The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

บัญชี น้ำยาล้างจานจากมะกรูด

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Chotika Praphakulthawat, 2022-09-05 09:50:34

บัญชี น้ำยาล้างจานจากมะกรูด

บัญชี น้ำยาล้างจานจากมะกรูด

1

รายงานโครงงานวิทยาศาสตร์
เรอ่ื ง นำ้ หอมจากดอกไม้

โดย สาขาวิชาการบญั ชี
สาขาวชิ าการบัญชี
นางสาวกานดา สมุ านติ ย์ สาขาวิชาการบัญชี
นางสาวธนชั พร ผลชล
นางสาวพิมนรัตน์ พันวะ

ระดับประกาศนียบตั รวชิ าชีพ(ปวช) ปีพุทธศักราช 2565
วิทยาลัยการอาชีพมหาราช อาชวี ศกึ ษาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา

2

รายงานโครงงานวทิ ยาศาสตร์
เร่ือง นำ้ หอมจากดอกไม้

โดย
นางสาวกานดา สุมานติ ย์ สาขาวิชาการบญั ชี
นางสาวธนชั พร ผลชล สาขาวชิ าการบญั ชี
นางสาวพมิ นรัตน์ พันวะ สาขาวชิ าการบญั ชี

ครทู ่ีปรกึ ษา
นางสาวศิริกาญจน์ สขุ พนั ธ์
นางสาวอธิชา ฉัตรยุทธนา



ช่อื โครงงาน นำ้ หอมจากดอกไม้

ชอ่ื ผู้จัดทำ นางสาวกานดา สุมานติ ย์ สาขาวิชาการบญั ชี

นางสาวธนชั พร ผลชล สาขาวิชาการบญั ชี
นางสาวพมิ นรตั น์ พนั วะ สาขาวชิ าการบญั ชี

ครูท่ปี รกึ ษา นางสาวศริ ิกาญจน์ สุขพันธ์

นางสาวอธิชา ฉตั รยทุ ธนา

ปที ่จี ดั ทำปกี ารศึกษา 2565

สถานศกึ ษา วิทยาลยั การอาชพี มหาราช

บทคดั ย่อ

การจัดทำโครงงานวิทยาศาสตร์เรื่อง น้ำหอมจากดอกไม้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาการทำน้ำหอม
จากดอกไม้โดยทำเป็นน้ำหอม 2 กลิ่น คือ กลิ่นที่ 1 เป็นกลิ่น ดอกพุดซ้อน และกลิ่นที่ 2 เป็นกลิ่นดอกปีบ
โดยใช้เวลาในการทำน้ำหอมให้กลิ่นติดกับสำลที ี่ชุบน้ำมันไว้ ประมาณ 2 สัปดาห์ จากนั้นนำหัวน้ำมันนี้มาผสม
กับส่วนประกอบต่างๆ พบว่า น้ำหอมจากดอกพุดซ้อนนั้นมีกลิ่นที่หอมแต่ไม่ฉุนจนเกินไป และการติดทน
นานนั้น ผลปรากฏว่ากลิ่นน้ำหอมติดทนได้ประมาณ 3 - 4 ชั่วโมง ส่วนน้ำหอมกลิ่นดอกปีบมีกลิ่นที่ไม่ค่อย
แรงมากและการตดิ ทนน้ัน ผลปรากฏว่ากลน่ิ น้ำหอมดอกปบี นน้ั ตดิ ทนได้ประมาณ 1 ชั่วโมง



กติ ติกรรมประกาศ

โครงงานสามารถบรรลุผลสำเร็จได้ดี ด้วยความร่วมมือจากผู้ปกครอง ครูและเพื่อนๆ ผู้จัดทำ
ขอขอบพระคุณ คณุ พ่อ คุณแม่ ของคณะผู้จัดทำท่ีช่วยในการจัดหาดอกไม้และส่วนผสมอน่ื ๆ ในการทำน้ำหอม
ขอขอบคุณครทู ชี่ ่วยให้คำปรกึ ษาแนะนำในการทำโครงงานครงั้ น้ี ทำใหง้ านนี้สำเรจ็ ไปด้วยดี

คณะผจู้ ดั ทำ

สารบญั ค

บทคัดยอ่ หนา้
กิตตกิ รรมประกาศ ก
สารบญั ข
สารบญั ตาราง ค
สารบัญรูปภาพ ง
บทท่ี 1 บทนำ จ
ทม่ี าและความสำคญั ของโครงงาน 1
จุดม่งุ หมายของการศกึ ษาคน้ ควา้ 1
สมมติฐานการศึกษาคน้ ควา้ 1
ขอบเขตของการศึกษาค้นควา้ 1
ตวั แปร 1
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กี่ยวขอ้ ง 1
บทที่ 3 อุปกรณแ์ ละวิธีการศกึ ษาคน้ ควา้ 2
บทที่ 4 ผลการศึกษาค้นคว้า 9
บทที่ 5 สรุปและอภปิ รายผลการศึกษาคน้ คว้า 10
สรุปผลการศึกษา 11
ประโยชนท์ ไี่ ดร้ ับ 11
ปัญหา/ขอ้ เสนอแนะ 11
บรรณานุกรม 11
ภาคผนวก 12
13

สารบญั ตาราง ง
ตารางท่ี หนา้ 4.1 ตารางบันทกึ ผล
หน้า

12

สารบญั รปู ภาพ จ

ภาพท่ี หนา้
1.1-1.5 พุดซ้อน 2
2.1-2.4 ปบี 6
ภาพกจิ กรรมการศึกษาทดลอง 14
ภาพกิจกรรมการจดั หาของ 15

1

บทที่ 1

บทนำ

ทมี่ าและความสำคญั ของโครงงาน

ประเทศไทยมีดอกไม้ที่ทีกลิ่นหอมอยู่หลายชนิดที่อาจนำมาทำเป็นน้ำหอมได้ เช่น ดอกพุดซ้อน
ดอกมะลิ ดอกปีบ ฯลฯ ซึ่งกลิ่นหอมจากดอกไม้เหล่านี้ที่เป็นของแท้จากธรรมชาติยังมีน้อยมากในท้องตลาด
ส่วนมากมักจะเป็นสารสังเคราะห์ที่นำมาปรุงแต่งใหม้ ีกลิ่นคล้ายธรรมชาติ ดังนั้น จึงเห็นว่าการวิจัยเพื่อศึกษา
เทคนิคเพื่อพัฒนาวิธีการทำน้ำหอมจากดอกไม้ โครงงานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาวิธีการทำน้ำหอมที่ถูกต้อง
และส่งเสริมให้เกิดธุรกิจใหมๆ่ ขึ้น

จุดมงุ่ หมายของการศึกษาค้นควา้

1. เพ่ือศกึ ษาเปรียบเทยี บกลิ่นน้ำหอมจากดอกพุดซ้อนและดอกปบี
2. เพอ่ื ศึกษาความพึงพอใจของผู้ทดลองใช้นำ้ หอมจากดอกพุดซ้อนและดอกปบี

สมมตฐิ านการศกึ ษาคน้ ควา้

นำ้ หอมมีกลน่ิ ตรงตามดอกไม้ทเ่ี ราเลอื กใช้ และน้ำหอมมกี ล่ินติดทนนาน

ขอบเขตของการศกึ ษาค้นคว้า

ระยะเวลาในการศกึ ษาค้นควา้ ทำการทดลอง ระหวา่ งวันที่ 7 - 28 สิงหาคม 2565 เปน็ เวลา 21 วัน
เน้อื หาในการศกึ ษานี้ เพื่อใหส้ ำลที ่ชี บุ น้ำมันดูดกลน่ิ ของดอกไมแ้ ล้วนำน้ำมนั ที่ไดจ้ ากสำลมี าผสมกบั
เอทิลแอลกอออล์จงึ กลายเปน็ นำ้ หอม

ตวั แปร

ตัวแปรตน้ : ชนิดดอกไม้ทเี่ ลือกใช้
ตวั แปรตาม : กลิน่ และความตดิ ทนของน้ำหอม
ตวั แปรควบคมุ : ชนดิ น้ำมนั ทใ่ี ช้และปรมิ าณเอทิลแอลกอฮอล์

2

บทท่ี 2
เอกสารทเี่ ก่ยี วข้อง
แนวคิด ทฤษฎี

โครงงานวิทยาศาสตร์ เรื่อง น้ำหอมจากดอกไม้ คณะผู้จัดทำได้ค้นคว้ารวบรวมทฤษฎีจากตำรา
สารสนเทศ วารสาร สื่อออนไลน์ และเอกสารที่เก่ยี วข้องดงั น้ี

1. ดอกพดุ ซอ้ น
2. ดอกปีบ

1. ดอกพุดซ้อน

รปู ภาพท่ี1.1 พุดซอ้ น

พุดซ้อน (Cape Jasmine) พุดซ้อนเป็นพันธุ์ไม้วงศ์ตระกูลเดียวกับต้นเข็มพวงขาว กระทุ่มและ
กาแฟ รวมไปถึงพุดชนิดอื่นๆ โดยถิ่นกำเนิดเดิมของพุดซ้อนเข้าใจว่าอยู่ทางตอนใต้ของจีน แต่สามารถ
แพร่พนั ธขุ์ ยายวงกวา้ งไปยงั แถบบังกลาเทศ อินเดีย ญี่ปุ่น เกาหลี พม่าและเวียดนามมาจนถึงประเทศไทย

ขอ้ มลู ท่วั ไปของพดุ ซอ้ น

ชอื่ สามัญ : พุดซ้อน
ชื่อภาษาองั กฤษ : Cape Jasmine, Gardenia jasmine
ชอ่ื วิทยาศาสตร์ : Gardenia jasminoides J.Ellis

3

ลักษณะท่ัวไปของพดุ ซอ้ น

ต้นพุดซ้อน : มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน โดยจัดเป็นไม้พุ่มเตี้ยหรือไม้ยืนต้นขนาดเล็ก มีความสูงได้
ประมาณ 1-2 เมตร มีลักษณะทั่วไปคล้ายต้นพุดจีบ แต่จะแตกต่างกันที่ว่าพุดซ้อนจะไม่มีสีขาวอยู่ในต้นและ
ใบเหมือนพุดจีบ ลำต้นแตกกิ่งก้านมาก ลำต้นและกิ่งก้านเป็นสีเขียว ใบขึ้นดกหนาทึบ ส่วนราก ใต้ดินเป็น
สีเหลืองอ่อน นิยมขยายพันธุ์ด้วยวิธีการตอนกิ่ง เนื่องจากเป็นวิธีที่เหมาะสมที่สุด ต้องการแสงแดดจัดและ
ความชื้นสูง หากปลูกในที่มีแสงแดดไม่เพียงพอจะทำให้ไม่ค่อยออกดอก และการตัดแต่งทรงพุ่มให้โปร่ง
จะช่วยทำใหด้ อกมีขนาดใหญ่ข้ึนได้ โดยมักพบข้ึนในปา่ ดงดิบทางภาคเหนือ

รปู ภาพที่1.2 ตน้ พดุ ซ้อน

ใบพุด: พุดซ้อนเป็นไม้ที่ออกใบหนาแน่น ทำให้ดูทึบ โดยใบจะเป็นใบเดี่ยวออกเรียงตรงข้ามหรือประกอบ
เป็นใบ 3 ใบ ลักษณะของใบเป็นรูปมนรีหรือรูปหอก ปลายใบแหลม โคนใบสอบ ส่วนขอบใบเรียบเป็นขอบ
สีขาว ใบมีขนาดกว้างประมาณ 2-5 เซนติเมตรและยาวประมาณ 7-14 เซนติเมตร แผ่นใบเรียบมันเป็น
สีเขียวเข้ม เนื้อใบหนา ก้านใบสั้น มีหูใบ 2 อันอยู่ระหว่างก้านใบด้านละอัน ลักษณะของใบทั่วไปคล้าย
ใบพดุ จีบ แตจ่ ะแตกตา่ งกนั ตรงที่ไมม่ ยี างสขี าวเท่านน้ั

รูปภาพที1่ .3 ใบพดุ

4

ดอกพุดซ้อน : โดยมากแล้วจะออกดอกเป็นดอกเดี่ยว โดยจะออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกมีขนาดใหญ่
ลักษณะของดอกคล้ายกับดอกพุดจีบ ดอกของพุดซ้อนจะเป็นสีขาวและมีกลีบดอกซ้อนกันหลายชั้น โคนกลีบ
แหลม ปลายกลีบมนรี มีกลีบดอกประมาณ 5-7 กลีบ มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 7 เซนติเมตร
เนื้อนุ่มและมีกลิ่นหอมแบบอ่อน ๆ ดอกมีเกสรเพศผู้ 6 ก้านรูปแถบ ติดที่ปลายหลอดกลีบดอก เกสรเพศเมีย
ก้านเกสรยาว ยอดเกสรเป็นกระจุกแน่น รังไข่จะอยู่ใต้ฐานรองดอก ส่วนกลีบเลี้ยงมีประมาณ 5-8 แฉก
ก้านดอกสัน้ หรอื ไมม่ กี ้านดอก

รปู ภาพที่1.4 ดอกพดุ ซ้อน

ผลพุดซ้อน : ผลมีลักษณะกลมเป็นรูปไข่ ออกแบบหัวทิ่มลง ผลอ่อนเมื่อสุกแล้วจะเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง
หรอื เปน็ สสี ้มถงึ แดง ผลมขี นาดเส้นผ่านศูนยก์ ลางประมาณ 1-1.5 เซนตเิ มตรและยาวประมาณ 3-7 เซนตเิ มตร
เปลือกผลมีเหลี่ยมตามยาว ประมาณ 5-7 เหลี่ยม ภายในมีเมล็ดอยู่ประมาณ 3-6 เมล็ด เมล็ดจะมีเนื้อเยื่อหุ้ม
เป็นสแี ดง

รปู ภาพท่ี1.5 ผลพุดซ้อน

5

ประโยชนข์ องตน้ พดุ ซอ้ น

1. ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับสวนบริเวณบ้านทั่วไป ตัดแต่งทรงพุ่มและปลูกเป็นแนวรั้วได้ดี สามารถ
ควบคุมการออกดอกได้ด้วยการควบคุมการให้น้ำและการใส่ปุ๋ยที่เหมาะสม อีกทั้งดอกพุดซ้อนยังมีความหมาย
ที่เป็นมงคลอีกด้วย โดยตามความหมายของไทยจะหมายถึงความแข็งแรง สมบูรณ์ ความเจริญมั่นคง
ส่วนตามความหมายของฝรั่งจะหมายถึงรักแท้

2. นำดอกมาปักแจกันไหว้พระหรือนำไปร้อยเป็นพวงมาลัยสำหรับบูชาพระ ส่วนในประเทศจีน
จะใช้ดอกพดุ มาอบใบชาใหม้ ีกลน่ิ หอม

3. ดอกสามารถนำมาสกัดทำเปน็ นำ้ มันหอมระเหย ใชแ้ ต่งกล่ินเคร่อื งสำอางได้
4. ผลและเมล็ดเมื่อนำมาบดจะให้สารสีเหลืองทองชื่อ Gardenia ใช้เป็นสีสำหรับแต่งสีอาหารให้เป็น
สีเหลือง (เช่น การใช้ย้อมสีด้านนอกของเต้าหู้แข็ง แต่งสีน้ำเก๊กฮวย ส่วนในประเทศจีนใช้เป็นสีย้อมผ้า)
และยงั ใหส้ ารสีนำ้ ตาลแดงชอื่ Corcin ใช้สำหรับแต่งอาหารใหม้ ีสีน้ำตาลแดง
5. เนอื้ ไม้สามารถนำมาใช้ทำธปู ทำกรอบรปู และทำหวั นำ้ หอมได้

สรรพคุณทางยาของพุดซ้อน

1. ผลจากต้นมีรสขม สามารถใช้เป็นยาเย็น ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและตับ ใช้เป็นยาดับพิษร้อนถอนพิษไข้
ช่วยแกอ้ าการรอ้ นใน ช่วยกระจายเลอื ดที่อุดตนั ช่วยแกอ้ าการกระสบั กระสา่ ยนอนไมห่ ลับ

2. เนอ้ื ไม้ชว่ ยลดพษิ ไข้ แก้ตวั รอ้ นเม่อื มีไขส้ งู
3. เปลือกตน้ และรากเปน็ ยาแก้ไข้ ใช้เปน็ ยาแกบ้ ดิ แกป้ วดทอ้ ง
4. ใบใชต้ ำพอกแกอ้ าการปวดศีรษะได้
5. รากช่วยแก้ผื่นคันตามผิวหนัง ช่วยแก้ฝีหนองอักเสบ ช่วยแก้อาการปวดบวม ใช้ตำพอกแผลสด
ห้ามเลอื ด ช่วยสมานบาดแผล
6. น้ำคั้นจากดอกนำมาผสมกับน้ำมันใช้เป็นยาทารักษาโรคผิวหนัง หรือจะใช้เฉพาะน้ำคั้นจากดอก
เพยี งอยา่ งเดยี วกไ็ ด้

6

3. ดอกปบี

รปู ภาพท่ี2.1 ต้นปีบ

ต้นปีบ เป็นไม้ยืนต้นขนาดเล็กถึงขนาดกลาง ลำต้นตรง มีความสูงประมาณ 5-10 เมตร เปลือกต้นเป็นสีเทา
เข้มแตกเป็นร่องลึก มีช่องอากาศ รากเกิดเป็นหน่อ เจริญเป็นต้นใหมไ่ ด้ ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการนำเมล็ดมาเพาะ
หรือใช้ต้นอ่อนที่เกิดจากรากรอบๆ ของต้นแม่ นำมาตัดเป็นท่อนสั้นๆ แล้วนำมาปักชำในกระบะกรวยที่ผสม
ด้วยขี้เถ้าแกลบก็ได้ ปีบเป็นพันธุ์ไม้พื้นเมืองของพม่าและไทยที่ขึ้นกระจัดกระจายอยู่ทั่วไปตามป่าเบญจพรรณ
และป่าดิบแล้งทางภาคเหนอื ภาคตะวันตก และทางภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื

รปู ภาพท่ี2.2ใบปบี

ใบปีบ ลักษณะของใบเป็นใบประกอบแบบขนนก 3 ชั้น มีความกว้างประมาณ 13-20 เซนติเมตรและ
ยาวประมาณ 16-26 เซนติเมตร ก้านใบยาว 3.5-6 เซนติเมตร ที่ตัวใบจะประกอบไปด้วยแกนกลางยาว
ประมาณ 13-19 เซนติเมตร มีใบย่อย 4-6 คู่ กว้างประมาณ 2.5-3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-5
เซนตเิ มตร ลักษณะใบมีรูปร่างคล้ายรปู หอกแกมรูปไข่ ปลายใบเรยี วแหลม ฐานใบเป็นรปู ลม่ิ ขอบใบหยักเปน็ ซ่ี
หยาบๆ เน้อื ใบเกลี้ยงบางคล้ายกบั กระดาษ

7

รปู ภาพท่ี2.3ดอกปีบ

ดอกปีบ ลักษณะดอกเป็นช่อกระจุกแยกแขนง มีความยาวประมาณ 10-25 เซนติเมตร ดอกย่อยจะประกอบ
ไปด้วยกลีบเลี้ยงสีเขียว ดอกมีกลิ่นหอม มีความกว้างประมาณ 0.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 6-10
เซนติเมตร เชื่อมกันเป็นหลอดปากแตร แยกออกเป็น 5 แฉก 3 แฉกรูปขอบขนาน 2 แฉกล่างค่อนข้างแหลม
มีเกสรตัวผู้จำนวน 4 ก้าน สองคู่จะยาวไม่เท่ากัน และมีเกสรตัวเมียจำนวน 1 ก้าน อยู่เหนือวงกลีบ
โดยดอกปบี จะออกดอกในช่วงเดอื นพฤศจกิ ายนถึงเดือนพฤษภาคม

รูปภาพที่2.4 ผลปบี

ผลปี บ ลกั ษณะเป็นผลแหง้ แตก ผลแบนยาว ขอบขนาน มีเน้ือและเมลด็ จานวนมาก เป็นแผน่ บางมีปี ก

8

ประโยชนข์ องปบี
1. ดอกนำมาตากแห้งแล้วผสมกับยาสูบมวนบุหรี่ ใช้สูบทำให้ชุ่มคอ ทำให้ปากหอม และยังมีกล่ิน

ควันบหุ ร่ที ่หี อมดีอกี ด้วย
2. ดอกชว่ ยเพ่ิมการหลัง่ นำ้ ดี (cholagogue) และเพ่ิมรสชาติ (ดอก)
3. ดอกปีบนำมาตากแห้ง นำมาชงใส่นำ้ ร้อนด่มื เปน็ ชาก็ได้ โดยดอกปีบชงน้ีจะมีกล่ินหอมละมุนออ่ นๆ

มีรสชาติหวานแบบนมุ่ นวล ไม่ขม แถมยังดตี อ่ สขุ ภาพอีกดว้ ย
4.สารสกดั จากใบท่สี กดั ด้วยเอทานอลมฤี ทธ์ใิ นการยับย้ังการเจริญเติบโตของคะนา้ (ใบ)
5.เนื้อไม้ของต้นปีบมีสีขาวอ่อน สามารถเลื่อยหรือไสกบเพื่อตกแต่งให้ขึ้นเงาได้ง่าย จึงเหมาะแก่การ

นำมาใชท้ ำเป็นเครือ่ งเรอื น เคร่อื งตกแต่งภายในบา้ นได้
6.เปลือกของตน้ ปบี เม่อื ก่อนสามารถนำมาใช้แทนไม้กอ๊ กสำหรบั ทุกจุกขวดได้
7.ปีบเป็นไม้พุ่มมีใบและดอกสวย แถมยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย จึงสามารถปลูกไว้ประดับสวน

ปลกู เพ่ือให้ร่มเงาในลานจอดรถหรอื ริมถนนข้างทาง และท่สี ำคญั ต้นไมช้ นิดนี้ยงั ทนน้ำท่วมขงั ไดด้ ีอกี ดว้ ย

สรรพคณุ ของปบี
1. ดอกมีสรรพคุณเปน็ ยาบำรุงกำลงั (ดอก)
2. ชว่ ยบำรงุ โลหติ (ดอก)
3. รากชว่ ยบำรงุ ปอด (ราก)
4. ช่วยรกั ษาวณั โรค (ราก)
5. ใช้เป็นยารกั ษาไซนัสอกั เสบ (ดอก)
6. ช่วยรักษาริดสีดวงจมูก ด้วยการใช้ดอกที่ตากแห้งแล้วนำมามวนเป็นบุหร่ีสูบเพื่อรักษา

อาการ (ดอก)
7. ชว่ ยรกั ษาอาการหอบหืด หอบเหนื่อย ทำให้ระบบการหายใจดยี ่ิงข้ึนด้วยการใช้ดอกปีบแหง้

ประมาณ 6-7 ดอก แล้วมวนเปน็ บหุ ร่สี บู เพื่อรักษาอาการหอบหืดได้ (ราก, ดอก)

9

บทที่ 3
อปุ กรณ์และวิธีการศึกษาคน้ ควา้
วสั ดุอปุ กรณ์

1) ดอกพุดและดอกปีบ
2) เอทลิ แอลกอฮอล์
3) โหลแก้ว
4) ขวดนำ้ หอม
5) นำ้ มนั มะพรา้ ว
6) สำลี

ข้นั ตอนและวิธกี ารดำเนนิ งาน

ข้นั ตอนการเตรยี มการ
1) ตงั้ ประเด็น
2) สบื คน้ ข้อมลู
3) รวบรวมเนอื้ หา
4) แบง่ งานให้กับสมาชิกทุกคนในกลมุ่
5) จัดหาวสั ดุ อุปกรณ์และเครือ่ งมือทใ่ี ช้

ข้ันตอนดำเนนิ งาน
1) นำดอกไม้ท่หี ามาใสใ่ นโหลประมาณครง่ึ โหล
2) ใชส้ ำลชี บุ นำ้ มันมะพร้าวจากนน้ั บดิ ให้หมาด แลว้ แขวนตรงปากโหลโดยใช้ไม้กลดั ไว้ทฝี่ าให้สำลหี อ้ ยล
ไปในโหล
3) เกบ็ โหลไหวใ้ นที่แห้งไม่วางกลางแจง้ และหลังจากนั้น 2-3 วนั มาดทู ดสอบกลิ่น
4) ถ้ากลนิ่ เปน็ ท่ีพงึ พอใจแลว้ นำสำลขี ึ้นมา แล้วบบี จนน้ำในสำลหี มด แล้วกผ็ สมเอทิลแอลกอฮอล์
5) คนจนเข้ากันแล้วกรอกใสข่ วดนำ้ หอม

10

บทท่ี 4

ผลการศึกษาคน้ ควา้

นำ้ หอมจากดอกไม้เพอ่ื หาความร้ใู หมๆ่ และก็สามารถจำหนา่ ยหารายไดโ้ ดยทไี่ ม่เสยี ค่าใชจ้ ่ายในการทำมาก

ตาราง4.1 ตารางบนั ทกึ ผล

กลนิ่ ความตดิ ทน
ดอกไม้

น้อย ปาน มาก น้อย ปาน มาก
กลาง กลาง

ดอกพดุ ซอ้ น ✓ ✓

ดอกปบี ✓ ✓

จากตาราง พบว่านำ้ หอมกล่นิ ดอกพดุ ซอ้ นน้ันมีกลน่ิ ทหี่ อมแตไ่ มฉ่ นุ จนเกนิ ไป และการติดทนนานนนั้ ผล
ปรากฏว่ากล่ินนำ้ หอมตดิ ทนได้ประมาณ 3-4 ช่วั โมง สว่ นนำ้ หอมกลิน่ ดอกปบี มีกลิน่ ทไ่ี ม่ค่อยแรงมากและการ
ตดิ ทนนัน้ ผลปรากฏว่ากล่ินน้ำหอมดอกปีบน้ันตดิ ทนไดป้ ระมาณ 1 ชวั่ โมง

11

บทท่ี 5
สรุปและอภิปรายผลการศึกษาคน้ ควา้

น้ำหอมจากดอกไมเ้ พอ่ื หาความร้ใู หมๆ่ และกส็ ามารถจำหนา่ ยหารายได้โดยท่ีไมเ่ สียคา่ ใชจ้ ่ายในการทำมาก
ซง่ึ สามารถสรปุ ผลการศกึ ษาได้ดังนี้

สรุปผลการศึกษา

จากผลการดำเนินการพบว่า นำ้ หอมจากดอกพุดซอ้ นให้กลิ่นและตดิ ทนนานมากกว่าน้ำหอมจากดอกปบี
สเปรยน์ ำ้ หอมกลน่ิ ดอกไมม้ ีกล่ินหอมตามทตี่ ้องการและตามดอกไม้ท่เี ราเลอื กใช้ แล้วกม็ ีกล่ินท่ีธรรมชาติตา่ ง
จากนำ้ หอมท้องตลาดท่ัวไป และมีกล่นิ ทห่ี อมสบายไม่ฉนุ และตดิ ทนนาน

ประโยชนท์ ไ่ี ด้รบั

1. ชว่ ยให้เรามสี มาธิและมีใจจดจอ่ ต่อส่งิ ที่ทำมาก
2.ชว่ ยบำบดั ความเครยี ดและใหค้ วามร้สู กึ ผอ่ นคลาย
3.สามารถเสริมความมนั่ ใจ
4.สามาถทำไดง้ ่ายและประหยัดเงนิ ปัญหา/ขอ้ เสนอแนะ

ปญั หาท่ีพบ

1. การออกดอกของดอกไม้
2. ตอ้ งคอยเปลีย่ นดอกไมเ้ ป็นระยะเพราะไมง่ น้ั ดอกไม้อาจจะเน่าเสียและไมม่ กี ลิ่นหอม
3. สว่ นผสมบางอยา่ งหาได้ยาก

ข้อเสนอแนะ

ควรศกึ ษากอ่ นทำและคอยสังเกตดอกไมว้ า่ ควรเปลี่ยนในชว่ งไหน

12

บรรณานกุ รม

โครงงานวิทยาศาสตร์ เร่อื ง น้ำหอมจากมะลิ.//(20 สิงหาคม 2565)
https://www.slideshare.net/everadaq/ss39565274?fbclid=IwAR2oNHGQfmCtQylFVhEA
S_nkmxt uwD2aZtxconUsyFx8jF3fEiFn8Q1eELQ

พุดซ้อน.//(20 สิงหาคม 2565)
https://kaset.today/%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%81%E0%B9%84%E0%B8%A1
%E0%B9%89/%E0%B8%9E%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%8B%E0%B9%89%E0%
B8%AD%E0%B8%99/

ดอกปบี .//(20 สงิ หาคม 2565)
https://khaolan.redcross.or.th/%E0%B8%9B%E0%B8%B5%E0%B8%9B/

วธิ ีการทำนำ้ หอม.//(20 สงิ หาคม 2565)
https://www.gangbeauty.com/103995?fbclid=IwAR2yx2mjgDkPvECBjVhX_MpU7o3zb9

mYgirDPi 261-Fd9w1xJqU1BDKz1ho

13

ภาคผนวก
ภาพกิจกรรมการศึกษาทดลอง

14

ภาพกิจกรรมการศกึ ษาทดลอง
ข้นั ตอนการดำเนินงาน

1) นำดอกไม้ทห่ี ามาใส่ในโหลประมาณครึ่งโหล

2)ใช้สำลีชบุ นำ้ มนั มะพรา้ วจากน้นั บดิ ใหห้ มาด แลว้ แขวนตรงปากโหลโดยใช้ไมก้ ลัดไวท้ ฝ่ี าใหส้ ำลีหอ้ ยลงไปใน
ขวดโหล

3)เกบ็ โหลไวใ้ นทแ่ี ห้งไม่วางกลางแจ้ง และหลังจากนั้น 2-3 วนั
มาทดสอบกลน่ิ
4)ถา้ ไดก้ ลน่ิ เปน็ ท่พี งึ พอใจแล้วนำสำลขี ้ึนมาแล้วบบี น้ำในสำลอี อกให้หมด
แล้วก็นำมาผสมเอทลิ แอลกอฮอล์
5)คนจนเข้ากนั แลว้ กรอกใส่ขวดน้ำหอม

15

ภาพกจิ กรรมการจัดหาของ


Click to View FlipBook Version