1
กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมนผลการจัดการศึกษา
ิ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เอกสาร ศน. สพป.ล าปางเขต 1
ี่
กระทรวงศึกษาธิการ ท 2 /2563
ก
ค ำน ำ
การศึกษาเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาประชากรของประเทศให้มีคุณภาพอันนำไปสู่การพัฒนา
ประเทศให้มีความเข้มแข็งในทุกด้าน โดยเฉพาะในระดับชั้นประถมศึกษาในช่วงชั้นแรก ซึ่งเป็นพื้นฐานในระดับ
การศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง รัฐบาลได้กำหนดการแก้ไขปัญหาการอ่านและการเขียน
เป็นนโยบายในระยะเร่งด่วนเน้นปรับปรุงวิธีการจัดการเรียนการสอน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น การสอน
แบบแจกลูกสะกดคำ โดยใช้แนวการจัดการเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการสมอง (Brain Base Learning :
BBL) เป็นต้น และได้กำหนดเป้าหมายคุณภาพผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ต้องอ่านออกเขียนได้
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ขึ้นไปต้องอ่านคล่องเขียนคล่องตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ 6 จุดเน้น
โดยเฉพาะจุดเน้นด้านหลักสูตรและกระบวนการเรียนรู้ ข้อที่ 2 ผู้เรียนมีสมรรถนะที่สำคัญสู่มาตรฐานสากล
ข้อย่อย 2.2 ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อ่านออกเขียนได้ ข้อย่อย 2.3 ผู้เรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ขึ้นไป อ่านคล่องเขียนคล่อง
ศูนย์สอบสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 ดำเนินการบริหารการจัดสอบ
ื้
นักเรียนกลุ่มเป้าหมายโรงเรียนในสังกัดตามมาตรฐานการทดสอบ ได้วิเคราะห์ผลการทดสอบในระดับเขตพนที่
แยกตามสมรรถนะรายด้าน ระดับคุณภาพ และแต่ละอำเภอ/กลุ่มเครือข่าย เพื่อได้สารสนเทศที่เป็นประโยชน์
ต่อผู้บริหารการศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา ครู บุคลากรทางการศึกษา ศึกษานิเทศก์ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
ในการจัดการศึกษาและพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
ขอขอบคุณผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู บุคลากรทางการศึกษาและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายที่ให้
ความร่วมมือในการดำเนินการจัดสอบประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
(Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2562 ด้วยความยุติธรรม โปร่งใส ได้มาตรฐาน ซึ่งได้สารสนเทศทาง
การสอบที่สามารถสะท้อนคุณภาพการจัดการเรียนรู้ของสถานศึกษาได้อย่างแท้จริงมีความน่าเชื่อถือ และ
ให้สถานศึกษาและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปใช้วางแผนและกำหนดแนวทางในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ต่อไป
กลุ่มงานวัดและประเมินผลการศึกษา
กลุ่มนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
ึ
ข
สารบัญ
หน้า
คำนำ ก
สารบัญ ข
สารบัญตาราง ง
สารบัญกราฟ จ
บทที่ 1 บทนำ
- ความเป็นมาและความสำคัญ 1
- วัตถุประสงค์ 2
- เป้าหมาย 2
- นิยามศัพท์เฉพาะ 2
- ประโยชน์ที่ได้รับ 3
บทที่ 2 เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
- หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย 4
- ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการประเมินการอ่าน 5
- ความหมายของการอ่าน 8
- งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง 8
บทที่ 3 วิธีการดำเนินการ
- กรอบโครงสร้างการประเมิน 11
- เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน 13
- เกณฑ์ของระดับคะแนนและการแปลผลการประเมิน 13
- วิธีการดำเนินการระดับพื้นที่/ศูนย์สอบ 14
- วิธีการดำเนินงานระดับสนามสอบ 16
- แนวปฏิบัติสำหรับกรรมการคุมสอบ 20
บทที่ 4 ผลการประเมิน
ตอนที่ 1 รายงานผลการประเมินความสามารถในการอ่าน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ระดับเขตพื้นที่ 22
ค
สารบัญ (ต่อ)
หน้า
ตอนที่ 2 รายงานผลประเมินความสามารถในการอ่าน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ุ
จำแนกตามระดับคณภาพ 22
ตอนที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถในการอ่าน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561-2562 23
ตอนที่ 4 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถในการอ่าน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ระดับเขตพื้นที่และระดับประเทศ 25
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ/ปัจจัยเหตุแห่งปัญหา 26
บทที่ 5 สรุปผล อภิปรายผล ข้อเสนอแนะ
สรุปผล 27
อภิปรายล 28
ข้อเสนอแนะ 29
บรรณานุกรม 31
ภาคผนวก
่
- รายงานการประเมินความสามารถด้านการอานของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่ 34
- เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 กับ ปีการศกษา 2562 34
ึ
- เรียงลำดับผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 รายโรงเรียน 35
- เรียงลำดับผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 รายกลุ่มเครือข่าย 35
- ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำแนกกลุ่มเครือข่าย 36
- ผลการพัฒนาการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 รายโรงเรียน 36
คณะผู้จัดทำ 37
ง
สารบัญตาราง
หน้า
ตารางที่ 1 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่ 22
ตารางที่ 2 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำแนกตามระดับคุณภาพ 23
ตารางที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ 24
ตารางที่ 4 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ึ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 กับ ปีการศกษา 2562 25
จ
สารบัญกราฟ
หน้า
กราฟที่ 1 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่ 23
กราฟที่ 2 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำแนกตามระดับคุณภาพ 24
กราฟที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ 25
กราฟที่ 4 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561 กับ ปีการศึกษา 2562 26
1
บทที่ 1
บทนำ
ความเป็นมาและความสำคัญ
การศึกษาเป็นปัจจัยพื้นฐานสำคัญในการพัฒนาประชากรของประเทศให้มีคุณภาพอันจะนำไปสู่
การพัฒนาประเทศให้มีความเข้มแข็งในทุกด้าน กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดให้มีการปฎิรูปการศึกษา
ในทศวรรษที่สอง (พ.ศ. 2552-2562) โดยกำหนดจุดเน้นการพัฒนาผู้เรียนที่คลอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ
และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ สำหรับใช้เป็นกลไกขับเคลื่อนคุณภาพผู้เรียนตั้งแต่วัยเริ่มต้น และการจัด
การศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยเฉพาะระดับชั้นประถมศึกษา ในปีการศึกษา 2558 ได้กำหนดนโยบาย “ปีการศึกษา
2558 เป็นปีปลอดนักเรียนอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้” และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 เมื่อจบชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 ต้องอ่านออกเขียนได้ และมีมาตรการการประเมินผลที่เป็นรูปธรรม ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่
์
จะต้องเน้นให้ผู้เรียนมีความสามารถในการอ่านและการเขียนตามเกณฑมาตรฐาน
รัฐบาลได้กำหนดการแก้ไขปัญหาการอ่านและการเขียนเป็นนโยบายในระยะเร่งด่วน เน้นปรับปรุง
วิธีการจัดการเรียนการสอน เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว เช่น การสอนแบบแจกลูกสะกดคำ โดยใช้แนวการจัด
การเรียนรู้ที่สอดคล้องกับพัฒนาการสมอง (Brain Base Learning : BBL) เป็นต้น และได้กำหนดเป้าหมาย
คุณภาพผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ต้องอ่านออกเขียนได้ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ขึ้นไปต้องอ่านคล่อง
เขียนคล่องตามยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ 6 จุดเน้น โดยเฉพาะจุดเน้นด้านหลักสูตรและกระบวนการ
เรียนรู้ ข้อที่ 2 ผู้เรียนมีสมรรถนะที่สำคัญสู่มาตรฐานสากล ข้อย่อย 2.2 ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 อานออก
่
เขียนได้ ข้อย่อย 2.3 ผู้เรียนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ขึ้นไป อ่านคล่องเขียนคล่อง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักทดสอบทางการศึกษา ได้รับมอบหมายให้
เป็นหน่วยงานหลักในการสร้างเครื่องมือประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ซึ่งคณะผู้ดำเนินการสร้างเครื่องมือประเมิน ประกอบด้วย กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและผู้ทรงคุณวุฒิทางด้านจิตวิทยา
พัฒนาการ จิตวิทยาการเรียนรู้ ครูผู้สอนที่มีประสบการณ์การสอนภาษาไทยมากกว่า 5 ปีขึ้นไป ผู้เชี่ยวชาญ
ิ
ด้านการวัดและประเมินผล โดยพจารณากรอบแนวทางในการสร้างเครื่องมือจากการวิเคราะห์มาตรฐานและ
ตัวชี้วัด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามระดับชั้นของหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช
2551 การวิเคราะห์ระดับพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน และการวิเคราะห์กระบวนการเรียนรู้ภาษาไทย
ที่ถูกต้องตามหลักภาษาและใช้กรอบคำศัพท์ในบัญชีคำพื้นฐาน เพื่อเป็นตัวชี้วัดผลสำเร็จในการดำเนินงานตาม
นโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จุดเน้นยุทธศาสตร์กระทรวงศึกษาธิการ และจุดเน้นสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน อันจะนำไปสู่การกำหนดนโยบายการศึกษา การนำไปใช้วินิจฉัย
ข้อบกพร่องความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนได้อย่างตรงประเด็น
ในปีการศึกษา 2562 สถาบันทดสอบทางการศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) มอบหมายให้
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 ทำหน้าที่เป็นศูนย์สอบ ดำเนินการจัดสอบ
2
ความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่1 (RT) โดยบริหารจัดการและประสานงานกับ
ทุกโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 รวมทั้งโรงเรียนศึกษาสงเคราะห์
จิตต์อารี และโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ ในการดำเนินการสอบให้เป็นไปตามแนวทางที่สถาบันทดสอบทาง
การศึกษาแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กำหนดเป็นมาตรฐานเดียวกันเป็นที่ยอมรับ เที่ยงตรง ยุติธรรมและ
ตรวจสอบได้
ดังนั้น สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1 จึงได้จัดทำโครงการนี้เพื่อส่งเสริม
สนับสนุนให้โรงเรียนมีการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (Reading
Test : RT) ปีการศึกษา 2562 และผลที่ได้จากการทดสอบจะเป็นข้อมูลสำคัญที่จะสะท้อนคุณภาพผู้เรียน
คุณภาพการจัดการของสถานศึกษาและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งเป็นเครื่องบ่งชี้คุณภาพผู้เรียน
ในระดับต่อไป
วัตถุประสงค์
1. เพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้โรงเรียนมีการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (RT)
2. เพื่อสะท้อนคุณภาพผู้เรียน คุณภาพการจัดการของสถานศึกษาและของสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1
เป้าหมาย
เชิงปริมาณ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกโรงเรียนในสังกัดสพป.ลำปาง เขต 1 และสังกัดอื่นๆจำนวน 94
โรงเรียน เข้าร่วมการประเมินความสามารถด้านการอ่าน
เชิงคุณภาพ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกโรงเรียนในสังกัดสพป.ลำปาง เขต 1 และสังกัดอื่นๆ มี การพัฒนา
ความสามารถด้านการอ่าน
นิยามศัพท์เฉพาะ
การดำเนินการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2562 ได้กำหนดนิยามไว้ดังนี้
นักเรียน หมายถึง นักเรียนปกติชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์จิตต์อารี และโรงเรียนสาธิตละอออุทิศ
ความสามารถด้านการอ่าน หมายถึง นักเรียนมีความสามารถด้านการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่อง
ตามเกณฑ์การตัดสินระดับคุณภาพในแต่ละความสามารถจากสำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
3
การอ่านออกเสียง หมายถึง การอ่านคำ ประโยค หรือข้อความสั้นๆ ที่เป็นคำในวงคำศัพท์ ในระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้งที่เป็นคำที่มีความหมายโดยตรงหรือคำที่มีความหมายโดยนัยที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
่
โดยวิธีการอานออกเสียง
การอ่านรู้เรื่อง หมายถึง การอ่านคำ ประโยค หรือข้อความสั้นๆ ที่เป็นคำในวงคำศัพท์ ในระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้งที่เป็นคำที่มีความหมายโดยตรงหรือคำที่มีความหมายโดยนัย ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยสามารถบอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านร้อยแก้ว ร้อยกรอง สำหรับเด็ก (เป็นข้อความง่ายๆ) จับใจความ
จากเรื่องที่อ่าน ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน บอกความหมายของเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่สำคัญ ที่พบเห็น
ในชีวิตประจำวัน คาดคะเนจากเรื่องที่อ่าน สรุปความรู้ข้อคิดจากเรื่องที่อ่านได้อย่างสมเหตุสมผล แปลความ
และสร้างสรรค์จากภาพ
ประโยชน์ที่ได้รับ
1. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกโรงเรียนในสังกัดสพป.ลำปาง เขต 1 และสังกัดอื่นๆจำนวน 94
โรงเรียน เข้าร่วมการประเมินความสามารถด้านการอ่าน
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทุกโรงเรียนในสังกัดสพป.ลำปาง เขต 1 มีการพัฒนาความสามารถ
ด้านการอ่าน
4
บทที่ 2
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
เอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องในการบริหารจัดการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 นี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 คำนึงถึง
ความสำคัญของกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551
รวมถึงแนวคิดเกี่ยวกับการกระจายอำนาจในการบริหารจัดการ (Decentralization) และแนวคิดเกี่ยวกับ
ความโปร่งใสในการจัดสอบ (Transparency) โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ความสำคัญ
ภาษาไทยเป็นเอกลักษณ์ประจำชาติ เป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันก่อให้เกิดความเป็นเอกภาพและ
เสริมสร้างบุคลิกภาพของบคนในชาติให้มีความเป็นไทย เป็นเครื่องมือในการติดต่อสื่อสารเพอสร้างความเข้าใจ
ื่
และความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน ทำให้สามารถประกอบกิจธุรการงานและดำรงชีวิตร่วมกันในสังคมประชาธิปไตย
ได้อย่างสันติสุข และเป็นเครื่องมือในการแสวงหาความรู้ ประสบการณ์จากแหล่งข้อมูลสารสนเทศต่างๆ เพอ
ื่
พัฒนาความรู้ ความคิด วิเคราะห์ วิจารณ์ และสร้างสรรค์ให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและ
ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ตลอดจนนำไปใช้ในการพัฒนาอาชีพให้มีความมั่นคงทางสังคมและ
เศรษฐกิจ นอกจากนี้ยังเป็นสื่อที่แสดงภูมิปัญญาของบรรพบุรุษด้านวัฒนธรรม ประเพณี ชีวทัศน์ โลกทัศน์ และ
สุนทรียภาพ โดยบันทึกไว้เป็นวรรณคดีและวรรณกรรมอันล้ำค่า ภาษาไทยจึงเป็นสมบัติของชาติที่ควรค่าแก่
การเรียนรู้ เพื่ออนุรักษ์และสืบสานให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
คุณภาพของผู้เรียน
เมื่อจบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานแล้วผู้เรียนต้องมีความรู้ ความสามารถและคุณธรรมจริยธรรม
และค่านิยม ดังนี้
1. สามารถใช้ภาษาสื่อสารได้อย่างดี
2. สามารถอ่าน เขียน ฟัง พูด ได้อย่างมีประสิทธิดภาพ
3. มีความคิดสร้างสรรค์ คิดอย่างมีเหตุผลและคิดเป็นระบบ
4. มีนิสัยรักการอ่าน การเขียน การแสวงหาความรู้และใช้ภาษาในการพัฒนาตน และสร้างสรรค์งาน
อาชีพ
5. ตระหนักในวัฒนธรรมการใช้ภาษาและความเป็นไทยภูมิใจและชื่นชมในวรรณคดีและวรรณกรรมซึ่ง
เป็นภูมิปัญญาของคนไทย
6. สามารถนำทักษะทางภาษามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริงได้อย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตาม
กาลเทศะ และบุคคล
5
7. มีมนุษยสัมพันธ์ที่ดี และสร้างความสามัคคีในความเป็นชาติไทย
8. มีคุณธรรม จริยธรรม มีวิสัยทัศน์ โลกทัศน์ที่กว้างไกลและลึกซึ้ง
เมื่อจบแต่ละช่วงชั้นผู้เรียนต้องมีความรู้ความสามารถ คุณธรรมจริยธรรม และค่านิยม ดังนี้
1. สามารถอ่านได้คล่องและอ่านได้เร็ว
2. เข้าใจความหมายและหน้าที่ของคำ
3. นำความรู้ที่ได้จากการอ่านมาคิด คาดคะเนเรื่องราวหรือเหตุการณ์ และกำหนดแนวทางการปฏิบัติ
ได้
4. เลือกอ่านหนังสือที่เป็นประโยชน์ทั้งความรู้ และความบันเทิง
5. ดูและเขียนแสดงความรู้ ความคิด ความรู้สึก ความต้องการและจินตนาการ
6. จดบันทึกความรู้ ประสบการณ์ และเรื่องราวในชีวิตประจำวัน
7. จับใจความสำคัญ ตั้งคำถาม ตอบคำถาม สนทนา แสดงความคิดเห็นเล่าเรื่อง ถ่ายทอดความรู้
ความคิด ความรู้สึก และประสบการณ์จากเรื่องที่ฟังที่ดูได้
8. เข้าใจว่าภาษาไทยมีทั้งภาษาไทยกลางและภาษาไทยมาตรฐานและภาษาถิ่น
9. ใช้คำคล้องจองแต่งบทร้อยกรองง่ายๆ
10.ท่องจำบทร้อยกรองที่ไพเราะ และนำไปใช้ในการพูดและการเขียน
11.นำปริศนาคำทายและบทร้อยกรองเล่นในท้องถิ่นมาใช้ในการเรียนและเล่น
12. ใช้ทักษะทางภาษาเป็นเครื่องมือการเรียน การแสวงหาความรู้ และใช้ได้เหมาะสมกับบุคคลและ
สถานการณ์
13. นำความรู้ที่ได้จากการอ่านวรรณคดีและวรรณกรรมไปใช้ในชีวิตมีมารยาทการอ่าน การเขียน
การฟัง และการพูด
14. มีนิสัยรักการอ่านและการเขียน
ตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้องกับการประเมินการอ่าน
การประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 สำนัก
ทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดให้มีการประเมินตามหลักสูตร
แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยใช้มาตรฐาน และตัวชี้วัดที่เกี่ยวข้อง ดังนี้
6
สาระที่ 1 การอ่าน
มาตรฐาน ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรู้และความคิดเพื่อนำไปใช้ตัดสินใจ แก้ปัญหาในการดำเนิน
ชีวิตและมีนิสัยรักการอ่าน
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.1 - อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ∆ การอ่านออกเสียงและบอกความหมาย
และข้อความสั้นๆ ของคำ คำคล้องจอง และข้อความที่
- บอกความหมายของคำ และ ประกอบด้วยคำพื้นฐาน คือ คำที่ใช้ใน
ข้อความที่อ่าน ชีวิตประจำวันไม่น้อยกว่า 600 คำ รวมทั้งคำ
ที่ใช้เรียนรู้ในกลุ่มสาระการเรียนรู้อน
ื่
ประกอบด้วย
- คำที่มีรูปวรรณยุกต์และไม่มีรูปวรรณยุกต์
- คำที่มีตัวสะกดตรงตามมาตราและไม่ตรง
ตามมาตรา
- คำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ
- คำที่มีอักษรนำ
- ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน ∆ การอ่านจับใจความจากสื่อต่างๆ เช่น
- เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่อ่าน - นิทาน
- คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่ - เรื่องสั้นๆ
อ่าน - บทร้องเล่นและบทเพลง
- เรื่องราวจากบทเรียนในกลุ่มสาระการ
เรียนรู้ภาษาไทยและกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น
- บอกความหมายของเครื่องหมาย ∆ การอ่านเครื่องหมายหรือสัญลักษณ์
หรือสัญลักษณ์สำคัญที่มักพบเห็น ประกอบด้วย
ในชีวิตประจำวัน - เครื่องหมายสัญลักษณ์ต่างๆ ที่พบเห็นใน
ชีวิตประจำวัน
- เครื่องหมายแสดงความปลอดภัยและแสดง
อันตราย
7
สาระที่ 2 การเขียน
มาตรฐาน ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียน เขียนสื่อสาร เขียนเรียงความ ย่อความ และเขียนเรื่องราวในรูปแบบ
ต่างๆ เขียนรายงานข้อมูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอย่างมีประสิทธิภาพ
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.1 - เขียนสื่อสารด้วยคำและประโยค ∆ การเขียนสื่อสาร
ง่ายๆ - คำที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
- คำพื้นฐานในบทเรียน
- คำคล้องจอง
- ประโยคง่ายๆ
สาระที่ 4 หลักการใช้ภาษาไทย
มาตรฐาน ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปลี่ยนแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไว้เป็นสมบัติของชาติ
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.1 - เขียนสะกดคำและบอก ∆ การสะกดคำ การแจกลูก และการอ่าน
ความหมายของคำ เป็นคำ
∆ มาตราตัวสะกดที่ตรงตามมาตราและไม่
ตรงตามมาตรา
∆ การผันคำ
∆ ความหมายของคำ
- เรียบเรียงคำเป็นประโยคง่ายๆ ∆ การประโยค
สาระที่ 5 วรรณคดีและวรรณกรรม
่
มาตรฐาน ท 5.1 เข้าใจและแสดงความคดเห็น วิจารณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอย่างเห็นคุณคาและนำมา
ิ
ประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง
ชั้น ตัวชี้วัด สาระการเรียนรู้แกนกลาง
ป.1 - บอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านหรือ ∆ วรรณกรรมร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับ
การฟังวรรณกรรมร้อยแก้วและ เด็ก เช่น
ร้อยกรองสำหรับเด็ก - นิทาน/เรื่องสั้นง่ายๆ
- ปริศนาคำทาย
- บทร้องเล่น
- บทอาขยาน
- บทร้อยกรอง
- วรรณคดีและวรรณกรรมในบทเรียน
8
ความหมายของการอ่าน
การดำเนินการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2562 ได้กำหนดนิยามความหมายไว้ ดังนี้
1. การอ่านออกเสียง หมายถึง การอ่านคำ ประโยค หรือข้อความสั้นๆ ที่เป็นคำในวงคำศัพท์
ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้งที่เป็นคำที่มีความหมายโดยตรงหรือคำที่มีความหมายโดยนัยที่ใช้
ในชีวิตประจำวัน โดยวิธีการอ่านออกเสียง
2. การอ่านรู้เรื่อง หมายถึง การอ่านคำ ประโยค หรือข้อความสั้นๆ ที่เป็นคำในวงคำศัพท์ในระดับ
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ทั้งที่เป็นคำที่มีความหมายโดยตรงหรือคำที่มีความหมายโดยนัย ที่ใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยสามารถบอกข้อคิดที่ได้จากการอ่านร้อยแก้ว ร้อยกรอง สำหรับเด็ก(เป็นข้อความง่ายๆ) จับใจความ
จากเรื่องที่อ่าน ตอบคำถามจากเรื่องที่อ่าน บอกความหมายของเครื่องหมายสัญลักษณ์ที่สำคัญ ที่พบเห็น
ในชีวิตประจำวัน คาดคะเนจากเรื่องที่อ่าน สรุปความรู้ข้อคิดจากเรื่องที่อ่านได้อย่างสมเหตุสมผล แปลความ
และสร้างสรรค์จากภาพ
งานวิจัยที่เกี่ยวข้อง
งานวิจัยในประเทศ
บรรจง จันทร์พันธ์ (2548) ได้พัฒนาแผนการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่อง การสะกดคำ
ไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า คือ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนบ้านโพธิ์งาม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร้อยเอ็ด เขต 3 ภาคเรียนที่
2 ปีการศึกษา 2546 จำนวน 26 คน ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า แผนการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะภาษาไทย
เรื่องการสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด สำหรับนักเรียนชั้นปรถมศึกษาปีที่ 3 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ
เท่ากับ 85.98/82.75 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ และมีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.692 ซึ่งหมายความว่า
นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 60.92 และนักเรียนมีความพอใจต่อแผนการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะ
ภาษาไทย เรื่องการสะกดคำไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด โดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง
วิเศษ แปวไธสง (2547) ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะประกอบการ
เรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยแบบมุ่งประสบการณ์ทางภาษาเรื่อง ลูกอ๊อดหาแม่ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
โรงเรียนสามัคคีคุรุราษฎร์บำรุง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาบุรีรัมย์ เขต 4 ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
แผนการเรียนรู้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80.85/85.05 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แบบฝึกทักษะมีคุณภาพอยู่ใน
ระดับเหมาะสมมากที่สุด มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .05
ประวีณา เอ็นดู (2547) ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและ
การเขียนสะกดคำ โดยใช้แบบฝึกทักษะชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนบ้านน้อย จังหวัดนครราชสีมา
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการอ่านและการเขียนสะกดคำ โดยใช้แบบฝึกทักษะ
มีประสิทธิภาพ 86.11/83.33
9
9
วงศ์เดือน มีทรัพย์ (2547) ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะกลุ่มสาระ
การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง ครั้งหนึ่งยังจำได้ เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้า ได้แก่
แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบ แบบสอบถาม ความพึงพอใจ ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
่
แผนการจัดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ 87.09/85.29 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ แบบฝึกทักษะมีคาดัชนีประสิทธิผล
เท่ากับ 0.74 และมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยทางสถิติที่ระดับ .05
นิลวรรณ อัคติ (2548) ได้ศึกษาการพัฒนาแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง
การผันวรรณยุกต์ โดยใช้แบบฝึกทักษะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนชุมชนภูแล่นช้างคเชนทร์พิทยาคาร
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 เครื่องมือที่ใช้คือ แผนการจัดการเรียนรู้ แบบฝึกทักษะ
แบบทดสอบ และแบบสอบถามความพึงพอใจจ ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า แผนการจัดการเรียนรู้และแบบฝึก
ทักษะมีประสิทธิภาพ 87.85/80.91 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ นักเรียนมีความพงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้
ึ
ด้ยแบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมาก
สมใจ นาคศรีสังข์ (2549) ได้ศึกษาค้นคว้าเรื่อง การสร้างแบบฝึกการอ่านและการเขียนสะกดคำ
จากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนตลาดเกาะแรด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษานครปฐมเขต 2 ในปีการศึกษา 2549 จำนวน 21 คน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงกว่า
เป้าหมายี่กำหนดไว้ แบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพ 83.98/84.46 และผลการประเมินความพึงพอใจของ
นักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
งานวิจัยต่างประเทศ
การ์เซีย (Garcia.1998) ได้ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านเขียนสะกดคำจากรูปแบบการสอน
สะกดคำ 2 รูปแบบ คือ การสอนสะกดคำแบบให้นักเรียนฝึกเองกับการสะกดคำตามหนังสือ โดยครูแต่ละกลุ่ม
จะสอนโดยใช้โปรแกรมการสอนอ่านเหมือนกันและการสอนเขียนทุกวันตามเวลาที่กำหนดไว้ การสอบใช้
การสอบกอนเรียนและหลังเรียนผลการศึกษาพบว่าการสอนสะกดคำแบบให้นักเรียนฝึกเองมีผลดีกว่าการสอน
่
สะกดคำตามตำรา ในด้านการอ่านคำศัพท์และการวิเคราะห์คำศัพท์ นักเรียนทั้งสองกลุ่มมีความแตกต่างกัน
ในเรื่องจำนวนคำศัพท์ที่ใช้ในระดับที่สูงกว่าประถมหนึ่ง ความยาวของประโยคและจำนวนหน่วยคำ นอกจากนี้
นักเรียนสะกดคำโดยนักเรียนคิดเอง มีการอ่านทบทวนการเขียนคำ วิเคราะห์คำที่ใช้ ตลอดจนมีการช่วยเหลือ
หรือซักถามเพื่อนเพอช่วยในการสะกดคำบ่อยครั้งมากกว่านักเรียนอีกกลุ่มหนึ่ง และนักเรียนที่เรียนสะกดคำ
ื่
จากตำราใช้พจนานุกรมบ่อยครั้งมากกว่านักเรียนอีกกลุ่ม
เบาซาร์ด (Bouchard. 2002) ได้ศึกษาความรู้เรื่องคำของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จาก
ความผิดพลาดในการอ่านกับการสะกดคำแม้ว่าเขามีความพยายามอย่างมากระหว่างการอ่านและการสะกดคำ
แต่การปฏิบัติงานการอ่านและการสะกดคำของนักเรียนก็มักจะยังแสดงให้เห็นความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ
ในความถูกต้องและความผิดพลาดของคำ การวิจัยครั้งนี้ได้ศึกษาการสะกดคำตามความรู้เรื่องคำเชิงพัฒนา
ใน 4 ด้าน ผลการวิเคราะห์พบว่าการปฏิบัติงานการอ่านของนักเรียนดีกว่าการปฏิบัติงานการสะกดคำอย่างมี
นัยสำคัญ และพบว่ามีผลของรายงานอย่างมีนัยสำคัญต่อระดับความรู้เรื่องของคำของนักเรียน ความผิดพลาด
ด้านการอ่านและการเขียนสะกดคำของนักเรียนอีกทงยังพบว่า ความผิดพลาดเกี่ยวข้องกับลักษณะทางอกขรวิธี
ั้
ั
10
ที่เหมือนกันในทุกงานประการสุดท้ายจากการศึกษาการให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการสะกดคำและความรู้เรื่อง
คำของทักษะชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ของครูพบว่า การให้คะแนนผลสัมฤทธิ์ด้านการสะกดคำและความรู้เรื่องคำ
มีความสัมพันธ์กันอย่างมีนัยสำคัญกับการปฏิบัติงานเขียนจริงๆของนักเรียน แตต่ครูก็คิดว่ายังไม่เพียงพอ
สำหรับตัดสินใจปรับการสอน
ผลการศึกษางานวิจัยทั้งในประเทศและต่างประเทศแสดงให้เห็นความสำคัญของการจัดกิจกรรม
การพัฒนาการอ่านและการเขียนสะกดคำ แบบฝึกทักษะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้
ของนักเรียน ทำให้การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนประสบความสำเร็จตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรอย่างมี
ประสิทธิภาพ
้
ในการศึกษาคนคว้าเอกสารและงานวิจัยที่เกี่ยวข้องที่กล่าวมาข้างต้น ทำให้ทราบว่าความสามารถด้าน
การอ่านของนักเรียนเกิดจากวิธีสอนของครูและสื่อการสอนที่ช่วยให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น และ
กิจกรรมการพัฒนาการอ่านสะกดคำ แบบฝึกทักษะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาการเรียนรู้ของนักเรียน
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 จึงได้ออกแบบและพัฒนาเครื่องมือการนิเทศ ติดตาม
ึ
ื่
่
และประเมินผลการจัดการศึกษาด้านการอานของนักเรียนชั้นประถมศกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 เพอนำผล
ไปใช้ในการพัฒนาการอ่านของนักเรียนได้ตามนโยบายและกลยุทธ์ในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานต่อไป
11
บทที่ 3
วิธีการดำเนินการ
การประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
เป็นการร่วมมือระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักทดสอบทางการศึกษา
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 และโรงเรียนที่เป็นสนามสอบ ได้ร่วมกันกำหนดกรอบ
โครงสร้าง และเครื่องมือการประเมิน ซึ่งได้แก่ แบบทดสอบ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ในแต่ละส่วนเพอ
ื่
ดำเนินการประเมิน โดยมีวิธีการดำเนินการ ดังนี้
ตารางการประเมิน
ดำเนินการประเมินในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2562 วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2563 โดยมีตารางการประเมิน
ดังนี้
วันสอบ เวลา วิชา เวลาสอบ
14 ก.พ. 2563 09.00 – 10.00 น. การอ่านรู้เรื่อง 60 นาที
พัก 30 นาที
10.30 – 11.30 น. การอ่านออกเสียง คนละ 10 นาที
พักกลางวัน 60 นาที
12.30 – 15.00 น. การอ่านออกเสียง (ต่อ) คนละ 10 นาที
ประกาศผลการประเมิน
ประกาศผลการประเมินวันที่ 20 มีนาคม 2563
กรอบโครงสร้างและเครื่องมอที่ใช้ในการประเมิน
ื
กรอบโครงสร้างที่ใช้ในการประเมิน
กรอบโครงสร้างที่ใช้ในการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 เป็นการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกเสียง และการอ่านรู้เรื่อง ซึ่งสอดคล้องกับ
มาตรฐานและตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
มีรายละเอียดตามกรอบโครงสร้าง ดังนี้
12
รูปแบบข้อสอบ (จำนวนข้อ)
องค์ รวม (ข้อ)
มาตรฐานและตัวชี้วัด เลือก เขียน ปฏิบัติ
ประกอบ จับคู่ (คะแนน)
ตอบ ตอบสั้น จริง
สมรรถนะ 1. การอ่านออกเสียง
ท 1.1 ป.1/1 อ่านออกเสียงคำ คำคล้องจอง ข้อความสั้น ๆ
(คำที่มีรูปวรรณยุกต์ และไม่มีรูปวรรณยุกต์ คำทมีตัวสะกด คำ 20 20
ี่
ตรงมาตรา และไม่ตรงมาตรา คำที่มีพยัญชนะควบกล้ำ 20 คำ (10 คะแนน)
คำทมีอักษรนำ)
ี่
ประโยค 10
10 ประโยค 10
(50 คำ) (20 คะแนน)
ข้อความ
1 ข้อความ 1
8 ประโยค 1 (20 คะแนน)
( 48 คำ )
รวม 31 31 (50 คะแนน)
สมรรถนะ 2. การอ่านรู้เรื่อง
ท 1.1 ป.1/2 บอกความหมายของคำและข้อความที่อ่าน คำ 10 10
ท 1.1 ป.1/3 ตอบคำถามเกี่ยวกับเรื่องที่อ่าน 10 คำ (10 คะแนน)
ท 1.1 ป.1/4 เล่าเรื่องย่อจากเรื่องที่อ่าน ประโยค 5
ท 1.1 ป.1/5 คาดคะเนเหตุการณ์จากเรื่องที่อ่าน เล่าเรื่องจากภาพ 5 (10 คะแนน)
ท 1.1 ป.1/7 บอกความหมายของเครื่องหมาย สัญลักษณ์ 5 ภาพ
สำคัญที่มักพบเจอในชีวิตประจำวัน
ท 2.1 ป.1/2 เขียนสื่อสารด้วยคำและประโยคต่าง ๆ
ท 3.1 ป.1/2 ตอบคำถามและเล่าเรื่องที่ฟังและดูทั้งที่เป็น ประโยค 10
ความรู้และความบันเทิง 10 ประโยค 10 (20 คะแนน)
ท 4.1 ป.1/3 เรียบเรียงคำเป็นประโยคง่าย ๆ
ท 5.1 ป.1/1 บอกข้อคิดทได้จากการอ่านหรือฟังวรรณกรรม ข้อความ 5 5
ี่
ร้อยแก้วและร้อยกรองสำหรับเด็ก 3 – 5 ข้อความ (10 คะแนน)
รวม 10 15 5 30 (50 คะแนน)
ขอบข่ายสาระ (สิ่งเร้า) อักษรสูง ข ฃ ฉ ฐ ถ ผ ฝ ศ ษ ส ห
เป็นคำ ประโยค ข้อความ หรือบทร้อยกรองง่าย ๆ ที่มีวง อักษรกลาง ก จ ฎ ฏ ด ต บ ป อ
์
ั
คำศพทที่เป็นคำประสมด้วยพยัญชนะและสระประกอบด้วย อักษรต่ำ ค ฅ ฆ ง ช ซ ฌ ญ ฑ ฒ ณ ท ธ น พ ฟ ภ ม ย ร ล ว ฬ ฮ
ี่
ี่
คำคล้องจอง ข้อความสั้น ๆ (คำทมีรูปวรรณยุกต์ และไม่ม ี สระเสียงสั้น-ยาวทเป็นสระเดี่ยวจำนวน 18 ตัว ประกอบดวยสระอะ อา อิ อี อึ อือ อุ อู เอะ
้
รูปวรรณยุกต์ คำที่มีตวสะกดตรงมาตรา และไม่ตรงมาตรา เอ แอะ แอ โอะ โอ เอาะ ออ เออะ เออ สระประสม 6 ตัว ประกอบด้วยสระ เอียะ เอีย อัวะ
ั
ี่
คำทมีพยัญชนะควบกล้ำ คำที่มีอักษรนำ) อัว เอือะ เอือ และสระเกิน 4 ตัวประกอบด้วย สระอำ ใอ ไอ เอา สระลดรูป สระเปลี่ยนรูป
(ทั้งมีและไม่มีรูปวรรณยุกต์)
13
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน
เครื่องมือที่ใช้ในการประเมิน ได้แก่ แบบทดสอบวัดความสามารถในการอ่านสำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยแบบทดสอบแบ่งออกเป็น 2 ฉบับ ได้แก่ 1) การอ่านรู้เรื่อง 2) การอ่านออกเสียง
ฉบับที่ 1 การอ่านรู้เรื่อง เป็นการประเมินโดยใช้แบบทดสอบ ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 การอ่านรู้เรื่องเป็นคำ เป็นข้อสอบแบบจับคู่คำ 10 คำ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ตอนที่ 2 การอ่านรู้เรื่องเป็นประโยคมี 15 ข้อ ประกอบด้วย
- ข้อสอบแบบเขียนประโยคเล่าเรื่องจากภาพมี 5 ภาพ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
- ข้อสอบแบบเลือกตอบมี 10 ข้อ คะแนนเต็ม 20 คะแนน
ตอนที่ 3 การอ่านรู้เรื่องเป็นข้อความ เป็นข้อสอบแบบเลือกตอบมี 5 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ฉบับที่ 2 การอ่านออกเสียง เป็นการประเมินภาคปฏิบัติ ประกอบด้วย
ตอนที่ 1 การอ่านออกเสียงเป็นคำมี 20 คำ คะแนนเต็ม 10 คะแนน
ตอนที่ 2 การอ่านออกเสียงประโยคมี 10 ประโยค คะแนนเต็ม 20 คะแนน
ตอนที่ 3 การอ่านออกเสียงข้อความมี 1 ข้อความ คะแนนเต็ม 20 คะแนน
เกณฑ์ของระดับคะแนน
การประเมินความสามารถในการอ่านสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 มี
เกณฑ์คะแนนและคะแนนร้อยละในแต่ละระดับคุณภาพ ดังนี้
ระดับ ช่วงคะแนนและคะแนนร้อยละในแต่ละระดับคุณภาพ
คุณภาพ การอ่านออกเสียง การอ่านรู้เรื่อง รวม 2 สมรรถนะ
คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ
ดีมาก 37.50-50 75.00-1.00 37.50-50 75.00-1.00 75.00-100 75.00-100
ดี 25.00-37.49 50.00-74.99 25.00-37.49 50.00-74.99 50.00-74.99 50.00-74.99
พอใช้ 12.50-24.99 25.00-49.99 12.50-24.99 25.00-49.99 25.00-49.99 25.00-49.99
ปรับปรุง 0-12.49 0-24.99 0-12.49 0-24.99 0-24.99 0-24.99
การแปลความหมายของผลการประเมิน
ผลการประเมินในรายองค์ประกอบ รายด้านและภาพรวม สามารถแปลความหมายได้ ดังต่อไปนี้
ความหมายในภาพรวม ระดับความสามารถ
่
้
ความสามารถของนักเรียนในการอานออกเสียง อ่านรู้เรื่อง คำ ประโยค และขอความ
ในวงคำศัพท์ที่กำหนดได้ถูกต้อง ตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป ดีมาก
้
ความสามารถของนักเรียนในการอานออกเสียง อ่านรู้เรื่อง คำ ประโยค และขอความ
่
ในวงคำศัพท์ที่กำหนดได้ถูกต้อง ตั้งแต่ร้อยละ 50 ขึ้นไปแต่น้อยกว่าร้อยละ 75 ดี
14
ความหมายในภาพรวม ระดับความสามารถ
้
่
ความสามารถของนักเรียนในการอานออกเสียง อ่านรู้เรื่อง คำ ประโยค และขอความ พอใช้
ในวงคำศัพท์ที่กำหนดได้ถูกต้อง ตั้งแต่ร้อยละ 25 ขึ้นไปแต่น้อยกว่าร้อยละ 50
ความสามารถของนักเรียนในการอานออกเสียง อ่านรู้เรื่อง คำ ประโยค และขอความ ปรับปรุง
่
้
ในวงคำศัพท์ที่กำหนดได้ถูกต้อง ต่ำกว่าร้อยละ 25
วิธีการดำเนินการระดับเขตพื้นที่/ศูนย์สอบ
ภารกิจระดับเขตพื้นที่/ศูนย์สอบ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกษาลำปางเขต 1 ในเป็นศูนย์สอบมีภาระหน้าที่และบทบาท
ึ
ในการบริหารการจัดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานการบริหารการทดสอบ ซึ่งได้รับการกระจายอำนาจ
การบริหารจัดการมาจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งในเรื่องของการวางแผนการจัดสอบ
การตัดสินใจ การบริการจัดการและความรับผิดชอบ เพื่อให้การดำเนินงานการประเมินความสามารถด้าน
การอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 มีประสิทธิภาพและมาตรฐานเดียวกันโดย
มีภารกิจสำคัญ ดังต่อไปนี้
1) ประสานความร่วมมือและวางแผนกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบริหารการจัดสอบ
2) ดำเนินการจัดสอบให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
3) กำกับ ติดตามการดำเนินการสอบ
4) รายงานผลการทดสอบ และเผยแพร่
บทบาทของคณะกรรมการระดับเขตพื้นที่/ศูนย์สอบ
1) ประธานศูนย์สอบ ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1
มีหน้าที่ ดังนี้
- ดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนด
โดยบริหารการจัดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานการบริหารการทดสอบ
- แต่งตั้งคณะกรรมการระดับศูนย์สอบ และคณะกรรมการระดับสนามสอบ
- ควบคุม กำกับ ติดตามให้การดำเนินการบริหารการจัดสอบ ระดับศูนย์สอบและสนามสอบ
เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
- พิจารณาตรวจสอบ สั่งการ ติดตามกรณีที่เกิดปัญหาในการบริหารการจัดสอบทั้งระดับศูนย์
สอบและระดับสนามสอบ
2) คณะกรรมการดำเนินการทดสอบ
คณะกรรมการดำเนินการทดสอบ ได้แก่ ศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบงานวัดและประเมินผล
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากประธานศูนย์สอบ ดังนี้
15
ื้
- ประสานงานการจัดสอบในด้านต่างๆ ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนฐาน
ศูนย์สอบและสนามสอบ
- กำกับ และติดตาม ให้สถานศึกษาส่งข้อมูลห้องสอบ และข้อมูลนักเรียนในระบบ NT
Access ให้ครบถ้วนและถูกต้อง ภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2563
- ตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลห้องสอบ และข้อมูลนักเรียน
- ดำเนินการจัดสนามสอบในระบบ NT Access
- ตรวจสอบและแก้ไขข้อมูลนักเรียนที่มีสิทธิ์สอบผ่านระบบ NT Access
- ดูแลและประสานงานเรื่องการนำส่งข้อมูลผู้มีสิทธิ์สอบในกรณีต่างๆ
- แต่งตั้งคณะกรรมการระดับศูนย์สอบและสนามสอบ
- จัดประชุมชี้แจงคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องกับการสอบ ทั้งระดับศูนย์สอบและระดับสนาม
สอบ
- ประสานงานรับ/ส่ง แบบทดสอบ จากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
ในระหว่างวันที่ 11 – 14 กุมภาพันธ์ 2563
- บริหารการจัดสอบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
- รับแบบบันทึกคะแนนการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 (แบบบันทึกคะแนน 1 และแบบบันทึกคะแนน 2) และเอกสารธุรการประจำสนาม
สอบ
- ตรวจสอบคะแนนการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
แต่ละสนามสอบให้ถูกต้องตามแบบบันทึกคะแนน 1 และแบบบันทึกคะแนน 2 และยืนยันข้อมูลส่งในระบบ
NT Access
- จัดทำรายงานผลการทดสอบ ระดับศูนย์สอบ
3) คณะกรรมการรับ-ส่ง แบบทดสอบ เก็บรักษาแบบทดสอบ และเอกสารประกอบการสอบ มีหน้าที่
ดังนี้
- จัดเตรียมห้องมั่นคงหรือสถานที่ที่มีความเหมาะสม เพื่อใช้ในการเก็บรักษาแบบทดสอบ
- ดูแล รักษา แบบทดสอบที่เก็บรักษาไว้ในที่ปลอดภัย
- ควบคุม ดูแล กำกับการขนส่งแบบทดสอบจากศูนย์สอบไปยังสนามสอบ
4) คณะกรรมการตรวจเยี่ยมสนามสอบ มีหน้าที่ ดังนี้
มีหน้าที่ กำกับ ติดตาม และตรวจเยี่ยม การดำเนินการจัดสอบ ของคณะกรรมการระดับ
สนามสอบในระหว่างวันที่ 11 – 14 กุมภาพันธ์ 2563 เพื่อให้การดำเนินการจัดสอบเป็นไปตามแนวปฏิบัติการ
จัดสอบและมาตรฐานการทดสอบ
16
วิธีการดำเนินงานระดับสนามสอบ
ภารกิจของสนามสอบ
ภารกิจของสนามสอบมีการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ก่อนการสอบ ระหว่างการสอบ
และหลังการสอบ โดยมีรายละเอียด ดังต่อไปนี้
1) ก่อนการสอบ
- ประสานงานกับเขตพื้นที่/ศูนย์สอบ และดำเนินการตามคู่มือการจัดสอบอย่างเคร่งครัด
- เตรียมความพร้อมก่อนการจัดสอบในส่วนของสถานที่สอบ ติดประกาศรายชื่อผู้เข้าสอบ
- ประสานงานกับเขตพื้นที่/ศูนย์สอบในกรณีมีผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ
- ดาวน์โหลดแบบบันทึกคะแนน 1 และแบบบันทึกคะแนน 2 จากระบบ NT Access
- พิมพ์แบบบันทึกคะแนน1 และแบบบันทึกคะแนน 2 เพื่อเตรียมส่งมอบให้กรรมการคุมสอบ
- รับแบบทดสอบวัดความสามารถด้านการอ่านจากเขตพื้นที่/ศูนย์สอบในเช้าวันสอบ
2) ระหว่างการสอบ
ดำเนินการจัดสอบภายในสนามสอบให้มีประสิทธิภาพ มีความยุติธรรม โปร่งใส และเป็นไป
ตามแนวปฏิบัติในคู่มือการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2562
3) หลังการสอบ
- ให้สนามสอบเก็บแบบทดสอบไว้ที่โรงเรียนตนเอง เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ต่อไป
- บันทึกคะแนนการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ลงในแบบบันทึกคะแนน 1 และแบบบันทึกคะแนน 2 เมื่อบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนนทั้ง 2 ฉบับ
แล้ว ให้กรรมการคุมสอบทั้ง 2 คน ลงลายมือชื่อ แล้วมอบให้สนามสอบ ทำสำเนา 1 ชุด จากนั้นกรรมการ
คุมสอบลงลายมือชื่อรับรองสำเนา เพื่อเก็บรักษาไว้ที่สนามสอบ ส่วนแบบบันทึกคะแนนฉบับจริงทั้ง 2 ฉบับ
ให้สนามสอบนำส่งศูนย์สอบภายในวันสอบ ตามเวลาที่กำหนด
- นำคะแนนจากแบบบันทึกคะแนนฉบับสำเนาที่สนามสอบเก็บไว้ไปบันทึกในแบบฟอร์ม
บันทึกคะแนนที่ดาวน์โหลดจากระบบ NT Access ไว้ให้ถูกต้อง หลังจากนั้นให้นำเข้าไฟล์ข้อมูลเข้าสู่ระบบ NT
Access พร้อมตรวจสอบความถูกต้องของคะแนนนักเรียนรายบุคคลอีกครั้งหนึ่ง
บทบาทของคณะกรรมการระดับสนามสอบ
1) ประธานสนามสอบ มีหน้าที่ ดังนี้
1.1) ประสานงานกับศูนย์สอบและดำเนินการตามคมือการประเมินความสามารถ
ู่
ด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 อย่างเคร่งครัด
1.2) ประชุมคณะกรรมการระดับสนามสอบก่อนสอบ เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
กระบวนการจัดสอบและขั้นตอนการดำเนินงานของกรรมการคุมสอบ
17
1.3) เตรียมความพร้อมสถานที่สอบ กำกับการจัดห้องสอบ ติดรายชื่อผู้มีสิทธิ์
สอบ และเอกสารการสอบอื่น ๆ ที่ป้ายประชาสัมพันธ์ของสนามสอบ และหน้าห้องสอบ
1.4) รับ-ส่งแบบทดสอบ และเอกสารประกอบการสอบ ระหว่างศูนย์สอบ และ
สนามสอบ (ในกรณีที่ไม่สามารถไปด้วยตนเองได้ ให้มอบหมายผู้แทน โดยใช้บันทึกมอบหมายผู้แทน เพื่อให้
ศูนย์สอบเก็บไว้เป็นหลักฐาน)
1.5) เปิดกล่องบรรจุแบบทดสอบในวันสอบ ไม่เกิน 1 ชั่วโมงก่อนเวลาสอบ ต่อ
หน้าตัวแทนกรรมการคุมสอบ
1.6) อนุมัติผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in) ที่ไม่มีเลขที่นั่งสอบ แล้วบันทึก
ในแบบ สพฐ.5 นักเรียน 1 คน ต่อ 1 ฉบับ เพื่อรายงานให้ศูนย์สอบทราบ
1.7) กำกับ ติดตาม และตรวจสอบการจัดสอบภายในสนามสอบให้เป็นไปด้วย
ความเรียบร้อย มีประสิทธิภาพ มีความยุติธรรม โปร่งใส และเป็นไปตามคู่มือการประเมินความสามารถด้าน
การอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
1.8) สั่งพักการปฏิบัติหน้าที่ในกรณีที่คณะกรรมการคุมสอบหรือเจ้าหน้าที่สนาม
สอบบกพร่องต่อหน้าที่หรือประพฤติปฏิบัติตนไม่เหมาะสม และรายงานให้ศูนย์สอบทราบ
1.9) ตรวจสอบคะแนนในแบบบันทึกคะแนน 1 และแบบบันทึกคะแนน 2
ร่วมกับกรรมการคุมสอบให้ถูกต้อง ครบถ้วนก่อนนำส่งข้อมูลเข้าสู่ระบบ NT Access
1.10) หลังเสร็จสิ้นการสอบ ให้นำส่งเอกสารประกอบการสอบกับศูนย์สอบ
โดยจะต้องนำส่งในวันสอบ ดังนี้
- แบบ สพฐ.2 ใบเซ็นชื่อผู้เข้าสอบในแต่ละห้องสอบ
- แบบ สพฐ.3 ใบเซ็นชื่อผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in)
- แบบ สพฐ.5 แบบฟอร์มสำหรับผู้ปฏิบัติผิดระเบียบการสอบ
- แบบ สพฐ.6 แบบคำขอแกไขข้อมูล
้
- แบบบันทึกคะแนนการอ่านรู้เรื่อง (แบบบันทึกคะแนน 1) ฉบับจริง
- แบบบันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง (แบบบันทึกคะแนน 2) ฉบับจริง
2) กรรมการคุมสอบและตรวจให้คะแนน
2.1) ปฏิบัติตามคู่มือการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
2.2) กำกับการสอบให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส และยุติธรรม
ทั้งภายในห้องสอบและบริเวณใกล้เคียง
2.3) รับแบบทดสอบจากประธานสนามสอบ ตรวจนับแบบทดสอบให้ถูกต้องและ
ครบถ้วน แล้วลงลายมือชื่อในแบบ RT 1
2.4) ปฏิบัติการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปี
ที่ 1 ดังนี้
18
2.4.1) การทดสอบการอ่านรู้เรื่อง
- กรรมการคุมสอบแจกแบบทดสอบตามลำดับเลขที่นั่งสอบจากน้อยไป
หามาก
- กรรมการคุมสอบดำเนินการตามคำชี้แจงในแบบทดสอบ
การอ่านรู้เรื่อง
- กรรมการเก็บแบบทดสอบหลังจากหมดเวลาสอบ เรียงตามลำดับ
เลขที่นั่งสอบจากน้อยไปหามาก
- กรรมการคุมสอบทั้ง 2 คน ตรวจให้คะแนนตามเกณฑ์การให้คะแนน
- กรรมการคุมสอบบันทึกคะแนนของผู้เรียนแต่ละคน ลงในแบบบันทึกคะแนน
การอ่านรู้เรื่อง (แบบบันทึกคะแนน 1) พร้อมลงลายมือชื่อกรรมการคุมสอบทั้ง 2 คน ในแบบบันทึกคะแนนให้
เรียบร้อย
- กรรมการคุมสอบบรรจุแบบบันทึกคะแนนใส่ซอง (ไม่ต้องปิดผนึกซอง)
ส่งคืนประธานสนามสอบ และตรวจสอบการบันทึกคะแนนร่วมกับประธานสนามสอบให้ถูกต้อง
- สนามสอบทำสำเนาแบบบันทึกคะแนนการอ่านรู้เรื่อง (แบบบันทึกคะแนน 1)
จำนวน 1 ชุด แล้วให้กรรมการคุมสอบลงลายชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง เก็บไว้ที่สนามสอบ
2.4.2) การทดสอบการอ่านออกเสียง
กรรมการคุมสอบคนที่ 1 (กรรมการที่มาจากโรงเรียนที่เป็นสนามสอบ)
ปฏิบัติ ดังนี้
- ตรวจสอบรายชื่อผู้เรียนในแบบบันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง
(แบบบันทึกคะแนน 2) แล้วเตรียมผู้เรียนให้เข้าสอบตามลำดับเลขที่ในแบบบันทึกคะแนน 2
- สรุปคะแนนจากแบบทดสอบฉบับผู้เรียนที่กรรมการคนที่ 2 ดำเนินการ
สอบเรียบร้อยแล้ว จากนั้นบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง (แบบบันทึกคะแนน 2)
- ตรวจสอบการบันทึกคะแนนของผู้เรียนให้ครบทุกคน แล้วลงลายมือชื่อ
กรรมการคุมสอบทั้ง 2 คน ในแบบบันทึกคะแนน
- กรรมการคุมสอบบรรจุแบบบันทึกคะแนนใส่ซอง (ไม่ต้องปิดผนึกซอง)
ส่งคืนประธานสนามสอบ และตรวจสอบการบันทึกคะแนนร่วมกับประธานสนามสอบให้ถูกต้อง
- สนามสอบทำสำเนาแบบบันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง (แบบบันทึก
คะแนน 2) จำนวน 1 ชุด แล้วให้กรรมการคุมสอบลงลายชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง เก็บไว้ที่สนามสอบ
กรรมการคุมสอบคนที่ 2 (กรรมการที่มาจากต่างโรงเรียน) ปฏิบัติ ดังนี้
- ให้ผู้เรียนทดสอบการอ่านออกเสียงเป็นรายบุคคล โดยให้ผู้เรียนอ่าน
ทีละคน ในห้องสอบที่แยกเฉพาะ
- ให้กรรมการคุมสอบอ่านคำชี้แจงให้นักเรียนฟังก่อนอ่านออกเสียง
19
่
- เมื่อผู้เรียนเริ่มอานออกเสียงให้กรรมการทำเครื่องหมาย ในช่องของคำ
ที่ผู้เรียนอ่านออกเสียงถูกต้อง และทำเครื่องหมาย X ในช่องคำที่ผู้เรียนอ่านออกเสียงผิด
- ให้นักเรียนอ่านออกเสียงทั้ง 3 ตอน คนละไม่เกิน 10 นาที ถ้าผู้เรียนอ่าน
่
ยังไม่เสร็จให้ผู้เรียนหยุดอ่านทันที (กรณีผู้เรียนอ่านไม่ได้ กรรมการคุมสอบสามารถบอกให้ผู้เรียนข้ามไปอานคำ
ต่อไปก่อน แล้วสามารถย้อนกลับมาอ่านคำเดิมได้ภายในช่วงเวลาที่กำหนด)
- ส่งแบบทดสอบฉบับกรรมการที่ประเมินแล้ว ให้กรรมการคนที่ 1 บันทึก
คะแนนลงในแบบบันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง (แบบบันทึกคะแนน 2)
- ดำเนินการสอบอ่านออกเสียงจนครบทุกคน
- กรรมการคุมสอบบรรจุแบบบันทึกคะแนนใส่ซอง (ไม่ต้องปิดผนึกซอง)
ส่งคืนประธานสนามสอบ และตรวจสอบการบันทึกคะแนนร่วมกับประธานสนามสอบให้ถูกต้อง
- สนามสอบทำสำเนาแบบบันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง (แบบบันทึก
คะแนน 2) จำนวน 1 ชุด แล้วให้กรรมการคุมสอบลงลายชื่อรับรองสำเนาถูกต้อง เก็บไว้ที่สนามสอบ
2.5) ควบคุมมิให้ผู้เข้าสอบหรือผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องปฏิบัติผิดระเบียบหรือ
กระทำการทจริตในระหว่างการสอบ
ุ
2.6) รายงานประธานสนามสอบ กรณีสงสัยว่าจะมีการทุจริตเกิดขึ้น และ
ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าบริเวณห้องสอบ
2.7) รักษาความลับของแบบทดสอบ และไม่ให้กรรมการหรือบุคคลอื่นดูหรือ
ถ่ายรูปแบบทดสอบเพื่อเผยแพร่
3) กรรมการบันทึกคะแนน
3.1) นำแบบบันทึกคะแนนการอ่านรู้เรื่อง (แบบบันทึกคะแนน 1) และแบบ
บันทึกคะแนนการอ่านออกเสียง (แบบบันทึกคะแนน 2) ฉบับสำเนา ไปบันทึกคะแนนในแบบฟอร์มบันทึก
คะแนน (ไฟล์ Excel) ที่ดาวน์โหลดมาแล้ว
3.2) นำไฟล์ Excel ที่บันทึกคะแนนแล้ว เข้าสู่ระบบ NT Access พร้อม
ตรวจสอบความถูกต้องของคะแนนผู้เรียนรายบุคคลในระบบ NT Access อีกครั้งหนึ่ง
4) นักการภารโรง
4.1) อำนวยความสะดวกแก่กรรมการคุมสอบ โดยดำเนินการต่าง ๆ ตามที่ได้รับ
การร้องขอ
4.2) จัดเตรียมสถานที่ในการจัดการสอบ ติดเอกสารประชาสัมพันธ์ และเอกสาร
ที่เกี่ยวข้องกับการสอบ ก่อนวันสอบให้เรียบร้อย
4.3) ปฏิบัติงานอื่นตามที่ได้รับมอบหมายจากประธานสนามสอบ
20
แนวปฏิบัติสำหรับกรรมการคุมสอบ
่
แนวทางปฏิบัติในการสอบอานออกเสียง
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานขอกำหนดแนวทางปฏิบัติสำหรับกรรมการที่ควบคุม
การสอบอ่านออกเสียง เพื่อให้การบริหารจัดการสอบมีความชัดเจนไปในทิศทางเดียวกัน ดังนี้
ั้
1) ก่อนการดำเนินการสอบ กรรมการคุมสอบทง 2 ท่าน ดำเนินการ ดังนี้
1.1 ศึกษาคู่มือ แบบทดสอบ และเกณฑ์การให้คะแนนอย่างละเอียด
1.2 ทำความเข้าใจร่วมกันเกี่ยวกับบทบาทหน้าที่ในการทดสอบและแนวทางการสรุปผล
การประเมินของผู้เข้าสอบ
1.3 ตรวจสอบจำนวนผู้เข้าสอบและรายชื่อของผู้เข้าสอบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้เข้าสอบที่
ขาดสอบ และผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in) เพื่อไม่ให้เกิดความคาดเคลื่อนในการกรอกคะแนน
1.4 จัดห้องแยกออกเป็น 2 ห้อง คือ ห้องสอบอ่านออกเสียง และห้องพักนักเรียนที่รอเข้าสอบ
อ่านออกเสียง โดยห้องทั้งสองต้องเป็นห้องที่เก็บเสียง และไม่สามารถยินเสียงจากอีกห้องหนึ่งได้
2) ระหว่างดำเนินการสอบ
2.1 กรรมการคุมสอบคนที่ 1 เตรียมผู้เรียนให้เข้าสอบตามลำดับเลขที่ในแบบบันทึก
คะแนน 2
2.2 กรรมการคุมสอบคนที่ 2 ดำเนินการดังนี้
1) พูดคุยทักทายกับผู้เรียนอย่างเป็นกันเอง เพื่อไม่ให้เกิดความเครียดหรือเกิดความ
กดดัน
2) ชี้แจงให้ผู้เรียนทราบเกี่ยวกับแนวทางการอ่าน ดังนี้
- เวลาที่ใช้ในการทดสอบ 10 นาที ผู้เรียนคนใดที่อ่านได้ครบถ้วน เสร็จก่อนเวลา
ก็สามารถยุติการทดสอบได้
- การสอบอ่านในแต่ละข้อ ถ้านักเรียนไม่สามารถอ่านได้ อนุญาตให้นักเรียนข้าม
ไปสอบข้อต่อไปก่อนได้ และถ้ายังมีเวลาเหลือสามารถย้อนกลับไปอ่านข้อเดิมที่ข้ามได้
3) ดำเนินการสอบการอ่านออกเสียงของผู้เรียนทีละคน ตามจำนวนในแต่ละห้องสอบ
3) หลังการดำเนินการสอบ
กรรมการคุมสอบทั้ง 2 ท่าน ดำเนินการ ดังนี้
3.1 ตรวจสอบคะแนนนักเรียนเป็นรายบุคคลให้ถูกต้อง แล้วนำมาบันทึกลงในแบบบันทึก
คะแนนการสอบอ่านออกเสียง (แบบบันทึกคะแนน 2) ในกรณีที่มีผู้เรียนขาดสอบ ให้เขียนคำว่า “ขาดสอบ”ด้วย
หมึกสีแดงในช่องสถานะ
3.2 นำแบบบันทึกคะแนนการอ่านรู้เรื่อง (แบบบันทึกคะแนน 1) และแบบบันทึกคะแนน
อ่านออกเสียง (แบบบันทึกคะแนน 2) บรรจุลงในซองแบบทดสอบ เพื่อเตรียมนำผลบันทึกลงในโปรแกรม NT
Access
21
กรณีผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in)
ผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in) ได้แก่ ผู้ที่ไม่มีรายชื่อในใบเซ็นชื่อผู้เข้าสอบ (แบบ สพฐ.2)
ซึ่งนักเรียนจะเข้าสอบได้ ก็ต่อเมื่อได้รับอนุญาตจากประธานสนามสอบแล้ว โดยต้องปฏิบัติ ดังนี้
1) ให้ผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in) เข้าสอบในห้องสอบสุดท้าย โดยนั่งต่อจากเลขที่นั่งสอบ
สุดท้ายของห้องสอบปกติห้องสุดท้าย ในสนามสอบนั้น ๆ
2) ให้ผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in) ใช้แบบทดสอบสำรอง สําหรับเลขที่นั่งสอบให้ใช้เลขที่
นั่งสอบต่อจากเลขที่สุดท้ายของห้องสอบปกติห้องสุดท้าย ในสนามสอบนั้น ๆ
3) ให้ผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (Walk in) ลงชื่อในใบเซ็นชื่อผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (แบบ สพฐ.3)
4) ให้สนามสอบเพิ่มชื่อผู้เข้าสอบกรณีพิเศษ (walk in) ในแบบบันทึกคะแนน 1 และแบบ
บันทึกคะแนน 2 โดยเขียนชื่อต่อจากคนสุดท้ายของห้องสอบที่เข้าสอบ
5) กรอกข้อมูลส่วนตัวของผู้เรียน และบันทึกคะแนนลงในแบบบันทึกคะแนน 1 และ
แบบบันทึกคะแนน 2 ในระบบ NT Access (ซึ่งเป็นไฟล์ Excel) ให้ครบถ้วน โดยเพิ่มเป็นคนสุดท้ายใน
ห้องสอบที่เข้าสอบ
กรณีเด็กขาดสอบ
1) ให้กรรมการคุมสอบขีดฆ่าชื่อผู้เรียนที่ขาดสอบ และระบุว่า “ขาดสอบ” ด้วยหมึกสีแดง
ในใบเซ็นชื่อผู้เข้าสอบ สพฐ.2 ตรงช่องหมายเหตุ
2) ให้กรรมการคุมสอบขีดฆ่าชื่อผู้เรียนที่ขาดสอบ และระบุว่า “ขาดสอบ” ด้วยหมึกสีแดง
ในแบบบันทึกคะแนน 1 และแบบบันทึกคะแนน 2
3) ให้กรรมการบันทึกคะแนน เลือกสถานะเป็น “ขาดสอบ” ใน (ไฟล์ Excel)บันทึกคะแนนเพอ
ื่
นำส่งเข้าระบบ NT Access
22
บทที่ 4
ผลการประเมิน
การประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม
สนับสนุนให้โรงเรียนมีการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (RT) และเพอ
ื่
สะท้อนคุณภาพผู้เรียน คุณภาพการจัดการของสถานศึกษาและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
ลำปางเขต 1 ผลการประเมิน แบ่งเป็น 4 ตอน ดังนี้
ตอนที่ 1 รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่
ตอนที่ 2 รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 จำแนกตามระดับดับคุณภาพ
ตอนที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ
ตอนที่ 4 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2561-2562 ระดับเขตพื้นที่
ตอนที่ 1 รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2562 ระดับเขตพื้นที่
ึ
ตารางที่ 1 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียนชั้นประถมศกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ระดับเขตพื้นที่
จำนวน จำนวน จำนวน ด้าน รวม 2 ด้าน
นักเรียน นักเรียน นักเรียน การอ่านออกเสียง การอ่านรู้เรื่อง
ทั้งหมด ที่เข้าสอบ ปกติ คะแนน S.D. คะแนน S.D. คะแนน S.D.
(คน) (คน) (คน) เฉลี่ย เฉลี่ย เฉลี่ย
(ร้อยละ) (ร้อยละ) (ร้อยละ)
2,103 2,080 1,871 70.95 14.41 75.14 9.72 73.05 22.63
** ข้อมูลการรายงานผลการประเมินนักเรียนปกติ ไม่นับรวมเด็กพิเศษ : 190 คน และ walk in : 20 คน
จากตารางที่ 1 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่
การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 จำนวนทั้งหมด 2,103 คน มีนักเรียนเข้ารับการประเมินความสามารถด้าน
การอ่านออกนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2,080 คน คิดเป็นร้อยละ 98.91 (ขาดสอบ 23 คน
คิดเป็นร้อยละ 1.09 เป็นนักเรียนปกติ จำนวน 1,871 คน คิดเป็นร้อยละ 89.95 (เด็กพิเศษ จำนวน 190 คน
23
คิดเป็นร้อยละ 9.13 และ walk in จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 0.96 ) เมื่อแยกการประเมินรายด้าน พบว่า
ด้านการอ่านออกเสียง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 70.95 และด้านการอ่านรู้เรื่อง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 75.14 สรุปภาพรวม
ื้
ผลการประเมินความสามารถด้านการอานของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพนที่
่
มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 73.05 แสดงกราฟที่ 1 ดังนี้
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศกษาปีที่ 1
ึ
ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่
80
70
60
50
40
30
20
10
0
คะแนน เฉลี่ย S.D. คะแนน เฉลี่ย S.D. คะแนน เฉลี่ย S.D.
การอ่านออกเสียง การอ่านออกเสียง
กราฟที่ 1 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ระดับเขตพื้นที่
ตอนที่ 2 รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2562 จำแนกตามระดับดับคุณภาพ
ตารางที่ 2 ผลการประเมินความสามารถด้านการอานออกของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
่
จำแนกตามระดับคุณภาพ
สมรรถนะ จำนวนและร้อยละนักเรียน จำแนกตามระดับคุณภาพ
ดีมาก ดี พอใช้ ปรับปรุง
จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ จำนวน ร้อยละ
การอ่านออกเสียง 1,083 57.54 380 20.19 221 11.74 198 10.52
การอ่านรู้เรื่อง 1,063 56.74 607 32.25 174 9.24 33 1.75
รวม 2 สมรรถนะ 1,065 56.58 477 25.34 262 13.92 78 4.14
24
จากตารางที่ 2 ผลการประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 จำแนกตามระดับคุณภาพ พบว่า จำนวนนักเรียนที่มีผลการประเมินรวมทั้ง 2 ด้านสูงสุด
อยู่ในระดับดีมาก จำนวน 1,065 คน คิดเป็นร้อยละ 56.58 รองลงมาคือ ระดับดี จำนวน 477 คน คิดเป็น
ร้อยละ 25.34 ระดับพอใช้ จำนวน 262 คน คิดเป็นร้อยละ 13.92 และระดับปรับปรุง จำนวน 78 คน คิดเป็น
ร้อยละ 4.14 แสดงกราฟที่ 3 ดังนี้
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 จําแนกตามระดับคุณภาพ
1200
1000
800
600
400
200
0
ดีมาก ดี พอใช ้ ปรับปรุง
การอ่านออกเสียง การอ่านรู้เรื่อง รวม 2 ด ้าน
กราฟที่ 2 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
จำแนกตามระดับคุณภาพ
ตอนที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ
ตารางที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ
ปี 2562 ผลการพัฒนา
ที่ ด้าน คะแนนเฉลี่ยร้อยละจำแนกตามสังกัด เพิ่ม/ เพิ่ม/ลด
ระดับเขต จังหวัด ศธภ. สพฐ. ประเทศ ลด ร้อยละ
คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 70.95 69.56 61.42 67.49 68.5 2.45 3.45
1 การอ่านออกเสียง
S.D. 14.41 13.92 15.16 14.23 14.61 -0.2 -1.39
คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 75.14 72.97 68.07 72.51 72.81 2.33 3.10
2 การอ่านรู้เรื่อง
S.D. 9.72 10.23 11.07 10.33 10.60 -0.88 -9.05
คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 73.05 71.27 64.75 70.00 70.66 2.39 3.27
รวม 2 ดาน
้
S.D. 22.63 22.57 24.61 22.76 23.46 -0.83 -3.67
25
จากตารางที่ 3 พบว่า นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ผลการประเมินความสามารถ
ด้านการอ่านออกเสียงระดับเขตพื้นที่สูงกว่าระดับประเทศ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.45 คิดเป็นร้อยละ 3.45 ผลการ
ประเมินความสามารถด้านการอ่านรู้เรื่องระดับเขตพื้นที่สูงกว่าระดับประเทศ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.33 คิดเป็น
ร้อยละ 3.10 เมื่อเปรียบเทียบผลการประเมินในภาพรวมทั้ง 2 ด้าน มีค่าเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่สูงกว่า
ระดับประเทศ เพิ่มขึ้น 2.39 คิดเป็นร้อยละ 3.27 แสดงกราฟที่ 4 ดังนี้
การเปรียบเทียบคะแนนผลการประเมินการอ่านของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ของเขตพื้นที่ กับ ประเทศ
80 75.14
75 70.95 72.81 73.05
70.66
68.5
70
65
การอ่านออก การอ่านรู้เรื่อง
เสียง
รวม 2 ด ้าน
ระดับเขต ประเทศ
กราฟที่ 3 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ
ตอนที่ 4 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2561-2562 ระดับเขตพื้นที่
ปี 2562 เปรียบเทียบระดับเขตพื้นที่
ที่ ด้าน คะแนนเฉลี่ยร้อยละจำแนกตามสังกัด เพิ่ม/ เพิ่ม/ลด
ระดับเขต จังหวัด ศธภ. สพฐ. ประเทศ ปี 2561 ปี 2562 ลด ร้อยละ
การอ่าน คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 70.95 69.56 61.42 67.49 68.5 63.59 70.95 7.36 11.57
1
ออกเสียง S.D. 14.41 13.92 15.16 14.23 14.61 14.84 14.41 -0.43 -2.90
การอ่านรู้ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 75.14 72.97 68.07 72.51 72.81 70.8 75.14 4.34 6.13
2
เรื่อง S.D. 9.72 10.23 11.07 10.33 10.6 9.37 9.72 0.35 3.74
คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 73.05 71.27 64.75 70 70.66 67.2 73.05 5.85 8.71
้
รวม 2 ดาน
S.D. 22.63 22.57 24.61 22.76 23.46 12.54 22.63 10.09 80.46
จากตารางที่ 4 พบว่า ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกเสียงของนักเรียนชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละสูงขึ้น 11.57
26
และ ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านรู้เรื่องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละสูงขึ้น 6.13 เมื่อเปรียบเทียบผลการประเมิน
ในภาพรวมทั้ง 2 ด้าน ปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละสูงขึ้น 8.71
แสดงกราฟที่ 2 ดังนี้
การเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2561 - 2562 ระดับเขตพื้นที่
75.14
76
73.05
74
72 70.95 70.83
70
67.28
68
66
63.72
64
62
60
58
การอ่านออกเสียง การอ่านรู้เรื่อง
รวม 2 ด ้าน
ี
ปการศึกษา 2561 ปการศึกษา 2562
ี
กราฟที่ 4 เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ปีการศึกษา 2561-2562 ระดับเขตพื้นที่
ปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จ/ปัจจัยเหตุแห่งปัญหา
1. สถานศึกษาในสังกัดและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้ความสำคัญในการประเมินความสามารถ
ด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 น้อยเกินไป
2. นักเรียนส่วนใหญ่เป็นกลุ่มชาติพันธ์อยู่ในพื้นที่สูงที่มีปัญหาในด้านการออกเสียงภาษาไทย
3. การใช้สื่อในการจัดการเรียนการสอนด้านการอ่านมีน้อย
4. การวัดและประเมินผลความสามารถด้านการอ่านไม่สัมพันธ์กับเครื่องมือวัดและประเมินผล
5. หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดให้ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ต้องเรียนสาระต่างๆ รวม 8 สาระ
เหมือนกับชั้นอื่นๆ เป็นอีกสาเหตุหนึ่งสำคัญที่ทำให้โรงเรียนยังจัดเวลาสำหรับการเรียนการสอนภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 น้อยเกินไป ไม่เพียงพอกับการฝึกทักษะเท่าที่ควรจะเป็น
6. การจัดให้เด็กพิเศษ (เด็กบกพร่องทางการเรียนรู้) เรียนร่วมกับเด็กปกติเป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้ครู
ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนที่มีคุณภาพ เพราะต้องห่วงหน้าพะวงหลัง ส่งผลให้เด็กปกติได้เรียนอย่างไม่เต็ม
ตามศักยภาพ และเด็กพิเศษก็จะถูกทอดทิ้งหรือเรียนไม่ทันคนอื่น
7. ผู้บริหารสถานศึกษา จัดวางตัวครูอนุบาลและครูประจำชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ไม่เหมาะสม รวมทั้ง
มอบหมายแนวทางการจัดการเรียนการสอนไม่ถกต้อง
ู
27
บทที่ 5
สรุป อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ
การประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
ของโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม
สนับสนุนให้โรงเรียนมีการประเมินความสามารถด้านการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (RT) และ
เพื่อสะท้อนคุณภาพผู้เรียน คุณภาพการจัดการของสถานศึกษาและของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาลำปางเขต 1 สรุปผลดังนี้
สรุปผลการประเมิน
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ภาพรวมระดับเขตพื้นที่
ภาพรวมผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียนประกอบด้วยด้านการอ่านออกเสียง
และการอ่านรู้เรื่อง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาลำปางเขต 1 จำนวนทั้งหมด 2,103 คน มีนักเรียนเข้ารับการประเมินความสามารถด้านการอาน
่
นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 2,080 คน คิดเป็นร้อยละ 98.91 (ขาดสอบ 23 คน คิดเป็น
ร้อยละ 1.09) นักเรียนปกติ จำนวน 1,871 คน คิดเป็นร้อยละ 89.95 (เด็กพิเศษ จำนวน 190 คน คิดเป็น
ร้อยละ 9.13 และ walk in จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 0.96 ) เมื่อแยกการประเมินรายด้านพบว่า
ด้านการอ่านออกเสียง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 70.95 และด้านการอ่านรู้เรื่อง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 75.14 สรุปภาพรวม
่
ื้
ผลการประเมินความสามารถด้านการอานของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ระดับเขตพนที่
มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 73.05
จำแนกตามระดับคุณภาพ
ึ
ผลการประเมินความสามารถในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 จำแนก
ตามระดับคุณภาพ พบว่า จำนวนนักเรียนที่มีผลการประเมินรวมทั้ง 2 ด้านสูงสุดอยู่ในระดับดีมาก จำนวน
1,065 คน คิดเป็นร้อยละ 56.58 รองลงมาคือ ระดับดี จำนวน 477 คน คิดเป็นร้อยละ 25.34 ระดับพอใช้
จำนวน 262 คน คิดเป็นร้อยละ 13.92 และระดับปรับปรุง จำนวน 78 คน คิดเป็นร้อยละ 4.14
การเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ระดับเขตพื้นที่กับระดับประเทศ
นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกเสียง
ระดับเขตพื้นที่สูงกว่าระดับประเทศ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.45 คิดเป็นร้อยละ 3.45 ผลการประเมินความสามารถ
ด้านการอ่านรู้เรื่องระดับเขตพื้นที่สูงกว่าระดับประเทศ มีค่าเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 2.33 คิดเป็นร้อยละ 3.10 เมื่อ
เปรียบเทียบผลการประเมินในภาพรวมทั้ง 2 ด้าน มีค่าเฉลี่ยระดับเขตพื้นที่สูงกว่าระดับประเทศ เพิ่มขึ้น 2.39
คิดเป็นร้อยละ 3.27
28
การเปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน
ปีการศึกษา 2561-2562
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกเสียงของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา
2562 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละสูงขึ้น 11.57 และ ผลการประเมิน
ความสามารถด้านการอ่านรู้เรื่องของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่า
ปีการศึกษา 2561 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละสูงขึ้น 6.13 เมื่อเปรียบเทียบผลการประเมินในภาพรวมทั้ง 2 ด้าน
ปีการศึกษา 2562 มีค่าเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 คิดเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละสูงขึ้น 8.71
อภิปรายผล
ผลการประเมินความสามารถด้านการอานของผู้เรียนโดยภาพรวมระดับเขตพื้นที่
่
จากผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านออกของผู้เรียนโดยภาพรวมระดับเขตพื้นที่ พบว่า
นักเรียนมีผลการประเมินความสามารถด้านการอานรวม 2 ด้าน ได้ร้อยละ 73.05 อยู่ในระดับดี แต่ยังไม่บรรลุ
่
ตามเป้าหมายของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1 แสดงถึงข้อบกพร่องในการอ่านของ
นักเรียนที่ต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน โดยเฉพาะการอ่านคำ ประเภทอักษรควบไม่แท้/ตัวสะกดตรงมาตรา
และตัวสะกดไม่ตรงมาตรา/ไม่มีรูปวรรณยุกต์ ซึ่งหน่วยงานหรือสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องต้องร่วมมือกันแก้ไข
ปัญหาแบบบูรณาการ ผู้ปกครอง ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
ประถมศึกษาลำปางเขต 1 ต้องเข้าไปมีส่วนร่วมในการส่งเสริมและพัฒนานักเรียนให้มีศักยภาพพื้นฐานด้าน
การอ่าน ซึ่งจะเป็นเครื่องมือการเรียนรู้ในระดับชั้นที่สูงขึ้น่ต่อไป
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนจำแนกเป็นรายด้าน
จากผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
จำแนกเป็นรายด้าน พบว่า ด้านการอ่านออกเสียง มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 70.95 และด้านการอ่านรู้เรื่อง มีค่าเฉลี่ย
ร้อยละ 75.14 รวมทั้ง 2 ด้าน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 73.05 อยู่ในระดับดี แต่นักเรียนยังมีข้อบกพร่องมากในด้าน
การอ่านออกเสียง ประเภทของคำ อักษรควบไม่แท้/ตัวสะกดตรงมาตรา และตัวสะกดไม่ตรงมาตรา/ไม่มีรูป
วรรณยุกต์ ซึ่งมีนักเรียนจำนวนมากต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน สอดคล้องกับข้อค้นพบของ บันลือ
พฤกษะวัน (2532) ที่ว่าการอ่านเป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนภาษาและเป็นหัวใจของการพัฒนาทักษะภาษา
เพราะการอ่านส่งผลกระทบต่อการพัฒนาทักษะทางภาษาทั้ง 4 ด้าน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการอ่านออกเสียง
เป็นประโยคนั้นนักเรียนต้องอ่านออกเสียงคำได้ถูกต้องและต้องอานได้ต่อเนื่องเป็นประโยค จึงจะได้คะแนนทั้ง
่
2 ส่วน ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่อ่านเป็นคำได้แต่การอ่านได้ไม่ต่อเนื่องเป็นประโยค ทำให้มีร้อยละของนักเรียนต้อง
ปรับปรุงจำนวนมาก ดังนั้นการพัฒนาผู้เรียนในด้านการอ่านออกเสียงนั้น จำเป็นต้องเน้นให้ครูจัดการเรียนการ
สอนด้วยการฝึกฝนหรือใช้สื่อเสริมให้นักเรียนได้ฝึกปฏิบัติจริงมากขึ้น
29
ข้อเสนอแนะ
สำหรับสถานศึกษา
ผู้บริหาร ครูผู้สอน และบุคลากรในสถานศึกษา ควรดำเนินการ ดังนี้
ิ
1. นำผลการประเมิน วิเคราะห์ผลการประเมินรายบุคลในแต่ละสมรรถนะ เพื่อประเมนความก้าวหน้า
ของผู้เรียนและประเมินผลการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน
2. นำผลการวิเคราะห์ไปใช้ในการวางแผนการจัดทำโครงการ กิจกรรมการสอนต่างๆที่สามารถส่งเสริม
สนับสนุนให้เกิดการยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน รวมทั้งพัฒนาการจัดการเรียนการสอนของครู
3. ดำเนินการตามแผนงาน มาตรการ วิธีการอย่างเข้มแข็ง ตรวจสอบและปรับปรุงโดยวงจรคุณภาพ
มุ่งยกระดับผลสัมฤทธิ์
4. สร้างขวัญและกำลังใจ รวมทั้งสร้างความตระหนักถึงความสำคัญของการประเมินความสามารถด้าน
การอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้กับครู นักเรียนและผู้ที่เกี่ยวข้อง
5. นิเทศ กำกับติดตามการจัดกิจกรรมยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดับชั้นอย่างต่อเนื่อง เป็น
ระบบ และมีประสิทธิภาพ
6. จัดทำสารสนเทศ ฐานข้อมูลผลการเรียนของนักเรียน เพื่อนำผลรายงานชุมชน ผู้ปกครอง
สำหรับเขตพื้นที่
1. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ควรส่งเสริม สนับสนุน ให้ความรู้ในการจัดการเรียนการสอนกลุ่ม
ึ
สาระภาษาไทย การสอนอ่านแจกลูกสะกดคำ ให้กับครูผู้สอนภาษาไทยนักเรียนระดับประถมศกษาปีที่ 1 อย่าง
ต่อเนื่องและทั่วถึง มีการกำกับติดตามอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาร่วมกับโรงเรียนให้สามารถ
พัฒนาการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่องร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมมากขึ้น
2. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรส่งเสริม สนับสนุน การสร้างสื่อและนวัตกรรม เพื่อยกระดับ
ผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่อง ให้แก่ครูผู้สอนในสังกัด เพื่อช่วยให้ครูมีสื่อสนับสนุน
การสอนที่หลากหลาย สอดคล้องกับการพัฒนาผู้เรียนในแต่ละระดับชั้น ส่งเสริมให้ครูผู้สอนได้รับการฝึกอบรม
ให้ความรู้เกี่ยวกับการสอนการอ่านออกเสียงและการอ่านรู้เรื่อง
3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาควรมีการติดตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการอ่านอย่าง
จริงจัง และต่อเนื่อง เพื่อกระตุ้นให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญต่อการพัฒนาการอานแก่ผู้เรียน
่
4. สถานศึกษามีกำหนดนโยบาย แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาในโรงเรียน หรือโครงการยกระดับ
ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในกลุ่มสาระวิชาภาษาไทย อย่างชัดเจนและปฏิบัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการพฒนา
ั
ต่อผู้เรียนได้มากที่สุด
5. สถานศึกษามีการดำเนินการพัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในโรงเรียนที่มีพฤติกรรมขาดเรียน
ต่อเนื่องกันเป็นระยะเวลานาน เพื่อแก้ไขปัญหาการขาดเรียนของนักเรียนซึ่งส่งผลต่อพัฒนาทักษะ
ความสามารถของนักเรียน
30
6. ครูผู้สอนมีการวิเคราะห์ผู้เรียนเป็นรายบุคคล เพื่อวางแผนการพัฒนาผู้เรียนดำเนินการซ่อมเสริมใน
ส่วนที่นักเรียนยังขาดทักษะในด้านนั้นๆ
7. ครูผู้สอนมีการพัฒนาสื่อและนวัตกรรมทางการศึกษาที่ส่งเสริมการอ่านและการเขียนให้กับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 มีการใช้สื่อในการจัดการเรียนการสอนอย่างเหมาะสม
ื่
8. ครูผู้สอนมีการวิเคราะห์ผู้เรียนรายบุคคลอย่างจริงจังและต่อเนื่อง เพื่อนำผลการวิเคราะห์ไปใช้เพอ
พัฒนาผู้เรียนให้เหมาะสมกับความสามารถเฉพาะบุคคล เพื่อสอดคล้องต่อการจัดการเรียนการสอนที่เน้น
ผู้เรียนเป็นสำคัญ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม และตรงจุดมากยิ่งขึ้น
สำหรับผู้เกี่ยวข้อง
หน่วยงานต้นสังกัด ศึกษานิเทศก์ บุคลกรทางการศึกษาและผู้เกี่ยวข้อง ควรดำเนินการ ดังนี้
1. ศึกษา วิเคราะห์ผลการประเมิน เพื่อใช้เป็นข้อมูลพื้นฐานในการวางแผน หรือกำหนดนโยบาย
มาตรการ โครงการ และกิจกรรมต่างๆ เพื่อส่งเสริมการจัดการศึกษาให้เกิดประโยชน์และประสิทธิภาพสูงสุด
2. ให้ความสำคัญในการยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนอย่างจริงจัง และต่อเนื่อง
3. ส่งเสริมและสนับสนุนสถานศึกษาในการพัฒนาการเรียนการสอน อันส่งผลไปสู่เป้าหมายการจัด
การศึกษาอย่างแท้จริง
4. นิเทศ กำกับติดตามการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ
31
บรรณานุกรม
กระทรวงศึกษาธิการ.(2551). สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา. หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้น
พื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย.
ฉวีวรรณ คูหาภินันท์.(2547). การอ่านและการส่งเสริมการอ่าน. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : โสภณการพิมพ.
์
ฉวีลักษณ์ บุญกาญจน.(2547). จิตวิทยาการอ่าน. กรุงเทพฯ : บริษัท 21 เซ็นจูรี่จำกัด.
นงเยาว์ เลี่ยมขุนทด.(2547). การพัฒนาแผนการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านและการเขียนสะกดคำโดยใช้
แผนผังความคิด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัย
มหาสารคาม.
นิลวรรณ อัคติ.(2547). การพัฒนาแผนการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการผันวรรณยุกต์โดยใช้แบบฝึกทักษะชั้น
ประถมศึกษาปีที่ 2. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
นิรันดร์ สุขปรีดี.(2540). การศึกษาอัตราความเร็วและความเข้าใจในการอ่านของนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 4ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา. ปริญญานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บรรจง จันทร์พันธ์.(2548). การพัฒนาแผนการเรียนรู้และแบบฝึกทักษะภาษาไทยเรื่อง การเขียนสะกดคำ
ไม่ตรงตามมาตราตัวสะกด ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม :
มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
บันลือ พฤกษะวัน.(2532). มิติใหม่ในการสอนอ่าน. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช.
มนทิรา ภักดีณรงค์.(2540). การศึกษาแบบฝึกเสริมทักษะกิจกรรมขั้นตอนที่ 5ที่มีประสิทธิภาพและความ
คงทนในการเรียนรู้ เรื่อง ยังไม่สายเกินไป วิชาภาษาไทยชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยการสอนแบบ
มุ่งประสบการณ์ภาษา. วิทยานิพนธ์ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สมใจ นาคศรีสังข์.(2549). การสร้างแบบฝึกการอ่านและเขียนสะกดคำจากแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น
นประถมศึกษาปีที่ 4. การศึกษาค้นคว้าอิสระ กศ.ม. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม.
สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา.(2551). การจัดสาระการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ตาม
หลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : คุรุสภา ลาดพร้าว.
Bouchard, Margaret Pray. “An Investigation of Students’ Word Knowledge as
Demonstrated by Their Reading and Spelling Error.” Dissertation Abstracts
International. 63 (2) : 541-4; August, 2002.
http2// wwwlib.Umi.com/dissertations/fullcit/3010800 (March 3,2013)
Goodman, K. S. (1970). Reading, psycholinguistic guessing games in Theoretical model’s
and process of reading. New York : International Reading Association.
32
Garcia, Carol Ann. (1998), “The Effect of Two Types of spilling Instruction On First-grade
Reding, Writing, and Spelling Achievement”. Dissertation Abstracts International.
58(9) : 3459-A; March.
33
ภาคผนวก
34
รายงานผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 (R-Local01)
https://drive.google.com/file/d/1SLEnrkX9_p_qJRzypLv5T6ruVVx4a2Vs/view?usp=sharing
เปรียบเทียบผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562 กับ 2561
https://drive.google.com/file/d/1uvGOuLzYi5ryO5jQZYMaW5O6atzAlCoL/view?usp=sharing
35
เรียงลำดับผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561
รายโรงเรียน
https://drive.google.com/file/d/1aQjm9R3TZc7R1sPtBpYO3-Eq0JdtoNoR/view?usp=sharing
เรียงลำดับผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561
รายกลุ่มเครือข่าย
https://drive.google.com/file/d/1QxtDr71aooxLdxdPj0YYeMTHoMgkSW9E/view?usp=sharing
36
ผลการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (Reading Test)
ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2562
จำแนกกลุ่มเครือข่าย
https://drive.google.com/file/d/1qvHgn_t2pT_yH0edDAYylFNtex17pZuz/view?usp=sharing
ี
ผลการพัฒนาการประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรยน (Reading Test)
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2561- กับปีการศึกษา 2562
ึ
สำนักงานเขตพื้นที่การศกษาประถมศึกษาลำปางเขต 1
รายโรงเรียน
https://drive.google.com/file/d/1AMUD2iUUJK9xMECPD7FKXciUu_sZbHmi/view?usp=sharing
37
คณะผู้จัดทำ
ที่ปรึกษา
นางวรางคณา ไชยเรือน รองผู้อำนวยการ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
รักษาราชการแทน ผอ.สพป.ลำปางเขต 1
นายเอกฐสิทธิ์ กอบกำ ผู้อำนวยการกลุ่มนิเทศ ติดตาม และประเมินผลการจัดการศึกษา
ึ
สำนักงานเขตพื้นที่การศกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
นางเขมจิรา เศวตรัตนเสถียร ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
วิเคราะห์ สรุป และอภิปรายผล
ึ
ื้
นางสาววิมล ปวนปันวงค์ ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพนที่การศึกษาประถมศกษาลำปาง เขต 1
นางพรนิภา ยศบุญเรือง ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปาง เขต 1
พิมพ์และจัดทำรูปเล่ม
นางสาววิมล ปวนปันวงค์ ศึกษานิเทศก์ สำนักงานเขตพนที่การศึกษาประถมศกษาลำปาง เขต 1
ื้
ึ