The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

Hamburger Crisis

Hamburger Crisis

วิกวิฤตการ์แฮมเบอร์เกอร์ ECONOMIC CRISIS IN THE UNITED STATES IT BEGAN IN MID 2007 AND BECAME MORE SEVERE IN 2008. Crisis


วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ วิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ค.ศ. 2008 หรือ วิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์เกิดขึ้นในประเทศ สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2008 หลังจากที่ เลห์แมน บราเธอร์ส วานิชธนกิจอับดับ 4 ของสหรัฐอเมริกาและของโลกประกาศล้มละลายได้เพียง 2 วัน ต่อมาธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาต้องเข้าไปแก้ไขด้วยการปล่อยกู้อย่างเร่งด่วนให้กับ บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชั่นแนลกรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทประกันรายใหญ่ที่สุดของโลก ปัญหาก่อให้เกิดความผันผวนในตลาดการเงินทั่วโลกอย่างรุนแรงและฉับพลัน ทั้งดัชนี ตลาดหุ้น สภาพคล่องการเงินของโลก อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา และราคาสินค้า ผลก ระทบเหล่านี้ทำ ให้เกิดความหวาดวิตกว่าโลกกำ ลังจะก้าวไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำ ครั้งใหญ่ และร้ายแรง เสมือนเป็นสึนามิการเงินโลกที่เลวร้ายที่สุดในรอบศตวรรษ


สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ ในช่วงตั้งแต่ ปี 2001 เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาอยู่ใน ภาวะถดถอย รัฐบาลจึงมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจโดยการ ลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ เพื่อให้มีการใช้จ่ายและการลงทุน เพิ่มขึ้น ผลทำ ให้ประชาชนบางกลุ่มกู้เงินไปเพื่อซื้อ อสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำ ไร เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยลดลงต่ำ มาก จึงส่งผลให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวสูงขึ้น ยิ่งกระตุ้น ให้ประชาชนกู้เงินมาเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำ ไร มากยิ่งขึ้นผลทำ ให้ราคาอสังหาริมทรัพย์สูงมากขึ้นเกินความ เป็นจริงจนในที่สุดเกิดภาวะฟองสบู่ในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และในช่วงเดียวกันนั้นเกิดวิกฤตการณ์ราคาน้ำ มันสูงขึ้น เกิดภาวะเงินเฟ้อ รัฐบาลจึงแก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยปรับอัตรา ดอกเบี้ยสูงขึ้น ส่งผลให้อุปสงค์ของอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่าง มากและทำ ให้ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงอย่างรวดเร็วหรือฟอง สบู่แตก ผลทำ ให้ผู้ที่กู้เงินมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำ ไร ไม่สามารถคืนเงินกู้ได้จึงเกิดหนี้เสียเป็นจำ นวนมากและส่งผล ให้สถาบันการเงินขาดสภาพคล่องซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินเชื่อ อสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ หรือเป็นสินเชื่อซับไพรม์ 1. การใช้นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา


สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ สินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ หรือซับไพรม์ (SUBPRIME) เป็นสินเชื่อประเภทหนึ่งที่สถาบันการเงิน ปล่อยเงินกู้แก่ลูกค้าที่มีทรัพย์สินค้ำ ประกันมูลค่าน้อยกว่า เงินกู้หรือเป็นลูกค้าที่มีประวัติการเงินไม่ดี มีแนวโน้ม ผิดนัดชำ ระหนี้หรือมีความเสี่ยงสูง แต่สามารถคิดอัตรา ดอกเบี้ยได้สูงกว่าปกติ ทำ ให้สถาบันการเงินที่ต้องการทำ กำ ไรมากๆปล่อยสินเชื่อประเภทซับไพรม์ ผลของนโยบากระตุ้นเศรษฐกิจ ยิ่งทำ ให้ปล่อยเงินกู้ได้ง่าย ขึ้น ผลปรากฎว่าสินเชื่อส่วนใหญ่เป็นประเภทซับไพรม์ เป็นจำ นวนมาก ดังนั้นเมื่อเกิดภาวะเงินเฟ้อ การใช้ นโยบายเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อแก้ไขปัญหาเงินเฟ้อ จึงส่ง ผลกระทบกับผู้ที่กู้เงินมาซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อเก็งกำ ไร ขณะที่ราคาอสังหาริมทรัพย์ลดลงเรื่อยๆทำ ให้ไม่สามารถ ชำ ระดอกเบี้ยและคืนเงินกู้ได้ ผลสุดท้ายทำ ให้เกิดหนี้เสีย หรือหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ เป็นจำ นวนมาก 2. การบริหารจัดการสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์คุณภาพต่ำ และการเกิดหนี้สูญ


3. การเก็งกำ ไรของกลุ่มวาณิชธนกิจหรือบรรษัทเงินทุนในสหรัฐอเมริกา สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ สถาบันการเงินในสหรัฐอเมริกา นอกจากธนาคารแล้ว ยังมีบริษัทประกันชีวิตและบริษัทวาณิช ธนกิจหรือบรรษัททำ หน้าที่เป็นตัวกลางในการระดมเงินทุน บริษัทเอกชนจึงมีอิสระในการ ระดมเงินทุนไม่ถูกควบคุมโดยธนาคารกลาง สามารถระดมเงินทุนและกู้ยืมเงินมาลงทุนได้ ถึง20-30เท่าของหลักทรัพย์ค้ำ ประกัน ปกติธนาคารกลางของสหรัฐอเมริกาจะกำ หนดไว้ไม่เกิน 12 เท่าของหลักทรัพย์ค้ำ ประกัน เมื่อมีลูกค้ามากู้เงิน ใช้อสังหาริมทรัพย์ ตำ แหน่ง เป็นหลัก ทรัพย์ค้ำ ประกันส่วนใหญ่เป็นสิน เชื่อซับไพรม์ บริษัทจะแสวงหากำ ไรโดยแปลงสินทรัพย์ เป็นทุน นำ สินเชื่อที่ปล่อยกู้มารวมกันกับพันธบัตรแล้วเปลี่ยนสินเชื่ออยู่ในรูป ตราสาร ทางการเงินที่มีหลักทรัพย์ค้ำ ประกัน เรียกว่า ซีตีโอ (COLLATERALIZED DEBT OBLIGATIONS:CDO)


3. การเก็งกำ ไรของกลุ่มวาณิชธนกิจหรือบรรษัทเงินทุนในสหรัฐอเมริกา (ต่อ) สาเหตุวิกฤตการณ์แฮมเบอร์เกอร์ แต่ละกองทุนจะมีผลตอบแทน ความเสี่ยงแตกต่างกัน เพื่อลดความเสี่ยงหรือกระจายความ เสี่ยงจะนำ ซีดีโอไปประกันความเสี่ยงกับบริษัทประกันกระจายออกมาในรูปของตราสาร อนุพันธ์ซีดีเอส (CREDIT DEFAULT SWAPS:CDS) นำ ออกมาขายให้กับบริษัทที่สนใจร่วม ลงทุน ถ้าตราสารอนุพันธ์ใดมีความเสี่ยงมากลูกค้าที่ซื้อไปจะได้ผล ตอบแทนสูงตราสาร อนุพันธ์ที่ดีเอสถูกกระจายไปในระบบเศรษฐกิจทั้งในประเทศและต่าง ประเทศ ยุโรป เอเชียและออสเตรเลียเข้ามาซื้อขายผ่านสถาบันการเงินของ สหรัฐอเมริกาในปี 2007 มูลค่า CDS ประมาณ62 ล้านล้าน ดอลลาร์สหรัฐฯ มูลค่าสูงกว่าพันธบัตร ถึง 12 เท่า การแปลงสิน เชื่อเป็นสินทรัพย์ประเภทซับไพรม์และสินเชื่อจำ นองอื่นๆเข้าด้วยกันเพื่อใช้เป็นหลัก ประกันทางการเงินออกมาเป็นตราสารประเภทต่างๆจากการเก็งกำ ไร จึงเป็นอีกปัจจัยที่ทําให้ เกิดวิกฤตเศรษฐกิจขึ้น เมื่อลูกหนี้ไม่สามารถชำ ระคืนเงินกู้ได้และกลายเป็นหนี้สูญ


โลกกับผลกระทบจากวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ วิกฤตเศรษฐกิจโลกในครั้งนี้ ผลกระทบคือบริษัทใหญ่ๆหลายบริษัทเกิดการขาดทุน อย่างหนักและอัตราการว่างงานก็เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเจนและรวมถึง GDP ที่ลด ลงด้วยแต่สำ หรับภาพรวมของฝั่งเอเชียนั้นไม่ได้รับผลกระทบหนักเท่ากับ สหรัฐอเมริกาและยุโรปถึงแม้ว่าในช่วงแรกๆหลายประเทศจะเจอปัญหาสภาพคล่อง อัตราแลกเปลี่ยนกับค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จนทำ ให้เศรษฐกิจหดตัวอย่างรุนแรงช่วง ไตรมาส 3 ปี 2007 แต่ก็เริ่มกลับมามีทิศทางที่ดีขึ้นในช่วงไตรมาส 2 ปี 2008 ได้ อีกครั้ง นอกจากจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกรุนแรงที่สุดในรอบ 70 ปีแล้ว ยัง กำ ลังจะส่งผลกระทบต่อระบบโลกโดยรวมต่อระบบการเมืองโลก ต่อภูมิรัฐศาสตร์โลก โดยเฉพาะต่อบทบาทของมหาอำ นาจในโลกในความเสี่ยง


ผลกระทบที่สำ คัญที่สุดต่อภูมิรัฐศาสตร์โลกคือ ทำ ให้อำ นาจของสหรัฐฯ และตะวันตก ตกต่ำ ลงบางประเทศอ่อนแอลง บางประเทศเข้มแข็งขึ้น ทำ ลายชื่อเสียงของอเมริกา ในฐานะ ผู้นำ โลกลง ถือเป็นความพ่ายแพ้ทาง ภูมิรัฐศาสตร์ ครั้งยิ่งใหญ่ของตะวัน ตก ความอ่อนแอของตะวันตก ในครั้งนี้ ได้ชี้ชัดว่า ระบบโลกกำ ลังจะแปรเปลี่ยน จากระบบ 1 ขั้วอำ นาจ ที่มีสหรัฐฯเป็นศูนย์กลาง ไปเป็นระบบหลายขั้วอำ นาจที่มี มหาอำ นาจอื่นๆ มีบทบาทมากขึ้น ผลกระทบสถานการณ์เป็นผู้นำ ในระบบเศรษฐกิจ โลกของสหรัฐฯ เห็นได้จากการ ประชุมสุดยอด G20 เห็นถึงบทบาทที่ลดลงของ สหรัฐฯ และอิทธิพลที่เพิ่มขึ้นของ มหาอำ นาจเศรษฐกิจมีแนวโน้มว่าวิกฤตเศรษฐกิจ จะทำ ให้สหรัฐฯ และยุโรป สนใจกับการแก้ปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ บทบาทในเวทีโลกลดลง ความยุ่งยากของวิกฤตการเงินจะทำ ให้ตะวันตกไม่สามารถ ผลักดันความคิดริเริ่มใหม่ๆ ในเวทีโลกได้ ผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและตะวันตก


ผลกระทบต่อสหรัฐอเมริกาและตะวันตก (ต่อ) วิกฤตเศรษฐกิจโลก บางประเทศก็เป็นโอกาสทองเปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส ดังเช่น ประเทศจีน เพราะจีนมีระบบการเงินที่เป็น ระบบปิดจึงไม่ได้รับผลกระทบมากนัก จากวิกฤตการเงินโลก เงินทุนสำ รองระหว่างประเทศ ของจีนมีมากมายมหาศาลถึงสอง ล้านล้านเหรียญ จึงทำ ให้จีนกลายเป็นประเทศที่มีสถานะ สภาพคล่องที่แข็งแกร่งที่สุด ในโลก ในขณะที่สภาพเศรษฐกิจเกือบทุกประเทศติดลบเกือบหมด เศรษฐกิจของ จีนจะโตถึง 8.5 เปอร์เซ็นต์ จีนก็จะกลายเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด ในโลก พลังอำ นาจทางเศรษฐกิจของจีนที่เพิ่มขึ้น ทำ ให้บทบาทและอิทธิพลของจีน ในระบบโลกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะกับประเทศกำ ลังพัฒนาทั่วโลก จีนกำ ลังมี อิทธิพลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดย เฉพาะในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจีนก็กำ ลังจะ ขยายอิทธิพลสู่ภูมิภาคอื่น ๆ ในอนาคต


ผลกระทบต่อการค้าของโลก ผลกระทบต่อการค้าของโลก โดยมีแนวโน้มว่า จากวิกฤตเศรษฐกิจสหรัฐฯซึ่งอาจนำ ไปสู่ภาวะ เศรษฐกิจถดถอยจะทำ ให้กระแสนโยบาย ปกป้องทางการค้าของสหรัฐฯเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก ผลกระทบของวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ ได้เริ่มส่งผลกระทบต่อการส่งออกของประเทศ ต่างๆ ไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาแล้ว ความต้องการการนำ เข้าสินค้าของสหรัฐอเมริกากำ ลังลดลง อย่างชัดเจน อาทิ บริษัท KUBOTA ของญี่ปุ่นซึ่งส่งออกรถแทรคเตอร์ไปยังตลาด สหรัฐอเมริกา ยอดส่งออกลดลง 5% และคงจะลดลงเพิ่มมากขึ้น สำ หรับในจีน การส่งออก สินค้าสิ่งทอไปสหรัฐอเมริกาลดลงถึง 20% อย่างไรก็ตามผลกระทบของวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์จะ ขึ้นอยู่กับว่าประเทศนั้น ๆ พึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกา มากน้อยเพียงใด ประเทศในเอเชียส่วนใหญ่จะพึ่งพาการส่งออกไปยังตลาดสหรัฐอเมริกาเป็นส่วนใหญ่ไม่ว่าจะ เป็น ญี่ปุ่น จีน มาเลเซีย สิงค์โปร์ และไทย


อ้างอิง HTTPS://WWW.STOU.AC.TH/STOUONLINE/LOM/DATA/SEC/L OM6/04-01.HTML HTTP://WWW.DIGITALSCHOOL.CLUB/DIGITALSCHOOL/SOC IAL2_1_1/M6_2/CONTENT/LESSON3/LESSON3_3.PHP HTTP://WWW.IT.KMITL.AC.TH/~IT61070034/PROJECT/HA MBURGER.HTML HTTPS://THESTANDARD.CO/HAMBURGER-CRISIS-10- YEARS-ON/


นายธณพัฒน์ พันธ์เพ็ชร รหัสนักศึกษา 16515133 นางสาวพิชามญชุ์ ธนะวิบูลย์ รหัสนักศึกษา 16515090 สาขาวิชาคณิตศาสตร์ คณะครุศาสตร์ GE64404 วิถีโลกกับความหลากหลายทางวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา จัดทำ โดย


Click to View FlipBook Version