แผนการสอนปิงปอง สมบรูณ์

คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้เล่มนี้ จัดทำเพื่อใช้ในการสอบสาธิต การปฏิบัติการสอน การสอบแข่งขันเพื่อ
บรรจุและแต่งตั้งบุคคลเข้ารับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ตำแหน่ครูผู้ช่วย สังกัดสำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปี พ.ศ.๒๕๖๔ สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดสระบุรี ชุดเอกสารประเมิน
ภาค ค ๒.๒ แผนการจักการเรียน กลุ่มสาระการเรียนสุขศึกษาและพลศึกษา ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ เนื้อหา
ประกอบด้วย การวิเคราะห์หลักสูตร การออกแบบและการวางแผนการจัดการเรียนรู้ ทักษะและวิธีการสอน
การใช้ส่ือ นวตั กรรมเทคโนโลยีในการจัดการเรยี นรู้ การวดั และประเมนิ ผลการจดั การเรียนรู้

ผ้จู ดั ทำหวงั ว่าแผนการจัดการเรียนรเู้ ล่มนี้ จะเปน็ ประโยชน์และเปน็ แนวทางแก่ผสู้ นใจไมม่ ากก็น้อย

นายสุรดิษ สายทรัพย์

สารบญั

วิสยั ทศั น์กล่มุ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศึกษา

สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นการศึกษาด้านสุขภาพที่มีเป้าหมาย เพื่อการดำเนินการสร้างเสริมสุขภาพ
และพัฒนาคณุ ภาพชีวิตของบคุ คล ครอบครวั และชุมชนท่ยี ง่ั ยนื

สุขศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณภาพ ค่านิยมและ
การปฏบิ ัตเิ กย่ี วกับสุขภาพควบคู่ไปดว้ ย

พลศึกษา มุ่งให้ผู้เรียนเกิดการพัฒนาโดยรวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สติปัญญาและสังคม
ดว้ ยการเข้าร่วมในกจิ กรรมการออกกำลังกายและกีฬาและกิจกรรมเหล่าน้ันได้รบั การคดั สรรมาเป็นอยา่ งดีแล้ว

สุขศึกษาและพลศึกษาจึงมุ่งเน้นให้ผู้เรียนเกิดความสามารถในการพัฒนาพฤติกรรมสุขภาพจนมีวิถี
ชีวิตที่มีสุขภาพดี โดยให้มีทั้งความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและกระบวนการและคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม
ตามแนวการจัดการศึกษาในพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติพุทธศักราช ๒๕๔๒และตามจุดมุ่งหมายของ
หลักสูตรการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ผลรวมสุดท้ายคือ ผู้เรียนเกดิ การพฒั นาท่ีเป็นองค์รวมของ
ความเปน็ มนุษยท์ ่ีสมบูรณ์ (Holistic)

สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน มุง่ ให้ผู้เรยี นเกดิ สมรรถนะสำคญั ๕ ประการ ดังนี้

๑. ความสามารถในการสื่อสาร เป็นความสามารถในการรับและส่งสาร มีวัฒนธรรมในการใช้ภาษา
ถ่ายทอดความคิด ความรู้ความเข้าใจ ความรู้สึก และทัศนะของตนเองเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารและ
ประสบการณ์อันจะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตนเองและสังคม รวมทั้งการเจรจาต่อรองเพื่อขจัดและ
ลดปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ การเลือกรับหรือไม่รับข้อมลู ข่าวสารด้วยหลักเหตุผลและความถกู ตอ้ ง ตลอดจน
การเลือกใชว้ ธิ กี ารสอ่ื สารทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพโดยคำนึงถงึ ผลกระทบท่ีมีต่อตนเองและสงั คม

๒. ความสามารถในการคิด เป็นความสามารถในการคิดวิเคราะห์ การคิดสังเคราะห์ การคิดอย่าง
สร้างสรรค์ การคิดอย่างมีวิจารณญาณ และการคิดเป็นระบบ เพื่อนำไปสู่การสร้างองค์ความรู้หรือสารสนเทศ
เพ่ือการตดั สินใจเกย่ี วกับตนเองและสังคมได้อย่างเหมาะสม

๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา เป็นความสามารถในการแก้ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ ที่เผชิญ
ได้อย่างถูกต้องเหมาะสมบนพื้นฐานของหลักเหตุผล คุณธรรมและข้อมูลสารสนเทศ เข้าใจความสัมพันธ์และ
การเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในสังคม แสวงหาความรู้ ประยุกต์ความรู้มาใช้ในการป้องกันและแก้ไข
ปัญหาและมีการตัดสนิ ใจท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพโดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดข้นึ ต่อตนเอง สังคมและส่ิงแวดล้อม

๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต เป็นความสามารถในการนำกระบวนการต่าง ๆ ไปใช้ใน
การดำเนินชีวิตประจำวัน การเรียนรู้ด้วยตนเอง การเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง การทำงาน และการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมด้วยการสร้างเสริมความสัมพันธ์อันดีระหว่างบุคคล การจัดการปัญหาและความขัดแย้งต่าง ๆ

อย่างเหมาะสม การปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของสังคมและสภาพแวดล้อม และการรู้จักหลีกเลี่ยง
พฤติกรรมไมพ่ ึงประสงคท์ ี่สง่ ผลกระทบต่อตนเองและผู้อน่ื

๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี เป็นความสามารถในการเลือก และใช้เทคโนโลยีด้านต่าง ๆ และ
มีทักษะกระบวนการทางเทคโนโลยี เพื่อการพัฒนาตนเองและสังคมในด้านการเรียนรู้ การสื่อสาร การทำงาน
การแก้ปญั หาอย่างสร้างสรรค์ ถกู ตอ้ ง เหมาะสม และมีคุณธรรม

คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์

หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ เพื่อให้
สามารถอยรู่ ว่ มกบั ผูอ้ ่นื ในสงั คมไดอ้ ย่างมีความสขุ ในฐานะเปน็ พลเมืองไทยและพลโลก ดังนี้

๑. รักชาติ ศาสน์ กษัตริย์
๒. ซ่ือสตั ย์สจุ ริต
๓. มวี ินยั
๔. ใฝเ่ รยี นรู้
๕. อยอู่ ย่างพอเพยี ง
๖. ม่งุ ม่ันในการทำงาน
๗. รกั ความเปน็ ไทย
๘. มีจิตสาธารณะ

ค่านิยมหลกั ของคนไทยของ ๑๒ ประการ ตามนโยบายของ คสช.

๑. มคี วามรักชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์
๒. ซอ่ื สัตย์ เสียสละ อดทน มีอุดมการณใ์ นสิ่งทดี่ ีงามเพือ่ ส่วนรวม
๓. กตญั ญูต่อพอ่ แม่ ผปู้ กครอง ครูบาอาจารย์
๔. ใฝห่ าความรู้ หมน่ั ศกึ ษาเลา่ เรียนท้ังทางตรง และทางอ้อม
๕. รกั ษาวฒั นธรรมประเพณีไทยอนั งดงาม
๖. มศี ีลธรรม รกั ษาความสัตย์ หวังดีตอ่ ผอู้ น่ื เผอื่ แผแ่ ละแบง่ ปนั
๗. เขา้ ใจเรียนรกู้ ารเปน็ ประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเปน็ ประมุขท่ถี ูกตอ้ ง
๘. มรี ะเบียบวนิ ยั เคารพกฎหมาย ผนู้ อ้ ยร้จู ักการเคารพผใู้ หญ่
๙. มสี ติรู้ตวั ร้คู ิด รทู้ ำ รู้ปฏิบตั ติ ามพระราชดำรสั ของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว
๑๐. รู้จักดำรงตนอยู่โดยใช้หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จ
พระเจ้าอยู่หัว รู้จักอดออมไว้ใช้เมื่อยามจำเป็น มีไว้พอกินพอใช้ ถ้าเหลือก็แจกจ่ายจำหน่าย และพร้อม
ที่จะขยายกจิ การเมือ่ มคี วามพร้อม เม่ือมภี มู คิ ุ้มกันท่ีดี
๑๑. มีความเข้มแข็งทั้งร่างกาย และจิตใจ ไม่ยอมแพ้ต่ออำนาจฝ่ายต่ำ หรือกิเลส มีความละอาย
เกรงกลัวต่อบาปตามหลักของศาสนา
๑๒. คำนงึ ถึงผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาตมิ ากกว่าผลประโยชนข์ องตนเอง

ทำไมต้องเรียนสขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

สุขภาพหรือสุขภาวะ หมายถึง ภาวะของมนุษย์ที่สมบูรณ์ทั้งทางกาย ทางจิต ทางสังคมและ
ทางปญั ญาหรอื จติ วญิ ญาณ สุขภาพหรอื สุขภาวะจึงเป็นเร่อื งสำคัญ เพราะเกย่ี วโยงกับทกุ มติ ิของชีวิต ซึง่ ทุกคน
ควรจะไดเ้ รยี นรู้เร่ืองสขุ ภาพ เพ่อื จะได้มคี วามรู้ ความเขา้ ใจท่ถี กู ต้อง มเี จตคติ คณุ ธรรมและคา่ นิยมท่เี หมาะสม
รวมทงั้ มที กั ษะปฏิบตั ดิ า้ นสุขภาพจนเปน็ กิจนิสยั อนั จะสง่ ผลใหส้ งั คมโดยรวมมคี ุณภาพ

เรยี นรู้อะไรในสขุ ศึกษาและพลศึกษา

สุขศึกษาและพลศึกษาเป็นการศึกษาด้านสุขภาพที่มีเป้าหมาย เพื่อการดำรงสุขภาพ การสร้างเสริม
สขุ ภาพและการพฒั นาคณุ ภาพชวี ิตของบคุ คล ครอบครวั และชมุ ชนใหย้ ่ังยนื

สุขศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนพัฒนาพฤติกรรมด้านความรู้ เจตคติ คุณธรรม ค่านิยมและการปฏิบัติ
เก่ยี วกับสขุ ภาพควบคู่ไปดว้ ยกนั

พลศึกษา มุ่งเน้นให้ผู้เรียนใช้กิจกรรมการเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกมและกีฬา
เป็นเครื่องมือในการพัฒนาโดยรวมทั้งด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สติปัญญา รวมทั้งสมรรถภาพเพื่อ
สุขภาพและกฬี า
สาระที่เป็นกรอบเนื้อหาหรือขอบข่ายองค์ความรขู้ องกลุ่มสาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษาประกอบด้วย

• การเจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เรื่องธรรมชาติของการ
เจริญเติบโตและพัฒนาการของมนุษย์ ปัจจัยที่มีผลต่อการเจริญเติบโต ความสัมพันธ์เชื่อมโยงในการทำงาน
ของระบบต่าง ๆ ของร่างกาย รวมถึงวิธปี ฏบิ ตั ิตนเพอ่ื ให้เจริญเติบโตและมีพัฒนาการท่สี มวยั

• ชีวิตและครอบครัว ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เรื่องคุณค่าของตนเองและครอบครัว การปรับตัวต่อ
การเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ความรู้สึกทางเพศ การสร้างและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อ่ืน
สุขปฏิบตั ิทางเพศ และทักษะในการดำเนนิ ชวี ิต

• การเคลื่อนไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล ผู้เรียนได้เรียนรู้เร่ือง
การเคล่อื นไหวในรูปแบบต่าง ๆ การเข้าร่วมกจิ กรรมทางกายและกีฬา ทง้ั ประเภทบุคคล และประเภททีมอย่าง
หลากหลายทั้งไทยและสากล การปฏิบัติตามกฎ กติกา ระเบียบและข้อตกลงในการเข้าร่วมกิจกรรมทางกาย
และกฬี า และความมีนำ้ ใจนักกฬี า

• การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพ และการป้องกันโรค ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับหลักและ
วิธกี ารเลอื กบรโิ ภคอาหาร ผลิตภณั ฑแ์ ละบริการสุขภาพ การสร้างเสริมสมรรถภาพเพ่ือสุขภาพและการป้องกัน
โรคทง้ั โรคตดิ ตอ่ และโรคไมต่ ิดตอ่

• ความปลอดภัยในชีวิต ผู้เรียนจะได้เรียนรู้เรื่องการป้องกันตนเองจากพฤติกรรมเสี่ยงต่าง ๆ
ทั้งความเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ ความรุนแรง อันตรายจากการใช้ยาและสารเสพติด รวมถึงแนวทาง
ในการสรา้ งเสรมิ ความปลอดภัยในชวี ิต

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้

สาระที่ ๑ การเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์
มาตรฐาน พ ๑.๑ เข้าใจธรรมชาติของการเจรญิ เติบโตและพฒั นาการของมนษุ ย์

สาระท่ี ๒ ชวี ติ และครอบครวั
มาตรฐาน พ ๒.๑ เขา้ ใจและเห็นคณุ ค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมที ักษะในการดำเนนิ ชีวิต

สาระที่ ๓ การเคลอื่ นไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที กั ษะในการเคลื่อนไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า
มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่างสม่ำเสมอ

มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชม
ในสุนทรียภาพของการกฬี า

สาระที่ ๔ การสร้างเสรมิ สขุ ภาพ สมรรถภาพและการป้องกนั โรค
มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทักษะในการสร้างเสริมสุขภาพ การดำรงสุขภาพ การป้องกันโรคและ

การสรา้ งเสรมิ สมรรถภาพเพ่ือสุขภาพ

สาระที่ ๕ ความปลอดภยั ในชวี ิต
มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา

สารเสพตดิ และความรุนแรง

คุณภาพผู้เรียน

จบชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๓

• เข้าใจและเห็นความสำคัญของปัจจัยที่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่มีต่อ
สขุ ภาพและชีวติ ในชว่ งวัยต่าง ๆ

• เข้าใจ ยอมรับ และสามารถปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ ความรู้สึก
ทางเพศ ความเสมอภาคทางเพศ สร้างและรักษาสัมพันธภาพกับผู้อื่น และตัดสินใจแก้ปัญหาชีวิตด้วยวิธีการ
ที่เหมาะสม

• เลือกกนิ อาหารทีเ่ หมาะสม ได้สดั ส่วน สง่ ผลดตี อ่ การเจริญเติบโตและพัฒนาการตามวัย

• มีทักษะในการประเมินอิทธิพลของเพศ เพื่อน ครอบครัว ชุมชนและวัฒนธรรมที่มีต่อเจตคติ
ค่านยิ มเก่ยี วกับสุขภาพและชีวติ และสามารถจัดการได้อย่างเหมาะสม

• ป้องกันและหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง พฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพและการเกิดโรค อุบัติเหตุ การใช้ยา
สารเสพติดและความรุนแรง รู้จักสร้างเสริมความปลอดภยั ให้แก่ตนเอง ครอบครวั และชุมชน

• เข้าร่วมกิจกรรมทางกาย กิจกรรมกีฬา กิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพ
ทางกายเพื่อสุขภาพ โดยนำหลักการของทักษะกลไกมาใช้ได้อย่างปลอดภัย สนุกสนานและปฏิบัติเป็นประจำ
สม่ำเสมอตามความถนัดและความสนใจ

• แสดงความตระหนักในความสมั พันธ์ระหว่างพฤติกรรมสุขภาพ การป้องกันโรค การดำรงสุขภาพ
การจัดการกบั อารมณ์และความเครยี ด การออกกำลงั กายและการเล่นกฬี ากับการมีวิถชี วี ติ ทม่ี สี ขุ ภาพดี

• สำนกึ ในคุณค่า ศักยภาพและความเป็นตวั ของตวั เอง

• ปฏิบัติตามกฎ กติกา หน้าที่ความรับผิดชอบ เคารพสิทธิของตนเองและผู้อื่น ให้ความร่วมมือ
ในการแข่งขันกีฬาและการทำงานเป็นทีมอย่างเป็นระบบ ด้วยความมุ่งมั่นและมีน้ำใจนักกีฬา จนประสบ
ความสำเรจ็ ตามเป้าหมายด้วยความชื่นชม และสนุกสนาน

จบชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๖

• สามารถดูแลสุขภาพ สร้างเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง และพฤติกรรมเสี่ยง
ต่อสุขภาพ อุบัติเหตุ การใช้ยา สารเสพติดและความรุนแรงได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยการวางแผนอย่างเป็น
ระบบ

• แสดงออกถึงความรัก ความเอื้ออาทร ความเข้าใจในอิทธิพลของครอบครัว เพื่อน สังคมและ
วัฒนธรรมทมี่ ีตอ่ พฤตกิ รรมทางเพศ การดำเนินชีวติ และวิถชี ีวิตท่ีมสี ขุ ภาพดี

• ออกกำลงั กาย เล่นกีฬา เข้ารว่ มกิจกรรมนันทนาการ กิจกรรมสรา้ งเสริมสมรรถภาพ เพ่ือสุขภาพ
โดยนำหลกั การของทักษะกลไกมาใช้ได้อย่างถูกตอ้ ง สม่ำเสมอดว้ ยความชน่ื ชมและสนกุ สนาน

• แสดงความรับผิดชอบ ให้ความร่วมมือและปฏบิ ัติตามกฎ กติกา สิทธิ หลักความปลอดภัยในการ
เข้ารว่ มกิจกรรมทางกาย และเลน่ กีฬาจนประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมายของตนเองและทีม

• แสดงออกถึงการมีมารยาทในการดู การเล่น และการแข่งขัน ด้วยความมีน้ำใจนักกีฬาและนำ
ไปปฏบิ ตั ิในทุกโอกาสจนเป็นบุคลกิ ภาพท่ีดี

• วิเคราะห์และประเมินสุขภาพส่วนบุคคลเพื่อกำหนดกลวิธีลดความเสี่ยง สร้างเสริมสุขภาพ
ดำรงสุขภาพ การป้องกันโรคและการจดั การกบั อารมณ์และความเครียดได้ถูกต้องและเหมาะสม

• ใชก้ ระบวนการทางประชาสังคม สรา้ งเสรมิ ใหช้ ุมชนเข้มแขง็ ปลอดภัย และมวี ถิ ชี วี ติ ท่ีดี

ตวั ช้วี ัดและสาระการเรยี นรู้แกนกลาง

สาระที่ ๑ การเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนษุ ย์

มาตรฐาน พ ๑.๑ เขา้ ใจธรรมชาตขิ องการเจริญเตบิ โตและพฒั นาการของมนุษย์

ช้นั ตวั ชวี้ ดั สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ม.๑ ๑. อธิบายความสำคัญของระบบประสาทและ  ความสำคัญของระบบประสาท และระบบ

ระบบต่อมไรท้ ่อท่ีมผี ลต่อสุขภาพ การเจริญเติบโต ต่อมไร้ท่อที่มีผลต่อสุขภาพการเจริญเติบโต

และพฒั นาการของวัยร่นุ และพัฒนาการของวยั รนุ่

๒. อธิบายวิธีดแู ลรักษาระบบประสาท และระบบ  วิธีดูแลรักษาระบบประสาทและระบบต่อมไร้

ตอ่ มไร้ท่อใหท้ ำงานตามปกติ ทอ่ ให้ทำงานตามปกติ

๓. วิเคราะห์ภาวะการเจริญเติบโตทางร่างกาย  การวเิ คราะหภ์ าวะการเจรญิ เตบิ โตตามเกณฑ์

ของตนเองกับเกณฑ์มาตรฐาน มาตรฐานและปจั จัยท่ีเกีย่ วขอ้ ง

๔. แสวงหาแนวทางในการพัฒนาตนเอง  แนวทางในการพัฒนาตนเองให้เจริญเติบโต

ให้เจริญเตบิ โตสมวัย สมวัย

ม.๒ ๑. อธิบายการเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ  การเปลี่ยนแปลงด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์

อารมณ์ สงั คม และสติปัญญาในวัยรนุ่ สังคม และสตปิ ัญญาในวยั รุ่น

๒. ระบุปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโต  ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อการเจริญเติบโตและ

และพัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม พัฒนาการด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม

และสติปญั ญา ในวยั รุน่ และสติปัญญา

- พนั ธุกรรม

- สิง่ แวดล้อม

- การอบรมเล้ยี งดู

ม.๓ ๑. เปรียบเทียบการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย  การเปลี่ยนแปลง ด้านร่างกาย จิตใจ

จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา แต่ละช่วง อารมณ์ สังคม และสตปิ ญั ญาในแตล่ ะวัย

ของชวี ิต - วัยทารก - วยั ก่อนเรยี น

- วัยเรียน - วยั รนุ่

- วยั ผใู้ หญ่ - วยั สงู อายุ

๒. วิเคราะห์อิทธิพลและความคาดหวังของสังคม  อิทธิพลและความคาดหวังของสังคมที่มีต่อ

ต่อการเปล่ียนแปลงของวยั รนุ่ การเปลย่ี นแปลงของวยั รนุ่

๓. วิเคราะห์ สื่อ โฆษณา ที่มีอิทธิพลต่อการ  สื่อ โฆษณา ที่มีอิทธิพลต่อการเจริญเติบโต

เจรญิ เตบิ โตและพัฒนาการของวยั รุ่น และพฒั นาการของวยั รนุ่

- โทรทัศน์ - วทิ ยุ

- ส่ือสง่ิ พิมพ์ - อินเทอรเ์ นต็

สาระที่ ๒ ชีวติ และครอบครัว

มาตรฐาน พ ๒.๑ เข้าใจและเหน็ คณุ ค่าตนเอง ครอบครัว เพศศึกษา และมีทักษะในการดำเนิน

ชวี ิต

ชน้ั ตัวชว้ี ัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๑ ๑. อธิบายวิธีการปรับตัวต่อการเปลี่ยนแปลงทาง  การเปล่ียนแปลงทางร่างกาย จติ ใจ อารมณ์

ร่างกายจิตใจ อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ และพัฒนาการทางเพศ

อย่างเหมาะสม - ลักษณะการเปลีย่ นแปลงทางร่างกาย จติ ใจ

อารมณ์ และพัฒนาการทางเพศ

- การยอมรับและการปรับตัวต่อการ

เปลี่ยนแปลงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ และ

พัฒนาการทางเพศ

- การเบยี่ งเบนทางเพศ

๒. แสดงทักษะการปฏิเสธเพื่อป้องกันตนเอง  ทักษะปฏิเสธเพื่อป้องกันการถูกล่วงละเมิด

จากการถกู ล่วงละเมดิ ทางเพศ ทางเพศ

ม.๒ ๑. วิเคราะห์ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อ เจตคติในเรื่อง  ปจั จัยทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ เจตคตใิ นเรอื่ งเพศ

เพศ - ครอบครัว - วัฒนธรรม

- เพ่ือน - สอ่ื

๒. วิเคราะห์ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการ  ปัญหาและผลกระทบที่เกิดจากการมี

มเี พศสัมพนั ธใ์ นวยั เรยี น เพศสมั พนั ธใ์ นวยั เรียน

๓. อธิบายวิธีป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยงจาก  โรคตดิ ตอ่ ทางเพศสัมพนั ธ์

โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เอดส์ และการตั้งครรภ์  โรคเอดส์

โดยไม่พึงประสงค์  การต้งั ครรภโ์ ดยไมพ่ งึ ประสงค์

๔. อธิบายความสำคัญของความเสมอภาคทางเพศ  ความสำคญั ของความเสมอภาคทางเพศ

และวางตวั ได้อย่างเหมาะสม  การวางตัวต่อเพศตรงขา้ ม

 ปญั หาทางเพศ

 แนวทางการแกไ้ ขปญั หาทางเพศ

ม.๓ ๑. อธิบายอนามัยแม่และเด็ก การวางแผน  องคป์ ระกอบของอนามยั เจริญพันธ์ุ

ครอบครวั และวธิ กี ารปฏิบัติตนทเี่ หมาะสม - อนามยั แม่และเด็ก

- การวางแผนครอบครวั

๒. วเิ คราะหป์ จั จัยทมี่ ีผลกระทบต่อการตัง้ ครรภ์  ปัจจัยท่มี ีผลกระทบต่อการต้ังครรภ์

- แอลกอฮอล์ - สารเสพตดิ

- บุหร่ี - สภาพแวดล้อม

- การติดเช้ือ - โรคท่ีเกิดจากภาวการณ์

ตั้งครรภ์

๓. วิเคราะห์สาเหตุ และเสนอแนวทางป้องกัน  สาเหตุความขัดแย้งในครอบครวั

แกไ้ ขความขัดแยง้ ในครอบครวั  แนวทางป้องกนั แกไ้ ขความขดั แย้งใน

ครอบครัว

สาระท่ี ๓ การเคลอ่ื นไหว การออกกำลังกาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มีทักษะในการเคลอื่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเล่นเกม และกฬี า

ช้นั ตัวชว้ี ดั สาระการเรียนรูแ้ กนกลาง

ม.๑ ๑. เพิ่มพูนความสามารถของตน ตามหลักการ  หลกั การเพ่มิ พูนความสามารถในการเคล่ือนไหว

เคลื่อนไหวที่ใช้ทักษะกลไกและทักษะพื้นฐาน ที่ใช้ทักษะกลไกและทักษะพื้นฐานที่นำไปสู่การ

ทน่ี ำไปสูก่ ารพฒั นาทกั ษะการเล่นกฬี า พฒั นาทกั ษะการเล่นกฬี า

๒. เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและ  การเล่นกีฬาไทย และกีฬาสากลที่เลือก เช่น

ทีมโดยใช้ทักษะพื้นฐานตามชนดิ กีฬา อย่างละ ๑ กรีฑาประเภทลู่และลาน บาสเกตบอล กระบ่ี

ชนดิ เทเบิลเทนนสิ เทนนิส วา่ ยน้ำ

๓. ร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างน้อย ๑กิจกรรม  การนำความรู้และหลักการของกิจกรรม

และนำหลักความรู้ที่ได้ไปเช่ือมโยงสัมพันธ์กบั วิชา นันทนาการไปใช้เชื่อมโยงสมั พันธ์กับวิชาอ่ืน

อน่ื

ม.๒ ๑. นำผลการปฏิบัติตนเกี่ยวกับทักษะกลไกและ  การนำผลการปฏิบัติตนเกี่ยวกับทักษะกลไก

ทักษะการเคลื่อนไหวในการเล่นกีฬาจาก และทักษะการเคลื่อนไหวในการเล่นกีฬาจาก

แหล่งข้อมูลที่หลากหลายมาสรุปเป็นวิธีที่ แหล่งข้อมูลที่หลากหลายมาสรุปเป็นวิธีท่ี

เหมาะสมในบริบทของตนเอง เหมาะสมในบรบิ ทของตนเองในการเลน่ กีฬา

๒. เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากล ทั้งประเภทบุคคล  การเล่นกีฬาไทย กีฬาสากลตามชนิดกีฬาท่ี

และทีมไดอ้ ย่างละ ๑ ชนิด เลือก เช่น กรีฑาประเภทลู่และลาน บาสเกตบอล

กระบี่ เทนนิส ตระกร้อลอดบ่วง ฟุตซอล ว่ายน้ำ

เทควนั โด

๓. เปรียบเทียบประสิทธิภาพของรูปแบบการ  ประสทิ ธภิ าพของรปู แบบการเคลื่อนไหวทีส่ ง่ ผล

เคลื่อนไหวที่ส่งผลต่อการเล่นกีฬาและกิจกรรมใน ต่อการเล่นกฬี าและกิจกรรมในชวี ติ ประจำวัน

ชวี ิตประจำวนั

๔. ร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างนอ้ ย ๑ กิจกรรม  การนำประสบการณ์จากการร่วมกิจกรรม

และนำความรู้และหลักการที่ได้ไปปรับใช้ใน นันทนาการไปปรับใชใ้ นชีวิตประจำวัน

ชวี ิตประจำวนั อยา่ งเปน็ ระบบ

ม.๓ ๑. เลน่ กีฬาไทยและกีฬาสากล ได้อย่างละ ๑ ชนิด  เทคนิคและวิธกี ารเลน่ กฬี าไทยและกฬี าสากล

โดยใช้เทคนคิ ทเ่ี หมาะสมกับตนเองและทีม ท่เี ลือก เช่น กรีฑาประเภทลู่และลาน วอลเลย์บอล

บาสเกตบอล ดาบสองมือ เทนนิส ตะกร้อข้ามตา

ข่าย ฟตุ บอล

๒. นำหลักการ ความรู้และทักษะ ในการ  การนำหลักการ ความรู้ ทักษะในการ

เคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นกม และ เคลื่อนไหว กิจกรรมทางกาย การเล่นเกม การ

การเล่นกีฬาไปใช้สร้างเสริมสุขภาพอย่างต่อเนื่อง เล่นกีฬาไปใช้เป็นระบบสร้างเสริมสุขภาพอย่าง

เปน็ ระบบ ตอ่ เนอ่ื ง

๓. ร่วมกิจกรรมนันทนาการอย่างน้อย ๑  การจดั กิจกรรมนนั ทนาการแกผ่ ู้อ่นื

กิจกรรมและนำหลักความรู้วิธีการไปขยายผลการ

เรยี นรูใ้ หก้ บั ผ้อู ื่น

สาระท่ี ๓ การเคลือ่ นไหว การออกกำลังกาย การเล่นเกม กีฬาไทย และกีฬาสากล

มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำอย่าง

สม่ำเสมอ มีวินัย เคารพสิทธิ กฎ กติกา มีน้ำใจนักกีฬา มีจิตวิญญาณในการแข่งขัน และชื่นชมใน

สุนทรียภาพของการกฬี า

ชั้น ตวั ช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ม.๑ ๑. อธิบายความสำคัญของการออกกำลังกายและ  ความสำคัญของการออกกำลังกายและเล่น

เลน่ กฬี า จนเปน็ วถิ ชี วี ิตที่มสี ขุ ภาพดี กีฬา จนเปน็ วิถชี ีวิตท่ีมีสขุ ภาพดี

๒. ออกกำลังกายและเลือกเข้าร่วมเล่นกีฬาตาม  การออกกำลงั กาย เชน่ กายบริหาร
ความถนัด ความสนใจอย่างเต็มความสามารถ แบบตา่ งๆ เตน้ แอโรบิก โยคะ รำมวยจนี
พรอ้ มท้งั มกี ารประเมินการเลน่ ของตนและผู้อ่ืน  การเล่นกีฬาไทย และกีฬาสากลทัง้ ประเภท

บุคคลและทีม

 การประเมินการเล่นกีฬาของตนเองและ

ผู้อ่นื

๓. ปฏิบัติตามกฎ กติกา และข้อตกลงตามชนิด  กฎ กตกิ า การเล่นเกมและการแข่งขันกีฬาที่

กีฬาทเี่ ลือกเล่น เลือกเลน่

๔. วางแผนการรุกและการป้องกันในการเล่นกีฬาท่ี  รูปแบบ วิธีการรุกและป้องกันในการเล่น

เลือกและนำไปใช้ในการเล่นอย่างเปน็ ระบบ กีฬาท่เี ลอื ก

๕. ร่วมมือในการเล่นกีฬา และการทำงานเป็นทีม  การเล่น การแข่งขันกีฬา และการทำงาน

อย่างสนุกสนาน เป็นทีม

๖. วเิ คราะห์เปรียบเทียบและยอมรับความแตกต่าง  การยอมรับความสามารถและความแตกตา่ ง

ระหว่างวธิ กี ารเล่นกฬี าของตนเองกับผ้อู ืน่ ระหวา่ งบุคคลในการเล่นกฬี า

ม.๒ ๑. อธิบายสาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางกาย จิตใจ  สาเหตุการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกาย

อารมณ์ สังคมและสติปัญญา ที่เกิดจากการออก จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญา จากการ

กำลงั กาย และเล่นกีฬาเป็นประจำจนเป็นวถิ ชี ีวิต ออกกำลังกายและการเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอ

จนเปน็ วถิ ชี ีวติ

 การสร้างวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี โดยการออก

กำลังกายและเล่นกฬี าเป็นประจำ

๒. เลือกเข้ารว่ มกจิ กรรมการออกกำลงั กาย เลน่  การออกกำลังกายและการเล่นกีฬาไทย

กีฬาตามความถนัดและความสนใจพร้อมทั้ง กฬี าสากลทั้งประเภทบคุ คลและประเภททีม

วิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างบุคคล เพื่อเป็น  การวิเคราะห์ความแตกต่างระหว่างบุคคล

แนวทางในการพัฒนาตนเอง เพอื่ เปน็ แนวทางในการพฒั นาการร่วมกิจกรรม

การออกกำลังกายและเลน่ กีฬา

๓. มวี ินัย ปฏบิ ตั ิตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการ  วินัยในการฝึกและการเล่นกีฬาตามกฎ

เลน่ กีฬาทเ่ี ลือก กตกิ าและข้อตกลง

๔. วางแผนการรกุ และการป้องกันในการเล่นกีฬาที่  รูปแบบ กลวธิ กี ารรุก การปอ้ งกนั ในการเล่น

เลือกและนำไปใช้ ในการเลน่ อยา่ งเหมาะสมกับทีม กีฬาเปน็ ทีม

 ประโยชน์ของการเล่นและการทำงาน

เป็นทมี

 หลักการให้ความร่วมมือในการเล่น

การแข่งขนั กฬี าและการทำงานเปน็ ทีม

๕. นำผลการปฏิบัตใิ นการเล่นกีฬามาสรุปเปน็ วิธที ่ี  การพฒั นาวิธเี ล่นกฬี าทีเ่ หมาะสมกบั ตนเอง

เหมาะสมกบั ตนเองด้วยความมงุ่ มน่ั - การเลอื กวธิ เี ลน่

- การแก้ไขข้อบกพร่อง

- การเพิ่มทักษะ

 การสร้างแรงจูงใจและการสร้างความมุ่งมั่น

ในการเลน่ และแขง่ ขันกฬี า

ม.๓ ๑. มีมารยาทในการเล่นและดูกีฬาดว้ ยความมีน้ำใจ  มารยาทในการเล่นและการดูกีฬาด้วยความ

นกั กฬี า มนี ำ้ ใจนักกีฬา

๒. ออกกำลังกายและเล่นกีฬาอย่างสม่ำเสมอและ  การออกำลังกายและการเล่นกีฬาประเภท

นำแนวคิดหลักการจากการเล่นไปพัฒนาคุณภาพ บุคคล และประเภททมี

ชีวติ ของตนดว้ ยความภาคภมู ใิ จ  การนำประสบการณ์ แนวคิดจากการออก

กำลังกายและเล่นกีฬาไปประยุกต์ใช้ในการ

พฒั นาคุณภาพชีวิต

๓. ปฏิบัติตนตามกฎ กติกา และข้อตกลงในการ  กฎ กติกาและข้อตกลงในการเล่นกีฬาที่

เล่นตามชนิดกีฬาที่เลือกและนำแนวคิดที่ได้ไป เลอื กเลน่

พัฒนาคุณภาพชีวิต ของตนในสงั คม  การประยุกต์ประสบการณ์การปฏิบัติตาม

กฎ กติกา ข้อตกลงในการเล่นกีฬาไปใช้พัฒนา

คุณภาพชวี ิตของตนในสังคม

๔. จำแนกกลวิธีการรกุ การป้องกัน และใช้ในการ  วิธีการประยุกต์ใช้กลวิธีการรุกและการ

เล่นกฬี าที่เลอื กและตัดสนิ ใจเลือกวิธีทเี่ หมาะสมกับ ป้องกันในการเล่นกีฬาได้ตามสถานการณ์ของ

ทีมไปใช้ไดต้ ามสถานการณ์ของการเลน่ การเล่น

๕. เสนอผลการพัฒนาสุขภาพของตนเองท่ีเกิดจาก  การพัฒนาสุขภาพตนเองที่เกิดจากการออก

การออกกำลังกาย และการเล่นกีฬาเปน็ ประจำ กำลงั กายและการเลน่ กฬี าเปน็ ประจำ

สาระที่ ๔ การสร้างเสริมสุขภาพ สมรรถภาพและการปอ้ งกนั โรค

มาตรฐาน พ ๔.๑ เห็นคุณค่าและมีทกั ษะในการสรา้ งเสริมสขุ ภาพ การดำรงสขุ ภาพ การป้องกัน

โรคและการสรา้ งเสริมสมรรถภาพเพ่อื สุขภาพ

ช้ัน ตวั ช้ีวัด สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

ม.๑ ๑. เลอื กกนิ อาหารที่เหมาะสมกับวัย  หลักการเลอื กอาหารท่เี หมาะสมกับวยั

๒. วิเคราะห์ปญั หาทีเ่ กดิ จากการภาวะโภชนาการท่มี ี  ปัญหาท่ีเกดิ จากภาวะโภชนาการ

ผลกระทบตอ่ สุขภาพ - ภาวะการขาดสารอาหาร

- ภาวะโภชนาการเกิน

๓. ควบคุมน้ำหนักของตนเองให้อยู่ในเกณฑ์  เกณฑ์มาตรฐานการเจริญเติบโตของ

มาตรฐาน เด็กไทย

 วิธีการควบคุมน้ำหนักของตนเองให้อยู่ใน

เกณฑ์มาตรฐาน

๔. การสร้างเสริมและปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย  วธิ ีทดสอบสมรรถภาพทางกาย

ตามผลการทดสอบ  วิธสี ร้างเสรมิ และปรบั ปรงุ สมรรถภาพ

ทางกายตามผลการทดสอบ

ม.๒ ๑. เลอื กใช้บรกิ ารทางสขุ ภาพอย่างมีเหตผุ ล  การเลอื กใชบ้ ริการทางสขุ ภาพ

๒. วเิ คราะห์ผลของการใช้เทคโนโลยีที่มีตอ่ สขุ ภาพ  ผลกระทบของเทคโนโลยี ท่มี ีตอ่ สขุ ภาพ

๓. วเิ คราะหค์ วามเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ที่มีผล  ความเจริญก้าวหน้าทางการแพทย์ที่มีผล

ตอ่ สขุ ภาพ ตอ่ สุขภาพ

๔. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของภาวะสมดุลระหว่าง  ความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและ

สุขภาพกายและสขุ ภาพต สขุ ภาพจิต

๕. อธิบายลักษณะอาการเบื้องต้นของผู้มีปัญหา  ความสมดุลระหว่างสุขภาพกายและ

สุขภาพจติ สขุ ภาพจิต

๖. เสนอแนะวิธีปฏิบัติตนเพื่อจัดการกับอารมณ์และ  วิธีปฏิบัติตนเพื่อจัดการกับอารมณ์และ

ความเครียด ความเครียด

๗. พัฒนาสมรรถภาพทางกายตนเองให้เป็นไปตาม  เกณฑส์ มรรถภาพทางกาย

เกณฑท์ กี่ ำหนด  การพฒั นาสมรรถภาพทางกาย

ม.๓ ๑. กำหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกับวัยต่าง ๆ  การกำหนดรายการอาหารที่เหมาะสมกับ

โดยคำนงึ ถงึ ความประหยดั และคุณคา่ ทางโภชนาการ วัยต่าง ๆ

 วัยทารก วัยเด็ก (วัยก่อนเรียน วัยเรียน)

วัยรุ่น วยั ผู้ใหญ่ วัยสงู อายุ โดยคำนึงถึงความ

ประหยัดและคุณคา่ ทางโภชนาการ

๒. เสนอแนวทางป้องกันโรคที่เป็นสาเหตุสำคัญของ  โรคที่เป็นสาเหตุสำคัญของการเจ็บป่วย

การเจ็บปว่ ยและการตายของคนไทย และการตายของคนไทย

โรคติดต่อ เช่น

- โรคท่เี กดิ จากการมเี พศสัมพันธ์

- โรคเอดส์

- โรคไขห้ วดั นก ฯลฯ

โรคไม่ตดิ ต่อ เชน่

- โรคหัวใจ

- โรคความดนั โลหิตสูง

- เบาหวาน

- มะเรง็ ฯลฯ

๓. รวบรวมข้อมูลและเสนอแนวทาง แก้ไขปัญหา  ปญั หาสุขภาพในชุมชน

สขุ ภาพในชุมชน  แนวทางแก้ไขปัญหาสุขภาพในชุมชน

๔. วางแผนและจัดเวลาในการออกกำลังกาย  การวางแผนและจัดเวลาในการ

การพกั ผ่อนและการสร้างเสริมสมรรถภาพทางกาย ออกกำลังกาย การพักผ่อน และการสร้าง

เสริมสมรรถภาพทางกาย

๕. ทดสอบสมรรถภาพทางกาย และพฒั นาไดต้ ามความ  การทดสอบสมรรถภาพทางกายแบบต่างๆ

แตกต่างระหว่างบุคคล และการพัฒนาสมรรถภาพเพอ่ื สขุ ภาพ

สาระที่ ๕ ความปลอดภัยในชวี ติ

มาตรฐาน พ ๕.๑ ป้องกันและหลีกเลี่ยงปจั จัยเสย่ี ง พฤติกรรมเสีย่ งต่อสขุ ภาพ อบุ ตั เิ หตุ การใช้ยา

สารเสพติด และความรนุ แรง

ชัน้ ตัวช้ีวัด สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

ม.๑ ๑. แสดงวิธปี ฐมพยาบาลและเคล่ือนย้ายผู้ป่วยอย่าง  การปฐมพยาบาลและเคลื่อนย้ายผู้ป่วย

ปลอดภยั อย่างปลอดภัย

- เปน็ ลม - บาดแผล

- ไฟไหม้ - กระดูกหัก

- นำ้ ร้อนลวก ฯลฯ

๒. อธิบายลักษณะอาการของผู้ติดสารเสพติดและ  ลักษณะของผตู้ ดิ สารเสพติด

การปอ้ งกนั การตดิ สารเสพติด  อาการของผู้ติดสารเสพตดิ

 การป้องกันการตดิ สารเสพตดิ

๓. อธิบายความสัมพันธ์ของการใช้สารเสพติดกับ  ความสัมพันธ์ของการใชส้ ารเสพติดกับการ

การเกิดโรคและอุบัตเิ หตุ เกิดโรค และอุบตั ิเหตุ

๔. แสดงวิธกี ารชกั ชวนผู้อื่นให้ลด ละ เลิกสารเสพ  ทักษะที่ใช้ในการชักชวนผู้อื่นให้ลด ละ

ตดิ โดยใช้ทกั ษะตา่ ง ๆ เลกิ สารเสพติด

- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์

- ทักษะการสื่อสาร

- ทักษะการตดั สินใจ

- ทักษะการแกป้ ญั หา ฯลฯ

ม.๒ ๑. ระบุวิธีการ ปัจจัยและแหล่งที่ช่วยเหลือ ฟื้นฟูผู้  วธิ กี าร ปัจจยั และแหล่งท่ีชว่ ยเหลือ ฟ้นื ฟู

ติดสารเสพติด ผู้ตดิ สารเสพตดิ

๒. อธิบายวิธีการหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยงและ  การหลกี เลี่ยงพฤตกิ รรมเสี่ยงและ

สถานการณเ์ ส่ยี ง สถานการณ์เส่ยี ง

- การมั่วสุม

- การทะเลาะวิวาท

- การเข้าไปในแหลง่ อบายมุข

- การแข่งจักรยานยนตบ์ นทอ้ งถนน ฯลฯ

๓. ใช้ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเองและหลีกเลี่ยง  ทักษะชีวิตในการป้องกันตนเอง (ทักษะ

สถานการณ์คบั ขันที่อาจนำไปสู่อนั ตราย ปฏิเสธ ทักษะการต่อรอง ฯลฯ) และ

หลีกเลี่ยงสถานการณ์คับขันที่อาจนำไปสู่

อันตราย

ม.๓ ๑. วิเคราะห์ปัจจัยเสี่ยง และพฤติกรรมเสี่ยงที่มีผล  ปัจจยั เส่ียงและพฤติกรรมเสย่ี งต่อสุขภาพ

ต่อสขุ ภาพและแนวทางป้องกัน  แนวทางการปอ้ งกันความเสี่ยงตอ่ สุขภาพ

๒. หลีกเลยี่ งการใชค้ วามรุนแรงและชักชวนเพื่อนให้  ปัญหาและผลกระทบจากการใช้ความ

หลีกเลี่ยงการใช้ความรุนแรงในการแกป้ ัญหา รุนแรง

 วิธีหลีกเล่ยี งการใช้ความรนุ แรง

๓. วิเคราะห์อิทธิพลของสื่อต่อพฤติกรรมสุขภาพ  อิทธิพลของสื่อต่อพฤติกรรมสุขภาพและ

และความรนุ แรง ความรุนแรง ( คลิปวิดีโอ การทะเลาะวิวาท

อนิ เทอรเ์ น็ต เกม ฯลฯ )

๔. วิเคราะห์ความสัมพันธ์ของการดื่มเครื่องดื่มที่มี  ความสัมพันธ์ของการดื่มเครื่องดื่มที่มี

แอลกอฮอล์ต่อสขุ ภาพและการเกิดอบุ ตั เิ หตุ แอลกอฮอลต์ ่อสุขภาพและการเกิดอบุ ัติเหตุ

๕. แสดงวธิ กี ารช่วยฟืน้ คนื ชพี อย่างถกู วิธี  วธิ กี ารชว่ ยฟืน้ คนื ชีพ

ส่วนที่ ๒

โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศึกษา

ด้วยโรงเรียน………………….สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ เป็นโรงเรียนขนาดกลางเป็น
เรียนตั้งแต่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๑ ถึง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการ
เรียนรู้สขุ ศึกษาและพลศึกษา ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง
พ.ศ ๒๕๖๐) นั้น โรงเรียนได้ดำเนินการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐานโดยกำหนดรายระเอียด
ของโครงสร้างเวลาเรยี นหลักสตู รของโรงเรยี น…………………ไว้ดังน้ี

๑. โครงสรา้ งเวลาเรียนหลักสตู รโรงเรียน

๒. โครงสรา้ งหลักสตู รชน้ั ปี

โครงสร้างหลักสตู รโรงเรยี น.......... พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๓
ตามหลักสตู รแกนกลางการข้ันพ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบบั ปรับปรุง ๒๕๖๐)ดังนี้

๑.โครงสร้างเวลาเรยี นระดับมัธยมศกึ ษาศกึ ษาปที ่ี ๑-๓

กลุ่มสาระการเรยี นรู้/กจิ กรรม ม.๑ เวลาเรยี น ม.๓
เวลาเรียน หน่วย ม.๒ เวลาเรยี น หนว่ ย

กติ เวลาเรยี น หน่วย กิต
กติ

• กลุ่มสาระการเรยี นร้/ู กจิ กรรม

ภาษาไทย ๑๒๐ ๓ ๑๒๐ ๓ ๑๒๐ ๓

คณติ ศาสตร์ ๑๒๐+๘๐ ๓ ๑๒๐+๘๐ ๓ ๑๒๐+๘๐ ๓

วิทยาศาสตร์ ๑๒๐+๘๐ ๓ ๑๒๐+๘๐ ๓ ๑๒๐+๘๐ ๓
เทคโนโลยี ๔๐ ๔๐ ๔๐
สงั คม ศาสนา และวฒั นธรรม ๑๖๐ ๔ ๑๖๐ ๔ ๑๖๐ ๔
๔๐ ๑ ๔๐ ๑ ๔๐ ๑
- ประวตั ศิ าสตร์
- ศาสนา ศลี ธรรม จรยิ ธรรม ๑๒๐ ๓ ๑๒๐ ๓ ๑๒๐ ๓
และการดำเนนิ ชีวิตในสังคม
- เศรษศาสตร์ ๘๐ ๒ ๘๐ ๒ ๘๐ ๒
สขุ ศกึ ษาและพลศึกษา

ศลิ ปะ ๘๐ ๒ ๘๐ ๒ ๘๐ ๒

การงานอาชพี ๘๐ ๒ ๘๐ ๒ ๘๐ ๒

ภาษาตา่ งประเทศ ๑๒๐ ๓ ๑๒๐ ๓ ๑๒๐ ๓

เวลาเรียน (พ้นื ฐาน) ๘๘๐ ๒๒ ๘๘๐ ๒๒ ๘๘๐ ๒๒

• รายวิชาเพิม่ เติม ปลี ะไมน่ ้อยกว่า ๕ หนว่ ยกิต

• กจิ กรรมพฒั นาผ้เู รียน

กิจกรรมแนะแนว

กิจกรรมนักเรียน ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
ลูกเสือ-เนตรนารี
ชมุ นมุ ๑๒๐ ๑๒๐ ๑๒๐
กิจกรรมเพอ่ื สังคมและ ไมน่ อ้ ยกว่า ๑,๒๐๐ ชวั่ โมง
สาธารณประโยชน์

รวมเวลากจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
รวมเวลาท้ังหมด

โครงสรา้ งหลักสตู รสถานศกึ ษา ............................... ปพี ุทธศกั ราช ๒๕๖๔ (๒๕๖๔-๒๕๖๖)

ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พืน้ ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ฉบับปรุบปรุง ๒๕๖๐

ระดบั ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ ๒

ภาคเรยี นท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๒

น.ก ช. น.ก ช.

รหสั วชิ า รายวิชา . ม. รหัสวชิ า รายวชิ า . ม.

วิชาพน้ื ฐาน วชิ าพืน้ ฐาน

ท๒๒๑๐๑ ภาษาไทย ๑.๕ ๖๐ ท๒๒๑๐๒ ภาษาไทย ๑.๕ ๖๐

ค๒๒๑๐๑ คณติ ศาสตร์ ๓ ๑.๕ ๖๐ ค๒๒๑๐๒ คณิตศาสตร์ ๔ ๑.๕ ๖๐

ว๒๒๑๐๑ วทิ ยาศาสตร์ ๓ ๑.๕ ๖๐ ว๒๒๑๐๒ วทิ ยาศาสตร์ ๔ ๑.๕ ๖๐

ส๒๒๑๐๑ หน้าท่ีพลเมืองและ ๑.๐ ๔๐ ส๒๒๑๐๔ ภูมศิ าสตร์ ๑.๐ ๔๐

เศรษฐศาสตร์

ส๒๒๑๐๒ ศาสนาและวัฒนธรรม ๓ ๐.๕ ๒๐ ส๒๒๑๐๕ ศาสนาและวฒั นธรรม ๔ ๐.๕ ๒๐

ส๒๒๑๐๓ ประวัติศาสตร์ ๓ ๐.๕ ๒๐ ส๒๒๑๐๖ ประวตั ิศาสตร์ ๔ ๐.๕ ๒๐

พ๒๒๑๐๑ สขุ ศึกษา ๓ ๐.๕ ๒๐ พ๒๒๑๐๓ สุขศกึ ษา ๔ ๐.๕ ๒๐

พ๒๒๑๐๒ เทเบิลเทนนิส ๑ ๐.๕ ๒๐ พ๒๒๑๐๔ ตะกร้อ ๐.๕ ๒๐

ศ๒๒๑๐๑ ทศั นศลิ ป์ ๓ ๐.๕ ๒๐ ศ๒๒๑๐๓ ทัศนศลิ ป์ ๔ ๐.๕ ๒๐

ศ๒๒๑๐๒ ดนตรี นาฎศิลป์ ๓ ๐.๕ ๒๐ ศ๒๒๑๐๔ ดนตรี นาฎศลิ ป์ ๔ ๐.๕ ๒๐

ง๒๒๑๐๑ การงานอาชีพ ๓ ๐.๕ ๒๐ ง๒๒๑๐๒ การงานอาชีพ ๔ ๐.๕ ๒๐

ว๒๒๑๐๓ การออกแบบเทคโนโลยี ๐.๕ ๒๐ ว๒๒๑๐๔ วิทยาการคำนวณ ๒ ๐.๕ ๒๐

๒

อ๒๒๑๐๑ ภาษาองั กฤษ ๓ ๑.๕ ๖๐ อ๒๒๑๐๒ ภาษาองั กฤษ ๔ ๑.๕ ๖๐

รวมน้ำหนัก/ชั่วโมงต่อสัปดาห์ของ ๑๑. ๔๔ รวมนำ้ หนกั /ชั่วโมงต่อสัปดาห์ของ ๑๑. ๔๔

วิชาพ้นื ฐาน ๐ ๐ วิชาพื้นฐาน ๐๐

วิชาเพิ่มเติม วชิ าเพิม่ เติม

ส๒๒๒๓๓ หนา้ ทีพ่ ลเมือง ๓ ๐.๕ ๒๐ ส๒๒๒๓๔ หนา้ ที่พลเมือง ๔ ๐.๕ ๒๐

ง๒๒๒๖๑ อาหารและขนมไทย๓ ง๒๒๒๖๒ อาหารและขนมไทย๔

ง๒๒๒๗๑ งานประดิษฐ์๓ ง๒๒๒๗๒ งานประดิษฐ์๔

ว๒๒๒๐๑ คอมพวิ เตอร์๓ ๑.๐ ๔๐ ว๒๒๒๐๒ คอมพวิ เตอร์๔ ๑.๐ ๔๐

พ๒๒๒๙๑ ความเปน็ เลศิ ดา้ นกฬี า๓ พ๒๒๒๙๒ ความเปน็ เลิศดา้ นกฬี า๔

อ๒๒๒๐๓ ภาษาอังกฤษเพื่อการ อ๒๒๒๐๔ ภาษาอังกฤษเพื่อการ.

สอ่ื สาร๓ สอื่ สาร๔

อ๒๒๒๐๑ เสริมทักษะภาษาอังกฤษ อ๒๒๒๐๒ เสรมิ ทักษะภาษาองั กฤษ

๓ ๐.๕ ๒๐ ๔ ๐.๕ ๒๐

ว๒๒๒๐๓ โครงงานวิทยาศาสตร์ ว๒๒๒๐๔ โครงงานวทิ ยาศาสตร์

เบอ้ื งตน้ ๑ ๐.๕ ๒๐ เบอ้ื งต้น๒ ๐.๕ ๒๐

ท๒๒๒๐๑ ภาษาเพ่ือการส่ือสาร ๐.๕ ๒๐ ท๒๒๒๐๒ ภาษาสร้างสรรค์ ๐.๕ ๒๐

ส๒๒๒๐๓ การปอ้ งกันทจุ ริต ๑.๐ ๔๐ ง๒๒๒๐๑ การเลี้ยงสตั ว์ ๑.๐ ๔๐

รวมน้ำหนัก/ชั่วโมงต่อสปั ดาห์ของ ๑๖ รวมนำ้ หนกั /ชั่วโมงต่อสปั ดาหข์ อง ๑๖

วชิ าเพมิ่ เติม ๔.๐ ๐ วิชาเพม่ิ เติม ๔.๐ ๐

กิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน กจิ กรรมพฒั นาผเู้ รียน

- กิจกรรมแนะแนว ๒๐ - กิจกรรม..../ ชมุ นมุ ๒๐

กจิ กรรมนักเรียน (ลส. กจิ กรรมนักเรยี น (ลส.

- นน. ยว. บพ.) ๒๐ - นน. ยว. บพ.) ๒๐

กิจกรรมชุมนุมตามความ กจิ กรรมชมุ นุมตามความ

สนใจ ๒๐ สนใจ ๒๐

กจิ กรรมเพือ่ สังคมและ กิจกรรมเพอ่ื สังคมและ

- สาธารณะประโยชน์ (๙) - - สาธารณะประโยชน์ (๖) -

รวมชั่วโมงกิจกรรมพัฒนาผูเ้ รียน ๖๐ รวมช่ัวโมงกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี น ๖๐

รวมนำ้ หนัก/ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ ๑๕. ๖๐ รวมนำ้ หนัก/ช่ัวโมงต่อสปั ดาห์ ๑๕. ๖๐

ทงั้ หมด ๐๐ ท้งั หมด ๐๐

สว่ นท่ี ๓
คำอธบิ ายรายวิชา
ในส่วนของการจัดทำคำอธิบายรายวิชาของหลักสูตรสถานศึกษากลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ ๒๕๖๐) น้ัน
โรงเรียนได้ดำเนินการทุกรายวิชาของชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น โดยเขียนในลักษณะความเรียงระบุองค์ความรู้
ทักษะ/กระบวนการ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามธรรมชาติของวิชาเป็นการเขียนในภาพรวมที่ต้องการ
ใหเ้ กดิ กบั ผู้เรียนและสะท้อนตัวชีว้ ัดในรายวิชาพ้นื ฐานหรือผลการเรยี นรใู้ นรายวิชาเพ่มิ เติม คำอธบิ ายรายวิชา
จึงประกอบด้วยส่วนประกอบดังต่อไปนี้
- รหสั วชิ า
- ช่ือรายวิชา
- กลมุ่ สาระการเรียนรู้
- ชั้นปี
- จำนวนเวลาเรียน
- หน่วยกติ
สำหรับเนื้อหาส่วนที่ ๓ นี้ ยังได้จัดทำรายละเอียดของโครงสร้างรายวิชาพื้นฐานของแต่ละสาระการ
เรียนรู้ไว้ ประกอบด้วย
๑. โครงสรา้ งรายวชิ าและกำหนดการสอน
๒. คำอธบิ ายารายวิชา
๓. ผังมโนทัศนส์ าระการเรียนรู้

โครงสร้างรายวชิ าพ้ืนฐาน กลุม่ สาระการเรียนรสู้ ุขศกึ ษาและพลศกึ ษา

รายวิชาตามโครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียน..............................

กลมุ่ สาระการเรียนรสู้ ุขศึกษาและพลศึกษา

ระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น

รายวิชาพื้นฐาน

พ ๒๑๑๐๑ สุขศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๑๑๐๒ พลศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง

พ ๒๑๑๐๓ สขุ ศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๑๑๐๔ พลศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง

พ ๒๒๑๐๑ สขุ ศึกษา จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง

พ ๒๒๑๐๒ พลศึกษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๒๑๐๓ สุขศึกษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๒๑๐๔ พลศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง

พ ๒๓๑๐๑ สขุ ศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๓๑๐๒ พลศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๓๑๐๓ สขุ ศกึ ษา จำนวน ๒๐ ชวั่ โมง

พ ๒๓๑๐๔ พลศึกษา จำนวน ๒๐ ชว่ั โมง

โครงสร้างรายวชิ าเทเบิลเทนนิส

กลุ่มสาระการเรียนร้สู ุขศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชาเทเบิลเทนนสิ รหสั วิชา พ๑๑๐๑

ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๔

เวลา ๒๐ ช่ัวโมง จำนวน ๐.๕ หนว่ ยกติ อัตราส่วน ๗๐:๓๐

ครผู ูส้ อน นายสุรดิษ สายทรพั ย์

หนว่ ย หนว่ ยการเรียนรู้ มาตรฐานการ สาระการเรียนรู้ เวลา (๕๐ น้ำหนกั

ท่ี เรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั นาที) คะแนน

๑ ก า ร ป ฐ ม น ิ เ ท ศ / พ.๓.๑ ม.๑/๒ ๑. แนะนำตวั ผูส้ อน ๑ ๑๐

ความรู้ทั่วไปเกี่ยวกับ พ.๓.๒ ม.๑/๓ ๒. ระเบยี บข้อตกลงในชั้นเรยี น

กีฬาเทเบลิ เทนนสิ ๓. ประวัติและความเป็นมาของ

กฬี าเทเบิลเทนนสิ

๒ สมรรถภาพทางกาย พ.๓.๑ ม.๑/๑ การทดสอบสมรรถภาพ ๒-

พ.๔.๑ ม.๑/๔ ทักษะการบริหารรา่ งกาย

๓ การสร้างความคุ้นเคย พ.๓.๑ ม.๑/๑ การสร้างความคุน้ เคยกบั อปุ กรณ์ ๒ -

กบั อปุ กรณ์ พ.๓.๑ ม.๑/๒ - การยืน/การเคลือ่ นที่

พ.๓.๒ ม.๑/๓ - การจบั ไม้/การโยนลกู

๔ ทักษะการเล่นกฬี าเท พ.๓.๑ ม.๑/๑ ๑. การเดาะลกู เทเบลิ เทนนิส ๒ ๑๐

เบลิ เทนนิส พ.๓.๑ ม.๑/๒ -การเดาะลูกด้วยหน้ามือและ

พ.๓.๒ ม.๑/๓ หลังมอื
-การเดาะลูกสลับหน้ามือและ

หลงั มอื

๕ ทักษะการเล่นกีฬา พ.๓.๑ ม.๑/๑ ๑. ทักษะการตีลกู เทเบิลเทนนิส ๕ ๓๐

เทเบิลเทนนิส พ.๓.๑ ม.๑/๒ - การตีลูกโฟร์แฮนด์และแบ็ค

พ.๓.๒ ม.๑/๓ แฮนด์กระทบผาผนัง

๒. ทักษะการเสิร์ฟลูกเทเบิล

เทนนิส

- การเสิร์ฟด้วยโฟร์แฮนด์

และแบ็คแฮนด์

- การกำหนดช่องเสิร์ฟเพื่อ

บังคบั ทศิ ทางของลกู

๓. ทักษะการตบลกู เทเบิลเทนนิส

- การตบลูกด้วยหน้ามือและ

หลังมอื

๖ ทักษะการเล่นกีฬาเท พ.๓.๑ ม.๑/๑ ๑. ทักษะการตีบนโต๊ะเทเบิล ๓ ๑๐

เบลิ เทนนสิ พ.๓.๑ ม.๑/๒ เทนนิส ๓ ๑๐

พ.๓.๒ ม.๑/๓ - การตีลูกโฟร์แฮนด์และแบ็ค ๑ ๑๐
๑ ๒๐
พ.๓.๒ ม.๑/๔ แฮนด์โต้คู่ ๒๐ ๑๐๐

พ.๓.๒ ม.๑/๕ - การตีลูกโฟร์แฮนด์สลับแบ็ค คะแนน
๑๐
แฮนด์โตค้ ู่ ๑๐
๑๐
๗ การแข่งขันและการ พ.๓.๑ ม.๑/๑ ๑. รูปแบบ กติกาและมารยาท ๑๐
๑๐
ตดั สิน พ.๓.๑ ม.๑/๒ ในการแข่งขันกฬี าเทเบิลเทนนสิ ๑๐
๑๐
พ.๓.๒ ม.๑/๓ - ประเภทเดีย่ ว ๑๐
๒๐
พ.๓.๒ ม.๑/๓ - ประเภทคู่ ๑๐๐

พ.๓.๒ ม.๑/๕ ๒. การแข่งขันกีฬาเทเบิล

พ.๓.๒ ม.๑/๖ เทนนสิ

- ประเภทเดยี่ ว

- ประเภทคู่

สอบกลางภาค

สอบปลายภาค

รวม

เกณฑ์การวดั และการประเมินผล
คะแนนระหว่างภาคเรยี น รอ้ ยละ ๗๐
คะแนนสอบ ร้อยละ ๓๐

เกณฑก์ ารให้คะแนน

เกณฑ์การใหค้ ะแนน
๑. ประวัตแิ ละความเป็นมาของกีฬาเทเบลิ เทนนสิ
๒. การเดาะลูกหน้ามอื และหลังมือ
๓. การตโี ต้กระทบฝาผนงั
๔. ทักษะในการเสริ ์ฟลกู เทเบิลเทนนิสดว้ ยหน้ามอื และหลังมือ
๕. ทักษะการตบลกู เทเบิลเทนนิสหนา้ มือและหลงั มือ
๖. ทักษะในการตีโตค้ ลู่ กู เทเบิลเทนนิสหนา้ มือและหลงั มอื
๗. การแขง่ ขนั

สอบกลางภาค
สอบปลายภาค

รวม

การประเมนิ ผล

หลกั การประเมนิ ผลการศึกษา ใช้วธิ ีองิ เกณฑ์ ดังนี้

ชว่ งคะแนนร้อยละ ระดบั ผลการเรียน แปลผล
ดีเยี่ยม
๗๐-๑๐๐ ๔ ดีมาก

๗๕-๗๙ ๓.๕ ดี
คอ่ นข้างดี
๗๐-๗๔ ๓ ปานกลาง

๖๕-๖๙ ๒.๕ พอใช้
ผ่านเกณฑ์ขั้นตำ่
๖๐-๖๔ ๒ ตำ่ กวา่ เกณฑ์

๕๕-๕๙ ๑.๕

๕๐-๕๔ ๑

๐-๔๙ ๐

ลงชื่อ ผูส้ อน ลงช่อื ผตู้ รวจ
(………………………………………….) (………………………………………….)
วนั ที่……/………/……… วันท่ี……/………/………

ผงั มโนทศั น์สาระการเรยี นรู้
กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ุขศึกษาและพลศกึ ษา ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๒

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ๔
เรื่องทกั ษะการเลน่ กีฬาเทเบลิ เทนนิส

๑.การเดาะลกู ดว้ ยหน้ามอื

เรื่องทักษะการเล่นกฬี าเทเบิลเทนนิส

๒.การเดาะลูกดว้ ยหลงั มือ

คำอธบิ ายรายวิชาพื้นฐาน กลุม่ สาระการเรยี นรสู้ ขุ ศกึ ษาและพลศึกษา
พ ๒๑๑๐๑ เทเบิลเทนนิส เวลา ๒๐ ช่วั โมง จำนวน ๐.๕ หน่วยกิต
ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี ๑ ภาคเรยี นท่ี ๑

ศึกษา วเิ คราะห์ ฝึกทักษะการเคลื่อนไหวแบบต่าง ๆ อย่างสรา้ งสรรค์ ปฏบิ ัติตาม กฎกติกา ฝึกทักษะ
การเล่นพื้นฐาน การเล่นลูกหน้ามือการเล่นลูกหลังมือ การเสิร์ฟ การแข่งขัน การเป็นฝ่ายรุกและฝ่ายรับ
มีน้ำใจนักกีฬา มีสุนทรียภาพของการในการร่วมเล่นกีฬา ออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ เพื่อการสร้าง
เสริมวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี วางแผนและพัฒนากลวิธีป้องกันการบาดเจ็บเพื่อความปลอดภัยในการเล่นกีฬา
เทเบลิ เทนนิส และปฐมพยาบาลการบาดเจ็บเบ้ืองต้นได้

โดยใช้กระบวนการฝึกทักษะพื้นฐาน หลักการ เทคนิคและแบบฝึกการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิส
กฎกตกิ า แบบทดสอบเพ่อื ใหม้ คี วามร้คู วามเข้าใจ

เพื่อให้นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจและตระหนักถึงความสำคัญของการฝึกทักษะการเล่นเทเบิล
เทนนิส อย่างสร้างสรรค์และนำหลักการทางวิทยาศาสตร์การเคลื่อนไหวมาประยุกต์ใช้ในการเล่นกีฬาเทเบิล
เทนนิสอย่างมีประสิทธิภาพ มีทักษะในการป้องกันและปฐมพยาบาลผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาเทเบิล
เทนนิส

รหัสตวั ชีว้ ดั
พ๓.๑ ม๑/๑ พ๓.๑ ม.๑/๒ พ๓.๑ ม.๑/๓
พ๓.๒ ม.๑/๓ พ๓.๒ ม.๑/๔ พ๓.๒ ม.๑/๕ พ๓.๒ ม.๑/๖
พ๔.๒ ม.๑/๔

รวม ๘ ตวั ช้วี ดั

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี ๖

กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ขุ ศึกษาและพลศกึ ษา รายวิชาเทเบลิ เทนนสิ พ๒๑๑๐๒ คาบท่ี ๖

ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๑ หน่วยการเรียนที่ ๔ เรื่อง การเดาะลูกเทเบิลเทนนสิ เวลา ๕๐ นาที

ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๔ ครูผู้สอน นายธนศักด์ิ สทิ ธศิ ร

๑. สาระที่ ๓ การเคลอื่ นไหว การออกกำลงั กาย การเลน่ เกม กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาตรฐาน พ ๓.๑ เข้าใจ มที ักษะในการเคลือ่ นไหว กจิ กรรมทางกาย การเลน่ เกม และกฬี า
ตัวช้ีวัด ๑ เพิ่มพูนความสามารถของตน ตามหลักการเคลื่อนไหวที่ใช้ทักษะกลไกและทักษะพื้นฐาน

ทน่ี ำไปสูก่ ารพฒั นาทักษะการเลน่ กฬี า
๒. เล่นกีฬาไทยและกีฬาสากลประเภทบุคคลและทีมโดยใช้ทักษะพื้นฐานตามชนิดกีฬา

อยา่ งละ ๑ ชนดิ

มาตรฐาน พ ๓.๒ รักการออกกำลังกาย การเล่นเกม และการเล่นกีฬา ปฏิบัติเป็นประจำ
อย่างสม่ำเสมอ มวี ินยั เคารพสทิ ธิ กฎ กติกา มนี ้ำใจนักกีฬา มีจติ วญิ ญาณในการแข่งขนั และชื่นชมสุนทรียภาพ
ของการกีฬา

ตัวช้วี ดั ๓. มวี นิ ยั ปฏบิ ัติตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นกีฬาท่ีเลอื ก

๒. สาระการเรยี นรู้
การเดาะลูกเทเบลิ เทนนสิ ดว้ ยหนา้ มอื และหลงั มือ

๓. สาระสำคัญ
การเดาะลูกด้วยหน้ามือและหลังมือเริ่มจากการจับไม้แบบที่ถนัดในระดับอก จากนั้นให้นำลูกเทเบิล

เทนนิสมาเดาะให้อยู่ในระดับสายตา โดยให้สายตามองที่ลูกเทเบิลเทนนิสประคองลูกเทเบิลเทนนิสให้อยู่ที่ไม้
เทเบิลเทนนสิ ให้ไดน้ านท่สี ุด

๔. สมรรถนะของผเู้ รยี น
✓ ความสามารถในการส่ือสาร
✓ ความสามารถในการคิด
✓ ความสามารถในการแก้ปญั หา
✓ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

๕. ทกั ษะผเู้ รียนในศตวรรษที่ ๒๑
✓ ทกั ษะดา้ นการอ่าน
✓ ทักษะดา้ นการคิดอยา่ งมวี จิ ารณญาณและทักษะในการแกป้ ัญหา
✓ ทกั ษะด้านความร่วมมอื การทำงานเปน็ ทมี และภาวะผู้นำ
✓ มคี วามเมตตากรณุ า มีคุณธรรม และมรี ะเบียบวนิ ยั

๖. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
๖.๑ ความรู้ (K)
นักเรียนมีความรู้ความเข้าใจในทักษะการเดาะลูกเทเบิลเทนนิสหน้ามือและหลังมือ

ทา่ เตรยี มพรอ้ มในการเดาะลูกเทเบิลเทนนิส รวมถงึ การควบคุมไม้เทเบิลเทนนิส
๖.๒ ทักษะทีส่ ำคัญ (P)
นักเรียนสามารถปฏิบัติทักษะการเดาะลูกเทเบิลเทนิสได้อย่างถูกต้อง และควบคุมหน้าไม้ได้

อยา่ งแม่นยำ
๖.๓ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ (A)
๑. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูน้ ำและผตู้ ามที่ดี
๒. มสี ว่ นรว่ มในการทำงานกลุ่ม
๓. มคี วามอดทน
๔. มีความซือ่ สัตย์
๕. มคี วามพอใจในการปฏิบตั ิกิจกรรม
๖.๔ ดา้ นเจตคติ : นักเรยี นสามารถ
๑. เขา้ เรียนตรงเวลา
๒. แตง่ กายถกู ระเบียบ
๓. ตง้ั ใจและปฏบิ ตั ิตามหลกั การฝึก
๔.กระตอื รือร้นในการเรียน
๕.มคี วามเต็มใจในการเรยี น

๗. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขัน้ นำเข้าเขา้ สบู่ ทเรียน (๕ นาที)
๑. ใหน้ ักเรยี นเขา้ แถวตอนลกึ ๕ แถว เรียงตามเลขท่ี แถวละเทา่ ๆ กนั
☻






หมายเหตุ: สญั ลกั ษณ์ ☻ แทนครู แทน นักเรียน

๒.ครูสำรวจนักเรยี นในแตล่ ะแถวและการแตง่ กายพร้อมท้ังสุขภาพของนักเรียน (ถา้ มีนกั เรียนที่ป่วย
หรือไม่สบาย ให้แยกออกมาพัก)

๓.ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกันสนทนา แจง้ ข้อตกลงในการเรยี นการสอน แนวทางในการทำกิจกรรมในการ
เรยี นรายวชิ าเทเบลิ เทนนิส เปิดโอกาสให้นกั เรียนไดแ้ สดงความคดิ เห็น ถามข้อสงสยั

๔. ครูให้นักเรียนจัดแถวเปน็ วงกลมเพื่อทำการยืดเหยียดกล้ามเนื้อและอบอุ่นร่างกาย โดยให้ตัวแทน
นักเรียนเป็นคนนำในการยดื

☺

☺ = ครู
E = ตวั แทนนำยืด
E = นักเรยี น

ขนั้ อธบิ ายและสาธติ (๑๐ นาที)
๑. ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลุ่มผเู้ รยี น ๕ กล่มุ กลุ่มละเทา่ ๆกันคละชาย-หญงิ

☻






หมายเหตุ: สัญลักษณ์ ☻ แทนครู แทนนักเรยี น

๒. ครสู าธติ และอภปิ รายรว่ มกับนกั เรียนเรื่องการเดาะลูกเทเบิลเทนนิสด้วยหนา้ มือและหลงั มือ
๓. เมื่อเสรจ็ สน้ิ การอภปิ รายและสาธิตครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซกั ถามเน้อื หาทส่ี งสยั
๔. ครใู หน้ ักเรียนฝกึ ปฏิบัติทกั ษะการเดาะลูกเทเบิลเทนนิสดว้ ยหน้ามือและหลงั มอื

แบบฝึกการเดาะลูกปิงปองด้วยหนา้ มือและหลงั มอื

แบบฝึกที่ ๑
๑. ให้นักเรียนปฏิบัติตามสัญญาณนกหวีด โดยการเป่านกหวีด ๑ ครั้ง ให้นักเรียนเดาะลูกสูงระดับ
ศีรษะ ๑ คร้ัง แล้วใช้มอื จบั ลกู หา้ มใหล้ ูกตกลงสู่พื้น ทำแบบนเ้ี รือ่ ย ๆ จนกว่านักเรยี นทุกคนจะเดาะลูกเทเบิล
เทนนิสได้ ๓ ครัง้ โดยลกู ไมต่ กพื้นท้ังหน้ามือและหลงั มอื
๒. ใหน้ กั เรียนเดาะตดิ ตอ่ กนั ๕ คร้ัง โดยไมใ่ ห้ลกู เทเบลิ เทนนสิ ตกพ้นื
๓. ให้นักเรียนเดาะลูกเทเบิลเทนนิสแบบเคลื่อนที่ไปรอบ ๆ โดยการบังคับทิศทางของลูกเทเบิล
เทนนสิ

แบบฝกึ ที่ ๒
๑. ใหน้ กั เรียนจบั คู่กับเพ่ือน จากน้ันเดาะลูก ๓ คร้งั แลว้ สง่ ใหเ้ พอ่ื นเดาะ สลบั กัน ๓ ครง้ั
๒. ให้นักเรยี นจับคกู่ ับเพอื่ น จากนนั้ เดาะลกู ๒ ครั้งแล้วสง่ ใหเ้ พอ่ื นเดาะ สลบั กัน ๓ คร้ัง
๓. ให้นักเรียนจับคกู่ ับเพอ่ื น จากน้ันเดาะลกู ๑ ครั้งแลว้ สง่ ใหเ้ พือ่ นเดาะ สลบั กนั ๓ คร้ัง
ขั้นฝึกปฏบิ ตั ิ
๑. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น ๔ กลุ่มเพื่อฝึกทักษะการเดาะลูกเทเบิลเทนนิสด้วยหน้ามือและ
หลงั มือ(แบบฝึกท่๑ี )

O
xxxxx xxxxx
xxxxx xxxxx

สัญลักษณ์
O = ครู
X = นักเรียน

๒. ให้นักเรยี นจับคู่กัน เพ่ือฝึกทกั ษะการเดาะลูกเทเบลิ เทนนิสด้วยหนา้ มือและหลงั มอื (แบบฝึกท๒ี่ )

XX XX

XX X X สัญลกั ษณ์

X X O X X O = ครู

XX X X X = นกั เรียน

XX XX = ทิศทางการเคลือ่ นที่ลกู ปิงปอง

ข้นั นำไปใช้

โมราเรยี กช่ือ

วธิ กี ารเลน่

ใหน้ กั เรียน ๘-๑๐ คน ยนื อยู่ในพ้ืนทท่ี ่ีกำหนด ให้นักเรียน ๑ คน ใชไ้ ม้ตีลูกเทเบิลเทนนสิ ด้วย หน้ามือ

ใหส้ ูงกว่าศีรษะ พรอ้ มเรียกช่ือเพือ่ นคนใดคนหนึ่ง เพื่อนคนท่ีถูกเรียกชื่อต้องรีบวงิ่ เข้ามาตลี กู เทเบิลเทนนิสด้วย

หน้ามือโดยต้องให้ลูกเทเบิลเทนนิสกระดอนตกพื้นก่อน ๑ ครั้ง แล้วจึงเข้ามาตีเมื่อตีลูกเทเบิลเทนนิสได้แล้ว

ก็ให้ปฏิบัติ ในลักษณะเดียวกับเพื่อนคนที่ ๑ โดยทำต่อไปเรื่อย ๆ ภายในเวลา ๒ นาที กติกาห้ามตีออกนอก

เขตพ้นื ทท่ี ก่ี ำหนดและการเขา้ มารับลกู ต้องไม่ให้ลูกกระดอนตกพื้นเกนิ ๑ ครั้ง เมอ่ื หมดเวลาแล้วนักเรียนที่ทำ

ผดิ กติกาจะรับหน้าท่เี ก็บอุปกรณ์

สรุปเกม
IQ ดา้ นความรู้ความเข้าใจ
นักเรียนมกี ารทำงานประสานกันระหว่าระบบประสาทกบั ระบบกลา้ มเนื้อ
SQ ทกั ษะการเคลอ่ื นไหว
นกั เรียนมีความคล่องแคล่วว่องไวและความสมดลุ ของรา่ งกาย
PQ ด้านสมรรถภาพทางกาย
นักเรยี นมีความแขง็ แรง มีประสาทสมั ผัสทด่ี ี
MQ ด้านคุณธรรมจรยิ ธรรม
นกั เรียนเคารพ กฎ กตกิ า มีนำ้ ใจนกั กีฬา
AQ ด้านเจตคติ
นกั เรียนแสดงออกในการเล่นเกมอย่างเต็มท่ี ให้ความสนใจเปน็ อยา่ งดี

ขนั้ สรปุ
1. ครูพูดสรุปความรู้ความเข้าใจในทักษะการเดาะลูกเทเบิลเทนนิสหน้ามือและหลังมือ
ทา่ เตรยี มพรอ้ มในการเดาะลูกเทเบิลเทนนสิ รวมถึงการควบคมุ ไมเ้ ทเบิลเทนนสิ
2. ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นถามในเร่ืองทส่ี งสยั ในการเรยี นวชิ าน้ี
3. ครูแจง้ เก่ยี วกบั การสอนในช่วั โมงต่อไป
4. ตรวจสอบความเรยี บรอ้ ย เครื่องแบบการแต่งกายของนกั เรยี น
5. จัดระเบียบแถวพร้อมปลอ่ ยแถว

ภาระงาน/ ชน้ิ งาน
ครใู หน้ ักเรียนศึกษาเพม่ิ เตมิ เกี่ยวกับความร้คู วามเข้าใจในทักษะการเดาะลูกเทเบลิ เทนนสิ หน้ามือและ

หลังมือ ท่าเตรียมพร้อมในการเดาะลูกเทเบิลเทนนิส รวมถึงการควบคุมไม้เทเบิลเทนนิส ใน QR CODE ท่ีครู
ครสู ร้างไวห้ รอื เวบ็ ไซต์ท่ีครูแนะนำ
ส่ือการเรียนรู้

๑ นกหวดี
๒ ลกู เทเบิลเทนนิส
๓ ไม้เทเบิลเทนนิส
๓ กรวย
แหล่งการเรยี นรู้
๑ หอ้ งเรียน
๒ อาคารอเนกประสงค์
๓ QR CODE การเดาะลูกเทเบิลเทนนิสหน้ามือ

(ท่ีมา:YouTube.Wissakorn Channel )

๔ QR CODE การเดาะลูกเทเบิลเทนนิสหลังมือ

(ที่มา:YouTube.Wissakorn Channel )

การวดั และประเมนิ ผล

9. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

รายการ วธิ ีวดั และประเมินผล เครอ่ื งมอื เกณฑก์ ารผ่าน

1. ความรู้และการ - การประเมินผลการปฏบิ ตั ิ แบบประเมินผลด้านความรู้ ต้องผ่านระดบั

ปฏบิ ัตทิ ักษะ ทักษะ และการปฏบิ ัติทักษะ 2 ขึ้นไป

2. คุณลักษณะท่ีพงึ - การสังเกตพฤตกิ รรม แบบสงั เกตพฤติกรรมลักษณะ ต้องผ่านระดับ

ประสงค์ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ อันพึงประสงค์ 2 ขึ้นไป

3. เจตคติ - การสังเกตพุ ฤติกรรมดา้ น แบบสงั เกตุพฤติกรรมดา้ นเจต ตอ้ งผ่านระดับ

เจตคติ คติ 3 ขึ้นไป

๑ ท่ี ชื่อ-สกุล
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑
๒๒

ผา่ น เขา้ เรียนตรงเวาลา แบบสงั เกตพฤติกรรมดา้ นเจตคติ
ไม่ผา่ น รายการ

ผา่ น แต่งกายถกู ระเบยี บ
ไมผ่ า่ น

ผา่ น ตงั้ ใจปฏบิ ตั ติ ามหลกั การฝกึ
ไม่ผา่ น

ผ่าน กระตือรอื ร้นในการเรียน
ไมผ่ า่ น

ผ่าน มคี วามเตม็ ใจในการเรยี น
ไม่ผ่าน

รวมผ่านเกณฑ์

คะแนน

ระดบั คุณภาพ

๒๓
๒๔
๒๕
๒๖
๒๗
๒๘
๒๙
๓๐

รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน ระดบั คุณภาพ ความหมาย
๑. เข้าเรียนตรงเวาลา เกณฑ์การประเมิน คะแนน ๕ ดีมาก
๒. แตง่ กายถูกระเบียบ ปฏิบัตไิ ด้ ๕ ขอ้ ๙-๑๐ ๔ ดี
๓. ต้งั ใจปฏิบตั ติ ามหลกั การฝึก ปฏบิ ัติได้ ๔ ข้อ ๗-๘ ๓
๔. กระตอื รือรน้ ในการเรียน ปฏบิ ตั ไิ ด้ ๓ ขอ้ ๕-๖ ๒ ปานกลาง
๕. มคี วามเต็มใจในการเรยี น ปฏิบัตไิ ด้ ๒ ขอ้ ๓-๔ ๑ พอใช้
ปฏิบตั ไิ ด้ ๑ ข้อ ๐-๒ ปรบั ปรงุ

หมายเหตู ได้ต้งั แตร่ ะดบั คุณภาพ ๓ ขึน้ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์

๑ ท่ี ชื่อ-สกุล
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑

ผา่ น ปฏบิ ตั ติ นเป็นผ้นู ำและผตู้ ามท่ีดี แบบสงั เกตพฤตกิ รรมด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
ไม่ผา่ น

ผา่ น ส่วนรว่ มในการทำงานกลุม่
ไมผ่ า่ น

ผา่ น มีความอดทน รายการ
ไม่ผา่ น

ผ่าน มคี วามซื่อสัตย์
ไมผ่ า่ น

ผ่าน มีความพอใจในการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
ไม่ผ่าน

รวมผ่านเกณฑ์

คะแนน

ระดบั คุณภาพ

๒๒
๒๓
๒๔
๒๕
๒๖
๒๗
๒๘
๒๙
๓๐

รายการประเมิน เกณฑ์การประเมนิ คะแนน ระดบั คุณภาพ ความหมาย
๑. ปฏิบตั ิตนเปน็ ผ้นู ำและผู้ตามทดี่ ี ปฏิบตั ไิ ด้ ๕ ขอ้ ๑๙-๒๐ ๕ ดีมาก
๒. สว่ นรว่ มในการทำงานกลุ่ม ปฏิบัติได้ ๔ ขอ้ ๑๖-๑๘ ๔ ดี
๓. มีความอดทน ปฏบิ ัติได้ ๓ ข้อ ๑๓-๑๕ ๓
๔. มีความซือ่ สตั ย์ ปฏบิ ตั ิได้ ๒ ขอ้ ๑๐-๑๒ ๒ ปานกลาง
๕. ความพอใจในการปฏิบตั กิ ิจกรรม ปฏบิ ตั ิได้ ๑ ข้อ ๐-๙ ๑ พอใช้
ปรับปรงุ

หมายเหตู ได้ต้งั แต่ระดบั คุณภาพ ๒ ข้ึนไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์

๑ ท่ี ชื่อ-สกุล
๒
๓
๔
๕
๖
๗
๘
๙
๑๐
๑๑
๑๒
๑๓
๑๔
๑๕
๑๖
๑๗
๑๘
๑๙
๒๐
๒๑

ผา่ น อธบิ ายขน้ั ตอนในการเดาะลูกเท รายการ แบบประเมนิ ผลด้านความรูแ้ ละการปฏบิ ัตทิ กั ษะ
ไม่ผา่ น เบิลเทนนิส
ผา่ น การควบคุมหนา้ ไมเ้ ทเบิลเทนนิส
ไมผ่ า่ น
ผา่ น ลักษณะท่าทางในการเดาะลูกเท
ไม่ผา่ น เบิลเทนนิส
ผ่าน ความตอ่ เนื่องในการเดาะลูกเทเบลิ
ไมผ่ า่ น เทนนสิ ขณะเคล่ือนที่
ผ่าน ปฏบิ ตั ิทักษะการเดาะลูกเทเบิล
ไม่ผ่าน เทนนสิ หนา้ มือและหลงั มือถูกต้อง
รวมผ่านเกณฑ์
คะแนน
ระดบั คุณภาพ

๒๒
๒๓
๒๔
๒๕
๒๖
๒๗
๒๘
๒๙
๓๐

รายการประเมิน เกณฑก์ ารประเมิน ระดับคุณภาพ ความหมาย
๑. อธบิ ายข้ันตอนในการเดาะลกู เทเบลิ เกณฑ์การประเมิน คะแนน ๕ ดมี าก
เทนนิส ปฏิบตั ิได้ ๕ ขอ้ ๓๕-๔๐
๒. การควบคุมหน้าไมเ้ ทเบลิ เทนนสิ ๔ ดี
๓. ลักษณะทา่ ทางในการเดาะลกู เทเบลิ ปฏบิ ตั ิได้ ๔ ข้อ ๓๑-๓๔ ๓ ปานกลาง
เทนนสิ ปฏบิ ัติได้ ๓ ข้อ ๒๖-๓๐
๔. ความต่อเน่ืองในการเดาะลูกเทเบิล ๒ พอใช้
เทนนสิ ขณะเคลื่อนท่ี ปฏิบตั ไิ ด้ ๒ ขอ้ ๒๐-๒๕
๕. ปฏิบัติทกั ษะการเดาะลูกเทเบิล ๑ ปรบั ปรุง
เทนนสิ หน้ามอื และหลังมือถูกตอ้ ง ปฏบิ ัตไิ ด้ ๑ ข้อ ๐-๑๙

หมายเหตู ได้ตงั้ แต่ระดับคณุ ภาพ ๒ ขึน้ ไปถือว่าผา่ นเกณฑ์

บันทึกหลังการสอน
ดา้ นความรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ด้านทกั ษะ/กระบวนการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์(ประจำแผนการจดั การเรยี นรู้)
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………...........
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ปัญหาอุปสรรค/ข้อเสนอแนะอ่นื ๆ
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………........
..............................................................................................................................................................................
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………

ลงช่ือ…………………………ผู้สอน
(นายสุรดษิ สายทรัพย์)
……./……./…….

ความคดิ เหน็ หัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชือ่ …………………………หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรียนรู้
(….…………...………………………………….)
……../……./……

ความคดิ เหน็ หัวหน้าฝ่ายวชิ าการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….................................................................................................
..............................................................................................................................................................................

ลงชอื่ …………………………หัวหน้าฝ่ายวชิ าการ
(………………………………………..)
……../……./…….

ความคิดเห็นผู้อำนวยการ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………….................................................................................................
................................................................................................................................................................... ...........

ลงชอ่ื …………………………ผู้อำนวยการ
(……………………………………..)
……./……./………