The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by รพินทร์ ไพรวัลย์, 2020-07-19 01:17:06

ppt ภูมิศาสตร์

ppt ภูมิศาสตร์

การเปลยี่ นแปลงทางบรรยากาศภาค กับ ทิศทางลม

L บรเิ วณความกดอากาศตา่
มีอุณหภมู ิสูง อากาศรอ้ นลอยตัว
L

H บริเวณความกดอากาศสงู
มีอณุ หภมู ิต่า อากาศเย็นจมตัว

HL H L เสน้ ความกดอากาศย่ิงมีคา่ มาก
L แสดงวา่ มีความกดอากาศสงู

H HH อากาศจะเคลอ่ื นทีจ่ ากบริเวณ
ความกดอากาศสูง ส่บู ริเวณท่มี ี
? จากแผนที่แสดงวา่ ประเทศไทยอย่ใู นฤดูใด? H ความกดอากาศต่ากวา่

แนวรอ่ งความกดอากาศต่า
เปน็ บรเิ วณทีล่ มจากซกี โลกเหนอื
และซกี โลกใตจ้ ะพดั เบยี ดเข้าหากัน
ทาให้เกดิ เมฆฝน

การเปลย่ี นแปลงทางบรรยากาศภาค : เมฆ

เมฆชั้นสูง ซีร์รสั (cirrus) ซีรโ์ รคิวมลู สั

อุณหภมู ิตำ่ มำกและไอนำ้ น้อย ซรี โ์ รสเตรตสั (cirrocumulus)
มองเห็นไดช้ ดั เจนช่วงฤดหู นำว
ที่ท้องฟำ้ โปรง่ ใส (cirrostratus) แอลโตควิ มูลัส

เมฆชน้ั กลาง (altocumulus)

อณุ หภมู ิปำนกลำงและไอนำ้ แอลโตสเตรตัส ควิ มูลัส
ขนำดเลก็ เปน็ ละอองนำ้ สขี ำว
บำงครั้งจับตัวเปน็ ก้อน (altostratus) (cumulus)

เมฆช้นั ตา่ นมิ โบสเตรตสั สเตรโทคิวมลู ัส คิวมูโลนิมบัส

อณุ หภมู สิ ูงและไอนำ้ มำก (nimbostratus) (stratocumulus) (cumulonimbus)
มีเมฆทีท่ ำใหฝ้ นตกหรือ
หิมะตกได้ สเตรตสั (stratus)



หยาดน้าฝน น้าในอากาศ เกดิ การกล่ันตวั อทุ กภาค
การระเหย การคายนา้ ของพืช
การระเหย

นา้ ผวิ ดิน มหาสมุทร

วฏั จักรของน้า

การหมนุ เวียนเปลีย่ นสภาวะของน้า
ในธรรมชาติ ทผ่ี ่านขั้นตอนกระบวนการตา่ ง ๆ
เชน่ การระเหย การกลายเป็นไอ การกล่ัน

แหล่งนา้ ผิวดนิ ทส่ี าคญั ของโลก

บริเวณที่มแี หลง่ นา้ จดื ผิวดินน้อย ไดแ้ ก่

• ทวปี แอฟริกาบรเิ วณทะเลทรายสะฮารา

?• ภูมิภาคเอเชียตะวันตกเฉียงใตบ้ ริเวณคาบสมทุ รอาหรบั

• ภูมภิ บาครเิเวอณเชทยี ตมี่ ะแี วหันลอ่งอนก้าแจลืดะเอเชียกลางบริเวณทร่ี าบสูงทิเบต
• ทวผปี วิอดอนิสเอตดุ รมเลสยี มบูรณ์ ได้แก่
เอเชีย ยุโรป แอฟรกิ าตอนกลาง อเมรกิ าเหนอื อเมรกิ าใต้

กระแสน้าในมหาสมุทร

? กระแสน้าสาคัญของโลก กระแสนา้ อนุ่ ยกตัวอย่างการไหลเวียน
กระแสนา้ เยน็ ของกระแสน้าในแผนที่ 1 จุด
ทีน่ กั เรยี นรู้จัก มอี ะไรบา้ ง

กระแสน้าในมหาสมทุ รแปซฟิ กิ

กระแสน้าในมหาสมทุ รอินเดยี

กระแสน้าในมหาสมทุ รแอตแลนตกิ

แผนท่แี สดงระบบนิเวศโลก

ป่าฝนเขตร้อน
ปา่ ผลัดใบ
ทุ่งหญา้
เมดิเตอรเ์ รเนียน
เทือกเขาสูง
ทะเลทราย
ปา่ สนหรอื ไทกา
ทุนดรา

แผนทีแ่ สดงระบบนิเวศโลก

? เขตชีวนิเวศบริเวณใด

มคี วามหลากหลาย

ของส่ิงมชี ีวติ มากทส่ี ุด

เพราะเหตใุ ด





ภูมิประเทศที่เกดิ จากการกรอ่ นโดยธารนา้ แข็ง

ยอดเขารปู พรี ะมดิ อาแร็ต
เซริ ์ก
สนั เขา มวลธารนา้ แขง็ สายย่อย

ตะกอนธารนา้ แขง็ กลางลาธาร หุบเขารปู ตวั ยู
เหวน้าแข็ง
หินฐาน ตะกอนธารนา้ แขง็
มวลธารนา้ แขง็ ขนาดใหญ่

เซริ ์ก ภูมปิ ระเทศทีเ่ กิดจากการกรอ่ นโดยธารนา้ แข็ง
สันเขา
ธารนา้ หบุ เขาลอย
หลมุ ธารน้าแข็ง
จมูกเขาปลายตัด

หนิ ฐาน หุบเขาถูกครดู ถู
หบุ เขาธารนา้ แขง็

เขารูปหงอนไก่ เกิดจากการสกึ กร่อนผพุ งั ภูมิประเทศทเี่ กดิ จากการกร่อนโดยลม
ที่ไมเ่ ทา่ กนั โดยการกระทาของลมและเศษฝุ่น
ภมู ปิ ระเทศทะเลทรายลกั ษณะตา่ ง ๆ จากการพัดพาและทบั ถมของลม
ทพ่ี ดั แรงครูดถเู ขาจนมรี ปู รา่ งแปลกตา
12 3

เนนิ ทรายรูปพระจนั ทร์เสยี้ ว เนนิ ทรายตามขวาง เนนิ ทราย barchanoid
4 5 6

เนนิ ทรายตามยาว เนินทรายรปู โคง้ เนนิ ทรายรปู ดาว

ภมู ิประเทศทเ่ี กิดจากการกระทาของคลื่นและกระแสนา้ ชายฝ่ัง

หัวแหลมผาชนั แม่นา้ ปากแม่น้า รอ่ งคล่นื เซาะ ชน้ั หนิ

ผารมิ ทะเล เศษหินรว่ ง

เศษหนิ รว่ ง หนา้ ผาสงู ชนั

ทะเลสาบนา้ เค็ม หนา้ ผาทรดุ
ที่ราบลมุ่ ป่าชายเลน โพรงหนิ
สันดอนจะงอย ช่องโคง้

ตะกอนชายฝั่ง หาดกรวด โขดหนิ อ่าว เกาะหนิ โดด

ภมู ิประเทศท่ีเกดิ จากการกระทาของคลนื่ และกระแสน้าชายฝงั่

เกาะขนาดเล็กใกลช้ ายฝัง่ พนื้ ท่ีของเขาหนิ ท่ีเคยเชอื่ มต่อกนั
ที่หินยอดเกาะมลี ักษณะโด่ง คลืน่ และลมกร่อนหนิ ผพุ งั ทลายลงไป
เกิดจากแหลมหนิ ทยี่ ืน่ ไปในทะเล
แตเ่ ดมิ ถกู คลืน่ เซาะทั้ง 2 ข้าง
จนสว่ นปลายถูกตดั ออก
เหลือเพียงเกาะโขดหนิ ขนาดเล็ก

? รู้หรือไม่ ลานคลน่ื เซาะในชว่ งเวลาน้าข้ึนน้าลง
ทาให้สว่ นฐานของเขาหนิ แคบลึกเข้าไป
สถานที่น้ีคอื ที่ใด

แผนท่แี สดงเขตภูมอิ ากาศตามลกั ษณะอณุ หภูมจิ ากเส้นอณุ หภูมเิ ทา่

แผนท่ีแสดงเขตภมู ิอากาศตามลักษณะปรมิ าณฝนจากเส้นนา้ ฝนเทา่

เสน้ อาร์กติกเซอร์เคิล

แผนท่ีแสดงเขตภูมิอากาศโลกแบบเคิปเปน

A มีอณุ หภูมสิ งู ตลอดปี Af Am Aw

ภมู อิ ากาศเขตร้อน เฉลี่ยเกนิ กว่ำ 18℃ ภมู ิอากาศแบบมรสมุ ภมู อิ ากาศแบบสะวันนา
และมีฝนตกชกุ ภูมิอากาศแบบรอ้ นช้นื

แผนที่แสดงเขตภูมิอากาศโลกแบบเคิปเปน

B มคี ่ำระเหยเกนิ กวำ่ คำ่ เฉล่ยี ของปรมิ ำณฝน BS BW

ภูมอิ ากาศเขตแหง้ แลง้ มีคำ่ อณุ หภมู ริ ะหวำ่ งวันแตกต่ำงกนั มำก ภมู ิอากาศแบบกงึ่ ทะเลทราย ภูมิอากาศแบบทะเลทราย

แผนท่ีแสดงเขตภมู ิอากาศโลกแบบเคปิ เปน

C มีอุณหภมู เิ ดือนทห่ี นำวท่สี ดุ Cf Cs
เฉล่ียตำ่ กว่ำ 18℃
ภูมิอากาศเขตอบอ่นุ แต่ไมต่ ำ่ กว่ำ -3℃ ภูมิอากาศแบบชนื้ ก่งึ เขตร้อน ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน

แผนที่แสดงเขตภมู ิอากาศโลกแบบเคปิ เปน

D มีอุณหภมู เิ ดือนท่หี นำวทส่ี ุด Df Dw
เฉลี่ยต่ำกว่ำ -3℃ และเดอื น
ภูมอิ ากาศเขตหนาว ทอ่ี ุ่นทส่ี ดุ สูงกวำ่ 10℃ ภูมิอากาศชน้ื ภาคพื้นทวปี ภูมิอากาศแห้งภาคพืน้ ทวีป

แผนท่แี สดงเขตภูมิอากาศโลกแบบเคปิ เปน

E มอี ณุ หภูมเิ ดอื นทรี่ ้อน EF ET H
ที่สดุ ตำ่ กว่ำ 10℃
ภูมิอากาศเขตข้ัวโลก ไม่มฤี ดูรอ้ น ภมู อิ ากาศแบบพดื นา้ แขง็ ภูมิอากาศแบบทนุ ดรา ภูมอิ ากาศแบบทสี่ งู





ภมู ศิ าสตร์

ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4-6

กลุ่มสาระการเรยี นรู้สงั คมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 2 หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 3 หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 5 หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 6

Slide PowerPoint_สอ่ื ประกอบการสอน

บรษิ ัท อกั ษรเจริญทศั น์ อจท. จำกดั : 142 ถนนตะนำว เขตพระนคร กรุงเทพฯ 10200
Aksorn CharoenTat ACT.Co.,Ltd : 142 Tanao Rd. Pranakorn Bangkok 10200 Thailand
โทรศัพท์ : 02 622 2999 โทรสำร : 02 622 1311-8 [email protected] / www.aksorn.com

3หนว่ ยการเรยี นรู้ที่

ส่งิ แวดลอ้ มทางกายภาพกบั ประชากร
และการตงั้ ถ่ินฐาน

สาระการเรียนรแู้ กนกลาง
• ปฏิสัมพันธ์ระหว่ำงส่งิ แวดล้อมทำงกำยภำพกบั วิถีกำรดำเนนิ ชวี ติ ภำยใตก้ ระแสโลกำภิวตั น์ ได้แก่ ประชำกร และกำรต้งั ถิ่นฐำน (กำรกระจำยและกำรเปลีย่ นแปลง

ประชำกร ชุมชนเมอื ง และชนบท และกำรกลำยเปน็ เมือง)

ประชากรโลกและประชากรไทย การกระจายและความหนาแน่นของประชากรโลก

1 เอเชีย

ประชำกร : 4,494 ลำ้ นคน
ควำมหนำแน่น : 100 คน/ตร.กม.

ทวปี ที่มจี านวนประชากรและความหนาแนน่ มากที่สดุ ในโลก ? เนื่องจากปจั จยั ใด ?
มพี ้นื ทร่ี าบลุ่มแมน่ ้า และที่ราบชายฝ่งั อุดมสมบูรณ์
ทวปี เอเชยี เหมาะแก่การเพาะปลูก

ประชากรโลกและประชากรไทย การกระจายและความหนาแนน่ ของประชากรโลก

1 เอเชีย

ประชำกร : 4,494 ลำ้ นคน
ควำมหนำแน่น : 100 คน/ตร.กม.

6 ออสเตรเลยี และโอเชยี เนยี

ประชำกร : 42 ลำ้ นคน
ควำมหนำแน่น : 4 คน/ตร.กม.

ทวีปที่มจี านวนประชากรและความหนาแน่นน้อยทสี่ ุดในโลก ? เน่อื งจากปจั จยั ใด ?

ทวีปออสเตรเลียและโอเชยี เนยี มพี ้นื ทีส่ ่วนใหญเ่ ปน็ ทะเลทรายทแ่ี ห้งแล้ง

ประชากรโลกและประชากรไทย การกระจายและความหนาแน่นของประชากรโลก

4 อเมริกาเหนือ 3 ยุโรป 1 เอเชยี

ประชำกร : 582 ลำ้ นคน ประชำกร : 745 ลำ้ นคน ประชำกร : 4,494 ล้ำนคน
ควำมหนำแน่น : 23 คน/ตร.กม. ควำมหนำแนน่ : 73 คน/ตร.กม. ควำมหนำแน่น : 100 คน/ตร.กม.

5 อเมรกิ าใต้ 6 ออสเตรเลียและโอเชยี เนยี

ประชำกร : 423 ลำ้ นคน ประชำกร : 42 ล้ำนคน
ควำมหนำแนน่ : 23 คน/ตร.กม. ควำมหนำแนน่ : 4 คน/ตร.กม.

2 แอฟรกิ า

ประชำกร : 1,250 ล้ำนคน
ควำมหนำแน่น : 41 คน/ตร.กม.

นักเรยี นคดิ ว่ามี ปัจจัย ใดอีกบา้ งทีส่ ่งผลตอ่ จานวนและความหนาแนน่ ของประชากร ในทวีปอ่นื ๆ ?

การกระจายและความหนาแนน่ ของประชากรไทย

ภาคทมี่ คี วามหนาแน่นของประชากร มาก ท่ีสุด ?

ภาคกลาง

เพราะเหตุใด ?
ส่วนใหญ่เป็นพ้ืนทีร่ าบลมุ่ ทอ่ี ุดมสมบูรณ์
เป็นศูนยก์ ลางเศรษฐกิจของประเทศ

ภาคกลาง
ประชำกร : 15.06 ล้ำนคน
ควำมหนำแนน่ : 164 คน/ตร.กม.

การกระจายและความหนาแน่นของประชากรไทย

ภาคที่มจี านวนและความหนาแน่นของประชากร นอ้ ย ทส่ี ุด ?

ภาคตะวันตก

เพราะเหตุใด ?
พน้ื ที่ส่วนใหญ่ ทางตะวันตก เปน็ แนวทวิ เขา
สูงสลบั หบุ เขา มีพืน้ ที่ราบนอ้ ย

ภาคตะวนั ตก
ประชำกร : 3.19 ล้ำนคน
ควำมหนำแน่น : 59 คน/ตร.กม.

ภาคกลาง
ประชำกร : 15.06 ล้ำนคน
ควำมหนำแนน่ : 164 คน/ตร.กม.

ภาคเหนอื การกระจายและความหนาแนน่ ของประชากรไทย
ประชำกร : 6.01 ลำ้ นคน
ควำมหนำแนน่ : 64 คน/ตร.กม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนอื นกั เรียนคิดว่ามี ปจั จยั ใดอีกบ้างท่ีส่งผลต่อจานวนและความหนาแน่น
ประชำกร : 21.90 ล้ำนคน
ควำมหนำแน่น : 130 คน/ตร.กม. ของประชากร ในภาคอืน่ ๆ ?

ภาคตะวันตก ภาคตะวนั ออก
ประชำกร : 3.19 ลำ้ นคน ประชำกร : 15.06 ลำ้ นคน
ควำมหนำแน่น : 59 คน/ตร.กม. ควำมหนำแน่น : 164 คน/ตร.กม.

ภาคกลาง
ประชำกร : 15.06 ลำ้ นคน
ควำมหนำแนน่ : 164 คน/ตร.กม.

ภาคใต้
ประชำกร : 9.28 ลำ้ นคน
ควำมหนำแน่น : 131 คน/ตร.กม.

พีระมดิ ประชากรแบบ ฐานกว้าง พรี ะมิดประชากรแบบ คงที่ โครงสร้างประชากร
พีระมิดประชากรแบบ ฐานแคบ

ลักษณะโครงสร้าง ประชากรวยั เด็กมมี ากกวา่ วยั อ่ืน สดั ส่วนแต่ละชว่ งอายใุ กล้เคยี งกนั สัดสว่ นประชากรวยั เดก็ ลดลง
อตั ราเกิด-ตาย อตั ราเกดิ สงู ตายสูง อตั ราเกิดและตายคอ่ นข้างคงท่ี อัตราเกิดสงู และตายลดตา่ ลงมาก
ตัวอยา่ งประเทศ อฟั กานสิ ถาน บังกลาเทศ สหรฐั อเมริกา ออสเตรเลยี จนี เยอรมนี สวีเดน สงั คโปร์

การเปลี่ยนแปลงประชากรโลกและประชากรไทย อตั ราเกดิ

• ทวปี ทีม่ ีอัตราเกดิ ของประชากร
มากทส่ี ุด คอื ทวีปแอฟรกิ า

มสี าเหตุมาจาก ขาดความรู้เร่ืองการ
วางแผนครอบครวั และคุมกาเนดิ

ปี 2560

อัตราตาย

• ทวปี ที่มีอัตราตายของประชากร
มากทส่ี ดุ คือ ทวปี ยุโรป
มีสาเหตุมาจาก มปี ระชากรสงู อายุ
จานวนมาก เสยี ชวี ิตจากโรคระบบ
หวั ใจและหลอดเลือด

ปี 2560

ปี 2558 ปี 2573 การเปลีย่ นแปลงประชากรสงู อายุ
ปี 2593

อำยุ 60+ 901 ล้ำนคน อำยุ 60+ 1,402 ลำ้ นคน อำยุ 60+ 2,092 ล้ำนคน
หรอื 12.3 % ของประชำกรทงั้ หมด หรือ 16.5 % ของประชำกรทัง้ หมด หรอื 21.5 % ของประชำกรทงั้ หมด

มีสาเหตุมาจาก จานวนประชากรสูงอายมุ ีแนวโนม้ เพ่มิ ขนึ้
ส่งผลกระทบอย่างไร • การพฒั นาเศรษฐกิจ การแพทย์ เทคโนโลยี และวิทยาศาสตร์
• จานวนแรงงานลดลง สญู เสียงบประมาณในการดแู ลผูส้ งู อายุ

ยุ โ ร ป การยา้ ยถิน่

ตุรกี เ อ เ ชี ย จนี การยา้ ยถนิ่ ภายในประเทศ
ซเี รยี อริ กั • ย้ายจากชนบทสเู่ มืองเพื่อหางานทา
อนิ เดยี • เช่น การย้ายถิ่นของประชากร
แ อ ฟ ริ ก า
ภาคตะวันออกเฉยี งเหนือสภู่ าคกลาง
หลงั ฤดเู กบ็ เกย่ี ว

ตุรกี ยุ โ ร ป การย้ายถ่นิ
ซีเรยี อริ ัก
เ อ เ ชี ย จนี การย้ายถ่นิ ระหว่างประเทศ
แ อ ฟ ริ ก า • ย้ายเพื่อหนีภยั ธรรมชาติ สงคราม
อินเดยี พมา่
และเพือ่ พัฒนาฐานะทางเศรษฐกจิ
• เช่น การย้ายถิน่ แรงงานจากจีน

อนิ เดีย และพม่า เข้าส่ปู ะเทศไทย
• การหนภี ัยสงครามจากซเี รยี

ส่ปู ระเทศอิรกั ตรุ กี เป็นตน้

ยุ โ ร ป การย้ายถิน่

ตรุ กี เ อ เ ชี ย จีน การยา้ ยถน่ิ ระหว่างทวปี
ซีเรยี อิรกั • ย้ายเพ่ือแสวงหาชวี ติ ท่ดี ีขนึ้
อินเดีย พมา่
แ อ ฟ ริ ก า ในประเทศปลายทาง
• ปัจจบุ นั เปน็ การยา้ ยถน่ิ ของแรงงาน

ขา้ มชาติ เชน่ การย้ายถนิ่ ของ
แรงงาน จากเอเชยี และแอฟรกิ า
สทู่ วปี ยโุ รป

การเปลก่ียานรแตปัง้ลถงน่ิปรฐะาชนาเกมรอื โลงแกแลละะชปนรบะชทากรไทย ขนาดการต้ังถ่ินฐานของมนษุ ย์

1 กลมุ่ บ้าน (hamlet)

หมบู่ า้ นขนาดเลก็ ประชากร นอ้ ยกว่า 100 คน

2 หม่บู า้ น (village)

ชุมชนขนาดใหญ่กวา่ กลมุ่ บ้าน ประชากรเฉล่ีย 100 – 1000 คน

3 เมอื ง (town)

ประชากรเฉลีย่ 1,000 – 100,000 คน

4 เมอื งใหญ่ (city)

มีเขตปกครองท่แี นน่ อน ประชากรเฉลยี่ 100,000 – 300,000 คน

5 มหานคร (metropolis)

มีประชากรมาก เป็นศนู ย์กลางเศรษฐกจิ และการปกครอง

6 อภิมหานคร (megalopolis)

เขตท่มี มี หานครและเมอื งใหญ่ ต้ังอยหู่ นาแนน่ ตดิ ตอ่ กัน

ความแตกตา่ งระหวา่ งเมืองและชนบท

ชนบท เมอื ง

1 มีการวางผงั ทีอ่ ยูอ่ าศยั เพอื่ รองรบั ประชากรทเ่ี พม่ิ ขน้ึ
2 มีการดารงชีวิต โดยพ่ึงพาธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม
3
4 ประกอบอาชีพเกษตรกรรม เล้ยี งสัตว์ ประมง
5 ประสบปัญหามลพษิ จากอุตสาหกรรมและการจราจร
6 ศูนย์กลางการค้าและเศรษฐกิจ มอี าชีพหลากหลาย

การต้งั ถิ่นฐานใกล้แหลง่ นา้ มีรปู แบบไม่แน่นอน

การตัง้ ถนิ่ ฐานเมอื ง

เมอื ง (town) มกี ารย้ายถิ่นเขา้ มคี วามเจรญิ

ด้านสาธารณูปโภค และสาธารณปู การ

เมืองใหญ่ (city) มกี ารพัฒนาเศรษฐกจิ และอุตสาหกรรม

มหานคร (metropolis) เปน็ ศนู ย์กลางการปกครอง
เศรษฐกิจ และวฒั นธรรม

อภิมหานคร (megalopolis) มหานครหลายมหานคร
ที่มีอาณาเขตติดตอ่ กัน



การต้ังถน่ิ ฐานชนบท

เปน็ รปู แบบการตง้ั ถนิ่ ฐานแบบใด ?
แบบโดดเดี่ยว

สรา้ งทอ่ี ย่อู าศยั ในพ้ืนท่เี กษตรของตนเอง


Click to View FlipBook Version