The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนจัดการเรียนรู้ สอดแทรกคุณธรรม ภาษาไทย ป.3

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by kanyarat787878, 2022-12-16 11:17:58

แผนจัดการเรียนรู้ สอดแทรกคุณธรรม

แผนจัดการเรียนรู้ สอดแทรกคุณธรรม ภาษาไทย ป.3

แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๓
การอา่ นเรื่อง เดก็ ไทยใจซื่อ

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๑ เร่ือง เด็กไทยใจซื่อ เวลา ๓ ชั่วโมง
ครูผ้สู อน นางสาวกัญญารัตน์ รุ่งเรือง

๑. สาระสำคัญ
การอา่ นเรอื่ ง เดก็ ไทยใจซอ่ื นอกจากจะไดฝ้ กึ อ่านให้ถูกตอ้ งตามหลักการอา่ น อา่ นดว้ ยนำ้ เสียงที่ชัดเจน

คลอ่ งแคลว่ จบั ใจความสำคญั ของเรือ่ งท่ีอ่านไดอ้ ย่างเขา้ ใจแลว้ ยังไดค้ วามรแู้ ละขอ้ คดิ เก่ยี วกบั ความซื่อสัตยซ์ ึง่ นำไปปรบั
ใช้ในชวี ิตประจำวนั ไดอ้ กี ดว้ ย

๒. ตวั ช้ีวดั ชน้ั ปี
๑. อ่านออกเสียงคำ ข้อความ เร่อื งส้ัน ๆ และบทร้อยกรองง่าย ๆ ได้ถกู ต้อง คล่องแคลว่ ท ๑.๑ (ป. ๓/๑)
๒. อธิบายความหมายของคำและขอ้ ความทีอ่ า่ น ท ๑.๑ (ป. ๓/๒)
๓. ตง้ั คำถามและตอบคำถามเชงิ เหตผุ ลเกย่ี วกับเรอื่ งทีอ่ ่าน ท ๑.๑ (ป. ๓/๓)
๔. ลำดับเหตุการณแ์ ละคาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรือ่ งที่อ่าน โดยระบุเหตผุ ลประกอบ ท ๑.๑ (ป. ๓/๔)
๕. สรุปความรู้และข้อคดิ จากเร่ืองทอี่ ่านเพ่อื นำไปใช้ในชวี ิตประจำวัน ท ๑.๑ (ป. ๓/๕)
๖. มีมารยาทในการอา่ น ท ๑.๑ (ป. ๓/๙)
๗. พดู แสดงความคิดเหน็ และความรสู้ กึ จากเร่อื งทฟี่ ังและดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๔)
๘. ระบุขอ้ คดิ ท่ไี ด้จากการอ่านวรรณกรรมเพือ่ นำไปใชใ้ นชีวิตประจำวัน ท ๕.๑ (ป. ๓/๑)

๓. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
๑. อา่ นออกเสยี งและบอกความหมายคำและประโยคได้ (K, P)
๒. จบั ใจความสำคัญและวเิ คราะหเ์ รอื่ งท่ีอ่าน ฟัง หรอื ดูได้อยา่ งมเี หตุผล (K, P)
๓. พูดและเขยี นแสดงความคิดเห็นเกีย่ วกับเรือ่ งทีอ่ า่ น ฟงั หรือดูได้อย่างมเี หตุผล (K, P)
๔. ตั้งคำถามและตอบคำถามเกยี่ วกบั เรือ่ งท่อี ่านได้ (K, P)
๕. นำความรูแ้ ละข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากการอา่ นไปใช้ในชีวติ ประจำวนั ได้ (P)
๖. ใชท้ กั ษะทางภาษาเปน็ เครอ่ื งมอื ในการพฒั นาความรู้และการทำงานรว่ มกบั ผอู้ ื่นได้ (P)
๗. มมี ารยาทในการอา่ นและมนี สิ ยั รกั การอ่าน (A)


๔. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P)

ค่านิยม (A) ๑. ประเมินทักษะการอา่ นออกเสยี ง
รอ้ ยแก้ว
๑. สังเกตการตอบ ๑. ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน
๒. ประเมินทกั ษะการอา่ นสรปุ ความ
คำถามและแสดง เปน็ รายบุคคลในดา้ นความสนใจ ๓. ประเมนิ ทักษะการพูดแสดงความ

ความคิดเห็น และต้งั ใจเรยี น ความรบั ผดิ ชอบ คิดเหน็
๔. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด
๒. ตรวจผลการทำ ในการทำกจิ กรรม ความมีระเบยี บ ๕. ประเมินทักษะกระบวนการกล่มุ

กิจกรรม วนิ ยั ในการทำงาน ฯลฯ

๓. ตรวจแบบทดสอบ ๒. ประเมินมารยาทในการอ่าน

ก่อนเรียน และนสิ ยั รักการอ่าน

๓. ประเมินมารยาทในการพูด

๕. สาระการเรียนรู้
การอ่านเรื่อง เด็กไทยใจซอ่ื

๖. แนวทางบรู ณาการ ศกึ ษาหลกั ธรรมท่เี ก่ียวกับความซอื่ สตั ยต์ อ่ ตนเองและผอู้ น่ื
สงั คมศึกษาฯ หาคำศพั ท์ภาษาองั กฤษทเี่ กยี่ วกับเรื่อง ลกั ษณะนิสยั ทดี่ ที ี่ควรปฏิบตั ิ
ภาษาตา่ งประเทศ เชน่ ความซือ่ สัตย์ ความขยนั ความอดทน
วาดภาพระบายสีการกระทำท่เี ก่ียวกบั ความซอ่ื สัตย์สจุ รติ
ศลิ ปะ จัดปา้ ยนิเทศ
การงานอาชีพฯ

๗. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขนั้ ที่ ๑ นำเขา้ สบู่ ทเรยี น
๑. นกั เรยี นทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
๒. นกั เรยี นอาสาสมัคร ๒–๓ คนออกมาเล่าเร่ืองเกี่ยวกับความซ่อื สัตย์ ครูสนทนาโยงเขา้ เร่อื ง เด็กไทยใจซอื่
ข้นั ที่ ๒ กิจกรรมการเรยี นรู้
๑. แบง่ นักเรียนออกเป็นกลุม่ ให้แต่ละกลมุ่ อา่ นเรอื่ ง เด็กไทยใจซอ่ื ในหนงั สือเรียน/สอื่ การเรยี นรู้
ภาษาไทย สมบูรณแ์ บบ ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ แลว้ ช่วยกนั เลา่ เรอ่ื งภายในกลุม่ วา่ เปน็ เรื่องเกี่ยวกบั อะไร
๒. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ ชว่ ยกันคน้ หาคำใหม่และคำยาก โดยเปดิ หาความหมายในคำศัพทห์ รือจาก
พจนานุกรมฉบับนักเรยี น


๓. นักเรยี นแตล่ ะกลมุ่ ช่วยกันตอบคำถามจากเร่ืองต่อไปน้ี
๑) นักเรยี นไดแ้ นวคิดอะไรบา้ งจากการอา่ นเร่อื ง เด็กไทยใจซอ่ื
๒) นกั เรยี นร้สู กึ อย่างไรกบั เร่ืองความซอ่ื สตั ยต์ ่อตนเองและผู้อน่ื
๓) การเสริมสรา้ งนสิ ยั ความซือ่ สตั ยส์ จุ ริตควรเร่มิ ตน้ อยา่ งไร
๔) ความซอื่ สตั ย์มีความสำคญั กบั เราอย่างไร
๕) นกั เรยี นมีวธิ ีปฏบิ ตั ติ นเองให้ได้ชอื่ ว่าเปน็ ผู้มคี วามซอ่ื สตั ย์สจุ รติ อย่างไร
๖) นกั เรียนยกตวั อยา่ งบคุ คลทมี่ คี วามซอ่ื สัตยส์ ุจริต พรอ้ มทง้ั พฤตกิ รรม

๔. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมานำเสนอผลการศึกษาหนา้ ชนั้ เรียน ครูอธิบายเนื้อเร่ือง คำใหม่และคำยาก
ใหช้ ัดเจนอกี คร้งั

๕. นกั เรียนช่วยกันคาดคะเนเหตุการณ์วา่ ถา้ ปอไมย่ อมทำงานศลิ ปะดว้ ยตนเอง แต่ให้ป่านทำให้และสง่ ครทู ันเวลา
นักเรียนใหเ้ หตกุ ารณ์ต่อไปเปน็ อยา่ งไร

ขั้นท่ี ๓ ฝึกฝนผ้เู รยี น
๑. นักเรียนทำกจิ กรรมทเ่ี กีย่ วกบั เนอื้ เร่ือง เดก็ ไทยใจซื่อ แล้วช่วยกนั เฉลยคำตอบ
๒. นักเรยี นแต่ละกล่มุ รวบรวมนิทานหรือบุคคลที่ยึดถอื ในความซื่อสตั ยจ์ ากแหลง่ การเรียนรตู้ ่างๆ แล้วนำเสนอใน
รูปแบบตา่ งๆ เชน่ รายงาน ป้ายแสดงผลงาน
๓. นกั เรียนฝกึ อ่านออกเสียงเรือ่ ง เด็กไทยใจซื่อ ในหนังสอื เรยี น/สอ่ื การเรียนรู้ ภาษาไทย สมบรู ณ์แบบ
ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๓ แล้วฝึกอ่านกบั ครเู ปน็ รายบคุ คลและรายกลมุ่
๔. ครูยกเหตุการณ์ทเ่ี กี่ยวกับความซ่ือสตั ยแ์ ละความไมซ่ อ่ื สตั ย์ใหน้ ักเรยี นฟัง แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ พดู แสดงความ
คดิ เห็นเกย่ี วกับเหตกุ ารณท์ ัง้ ๒ เหตกุ ารณ์ โดยสง่ ตวั แทนออกมาพูดหน้าชั้นเรียน
๕. ครูแบง่ นักเรียนออกเปน็ ๒ กลุม่ ใหว้ างแผนแสดงบทบาทสมมตุ จิ ากเหตุการณใ์ นข้อ ๓ แลว้ ออกมาแสดงให้
เพือ่ นดูหนา้ ชนั้ เรียน เสรจ็ แล้วรว่ มกนั สรปุ ถงึ เหตกุ ารณ์ทีค่ วรเอาเปน็ แบบอยา่ งและไม่ควรเอาเป็น

แบบอยา่ ง
ขน้ั ท่ี ๔ นำไปใช้
๑. นักเรยี นนำข้อคดิ ท่ไี ด้จากการอ่านเรือ่ ง เด็กไทยใจซ่ือ ไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจำวนั
๒. นักเรียนชว่ ยแนะนำเพือ่ น ๆ เก่ียวกบั คณุ ลกั ษณะทีด่ ีของเยาวชนไทย
ข้นั ท่ี ๕ สรปุ
นกั เรยี นช่วยกันสรุปความรแู้ ละข้อคดิ ทไี่ ดจ้ ากเรือ่ ง เดก็ ไทยใจซ่อื แลว้ บนั ทึกลงสมุด


๘. กิจกรรมเสนอแนะ
๑. เชญิ วทิ ยากรบรรยาย/อบรมคณุ ธรรมสำหรับเยาวชนไทย
๒. จัดโครงงานรณรงค์เสริมสรา้ งคณุ ลกั ษณะนสิ ัยทด่ี ีของเยาวชนไทย
๓. นกั เรยี นแต่งนทิ านหรอื เรือ่ งสนั้ ๆ ทเ่ี กี่ยวกับความซื่อสัตย์สจุ รติ แล้ววาดภาพประกอบระบายสีให้สวยงามนำมา

แลกกันอ่านกับเพอื่ นในชั้นเรียน
๔. นักเรียนชว่ ยกนั หาคำศัพท์ภาษาองั กฤษที่เก่ียวกบั เรอ่ื งลกั ษณะนิสยั ท่ีดที ่ีควรปฏบิ ตั ิ เชน่ ความซ่อื สตั ย์

ความขยนั ความอดทน ติดทปี่ า้ ยนิเทศหนา้ ชนั้ เรียนให้เพ่ือนไดอ้ า่ น

๙. สอื่ /แหลง่ การเรียนรู้
๑. แบบทดสอบก่อนและหลงั เรียน
๒. พจนานุกรมฉบบั นักเรียน
๓. ส่ือการเรยี นรู้ ภาษาไทย สมบรู ณแ์ บบ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ บริษัท สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกดั
๔. หนงั สือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ บริษทั สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานิชจำกัด
๕. แบบฝึกหดั รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓ บริษัท สำนกั พมิ พว์ ฒั นาพานชิ จำกดั

๑๐. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้

๑. ความสำเรจ็ ในการจดั การเรยี นรู้
แนวทางการพฒั นา

๒. ปญั หา/อุปสรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแก้ไข

๓. สง่ิ ที่ไม่ได้ปฏบิ ัตติ ามแผน
เหตุผล

๔. การปรบั ปรุงแผนการจัดการเรียนรู้

(ลงชอ่ื ) ผสู้ อน
/ /


แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๑๔
การเรียบเรียงประโยคเปน็ เรอ่ื งราวตามลำดับความคิด

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑ เรื่อง เดก็ ไทยใจซ่ือ เวลา 2 ช่ัวโมง
ครูผ้สู อน นางสาวกญั ญารัตน์ รุ่งเรือง

๑. สาระสำคญั
การเรยี บเรียงประโยคเป็นเร่อื งราวตามลำดับความคิดเปน็ การนำประโยคหลายๆ ประโยคมาเรียงร้อยต่อเนือ่ งกัน

โดยใหม้ ีใจความต่อเนอ่ื งเชอ่ื มโยงกนั เป็นลำดบั ทำให้เร่ืองราวมเี นอ้ื หาชดั เจน ครบถ้วน และสมบูรณ์

๒. ตัวชีว้ ดั ชั้นปี
๑. เขยี นบรรยายเกีย่ วกบั สิ่งใดสิ่งหน่ึงไดอ้ ยา่ งชดั เจน ท ๒.๑ (ป. ๓/๒)
๒. เขียนเรอ่ื งตามจินตนาการ ท ๒.๑ (ป. ๓/๖)
๓. มีมารยาทในการเขียน ท ๒.๑ (ป. ๓/๖)
๔. ระบชุ นิดและหนา้ ท่ีของคำในประโยค ท ๔.๑ (ป. ๓/๒)
๕. แตง่ ประโยคงา่ ยๆ ท ๔.๑ (ป. ๓/๔)

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. อธบิ ายวิธกี ารเขยี นเรียบเรยี งประโยคเปน็ เรื่องราวตามลำดบั ความคิดได้ (K)
๒. เขยี นเรียบเรยี งประโยคเปน็ เร่อื งราวตามลำดับความคิดได้ (K, P)
๓. อภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ เกย่ี วกบั ส่งิ ท่ฟี งั หรอื ดู อย่างมีวจิ ารณญาณ (K, P)
๔. ใชท้ ักษะทางภาษาเป็นเครอ่ื งมือในการพัฒนาความรแู้ ละการทำงานรว่ มกับผอู้ นื่ ได้ (P)
๕. มีมารยาทในการเขยี นและนสิ ยั รกั การเขียน (A)


๔. การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ด้านทักษะและกระบวนการ (P)

และคา่ นยิ ม (A) ๑. ประเมนิ ทกั ษะการเขียน
๒. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้
๑. สงั เกตการตอบ ๑. ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน ๓. ประเมินทกั ษะกระบวนการคิด
๔. ประเมินทกั ษะกระบวนการกลุ่ม
คำถามและการ เป็นรายบุคคลในดา้ นความสนใจ

แสดงความคดิ และตง้ั ใจเรยี น ความรบั ผิดชอบ

เห็น ในการทำกิจกรรม ความมี

๒. ตรวจผลการทำ ระเบียบวนิ ยั ในการทำงาน ฯลฯ

กิจกรรม ๒. ประเมินมารยาทในการเขยี น

และนิสยั รักการเขียน

๕. สาระการเรียนรู้
การเรยี บเรยี งประโยคเปน็ เรื่องราวตามลำดับความคดิ

๖. แนวทางบูรณาการ เขยี นแผนภาพโครงเรอื่ ง แผนภาพความคิด
คณิตศาสตร์ เปรียบเทียบการเรียบเรยี งประโยคเปน็ เรื่องราวในภาษาองั กฤษกับภาษาไทย
ภาษาตา่ งประเทศ

๗. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขน้ั ท่ี ๑ นำเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูติดแถบประโยคบนกระดาน แลว้ ใหน้ กั เรยี นชว่ ยกนั เรียงแถบประโยคทวี่ างสลบั ทีก่ ันให้
เป็นเร่อื งราวทส่ี มบรู ณ์
แถบประโยค
๑) เมืองไทยมีผลไมม้ ากมายหลายชนิด

๒) สมยั ก่อนน้นั ผลไมม้ ีเฉพาะหนา้ หรือฤดูของมนั เท่าน้นั

๓) และมีรสชาติอร่อยที่สุดในโลก

๔) แตป่ ัจจุบนั น้ีผลไมม้ ีใหเ้ ลือกกินตลอดท้งั ปี


เฉลย ๑) ๓) ๒) ๔)
๒. ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกต้อง แลว้ สนทนาโยงเข้าเรื่อง การเรียบเรียงประโยคเปน็ เร่อื งราว
ตามลำดบั ความคดิ
ขนั้ ท่ี ๒ กจิ กรรมการเรยี นรู้
๑. แบ่งนักเรยี นออกเปน็ กลมุ่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ศกึ ษาเรื่อง การเขยี นเรยี บเรยี งประโยคเป็นเรอ่ื งราวตามลำดบั

ความคดิ ในหนงั สือเรียน/ส่ือการเรยี นรู้ ภาษาไทย สมบูรณแ์ บบ ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๓
๒. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ อภิปรายกลุม่ ย่อย บอกส่วนประกอบของประโยควา่ ประกอบด้วยอะไรบา้ งแล้วสง่ ตวั แทน

ออกมารายงานผลการอภิปรายหนา้ ชน้ั เรียน
๓. ครูและนกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ อภปิ รายซกั ถามเพมิ่ เติม
๔. ครแู จกบตั รประโยคกลุ่มละ ๑ ชดุ ให้นักเรยี นแขง่ กันเรยี งประโยคเป็นขอ้ ความจากบตั รประโยคที่ครแู จกให้

ภายในเวลาท่คี รูกำหนด กลุ่มใดเสรจ็ กอ่ นและถูกตอ้ งเปน็ ผูช้ นะ
ข้ันที่ ๓ ฝกึ ฝนผู้เรยี น

๑. นกั เรียนทำกจิ กรรมที่เกย่ี วกบั การเขยี นเรียบเรียงประโยคเป็นเร่ืองราวตามลำดบั ความคิดแล้วช่วยกนั ตรวจสอบ
ความถกู ต้อง

๒. นักเรยี นจับค่เู ขียนแผนภาพความคิดเกี่ยวกบั ประโยชน์ของการเขียนเรยี บเรียงประโยคเปน็ เรื่องราวตามลำดบั
ความคิดแล้วแลกกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง

๓. นักเรยี นฝกึ เขียนเรียบเรยี งประโยคเป็นเรอื่ งราวตามลำดับความคิดท่ีกำหนดให้แล้วนำมาตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
กับเพ่ือน

๑) สว่ นใหญ่จะทำบญุ ตักบาตรพระในตอนเช้า
๒) จัดขนึ้ เพราะตอ้ งการความสขุ สวัสดี
๓) พธิ ที ำบญุ วันเกดิ
๔) พระสวดเจรญิ พระพุทธมนตใ์ หพ้ ร อนุโมทนาอุทศิ สว่ นกศุ ล
๕) หรอื ถวายภตั ตาหารพระทว่ี ัด ถวายปจั จยั ไทยทานตามศรทั ธา
๖) มอี ายยุ นื ยาวเจรญิ รุง่ เรืองต่อไปในภายภาคหนา้
ขัน้ ที่ ๔ นำไปใช้
๑. นกั เรียนเขียนเรยี บเรยี งประโยคเปน็ เรื่องราวตามลำดบั ความคิดในการเขยี นของตนเองได้
๒. นกั เรยี นนำวิธีการเขยี นเรียบเรยี งประโยคเปน็ เร่อื งราวตามลำดบั ความคิดไปปรับใชใ้ นการเรยี นวิชาอนื่ ๆ
ขั้นท่ี ๕ สรปุ
นักเรยี นช่วยกันสรปุ เร่อื ง การเขยี นเรยี บเรยี งประโยคเป็นเรือ่ งราวตามลำดับความคดิ แล้วบนั ทกึ ลงสมดุ


๘. กจิ กรรมเสนอแนะ
๑. จดั ประกวดการเขยี นเร่ืองราวตามลำดบั ความคิด โดยใช้แผนภาพโครงเรือ่ ง
๒. นักเรียนฝกึ เขยี นประโยคเรยี บเรยี งเปน็ เรื่องราว แลว้ นำมาแลกเปลีย่ นกันอา่ นกบั เพอื่ นในชัน้ เรียน
๓. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ ศกึ ษาบทความภาษาองั กฤษงา่ ย ๆ เปรยี บเทยี บการลำดบั เรอ่ื งราวของภาษาองั กฤษกับ
ภาษาไทย

๙. สอื่ /แหลง่ การเรยี นรู้
๑. แถบประโยค
๒. บัตรประโยค
๓. สื่อการเรยี นรู้ ภาษาไทย สมบรู ณ์แบบ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓ เลม่ ๒ บรษิ ัท สำนกั พมิ พ์ วัฒนาพานชิ จำกัด
๔. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ บริษทั สำนักพมิ พว์ ัฒนาพานชิ จำกัด
๕. แบบฝึกหดั รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ บริษทั สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิชจำกัด

๑๐. บนั ทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้

๑. ความสำเร็จในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา

๒. ปญั หา/อุปสรรคในการจัดการเรยี นรู้
แนวทางแก้ไข

๓. สิง่ ท่ไี ม่ได้ปฏบิ ตั ิตามแผน
เหตุผล

๔. การปรบั ปรุงแผนการจดั การเรยี นรู้

(ลงชอ่ื ) ผู้สอน
/ /


แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ ๑๕
การพดู และการเขียนเล่าเรอื่ ง

กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ท่ี ๓
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑ เรื่อง เด็กไทยใจซ่ือ เวลา 2 ชั่วโมง
ครูผ้สู อน นางสาวกญั ญารัตน์ รุ่งเรือง

๑. สาระสำคญั
การพดู และการเขยี นเล่าเรอื่ งเปน็ การถา่ ยทอดเร่ืองราวต่างๆ ทพี่ บเหน็ หรอื ได้ฟงั ให้ผู้อ่นื ได้รับรเู้ ก่ียวกับเร่อื งราว

เหลา่ นั้น ซึ่งผ้พู ดู และผู้เขยี นจะต้องคำนึงถึงมารยาทในการพดู และการเขียนดว้ ย

๒. ตัวชว้ี ดั ชนั้ ปี
๑. เขียนบรรยายเกี่ยวกับส่ิงใดส่ิงหน่งึ ได้อยา่ งชัดเจน ท ๒.๑ (ป. ๓/๒)
๒. เขยี นเรอ่ื งตามจนิ ตนาการ ท ๒.๑ (ป. ๓/๔)
๓. มมี ารยาทในการเขียน ท ๒.๑ (ป. ๓/๖)
๔. เลา่ รายละเอยี ดเก่ียวกบั เรอื่ งทีฟ่ งั และดทู ้ังท่เี ปน็ ความรู้และความบนั เทงิ ท ๓.๑ (ป. ๓/๑)
๕. พูดสอื่ สารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถปุ ระสงค์ ท ๓.๑ (ป. ๓/๕)
๖. มมี ารยาทในการฟัง การดู และการพูด ท ๓.๑ (ป. ๓/๖)

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. อธิบายความหมายของเรื่องเลา่ และวิธกี ารพดู และเขยี นเลา่ เรอื่ งได้ (K, P)
๒. เขยี นและพูดเลา่ เรอื่ งไดอ้ ยา่ งสรา้ งสรรค์ (K, P)
๓. นำความร้แู ละขอ้ คดิ ทไี่ ด้ไปปรับใช้ในชวี ติ ประจำวัน (P)
๔. ใชท้ ักษะทางภาษาเปน็ เครือ่ งมือในการพฒั นาความรแู้ ละการทำงานรว่ มกับผู้อ่ืนได้ (P)
๕. มมี ารยาทในการพูดและการเขียน (A)


๔. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

ดา้ นความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม และ ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P)
ค่านิยม (A)
๑. สังเกตการตอบ ๑. ประเมินทกั ษะการเขยี น
คำถามและแสดง ๑. ประเมินพฤติกรรมในการทำงาน ๒. ประเมินทกั ษะการพูดเลา่ เรอื่ ง
ความคดิ เห็น เปน็ รายบคุ คลในด้านความสนใจ ๓. ประเมนิ ทกั ษะการแสวงหาความรู้
และตง้ั ใจเรยี น ความรบั ผิดชอบ ๔. ประเมินทกั ษะกระบวนการคดิ
๒. ตรวจผลการทำ ในการทำกจิ กรรม ความมรี ะเบยี บ ๕. ประเมนิ ทกั ษะกระบวนการกลุ่ม
กิจกรรม วนิ ยั ในการทำงาน ฯลฯ
๒. ประเมนิ มารยาทในการพูด
๓. ประเมนิ มารยาทในการเขยี น
และนสิ ยั รักการเขยี น

๕. สาระการเรียนรู้
การพูดและการเขียนเลา่ เรือ่ ง

๖. แนวทางบรู ณาการ เขยี นแผนภาพความคดิ ขน้ั ตอนการพูดและการเขยี นเล่าเรือ่ ง
คณิตศาสตร์ อา่ นขา่ ว เหตกุ ารณป์ ระจำวันจากแหล่งความร้ตู ่าง ๆ
สงั คมศกึ ษาฯ จดั ป้ายนเิ ทศ
การงานอาชพี ฯ

๗. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี ๑ นำเขา้ ส่บู ทเรยี น
๑. ครใู ห้นกั เรียนดวู ดี ทิ ัศน์สารคดี นทิ าน หรอื ข่าวส้นั ๆ ครสู ุ่มถามนักเรียนว่าเรือ่ งทไี่ ดด้ นู ้นั เปน็ เรอื่ งเก่ียวกับอะไร
แลว้ ให้ช่วยกนั เลา่ เร่อื งท่ีดแู บบคร่าวๆ หรืออยา่ งละเอยี ดก็ไดต้ ามความเหมาะสม
๒. ครสู นทนาโยงเข้าเร่อื ง การพดู และการเขยี นเล่าเร่ือง

ขั้นที่ ๒ กจิ กรรมการเรียนรู้
๑. แบง่ นกั เรยี นออกเป็นกลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาเร่ือง การพูดและการเขียนเล่าเรอ่ื งในหนงั สือเรยี น/ส่อื การเรยี นรู้
ภาษาไทย สมบรู ณ์แบบ ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓
๒. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มอภิปรายกลมุ่ ย่อยในประเด็น ขัน้ ตอนการพดู และการเขียนเลา่ เรอ่ื ง โดยเขยี นเปน็ แผนภาพ
ความคิด เสร็จแลว้ สง่ ตวั แทนออกมานำเสนอผลงานหนา้ ชนั้ เรียน


๓. ครกู ำหนดหัวขอ้ เรอ่ื ง โดยเขียนบนกระดาน ๔–๕ เรอื่ ง ใหแ้ ต่ละกล่มุ จบั สลากเลือกเขียนเลา่ เรอ่ื งกลมุ่ ละ ๑
เร่ือง เสร็จแลว้ สง่ ตัวแทนออกมาพูดเลา่ เร่อื งหน้าชัน้ เรยี น ครแู ละเพอ่ื นประเมนิ การพดู ของแตล่ ะกลุ่ม

ขัน้ ท่ี ๓ ฝกึ ฝนผเู้ รียน
๑. นักเรยี นทำกิจกรรมทีเ่ กี่ยวกบั การพดู และการเขยี นเลา่ เร่อื ง แลว้ ช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
๒. นักเรยี นทำใบงานที่ ๖ เร่อื งการพดู และการเขียนเลา่ เรอื่ ง แล้วชว่ ยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
๓. นักเรยี นเลอื กเร่ืองท่จี ะเขยี นเลา่ เรอ่ื งคนละ ๑ เรือ่ ง จากเหตกุ ารณ์ข่าวประจำวนั หรอื จากหนงั สอื พมิ พ์ นติ ยสาร
หรือวารสารแลว้ นำมาพูดเลา่ เรอ่ื งหน้าชนั้ เรียน และคัดเลอื กผลงานทที่ ำไดด้ ตี ดิ ไวท้ ป่ี ้ายนเิ ทศหนา้ ชนั้

ขั้นท่ี ๔ นำไปใช้
นกั เรียนนำวธิ กี ารพูดและเขยี นเล่าเรอ่ื งไปใชใ้ นชวี ติ ประจำวันและในการเรียนวชิ าอนื่ ๆ

ขั้นที่ ๕ สรุป
นักเรยี นช่วยกันสรุปเรอ่ื ง การพดู และเขยี นเลา่ เรื่อง แลว้ บนั ทึกลงสมุด

๘. กิจกรรมเสนอแนะ
๑. จดั ประกวดการพูดหรือเขยี นเลา่ เรอ่ื งตามความสนใจหรอื หัวข้อทค่ี รกู ำหนด
๒. นักเรยี นบนั ทกึ เร่อื งราวเหตุการณข์ า่ วประจำวัน เปน็ เวลา ๑ สัปดาห์ แลว้ เล่าเร่ืองสรปุ ให้ครูหรือเพอ่ื นฟงั

๙. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
๑. วีดทิ ัศน์นทิ าน สารคดี ข่าว
๒. ใบงานที่ ๖ เร่อื งการพูดและการเขยี นเล่าเรือ่ ง
๓. ส่ือการเรยี นรู้ ภาษาไทย สมบูรณ์แบบ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๓ เลม่ ๒ บรษิ ัท สำนกั พมิ พ์ วฒั นาพานชิ จำกัด
๔. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพน้ื ฐาน ภาษาไทย ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๓ บรษิ ทั สำนักพิมพว์ ัฒนาพานิชจำกัด
๕. แบบฝึกหัด รายวิชาพืน้ ฐาน ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ บริษัท สำนักพิมพว์ ฒั นาพานชิ จำกัด


๑๐. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้

๑. ความสำเร็จในการจดั การเรยี นรู้
แนวทางการพฒั นา

๒. ปญั หา/อุปสรรคในการจัดการเรยี นรู้
แนวทางแก้ไข

๓. สิง่ ทไ่ี มไ่ ดป้ ฏบิ ตั ติ ามแผน
เหตผุ ล

๔. การปรับปรงุ แผนการจัดการเรยี นรู้

(ลงชื่อ) ผูส้ อน
/ /


แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี ๑๖
การพดู ขอรอ้ ง

กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓
หน่วยการเรียนรู้ท่ี ๑๑ เร่ือง เดก็ ไทยใจซ่ือ เวลา 2 ช่ัวโมง
ครูผู้สอน นางสาวกญั ญารัตน์ รุ่งเรือง

๑. สาระสำคญั
การพดู ขอร้องเปน็ การพูดเพื่อใหผ้ ูอ้ นื่ ทำหรอื ปฏิบตั ติ ามคำขอ หรอื สิง่ ทต่ี นเองต้องการ ท้งั นี้จะตอ้ งพูดอย่างสภุ าพ

นมุ่ นวลและออ่ นโยน

๒. ตัวช้ีวัดชนั้ ปี
๑. เล่ารายละเอยี ดเกยี่ วกับเร่ืองท่ฟี ังและดทู งั้ ทเี่ ปน็ ความรูแ้ ละความบนั เทิง ท ๓.๑ (ป. ๓/๑)
๒. บอกสาระสำคัญจากการฟงั และการดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๒)
๓. พูดสอื่ สารไดช้ ัดเจนตรงตามวัตถุประสงค์ ท ๓.๑ (ป. ๓/๕)
๔. มีมารยาทในการฟงั การดู และการพดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๖)

๓. จุดประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกลักษณะของขอ้ ความหรอื ประโยคทีเ่ ป็นการขอรอ้ งได้ (K)
๒. พูดแสดงความตอ้ งการหรอื พดู ขอร้องไดอ้ ยา่ งเหมาะสม (K, P)
๓. ใชท้ ักษะทางภาษาเปน็ เครอ่ื งมือในการพัฒนาความร้แู ละการทำงานร่วมกับผ้อู ื่นได้ (P)
๔. มมี ารยาทในการพดู (A)

๔. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม ด้านทักษะและกระบวนการ (P)

และค่านยิ ม (A) ๑. ประเมนิ ทกั ษะการพูด
๒. ประเมินทกั ษะการแสวงหาความรู้
๑. สงั เกตการตอบ ๑. ประเมินพฤตกิ รรมในการทำงาน ๓. ประเมินทักษะกระบวนการคดิ
๔. ประเมินทักษะกระบวนการกล่มุ
คำถามและการ เป็นรายบุคคลในดา้ นความสนใจ

แสดงความคดิ เห็น และตงั้ ใจเรียน ความรบั ผดิ ชอบ

๒. ตรวจผลการทำ ในการทำกจิ กรรม ความมีระเบียบ

กจิ กรรม วินยั ในการทำงาน ฯลฯ

๒. ประเมินมารยาทในการพดู


๕. สาระการเรยี นรู้
การพูดขอรอ้ ง

๖. แนวทางบรู ณาการ ศึกษาเรือ่ ง มารยาทในสงั คม แลว้ นำไปใช้ในชวี ติ ประจำวนั
สังคมศึกษาฯ ศกึ ษาคำหรอื ประโยคภาษาอังกฤษทเี่ ป็นการพดู ขอร้อง
ภาษาตา่ งประเทศ แสดงบทบาทสมมตุ ิ
ศลิ ปะ

๗. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ ที่ ๑ นำเข้าส่บู ทเรียน
ครตู ้งั คำถามว่า ถ้านักเรียนต้องการความชว่ ยเหลอื ในการกระทำส่งิ ใดสง่ิ หนึ่ง นกั เรียนจะมีวธิ กี าร
อยา่ งไร ให้นกั เรียนชว่ ยกันแสดงความคดิ เห็น แล้วครูสนทนาโยงเขา้ เรือ่ ง การพูดขอร้อง
ขั้นที่ ๒ กจิ กรรมการเรียนรู้
๑. นกั เรียนดวู ีดิทัศนเ์ รื่องราวทมี่ กี ารพูดขอร้อง แล้วร่วมกันแสดงความคดิ เห็น วธิ กี ารพูดเปน็ อย่างไร เหมาะสม
หรอื ไม่ ถ้าเป็นนกั เรียนจะปฏิบตั ติ นอยา่ งไร ทำตามหรือไม่ เพราะเหตุใด
๒. แบง่ นักเรียนออกเปน็ กลมุ่ ครแู จกใบความร้เู รอ่ื ง การพดู ขอรอ้ ง แล้วรว่ มกันระดมสมองอภิปรายเกี่ยวกบั การ
พดู ขอร้องดงั นี้
๑) ความสำคัญและความหมายของการพดู ขอรอ้ ง
๒) วัตถุประสงค์ จดุ มงุ่ หมายในการพูดขอรอ้ ง
๓) คำที่แสดงให้รวู้ ่าเปน็ การพูดขอร้อง
๔) มารยาทในการพดู ท่เี กีย่ วกบั การพูดขอรอ้ ง
๓. ตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอผลการอภปิ รายของกลมุ่ หนา้ ชน้ั เรียนเมอื่ ครบทุกกลุม่ แลว้ ครแู ละนักเรยี น
รว่ มกันรวบรวมเนอื้ หาทีเ่ กี่ยวข้องกับการพดู ขอรอ้ ง
๔. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่ม คน้ หาคำพูดหรอื บทสนทนาเก่ียวกับการพูดขอร้อง จากเนื้อเรอื่ ง เดก็ ไทยใจซื่อในหนงั สือ
เรยี น/สือ่ การเรยี นรู้ ภาษาไทย สมบรู ณแ์ บบ ตวั แทนกลุ่มออกมาเขียนประโยคคำพูดทีเ่ ปน็ การพดู
ขอร้อง ครูและนกั เรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง
ขน้ั ท่ี ๓ ฝกึ ฝนผู้เรยี น
๑. นกั เรียนทำกจิ กรรมทเ่ี ก่ียวกับการพูดขอร้อง แลว้ ช่วยกนั เฉลยคำตอบ
๒. นกั เรียนสังเกตพฤตกิ รรมการใช้คำพูดขอรอ้ งของตนเองหรือเพือ่ นสนิท ภายในระยะเวลา ๑ วนั วา่ มกี ารพดู
ขอรอ้ งในเร่ืองใดบา้ ง และผลจากการพดู เป็นอยา่ งไร
๓. จบั คแู่ สดงบทบาทสมมุติทเ่ี ก่ยี วกบั การพูดขอร้องที่ใชก้ นั ในชวี ิตประจำวนั
๔. นักเรียนรวบรวมคำหรือประโยคภาษาองั กฤษทเี่ ปน็ การพูดขอร้อง สง่ ครู


ข้ันท่ี ๔ นำไปใช้
นักเรียนนำความรูเ้ ก่ียวกบั การพดู ขอรอ้ งไปใช้ในชีวติ ประจำวนั

ข้ันท่ี ๕ สรุป
นักเรยี นช่วยกนั สรปุ เรื่อง การพูดขอร้อง แลว้ บันทึกลงสมดุ

๘. กจิ กรรมเสนอแนะ
๑. นักเรียนรวบรวมคำหรอื ประโยคท่เี ปน็ การพูดขอร้อง จากสือ่ การเรยี นร้ตู ่างๆ แลว้ จดบนั ทกึ จดั ทำเปน็ รายงาน
สง่ ครู
๒. นกั เรียนเขียนคำขวญั ในเชงิ ขอร้องให้ปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บของโรงเรยี น หรือการดแู ลทรพั ย์สมบัตสิ ่วนรวมของ
โรงเรียน

๙. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
๑. วดี ิทัศนเ์ กย่ี วกบั การพดู ขอร้อง
๒. ใบความรูเ้ รอื่ ง การพูดขอร้อง
๓. สื่อการเรียนรู้ ภาษาไทย สมบูรณ์แบบ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๓ เล่ม ๒ บรษิ ทั สำนกั พมิ พ์วฒั นาพานชิ จำกดั
๔. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๓ บรษิ ทั สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานิชจำกดั
๕. แบบฝึกหดั รายวชิ าพ้นื ฐาน ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๓ บริษทั สำนักพมิ พ์วฒั นาพานิชจำกดั

๑๐. บันทึกหลงั การจดั การเรยี นรู้

๑. ความสำเรจ็ ในการจัดการเรียนรู้
แนวทางการพัฒนา

๒. ปญั หา/อปุ สรรคในการจัดการเรียนรู้
แนวทางแกไ้ ข

๓. สงิ่ ท่ไี มไ่ ดป้ ฏิบัติตามแผน
เหตผุ ล

๔. การปรบั ปรุงแผนการจัดการเรยี นรู้

(ลงชื่อ) ผสู้ อน
/ /


แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ ๑๗
มารยาทในการพูด

กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย ช้ันประถมศึกษาปี ที่ ๓
หน่วยการเรียนรู้ที่ ๑๑ เร่ือง เด็กไทยใจซื่อ เวลา 2 ช่ัวโมง
ครูผ้สู อน นางสาวกญั ญารัตน์ รุ่งเรือง

๑. สาระสำคัญ
การพูดอยา่ งมีมารยาทเป็นการพูดที่ตรงประเดน็ จรงิ ใจ ชัดถอ้ ยชัดคำ ไมส่ อ่ เสียด เยาะเยย้ หรอื หยาบคาย ท้งั น้ี

เพ่อื ให้เกดิ การส่ือสารกับผ้อู นื่ ดว้ ยความเขา้ ใจอันดี และเปน็ การสร้างไมตรีตอ่ กนั

๒. ตวั ชี้วัดช้นั ปี
๑. บอกสาระสำคัญจากการฟังและการดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๒)
๒. ต้ังคำถามและตอบคำถามเก่ียวกบั เรื่องทฟี่ งั และดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๓)
๓. พดู แสดงความคิดเห็นและความรู้สกึ จากเร่ืองท่ีฟงั และดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๔)
๔. มมี ารยาทในการฟงั การดู และการพดู ท ๓.๑ (ป. ๓/๖)

๓. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
๑. บอกลักษณะของผทู้ ม่ี มี ารยาทในการพดู ได้ (K, P)
๒. ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ทีม่ มี ารยาทในการพูด (K, P)
๓. นำความรู้และขอ้ คดิ ทไี่ ดจ้ ากการอ่าน การฟงั และการดไู ปใชใ้ นชวี ิตประจำวนั ได้ (P)
๔. ใช้ทกั ษะทางภาษาเปน็ เครอื่ งมือในการพฒั นาความรู้และการทำงานรว่ มกับผอู้ ื่นได้ (P)
๕. มมี ารยาทในการพูด (A)


๔. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

ด้านความรู้ (K) ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม ดา้ นทกั ษะและกระบวนการ (P)
และคา่ นิยม (A)
๑. สังเกตการตอบ ๑. ประเมนิ ทกั ษะการพูด
คำถามและแสดง ๑. ประเมนิ พฤติกรรมในการทำงาน ๒. ประเมินทักษะกระบวนการคิด
ความคิดเห็น เป็นรายบุคคลในด้านความสนใจ ๓. ประเมินทักษะกระบวนการกลุ่ม
และต้ังใจเรยี น ความรบั ผิดชอบ
๒. ตรวจผลการทำ ในการทำกจิ กรรม ความมี
กจิ กรรม ระเบยี บวนิ ยั ในการทำงาน ฯลฯ

๓. ตรวจแบบทดสอบ ๒. ประเมินมารยาทในการพูด
หลงั เรียน

๕. สาระการเรยี นรู้
มารยาทในการพดู

๖. แนวทางบรู ณาการ ศกึ ษามารยาทการพดู ในทชี่ ุมชนแลว้ นำไปใชใ้ นชีวติ ประจำวนั
สงั คมศึกษาฯ จดั ปา้ ยนิเทศ
ศลิ ปะ

๗. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ข้ันที่ ๑ นำเข้าสู่บทเรียน
๑. ครูเตรียมกับนักเรยี นอาสาสมัคร ๕–๖ คน ออกมาพดู เสยี งดงั พร้อมๆ กัน ตามบทพูดที่ครเู ตรยี ม มาใหแ้ ล้วให้
เพอื่ นๆ ในชั้นเรยี นบอกสาระของเรือ่ งท่ฟี งั ว่า รูเ้ ร่ืองหรือไมร่ ู้เรื่อง เพราะอะไร
๒. ครสู นทนาโยงเข้าเรือ่ ง มารยาทในการพูด
ขน้ั ที่ ๒ กจิ กรรมการเรยี นรู้
๑. แบง่ นกั เรียนออกเปน็ กลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ ศึกษาคน้ คว้าเรื่อง มารยาทในการพูด ในหนังสือเรยี น/สอื่ การเรียนรู้
ภาษาไทย สมบรู ณ์แบบ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๓
๒. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มอภิปรายกล่มุ ย่อย เพ่อื ร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั มารยาทในการพดู
๓. ตวั แทนนกั เรียนแตล่ ะกลุม่ นำเสนอผลงานจากการศกึ ษาเรอ่ื ง มารยาทในการพูด
๔. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ ชว่ ยกันอภิปรายแสดงความคดิ เห็นเก่ียวกับมารยาทในการพูด ตามเหตกุ ารณ์ท่คี รูกำหนดให้
๑) พรพรรณมกั จะนำเรอ่ื งปญั หาส่วนตัวของเพื่อนสนทิ ไปเลา่ ให้เพอ่ื นคนอ่ืนๆ ฟัง
๒) พลพลพดู จาหยาบคายกับเพ่ือนจนติดเปน็ นสิ ยั
๓) พงศธรพดู รายงานหนา้ ชัน้ เรียนด้วยเสยี งทเี่ บาและพูดเร็วมาก


๕. ครูและนกั เรียนร่วมกันสรุปประเดน็ ทไี่ ดจ้ ากการอภิปรายแสดงความคิดเห็น
ขัน้ ที่ ๓ ฝึกฝนผ้เู รยี น

๑. นกั เรียนทำกิจกรรมทีเ่ ก่ยี วกบั มารยาทในการพูด แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ
๒. นักเรียนรวบรวมลกั ษณะการพูดทดี่ ี นา่ ฟงั นา่ ประทบั ใจของนกั พูด พธิ ีกร หรอื บุคคลอื่นๆ นำมาเปรียบเทียบกัน

แลว้ นำส่งครู
ขั้นที่ ๔ นำไปใช้

นกั เรยี นนำความรเู้ ร่ือง มารยาทในการพดู ไปปฏบิ ตั ิในชวี ติ ประจำวนั
ขน้ั ท่ี ๕ สรุป

๑. นกั เรยี นช่วยกันสรปุ เรอ่ื ง มารยาทในการพดู แลว้ บนั ทกึ ลงสมุด
๒. นักเรยี นทำแบบทดสอบหลงั เรียน แล้วช่วยกันเฉลยคำตอบ

๘. กจิ กรรมเสนอแนะ
๑. นักเรยี นสังเกตมารยาทในการพูดของพิธีกรรายการโทรทัศน์ แลว้ บนั ทึกลกั ษณะการพดู วิธกี ารรวมทงั้ มารยาท
ในการพูดแล้วจัดทำเป็นบันทกึ นำสง่ ครู
๒. นักเรียนรวบรวมสุภาษติ ที่เกยี่ วกบั มารยาทในการพูด หรอื ข้อคิดเก่ียวกับการพดู แล้วนำมาแสดงทปี่ า้ ยนเิ ทศ
หน้าชน้ั เรยี น

๙. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
๑. บทพูด
๒. ส่ือการเรียนรู้ ภาษาไทย สมบูรณ์แบบ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๓ เล่ม ๒ บริษทั สำนักพมิ พ์ วฒั นาพานิช จำกดั
๓. หนังสือเรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๓ บริษทั สำนกั พมิ พว์ ัฒนาพานชิ จำกดั
๔. แบบฝกึ หัด รายวชิ าพ้ืนฐาน ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๓ บริษทั สำนักพมิ พว์ ฒั นาพานิชจำกัด


๑๐. บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้

๑. ความสำเร็จในการจดั การเรยี นรู้
แนวทางการพฒั นา

๒. ปญั หา/อุปสรรคในการจัดการเรยี นรู้
แนวทางแก้ไข

๓. สิง่ ทไ่ี มไ่ ดป้ ฏบิ ตั ติ ามแผน
เหตผุ ล

๔. การปรับปรงุ แผนการจัดการเรยี นรู้

(ลงชื่อ) ผูส้ อน
/ /


Click to View FlipBook Version