สรุปเน้ือหา . แบบฝึกหัด
วิทยาศาสตร์โลก
5
โครงสรา้ งภายในโลก
EARTH’S INTERIOR
สันติ ภัยหลบล้ี
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
วัตถุประสงค์การเรียนรู้
1. เพื่อทาความเข้าใจเกยี่ วกบั คุณสมบตั ิของคลืน่ ทีเ่ ดนิ ทางผา่ นตวั กลาง
2. เพื่อทราบการแบ่งชน้ั ของโลกตามคุณสมบัตทิ างกายภาพ
3. เพอ่ื ทราบการแบ่งชน้ั ของโลกตามคณุ สมบัตทิ างเคมี
สารบญั หน้า
1
สารบญั 2
1. คณุ สมบัติคลนื่ (Wave Property) 5
2. คณุ สมบตั กิ ายภาพของโลก (Physical Property of Earth) 9
3. ความไม่ต่อเนือ่ งภายในโลก (Earth’s Discontinuity) 15
4. คุณสมบัติเคมีของโลก (Chemical Property of Earth) 20
37
แบบฝึกหัด
เฉลยแบบฝกึ หดั
1
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
1
คณุ สมบตั คิ ลื่น
Wave Property
ปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ เปิดเผยว่าโลกนั้นแบ่งออกเป็นช้ันๆ ไม่ได้เป็น
เน้ือเดียวกันทั้งหมด แต่องค์ความรู้น้ีไม่ได้เกิดจากการใช้เคร่ืองมือลงไปสารวจ
เน่ืองจากเทคโนโลยีในปัจจบุ นั ไม่สามารถทาได้ เชน่ การทาเหมืองใตด้ นิ สามารถขุด
ลึกลงไปได้ 3-4 กิโลเมตร ในขณะที่การขุดเจาะน้ามันมีความลึกสูงสุด 6-7
กิโลเมตร นอกจากน้ีจากการศึกษา หินแปลกปลอม (xenolith) ท่ีติดมากับแมก
มาและแข็งตัวกลายเป็นหิน พบว่าหินดังกล่าวอยู่ท่ีระดับความลึก 50-300
กโิ ลเมตร หรือแม้กระท่ังกระบวนการเกดิ หินคิมเบอร์ไลต์ (kimberlite) กพ็ บว่า
มีความลึก 400 กิโลเมตร โดยประมาณ แต่เน่ืองจากโลกมีรัศมี 6,371 กิโลเมตร
ดังนั้นการศึกษาโดยตรงดังที่กล่าวไปข้างต้น จึงทาได้เพียงส่วนพ้ืนผิวของโลก
2
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
เท่าน้ัน อย่างไรก็ตามจากการสังเกต คลื่นไหวสะเทือน (seismic wave) ที่
ตรวจวัดได้จากการเกิดแผ่นดินไหว นักวิทยาศาสตร์พบว่าคล่ืนสามารถเดินทาง
ทะลุผ่านตลอดเน้ือของโลกได้ จึงพยายามศึกษาและทาความเข้าใจองค์ประกอบ
ภายในโลกโดยอาศัยคุณสมบตั พิ น้ื ฐานของคลนื่ ไดแ้ ก่ (ดรู ูป 1 ประกอบ)
1) การหักเห (refraction) เกิดจากการท่ีคลื่นไหวสะเทือนเปลี่ยน
ความเร็ว เม่ือว่ิงผ่านตัวกลางท่ีมคี วามหนาแนน่ แตกต่างกัน โดยคล่ืนจะมีความเร็ว
เพ่ิมข้ึนหรือลดลงเมื่อวิ่งผ่านตัวกลางความหนาแน่นสูงหรือความหนาแน่นต่า ซึ่ง
หากคลื่นเปล่ียนแปลงจากช้าไปเรว็ คลื่นจะเปล่ียนทิศทางแบบเชิดหัวข้ึน (รูป 1ก)
แต่ถา้ เปลีย่ นแปลงจากเรว็ ไปช้าคล่นื จะกดหัวลง (รูป 1ข)
2) การสะท้อน (reflection) เกิดจากคล่ืนสะท้อนนั้นเชิดหัวขึ้นกลับไป
อย่ใู นตัวกลางเดมิ โดยจะให้มุมท่คี ลื่นตกกระทบเท่ากับมุมสะทอ้ น (รูป 1ค)
นอกจากนี้คลื่นไหวสะเทือนยังมีคุณ สมบัติ การกระจายคล่ืน
(diffraction) และ การแทรกสอด (interference) แต่จากการศึกษาพบว่าไม่มี
ความสาคญั มากนกั ในการศึกษาโครงสร้างของโลกในบทน้ี
รูป 1. การหกั เหและการสะท้อนของคล่ืน
3
สันติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
ในอดีตที่ยังไม่มีความรเู้ ร่ืองโครงสร้างภายในโลก นักวิทยาศาสตร์คาดว่า
ถ้าโลกมีเนื้อเดียวกันท้ังก้อน คลื่นไหวสะเทือนควรจะวิ่งออกจากศูนย์กลาง
แผ่นดินไหวเป็นเส้นตรง (รูป 2ก) แต่จากข้อมูลที่ตรวจวัดได้พบว่า คลื่นไหว
สะเทือนมีการหักเหทิศทางและเปลี่ยนแปลงความเร็วหลายครั้งในระหว่างที่ว่ิงเข้า
ไปในโลก (รูป 2ข) นักวิทยาศาสตร์จึงเช่ือว่าโลกไม่น่าจะเป็นเนื้อเดียวกันท้ังหมด
แต่อาจจะมกี ารแยกเป็นชน้ั ของวัสดทุ ีม่ คี วามหนาแนน่ ที่แตกต่างกนั
รูป 2. แบบจาลองการเดินทางของคลนื่ ไหวสะเทอื น (ก) เมื่อโลกมีเนอ้ื เดียวกัน (ข)
เมอ่ื โลกแบ่งเปน็ ชน้ั
4
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
2
คณุ สมบตั กิ ายภาพของโลก
Physical Property of Earth
ดังท่ีกล่าวไปในข้างต้น การเดินทางของคล่ืนไหวสะเทือนซ่ึงสัมพันธ์กับ
คุณสมบัติทางกายภาพ (ความหนาแน่น) ของโลกมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด
ระยะทางของการเดินทางของคล่ืน ดังน้ันเพ่ือท่ีจะแบ่งชั้นต่างๆ ของโลกตาม
คุณสมบัติทางกายภาพ นักวิทยาศาสตรจ์ ึงศกึ ษาคุณสมบัติพืน้ ฐานของการเดนิ ทาง
ของคล่นื ไหวสะเทอื น (การหักเหและสะทอ้ น) และแบ่งโลกได้ 5 ชนั้ ดงั นี้ (รปู 3)
1) ช้ันธรณีภาค (lithosphere) เป็นชั้นนอกสุดของโลก ประกอบด้วย
เปลือกโลก (crust) และส่วนบนสุดของเน้ือโลก (uppermost mantle) ซึ่งมี
คุณสมบัติเย็นและมีสถานะเป็นของแข็ง (rigid) มีความหนารวม 100-300
กโิ ลเมตร โดยในส่วนของเปลอื กโลกน้นั แบ่งย่อยเป็น 2 ประเภท คือ
5
สนั ติ ภยั หลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
▪ เปลือกทวปี (continental crust) สว่ นใหญม่ ีองค์ประกอบโดยรวมเป็น
หินแกรนิต มีความหนาเฉลี่ย 33-35 กิโลเมตร และมีความหนาแน่น 2.7
กรัม/ลบ.ซม.
▪ เปลือกสมุทร (oceanic crust) มีองค์ประกอบโดยรวมเป็นหนิ บะซอลต์
มีความหนาเฉลย่ี 5-8 กิโลเมตร และมีความหนาแนน่ 3 กรัม/ลบ.ซม.
รูป 3. การแบ่งชนั้ ตา่ งๆ ของโลกตามคุณสมบัตทิ างกายภาพ (คล่นื ไหวสะเทอื น)
6
สันติ ภยั หลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
2) ช้ันฐานธรณีภาค (asthenosphedre) รองรับอยู่ใต้ช้ันธรณีภาค มี
คุณสมบัติเป็นพลาสติก (plastic) ประกอบด้วยส่วนท่ีเป็นส่วนล่างของ เน้ือ
โลกตอนบน (upper mantle) มีความหนาเฉลี่ย 350-500 กิโลเมตร มี
คุณสมบัติร้อน (อุณหภูมิประมาณ 600-1,000OC) หนืดและนิ่ม มีความ
หนาแน่นประมาณ 3.3 กรัม/ลบ.ซม. มีการเคล่ือนที่แบบหมุนเวียนด้วยกลไก
การพาความรอ้ น (convection)
3) ช้ันมีโซสเฟียร์ (mesosphere) มีคุณสมบัติเป็นของแข็ง (rigid) มี
ความหนา 500-2,900 กิโลเมตร ประกอบด้วยส่วนท่ีเป็น เน้ือโลกตอนล่าง
(lower mantle) มีความหนาแน่นประมาณ 5.5 กรัม/ลบ.ซม. และมีอุณหภูมิ
เฉลี่ยประมาณ 1,000-3,500 OC
4) แก่นโลกชนั้ นอก (outer core) มีความหนา 2,900-5,150 กิโลเมตร
มีคุณสมบัติเป็นของเหลว (liquid) มีอุณหภูมิสูง 1,000 – 3,500 OC มีความ
หนาแนน่ 10 กรมั /ลบ.ซม. ซ่ึงนักวิทยาศาสตรเ์ ช่อื ว่าน่าจะมอี งคป์ ระกอบเปน็ เหล็ก
ทหี่ ลอมละลาย เนือ่ งจากหลกั ฐานท่ี คล่ืนทุตยิ ภมู ิ (S-wave) ไมส่ ามารถวิ่งผ่านช้ัน
นี้ได้ การหมุนเวียนของมวลเหล็กหลอมเหลวในชั้นน้ี เป็นปัจจัยสาคัญที่ทาให้เกิด
สนามแมเ่ หล็กโลก (earth’s magnetic field)
5) แก่นโลกช้ันใน (inner core) มีองค์ประกอบเป็นเหล็กและนิเกิลใน
สถานะของแข็ง (rigid) ซ่ึงมีอุณหภูมิสูงถึง 5,000 OC มีความหนาแน่น 12 กรัม/
ลบ.ซม. อยู่ระหว่างความลกึ 5,150-6,370 กโิ ลเมตร
จดุ ศูนยก์ ลางโลกลกึ 6,370 กิโลเมตร
7
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
โดยปกติหากพิจารณาเพียงอณุ หภูมิเป็นหลัก แก่นโลกช้ันในควรมีสถานะ
เป็นของเหลวเช่นเดียวกับแก่นโลกช้ันนอก แต่เนื่องจากการเดินทางผ่านได้ของ
คล่ืนทุติยภูมิ ทาให้นักวทิ ยาศาสตร์เชื่อว่าน่าจะมีสถานะเป็นของแขง็ ซึ่งอธิบายได้
ว่า ถึงแม้ว่าแก่นโลกชั้นในจะมีอุณหภูมิสูงกว่าแก่นโลกช้ันนอก แต่หากพิจารณา
ร่วมกับความดันกดทับท่ีสูงขึ้นมากเช่นเดียวกันในแก่นโลกช้ันใน จงึ ทาให้มีสถานะ
เป็นของแขง็
8
สันติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
3
ความไม่ตอ่ เนอื่ งภายในโลก
Earth’s Discontinuity
การแบ่งช้ันต่างๆ ของโลกตามคุณสมบัตทิ างกายภาพ สามารถอธิบายได้
ด้วยการเปล่ียนแปลงทิศทางและการเดินทางของคล่ืนไหวสะเทือน ซึ่งผลจาก
การศึกษาคล่ืนไหวสะเทือน เมื่อเกิดแผ่นดินไหวในแต่ละคร้ังนักวิทยาศาสตร์ตรวจ
พบความไม่ต่อเนื่องของความเร็วของคล่ืนไหวสะเทือนอย่างน้อย 3 รอยต่อ ซึ่ง
ความไม่ต่อเน่ืองเหล่านี้บางส่วนสัมพันธ์กับขอบเขตของชั้นต่างๆ ภายในโลกดังท่ี
อธบิ ายในข้างตน้
1) ความไม่ต่อเน่ืองโมโฮโรวิซิค (Mohorovičić Discontinuity)
ค้นพบโดย แอนดริจา โมโฮโรวิคซิค (Mohorovičić A) นักวิทยาศาสตร์ชาว
9
สันติ ภยั หลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
โครเอเชีย (รูป 4ก) ในปี ค.ศ. 1909 โดยโมโฮโรวิคซิคค้นพบและตรวจวัดคลื่นไหว
สะเทือนทั้งคล่ืนปฐมภูมิและคล่ืนทุติยภูมิได้อย่างละ 2 ชุดจากแผ่นดินไหวเพียง
เหตุการณ์เดียว โดยแต่ละชุดว่ิงมาถึงสถานีตรวจวัด ในเวลาที่แตกต่างกัน โมโฮ
โรวิคซคิ จงึ ตั้งสมมุติฐานว่าคลื่นไหวสะเทือนปกติน่าจะมกี ารหักเหกับตัวกลางอะไร
บางอยา่ งใตโ้ ลกแลว้ เกดิ เปน็ คลื่นภายในโลก 2 ชุดวิ่งด้วยความเรว็ ท่แี ตกต่างกนั เข้า
มาหาสถานี (รปู 5)
รูป 4. นักวทิ ยาศาสตร์ผู้คน้ พบความไมต่ ่อเน่อื งของคลืน่ ไหวสะเทอื นทว่ี งิ่ ผา่ นโลก
รปู 5. การเดนิ ทางของคลน่ื ไหวสะเทือนภายในโลก ตามสมมุตฐิ านโมโฮโรวคิ ซคิ
10
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
จากการคานวณทางคณิตศาสตร์พบว่า คล่ืนปฐมภูมิวงิ่ ด้วยความเร็วปกติ
6-7 กิโลเมตร/วินาที ในขณะท่ีคล่ืนปฐมภูมิอีกชุดวิ่งด้วยความเร็ว 8 กิโลเมตร/
วนิ าที ดว้ ยความทคี่ วามเร็วเปลยี่ นไปเขาจงึ เรียกช้ันทท่ี าใหค้ ลืน่ ไหวสะเทือนเปลยี่ น
ความเร็วนี้ว่า ช้ันไม่ต่อเนื่องโมโฮโรวิคซิค หรือ ชั้นโมโฮ (Mohorovičić
Discontinuity หรือ Moho) และกาหนดให้เป็นฐานของช้ันเปลือกโลกตาม
คุณสมบตั ิทางกายภาพ
ผลจากการศึกษาคล่ืนไหวสะเทือนท่ัวโลกพบว่าบริเวณต่างๆ ของโลกมี
ความหนาของช้นั เปลือกโลกท่ีแตกต่างกันระหว่าง 5-70 กิโลเมตร (รูป 6) โดยพ้ืน
มหาสมุทรส่วนใหญ่มีความหนาอยู่ในช่วง 5-15 กิโลเมตร ในขณะพ้ืนทวีปของโลก
มีความหนาประมาณ 30-40 กิโลเมตร โดยบริเวณท่ีมีความหนามาก ได้แก่ เทือก
เขารอ๊ กก้ี ทางตะวันตกของสหรฐั อเมริกา (หนา 45-50 กิโลเมตร) เทือกเขาแอนดีส
ทางตะวันตกของทวีปอเมริกาใต้ (หนา 60-70 กิโลเมตร) และเทือกเขาหิมาลัยทาง
ตอนเหนอื ของประเทศอินเดีย (หนาประมาณ 60-70 กิโลเมตร) (รปู 6)
2) ความไม่ต่อเน่ืองกูเต็นเบิร์ก (Gutenberg Discontinuity) ค้นพบ
โดยโน่ กิวเตนเบอรก์ (Gutenberg B) (รูป 4ข) ในปี ค.ศ. 1914 โดยกิวเตนเบอร์ก
พบว่า เมื่อเกิดแผ่นดินไหว สถานีตรวจวัดในบางพ้ืนท่ีไม่สามารถตรวจวัดคลื่นไหว
สะเทือนได้ ท้ังที่เป็นแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ ซ่งึ เมื่อสังเกตและศึกษาในรายละเอียด
จะพบว่าพื้นท่ีอับคลื่นน้ันสัมพันธ์กับจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว เช่น กาหนดให้เกิด
แผ่นดนิ ไหวท่ีบรเิ วณข้ัวโลกเหนือ สถานีที่ต้ังห่างออกไปจากศูนย์กลาง 103o-180o
จะไม่สามารถตรวจวัดคล่ืนทุติยภูมิได้ เรียกว่า โซนอับคล่ืนทุติยภูมิ (S-wave
shadow zone) ส่วนกรณีของคลื่นปฐมภูมิไม่พบคลื่นเช่นกันในช่วง 103o-143o
จึงเรียกว่าช่วงอบั คลืน่ ปฐมภมู ิ (P wave shadow zone) (รปู 7)
11
สันติ ภัยหลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
ช้นั โมโฮ คือ ขอบเขตระหว่างเปลือกโลก-แมนเทลิ
รปู 6. แผนทโ่ี ลกแสดงการกระจายตวั ของความหนาเปลือกโลก (www.ucsd.edu)
รปู 7. แสดงลักษณะช่วงอับสญั ญาณ ก) คล่นื ปฐมภมู ิ ข) คลน่ื ทตุ ยิ ภมู ิ
12
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
ซึ่งจากการค้นพบช่วงอับคลื่นดังกล่าว ปรากฏการณ์ของ กิวเตนเบอร์ก
จงึ นาเสนอว่าน่าจะมีความไม่ต่อเนื่องอยู่อกี ท่ีระดับ 2,900 กิโลเมตร จึงกาหนดให้
เปน็ ช้นั ไม่ต่อเนื่องกวิ เตนเบอร์ก (Gutenberg Discontinuity)
ความไม่ต่อเน่อื งกเู ต็นเบริ ์ก คือ ขอบเขตระหว่างแกน่ โลก-
แมนเทลิ
3) ความไม่ต่อเน่ืองเลห์มัน (Lehman Discontinuity) นาเสนอโดย
อิงจ์ เลห์มัน (Lehman I) (รูป 4ค) นักวิทยาศาสตร์วิทยาหญิงชาวเดนมาร์ก ในปี
ค.ศ. 1936 โดยพบว่าคลื่นปฐมภูมิท่ีว่ิงผ่านไปตามแก่นโลกชั้นในแสดงการเพ่ิมข้ึน
ของความเรว็ คล่ืน บง่ ชี้ว่าแก่นโลกชั้นในนนั้ เป็นของแข็ง ในขณะทไี่ ม่มีคล่ืนทุติยภมู ิ
ผ่านเข้ามาในช้ันแก่นโลก จึงเชื่อได้ว่าแก่นโลกช้ันนอกน้ันน่าจะมีสถานะเป็น
ของเหลว ตอ่ จากน้ันความกว้างและความเร็วคล่ืนปฐมภมู จิ งึ ค่อยๆ เพิม่ ขึน้ แตค่ ลื่น
ทุติยภูมิยังคงจับไม่ได้ในช่วงสถานีต้ังแต่ 143o-180o จับคลื่นปฐมภูมิได้ดังเดิม แต่
ยงั ไมม่ คี ลื่นทตุ ิยภูมิ (รูป 7ข) ในช่วงจบั คลืน่ ปรากฏวา่ จบั คลนื่ บางคลนื่ ได้ จงึ สรปุ วา่
น่าจะมีแก่นโลกช้ันในด้วย ซึ่งมีคุณสมบัติยืดหยุ่นต่างกัน (ทาให้คล่ืนปฐมภูมิกลับ
เร็วขึน้ มาอกี ในระดับความลึกประมาณ 5,000 กโิ ลเมตร) และคาดวา่ แกน่ โลกชั้นใน
น่าจะมีสถานะเป็นของแข็ง และเรียกรอยต่อระหว่างแก่นโลกชั้นในและแก่นโลก
ชนั้ นอกว่า ความไมต่ ่อเนอื่ งเลแมน (Lehman Discontinuity)
ความไม่ต่อเน่อื งเลห์มัน คือ ขอบเขตระหวา่ งแก่นโลก
ชนั้ ใน-แก่นโลกชัน้ นอก
13
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
4. ชั้นเปล่ยี นโซน (Transitional Zone) หากเกิดแผน่ ดนิ ไหวระดับต้ืน
ที่เส้นศูนย์สูตร ซ่ึงทั้งคลื่นปฐมภูมิและทุติยภูมิว่ิงไปทุกทิศทาง โดยทิศทางการวิ่ง
ของคล่ืน จะเบี่ ยงเบน จากการหักเหของคลื่นเม่ือวิ่งลึกลงไปใน ตัวโลก
นักวิทยาศาสตร์พบว่า ที่สถานีวัดท่ีอยู่ห่างจากจุดกาเนิดแผ่นดินไหวคิดเป็นมุม
15o-22o ทง้ั เหนือและใต้เสน้ ศูนยส์ ูตร (มุมน้เี ปน็ มุมทวี่ ัดตรงใจกลางโลกระหวา่ งจุด
ทีเ่ กิดแผน่ ดนิ ไหวกับสถานีวัด) คล่ืนไหวสะเทือนจะเรว็ ข้ึน โดยมีความเร็วคล่ืนปฐม
ภูมิเพ่มิ เป็น 9.1 กโิ ลเมตร/วินาที และคลื่นทุตยิ ภูมเิ ป็น 5.3 กโิ ลเมตร/วนิ าที ดงั น้ัน
นักวิทยาศาสตร์จึงคาดวา่ น่าจะมีช้นั ไม่ต่อเนอื่ งแทรกอยู่ระหวา่ งเน้ือโลกตอนบนกับ
เนื้อโลกตอนล่าง และเรียกช้ันไม่ต่อเนื่องน้ีว่า ช้ันเปลี่ยนโซน (Transitional
Zone) ซ่ึงอยูล่ ึกลงไปในตวั โลก 400-700 กโิ ลเมตร
ช้ันเปลีย่ นโซน คือ รอยต่อระหว่างเน้อื โลกตอนบนกบั เนือ้
โลกตอนลา่ ง
14
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
4
คุณสมบัติเคมีของโลก
Chemical Property of Earth
นอกจากการแบ่งช้ันของแผ่นเปลือกโลกโดยใช้ความแตกต่างของ
คณุ สมบัติทางกายภาพ (ความหนาแน่น) นักวิทยาศาสตร์ยังแบ่งชั้นตา่ งๆ ของโลก
ด้วยองค์ประกอบทางเคมี โดยผลจากการศึกษาหินอุกาบาตที่ตกมายังโลก ซ่ึง
นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นองค์ประกอบโดยรวมของโลกทั้งใบในช่วงแรกของการ
กาเนิดโลก ประกอบกับการเปรียบเทียบความหนาแน่นในแต่ละชั้นกับแร่
องค์ประกอบที่เป็นไปได้ รวมทั้งการสร้างแบบจาลองทางคณิ ตศาสตร์
นักวิทยาศาสตร์สามารถแบ่งโครงสร้างภายในโลกตามคุณสมบัติทางเคมีได้ 3 ชั้น
(รูป 8)
15
สันติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
รูป 8. สรปุ โครงสรา้ งโลกตามคณุ สมบัติทาง เคมี (ซา้ ย) และ กายภาพ (ขวา)
1) เปลือกโลก (crust) คือ ช้ันนอกสุด มีสถานะเป็นของแขง็ มคี วามหนา
หนา 8-35 กิโลเมตร แบ่งย่อยเป็น 2 ส่วน คือ 1) เปลือกโลกช้ันบน (upper
crust) มีความหนาแน่นต่า ประกอบด้วยแร่โปแตสเซียม อะลูมิเนียม และซิลิกา
เป็นส่วนใหญ่ หรือเรียกอีกอย่างว่า ชั้นไซอัล (SIAL = Silicon + Alumina)
และ 2) เปลือกโลกชนั้ ล่าง (lower crust) ท่ีมีความหนาแน่นมากกว่าเปลือกโลก
ชัน้ บน ประกอบด้วยแร่แมกนีเซยี ม เหล็ก แคลเซียม และซิลิกาเป็นส่วนใหญ่ หรือ
เรยี กอกี อยา่ งว่า ชั้นไซมา (SIMA = Silicon + Magnesium) (ดูรูป 9 ประกอบ)
16
สันติ ภัยหลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
รปู 9. องค์ประกอบของแรช่ นิดต่างๆ ของโลกโดยรวมและเปลอื กโลก
2) เน้ือโลก หรือ แมนเทิล (mantle) เป็นมวลส่วนใหญ่ของโลก อยู่ที่
ระดับความลึก 75-2,900 กิโลเมตร แยกออกจากชั้นเปลือกโลกด้วยหลักฐานการ
เปลี่ยนแปลงความเร็วของคล่ืนไหวสะเทือนเมื่อคล่ืนเดินทางจากเปลือกโลกสู่เน้ือ
โลก โดยเน้ือโลกมีความหนาแน่น 3.3-5.7 กรัม/ซม.3 สอดคล้องกับผลจาก
การศึกษาองค์ประกอบของเศษหินแปลกปลอม (หินเพอริโดไทต์) ที่ติดมากับแมก
มา จึงคาดว่าเน้ือโลกน่าจะมีองค์ประกอบเหมือนกับหินเพอริโดไทต์ซ่ึง
ประกอบด้วยแร่โอลิวีน ไพรอกซีนและแร่กาเน็ต จากการศึกษาในรายละเอียด
นักวิทยาศาสตร์คาดว่าช้ันแมนเทิลเกือบทั้งหมดน่าจะมีสถานะเป็นของหนืด
ยกเวน้ ท่คี วามลกึ ประมาณ 70-260 กโิ ลเมตร ทหี่ ินมกี ารหลอมละลายบางสว่ นและ
เป็นของเหลว โดยเน้ือโลกได้ 2 สว่ น คือ
2.1. เนื้อโลกชั้นบน (upper mantle) มีความแปรปรวนทางความเร็ว
คล่ืนไหวสะเทือนมาก แสดงความไม่เป็นเน้ือเดียวกันอย่างกว้างขวาง (Regional
Heterogeneous) ท้ังทางด่ิงและทางราบ พบบริเวณที่ความเร็วคลื่นไหวสะเทือน
ตา่ ความเร็วของคลื่น P และ S ลดลงในชว่ ง 100-250 กิโลเมตร
17
สันติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
2.2. เน้ือโลกชั้นล่าง (Lower mantle) 1,000-2,900 กิโลเมตร โดย
แยกออกจากเนอ้ื โลกชั้นบนด้วย ช้ันเปล่ยี นโซน (Transitional Zone) ความเร็ว
คลื่นไหวสะเทือนปานกลาง กราฟความเร็วคล่ืนจึงเอียงพอประมาณ และเพ่ิมข้ึน
อย่างค่อยเป็นค่อยไป นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าเป็นการเพิ่มความหนาแน่นเนื่องจาก
ความดัน ไม่ใช่การเปล่ียนองค์ประกอบค่อนข้างเป็นเนื้อหน่ึงเดียวกัน (uniform)
ยกเว้นท่ีระดับ 2,700 และ 2,900 กิโลเมตร อาจพบความเร็วคล่ืนลดลงเล็กน้อย
บางคร้งั เพื่อความสะดวก อาจนับรวมชั้นนี้และชั้นทรานซิชันเข้าด้วยกัน เรยี กเป็น
เนื้อโลกระดับลึก (Deep Mantle, D layer) ช้ันนี้ถูกก้ันออกจากแก่นโลกด้วย
ผิวสัมผัสก้ันความไม่ต่อเน่ืองที่เรียกว่า ช้ันความไม่ต่อเน่ือง กูเท็นเบิร์ก
(Gutenberg Discontinuity)
โครงสร้างภายในโลกสามารถแยกโดยองค์ประกอบทางเคมี
และคณุ สมบตั ิการไหล (rheology) ของวัสดุภายในโลก ได้
ดงั น้ี 1) เปลอื กโลกทป่ี ระกอบด้วยแรซ่ ลิ เิ กตของแข็ง 2)
แมนเทิลท่มี ีความหนืดสูง 3) แก่นโลกชัน้ นอกทีเ่ ปน็
ของเหลว 4) แกน่ โลกช้ันในทเ่ี ป็นของแขง็
3) แก่นโลก (Core) อยู่ที่ระดับความลึกมากกว่า 2,900 กิโลเมตร จาก
พื้นโลก แยกออกจากช้ันแมนเทิลได้จากการเปลี่ยนแปลงความเร็วของคลื่นไหว
สะเทือนเช่นเดียวกับรอยต่อระหว่างเปลือกโลกและเน้ือโลก ซ่ึงผลจากการคานวณ
ความหนาแน่นท่ีหลงเหลือจากเปลือกโลกและแมนเทิลเม่ือเปรียบเทียบกับความ
หนาแน่นโดยรวมของโลก (mass balance) นักวิทยาศาสตร์ประเมินว่าแก่นโลก
18
สันติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
น่าจะมีความหนาแน่นประมาณ 9.7-16 กรัม/ซม.3 ซ่ึงตรงกับความหนาแน่นของ
เหล็ก (Fe) ประกอบกับการศึกษาสัดส่วนของเหล็กจากหินอุกาบาตชนิดเหล็ก
(Iron meteorite) ซึ่งนกั วิทยาศาสตร์สมมุติวา่ น่าจะเป็นองคป์ ระกอบโดยรวมของ
โลก จงึ คาดวา่ แกน่ โลกน่าจะมีเหลก็ เปน็ องค์ประกอบหลักและมีนกิ เกลิ บางส่วน
19
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
แบบฝึกหัด
วัตถปุ ระสงคข์ องแบบฝึกหดั
แบบฝึกหัดนี้ มีวัตถุประสงค์หลักเพ่ือให้ผู้อ่านมีโอกาส 1) ทบทวนเนื้อหา และ 2)
คน้ คว้าความรู้เพิ่มเติม โดยผา่ นกระบวนการสื่อสารแบบถาม-ตอบ ระหว่างผู้เขยี น-
ผูอ้ า่ น เท่านน้ั โดยไม่มเี จตนาวิเคราะห์ข้อสอบเกา่ หรือแนวข้อสอบแต่อย่างใด
1) แบบฝึกหัดจับคู่
คาอธิบาย : เลอื ก ตัวอักษร หนา้ คาบรรยายด้านขวา เติมในชอ่ งวา่ งด้านซ้ายในแต่
ละข้อท่ีกาหนดให้ เพื่ออธิบายความหมายของคาด้านซ้ายอย่างถูกต้องและ
เหมาะสม
20
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
1. ____ ก. เนื้อโลก (mantle)
2. ____ ข. แผ่นเปลือกโลกทวปี (continental crust)
3. ____ ค. แผ่นเปลือกโลกมหาสมุทร (oceanic crust)
4. ____ ง. แกนโลกชนั้ นอก (outer core)
5. ____ จ. แกนโลกชน้ั ใน (inner core)
6. ____ ฉ. ฐานธรณีภาค (asthenosphere)
7. ____ ช. ธรณีภาค (lithosphere)
8. ____ ซ. แผน่ เปลือกโลก (crust)
2) แบบฝึกหัดถกู -ผิด
คาอธิบาย : เติมเครื่องหมาย T หน้าข้อความที่กล่าวถูก หรือเติมเครื่องหมาย F
หนา้ ขอ้ ความทก่ี ล่าวผดิ พรอ้ มท้งั ขดี เส้นใตเ้ น้อื ความที่ผดิ และอธบิ ายใหมใ่ ห้ถกู ต้อง
1. ____ ความรู้โดยส่วนใหญ่ของโครงสร้างภายในโลกมาจากการศึกษา
จาก คล่ืนไหวสะเทอื น (seismic wave)
2. ____ คลื่นปฐมภูมิ (P wave) ไม่สามารถเดินทางผ่านก๊าซและ
ของเหลวได้
3. ____ แผ่นเปลือกโลก (crust) มีความหนาโดยเฉลี่ยประมาณ 10
กโิ ลเมตร
4. ____ การศึกษาองค์ประกอบของ อุกกาบาต (meteorite) มีส่วน
สาคัญท่ีทาให้เข้าใจองคป์ ระกอบภายในโลกมากขึ้น
5. ____ กระแสพาความร้อน (convection current) ในเนื้อโลก เป็น
กลไกสาคัญของการเคลอ่ื นที่แผ่นเปลือกโลก
21
สนั ติ ภัยหลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
6. ____ ขอบเขตท่ีแบ่งระหว่างแผ่นเปลือกโลกและเน้ือโลก คือ ความไม่
ตอ่ เน่อื งเงา (shadow discontinuity)
7. ____ คลื่นปฐมภูมิ (P wave) จะมาถึงสถานีตรวจวัดแผ่นดินไหว
หลงั จาก คลน่ื ทุติยภูมิ (S wave)
8. ____ ธ รณี ภ าค (lithosphere) ว างตั ว อ ยู่ ใต้ ฐ า น ธ ร ณี ภ า ค
(asthenosphere)
9. ____ แกนโลกชั้นใน (inner core) มีองค์ประกอบเป็นโลหะใน
สถานะของแข็ง
10. ____ ความเร็วของ คล่ืนไหวสะเทือน (seismic wave) ข้ึนอยู่กับ
ความหนาแน่นและความเปน็ พลาสตกิ ของวสั ดุที่คล่นื เดินทางผา่ น
11. ____ เนื้อโลก (mantle) มีสถานะเป็นของแข็งเนื่องจากทั้งคล่ืนปฐม
ภมู แิ ละคล่ืนทตุ ยิ ภูมิเดนิ ทางผ่านได้
12. ____ ชัน้ D (D layer) คอื ส่วนลา่ งสดุ ของเนอื้ โลก
13. ____ สนามแม่เหล็กโลก (earth's magnetic field) สร้างข้ึนจาก
เนอ้ื โลกช้ันบน (upper mantle)
14. ____ องค์ประกอบโดยเฉลย่ี ของ แผ่นเปลือกโลกทวีป (continental
crust) คลา้ ยกบั หินบะซอลต์
15. ____ อุณหภูมภิ ายในโลกอาจสูง > 6,700 องศาเซลเซยี ส
16. ____ คลื่นทุติยภูมิ (S wave) ไม่สามารถเดินทางผ่าน แกนโลก
ชน้ั นอก (outer core) ได้
17. ____ ธรณีภาค (lithosphere) ประกอบดว้ ยสว่ นเล็กๆ ของหินหนืดที่
หลอมละลายบางสว่ น
22
สันติ ภยั หลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
18. ____ คลื่นปฐมภมู ิ (P wave) และ คลน่ื ทุตยิ ภมู ิ (S wave) เดนิ ทาง
เร็วขึ้นเมอื่ เปลย่ี นจากแผน่ เปลอื กโลกไปสู่เนือ้ โลกตอนบน
19. ____ คลื่นปฐมภูมิ (P wave) เดินทางได้เร็วกว่า คลื่นทุติยภูมิ (S
wave) ในทกุ ๆ วัสดทุ ่เี ดินทางผ่าน
20. ____ เนื้อโลก (mantle) มปี รมิ าตร > 82% ของปริมาตรโลกทงั้ หมด
3) แบบฝกึ หดั ปรนัย
คาอธิบาย : เลือกคาตอบทีถ่ ูกต้องที่สดุ เพียงข้อเดียว จากตัวเลอื กทก่ี าหนดให้ เพ่ือ
อธิบายหรอื ตอบคาถามในแต่ละข้อ
1. ขอ้ ใดคือความไม่ตอ่ เนอื่ งของความเรว็ คลนื่ ไหวสะเทือนระหวา่ งเปลือกโลกและ
เนอ้ื โลก
ก. magnetic anomaly ข. Mohorovičić discontinuity
ค. high velocity ง. transition zone
2. โซนอับคลนื่ ทุติยภูมิ (S-wave shadow zone) อยู่ระหวา่ งองศาใดเมื่อ
เปรียบเทียบกบั จุดศนู ย์เกิดแผ่นดนิ ไหว
ก. 100-120 องศา ข. 115-160 องศา
ค. 105-140 องศา ง. 105-180 องศา
3. นักแผน่ ดนิ ไหววิทยา (seismologist) เช่ือวา่ แกนโลกชั้นนอก มีสถานะเปน็
ของเหลวเนอื่ งจากหลักฐานข้อใด
ก. คลนื่ ไหวสะเทอื นไมส่ ามารถเดิน ข. คล่ืนไหวสะเทือนเดินทางผ่าน
ทางผา่ นของเหลวไปได้ ดว้ ยความเร็วเพ่มิ ขน้ึ
23
สันติ ภัยหลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
ค. หลกั ฐานจากหนิ อายแุ ก่ ง. หลักฐานจากแมกมาที่ปะทุจาก
ภเู ขาไฟ
4. ขอ้ ใดคือความไมต่ ่อเนอ่ื งของความเรว็ คลืน่ ไหวสะเทอื นท่ีระดบั ความลึก 2,900
กิโลเมตร
ก. รอยตอ่ ระหว่างแกนโลก-เนื้อโลก ข. ช้ันความไมต่ ่อเนือ่ งโมโฮโรวิซกิ
ค. รอยตอ่ ระหว่างแผ่นเปลอื กโลก ง. รอยตอ่ ระหวา่ งแกนโลกช้ันใน-
มหาสมทุ ร-แผน่ เปลอื กโลกทวีป แกนโลกชน้ั นอก
5. ขอ้ ใดกล่าวผดิ
ก. คลื่นอดั (compression wave) ข. โดยทว่ั ไปความเร็วของคลน่ื
เดินทางผา่ นของแข็งไดด้ ีเทา่ กับ ไหวสะเทือนจะเพ่มิ ขน้ึ ตาม
ของเหลว ความลึกทเ่ี พมิ่ ขน้ึ
ค. คลื่นทตุ ยิ ภมู ิมคี วามเร็วสงู กวา่ ง. คลนื่ ไหวสะเทอื นมีความเร็ว
คลน่ื ปฐมภูมิในทุกตัวกลาง ลดลงเมอื่ เผ่านของเหลว
6. นักวทิ ยาศาสตรค์ าดว่า แกนโลกชนั้ นอก (outer core) มีสถานะเปน็ ของเหลว
เน่อื งจากสาเหตใุ ด
ก. คลื่นทตุ ยิ ภูมไิ ม่สามารถเดิน ข. คลืน่ ปฐมภูมไิ มส่ ามารถเดิน
ทางผา่ นได้ ทางผา่ นได้
ค. แกนโลกชน้ั นอกลอยอยู่บนแกน ง. แกนโลกชน้ั นอกมีสภาพความ
โลกช้ันใน แข็ง (rigidity) สูง
7. ขอ้ ใดคือวธิ ีทด่ี ที ี่สุดในการศกึ ษาโครงสรา้ งภายในโลก
ก. ศึกษาแทง่ ตวั อย่าง ข. ศกึ ษาสนามแม่เหลก็
ค. ศึกษาความหนาแน่น ง. ศึกษาคล่นื ไหวสะเทือน
24
สันติ ภัยหลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
8. ชน้ั ใดภายในโลกทีม่ อี งคป์ ระกอบเปน็ ของเหลว
ก. แผน่ เปลอื กโลก (crust) ข. แกนโลกชน้ั นอก (outer core)
ค. แกนโลกชนั้ ใน (inner core) ง. ถกู ทุกขอ้
9. ชน้ั ใดภายในโลกท่ีเปน็ สาเหตสุ าคัญในการผลติ สนามแม่เหลก็ โลก
ก. แผ่นเปลือกโลก (crust) ข. เนื้อโลก (mantle)
ค. แกนโลกชนั้ ใน (inner core) ง. แกนโลกชน้ั นอก (outer core)
10. คลนื่ ไหวสะเทอื น (seismic wave) เดินทางเรว็ ขนึ้ เม่อื อยู่ในสภาพแวดลอ้ ม
แบบใด
ก. เดนิ ทางผา่ นวสั ดทุ แ่ี ข็งน้อยกว่า ข. เดินทางผา่ นวสั ดุทีแ่ ข็งมากกว่า
ค. จากหนิ แกรนติ ผ่านหินบะซอลต์ ง. ไมม่ ขี ้อใดถกู
11. แกนโลก (core) ประกอบด้วยธาตุหลักอะไรบา้ ง
ก. เหลก็ และซัลเฟอร์ ข. นิกเกิลและโคบอลต์
ค. เหลก็ และธาตุนกิ เกลิ ง. ไม่มีข้อใดถูก
12. ธรณีภาค (lithosphere) ประกอบดว้ ยอะไรบา้ ง
ก. แผ่นเปลือกโลกทวปี และแผน่ ข. แผน่ เปลอื กโลกชนั้ ลา่ งและแกน
เปลอื กโลกมหาสมทุ ร โลกช้นั นอก
ค. แผ่นเปลือกโลกและชนั้ บนสดุ ง. แผน่ เปลือกโลกชนั้ นอก
ของเนอ้ื โลก
13. คลื่นไหวสะเทือน (seismic wave) ชนิดใดไม่สามารถเดินทางผา่ นตัวกลางท่ี
มีสถานะของเหลวได้
ก. คลื่นเลฟิ (love) ข. คล่ืนทุตยิ ภูมิ (S wave)
ค. คล่นื เรย์ลี (rayleigh wave) ง. คลน่ื ปฐมภูมิ (P wave)
25
สนั ติ ภยั หลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
14. ชนั้ ใดภายในโลกท่ี คล่นื ปฐมภูมิ (P wave) สามารถเคลอ่ื นที่ได้เรว็ ท่ีสดุ
ก. แผน่ เปลอื กโลก (crust) ข. เนอ้ื โลกช้นั ลา่ ง (lower mantle)
ค. แกนโลกชน้ั ใน (inner core) ง. เนอ้ื โลกตอนบน (upper mantle)
15. ชน้ั ความไมต่ อ่ เนอื่ งโมโฮโรวิซิก (Mohorovičić discontinuity) คอื
รอยตอ่ ระหวา่ งช้ันใด
ก. แผ่นเปลือกโลกและเนอ้ื โลก ข. เนือ้ โลกและแกนโลกช้ันนอก
ค. แผ่นเปลอื กโลกและแกนโลก ง. แกนโลกชน้ั นอกและแกนโลก
ช้ันใน ชั้นใน
16. ชั้นความไม่ต่อเนื่องกูเต็นเบิร์ก (Gutenberg discontinuity) คือรอยตอ่
ระหว่างชน้ั ใด
ก. แผน่ เปลอื กโลกและเนื้อโลก ข. เนอ้ื โลกและแกนโลกชั้นนอก
ค. แผ่นเปลอื กโลกและแกนโลก ง. แกนโลกชนั้ นอกและแกนโลก
ชน้ั ใน ชัน้ ใน
17. ชน้ั ใดภายในโลกท่มี คี วามหนาแนน่ ต่าทสี่ ุด
ก. แผน่ เปลอื กโลกทวี ข. แผ่นเปลือกโลกมหาสมุทร
(continental crust) (oceanic crust)
ค. แกนโลกชน้ั ใน (Inner core) ง. แกนโลกชน้ั นอก (outer core)
18. ชน้ั ใดภายในโลกท่ีมคี วามหนาแนน่ สูงท่ีสุด
ก. แผน่ เปลอื กโลกทวปี ข. แผ่นเปลือกโลกมหาสมุทร
(continental crust) (oceanic crust)
ค. แกนโลกชน้ั ใน (inner core) ง. แกนโลกชน้ั นอก (outer core)
26
สันติ ภัยหลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
19. ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งเก่ยี วกบั รอยต่อระหว่างแกนโลกและเนอื้ โลก
ก. รอยตอ่ มีความราบเรยี บสงู ข. รอยตอ่ มคี วามลกึ แตกต่างกัน
ประมาณ 5 กิโลเมตร
ค. รอยต่อมคี วามลึกแตกต่างกัน ง. รอยตอ่ มีความลึกแตกต่างกัน
ประมาณ 100 กโิ ลเมตร ประมาณ 400 กโิ ลเมตร
20. เนื้อโลกมปี รมิ าตรเท่าใดเมอื่ เปรียบเทียบกบั ปรมิ าตรทงั้ หมดของโลก
ก. 20% ข. 65%
ค. 35% ง. 80%
21. ขอ้ ใดคอื เกณฑ์การจาแนกโลกออกเป็น แผ่นเปลอื กโลก เนอื้ โลกและแกนโลก
ก. องค์ประกอบทางเคมี ข. ความเร็วคลื่นไหวสะเทือน
ค. ความดัน ง. ถกู ทกุ ข้อ
22. ขอ้ ใดคอื เกณฑ์การจาแนกโลกออกเปน็ ธรณีภาค ฐานธรณภี าคและชน้ั มโี ซส
เฟียร์
ก. องค์ประกอบทางเคมี ข. ความเรว็ คลนื่ ไหวสะเทือน
ค. ความดนั ง. ถกู ทุกขอ้
23. ช้ันใดที่คล่ืนไหวสะเทือนเดนิ ทางผ่านและทาให้คล่นื ไหวสะเทอื นมคี วามเรว็
ลดลง
ก. ฐานธรณภี าคไปธรณภี าค ข. ฐานธรณภี าคไปแกนโลกชน้ั นอก
ค. ธรณภี าคไปแกนโลกชน้ั นอก ง. แกนโลกชน้ั นอกไปแกนโลกชั้นใน
24. สว่ นใดภายในโลกทีม่ ปี ริมาตรมากทส่ี ดุ
ก. แผน่ เปลอื กโลก (crust) ข. แกนโลกชนั้ นอก (outer core)
ค. แกนโลกชนั้ ใน (inner core) ง. เนอื้ โลก (mantle)
27
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
25. ข้อใดคือการแบง่ โครงสรา้ งภายในโลกตามคุณสมบัติทางกายภาพ
ก. แผ่นเปลอื กโลกทวปี ข. แผน่ เปลอื กโลกมหาสมุทร
(continental crust) (oceanic crust)
ค. ธรณภี าค (lithosphere) ง. เนือ้ โลก (mantle)
26. แผน่ เปลอื กโลกทวีป (continental crust) มอี งค์ประกอบโดยรวมคลา้ ยกับ
หนิ ชนดิ ใด
ก. หินแกรนิต ข. หินบะซอลต์
ค. หินอคั นีสเี ขม้ จัด ง. หนิ แกบโบร
27. แผน่ เปลอื กโลกมหาสมุทร (oceanic crust) มอี งค์ประกอบโดยรวมคลา้ ย
กบั หนิ ชนิดใด
ก. หินแกรนติ ข. หนิ บะซอลต์
ค. หนิ อัคนีสเี ขม้ จดั ง. หินแกบโบร
28. เน้อื โลก (mantle) มีองคป์ ระกอบโดยรวมคลา้ ยกบั หนิ ชนิดใด
ก. หินแกรนิต ข. หินบะซอลต์
ค. หนิ อคั นีสเี ขม้ จดั ง. หนิ แกบโบร
29. ธรณภี าค (lithosphere) มคี วามหนาประมาณเทา่ ใด
ก. 25 กโิ ลเมตร ข. 100 กิโลเมตร
ค. 250 กโิ ลเมตร ง. 2,900 กโิ ลเมตร
30. ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง
ก. ธรณีภาค (lithosphere) ข. แผ่นเปลอื กโลก (crust)
ประกอบดว้ ยแผน่ เปลือกโลก ประกอบด้วยธรณีภาค
(crust) (lithosphere)
28
สนั ติ ภยั หลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
ธรณีภาค (lithosphere) และ ง. ธรณีภาค (lithosphere) และ
แผ่นเปลือกโลก (crust) คอื ช่ือ แผ่นเปลอื กโลก (crust) คอื คน
เรยี กท่ีแตกตา่ งกนั ละสว่ นกนั
31. คลืน่ ไหวสะเทือน (seismic wave) เม่ือเดินทางผา่ นรอยตอ่ ระหวา่ งวัสดุท่ี
แตกตา่ งกนั คลน่ื จะแสดงพฤติกรรมอยา่ งไร
ก. คลื่นหักเห ข. คลื่นสะทอ้ น
ค. คล่นื เปลีย่ นความเรว็ ง. ถกู ทุกข้อ
32. โซนอับคลื่นทุติยภูมิ (S-wave shadow zone) มสี าเหตุมาจากอะไร
ก. รอยต่อแผ่นเปลอื กโลก-เนอ้ื โลก ข. แกนโลกชน้ั นอก
ค. เนอ้ื โลกชัน้ ล่าง ง. แกนโลกชน้ั ใน
33. โซนอบั คลื่นทตุ ยิ ภูมิ (S-wave shadow zone) อยใู่ นช่วงมุมองศาใด เมอ่ื
เปรียบเทยี บกบั จดุ ศนู ย์เกิดแผน่ ดนิ ไหว
ก. 45-180 องศา ข. 75-180 องศา
ค. 105-180 องศา ง. 145-180 องศา
34. ขอบเขตระหวา่ ง เนอ้ื โลก (mantle) และ แกนโลก (core) อย่ทู ่ีระดบั ความ
ลึกโดยประมาณเทา่ ใด
ก. 300 กิโลเมตร ข. 1,000 กโิ ลเมตร
ค. 3,000 กิโลเมตร ง. 5,000 กิโลเมตร
35. แผ่นเปลอื กโลกทวีป (continental crust) มคี วามหนาประมาณเทา่ ใด
ก. 5 กิโลเมตร ข. 35 กิโลเมตร
ค. 65 กโิ ลเมตร ง. 100 กิโลเมตร
29
สันติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
36. คล่ืนปฐมภมู ิ (P wave) เคลื่อนทีเ่ ร็วทีส่ ดุ ในบรเิ วณใด
ก. เนอ้ื โลกชนั้ บน ข. เนอ้ื โลกชั้นลา่ ง
(upper mantle) (lower mantle)
ค. แกนโลกชนั้ นอก (outer core) ง. แกนโลกชน้ั ใน (inner core)
37. ขอ้ ใดกลา่ วผิดเกี่ยวกบั ช้ันความไม่ตอ่ เนื่องโมโฮโรวซิ กิ (Mohorovičić
discontinuity)
ก. คลื่นไหวสะเทอื นเดนิ ทางเรว็ ขนึ้ ข. ชั้นนี้แยกหนิ ที่มคี วามหนาแนน่
เม่ือผ่านชน้ั นี้เขา้ ไปในโลก แตกตา่ งกนั ออกจากัน
ค. ชน้ั น้ีแยกแผน่ เปลือกโลกออก ง. ชน้ั นี้คือขอบเขตบนสุดทหี่ นิ
จากเน้ือโลก หลอมละลายบางส่วน
38. สนามแม่เหล็กโลก (earth’s magnetic field) เกดิ จากสว่ นใดภายในโลก
ก. แผน่ เปลือกโลก (crust) ข. เน้อื โลก (mantle)
ค. กนโลกชน้ั นอก (outer core) ง. แกนโลกชน้ั ใน (inner core)
39. วัสดใุ ดๆ จะสญู เสยี ความเป็นแม่เหล็กถาวร (permanent magnetism)
เมอ่ื ได้รับความร้อนสงู ถงึ ระดบั ใด
ก. 100 องศาเซลเซียส ข. 250 องศาเซลเซยี ส
ค. 400 องศาเซลเซียส ง. 550 องศาเซลเซยี ส
40. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ งเกย่ี วกับ สนามแม่เหลก็ โลก
ก. ขว้ั สนามแมเ่ หลก็ โลกขนานกบั ข. ข้วั สนามแม่เหล็กโลกเอยี ง 11
แกนหมนุ ของโลก องศา จากแกนหมุนของโลก
ค. ข้วั สนามแม่เหลก็ โลกเอียง 45 ง. ขวั้ สนามแมเ่ หลก็ โลกตง้ั ฉากกบั
องศา จากแกนหมุนของโลก แกนหมุนของโลก
30
สันติ ภยั หลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
41. สนามแมเ่ หล็กโลกมกี ารกลบั ข้วั ในทุกๆ กปี่ โี ดยประมาณ
ก. 50 ปี ข. 5,000 ปี
ค. 500,000 ปี ง. 50 ลา้ นปี
42. สว่ นใดของโลกท่ีมอี งค์ประกอบเป็นแร่โอลิวนี และไพรอคซนี
ก. แผ่นเปลือกโลกทวปี ข. แผ่นเปลอื กโลกมหาสมุทร
ค. เนอื้ โลกชัน้ บน ง. แกนโลก
43. ขอ้ ใดกล่าวผดิ
ก. asthenosphere วางตัวอยู่ ข. asthenosphere แข็งกว่า
ใตl้ ithosphere lithosphere
ค. asthenosphere ยกตวั ใกล้กับ ง. asthenosphere หลอมละลาย
พื้นผวิ โลกในบริเวณสนั เขากลาง บางส่วน
มหาสมทุ ร
44. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้องเกย่ี วกบั แผน่ เปลอื กโลกมหาสมทุ ร (oceanic crust)
ก. เป็นหนิ บะซอลต์ หนาแนน่ 3.0 ข. เป็นหินแกรนิต หนาแน่น 3.0
กรมั /ลูกบาศก์เซนติเมตร กรัม/ลกู บาศก์เซนติเมตร
ค. เปน็ หนิ แกรนิต หนาแนน่ 2.6 ง. เปน็ หินบะซอลต์ หนาแนน่ 2.6
กรมั /ลกู บาศก์เซนตเิ มตร กรัม/ลูกบาศกเ์ ซนตเิ มตร
45. ธรณภี าค (lithosphere) ประกอบด้วยสว่ นใดบา้ ง
ก. แผน่ เปลอื กโลกและเนอื้ โลก ข. แกนโลกชน้ั นอกและแกนโลก
ชั้นบนสุดท่มี สี ถานะของแขง็ ชนั้ ใน
ค. ฐานธรณภี าคและมโี ซสเฟยี ร์ ง. แกนโลกชน้ั นอกและเนือ้ โลก
31
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
46. คลน่ื ปฐมภูมิ (P wave) เดนิ ทางผา่ นหินแกรนิตด้วยความเร็วประมาณเท่าใด
ก. 4 กิโลเมตร/วินาที ข. 6 กโิ ลเมตร/วินาที
ค. 8 กโิ ลเมตร/วนิ าที ง. 10 กโิ ลเมตร/วนิ าที
47. ข้อใดกลา่ วผิด
ก. รอยตอ่ แผน่ เปลอื กโลก-เนอ้ื ข. แผ่นเปลอื กโลกมหาสมทุ ร
โลก เรยี กว่าชั้นความไม่ ประกอบด้วยหินบะซอลตแ์ ละ
ต่อเน่อื งโมโฮโรวิซิก แกบโบร
ค. แผน่ เปลือกโลกหนาแนน่ น้อย ง. คล่ืนปฐมภูมิเดนิ ทางในแผน่
กว่าเนือ้ โลก เปลอื กโลกเรว็ กว่าเน้ือโลก
48. ชุดหินโอฟิโอไลต์ (ophiolite suite) อาจจะ ไม่สัมพันธ์ กบั สว่ นใดของโลก
ก. แผ่นเปลือกโลกทวปี ข. แผน่ เปลือกโลกมหาสมุทร
(continental crust) (oceanic crust)
ค. เนื้อโลกช้นั บน ง. ช้นั ความไม่ตอ่ เน่ืองโมโฮโรวซิ ิก
(upper mantle) (Mohorovičić discontinuity)
49. ข้อใดกลา่ วผดิ
ก. ฐานธรณีภาคมสี ถานะพลาสตกิ ข. ธรณีภาคมสี ถานะของแขง็
ค. แกนโลกชนั้ นอกมสี ถานะ ง. แผน่ เปลอื กโลกทวปี มีสถานะ
ของแขง็ ของแขง็
50. แกนโลก (core) มีองคป์ ระกอบของธาตใุ ดมากท่สี ุด
ก. ซิลิกอน (silicon) ข. ออกซเิ จน (oxygen)
ค. เหลก็ (iron) ง. นิกเกิล (nickle)
32
สนั ติ ภัยหลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
51. ขอ้ ใดคือสาเหตทุ ท่ี าใหแ้ กนโลกชัน้ ในมสี ถานะเปน็ ของแขง็ (rigid)
ก. อณุ หภมู ิต่า ข. อณุ หภูมิสูง
ค. ความดันตา่ ง. ความดันสงู
52. ขอ้ ใดคือหลักฐานการมอี ยขู่ องรอยตอ่ ระหว่าง แผ่นเปลอื กโลก (crust) และ
เนอื้ โลก (mantle)
ก. การวเิ คราะห์คลื่นไหวสะเทอื น ข. การเจาะสารวจหนิ ระดบั ลกึ
ค. การศกึ ษาธรณวี ิทยาใน ง. การศกึ ษาสนามแมเ่ หล็กโลก
รายละเอียด บรรพกาล
53. การเพิ่มความเร็วของ คลืน่ ทตุ ยิ ภมู ิ (S wave) อยา่ งรวดเร็วในช่วงระดบั ความ
ลกึ 400 กิโลเมตร และ 670 กิโลเมตร จากพน้ื ผิวโลก เกิดจากสาเหตุใด
ก. การเปล่ยี นแปลงการอดั ตวั ของ ข. การเปล่ียนแปลงองคป์ ระกอบ
แรใ่ นเนอ้ื โลก ของเนอื้ โลก
ค. การเปลีย่ นแปลงอุณหภมู ขิ อง ง. การเปลี่ยนแปลงความดันของ
เนอ้ื โลก เนื้อโลก
54. รอยต่อระหว่างแกนโลกชนั้ ในและแกนโลกชน้ั นอกอยูท่ ่รี ะดับความลึกเทา่ ใด
จากพื้นผวิ โลก
ก. 700 กิโลเมตร ข. 2,900 กิโลเมตร
ค. 5,100 กิโลเมตร ง. 6,400 กโิ ลเมตร
55. ข้อใดคือคณุ สมบัติของแกนโลก (core)
ก. มีลกั ษณะเป็นโพรง ข. หลอมละลายอยา่ งสมบรู ณ์
ค. ประกอบดว้ ยหินทมี่ แี รซ่ ิลิกา ง. ประกอบด้วยธาตุเหลก็ และ
เข้มขน้ สงู นิกเกลิ โดยส่วนใหญ่
33
สนั ติ ภยั หลบล้ี โครงสร้างภายในโลก
56. ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ งเก่ยี วกบั ฐานธรณีภาค (asthenosphere)
ก. วางตัวอยู่เหนือธรณภี าค ข. แหล่งพลังงานทท่ี าใหแ้ ผน่
เปลอื กโลก เคล่อื นท่ี
ค. มีสถานะพลาสตกิ ไหลไป-มา ง. ถกู ทุกขอ้
57. ข้อใดคือชนั้ ท่อี ยู่ระหวา่ ง แกนโลก (core) และ แผน่ เปลอื กโลก (crust)
ก. เน้อื โลก (mantle) ข. ธรณีภาค (lithosphere)
ค. ฐานธรณภี าค (asthenosphere) ง. มีโซสฟียร์ (measphere)
58. ระยะทางจากพน้ื ผิวโลกถึงใจกลางโลกประมาณกก่ี โิ ลเมตร
ก. 1,610 กโิ ลเมตร ข. 6,440 กโิ ลเมตร
ค. 16,100 กิโลเมตร ง. 64,400 กิโลเมตร
59. คล่ืนปฐมภมู ิ (P wave) ใชเ้ วลาในการเดินทางผา่ นโลกประมาณก่ีนาที
ก. 1 นาที ข. 5 นาที
ค. 10 นาที ง. 20 นาที
60. เม่ือ คลื่นไหวสะเทือน (seismic wave) เดนิ ทางผา่ นวัตถทุ มี่ ีคณุ สมบตั ิ
แตกต่างกนั คลนื่ จะแสดงพฤติกรรมแบบใด
ก. elasticity ข. dissipation
ค. deflection ง. refraction
61. ขอ้ ใดกล่าวผดิ
ก. โซนอับคลนื่ ปฐมภมู ิกวา้ งกว่า ข. คลนื่ ไหวสะเทอื นเดนิ ทางเปน็
โซนอับคลนื่ ทตุ ยิ ภูมิ เส้นโคง้ ภายในโลก
ค. คลนื่ ปฐมภมู ิเดนิ ทางในแกนโลก ง. คลน่ื ทุติยภมู ไิ มส่ ามารถเดนิ
ชัน้ นอกชา้ กวา่ เน้ือโลกชนั้ ลา่ ง ทางผา่ นของเหลวได้
34
สนั ติ ภัยหลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
62. โลกมี การเปลยี่ นแปลงอุณหภมู ติ ามความลึก (geothermal gradient)
เปน็ อย่างไร
ก. 3 องศาเซลเซยี ส/กิโลเมตร ข. 30 องศาเซลเซยี ส/กิโลเมตร
ค. 300 องศาเซลเซียส/กิโลเมตร ง. 1 องศาเซลเซียส/กโิ ลเมตร
63. ชัน้ ความไม่ตอ่ เนื่องโมโฮโรวซิ กิ (Mohorovičić discontinuity) เปน็
รอยตอ่ ท่ีแบ่งชั้นอะไรออกจากกัน
ก. ธรณภี าค-ฐานธรณีภาค ข. แกนโลกชน้ั นอก-แกนโลกช้ันใน
ค. เนอื้ โลก-แกนโลก ง. แผ่นเปลอื กโลก-เนื้อโลก
64. ข้อใดคอื แหลง่ กาเนิดของ สนามแมเ่ หล็กโลก (Earth’s magnetic field)
ก. แกนโลก (core) ข. มีโซสเฟยี ร์ (mesosphere)
ค. แผ่นเปลือกโลก (crust) ง. ขัว้ แมเ่ หลก็ (magnetic pole)
65. ขอ้ ใดคือ มวล (mass) ของวัตถุ
ก. นา้ หนกั ทชี่ ่ังบนโลก ข. ปรมิ าณนา้ ที่ถกู แทนทด่ี ว้ ยวัตถุ
ค. ความรุนแรงของแรงโน้มถ่วงท่ี ง. จานวนของสารทม่ี อี ยใู่ นวัตถุ
ยึดเหนีย่ ววตั ถไุ ว้กับโลก
66. ชัน้ ใดภายในโลกมี มวล (mass) และ ปริมาตร (volume) มากทส่ี ดุ
ก. เนอื้ โลก (mantle) ข. แมกมา (magma)
ค. แผน่ เปลอื กโลก (crust) ง. แกนโลก (core)
67. ข้อใดเป็นสว่ นประกอบของ ธรณีภาค (lithosphere)
ก. แผ่นเปลอื กโลก (crust) ข. ฐานธรณีภาค (asthenosphere)
ค. อุทกภาค (hydrosphere) ง. แกนโลก (core)
35
สนั ติ ภยั หลบลี้ โครงสร้างภายในโลก
68. ช้ันใดภายในโลกมีสถานะเป็นของหนืดที่สามารถไหลได้
ก. ธรณีภาค (lithosphere) ข. แผ่นเปลือกโลก (crust)
ค. ฐานธรณีภาค (asthenosphere) ง. แกนโลกชนั้ ใน (inner core)
69. ชน้ั ใดภายในโลกมีองคป์ ระกอบเปน็ เหลก็ เหลว (liquid iron)
ก. แกนโลก (core) ข. แกนโลกชน้ั นอก (outer core)
ค. เนือ้ โลก (mantle) ง. แกนโลกชนั้ ใน (inner core)
70. ขอ้ ใดคือองค์ประกอบของ แผน่ เปลอื กโลก (crust)
ก. ออกซเิ จนและซลิ กิ อน ข. เหล็กและซิลกิ อน
ค. เหลก็ และนกิ เกลิ ง. ทองแดงและนกิ เกลิ
36
สันติ ภยั หลบลี้ โครงสรา้ งภายในโลก
เฉลยแบบฝกึ หดั
1) แบบฝกึ หดั จับคู่ 3. ก 4. ช 5. จ
1. ง 2. ข 8. ซ
6. ฉ 7. ค 4. T 5. T
3. F 9. T 10. T
2) แบบฝกึ หัดถกู -ผดิ 8. F 14. F 15. T
13. F 19. T 20. T
1. T 2. F 18. T
4. ก 5. ค
6. F 7. F 3. ก 9. ง 10. ข
8. ข 14. ข 15. ก
11. T 12. T 13. ข 19. ข 20. ง
18. ค 24. ง 25. ค
16. T 17. F 23. ก 29. ข 30. ก
28. ค 34. ค 35. ข
3) แบบฝึกหัดปรนยั 33. ค 39. ง 40. ข
38. ค 44. ก 45. ก
1. ข 2. ง 43. ข
6. ก 7. ง 37
11. ค 12. ค
16. ข 17. ก
21. ก 22. ข
26. ก 27. ข
31. ง 32. ข
36. ข 37. ง
41. ค 42. ค
สันติ ภยั หลบล้ี โครงสรา้ งภายในโลก
46. ข 47. ง 48. ก 49. ค 50. ค
51. ง 52. ก 53. ก 54. ค 55. ง
56. ข 57. ก 58. ข 59. ง 60. ง
61. ก 62. ข 63. ง 64. ก 65. ง
66. ก 67. ก 68. ค 69. ข 70. ก
38