The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนสุขศึกษา-พละศึกษา ป.2 เทอม2/2564
โรงเรียนวัดเหล่าขวัญ(จ่างอนุเคราะห์)
ครูกัญญารัตน์ รุ่งเรือง

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanyarat787878, 2021-11-02 05:44:49

แผนสุขศึกษา-พละศึกษา ป.2 เทอม2/2564

แผนสุขศึกษา-พละศึกษา ป.2 เทอม2/2564
โรงเรียนวัดเหล่าขวัญ(จ่างอนุเคราะห์)
ครูกัญญารัตน์ รุ่งเรือง

12

คำอธิบำยรำยวิชำ

รำยวิชำ สุขศกึ ษำและพลศึกษำ
กลุ่มสำระกำรเรยี นร้สู ุขศึกษำและพลศกึ ษำ

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 2 ภาคเรยี นท่ี
เวลำ 80 ชวั่ โมง/ปี

ศกึ ษา วเิ คราะห์ ลกั ษณะ หน้าท่ี และวธิ กี ารดูแลรกั ษาอวยั วะภายในท่มี กี ารเจรญิ เติบโตและพฒั นาการ
ไปตามวยั รู้จกั เข้าใจ และดูแลตนเองและสมาชิกในครอบครวั รู้และปฏิบตั ติ ามบทบาทหน้าท่ีของสมาชิกใน
ครอบครวั บทบาทของเพ่อื น และความภาคภูมใิ จในตนเองพรอ้ มปฏบิ ตั พิ ฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสมกบั เพศ ปฏบิ ตั ติ น
ให้เป็นผู้มีสุขภาพท่ีดี เลือกกินอาหารท่ีมีประโยชน์ รู้จกั การเลือกของใช้และของเล่นท่ีเหมาะสมและไม่เกิด
อนั ตราย เม่อื มอี าการเจบ็ ป่วยสามารถบอกลกั ษณะอาการ สาเหตุ และการรกั ษาเบ้อื งตน้ ทเ่ี หมาะสม ปฏบิ ตั ติ น
ในการป้องกนั อุบตั เิ หตุทเ่ี กดิ ขน้ึ ทางน้า ทางบก และอคั คภี ยั การปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาในการใชย้ าอยา่ งเหมาะสม
และระบุโทษของสารเสพตดิ สารอนั ตรายใกลต้ วั และวธิ ปี ้องกนั ทเ่ี หมาะสม

มที กั ษะในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมการเคล่อื นไหวร่างกายแบบอยู่กบั ท่ี แบบเคล่อื นท่ี แบบใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ
การเล่นเกมเบ็ดเตล็ด ตามกฎ กติกา ข้อตกลงในการเล่นเกมตามคาแนะนา เพ่อื ให้เกิดความสนุกสนานและ
ปลอดภยั

โดยใชท้ กั ษะกระบวนการคดิ วเิ คราะห์ กระบวนการปฏบิ ตั ิ ทกั ษะการเคล่อื นไหวร่างกาย การสบื คน้ ขอ้ มูล
การแกป้ ัญหา การระดมสมอง และการอภปิ ราย

เพ่อื ให้เกิดความรู้ ความคดิ ความเขา้ ใจ มที กั ษะส่อื สารสง่ิ ท่เี รยี นรู้ สามารถตดั สนิ ใจ และนาความรู้ไป
ประยุกต์ใชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มกี ารพฒั นาทางด้านร่างกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม และมจี รยิ ธรรม คุณธรรม และ
ค่านยิ มทเ่ี หมาะสม

ตวั ชี้วดั
พ 1.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3
พ 2.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4
พ 3.1 ป.2/1 ป.2/2
พ 3.2 ป.2/1 ป.2/2
พ 4.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5
พ 5.1 ป.2/1 ป.2/2 ป.2/3 ป.2/4 ป.2/5
รวม 21 ตวั ชี้วดั

13

โครงสรำ้ งรำยวิชำ วิชำสขุ ศึกษำและพลศึกษำ ป.2

ลำดบั ช่ือหน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ น้ำหนัก
ท่ี เรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน

1 อวยั วะภำยใน พ 1.1 ป.2/1 อวยั วะภายในมคี วามสาคญั ตอ่ ระบบการ 5
ป.2/2 ทางานของร่างกาย ดงั นนั้ เราจงึ ควรดูแลรกั ษา
อวยั วะภายในอย่างถกู วธิ ี เพอ่ื ใหอ้ วยั วะทางาน
ไดอ้ ยา่ งเป็นปกติ และมกี ารเจรญิ เตบิ โตและ
พฒั นาการไปตามวยั

2 ธรรมชำติของมนุษย์ พ 1.1 ป.2/3 การเกดิ แก่ เจบ็ ตาย เป็นธรรมชาตขิ องชวี ติ 2
มนุษย์ ดงั นนั้ ในขณะทเ่ี รายงั มชี วี ติ อย่คู วรดูแล
รา่ งกายใหส้ มบูรณ์แขง็ แรง และรจู้ กั ดาเนนิ
ชวี ติ อย่างมคี วามสขุ

3 ครอบครวั อบอ่นุ พ 2.1 ป.2/1 ครอบครวั จะเกดิ ความอบอุ่น หากสมาชกิ ใน 3
ครอบครวั เขา้ ใจบทบาทหน้าท่ี และปฏบิ ตั ติ น
ตามหน้าทข่ี องตนอย่างเหมาะสม

4 หน่ึงมิตรชิดใกล้ พ 2.1 ป.2/2 เพอ่ื นเป็นบุคคลทม่ี คี วามสาคญั ต่อเรา การให้ 3
ความสาคญั และปฏบิ ตั ติ นต่อเพ่อื นทด่ี จี ะทาให้
อย่รู ว่ มกบั เพอ่ื นอย่างมคี วามสุข

5 เขำ้ ใจตนเอง พ 2.1 ป.2/3 เพศชายและเพศหญงิ มคี วามแตกตา่ งกนั 4
ป.2/4 ดงั นนั้ แต่ละเพศจงึ ควรปฏบิ ตั ติ นใหเ้ หมาะสม
กบั เพศ และมคี วามภมู ใิ จในเพศของตนเอง

6 สุขภำพของเรำ พ 4.1 ป.2/1 การมสี ุขภาพร่างกายทแ่ี ขง็ แรง มสี ุขภาพจติ 4
ทร่ี ่าเรงิ แจ่มใส และมคี วามปลอดภยั ในชวี ติ
จะสง่ ผลใหเ้ ราเป็นคนทม่ี สี ขุ ภาพดี

7 อำหำรดีมีประโยชน์ พ 4.1 ป.2/2 อาหารมคี วามสาคญั ต่อรา่ งกาย การเลอื ก 5
รบั ประทานอาหารทม่ี ปี ระโยชน์จะสง่ ผลให้
รา่ งกายแขง็ แรงและสมบรู ณ์

8 ของใช้และของเล่น พ 4.1 ป.2/3 ของใชแ้ ละของเล่นภายในบา้ นบางชนดิ อาจ 5
ทาใหเ้ กดิ อนั ตรายและส่งผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพได้
ผใู้ ชจ้ งึ ควรเลอื กใชแ้ ละเพม่ิ ความระมดั ระวงั
ในการเล่นเพ่อื ใหเ้ กดิ ความปลอดภยั มากทส่ี ุด

9 กำรบำดเจบ็ และเจบ็ ป่ วย พ 4.1 ป.2/4 เมอ่ื มอี าการเจบ็ ป่วยและบาดเจบ็ ต่างๆ 8

ป.2/5 เกดิ ขน้ึ ควรปฏบิ ตั ติ นอย่างถูกวธิ ี จะชว่ ยลด
ความรุนแรงของอาการป่ วยของโรคและการ

บาดเจบ็ ได้

14

ลำดบั ช่ือหน่วยกำรเรยี นรู้ มำตรฐำนกำร สำระสำคญั เวลำ น้ำหนัก
ที่ เรียนร้/ู ตวั ชี้วดั (ชวั่ โมง) คะแนน

10 อบุ ตั ิเหตุและกำรป้องกนั พ 5.1 ป.2/1 อุบตั เิ หตทุ างน้าและทางบกเกดิ จากสาเหตหุ ลาย 6
อยา่ ง จงึ ตอ้ งมวี ธิ กี ารป้องกนั อยา่ งถกู ตอ้ ง

11 สญั ลกั ษณ์และ พ.5.1 ป.2/4 สญั ลกั ษณ์และป้ายเตอื น มไี วส้ าหรบั แจง้ ใหท้ ราบ 2
ป้ำยเตือน ถงึ อนั ตรายและวธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ เ่ี หมาะสม ทุกคน
พงึ ปฏบิ ตั ใิ หถ้ ูกตอ้ งเพอ่ื ความปลอดภยั ในชวี ติ

12 อคั คีภยั พ.5.1 ป.2/5 อคั คภี ยั เป็นภยั ทเ่ี กดิ จากไฟ ซง่ึ เป็นสาเหตสุ าคญั 4
ทท่ี าใหส้ ญู เสยี ชวี ติ และทรพั ยส์ นิ ดงั นนั้ จงึ ควร
ศกึ ษาวธิ กี ารป้องกนั และการหนไี ฟทถ่ี ูกตอ้ ง

13 ยำน่ำรู้ พ.5.1 ป.2/2 ยาทใ่ี ชใ้ นชวี ติ ประจาวนั มหี ลายประเภท ซง่ึ มที งั้ 3
คณุ และโทษ ดงั นนั้ เราจงึ ตอ้ งรจู้ กั ใชย้ าอยา่ ง
ถูกวธิ แี ละลกั ษณะอาการของโรค จะชว่ ยใหเ้ กดิ
ความปลอดภยั และรกั ษาโรคได้

14 ภยั รำ้ ยทำลำยชีวิต พ.5.1 ป.2/3 สารเสพตดิ และสารเคมบี างชนิดเป็นอนั ตรายต่อ 5
ร่างกาย จงึ ควรหลกี เลย่ี งสารเสพตดิ และรจู้ กั
วธิ ใี ชส้ ารเคมใี หถ้ ูกตอ้ ง

15 เตรยี มควำมพร้อม พ.3.1 ป.2/1 การอบอุน่ ร่างกายเป็นการเตรยี มความพรอ้ มของ 2

พ.3.2 ป.2/1 รา่ งกายก่อนออกกาลงั กาย เพอ่ื ใหร้ ่างกายเกดิ
ความพรอ้ มและมคี วามปลอดภยั

16 ขยบั ร่ำงกำย พ.3.1 ป.2/1 การเคลอ่ื นไหวอย่กู บั ท่ี เป็นทกั ษะพน้ื ฐานในการ 4

พ.3.2 ป.2/1 เคล่อื นไหวแบบต่างๆ ช่วยสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ
รา่ งกายใหแ้ ขง็ แรง และมปี ระสทิ ธภิ าพในการ

ควบคมุ ร่างกายไดด้ ี

17 เคล่ือนที่ร่ำงกำย พ.3.1 ป.2/1 การเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบเคล่อื นท่ี เป็นทกั ษะ 5
พ.3.2 ป.2/1 พน้ื ฐานของการออกกาลงั กายและการเล่นกฬี า

อ่นื ๆ ช่วยในการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพร่างกายให้

แขง็ แรงและมปี ระสทิ ธภิ าพในการควบคมุ

รา่ งกายไดด้ ี

18 สนุกกบั อปุ กรณ์ พ.3.1 ป.2/1 การเคลอ่ื นไหวร่างกายแบบใชอ้ ุปกรณ์ประกอบ 3

พ.3.2 ป.2/1 ตอ้ งอาศยั การทางานทส่ี มั พนั ธก์ นั ของอวยั วะใน
รา่ งกาย

19 เกมแสนสนุก พ.3.1 ป.2/2 การเล่นเกมเบด็ เตลด็ เป็นการออกกาลงั กาย 7

พ.3.2 ป.2/1 เพอ่ื ใหเ้ กดิ ความสนุกสนานและความสามคั คใี น
ป.2/2 หมคู่ ณะ ซง่ึ การเลน่ เกมตอ้ งปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ า
และขอ้ ตกลงในการเลน่ เกม

15

โครงสรำ้ งแผนฯ วิชำสขุ ศึกษำและพลศึกษำ ป.2

เวลา 80 ชวั่ โมง

หน่วยกำรเรียนรู้ แผนกำรจดั วิธีสอน/กระบวนกำร ทกั ษะกำรคิด เวลำ
กำรเรียนรู้ จดั กำรเรียนรู้ (ชวั ่ โมง)
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1
อวยั วะภำยใน 1. อวยั วะภายนอก - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ - ทกั ษะการสงั เกต 1
และอวยั วะภายใน (Inquiry Method : 5E) 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 2
ธรรมชำติของมนุษย์ 2. สมอง และหวั ใจ - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสงั เกต 1
แบบรว่ มมอื : เทคนิค 2. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3 ค่คู ดิ สส่ี หาย 1
ครอบครวั อบอ่นุ
3. ตบั และไต - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ 1. ทกั ษะการสงั เกต 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 4 แบบร่วมมอื : เทคนิค 2. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 1
หน่ึงมิตรชิดใกล้ ช่วยกนั คดิ ช่วยกนั เรยี น 1

4. ปอด กระเพาะอาหาร - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการสงั เกต 1
2. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้ 1
และลาไส้ กระบวนการเรยี นความรู้ 1
1
ความเขา้ ใจ 1

5. การดแู ลรกั ษา - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการสงั เกต 1
อวยั วะภายใน กระบวนการสรา้ งความตระหนัก 2. ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้

1. ธรรมชาตขิ องชวี ติ - วธิ สี อนแบบกระบวนการกลุ่ม - ทกั ษะการระบุ
มนุษย์ สมั พนั ธ์

2. หลกั การดูแลสุขภาพ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : - ทกั ษะการระบุ

รา่ งกาย กระบวนการสรา้ งความคดิ

รวบยอด

1. บทบาทและหน้าทข่ี อง - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการสงั เกต

สมาชกิ ในครอบครวั กระบวนการสรา้ งเจตคติ 2. ทกั ษะการเช่อื มโยง

2. การปฏบิ ตั ติ นต่อ - วธิ สี อนโดยใชท้ กั ษะกระบวน 1. ทกั ษะการสงั เกต

สมาชกิ ในครอบครวั การเผชญิ สถานการณ์ 2. ทกั ษะการเช่อื มโยง

3. ครอบครวั ของเรา - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการสงั เกต
กระบวนการสรา้ งความตระหนัก 2. ทกั ษะการเชอ่ื มโยง

1. ความสาคญั ของเพ่อื น - วธิ สี อนโดยใชก้ ารอภปิ ราย 1. ทกั ษะการสงั เกต
กลมุ่ ย่อย 2. ทกั ษะการเช่อื มโยง

2. วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ น - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการสงั เกต
เป็นเพอ่ื นทด่ี ี กระบวนการคดิ อย่างมี 2. ทกั ษะการเช่อื มโยง
วจิ ารณญาณ

3. เพ่อื นทด่ี ี - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการสงั เกต

กระบวนการสรา้ งคา่ นิยม 2. ทกั ษะการเช่อื มโยง

16

หน่วยกำรเรยี นรู้ แผนกำรจดั วิธีสอน/กระบวนกำร ทกั ษะกำรคิด เวลำ
กำรเรียนรู้ จดั กำรเรียนรู้ (ชวั ่ โมง)
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5
เขำ้ ใจตนเอง 1. เพศหญงิ และ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : - ทกั ษะการระบุ 1
เพศชาย กระบวนการสรา้ งความตระหนัก 1
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 6
สขุ ภำพของเรำ 2. ความภมู ใิ จในเพศ - วธิ สี อนโดยการจดั การเรยี นรู้ - ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ 1
ของตนเอง แบบร่วมมอื : เทคนิค
เลา่ เร่อื งรอบวง - ทกั ษะการระบุ 1
1
3. พฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสม - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ : 1. ทกั ษะการระบุ 1
2. ทกั ษะการเปรยี บเทยี บ
กบั เพศ กระบวนการคดิ อยา่ งมี 1. ทกั ษะการระบุ 1
2. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล 1
วจิ ารณญาณ 1. ทกั ษะการระบุ
2. ทกั ษะการใหเ้ หตุผล
4. เขา้ ใจเพศหญงิ และ - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้
1. ทกั ษะการระบุ
เพศชาย (Inquiry Method : 5E) 2. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล
1. ทกั ษะการระบุ
1. ลกั ษณะของผทู้ ม่ี ี - วธิ สี อนแบบสบื เสาะหาความรู้ 2. ทกั ษะการใหเ้ หตผุ ล
สุขภาพดี (Inquiry Method : 5E)

2. สขุ ภาพกายและ - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ :
สุขภาพจติ กระบวนการสรา้ งความคดิ
รวบยอด

3. การปฏบิ ตั ติ นใหม้ ี - วธิ สี อนแบบกระบวนการกล่มุ
สขุ ภาพดี สมั พนั ธ์

4. สขุ ภาพของตนเอง - วธิ สี อนโดยเน้นกระบวนการ :
กระบวนการสรา้ งเจตคติ

17

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 1 อวยั วะภำยนอกและ 1 ชวั่ โมง
อวยั วะภำยใน

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

อวยั วะภายนอกและอวยั วะภายในมคี วามสาคญั ต่อระบบการทางานของรา่ งกาย ดงั นนั้ เราจงึ ควรดแู ลรกั ษา
อวยั วะตา่ งๆ อยา่ งถูกวธิ ี เพอ่ื ใหอ้ วยั วะทางานไดอ้ ยา่ งเป็นปกติ

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 1.1 ป.2/1 อธบิ ายลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายใน

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) อธบิ ายลกั ษณะของอวยั วะภายนอกและอวยั วะภายในได้
2) จาแนกช่อื อวยั วะภายนอกและอวยั วะภายในได้

3 สำระกำรเรียนรู้

3.1 สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

-

3.2 สาระการเรียนรทู้ ้องถิน่

- ลกั ษณะของอวยั วะภายนอกและอวยั วะภายใน

4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

- ทกั ษะการสงั เกต

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้
2. มุง่ มนั่ ในการทางาน
3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

18

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนแบบ สืบเสำะหำควำมรู้ (Inquiry Method : 5E)

นักเรยี นทาแบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1

ขนั้ ท่ี 1 กระต้นุ ควำมสนใจ คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื การเรยี นรู้ : เพลง อวยั วะของเรา  นักเรียนคิดว่ำ อวยั วะต่ำงๆ ในร่ำงกำยมี
ควำมสำคญั อยำ่ งไร
1. ครนู านกั เรยี นรอ้ งเพลง อวยั วะของเรา แลว้ ใหน้ กั เรยี นรอ้ ง (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
ตามและทาทา่ ทางประกอบ โดยครสู งั เกตนักเรยี นวา่ ทา ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ พรอ้ มทงั้ เสนอแนะแนวทางแกไ้ ข และชมเชย
นกั เรยี นทส่ี ามารถทาท่าทางประกอบไดถ้ ูกตอ้ ง

2. ครใู หน้ ักเรยี นเรยี งลาดบั อวยั วะต่างๆ ทอ่ี ยใู่ นเน้อื เพลงตงั้ แต่
อวยั วะสว่ นบนจนถงึ ส่วนลา่ ง แลว้ บอกลกั ษณะและหน้าทข่ี อง
อวยั วะตา่ งๆ ใหถ้ ูกตอ้ ง

3. ครอู ธบิ ายใหน้ กั เรยี นฟังว่า อวยั วะทน่ี ักเรยี นสงั เกตเหน็ หรอื
มองเหน็ ไดด้ ว้ ยตาของนกั เรยี นนนั้ เรยี กวา่ อวยั วะภายนอก
สว่ นอวยั วะทน่ี กั เรยี นไมส่ ามารถมองเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปลา่ นนั้
เรยี กวา่ อวยั วะภายใน

4. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ ท่ี 2 สำรวจค้นหำ

ส่อื การเรยี นรู้ : หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.2

ครแู บ่งนกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน คละกนั ตาม
ความสามารถ คอื เก่ง ปานกลางค่อนขา้ งเกง่ ปานกลางค่อนขา้ ง
ออ่ น และอ่อน แลว้ ใหน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื ง
อวยั วะภายนอกและอวยั วะภายใน จากหนังสอื เรยี น

ขนั้ ที่ 3 อธิบำยควำมรู้

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —

1. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มผลดั กนั อธบิ ายลกั ษณะของอวยั วะภายนอก
และอวยั วะภายใน ใหเ้ พอ่ื นในกลมุ่ ฟัง

2. ครใู หน้ ักเรยี นชว่ ยกนั ยกตวั อยา่ งชอ่ื อวยั วะภายนอกและ
อวยั วะภายใน แลว้ ร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง

19

ขนั้ ที่ 4 ขยำยควำมเข้ำใจ

ส่อื การเรยี นรู้ : บตั รคา

1. ครนู าบตั รคาแสดงชอ่ื อวยั วะต่างๆ มาตดิ บนกระดานแลว้ ให้
นกั เรยี นอ่านออกเสยี งพรอ้ มกนั

2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มช่วยกนั จาแนกบตั รคาแสดงชอ่ื อวยั วะ
ต่างๆ ใหเ้ ป็น 2 แถว ดงั น้ี
- แถวท่ี 1 บตั รคาแสดงช่อื อวยั วะภายนอก
- แถวท่ี 2 บตั รคาแสดงช่อื อวยั วะภายใน

ขนั้ ท่ี 5 ตรวจสอบผล คาถามกระต้นุ ความคิด

ส่อื การเรยี นรู้ : บตั รคา  อวยั วะภำยนอกและอวยั วะภำยในมคี วำม
แตกต่ำงกนั อย่ำงไร
1. ครตู รวจสอบผลนกั เรยี นในการจาแนกบตั รคาแสดงช่อื อวยั วะ (อวยั วะภายนอกสามารถมองเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปล่า
ต่างๆ ส่วนอวยั วะภายในไมส่ ามารถมองเหน็ ไดด้ ว้ ยตาเปล่า
แตจ่ ะทางานร่วมกนั อย่างเป็นระบบภายในรา่ งกาย)
2. นักเรยี นร่วมกนั สรุปลกั ษณะของอวยั วะภายนอกและอวยั วะ
ภายใน พรอ้ มยกตวั อย่างประกอบ

3. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

7 กำรวดั และประเมินผล

วิธีกำร เครอ่ื งมือ เกณฑ์

ตรวจแบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 แบบทดสอบกอ่ นเรยี น หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 (ประเมนิ ตามสภาพจรงิ )

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์

สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ ม่งุ มนั ่ ในการทางาน และมี แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ความรบั ผดิ ชอบ

8 สื่อ/แหลง่ กำรเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2
2) เพลง อวยั วะของเรา
3) บตั รคา

8.2 แหลง่ การเรียนรู้



20

เอกสารประกอบการสอน

เพลง อวยั วะของเรำ

ตาเรามไี วด้ ู ท่ีมำ : ไม่ปรากฏชอื่ ผแู้ ต่ง
จมกู อยตู่ รงกลาง
หเู รามไี วฟ้ ัง
มอื เรามสี องมอื มไี วส้ าหรบั หายใจ
ส่วนขาพาเราเดนิ ได้ (ซา้ ) เอาไวจ้ บั ถอื ทางานทวั่ ไป
ไปไหนไหนดว้ ยขาของเรา

21

บตั รคา 

แขน จมูก
เท้ำ ตำ
หู มือ
ขำ ปำก
สมอง ตบั
ปอด หวั ใจ
ไต ลำไส้

กระเพำะอำหำร

22

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

ช่อื ชนั้

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื
3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
4 ความมนี ้าใจ
5 การตรงตอ่ เวลา

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

23

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลมุ่

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ กำรแสดง กำรยอมรบั กำรทำงำน ควำมมนี ้ำใจ กำรมี รวม
ท่ี ของผรู้ บั กำรประเมิน ควำมคิดเหน็ ฟังคนอ่ืน ตำมที่ได้รบั ส่วนรว่ มใน 15
มอบหมำย กำรปรบั ปรงุ คะแนน
ผลงำนกลุ่ม

321321321321321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

24

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี กู ตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พอ่ แม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ ่อผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรยี นรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยู่อย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า

5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุ่งมนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

25

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากวา่ 36 ปรบั ปรุง

26

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

27

แผนการจัดการเรียนร้ทู ี่ 2 สมอง และหวั ใจ

1 ชวั่ โมง

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

สมอง และหวั ใจ เป็นอวยั วะภายในทม่ี คี วามสาคญั ดงั นนั้ เราจงึ ควรดแู ลรกั ษาอยา่ งถูกวธิ ี เพอ่ื ใหอ้ วยั วะ
ดงั กลา่ วสามารถทางานไดอ้ ยา่ งเป็นปกติ และมพี ฒั นาการอย่างเหมาะสมตามวยั

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 1.1 ป.2/1 อธบิ ายลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะภายใน

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายตาแหน่ง ลกั ษณะ และหน้าทข่ี องสมอง และหวั ใจได้
2) อธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษาสมอง และหวั ใจได้

3 สำระกำรเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นร้แู กนกลาง

1) ลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายในทม่ี กี ารเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการไปตามวยั (สมอง หวั ใจ ฯลฯ)
2) การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายใน

- การระมดั ระวงั การกระแทก - การออกกาลงั กาย - การกนิ อาหาร

3.2 สาระการเรียนร้ทู ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

28

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนโดยกำรจดั กำรเรียนรแู้ บบร่วมมือ : เทคนิ คค่คู ิดส่ีสหำย

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรียน คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื การเรยี นรู้ : กระดาษขนาด A4  นักเรียนคิดว่ำ อวยั วะใดมีควำมสำคญั มำกที่สดุ
อธิบำยเหตุผล
1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
2. ครใู หน้ ักเรยี นวาดรปู หวั ใจตามจนิ ตนาการของตนเอง ลงใน ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

กระดาษขนาด A4 ทค่ี รแู จกใหพ้ รอ้ มเขยี นบอกหน้าทแ่ี ละ
ความสาคญั ของหวั ใจ
3. นักเรยี นแต่ละคนแลกเปลย่ี นกนั ดผู ลงานกบั เพ่อื น ครอู ธบิ าย
ใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจเกย่ี วกบั ลกั ษณะและขนาดของหวั ใจ โดยให้
นกั เรยี นกามอื เพ่อื เปรยี บเทยี บขนาดของหวั ใจตนเองกบั กามอื

ขนั้ สอน

สอ่ื /แหล่งการเรยี นรู้ : 4. ใบงานท่ี 1.1 คาถามกระตุ้นความคิด
5. หอ้ งสมดุ
1. หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.2 1. นักเรยี นเหน็ ด้วยหรือไม่กบั คำกล่ำวท่ีว่ำ “สมอง
2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ เป็นตวั กำหนดควำมฉลำดของมนุษย”์ อธิบำย
3. เอกสารประกอบการสอน เหตผุ ล
(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
1. นกั เรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)
ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง สมอง และหวั ใจ จากหนงั สอื เรยี นหรอื
บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite เอกสาร 2. นักเรยี นมีวิธีกำรดแู ลรกั ษำสมองให้ทำงำนอย่ำง
ประกอบการสอน และหอ้ งสมดุ ปกติไดอ้ ย่ำงไรบ้ำง
(พกั ผอ่ นใหเ้ พยี งพอ กนิ อาหารทมี่ ปี ระโยชน์ หรอื
2. สมาชกิ แต่ละกลุ่มรว่ มกนั อธบิ ายและสรุปความรเู้ กย่ี วกบั พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
สมอง และหวั ใจ ในประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี ดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
1) ตาแหน่งของสมอง และหวั ใจ
2) ลกั ษณะของสมอง และหวั ใจ
3) หน้าทข่ี องสมอง และหวั ใจ
4) วธิ ดี แู ลรกั ษาสมอง และหวั ใจ

3. สมาชกิ แต่ละกลุ่มผลดั กนั อธบิ ายและสรุปความรใู้ นแตล่ ะประเดน็
แลว้ สง่ ตวั แทนออกมานาเสนอผลการศกึ ษาหน้าชนั้ เรยี น

4. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ทาใบงำนที่ 1.1 เรือ่ ง วิธีดแู ล

รกั ษำสมอง และหวั ใจ โดยใหส้ มาชกิ แต่ละคนหาคาตอบ

ดว้ ยตนเองจนครบทุกขอ้ แลว้ จบั ค่กู บั เพอ่ื นในกลุ่มผลดั กนั
อธบิ ายคาตอบของตนเอง (สมาชกิ อกี คใู่ นกลมุ่ กป็ ฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมเช่นเดยี วกนั )

29

5. นักเรยี นรวมกลุ่มเดมิ (4 คน) ผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของคู่
ตนเองใหเ้ พ่อื นอกี ค่หู น่งึ ในกลุ่มฟัง เพ่อื หาขอ้ สรุปของคาตอบ
แลว้ บนั ทกึ ลงในใบงานท่ี 1.1 เสรจ็ แลว้ นาส่งครตู รวจ

6. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2

ขนั้ สรปุ คาถามกระต้นุ ความคิด

ส่อื /แหล่งการเรยี นรู้ : — 1. ถ้ำหวั ใจห้องใดห้องหน่ึงทำงำนผิดปกติ จะส่งผล
ต่อร่ำงกำยอย่ำงไรบำ้ ง
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปตาแหน่ง ลกั ษณะ และหน้าทข่ี องสมอง (ทาใหห้ วั ใจสบู เลอื ดไปเล้ยี งส่วนต่างๆ ของร่างกาย
และหวั ใจ พรอ้ มบอกวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะดงั กล่าวใหท้ างาน ไดไ้ ม่สะดวก)
ไดอ้ ยา่ งปกติ
2. กำรรบั ประทำนอำหำร fast food เป็นประจำ
2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2 ส่งผลดีหรือผลเสียต่อกำรทำงำนของหวั ใจ
อธิบำยเหตผุ ล
7 กำรวดั และประเมินผล (พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

วิธีกำร เครือ่ งมือ เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 1.1 ใบงานท่ี 1.1 รอ้ ยละ 60 ผ่านเกณฑ์
ประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุม่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั ่ ในการทางาน และมี แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ความรบั ผดิ ชอบ

8 ส่ือ/แหลง่ กำรเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศกึ ษา ป.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) เอกสารประกอบการสอน
4) กระดาษขนาด A4
5) ใบงานท่ี 1.1 เร่อื ง วธิ ดี แู ลรกั ษาสมอง และหวั ใจ

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

- หอ้ งสมุด

30

เอกสารประกอบการสอน

สมอง

สมองส่วนหน้ำ สมองส่วนกลำง

ทาหน้าท่ี ควบคมุ การเคล่อื นไหว ความคดิ ความจา ทาหน้าท่ี เป็นสถานีรบั -ส่งประสาทระหว่างสมอง
สตปิ ัญญา ความรสู้ กึ การไดย้ นิ การมองเหน็ การดม ส่วนหน้ากบั สว่ นทา้ ยเกย่ี วกบั การมองเหน็ และ
กลน่ิ การสมั ผสั การพดู และการรบั รส การไดย้ นิ

สมองส่วนหลงั กา้ นสมอง

ทาหน้าท่ี ควบคมุ กลา้ มเน้อื บรเิ วณ
ใบหน้า การทางานเหนอื อานาจจติ ใจ
การทางานของระบบกลา้ มเน้อื และ
การทรงตวั

สมองแต่ละส่วนจะทาหน้าทีแ่ ตกต่างกนั

หวั ใจ

เลอื ดแดง

เลอื ดดา ปอด
จากร่างกาย
หวั ใจซีกซ้ำย
หวั ใจซีกขวำ รบั เลอื ดจากปอดเพอ่ื ส่งไปยงั
รบั เลอื ดจากส่วนตา่ งๆ ของ ส่วนต่างๆ ของร่างกาย
ร่างกาย เพ่อื สง่ ไปฟอกทป่ี อด

การทางานประสานกนั ของหวั ใจทงั้ 4 ห้อง ทาให้หวั ใจสูบฉีดเลือดไปเล้ียงรา่ งกายได้เป็นปกติ
ทม่ี า : ชชู าติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นยิ ม. [ม.ป.ป.]. หนังสือเรียน รำยวิชำพน้ื ฐำน สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ป.2.

พมิ พค์ รงั้ ท่ี 6. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.

31

ใบงานที่

1.1 วิธีดแู ลรกั ษาสมอง และหวั ใจ

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ เขยี นบอกชอ่ื และวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะในภาพ

ภำพอวยั วะ ชื่ออวยั วะ วิธีดแู ลรกั ษำอวยั วะ
1.

2.

32

ใบงานท่ี

1.1 วิธีดแู ลรกั ษาสมอง และหวั ใจ

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ เขยี นบอกช่อื และวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะในภาพ

ภำพอวยั วะ ชื่ออวยั วะ วิธีดแู ลรกั ษำอวยั วะ
1.
สมอง 1. พกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอ
2. ออกกาลงั กายอย่างสมา่ เสมอ
3. ไม่ดมื่ สรุ า ไม่เสพสารเสพตดิ
4. กนิ อาหารทมี่ ปี ระโยชน์
5. ระมดั ระวงั ไมใ่ หข้ องแขง็ กระแทกศรี ษะ

2. หวั ใจ 1. พกั ผ่อนใหเ้ พยี งพอ

2. ทาจติ ใจใหร้ า่ เรงิ แจม่ ใสอย่เู สมอ ไม่เครยี ด
3. ไม่ดมื่ สรุ า ไมส่ บู บุหรี่
4. ออกกาลงั กายอย่างสมา่ เสมอ และเหมาะสมกบั วยั
5. กนิ อาหารทมี่ ปี ระโยชน์ หลกี เลยี่ งอาหารทมี่ ไี ขมนั สงู

33

แบบประเมิน กำรนำเสนอผลงำน

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน ประเมนิ การนาเสนอผลงานของนกั เรยี นตามรายการทก่ี าหนด แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
2 ความคดิ สรา้ งสรรค์
3 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน
4 การนาไปใชป้ ระโยชน์
5 การตรงต่อเวลา

รวม

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี อ้ บกพร่องบำงส่วน ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ผลงานหรอื พฤตกิ รรมมขี ้อบกพรอ่ งเป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

34

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

ชอ่ื ชนั้

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ที่ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การแสดงความคดิ เหน็
2 การยอมรบั ฟังความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื
3 การทางานตามหน้าทท่ี ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
4 ความมนี ้าใจ
5 การตรงตอ่ เวลา

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ

35

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลุ่ม

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ ควำม กำรแสดง กำรรบั ฟัง ควำมตงั้ ใจ กำรแก้ไข
ท่ี ของผรู้ บั กำรประเมิน ร่วมมอื กนั ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ ทำงำน ปัญหำ/หรอื รวม
ทำกิจกรรม ปรบั ปรงุ 15
ผลงำนกลุ่ม คะแนน
321321321321
321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

36

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเมอ่ื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ตอ่ โรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชมุ ชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรยี นรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรงุ ตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยู่อยำ่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณค่า

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มงุ่ มนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็

37

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรกั ษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คณุ คา่ และปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มจี ิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากว่า 36 ปรบั ปรงุ

38

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

39

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 ตบั และไต

1 ชวั่ โมง

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

ตบั และไต เป็นอวยั วะภายในทม่ี คี วามสาคญั ดงั นนั้ เราจงึ ควรดแู ลรกั ษาอยา่ งถูกวธิ ี เพอ่ื ใหอ้ วยั วะดงั กลา่ ว
สามารถทางานไดอ้ ย่างเป็นปกติ และมพี ฒั นาการอย่างเหมาะสมตามวยั

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 1.1 ป.2/1 อธบิ ายลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะภายใน

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1) อธบิ ายตาแหน่ง ลกั ษณะ และหน้าทข่ี องตบั และไตได้
2) อธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษาตบั และไตได้

3 สำระกำรเรยี นรู้

3.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1) ลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายในท่มี กี ารเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการไปตามวยั (ตบั ไต ฯลฯ)
2) การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายใน

- การระมดั ระวงั การกระแทก - การออกกาลงั กาย - การกนิ อาหาร

3.2 สาระการเรยี นรทู้ ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทางาน 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

40

6 กิจกรรมกำรเรยี นรู้

วิธีสอนโดยกำรจดั กำรเรียนร้แู บบร่วมมือ : เทคนิ คช่วยกนั คิดช่วยกนั เรยี น

ขนั้ นำเข้ำสู่บทเรยี น คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  กำรรบั ประทำนอำหำรท่ีมรี สจดั เกินไป มผี ลต่อ
กำรทำงำนของอวยั วะใดมำกท่ีสุด
1. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (ไต)
2. ครซู กั ถามนกั เรยี นเกย่ี วกบั การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายใน แลว้

ใหน้ ักเรยี นช่วยกนั ยกตวั อยา่ งโรคทเ่ี กดิ กบั อวยั วะภายใน
เช่น โรคตบั โรคไต โรคกระเพาะอาหาร เป็นตน้
3. ครชู แ้ี จงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ โรคเหล่าน้เี ป็นโรคทพ่ี บไดบ้ ่อย
แต่สามารถป้องกนั ได้ หากรวู้ ธิ กี ารดแู ลตนเองอย่างถกู วธิ ี

ขนั้ สอน

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : 3. เอกสารประกอบการสอน คาถามกระตุ้นความคิด
4. ใบงานท่ี 1.2
1. หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.2 1. หน้ำท่ีของตบั ได้แก่อะไรบำ้ ง
2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ (ขบั สารพษิ ออกจากรา่ งกาย และเป็นแหล่งสะสมของ
วติ ามนิ ต่างๆ)
1. นักเรยี นกลมุ่ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั
ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ตบั และไต จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี น 2. ถ้ำไตพิกำรจะเกิดผลเสียต่อร่ำงกำยอย่ำงไร
คอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite และเอกสารประกอบ (ร่างกายไมส่ ามารถดูดซมึ สารอาหาร และออกซเิ จน
การสอน จากโลหติ ได)้

2. สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั อธบิ ายและสรปุ ความรเู้ กย่ี วกบั ตบั
และไต ในประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี
1) ตาแหน่งของตบั และไต 3) หน้าทข่ี องตบั และไต
2) ลกั ษณะของตบั และไต 4) วธิ ดี แู ลรกั ษาตบั และไต

3. นักเรยี นแตล่ ะคนทาใบงำนที่ 1.2 เรอ่ื ง ตบั และไต เม่อื ทา

เสรจ็ แลว้ จบั ค่กู บั เพ่อื นในกลมุ่ ผลดั กนั ตรวจคาตอบในใบงาน
ตามแนวเฉลยทค่ี รแู จกให้ และชว่ ยกนั อธบิ ายสง่ิ ทส่ี งสยั ใหแ้ ก่
สมาชกิ ซง่ึ เป็นคขู่ องตนเองฟัง
4. นกั เรยี นแต่ละคนนาใบงานท่ี 1.2 ส่งครู แลว้ รวบรวมคะแนน
นามาหาค่าเฉลย่ี ของแตล่ ะกล่มุ
5. ครปู ระกาศผลคะแนนและกลา่ วชมเชยกลุ่มทไ่ี ดค้ ะแนนสงู สุด
แลว้ นาผลงานของกลมุ่ ดงั กลา่ วมาจดั ป้ายนิเทศแสดงผลงาน
ของนักเรยี น
6. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ ขอ้ 1-2

41

ขนั้ สรปุ คาถามกระต้นุ ความคิด

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  นักเรยี นมวี ิธีดแู ลรกั ษำตบั และไตอยำ่ งไรบ้ำง
(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ย่ใู น
1. นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ตาแหน่ง ลกั ษณะ และหน้าทข่ี องตบั ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
และไต พรอ้ มบอกวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะดงั กล่าวใหท้ างานได้
อย่างปกติ

2. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

7 กำรวดั และประเมินผล

วิธีกำร เครื่องมือ เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 1.2 ใบงานท่ี 1.2 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกล่มุ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั ่ ในการทางาน และมี แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ความรบั ผดิ ชอบ

8 ส่ือ/แหล่งกำรเรยี นรู้

8.1 สือ่ การเรียนรู้

1) หนงั สอื เรยี น สขุ ศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สุขศกึ ษา ป.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) เอกสารประกอบการสอน
4) ใบงานท่ี 1.2 เรอ่ื ง ตบั และไต

8.2 แหลง่ การเรยี นรู้



42

เอกสารประกอบการสอน

ตบั

ตบั กลีบขวำ

มขี นาดใหญ่เป็น 6 เทา่ ของกลบี
ดา้ นซา้ ย

ไตขา้ งขวา ตบั กลีบซ้ำย
มขี นาดเลก็ และแบนกวา่ ดา้ นขวา
ไต
ไตมี 2 ขา้ ง คอื ไตขา้ งขวาและไตขา้ งซา้ ย ไต
ไตขา้ งขวาจะอยตู่ ่ากว่าไตขา้ งซา้ ย เพราะ
มตี บั ทบั ซอ้ นอยู่ ไตขา้ งซา้ ย

หลอดไต
ทาหน้าทล่ี าเลยี งน้าปัสสาวะ
ไปสกู่ ระเพาะปัสสาวะ

กระเพาะปัสสาวะ

ทม่ี า : ชชู าติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นยิ ม. [ม.ป.ป.]. หนังสือเรยี น รำยวิชำพ้นื ฐำน สขุ ศกึ ษำและพลศกึ ษำ ป.2.
พมิ พค์ รงั้ ท่ี 6. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.
43

ใบงานท่ี

1.2 ตบั และไต

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ ความทก่ี าหนดวา่ เป็นตาแหน่ง ลกั ษณะ หน้าท่ี และวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะใด
แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั อวยั วะดงั กลา่ ว

อวยั วะ ตบั ไต

ตำแหน่ง ลกั ษณะหน้ำท่ี และวิธีดแู ลรกั ษำ

1. อยดู่ า้ นขวาบนของชอ่ งทอ้ ง และอยใู่ กลก้ ะบงั ลม
2. รปู ร่างคลา้ ยเมด็ ถวั่ แดง มขี นาดเท่ากามอื สนี ้าตาลแกมแดง
3. ขบั สารพษิ ออกจากร่างกาย และผลติ น้าดี
4. ไม่กนิ อาหารดบิ หรอื สุกๆ ดบิ ๆ
5. กรองของเสยี ออกจากเลอื ดและขบั ออกมาพรอ้ มกบั น้า

ในรปู ปัสสาวะ
6. รปู ร่างคลา้ ยลม่ิ เลอื ด ลกั ษณะเป็นกลบี 2 กลบี ขนาดไมเ่ ท่ากนั

มสี นี ้าตาลแดง
7. อยดู่ า้ นล่างของช่องทอ้ งทางดา้ นซา้ ย และดา้ นขวา

อย่ใู กลก้ ระดกู สนั หลงั ยดึ ตดิ กบั กะบงั ลม
8. ไม่ด่มื สุรา ชา กาแฟ

44

ใบงานที่

1.2 ตบั และไต

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นวเิ คราะหข์ อ้ ความทก่ี าหนดวา่ เป็นตาแหน่ง ลกั ษณะ หน้าท่ี และวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะใด
แลว้ ขดี ✓ ลงในช่องทต่ี รงกบั อวยั วะดงั กล่าว

อวยั วะ ตบั ไต
✓ ✓
ตำแหน่ง ลกั ษณะหน้ำที่ และวิธีดแู ลรกั ษำ ✓
✓ ✓
1. อย่ดู า้ นขวาบนของชอ่ งทอ้ ง และอยใู่ กลก้ ะบงั ลม
2. รปู ร่างคลา้ ยเมด็ ถวั่ แดง มขี นาดเท่ากามอื สนี ้าตาลแกมแดง ✓ ✓
3. ขบั สารพษิ ออกจากร่างกาย และผลติ น้าดี ✓
4. ไมก่ นิ อาหารดบิ หรอื สุกๆ ดบิ ๆ
5. กรองของเสยี ออกจากเลอื ดและขบั ออกมาพรอ้ มกบั น้า

ในรปู ปัสสาวะ
6. รปู ร่างคลา้ ยลมิ่ เลอื ด ลกั ษณะเป็นกลบี 2 กลบี ขนาดไมเ่ ทา่ กนั

มสี นี ้าตาลแดง
7. อย่ดู า้ นล่างของชอ่ งทอ้ งทางดา้ นซา้ ย และดา้ นขวา

อย่ใู กลก้ ระดกู สนั หลงั ยดึ ตดิ กบั กะบงั ลม
8. ไม่ด่มื สุรา ชา กาแฟ

45

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบคุ คล

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ ควำมตงั้ ใจ ควำม กำรตรงต่อ ควำมสะอำด ผลสำเรจ็ รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน ในกำรทำงำน รบั ผิดชอบ เวลำ เรียบร้อย ของงำน 15
คะแนน

321321321321321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

46

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกลุ่ม

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ ควำม กำรแสดง กำรรบั ฟัง ควำมตงั้ ใจ กำรแก้ไข
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน ร่วมมือกนั ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ ทำงำน ปัญหำ/หรอื รวม
ทำกิจกรรม ปรบั ปรงุ 15
ผลงำนกลุ่ม คะแนน
321321321321
321

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่ำงสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ

47

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชน์ต่อโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชุมชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสงิ่ ทถ่ี ูกตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผูอ้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มวี ินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรยี นรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรุงตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยู่อย่ำงพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ุณคา่

5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุ่งมนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็

48

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ รว่ มกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากวา่ 36 ปรบั ปรุง

49

แบบบนั ทึกหลงั แผนกำรสอน

 ดา้ นความรู้

 ดา้ นสมรรถนะสาคญั ของผเู้ รยี น

 ดา้ นคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

 ดา้ นอน่ื ๆ (พฤตกิ รรมเด่น หรอื พฤตกิ รรมทมี่ ปี ัญหาของนกั เรยี นเป็นรายบคุ คล (ถา้ ม)ี )

 ปัญหา/อุปสรรค
 แนวทางการแกไ้ ข

ควำมเหน็ ของผ้บู ริหำรสถำนศกึ ษำหรอื ผ้ทู ี่ได้รบั มอบหมำย
ขอ้ เสนอแนะ

ลงชอ่ื )
(

ตาแหน่ง

50

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 4 ปอด กระเพำะอำหำร 1 ชวั่ โมง
และลำไส้

1 สำระสำคญั /ควำมคิดรวบยอด

ปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้ เป็นอวยั วะภายในทม่ี คี วามสาคญั ดงั นนั้ เราจงึ ควรดแู ลรกั ษาอยา่ งถูกวธิ ี
เพอ่ื ใหอ้ วยั วะดงั กลา่ วสามารถทางานไดอ้ ยา่ งเป็นปกติ และมพี ฒั นาการอย่างเหมาะสมตามวยั

2 ตวั ชี้วดั /จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้

2.1 ตวั ช้ีวดั
พ 1.1 ป.2/1 อธบิ ายลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายใน
ป.2/2 อธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะภายใน

2.2 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1) อธบิ ายตาแหน่ง ลกั ษณะ และหน้าทข่ี องปอด กระเพาะอาหาร และลาไสไ้ ด้
2) อธบิ ายวธิ ดี แู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไสไ้ ด้

3 สำระกำรเรยี นรู้

3.1 สาระการเรียนร้แู กนกลาง

1) ลกั ษณะและหน้าทข่ี องอวยั วะภายในทม่ี กี ารเจรญิ เตบิ โตและพฒั นาการไปตามวยั (ปอด กระเพาะ

อาหาร ลาไส้ ฯลฯ)

2) การดแู ลรกั ษาอวยั วะภายใน

- การระมดั ระวงั การกระแทก - การออกกาลงั กาย - การกนิ อาหาร

3.2 สาระการเรยี นร้ทู ้องถิน่

(พจิ ารณาตามหลกั สตู รสถานศกึ ษา)

4 สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน

4.1 ความสามารถในการสือ่ สาร 2) ทกั ษะการนาความรไู้ ปใช้
4.2 ความสามารถในการคิด

1) ทกั ษะการสงั เกต

4.3 ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต

5 คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์

1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มนั่ ในการทางาน 3. มคี วามรบั ผดิ ชอบ

51

6 กิจกรรมกำรเรียนรู้

วิธีสอนโดยเน้นกระบวนกำร : กระบวนกำรเรียนควำมรคู้ วำมเขำ้ ใจ

ขนั้ ที่ 1 สงั เกต ตระหนัก คาถามกระต้นุ ความคิด

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  นักเรยี นคิดว่ำ ตนเองมคี วำมเสี่ยงต่อกำรเกิด
โรคใดมำกท่ีสุด เพรำะเหตุใด
1. นกั เรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
2. นักเรยี นกลุ่มเดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) รว่ มกนั ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

ทบทวนความรเู้ กย่ี วกบั วธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะภายในตา่ งๆ ทไ่ี ด้
เรยี นไปแลว้
3. ครอู ธบิ ายใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ การรวู้ ธิ ดี แู ลรกั ษาตนเอง และ
ปฏบิ ตั ติ นอยา่ งถูกวธิ จี ะทาใหม้ สี ขุ ภาพรา่ งกายสมบูรณ์
แขง็ แรง

ขนั้ ท่ี 2 วำงแผนปฏิบตั ิ

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ :

1. หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.2
2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์
3. เอกสารประกอบการสอน
4. หอ้ งสมุด

1. ครใู หน้ กั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรเู้ ร่อื ง ปอด
กระเพาะอาหาร และลาไส้ จากหนงั สอื เรยี นหรอื บทเรยี น
คอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite เอกสารประกอบการสอน
และหอ้ งสมุด ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี
1) ตาแหน่งของปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้
2) ลกั ษณะของปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้
3) หน้าทข่ี องปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้
4) วธิ ดี แู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้

2. สมาชกิ แตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั วางแผนศกึ ษาความรเู้ กย่ี วกบั ปอด
กระเพาะอาหาร และลาไส้ ตามประเดน็ ทก่ี าหนด พรอ้ มแบง่
หน้าทค่ี วามรบั ผดิ ชอบในการศกึ ษาและสบื คน้ ประเดน็ ความรู้
แกส่ มาชกิ แตล่ ะคนในกลุ่มตามความเหมาะสม

52

ขนั้ ท่ี 3 ลงมือปฏิบตั ิ

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : 3. เอกสารประกอบการสอน
4. หอ้ งสมุด
1. หนังสอื เรยี น สขุ ศกึ ษาฯ ป.2
2. บทเรยี นคอมพวิ เตอร์

สมาชกิ แต่ละกลุม่ รว่ มกนั ศกึ ษาและสบื คน้ ความรเู้ ร่อื ง ปอด
กระเพาะอาหาร และลาไส้ ตามทไ่ี ดว้ างแผนร่วมกนั ไว้

ขนั้ ท่ี 4 พฒั นำควำมรู้ ควำมเข้ำใจ คาถามกระตุ้นความคิด

ส่อื การเรยี นรู้ : ใบงานท่ี 1.3  เพรำะเหตุใด เรำจงึ ต้องเคีย้ วอำหำรให้ละเอียด
ก่อนกลืน
1. สมาชกิ แต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อธบิ ายและสรุปความรเู้ กย่ี วกบั (เพอื่ ใหก้ ระเพาะอาหารสามารถยอ่ ยอาหารไดง้ ่าย
อวยั วะภายในดงั กล่าว ตามประเดน็ ทก่ี าหนด ดงั น้ี และไม่ทางานหนักจนเกนิ ไป)
1) ตาแหน่งของปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้
2) ลกั ษณะของปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้
3) หน้าทข่ี องปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้
4) วธิ ดี แู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้

2. ครสู ุ่มตวั แทนนักเรยี น 2-3 กลุ่ม ออกมารายงานสรปุ ความรู้
ในแต่ละประเดน็ โดยครแู ละเพอ่ื นนักเรยี นร่วมกนั ตรวจสอบ
ความถูกตอ้ ง

3. นกั เรยี นแต่ละคนทาใบงำนที่ 1.3 เร่ือง วิธีดแู ลรกั ษำปอด
กระเพำะอำหำร และลำไส้

4. ครเู ฉลยคาตอบในใบงานท่ี 1.3 แลว้ ใหน้ ักเรยี นจบั คกู่ บั เพอ่ื น
ในกลุ่มเพ่อื ตรวจคาตอบตามทค่ี รูเฉลย

5. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

ขนั้ ท่ี 5 สรปุ คาถามกระต้นุ ความคิด

ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้ : —  นักเรียนจะแนะนำให้สมำชิกในครอบครวั ดแู ล
รกั ษำปอด กระเพำะอำหำร และลำไส้ให้ถกู วิธีได้
1. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ตาแหน่ง ลกั ษณะ หน้าท่ี และวธิ ี อย่ำงไรบ้ำง
ดแู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้ ใหส้ ามารถทางาน (พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยใหอ้ ยใู่ น
ไดอ้ ย่างปกติ ดุลยพนิ ิจของครผู สู้ อน)

2. นักเรยี นตอบคาถามกระตนุ้ ความคดิ

53

7 กำรวดั และประเมินผล

วิธีกำร เครอ่ื งมอื เกณฑ์

ตรวจใบงานท่ี 1.3 ใบงานท่ี 1.3 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลมุ่ ระดบั คุณภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
สงั เกตการใฝ่เรยี นรู้ มุ่งมนั ่ ในการทางาน และมี แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ระดบั คณุ ภาพ 2 ผา่ นเกณฑ์
ความรบั ผดิ ชอบ

8 สื่อ/แหลง่ กำรเรียนรู้

8.1 สือ่ การเรยี นรู้

1) หนงั สอื เรยี น สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา ป.2
2) บทเรยี นคอมพวิ เตอร์ Smart L.O. LMS Lite สขุ ศกึ ษา ป.2 บรษิ ทั เพลยเ์ อเบลิ จากดั
3) เอกสารประกอบการสอน
4) ใบงานท่ี 1.3 เรอ่ื ง วธิ ดี แู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้

8.2 แหลง่ การเรียนรู้

- หอ้ งสมุด

54

เอกสารประกอบการสอน

ปอดขา้ งขวา ปอด ปอดขา้ งซา้ ย
หลอดลม
ปอด
ปอดขา้ งขวามขี นาดใหญก่ ว่า หลอดลม
ปอดขา้ งซา้ ย
ทาหน้าทเ่ี ป็นทางผา่ นของ
หวั ใจ อากาศลงสปู่ อด

กระเพำะอำหำร
หลอดอาหาร

ลาไสต้ อนตน้ กระเพำะอำหำร
เป็นอวยั วะทเ่ี ช่อื มตอ่ จาก
ลำไสใ้ หญ่ หลอดอาหาร
ทาหน้าท่ี ดดู น้าและเกลอื แร่จากกาก
อาหาร และขบั อจุ จาระใหเ้ คล่อื นไปยงั ลำไส้
ทวารหนกั
กระเพาะอาหาร

ลำไส้เลก็
ทาหน้าท่ี ย่อยอาหารใน
ขนั้ ตอนสุดทา้ ย และดดู ซมึ
สารอาหารเขา้ ส่กู ระแสเลอื ด

ทม่ี า : ชชู าติ รอดถาวร และภาสกร บญุ นิยม. [ม.ป.ป.]. หนังสือเรยี น รำยวิชำพืน้ ฐำน สุขศกึ ษำและพลศกึ ษำ ป.2.
พมิ พค์ รงั้ ท่ี 6. กรงุ เทพมหานคร : อกั ษรเจรญิ ทศั น์.

55

ใบงานที่

1.3 วิธีดแู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ เขยี นวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะแตล่ ะภาพ
1.

2.

3.

56

ใบงานท่ี

1.3 วิธีดแู ลรกั ษาปอด กระเพาะอาหาร และลาไส้

คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นดภู าพ แลว้ เขยี นวธิ ดี แู ลรกั ษาอวยั วะแต่ละภาพ (ตวั อย่าง)

1. - ไมส่ บู บหุ รี่

- ไมค่ ลกุ คลกี บั ผปู้ ่วยทเี่ ป็นโรคเกยี่ วกบั ระบบหายใจ
- อยใู่ นบรเิ วณทมี่ อี ากาศบรสิ ทุ ธิ์

2. - เค้ยี วอาหารใหล้ ะเอยี ดก่อนกลนื

- กนิ อาหารแตล่ ะมอ้ื ใหต้ รงเวลา
- ไมก่ นิ อาหารรสจดั

3. - ขบั ถา่ ยใหเ้ ป็นเวลา

- กนิ ผกั ผลไมเ้ ป็นประจา
- กนิ อาหารใหถ้ กู สุขลกั ษณะ

(พจิ ารณาตามคาตอบของนักเรยี น โดยใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ จิ ของครผู สู้ อน)
57

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนรำยบุคคล

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ชื่อ-สกลุ ควำมมีวินัย ควำมมีน้ำใจ กำรรบั ฟัง กำรแสดง กำรตรงต่อ รวม
ที่ ของผ้รู บั กำรประเมิน เอือ้ เฟื้ อ ควำมคิดเหน็ ควำมคิดเหน็ เวลำ 15
เสียสละ คะแนน

321321321321321

ลงชอ่ื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง

58

แบบสงั เกตพฤติกรรม กำรทำงำนกล่มุ

ช่อื กล่มุ ชนั้

คำชี้แจง : ให้ ผสู้ อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในช่อง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

ลำดบั ท่ี รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
321

1 การแบ่งหน้าทก่ี นั อย่างเหมาะสม
2 ความรว่ มมอื กนั ทางาน
3 การแสดงความคดิ เหน็
4 การรบั ฟังความคดิ เหน็
5 ความมนี ้าใจชว่ ยเหลอื กนั

รวม

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบ่อยครงั้ ให้ 2 คะแนน 12 - 15 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 18 - 11 พอใช้

ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง

59

แบบประเมิน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์

คำชี้แจง : ให้ ผ้สู อน สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ✓ ลงในชอ่ ง
ทต่ี รงกบั ระดบั คะแนน

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พงึ ประสงคด์ ำ้ น 321

1. รกั ชำติ ศำสน์ 1.1 ยนื ตรงเม่อื ไดย้ นิ เพลงชาติ และบอกความหมายของเพลงชาตไิ ด้
กษตั ริย์ 1.2 ปฏบิ ตั ติ นตามสทิ ธหิ น้าท่ี

1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี ป็นประโยชนต์ ่อโรงเรยี น และปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื สรา้ ง
ความสามคั คี ปรองดองในหม่เู พอ่ื น

1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ตามหลกั ของศาสนา

2. ซื่อสตั ย์ สุจริต 1.5 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทเ่ี กย่ี วกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี น
และชมุ ชนจดั ขน้ึ

2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ

2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ทถ่ี กู ตอ้ ง ทาตามสญั ญาทต่ี นใหไ้ วก้ บั พ่อแม่ หรอื ผปู้ กครอง

2.3 ปฏบิ ตั ติ อ่ ผอู้ ่นื ดว้ ยความซอ่ื ตรง

3. มีวินัย 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั ของครอบครวั
รบั ผิดชอบ และโรงเรยี น มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆ
ในชวี ติ ประจาวนั
4. ใฝ่ เรียนรู้
4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้

4.2 รจู้ กั จดั สรรเวลาใหเ้ หมาะสม

4.3 เชอ่ื ฟังคาสงั ่ สอนของบดิ า มารดา โดยไม่โตแ้ ยง้

4.4 ตงั้ ใจเรยี น

4.5 ปรบั ปรงุ ตนเองในขอ้ ผดิ พลาด

5. อยู่อยำ่ งพอเพียง 5.1 ใชท้ รพั ยส์ นิ และสงิ่ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั

5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ คา่

5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ

6. มุ่งมนั ่ ในกำร 6.1 มคี วามตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
ทำงำน 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อปุ สรรคเพ่อื ใหง้ านสาเรจ็

60

คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน
อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321

7. รกั ควำมเป็นไทย 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษ์วฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย

7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวฒั นธรรมไทย
8. มีจิตสำธำรณะ 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน

8.2 อาสาทางานใหผ้ อู้ ่นื

8.3 รจู้ กั การดแู ลรกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสงิ่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรยี น โรงเรยี น
เขา้ ร่วมกจิ กรรมของโรงเรยี น

ลงช่อื .................................................... ผปู้ ระเมนิ
................ /................ /................

เกณฑก์ ำรให้คะแนน เกณฑก์ ำรตดั สินคณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอยำ่ งสมำ่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภำพ

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั้ ให้ 2 คะแนน 55 - 72 ดี

ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบำงครงั้ ให้ 1 คะแนน 36 - 54 พอใช้

ต่ากวา่ 36 ปรบั ปรุง

61


Click to View FlipBook Version