The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เนื้อหาเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน ได้แก่ ความหมายความสำคัญ ประวัติความเป็นมา การปลูกพืชไฮโดรโพนิกส์ในประเทศไทย ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและระบบการปลูกพืชไร้ดิน ระบบการปลูกพืชไร้ดิน ข้อควรคำนึงสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในเชิงการค้า วัสดุอุปกรณ์สำหรับการปลูกพืชไร้ดิน การปลูกและการดูแลรักษาพืชไร้ดิน การจัดการด้านสารละลาย ธาตุอาหารพืช ศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Phatch, 2022-11-30 06:56:37

ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน

เนื้อหาเกี่ยวกับความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน ได้แก่ ความหมายความสำคัญ ประวัติความเป็นมา การปลูกพืชไฮโดรโพนิกส์ในประเทศไทย ปัจจัยที่เกี่ยวข้องและระบบการปลูกพืชไร้ดิน ระบบการปลูกพืชไร้ดิน ข้อควรคำนึงสำหรับการปลูกผักไฮโดรโปนิกส์ในเชิงการค้า วัสดุอุปกรณ์สำหรับการปลูกพืชไร้ดิน การปลูกและการดูแลรักษาพืชไร้ดิน การจัดการด้านสารละลาย ธาตุอาหารพืช ศัตรูพืช การเก็บเกี่ยว วิทยาการหลังการเก็บเกี่ยว

Keywords: ไฮโดรโพนิกส์,การปลูกพืชไร้ดิน,ประวัติความเป็นมาของการปลูกพืชไร้ดิน,ระบบการปลูกพืชไร้ดิน,การปลูกและการดูแลรักษาพืชไร้ดิน,ปัจจัยที่เกี่ยวข้องกับพืชไร้ดิน,ความหมายของพืชไร้ดิน

ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 47

9. เมื่อครบ 14 วัน (2 สัปดาห์) ต้นกล้าก็พร้อมท่ีย้ายลงแปลงปลูกได้แล้วมีข้อปฏิบัติ
ดงั นี้ (ระยะเวลาการอนุบาลในแต่ละฤดูอาจจะไมเ่ ท่ากันขึ้นอยู่กับสภาพอากาศเป็นปัจจัยบาง
ฤดอู าจใช้เวลาอนบุ าลเพยี ง 10 วันก็สามารถยา้ ยลงปลกู ได้เลยโดยเราจะสังเกตได้จากต้นกล้า
เป็นหลักถา้ ตน้ กลา้ มีใบจริงอยา่ งนอ้ ย 2 ใบก็สามารถย้ายปลกู ไดเ้ ลย

สำหรับฟาร์มใหญ่ ๆมักจะมีแปลงอนุบาลในแต่ละช่วงอายุผักก็สามารถย้ายลงอนุบาลได้
ตั้งแต่กล้าอายุได้ประมาณ 5-7 วัน จะทำให้รอบการปลูกแต่ละรอบสั้นลงโดยก่อนย้าย
กล้าผักลงแปลงให้ปฏบิ ัติดังนี้

• ให้สเปรย์น้ำให้ทั่วก้อนฟองน้ำก่อนย้ายลงแปลงปลูก และควรเลือกย้ายในช่วงเย็น
เนื่องจากช่วงเย็นจนถึงค่ำพืชจะปรับตัวได้ดีกว่าช่วงกลางวัน และลดความเสี่ยงที่
ตน้ กลา้ จะเฉาตายจากแดดได้

• ให้เลือกตน้ กลา้ ที่สมบรู ณ์ และมีขนาดตน้ ใกลเ้ คยี งกันลงแปลงปลูก

ทมี่ า :https://zen-hydroponics.blogspot.com/2013/01/blog-post_24.html

10. นำต้นกล้าใส่กระถางปลูก (สอดต้นกล้าจากด้านล่างกระถางเพื่อป้องกันการพับ
หักงอของรากพืชจากการใส่ฟองน้ำจากด้านบนกระถาง) โดยให้ก้นของฟองน้ำโผล่ออกมา
จากก้นกระถาง

ทมี่ า :https://zen-hydroponics.blogspot.com/2013/01/blog-post_24.html

หุ่


! ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 48

11. นำต้นกล้าที่สวมกระถางปลูกแล้วไปใส่ในช่องปลูกของรางปลูก โดยสังเกตว่า
ก้นของฟองน้ำสัมผัสกับน้ำในรางปลูกหรือไม่หากยงั ไม่สัมผสั ก็ให้ขยับฟองน้ำลงมาเพือ่ ให้กน้
ของฟองน้ำแตะกบั นำ้ ในรางปลูก (ให้นำ้ ในรางปลูกสัมผสั กับฟองนำ้ ประมาณ 2-3 มลิ ลิเมตร)

ท่มี า :https://zen-hydroponics.blogspot.com/2013/01/blog-post_24.html

การเกบ็ รักษาเมลด็ พนั ธพ์ุ ชื
เมล็ดพันธุ์พืชทุกชนิดปกติแล้วเมื่อเปิดบรรจุภัณฑ์แล้วแนะนำให้ใช้ให้หมดเนื่องจาก

เมล็ดจะเริ่มสูญเสียความชื้นทำให้อัตราการงอกลดลงหากใช้ไม่หมดการเก็บเมล็ดพันธุ์พืช
แนะนำให้เก็บในภาชนะที่ปิดสนิท เช่น กระปุกยา, กล่องถนอมอาหารที่มีฝาปิดสนิท เก็บใน
ตู้เย็น (ช่องแช่ผัก)อุณหภูมิ 4-10 องศาเซลเซียส โดยเมล็ดพันธุ์พืชที่เก็บในภาชนะปิดสนิท
และเก็บในอณุ หภูมิต่ำสามารถเกบ็ ไดน้ านประมาณ 1-2 ปี


! ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 49

วิธยี ้ายลงรางปลูก
เมื่ออนุบาลผักจนมีอายุได้ประมาณ 10-14 วัน หรือผักเริ่มมีใบจริงประมาณ 2 ใบ

ก็ย้ายลงแปลงปลูกได้โดยสัปดาห์แรกของการลงแปลงปลูกให้ผักได้รับแสงประมาณ
5 ชั่วโมง/วัน แล้วค่อยขยายเวลาไปจนถึง 6-8 ชั่วโมง/วัน พยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดที่แรง
เกนิ ไปโดยเฉพาะผักสลัด เพราะแสงแดดทเี่ ข้มเกินไปจะทำให้ผักเฉาและตายได้หากหลีกเล่ียง
ไม่ไดใ้ ห้ใชส้ แลนพรางแสง 50% ในช่วงเทยี่ งหรือบ่ายเพอื่ ลดอุณหภมู ิ

1. ตวงนำ้ ใส่ลงในภาชนะทจ่ี ะปลูกโดยให้ระดบั น้ำหา่ งจากขอบภาชนะประมาณ
1-2 น้วิ (นับจำนวนน้ำท่ใี สล่ งไปในภาชนะโดยใช้หน่วยเปน็ ลติ ร)

ทมี่ า : https://www.allkaset.com

2. ใส่ธาตอุ าหารสำหรับปลูกพชื ไรด้ ินตามสดั ส่วนดงั นี้
ผกั สลัดใบเขียว ผกั สลดั ใบแดง ผกั โขม ผักบ้งุ ผักกวางตุง้ ผักกวางต้งุ ฮ่องเต้ คะน้า

อายุปลกู 40-50 วนั ปุ๋ย A,B อย่างละ 2.0 ซีซ/ี น้ำ 1 ลิตร EC = 1.4
อายปุ ลูก 45-55 วัน ปุ๋ย A,B อย่างละ 2.0 ซซี /ี น้ำ 1 ลติ ร EC = 1.4
อายุปลกู 30-35 วัน ปยุ๋ A,B อย่างละ 2.5 ซีซี/นำ้ 1 ลิตร EC = 1.8
อายปุ ลูก 35-40 วัน ปุย๋ A,B อย่างละ 3.0 ซซี ี/น้ำ 1 ลติ ร EC = 2.5
อายุปลกู 35-40 วนั ปุ๋ย A,B อย่างละ 3.5 ซซี /ี นำ้ 1 ลิตร EC = 3.0
อายุปลูก 45-55 วัน ปยุ๋ A,B อยา่ งละ 4.0 ซีซี/น้ำ 1 ลิตร EC = 4.0
* การใส่ธาตุอาหาร A และ B ให้ทิ้งระยะการใส่ธาตุอาหารทั้งสองให้ห่างกัน
ประมาณ 4 ชั่วโมงขน้ึ ไป แต่ถา้ หากกวนธาตุอาหาร A เข้ากบั น้ำดแี ล้วสามารถเติมธาตุอาหาร
B ลงไปได้ทนั ทีโดยไมต่ อ้ งรอให้ถึง 4 ชัว่ โมงก็ได้

ทีม่ า : https://www.allkaset.com


µ ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 50

3. นำแผน่ โฟมหรือแผ่นฟิวเจอรบ์ อรด์ ที่เจาะรูไว้แล้วมาวางปดิ ด้านบนของภาชนะท่ใี ช้
ปลูก

- สำหรับปลกู ผกั ไทย เจาะรหู า่ งกันประมาณ 10-15 ซม.
- สำหรับผักสลัด เจาะรูห่างกันประมาณ 20-25 ซม.

ทม่ี า : https://www.allkaset.com

4. นำต้นกล้าที่อนุบาลมาแล้ว 10-14 วัน นำมาใส่กระถางปลูกแล้วนำไปใส่ในช่อง
ปลกู จนครบทกุ ช่อง โดยใหก้ ้นฟองน้ำแตะกับน้ำในภาชนะปลูก (รกั ษาระดบั น้ำใหอ้ ยู่ในระดับ
เดิมจนครบอายุปลูกของผักแต่ละชนิด) และควรเปลี่ยนน้ำใหม่ทุก ๆ 7-10 วัน เพื่อความ
สมบูรณ์ของผักที่ปลูกและอาจจะใส่หัวทรายตู้ปลา เพื่อเพิ่มออกซิเจนในน้ำท่ีใช้ปลูกด้วยก็ได้
จะทำใหผ้ ักโตเร็วขน้ึ

1• ท่ีมา : https://www.allkaset.com


! ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 51

5. ในระหว่างการปลูกหมั่นดูระดับน้ำในภาชนะปลูกอย่าให้แห้งรักษาระดับน้ำให้น้ำ
สัมผัสกับรากพืชประมาณ 1 ใน 3 ส่วน สำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องวัดค่าเป็นกรด-ด่างของน้ำ
หรือ pH Meter แนะนำใหส้ งั เกตทผี่ วิ นำ้ ผสมปุย๋ ท่ีใชป้ ลกู ถ้าเริ่มเห็นลักษณะของผิวน้ำเป็นฝ้า
หรือคล้ายมีคราบน้ำมันลอยอยู่บนผิวน้ำ ผู้ปลูกอย่าปล่อยทิ้งไว้นานเพราะลักษณะดังกล่าว
แสดงให้เห็นว่าน้ำเริ่มมีความเป็นด่างมากขึ้นจึงทำให้ธาตุอาหารพืชบางตัวอยู่ในสภาวะที่พืช
ดดู ซมึ ไมไ่ ด้แนะนำให้ผู้ปลูกใช้ pH Down คอ่ ย ๆ หยดลงในนำ้ ทีละหยดและกวนน้ำให้ฝ้านั้น
แตกตัวและคอยสังเกตว่าฝ้านั้นไม่กลับมาก็เป็นอันใช้ได้ สำหรับผู้ที่ไม่มีเครื่องมือวัดค่า pH
ต้องระมัดระวังในการใช้ pH Down ให้ใช้ทีละน้อยอย่าเติมมากเกินไปเพราะอาจทำให้น้ำมี
ความเข้มข้นของกรดสูงเกินไปจนเป็นอันตรายกับรากพืชได้ แต่ถ้าผู้ปลูกมีเครื่องวัดค่า pH
ก็ให้ปรับและรักษาค่า pH ในช่วงแรกหลังลงปลูกให้อยู่ในระดับ 6.0-6.3 และให้ปรับขึ้นมา
ที่ 6.4-6.6 หลังผักสลดั อายุได้ 30 วัน

6. เมื่อพืชเจริญเติบโตได้ระยะหนึ่งหรือประมาณ 30 วัน หลังจากวันเพาะเมล็ด
ปริมาณรากพืชจะมีมากขึ้นเราต้องมีการลดระดับน้ำในภาชนะปลูกลง เพื่อเป็นการเพิ่มพ้ืนท่ี
อากาศให้กบั รากพชื มากขน้ึ โดยจะลดระดับนำ้ ลงจากเดิมลงไปอีกประมาณ 1-2 นิ้ว

ขอ้ ดขี องการลดระดับนำ้ ลงคอื
- ทำให้รากพืชไดร้ ับออกซิเจนจากอากาศมากข้ึน
- ปอ้ งกันการยืดตัวของผกั โดยเฉพาะผกั สลดั
- ทำใหผ้ ักเจริญเตบิ โตได้อยา่ งสมำ่ เสมอเนื่องจากถ้าหากเราไมล่ ดระดับนำ้ ลงจะทำให้

พชื หยดุ ชะงกั การเจรญิ เตบิ โตเน่อื งจากรากพืชมีมากขน้ึ แตพ่ ้ืนท่ีอากาศมีเทา่ เดิม
* ทั้งนี้การลดระดับน้ำลงแนะนำให้ทำในช่วงเย็น-ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงที่พืชสามารถปรับตวั

ไดด้ กี วา่ ช่วงเวลาอื่น โดยระดับนำ้ ให้ผปู้ ลูกสังเกตท่ีรากพืชใหแ้ ช่ในน้ำอยา่ งน้อย 1-3 ของราก
ทงั้ หมด


µ ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 52

การจดั การด้านสารละลาย

การเตรียมสารละลายธาตุอาหารเพื่อใช้ปลูกพืชมี
2 แบบ คือการเตรียมสารละลายแบบเจือจาง และการ
เตรียมสารละลายแบบเขม้ ข้น (Stock Solution)

ภาพสารละลายธาตุอาหารพืช
ที่มา :https://esc.doae.go.th/wp-content/
uploads/2018/11/hydroponics.pdf

การเตรียมสารละลายธาตอุ าหารพชื

ภาพขั้นตอนการเตรียมสารละลาย
ท่ีมา :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf


Inrswsenorree ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 53

1.วธิ กี ารเตรียมสารละลายธาตอุ าหารพชื
1.1 การเตรียมสารละลายธาตุอาหารพืชแบบเจือจาง เป็นการเตรียมสารละลาย

ธาตุอาหารพืชเพือ่ ใช้ในถังทีใ่ ช้ปลูกพชื โดยตรง การเตรียมแบบนี้สะดวกแต่ต้องเตรียมบอ่ ย ๆ
เริ่มจากเมื่อทราบปริมาณของธาตุอาหารคำนวณน้ำหนักและจัดหาปุ๋ยเคมี ผสมปุ๋ยเคมี
ทั้งหมดในนำ้ สะอาดแล้วเติมนำ้ จนครบ

1.2 การเตรียมสารละลายธาตุอาหารพืชแบบเขม้ ข้น การเตรยี มสารละลายธาตุอาหาร
ที่มีความเข้มข้น (Stock Solution) จะเริ่มจากการเตรียมสารละลายธาตุอาหารแบบเข้มข้น
ไว้ 2 ถัง เรียกว่า Stock Solution A และ Stock Solution B และเมื่อต้องการใช้ก็จะเอา
Stock Solution มาผสมให้เจือจางตามอัตราส่วนที่กำหนดตามความต้องการ สาเหตุที่ต้อง
แยกออกเป็น Stock Solution A และ Stock Solution B เพื่อเป็นการป้องกันการทำ
ปฏิกิริยาทางเคมีของสาร โดยจะแยกแคลเซียมและเหล็กไว้ด้วยกัน ส่วนอีกถังจะผสมธาตุ
อนื่ ๆ ทง้ั หมด ส่วนโพแทสเซียมไนเตรทจะไม่ทำปฏกิ ิรยิ ากจ็ ะเฉลย่ี ใส่ทั้ง 2 ถัง

2.การคำนวณหาปรมิ าณสารละลายธาตุอาหารพชื แบบเข้มข้นและแบบเจอื จาง
สำหรับการหาปรมิ าณสารละลายธาตอุ าหารพืชแบบเข้มข้นถังท่ี 1 (Stock Solution-

A) และ 2 (Stock Solution B) เพื่อนำไปใช้ผสมเป็นสารละลายธาตุอาหารเจือจาง เพื่อ
นำไปใช้ปลูกพืชมหี ลักการดังนี้

ที่มา :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf


I ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 54

ตัวอย่าง
ถ ้าต ้องการ ใช้ สาร ล ะลา ยธ าตุ อ า หาร พ ื ชแ บ บ ท ี่ มีค วา มเข ้ มข ้ นต ่อ ควา มเ จื อ จ า ง

1:100 เท่า โดยถังใส่สารละลายธาตุอาหารแบบเจือจางบรรจุได้ 5 ลูกบาศก์เมตร
(5,000 ลิตร) อยากทราบว่าจะต้องใช้สารละลายธาตุอาหารพืชแบบเข้มข้นจากถังที่ 1 และ
ถังที่ 2 ถังละกี่ลิตร แสดงว่าถ้าต้องการสารละลายธาตุอาหารแบบเจือจาง 5,000 ลิตร
จะต้องเทียบบัญญัติไตรยางศ์ คือสารละลายเจือจาง 100 ลิตร ต้องใช้สารละลายเข้มข้น
1 ลิตร ถ้าต้องการสารละลายธาตุอาหารแบบเจือจาง 5,000 ลิตร จะต้องใช้สารละลาย
เขม้ ขน้ คือ

ท่มี า :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

เพราะฉะนั้นจะต้องใช้สารละลายธาตุอาหารพืชแบบเข้มข้นจากถังที่ 1 และถังที่ 2
ถังละ 50 ลติ ร ไปใสใ่ นถังสารละลายธาตอุ าหารแบบเจือจางแล้วเติมน้ำจนครบ 5,000 ลิตร

3.การจัดการสารละลายธาตอุ าหารพืช
ผักจะเจริญเติบโตได้ดีนั้นจะต้องได้รับธาตุอาหารที่เพียงพอ และเหมาะสมต่อ

ความต้องการและมปี รมิ าณออกซเิ จนในสารละลายอยา่ งเพยี งพอในสารละลายธาตุอาหารพืช
จำเป็นต้องมีการควบคุมค่า pH และ EC ของสารละลาย เพื่อให้ผักสามารถดูดปุ๋ยหรือ
สารละลายธาตุอาหารพืชได้ดีตลอดจนตอ้ งมกี ารควบคุมอุณหภมู ิและออกซิเจนในสารละลาย
ธาตอุ าหารพืช
การรักษาหรือควบคุมคา่ pH ของสารละลายธาตุอาหารพชื โดย

- pH เทา่ กับ 7 หมายถึง สารละลายท่ีมีความเปน็ กลาง
- pH ตำ่ กวา่ 7 หมายถึง สารละลายมีความเปน็ กรด
- pH สูงกวา่ 7 หมายถึง สารละลายมีความเปน็ ดา่ ง


ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 55

ต้องมีการควบคุม pH เนื่องจากจะมีผลให้ผักสามารถดูดใช้ปุ๋ยหรือสารอาหารได้ดี
เพราะค่า pH หรอื ความเป็นกรดเป็นด่างในสารละลายจะเป็นค่าทีบ่ อกใหท้ ราบถงึ สถานะของ
ธาตุอาหารที่จะอยู่ในรูปที่พืชสามารถดูดไปใช้ประโยชน์ได้ ถ้าค่า pH สูงหรือต่ำเกินไป
ธาตุอาหารพืชบางชนิดอาจอยู่ในรูปที่ไม่เป็นประโยชน์หรืออาจทำให้เกิดการตกตะกอน
สาเหตุทท่ี ำให้ค่าของ pH ในสารละลายเปลย่ี นแปลง
เนื่องจากการที่รากพืชดูดธาตุอาหารในสารละลายธาตุอาหารพืชแล้วปล่อยไฮโดรเจน (H+)
และไฮดรอกไซด์ (OH-) สู่สารละลายธาตุอาหารพืชทำให้ค่า pH เปลี่ยนแปลงไปโดยทั่วไป
ควรรกั ษาค่า pH ของสารละลายให้มีคา่ pH=6 แต่ในคำแนะนำของบางประเทศ เช่น
ประเทศญป่ี ุ่นจะควบคุมให้สารละลายมีค่า pH=5.5 และ 6.5
ประเทศเบลเยย่ี มจะควบคุมให้สารละลายมีค่า pH = 5.0 และ 5.5

การปรับเพิ่มค่าของ pH ในกรณีที่สารละลายธาตุอาหารพืชมีความเป็นกรดมากเกิน
เราสามารถปรับขึ้นได้โดยใช้โพแทสเซียมไฮดรอกไซด์ (KOH) โซเดียมไฮดรอกไซด์ (NaOH)
โซเดยี มไบคาร์บอเนต (NaHCO3) หรอื แอมโมเนียม ไฮดรอกไซด์ (NH4OH) สารใดสารหน่ึงลง
ไปในสารละลายธาตุอาหารพชื การปรับลดค่าของ pH

ในกรณีที่สารละลายธาตุอาหารพืชมีความเป็นด่างมากเกินเราสามารถปรับขึ้นได้โดย
การเติมกรดซัลฟูริก (H2SO4) กรดไนตริก (HNO3) กรดไฮโดรคลอริก (HCl) กรดฟอสฟอริก
(H3PO4) หรือกรดอซิติก (CH3COOH) สารใดสารหนึ่งลงไปในสารละลายธาตุอาหารพืช
เครื่องมอื ที่ใช้วัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างคือ pH meter กอ่ นใชค้ วรปรับเคร่ืองมือให้มีความ
เที่ยงตรงก่อน โดยใช้น้ำยามาตรฐานหรือที่เรียกว่า“สารละลายบฟั เฟอร์มาตรฐาน” (Buffer-
Solution)

4. การควบคุมค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity : EC) ของสารละลาย
ธาตุอาหารพืช

การที่ต้องควบคุมค่า EC เนื่องจากต้องการให้มีปริมาณสารอาหารครบตามที่พืช
ตอ้ งการ แตเ่ ป็นการควบคุมค่ารวมของการนำไฟฟ้าของสารละลายธาตอุ าหารท้ังหมดท่ีอยู่ใน
ถังไม่ใช่ปริมาณท่ีแท้จริงของธาตุใดธาตุหนึ่ง ซึ่งธาตุที่ถกู ใช้น้อยอาจตกตะกอนหรือก่อให้เกดิ
ปญั หาดังน้ันจงึ ควรมกี ารเปล่ียนสารอาหารเป็นระยะ ๆ เช่น ทุก 2-3 สปั ดาห์

ตู๋


I ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 56

4.1 ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลีย่ นแปลงของค่า EC ปัจจัยที่มีผลต่อการเปลีย่ นแปลงของ
ค่า EC มีหลายอย่าง เช่น ชนิดของพืชระยะการเติบโตความเข้มของแสงและขนาดของถังท่ี
บรรจุสารอาหารพืช สภาพภูมิอากาศก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงค่า EC เนื่องจากเมื่อมี
สภาพอากาศที่ร้อนจะทำให้พืชต้องการความเข้มข้นของสารละลายที่น้อยลง เนื่องจากพืช
จะดูดน้ำมากกว่าธาตุอาหาร ในขณะที่ถ้าอากาศมีความชื้นก็มีแนวโน้มที่จะดูดธาตุอาหาร
มากกว่านำ้ ดังน้ันพชื จงึ ตอ้ งการสารละลายที่มีความเข้มขน้ มากข้ึน

4.2 การควบคุม EC ของสารละลายธาตุอาหารพืช โดยทั่วไปเมื่อพืชยังเล็กจะมีความ
ต้องการ EC ที่ต่ำและจะเพิ่มมากขึ้นเมื่อพืชมีความเจริญเติบโตที่มากขึ้น และพืชแต่ละชนิด
มคี วามต้องการคา่ EC แตกต่างกัน เช่น

ที่มา :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

เครื่องมือที่ใช้วัดค่าการนำไฟฟ้า (Electrical Conductivity meter) เรียกว่า
EC meter ก่อนใช้ควรปรับความเที่ยงตรงเสียก่อนโดยปรับที่ปุ่มของเครื่องในสารละลาย-
มาตรฐาน ซ่ึงคา่ ทีว่ ดั ได้จะเปลย่ี นแปลงไปตามอุณหภูมขิ องสารละลายกลา่ ว คือย่งิ สารละลาย
มีอุณหภมู สิ งู ขน้ึ ค่า EC ก็จะสูงข้ึนตามดว้ ย


! ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 57

5. การจดั การนำ้ ในระบบสารละลายธาตุอาหารพชื
ควรรักษาปริมาณน้ำในระบบปลูกให้คงที่ตลอดเวลา เพื่อให้ผักสามารถเจริญเติบโต
ได้ดี ผักจะใช้น้ำในอัตราที่สูงกว่าตัวธาตุอาหารพืช ถ้าปริมาณน้ำลดลงจะทำให้ความเข้มข้น
และปรมิ าณธาตอุ าหารพืชแตล่ ะชนิดเพ่มิ ขึน้ ปริมาณน้ำจะลดลงมากหรือน้อยขนึ้ อยกู่ ับขนาด
ของแปลงท่ีปลูกปริมาณและชนดิ ของผัก และสภาพภมู อิ ากาศภายนอก

6. การเปลย่ี นสารละลายธาตอุ าหารพืช
ผักสามารถดูดใช้ธาตุอาหารพืชในแต่ละชนิดแตกต่างกันบางชนิดดูดไปใช้มาก
บางชนิดดูดไปใช้น้อย จึงทำให้เหลือธาตุอาหารพืชที่สะสมอยู่ในสารละลายธาตุอาหารพืช
แตกตา่ งกนั เป็นผลทำให้องคป์ ระกอบของสารละลายธาตุอาหารพืชตัวอ่ืน ๆ เปลี่ยนแปลงไป
หรือตกตะกอน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนสารละลายธาตุอาหารใหม่สามารถทำได้
3 วิธคี ือ
6.1 การเปลี่ยนสารละลายเป็นระยะ ๆทุก 2-3 สัปดาห์ ซึ่งเป็นวิธีที่นิยมปฏิบัติกัน
ปรมิ าณของการถา่ ยเปลีย่ นสารละลายใหมเ่ ข้าไปทดแทนส่วนท่ีถกู ถา่ ยออกจะแบ่งเป็นส่วน ๆ
เชน่ 1 ใน 5 หรอื 2 ใน 3 ของความจุของถังใสส่ ารละลาย
6.2 การถ่ายเปลีย่ นสารละลายแบบซำ้ ๆอย่างสม่ำเสมอในแตล่ ะร่นุ
6.3 เปลี่ยนสารละลายเก่าออกทั้งหมดจะทำเมื่อสิ้นสุดการปลูก หากต้องการทราบ
แน่นอนว่าเมื่อใดควรเปลี่ยนสารละลายธาตุอาหารพืชหรือควรเพิ่มธาตุอาหารพืชใดเขา้ ไปใน
สารละลาย สามารถทำได้โดยเอาตัวอยา่ งสารละลายนั้นไปวิเคราะห์
ส่วนสารละลายที่ถูกถ่ายออกจากระบบปลูกจะยังมีธาตุอาหารพืชที่สมบูรณ์อยู่ ถ้าไม่มี
เชื้อโรคปะปนก็สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในการปลูกพืชในระบบปลูกที่ใช้วัสดุปลูกได้
เน่ืองจากวสั ดปุ ลกู สามารถดดู ซับโซเดยี มและคลอไรด์ไว้ได้ จงึ ไม่เปน็ อันตรายต่อผกั


tF ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 58

ธาตอุ าหารพชื

ธาตุอาหารพืช หรือธาตอุ าหารจำเป็น (Plant nutrients) หรอื
Essential nutrient elements) หมายถงึ ธาตทุ จี่ ำเป็นตอ่ การเจรญิ และพัฒนาของเซลล์

ทมี่ า :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

โดยท่วั ไปธาตุอาหารทพี่ ืชตอ้ งการมีทั้งสิ้น 16 ธาตุ ซึง่ 3 ธาตทุ ่ีได้จากน้ำและอากาศ
ไดแ้ ก่ คารบ์ อน (C) ไฮโดรเจน (H) และออกซิเจน (O) ส่วนอีก 14 ธาตจุ ะแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
ตามปริมาณที่พชื ต้องการ คอื

1. ธาตุที่พืชต้องการในปริมาณมาก หรือมหาธาตุ (macronutrient element) คือ
ธาตุอาหารที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตพืชมีความต้องการใน ปริมาณมากเมื่อเทียบกับ
ธาตอุ น่ื ๆ มที ั้งหมด 6 ธาตุ สามารถแบ่งได้เป็น 2 กล่มุ คอื

1.1 กลุ่มธาตุอาหารหลัก (Primary nutrient elements) คือ ธาตุที่พืชต้องการมาก
ได้แก่ ไนโตรเจน (N) ฟอสฟอรสั (P) และโพแทสเซยี ม (K)

1.2 กลุ่มธาตุอาหารรอง (Secondary nutrient elements) คือ ธาตุที่พืชต้องการ
ลดนอ้ ยลงมา ได้แก่ แคลเซียม (Ca) แมกนีเซยี ม (Mg) และกำมะถัน (S)


I. ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 59

2.ธาตุที่พืชต้องการในปริมาณน้อย หรือจุลธาตุ(micronutrient element) คือ
ธาตุอาหารท่ีจำเป็นตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของพืช แต่พืชมคี วามตอ้ งการในปรมิ าณน้อยเมื่อเทียบ
กับธาตอุ น่ื ๆ แต่เป็นธาตุที่ขาดไมไ่ ดถ้ ้าขาดพืชจะแสดงอาการผิดปกติหรือเจรญิ เติบโตไม่ครบ
ชพี จักรมีอยูด่ ว้ ยกนั 7 ธาตุ ได้แก่ เหลก็ (Fe) แมงกานสี (Mn) สังกะสี (Zn) ทองแดง (Cu)
โบรอน (B) โมลิบดนิ มั (Mo) และคลอรนี (Cl)

ลกั ษณะอาการขาดธาตอุ าหารของพชื
เมื่อพืชได้รับธาตุอาหารไม่ครบทุกชนิด หรือไม่เพียงพอต่อความต้องการ พืชจะแสดง

อาการผิดปกตอิ อกมาสงั เกตได้ดงั นี้

ทมี่ า :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf


trvzgeettns ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 60

ลกั ษณะอาการผิดปกติเบื้องต้นทพ่ี บท่วั ไปในพืชที่ขาดธาตอุ าหารที่จำเป็นต่อการ
เจรญิ เติบโต (ธาตุทเี่ คล่อื นท่ีได้)

ที่มา :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

ลกั ษณะอาการผิดปกติเบ้ืองตน้ ที่พบทัว่ ไปในพชื ท่ีขาดธาตอุ าหารทีจ่ ำเป็นต่อการ
เจรญิ เตบิ โต (ธาตุท่เี คลอื่ นท่ีไม่ได)้

ทมี่ า :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf


I ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 61

ศัตรูพืช

สิ่งที่จัดได้วา่ เป็นศัตรูพืช ได้แก่ โรค แมลง และวัชพืช ซึ่งการปลูกผักไฮโดรโพนิกส์มกั
พบปัญหาเกย่ี วกับโรคและแมลง ซึ่งสว่ นใหญจ่ ะเป็นเรือ่ งของโรคมากกว่าแมลง

การปลูกผักไฮโดรโพนิกส์โดยเฉพาะในระบบปิดที่มีการใช้สารละลายธาตุอาหาร
หมุนเวียนอยู่ตลอด หากเกิดการระบาดของโรคจะก่อให้เกิดความเสียหายไปทั้งระบบ
เนอ่ื งจากเชอ้ื โรคจะติดไปกบั สารละลายธาตอุ าหารและพืชตา่ งกด็ ูดสารละลายไปใช้ก็จะทำให้
ไดร้ บั เชือ้ ดว้ ยเชน่ กนั

การปอ้ งกันกำจดั โรคในระบบการปลูกผักไฮโดรโปนกิ ส์

1. ควรจัดการให้ระบบมีความปลอดเชื้อสาเหตุของโรคและศัตรูพืชอื่น ๆ มากที่สุด
รวมทั้งวัสดปุ ลกู อุปกรณต์ ่าง ๆ นำ้ เมลด็ พันธคุ์ วรเป็นเมลด็ พันธุ์ท่ไี ม่มเี ชอื้ โรคปะปน

2. รกั ษาความสะอาดบรเิ วณทปี่ ลูกพชื ให้สะอาดอยู่ตลอด

3. ก่อนปลูกพืชรุ่นต่อไปต้องล้างทำความสะอาดอุปกรณ์ รางปลูก ด้วยคลอรีนที่มี
ความเข้มข้น 5 มิลลิกรัมตอ่ ลิตร ไหลผ่านเขา้ ไปในระบบเพอ่ื ฆ่าเชอ้ื โรค


I ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 62

การเก็บเก่ยี ว

1. ก่อนการเก็บเก่ียวผักไฮโดรโพนิกส์ 10 วัน เป็นอย่างน้อยให้หยุดใช้ยาฆ่าเชื้อรา ส่วน
สารท่มี ีเคมีอ่ืน ๆ ต้องรอใหห้ มดฤทธิ์อย่างน้อย 15 วัน

2. ก่อนการเก็บเกี่ยว 7 วัน ถ่ายน้ำละลายสารอาหารออกจากท่อให้หมดแล้วสูบเอา
นำ้ เปลา่ หรอื น้ำสะอาดไปเล้ียงหรอื แช่ผกั ไว้

3. ควรเก็บผักไฮโดรโปนิกส์ในวันที่มีแดด และควรเป็นช่วงบ่าย เพราะไนเตรทจะต่ำลง
หากเก็บผกั ในช่วงทมี่ ีแดดจัด ผกั จะมกี ารนำไนเตรทมาใชป้ ระโยชน์มากกว่า

4. ดึงผักไฮโดรโปนิกส์ออกจากรางปลูกทั้งถ้วย เอาถ้วยออกไม่ต้องตัดรากหากเป็นการ
ปลูกบนฟองน้ำไม่จำเป็นต้องเอาฟองน้ำออกก็ได้ ซึ่งอาจจะมีลูกค้าบางรายระบุให้ส่ง
ผกั ไฮโดรโพนกิ สท์ งั้ ฟองนำ้

5. เก็บเศษหิน เศษดิน ทำความสะอาด (อาจล้างด้วยน้ำยาล้างผัก) และตัดแต่งใบที่เสีย
หรอื แกเ่ กินไปออก เพ่ือปอ้ งกนั การสะสมความรอ้ นและเช้อื จุลินทรีย์

6. ปล่อยให้ผกั ไฮโดรโพนกิ ส์ได้คลายความร้อนก่อนไดร้ ับการบรรจุเก็บผักไวใ้ นทีร่ ่มเย็น
7. คัดขนาดผักไฮโดรโปนิกส์และทำการบรรจุ (ห่อหุ้ม) ด้วยพลาสติกหรือกระดาษ
เพื่อลดการคายน้ำ ผักได้น้ำหนักและไม่เสียเร็ว จากนั้นเตรียมผักไฮโดรโพนิกส์ลงภาชนะ
บรรจุที่ใช้สำหรับการขนส่ง โดยบรรจุผักลงภาชนะแค่เต็มพอดีอย่าอัดจนแน่นหรือ
หลวมเกนิ ไป และอย่าให้ผกั ถกู กดทบั หรือกระแทก
8. ผักไฮโดรโพนิกส์ที่มีการคายน้ำสูง เช่น มะเขือเทศ พริกหวาน ควรทำการเคลือบผิว
ด้วยสารเคลือบผิวก่อนทำการบรรจุหีบห่อเพื่อไม่ให้เหี่ยวย่นน่ารับประทาน และไม่สูญเสีย
นำ้ หนัก
9. เก็บผักไฮโดรโพนิกส์ไว้ในที่อุณหภูมิต่ำช่วยลดอัตราการหายใจของผักทำให้ผักมีอายุ
การเกบ็ รักษาทยี่ าวขน้ึ
10. เตรียมยานพาหนะที่ใช้ในการขนส่ง ต้องให้ห้องเก็บผักเย็นเสียก่อนจึงนำ
ผักไฮโดรโพนิกส์ข้นึ ไปจดั เรียง


ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 63

วทิ ยาการหลงั การเกบ็ เก่ียว

ผัก เป็นพืชที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เนื่องจากผักมีคุณค่าทางอาหารและช่วยระบบ
การทำงานของลำไส้ ผักมีความบอบบางจึงทำให้เกิดความเสียหายได้ง่ายโดยเฉพาะการ
สูญเสยี ที่เกดิ ขึน้ หลังการเกบ็ เก่ยี วซงึ่ สาเหตุหลกั มาจากโรคโดยเฉพาะแบคทีเรีย นอกจากน้ียัง
มีปัจจัยอื่น ๆ อีกที่ทำให้เกิดความเสียหายได้แก่ การตัดแต่ง การบรรจุ การเก็บเกี่ยว และ
การขนส่ง ดังนนั้ จึงควรมีการจัดการหลงั การเก็บเก่ียวที่ถกู วิธเี พื่อป้องกันไมใ่ ห้เกิดการสูญเสีย
กบั พืชผกั เพ่ือให้ผกั มีคณุ ภาพที่ดี

ปจั จัยทเี่ กี่ยวข้องกับคุณภาพของพืชผกั

1. การสูญเสียน้ำหนักเนื่องจากการคายน้ำ
ผักที่มีการคายน้ำมากจะทำให้คุณภาพของผักเสียเร็ว ซึ่งอุณหภูมิมีผลต่อการคายน้ำ
ดังนั้นจึงควรลดอุณหภูมิของผักหลังการเก็บเกี่ยวลงโดยเก็บผักไว้ในที่ร่มเย็น หรือทำ
การบรรจุโดยใชพ้ ลาสติกหรือกระดาษหุ้มเพ่ือลดการคายน้ำ

2. การหายใจมีผลต่อคณุ ภาพของผกั
หากผักมีอัตราการหายใจสูงจะทำให้
อายุการเก็บรักษาสั้น ดังนั้นจึงควรเก็บ
รักษาผักไว้ที่อุณหภูมิต่ำเพื่อลดอัตรา
การหายใจของพืชผักให้ลดลงสำหรับ
พืชผักผลไม้เมืองร้อนควรเก็บรักษาที่
อุณหภมู ิ 12-15 องศาเซลเซยี ส

ณ่ํ


ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 64

3. การปฏบิ ัตหิ ลังการเกบ็ เกี่ยว ได้แก่
3.1 การทำความสะอาด เกบ็ เศษดนิ หนิ ตลอดจนตดั แตง่ ใบแกแ่ ละใบเสียออกเพื่อ
ไม่ใหเ้ ป็นแหล่งสะสมของความร้อนและเชอ้ื จุลนิ ทรีย์
3.2 การคัดเลือกขนาด เพ่ือให้ได้ตรงกับมาตรฐานความต้องการของตลาด
ตลอดจนคัดผักที่มีการเข้า
ทำลายของเชื้อจุลินทรีย์
ออก เพื่อป้องกันการสะสม
ของเชอื้ ต่าง ๆ

ทม่ี า :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

3.3 ความร้อนจากแปลงผกั ท่ีเพ่ิงเกบ็ จากแปลงโดยไม่มีการทำใหเ้ ย็นก่อน จะทำให้
เกดิ ความรอ้ นและก๊าซคาร์บอนไดออกไซดส์ ะสมอยู่สูง ทำให้เกดิ ความเสียหาย
กับพืชผลทเี่ กบ็ ในที่ใกลก้ ัน

3.4 การใช้สารป้องกันกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากเกิดบาดแผลหรือ
การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยวไม่ดี ทำให้จุลินทรีย์สามารถเข้าทำลายผลิตผลได้
ในพืชผักนั้นความเสียหายส่วนใหญ่มาจากเชื้อแบคทีเรีย แต่เนื่องจากผักส่วน
ใหญ่เป็นผักที่นำมารับประทานสดไม่สามารถใช้สารป้องกันกำจัดแบคทีเรยี ได้
จงึ จำเปน็ ต้องใช้วิธีการอ่ืน เชน่ ใช้พวกสารคลอรีนเพอ่ื ฆา่ เช้ือจุลินทรีย์ระหว่าง
ทำให้เย็นหรอื ใสใ่ นนำ้ ท่ใี ช้ลา้ งทำความสะอาด

4. การบรรจุหบี หอ่
ในการขนส่งผักนั้นต้องบรรจุผักลงใน

ภาชนะเต็มพอดีไม่อัดแน่นหรือหลวมเกินไป
และควรระวังไม่ให้เกิดการกระแทรกหรือถูก
กดทบั

ที่มา :https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

ญู่


I ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 65

แบบประเมินผลการเรียนรู้หลงั เรียน

1. ข้อใดคือความหมายของคําว่า "ไฮโดรโพนิกส์"
ก. ปลูกพืชโดยใช้ระบบน้ำหยด
ข. เป็นการปลูกพืชท่ีไม่ใช้วัสดุปลูก
ค. ค.เป็นการปลูกพืชลงบนสารละลายธาตุอาหารพืชโดยให้รากพืชสัมผัสกับ
สารอาหารโดยตรง
ง. ข้อ ก และ ค ถูกต้อง

2. Hydroponics เกิดข้ึนจากรากศัพท์ภาษากรีก 2 คํา คือคําว่า
ก. Hydro ซึ่งแปลว่าไร้ดิน และ Ponos ซึ่งแปลว่า น้ำ
ข. Hydro ซึ่งแปลว่าน้ำ และ Ponos ซึ่งแปลว่า การทำงาน
ค. Hydro ซึ่งแปลว่าพืช และ Ponos ซึ่งแปลว่า การทำงาน
ง. Hydro ซึ่งแปลว่าอากาศ และ Ponos ซึ่งแปลว่า การทำงานของน้ำ

3.การปลูกพืชแบบไฮโดรโพนิกส์ที่มีหลักการวิทยาศาสตร์จริงๆ น้ันเกิดข้ึนเม่ือใด
ก. ประมาณ 400 กว่าปีที่ผ่านมา
ข. ประมาณ 600 กว่าปีที่ผ่านมา
ค. ประมาณ 700 กว่าปีท่ีผ่านมา
ง. ประมาณ 800 กว่าปีท่ีผ่านมา

4. คนแรกที่ได้คิดค้นสารละลายธาตุอาหารมาตรฐานขึ้นคือใคร
ก. ยูลิอุส ฟอน ซัคส์ นักพฤกษศาสตร์ชาวเยอรมัน
ข. เซอร์ไอแซก นิวตัน นักพฤกษศาสตร์ชาวอังกฤษ
ค. ยาน แบ็บทสิทาtttttdtdtttthfhm ฟาน เฮลมอนท์ นักวิทยาศาสตร์ชาวเบลเยี่ยม

ง. จอห์น วูดวาด (John Woodward) นักวิ4ทฒยาศดาคสตดร์ชดาDวอฒังกฤดษs


I ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 66

5. ยุคนีโอทิค (Neolithic Age) เมื่อประมาณ 10,000 ปีก่อนคริสต์ศักราชเกษตรกรรมใน
ยุคนั้นเป็นการเกษตรแบบใด

ก. การเกษตรแบบน้ำขัง
ข. การเกษตรแบบขั้นบันได
ค. การเกษตรแบบเคลื่อนย้ายแหล่งเพาะปลูก
ง. ถูกทุกข้อ

6. ระบบการปลูกพืชไร้ดินประเภทการปลูกในวัสดุปลูก (Substrate culture) หมายถึง
ข้อใด

ก. สามารถปลูกพืชอย่างต่อเนื่องได้ตลอดปีในพื้นท่ีเดียวกัน
ข. การปลูกพืช โดยไม่ใช้ดินท่ีปลูกพืชลงในวัสดุอื่นๆ แทนท่ีจะเป็นดิน
ค. ลักษณะของการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินท่ีรากพืชจะต้องสัมผัส หรือแช่อยู่ในน้ำ
ง. การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินในลักษณะรากพืชไม่ได้แช่อยู่ในน้ำ แต่ปล่อยให้รากเปลือย

อยู่ในอากาศ

7. ระบบการปลูกพืชไร้ดินประเภทการปลูกในน้ำ (Water culture) หมายถึงข้อใด
ก. การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินท่ีปลูกพืชลงวัสดุอ่ืนๆแทนที่จะเป็นดิน
ข. สามารถปลูกพืชอย่างต่อเน่ืองได้ตลอดปีในพ้ืนที่เดียวกัน
ค. ลักษณะของการปลูกพืชโดยที่ไม่ใช้ดินรากพืชจะต้องสัมผัสหรือแช่อยู่ในน้ำ
ง. การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดินในลักษณะรากพืชไม่ได้แช่อยู่ในน้ำหรืออยู่ในวัสดุปลูก
ใดๆแต่ปล่อยให้รากเปลือยอยู่ในอากาศ

8.ข้อดีของระบบ NFT คือข้อใด
ก. เป็นระบบที่ต้องมีการดูแลอย่างใกล้ชิด
ข. มีการแพร่กระจายของโรคพืชบางชนิดอย่างรวดเร็ว
ค. ราคาค่าใช้จ่ายในการติดตั้งสูงมาก โดยเฉพาะถ้าใช้ขาตั้งทำจากโลหะ
ง. ไม่จำเป็นต้องมีเคร่ืองควบคุมการให้น้ำเนื่องจากระบบนี้จะมีการให้น้ำแก่พืช
ตลอดเวลา


! ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 67

9. พืชมีน้ำเป็นองค์ประกอบประมาณก่ีเปอร์เซ็นต์
ก. 60 - 65 เปอร์เซ็นต์
ข. 70 - 75 เปอร์เซ็นต์
ค. 80 - 85 เปอร์เซ็นต์
ง. 90 – 95 เปอร์เซ็นต์

10. ธาตุอาหารพืชมีทั้งหมดก่ีธาตุ
ก. 8 ธาตุ
ข. 14 ธาตุ
ค. 16 ธาตุ
ง. 18 ธาตุ

11. ข้อใดคือธาตุอาหารท่ีพืชต้องการปริมาณมาก
ก. เหล็ก (Fe)
ข. สังกะสี (Zn)
ค. ทองแดง (Cu)
ง. ไนโตรเจน (N)

12. ข้อใดคือวัสดุท่ีเป็นอนินทรีย์สาร
ก. ข้ีเลื่อย
ข. ถ่านแกลบ
ค. เม็ดดินเผา
ง. ขุยมะพร้าว

13. ข้อใดคือปัจจัยทางด้านพันธุกรรม
ก. น้ำ
ข. ยีน
ค. แสง
ง. วัสดุปลูก


| ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 68

1 14.ขอ้ ใดไม่ใชข่ อ้ ควรคำนึงสำหรบั การปลกู ผักไฮโดรโพนกิ ส์ในเชงิ การค้า
ก. ฤดทู ปี่ ลูก
ข. ราคาผลผลติ
ค. อายุการเก็บเกย่ี ว
ง. การสญู เสียน้ำหนัก

15. ถ้าพืชได้รับแสงแดดไม่เพียงพอจะมีอาการอย่างไร
ก. พืชจะบวมน้ำ
ข. พืชจะเกิดการแตกหน่อ
ค. แสงแดดไม่มีความสำคัญละไม่มีผลกระทบต่อพืช
ง. พืชจะยืดเสียทรงและอ่อนแอเจริญเติบโตได้ไม่เต็มท่ี

16.เมล็ดพันธุ์ผักที่มีจําหน่ายกันอยู่ในท้องตลาดแบ่งได้เป็นก่ีประเภทได้แก่อะไรบ้าง
ก. แบ่งได้เป็น 1 ประเภท แบบไม่เคลือบ
ข. แบ่งได้เป็น 2 ประเภท แบบเคลือบ แบบไม่เคลือบ
ค. แบ่งได้เป็น 2 ประเภท แบบเคลือบ แบบก่ึงเคลือบ
ง. แบ่งได้เป็น 3 ประเภท แบบไม่เคลือบ แบบเคลือบ และแบบก่ึงเคลือบ

17. ข้อใดต่อไปน้ีกล่าวถึงเมล็ดแบบเคลือบไม่ถูกต้อง
ก. มีราคาถูกมาก ๆ เพราะต้นทุนต่ำ
ข. ไม่เหมาะกับการนำไปเพาะกับวัสดุจำพวกพีทมอส
ค. ข้อเสียของการใช้เมล็ดแบบเคลือบก็คือขนาดใหญ่ขึ้น
ง. ถูกทุกข้อ

18. เมล็ดพันธ์ุพืชท่ีเก็บในภาชนะปิดสนิทและเก็บในอุณหภูมิต่ำสามารถเก็บได้นานเท่าใด
ก. ประมาณ 1 ปี
ข. ประมาณ 1-2 ปี
ค. ประมาณ 3-5 เดือน
ง. ประมาณ 6-8 เดือน


! ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 69

19. ภาชนะปลูกท่ีดีจะต้องมีลักษณะอย่างไร
ก. ภาชนะมีความสวยงาม
ข. ภาชนะทำจากอินทรียวัตถุ
ค. ไม่ทำปฏิกิริยาเคมีกับสารต่างๆ
ง. ใช้ภาชนะโลหะท่ีเคลือบด้วยสังกะสี

20. ย้ายผักลงแปลงปลูกได้เม่ืออนุบาลผักจนมีอายุได้ประมาณกี่วัน
ก. ประมาณ 7 - 14 วัน หรือผักเร่ิมมีใบจริงประมาณ 1 ใบ
ข. ประมาณ 10 - 14 วัน หรือผักเริ่มมีใบจริงประมาณ 2 ใบ
ค. ประมาณ 10 - 14 วัน หรือผักเร่ิมมีใบจริงประมาณ 3 ใบ
ง. ประมาณ 10 - 20 วัน หรือผักเริ่มมีใบจริงประมาณ 4 ใบ

QR Code สำหรับสแกนทำแบบทดสอบหลงั เรยี น


I ขอ้ ที่10 ค ข้อที่20 ข ความรู้ความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับการปลูกพืชไร้ดิน 70

เฉลยแบบประเมนิ การเรยี นรู้ก่อนเรียน-หลังเรียน

ขอ้ ท่ี 1 ง ข้อท่ี 11 ง

ข้อที่ 2 ข ข้อท่ี 12 ค

ข้อที่ 3 ก ขอ้ ท่ี 13 ข

ขอ้ ที่ 4 ก ขอ้ ที่ 14 ง

ขอ้ ที่ 5 ค ข้อที่ 15 ง

ขอ้ ที่ 6 ข ขอ้ ท่ี 16 ข

ขอ้ ที่ 7 ค ข้อที่ 17 ง

ข้อท่ี 8 ง ข้อท่ี 18 ข

ข้อท่ี 9 ง ข้อท่ี 19 ค


ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 71

เอกสารอ้างองิ

กรมวิชาการเกษตร.(ม.ป.ป).ธาตุอาหารพชื .ค้นจาก
https://www.doa.go.th/fc/nakhonsawan/?p=3673

กรมสง่ เสรมิ การเกษตร.(2558).การปลูกผักไฮโดรโปนกิ ส์.ค้นจาก
https://esc.doae.go.th/wp-content/uploads/2018/11/hydroponics.pdf

ชโยดม เพช็ รพวั และคณะ.(ม.ป.ป).ปจั จยั ทมี่ ีผลต่อการเจริญเตบิ โตของพืชไร้ดนิ .คน้ จาก
https://sites.google.com/site/hydroponichy2556/determinant

ธรรมศักดิ์ ทองเกศ.(2554).การปลูกพชื โดยไม่ใช้ดินดนิ .คน้ จาก
http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/other/soliess%20plants.pd

บริษัท มหาโชค มหาชัย เทรดดิ้ง จำกดั .(2560).การดูแลผักไฮโดรโปนกิ ส.์ ค้นจาก
http://www.mgroup.in.th/article/%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B8%84%E0%B8%A7
%E0%B8%B2%E0%B8%A1/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%94%E0%
B8%B9%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%84
%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B
8%99%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B9%8C.html

สำนกั งานเกษตรและสหกรณ์ อ่างทอง.(2563).ธาตุอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช.ค้นจาก
https://www.opsmoac.go.th/angthong-article_prov-preview-421891791858

อนวุ ัฒน์ จรัสรตั นไพบูลย.์ (2557).ปจั จัยทมี่ ีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โต.ค้นจาก
https://www.doa.go.th/fc/nakhonsawan/?p=3673

นุ่


! ความรู้ความเข้าใจเบ้ืองต้นเกี่ยวกับการปลูกพืชไร้ดิน 72

ออลล์เกษตร.(ม.ป.ป).วิธีการเพาะเมลด็ ผัก.คน้ จาก
https://www.allkaset.com/contents/%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8
%98%E0%B8%B5%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%9E%E
0%B8%B2%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B9%87%E0%B8
%94%E0%B8%9C%E0%B8%B1%E0%B8%81-16.php

H2O Hydro Garden.(ม.ป.ป).ประวตั คิ วามเปน็ มาไฮโดรโปนิกส.์ ค้นจาก
http://www.h2ohydrogarden.com/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A
1%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B9%89%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%B7%E0%
B9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%99/%E0%B8%9
B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0
%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%
87%E0%B8%99%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B9%84%E0%B8%AE%E0%B9%82%E0
%B8%94%E0%B8%A3%E0%B9%82%E0%B8%9B%E0%B8%99%E0%B8%B4%E0%B8%8
1%E0%B8%AA%E0%B9%8C.html

zen hydroponics.(2557).ความเป็นมาของการปลูกพืชไร้ดนิ .คน้ จาก
https://zen-hydroponics.blogspot.com/2014/09/blog-post.html

zen hydroponics.(2557).ความรู้เบ้อื งต้นในการปลูกพืชไรด้ นิ .ค้นจาก
https://zen-hydroponics.blogspot.com/2014/10/blog-post.html

zen hydroponics.(2557).ประเภทเมลด็ ผัก.ค้นจาก
https://zen-hydroponics.blogspot.com/2013/01/blog-post_24.html


Click to View FlipBook Version