5100143
ทกั ษะในศตวรรษท่ี 21
เพ่ือชีวิตและอาชีพ
ทกั ษะการเรียนร้ใู นศตวรรษที่21
13
วชิ าแกน และ
แนวคดิ สาคญั
3Rs ในศตวรรษที่
21สาระวชิ าหลกั ประกอบดว้ ย
1. ภาษาแม่ และภาษาสาคญั ของโลก 2. ศลิ ปะ
4. การปกครองและหนา้ ทพี่ ลเมอื ง
3. คณิตศาสตร ์
5. เศรษฐศาสตร ์ 6. วทิ ยาศาสตร ์
7. ภูมศิ าสตร ์ 8. ประวตั ศิ าสตร ์
5
ปัญหา
การอา่ นหนังสือ
มอี ะไรบา้ ง
6
ทาไมเราจงึ พดู ไม่ชัด
การเรียนของเดก็ ทม่ี ภี าษา 7
และวัฒนธรรมทบ่ี า้ น
เหมือนกบั ทโ่ี รงเรียน
การเรียนของเดก็ ทมี่ ีภาษา
และวัฒนธรรมทบ่ี า้ น
แตกต่างกบั ทโ่ี รงเรียน
ฝึ กอา่ นออกเสียง
ต้นลางลงิ ขนึ้ พนั รุงรังอยู่ริมรั้ว
บอ๋ ยโรงแรมลนื่ ล้มอาการร่อแร่
เรือรบแล่นเลยทา่ ไปอยา่ งรวดเร็ว
กจิ กรรม...
อ่านเพ่ือสื่อความ
ทกั ษะการอ่าน
อาจารย์จนั ทรา โอระสะ
ผูส้ อน
ความสาคญั ของการอา่ น
การอ่านเป็นทักษะทางภาษาท่ีจาเป็นต้องฝึกฝนอยู่เสมอ และไม่มีวันส้ินสุด
สามารถฝกึ ได้เร่ือย ๆ ตามวัยและประสบการณ์ของผอู้ า่ น เพราะการอ่านนนั้ จะเกย่ี วข้อง
กับชีวิตประจาวันของมนุษย์ เป็นเครื่องมือสาคัญที่จะช่วยให้มนุษย์ได้รับความรู้
ความคิด และความบันเทิงใจ ช่วยปรบั ปรุงชวี ิตให้สดใสสมบูรณ์
ดังนั้นการอ่านจึงมีความสาคัญต่อตนเอง เพราะจะทาให้เราได้รับความรู้ความ
เพลิดเพลิน มีความคิดทันโลก ทันเหตุการณ์ และเป็นการสร้างองค์ความรู้เพื่อพัฒนา
ตนเองอกี ด้วย
ความหมายของการอ่าน
การเข้าใจความหมายของคา สัญลักษณ์ หรือเรื่องราวต่างๆ
สามารถรับรู้แปลความหมายออกมาได้ ฉะนั้นหัวใจของการอ่านก็คือ
ก า ร เ ข้ า ใ จ แ ล ะ ส า ม า ร ถ แ ป ล ค ว า ม ห ม า ย ข อ ง ถ้ อ ย ค า ที่ อ่ า น ไ ด้
อยา่ งถูกต้อง
ประเภทของการอ่าน การอ่านในใจ
การอ่านออกเสยี ง
- อา่ นออกเสยี งใหถ้ ูกตอ้ งชัดเจน - ตง้ั สมาธิใหแ้ นว่ แน่
- อา่ นเสียงดงั ฟังได้ทั่วถึง - กะระยะช่วงสายตาแต่ละคราวให้กวา้ งท่สี ดุ
- อ่านใหเ้ ป็นเสยี งพดู ธรรมชาติ - ไม่ทาปากขมบุ ขมิบหรือออกเสยี งในเวลาอ่าน
- ร้จู ักทอดจังหวะและลมหายใจ - ไม่ใชน้ วิ้ ปากกา หรอื ดินสอ ช้ีท่ตี วั หนงั สือทลี ะตวั
- บนั ทึกความรู้ ความเขา้ ใจ
และความคดิ ไวเ้ พื่อนาไปใชป้ ระโยชนต์ ่อไป
ประเภทของหนังสือ
1. หนงั สอื พมิ พ์
2. นิตยสาร และวารสาร
3. หนงั สอื สารคดี
4. หนงั สอื นวนิยาย หรอื บนั เทิงคดี
5. หนงั สอื เก่ยี วกบั สถติ ิ
จดุ มงุ่ หมายของการอ่าน
01 อ่านเพือ่ ความรู้
02 อ่านเพอื่ ความบนั เทงิ
03 อา่ นเพอื่ ทราบขา่ วสารความคิด
04 อา่ นเพอ่ื จดุ ประสงคเ์ ฉพาะทางแตล่ ะคร้งั
กระทรวงศึกษาธิการ,๒๕๔๖, หนา้ ๙
18
แนะนำเพจกำรอ่ำนหนงั สือใหก้ ับผพู้ ิกำรทำงสำยตำ
กำรใชน้ ำเสียงในกำรอำ่ น
ลักษะเสียง จงั หวะกำรพูด
ลีลำกำรใช้เสยี ง
ควำมชัดเจนของเสียง
สำเนียง
กิจกรรม...
อ่านหนงั สอื เลม่ น้ี เถอะท่ีรกั
คาช้ีแจง : อ่านหนงั สือเลม่ น้ี เถอะที่รกั
1. ใหน้ ักศกึ ษาแตล่ ะคนอา่ นหนังสอื เรอื่ งทตี่ นเองสนใจ 1 เรอื่ ง
2. ใหน้ ักศกึ ษาจบั กลมุ่ กลมุ่ ละ 7 - 8 คน และคดั เลอื กเรอื่ งทสี่ นใจมา 1 เรอื่ ง
3. สรปุ จบั ใจความจากการอ่าน และจดั ทา E-Book อย่างนอ้ ย 3-4 หนา้
ไม่รวมหนา้ ปก-หลงั ปก (การสรปุ เป็ นใจความ นักศกึ ษาอาจทาเป็ น
อนิ โฟกราฟิ กก็ได)้
4. เมอื่ ทาเสรจ็ แลว้ ให ้ คดั ลอกลงิ ก ์ ส่งใน Google Form
อย่าลมื เปิ ดชนิ้ งานเป็ นสาธารณะดว้ ยนะคะ
เกณฑก์ ำรประเมนิ
กำรสรุปจับใจควำมสำคญั ของเรอื่ งรำว 5
และกำรคำนวณ
2
มหี นำ้ หนงั สืออย่ำงน้อย 3-4 หน้ำ 3
(ไม่รวมปกหน้ำ –ปกหลัง)
ควำมสวยงำมของ E-book
สแกน
เพื่อส่งลิงก์
ชินงำน
E-book
25
E-Book
ตวั อยา่ ง
E-book
การทา E-book
การทา E-Book
อ่านหนงั สือเลม่ น้ี
เถอะท่ีรกั