แผนสุขศึกษา-พละศึกษา ป.2 เทอม2/2564

แบบประเมิน กำรนำเสนอผลงำน

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 นาเสนอเน้อื หาในผลงานไดถ้ ูกตอ้ ง
2 การลาดบั ขนั้ ตอนของเน้อื เร่อื ง
3 การนาเสนอมคี วามน่าสนใจ
4 การมสี ว่ นร่วมของสมาชกิ ในกลมุ่
5 การตรงต่อเวลา

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบำงส่วน ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพร่องเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

112

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

ชอ่ื ชนั้

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผูอ้ ่นื
3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
4 ความมนี ้าใจ
5 การตรงต่อเวลา

รวม

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

113

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพ่อื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหมเู่ พอ่ื น

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชมุ ชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรยี นรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยอู่ ย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุง่ มนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

114

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากว่า 36 ปรบั ปรงุ

115

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

116

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 2 กำรปฏิบตั ิตนต่อสมำชิก

ในครอบครวั 1 ชวั่ โมง

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

การปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทข่ี องตน และตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั เป็นสง่ิ สาคญั ทส่ี ามารถสรา้ งความอบอ่นุ ใน
ครอบครวั ไดเ้ ป็นอย่างดี

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 2.1 ป.2/1 ระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

- บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นตามหน้าทข่ี องตนเอง และต่อสมาชกิ ในครอบครวั ไดเ้ หมาะสม

3 สำระกำรเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง

• บทบาทหน้าทข่ี องสมาชกิ ในครอบครวั

- ตนเอง - พอ่ แม่

- พน่ี ้อง - ญาติ

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการเช่อื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

117

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนโดยใช้ ทกั ษะกระบวนกำรเผชิญสถำนกำรณ์

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรยี น คาถามกระต้นุ ความคิด

สอ่ื การเรยี นรู้ : กระดาษรปู บา้ น  นักเรียนควรปฏิบตั ิตนอยำ่ งไรต่อญำติผ้ใู หญ่
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
1. ครใู หน้ กั เรยี นจบั คกู่ บั เพ่อื นทน่ี งั่ ใกลก้ นั แลว้ ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะ ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ครู่ ่วมกนั สนทนาแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ความ
รบั ผดิ ชอบของตนเอง เพ่อื ไม่ใหเ้ ป็นภาระของสมาชกิ ใน
ครอบครวั คนอน่ื ๆ แลว้ รว่ มกนั สรปุ แนวทางในการปฏบิ ตั ติ น
ทเ่ี หมาะสม เชน่
- การเกบ็ ทน่ี อนใหเ้ ป็นระเบยี บ และการเกบ็ กวาดหอ้ งนอน
ใหส้ ะอาดเรยี บรอ้ ย
- การอาบน้า และแตง่ ตวั ดว้ ยตนเอง
- การเกบ็ ของเลน่ หรอื อปุ กรณ์การเรยี น

2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ สอน

สอ่ื การเรยี นรู้ : 3. สถานการณ์ตวั อย่าง
4. ใบงานท่ี 3.2
1. หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาฯ ป.2
2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์

1. รวบรวมขา่ วสาร ขอ้ มูล ขอ้ เทจ็ จริง ความรู้ และหลกั การ
1. ครใู หน้ ักเรยี นรวมกลุ่มกนั กลมุ่ ละ 3 คน ตามความสมคั ร
ใจ แลว้ รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง การปฏบิ ตั ติ นต่อสมาชกิ
ในครอบครวั จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์
Smart L.O. LMS Lite
2. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั ทาใบงำนท่ี 3.2 เร่ือง กำร
ปฏิบตั ิตนต่อสมำชิกในครอบครวั เสรจ็ แลว้ นาส่งครู

2. ประเมินคณุ คา่ และประโยชน์
1. ครกู าหนดสถานการณ์ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะกลุ่มฝึกการ
แกป้ ัญหาและหาแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสม ดงั น้ี

คณุ ป้าบวั สาย เดนิ ทางมาจากตา่ งจงั หวดั เพ่อื มา
เยย่ี มครอบครวั ของนักเรยี น และถอื ผลไมต้ ่างๆ มาฝาก
อยา่ งพะรงุ พะรงั นกั เรยี นจะตอ้ นรบั และปฏบิ ตั ติ วั อย่างไร

2. สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มช่วยกนั เสนอแนวทางในการปฏบิ ตั ิ
ตนทเ่ี หมาะสม

118

3. เลอื กและตดั สินใจ

1. สมาชกิ ในแตล่ ะกลุ่มเลอื กและตดั สนิ ใจเสนอแนวทางใน
การปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมตามมตขิ องกลุ่ม แลว้ นาเสนอท่ี
หน้าชนั้ เรยี น จนครบทกุ กลมุ่

2. ครชู มเชยนกั เรยี นทุกกลมุ่ ทส่ี ามารถบอกแนวทางในการ
ปฏบิ ตั ติ นตามสถานการณ์ทก่ี าหนดไดถ้ กู ตอ้ งและเหมาะสม

4. ปฏิบตั ิ

1. นักเรยี นร่วมกนั บอกแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นต่อสมาชกิ
ในครอบครวั อยา่ งเหมาะสม

2. นักเรยี นแตล่ ะคนเขยี นบนั ทกึ ผลการปฏบิ ตั ติ นตอ่ สมาชกิ
ในครอบครวั ตามแนวทางทก่ี าหนดร่วมกนั เป็นระยะเวลา
2 สปั ดาห์ แลว้ นามาเลา่ ส่กู นั ฟัง

ขนั้ สรปุ

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นตอ่
สมาชกิ ในครอบครวั อย่างเหมาะสม

7 กำรวดั และประเมินผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์

วิธีกำร ใบงานท่ี 3.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 3.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ

8 สื่อ/แหล่งกำรเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2

2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั

3) กระดาษรปู บา้ น

4) สถานการณ์ตวั อยา่ ง 5) ใบงานท่ี 3.2 เร่อื ง การปฏบิ ตั ติ นต่อสมาชกิ ในครอบครวั

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้ —

119

ใบงานที่

3.2 การปฏิบตั ิตนต่อสมาชิกในครอบครวั

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นขดี ✓ หน้าขอ้ ความทเ่ี หมาะสม และกา  หน้าขอ้ ความทไ่ี มเ่ หมาะสม
1. พต่ี า้ ช่วยคณุ ตาตกแต่งกงิ่ ไมใ้ นสวนหลงั บา้ น
2. หนูนิดใชใ้ หค้ ุณป้าตากผา้ เพราะเธอคุยโทรศพั ทก์ บั เพ่อื น
3. เป้ิลเดนิ หนีไปทางอน่ื เมอ่ื เหน็ คุณแม่ถอื ของพะรงุ พะรงั เขา้ มาในบา้ น
4. เอริ น์ อาสาช่วยคุณแม่ลา้ งผกั เพอ่ื เตรยี มทากบั ขา้ วใสบ่ าตร
5. แอนใหค้ ณุ แม่เกบ็ ทน่ี อนใหท้ ุกวนั เพราะตอ้ งรบี ไปโรงเรยี น
6. น้อยทง้ิ เศษผงลงบนพน้ื เม่อื เหน็ พส่ี าวกาลงั กวาดบา้ น
7. กก๊ิ กวาดบา้ นทุกวนั หลงั จากทาการบา้ นเสรจ็ แลว้
8. จอยเกบ็ ของเลน่ เขา้ ทท่ี ุกครงั้ เม่อื เลน่ เสรจ็ แลว้
9. ป้มุ ชว่ ยคุณป้ากวาดลานบา้ นทกุ วนั หลงั กลบั จากโรงเรยี น
10. ปอกรอกน้าใสข่ วดแชต่ ูเ้ ยน็ ทกุ เชา้

120

ใบงานท่ี

3.2 การปฏิบตั ิตนต่อสมาชิกในครอบครวั

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นขดี ✓ หน้าขอ้ ความทเ่ี หมาะสม และกา  หน้าขอ้ ความทไ่ี ม่เหมาะสม
✓ 1. พต่ี า้ ช่วยคุณตาตกแตง่ กง่ิ ไมใ้ นสวนหลงั บา้ น
 2. หนูนิดใชใ้ หค้ ุณป้าตากผา้ เพราะเธอคุยโทรศพั ทก์ บั เพ่อื น
 3. เป้ิลเดนิ หนีไปทางอน่ื เมอ่ื เหน็ คุณแม่ถอื ของพะรงุ พะรงั เขา้ มาในบา้ น
✓ 4. เอริ น์ อาสาชว่ ยคณุ แม่ลา้ งผกั เพอ่ื เตรยี มทากบั ขา้ วใสบ่ าตร
 5. แอนใหค้ ณุ แมเ่ กบ็ ทน่ี อนใหท้ ุกวนั เพราะตอ้ งรบี ไปโรงเรยี น
 6. น้อยทง้ิ เศษผงลงบนพน้ื เม่อื เหน็ พส่ี าวกาลงั กวาดบา้ น
✓ 7. กก๊ิ กวาดบา้ นทกุ วนั หลงั จากทาการบา้ นเสรจ็ แลว้
✓ 8. จอยเกบ็ ของเลน่ เขา้ ทท่ี กุ ครงั้ เม่อื เลน่ เสรจ็ แลว้
✓ 9. ป้มุ ช่วยคุณป้ากวาดลานบา้ นทกุ วนั หลงั กลบั จากโรงเรยี น
✓ 10. ปอกรอกน้าใสข่ วดแชต่ ูเ้ ยน็ ทกุ เชา้

121

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ช่ือ-สกลุ ควำมตงั้ ใจ ควำม กำรตรงต่อ ควำมสะอำด ผลสำเรจ็ รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน ในกำรทำงำน รบั ผิดชอบ เวลำ เรียบร้อย ของงำน 15
คะแนน

321321321321321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

122

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลุ่ม

ช่อื กล่มุ ชนั้

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การแบ่งหน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม
2 ความร่วมมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั

รวม

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

123

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพ่อื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหมเู่ พอ่ื น

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชมุ ชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรยี นรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยอู่ ย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุง่ มนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

124

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากว่า 36 ปรบั ปรงุ

125

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

126

แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 3 ครอบครวั ของเรำ

1 ชวั่ โมง

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

การปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทและหน้าทข่ี องตนเองอย่างถูกตอ้ งและเหมาะสม จะทาใหส้ มาชกิ ในครอบครวั อยู่
ร่วมกนั อย่างมคี วามสุข

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 2.1 ป.2/1 ระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

- ปฏบิ ตั ติ นตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั ไดเ้ หมาะสมตามบทบาทและหน้าท่ี

3 สำระกำรเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

• บทบาทหน้าทข่ี องสมาชกิ ในครอบครวั

- ตนเอง - พอ่ แม่

- พน่ี ้อง - ญาติ

3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการเช่อื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

127

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนโดยเน้นกระบวนกำร : กระบวนกำรสรำ้ งควำมตระหนัก

ขนั้ ที่ 1 สงั เกต คาถามกระต้นุ ความคิด

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  นักเรยี นปฏิบตั ิตำมหน้ำท่ีและบทบำทของตนเอง
ไดถ้ กู ต้องและเหมำะสมหรือไม่ จงอธิบำย
1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
2. ครใู หน้ ักเรยี นยกตวั อย่างลกั ษณะของการอยรู่ ว่ มกนั ของ ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)

สมาชกิ ในครอบครวั ทเ่ี ป็นปัจจยั สาคญั ทท่ี าใหค้ รอบครวั
อบอนุ่

ขนั้ ท่ี 2 วิเครำะหว์ ิจำรณ์

ส่อื การเรยี นรู้ : กระดาษโปสเตอร์

1. นกั เรยี นรวมกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2)
จากนนั้ ร่วมกนั ปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตามทค่ี รกู าหนด ดงั น้ี
1) ใหส้ มาชกิ แต่ละคนในกล่มุ เขยี นช่อื สมาชกิ ในครอบครวั
ของตนเอง ลงในกระดาษ A4 โดยระบบุ ทบาทและหน้าท่ี
ของสมาชกิ ทกุ คน
2) สมาชกิ ในกลมุ่ นาเสนอขอ้ มลู ของตนเอง จากนนั้ รว่ มกนั
วเิ คราะหถ์ งึ บทบาทและหน้าทท่ี เ่ี หมาะสมของสมาชกิ ใน
ครอบครวั แตล่ ะคน
3) ระบบุ ทบาท หน้าท่ี และวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมของ
สมาชกิ ในครอบครวั
4) ออกแบบแผนผงั ความคดิ แสดงบทบาท หน้าท่ี และ
วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมของสมาชกิ ในครอบครวั
ลงในกระดาษโปสเตอร์

2. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ นาเสนอผลงานทห่ี น้าชนั้ เรยี น โดยให้
สมาชกิ กลุ่มอน่ื ๆ ซกั ถามตามความเหมาะสม

3. ครชู มเชยกลุ่มทน่ี าเสนอผลงานไดด้ ี เพ่อื เสรมิ กาลงั ใจ

ขนั้ ที่ 3 สรปุ

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั อภปิ รายและสรุปประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จาก
การปฏบิ ตั ติ นต่อสมาชกิ ในครอบครวั อยา่ งเหมาะสม

128

 ครมู อบหมำยให้นักเรียนแต่ละคนจดั ทำสมุดภำพครอบครวั โดยใหค้ รอบคลมุ ประเดน็ ตามทกี่ าหนด ดงั น้ี

1) การระบุชอื่ และความสมั พนั ธข์ องสมาชกิ ในครอบครวั
2) การระบบุ ทบาทหน้าทขี่ องตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั
3) การบอกแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั

นักเรยี นทาแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 3

7 กำรวดั และประเมินผล

วิธีกำร เครอื่ งมอื เกณฑ์

ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ และมคี วามรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 แบบทดสอบหลงั เรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์

ตรวจสมุดภาพครอบครวั แบบประเมนิ สมุดภาพครอบครวั ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

8 สื่อ/แหลง่ กำรเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

- กระดาษโปสเตอร์

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

—

129

การประเมินช้ินงาน/ภาระงาน (รวบยอด)

แบบประเมินสมุดภำพครอบครวั

ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การระบุชอ่ื และความสมั พนั ธข์ องสมาชกิ ในครอบครวั

2 การระบบุ ทบาทหน้าทข่ี องตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั

3 การบอกแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นตอ่ สมาชกิ ในครอบครวั
รวม

ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ
............../.................../................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ดี = 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

พอใช้ = 2 คะแนน 8 - 9 ดี

ปรบั ปรงุ = 1 คะแนน 5 - 7 พอใช้

ต่ากวา่ 5 ปรบั ปรุง

130

แบบประเมิน กำรนำเสนอผลงำน

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 เน้อื หาละเอยี ดชดั เจน
2 ความถูกตอ้ งของเน้อื หา
3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ขา้ ใจง่าย
4 ประโยชน์ทไ่ี ดจ้ ากการนาเสนอ
5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งบำงส่วน ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

131

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบคุ คล

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ ควำมมวี ินัย ควำมมนี ้ำใจ กำรรบั ฟัง กำรแสดง กำรตรงต่อ รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน เอื้อเฟื้ อ ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ เวลำ 15
เสียสละ คะแนน

321321321321321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

132

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลุ่ม

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ช่ือ-สกลุ ควำม กำรแสดง กำรรบั ฟัง ควำมตงั้ ใจ กำรแก้ไข
ที่ ของผรู้ บั กำรประเมิน รว่ มมือกนั ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ ทำงำน ปัญหำ/หรอื รวม
ทำกิจกรรม ปรบั ปรงุ 15
ผลงำนกลุ่ม คะแนน
321321321321
321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

133

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพ่อื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหมเู่ พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ น่ื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรียนรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยู่อย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. ม่งุ มนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

134

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากว่า 36 ปรบั ปรงุ

135

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

136

แบบบนั ทึกหลงั หน่วยกำรเรียนรู้

ตอนที่ 1 นกั เรยี นมคี วามรคู้ วามสามารถตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั ของหน่วยการเรยี นรู้
ต่อไปน้ี พ 2.1 (ป.2/1)

 ดา้ นความรู้

(จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ )

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเดน่ หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

สรปุ ผลจำกกำรประเมินชิ้นงำน/ภำระงำน (รวบยอด) ประจำหน่วยกำรเรียนรู้

 ระดบั คุณภาพดี จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
 ระดบั คุณภาพพอใช้ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ
 ระดบั คณุ ภาพปรบั ปรงุ จานวน คน คดิ เป็นรอ้ ยละ

 ปัญหา/อุปสรรค

 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศึกษำหรือผทู้ ่ีได้รบั มอบหมำย )
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื
(

ตาแหน่ง

137

ตอนที่ 2 กำรตรวจสอบคณุ ภำพนักเรยี นเพือ่ เตรยี มควำมพรอ้ มรองรบั กำรประเมินคณุ ภำพภำยนอก ร้อยละ
ระดบั กำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน (ด้านคณุ ภาพผเู้ รยี น)

มาตรฐานที่ 1 ผเู้ รียนมสี ขุ ภาวะทีด่ ีและมีสนุ ทรียภาพ

1.1 มสี ุขนิสยั ในการดแู ลสขุ ภาพและออกกาลงั กายสมา่ เสมอ
1.2 มนี ้าหนกั สว่ นสงู และมสี มรรถภาพทางกายตามเกณฑม์ าตรฐาน
1.3 ป้องกนั ตนเองจากสงิ่ เสพตดิ ใหโ้ ทษและหลกี เลยี่ งตนเองจากสภาวะทเี่ สยี่ งต่อความรนุ แรง โรค ภยั อบุ ตั เิ หตุ และปัญหาทางเพศ
1.4 เหน็ คณุ คา่ ในตนเอง มคี วามมนั่ ใจ กลา้ แสดงออกอยา่ งเหมาะสม
1.5 มมี นุษยสมั พนั ธท์ ดี่ แี ละใหเ้ กยี รตผิ อู้ นื่
1.6 สรา้ งผลงานจากการเขา้ รว่ มกจิ กรรมดา้ นศลิ ปะ ดนตร/ี นาฏศลิ ป์ กฬี า/นนั ทนาการตามจนิ ตนาการ

มาตรฐานที่ 2 ผ้เู รียนมคี ณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยมทีพ่ งึ ประสงค์

2.1 มคี ณุ ลกั ษณะทพี่ งึ ประสงคต์ ามหลกั สตู ร
2.2 เอ้อื อาทรผอู้ นื่ และกตญั ญกู ตเวทตี อ่ ผมู้ พี ระคณุ
2.3 ยอมรบั ความคดิ และวฒั นธรรมทแี่ ตกตา่ ง
2.4 ตระหนกั รคู้ ณุ ค่า ร่วมอนุรกั ษ์และพฒั นาสงิ่ แวดลอ้ ม

มาตรฐานที่ 3 ผ้เู รียนมีทกั ษะในการแสวงหาความร้ดู ้วยตนเอง รกั เรียนรู้ และพฒั นาตนเองอยา่ งต่อเนือ่ ง

3.1 มนี ิสยั รกั การอ่านและแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเองจากหอ้ งสมดุ แหลง่ เรยี นรู้ และสอื่ ต่างๆ รอบตวั
3.2 มที กั ษะในการอา่ น ฟัง ดู พดู เขยี น และตงั้ คาถามเพอื่ คน้ ควา้ หาความรเู้ พมิ่ เตมิ
3.3 เรยี นรรู้ ว่ มกนั เป็นกลุ่ม แลกเปลยี่ นความคดิ เหน็ เพอื่ การเรยี นรรู้ ะหวา่ งกนั
3.4 ใชเ้ ทคโนโลยใี นการเรยี นรแู้ ละนาเสนอผลงาน

มาตรฐานที่ 4 ผ้เู รียนมคี วามสามารถในการคิดอย่างเป็นระบบ คิดสร้างสรรค์ ตดั สินใจแก้ปัญหา
ได้อยา่ งมีสติสมเหตสุ มผล

4.1 สรุปความคดิ จากเรอื่ งทอี่ า่ น ฟัง และดู และสอื่ สารโดยการพูดหรอื เขยี นตามความคดิ ของตนเอง
4.2 นาเสนอวธิ คี ดิ วธิ แี กป้ ัญหาดว้ ยภาษาหรอื วธิ กี ารของตนเอง
4.3 กาหนดเป้าหมาย คาดการณ์ ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหาโดยมเี หตุผลประกอบ
4.4 มคี วามคดิ รเิ รมิ่ และสรา้ งสรรคผ์ ลงานดว้ ยความภาคภมู ใิ จ

มาตรฐานที่ 5 ผเู้ รียนมคี วามร้แู ละทกั ษะทีจ่ าเป็ นตามหลกั สตู ร

5.1 ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี นเฉลยี่ แต่ละกลุ่มสาระเป็นไปตามเกณฑ์
5.2 ผลการประเมนิ สมรรถนะสาคญั ตามหลกั สตู รเป็นไปตามเกณฑ์
5.3 ผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นเป็นไปตามเกณฑ์
5.4 ผลการทดสอบระดบั ชาตเิ ป็นไปตามเกณฑ์

มาตรฐานที่ 6 ผ้เู รียนมีทกั ษะในการทางาน รกั การทางาน สามารถทางานร่วมกบั ผอู้ ืน่ ได้ และมีเจตคติทีด่ ี
ต่ออาชีพสุจริต

6.1 วางแผนการทางานและดาเนินการจนสาเรจ็
6.2 ทางานอยา่ งมคี วามสุข มงุ่ มนั่ พฒั นางาน และภมู ใิ จในผลงานของตนเอง
6.3 ทางานร่วมกบั ผอู้ นื่ ได้
6.4 มคี วามรสู้ กึ ทดี่ ตี อ่ อาชพี สุจรติ และหาความรเู้ กยี่ วกบั อาชพี ทตี่ นเองสนใจ

138

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 ควำมสำคญั ของเพื่อน

1 ชวั่ โมง

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

เพอ่ื นเป็นบุคคลทใ่ี ชเ้ วลาอย่รู ่วมกบั เรามาก จงึ ควรใหค้ วามสาคญั ต่อเพอ่ื น

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 2.1 ป.2/2 บอกความสาคญั ของเพอ่ื น

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- บอกความสาคญั ของเพอ่ื นได้

3 สำระกำรเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

- ความสาคญั ของเพอ่ื น (เชน่ พดู คุย ปรกึ ษา เล่น ฯลฯ)

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ
3. มจี ติ สาธารณะ

139

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนโดยใช้ กำรอภิปรำยกลมุ่ ยอ่ ย

นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 4

ขนั้ ท่ี 1 จดั ผเู้ รยี นเป็นกลุ่มยอ่ ย

ส่อื การเรยี นรู้ : 3. กระดาษรปู หวั ใจ คาถามกระตุ้นความคิด

1. หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาฯ ป.2  เพ่ือนท่ีร้ใู จของนักเรียนคอื ใคร จงบอกเหตุผล
2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ
2. ครแู จกกระดาษรปู หวั ใจใหน้ กั เรยี นคนละ 1 แผ่น แลว้ ให้

นักเรยี นเขยี นความสาคญั ของเพ่อื นลงในกระดาษ
3. ครใู หต้ วั แทนนักเรยี นเกบ็ รวบรวมกระดาษรปู หวั ใจ เมอ่ื ได้

ครบแลว้ ครนู ามาอา่ นใหน้ กั เรยี นฟัง จากนนั้ ครนู ากระดาษ
รปู หวั ใจมาตดิ บนกระดานหน้าชนั้ เรยี น
4. ครขู ออาสาสมคั รนกั เรยี น 2-3 คน ออกมาเล่าความประทบั ใจ
ทน่ี กั เรยี นมตี ่อเพอ่ื น เม่อื นกั เรยี นเล่าจบแลว้ ครใู หเ้ พ่อื นใน
หอ้ งชว่ ยกนั ปรบมอื ชมเชย
5. ครใู หน้ กั เรยี นรวมกลุม่ กนั ตามความสมคั รใจ กลมุ่ ละ 6 คน
เพ่อื รว่ มกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ความสาคญั ของเพ่อื น จาก
หนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite

ขนั้ ที่ 2 กำหนดประเดน็ กำรอภิปรำย

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —

ครกู าหนดประเดน็ ในการอภปิ ราย หรอื กาหนดประเดน็ ท่ี
เกย่ี วขอ้ งกบั ความสาคญั ของเพ่อื น ใหน้ ักเรยี นชว่ ยกนั กาหนด
ประเดน็ แลว้ เลอื กเพยี ง 1 ประเดน็ ทน่ี ่าสนใจและครอบคลมุ เนอ้ื หา
เชน่ “เพอ่ื นนนั้ สาคญั ไฉน”

ขนั้ ที่ 3 อภิปรำย

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

สมาชกิ ในแตล่ ะกลุม่ รว่ มกนั อภปิ รายในประเดน็ ทก่ี าหนด
โดยครกู าหนดเวลาในการอภปิ รายตามความเหมาะสม

140

ขนั้ ที่ 4 สรปุ ผลกำรอภิปรำย คาถามกระต้นุ ความคิด

ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  นอกจำกที่โรงเรียนแล้ว นักเรียนมีเพื่อนๆ
จำกท่ีไหนอีกบ้ำง
1. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มสรปุ ผลการอภปิ ราย จากนนั้ ส่งตวั แทนกลุ่ม (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
นาเสนอผลการอภปิ รายทห่ี น้าชนั้ เรยี น ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

2. ครแู ละนักเรยี นร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ผลการ
อภปิ ราย จากนนั้ รว่ มกนั สรุปผลการอภปิ ราย

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ ท่ี 5 สรปุ บทเรยี น

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ ใหน้ กั เรยี นฟังวา่ เพ่อื นเป็นคนทใ่ี กลช้ ดิ กบั
เรามากทส่ี ุดเวลาอยทู่ โ่ี รงเรยี น การมเี พ่อื น ทาใหเ้ รา
สนุกสนาน มคี นคอยใหค้ าปรกึ ษาและพดู คยุ ดว้ ย ถา้ เราอยทู่ ่ี
โรงเรยี นแลว้ เราไมม่ เี พ่อื นเลย เรากจ็ ะทกุ ขใ์ จ ไม่อยากมา
โรงเรยี น แลว้ เรากจ็ ะเรยี นหนังสอื ไม่รเู้ ร่อื ง ดงั นัน้ เพ่อื นจงึ มี
ความสาคญั กบั เรามาก และการทเ่ี ราจะมเี พ่อื นคบนนั้ เรา
ตอ้ งรจู้ กั ปฏบิ ตั ติ นเป็นเพ่อื นทด่ี ดี ว้ ย

2. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความสาคญั ของเพ่อื น

ขนั้ ที่ 6 ประเมินผลกำรเรียน คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.1  นักเรยี นคิดว่ำ ควำมมนี ้ำใจเป็นลกั ษณะที่สำคญั
ของเพ่ือนหรือไม่ จงอธิบำย
1. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงำนที่ 4.1 เร่ือง ควำมสำคญั ของ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
เพื่อน เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจความเรยี บรอ้ ยและถกู ตอ้ ง ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
กอ่ นนาสง่ ครู

2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

141

7 กำรวดั และประเมินผล

วิธีกำร เครือ่ งมือ เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบก่อนเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )

ตรวจใบงานท่ี 4.1 ใบงานท่ี 4.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
และมจี ติ สาธารณะ

8 สื่อ/แหล่งกำรเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) กระดาษรปู หวั ใจ
4) ใบงานท่ี 4.1 เรอ่ื ง ความสาคญั ของเพอ่ื น

8.2 แหล่งการเรียนรู้

—

142

ใบงานที่

4.1 ความสาคญั ของเพ่ือน

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ แสดงความสาคญั ของเพอ่ื น

ควำมสำคญั ของเพือ่ น

143

ใบงานท่ี

4.1 ความสาคญั ของเพอ่ื น

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นเขยี นแผนผงั ความคดิ แสดงความสาคญั ของเพอ่ื น

(ตวั อย่าง)

มคี วามทุกข์ เพอื่ นสอบไดค้ ะแนนดี
เศรา้ เพอื่ นไดร้ บั รางวลั

เป็นผทู้ คี่ อยปลอบใจ เป็นผทู้ ชี่ นื่ ชมยนิ ดี

ควำมสำคญั ของเพ่อื น

เป็นเพอื่ นเลน่ เป็นเพอื่ นพดู คยุ

ทาใหเ้ กดิ ความสนุกสนาน เลา่ เหตกุ ารณ์ตา่ งๆ ใหฟ้ ัง
มเี พอื่ นเพมิ่ ข้นึ ทาใหเ้ กดิ ความเพลดิ เพลนิ

(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
144

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ช่ือ-สกลุ ควำมตงั้ ใจ ควำม กำรตรงต่อ ควำมสะอำด ผลสำเรจ็ รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน ในกำรทำงำน รบั ผิดชอบ เวลำ เรียบร้อย ของงำน 15
คะแนน

321321321321321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

145

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลุ่ม

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ กำรแสดง กำรยอมรบั กำรทำงำน ควำมมีน้ำใจ กำรมี รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน ควำมคิดเหน็ ฟังคนอ่ืน ตำมที่ได้รบั ส่วนร่วมใน 15
มอบหมำย กำรปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงำนกลุ่ม

321321321321321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

146

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพ่อื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต 1.5 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรียนรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรงุ ตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยอู่ ย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั

5.2 ใชอ้ ุปกรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุง่ มนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

147

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากว่า 36 ปรบั ปรงุ

148

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศึกษำหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

149

แผนการจัดการเรยี นร้ทู ี่ 2 วิธีกำรปฏิบตั ิตน 1 ชวั่ โมง
เป็ นเพื่อนที่ดี

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

การอย่รู ่วมกนั กบั เพอ่ื นจะต้องรวู้ ธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเป็นเพ่อื นทด่ี ี

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 2.1 ป.2/2 บอกความสาคญั ของเพอ่ื น

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

- บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเป็นเพ่อื นทด่ี ไี ด้

3 สำระกำรเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

- ความสาคญั ของเพอ่ื น (เช่น พดู คุย ปรกึ ษา เลน่ ฯลฯ)

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการเช่อื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ
3. มจี ติ สาธารณะ

150

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนโดยเน้นกระบวนกำร : กระบวนกำรคิดอยำ่ งมวี ิจำรณญำณ

ขนั้ ที่ 1 สงั เกต คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —  นักเรยี นคิดว่ำ ตนเองเป็นเพื่อนท่ีดีของเพ่ือน
หรอื ไม่ จงอธิบำย
1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
2. ครตู งั้ ประเดน็ คาถามใหน้ ักเรยี นแต่ละคนคดิ หาคาตอบ หรอื ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

แสดงความคดิ เหน็ ดงั น้ี
- เพ่อื นมคี วามสาคญั ตอ่ เราอย่างไร
- เพ่อื นทด่ี มี ลี กั ษณะอยา่ งไร
- นักเรยี นเป็นเพอ่ื นทด่ี หี รอื ไม่ อย่างไร
- ถา้ ตอ้ งการใหเ้ พอ่ื นรกั และเป็นเพ่อื นทด่ี ี ควรปฏบิ ตั อิ ย่างไร

ขนั้ ท่ี 2 อธิบำย

สอ่ื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

นกั เรยี นรวมกล่มุ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1)
จากนนั้ ใหส้ มาชกิ แตล่ ะคนผลดั กนั อธบิ ายคาตอบหรอื แสดงความ
คดิ เหน็ จากประเดน็ คาถามทค่ี รกู าหนด โดยเน้นการใหเ้ หตุผลและ
ยกตวั อยา่ งประกอบ

ขนั้ ที่ 3 รบั ฟัง

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : —

สมาชกิ แตล่ ะคนรบั ฟังการอธบิ ายคาตอบหรอื แสดงความ
คดิ เหน็ จากประเดน็ คาถามทค่ี รกู าหนด แลว้ เน้นการปรบั เปลย่ี น
ความคดิ อยา่ งมเี หตผุ ล

ขนั้ ท่ี 4 เชื่อมโยงควำมสมั พนั ธ์

สอ่ื การเรยี นรู้ : 2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ คาถามกระตุ้นความคิด
1. หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.2
 เพรำะเหตุใด จึงจำเป็นจะต้องแสดงควำมมนี ้ำใจ
1. นกั เรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเป็นเพอ่ื นทด่ี ี ต่อเพอ่ื น
จากหนังสอื เรยี นหรอื บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
LMS Lite ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

151

2. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ เพม่ิ เตมิ ใน
คาตอบหรอื การแสดงความคดิ เหน็ ของสมาชกิ กลมุ่ โดยนา
ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษามาเช่อื มโยงความสมั พนั ธก์ นั

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ ท่ี 5 วิจำรณ์

ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.2

1. นกั เรยี นร่วมกนั ยกตวั อยา่ งวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเป็นเพ่อื นทด่ี ี
หรอื ยกตวั อย่างประกอบสถานการณ์ เพอ่ื ใหม้ คี วามรคู้ วาม
เขา้ ใจมากยงิ่ ขน้ึ

2. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงำนท่ี 4.2 เร่ือง กำรปฏิบตั ิตนของ
เพ่อื นที่ดี เมอ่ื ทาเสรจ็ แลว้ ใหน้ าสง่ ครตู รวจ

ขนั้ ที่ 6 สรปุ

ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —

นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นเป็นเพ่อื นทด่ี ี

7 กำรวดั และประเมินผล เครอื่ งมือ เกณฑ์

วิธีกำร ใบงานท่ี 4.2 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ตรวจใบงานท่ี 4.2 แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มคี วามรบั ผดิ ชอบ
และมจี ติ สาธารณะ

8 สื่อ/แหลง่ กำรเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) ใบงานท่ี 4.2 เร่อื ง การปฏบิ ตั ติ นของเพอ่ื นทด่ี ี

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

—

152

ใบงานที่

4.2 การปฏิบตั ิตนของเพอ่ื นท่ีดี

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสารวจพฤตกิ รรมต่อไปน้วี ่า เป็นพฤตกิ รรมทค่ี วรปฏบิ ตั ติ อ่ เพอ่ื นหรอื ไม่ ถา้ ควรใหเ้ ตมิ
คาว่า “ควร” หน้าขอ้ พฤตกิ รรมทค่ี วรปฏบิ ตั ิ และเตมิ คาว่า “ไมค่ วร” หน้าขอ้ พฤตกิ รรมทไ่ี ม่ควรปฏบิ ตั ิ
1. กลา่ วคาขอโทษเมอ่ื เดนิ ชนเพอ่ื น
2. เรยี กช่อื พอ่ หรอื ชอ่ื แม่ของเพอ่ื นแทนช่อื เพอ่ื น
3. แบง่ ปันสงิ่ ของใหเ้ พอ่ื นตามความเหมาะสม
4. ใหเ้ พอ่ื นลอกการบา้ น หากเพอ่ื นทาไมท่ นั
5. ช่วยเพอ่ื นทาความสะอาดหอ้ งเรยี น
6. แกลง้ เพอ่ื น เมอ่ื เพอ่ื นเดนิ ผา่ นโต๊ะ
7. นากระเป๋ าของเพอ่ื นไปซ่อน
8. อา่ นหนงั สอื การต์ นู เม่อื เพอ่ื นทางานกลุม่
9. ปากระดาษใสเ่ พอ่ื น เพอ่ื เรยี กเพอ่ื นใหค้ ยุ กบั ตนเองขณะทค่ี รสู อน
10. ซอ้ื ขนมมาแบง่ กบั เพอ่ื น

153

ใบงานท่ี

4.2 การปฏิบตั ิตนของเพอื่ นท่ีดี

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นสารวจพฤตกิ รรมตอ่ ไปน้วี า่ เป็นพฤตกิ รรมทค่ี วรปฏบิ ตั ติ ่อเพอ่ื นหรอื ไม่ ถา้ ควรใหเ้ ตมิ
คาว่า “ควร” หน้าขอ้ พฤตกิ รรมทค่ี วรปฏบิ ตั ิ และเตมิ คาว่า “ไม่ควร” หน้าขอ้ พฤตกิ รรมทไ่ี ม่ควรปฏบิ ตั ิ
ควร 1. กล่าวคาขอโทษเม่อื เดนิ ชนเพอ่ื น
ไม่ควร 2. เรยี กช่อื พอ่ หรอื ชอ่ื แม่ของเพอ่ื นแทนชอ่ื เพอ่ื น
ควร 3. แบง่ ปันสงิ่ ของใหเ้ พอ่ื นตามความเหมาะสม
ไม่ควร 4. ใหเ้ พอ่ื นลอกการบา้ น หากเพอ่ื นทาไมท่ นั
ควร 5. ชว่ ยเพอ่ื นทาความสะอาดหอ้ งเรยี น
ไม่ควร 6. แกลง้ เพอ่ื น เม่อื เพอ่ื นเดนิ ผา่ นโต๊ะ
ไม่ควร 7. นากระเป๋ าของเพอ่ื นไปซ่อน
ไม่ควร 8. อา่ นหนงั สอื การต์ นู เมอ่ื เพอ่ื นทางานกลุ่ม
ไม่ควร 9. ปากระดาษใสเ่ พอ่ื น เพอ่ื เรยี กเพอ่ื นใหค้ ุยกบั ตนเองขณะทค่ี รสู อน
ควร 10. ซอ้ื ขนมมาแบง่ กบั เพอ่ื น

154

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ ควำมมวี ินัย ควำมมนี ้ำใจ กำรรบั ฟัง กำรแสดง กำรตรงต่อ รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน เอื้อเฟื้ อ ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ เวลำ 15
เสียสละ คะแนน

321321321321321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

155

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลุ่ม

ช่อื กล่มุ ชนั้

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การแบ่งหน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม
2 ความร่วมมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจช่วยเหลอื กนั

รวม

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

156

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ อ่ โรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพ่อื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหมเู่ พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชมุ ชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรยี นรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยอู่ ย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุง่ มนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็

157

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากว่า 36 ปรบั ปรงุ

158

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอ่นื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อปุ สรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรือผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

159

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เพื่อนที่ดี

1 ชวั่ โมง

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

การใหค้ วามสาคญั และปฏบิ ตั ติ นเป็นเพอ่ื นทด่ี ี จะทาใหอ้ ย่รู ่วมกบั เพอ่ื นอย่างมคี วามสุข

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 2.1 ป.2/2 บอกความสาคญั ของเพ่อื น

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) บอกความสาคญั ของเพอ่ื นได้
2) บอกแนวทางในการปฏบิ ตั ติ นเป็นเพอ่ื นทด่ี ไี ด้

3 สำระกำรเรียนรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

- ความสาคญั ของเพอ่ื น (เช่น พดู คุย ปรกึ ษา เลน่ ฯลฯ)

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน

4.1 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต
2) ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

4.2 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มคี วามรบั ผดิ ชอบ
3. มจี ติ สาธารณะ

160

6 กิจกรรมกำรเรียนรู้

วิธีสอนโดยเน้นกระบวนกำร : กระบวนกำรสรำ้ งค่ำนิ ยม

ขนั้ ที่ 1 สงั เกต ตระหนัก

ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : —

1. ครถู ามนักเรยี นว่า เคยไดย้ นิ สานวนไทยทว่ี ่า “เพ่อื นกนิ หางา่ ย
เพ่อื นตายหายาก” หรอื ไม่ จากนนั้ ครตู งั้ ประเดน็ คาถามให้
นกั เรยี นตอบหรอื แสดงความคดิ เหน็ เชน่
- ความหมายของสานวน
- ขอ้ ดี และขอ้ เสยี ของเพ่อื นทงั้ สองแบบ
- นกั เรยี นคดิ วา่ ตนเองมลี กั ษณะของเพอ่ื นแบบใด

2. ครสู มุ่ นักเรยี น 2-3 คน ตอบคาถามหรอื แสดงความคดิ เหน็
เพอ่ื เป็นการเชอ่ื มโยงใหน้ ักเรยี นเหน็ ความสาคญั ของเพ่อื น
และการปฏบิ ตั ติ นทเ่ี หมาะสมกบั เพ่อื น

ขนั้ ท่ี 2 ประเมินเชิงเหตุผล

สอ่ื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 4.3

1. ครใู หน้ ักเรยี นช่วยกนั พจิ ารณาเพ่อื คดั เลอื กเพ่อื นทม่ี ลี กั ษณะ
ตามทค่ี รกู าหนด ดงั น้ี
1) เพอ่ื นทพ่ี ดู จาไพเราะมากทส่ี ดุ
2) เพ่อื นทม่ี คี วามประพฤตเิ รยี บรอ้ ยมากทส่ี ดุ
3) เพอ่ื นทม่ี นี ้าใจมากทส่ี ดุ
4) เพ่อื นทช่ี อบช่วยเหลอื เพ่อื นมากทส่ี ุด
5) เพ่อื นทเ่ี รยี นเก่งมากทส่ี ดุ

2. นกั เรยี นเลอื กเพอ่ื นทม่ี ลี กั ษณะทค่ี รกู าหนด ลกั ษณะละ 1 คน
โดยแสดงเหตุผลประกอบ แลว้ เขยี นลงในกระดาษสง่ ครู

3. ครรู วบรวมผล แลว้ แจง้ ใหน้ กั เรยี นทราบ พรอ้ มกล่าวชมเชย
นักเรยี นทถ่ี กู เพ่อื นเลอื กในแตล่ ะลกั ษณะ เพ่อื เป็นการเสรมิ
กาลงั ใจ

4. นักเรยี นแต่ละคนทาใบงำนที่ 4.3 เร่อื ง ข้อดี ข้อเสยี ของฉัน
เม่อื ทาเสรจ็ แลว้ นาส่งครู

161