปลูกฝังใหนักเรียนเป็ นผู้มีระเบียบวินัยมีความ ้ ซื่อสตัย์สุจริต และมีความรับผดิชอบในการพฒันาตนเองใหเ้ป็นคนตรงต่อเวลา เพื่อปลูกฝังใหน้กัเรียนปฏิบตัิ ตามระเบียบของโรงเรียนอยา่งเคร่งครัด และเพื่อวิเคราะห์สภาพปัญหาการมาสายของนกัเรียน และนา ขอ้มูลที่ ไดม้าจากกลุ่มตวัอยา่งจา นวน 10คน โดยเครื่องมือที่ใชใ้นการเกบ็รวบรวมขอ้มูลคือแบบสอบถาม เรื่อง พฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนกัเรียน วิทยาลยัเทคโนโลยอีรรถวิทยพ์าณิชยการมาวิเคราะห์ปัญหาต่าง ๆ ที่ เกิดข้ึนวา่เกิดข้ึนโดยสาเหตุใด แลว้มีผลเสียต่อตนเองอยา่งไรและนา ขอ้มูลเหล่าน้ีมาพิจารณาหาวิธีปรับเปลี่ยน พฤติกรรมการมาโรงเรียนสาย และท าให้ผู้ท าเครื่องมือวิจัยตระหนักถึงผลเสียมากมายของการมาโรงเรียนสาย โดยกา หนดใหส้ถานที่เกบ็รวบรวมขอ้มูลการติดต่อประสานกบัผปู้กครองเรื่องการมาสายของนกัศึกษาเป็น รายบุคคล คือ วิทยาลัยเทคโนโลยี อรรถวิทย์พาณิชยการ ด้วยการคิดค านวณเป็ นร้อยละแล้วน ามาจัดท าเป็น แผนภูมิและสรุปผลการวิจยัไดว้า่สาเหตุที่นกัเรียน มาสายมากที่สุด คือ บา้นอยไู่กล ตื่นสายรองลงมาคือ ติด ธุระและรอรับเพื่อน มีความถี่ในการมาโรงเรียนสายมากที่สุด คือ มาโรงเรียนสายนอ้ยกวา่2คร้ังต่อเดือน รองลงมาคือการมาโรงเรียนสายมากกวา่2–3คร้ังต่อเดือนและมาโรงเรียนสาย 2-3คร้ังต่อเดือน โดยผลเสียของ การมาโรงเรียนสายที่นกัเรียนคิดวา่มากที่สุด คือ ทา ใหเ้ขา้เรียนไม่ทนัรองลงมาคือการที่ไม่สามารถรับข่าวสาร


ของทางโรงเรียนในช่วงเชา้ได้และโดนทา โทษหกัคะแนนพฤติกรรม ทา ใหโ้ดนเช็คชื่อในใบรายชื่อนักเรียน ที่มาโรงเรียนสาย และท าให้เสียการเรียน ตามลา ดบัซ่ึงขอ้มูลเหล่าน้ีจะมีประโยชนท์ ้ งัต่อตวัของนกัเรียนเองและ มีประโยชน์ต่อครูดว้ย จนัทนากาญจน์กมล(2553) เรื่องการปรับพฤติกรรมของนกัศึกษาที่ขาดเรียนบ่อยวิชาวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยกีบัคุณภาพชีวิตมหาวิทยาลยัราชภฏัสวนสุนนัทา ประจา ภาคเรียนที่1/53:การวิจยัคร้ังน้ีมี วตัถุประสงคเ์พื่อหาสาเหตุของการขาดเรียน และการหาแนวทางแกป้ ัญหาการขาดเรียนของนกัศึกษาที่ ลงทะเบียนเรียนวิชาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยกีบัคุณภาพชีวิต ในภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา2553กลุ่มตวัอยา่ง ที่ศึกษาเป็นนกัศึกษาช้ นั ปีที่1คณะวิทยาการจดัการและคณะมนุษยศาสตร์และสงัคมศาสตร์กลุ่มตวัอยา่งเป็น นกัศึกษาจา นวน 122คน ที่ขาดเรียนอยา่งนอ้ย1คร้ัง เครื่องมือในการวจิยั ไดแ้ก่แบบสอบถามและการ สัมภาษณ์ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ คือ การหาร้อยละ การหาค่าเฉลี่ยและ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ผลการวิจยั พบวา่จากการบรรยายจา นวน 4คร้ัง มีนกัศึกษาไม่เขา้ช้ นัเรียน 1,2,3และ4คร้ัง เป็นร้อยละ20.03,5.30,2.17 และ6.00 ดามลา ดบัสาเหตุของการขาดเรียน มาจากปัจจยัหลายอยา่งไดแ้ก่ปัญหาการจราจรติดขดัเวลาเขา้ เรียนในชวั่โมงแรกเร็วเกินไป ระยะเวลาชวั่โมงเรียน และช่วงรอเรียนวชิาต่อไปนานเกินไป ผลจากการวิจยัน้ีจะ สามารถนา ไปใชใ้นการแกป้ ัญหาการไม่เขา้ข้ นัเรียนของนกัศึกษาและยงัมีขอ้เสนอแนะเกี่ยวกบัวิธีการลด จา นวนนกัศึกษาที่ไม่เขา้ช้นัเรียน นายเอกชัย ใจเมคา (2558) เรื่อง ศึกษาความสมัพนัธ์ของปัจจยัที่มีผลต่อการมาสายของนกัศึกษา ภาค เรียนที่2 ปีการศึกษา2558วิทยาลยัเทคโนโลยพีายพัและบริหารธุรกิจ: งานวจิยัเรื่องศึกษาความสมัพนัธ์ของ ปัจจยัที่มีผลต่อการมาสายของนกัศึกษาวทิยาลยัเทคโนโลยพีายพัและบริหารธุรกิจ ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา 2558 โดยมีวัตถุประสงค์การวิจัย 1.ศึกษาสาเหตุที่ท าให้นักศึกษามาสายเป็ นประจ า 2.เพื่อศึกษาความสมัพนัธ์ของปัจจยัที่มีผลต่อการมาสาย กลุ่มตวัอยา่งที่ใชใ้นการวิจยัคร้ังน้ีผวู้ิจยัเลือกวิธีการสุ่มตวัอยา่งแบบเจาะจง(Purposive Samping) โดยพิจารณา จากสถิติการมาสายหลงัเวลา8.00 น.ของส่วนงานกิจการนกัศึกษาวิทยาลยัเทคโนโลยพีายพัและบริหารธุรกิจ ระหวา่งเดือนพฤศจิกายน 2558 -กมุภาพนัธ์2559โดยพิจารณาจากจา นวนคร้ังที่มาสายโดยเฉลี่ยอยา่งนอ้ย1 คร้ัง ต่อ สปัดาห์โดยนกัศึกษากลุ่มตวัอยา่งน้ีผวู้ิจยัถือวา่เป็นกลุ่มที่มีปัญหาเรื่องการมาสายโดยแบ่งเป็น นักศึกษาระดับปวช.จ านวน 26 คน และปวส.จ านวน 7คน รวมท้ งัหมด 33คน เครื่องมือที่ใชใ้นการวิจยั ไดแ้ก่ แบบสอบถามเพื่อศึกษาความสมัพนัธ์ของปัจจยัที่มีผลต่อการมาสายของนกัศึกษา ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2558วิทยาลยัเทคโนโลยพีายพัและบริหารธุรกิจ สถิติที่ใชใ้นการวิเคราะห์ขอ้มูลไดแ้ก่ค่าเฉลี่ยส่วนเบี่ยงเบน


มาตรฐาน ผลการวิจยัพบวา่จากผลการศึกษาความสมัพนัธ์ของปัจจยัที่มีผลต่อการมาสายของนกัศึกษาวทิยาลยั เทคโนโลยพีายพัและบริหารธุรกิจ ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2558 พบวา่สาเหตุที่ทา ใหน้กัศึกษามาเรียนสาย แบ่งออกมาเป็น 4 ดา้น ไดแ้ก่ปัจจยัดา้นสงัคม และสภาวะแวดลอ้มสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อนกัศึกษาคือเรื่องการ เดินทางของนกัศึกษา ปัจจยัดา้นพฤติกรรมส่วนบุคคล สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อนกัศึกษาคือเรื่องการที่นักศึกษาตื่น สาย ปัจจยัดา้นอาจารยผ์สู้อน สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อนกัศึกษาคือเรื่องอาจารยผ์สู้อนจดักิจกรรมการเรียนการ สอนไม่น่าสนใจ ปัจจยัดา้นครอบครัว สิ่งที่ส่งผลกระทบต่อนกัศึกษาคือเรื่อง นกัศึกษามีปัญหาดา้นการเงิน


บทที่ 3 วิธีการด าเนินการ ในการจดัทา โครงงานเรื่องการศึกษาวิธีการแกป้ ัญหาการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนระดบัช้นั มัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ คณะผู้จัดท าโครงงานมีวิธีการ ดา เนินงานโครงงาน ดงัน้ี 1. ขอบเขตที่ในการศึกษา 2. ข้ นัตอนในการศึกษา 3. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 4. การสร้างเครื่องมือ 5. การเก็บรวบรวมข้อมูล 6. การวิเคราะห์ข้อมูล 7. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล 1. ขอบเขตที่ใช้ในการศึกษา 1.1 ขอบเขตการศึกษาด้านเนื้อหา พฤติกรรมการมาโรงเรียนของนักเรียนในช้นัมธัยมศึกษาปีที่ 5 1.2 ขอบเขตการศึกษาด้านประชากรกลุ่มตัวอย่าง นักเรียนโรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ จ านวนรวม 55 คน 1.3 ขอบเขตการศึกษาด้านระยะเวลา พฤษภาคม 2565 –กรกฎาคม 2565


2.ขั้นตอนในการศึกษา 2.1 ก าหนดหัวข้อในการศึกษา 2.2 ศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลที่เกี่ยวกับหัวข้อในการศึกษา 2.3 ท าแบบสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุในการมาโรงเรียนสาย 2.4รวบรวมขอ้มูลท้งัหมดที่ไดจ้ากการศึกษาและทา แบบสอบถาม 2.5 วิเคราะห์ข้อมูลที่ได้จากการศึกษาค้นคว้า และท าแบบสอบถาม 2.6 สรุปผลที่ได้จากการวิเคราะห์ข้อมูล 2.7 น าเสนอ 3. เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า การท าแบบสอบถาม เป็นการเก็บรวบรวมข้อมูลต่างๆ ได้แก่ ตอนที่ 1ข้อมูลส่วนบุคคล ตอนที่ 2แบบสอบถามเกี่ยวกับสาเหตุในการมาโรงเรียนสาย ลักษณะค าถามเป็นแบบ เลือกตอบ ให้ผู้ตอบเลือกค าตอบได้เพียงข้อเดียวในแต่ละข้อ โดยก าหนดเกณฑก์ารให้น้ า หนกัของ คะแนนของตวัเลือกในแต่ละช่วง ดงัน้ี ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 5 นักเรียนมีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายมากที่สุด 4 นักเรียนทีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายมาก 3 นักเรียนมีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายปานกลาง 2 นักเรียนมีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายน้อย 1 นักเรียนมีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายน้อยที่สุด เกณฑ์การแปลความหมายจากการให้คะแนนดังกล่าว แบ่งคะแนนเป็น 5ระดับ


ระดับคะแนน เกณฑ์การให้คะแนน 5 มีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายมากที่สุด 4 ทีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายมาก 3 มีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายปานกลาง 2 มีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายน้อย 1 มีระดับที่ส่งผลต่อการมาสายน้อยที่สุด 4. การสร้างเครื่องมือ Google form 5. การเก็บข้อมูล การศึกษาคร้ังน้ีไดจ้ดัทา โดยการนา แบบสอบถามที่สร้างข้ึนให้นกัเรียนกลุ่มตวัอย่างในระดบัช้นั มัธยมศึกษาปี ที่ 5 ห้องละ 5คน รวมเป็นจ านวน 55คน และเก็บรวบรวมข้อมูลจากนักเรียนที่เป็นกลุ่มตัวอย่าง โดยผู้ศึกษาท าการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง 6. การวิเคราะห์ข้อมูล น าสถิติการมาสายท้งัหมดมารวมคิดหาค่าเฉลี่ย เเละค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 7. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล สถิติที่ใชใ้นการศึกษาคร้ังน้ีคือการหาค่าเฉลี่ยคิดเป็นร้อยละ


บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล การน าเสนอผลการวิเคราะห์ข้อมูลการศึกษาค้นคว้าเรื่อง การศึกษาการแก้ปัญหาการมาโรงเรียนสาย ของนกัเรียนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่5โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ได้น าเสนอผล การวิเคราะห์ 2 ตอน ดงัน้ี ตอนที่ 1 เป็นผลการวิเคราะห์เกยี่วกบัข้อมูลทั่วไปของนักเรียนของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ 5 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตารางที่ 1.1จ านวนและร้อยละของกลุ่มนักเรียน จ าแนกตามห้อง ( n = 55 ) ห้อง จ านวน (คน) ร้อยละ 5/1 5 9.09 5/2 5 9.09 5/3 5 9.09 5/4 5 9.09 5/5 5 9.09 5/6 5 9.09 5/7 5 9.09 5/8 5 9.09 5/9 5 9.09 5/10 5 9.09 5/11 5 9.09 รวม 55คน 100


จากตารางข้อมูล 1.1 มีขอ้สังเกตในเบ้ ืองตน้เกี่ยวกบัตวัแปรสา คญัที่อาจจะมีอิทธิพลต่อการมาโรงเรียน สายของนกัเรียนระดบัช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์ ตารางที่ 1.2จ านวนและร้อยละของกลุ่มนักเรียน จ าแนกตามเขตที่อยู่อาศัย เขตที่อยู่อาศัย จ านวน (คน) ร้อยละ ในเขตพ้ ืนที่ 33 60 นอกเขตพ้ ืนที่ 22 40 รวม 55คน 100 จากตารางข้อมูล 1.2จากตารางขอ้มูลจะไดว้า่นกัเรียนกลุ่มตวัอยา่งส่วนใหญ่อาศยัอยใู่นเขตพ้ืนที่คือ เขตบางรัก เขตสัมพันธวงศ์ และเขตปทุมวัน ซึ่งคิดเป็ นร้อยละ60 รองลงมาคือเขตนอกพ้ืนที่ไดแ้ก่ เขตยานนาวา ตลิ่ งชัน สาทร บางคอแหลม คลองเตย ป้อมปราบ บางโคล่คลองสาน หนองแขม พญาไท คลองหลวง หลักสี่ ซึ่งคิดเป็ นร้อยละ40 ตอนที่ 2ผลการวิเคราะห์ขอ้มูลเกี่ยวกบัการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่5 โรงเรียนสตรีวัดมหาพฤฒาราม ในพระบรมราชินูปถัมภ์


ตารางที่ 2.1 ตารางแสดงสาเหตุในการมาโรงเรียนสายโดยหาค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และค่าเบี่ยงเบน มาตรฐานของสาเหตุการมาโรงเรียนสายของนกัเรียนระดบัช้นัมธัยมศึกษาปีที่5 ที่ สาเหตุ ระดับ (คน) ̅ S.D. ระดับที่ ส่งผล ต่อการ มาสาย มาก ล าดับ ที่สุด (5) มาก (4) ปาน กลาง (3) น้อย (2) น้อย ที่สุด (1) 1 ตื่นสาย 16 9 10 6 14 3.12 1.57 ปาน กลาง 3 2 ระยะทาง จากบ้านมา โรงเรียน ไกล 8 10 16 12 9 2.92 1.28 ปาน กลาง 4 3 สภาพ อากาศ 3 9 22 8 13 2.65 1.17 ปาน กลาง 6 4 การจราจร ติดขัด 14 15 17 6 3 3.56 1.15 มาก 2 5 อุบัติเหตุ บนท้อง ถนน 2 1 12 14 26 1.89 1.04 น้อย 7 6 ใช้เวลาใน การท า กิจวัตรตอน เช้า 24 7 14 6 4 3.74 1.32 มาก 1 7 ต้องรอ ผู้ปกครอง ไปส่งที่ โรงเรียน 8 10 10 12 15 2.70 1.42 ปาน กลาง 5 รวม 2.94 1.28 ปานกลาง


จากตารางข้อมูล 2.1 ผลจากการวิเคราะห์พบว่าสาเหตุที่ท าให้เกิดปัญหาการมาโรงเรียนสายส่วนใหญ่อยู่ ในระดับปานกลาง สาเหตุที่ท าให้เกิดปัญหามากที่สุดคือ รายการที่ 6 การใช้เวลาในการท ากิจวัตรประจ าวัน ตอนเช้า รองลงมาคือ รายการที่ 4 การจราจรติดขัด และน้อยที่สุดคือ รายการที่ 5 อุบัติเหตุบนท้องถนน


บทที่ 5 สรุปตามวัตถุประสงค์ สาเหตุของการมาเรียนสายส่วนใหญ่ คือ ใช้เวลาในการท ากิจวัตรตอนเช้า รองลงมา คือ การจราจร ติดขดัทา ให้เพิ่ มสถิติการมาสายเพิ่ มข้ึนทุกวนัและทา ใหน้กัเรียนถูกตดัคะแนนความประพฤติการตรงต่อเวลา ถือวา่เป็นสิ่งสา คญั ในการเขา้ร่วมสังคม การมาสายจึงไม่ควรจะเกิดข้ึน ควรจะตรงต่อเวลา ดงัน้นัขอ้มูลเหล่าน้ีจึงเป็นประโยชน์ต่อครูและนกัเรียนในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการมาสายใหล้ด น้อยลง และสถิติการมาสายก็จะลดไป มีประโยชน์ต่อตนเองและสังคมในเรื่องระเบียบวินัย และการหาวิธีที่จะ ช่วยให้สถิติการมาสายของนักเรียนน้อยลง อภิปรายผลการวิจัย จากการสา รวจโดยใชแ้บบสอบถามเป็นเครื่องมือโดยกลุ่มตวัอยา่งคือนกัเรียนช้ นัมธัยมศึกษาปีที่5 หอ้ง ละ5คน เป็นจา นวนท้ งัหมด 55คน ในการตอบแบบสอบถาม พบวา่ นักเรียนมัธยมศึกษาปี ที่ 5 ที่มาโรงเรียน สายส่วนใหญ่อาศยัอยใู่นเขตพ้ ืนที่ซ่ึงคิดเป็นร้อยละ60รองลงมาคือนอกเขตพ้ ืนที่คิดเป็นร้อยละ40และเหตุผล ที่ท าให้นักเรียนมัธยมศึกษาปี ที่ 5 มาสายมากที่สุด คือ ใช้เวลาในการท ากิจวัตรตอนเช้า รองลงมา คือ การจราจร ติดขัด และสาเหตุสุดท้าย คือ อุบัติเหตุทางท้องถนน ข้อเสนอแนะ 1.ควรตกัเตือนนกัเรียนที่มาสายเพราะใชเ้วลาในการทา กิจวตัรตอนเชา้และตื่นสายใหต้ื่นเชา้ข้ึนเพื่อทา กิจวตัร ตอนเช้าให้ทันเวลา 2.ควรอนุโลมให้นักเรียนที่มาสายด้วยสาเหตุจ าเป็ นไม่โดนหักคะแนน เช่น มาสายเพราะอุบัติเหตุบนท้องถนน หรือมาสายเพราะสภาพอากาศ แต่ต้องมีหลักฐานยืนยันว่าส่งผลต่อการมาสายจริงๆ 3.จัดกิจกรรมเข้าค่ายเกี่ยวกับเรื่องระเบียบวินัย


4.ผู้ปกครองต้องดูแลเอาใส่ใจในการรับ-ส่งนกัเรียนมากข้ึนและควรประมาณเวลาที่ใชใ้นการเดินทางมา โรงเรียนให้ตรงเวลา


บรรณานุกรม “การศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างจิตสานึกความรับผิดชอบกับพฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนักเรียน” (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก: https://shorturl.asia/H57dP, สืบค้น 28 สิงหาคม 2565. “พฤติกรรมการมาโรงเรียนสายของนักเรียนโรงเรียนบ้านหมอ พัฒนานุกูล” (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://blogstudent52003.blogspot.com/2014/03/1-5-8-10-12-13-5-2-2-2556-2556-120-1-1.html?m=1, สืบค้น 28 สิงหาคม 2565 “การส ารวจการเข้าเรียนสาย” (ออนไลน์). เข้าถึงได้จาก : http://www.payaptechno.ac.th/app/images/payap/vijai-2558/vijaichanrean/vijaichanrean-34.pdf, สืบค้น 28 สิงหาคม 2565


ภาคผนวก แบบประเมินผลออนไลน์ (Google form)


ภาคผนวก แบบประเมินผลออนไลน์ (Google form)


Click to View FlipBook Version